ดงผู้ดี (2562/2019) ขม (ณัฐชา เจกะ) เด็กหญิงที่เติบโตมากับ แม่แข (พิมพ์พรรณ ชลายนคุปต์) ซึ่งเป็นโรคความจำเสื่อม ทั้งคู่ถูกอุปการะจากครูสมพร ผู้เป็นเจ้าของโรงเรียน แขเป็นลมในวันที่ครูจัดงานวันเกิดให้พี่ชาย เธอเลยได้เจอกับ พิทย์ (สุพจน์ จันทร์เจริญ) แล้วจำเรื่องราวทุกอย่างได้ แขเลยฝากขมให้อยู่ในความดูแลของพิทย์ก่อนตาย เมื่อจัดงานศพเสร็จ พิทย์พาขมเข้ากรุงเทพฯ และไปฝากกับเพื่อนที่ชื่อ รังสรรค์ (เรืองศักดิ์ ลอยชูศักดิ์) ให้ดูแล และให้การศึกษากับขม เสมอลูกสาวของตัวรังสรรค์เอง ซึ่งก็คือ รติรส (กฤตพร หาญโยธิน) และ พจนีย์ (อรจิรา แก้วสว่าง) แต่ความจริงแล้ว รังสรรค์ และบุหงา (อริสรา ทองบริสุทธิ์) ภรรยาใหม่ ไม่ชอบหน้าขมอย่างมาก เลยใช้งานขมเยี่ยงคนรับใช้ กลั่นแกล้งทุกทาง ด้านพิทย์ หลังจากเดินทางไปต่างประเทศ ก็ไม่ส่งข่าวกลับมาอีกเลย แต่ฝากญาติผู้น้องคือ ชาติสยาม (กฤษฎา พรเวโรจน์) ให้ช่วยดูแลขม หากเขาเป็นอะไรไป ชาติสยามให้ตุ๊กตากับขม ทำให้เธอประทับใจมาก แต่ตุ๊กตาตัวนั้นก็โดนบุหงาแย่งไป เพราะความอิจฉา ส่วน ไพลิน (มยุริญ ผ่องผุดพันธ์) พี่สาวของรังสรรค์ และคุณหญิงรัตนเดชากร (เดือนเต็ม สาลิตุล) สงสัยว่าขมเป็นลูกของแขนภา ตลอดเวลาที่ขมอาศัยอยู่ด้วย มักจะโดนรังสรรค์กระทบกระเทียบถึงพ่อแม่ เธอจึงพยายามตั้งใจเรียนจนได้รับทุน ซึ่งมีพจนีย์ที่คอยอิจฉา และดูถูกเสมอ ด้านพิทย์เมื่อเสียชีวิตไป แต่ได้ทิ้งพินัยกรรมไว้ให้กับขม พอชาติสยามกลับมาจากอังกฤษ เขาจึงอาสาทำหน้าที่คอยดูแลขมอยู่ห่าง ๆ แต่ไม่ยอมบอกเรื่องพิทย์ที่เสียชีวิตไปแล้ว ส่วนบุหงาที่เห็นชาติสยามมาหาขมบ่อย ๆ ก็พยายามเข้ามาตีสนิทด้วย แต่ชาติสยามไม่สนใจ เพราะชาติสยามมีคนรักอยู่แล้ว คือ รุ้งกาญจน์ (อุษณีย์ วัฒฐานะ) ยิ่งนานวันเข้า ขมโตขึ้นเป็นสาว ก็ยิ่งทำให้คุณหญิงรัตนเดชากร และคุณไพลิน มั่นใจมากขึ้น พวกเขาพยายามถามประวัติพิทย์จากชาติสยาม ไม่นาน ทั้งสามคนตัดสินใจเปิดเอกสารที่พิทย์ทิ้งไว้ให้ขม ซึ่งในเอกสารนั้นเขียนถึงความจริงทุกอย่างไว้ เมื่อรังสรรค์รู้เรื่อง ก็สำนึกผิด ในขณะที่ขมไม่สามารถยอมรับได้ แม้รังสรรค์จะพยายามทำดีชดใช้ให้เธอเท่าไรก็ตาม หลังจากขมไปเรียนต่อต่างประเทศ ชาติสยามก็แต่งงานกับรุ้งกาญจน์ ที่สุขภาพไม่ดี ส่วนรังสรรค์เองก็เจ็บไข้ได้ป่วย ตลอดเวลาที่อังกฤษขมสนิทกับปิยะมาก ทางด้านรังสรรค์ที่ป่วยเป็นมะเร็ง อยากพบขมเป็นครั้งสุดท้าย ไพลินจึงเขียนจดหมายไปหลอกให้เธอยอมกลับมาดูใจพ่อ ขณะนั้นเอง ปิยะหมั่นมาหาขมบ่อย ๆ ทำให้ชาติสยามหึงหวงขมเป็นอย่างมาก แต่ความรักที่เหมือนจะเป็นเรื่องต้องห้ามของพวกเขาจะลงเอยอย่างไรนั้น ติดตามได้ในละคร ดงผู้ดี

สัมผัสรัตติกาล (2561/2018) จันทร์จ้า (หลิน-มชณต สุวรรณมาศ) หญิงสาววัย 19 ปี ผู้เกิดมาพร้อมกับสัมผัสพิเศษ เธอเห็นความตายของทุกชีวิตที่เธอได้แตะต้องถูกตัว ทุกสัมผัสและอ้อมกอดจึงเป็นสิ่งต้องห้ามของเธอมาตลอดชีวิต ความรัก ความอบอุ่นจากอ้อมกอดจึงเป็นสิ่งที่ขาดหายสําหรับชีวิตเธอตั้งแต่แรกเกิด แม้กระทั่งแม่ก็ไม่สามารถอุ้ม หรือแตะต้องตัวเธอได้ ชีวิตของเธอจึงตกอยู่ในการควบคุมของ ป้าชบา (หน่อย-ณัฐนี สิทธิสมาน) ที่ใช้ความสามารถพิเศษของเธอเป็นช่องทางทํามาหากินกับความเชื่อทางไสยศาสตร์ของชาวบ้าน ด้วยการเปิดตําหนักเจ้าจันทร์ตาทิพย์ รับเข้าทรง ดูความตายของผู้คน สร้างรายได้ให้กับครอบครัวป้าชบา จันทร์จ้าต้องทนกับการเห็นภาพสยดสยองของความตาย และเหนื่อยล้าทุกครั้งจนเธอคิดฆ่าตัวตายด้วยการพุ่งเข้าหารถที่วิ่งมาด้วยความเร็ว แต่เหตุการณ์กลับทําให้เธอได้พบกับ ผู้ชายสองคน ที่มีความสําคัญกับชีวิตของเธอตามคําทํานายที่ว่า "จะมีผู้ชายสองคนเข้ามามีความสําคัญต่อชีวิตเธอ...หนึ่งในนั้นคือเนื้อคู่ของเธอ แต่จงระวัง เขากําลังมีเคราะห์ร้าย..หมายถึงอันตรายของชีวิต ..เธอต้องช่วยเขา ถ้าทําไม่ได้ เธอจะต้องเป็นเหมือนนางผีเสื้อสมุทร ..ที่ต้องเฝ้าคร่ำครวญ เพราะการพลัดพรากไปจนวันตาย" ผู้ชายคนแรกคือ ดร.อิชย์ (แจ็บ-เพ็ญเพ็ชร เพ็ญกุล) หัวหน้าพรรคประชาธิป แคนดิเดดนายกรัฐมนตรีคนใหม่ในการเลือกตั้งใหญ่ที่กําลังจะเกิดขึ้น และเป็นความหวังใหม่ของประชาชนในฐานะคนเก่ง มือสะอาด และคนที่สอง ร.ต.อ.นณณ์ (กอล์ฟ-อนุวัฒน์ ชูเชิดรัตนา) หัวหน้าทีมบอดี้การ์ดร่างใหญ่ ผู้ชายสองคนในรถตู้ที่ต้องเบรกกระทันหันและเข้ามาช่วยเหลือเธอ ดร.อิชย์ได้แตะตัวจันทร์จ้า ทําให้เธอเห็นภาพที่เขาจะตายในเวทีหาเสียง จันทร์จ้าจึงต้องพยายามหาทางป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น เพราะเห็นในความดีของดร.อิชย์ที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศ จึงเข้ามาเกี่ยวพันกับ ร.ต.อ.นณณ์ ในการช่วยให้ ดร.อิชย์ พ้นจากแผนการปลิดชีวิตของศัตรูที่ยังไม่เปิดเผยตัว ยิ่งใกล้วันเลือกตั้ง แผนสังหารดร.อิชย์มีมาเป็นระยะ แต่ก็รอดพ้นได้ทั้งหมด เพราะการรู้ล่วงหน้าของจันทร์จ้า ทําให้ศัตรูตัวจริงที่ซ่อนตัว เริ่มเปิดเผย กลายเป็นคนในใกล้ตัว อย่าง ประทิน (วิลลี่ แมคอินทอช) เลขาธิการพรรค ผู้ทรงอิทธิพลคนเก่าแก่ของพรรค ที่วางแผนร่วมมือกับ ยุทธนา (ทนงศักดิ์ ศุภการ) นักธุรกิจที่เคยเป็นคู่แข่งของดร.อิชย์ในการเลือกหัวหน้าพรรค วางแผนจะร่วมมือกับ ทวยเทพ (หนุ่ม-สันติสุข พรหมศิริ) หัวหน้าพรรคเทพไท พรรคคู่แข่ง เพราะหวังผลประโยชน์ ระหว่างการทํางานร่วมกันของจันทร์จ้ากับร.ต.อ.นณณ์ กลายเป็นความใกล้ชิดผูกพัน ทั้งสองตกหลุมรักกันแต่เป็นความรักที่ไม่สามารถแตะต้องสื่อสารทางกายกันได้ จะมีวิธีไหนบ้างที่จะช่วยทำให้ทั้งคู่ได้ครองคู่กันอย่างสมหวัง แล้ว ดร.อิชย์ จะรอดพ้นจากการทำร้ายหรือไม่ ติดตามลุ้นเรื่องราวความสนุกสนานทั้งหมดนี้ได้ในซีรีส์เรื่อง สัมผัสรัตติกาล

บัลลังก์หงส์ 2559

บัลลังก์หงส์ (2559/2016) จอมขวัญ หรือ ไอ้จ๋อม สาวน้อยวัย18 ผู้มีความใฝ่ฝันที่จะมีกิจการอุตสาหกรรมด้านอาหารเป็นของตนเอง แต่เธอต้องละทิ้งความฝันนั้นเมื่อได้รู้ว่า จินดา แม่ของเธอป่วยเป็นมะเร็งปอด จอมขวัญต้องทำงานให้มากขึ้นเพื่อที่จะพาแม่ย้ายไปอยู่ในที่ๆสิ่งแวดล้อมดีกว่าเดิม แต่เคราะห์ซ้ำกรรมซัด เมื่อวันหนึ่งขณะที่กำลังขี่มอเตอร์ไซค์คู่ใจไปส่งของ เธอประสบอุบัติเหตุ ชนกับรถยนต์คันงามจนหมดสติ เจ้าของรถคันนั้นรีบพาจอมขวัญไปส่งโรงพยาบาล และคืนนั้น เองจอมขวัญก็ได้รู้ว่า คงศักดิ์ (ลีลา วัฒนชัย) ผู้ที่ขับรถชนกับเธอ คือพ่อบังเกิดเกล้าของเธอเอง หลังจากที่ได้รู้ชาติกำเนิดของตน ว่าจริงๆ แล้ว เธอเป็นสายเลือดคนหนึ่งของตระกูลลีลาวัฒนชัย แห่งบริษัทลีลาวัฒน์ ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องอุปโภคบริโภคที่ใหญ่ที่สุดของไทย แต่กลับถูกหลี่ซวง ผู้เป็นย่าทอดทิ้งอย่างไม่ใยดี ผิดกับพิทักษ์พงศ์ พี่ชายฝาแฝดของเธอ เพียงเพราะเธอเป็นผู้หญิง จอมขวัญจึงได้สาบานกับตัวเองเอาไว้ว่าวันหนึ่งเธอจะต้องเข้าครอบครองบริษัทลีลาวัฒน์ให้จงได้ โชคเข้าข้างจอมขวัญ เมื่อเธอและว่านเพื่อนคู่หูได้ช่วยชีวิตมิสเตอร์คิม นักธุรกิจชาวเกาหลีเอาไว้ เขาเห็นแววบางอย่างในตัวเธอ จึงรับอุปการะและตกลงจะช่วยทำให้เธอสมหวัง เขาได้พาเธอและว่านไปเกาหลีในฐานะลูกสาวบุญธรรมและผู้ติดตาม ที่นั่น ทั้งสองถูกเคี่ยวกรำฝึกฝนอย่างหนักในทุกทาง จนกระทั่งจอมขวัญถึงกับท้อ ในวันที่เธอท้อถอยจนเกือบจะยอมแพ้ จอมขวัญได้พบกับปริวัตร ชายหนุ่มที่เธอได้รู้จักและถูกชะตากันตั้งแต่ตอนที่เธอยังเป็นแค่ไอ้จ๋อม การพบกับปริวัตรครั้งนี้ทำให้จอมขวัญสบายใจและมีกำลังใจมากขึ้น จนทั้งสองเริ่มรู้สึกดีๆ ต่อกัน แต่เมื่อจอมขวัญพบว่าปริวัตรเดินทางมาเกาหลีในฐานะพนักงานคนหนึ่งของบริษัทลีลาวัฒน์ พร้อมกับดารารัตน์ พิธีกร-นางแบบ เพื่อนสนิทที่มักแสดงตัวว่าเป็นแฟนสาวของเขา กับสิริวิมล ลูกสาวคนเล็กของตระกูลลีลาวัฒนชัย เธอจึงได้ถอยห่างออกมา 5 ปีผ่านไป จอมขวัญได้เปลี่ยนแปลงตัวเองจากสาวน้อยกะโปโล กลายเป็นมิสโจว นักธุรกิจรุ่นใหม่ไฟแรงที่พร้อมจะช่วงชิงกิจการในเครือลีลาวัฒน์มาเป็นของเธอ นอกจากว่านที่กลับมาในฐานะผู้ติดตามของเธอแล้ว มิสเตอร์คิมยังส่งเกาเฟย คนสนิทของเขามาเป็นที่ปรึกษาให้เธอด้วย ตามแผน มิสโจวจะต้องหาทางซื้อหุ้นจากคนนอกตระกูลลีลาวัฒนชัย 3 คน คือ คธา อรรณพ และ นภา โดยเมื่อรวมหุ้นที่ได้จากทั้งสามคนนี้ จะทำให้มิสโจวกลายเป็นหุ้นส่วนใหญ่ของลีลาวัฒน์ เธอจึงค่อยๆ ทำตามแผนไปพร้อมๆ กับตีสนิทคนในตระกูลลีลาวัฒนชัยไปพร้อมๆ กัน การเข้ามาในลีลาวัฒน์ในครั้งนี้ ทำให้เธอได้พบกับปริวัตรอีกครั้ง มิสโจวแสดงความฉลาดเฉลียวให้หลี่ซวงได้เห็น และยังดูแลเอาใจใส่หลี่ซวงในแบบที่หลานคนอื่นๆ ไม่เคยกล้าทำ จนทำให้หลี่ซวงเอ็นดูเธอเป็นพิเศษ ถึงขนาดคิดจับคู่เธอกับพิทักษ์พงศ์ โดยที่ไม่เคยสนใจว่าจริงๆ แล้วพิทักษ์พงศ์มี มุนิน เป็นคนรักอยู่แล้ว รวมถึงหลานสาวอีกสามคนก็เช่นกัน หลี่ซวงไม่เคยใส่ใจความรู้สึกใดๆ ของทุกคน อย่างสิริวิภา ที่ถูกกดดันจนขาดความมั่นใจ เนื่องจากทำงานก็ไม่ได้เก่งอะไร แถมหน้าตาก็ไม่น่าสนใจ จึงหันไปซื้อบริการจากทัศน์ ผู้ชายที่ยอมทำตามเงินในกระเป๋าของเธอ สิริกานดา ที่เรียนเก่ง ทำงานดี มีความมั่นใจสูงสุดกู่จนคบได้แม้แต่คนที่แต่งงานแล้วอย่างโสภณ และสิริวิมล น้องสาวคนเล็ก ที่ดูเล่นๆ ไม่สนใจใครจริงจัง เปลี่ยนผู้ชายไม่ซ้ำ แต่จริงๆ แอบชอบคนใกล้ตัวอย่างปริวัตรมาตลอด แต่แผนการที่มิสโจวคิดว่าวางเอาไว้อย่างดี กลับเกิดความผิดพลาดขึ้น เพราะจำนวนหุ้นที่เธอได้จากคธา อรรณพ และนภา รวมกันแล้วมีน้อยกว่าที่เธอคิด เธอจึงต้องหาทางที่จะได้หุ้นเพิ่มอีก โดยเธอมีทางเลือกอยู่สองทาง คือบอกความจริงกับพิทักษ์พงศ์ที่เป็นฝาแฝดของเธอ แล้วขอหุ้นจากเขา หรือทำให้ปริวัตรหลงรัก และขอเธอแต่งงาน เพราะปริวัตรนั้นเคยช่วยชีวิตคงศักดิ์จนได้หุ้นของบริษัทมาจำนวนหนึ่ง จอมขวัญเลือกที่จะใช้ปริวัตรโดยเข้าทางปราณี แม่ของเขา ทั้งๆ ที่ว่านไม่เห็นด้วย ส่วนอีกทางจอมขวัญก็สร้างความไว้ใจให้พิทักพงศ์ด้วยการให้คำแนะนำจนโปรเจคใหม่ของเขาประสบความสำเร็จ แผนการดึงปริวัตรให้มาสนใจเป็นไปด้วยดีจนดารารัตน์เริ่มอยู่ไม่สุข บุกมาระรานมิสโจวหลายครั้ง ทั้งตามไปตบถึงบ้านพักต่างอากาศ และทำให้เกิดอุบัติเหตุกับมิสโจว จนต้องเข้าโรงพยาบาล ซึ่งมิสโจวก็สามารถพลิกสถานการณ์ใช้เหตุการณ์เหล่านั้นทำให้ปริวัตรเห็นใจเธอมากขึ้นไปอีก ดารารัตน์แค้นใจ หันไปจ้างบรรพต นักข่าวที่เธอรู้จักให้คอยสืบหาจุดอ่อนของมิสโจวมาให้เธอ เรื่องราวส่วนตัวของคนในบ้านลีลาวัฒนชัยแต่ละคนค่อยๆ เริ่มกลายเป็นปัญหา เมื่อสิริวิภา รู้ตัวเองว่าท้องและติดเชื้อโรคร้ายจากทัศน์จนต้องถูกส่งไปรักษาตัวที่เมืองนอก ส่วนสิริกานดาที่ต้องการโสภณมาเป็นของตนมาก จนไประรานปรุงฉัตรภรรยาของเขาก็ถูกยิงจนต้องนอนเป็นเจ้าหญิงนิทรา ส่วนสิริวิมลก็ถูกมาร์ค นายแบบในสังกัดถ่ายคลิปฉาวมาขู่เรียกเงินจนหลี่ซวงต้องจ่ายเงินปิดปากไปเป็นจำนาวนมาก หรือแม้แต่พิทักษ์พงศ์ ที่พยายามทำงานเพื่อจะเอาผลงานมาต่อรองขอคบกับมุนินแฟนสาว จนถูกหลี่ซวงด่าและบังคับให้แต่งงานกับคนอื่น จนเขาต้องหนีออกจากบ้านไป ก่อนที่จะพบว่าสินค้าที่เขาเร่งผลิตนั้นมีปัญหากับผู้บริโภคจนกลายเป็นเรื่องใหญ่โต มิสโจวทำเป็นคอยปลอบใจหลี่ซวงและให้คำปรึกษา แต่จริงๆ แล้ว เธอยังคงวางแผนทำลายครอบครัวนี้ให้มากขึ้น โดยเป้าหมายของเธอคือ สุมลทา ภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของคงศักดิ์ ที่เธอรู้มาว่าเป็นอีกคนที่มีส่วนทำให้แม่และเธอต้องระหกระเหินอย่างที่เป็น มิสโจวจึงส่งมาลินีเลขาสาวสวยมาช่วยงานคงศักดิ์ ทำให้คงศักดิ์เริ่มกลับบ้านไม่เป็นเวลาและห่างเหินสุมลทามากขึ้นจนสุมลทารู้สึกได้ นอกจากนั้นมิสโจวยังแอบพาพิทักษ์พงศ์ที่หนีออกจากบ้านไปอาศัยอยู่ที่บ้านจินดาเพื่อให้แม่ได้พบกับลูกชายที่เธอต้องจากมานาน วันหนึ่งพิทักษ์พงศ์บังเอิญได้รู้ความจริงเรื่องชาติกำเนิดของเขาจากข่าวของที่จินดาเก็บเอาไว้ เมื่อได้ทราบความจริงจากปากจินดา พิทักษ์พงศ์ก็ตั้งใจจะเอาเรื่องราวทั้งหมดไปเปิดเผยให้คนอื่นได้รู้ เขาตั้งใจจะทำมันในงานแต่งงานของมิสโจวกับปริวัตร เช่นเดียวกับดารารัตน์ ที่ได้รู้เรื่องแผนทำลายลีลาวัฒน์ของมิสโจวจากบรรพต ก็ตั้งใจจะมาเปิดโปงมิสโจวในงานนี้เช่นเดียวกัน จอมขวัญในคราบของมิสโจวไม่ได้รู้สึกมีความสุขอย่างที่เธอเคยคิด เพราะเธอเริ่มหลงรักปริวัตรอย่างจริงใจ และนั่นยิ่งทำให้เธอรู้สึกผิดกับเขามากกว่าเดิม เธอตั้งใจเอาไว้ว่าหลังจากงานแต่งงานเธอจะสารภาพความจริงทั้งหมด แต่เมื่อทุกอย่างถูกแฉกลางงาน จนหลี่ซวงถึงกับรับสภาพไม่ไหว โรคหัวใจกำเริบจนต้องเข้าโรงพยาบาล ความผิดทั้งหมดจึงเหมือนตกอยู่ที่จอมขวัญเพียงคนเดียว ปริวัตรเสียใจที่ถูกจอมขวัญหลอกใช้ จึงแกล้งหันไปคบกับดารารัตน์อย่างเปิดเผยทั้งๆ ที่มีทะเบียนสมรสกับจอมขวัญอยู่แล้ว เพราะต้องการทำให้จอมขวัญต้องเจ็บเหมือนกับที่เขารู้สึก จอมขวัญพยายามไถ่โทษที่ก่อขึ้นด้วยการปรนนิบัติดูแลหลี่ซวง จนในที่สุดหลี่ซวงก็ยอมยกโทษให้เธอ ส่วนพิทักษ์พงศ์ก็กลับมาช่วยจอมขวัญแก้ปัญหาเรื่องสินค้าที่เขาได้ก่อไว้จนเรียบร้อย ว่านและสิริวิมลรู้ดีว่าแท้จริงแล้วปริวัตรยังคงรักจอมขวัญอยู่เต็มหัวใจแต่ทำทุกอย่างเพียงเพื่อประชดเท่านั้น จึงวางแผนที่จะช่วยให้ทั้งสองกลับมาคืนดีกันอีกครั้ง ปริวัตรเห็นความสนิทสนมมากผิดปกติของจอมขวัญและว่าน ก็เกิดความหึงหวง ยิ่งจอมขวัญเย็นชากับเขาแต่กลับทำดีกับว่านมากยิ่งขึ้น เขายิ่งรู้สึกไม่พอใจ ปริวัตรเริ่มแสดงความเป็นเจ้าเข้าเจ้าของจอมขวัญโดยที่เขาไม่รู้ตัว และดีกรีแห่งความหึงก็มาถึงขีดสุด ในวันที่เขาเมามาย ปริวัตรใช้กำลังข่มเหงปลุกปล้ำภรรยาของตัวเอง และหลังจากคืนนั้นเขาก็ได้รู้ความต้องการที่แท้จริงของหัวใจ หากแต่ก็สายเกินไปเมื่อจอมขวัญได้หนีหายไปจากชีวิตเขาเสียแล้ว หลี่ซวงตัดสินใจยกบัลลังก์ตระกูลลีลาวัฒนชัยที่เธอครอบครองมาเกือบทั้งชีวิตให้กับพิทักษ์พงษ์ และอนุญาตให้เขาคบหากับมุนินได้ตามต้องการ ปริวัตรตัดสินใจข้ามน้ำข้ามทะเลไปหามิสเตอร์คิมเพื่อถามข่าวคราวของจอมขวัญ หนุ่มใหญ่จึงมีบททดสอบเขยหนุ่มเพื่อพิสูจน์รักแท้ที่เขามีต่อผู้เป็นลูกสาว โดยให้เกาเฟยเฝ้าติดตามผล ก่อนจะบอกที่อยู่ของจอมขวัญให้ปริวัตรได้รับรู้จนเขาสามารถตามไปหาเธอและปรับความเข้าใจกันได้ในที่สุด

รอยรักแรงแค้น 2558

เรื่องย่อ : รอยรักแรงแค้น (2558/2015) เมื่อกฎหมายไม่อาจเอาผิดกับฆาตรกรได้ การแก้แค้นอย่างสาสมจึงถูกนำมาใช้ แม้กับคนที่เขาเคยรักปานดวงใจ รอยรักก็มิอาจหักแรงแค้นลงได้แม้สักนิด

คิม คิมหันต์ สุริยศักดิ์ (ภัทรเดช สงวนความดี) หนุ่มวัยก่อนเบญจเพส กำพร้าพ่อแม่ตั้งแต่ยังเด็ก ด้วยเหตุที่วายร้ายดักปล้นชิงทรัพย์และฆ่าบุพการีทั้งสองของเขาระหว่างเดินทางไปติดต่อธุรกิจที่ดินในต่างจังหวัด ในวันนั้น คิม เพิ่งจะมีอายุได้แปดขวบ ขณะที่ มล วิมลรัตน์ (พิมพ์พรรณ ชลายนคุปต์) พี่สาวคนเดียวของเขาอายุสิบแปดปี มล ต้องลาออกจากมหาวิทยาลัยตั้งแต่ปีหนึ่ง เพื่อทำงานหาเงินเลี้ยงน้องชายคนเดียวของเธอ โชคดีที่ มล เป็นคนเก่ง คล่องแคล่ว เธอเริ่มทำธุรกิจหิ้วสินค้ามีชื่อจากเมืองนอก มาขายตรงให้กับลูกค้าไฮโซ

จากนั้น ได้พัฒนาจนเป็นผู้นำเข้าอย่างเป็นทางการของเสื้อผ้าและเครื่องประดับแบรนด์เนม จนเป็นที่ยอมรับของผู้คนในสังคมชั้นสูง สถานะของวิมลรัตน์ ร่ำรวยจนเป็นที่เลื่องลือในหมู่นักธุรกิจรุ่นใหม่ พร้อม ๆ กับที่ คิม ได้กลายเป็น วัยรุ่นสายเลือดใหม่ ที่บรรดาสาวสังคมให้ความสนใจในเสน่ห์อันสดใสของเขา รวมทั้งเครดิตบัณฑิตใหม่จากคณะวิทยาศาสตร์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านงานไอที ก็เสริมรูปลักษณ์ชวนมองให้กับคิมได้ไม่น้อย การฟูมฟักดูแลเอาใจใส่อย่างดีของพี่สาวคนเดียวของเขาช่วยกลบลบความหวาดกลัวในวัยเด็กของคิมลงได้จนเกือบหมดสิ้น แม้ตำรวจไม่สามารถจับวายร้ายผู้ปลิดชีพพ่อและแม่ของเขาได้ แต่คิมก็เลือกที่จะไม่พูดถึงเรื่องนี้อีกเลย

มุก มุกริน คุรุรัตน์ (ฝนทิพย์ วัชรตระกูล) น้องสาวในวัยใกล้เบญเพสของ ธาดา (วัชรบูล ลี้สุวรรณ) พี่ชายคนเดียวของเธอ ธาดาอายุมากกว่าน้องสาวห้าปีครอบครัวของเขามีฐานะปานกลาง ผู้เป็นพ่อมีอาชีพเป็นทนายความที่ไม่ได้มีชื่อเสียงโด่งดังแต่อย่างใด ผู้เป็นแม่มีอาชีพเป็นครูสอนวิชาภาษาไทยในระดับชั้นประถมศึกษา ธาดาเป็นคนทะเยอทะยาน ประมาณสิบปีก่อนหน้านี้เขามุมานะสอบชิงทุนจนได้ไปเรียนต่อที่อเมริกา ธาดาต้องการให้ มุก น้องสาวของเขา มีโอกาสทางการศึกษาที่ดีกว่าอยู่เมืองไทย เขาแอบขโมยรถคันเก่งของพ่อไปขาย และนำเงินที่ได้เป็นค่าตั๋วเครื่องบินพาน้องสาวไปเรียนต่อด้วยกันที่นั่น

ธาดา ได้มีโอกาสรู้จักกับ วิมลรัตน์ ที่อเมริกา ความขยัน ทำการค้าเก่ง และรูปร่างที่เซ็กซี่ของวิมลรัตน์สะดุดตาของธาดายิ่งนัก โดยเฉพาะฐานะที่ร่ำรวย มีเงินใช้จ่ายคล่องตัวของวิมลรัตน์ยิ่งตอบสนองความทะเยอทะยานของธาดาเป็นเท่าทวี แม้อายุของเธอจะมากกว่าธาดาถึงห้าปี แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหา เช่นเดียวกับ บุคลิกอ่อนโยน เจ้าเสน่ห์ และเอาใจเก่ง ของธาดา ก็ทำให้สาวใหญ่ที่ครองตัวเป็นโสดมานานอย่างวิมลรัตน์ เคลิบเคลิ้มไปได้ไม่น้อย ในที่สุดทั้งสองก็ตกลงปลงใจอยู่กินร่วมกัน

พักตรา เลิศปัญญาวุฒิ (ธัญญะสุภางค์ จิรปรีชานนท์) ลูกสาวคนเดียวของ พลโท อรรถ เลิศปัญญาวุฒิ (พลรัตน์ รอดรักษา) นายทหารนอกราชการ พักตรา ถือเป็นสาวไฮโซคนหนึ่งที่ถูกจับตามองจากผู้คนในสังคมแทบจะทุกย่างก้าว เธอเพียบพร้อมไปหมดทุกด้าน ทั้งเรื่องการศึกษา รูปร่างหน้าตา และฐานะที่มั่งคั่ง ร่ำรวย ด้วยเหตุนี้เอง พักตราจึงกลายเป็นสาวสวยที่ผู้ชายส่วนใหญ่ไม่กล้าจีบ แต่ก็ไม่ได้ทำให้ พักตรา เดือดเนื้อร้อนใจแต่อย่างใด เธอพอใจที่จะเป็นดาวเด่นเหนือใคร ๆ และเป็นผู้เลือกมากกว่าผู้ถูกเลือก เพราะพักตรา เป็นหนึ่งในลูกค้ารายใหญ่ของวิมลรัตน์ เธอจึงมีโอกาสรู้จัก คิมหันต์ ได้โดยไม่ยาก หัวใจของพักตราหวั่นไหวทันทีที่ได้เห็นหน้า อนิจจา เธอตกหลุมรักคิมหันต์เข้าให้แล้ว แต่บุคลิกของพักตรา ย่อมปากแข็ง วางท่า และรอเวลาจนกว่าฝ่ายชายจะเป็นผู้เอ่ยปาก นั่นเพราะเธอเชื่อเสมอว่า คิมหันต์ ไม่มีวันหลุดไปจากมือเธอ ทว่า มันหาได้เป็นอย่างที่เธอคาดคิด

ผู้เป็นพ่อของธาดา ป่วยตายในวัยชรายังผลให้ผู้เป็นแม่ตกอยู่ในอาการซึมเศร้า ต้องอาศัยอยู่ในบ้านพักคนชรา จึงเป็นเหตุให้ธาดาย้ายกลับมาตั้งรกรากในเมืองไทย เขาตัดสินใจแต่งงานกับวิมลรัตน์ในที่สุด พักตรามีโอกาสได้รู้จักมุกริน ก่อนหน้างานแต่งงานของวิมลรัตน์ไม่นาน เธอแนะนำมุกให้รู้จักกับคิมหันต์ และด้วยความเป็นคนชอบช่วยเหลือผู้คน พักตราจึงฝากฝังมุกให้ทำงานในบริษัทที่พ่อของเธอเป็นประธานบอร์ดบริหาร พักตราหารู้ไม่ว่าจากการแนะนำวันนั้น ทำให้คิมหันต์และมุกริน ใกล้ชิดกันจนกลายเป็นความรัก มันเป็นความรักอันสดใสของหนุ่มสาวที่มีอุปนิสัยใจคอใกล้กัน หนึ่งปีหลังจากนั้น คิมหันต์ประกาศตัวอย่างเปิดเผยว่า เขาและมุกริน คือคู่รักกัน และทั้งสองจะแต่งงานกันในอีกสามเดือนข้างหน้านี้ หัวใจพักตรา แทบสลาย เธอชิงชังผู้คนรอบตัวเธอทุกคน โดยเฉพาะมุกริน ความเป็นเพื่อนจึงสลายไปจนหมดสิ้น แต่แล้วเรื่องราวพลิกผันก็เกิดขึ้นเมื่อคิมหันต์ประกาศยกเลิกการแต่งงานหลังการเสียชีวิตของพี่สาวคืนนั้น

คืนเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด มันเป็นคืนที่ร้อนอบอ้าวมากกว่าคืนใด ๆ วิมลรัตน์มีปากเสียงกับธาดาผู้เป็นสามี กรณีที่เถียงกันเราพอจะจับใจความได้ว่า เป็นเรื่องของเงิน ๆ ทอง ๆ นอกจากเสียงด่าทอระหว่างกันแล้วไม่มีผู้ใดรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างในห้องนอนนั้น กระทั่งเช้ามืด จึงมีผู้พบศพของวิมลรัตน์สิ้นใจอยู่ในห้องดังกล่าว ไม่มีวัตถุพยานใดยืนยันตัวฆาตกรได้ ทว่า สังคมปักใจเชื่อด้วยความรู้สึกว่า ธาดา คือผู้ลงมือสังหารภรรยาตัวเอง เพื่อครอบครองทรัพย์สินและมรดกทั้งหมดของวิมลรัตน์ พยานปากเดียวที่สามารถชี้ตัวคนผิดได้คือ มุกริน แต่มุกรินกลับเลือกที่จะให้การเพื่อเป็นคุณแก่ ธาดา พี่ชายของเธอในที่สุด ศาลจึงมีคำสั่งยกฟ้องนายธาดา พ้นผิดในทุกข้อกล่าวหา

คิมหันต์แทบเสียสติ เมื่อทราบผลการพิจารณาคดี มุกริน ก็ตกอยู่ในภาวะสับสนไม่แพ้กัน แต่เมื่อเธอเลือกที่จะช่วยเหลือพี่ชายผู้มีบุญคุณกับเธอ มุกรินก็จำต้องยอมรับความรู้สึกที่เปลี่ยนไปของคิมหันต์อย่างเลี่ยงไม่ได้ ความรักที่คิมหันต์เคยมีให้เธอ บัดนี้ได้กลายเป็นความแค้น เป็นความชิงชังที่คิมหันต์สาบแช่งไปจนวันตาย แม้ ชุมสาย (นวพล ภูวดล) เพื่อนสนิทที่ว่าความให้ จะปลอบโยนอย่างไรก็มิอาจหยุดไฟอาฆาตแค้นของคิมหันต์ได้

งานแต่งงานระหว่างคิมหันต์และมุกริน ถูกประกาศยกเลิกอย่างเอิกเกริก พักตรา ได้จังหวะในการเข้ามาสอดแทรกความสัมพันธ์ของ คิมหันต์ และ มุกริน ด้วยเจตนาหวังทวงคืนชายที่เธอหมายปองมาโดยตลอด และในที่สุดพักตราก็ทำสำเร็จ เพราะความเหงา ความเศร้า ความว้าเหว่ของคิมหันต์ เขาจึงพลาดพลั้งตกหลุมพรางของพักตรา โดยมิได้ตั้งใจ ไม่นานหลังจากนั้น พักตรา ประกาศกำหนดการหมั้นระหว่างเธอกับคิมหันต์อย่างเอิกเกริก เป็นไปดังคาด มุกรินตกอยู่ในความระทมทุกข์อย่างแสนสาหัส

ธาดา ทำตัวเป็นคนเสเพลซึ่งมันคือนิสัยแท้จริงของเขา ที่เพิ่งเปิดเผยหลังการตายของภรรยา ไม่มีใครรู้ว่า เขาแอบมีเมียเก็บอยู่คนหนึ่งเป็นนักดนตรีสาวฮิปปี้ผู้นิยมชมชอบการมีอิสระเสรีในทุกเรื่อง แม้กระทั่งเรื่องเซ็กส์ และมุกรินเองก็ไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน วันหนึ่ง ธาดา แอบกลับเข้าไปยังบ้านเดิมของวิมลรัตน์เพื่อหวังหยิบฉวยทรัพย์สินที่อยู่ที่นั่น คิมหันต์โผล่เข้ามาเห็นเหตุการณ์ ทั้งสองเกิดการทะเลาะวิวาท ลงไม้ลงมือกันจนธาดาเป็นฝ่ายเจ็บตัวถึงขั้นเข้าโรงพยาบาล มุกรินตามมาดูพี่ชายด้วยความเป็นห่วง เธอจึงต้องพบกับคิมหันต์ชนิดประจันหน้า คิมหันต์อดไม่ได้ที่จะพูดจาด่าทอมุกรินและลงเอยด้วยการบีบคอ ทำร้ายร่างกายมุกริน เหตุการณ์วันนั้นจบลงด้วยความช้ำใจของทุกฝ่าย แต่เมื่อคิมหันต์และมุกรินแยกย้ายไปอยู่กันตามลำพัง ทั้งคู่กลับสัมผัสถึงความรู้สึกลึก ๆ ของตนว่า พวกเขามิอาจตัดใจขาดจากความรักที่เคยมีให้กันได้ แต่เป็นเพราะความแค้นนั่นเอง ที่บดบังความรักของเขาและเธอจนแทบไม่เหลือร่องรอย

ปรารภ (ปิติศักดิ์ เยาวนานนท์) เจ้านายโดยตรงของมุกริน แสดงความห่วงใยต่อเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับมุกริน เขาพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือมุกรินทุกอย่าง นั่นเป็นเพราะเขาแอบมีใจให้กับเธอมานานแล้ว วันที่มุกริน นำแหวนหมั้น และของใช้อื่น ๆ ไปคืนคิมหันต์ ทั้งสองมีโอกาสได้ประจันหน้ากันอีกครั้ง ความรู้สึกลึกซึ้งที่ทั้งคู่เคยมีให้กัน ดึงดูดให้ทั้งสองเกือบจะเผลอใจให้กัน ทั้งคู่พยายามลืมความขุ่นเคืองในปัจจุบัน เพื่อกลับไปหาอารมณ์รักเหมือนดังอดีต ทว่า พักตรา ได้ปรากฏตัวขึ้น ทันท่วงที เธอพรั่งพรูถ้อยคำ ด่าทอพฤติกรรมของคนทั้งสอง ในขณะที่ คิมหันต์ วางเฉย เขาปล่อยให้พักตราอาละวาดใส่มุกรินโดยไม่ออกรับแทนแต่อย่างใด มุกรินจำต้องเดินจากไปด้วยน้ำตานองหน้า และความเจ็บช้ำท่วมหัวใจ เธอได้แต่บอกกับตัวเองว่า ผู้ชายอ่อนโยนคนที่เธอเคยทุ่มเทหัวใจให้ไม่มีอยู่ในโลกนี้อีกแล้ว

มุกริน ลาพักร้อนเพื่อหนีปัญหาต่าง ๆ ปรารภ เสนอทางเลือกให้มุกริน คือ ให้ไปช่วยงานเขาที่เชียงใหม่ซึ่งจะเป็นการพักผ่อน โดยไม่ต้องลางาน มุกริน ขอเวลาคิดและตัดสินใจอีกที ส่วน ธาดา นั้นเห็นด้วย และเชียร์ให้มุกรินยอมรับความปรารถนาดีจากปรารภ คิมหันต์ สั่งให้ชุมสายดำเนินการฟ้องร้อง เอาเรื่องธาดาให้ถึงที่สุดเพื่อยึดเอาบ้านของวิมลรัตน์ และทรัพย์สินทั้งหมดกลับมาเป็นของตน ชุมสาย แอบบอกเรื่องนี้ให้มุกรินรู้ แต่เธอก็ไม่สามารถโน้มน้าวให้ธาดายอมคืนทรัพย์สมบัติเหล่านั้นได้ มุกริน ต้องยอมรับสภาพการขึ้นโรงขึ้นศาลที่กำลังจะเกิดขึ้น มุกริน ย้ายออกมาเช่าอพาร์ทเม้นท์อยู่เองตามลำพังโดยไม่บอกให้ใครรู้ ป้าอ่อน แม่บ้านอัธยาศัยดี คุยฟุ้งว่า มุกรินโชคดีที่ได้ห้องที่สวยที่สุดและคุยซ้ำอีกว่า เจ้าของอพาร์ทเม้นท์นี้ เป็นชายหนุ่มที่หล่อที่สุด และน่ารักที่สุด เธอหารู้ไม่ว่าเจ้าของ อพาร์ทเม้นท์ก็คือ คิมหันต์ นั่นเอง

ธาดา ปรึกษา ปรารภ เรื่องที่มุกรินหายตัวไป ทั้งสองพากันบุกไปหา คิมหันต์ ด้วยความเชื่อว่า คิมหันต์เป็นผู้ลักพาตัวมุกรินไปคิมหันต์ปฏิเสธ ไม่รู้เรื่องนี้ด้วย ความเป็นห่วงมุกรินผุดขึ้นมาในใจเขาโดยไม่รู้ตัว ปรารภได้รับโทรศัพท์จากป้าอ่อน แจ้งว่ามุกรินป่วยหนัก ไข้สูง อยู่ที่โรงพยาบาล ปรารภและธาดา รีบตรงไปเยี่ยมมุกริน เช่นเดียวกับคิมหันต์ ที่รีบไปโรงพยาบาลทันทีที่ทราบข่าวเมื่อทั้งหมดได้ประจันหน้ากัน ในห้องพักคนไข้ คิมหันต์ อดไม่ได้ที่จะตะโกนลั่นว่า ธาดาคือคนฆ่าพี่สาวของเขา และมุกรินคือพยานที่ให้การเท็จเพื่อช่วยเหลือฆาตกร และทำให้วิมลรัตน์ต้องตายฟรี ๆ มุกรินตัดสินใจไปทำงานที่เชียงใหม่ เธอกลับมาเก็บของที่อพาร์ทเม้นท์ เพื่อคืนห้องให้กับเจ้าของ คืนนั้นเธอจึงได้พบกับเจ้าของอพาร์ทเม้นท์...คิมหันต์เขาพยายามช่วยขนของและอาสาขับรถไปส่ง แต่ มุกริน พยายามปฏิเสธ เกิดการตัดพ้อต่อว่า ราวกับคู่รักแง่งอนกัน

มุกรินเอาของใช้ส่วนตัวมาฝากที่บ้านเดิมของธาดา เธอจึงได้พบกับภาพที่ไม่เคยเห็นมาก่อนนอกจากลุงชม คนเฝ้าบ้านแล้ว มุกรินได้พบกับ ดวงดาว (รัญดภา มันตะลัมพะ) ฮิบปี้สาวสวยเก๋ ดวงดาว เป็นนักดนตรีที่รักอิสระเสรี และในเวลานี้ เธอรักที่จะมีความสัมพันธ์กับ ธาดา โดยไม่มีข้อผูกมัดใด ๆ ดวงดาว ไม่เดือดร้อนใจใด ๆ หากใคร ๆ จะเรียกเธอว่าเป็น เมียเก็บ มุกรินต่อว่าพี่ชายที่นอกใจวิมลรัตน์ เธอเริ่มรู้สึกว่า คำให้การของเธอที่เป็นคุณแก่ธาดานั้นไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง ธาดา น่าจะเป็นคนฆ่าวิมลรัตน์จริงดังที่คิมหันต์กล่าวหา

ในที่สุด พักตรา ก็เข้าสู่พิธีหมั้นกับ คิมหันต์ พักตรา พยายามเร่งรัดกำหนดการแต่งงาน แต่คิมหันต์หาทางบ่ายเบี่ยงตลอดเวลา แต่กระนั้น เพียงได้ชื่อว่าเป็น คู่หมั้น ก็ทำให้พักตรามีความสุขไม่น้อย เธอเชื่อว่า คิมหันต์ ไม่มีวันดิ้นหลุดไปจากการครอบครองของเธอเป็นอันขาด ส่วน มุกริน ตัดสินใจเดินทางไปเชียงใหม่กับปรารภในวันนั้น ตลอดการเดินทาง มุกรินเอาแต่ร้องไห้ เธอรู้สึกผิดกับสิ่งที่เกิดขึ้น และเอาแต่พร่ำบ่นว่าเธอเป็นผู้ทำลายอนาคตด้วยตัวเองแท้ ๆ ปรารภต้องคอยปลอบประโลมมุกริน และเสนอตัวที่จะช่วยเยียวยาความรู้สึกทางใจให้หากมุกรินต้องการ ทว่ามุกรินยังไม่พร้อมที่จะเปิดรับใครในเวลานี้

พักตรา ชวนคิมหันต์ไปทานข้าวนอกบ้าน เพื่อสร้างบรรยากาศที่ดีระหว่างเธอและเขา คิมหันต์ กลับได้พบกับธาดาและดวงดาวโดยบังเอิญที่ร้านอาหารเดียวกัน คิมหันต์จงใจเดินไปพูดกับธาดาที่โต๊ะ แม้ธาดาจะพยายามพูดจาดี ๆ และแนะนำดวงดาวกับคิมหันต์พอเป็นพิธีตามมารยาท แต่คิมหันต์กลับตะโกนลั่นเหมือนเดิมว่าธาดาคือฆาตกรฆ่าพี่สาวของเขา เมื่อธาดากลับถึงบ้านเขาระเบิดอารมณ์ใส่ดวงดาว โทษฐานที่ดวงดาวลอบทำตาหวานใส่คิมหันต์ ดวงดาวโต้ตอบว่า ถึงเธอจะรักอิสระเสรี แต่ก็ไม่เคยนอกใจสามี แม้จะเป็นสามีลับ ๆ ก็ตาม

เมื่อมุกรินกลับจากเชียงใหม่ ธาดา ไปดักรอรับ และขอให้มุกรินมาอยู่ด้วยกันกับดวงดาวที่บ้านเดิมเพื่อช่วยดูแลบ้าน และดูแลดวงดาวด้วย มุกรินไม่สามารถปฏิเสธได้เธอจึงได้มีโอกาสใกล้ชิดกับดวงดาว และเห็นพฤติกรรมต่าง ๆ ของดวงดาวโดยเฉพาะเรื่องการสูบกัญชา ดวงดาวบอกว่าทั้งหมดที่เธอทำนั้นเพื่อความสุขในชีวิต เธอจะไม่ยอมจมปลักอยู่กับความทุกข์ในอดีตอย่างที่มุกรินเป็น และจะไม่ยอมตายอย่างอเนจอนาถแบบวิมลรัตน์ด้วยเช่นกัน คิมหันต์มักหาจังหวะและโอกาสในการพบกับมุกริน เขาต้องการระบายความอึดอัดระหว่างเขากับพักตราให้ใครสักคนฟัง แม้คิมหันต์จะเคียดแค้น ชิงชังมุกรินมากแค่ไหน แต่ก็ไม่มีใครรับฟังปัญหาของเขาได้ดีไปกว่ามุกริน มุกรินทำได้เพียงแต่ก้มหน้าฟังนิ่ง ๆ โดยไม่เอ่ยปากใด ๆ

ปรารภ เรียกมุกรินไปแจ้งว่ามีคำสั่งจากหัวหน้าแผนกให้ไปช่วยงานต่างจังหวัดโดยมีพักตราร่วมอยู่ในทีมและต้องเดินทางเร็วที่สุด คือ มะรืนนี้การเดินทางไปทำงานทริปนี้ บริษัทจัดให้พักตราและมุกรินพักอยู่บ้านหลังเดียวกัน พักตรา จงใจพา คิมหันต์ ไปอยู่ด้วยเพื่อสร้างภาพให้ใคร ๆ ได้เห็นว่าเขาและเธอรักกันมากแค่ไหน ห้องนอนของพักตราและมุกรินถูกจัดให้อยู่ติดกัน ในเวลากลางคืน มุกรินจะได้ยินเสียงหัวร่อต่อกระซิกดังมาจากห้องพักตรา มุกรินต้องออกมานั่งปรับอารมณ์ตัวเองที่สนามนอกบ้าน จู่ ๆ คิมหันต์ ก็ตามมานั่งข้าง ๆ ด้วย เขาพร่ำพรรณนาถึงความหลังที่เคยมาเที่ยวทะเลด้วยกันกับมุกริน น้ำเสียง และแววตาของเขาอ่อนโยน นุ่มนวล จนน้ำตาของมุกรินไหลออกมาอย่างหยุดไม่ได้ คิมหันต์กระซิบเบา ๆ ข้างหูเธอว่า "ผมยังต้องการคุณอยู่นะ มุกริน" เธอไม่รู้ว่าคิมหันต์จงใจทำเช่นนี้เพราะเหตุใด ในเมื่อเขาเพิ่งหมั้นกับพักตรา แต่กระนั้น หัวใจของเธอได้เตลิดเปิดเปิงไปกับเขาอีกคำรบหนึ่งแล้ว ตลอดช่วงเวลาต่างจังหวัดที่ มุกรินและพักตราต้องอยู่ด้วยกัน ทั้งสองกระทบกระทั่งกันด้วยวาจาอย่างเผ็ดร้อน พักตราพยายามยั่วมุกรินให้โกรธด้วยการ พร่ำพูดถึงอนาคตอันใกล้ที่กำลังจะแต่งงานกันระหว่างเธอกับคิมหันต์ ส่วนมุกรินอดไม่ได้ที่จะโต้ตอบว่า ระวังเรื่องราวจะหักมุม ไม่เป็นอย่างที่คิด

เมื่อกลับถึงกรุงเทพฯ พักตรา พยายามใช้สถานะของลูกสาวประธานบอร์ดบริษัท ไล่มุกรินออก ปรารภ เป็นผู้เรียกร้องความถูกต้องให้กับมุกริน แต่กลับถูกพักตราเย้นหยันว่า ปรารภ ทำเพราะแอบชอบมุกริน ปรารภเถียงกลางวงประชุมว่า เขาไม่ได้ชอบมุกรินแต่เขารักมุกริน พักตราโกรธที่ใคร ๆ พากันรักแต่มุกริน มุกรินมีโอกาสได้คุยกับดวงดาวมากขึ้น เธอจึงรู้ประวัติชีวิตดวงดาวว่า เติบโตมากับแม่ที่เล่นการพนัน ขี้ขโมย จนโดนจับ และดวงดาวก็ถูกนำไปเลี้ยงในคุกตั้งแต่เด็ก ๆ นั่นจึงเป็นที่มาของความแข็งแกร่ง สู้ชีวิตแบบดวงดาว ดวงดาวให้ความเห็นกับมุกรินว่าถ้าเป็นเธอ เธอจะไม่ปล่อยให้คิมหันต์หลุดมือไปอีก และเชื่อได้เลยว่า คิมหันต์ยังคงต้องการมุกริน คิมหันต์หาจังหวะมาดักรอมุกริน เขาบอกเธอว่า พักตราลาออกจากบริษัทแล้ว ส่วนตัวเขาเองนั้น ไม่อาจหักห้ามใจได้อีกต่อไป คิมหันต์สารภาพว่า ยังคงรักและปรารถนาในตัวมุกรินเหมือนเดิม ไม่เปลี่ยนแปลง ส่วนการรับปากว่าจะแต่งงานกับพักตรานั้น เป็นเพราะความพลาดพลั้ง ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เขาจมอยู่กับความโกรธ ชิงชัง ธาดา

ในที่สุดทั้งสอง ก็ปล่อยตัวปล่อยใจไปตามอารมณ์ปรารถนาของกันและกันตลอดค่ำคืนนั้น ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่พักตราฟุ้งซ่านไปกับการวิ่งพล่าน ตามหาผู้เป็นคู่หมั้นของเธอ คิมหันต์นัดให้มุกรินมาหาที่ท่าเรือริมทะเล เพื่อนั่งเรือออกไปล่องลอยบนเกาะกลางทะเลด้วยกันเพียงลำพัง ทิ้งสิ่งรกร้างหัวใจไว้บนฝั่ง เบื้องหลังเขาทั้งสอง มุกริน ลังเล แต่ดวงดาวสนับสนุนให้มุกรินทำตามปรารถนาของหัวใจ ที่สุดแล้ว มุกรินก็เลือกที่จะเชื่อคำแนะนำของดวงดาว ทั้งสองมีความสุข ดื่มด่ำร่วมกัน สมความปรารถนา มุกรินอยากหยุดเวลานี้ไว้ให้นานเท่านานแต่เธอก็ไม่อาจลืมได้ว่า พฤติกรรมที่เธอกำลังทำอยู่นั้น คือการแย่งคู่หมั้นของเพื่อน คิมหันต์ ยอมรับว่า มันอาจเป็นการกระทำที่ผิด แต่มันก็เป็นบาปของเราทั้งคู่ ทั้งสองเลือกที่จะชะลอปัญหานี้ด้วยการหาบ้านเช่าสักหลังชานเมืองกรุงเทพฯ เพื่อเป็นรังรักของตน เพราะการขอถอนหมั้นจากพักตรานั้นเป็นเรื่องที่ยากมากความอาฆาตแค้นของพักตรา อาจถึงขั้นเอาชีวิตก็เป็นได้ เมื่อคิมหันต์ไปส่งมุกรินที่บ้าน เขาได้พบกับดวงดาวและได้รู้ถึงความสัมพันธ์ของดวงดาวกับธาดา เขายิ่งเพิ่มความชิงชังในตัวธาดามากยิ่งขึ้นพร้อม ๆ กับความสงสารและเห็นใจดวงดาว

ธาดาขอให้มุกรินลาออกจากงาน เพื่อเลี่ยงการพบเจอกับคิมหันต์ มุกรินปฏิเสธ ธาดาโกรธจัด อยู่ ๆ ก็หน้ามืดล้มลง สัญญาณบางอย่างเกี่ยวกับสุขภาพของธาดาได้ปรากฏขึ้น คิมหันต์หายหน้าไปจากทุก ๆ คนพักใหญ่ด้วยรู้สึกผิดในทั้งหมดทุกสิ่งที่ตัวเองทำลงไปไม่ว่าจะกับพักตรา หรือ มุกริน ในบางขณะ เขาเริ่มสับสนกับภาวะจิตใจของเขา ในเมื่อเขาโกรธเกลียด อาฆาตแค้นธาดา เขาก็ไม่ควรที่จะมีความรักให้มุกริน เขาควรจะทำร้าย ทำลาย มุกริน และธาดา รวมถึงทุกคนที่เกี่ยวข้องกับการตายของพี่สาวของเขา แต่เขากลับหักห้ามใจไม่ได้ คิมหันต์ ยอมรับกับตัวเองว่า เขารักมุกรินจริง และรักแท้ในครั้งนี้ อยู่เหนือความแค้นใด ๆ ทั้งหมด มุกรินร้อนใจจนอดไม่ได้ที่จะโทรหาคิมหันต์ ทว่าผู้ที่รับโทรศัพท์ปลายสายนั้นกลับเป็นพักตรา มุกรินรีบทิ้งโทรศัพท์ทันที เธอช้ำใจอีกครา ดวงดาวจึงอาสาพามุกรินไปพักผ่อนที่ภูเก็ต การหายตัวไปเฉย ๆ ของคิมหันต์ทำให้พักตรา ตกอยู่ในความซึมเศร้ามากยิ่งขึ้น คุณอรรถผู้เป็นพ่อต้องคอยพยายามปลอบ แต่ก็ไม่เป็นผล คนเดียวที่มีความหมายและมีอิทธิพลกับเธอมากที่สุดคือ คิมหันต์ วันหนึ่งคิมหันต์กลับมาหาพักตราที่บ้าน เขาได้พบกับสภาพบ้านที่พังยับเยิน ข้าวของกระจุยกระจายจากการทำลายของพักตรา

คิมหันต์ได้แต่กอดและปลอบเธอไว้ในวงแขนและสัญญาว่าจะไม่มีวันถอนหมั้นกับพักตราเป็นอันขาด ในเวลาเดียวกัน ธาดา ก็คะยั้นคะยอให้มุกรินลาออกจากบริษัท พร้อม ๆ กับที่บ่นด้วยความระแวงว่า ดวงดาว อาจปันใจไปชอบชายอื่นเพราะดวงดาวเคยสารภาพกับธาดาตรง ๆ ว่า เธอยินดีอยู่กับธาดาตลอดไป จนกว่าจะเจอผู้ชายคนที่เธอรักจริง ๆ ซึ่งเมื่อวันนั้น ธาดา จะไม่มีสิทธิ์รั้งตัวเธอไว้ได้อีกต่อไป

คิมหันต์จำเป็นต้องเดินทางไปต่างประเทศ เพื่อรวบรวมข้อมูลใหม่ที่ใช้เป็นหลักฐานในการเอาผิดธาดาได้ เจตนาในการเดินทางครั้งนี้ เขามิได้ปริปากบอกใคร แม้แต่กับมุกริน กระนั้น มุกรินอดไม่ได้ที่จะแอบไปส่งคิมหันต์ที่สนามบิน พักตราตามมาที่สนามบินทีหลัง เธอเห็นมุกรินเต็ม ๆ ตาที่นั่น พักตราโกรธจัด ตามไปอาละวาดถึงที่ทำงาน ในที่สุดมุกรินก็ลาออกจากบริษัท ช่วงเวลาที่คิมหันต์ไม่อยู่ มุกรินได้แต่เฝ้ารอเขาที่บ้านเช่าหลังนั้น เธอฝันถึงเวลาที่จะได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน แม้เพียงน้อยนิด ก็มีค่ามากมหาศาลสำหรับเธอ ธาดา หมกมุ่นในเรื่องเหล้าและการพนัน เขาเป็นหนี้สินในวงพนันมากมาย สมบัติเท่าที่มีก็ถูกขายออกไปจนเกลี้ยง กระทั่งดวงดาวก็ถูกตะเพิดไล่ออกจากบ้านไปด้วยอารมณ์พาลของธาดาเช่นกัน

ดวงดาวไม่รั้งรอ...เธอได้โอกาสเดินออกไปจากชีวิตธาดาทันที ไม่มีใครรู้ว่า ความวอดวายของธาดาครั้งนี้ ผู้อยู่เบื้องหลังคือคิมหันต์ ด้วยในอดีต พี่สาวของเขา เคยมีสายสัมพันธ์ที่ดีกับกลุ่มผู้มีอิทธิพลในวงการพนัน เฮียอ๋า ขาใหญ่ในบ่อน โทรแจ้งคิมหันต์ว่า ธาดาใกล้หมดตัว จนมุมแล้ว คิมหันต์พอใจเป็นอย่างยิ่ง และเมื่อรู้ว่าดวงดาวแยกตัวไปก็ยิ่งเพิ่มความสะใจให้กับคิมหันต์เป็นอย่างมาก คิมหันต์ได้เจอกับดวงดาวโดยบังเอิญ เมื่อทั้งสองได้สนทนากัน ความสงสารและเห็นใจระหว่างกันจึงเกิดขึ้น ไม่น่าเชื่อว่า ดวงดาว กลับเป็นผู้ให้สติกับคิมหันต์ว่า ทุกสิ่งที่เขาทำไป ไม่เป็นผลดีกับใครแม้แต่คนเดียวหากพี่สาวของคิมหันต์ฟื้นขึ้นมาได้ คิดหรือว่าเธอจะพอใจที่คิมหันต์เป็นอย่างนี้ ก่อนแยกจากกัน ดวงดาวทิ้งท้ายไว้ว่า น่าเสียดายที่เราเจอกันช้าไป ไม่งั้นคุณไม่มีทางหลุดมือฉันไปแน่ ๆ

วันหนึ่ง เมื่อพักตราเจอตัว คิมหันต์ สิ่งแรกที่เธอทำ ไม่ใช่การต่อว่าด่าทอ แต่เธอเลือกที่จะหยิบปืนพกขนาดเล็กยิงใส่คิมหันต์ กระสุนพุ่งเข้ากลางหัวไหล่คิมหันต์ และเพียงพอที่คิมหันต์ต้องพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล พักตราเป็นผู้เฝ้าดูแลอาการคิมหันต์อย่างใกล้ชิด พร้อมกับครวญคราง ร้องขอโทษคิมหันต์อยู่ตลอดเวลา มุกรินพยายามจะไปเยี่ยมคิมหันต์ทันทีที่รู้ข่าว ทว่า ธาดาขวาง ห้ามไว้ ถึงขั้นลงไม้ลงมือ ตบตีและกักขังมุกริน ส่วนดวงดาวนั้น ถลันเข้าไปเยี่ยมอาการคิมหันต์ได้โดยไม่มีผู้ใดห้ามไว้ เมื่อพักตราเห็นดวงดาว เธอกลับคิดไปเองว่า ดวงดาวต้องเป็นชู้รักคนใหม่ของคิมหันต์ ธาดาเฝ้าตามง้อดวงดาว แต่ไม่เป็นผล ดวงดาวรู้จากธาดาว่า เขากักขังมุกรินไว้ เธอจึงขอไปเยี่ยมมุกรินทันที ดวงดาวแนะนำว่า มุกรินควรยอมตามใจธาดา เพื่อเอาตัวรอดออกมาก่อน มุกรินยอมทำตามนั้น เธอถูกธาดาพาไปเจอเสี่ยอ๋า เจ้าหนี้ในบ่อนของเขา มุกรินไม่ได้ล่วงรู้มาก่อนเลยว่า นี่คือการใช้หนี้ของธาดา

มุกรินจึงถูกกักขังอีกครั้งหนึ่ง ภายใต้กรงเล็บของเสี่ยอ๋า จู่ ๆ ดวงดาวก็มีอาการคลื่นเหียนอาเจียน เธอเข้าใจได้ไม่ยากว่ากำลังตั้งท้องนั่นเอง พ่อของเด็กในท้องก็คือธาดา ธาดาพร่ำรำพันกับดวงดาว เพื่อขอคืนดี แต่ไม่สำเร็จ ดวงดาวเลือกที่จะใจแข็ง และไม่เอ่ยปากเรื่องการตั้งท้อง ด้วยไม่ต้องการให้ถูกใคร ๆ มองว่า จงใจใช้เด็กในท้องเพื่อเป็นการผูกมัด นับวันธาดากลับดูทรุดโทรมมากขึ้นเรื่อย ๆ กระทั่งหมอที่ดูแลธาดาแจ้งให้ทราบว่า ธาดาเป็นมะเร็งที่สมอง ขณะที่สุขภาพกายกำลังย่ำแย่เขาก็ได้พบกับคิมหันต์อย่างจงใจ คิมหันต์จึงบอกให้รู้ว่าทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับธาดาคือแผนการของเขาเอง มุกริน ที่ตกเป็นของเสี่ยอ๋าตอนนี้แท้จริงแล้วก็คือตกเป็นของเขานั่นแหละ เพราะเสี่ยอ๋าทำทุกอย่างตามแผนที่คิมหันต์วางไว้ ด้วยเหตุที่เคยเป็นหนี้บุญคุณกันมาก่อน ทั้งหมดนี้คือผลกรรมที่ธาดาก่อไว้กับวิมลรัตน์ และวันนี้ มันก็เป็นวาระที่ธาดาต้องชดใช้กรรมเหล่านั้นแล้ว ธาดาได้แต่ฟูมฟาย จนไม่มีสติอยู่กับตัว ในที่สุดเขาก็เลือกทางออกด้วยการฆ่าตัวตาย

ดวงดาวเป็นผู้ที่ได้ยินเรื่องราวทั้งหมดที่คิมหันต์พูดกับธาดา เธอต่อว่าคิมหันต์ และพร่ำรำพันกับธาดาเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่เขาจะสิ้นลม เมื่อเรื่องราวทั้งหมดรู้ถึงหูมุกริน เธอจึงรู้สึกว่า เธอเป็นเพียงเบี้ยตัวหนึ่ง ที่ถูกขับเคลื่อนด้วยอารมณ์แค้นของคิมหันต์ คิมหันต์พยายามเข้าหามุกริน เพื่อสารภาพว่าแม้มันจะเป็นแผนการ เพื่อแก้แค้นธาดา แต่ในความเป็นจริง เขาไม่เคยสลัดรอยรักที่มีต่อมุกรินออกไปจากหัวใจได้แม้แต่น้อย มุกริน ปฏิเสธคำสารภาพเหล่านั้น เธอไม่อาจวางใจในพฤติกรรมของคิมหันต์ได้อีกต่อไป

เมื่อดวงดาวได้เห็นฉากการสารภาพรักของคิมหันต์กับมุกริน เธอได้แต่ให้กำลังใจคนทั้งสอง และเชื่อว่าเวลาจะเยียวยาทุกสิ่งได้เอง อนิจจา พักตราที่กำลังขับรถพุ่งมาหาคิมหันต์ด้วยความโกรธแค้น เธอไม่อาจหยุดอารมณ์โกรธของตนได้ พักตราตัดสินใจขับรถพุ่งชนดวงดาวทันที อุบัติเหตุครั้งนี้ทำให้สามชีวิตต้องจบลง หนึ่งคือพักตรา หนึ่งคือดวงดาว และอีกหนึ่ง คือทารกน้อยที่กำลังก่อตัวขึ้นในท้องของดวงดาว หลายเดือนผ่านไปหลังวันเกิดเหตุ คิมหันต์ตกลงใจที่จะบวชเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับทุกชีวิตที่พัวพันอยู่ในแรงแค้นของเขา แม้การบวชครั้งนี้จะไม่สามารถลดทอนกรรมที่เขาก่อไว้ได้ แต่ก็ถือเป็นการเริ่มต้นชีวิตใหม่ ชีวิตที่มีคุณค่าใต้ร่มกาสาวพัสตร์ตลอดกาล

หัวใจเถื่อน 2557

เรื่องย่อ : หัวใจเถื่อน (2557/2014) ภาคย์ ลูกชายคนโตของครอบครัวพิชิตพงษ์แต่กลับไม่เคยได้รับความรักจากกวีผู้เป็นพ่อเลยกลับทุ่มเทความรักไปที่ภากร น้องชาย บ่อยครั้งที่ภาคย์เก็บความน้อยใจไประบายให้อำภาผู้เป็นแม่ฟัง อำภาก็ได้แต่ปลอบใจและขอให้ภาคย์อดทน จนกระทั่งวันหนึ่งความอดทนของภาคย์ได้หมดลง ภาคย์หนีออกจากบ้านทุกคนเสียใจรวมทั้งอมาวสี หลานสาวที่กวีรับมาเลี้ยงซึ่งแอบรักภาคย์มาตลอด 10 ปีผ่านไปฐานะของบ้านพิชิตพงษ์ย่ำแย่ลงทุกที แต่ภากรยังฟุ่มเฟือยเหมือนเดิมแถมมีความรู้สึกหึงหวงอมาวสีเวลาที่มีผู้ชายมาหาที่บ้านแต่อมาวสีไม่สนใจเพราะในใจมีแต่ภาคย์ อมาวสีบังเอิญได้พบกับราช รัชภูมิในงานเลี้ยงต้อนรับการกลับมาจากต่างประเทศของวาริน พี่ชายของวัชรี อมาวสีรู้สึกว่าราชกับภาคย์ต้องเป็นคนเดียวกันแต่ราชปฏิเสธว่าไม่ใช่ภาคย์ ส่วนทางด้านกวีกับอำภาก็กำลังกลุ้มใจที่จะหาเงินให้ภารโรงนายสุดที่ภากรเกิดไปได้เสียกับสีไพร ลูกสาวโดยตัดสินใจขายบ้านแก้วเสียซึ่งคนที่รับซื้อไว้ก็คือราช รัชภูมิ ภากรคลั่งอมาวสีอย่างหนักจนขอร้องให้กวีจัดงานแต่งงานขึ้นระหว่างตนกับอมาวสี อมาวสีต้องจำยอมเพราะกวีอ้างบุญคุณที่เลี้ยงดูเธอมา อมาวสีอยากรู้ว่าภาคย์หรือราชจะรู้สึกอย่างไรจึงตัดสินใจบอกว่าเธอจะแต่งงานกับภากร ราชยินดีด้วยแต่ในใจราชกลับรู้สึกเสียใจอย่างยิ่ง ราชจึงตัดสินใจวางแผนพาอมาวสีหนีภากรโกรธมากจ้างจำลองให้ออกตามหาจนไปเจอราชกับอมาวสีที่ไร่แห่งหนึ่ง จำลองหลอกล่อให้ราชออกไปจากไร่ แล้วปลอมลายมือมารับอมาวสี อมาวสีหลงเชื่อตามจำลองไปจนถูกจับไปขังที่กระท่อมร้างแต่ก็รอดมาได้เพราะสายบัว เมียของจำลองเกิดหึงจึงแอบปล่อยอมาวสีออกมา ส่วนภากรก็ถูกจำลองหลอกไปติดการพนันจนหมดตัวแล้วบังเอิญไปได้พบกับสีไพร ผู้หญิงที่ภากรเคยเห็นเป็นของเล่นซึ่งยังรักและพร้อมจะให้อภัยภากรเสมอ ภากรจึงสำนึกได้ กวีตัดสินใจขายบ้านพิชิตพงษ์เพราะฐานะที่กำลังย่ำแย่ลงอย่างหนักม.ร.ว.ทิพย์สุดามารับซื้อไว้เพื่อมอบให้ภาคย์จนกระทั่งม.ร.ว.ทิพย์สุดาตามหาภาคย์จนได้พบราช ซึ่งมั่นใจว่าภาคย์กับราชคือคนเดียวกัน จึงตัดสินใจเล่าความจริงทั้งหมดให้ญาติกับหม่อมคทาเทพแฟนเก่าของอำภาและภาคย์ ก็คือลูกที่เกิดจากอำภาและคทาเทพไม่ใช่กับกวี พอฟังจบราชจึงเข้าใจเหตุผลที่กวีร้ายกับตนจึงรีบไปหากวีและอำภาเพื่อขอบคุณที่เลี้ยงดูมาและขอให้ทุกคนกลับมาอยู่ด้วยกันเหมือนเดิม ส่วนวารินก็ดูแลเทคแคร์อมาวสี ภาคย์เองก็เชียร์ให้อมาวสีรับรักวาริน อมาวสีแอบน้อยใจและคิดว่าภาคย์มีหญิงที่รักอยู่แล้ว ภาคย์และอมาวสีจึงห่างกันออกไปทุกที ในวันแต่งงานของภากรและสีไพรอมาวสีแอบประชดภาคย์โดยทำเป็นใกล้ชิดกับวารินแต่สายตาเหลือบไปเห็นจำลองที่กำลังจะยิงภาคย์พอดีอมาวสีเอาตัวไปกันกระสุนให้ ความเสียสละของอมาวสีจึงสามารถล้างความเถื่อนของหัวใจภาคย์ลงไปได้

สุภาพบุรุษลูกผู้ชาย 2556

สุภาพบุรุษลูกผู้ชาย (2556/2013) เรื่องราวของ หรั่ง เด็กหนุ่มลูกกำพร้า สิ่งเดียวที่ติดตัวเขามาก็คือ ร็อกเก็ตรูปไวโอลิน ที่เขาเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี มันเป็นเพียงสมบัติชิ้นเดียวที่เขามี หรั่งรับจ้างทำงานสารพัดเพื่อส่งเสียตัวเองเรียนและเพื่อหาเงิน มาเป็นค่าผ่าตัดตาให้ ก้อย หญิงสาวตาบอดที่หรั่งรับมาดูแลอย่างน้องสาว ถึงชีวิตจะไม่ร่ำรวยแต่หรั่งก็มีความสุขที่ได้ใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านหลังเล็ก ๆ ในชุมชนแออัดกับก้อยและมีเพื่อนร่วมชุมชนอย่าง โบ้ เท่ห์ เช็ง ความสุขของหรั่งอีกอย่างก็คือ การได้เฝ้ามองดู แพรวา สาวสวยไฮโซ หรั่งรู้ตัวดีว่าเขากับแพรวาแตกต่างกันมากและ แพรวามีคู่รัก คือ ตะวันฉาย อยู่แล้ว หรั่งได้แต่มองแพรวาแบบหมาวัดหมายปองดอกฟ้าอย่างไรอย่างนั้นแต่แล้วหรั่งก็มีโอกาสได้เจอกับแพรวา แพรวาก็เริ่มประทับใจในความมีน้ำใจของหรั่ง เมื่อเธอต้องเข้าไปทำงานในบริษัทของครอบครัว เธอจึงได้ขอให้หรั่งเข้าไปทำหน้าที่ผู้ช่วยให้เธอ การได้เข้ามาใกล้ชิดกับแพรวาในฐานะผู้ช่วยทำให้หรั่งได้รู้ว่าแพรวาไม่ต้องการจะเข้ามาทำงานที่บริษัท ซึ่งตรงข้ามกับความตั้งใจของ เผ่าลาภ ที่อยากผลักดันให้แพรวาขึ้นมาสืบทอดตำแหน่ง เพื่อที่เขาจะได้ไปลงเล่นการเมืองได้เต็มตัว เผ่าลาภหวังว่าการลงไปเล่นการเมืองในพรรคของ สุริยะ พ่อของตะวันฉาย จะเป็นใบเบิกทางไปสู่สัมปทานบัตรเหมืองพลอยแห่งใหม่ แต่การขอสัมปทานก็ไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะกลับมีคู่แข่งอย่าง แสงเทพ เข้ามาขอสัมปทานให้กับบริษัท เทพทอแสง ด้วยการใช้สุริยะเป็นทางลัดเหมือนกัน การที่เผ่าลาภดันแพรวาขึ้นมาแทนที่ สร้างความไม่พอใจให้กับบารมีและอรทัย น้อง ๆ ของเผ่าลาภ เผ่าลาภรู้ดีว่าคนสองคนนี้ห่วงแต่ประโยชน์ส่วนตัว เขาจึงพยายามกันตำแหน่งไว้ให้แพรวา แต่ปัญหาก็คือแพรวาไม่มีความสามารถพอ เผ่าลาภจึงได้มอบภาระให้หรั่งทำทุกวิถีทางให้แพรวากลายเป็นผู้บริหารที่ดีให้ได้ เผ่าลาภเริ่มมีอาการปวดหัวเนื่องจากโรคความดันบ่อย ๆ เขาเริ่มกลัวว่าตัวเองจะอยู่ได้อีกไม่นาน ดังนั้นเขาจึงเร่งรัดให้หรั่งช่วยสอนให้แพรวาเป็นนักบริหารที่ดีโดยเร็ว หรั่งให้สัญญา เผ่าลาภบอกกับหรั่งว่าเขาถูกชะตากับหรั่งอย่างบอกไม่ถูก หรั่งถือโอกาสสารภาพกับเผ่าลาภว่าเขาเคยเจอกับเผ่าลาภมาก่อนแล้ว ตอนที่เขาตามคณะคนงานก่อสร้างไปสร้างบ้านริมทะเลแห่งหนึ่ง ที่นั่นเขาได้พบกับแพรวาเป็นครั้งแรก แต่แพรวายังเด็กมากจึงจำเขาคนที่เคยช่วยเธอจากการถูกกลุ่มเด็กอื่นรังแกไม่ได้ เมื่อเผ่าลาภรู้ว่าหรั่งคือเด็กชายคนที่ห้อยสร้อยไวโอลินเส้นนั้นก็ตกใจมาก บารมีร่วมกับอรทัยยักยอกพลอยในสต็อกของบริษัทไปขาย ทำให้บริษัทซึ่งกำลังต้องการขายพลอยก้อนเพื่อเอาเงินมาหมุนต้องเดือดร้อน เผ่าลาภไล่บารมีและอรทัยออก เผ่าลาภเองเครียดจัดจนถึงกับเส้นเลือดในสมองแตกกลายเป็นอัมพาต ทำให้แพรวาต้องขึ้นรักษาการแทน ในขณะที่กำลังวุ่นวายกับปัญหาการเงินของบริษัท ตะวันฉายก็มาขอเลิกกับแพรวา แพรวาเสียใจอย่างมากแต่โชคดีที่มีหรั่งคอยอยู่เคียงข้าง ทำให้เธอทำใจได้เร็วกว่าที่คิด หรั่งถือโอกาสบอกความจริงกับแพรวาเรื่องที่เขาและเธอเคยเจอกันมาก่อนเมื่อ ตอนเด็ก เมื่อแพรวารู้ว่าหรั่งคือเด็กชายตัวโตคนนั้นก็รู้สึกดีใจอย่างบอกไม่ถูก ความผูกพันจากวัยเด็กทำให้คนทั้งคู่ยิ่งรู้สึกดีต่อกัน แพรวายอมรับความรู้สึกตัวเองแล้วว่าเธอมีใจเริ่มรักหรั่งเข้าแล้ว แต่แล้วขณะที่ทุกอย่างเริ่มจะดีขึ้น เผ่าลาภก็มาด่วนจากไปอย่างกะทันหันในเหตุการณ์ลิฟต์ระเบิด ตำรวจพบว่าการตายของเผ่าลาภนั้นเป็นการฆาตกรรม ด้วยพยานหลักฐานที่มัดตัวทำให้หรั่งกลายเป็นผู้ต้องสงสัย ญาติ ๆ ทุกคนคิดว่าหรั่งตั้งใจฆ่าเผ่าลาภแล้วใช้ความไว้วางใจที่แพรวามีให้เข้ามายึดอำนาจในบริษัท แพรวานึกไม่ถึงว่าหรั่งจะมีแผนไม่ซื่อกับเธอ หรั่งหมดอิสรภาพ เขาถูกจับเข้าคุกทันที แพรวารู้สึกผิดหวังในตัวหรั่งอย่างมาก คืนหนึ่งลูกน้องของเผ่าลาภพาแพรวามาที่บ้านหลังหนึ่ง ที่นั่นแพรวาได้เจอกับเผ่าลาภและหรั่ง เธอจึงได้รู้ความจริงว่าเผ่าลาภแกล้งตายแล้วให้หรั่งเป็นแพะรับบาปในคดี เพื่อจะหาหลักฐานมาดัดหลังคนที่วางแผนฆาตกรรมตัวจริง แพรวาได้รู้ว่าคนบงการฆ่าตัวจริงคือ แสงเทพและตะวันฉายที่ต้องการจะฆ่าเผ่าลาภเพื่อให้ตัวเองเป็นฝ่ายได้สัมปทาน แล้วเอาที่ดินนั้นไปใช้เป็นโกดังเก็บของเถื่อนโดยใช้การทำเหมืองพลอยบังหน้า แต่แผนของแสงเทพก็ถูกเปิดเผยด้วยโน้ตลับจากบารมีที่เริ่มสำนึกได้แล้วเขียนมาเตือนเผ่าลาภให้ไหวตัวก่อน แพรวาร่วมมือกับหรั่งที่ยังแสร้งติดคุกอยู่หาหลักฐานมาเปิดโปงเทพทอแสงทำให้แสงเทพถูกจับและสัมปทานก็ตกมาเป็นของบริษัท แพรวาอยากลาออกแล้วคืนตำแหน่งให้เผ่าลาภ แต่เผ่าลาภปฏิเสธ เขาต้องการให้ทุกคนเข้าใจว่าเขาตายไปแล้วเพื่อที่เขาจะไปใช้ชีวิตเงียบสงบในบั้นปลาย ก่อนจะไปเผ่าลาภบอกความจริงกับหรั่งว่าที่จริงนั้นหรั่งเป็นลูกชายของเผด็จศึก พี่ชายของเขาที่ตายไป หรั่งไม่เข้าใจ เผ่าลาภบอกว่าถ้าหรั่งคือเด็กผู้ชายคนที่ห้อยสร้อยคอไวโอลินคนนั้น หรั่งก็คือลูกของเผด็จศึกแน่ ๆ เพราะก่อนเผด็จศึกจะตายเคยบอกกับเผ่าลาภไว้ว่าเขามีลูกชายหนึ่งคนที่มีร็อกเก็ตไวโอลินเป็นสัญลักษณ์ หรั่งทนรับความจริงไม่ได้เมื่อรู้ว่าเขากับแพรวาเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาหรั่งจึงหนีหน้าไป ทิ้งให้แพรวาดำเนินงานไปคนเดียว น้าเบิ้ม พ่อของโบ้มาบอกความจริงแก่หรั่งว่าที่จริงร็อกเก็ตนั้นไม่ได้เป็นของหรั่ง แต่เป็นของที่ติดตัวโบ้มาตั้งแต่เด็ก น้าเบิ้มเป็นเพียงคนที่เก็บโบ้มาเลี้ยงแล้วก็เป็นคนถอดสร้อยนั้นใส่ให้หรั่งเองโดยไม่คิดอะไร หรั่งจึงรู้ความจริงว่าโบ้ต่างหากที่เป็นลูกพี่ลูกน้องกับแพรวา หรั่งรีบไปหาแพรวาที่บริษัทขณะกำลังแถลงข่าวของบริษัทอยู่ หรั่งไปในเวลาที่มือปืนลึกลับกำลังเล็งปืนขึ้นยิงบารมีพอดี บารมีถูกยิงล้มลง หรั่งปราดเข้าไปถึงตัวมือปืนทำให้ลูกกระสุนพลาดไปถูกแพรวาหนึ่งนัด หรั่งวิ่งเข้าไปหาแพรวาแล้วบอกความจริงกับแพรวาว่าทั้งคู่ไม่ได้เป็นพี่น้องกัน แพรวาหมดสติไปในอ้อมแขนหรั่ง เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้บารมีเสียชีวิต ตำรวจสืบสวนจนรู้ว่าตะวันฉายเป็นคนสั่งฆ่าบารมีปิดปากเพราะบารมีรู้ว่าเขาเป็นคนบงการฆ่าเผ่าลาภ ตะวันฉายถูกจับดำเนินคดี ส่วนหรั่งนั้นเขาไปใช้ชีวิตอยู่ที่เก่าแห่งหนึ่งเพื่ออยู่ดูแลแพรวาที่อยู่ในระหว่างมาพักรักษาตัว หรั่งบอกแพรวาว่าเขาจะขอปกป้องดูแลแพรวาอย่างที่เขาเคยทำมาตั้งแต่เด็กและจะทำเช่นนี้ตลอดไป

กำลังแสดงผลลัพธ์ทั้งหมด 6 รายการ