เกมเสน่หา 2561

เกมเสน่หา (2561/2018) “เหมือนชนก”(ณฐพร เตมีรักษ์)เซอร์ไพร์สครอบครัวด้วยการเลื่อนวันเดินทางกลับมาประเทศไทยก่อนกำหนด หลังจากไปศึกษาต่อต่างประเทศเป็นเวลาหลายปี หญิงสาวใจจดจ่อกับการได้กลับบ้านมากกว่าสิ่งอื่นใด บ้าน..ซึ่งมีครอบครัวแสนอบอุ่น มี “ธวัช”(ชาตโยดม หิรัณยัษฐิติ) คุณพ่อสุดสมาร์ท “วิสาขา”(ธัญญาเรศ รามณรงค์) คุณแม่ที่เป็นทั้งสาวสังคมชื่อดัง และสุดยอดคุณแม่ไปพร้อมๆกัน เธอแทบอดใจรอเจอครอบครัวไม่ไหว โดยไม่รู้เลยว่า ครอบครัวสุดเพอร์เฟ็คของเธอนั้นได้เปลี่ยนไปแล้วอย่างสิ้นเชิง !!! เพราะธวัชและวิสาขา พ่อกับแม่ของเธอหย่าขาดจากกัน และธวัชกำลังจะแต่งงานกับ “พิมลแข” (อามีนา กูล)นางงามรุ่นลูก ส่วนวิสาขานั้นก็หันไปคบหาเด็กหนุ่มๆโดยไม่แคร์สังคม เหมือนชนกรับไม่ได้กับการกระทำของพ่อแม่ เธอแสดงฤทธิ์เดชต่างๆ นานา เพื่อให้พ่อล้มเลิกงานแต่งงานและทำให้แม่หวนกลับมาอยู่ที่บ้านให้ได้ แล้วยังพบว่า “ลัคนัย”(จิรายุ ตั้งศรีสุข) หลานชายไม่มีหัวนอนปลายเท้าของวิสาขากลับได้รับการนับหน้าถือตาจากคนในบ้าน จากชายหนุ่มบ้านนอก สุดกระจอกกลายมาเป็นผู้จัดการบริษัทกองทุนของธวัชแถมยังเป็นผู้ดูแลทรัพย์สินในครอบครัวของเธอ เหมือนชนกคิดว่าลัคนัยคงใช้เวลาช่วงที่เธอไม่อยู่ทำคะแนนเอาอกเอาใจพ่อแม่เพื่อหวังฮุบสมบัติไปจากเธอ เพราะแม้ธวัชกับวิสาขาจะเกลียดน้ำหน้ากันแค่ไหนแต่ก็กลับพร้อมใจกันปกป้องลัคนัยอย่างไม่ลืมหูลืมตา จนทำให้เหมือนชนกแปลกใจว่าลัคนัยมีดีอะไรนักหนาถึงได้รับความเอ็นดูจากพ่อแม่ของเธอเสียเหลือเกิน ลัคนัยรู้ตัวดีว่าเหมือนชนกรังเกียจและดูถูกที่เขามีกำพืดต่ำกว่าแล้วกดเขาไว้ราวกับเป็นคนใช้นับตั้งแต่ที่วิสาขารับเขาเข้ามาอุปการะ ลัคนัยพยายามเจียมตัวแต่กลับพบว่าเมื่อเวลาผ่านไป แม้เขาจะเติบโตเป็นชายหนุ่มมีอนาคตแต่ดูว่าเหมือนชนกกลับยิ่งชังน้ำหน้าหาว่าเขาทะเยอทะยานเกินตัว ความรู้สึกดีๆที่ลัคนัยมีมอบให้เหมือนชนกจึงต้องถูกเก็บงำไว้เพราะรู้ดีว่าไม่มีวันที่ดอกฟ้าอย่างเหมือนชนกจะโน้มกิ่งลงมาหาหมาวัดขี้เรื้อนอย่างเขา ลัคนัยไม่เพียงแต่ช่วยธวัชดูแลธุรกิจแต่เขายังช่วยจัดการเรื่องส่วนตัวให้ทั้งธวัชและวิสาขา ที่ตอนนี้ต่างก็ขอร้องให้ลัคนัยช่วยรับมือกับความเกรี้ยวกราดของเหมือนชนก ที่ดูจะไม่ยอมรับความจริงใดๆเลย เหมือนชนกซึ่งเกิดมาเพียบพร้อมทุกอย่างรับสภาพบ้านแตกไม่ได้ มีเพียงแต่ “ไพพรรณ”(ขวัญฤดี กลมกล่อม) น้าแม่บ้านที่รักและเข้าใจเหมือนชนกราวกับเป็นแม่แท้ๆ เพราะไพพรรณนั้นแอบหลงรักธวัชมาโดยตลอดตั้งแต่เมื่อครั้งที่วิสาขายังเป็นคุณผู้หญิงอยู่ในบ้าน ไพพรรณโอ๋เหมือนชนกจนทำให้ “เพ็ญพรรณี”(พิชชาภา พันธุมจิดา) ลูกสาวของไพพรรณที่เกิดขึ้นจากความไม่ตั้งใจกับฝรั่งคนหนึ่งรู้สึกอิจฉาและหมั่นไส้เหมือนชนกมาโดยตลอด ตอนนี้เพ็ญพรรณีโตขึ้นสวยสะพรั่ง เธอใช้หน้าตาและเรือนร่างเลื่อนสถานะไปเป็นเน็ตไอดอลมีชื่อและทำให้เธอมีกินมีใช้ไม่อายใครแต่ก็ยังไม่วายถูกเหมือนชนกมองอย่างสมเพช เพ็ญพรรณีตั้งใจจะเอาชนะเหมือนชนกให้ได้ทุกทางไม่เว้นแม้แต่การพยายามให้ท่าธวัชกับลัคนัยเพื่อจะได้เลื่อนชั้นจากลูกคนใช้ขึ้นมาเท่าเทียมกับเหมือนชนก พิมลแขมาหาลัคนัยเพื่อรื้อฟื้นความสัมพันธ์ลึกซึ้งที่ทั้งสองเคยคบกัน แต่ลัคนัยก็ไม่เคยแตะต้องพิมลแขอีก ตั้งแต่ที่เธอตัดสินใจรับปากแต่งงานกับธวัชเพื่อเงิน พิมลแขผิดหวังกลับไป ส่วนวิสาขาตัดสินใจจับคู่เหมือนชนกกับ “วงศ์เวศน์”(เศรฐพงศ์ เพียงพอ) ลูกชายนายพลใหญ่ เพราะหวังว่าถ้าเหมือนชนกมีแฟนเป็นตัวเป็นตนก็น่าจะเลิกคาดหวังกับพ่อแม่ซะที ธวัชไม่เห็นด้วยจึงสั่งให้ลัคนัยไปเช็คประวัติว่าที่ลูกเขยรายนี้อย่างละเอียด วิสาขารู้ทันว่าธวัชจะต้องส่งลัคนัยมากันท่า จึงได้วางแผนพาเหมือนชนกไปตากอากาศที่ทะเลเพื่อเปิดโอกาสให้ทั้งคู่ได้รู้จักกัน เพ็ญพรรณีได้ยินว่าเหมือนชนกกำลังถูกจับคู่ให้กับหนุ่มไฮโซอย่างวงศ์เวศน์ ก็คิดจะใช้เสน่ห์ของตนแย่งชิงวงศ์เวศน์ไปจากเหมือนชนก เพื่อให้เหมือนชนกรู้ว่านอกจากเรื่องชาติกำเนิดแล้ว เธอนั้นมีดีเหนือกว่าเหมือนชนกทุกอย่าง เหมือนชนกไม่มีทีท่าว่าจะชอบวงศ์เวศน์เลย วงศ์เวศน์ก็เหนื่อยหน่ายกับผู้หญิงที่จืดชืดเล่นตัวยิ้มยากอย่างเหมือนชนก เพ็ญพรรณีแกล้งตามมาที่บ้านพักตากอากาศ วงศ์เวศน์เห็นเพ็ญพรรณีก็หลงเสน่ห์ความเซ็กซี่เย้ายวนของเพ็ญพรรณีทันทีทันใด เพ็ญพรรณีปล่อยตัวให้กับวงศ์เวศน์อย่างรวดเร็วเพราะอยากให้เหมือนชนกต้องมากินของเหลือเดนต่อจากเธอ ลัคนัยที่ตามมาที่ทะเลด้วย อ่านแผนการของเพ็ญพรรณีออกทุกอย่าง จึงไปต่อว่าเพ็ญพรรณี เพ็ญพรรณีสวนกลับเรื่องที่ลัคนัยไม่เคยใยดีตัวเธอ เพราะลัคนัยก็ใฝ่สูงไม่เจียมตัว ริจะเล่นของสูงไม่ต่างจากตัวเธอนั่นแหละ เหมือนชนกเห็นท่าทางมีพิรุธระหว่างเพ็ญพรรณีกับลัคนัยก็เข้าใจว่าลัคนัยคงจะแอบมีสัมพันธ์กับเพ็ญพรรณีด้วย เหมือนชนกยิ่งรังเกียจลัคนัยหนักเข้าไปอีก ตลอดเวลาที่อยู่ที่ทะเล ลัคนัยพยายามกันท่าวงศ์เวศน์จนเหมือนชนกรู้สึกรำคาญ ที่จริงเธอเองก็ไม่ได้ชอบวงศ์เวศน์นักแต่เพื่อเอาชนะลัคนัย เธอจึงทำเป็นสนิทสนมกับวงศ์เวศน์จนลัคนัยเริ่มจะกลัวใจว่าเหมือนชนกอาจจะต้องกินน้ำใต้ศอกเพ็ญพรรณีเข้าจริงๆ วงศ์เวศน์ติดใจเพ็ญพรรณีจึงลักลอบไปพบกันและทิ้งให้เหมือนชนกอยู่คนเดียว เหมือนชนกไปว่ายน้ำเล่นในทะเลแล้วเกิดอุบัติเหตุ ลัคนัยลงไปช่วยเหมือนชนกไว้ได้ทัน ลัคนัยผายปอดช่วยชิวิต เขากอดปลอบขวัญเหมือนชนกที่ยังตัวสั่นเทาอยู่ ด้วยระยะที่ใกล้ชิดกันมาก ทำให้เหมือนชนกเริ่มกลัวใจตัวเอง จึงทำตรงข้ามกับความรู้สึก เธอต่อว่าลัคนัยฉวยโอกาส ลัคนัยอุ้มเหมือนชนกกลับบ้านพัก เหมือนชนกดิ้นจากอ้อมกอดของลัคนัยด้วยรังเกียจ จนทำให้ลัคนัยหมดความอดทน เขาจึงท้าว่าวันหนึ่งเขาจะทำให้เหมือนชนกเป็นฝ่ายสมยอมเขาทุกอย่าง เหมือนชนกอึ้งรับไม่ได้ที่ลัคนัยพูดจาลามกเชิงชู้สาวกับเธอตรงๆ เธอได้แต่ด่าทอและดูถูกว่าคนอย่างลัคนัยนั้นเหมาะกับผู้หญิงระดับเพ็ญพรรณีเท่านั้น เหมือนชนกคิดหนักกลัวว่าลัคนัยจะทวงบุญคุณเรื่องช่วยชีวิตจึงได้เอาเงินไปตอบแทนให้หายกัน ลัคนัยไม่ยอมให้เหมือนชนกดูถูกน้ำใจของเขา ท่าทางจริงจังของลัคนัยทำให้เหมือนชนกเริ่มกลัวใจว่าลัคนัยจะทำทุกทางเพื่อให้คำท้าของเขาเป็นจริง เหมือนชนกตัดสินใจที่จะแก้เกมเพื่อแก้เผ็ดลัคนัยที่ไม่เจียมตัวสะเออะขึ้นมาชอบเธอด้วยการแสร้งทำเป็นดีด้วยเพื่อหลอกใช้ให้เขาทุ่มเททำเพื่อเธอทุกอย่าง จากนั้นเธอก็จะแย่งชิงทุกอย่างที่เขาได้ไปจากพ่อแม่ของเธอกลับคืนมาเพื่อสั่งสอนให้เขารู้ว่าคนอย่างเขาไม่มีค่าคู่ควรจะได้อะไรทั้งสิ้น เหมือนชนกแกล้งสงบศึกและทำเป็นพูดดีกับลัคนัย ไม่จิกเรียกอย่างดูถูกแถมยังออดอ้อนให้เขาสอนงานให้ ลัคนัยรู้สึกแปลกใจกับปฏิกิริยาที่เปลี่ยนไปแต่ก็คิดว่าเป็นเพราะเหมือนชนกกำลังเหงาเพราะพ่อกับแม่กำลังหนีไปมีชีวิตใหม่ วิสาขาเตือนให้ลัคนัยระวังตัว แต่ลัคนัยก็ยังยอมญาติดีกับเหมือนชนก เพราะลึกๆแล้วเขาไม่รู้ว่าจะมีโอกาสที่เธอจะเห็นเขาอยู่ในสายตาแบบนี้อีกหรือไม่ เพ็ญพรรณีเพิ่งได้งานเล่นละครทีวีจึงเริ่มออกงานกับวงศ์เวศน์แล้วยังประกาศว่าเป็นญาติกับธวัช ทุกคนในบ้านเจ็บใจที่เพ็ญพรรณีเอาครอบครัวไปแอบอ้าง โดยเฉพาะวิสาขานั้นเจ็บใจกว่าที่เพ็ญพรรณีมาฉกตัวว่าที่ลูกเขยไป “คุณหญิงพัชรา”(สุธิตา เกตานนท์) แม่ของวงศ์เวศน์กลุ้มใจที่ลูกชายไปคว้าผู้หญิงไม่มีหัวนอนปลายเท้ามาควง ไพพรรณรู้สึกละอายใจกับการกระทำของลูกสาวโดยหารู้ไม่ว่าเหมือนชนกนั้นกลับไม่รู้สึกเสียใจเลยซักนิด เหมือนชนกกำลังสนุกที่สามารถจูงจมูกลัคนัยได้ทุกอย่าง ลัคนัยอ่านเกมส์ออกแต่ก็ยังยอมให้เหมือนชนกล้อเล่นกับความรู้สึกของเขาต่อไป มากที่สุดที่ลัคนัยทำได้ก็คือการแสร้งพูดความในใจให้เธอรับรู้ที่หลายครั้งก็ทำให้เหมือนชนกเกิดหวั่นไหวอย่างประหลาด ลัคนัยเคลิบเคลิ้มกับบ่วงเสน่หาที่เหมือนชนกตั้งใจล่อเพราะเขานั้นหลงรักเธอมาหลายปี ช่วงเวลาที่หลอกลวงของทั้งคู่ กลับเป็นช่วงเวลาที่ทั้งสองแอบสานต่อรินรดความรู้สึกลึกๆที่อบอุ่นละมุนละไมต่อกัน....โดยที่เหมือนชนกไม่รู้ตัวเลยว่าเธอเองก็กำลังติดบ่วงที่เธอดักลัคนัยไว้เช่นกัน ความสนิทสนมระหว่างเหมือนชนกกับลัคนัยทำให้ “มาลินี” (ดวงตา ตุงคะมณี)ยายแท้ๆของเหมือนชนกไม่พอใจ มาลินีคิดว่าลัคนัยน่าจะได้เชื้อความเหลวแหลกมาจากแม่จนคิดจะจับทั้งวิสาขาและเหมือนชนก ลัคนัยรู้ดีว่ามาลินีอับอายกับอดีตอันสกปรกของเขากับแม่ จนทำให้เธอพยายามกีดกันไม่ให้เขาเข้าใกล้กับเหมือนชนก แต่ลัคนัยก็ไม่ยอมรับปากจึงยิ่งทำให้มาลินีชังน้ำหน้าเขาขึ้นอีก การใกล้ชิดกันทำให้เหมือนชนกได้รู้ว่าลัคนัยนั้นมีฐานะการเงินในระดับดีมากจนไม่น่าเชื่อ และเป็นหนุ่มเนื้อหอมมีเสน่ห์ในวงสังคม แม้แต่ “วุฒา”(เปรมณัช สุวรรณานนท์) ลูกชาย “สมจินตนา”(ดารัณ ฐิตะกวิน) เจ้าของโรงแรมใหญ่ก็รู้จักลัคนัย เหมือนชนกยิ่งใกล้ชิดลัคนัย แต่ตัวเองกลับยิ่งหวั่นไหว เธอจึงทำเป็นสนใจวุฒาและขอให้ลัคนัยทำหน้าที่พ่อสื่อให้ ลัคนัยเจ็บปวด แต่ด้วยหน้าที่เขาก็ยินดีทำตามคำขอของเธอทุกอย่าง และเก็บความผิดหวังของตัวเองเอาไว้ เหมือนชนกเสนอตัวขอไปทำงานด้านประชาสัมพันธ์ให้กับโรงแรมของวุฒาเพื่อเรียนรู้งาน เมื่อได้มาทำงานเธอก็พบว่า “นุชนาถ”(ฉัตรฑริกา สิทธิพรม) หุ้นส่วนสาวสวยของโรงแรมสนิทสนมกับลัคนัยมากทีเดียว เธอเริ่มประหลาดใจที่เห็นสาวๆมาหลงเสน่ห์ผู้ชายอย่างลัคนัย เหมือนชนกเริ่มสงสัยความสัมพันธ์ระหว่างลัคนัยกับนุชนาถ แต่วุฒาบอกว่าเขาไม่เคยเห็นลัคนัยคบกับผู้หญิงคนไหนนอกจากพิมลแขเลย เหมือนชนกตกใจเมื่อได้รู้ว่าลัคนัยเคยคบหากับว่าที่เจ้าสาวของพ่อมาก่อน !! เหมือนชนกผิดหวังที่เกือบจะคิดว่าลัคนัยเป็นคนดี แต่จริงๆแล้วลัคนัยอาจจะร่วมมือกับว่าที่แม่เลี้ยงเพื่อมาปอกลอกสมบัติของพ่อ เหมือนชนกจึงตั้งใจจะเปิดโปงความสัมพันธ์ลับๆระหว่างลัคนัยกับพิมลแข เธอรีบไปเตือนให้ธวัชระวังพิมลแข ธวัชคิดว่าเหมือนชนกคงจะอิจฉากลัวเขาจะไปหลงเมียเด็กมากกว่าจึงได้หาเรื่องมาใส่ร้าย ลัคนัยตกใจที่เหมือนชนกรู้เรื่องนี้แต่เขาก็ยังต้องเป็นสุภาพบุรุษปกป้องชื่อเสียงของพิมลแขที่กำลังจะแต่งงานกับธวัช เหมือนชนกผิดหวังในตัวลัคนัยจึงได้กลับไปตั้งตัวเป็นศัตรูกับเขาเหมือนเก่าพร้อมกับยืนยันว่าจะแฉว่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่ให้ได้ ลัคนัยได้รู้ว่าความรู้สึกดีๆที่ผ่านมาระหว่างเขากับเหมือนชนกเป็นเพียงแผนที่เธออยากจะเอาไว้หัวเราะเยาะความโง่ของเขาลับหลัง ส่วนวิสาขากลัวว่าธวัชจะหลงเมียเด็กจนลืมลูกสาวจึงได้ย้ายกลับเข้ามาอยู่ที่ตึกเล็กด้วย และวิสาขายังจงใจพาผู้ชายคนใหม่เข้ามาในวันแต่งงานเพื่อหักหน้าธวัช เหมือนชนกเลือกที่จะแก้แค้นลัคนัยทางอ้อม โดยเข้าไปสานสัมพันธ์กับวุฒายิ่งขึ้น ลัคนัยเจ็บปวดกับเกมบทใหม่ของเหมือนชนก ถ้าวุฒาเป็นคนดีเขาก็ยินยอมที่จะหลีกทาง แต่แล้วเขากลับได้รู้ว่าวุฒาแอบมีสัมพันธ์ลับๆกับเพ็ญพรรณี เนื่องจากเพ็ญพรรณีเริ่มเบื่อวงศ์เวศน์ และอยากเอาชนะเหมือนชนก จึงตามมาแย่งวุฒา ลัคนัยเตือนเหมือนชนกในเรื่องนี้ แต่เหมือนชนกไม่ฟัง ยังคงเล่นกับไฟอยู่ เพ็ญพรรณีพบว่าวุฒานั้นเชี่ยวกว่าวงศ์เวศน์มาก เธอรู้ดีว่าคงยากที่จะจับวุฒาได้อยู่หมัด จึงได้แค่เสนอตัวกับวุฒาว่าจะช่วยเขารวบหัวรวบหางเหมือนชนกให้ได้ และเมื่อถึงเวลานั้นแม้จะเป็นเมียออกหน้าออกตาของวุฒาไม่ได้ ขอแค่เป็นเมียน้อยให้เป็นหนามยอกอกของเหมือนชนกแค่นี้เพ็ญพรรณีก็พอใจมากแล้ว ในคืนวันแต่งงานของธวัช วุฒาวางแผนจะหลอกพาเหมือนชนกที่จิตใจอ่อนแอไปอยู่กันตามลำพัง เพื่อทำให้เธอตกเป็นของเขา ลัคนัยที่เป็นห่วงติดตามไปช่วยเหมือนชนกเอาไว้ได้ ระหว่างที่อุ้มพาเหมือนชนกที่หมดสติออกมา เพ็ญพรรณีที่ตามนักข่าวมาจะแฉความเหลวแหลกของเหมือนชนก กลายเป็นได้ภาพของลัคนัยอุ้มเหมือนชนกออกมาแทน เกิดเป็นข่าวฉาวโฉ่ขึ้นในวันต่อมา เมื่อธวัชและวิสาขาได้ฟังความจริง รู้ว่านี่คือบทเรียนของเหมือนชนกที่ริเล่นกับไฟอย่างวุฒา จนไฟย้อนมาไหม้ตัว ลัคนัยขออาสากู้ชื่อเสียงของเหมือนชนกด้วยการแต่งงาน ธวัชเห็นด้วยว่าลัคนัยน่าจะเป็นคนที่ดูแลเหมือนชนกได้ดี แต่วิสาขาเป็นห่วงกลัวลัคนัยจะต้องเสียใจ เพราะความดื้อดึงหัวแข็งของเหมือนชนก ลัคนัยยืนยันว่ารัก และอยากดูแลปกป้องเหมือนชนก และเขาจะทำให้เธอรักเขาให้ได้ ธวัชกับวิสาขาเห็นดีด้วย เปิดทางให้ลัคนัยได้ลงเอยกับเหมือนชนก มาลินีกันท่าเต็มที่เพราะคิดว่าลัคนัยตั้งใจจับเหมือนชนกเพื่อยกฐานะ แต่ลัคนัยยังคงยืนกรานกับมาลินีที่จะแต่งงานให้ได้ มาลินีขุดชาติกำเนิดของลัคนัยที่เป็นมารหัวขนที่เกิดมาประจานความเหลวแหลกของ”นิ่มนวล”(มยุริญ ผ่องผุดพันธ์)แม่ของลัคนัย ขนาดแม่ของเขายังพยายามจะกำจัดไม่ให้เขาได้เกิดมาด้วยซ้ำ ลัคนัยชินชากับคำดูถูก วิสาขาทนให้มาลินีเอาความผิดหวังที่มีต่อแม่ของลัคนัยไปลงกับลัคนัยไม่ได้ จึงได้มาเตือนให้มาลินีเลิกยุ่งกับชีวิตของคนอื่นเสียที แม้เหมือนชนกจะไม่อยากแต่งงานกับลัคนัย แต่เหตุการณ์ทุกอย่างบีบบังคับ เธอจึงจำใจต้องแต่งงานกับลัคนัย และมองว่าการแต่งงานครั้งนี้เป็นเกม ซึ่งเหมือนชนกเป็นคนคุมเกม ที่เธอต้องการเอาชนะทุกคน ส่วนลัคนัยแม้จะรู้ว่าเหมือนชนกมองการแต่งงานเป็นเกม แต่เขาก็อยากจะชนะใจเธอให้ได้ เกมความรัก เกมเสน่หาครั้งนี้จะลงเอยอย่างไร ก็ต้องติดตามชม...

คลื่นชีวิต 2560

คลื่นชีวิต (2560/2017) “จีราวัจน์” (อุรัสยา เสปอร์บันด์)ดาราสาวที่เข้าวงการและมีชื่อเสียงด้วยฝีมือการแสดงและข่าวฉาวกับ หนุ่มทั้งนอกและในวงการ รวมทั้งนิสัยพูดตรง ถ้าไม่ผิด ก็พร้อมกล้าท้าชนโดยไม่สนใจหน้าไหน จนโดนใครต่อใครตราหน้าว่าจีราวัจน์เป็นผู้หญิงแรง กร้านโลก และง่าย ! แต่ใครจะกล่าวว่าเธอยังไง ไม่ทำให้จีราวัจน์เจ็บเท่ากับถูก "คุณหญิงจริยา"(มยุริญ ผ่องผุดพันธ์) แม่แท้ๆที่ไม่เคยดูแลเธอ ปล่อยเธอเติบโตตามมีตามเกิด เชื่อว่าเธอเป็นผู้หญิงใจแตก ! แต่นั่นยังไม่ทำให้เธอหมดศรัทธากับคำว่า "แม่" ของจริยา เท่ากับคืนที่จีราวัจน์โดน "สิทธา" (ธีรพงศ์ เหลียวรักวงศ์)เจ้าของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ สามีคนใหม่ของจริยา ผู้กระหาย อำนาจ เงินทองและ โลกีย์ สั่งลูกน้องวางยานอนหลับเพื่อหมายข่มขืนจีราวัจน์ แต่จีราวัจน์ก็หนีมาได้ และเมื่อจีราวัจน์บอกเรื่องนี้กับจริยา แทนที่จริยาจะเข้า ข้างปกป้องเธอ แต่จริยากลับเข้าข้าง สิทธา ! จริยานั้นรู้สันดานของสิทธาดี แต่เธอยังทำอะไรสิทธาไม่ได้ เพราะสิทธาคือคนที่ให้เงิน และอำนาจกับเธอ สิทธาคือคนที่ทำให้ผู้หญิงไร้การศึกษา มีชีวิตอยู่ในสลัม มีดีที่มีความสวย ติดตัว จึงเร่ขายความสวยให้ความสำราญผู้ชายอย่างเธอ ได้โลดแล่นขึ้นมาเป็นคุณหญิงใจบุญ เบอร์หนึ่งของสังคม ที่ใครๆต่อใครนับหน้าถือตา จริยารู้ดีว่าจีราวัจน์มอง เธอเป็นผู้หญิงเห็น แก่ตัว ทะเยอทะยาน หน้าเงิน แต่ที่จริยาดิ้นรนถีบตัวเองขึ้นมาตรงนี้ ก็เพื่อให้ชีวิตเธอ และจีราวัจน์สบาย แม้วันนี้จีราวัจน์เกลียดเธอ แต่จริยาเชื่อว่าวันหนึ่ง จีราวัจน์ต้องเข้าใจ สำหรับจีราวัจน์ ..สิ่งที่เธอต้องการ ไม่ใช่ชีวิตดีงามบนหน้าหนังสือพิมพ์อย่างที่ จริยาต้องการ แต่สิ่งที่เธอต้องการคือ "ความรัก" ปมเดียวในหัวใจของจีราวัจน์ที่เธอโหยหา แต่เธอไม่เคยได้ ! โดยเฉพาะวันที่เกิดเหตุการณ์นั้น ..ถึงแม้จีราวัจน์จะหนีจากเงื้อมมือสิทธามาได้ แต่เพราะฤทธิ์ยานอนหลับ ทำให้ระหว่างที่จีราวัจน์ขับรถหนีอย่างสุดชีวิต ต้องกลายเป็นฆาตกร โดยไม่ได้ตั้งใจ เมื่อรถของจีราวัจน์ชนร่างของ "ติวดี" (พริมา พันธ์ุเจริญ)เต็มๆ จนติวดีไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล ในเวลาต่อมา !! แต่เพราะฤทธิ์ยานอนหลับทำให้จีราวัจน์หลับและเบลอจนไม่รู้เรื่องติวดี ภายใต้การดูแล ของ "ดารากา" (ณัฏฐณิชา ดังวัธนาวณิชย์)เพื่อนสนิทตั้งแต่มัธยม ซึ่งเป็นคนเดียวที่จีราวัจน์ติดต่อพูดคุยด้วยตลอด พอจีราวัจน์กลับจากเมืองนอก จีราวัจน์จึงขอให้ดารากามาอยู่ด้วยกัน ดารากาเต็มใจอยู่กับ จีราวัจน์ เพราะความรักและความสนิทที่ทั้งสองมีด้วยกันมาเกือบ 20 ปี ทำให้ดาราการู้ดีว่า จีราวัจน์ หว้าเหว่ แสนเหงา ต้องการใครสักคนเป็นเพื่อน และกว่าจีราวัจน์จะรู้ว่าติวดีเสียชีวิต ก็หลังจากที่ฤทธิ์ยานอนหลับสร่าง เมื่อจีราวัจน์ รู้สึกตัว คนกล้าทำกล้ารับอย่างเธอ พร้อมไปรับความผิดกับตำรวจ แต่มันสายเกินไป ..เพราะ “สุกี้” (เอกชัย เอื้อสังคมเศรษฐ์)นักปั้นดารามือทอง ผู้เป็นทั้งคนชักนำเธอเข้าวงการและเป็นผู้จัดการดูแลเธอ ได้จัดการ ส่งสเตฟาน (คิง ก่อนบ่าย)คนขับรถคนสนิทประจำตัว รับสารภาพผิดกับตำรวจว่าเป็นคนขับรถชนติวดี แทนเธอ ! โดยสุกี้ยอมเสี่ยงโกหกกับสังคมเพื่อแลกกับอนาคตทางการแสดงของจีราวัจน์ที่กำลังรุ่งเรือง สุกี้คิดว่าการให้สเตฟานรับผิดแทนจีราวัจน์ จะทำให้เรื่องทุกอย่างจบง่ายๆ แต่สุกี้คิดผิด ..เมื่อระหว่างที่ติวดีโดนจีราวัจน์ขับรถชน ติวดีกำลังคุยโทรศัพท์มือถือกับ “สาธิต”(ปริญ สุภารัตน์) แฟนหนุ่ม ผู้เป็นทนายตงฉิน เชื่อว่าใครทำผิดต้องได้รับโทษ นั่นคือความยุติธรรม! โดยสาธิตเป็นคนเดียวที่ ได้ยินเสียงของจีราวัจน์พูดขอโทษติวดี นั่นทำให้เขาปักใจว่าคนที่ขับรถชนคนรัก ไม่ใช่สเตฟานแต่เป็นจีราวัจน์ ! สาธิตทำทุกวิถีทางพิสูจน์ให้คนทั้งสังคมเห็นว่าฆาตกรตัวจริงเป็นใคร โดยมี “พ.ต.ต. พิเชษ” เพื่อนตำรวจที่รู้จักในระหว่างร่วมงาน เป็นคนช่วยเหลือดูแลคดี โดยสาธิตมั่นใจว่า เขาสามารถลากตัวจีราวัจน์รับโทษอย่างที่เขาเคยส่งคนผิดเข้าคุกมาตลอดอาชีพทนาย แต่ครั้งนี้ ! ..สาธิตกลับเจอว่าความจริง พ่ายแพ้อำนาจเงิน ! เมื่อหลักฐานทุกอย่างที่จะมัดตัวจีราวัจน์ได้ มันหายไปหมด ! สาธิตไม่ยอมแพ้ที่จะหาทางลงโทษจีราวัจน์ แต่ทุกอย่างต้องหยุดลงเมื่อ “นวดี”(ขวัญฤดี กลมกล่อม)แม่ของ ติวดี แม่ครูของเหล่าเด็กกำพร้า เป็นคนขอร้องให้สาธิตหยุดอาฆาตแค้น นวดีไม่อยากให้สาธิต ต้องจมอยู่กับความทุกข์ ที่เกิดจากความโกรธแค้นอีก รวมทั้ง “พัฒนะ”(สันติสุข พรหมศิริ) เจ้าของบริษัทผลิตละคร ที่จีราวัจน์กำลัง แสดงละครอยู่ พัฒนะเป็นเพื่อนของพ่อของสาธิต และเปรียบเหมือนเป็น พ่อบุญธรรมของสาธิต ในเมื่อผู้ใหญ่สองคนที่เขารักขอร้องให้เขาหยุด แม้สาธิตไม่ต้องการหยุดฉีกหน้ากากของ จีราวัจน์ แต่เขาต้องหยุด ! ..แต่ !! ..ใครจะรู้ แม้สาธิตจะหยุดดำเนินคดีทางกฎหมายกับจีราวัจน์ แต่เขาไม่หยุดตามจองล้างจองผลาญจีราวัจน์ โดยสาธิตประกาศ “ในเมื่อกฎหมายทำโทษ จีราวัจน์ไม่ได้ เขาจะใช้กฎแห่งกรรมทำโทษจีราวัจน์เอง !!” ด้านจีราวัจน์นั้นอยากเหลือเกินที่จะบอกสาธิตว่าเธอพร้อมรับผิด แต่เธอทำไม่ได้เพราะ เธอต้องแบกความเป็นความตายของคนที่ร่วมโกหกช่วยเธออยู่ เธอเลือกไถ่โทษด้วยการดูแลนวดี แทนติวดีห่างๆ โดยมี “ชยันต์”(หลุยส์ สก๊อตต์)ผู้กำกับหนุ่มติสต์ชื่อดัง ซึ่งเคยเป็นรุ่นพี่สมัยมัธยมของจีราวัจน์ ผู้รักและหวังดีกับจีราวัจน์เสมอมา เพราะชยันต์รู้ว่าผู้หญิงที่แข็งกระด้างภายนอก แต่ภายในช่าง แสนอ่อนแอ เขาจึงคอยช่วยเหลือส่งข่าวเรื่องนวดี เพราะชยันต์เป็นเพื่อนกับสาธิต ทำให้ชยันต์ รับรู้เรื่องราวของนวดีจากสาธิตโดยตรง แต่ความช่วยเหลือของชยันต์ กลับยิ่งสร้างปัญหาให้จีราวัจน์ เมื่อ “ปียากุล”(จรินทร์พร จุนเกียรติ) ลูกสาวคนเดียวของพัฒนะ ผู้ควบคุมดูแลงานถ่ายละครภายในบริษัทของพัฒนะ และเป็นภรรยา ซูเปอร์โครตขี้หึงของชยันต์ ได้ยินข่าวว่าเธอสนิทกับชยันต์มาก ทำให้ปียากุลใช้อำนาจหน้าที่ การงานในมือเธอกลั่นแกล้งจีราวัจน์ แต่เพราะจีราวัจน์กำลังเป็นดาราทำเงินของพัฒนะ ทำให้พัฒนะออกตัวปกป้องจีราวัจน์ ทำให้ปียากุลไม่พอใจมาก ปียากุลพาลอารมณ์ไประบายกับสาธิต ซึ่งเธอนับถือเหมือนพี่ชาย ทำให้สาธิต รับรู้ว่า ..นอกจากจีราวัจน์จะเป็นคนตลบตะแลงสังคมว่าตัวเองไม่ใช่ฆาตกรแล้ว จีราวัจน์ยัง เป็นผู้หญิงรักสนุก คั่วผู้ชายไม่ซ้ำหน้า แย่งผัวชาวบ้านไปกกได้อย่างหน้าไม่อาย !! ยิ่งวันที่สาธิตพบจีราวัจน์สนิทสนมกับ “เจตต์”(มาสุ จรรยางค์กุลดี) วิศวกรปิโตรเลียม ผู้มีชีวิตอยู่กลางทะเล แต่เมื่อกลับมาเยี่ยมบ้าน เขากลับขับรถชนจีราวัจน์ จนทำให้เขาหลงรักนางเอกสาว ซึ่งมันอาจไม่ใช่เรื่องที่สาธิตจะเอามาเป็นข้อเกลียดชังจีราวัจน์ ถ้าสาธิตไม่บังเอิญรู้เรื่องว่าดารากา เพื่อนรักของจีราวัจน์นั้นแอบชอบเจตต์อยู่จาก “เจนจิรา”(นลินทิพย์ สกุลอ่องอำไพ) น้องสาวของเจตต์ เจ้าของโรงเรียนที่ ดารากาเป็นครูสอน ซึ่งสาธิตได้รู้จักกับเจนจิราโดยบังเอิญ และเพราะเจนจิราเป็นคนคุยสนุก มองโลกในแง่ดี เหมือนติวดี ทำให้สาธิตสนุกที่ได้อยู่ร่วมกับเจนจิรา โดยสาธิตไม่รู้ว่าความใกล้ชิดที่เขามอบให้ เจนจิรานั้น ทำให้เจนจิราแอบชอบสาธิต ! ชีวิตของจีราวัจน์เจอปัญหาจากสาธิต ปียากุล สิทธา ยังไม่พอ ..ในเส้นทางสายงาน บันเทิง เธอยังต้องเจอ "พิม"(โชติกา วงศ์วิลาศ) นางเอกจอมสร้างภาพว่าเป็นนางเอกแสนซื่อ แต่แท้จริงปากตลาด ทะเยอทะยานใฝ่สูง เคยเป็นอดีตดาราที่สุกี้ปั้นมากับมือ แต่พอดังแล้ว ก็แยกตัวออกจากสุกี้ ทำให้สุกี้ไม่พอใจพิม มาก หาว่าพิมเนรคุณ แต่พิมไม่แคร์ พิมคิดว่าสุกี้ได้เงินจากค่าตัวเธอ เยอะแล้ว ไม่ถือว่ามีบุญคุณ ต่อกัน โดยตอนพิมออก พิมเอา "ลูกน้ำ"(ศรีพรรณ ชื่นชมบูรณ์) อดีตเลขาของสุกี้มาด้วย โดยพิมคิดว่าลูกน้ำทำงานกับ สุกี้มานาน จะมีconnectionกับเอเจนซี่จะผลักดันให้ความฝันก้าวสู่ การทำงานร่วมกับต่างชาติ ของเธอสมหวัง แต่เปล่าเลย ! ...ลูกน้ำไม่รู้จักใครเลย เป็นแค่คนปากมาก อวดฉลาด แต่สมองกลวง ทำให้พิมเลี้ยงลูกน้ำไว้ เป็นกันชนเวลาปะทะกับสุกี้ และเป็นคนหิ้วสัมภาระ รองมือรองเท้าตัวเองเท่านั้น ! และการโด่งดังของจีราวัจน์ ทำให้ชื่อเสียงที่กำลังลดฮวบของพิม ยิ่งลดลงไปอีก จากนางเอกเบอร์หนึ่ง แทบจะเล่นเป็นนางรอง คนทะเยอทะยานอย่างพิมไม่ยอมรับสภาพ อย่างนั้นง่ายๆ เธอจึงยอมทำทุกอย่างกำจัดจีราวัจน์ไปจากเส้นทางของเธอ เพื่อให้เธอกลับมา เป็นอันดับหนึ่งอีกครั้ง รวมทั้งหาลู่ทางเพื่อโกอินเตอร์ แม้แต่ยอมเอาตัวเข้าไปเป็นเมียน้อย ของสิทธา ! เพื่อใช้อำนาจและเงินของสิทธา ปูทางโกอินเตอร์ให้ได้ ! หลายครั้งที่จีราวัจน์เหนื่อยกับการสู้รบกับความเกลียดชังที่ประเดประดังเข้ามาเหมือนคลื่นกระทบหาดทราย แต่เธอก็ยังพอมีหลักให้ยึดอีกคน นั่นคือ "ครูอารี" (อนันต์ บุนนาค)ครูสอนร้องเพลงตั้งแต่ สมัยจีราวัจน์เรียนมัธยม ครูอารีคือคนที่เอื้ออารีข้าวและขนม เวลาที่จริยาออกไปขายตัว ปล่อยให้จีราวัจน์อยู่กับ "ยายจันทร์" (ทัศน์วรรณ เสนีย์วงศ์ฯ)ยายข้างบ้านที่มีอาชีพขายขนมจีน ที่เคยเลี้ยงดูจีราวัจน์ พอยายจันทร์ออกไปตลาด จีราวัจน์ก็วิ่งเล่นมาบ้านครู ที่นี่เหมือนอีกโลกของจีราวัจน์ เป็นโลกที่สงบ ไม่ใช่โลกมายาที่เธอต้องยิ้มแม้ว่าในหัวใจร้องไห้ และการมาบ้านครูอารีครั้งนี้ ทำให้เธอรู้ว่าบ้านสวนถัดไปเป็นบ้านของนวดี จีราวัจน์หวังจะแอบไปดูความเป็นอยู่ของนวดีเพื่อจะช่วยเหลือ นั่นทำให้เธอเจอสาธิต! จีราวัจน์ไม่อยากสู้รบกับสาธิตเพราะเธอรู้ตัวดีว่าผิด แต่สาธิตเหมือนเสือที่จ้องตะครุบเหยื่อ เมื่อเหยื่อเดินเข้ามาหา มีหรือที่เขาจะปล่อย .. สาธิตจงใจพูดจาแดกดันว่าเธอเป็นคนขี้ขลาด ทำผิดแล้วไม่กล้ารับผิด สาธิตเดินต้อนจีราวัจน์จนไปถึงริมคลอง นั่นเป็นครั้งแรกที่สาธิตเห็น ความกลัวในแววตาของจีราวัจน์ ทำให้สาธิตรู้ว่าจีราวัจน์ว่ายน้ำไม่เป็น ! แต่แทนที่สาธิต จะปรานีปล่อยเธอไป สาธิตกลับเดินกดดันจนจีราวัจน์ตกน้ำ !!! แม้ว่าจีราวัจน์ว่ายน้ำไม่เป็น แต่เธอไม่แม้แต่ตะโกนร้องขอความช่วยเหลือจากใคร แม้แต่สาธิตที่ยืนมองเธอตะเกียกตะกายในน้ำอยู่ โดยสาธิตยื่นข้อเสนอให้เธออ้อนวอนร้องขอชีวิต แล้วเขาจะยอมช่วย แต่จีราวัจน์ไม่ยอมเอ่ยปาก !! เธอเกือบตาย ดีที่มีชาวบ้านมาช่วยไว้ แต่ยิ่งสาธิตอยากแก้แค้นจีราวัจน์มากเท่าไหร่ การได้ใกล้ชิดจีราวัจน์ ความดีของเธอ กลับทำให้สาธิตใจอ่อน และเริ่มแพ้ใจตัวเอง จีราวัจน์ช่วยชีวิตเขาหลายครั้ง โดยไม่กลัวความตาย สาธิตเริ่มลังเลใจที่จะแก้แค้นจีราวัจน์ ด้านจีราวัจน์ก็ได้รับรู้มุมอบอุ่นที่เกิดจากความเอาใจใส่ ดูแลด้วยความละเอียดอ่อนของ สาธิต ซึ่งเป็นความรู้สึกที่เธอไม่เคยได้จากใคร เป็นความรู้สึกที่เธอโหยหา จนทำให้จีราวัจน์แอบ เผลอใจให้สาธิตโดยไม่รู้ตัว สองคนต่างมีความห่วงใยที่ไม่กล้าแสดงออกต่อกัน ขณะเดียวกันจีราวัจน์พยายามจะสานต่อความรักของชยันต์ และ ปียากุล ให้เข้าใจกัน แต่ทิฐิและความดื้อรั้นหึงหวงของปียากุล ทำให้ยิ่งทะเลาะกันไปยกใหญ่ สาธิตก็ไม่เชื่อใจจีราวัจน์เลย ยิ่งเมื่อดารากา เพื่อนสนิทของจีราวัจน์หนีจากไป เพราะแอบหลงรักเจตต์ และเข้าใจผิดว่าจีราวัจน์รักกับเจตต์ ก็ทำให้จีราวัจน์เสียใจว่าเพื่อนรักคนเดียวของเธอไม่เข้าใจ และหนีจากไป แต่แล้วสิทธาก็ทำให้สาธิตเข้าใจจีราวัจน์เป็นผู้หญิงเลวร้าย พร้อมทั้งเอาหลักฐานที่จีราวัจน์ขับรถชนติวดีไปให้สาธิต เรื่องนี้รู้ถึงหูจริยา จริยารีบไปหาสาธิตเพื่อเจรจาพร้อมเสนอ เงินให้ ความเจ็บปวดในใจของสาธิต ทำให้สาธิตบอกจริยาไปว่า "เขาจะยอมทำลายหลักฐาน ก็ต่อเมื่อจีราวัจน์เอาตัวมาแลก !!!!" เมื่อจีราวัจน์รู้เรื่องข้อแลก เปลี่ยนของสาธิตแล้ว เธอจะทำเช่นไร จะยอมทำตาม ข้อแลกเปลี่ยนของสาธิตหรือไม่ ชยันต์และปียากุลจะกลับมาคืนดีกันไหม เจตต์กับดารากาจะสมหวังกันหรือเปล่า และหัวใจรักของแม่ที่จริยากดเก็บไว้ ไม่เคยแสดงออกให้ลูกเห็น จริยาจะเลือก ปกป้องสิทธา เกียรติยศ ชื่อเสียงของตัวเองหรือปกป้องลูก สุดท้ายเส้นทางความรักระหว่างสาธิตกับจีราวัจน์ที่มีความแค้นขวางกั้นจะมีวันเกิดขึ้นได้หรือไม่ ต้องติดตามชมใน "คลื่นชีวิต”...

ตามรักคืนใจ 2558

ตามรักคืนใจ (2558/2015) นารา วรรณพานิช หรือ หนูนา หลานสาวของนายวรรณ วรรณพาณิช ประธานธนาคารอันดับต้นๆ ของประเทศ ซึ่งเป็นที่รู้จักทั้งในวงการธุรกิจการเงินและสังคมว่าเป็นมหาเศรษฐีผู้มั่งคั่ง เพราะฐานะที่ร่ำรวยทำให้นาราถูกเลี้ยงอย่างคุณหนู ไม่เคยหยิบจับอะไร และการใช้ชีวิตของเธอก็อยู่ในกรอบ มีระเบียบแบบแผนตามที่นายวรรณผู้เป็นตาวางไว้ คนภายนอกอาจอิจฉาที่นาราเป็นหลานสาวนายธนาคาร ได้รับการเลี้ยงดูอย่างดี ได้เรียนในสถาบันการศึกษาที่ดี แต่ภายในตระกูลวรรณพานิช นาราเปรียบเสมือนลูกเป็ดขี้เหร่ตระกูล ไม่ใช่หงส์อย่างคนอื่น โดยมีลุงเอก พี่ชายของแม่ และป้าสะใภ้ทั้งสองที่เอาแต่ตั้งแง่รังเกียจนารา ถึงแม้เลือดในตัวครึ่งหนึ่งจะเป็นของวรรณพานิช แต่เลือดอีกครึ่งหนึ่งกลับเป็นของชาวสวนที่ไม่มีหัวนอนปลายเท้า!

เมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน รัศมีแม่ของนาราซึ่งเป็นลูกสาวคนสุดท้องของนายวรรณ ได้พบรักกับรามหนุ่มชาวสวน ตอนนั้นรัศมีวาดฝันความรักของตัวเองเหมือนนิยายที่จะต้องแฮปปี้เอนดิ้ง คิดว่าการได้พบผู้ชายหน้าตาดี เป็นชาวสวนแสนเท่จะทำให้เธอมีความสุข รัศมีตกหลุมรักรามตั้งแต่แรกเห็น ทว่ารามเจียมเนื้อเจียมตัวไม่กล้าเด็ดดอกฟ้า แต่ดอกฟ้าอย่างรัศมีกลับโน้มลงมาหา พยายามโปรยเสน่ห์ทำให้รามตกหลุมรักในที่สุด ความรักของรามและรัศมีสุกงอมในเวลารวดเร็วท่ามกลางความไม่เห็นด้วยของคนในตระกูลวรรณพานิช โดยเฉพาะนายวรรณ ได้ห้ามลูกสาวอย่างเด็ดขาดแต่เมื่อคนอย่างรัศมีต้องการอะไรก็ไม่มีใครห้ามเธอได้ ในวันที่รัศมีขนกระเป๋าออกจากบ้านเพื่อไปอยู่กับราม วรรณประกาศว่าถ้ารัศมีก้าวออกจากบ้านก็ห้ามกลับมาเหยียบที่บ้านอีก ด้วยความหลงที่บังตาทำให้รัศมีก้าวออกไปจากบ้านหลังนั้นโดยไม่หันกลับมา และไปใช้ชีวิตอยู่กับราม ชีวิตคู่ช่างแรกของรามและรัศมีเต็มไปด้วยความสุข รามทำทุกอย่างเพื่อให้รัศมีมีความสุข ทั้งสองมีลูกสาวด้วยกันหนึ่งคน นั่นก็คือนารา ทว่าชีวิตคู่คือความจริง เมื่อรัศมีผู้ใช้ชีวิตแบบคุณหนูมาอยู่อย่างลำบาก ส่วนรามก็ต้องทำงานหนักเพื่อหาเงินมาปรนเปรอความฟุ่มเฟือยของรัศมี ทำให้ทั้งสองทะเลาะกันมากขึ้น จากที่เคยพอใจชีวิตแบบชาวสวน รัศมีก็คิดถึงแสงสี เริ่มไม่พอใจกับชีวิตแสนธรรมดาอย่างที่รามชอบ และเป็นช่วงเดียวกับที่สวนของรามมีปัญหาทำให้ขาดทุนไม่มีรายได้ก้อนใหญ่เข้าประจวบเหมาะกับแม่ของรามที่ดูแลบ้านก็เสียชีวิต รัศมีที่ไม่เคยแตะงานบ้าง ก็ไม่คิดที่จะทำหน้าที่นั้น จนพ่อของรามทนไม่ไหวกับนิสัยของลูกสะใภ้ จึงบวชเป็นพระ ปล่อยให้ราม นาราและรัศมีอยู่กันสามคนพ่อแม่ลูก จากที่เคยอยู่สบาย รัศมีก็เริ่มรู้สึกว่าชีวิตของเธอลำบากเหลือเกิน เด็กหญิงนาราใช้ชีวิตแบบเด็กในสวนในไร่ทั่วไป มองเห็นพ่อแม่ทะเลาะกันเป็นประจำ หน้าที่การดูแลนาราก็เป็นของราม รัศมีไม่เคยหยิบจับอะไรเลย เด็กหญิงนารามีความสุขตามประสาเด็ก แต่แล้วความสุขของนาราก็หายไปเมื่ออายุห้าขวบ วันหนึ่งรัศมีบอกกับนาราว่าพ่อของเธอได้ตายไปแล้ว ทำให้นาราเสียใจอย่างหนัก รัศมีทิ้งบ้านสวนและพานารากลับมาที่บ้านวรรณพานิช ตอนแรกวรรณไม่ยอมรับนารา แต่เพราะนารามีใบหน้าที่คล้ายกับภรรยาที่เสียไปทำให้วรรณค่อยๆ ลดทิฐิและยอมให้นาราเข้ามาอยู่ในบ้าน โดยวรรณยื่นข้อแม้ว่าหลานสาวคนนี้เขาจะเลี้ยงด้วยมือตัวเองซึ่งรัศมีที่ชอบชีวิตที่มีอิสระ ตกลงอย่างง่ายดาย และวรรณก็ทำให้นาราได้ใช้นามสกุลวรรณพานิชแทนนามสกุลของราม เหตุผลที่วรรณอยากเลี้ยงหลานคนนี้ด้วยตัวเองก็เพราะ วรรณไม่อยากให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยแบบลูกสาว ที่เอาแต่ใจตัวเอง ทำอะไรไม่ยั้งคิดจนสร้างเรื่องเดือดร้อนเป็นประจำ วรรณเลี้ยงดูนาราให้อยู่ในกรอบ มีระเบียบ และกระทำทุกอย่างตามสิ่งที่ดีและสมควรทำ ซึ่งนาราก็ไม่ได้ทำให้วรรณผิดหวัง เวลาผ่านไปไม่ว่าจะกี่ปีเลือดอีกครึ่งหนึ่งในตัวของนาราที่มาจากพ่อที่เป็นชาวไร่ชาวสวน ทำให้นาราถูกกระแหนะกระแหนจากป้าสะใภ้ทั้งสองนั่นคือ เพชรสี ภรรยาของลุงเอกชาติ และชไมพร ภรรยาของลุงโทณรงค์ ถึงชาติกำเนิดของเธอเป็นประจำ และพฤติกรรมของรัศมีที่ตอนนี้เป็นสาวสังคมที่นิยมการแต่งตัวและใช้ชีวิตฟุ้งเฟ้อ คิดว่าตัวเองเป็นหงส์ผู้สง่างามเพราะความสวยของเธอยังเฉิดฉายและทำให้คนสนใจได้เสมอ รัศมีคบผู้ชายมากหน้าหลายตาและสร้างความวุ่นวายให้กับวรรณเป็นประจำ ทำให้บรรดาญาติและวรรณไม่ชอบใจนัก แต่รัศมีก็หาได้สนใจไม่ เมื่อไม่พอใจแม่ นาราจึงกลายเป็นลูกเป็ดขี้เหร่ที่ต้องรับคำนินทาของคนอื่นเอาไว้ อดิสร ลูกชายของ พ่อเลี้ยงศักดา ผู้มีอิทธิพลทางภาคเหนือซึ่งทั้งสองพ่อลูกเข้ามาตีสนิทกับพี่ชายของรัศมีเพราะอยากกู้เงินทุนจากวรรณเพื่อไปทำธุรกิจรีสอร์ทและโรงแรมที่ภาคเหนือ แต่วรรณรู้ทันว่าอดิสรและพ่อเลี้ยงศักดาทำธุรกิจผิดกฎหมายจึงปฏิเสธไป เมื่อนาราอายุครบยี่สิบเอ็ดปี เรียนจบจากปริญญาตรีจากสถาบันชื่อดัง กำลังเตรียมตัวไปเรียนต่อที่ประเทศอเมริกา สิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อจุฑารัตน์เพื่อนสนิทที่เป็นนักข่าวให้ดูรูปในการสกู๊ปข่าวที่ ไร่สัตตบุษย์ นาราเห็นคนงานในภาพมีรูปร่างหน้าตาเหมือนพ่อที่ตายไป และเมื่อกลับบ้านก็ได้เห็นจดหมายฉบับหนึ่งที่จ่าหน้าซองส่งมาถึงรัศมีเป็นประจำแต่รัศมีก็ไม่เคยสนใจจะเปิดอ่าน นาราเปิดอ่านก็พบว่าเป็นจดหมายจากพ่อ นาราจึงไปถามแม่ จนในที่สุดความจริงก็เปิดเผยว่าพ่อของเธอยังมีชีวิตอยู่ นาราต้องการที่จะไปพิสูจน์ว่า ผู้ชายที่เห็นในรูปคือพ่อหรือไหม เธออยากรู้ว่าทำไมตลอดเวลาที่ผ่านมาสิบห้าปี พ่อถึงออกจากชีวิตเธอ ทำไมพ่อถึงทิ้งเธอไป และยังมีหลายคำถามที่เธอต้องการคำตอบ เธอขออนุญาตกับวรรณว่าจะใช้เวลาช่วงที่เหลือก่อนที่จะเดินทางไปเรียนต่อที่อเมริกาไปตามหาพ่อ ซึ่งวรรณนั้นไม่อยากให้หลานสาวได้พบกับพ่อ เพราะมีความจริงบางอย่างที่เขาปิดบังนาราไว้ และความจริงนี้อาจทำให้นาราเสียใจมาก เหตุผลอีกอย่างคือวรรณกลัวจะเสียหลานสาวที่ตัวเองเลี้ยงดูราวกับลูก ไปให้กับราม แต่เมื่อนารายืนยันว่าเธอต้องการคุยกับพ่อในฐานะลูก และจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เธอยังเป็นหลานตาคนเดิม และเดินทางไปเรียนต่ออย่างที่ได้วางแผนเอาไว้ นาราโน้มน้าวด้วยการบอกว่า วรรณก็เคยเป็นพ่อ น่าจะเข้าใจหัวอกพ่อดี วรรณรู้นิสัยหลานสาวที่ตนเลี้ยงมากับมือว่าถ้านาราต้องการทำอะไร ไม่มีอะไรมาห้ามได้ วรรณจึงปล่อยให้นาราไปเผชิญกับความจริงที่รออยู่ การเดินทางไปไร่สัตตบุษย์ครั้งนี้ รัศมีไม่เห็นด้วย เพราะมันเป็นการขุดอดีตที่เหมือนขยะขึ้นมาส่งกลิ่นเหม็น อดีตที่จะประจานให้เธอกลายเป็นหงส์ปีกหักและอาจไม่มีที่ยืนในสังคมได้สวยงามเหมือนเดิม รัศมีขู่ว่าถ้านาราออกจากบ้านไปตามหาพ่อก็ไม่ต้องกลับมาอีก แต่นาราไม่สนใจ เดินออกจากบ้านเพียงกระเป๋าเสื้อผ้าและเงินไม่กี่บาท รัศมีตัดช่องทางการให้เงินของนาราทุกอย่าง ยึดรถ ตัดบัตรเครดิต ยกเลิกบัตรเอทีเอ็ม ทำให้นาราต้องเดินทางอย่างลำบาก แต่อุปสรรคเท่านี้ไม่ได้ทำให้นาราล้มเลิกความตั้งใจ เธอเดินทางไปยังไร่สัตตบุษย์ด้วยการขอข้อมูลจากจุฑารัตน์ เพื่อนสาวคนสนิท แต่ก็ไม่บอกเพื่อนว่าเดินทางไปทำไม เมื่อถึงไร่สัตตบุษย์หรือที่ชาวบ้านรู้จักในชื่อว่า ‘ไร่บัวขาว’ นาราสลัดคราบคุณหนูหลานสาวมหาเศรษฐีกลายเป็นสาวชาวบ้านธรรมดา วันแรกที่เหยียบไร่บัวขาวด้วยความหิวจากการเดินทางที่ลำบากทำให้เธอหมดแรง เธอได้รับความช่วยเหลือจากสีหนาท หรือที่ชาวไร่เรียกว่า นายสิงห์ เจ้าของไร่บัวขาว แต่อะไรไม่ทำให้เธอตื่นเต้นเท่ากับการที่นาราลืมตาขึ้นมาแล้วเห็นคนที่มากับสีหนาท...ใบหน้าที่เธอไม่เคยลืม ใบหน้าของราม พ่อของเธอนั่นเอง! เมื่อได้พบหน้าราม จากความตั้งใจที่อยากจะถามสิ่งที่คาใจ พอเห็นรามเปลี่ยนไปมาก ความกลัวทำให้เธอไม่กล้าแสดงตัวว่าเป็นลูกสาวของพ่อ กลัวว่าพ่อจะไม่ยอมรับ พอนายสิงห์ถามว่าเธอชื่ออะไร และเข้ามาในไร่ทำไม นาราจึงบอกว่าตัวเองชื่อหนูนาและอยากจะมาสมัครเป็นคนงานในไร่บัวขาว สีหนาทสำรวจรูปร่าง หน้าตา ผิวพรรณของนาราที่บอบบางเกินกว่าจะเป็นสาวชาวไร่ บอกว่าอย่างนาราน่าจะเหมาะกับงานโรงแรมซึ่งเป็นธุรกิจอีกอย่างของสีหนาทมากกว่า แต่นาราปฏิเสธบอกว่าเธออยากเป็นชาวไร่ เพราะความสงสัยและแรงดึงดูดบางอย่างจากนัยน์ตากลมๆ ที่มองอย่างอ้อนวอนทำให้สีหนาทปรึกษารามที่เป็นหัวหน้าคนงานว่าในไร่บัวขาวมีตำแหน่งงานว่างไหม ตัวรามเองก็รู้สึกถูกชะตากับหนูนาก็ลองหาตำแหน่งว่างให้ เมื่อสีหนาทเจ้าของไร่อนุญาตให้นาราได้ทำงานที่ไร่บัวขาวเธอจึงใช้ชื่อในการทำงานว่า หนูนา ทองการค้า แต่นาราไม่สามารถเปิดเผยบัตรประชาชนได้จึงบอกว่าลืมบัตรประชาชนไว้ที่กรุงเทพ ปิดบังสิ่งที่ชี้ว่าตัวเองเป็นใคร และนำที่อยู่ของจุฑารัตน์มาเป็นที่อยู่อ้างอิง การที่นาราปิดบังตัวจริงเอาไว้ก็ทำให้รามและสิงหนาทที่จับตาดูความเคลื่อนไหวของนาราอดสงสัยไม่ได้ว่านาราเป็นใครและเข้ามาในไร่เพราะอะไร เพราะในไร่บัวขาวมักจะมีหนอนบ่อนไส้เข้ามาในไร่เพื่อขโมยไม้สัก รามให้นาราไปพักกับคนงานที่ชื่อแป้น ซึ่งแป้นเองก็ดูแลนาราและคอยสอนงานไร่ให้กับนารา นาราสอบถามข้อมูลเกี่ยวราม จึงได้รู้มาว่าตอนนี้รามอยู่คนเดียว ไม่มีครอบครัว นาราคิดช่วงนี้จะต้องหาทางใกล้ชิดกับพ่อให้เร็วที่สุดและเปิดเผยว่าตัวเองเป็นใคร การทำงานเป็นชาวไร่วันแรกของนาราเต็มไปด้วยความยากลำบาก เพราะนาราไม่เคยทำงานหนัก ไม่เคยต้องทำงานกลางแดด สีหนาทเองก็จับตาดูนาราด้วยความสงสัยแต่พอเห็นนารากำลังจะเป็นลมเพราะแดดที่แรง ก็สละหมวกประจำตัวให้ แสดงความเอื้ออาทรจนคนงานคนอื่นต่างวิพากษ์วิจารณ์กัน โดยเฉพาะ พวง คนงานหญิงที่พยายามยั่วยวนนายสิงห์มานานแต่นายสิงห์ไม่ชายตาแล ยิ่งรามแสดงความห่วงใยนาราอีกคน พวงเลยแสดงความอิจฉาริษยากับนาราชัดเจนด้วยการพูดจากระทบกระเทียบนาราตลอดเวลา แต่แป้นก็คอยปกป้องนาราเอาไว้ นาราที่ไม่เคยจับจอบและไม่เคยทำงานหนัก เมื่อต้องลงมือทำ ทำให้มือของนาราเป็นแผล นาราเลยถูกสั่งให้ไปทำงานอื่นแต่ก็ทำงานผิดพลาดจนกลายเป็นเรื่องใหญ่ ทำให้คนงานต้องช่วยกันแก้ไขปัญหาจนโมโหนารา แต่แป้นก็คอยปลอบใจว่าคนงานทุกคนโมโหเพราะหิว พอหายหิวก็ดีขึ้น แต่การทำงานพลาดคราวนี้พวงก็ซ้ำเติมนาราเต็มที่ สีหนาทคิดว่านาราไม่เหมาะสมกับงานที่ไร่บัวขาว และสงสัยว่าก่อนหน้านี้นาราทำงานอะไร นาราเลยโกหกว่าก่อนหน้านี้ทำงานเป็นแม่บ้าน ไม่เคยทำงานไร่มาก่อน แต่ใฝ่ฝันว่าอยากทำงานไร่เลยเดินทางมาที่ไร่บัวขาว แต่สีหนาทไม่เชื่อนาราเท่าไร แต่ก็ทำเป็นเออออรับทราบ พยายามจะให้นาราไปทำงานที่โรงแรมที่มีขนิษฐาลูกพี่ลูกน้องของสีหนาทดูแลอยู่แต่นาราปฏิเสธเสียงแข็ง ขนิษฐา มีความเห็นเหมือนกันสีหนาทว่านาราเหมาะกับงานโรงแรมที่เธอเป็นคนดูแลอยู่มากกว่า แต่เมื่อเห็นนาราอยากทำงานในไร่ก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่สิ่งที่น่าสงสัยคือท่าทางของสีหนาทที่ดูสนใจนาราเป็นพิเศษและรามเองก็ดูเอ็นดูนารามาก ท่าทางของรามทำให้ขนิษฐาที่หลงรักน้ารามข้างเดียวรู้สึกน้อยใจราม ที่เขาสนใจนาราแต่ไม่เคยสนใจเธอเลย วันหยุดนาราไม่ยอมเข้าเมืองเหมือนคนงานคนอื่น เธอไปหารามที่บ้านพัก เพราะอยากอยู่ใกล้พ่อ เธอพยายามหาโอกาสที่จะคุยกับรามเรื่องของเธอกับเขา แต่ขนิษฐาเข้ามาขัดจังหวะ บอกว่าอยากจะพานาราไปดูงานที่โรงแรมเผื่อนาราจะเปลี่ยนใจไปทำงานที่โรงแรมมากกว่าที่ไร่ ใจจริงขนิษฐาอยากจะแยกนาราให้อยู่ห่างจากราม เพราะไม่ชอบใจเมื่อเห็นท่าทางสนิทสนมของทั้งสองคน เมื่อไปถึงโรงแรมขนิษฐาพานาราดูโรงแรม นาราก็ต้องรีบซ่อนตัวเมื่ออดิสรมาหาขนิษฐา นารากลัวว่าอดิสรเจอเธอและทำให้ความลับที่ซ่อนเอาไว้แตกออกมา ตอนนั้นสีหนาทและรามมาโรงแรม พอทราบว่าอดิสรมาหาขนิษฐา สีหนาทก็โมโหและตามเข้าไปไล่อดิสรออกมาและขู่ไม่ให้อดิสรมายุ่งกับขนิษฐาอีก อดิสรโมโหและฝากเอาไว้ก่อน ทำให้นารารู้ว่าสีหนาทกับอดิศรไม่ถูกกัน และทำให้นาราได้รู้ว่าอดิศรและพ่อเลี้ยงศักดาทำธุรกิจผิดกฎหมายและค้าไม้เถื่อน การทำงานในไร่ของนาราเริ่มต้นอีกครั้ง ทว่าในคราวนี้นาราได้ไปทำงานในโรงครัว วันแรกๆ ก็ไม่มีปัญหาอะไร นาราทำงานได้ดี จนวันหนึ่งนาราได้ทำหน้าที่หุงข้าวเพราะนาราไม่เคยหุงข้าวทำให้โรงครัวไหม้ เกิดความเสียหายอย่างหนัก และมื้อนั้นคนงานเลยต้องหิวท้องรอหลายชั่วโมงเพื่อให้แม่ครัวหุงข้าวหม้อใหม่ ความเสียหายครั้งนี้ใหญ่จนสีหนาทต้องเรียกตัวนารามาพบอีกครั้ง ตอนแรกนาราคิดว่าเขาจะไล่เธอออก แต่สีหนาทกลับบอกว่าตั้งแต่วันพรุ่งนี้ไปนาราจะต้องมาทำงานที่เรือนใหญ่ มาอยู่ใกล้ตาเขาเพื่อจะได้ไม่ไปทำความเดือดร้อนที่ไหนอีก การที่นาราไม่ถูกไล่ออก แถมยังได้ไปทำงานที่เรือนใหญ่ ทำให้คนงานวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างสนุกปากโดยมีพวงเป็นแกนนำ แต่ก็มีแป้นคอยขัดขวางพวงไม่ให้พูดสนุกปากเกินไป การที่นาราได้ทำงานที่เรือนใหญ่ งานที่นาราได้ทำก็คืองานถูพื้น โดยมีนายสิงห์มาคุมด้วยตัวเอง ระหว่างนั้นสิงหนาทก็ให้คนไปตามสืบเรื่องของหนูนา ทองการค้า ว่าเป็นใครมาจากไหน ทำไมถึงได้อยากใกล้ชิดรามมากจนทำให้เขาเข้าใจผิดว่านาราต้องการปั่นหัวราม แต่นาราก็ยืนยันหนักแน่นว่ารักน้ารามเหมือนพ่อคนหนึ่งเท่านั้น เพียงแค่ได้ยินว่านาราคิดกับน้ารามแบบพ่อ สิงหนาทก็อารมณ์ดีและสบายใจมาก นาราได้เลื่อนตำแหน่งจากแม่บ้านกลายเป็นผู้ช่วยของสิงหนาท ซึ่งความคล่องแคล่วในการทำงาน ทั้งด้านการจัดการเรื่องเอกสาร ความสามารถทางด้านภาษาของนาราทำให้สิงหนาทสงสัยว่านาราเป็นใครกันแน่ จนในที่สุดความจริงก็ปรากฏเมื่อคนของเขารายงานว่า หนูนา ทองการค้า ไม่มีตัวตน ทองการค้าเป็นนามสกุลของจุฑารัตน์ และที่อยู่ที่ให้ไปเป็นของจุฑารัตน์เช่นกัน เมื่อสืบต่อไปเรื่อยๆ ก็พบว่าหนูนาที่ใกล้ชิดกับจุฑารัตน์มีเพียงหนูนา หรือคุณนารา วรรณพานิชเท่านั้น และเมื่อสิงหนาทตามสืบเมื่อนาราใช้โทรศัพท์ของร้านค้าโทรกลับไปหาวรรณเพื่อแจ้งให้คุณตาทราบว่าขอเวลาในการทำความเข้าใจกับพ่อสิบวัน ซึ่งวรรณก็เข้าใจหลานและให้เวลาหลาน เขาเชื่อในตัวนาราว่าถ้าสัญญาอะไรแล้วจะทำตามสัญญา ผิดกับรัศมีเมื่อรู้ว่านาราอยู่ใกล้กับรามก็โมโหวรรณที่ปล่อยให้นาราไปตามหาราม ต่อไปต้องเกิดเรื่องเดือดร้อนกับรัศมีแน่นอน วรรณบอกว่าอะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด และนาราเหมือนกับรัศมีที่ถ้าจะทำอะไรแล้วก็ห้ามไม่ได้ สู้ให้นาราทำอะไรอยู่ในสายตาดีกว่าให้นาราหนีไป แล้วไม่รู้ความเคลื่อนไหว ในขณะนั้นอดิศรกำลังวางแผนการร้ายกับไร่บัวขาว เขาส่ง เรือง เข้าไปเป็นหนอนบ่อนไส้ในคราบของคนงานและเรืองก็เป็นแฟนของพวง คอยจับตาความเคลื่อนไหวของสิงหนาทเพื่อรายงานให้อดิศรให้ทราบว่าไร่บัวขาวจะทำการตัดไม้และขนไม้เมื่อไหร่จะได้ทำการปล้นไม้มาเป็นของตัวเองซึ่งเรื่องการปล้นไม้และสถานการณ์เกี่ยวกับไม้สัก สิงหนาทได้ถ่ายทอดให้นาราฟัง เพื่อให้ระวังในการทำงานมากขึ้น เมื่อนาราได้กลายเป็นเป็นผู้ช่วยของสิงหนาท เธอก็ต้องตามนายสิงห์เป็นเงาตามตัว หลังจากที่สิงหนาททราบว่านาราเป็นใครและมาที่ไร่บัวขาวเพื่อตามหาราม เขาก็เก็บทุกอย่างไว้เป็นความลับและดูว่านาราจะทำอย่างไรต่อไป ระหว่างนั้นทั้งนาราและสิงหนาทก็ประสบอุบัติเหตุจนรถไม่สามารถขับต่อจนต้องทิ้งรถไว้ ทั้งสองลงจากรถ หลบไปอยู่ข้างทาง รถของอดิสรขับผ่านมาเห็นรถสีหนาทจอดอยู่ จึงยิงปืนใส่ด้วยความสะใจ เหตุการณ์นั้นทำให้นาราตกใจมาก เพราะถ้าเธอกับเขาอยู่บนรถอาจถูกยิงไปแล้ว สีหนาทปกป้องนารา ทำให้นาราอุ่นใจและรู้สึกปลอดภัยเมื่อมีสิงหนาทอยู่ใกล้ ขนิษฐาเป็นห่วงสิงหนาทที่หายไปกับนาราทั้งคืนเลยขอให้รามตามหาสิงหนาท รามรับปากว่าจะตามหาสิงหนาท คอยปลอบไม่ให้ขนิษฐาตกใจ ในช่วงเวลาที่ขนิษฐาต้องการที่พึ่ง รามมักจะทำให้ขนิษฐาอุ่นใจเสมอ แต่ด้วยอายุที่ห่างกันและความเจียมเนื้อเจียมตัวของรามทำให้ขนิษฐาไม่สามารถแสดงออกความรักของตัวเองออกมาได้ จึงได้แต่เฝ้ารักและแอบมองเขาอยู่แบบนี้ รามตามหาสิงหนาทและนาราเจอตอนเช้า เหตุการณ์ที่รถของสิงหนาทถูกยิงทำให้สารวัตรกชเข้ามาตรวจสอบ แต่สิงหนาทให้นาราปิดไว้เป็นความลับ ใครถามอะไรก็บอกว่าเป็นการยิงผิดตัว ไม่ได้เกี่ยวข้องกับอดิสรเพราะถ้าอดิสรส่งหนอนบ่อนไส้เข้ามาจะได้ไม่แหวกหญ้าให้งูตื่น การหายตัวไปของสิงหนาทและนาราทำให้คนงานในไร่สนใจ แต่นาราก็บอกคนงานแต่เพียงว่าเกิดอุบัติเหตุ ทว่าพวงกับใส่สีตีข่าวอย่างสนุกปาก แต่คราวนี้นาราไม่ยอมเพราะเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นความเป็นความตายของเธอกับสิงหนาท การลุกขึ้นมาโต้ตอบคราวนี้ทำให้พวงได้เห็นว่านาราไม่ใช่คนยอมคนและยอมล่าถอยไปภาพความห่วงใยของรามที่มีต่อนารากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ขนิษฐาไม่พอใจ แต่ก็เก็บความรู้สึกเอาไว้ และสิ่งที่ขนิษฐาทำได้ก็คือการหลบหน้าราม แต่รามกลับทำหน้าที่ของตัวเองเหมือนเดิมนั่นก็คือการไปรับไปส่งขนิษฐา จากโรงแรมกลับมาที่ไร่ แม้ขนิษฐาจะพยายามหลบหน้าแต่รามกลับเข้ามาวนเวียนกับขนิษฐามากขึ้นจนหญิงสาวทนไม่ได้ระเบิดอารมณ์ใส่ราม บอกความรู้สึกที่มีต่อรามออกไปว่าเธอรักราม รักมานาน แต่ว่ารามไม่เคยสนใจเธอเลย รามที่รู้สึกว่าตัวเองต่ำต้อยไม่มีค่า อดีตที่ผ่านมาทำให้เขาคิดว่าตัวเองไม่เหมาะสมกับใครเลย แต่ขนิษฐากลับมองว่ารามต่างหากที่อยู่ห่างจากเธอ อยู่ไกลเกินเอื้อม และตัวเธอเองที่ไม่มีค่าอะไรเลย รามที่มีอดีตอันเจ็บปวดไม่สามารถบอกความจริงกับขนิษฐาได้ จึงได้แต่นิ่งเงียบ และลึกๆ ในใจของรามเขายังมีความรู้สึกว่ายังมีโซ่ที่ยึดไว้กับอดีต และยังมีพันธะอยู่กับรัศมี ทำให้เขาไม่มีอิสรภาพในการที่จะเปิดใจรับใครได้ไหม แต่การระเบิดอารมณ์ของขนิษฐา สิงหนาทก็เห็นและรับรู้ทุกอย่าง เขาพยายามบอกกับรามว่าจริงๆ แล้ว รามเป็นคนมีค่าสำหรับเขาและน้องสาว สิงหนาทไม่เคยรังเกียจรามและเขาก็รู้อดีตของรามมาตลอด พยายามบอกให้รามปลดปล่อยตัวเองจากอดีตเพื่ออยู่กับปัจจุบัน สิงหนาทที่รู้ความลับของนาราว่าเป็นลูกสาวของราม ก็คอยดูแลนาราว่าจะทำอย่างไรต่อไป และเขาก็แสดงออกชัดเจนว่ารู้สึกอย่างไรกับหญิงสาว ซึ่งตัวเองนาราเองก็รู้สึกดีเมื่ออยู่ใกล้กับสิงหนาท ส่วนขนิษฐา พยายามอยู่ห่างจากรามด้วยการไปค้างคืนที่โรงแรมบ้าง กลับดึกบ้าง เมื่อใจอ่อนแอ ร่างกายของขนิษฐาก็อ่อนแอตามไปด้วย สารวัตรกชแจ้งว่าสายของเขารายงานมาว่าอดิสรจะทำการขนไม้เถื่อน ตำรวจได้วางแผนจับกุม สิงหนาทและรามที่ชำนาญพื้นที่จึงขอไปช่วยราชการในการนำทางไปให้ และนาราก็รู้เรื่องนี้โดยบังเอิญ เธอพยายามห้ามสิงหนาทและรามไม่ให้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องอันตราย แต่ทั้งสองคนก็ไม่ฟัง นาราจึงได้แต่รอคอยอย่างร้อนรน การจับกุมอดิสรและพวก เป็นไปอย่างยากลำบาก มีการต่อสู้ด้วยปืน ฝ่ายตำรวจและอดิศรตอบโต้กันไปมา จนรามถูกยิงได้รับบาดเจ็บและอดิสรหนีไปได้ คืนนั้นนาราที่รอคอยการกลับมาของสิงหนาทและรามด้วยใจที่ไม่เป็นสุข และเมื่อสิงหนาทกลับมาคนเดียวก็ยิ่งทำให้นาราร้อนใจ พอถามเขา เขาก็บอกนาราว่ารามเจ็บหนัก จนนาราไม่สามารถควบคุมสติตัวเองจนบอกว่าตัวเองเป็นลูกสาวของน้าราม สิงหนาทที่ได้ยินความจริงจากปากนาราก็เฉลยว่า รามไม่ได้เป็นอะไรมาก และเขาก็รู้ว่านาราเป็นใครมานานแล้ว เพียงแต่รอให้นาราบอกกับเขาเท่านั้นเอง พอนารารู้ว่าถูกหลอกก็งอน แต่ประหลาดใจมากกว่าก็ที่สิงหนาทรู้ว่าเธอเป็นใคร สิงหนาทเลยบอกว่านาราเป็นคนโกหกไม่เป็น มีพิรุธจนเขาสงสัย แต่เรื่องนี้เขาไม่ได้บอกราม อยากให้นาราเข้าไปคุยกับรามด้วยตัวเอง สิงหนาทให้กำลังใจนาราที่จะเข้าไปเปิดเผยตัวเองกับรามว่าเป็นใคร นาราอุ่นใจที่มีเขาเป็นกำลังใจ และก่อนที่จะเข้าไปคุยกับราม นารากลัวว่าความสัมพันธ์ระหว่างสิงหนาทกับเธอจะเปลี่ยนไปเมื่อความจริงเปิดเผยทุกอย่าง สิงหนาทบอกว่าเขาเป็นเหมือนเดิม อยู่ที่ว่านาราจะให้ทุกอย่างเป็นไปแบบไหน เขาตามใจเธอ นาราจึงบอกว่าเธออยากเป็นหนูนา ทองการค้า มากกว่า นารา วรรณพานิช สิงหนาทบอกว่าไม่ว่าเธอเป็นใครเขาก็รัก... นาราร่วมรวมความกล้าตัดสินใจเปิดเผยว่าตัวเองเป็นกับราม ด้วยการเล่าให้ฟังเรื่องในอดีตระหว่างที่เธอกับพ่อใช้ชีวิตสมัยที่อยู่บ้านสวนด้วยกัน รามนิ่งไป ไม่เชื่อสายตาตัวเองว่าหนูนาที่อยู่ตรงหน้าคือยัยหนูของเขา นาราทวงถามว่าทำไมรามถึงทิ้งเธอกับแม่ไป และทำให้เธอเข้าใจมาตลอดว่าพ่อตายไปแล้ว รามดีใจที่ได้เจอลูก และยอมเล่าสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตให้ฟังว่า หลังจากใช้ชีวิตกับรัศมี ไร่สวนที่ทำ ก็ประสบปัญหาจนไม่มีเงินมาซื้อในสิ่งที่รัศมีต้องการ ทำให้เขาต้องยักยอกเงินจากสหกรณ์เพื่อให้รัศมีได้ใช้ ในที่สุดถูกจับกำลังจะโดนดำเนินคดี แต่ความจริงอีกอย่างที่ทำให้รามขาดสติก็คือรัศมีมีชู้ และชู้คนนั้นรามก็รู้จัก เพราะความโมโหและความเมาทำให้รามเผลอฆ่าชู้ของรัศมี จนเขาต้องติดคุกแปดปี นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้รามหายออกไปจากชีวิตของนารากับรัศมี รามเล่าว่า เมื่อเขาออกมาจากคุก ก็หางานทำไปเรื่อยๆ และติดตามข่าวคราวของนารา จนในที่สุดก็มาทำงานที่ไร่บัวขาว เพราะสิงหนาทไม่เคยสนใจอดีตของเขาที่เป็นคนคุกมาก่อน สิ่งที่รามทำได้คือการติดตามข่าวของนาราอยู่ห่างๆ เพราะไม่อยากให้นาราแปดเปื้อนและได้ชื่อว่ามีพ่อเป็นคนขี้คุก นาราบอกว่าไม่ว่าพ่อจะเป็นอย่างไร เขาก็คือพ่อของเธอ และเธอก็ดีใจที่พ่อยังคิดถึงและรักเธอ สองพ่อลูกกอดกันและพูดคุยกันให้สมกับที่ไม่ได้เจอกันมาสิบห้าปี สิงหนาทแสดงความยินดีเมื่อลูกกับพ่อพูดคุยกันเข้าใจ แต่สิงหนาทก็น้อยใจเมื่อรู้ว่านาราจะต้องเดินทางไปเรียนต่อที่อเมริกาหลังจากที่วีซ่าเรียบร้อย แต่นาราก็พยายามงอนง้อจนเขาหายงอน และก็รับรู้ว่านาราเองก็รู้สึกดีต่อเขาเหมือนกัน ในขณะที่นาราและรามมีความสุข คนที่กำลังเป็นทุกข์คือขนิษฐาที่รู้ข่าวการจับกุมอดิศรผ่านหนังสือพิมพ์ และเพิ่งรู้ว่ารามได้รับบาดเจ็บ ขนิษฐาตกใจ กลับมาที่ไร่ด้วยท่าทางร้อนรน แต่พอเห็นนารา รามใกล้ชิดกัน แล้วยิ้มอย่างมีความสุขก็น้อยใจ และภาพสะเทือนใจตรงหน้าทำให้ขนิษฐาหมดสติเพราะร่างกายที่อ่อนแออยู่ก่อนหน้านี้ นารา ราม สีหนาทตกใจที่ขนิษฐาหมดสติไปต่อหน้าต่อตา นาราคอยดูแลขนิษฐา และเมื่อขนิษฐาฟื้นสิ่งที่ถามคำแรกคือความปลอดภัยของราม พอนาราบอกรามปลอดภัยดี ขนิษฐารับทราบด้วยความน้อยใจที่ไม่มีใครบอกข่าวนี้กับเธอและขอร้องให้นาราเล่าว่าเกิดอะไรขึ้น หลังจากนาราเล่าจบ ขนิษฐาก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองไม่สำคัญ แต่นาราก็พยายามปลอบใจว่าทุกคนปิดบังเรื่องการจับกุมอดิสรเพราะไม่อยากให้เป็นห่วง และนาราก็เล่าเรื่องของตัวเองกับรามให้ขนิษฐาฟังเพราะอยากให้ขนิษฐารับรู้ แต่กลับเป็นการย้ำให้คนฟังรู้สึกว่ารามยิ่งห่างไกลจากเธอมากขึ้นเรื่อยๆ สิงหนาทที่คอยสังเกตอาการน้องสาวก็เข้ามาบอกว่าเรื่องอดีตของรามมันเป็นเพียงอดีตเท่านั้น ถ้าขนิษฐายอมรับอดีตของรามได้ ทุกอย่างจะดีเอง แต่ขนิษฐาบอกว่าถ้าเธอจะยอมรับอดีตของราม แต่รามคงไม่ยอมรับความรู้สึกของเธอ ข่าวที่รามบาดเจ็บและการจับกุมอดิสรเป็นข่าวหน้าหนึ่ง ทางวรรณและรัศมีเห็นภาพรามจากหนังสือพิมพ์ รัศมีก็โวยวายอยากให้ลูกกลับมา แต่วรรณเชื่อใจหลานอีกไม่นานหลานจะต้องกลับมากรุงเทพตามคำพูดที่หลานเคยบอกเอาไว้ ทำให้รัศมีไม่พอใจ เมื่อถึงกำหนดที่นาราจะต้องเดินทางกลับกรุงเทพ วันนั้นเกิดเหตุระเบิดที่ท้ายไร่ ทำให้สิงหนาทและรามต้องรีบไปดู แต่จริงๆ แล้วเป็นแผนล่อสิงห์ออกจากถ้ำ เพราะช่วงนั้นนาราถูกเรืองลักพาตัวตามคำสั่งของอดิสรที่อยากแก้แค้นสิงหนาทที่ทำให้เขาต้องถูกตำรวจไล่ล่าแบบนี้ และเมื่อเห็นหน้าคนที่เรืองบอกว่าเป็นคนรักของสิงหนาทว่าเป็นนารา หลานสาวประธานธนาคารก็ยิ่งชอบใจ และคิดจะทำร้ายนารา แต่ก่อนอื่นต้องใช้นาราล่อให้สิงหนาทกับรามมาติดกับเสียก่อน เพราะเขาต้องการเล่นงานคนทั้งสอง เมื่อหลานสาวไม่กลับมาตามกำหนด วรรณก็เป็นห่วง ขนิษฐาโทรศัพท์ไปแจ้งให้วรรณทราบเรื่องนาราถูกจับ ทำให้วรรณและรัศมีเดินทางขึ้นมาที่ไร่บัวขาวทันที สิงหนาท รามและสารวัตรกช บุกเข้าไปช่วยนารา แต่กว่าจะช่วยได้ก็ต้องเจอทั้งปืน ระเบิด ส่วนนาราเองก็ไม่อยู่นิ่งเฉย พยายามหนีเอาตัวรอด และการหนีทำให้เธอมีชีวิตรอดออกมาจนเจอกับสิงหนาทและราม ส่วนอดิศรก็ตายในที่เกิดเหตุ หลังจากนั้นทางตำรวจก็ตามไปจับกุมพ่อเลี้ยงศักดาที่เป็นอีกคนที่ทำผิดกฎหมาย เมื่อคนร้ายถูกจับ สถานการณ์ในไร่บัวขาวก็กลับสู่ปกติ แต่การเผชิญหน้ากันระหว่างวรรณ รัศมีและราม ยังทำให้ทุกอย่างยังไม่สงบดีนัก รัศมีตั้งท่ารังเกียจรามชัดเจน จนในที่สุดรัศมีก็ประกาศว่าตัวเองไม่เกี่ยวข้องอะไรกับราม คำประกาศของรัศมีเหมือนเป็นปลดบ่วงในใจของรามออก รามเป็นอิสระ ไม่มีพันธะใดๆ อีกต่อไป สิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างเขากับรัศมีกลายเป็นเพียงอดีต เขาสามารถเดินหน้าได้ต่อพร้อมกับนาราลูกสาวของเขา รามเองก็เข้าไปคุยกับวรรณ เรื่องนาราว่าไม่คิดจะแย่งชิงนารามาจากวรรณ และทั้งสองก็ปรับความเข้าใจกัน สิงหนาทเห็นโอกาสที่วรรณและรามอยู่ตรงหน้าเลยเอ่ยปากขอดูแลนาราด้วยท่าทางยโส วรรณเองก็บอกว่าเรื่องแบบนี้เขาไม่คิดจะบังคับนารา เพราะได้รับบทเรียนจากการเลี้ยงรัศมีมากพอแล้ว จึงปล่อยให้ทุกอย่างเป็นเรื่องของอนาคตเพราะนาราจะต้องไปเรียนต่ออีกสองปี แต่สิงหนาทก็ยังยืนยันหนักแน่นว่าเขาจะดูแลนาราให้ดีที่สุด วรรณหัวเราะด้วยใจที่ผ่อนคลายเมื่อคนที่เขาเคยรังเกียจอย่างราม ชาวไร่ชาวสวนที่ดูต่ำต้อย วันนี้กลับทำให้เขายอมรับได้ แถมทำท่าจะได้ลูกเขยเป็นชาวไร่เพิ่มอีกคน บาดแผลในอดีตของรามได้จางหาย ตอนนี้รามก็พร้อมจะเดินหน้าต่อ ส่งสิงหนาทเองก็พร้อมจะสร้างอนาคตไปพร้อมกับนารา นาราที่พอรู้ความในใจของขนิษฐาที่มีต่อราม เธอเข้าไปคุยกับขนิษฐาว่าถ้าขนิษฐารักพ่อของเธอจริงเธอจะยินดีมาก และพร้อมกับฝากฝังรามไว้ ซึ่งขนิษฐาเองก็ยินดี อยู่ที่รามจะยอมรับเธอไหม เมื่อรามเป็นอิสระ เขาก็พร้อมจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ เขาเดินเข้ามาบอกขนิษฐาว่าตอนนี้ถ้าเขาจะเริ่มต้นกับใครสักคน คนคนนั้นต้องเป็นขนิษฐาผู้หญิงที่ไม่รังเกียจคนมีอดีตอย่างเขาและเขาเองก็เห็นว่ารักของเธอมีความสำคัญเสมอ เพียงแต่มีปัจจัยหลายๆ ทำให้เขาต้องเจียมตัว แต่ตอนนี้ไม่มีอะไรผูกมัดเขาแล้ว ขนิษฐาดีใจมากที่รามยอมรับความรัก ของเธอ เมื่อถึงวันที่นาราต้องเดินทางกลับกรุงเทพ สิงหนาทสัญญากับนาราว่าวันที่เธอเดินทางไปอเมริกาเขาจะไปส่งด้วยตัวเอง และเขาจะรอเธอ ไม่ว่าจะนานแค่ไหน นาราก็สัญญากับสิงหนาทเช่นกันว่าเมื่อเรียนจบจะกลับมารับตำแหน่งนายหญิงของไร่บัวขาว ตำแหน่งนี้สิงหนาทบอกว่าเก็บไว้ให้เธอเพียงคนเดียวเท่านั้น นารายิ้มอย่างมีความสุข เมื่อเห็นรามมีขนิษฐาอยู่เคียงข้าง และเธอก็ได้รักของพ่อกลับคืน โดยมีรักของวรรณคอยประคับประคองให้เธอกลายเป็นนาราในวันนี้ รัก...ที่เธอพยายามตามหามาตลอด ตอนนี้ได้กลับมาอยู่ในหัวใจของเธอ และเธอสัญญาว่าจะรักษามันอย่างดี ยามมา...เธอมาเพื่อตามหนึ่งความรักครั้งเก่าคืนสู่หัวใจตัวเอง ทว่ายามกลับ เธอได้รับความรักจากหัวใจถึงสองดวงกลับไป
อย่าลืมฉัน 2557

อย่าลืมฉัน (2557/2014) เขมชาติ (เจษฎาภรณ์ ผลดี) ตกหลุมรัก สุริยาวดี หรือ หนูเล็ก (แอน ทองประสม) เพื่อนร่วมมหาวิทยาลัยตั้งแต่แรกเห็น ทั้งคู่ต่างเป็นรักแรกของกันและกัน เขามอบแหวนดอกไม้รูปดอกฟอร์เก็ตมีน็อตให้เธอไว้เป็นตัวแทนความรักให้ไม่ลืมกัน ตอนนั้นครอบครัวของสุริยาวดีประสบปัญหาทางการเงินเป็นหนี้ธนาคารจำนวนมาก สุริยาวดีถูกครอบครัวขอร้องให้แต่งงานกับ ชวลิต รัตนชาติ (เศรษฐา ศิระฉายา) นายธนาคารใหญ่เพื่อใช้หนี้ สุริยาวดีเลือกที่จะหายจากชีวิตของเขมชาติไปโดยไม่บอกลา เขมชาติเจ็บปวดเมื่อรู้ในภายหลังว่าคนรักลาออกจากการเรียนกลางคันเพื่อไปแต่งงานกับมหาเศรษฐีแก่คราวพ่อ จึงมุ่งสร้างฐานะจนร่ำรวย ชวลิตต้องการแต่งงานกับหนูเล็กเพื่อให้เธอมาดูแล วันจักร หรือ ไก่ (เฮเดน ฟิชเชอร์) กับ แววจักร หรือ ไข่ (โจชัว ฟิชเชอร์) ลูกชายแฝดซึ่งเกิดจากภรรยาคนสุดท้าย ชวลิตรู้ดีว่า อัมพิกา (มยุริญ ผ่องผุดพันธ์) และ อรทัย (สกาวใจ พูนสวัสดิ์) ลูกสาวของตนนั้นรังเกียจเด็กแฝดที่เป็นลูกนอกสมรสคนนี้มาก เขากลัวว่าถ้าหากเขาเป็นอะไรไปลูกชายคนเล็กทั้งสองคนนี้อาจจะไม่มีใครปกป้องคุ้มครอง ตอนแรกชวลิตต้องการขอให้หนูเล็กแต่งงานกับ เอื้อ (สหรัถ สังคปรีชา) ลูกชายคนเดียวเพื่อให้เอื้อและหนูเล็กรับไก่และไข่ไปดูแลในฐานะลูก แต่อัมพิกาและอรทัยไม่ยอม ทั้งคู่คอยเป่าหูว่าหนูเล็กเป็นผู้หญิงไม่ดี เอื้อจึงชิงปฏิเสธไม่ยอมแต่งงานทำให้ชวลิตจำเป็นต้องรับหนูเล็กเป็นภรรยาของเขาตามกฎหมาย แต่เขาก็แต่งงานกับเธอแต่ในนามเพื่อให้เธอช่วยทำหน้าที่เป็นแม่ให้เด็ก ๆ หลังจากชวลิตเสียชีวิต เขาทำพินัยกรรมมอบหุ้นของบริษัทให้กับหนูเล็กไว้เพื่อให้เป็นสมบัติสำหรับเด็กแฝดในอนาคต อัมพิกาและอรทัยพยายามบีบซื้อหุ้นคืนมาจากหนูเล็ก หนูเล็กเปลี่ยนชื่อเป็น สุริยง และพาเด็กแฝดทั้งสองย้ายมาอยู่กับพ่อแม่ อาทิตย์ (สมภพ เบญจาธิกุล) และนภา (วาสนา สิทธิเวช) เพื่อตัดปัญหาจากบรรดาลูกสาวของชวลิต เธอเริ่มออกหางานทำจนมาสมัครเป็นเลขาที่บริษัทของเขมชาติ ในขณะที่เขมชาติไปดูงานที่ต่างประเทศ สมคิด (มนตรี เจนอักษร) ผู้ใหญ่ในบริษัทกำลังหนักใจกับเขมชาติที่อารมณ์ร้ายจนทำให้เลขาพากันถอยหนี สมคิดตัดสินใจรับหนูเล็กซึ่งเป็นหญิงม่ายเข้ามารับตำแหน่งเลขาให้เขมชาติ ทันทีที่เขมชาติกลับมาพบว่าหนูเล็กกลายมาเป็นเลขาของเขา เขมชาติยังฝังใจเจ็บแค้น เขาจึงไล่เธอออกทันทีที่เห็นหน้า ทำเอาวิบูลย์ (พิษณุ นิ่มสกุล) ซึ่งเป็นลูกน้องของเขมชาติงุนงง แต่แล้วเขมชาติก็เปลี่ยนใจ เพราะต้องการแก้แค้น สมคิดกับวิบูลย์แปลกใจมากที่เห็นเขมชาติตั้งหน้าตั้งตาแกล้งหนูเล็กทั้ง ๆ ที่เธอก็ทำงานได้ดีกว่าเลขาเก่า ๆ เขมชาติตั้งใจกลั่นแกล้งหนูเล็กให้ทำงานแบบหัวปั่น หนูเล็กรับมือกับความเจ้าอารมณ์ของเขมชาติได้ทุกอย่างแถมยังกล้าท้าทายเขาอย่างไม่กลัว เขมชาติปล่อยให้เธอต้องรับมือกับบรรดาสาว ๆ ของเขาจนทำให้หนูเล็กได้รู้ว่าเขมชาตินั้นมีผู้หญิงเข้าหามากมาย โดยเฉพาะกับวานิต้า (โชติกา วงศ์วิลาศ) สาวเปรี้ยวที่เขมชาติถึงกับสาปส่ง จะมีก็แต่ เกนหลง (ศรีริต้า เจนเซ่น) เพียงคนเดียวที่เขมชาติให้เกียรติเป็นอย่างดีจนถึงขั้นที่ใคร ๆ ก็คิดว่าเกนหลงคงจะเป็นผู้หญิงที่เขมชาติลงเอยด้วย หนูเล็กต้องลางานเพราะลูกป่วยจนทำให้เขมชาติไม่พอใจ แต่ในคืนเดียวกันนั้นเขาเห็นว่าหนูเล็กออกไปกินข้าวกับเอื้อในร้านเดียวกัน เขมชาติโกรธคิดว่าหนูเล็กใช้ข้ออ้างเรื่องลูกป่วยเพื่อไปจับผู้ชายรวย ๆ เขายิ่งเกลียดเธอขึ้นมากกว่าเก่าจนถึงกับพาลไปขอร้องให้เกนหลงมาทำหน้าที่เลขาแทนหนูเล็กซะ เขมชาติพยายามแสดงออกให้หนูเล็กรู้ว่าเขารักเกนหลงมากเพื่อหวังจะใช้มันกลบเกลื่อนร่องรอยความเจ็บปวดในอดีต และเพื่อทำให้หนูเล็กรู้สึกเจ็บอย่างที่เขาเคยเจ็บบ้าง หนูเล็กมีโอกาสได้พบกับเอื้อบ่อย ๆ เพราะเรื่องพินัยกรรม เขมชาติออกอาการหึงโดยไม่รู้ตัว เขาปกปิดอาการหึงหวงของตัวเองด้วยการเอาความรักที่มีต่อเกนหลงมาบังหน้า เขมชาติทำทีสงบศึกกับหนูเล็กและจงใจใช้ให้เธอเป็นที่ปรึกษาเรื่องหัวใจเพื่อหวังจะทรมานหัวใจหญิงสาว เกนหลงรู้สึกสนิทใจกับหนูเล็กเป็นพิเศษจนถึงกับแวะไปเยี่ยมเยียนเธอที่บ้าน เขมชาติถือโอกาสแอบติดตามไปที่บ้านของหนูเล็กด้วย เขารู้สึกไม่ค่อยสนิทใจกับลูกฝาแฝดของหญิงสาวเท่าไหร่นัก ในขณะที่เขมชาติแกล้งทำดีกับหนูเล็ก เขาก็รุกขอเกนหลงแต่งงานไปพร้อม ๆ กันเพื่อหวังจะหักอกหนูเล็กให้เจ็บแสบ เกนหลงรักเขมชาติแต่ยังไม่ไว้ใจเพราะรู้สึกเหมือนว่าเขามีอะไรบางอย่างภายในใจที่เธอเข้าไม่ถึง เกนหลงจึงไม่ยอมรับปากแต่งงานกับเขาแม้ว่าเขมชาติจะตามตื้อแค่ไหนก็ตาม เกนหลงชวนไก่ไข่ไปถ่ายแบบกับ ชนะ (กรุณพล เทียนสุวรรณ) พ่อม่ายลูกติดที่พา ฮันนี่ (อันดา กุณฑีรา ยอดช่าง) ลูกสาวมาด้วย แล้วพอดีนางแบบมีปัญหา เกนหลงขอร้องให้หนูเล็กถ่ายแบบแทน ดูเป็นครอบครัวที่มีความสุข เขมชาติแอบหึงหวงพร้อมหาว่าเธอหว่านเสน่ห์ให้กับผู้ชายไม่เลือก หนูเล็กตัดสินใจถอดแหวนฟอร์เก็ทมีน็อตที่ใส่ติดมือทิ้งเพื่อจะตัดใจจากเขมชาติให้ได้ เขมชาตินึกเสียใจกับอารมณ์หุนหันพลันแล่นที่ทำไป หนูเล็กตัดสินใจเปิดอกกับเขมชาติตรง ๆ ให้เขาเลิกนึกถึงอดีตและรักษาผู้หญิงดี ๆ อย่างเกนหลงไว้ให้ได้ เขมชาติยอมรับปากเพื่อแลกกับการขอให้หนูเล็กเก็บแหวนวงนั้นไว้เหมือนเดิม หลังจากกลับจากพัทยา เขมชาติก็เริ่มสนิทสนมกับไก่และไข่มากขึ้น เขาจึงได้พยายามเอาชนะใจหนูเล็กโดยเข้าทางไก่และไข่ เขมชาติพาเด็ก ๆ ไปอยู่ที่บ้านเขาบ่อย ๆ เขารู้สึกอบอุ่นใจที่ได้เห็นหนูเล็กและลูก ๆ อยู่ที่บ้านเหมือนกับว่าพวกเขาได้เป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว หนูเล็กเห็นเขมชาติเข้ากันได้ดีกับลูก ๆ ก็เข้าใจว่าเขาคงเลิกรังเกียจที่เธอเคยแต่งงานเป็นของคนอื่นมาก่อน เขมชาติถือโอกาสหลอกล่อให้หนูเล็กบินไปติดต่องานที่สวิตเซอร์แลนด์ แล้วตัวเองบินตามไปด้วย หนูเล็กจะรีบกลับเมืองไทย เขมชาติพยายามหว่านล้อมให้ใช้เวลาช่วงหนึ่งอยู่ด้วยกัน เขมชาติสารภาพว่ายังคงรักหนูเล็กมาตลอด สุดท้ายด้วยความใจอ่อนของหนูเล็ก ทั้งคู่จึงมีสัมพันธ์กันด้วยความเต็มใจ เขมชาติรู้ว่าเกนหลงตามไปที่สวิตเซอร์แลนด์เพราะไม่ไว้ใจ และเชื่อว่าเขมชาติและหนูเล็กมีความสัมพันธ์มากกว่าเพื่อนร่วมงานธรรมดา เขมชาติยังหลอกตัวเองว่าไม่ได้รักหนูเล็ก เขมชาติเขียนจดหมายบอกหนูเล็กว่าทำทุกอย่างเพื่อต้องการแก้แค้นเท่านั้น ไม่ได้รักเธอแล้ว หนูเล็กร้องไห้เสียใจมากที่สุดในชีวิต เกนหลงและเอื้อบินมาสวิตเซอร์แลนด์ตามหาเขมชาติและหนูเล็ก แต่ไม่เจอ สุดท้ายเขมชาติเป็นฝ่ายโทรหาและทำเซอร์ไพรส์ขอเกนหลงแต่งงานที่สวิตเซอร์แลนด์ ทำให้เกนหลงดีใจมาก ในขณะที่หนูเล็กเสียใจจนไม่เป็นอันทำอะไร เอื้อเจอหนูเล็ก แปลกใจกับท่าทางของหนูเล็ก แต่เธอบอกว่าไม่ได้เป็นอะไร และได้เก็บข้าวของเดินทางกลับเมืองไทยทันที หนูเล็กตัดสินใจลาออกจากบริษัทไปพร้อมกับทิ้งแหวนรูปดอกฟอร์เก็ทมีน็อตคืนให้กับเขมชาติ เขมชาติผิดหวัง เขาเริ่มใจลอย ไม่มีสมาธิทำงาน หนูเล็กไปทำงานที่รีสอร์ทต่างจังหวัดของชนะ เอื้อเองก็ร้อนใจเพราะปกติหนูเล็กไม่เคยจะทิ้งลูกไป ยิ่งนานวันเขมชาติยิ่งร้อนรนเมื่อไม่ได้ข่าวคราวจากหนูเล็กอีกจนกระทั่งเขาทนไม่ไหวจึงได้เป็นฝ่ายไปหาเธอที่บ้านก่อน แต่เมื่อไปถึงเขากลับพบว่าหนูเล็กหนีหายไปต่างจังหวัดมาพักใหญ่แล้ว เขมชาติเพิ่งได้มีโอกาสมาเผชิญหน้ากับพ่อแม่ของหนูเล็กอย่างจริงจัง เขาจึงเพิ่งรู้ความจริงว่าที่จริงแล้วไก่กับไข่ไม่ใช่ลูกของหนูเล็กกับชวลิตแต่ไก่กับไข่เป็นลูกติดของชวลิตกับเมียคนก่อนเท่านั้น เขมชาติตกใจที่ได้รู้ว่าตลอดมาเขาเป็นบ้าคิดไปเองทั้งหมด พอถึงนาทีนี้เขมชาติไม่สนใจแล้วว่าหนูเล็กจะเคยเป็นของใครมาก่อนหรือไม่ แต่ถ้าเธอเป็นของเขาแล้ว เขาก็ไม่มีวันจะปล่อยเธอหลุดมือไปอีกเด็ดขาด เขมชาติพยายามไปตามหาหนูเล็กจากเอื้อ เขายอมสารภาพเรื่องเขาเคยรักหนูเล็กมาก่อนสมัยเรียน เอื้อฟังเรื่องราวทั้งหมดแล้วก็รู้ในทันทีว่าแม้แต่ตอนนี้เขมชาติก็ยังรัก วดี หรือ สุริยาวดี ของเขาอยู่ เอื้อตัดสินใจเล่าเรื่องที่หนูเล็กแต่งงานกับพ่อเขาแต่ในทางนิตินัย เขมชาติยิ่งสำนึกได้ เอื้อแนะให้เขมชาติจัดการเรื่องของเกนหลงให้เรียบร้อยก่อนที่จะไปตามหาหนูเล็กเพราะถ้าไม่เช่นนั้นเขาจะพาหนูเล็กหนีไปอยู่ต่างประเทศด้วยกันแล้วเขมชาติจะไม่มีวันได้เจอกับหนูเล็กอีกเลย เกนหลงสังเกตได้ว่าเขมชาติเปลี่ยนไป เขมชาติยอมสารภาพเรื่องของเขากับหนูเล็กให้เกนหลงฟังอย่างหมดเปลือก เกนหลงฟังอย่างเข้าใจเพราะเธอนั้นรู้ตัวดีอยู่แล้วว่าเขมชาติน่าจะมีใครสักคนอยู่ในใจแต่ไม่คิดว่าจะเป็นคนใกล้ตัวอย่างหนูเล็กเท่านั้น เกนหลงช้ำใจ เอื้อรู้สึกสงสารเกนหลงที่ตกอยู่ในฐานะเดียวกัน ต่างฝ่ายต่างช่วยกันปลอบใจโดยมีครอบครัวทั้งสองฝ่ายต่างแอบลุ้นทั้งคู่อยู่ไม่ห่าง เกนหลงกับเอื้อช่วยเขมชาติสืบหาจนรู้ว่าหนูเล็กไปพักและทำงานอยู่ที่รีสอร์ทของชนะ หนูเล็กกำลังเครียดเพราะสงสัยว่าตัวเองกำลังมีเด็ก เขมชาติรีบตามไปหาหนูเล็กแต่เธอก็กลับทำห่างเหินใส่เขาเหมือนกับตอนที่เขาวางท่าเป็นเจ้านายกับเลขากับเธอ เขมชาติพยายามง้อขอคืนดีแต่หนูเล็กหมดใจกับเขาแล้ว เธอตัดสินใจเลือกหนีไปสวิตเซอร์แลนด์เพื่อหนีปัญหาเรื่องท้องไม่มีพ่อ และบอกให้เอื้อไม่ต้องตามเธอไป ให้ไปดูแลเกนหลงดีกว่า เขมชาติท้อใจเมื่อเห็นว่าหนูเล็กหมดเยื่อใยกับเขาแล้วจริง ๆ เอื้อเปิดอกพูดกับเขมชาติอย่างลูกผู้ชายจนทำให้เขมชาติแน่ใจว่าเขาไม่มีวันจะไปอยู่กินกับหนูเล็กที่นั่นอย่างแน่นอนเพราะตอนนี้เอื้อต้องทำหน้าที่รักษาแผลใจให้กับเกนหลงที่โดนเขมชาติหักอก เขมชาติตามหนูเล็กไปสวิตเซอร์แลนด์ แต่เธอไม่ลดทิฐิ เขมชาติใช้ความพยายาม ดูแลเมียและลูกที่อยู่ในท้องอย่างเจียมเนื้อเจียมตัว ขณะเดียวกันเอื้อและเกนหลงที่เข้าใจกันแล้ว ได้ตามมาสวิตเซอร์แลนด์ ช่วยเชียร์ความรักของเขมชาติและหนูเล็ก สุดท้ายด้วยหัวใจรักของทั้งคู่ เขมชาติและหนูเล็กจึงยอมลดทิฐิ ต่างคนต่างขอโทษกัน หนูเล็กขอโทษที่ในอดีตจากเขมชาติไปโดยไม่ได้บอกลา ส่วนเขมชาติก็ขอโทษที่ได้ทำร้ายเธอทั้งที่ใจนั้นยังรักหนูเล็กมาตลอดเวลา ไม่เคยลืมเลือน ทั้งสองกอดบอกรักกันพร้อมที่จะดูแลกันตลอดไป ติดตามชมละคร อย่าลืมฉัน

แรงปรารถนา 2556

แรงปรารถนา (2556/2013) เพราะชาติกำเนิดที่ด่างพร้อย ทำให้พิทยา (ณเดชน์ คูกิมิยะ) ต้องทนการกดขี่จาก สุอาภา หรือ กระแต (คิมเบอร์ลี แอน เทียมสิริ) ลูกสาวของผู้ที่เป็นทั้งนายและผู้มีพระคุณ โดยไม่รู้ว่าการกลั่นแกล้งนั้น คือการตอบโต้ความถือดีที่พิทยากล้าปฏิเสธการแต่งงาน ที่ นพ (เกรียงไกร อุณหะนันทน์) ผู้เป็นพ่อของเธอ หมายมั่นจะให้พิทยาที่เขาชุบเลี้ยงมาตั้งแต่เด็ก มาเป็นผู้ที่จะดูแลลูกสาวจอมเฮี้ยวของเขา คนไม่เคยแพ้อย่างสุอาภา จึงทำทุกทางเพื่อจะเอาชนะ โดยเฉพาะกับ รวีพรรณ (ณัฐวรา วงศ์วาสนา) ผู้หญิงที่ทำให้พิทยาปฏิเสธเธอ ยิ่งสุอาภาได้ลูกยุจาก พราวพิไล (ธนิดา กาญจนวัฒน์) เพื่อนสาว สุอาภาก็ยิ่งได้ใจ กลั่นแกล้งพิทยาต่าง ๆ นานา จนวันหนึ่งพิทยาก็หมดความอดทน

การประกาศลาออกจากบริษัทของพิทยา ซึ่งเปรียบเสมือนมือขวาของนพนั้น ทำให้ บวร (สุริยนต์ อรุณวัฒนกูล) และ วรรณวดี (พริมรตา เดชอุดม) พี่ชายและพี่สาวของสุอาภา รู้ได้ทันทีว่าเป็นเพราะฝีมือของสุอาภา แต่ก็ไม่มีใครที่จะสามารถจัดการกับน้องสาวคนเล็กนี้ได้เลยสักคน ปวีณา (ภัณฑิรา พู่กลิ่น) พนักงานสาว เป็นเดือดเป็นร้อนออกนอกหน้าจน กรองทิพย์ (ศรีพรรณ ชื่นชมบูรณ์) คนเก่าคนแก่ ต้องปรามให้เก็บความรู้สึกบ้าง เพราะรู้ดีว่าปวีณาแอบรักพิทยามาตลอด ตรงข้ามกับ ภูวดล (อเล็กซ์ เรนเดลล์) ลูกชายคนเดียวของ ศรีพิไล (พิมพ์ผกา เสียงสมบุญ) อาสะใภ้ของสุอาภา ที่ทั้งดีใจ สะใจ ที่พิทยาจะได้ไปให้พ้นทางของเขาเสียที นพเล่นงานลูกสาว พร้อมขอร้องพิทยาให้อยู่ต่อ สุอาภาคิดว่าพิทยาแกล้งลาออกเพื่อเรียกร้องความสำคัญจากพ่อ ก็ยิ่งหมั่นไส้พิทยาเข้าไปใหญ่ สุอาภาเลยแกล้งวางแผนทำท่าสนิทชิดเชื้อกับพิทยาในงานเลี้ยงจนเป็นข่าว แถมยังหาเรื่องไปนอนค้างอ้างแรมที่บ้านของพิทยาในค่ำคืนที่ฝนกระหน่ำเพื่อให้รวีพรรณเข้าใจผิด ในค่ำคืนที่ได้ใกล้ชิด ความผูกพันแต่วัยเยาว์ซึมซาบเข้ามาในความรู้สึก แต่ในที่สุด ภาพเด็กชายพิทยากับเด็กหญิงกระแต ก็เป็นเพียงอดีตที่ทั้งคู่เลือกจะกดมันไว้ในส่วนลึกที่สุดของหัวใจ เมื่อความจริงหลังจากตื่นลืมตาขึ้นมา สุอาภาคือผู้หญิงที่เขาเกลียดขี้หน้า ส่วนพิทยาก็เป็นเพียงผู้ชายต้อยต่ำ ที่ถือดีกล้าปฏิเสธการแต่งงาน จนทำให้เธอต้องอับอาย แผนของสุอาภาไม่เป็นผล เพราะรวีพรรณทั้งรักและเชื่อใจพิทยา แต่ถึงจะหนักแน่นเพียงใด เมื่อรวีพรรณได้ยินคำยุยงจากคนรอบข้าง โดยเฉพาะ สินีนาฏ (พรรษชล สุปรีย์) ก็ทำให้รวีพรรณเริ่มหวั่นไหว รวีพรรณจึงให้พิทยาพิสูจน์รักแท้ที่มีต่อเธอ ด้วยการเร่งสร้างฐานะให้ผู้ใหญ่ยอมรับ การมุมานะทำงานหามรุ่งหามค่ำของพิทยา ยิ่งทำให้สุอาภาแค้นใจ เดินหน้าสร้างความร้าวฉานให้พิทยาและรวีพรรณ จน ณรงค์ (วิวัฒน์ ผสมทรัพย์) และ รมณีย์ (ธัญญา โสภณ) พ่อแม่ของรวีพรรณที่รังเกียจผู้ชายไม่มีหัวนอนปลายเท้าอย่างพิทยาอยู่แล้ว ออกโรงขัดขวางเต็มตัว เส้นทางของรวีพรรณกับพิทยาจึงเหมือนเป็นเส้นขนานเข้าไปทุกที เป็นความสะใจของสุอาภาอย่างมาก ขณะเดียวกันก็เป็นความอึดอัดกดดันของพิทยาอย่างที่สุดที่ต้องทนอยู่ร่วมโลกกับผู้หญิงใจร้ายอย่างสุอาภา แต่นั่นยังไม่หนักหนาเท่าที่เขาต้องรับรู้ว่ารมณีย์กำลังจะจับคู่รวีพรรณให้กับภูวดล เพราะมองเห็นความเหมาะสมทั้งฐานะและวงศ์ตระกูล การจับคู่ที่ผิดฝาผิดตัวกำลังจะเกิดขึ้น สร้างความปั่นป่วนให้กับทุกคน ยกเว้นแต่สุอาภาที่ยึดเอาสถานการณ์ของพิทยาและรวีพรรณซึ่งกำลังตกที่นั่งลำบากด้วยกันอยู่ทั้งคู่ โดยสุอาภาวางแผนเอาชนะใจพิทยาด้วยการเลิกข่มขู่ และทำในสิ่งตรงกันข้าม คือแสดงความเป็นเพื่อน ซึ่งการแสดงออกของสุอาภาก็แนบเนียนเสียจนพิทยาเองหลงเชื่อว่าสุอาภาคงเบื่อจะตอแยเขาแล้วจริง ๆ ทุกคนในบ้านพากันแปลกใจกับการที่สุอาภาขอเข้าไปฝึกงานในบริษัท ทั้งที่ก่อนหน้านี้ ไม่เคยแม้สักเสี้ยวความคิด ที่สุอาภาจะยอมทิ้งชีวิตอันสุขสบายของเธอ มีเพียงนพเท่านั้นที่ดูออกว่าลูกสาวกำลังจะเล่นเกมอะไรบางอย่าง แต่ด้วยความที่เขาอยากได้พิทยามาเป็นเขยอยู่แล้ว เนื่องด้วยในอดีต นพเคยหลงรัก พิมพ์ (ดารัณ บุญยศักดิ์) แม่ของพิทยามาก จึงยอมรับอุปการะพิทยา เมื่อพิมพ์ได้หอบพิทยามาฝากไว้กับเขาก่อนที่เธอจะเสียชีวิตไปพร้อมกับความลับที่เธอไม่ยอมปริปากว่าใครเป็นพ่อของพิทยา นพรู้เพียงว่าพิมพ์ได้พลาดท่า ไปได้เสียกับผู้ชายที่มีเมียแล้วเท่านั้น แต่เขาก็ไม่ได้รังเกียจพิทยา ตรงกันข้าม เขากลับรักและเอ็นดูพิทยาเหมือนลูกชายคนหนึ่ง ประกอบกับพิทยาเอง ก็ไม่เคยทำให้เขาผิดหวัง ไม่ว่าจะเป็นการเรียนและการทำงาน นพจึงดีใจและเลือกให้พิทยาเป็นคนฝึกงานให้กับสุอาภาเสียเลย ทั้งสุอาภาและพิทยาจึงติดกันเป็นปลาท่องโก๋ แบบไปไหนไปด้วย สุอาภาเองก็ทำการบริหารเสน่ห์อย่างเนียน ๆ ไม่ให้พิทยารู้สึกตัว ว่าเธอกำลังจะแทรกซึมเข้ามาเพื่อทำลายความรักของเขากับรวีพรรณ รวีพรรณเองที่ถูกแม่บังคับให้คบหากับภูวดล ก็เริ่มใจแกว่งกับการต้องทนเห็นพิทยากับสุอาภาใกล้ชิดกัน ส่วนภูวดลเองที่แม้จะแอบมีใจให้สุอาภา แต่ด้วยความที่ไม่ค่อยจะเป็นตัวของตัวเองนัก ก็เลยไม่กล้าขัดใจแม่ จึงคบหากับรวีพรรณอย่างฝืน ๆ คนที่มีความสุขที่สุดในเกมจับคู่นี้ จึงมีเพียงคนเดียวคือสุอาภา โดยที่เธอเองก็ไม่รู้ว่า ในภาพลวงตาที่เหมือนเป็นแผนของเธอนั้น ลึก ๆ แล้ว มีความรู้สึกบางอย่างซ่อนอยู่ เป็นความสุขที่ได้อยู่ใกล้ชิดกับผู้ชายอบอุ่นที่เธอคุ้นเคยมาแต่เล็กแต่น้อย ส่วนพิทยาเองก็รู้สึกแปลก ๆ ในบางครั้ง แต่ด้วยความที่ยังปักใจกับรวีพรรณ เขาจึงพยายามสลัดความรู้สึกนั้นออกจากใจ เมื่อไหร่ที่สุอาภายั่วใกล้ เขาก็รีบถอยห่าง สุอาภารู้เรื่องที่นพจะไปสู่ขอรวีพรรณ เลยรีบหาทางเอาชนะ โดยทำทีไปหาพิทยาที่บ้าน อ้างความปรารถนาดีเดิม ๆ คือความหวังดีกับเพื่อน พิทยาเองก็ไม่มีแก่ใจจะสู้รบกับสุอาภาอีก จึงปล่อยเลยตามเลย คืนนั้นสุอาภาจึงค้างอยู่ที่บ้านพิทยาอีกครั้ง แม้จะไม่มีอะไรเกินเลย แต่มันก็ทำให้เรื่องการสู่ขอที่นพอุตส่าห์บากหน้าไปนั้นต้องล้มเหลว เพราะรมณีย์ถือโอกาสเอาเรื่องที่สุอาภาไปค้างที่บ้านพิทยามาเป็นข้ออ้างทำให้พิทยาหมดโอกาสแก้ตัว พิทยาได้แต่แค้นใจและเริ่มรู้สึกว่าทุกอย่างเป็นแผนของสุอาภา เป็นครั้งแรกที่สุอาภารู้สึกเจ็บปวดกับสายตาเกลียดชังที่พิทยามองเธอ ส่วนนพเองแม้จะเสียใจที่ลูกสาวต้องมาผิดหวังซ้ำรอยพ่อที่เคยผิดหวังจากแม่ของพิทยา แต่เขาก็รู้สึกดีใจเพราะรู้ว่าความรักคือสิ่งเดียวที่จะเปลี่ยนแปลงหัวใจสุอาภาให้อ่อนโยนลงได้ รวีพรรณไปหาพิทยาที่บ้านแต่กลับไปเห็นภาพความใกล้ชิดระหว่างพิทยาและสุอาภาเกินกว่าความเป็นเพื่อน โดยไม่รู้ว่าสุอาภาเพียงแต่ไปขอโทษต่อสิ่งที่เธอทำกับพิทยา รวีพรรณจึงกลับไปด้วยความชอกช้ำใจ พิทยารีบตามไปอธิบาย รวีพรรณยอมเข้าใจและขอให้พิทยาพาเธอหนีไป แต่พิทยาปฏิเสธ เพราะเขาไม่ต้องการให้คำสบประมาทของพ่อแม่รวีพรรณ ที่เคยพร่ำด่าถึงกำพืดของเขาว่าต่ำทรามนั้น เป็นความจริง สุอาภาคิดที่จะชดใช้ความผิดของตัวเองด้วยการช่วยทำให้ณรงค์และรมณีย์ยอมรับพิทยา เธอสืบจากนพจนรู้ว่าที่จริงแล้วพิทยาไม่ใช่ลูกไม่มีพ่อ แต่เป็นเพราะพ่อของพิทยานั้น เป็นคนใหญ่คนโตที่ไม่ยอมรับพิทยาเป็นลูก แม่ของพิทยาที่หยิ่งในศักดิ์ศรีจึงตัดสินใจอุ้มท้องโดยไม่ปริปากบอกว่าใครเป็นพ่อของเด็ก จนโดนตราหน้าว่ามั่วจนหาพ่อให้ลูกไม่ได้ นพเคยหลงรักแม่ของพิทยามาก่อน จึงคับแค้นใจที่หญิงผู้เป็นที่รักถูกผู้ชายย่ำยีอย่างไม่ใยดี สุอาภาเห็นนพเขม่นกับ รัฐมนตรีภาสันต์ (ภาณุเดช วัฒนสุชาติ) พ่อของภูวดล ก็เลยเชื่อว่าบางทีภาสันต์นั่นแหละที่อาจจะเป็นพ่อแท้ ๆ ของพิทยาก็เป็นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสุอาภารู้ว่าลูกค้าคนสำคัญที่คอยให้พิทยาออกแบบบ้านให้คือ คุณนายจันทร์จำนง (โฉมฉาย ฉัตรวิไล) ย่าของภูวดล ก็ยิ่งทำให้สุอาภาเชื่อว่าที่คุณนายจันทร์ถูกชะตาพิทยาก็น่าจะเป็นเพราะพิทยาเป็นสายเลือดของเธอคนหนึ่งเช่นกัน สุอาภาเชื่อว่า หากรมณีย์ได้รู้ว่าพิทยาเป็นลูกของภาสันต์และเป็นพี่น้องกับภูวดล คนติดแต่เปลือกอย่างรมณีย์ก็จะยอมรับพิทยาเป็นลูกเขยได้เอง สุอาภาหาทางพิสูจน์ให้ภาสันต์ยอมรับพิทยาเป็นลูก ภูวดลไม่พอใจที่สุอาภาพยายามจะยกพิทยาขึ้นมาตีเสมอเขา เช่นเดียวกับรมณีย์ที่เดือดร้อนเพราะเห็นว่าสุอาภากำลังเข้าไปทำลายครอบครัวของศรีพิไลเพื่อนรัก พิทยาตกใจที่สุอาภาไปรื้อฟื้นเรื่องชาติกำเนิดของเขาขึ้นมา และที่เจ็บปวดยิ่งกว่านั้นก็คือ การที่เธอทำให้เขาต้องมาเห็นภาสันต์แสดงความรังเกียจแม่ของเขา นพตกใจในความรั้นของสุอาภา ที่ดันทุรังสืบเสาะปมทุกอย่างจนค้นพบความจริงเข้า พิทยาทะนงจนเกินกว่าจะยอมรับภาสันต์เป็นพ่อ เขาขอให้นพช่วยปกป้องเขาอีกครั้ง นพออกมาคลี่คลายปัญหาด้วยการโกหกว่าเรื่องที่สุอาภาขุดคุ้ยนั้นเป็นเพียงความเข้าใจผิด พิทยาขอร้องให้สุอาภาเลิกยุ่งกับชีวิตเขา สุอาภาเสียใจที่ความหวังดีของเธอกลายเป็นความผิดพลาดครั้งแล้วครั้งเล่า แต่สำหรับคุณนายจันทร์จำนงแล้ว ความพยายามของสุอาภานับว่าไม่สูญเปล่า แม้พิทยาจะไม่ยอมรับ แต่เธอก็มั่นใจว่าพิทยาเป็นหลานย่าของเธอแน่ ๆ รมณีย์ยังไม่วายจะจับภูวดลให้ได้ เพราะกลัวรวีพรรณจะกลับมาคบหากับพิทยาอีก แต่ตัวภูวดลเอง กลับถูกใจผู้หญิงอย่างสุอาภามากกว่า สุอาภาอยากทำให้รมณีย์เห็นธาตุแท้ความเจ้าชู้ของภูวดล จึงได้ทำเป็นเฟลิตเที่ยวกับภูวดล ภูวดลติดกับสุอาภาอย่างง่ายดาย ศรีพิไลและภาสันต์รับไม่ได้ที่ภูวดลไปหลงเสน่ห์ยายตัวแสบอย่างสุอาภา รมณีย์เชื่อว่าสุอาภานั้นเข้าข่ายโรคจิตขี้อิจฉาจนคิดจะแย่งผู้ชายทุกคนไปจากรวีพรรณ นพอ่านเกมออกว่าสุอาภาไม่ได้มีใจให้ภูวดลเลยแม้แต่น้อย แต่สิ่งที่เธอทำทั้งหมดนั้นก็เพื่อพิทยา นพรู้สึกเห็นใจลูกสาวที่กำลังหลงรักพิทยาเพียงข้างเดียว ภูวดลเริ่มรู้ตัวว่ากำลังถูกสุอาภาหลอกใช้เพื่อกันตัวเขาให้ออกห่างจากรวีพรรณ สุอาภาเปิดอกยอมรับเพราะเธอเองก็เบื่อจะเล่นละครกับภูวดลเต็มทนแล้ว ภูวดลคิดจะสั่งสอนสุอาภาด้วยการวางยาเพื่อรวบรัดหญิงสาว บวรและนพบอกพิทยาถึงแผนที่สุอาภากำลังเอาตัวไปพัวพันกับภูวดล พิทยาไม่อยากจะเชื่อว่าคนอย่างสุอาภาจะทำอะไรให้เขาด้วยความหวังดี เขาจึงแอบจับตาดูความสัมพันธ์ของสุอาภากับภูวดล จนได้รู้เรื่องที่ภูวดลจะวางยาสุอาภา พิทยาจึงรีบตามไปช่วยสุอาภาที่หมดสติไปได้อย่างหวุดหวิด ก่อนที่เธอจะพลาดท่าให้แก่ภูวดล นพเอาเรื่องภูวดลแบบกะจะเอาให้ถึงตาย พิทยาขวางนพไว้ด้วยความเป็นห่วงเพราะไม่อยากให้มือนพต้องเปื้อนเลือด พิทยาสับสนกับสิ่งที่สุอาภาทำให้เขา สุอาภาไม่กล้าบอกว่าเธอทำเพราะรู้สึกดี ๆ ต่อเขา เธอได้แต่อ้างว่าทำไปเพื่อชดใช้ความผิด เพื่อให้พิทยาได้กลับไปลงเอยกับรวีพรรณอีกครั้ง ภูวดลแกล้งปล่อยภาพหลุดของสุอาภาที่แอบถ่ายไว้ก่อนที่พิทยาจะเข้ามาชิงตัวสุอาภาไป สุอาภาเสียใจแต่ก็ทำเป็นชาชินกับข่าวฉาวระลอกใหม่ตามประสาสาวกร้านโลก นพเดือดดาลที่ถูกภูวดลหักหลัง พิทยาลุกขึ้นมาปกป้องครอบครัวผู้มีพระคุณของเขาด้วยการรับสมอ้างเป็นคนรักของสุอาภาและเป็นชายในภาพหลุดนั้นเสียเอง พิทยายอมแต่งงานกับสุอาภาเพื่อรักษาหน้าสุอาภา รวีพรรณแทบจะล้มทั้งยืน เมื่อพิทยาอ้างว่าบุญคุณสำคัญกว่าความรัก สุอาภาไม่เต็มใจแต่งงานเพราะรู้ว่าพิทยาทำเพื่อทดแทนบุญคุณ รวีพรรณตอกย้ำให้สุอาภารู้ว่าเธอจะได้พิทยาไปแต่ตัว งานแต่งงานจัดขึ้นอย่างเรียบง่ายตามคำขอของพิทยา พิทยาขอให้สุอาภาย้ายออกมาอยู่ที่บ้านของเขา เพราะเขาไม่ต้องการให้ใครมองว่าตกถังข้าวสาร เมื่อต้องมาใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน ความผูกพันในวัยเด็กของทั้งคู่ก็เริ่มกลับคืนมา พิทยาหาทางดัดนิสัยแย่ ๆ ของสุอาภา แต่แม้จะรู้สึกดีต่อกันแค่ไหน สุอาภาก็คงยังแต่งงานกับพิทยาแค่ในนาม เพราะเชื่อว่าพิทยายังรักรวีพรรณอยู่ ในขณะที่พิทยากลับคิดว่าสุอาภารังเกียจเกินกว่าจะเริ่มต้นชีวิตคู่กับผู้ชายต้อยต่ำอย่างเขา รมณีย์โล่งใจที่พิทยาออกไปจากชีวิตของรวีพรรณได้ รวีพรรณถูกบังคับให้แต่งงานกับภูวดล รวีพรรณตั้งใจประชดชีวิตด้วยการเสนอตัวเป็นภรรยาน้อยของพิทยา เพื่อหักหน้าพ่อแม่ที่บังคับให้เธอแต่งงานโดยไม่เต็มใจ รวีพรรณกลายเป็นคนแข็งกร้าว เย็นชา เธอเริ่มเป็นมือที่สามเข้าไปก้าวก่ายชีวิตครอบครัวของพิทยากับสุอาภา จนทำให้คนกลางอย่างพิทยาลำบากใจ เขาพยายามปฏิเสธไม่ให้ความหวังอะไรแก่รวีพรรณ สุอาภาเองเสียอีกที่กลับเป็นฝ่ายทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น คอยหนีกลับไปอยู่ที่บ้านตัวเอง เพื่อที่จะเปิดทางให้พิทยาใช้บ้านของเขาเป็นรังรักกับรวีพรรณได้ตามสบาย แต่ลึก ๆ แล้วสุอาภารู้ว่าไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะหึงหวงพิทยา เพราะเธอไม่ใช่เจ้าของหัวใจของเขา พิทยาไม่เคยมองเจตนาของสุอาภาในแง่ดี เขาได้แต่ตีความเอาเองว่าสุอาภาเห็นเขาเป็นพวกลักกินขโมยกินและมักง่าย และที่ร้ายยิ่งกว่านั้นก็คือ เธอไม่เคยใยดีในตัวเขาจนไม่เคยนึกที่จะหึงหวงหรือรั้งเขาไว้ซักนิด ด้วยทิฐิของพิทยาและสุอาภา ทำให้ทั้งคู่สร้างกำแพงขึ้นมาขวางกั้นความรู้สึกระหว่างกันทำให้ต่างฝ่ายต่างไม่เคยรับรู้ความรักที่ซ่อนอยู่หลังกำแพงนั้นเสียที ในขณะที่ความเจ็บปวดบีบคั้นให้รวีพรรณกลายเป็นผู้หญิงกล้าได้กล้าเสียที่ยอมทำทุกอย่างเพื่อตักตวงความสุขส่วนตัวแม้เพียงชั่ววูบ สุอาภากลับเรียนรู้ที่จะแก้ไขความผิดพลาดในอดีตด้วยการใช้สตินำทางในการใช้ชีวิต นพดีใจที่เห็นว่าความรักทำให้สุอาภานั้นโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาก รวีพรรณเสนอตัวขอมีสัมพันธ์กับพิทยาก่อนที่เธอจะต้องตกเป็นของภูวดล แต่พิทยาก็ไม่หวั่นไหว โดยให้เหตุผลว่าเขาต้องให้เกียรติสุอาภา พิทยาผิดหวังที่รวีพรรณทำตัวเหมือนไม่มีคุณค่าและยังจ้องทำร้ายจิตใจสุอาภาอยู่ตลอด พิทยาแทบไม่อยากจะเชื่อว่ารวีพรรณเป็นผู้หญิงคนเดียวกับที่เขาเคยรัก รวีพรรณเองก็เชื่อว่าพิทยารักสุอาภาไปแล้ว เพียงแต่เขาไม่กล้ายอมรับ สุอาภาเห็นรวีพรรณสนิทแนบแน่นกับพิทยา คิดว่าพิทยาเลือกรวีพรรณ สุอาภาตัดสินใจขอพิทยาหย่า ขณะที่พิทยารู้ว่าใจของเขามีแต่สุอาภาเพียงคนเดียว แรงรัก แรงปรารถนา ของหนุ่มสาวสองคู่จะจบลงเช่นไร ก็ต้องติดตามชมใน ละครแรงปรารถนา ได้ทุกวันศุกร์ เวลา 20.30 น. และวันเสาร์ - อาทิตย์ เวลา 20.15 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3 ละครแรงปรารถนา
ทาสรัก 2554

ทาสรัก (2554/2011) ปลายสมัยรัชกาลที่ 4 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ “เชียงน้อย” เป็นรัฐอิสระขนาดเล็กที่อยู่ระหว่างชายแดนไทยและพม่า ปกครองในระบอบกษัตริย์ มีเจ้าหลวงมหาชีวิต (สมภพ เบญจาทิกุล) ที่ชราและป่วยหนักเป็นผู้ปกครอง เจ้าหลวงมหาชีวิตกำลังรอคอย เจ้าชายตันละวินที่หายไปคราวเกิดสงครามกลางเมืองเมื่อยี่สิบปีก่อน เจ้าหญิงเอยาวดี(เข็มอัปสร สิริสุขะ) ทนดูบิดานอนหายใจรวยรินด้วยความทุกข์ไม่ไหว ตัดสินใจลอบหนีออกไปจากคุ้มหลวง เดินทางเข้ามาในประเทศไทย พร้อมกับ อองดิน(ทฤษฎี สหวงษ์) นายทหารองครักษ์ และนักรบมือฉกาจผู้เงียบขรึม พร้อมด้วย นางติ๊ด (ดารณีนุช โพริปติ) พี่เลี้ยงอารมณ์ดี ข่าวการเดินทางมาในประเทศไทยเข้ามาถึงหูคนใน “วังเขียว” ของหม่อมนวล(ธัญญา โสภณ) ซึ่งมีบุตรชายแสนรักแสนหวงเพียงคนเดียว คือ ม.จ.ดาบปราบศัตรู หรือ ท่านดาบ(กฤษดา พรเวโรจน์) หม่อมนวลให้จัดเสลี่ยงออกไปรับเจ้าหญิง และให้ออกประกาศการต้อนรับเจ้าหญิงอย่างยิ่งใหญ่ที่หัวเมือง ในฐานะเจ้าหญิงผมหอม ผู้ทรงสิริโฉมงดงาม(เกิดจากการอาบน้ำบำรุงสมุนไพรตำรับโบราณทุกวันตั้งแต่เกิด) เจ้าหญิงเอยาวดีคือคู่หมั้นของท่านดาบ ทั้งสองไม่เคยพบหน้ากัน แต่หม่อมนวลก้หวังประโยชน์มหาศาลจากเชียงน้อยจึงสนับสนุนเต็มที่ ในขณะที่ฟ้ากำหนดให้เจ้าหญิงเอยาวดี เกิดท่ามกลางเส้นทางปูด้วยกลีบกุหลาบ มีหญิงอีกผู้หญิง กำเนิดขึ้นอย่างแร้นแค้นในเรือนทาสของคุณ พระพิพิธโอสถ(ภาณุเดช วัฒนสุชาติ) อีวาด(เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ)เป็นทาสตั้งแต่วันที่ลืมตาดูโลก เพราะพ่อแม่เป็นทาสทั้งคู่ วาดเป็นเด็กฉลาด ทะเยอทะยาน สนใจใฝ่รู้ วาดยอมให้คุณโนรี(โชติกา วงศ์วิลาศ)ลูกสาวพระพิพิธตบตี ระบายอารมณ์เพียงเพราะต้องการจะแอบฟังคุณโนรีเรียนเขียนอ่าน และยอมให้พระพิพิธเตะถีบเพียงเพื่อจะได้เข้าไปช่วยงาน และหาความรู้ในห้องเก็บยาของพระพิพิธ พร้อมกับดูแลแม่คือ นางวง (ชุดาภา จันทเขตต์) ระหว่างความลำบากยากแค้นนั้น วาดใช้ความจำอันแสนวิเศษของตน จดจำตำรายาของพระพิพิธจนกลายเป็นผู้มีความสามารถด้านการแพทย์แผนโบราณอยู่เงียบๆ นางวาดถูกขายให้กับโรงโสเภณีที่มี คุณพระพาณิชย์หรือจีนฮง(ประกาศิต โบสุวรรณ)เป็นเจ้าของ จีนฮงมีอาชีพค้าทาส และเปิดโรงโสเภณีใหญ่ที่สุดอยู่ในพระนคร ทนมือทนตีน ทนเจ็บตัวนั้นทนได้ แต่ให้ทนบำเรอกามแก่ผู้ชายทั่วทั้งพระนคร เห็นทีจะไม่ไหว วาดตัดสินใจหนีเข้าป่า เอาตัวรอดไปเจอกับขบวนเสลี่ยงต้อนรับเจ้าหญิงเอยาวดีที่หัวเมือง โดนมีนายขวด(พสิน เรืองวุฒิ) สมุนเอกจอมโหดของจีนฮงวิ่งถือดาบไล่ตามไปติดๆ ข้างฝ่ายเจ้าหญิงเอยาวดีนั้นก็กำลังว้าวุ่นใจอยู่กับขบวนที่มารอต้อนรับตนอยู่หน้าเมืองเจ้าหญิงและคณะ มิปรารถนาที่จะเปิดเผยตน เพราะเกรงว่าหากเข้าไปอยู่ในวังแล้ว ความเป็นเจ้าหญิงจะทำให้ติดตามพี่ชายไม่สะดวก และกลุ่มของเจ้าหญิงเอยาวดีนั้นก็มีศัตรูติดตามอยู่เช่นกัน ศัตรูของเจ้าหญิงเอยาวดี คือทหารของ สมิงสินธู(ศานติ สันติเวชชกุล) อาแท้ๆของเจ้าหญิงที่เป็นกบฏในนครเชียงน้อย ในช่วงเวลาชุลมุนที่หัวเมืองนี่เอง อองดินพบกับวาดและได้ช่วยนางวาดสู้กับนายขวดอองดินขอให้วาดตอบแทนตน ด้วยการใส่ชุดเจ้าหญิงและขึ้นเสลี่ยง เพื่อเป็นตัวล่อกลุ่มศัตรู นางวาดทำตามเพราะเชื่อว่าตนจะหนีเข้าป่ารถข้างหน้า การณ์ไม่เป็นดังนั้น วาดหนีไม่ได้ เพราะหม่อมนวลมาพบเข้าและเข้าใจไปว่านางวาดคือเจ้าหญิงเอยาวดี เวลาเดียวกันนั้น เอยาวดีที่อยู่ในชุดของทาส หลุดออกจากการคุ้มกัน ของอองดินและนางพี่เลี้ยงถูกนายขวดจับตัวไปกับกลุ่มทาสที่ถูกซื้อมาเป็นกลุ่มใหญ่ที่กำลังจะเดินทางไปโรงโสเภณี เอยาวดีในบทบาทของนางทาสวาด เมื่ออยู่ปะปนกับนางมาสต่างๆก็ได้เรียนรู้ชีวิตอดสูของทาสหญิงทั้งหลายมากขึ้น ที่มีค่าเป็นเพียงสมบัติของพ่อหรือของผัว เอยาวดีได้เพื่อนสนิทเป็นทาสด้วยกันชื่อพี่ขาว (ชมพู่ ก่อนบ่าย) ทั้งสองมักมีเรื่องกับทาสหญิงขี้อิจฉา จอมเอาเปรียบ ชื่ออีพริ้ง(สกาวใจ พูนสวัสดิ์) เอยาวดีกำลังถูกทรมานให้รับแขกคนแรก อองดินคิดจะพาทั้งเอยาวดีและนางวาดออกไปจากเมืองหลวงเพื่อตัดปัญหาความวุ่นวายทั้งหมด แต่เอยาวดีกลับปฏิเสธ หล่อนได้เบาะแส พี่ชายแล้ว โสเภณีที่เป็นชาวเชียงน้อยชื่อ นางบาง( ปวันรัตน์ นาคสุริยะ) ที่ทำงานมาก่อนหน้า เล่าให้ฟังถึงกลุ่มแขกชาวเชียงน้อย ที่พูดถึงองค์ชายพลัดถิ่นของเขา เอยาวดีขออองดินอยู่ในโรงโสเภณีต่อไป อองดินไม่ยอม เอยาวดีจีงขอความช่วยเหลือจากสมองอันชาญฉลาดของนางวาด นางวาดจัดสมุนไพร ยาเมา ให้ผู้ชายที่มาใช้งานเอยาวดี จากนั้นก็จะให้นางบางและนางขาวทำหน้าที่นอนกับผู้ชายคนนั้นแทน ตื่นขึ้นมา ชายเหล่านั้นก็จะนึกไปว่าได้นอนกับเอยาวดีเป็นที่เรียบร้อย ด้วยวิธีนี้ เอยาวดีเชื่อว่าตนจะเอาตัวรอดไปได้ เอยาวดีและนางวาดตัดสินใจปลอมเป็นกันและกันต่อไป ทาสยังคงเป็นเจ้าหญิงและเจ้าหญิงยังคงเสี่ยงอันตรายอยู่ในโรงโสเภณีต่อไป วาดสวมบทบาทการเป็นเจ้าหญิง หม่อมนวลจอมงก เอาใจใส่ดูแลเต็มที่ ในขณะที่ ม.จ ดาบปราบศัตรู ไม่ยอมกลับบ้าน ท่านดาบอ้างเหตุราชกิจในหัวเมือง จงใจแสดงความไม่สนใจต่อเจ้าหญิงคู่หมั้น แต่แล้ว ท่านดาบกลับไปพบกับเอยาวดี คู่หมั้นตัวจริงโดยบังเอิญในคืนหนึ่ง สหายของท่านดาบเห็นว่าท่านดาบกำลังเมา จึงคิดจะกลั่นแกล้งท่านดาบปราบศัตรู ด้วยการพานางโลมที่กำลังเลื่องชื่อจากโรงโสเภณีมากำนัล เอยาวดีพบกับท่านดาบโดยไม่รู้ว่าท่านดาบเป็นใคร ท่านดาบตกหลุมรักเอยาวดีทันที แต่เอยาวดีไม่มีเวลาคิดเป็นอย่างอื่น จัดการเอาสมุนไพรยาเมาให้ท่านดาบปราบศัตรูเสวย แม้ทั้งคู่จะไม่ได้มีสัมพันธ์กัน แต่ท่านดาบก็หลงใหลเอยาวดีจนถอนตัวไม่ขึ้น แม้ว่าหม่อมนวลจะพยายามให้ใกล้ชิดกับเจ้าหญิงองค์ปลอมในวัง แต่ท่านดาบก็ไม่สนใจ นายก้าน(เบญจพล เชยอรุณ) ทาสยังรับใช้ใกล้ชิดจอมกะล่อนของท่านดาบ รู้ดีว่าหัวใจของท่านดาบนั้นอยู่ที่ใคร คุณหลวงอรรถ(วิศรุต วิจิตรานนท์) ข้าราชการฉ้อฉล ที่กำลังทรงอิทธิพล เคยมาเที่ยวที่โรงโสเภณี และคิดไปว่าตนได้นอนกับเอยาวดี หลวงอรรถหลงใหลเอยาวดี ทุ่มเงินขอซื้อเอยาวดีจากจีนฮง แต่จีนฮงปฏิเสธ หลวงอรรถจึงจัดสินใจดักฉุดเอยาวดี เดชะบุญที่ท่านดาบมาพบเข้าและช่วยได้ เอยาวดีจึงตัดสินใจหนีไปกบดานในชุมชนของชาวเชียงน้อย ท่านดาบรับรู้เรื่องราวดังกล่าวก็ทำใจทอดทิ้งเอยาวดีไม่ได้ จำใจเป็นผู้พาเอยาวดี เดินทางขี่ม้าเข้าไปในชุมชนของชาวเชียงน้อยด้วยตนเอง อองดินว้าวุ่นใจนัก แม้จะรู้ว่าเอยาวดีปลอดภัย อองดินหลงรักเจ้าหญิงเอยาวดีฉันท์ชู้สาวมาตั้งแต่เด็ก การรับรู้ว่าเอยาวดีรอนแรมสองต่อสองเข้าไปในป่าพร้อมชายอีกคนนั้นทำให้หัวใจอองดินเจ็บปวด นางวาดเองก็เศร้าสร้อยไม่ต่างกับอองดิน หลายวันมานี้นางวาดเริ่มใฝ่ฝันว่าเมื่อตนกับท่านชายดาบผูกสมัครรักใคร่กัน ในวันที่ความจริงถูกเปิดเผย เมื่อได้เป็นเมียเจ้า ตนก็จะปลอดภัยแถมยังพ้นจากสถานะของความเป็นทาส หลวงอรรถเมื่อรู้ว่าเอยาวดีหายไป ภายใต้การปกป้องของท่านดาบไม้เบื่อไม้เมากับตนก็ยิ่งโมโหมากขึ้น เขาพากลุ่มนักเลงออกติดตามท่านดาบไปตามทาง ชีวิตของเจ้าหญิงเอยาวดีและนางทาสวาดซึ่งสลับตัวกันผจญชีวิตและเรื่องราวความรักของสองคู่จะลงเอยอย่างไรก็ต้องติดตามชมใน “ทาสรัก”

วนิดา 2553

วนิดา (2553/2010) วนิดา วงศ์วิบูลย์ (แอฟ ทักษอร) หญิงสาวที่ถูกบิดาสั่งจับแต่งงานกับ ประจักษ์ มหศักดิ์ (ติ๊ก เจษฎาภรณ์ ผลดี) นายทหารม้าที่ต้องมารับเคราะห์กรรมแทนน้องชาย ที่ติดหนี้กู้เงินจากบิดาของวนิดา จนเกือบถูกฟ้องล้มละลาย ชีวิตของสองหนุ่มสาวต้องตกอยู่ในสภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก โดยเฉพาะฝ่ายชายที่มีคนรักและมารดาที่คอยหวงแหนเขาดุจจงอางหวงไข่ แต่ว่าหญิงสาวมีกําลังใจ ที่เข้มแข็งในการพยายามหาข้อเท็จจริง เพื่อลบล้างมลทินให้กับย่าของเธอ คือคุณหญิงมณฑา ที่ถูกใส่ร้ายป้ายสิว่าคบชู้จนต้องระเห็จออกจากบ้านมหศักดิ์ โดยมีประจักษ์คอยช่วยเหลือด้วยใจยุติธรรมเป็นที่ตั้ง

สูตรเสน่หา 2554

สูตรเสน่หา (2552/2009) อลิน ดาราสาวเจ้าเสน่ห์ มั่นอกมั่นใจในความแสนสวยแสนดีและร่ำรวยของตนเอง เพราะความมั่นใจนี้ ทำให้อลินมีลักษณะนิสัยที่ทั้งน่าหมั่นไส้ น่าเบื่อและบางครั้งก็ถึงกับน่าเกลียดน่าชัง อลินจริงใจกับความรู้สึกของตัวเองมาก ๆ ตามประสาสาวมั่น เมื่ออลินได้พบกับพสุสุดยอดเชฟที่เธอจ้างมาสร้างภาพ อลินคิดว่าพสุ เป็นคนน่ารำคาญมาก แต่อลินต้องอาศัยพสุเพื่อจะได้เป็นสุดยอดพิธีกร และเพื่อพิชิตหัวใจอนุชา หนุ่มนักธุรกิจวงการโทรทัศน์ เจ้าชายในฝันที่อลินอยากจะแต่งงานด้วย อลินจึงลงทุนด้วยมารยากว่าร้อยเล่มเกวียน จนได้สูตรเสน่หามาครอบครอง ติดตามต่อได้ใน สูตรเสน่หา

พระจันทร์สีรุ้ง (2552/2009) อารักษ์แสดงโดย (พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง) เป็นกระเทยนางโชว์ ที่รับเด็กผู้ชายแรกเกิดมาจากเพื่อนนางโชว์ด้วยกันที่คลอดแล้วทิ้งไว้ไปอยู่กับฝรั่งที่เมืองนอก อารักษ์ก็รักเด็กคนนี้มาก และหนีจากวงสังคมนางโชว์ไปเปิดร้านเสริมสวยที่เชียงใหม่ ทำตัวใหม่เป็นผู้ชายเจ้าของร้านเสริมสวยที่หล่อมาก และกิจการดีขึ้นเป็นลำดับเพราะเด็กผู้ชายคนนี้เป็นกำลังใจ ไม่มีใครรู้ว่าอดีตอารักษ์คือกระเทยนางโชว์ แม้แต่ตะวัน (สุกฤษฎิ์ วิเศษแก้ว) ลูกชายที่น่ารัก อารักษ์สั่งสอนตะวันจากนิทานพระจันทร์ยามค่ำคืน2 พ่อลูกจะคุยกระหนุงกระหนิงกันด้วยความรัก จากนิทานพระจันทร์ เมื่อโตขึ้นอารักษ์ส่งตะวันเข้าเรียนในโรงเรียนที่ดีที่สุดของเชียงใหม่ เป็นโรงเรียนฝรั่ง สองคนพ่อลูกรักกันมาก จนจะขาดจากกันไม่ได้ เมื่อตะวันเป็นหนุ่มมาสอบเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัยในกรุงเทพและพบกับปลายฟ้า (ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ) เป็นเพื่อนมหาวิทยาลัยเดียวกัน ตะวันหลงรักปลายฟ้าตั้งแต่แรกเห็น และรักมาตลอด ไม่เคยปันใจให้ใครแม้จะมีเพื่อนสาวจำนวนมากมาให้ความสนใจ แต่ปลายฟ้าผู้เย่อหยิ่งจะคอยดูถูกตะวันตลอดเวลาเช่นกัน เพราะปลายฟ้าเป็นลูกคนรวย มีแฟนแล้วเป็นหนุ่มสังคมชื่อดัง จนวันหนึ่งตะวันกลายเป็นนักร้องซูเปอร์สตาร์ของฟ้าเมืองไทย และจากการตื๊อรักของตะวัน จนปลายฟ้าเห็นใจมาคบหาตะวันเป็นคู่รัก เรื่องกำลังจะดี แต่ปรากฏว่าแม่ของตะวัน อรดี (จินตหรา สุขพัฒน์) ที่ไปมีสามีฝรั่งกลับมาเมืองไทย มีฐานะร่ำรวยและคิดถึงลูก สืบทราบจนแน่ชัดว่าลูกอยู่กับอารักษ์จึงจะไปตามลูกกลับมา แต่ขณะนั้นตะวันผู้แสนน่ารัก นิสัยดี ร่าเริง มีน้ำใจ ก็พบอุบัติเหตุสมองกระทบกระเทือนจำความในช่วงต้นๆไม่ได้ รวมถึงจำอารักษ์พ่อของตนเอง และปลายฟ้าไม่ได้อีกด้วย อรดีจึงเข้ามาแทรกบอกว่าเป็นแม่ และกล่าวหาว่าอารักษ์คือผู้ชายที่ไม่หวังดีกับตะวันอย่าไปคบด้วยเด็ดขาด ทำให้ตะวันปวดหัวทุกครั้งที่คิดถึงอดีต แต่ต้องเชื่อแม่และรังเกียจอารักษ์ หลังอุบัติเหตุนิสัยของตะวันเปลี่ยนไปเป็นคนละคนจากคนน่ารัก กลายเป็นคนที่นิสัยดื้อรั้น มุทะลุ ปากจัด ไม่เกรงกลัวใครหน้าไหนทั้งสิ้น ปลายฟ้าจึงพยายามช่วยเหลืออารักษ์ด้วยการเล่าเรื่องนิทานพระจันทร์ให้ตะวันฟังบ่อยๆ..จนตะวันเริ่มเห็นอดีตขึ้นมารำไร ในที่สุดก็จำความได้และกลับมาเป็นตะวันที่น่ารักเหมือนเดิม เป็นลูกที่รักพ่ออารักษ์ และมีคู่รักที่รักกันมากชื่อปลายฟ้า

สะใภ้ลูกทุ่ง 2551

สะใภ้ลูกทุ่ง (2551/2008) ความรักระหว่างหนุ่มชาวกรุงกับสาวลูกทุ่ง จะลงเอยอย่างไร เมื่อมีอุปสรรคมากมายรอพวกเขาอยู่ ความวุ่น ๆ ของ อาติยะ สถาปนิกหนุ่ม รูปหล่อ ชายในฝันของสาว ๆ หลายคนในเมืองกรุง กับ สมวิญญา นักเรียนแพทย์จากชนบท ผู้ยึดมั่นในอุดมคติ เมื่อเขาและเธอมาพบกัน เรื่องราววุ่น ๆ จึงเกิดขึ้น แล้วความขัดแย้งต่าง ๆ จะแปรเปลี่ยนเป็นความรักได้อย่างไร ความรักระหว่างหนุ่มชาวกรุงกับสาวลูกทุ่ง จะลงเอยอย่างไร เมื่อมีอุปสรรคมากมายรอพวกเขาอยู่ และรอให้คุณร่วมลุ้นและสัมผัสไปพร้อม ๆ กัน

สวรรค์เบี่ยง 2551

สวรรค์เบี่ยง (2551/2008) "ลีลา" กำลังจะเข้าพิธีแต่งงานกับคู่หมั้นหนุ่มในอีกห้าวันข้างหน้า แต่โชคร้ายประสบอุบัติเหตุและคู่หมั้นของเธอเสียชีวิต ในขณะฝ่ายคู่กรณีก็สูญเสียภรรยาเช่นกัน นั่นทำให้ชะตาชีวิตของลีลาพลิกผัน… เธอตอบตกลงแต่งงานกับ "คุณคิด วรวัตต์" พ่อม่ายสูงวัยผู้ขับรถคันที่ชนเข้ากับคู่หมั้นของเธอ ด้วยเหตุผลหลักที่ฝังลึกในใจเธอก็คือ…เขาเป็นบิดาของ "คาวี วรวัตต์" ชายหนุ่มที่เธอเคยหลงใหลได้ปลื้มในตอนที่ยังอยู่ในวัยรุ่น แล้วถูกเขาปฏิเสธด้วยการหยามเหยียด… เมื่อแต่งงานกับคุณคิด ลีลาก็พาครอบครัวของเธอย้ายเข้ามาอยู่บ้านเดียวกับคาวี… นั่น ทำให้คาวีมีโอกาสได้เฝ้ามอง "นาริน" หญิงสาวที่เข้มแข็งและมีความมั่นคงในอารมณ์ ผู้น้องสาวของลีลาอย่างสนอกสนใจอยู่ลึกๆ แม้ภายนอกจะแสดงอาการดูหมิ่นและหยามเหยียดอย่างเปิดเผย... จะมีสิ่งใดที่เปลี่ยนใจชายหนุ่มอารมณ์ร้าย ผู้เย่อหยิ่งยโส ถือตัวว่าเกิดมามีชาติตระกูลอย่างคาวีได้หรือไม่? ติดตามร่วมลุ้นไปพร้อมกันได้

รักนี้หัวใจเราจอง 2550

รักนี้หัวใจเราจอง (2550/2007) ภูวนัย ลูกชายคนเดียวของ ดร.ภูทัศน์ นักธรณีวิทยา เรียนจบและทำงานที่อเมริกา วันหนึ่ง ภูวนัย เดินทางกลับกรุงเทพฯ แต่คลาดกับพ่อที่เดินทางไปต่างประเทศ ภูวนัย จึงไปหัวหินให้ ลุงล่ำ หา เรือไปตกหมึกกลางทะเลยามดึก...วีน่า นางแบบชื่อดัง ทิ้งงานเพื่อไปหา ระรินทิพย์ มารดาที่โทร.มาตามให้ไปพบ บนเรือยอชต์กลางทะเล โดยไม่รู้ว่าแม่ขายเธอ ให้กับ ท่านบวงสรวง ผู้มีอิทธิพลทางการเมือง เพื่อนำเงินไปเล่นการพนัน แต่เธอหนีออกไป ได้ก่อนจะพลัดตกเรือ ก็พอดี ภูวนัย ช่วยเธอไว้ แต่ก็ทำให้เรือล่มจนไปค้างด้วยกันที่เกาะร้าง ติดตามต่อได้ใน รักนี้หัวใจเราจอง

ยิ่งเกลียด (เธอ) ยิ่งเจอรัก (2549/2006) ไปรยา ( ปาย ) สาวสวยเจ้าของรีสอร์ตตกหลุมพราง ปิ่นแก้ว ผู้เป็นแม่ที่สร้างสถานการณ์ให้ลูกสาวไปเจอกับ พิรัล สถาปนิกหนุ่มผู้รักอิสระลูกชายของ ราตรี เพื่อนรัก ที่หวังจะเกี่ยวดองเป็นทองแผ่นเดียวกัน แต่ด้วยสัญชาติญาณเพลย์บอยของพิรัลจึงชิ่งหนีพิธีดูตัวได้ทัน ทำให้ราตรีผู้เป็นแม่เสียผู้ใหญ่ ปายเองก็โมโหที่ถูกคลุมถุงชนแถมฝ่ายชายไม่ยอมมาอีก จึงต่อว่าปิ่นแก้วแล้วยื่นคำขาดว่าจะไม่ยอมให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก ติดตามต่อได้ใน ยิ่งเกลียดเธอยิ่งเจอรัก

แก้วตาพี่ 2549

แก้วตาพี่ (2549/2006) ชิษณุ หนุ่มหล่อทายาทคนเดียวของตระกูลนเรศวร เขามีภรรยาสาวสวยชื่อ เลอลักษมี ระหว่างขับรถไปเที่ยวด้วยกันชิษณุและเลอลักษมีเกิดทะเลาะกัน ทั้งคู่ประสบอุบัติเหตุชิษณุตาบอดและเลอลักษมีรับไม่ได้กับสภาพของชิษณุ จึงทิ้งและหนีไปแต่งงานใหม่กับเศรษฐี กำลาภ นาถลดา อาจารย์สาวในมหาวิทยาลัยชื่อดังดีกรีปริญญาโท แต่ชีวิตเธอต้องพังลงด้วย คฑาเทพ ชายที่เพียรจีบเธอมานานจนเธอตกลงจะแต่งงานกับเขา แต่กลับมี เปรอมาศ ภรรยาของคฑาเทพบุกมาเอาเรื่องเธอถึงมหาวิทยาลัยฟ้องร้องจนเธอถูกไล่ออก นาถลดาจึงหนีไปอยู่ที่ทะเลหวังฆ่าตัวตาย แต่ชิษณุเข้ามาชนเธอเกือบตกน้ำ ทำให้เธอรู้ว่าเธอยังไม่อยากตาย นาถลดาขอบใจชิษณุที่ทำให้เธอรู้ใจตัวเอง และนาถลดาก็เข้าใจผิดคิดว่าชิษณุเป็นชาวประมงตาบอด ชิษณุไม่บอกความจริง แต่หลังจากทั้งคู่ได้คุยกันต่างคนต่างเห็นใจซึ่งกันและกัน จากความเห็นใจก็กลายเป็นความรัก ชิษณุจึงโกหกนาถลดาว่าตนเองเคยขอความช่วยเหลือองค์กรการกุศลเพื่อไปผ่าตัดตา ที่ประเทศอังกฤษ อยากให้นาถลดาไปดูแลแต่จะไปได้ก็ต้องเป็นคนที่ใช้นามสกุลเดียวกันเท่านั้น นาถลดาตกใจแต่ไตร่ตรองและต้องการหนีจากเรื่องวุ่นวาย เธอจึงตกลงใจช่วยเหลือชิษณุด้วยการจดทะเบียนสมรสกัน แต่การมาของนาถลดาทำให้ นวล ภรรยาของ เนติวิทย์ ทนายประจำตระกูลนเรศวรและ อมิตตดา ผู้เป็นลูกสาวที่หลงรักชิษณุมาตั้งแต่เล็กไม่พอใจมาก การเดินทางไปอังกฤษชิษณุพานาถลดาและ อมัจจ์ น้องชายอมิตตดาไปด้วย ชิษณุรักอมัจจ์เหมือนน้องแท้ๆ และตั้งใจส่งเสียอมัจจ์ให้เรียนที่อังกฤษเลย ในอังกฤษพวกเขาได้เช่าอพาร์ทเม้นท์อยู่ด้วยกัน โดยมี พฤกษ์ เพื่อนของชิษณุช่วยดูแล ด้านเลอลักษมีเมื่อรู้ข่าวว่าชิษณุแต่งงานใหม่ เธอตามไปราวีนาถลดาที่อังกฤษเพื่อจะแย่งชิษณุคืนเพราะกำลาภสามีกำลังจะล้ม ละลาย เลอลักษมีทำทุกวิถีทางเพื่อยุแหย่ให้ชิษณุและนาถลดาทะเลาะและเลิกกัน แต่พฤกษ์ก็เป็นกันชนให้เสมอ ยิ่งมีคนช่วยเหลือนาถลดามากเท่าไร เลอลักษมียิ่งริษยามากขึ้นเท่านั้น เลอลักษมีแอบขโมยจดหมายเรื่องการผ่าตัดตาของชิษณุมาโดยที่นาถลดายังไม่เห็น จดหมาย และใส่ร้ายนาถลดาว่าไม่ยอมบอกเพราะไม่อยากให้ชิษณุหาย เพราะกลัวว่าจะเห็นว่านาถลดาหน้าตาน่าเกลียด แต่ชิษณุไม่เชื่อเลอลักษมีจึงบอกว่าอย่าเพิ่งบอกนาถลดาว่าชิษณุรู้เรื่อง จดหมายแล้ว รอดูว่านาถลดาจะบอกชิษณุหรือไม่ ชิษณุรอแต่ก็ต้องผิดหวังเพราะนาถลดาไม่บอก จนจดหมายฉบับที่สองส่งมาชิษณุจึงได้ผ่าตัดตา หลังจากที่ชิษณุมองเห็นเขาก็พบว่านาถลดาน่ารักและสวยงามอย่างที่ทุกคนบอกตอน ที่เขาตาบอดเสมอ แต่ปมในใจก็ยังไม่คลายเรื่องจดหมายที่นาถลดาไม่ยอมบอกเขา ทำให้การอยู่ด้วยกันเป็นไปไม่ราบรื่น วันหนึ่งชิษณุพานาถลดาไปร่วมงานวันเฉลิมฯ ที่สถานฑูตไทย นาถลดาเจอกับคฑาเทพและเปรอมาศ เพราะคฑาเทพย้ายมาเป็นผู้ช่วยทูตทหารคนใหม่ คฑาเทพเบ่งใส่ชิษณุแต่ก็ถูกคนที่รู้จักกับชิษณุตอกกลับจนหน้าเสีย เปรอมาศจึงพาสามีกลับบ้านด้วยความอาย เลอลักษมีสืบจนรู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างคฑาเทพและนาถลดาเป็นอย่างไร จึงเกิดความคิดที่จะใช้วิธีนี้หลอกชิษณุให้เลิกกับนาถลดา เริ่มจากการทำดีกับอมิตตดาเพื่อหลอกใช้ และมีข้อแลกเปลี่ยนโดยหลอกว่าจะช่วยให้สมหวังกับชิษณุ อมิตตดาหัวอ่อนเชื่อทันที คฑาเทพมีโอกาสเจอกับนาถลดาและชวนเธอไปดื่มน้ำ คฑาเทพชวนนาถลดาไปหาความสุขด้วยกันแต่นาถลดาก็ด่าเขากลับจนเจ็บแสบ คฑาเทพโกรธจึงยอมร่วมมือกับเลอลักษมีเพื่อทำลายนาถลดา แต่การที่ต้องหลอกนาถลดาเป็นเรื่องยาก จึงใช้อมิตตดาเป็นตัวแทนเนื่องด้วยทั้งสองมีบุคคลิกคล้ายกัน ทั้งหมดเริ่มแผนการด้วยการให้อมิตตดาทำทีแกล้งขอเสื้อผ้าจากนาถลดาเพราะเห็น ว่าเธอจะกลับเมืองไทยแล้ว นาถลดาใจอ่อนพาไปเลือกเสื้อผ้า และเผลอบอกอมิตตดาอีกว่าชุดไหนชิษณุเป็นคนซื้อให้ อมิตตดาเลือกชุดที่ชิษณุซื้อให้ นาถลดาเสียดายแต่ก็สงสารอมิตตดาจึงให้ไป ด้านเลอลักษมีก็เริ่มแผนการต่อไปเมื่อ คุณสุจิตรา ผู้ใหญ่ที่คนไทยในอังกฤษเคารพนักถือจะจัดงานเลี้ยง เลอลักษมีแนะนำให้คุณจิตราเลือกนาถลดาและอมิตตดามาช่วยทำอาหาร เพราะทั้งสองคนทำอาหารเก่ง คุณจิตราก็ขอให้นาถลดาและอมิตตดามาช่วยในคืนงานเลี้ยง เลอลักษมีมาหาชิษณุที่บ้านพร้อมกับเปรอมาศ เปรอมาศบอกชิษณุว่าให้ช่วยพูดกับนาถลดาว่าขอคฑาเทพสามีเธอคืน ชิษณุไม่เชื่อโทรหานาถลดาที่บ้านคุณจิตรา แต่อมิตตดารอรับโทรศัพท์แทนและบอกว่านาถลดาออกไปนานแล้ว หลังจากวางสายอมิตตดารีบออกไปเพื่อปลอมตัวเป็นนาถลดา เพื่อไปจู๋จี๋กับคฑาเทพในผับแห่งหนึ่ง เปรอมาศและเลอลักษมีพาชิษณุไปที่ผับนั้นและเห็นคฑาเทพและอมิตตดาที่ปลอมตัว เป็นนาถลดาจูบกัน แต่นาถลดาตัวจริงกลับอยู่ในงานเลี้ยงตลอดจนเกือบเที่ยงคืน ด้านชิษณุโกรธมากกลับมาขอหย่ากับนาถลดา นาถลดาเสียใจมากและหนีไปพร้อมกับอมัจจ์ และกำชับอมัจจ์ว่าห้ามบอกกับใครว่าเธออยู่ที่ไหน ชิษณุปล่อยตัวเองจมกับความผิดหวัง พฤกษ์พยายามเปิดโปงความชั่วของเลอลักษมี และสืบได้ว่าเธอหลอกชิษณุเรื่องนาถลดาในคืนงานเลี้ยง จึงบอกความจริงกับชิษณุว่านาถลดาอยู่ในงานเลี้ยงตลอดถึงเที่ยงคืน อมิตตดาเริ่มรู้ว่าเลอลักษมีหลอก และอมิตตดาก็กลับมาสำนึกได้ว่านาถลดาดีกับเธอเพียงไร เธอจึงบอกความจริงทั้งหมดกับชิษณุ ปมในใจของชิษณุจึงคลายออกได้ ชิษณุออกตามหานาถลดาตามรอยจดหมายของอมัจจ์ที่แอบเขียนหาพฤกษ์ และเขาก็เจอนาถลดาทั้งสองปรับความเข้าใจกัน และขอร้องให้นาถลดากลับมาเหมือนเดิม เพราะเขารู้แล้วว่าการมองเห็นหรือมองไม่เห็นแค่มีนาถลดาเคียงข้างก็เพียงพอ เพราะความจริงใจของเธอเปรียบเสมือนแสงสว่างที่นำทางชีวิตเขาและเขาต้องการ ให้เป็นแบบนั้นตลอดไป

อุ้มรัก (2549/2006) ณภัทร (แอน ทองประสม) ดาราสาวไฮโซเอาแต่ใจ เข้าสู่วงการความงามตามคำแนะนำของ แอนนา (เจมี่ บูเฮอร์) นางแบบสาวเพื่อนสนิท ในการถ่ายงานโฆษณาชิ้นหนึ่ง ณภัทร ได้พบกับ ราเชนทร์ (ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์) หนุ่มปากจัด เชนต่อว่าต่อขานณภัทรที่ไปสาย ทำให้การพบหน้ากันครั้งแรก จึงจบลงด้วยบรรยากาศของความไม่เป็นมิตรกัน ต่อมา ในปาร์ตี้วันเกิดของนิตยสารชื่อดัง เชนได้รับเชิญมาพร้อมกับ จัสมิน (ตุ๊ก ชนกวนัน) นางแบบที่ตกเป็นข่าวกิ๊กกันอยู่ ในงานนั้น ณภัทรแข่งดื่มเหล้า จนเมามาย ไม่ได้สติ ทำให้ณภัทรต้องพากลับไปนอนที่ห้อง แต่เกิดอุบัติเหตุเมื่อกระเป๋าของ กัญ อุไร กับจัสมิสลับกัน แบงค์ ที่เมามายเช่นกันจึงไขกุญเข้าห้องถูก แล้วคืนนั้นทั้งคู่ก็มีอะไรกัน เมื่อณภัทรตื่นขึ้นมาและพบว่าตัวเองได้มีอะไรกับเชน ก็ร้องไห้เสียใจ ต่อว่าเชนต่าง ๆ นานา เชนก็รู้สึกผิดและขอรับผิดชอบ แต่เธอไม่ต้องการจึงขับไล่เขาออกไป และหลังจาก นั้น ณภัทรก็พบว่าตัวเองตั้งครรภ์ พยายามที่จะเอาเด็กออก แต่ก็ทำไม่ลง จึงพยายามที่จะ หาพ่อให้ลูกในท้องแทน ในขณะที่เชนก็พยายามตื้อที่จะขอเป็นรับผิดชอบโดยตลอด เพราะเขาปมในใจ เมื่อพ่อแม่ของเขาประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตตั้งแต่เขายังเป็นเด็ก ทำให้เชนอยากเป็นหัวหน้าครอบครัวที่ดีให้ได้ ณภัทรคิดจะให้ มาร์ค (วริษฐ์ ทิพโกมุท) อดีตกิ๊กเก่ามาเป็นพ่อของลูกในท้อง จึงพยายามที่จะใกล้ชิดมาร์ค แต่แล้วแผนการต่าง ๆ ก็ถูกเชนขัดขวาง ทั้งเชนและมาร์คจึงประกาศตัวเป็นคู่แข่งกัน เพราะความจริงใจของเชน จึงทำให้แอนนาแอบเป็นผู้ช่วยเหลือเชนมาโดยตลอด และอีกเหตุผลสำคัญคือ แอนนาก็ชอบมาร์คเหมือนกัน และแล้วความลับเรื่องท้องของณภัทรก็แตก เพราะจัสมินที่ไปทำงานด้วยกัน จับได้และแจ้งให้นักข่าวทราบ ทำให้เชนต้องประกาศว่าตนเองเป็นพ่อเด็ก และกำลังจะแต่งงาน กับณภัทร ซึ่งในขณะนั้นหนีไปหาพ่อที่ต่างประเทศ หลังจากทราบข่าวการแถลงข่าวของ เชน ทำให้ณภัทรต้องยอมแต่งงาน โดยมีข้อแม้ว่าถ้าเด็กเป็นผู้ชาย เชนจะได้ลูกไป แต่ถ้าเป็นผู้หญิง ลูกจะตกเป็นของเธอ และด้วยความดีและความเอาใจใส่ของเชน ทำให้ณภัทรเริ่มที่จะใจอ่อนกับเชนมากขึ้น ถึงแม้ว่าระหว่างนั้นจะมีทั้ง จัสมิน และ มาร์ค มาเป็นอุปสรรคและสร้างความระหองระแหง ให้กับความรักของเขาทั้งสองอยู่เสมอ แต่ด้วยเหตุการณ์หลาย ๆ อย่าง ทำให้เขาทั้งสองเกิด ความเข้าใจผิดกัน จนณภัทรประกาศว่าจะแต่งงานกับมาร์ค หลังจากคลอดลูก ณภัทรได้ลูกสาว ทำให้เชนไม่กล้าที่จะเข้าไปหาณภัทรอีก เพราะสัญญาที่ให้ไว้ และเข้าใจว่าณภัทรกำลังจะแต่งงานกับมาร์ค ทำให้เชนตัดสินใจไปอยู่ต่างประเทศ เพื่อเป็นการตัดใจจากณภัทรและลูก และเขาได้จัดนิทรรศการภาพถ่าย "อุ้มรัก" เพื่อแสดงความรักที่เขามีทั้งหมดต่อณภัทรและลูก ในวันเดินทาง ณภัทรได้มีโอกาสมาดูนิทรรศการ และได้เจอเชนอีกครั้ง ณภัทรจึงขอร้องให้เชนกลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง จึงทำให้ทั้งเขาและเธอกลับมาเป็นครอบครัวที่มีความสุขอีกครั้งหนึ่ง โดยมีน้องโฟโต้เป็นโซ่ทองคล้องใจของเค้าทั้งสอง

บอดี้การ์ดแดดเดียว 2548

บอดี้การ์ดแดดเดียว (2548/2005) ธัญมัย ตำรวจหญิงคนใหม่ได้รับมอบหมายงานสำคัญจาก อัศวิน ผู้บังคับบัญชาให้ไปเป็นบอดี้การ์ดดูแลความปลอดภัยแก่ เจ้าหญิงแห่งประเทศคีรีมาน เพราะตลอดเวลากว่า 20 ปี ทางประเทศคีรีมานก็วุ่นกับการตามหา อัสมาร์ องค์รัชทายาท ที่ยอมสละบัลลังก์เพื่อไปใช้ชีวิตคู่กับดวงแก้วหญิงไทย ทำให้โซฟีผู้เป็นพี่สาวต้องขึ้นดำรงตำแหน่งผู้สำเร็จราชการแทน กระทั่งวันหนึ่ง อาโป อดีตเลขาของพระมารดาได้ทราบเบาะแสของเจ้าหญิงซึ่งเกิดจากอัสมาร์ โซฟีหวั่นวิตกกลัวว่าจะสูญเสียบัลลังก์ไป แต่ก็แสร้งทำเป็นดีใจเมื่อทราบข่าวหลานสาวและรีบติดต่อประเทศไทยให้ส่งคนไป ดูแลเจ้าหญิง แต่ในทางลับเธอสั่งให้ ราชิต หลานชายรีบล่วงหน้าไปก่อน แล้วให้จับตัวเจ้าหญิงมาเพื่อต่อรองเรื่องราชบัลลังก์ อาโปไม่ไว้ใจกับทีท่ามีพิรุธของโซฟี ดังนั้นเขาจึงรีบติดต่อหา วันรบ เพื่อนสนิทเพื่อให้ช่วยส่งคนไปคุ้มกันเจ้าหญิงอีกแรง วันรบมอบงานนี้ให้ วันเผด็จ ลูกชายซึ่งเป็นตำรวจรับผิดชอบ ติดตามต่อได้ใน บอดี้การ์ดแดดเดียว

หน้าที่