มามี้ที่รัก 2565

มามี้ที่รัก Mommy I Love You (2565/2022) เรื่องราวของ พริมา (มาร์กี้ ราศรี) ยูทูบเบอร์สุดสวยแซ่บซ่า แม่เลี้ยงเดี่ยวสายสตรองที่แข็งนอกอ่อนใน ต้องเจอทั้งปัญหา Online และ Offline เมื่อ ภาณุ (มาร์ช จุฑาวุฒิ) สามีสายอินดี้ ที่อยากกลับเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต แถมยังมีเชฟฝีมือดีคารมเลิศ พีระ (บอม ธนิน) เข้ามาเป็นปัญหาหัวใจอีก สรินตา (หญิง รฐา) ภริยาหนุ่มนักการเมืองอนาคตไกล ปรเมศวร์ (เดี่ยว สุริยนต์) แต่พอแต่งงานกลับต้องมาเป็นช้างเท้าหลังวางตัวให้ดีเดินตามหลังสามี ทั้ง ๆ ที่ตัวเองจริง ๆ อยากเป็นนักร้อง นักเต้น แล้วยังต้องมาเจอปัญหาแม่สามีที่ยิ่งกว่าในละครไทยโบราณ กันนรี (จอย รินลณี) คุณแม่สาวใหญ่วัย (เกือบ) ทอง ผู้จัดการฝ่ายสินเชื่อผู้ยึดมั่นในความสมบูรณ์แบบ ทุกอย่างเหมือนจะดูดี เพอร์เฟกต์ แต่สามี ชนะชล (ณัฐ ศักดาทร) ดันเปิดตัวแฟนใหม่เป็นผู้ชาย !! ทั้งหนุ่ม อายุน้อย อ่อนโยน เข้ากับลูกสาวได้เป็นอย่างดี 3 แม่ที่ต้องเผชิญกับปัญหาส่วนตัวเยอะอยู่แล้ว ยังมาทะเลาะกันใหญ่โตในกรุ๊ปไลน์ผู้ปกครองนักเรียน ก่อนที่เรื่องราวจะบานปลายจนกรุ๊ปไลน์แตก ครูใหญ่ต้องจัดกิจกรรมเร่งด่วนเพื่อความสมัครสมานสามัคคีของผู้ปกครอง เรื่องคงจบเพียงแค่นี้ ถ้าเพียงแต่ขณะที่ทำกิจกรรมอยู่นั้น 3 แม่ไม่ได้กลายเป็นพยานในเหตุการณ์ฆาตกรรม จนถูกฆาตกรลึกลับคุกคามเอาชีวิต !!! ในขณะที่แต่ละคนต่างก็มีปัญหาส่วนตัวที่ยังแก้ไม่ตก นอกจากนี้ยังมีนักแสดงอีกคับคั่งที่จะมาร่วมกันสร้างความสนุกบนหน้าจอ และที่ขาดไม่ได้คือนักแสดงเด็ก น้องแก้มใส-น้องริวจิ-น้องเพลง ที่ขอย้ำว่าเด็กแค่ตัว การแสดงนั้นใหญ่มาก ๆ จนพี่ ๆ ทุกคนต้องขอปรบมือให้ จะเก่งกันแค่ไหนฝากติดตามเป็นกำลังใจให้กับละครเรื่อง มามี้ที่รัก

ดวงแบบนี้ไม่มีจู๋ 2563

ดวงแบบนี้ไม่มีจู๋ (2563/2020) ลัคนา หรือ ลัคกี้ (แปลว่าโชคดี ทุกคนเรียกสั้นๆว่า กี้) “ลัคนา”เป็นพนักงานขายที่บริษัทแอ็กซ์คอสเมติกผู้ผลิตเครื่องสำอางชั้นนำ มีเพื่อนสนิทคือ มานพ (หรือ แมน) หมอดูคือหลักยึดเหนี่ยวของ “ลัคนา”แทนพ่อที่ตายไปแต่ยึดอะไรแม่ไม่ได้ เพราะ “ลัคนา”คือลูกชัง เนื่องจากดันเกิดในเวลาตกฟากที่เป็นอริกับ “อิงบุญ”พาทั้งพ่อแม่ตกงาน กว่าจะลืมตาอ้าปากได้ก็ตอนที่มี พูนลาภ (หรือ เกรท ที่แปลว่ายิ่งใหญ่) ออกมาลืมตาดูโลก “พูนลาภ”จึงกลายเป็นลูกรัก และพ่วงตำแหน่งมาสคอตเรียกโชคลาภประจำครอบครัว เพราะ “พูนลาภ”ทำงานพิเศษหาเงินได้มากกว่า “ลัคนา”ที่เป็นมนุษย์เงินเดือน ด้วยรูปร่างหน้าตาที่สวยกว่าพี่ ทำให้ “พูนลาภ”รับจ๊อบเป็นเอ็มซี และรีวิวสินค้าต่างๆ “ลัคนา”ต้องแบกรับภาระการผ่อนบ้าน ค่าใช้จ่ายในบ้าน ค่าเล่าเรียนของ “พูนลาภ” แล้วยังต้องแบ่งเงินส่วนหนึ่งเป็นค่าทำพิธีสะเดาะเคราะห์ทุกเดือนให้กับเจ้าแม่หมอนทอง หรือ ป้าหมอน ร่างทรงเทพจิตสัมผัส เปิดตำหนักใหญ่โตอยู่ละแวกบ้านเดียวกัน ไม่มีใครรู้เลยว่าป้าหมอนเป็นคนที่มีพรสวรรค์ด้านทำนายทายทัก แต่ถูกความโลภเข้าครอบงำ หลังๆมีเพียงความมั่วเพราะหวังเงินทำพิธีเท่านั้น “ลัคนา”ต้องใส่เสื้อผ้าสีฉูดฉาด ถูกโฉลกตามวันและก้าวเท้าขวาออกจากบ้านทุกครั้ง พร้อมกระทืบสามครั้งเอาฤกษ์เอาชัย ห้ามขาดห้ามเกิน ถ้าวันไหนลืมทำตามกฎข้อนี้...วันนั้นทั้งวัน “ลัคนา”จะหมดความมั่นใจไปทันที เช้าวันนี้ “ลัคนา”ทำทุกอย่างเป๊ะ เช็คดวงชะตารายวัน “ดวงวันนี้ท่านจะพบพานเนื้อคู่แต่ให้ระวังเรื่องอุบัติเหตุ!!!จะส่งผลให้เสียทรัพย์!!!” แล้ว...จิ้งจกร้องทักอีก “ลัคนา”ไหว้ฟ้าดิน ขออนุญาตออกจากบ้าน “ลัคนา”วิ่งออกจากบ้านอย่างไม่มั่นใจ “ลัคนา”ใช้บริการมอเตอร์ไซค์วินเป็นประจำและหยิบมือถือรุ่นใหม่ล่าสุดที่เพิ่งถอยออกมาแต่ยังผ่อนไม่หมด ยังไม่ทันไร เสียงเบรกรถกะทันหัน ดังเอี๊ยด!!! เฉี่ยวชนคุณป้าล้ม รถเก๋งคันหลังที่ตามมาติดๆ เหยียบเอาโทรศัพท์แตกละเอียด “ลัคนา”ทำได้เพียงอ้าปากค้างตะลึงในความหล่อเทพของเจ้าของรถ เนื้อคู่มายืนอยู่ตรงหน้าตามคำทำนาย!!! แต่แล้วก็ต้องรับยาสลายมโน เขาคือ “โชคบดี ปานบัวเอี่ยม” แฟนเก่าสมัยมหาวิทยาลัยแต่ “โชคบดี”ในตอนนั้น ทั้งอ้วน เนิร์ด สิวเขรอะ ใส่แว่นตาหนาเตอะ และ “ลัคนา”ก็เป็นฝ่ายบอกเลิก “โชคบดี” “ลัคนา”ไม่อยากให้ “โชคบดี”จำเธอได้ว่าเธอคืออดีตผู้หญิงใจร้ายคนนั้นที่เท “โชคบดี” ก่อนจะแยกกันที่ รพ. คุณป้าขอบคุณที่ช่วยเหลือและบอกกับ “ลัคกี้”ว่า “ความดีงามจะคุ้มครองเธอและจะนำพาให้ได้พบเจอทูตสวรรค์ชี้ทางสว่าง” ทูตสวรรค์คือใคร แต่ “ลัคนา”มั่นใจต้องเป็นเรื่องราวดีๆ “ป้าหมอน” เคยทำนายเอาไว้ว่า พื้นดวงเธอจะมีเนื้อคู่เป็นผู้มีอันจะกิน แล้วเธอก็ได้พบกับ “กำยำ”หรือ “กาย”ไฮโซหนุ่มหล่อเพลย์บอยขวัญใจสาวๆ ลูกชายคนเล็กของ “พาที” ประธานบริษัท โดยบังเอิญ “ลัคกี้”มั่นใจนี่แหละ “ทูตสวรรค์”!!!! “ลัคกี้”พร่ำเพ้อถึง “กาย”มาก “กาย”เข้ามาทำงานที่แอ๊กซ์เพราะถูกยื่นคำขาดจาก “กำยาน” หรือ กิ่ง ผู้เป็นแม่จอมบงการให้เลิกทำตัวเหลวไหล เพื่อพิสูจน์ตัวเองให้ “พาที”ผู้เป็นพ่อยอมรับในความสามารถและยกตำแหน่งประธานให้ โดยได้รับความช่วยเหลืออย่างเต็มที่จาก “พันธกานต์” กรรมการผู้จัดการใหญ่ลูกเลี้ยงของ “พาที”และ “กิ่ง” “กิ่ง” จัดการให้“พันธกานต์” แต่งงานกับ “ดาวิกา” ลูกสาวของเพื่อนกิ่ง “พันธกานต์”ยอมแต่งงานทั้งๆที่รักอยู่กับ “ฐิตาวรรณ” ซีเนียร์ฝ่ายขายฝีมือดีของบริษัท “ลัคนา”เดินคอตกเข้าออฟฟิศแล้วก็แทบช็อคเมื่อพบว่า “โชคบดี”เข้ามาทำงานในบริษัทเดียวกับเธอ ยิ่งหนียิ่งเจอคือสัจธรรม “โชคบดี”ตั้งใจทำงาน โดยที่ไม่มีใครรู้เป้าหมายที่ซ่อนเร้นของการเข้ามา... “โชคบดี”เปลี่ยนนามสกุล เข้ามาทำงานที่แอ๊กซ์ โดยมี “เนื้อแพร” เพื่อนสนิทคอยให้ความช่วยเหลือเพื่อให้ “โชคบดี”เข้ามาหาหลักฐานการตายของ ”โชคชัย” พี่ชายของ “โชคบดี” เพราะครอบครัวของ “โชคบดี” ไม่เชื่อว่า “โชคชัย”ตายเพราะอุบัติเหตุตามที่ตำรวจสรุปสำนวนคดี หลังจากที่พบศพในบ่อบำบัดน้ำเสียของโรงงานแอ็กซ์ และไม่พบหลักฐานใดๆในคืนเกิดเหตุ “โชคบดี” ทำให้บรรยากาศในออฟฟิศมีชีวิตชีวา แม้แต่ “แมน”และ “น้องเลิฟ” พนักงานสาวก็พลอยหลงเสน่ห์ “โชคบดี”ไปด้วย “น้องเลิฟ” อ่อย “โชคบดี” จน “ลัคนา”เริ่มออกอาการหมั่นไส้ แต่ไม่พ้นสายตาของ “แมน”เพื่อนสาว ที่คอยเยาะเย้ยในความโง่ของเธอที่ทิ้ง “โชคบดี”ไป “ลัคนา”มักหาเรื่องเหน็บแนมใส่ร้าย “โชคบดี”อยู่เสมอ จน “น้องเลิฟ”เริ่มสงสัยว่าทั้งคู่มีเรื่องบาดหมางอะไรกัน “ลัคนา”ได้รับคำเตือนให้ระวัง “กาย” เพราะเขาเป็นคนเจ้าชู้ ถ้าไม่อยากถูกฟันแล้วทิ้งและ “ลัคนา” อาจจะเดือดร้อนได้ถ้าเรื่องถึงหู “กิ่ง” แต่แล้ว “กิ่ง”ก็รู้เรื่องจนได้ จากการคาบข่าวไปบอกของ “เจ๊หมู” หัวหน้าฝ่ายบุคคล “กาย” ตั้งใจหลอกใช้ “ลัคนา” สิ่งที่ทำ ยิ่งทำให้ “กาย”รู้สึกรัก “ลัคนา”ขึ้นมาจนอยากจะจริงจังด้วย “อิงบุญ”ตื่นเต้นดีใจยิ่งกว่าถูกหวยชุด ที่เห็นลูกชายเจ้าของบริษัทแสดงความสนใจในตัว “ลัคนา” ประตูดวงกำลังเปิด ตามคำทำนายของ “ป้าหมอน”แล้ว!!!! “อิงบุญ”และ “ป้าหมอน”ช่วยกันสะกดจิต “ลัคนา” จับ “กาย”!!! เพราะมีคุณสมบัติเป็นเนื้อคู่ของ “ลัคนา”ทุกประการ “ลัคนา”ตัดสินใจลองคบหากับ “กาย” ทวนกระแสเสียงเม้ามอยนินทาในแง่ร้าย ส่วนคนที่หวั่นไหวแต่ไม่แสดงออกคือ... “โชคบดี” เพราะความสนิทสนมในช่วงเวลาที่ผ่านมา ทั้งเรื่องดีเรื่องร้าย ทำให้ “โชคบดี”ผูกพันและยังคงรัก “ลัคนา”มาตลอด “โชคบดี”สนิทสนมกับ “ฐิตา”มากขึ้นทำให้ “ลัคนา”เข้าใจผิดคิดว่า ทั้งคู่ ”มีใจให้กัน" “ลัคนา” เริ่มอึดอัดกับการเป็นแฟน “กาย”..แต่กลับสบายใจเมื่ออยู่กับ “โชคบดี” เลยตัดสินใจเลิกกับ “กาย” “กาย”เสียใจมากพยายามง้อ “ลัคนา” ลัคนาไม่กล้าบอกแม่ว่าเลิกกับ “กาย”แล้ว จนกระทั่งความแตก “อิงบุญ”แทบบ้าแทบอยากจะแหกอก “ลัคนา”เพราะไปกู้เงินนอกระบบมาให้ “ป้าหมอน”ทำพิธีผูกดวง”ลัคนา”กับ “กาย” “โชคบดี”ตัดสินใจเล่าเรื่องให้ “ลัคนา”ฟัง “ลัคนา”เดินหน้าคอยช่วยเหลือ “โชคบดี” สืบหาสาเหตุการเสียชีวิตของ “โชคชัย” จนพบเบาะแสบางอย่างแต่ยังไม่มีหลักฐาน “กาย”ถูกจับพบหลักฐานการโกงบริษัท “พันธกานต์”ขอลาออกเพราะต้องการรับผิดชอบที่สอนงาน “กาย”ไม่ดีและทำให้บริษัทวุ่นวาย “โชคบดี”สารภาพรัก “ลัคนา” จู่ๆก็รู้สึกว่ามีใครบางคนมองอยู่ มีผู้หญิง ยืนจ้องหน้าแล้วชี้ ผู้ชายคนนี้เป็นตัวซวย อยู่กับเค้าชีวิตจะมีแต่เรื่องร้ายๆ!! ตึง!!!!” ลัคกี้”อึ้ง ปล่อยมือ “โชคบดี” คนที่อยู่กับเรื่องดวงมาทั้งชีวิตแบบ “ลัคนา”จะตัดสินใจเชื่อดวง หรือเชื่อผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างๆ ……………..ติดตามต่อได้ใน “ดวงแบบนี้ไม่มีจู๋” จำไว้นะ ไม่มีคาถาหรือพรข้อใดที่ปัดเป่าภยันตรายทุกอย่างจากชีวิตเราไปได้ตลอดหรอก สมองและสองมือของเราเองนี่แหละ ที่จะทำนายชีวิตของเราได้แม่นยำที่สุด รังสรรค์พรทุกประการให้เป็นจริงได้ก็คือเรา จะพลิกวิกฤติเป็นโอกาสได้ก็คือเรา...มีแต่เราเท่านั้น

วัยแสบสาแหรกขาด โครงการ 2 2562

วัยแสบสาแหรกขาด โครงการ 2 (2562/2019) 2 ปีต่อมา ... ครูกร (ผู้อำนวยการแห่งโรงเรียนเปี่ยมคุณ) เดินหน้าทำโครงการ “ผูกสาแหรก” ปรับพฤติกรรมและแก้ปัญหาเด็กที่มีพื้นฐานครอบครัวแตกแยก เป็นครอบครัวเลี้ยงเดี่ยว ในการทำงานครั้งนี้ยังมีผู้ดำเนินโครงการคือ “ครูทรายทิพย์” ซึ่งตอนนี้เรียนจบปริญญาโทเป็นที่เรียบร้อย ท่านผ.อ. กร และ ครูทรายต้องจับมือกับค้นหาต้นตอของปัญหาของเด็กที่อยู่ในโครงการ และช่วยกันหาทางแก้ปัญหาท่ามกลางความไม่เข้าใจของคนในครอบครัวและสังคมรอบข้าง ... และในครั้งนี้ทั้งสองคนไม่ได้อยู่ในฐานะเจ้านายและลูกน้อง แต่ยังมีสถานะเป็น “สามี-ภรรยา” คู่รักที่เพิ่งแต่งงานกัน!!! ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่คู่รักที่ทำงานด้วยกันจะดำเนินชีวิตคู่โดยไม่เอาปัญหาเรื่องงานเข้ามาในบ้าน หรือ แม้แต่ขึ้นมาถกเถียงกันบนเตียงนอน ทั้งกรและทรายต้องเจอปัญหาอันใหญ่หลวงทั้งที่โรงเรียน และการปรับตัวเข้าหากัน ความรักที่เติบโตมาอย่างหนักแน่น และ สวยงาม กำลังโดนสั่นคลอนด้วยการทำงานที่เต็มไปด้วยความท้าทายและโดนกดดันจากคนรอบข้าง ทรายทิพย์รับเด็กเข้าโครงการ ๕ คน คือ ด.ช.พีท (ลูกพีท) อยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ , เด็กหญิงไออุ่น (อุ่น) อยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ , นายกายภัทร (ใบพัด) มัธยมศึกษาปีที่ ๔, นายมหาสมุทร (บุ๊ค) มัธยมศึกษาปีที่ ๕ และนางสาววีธารี (วีหนึ่ง) มัธยมศึกษาปีที่ ๖ ทั้ง ๕ คนมีปัญหาที่ทำให้ทรายและกรต้องกุมขมับอีกครั้ง ลูกพีท เป็นเด็กที่มีลักษณะ Temper Tantrum (เด็กกรี๊ด) “โม” แม่ของลูกพีท ทำงานเป็นผู้จัดการกองถ่ายละคร คุณพ่อเสียตั้งแต่พีทยังรู้ความ โมต้องออกกองไม่ค่อยมีเวลาเลี้ยงลูก ลูกพีทอยู่กับตาและยายที่เลี้ยงหลานตามใจยิ่งกว่า “หลานเทพ” อยากได้อะไรให้หมดทุกอย่าง สปอยล์ยิ่งกว่าสปอยล์ พอโมมีเวลาอยู่กับลูกทีก็เจอกับอาการเอาแต่ใจทำให้กลายเป็นแม่ที่เข้มงวด ลูกพีทก็แสดงอาการกรี๊ดใส่ ยิ่งกรี๊ดตายายก็ยิ่งตามใจ เด็กก็ยิ่งเรียกร้อง จนโมทนไม่ได้พาลูกมาเข้าโครงการ ทรายต้องทำการประสานการเลี้ยงดูปรับความเข้าใจให้โมและพ่อแม่ ซึ่งเป็นสิ่งที่ยากมากกกกก ปรับพฤติกรรมผู้ใหญ่ยากกว่าการปรับพฤติกรรมเด็กล้านเท่า !!! อุ่น มีปัญหาความหลากหลายในเพศของตัวเอง Gender Creative ชอบอยู่คนเดียว เก็บตัว พ่อแม่แยกทางกันเลยแบ่งกันดูแลอุ่น อุ่นอยู่กับแม่ (กวิตา – วิ) ๓ วัน และ พ่อ (เกริกฤทธิ์ – ฤทธิ์) ๔ วัน พ่อทำธุรกิจขนส่ง มีรถบรรทุกประมาณ ๑๐ กว่าคัน ฐานะค่อนข้างดี แม่ทำธุรกิจแล้วล้มเหลวหลายครั้ง ค่อนข้างจับจด รบกวนเงินพ่อเป็นประจำ อุ่นทำหน้าที่ไปขอเงินพ่อมาให้ แม่มักจะโดนต่อว่า ดูถูกอยู่เสมอ ทำให้อุ่นรู้สึกลึกๆว่าแม่อ่อนแอ และล้มเหลว ส่งผลให้อุ่นมีความไม่ภูมิใจและไม่พึงใจในเพศหญิงของตัวเอง โดยเฉพาะเวลาที่คนอื่นมาย้ำ หรือ มาจี้ว่าจะเป็นเหมือนแม่ยิ่งไม่ชอบ อุ่นที่เห็นความอ่อนแอของแม่ยิ่งเกลียดความเป็นผู้หญิงของตัวเอง ทรายต้องคิดหนักเพราะมันเป็นปัญหาที่แสนซับซ้อนและละเอียดอ่อนอย่างมาก .. อุ่นคือภาพสะท้อนของความหลากหลายทางเพศในยุคปัจจุบัน ความจริงที่เราต้องเปิดใจ และทำความเข้าใจก่อนที่จะสายเกินไป ใบพัด เป็นเด็กที่ความผิดปกติทางการเรียนรู้ พ่อแม่ของใบพัดเสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุ พ่อของใบพัดเป็นคนมีฐานะดี เป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์หลายแห่งในกรุงเทพ เมื่อเสียชีวิตทุกอย่างจึงตกเป็นของใบพัด พิณแก้วและนโรธทำพินัยกรรมให้ใบพัดทั้งหมด โดยแต่งตั้งให้กองพล (ลุง) เป็นผู้จัดการมรดก แต่กองพลเป็นคนที่ไม่เคยรับรู้เลยว่าใบพัดหลานชายคนเดียวมีอาการออทิสติก ทรายยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเพื่อทำให้ใบพัดเข้าใจคนปกติ และทำให้คนปกติเข้าใจสภาวะของเด็กออทิสติกเช่นกัน สิ่งเหล่านี้ทำให้ทรายกับกรต้องทำงานอย่างหนัก เพื่อทำให้ใบพัดเข้าไปเรียนในโรงเรียนปกติให้ได้ บุ๊ค ... ชื่อแปลว่าหนังสือ แต่ในชีวิตจริงไม่ค่อยได้จับหนังสือ เพราะมัวแต่จับเม้า คีย์บอร์ด เล่นเกมอย่างบ้าคลั่ง บุ๊คมีอาการ Gaming Addiction ถึงขั้นไม่ยอมมาโรงเรียน ไม่ยอมหลับไม่ยอมนอน เข้าสังคมไม่เป็น ครอบครัวของบุ๊คเป็นครอบครัวที่มีความห่างเหิน แม่ตัดสินใจไปทำงานร้านอาหารที่ต่างประเทศ บุ๊คอยู่กับพ่อที่วันๆ เอาแต่ทำงาน และเลี้ยงเค้าด้วยการซื้อคอมพิวเตอร์ให้เล่นเกม เลี้ยงลูกด้วยเกม จนลูกมีอาหาร Gaming Addiction ขั้นรุนแรง บุ๊คอยู่ชั้นม. ๕ ผลการเรียนแย่มาก จนเกือบจะตก แม่บินกลับมาพอเห็นสภาพลูกก็แทบช็อคที่ทิ้งลูกไป ลูกเปลี่ยนไปเป็นคนละคน ทำให้แม่ทนไม่ได้บังคับให้บุ๊คมาเข้าโครงการกับครูทราย เพื่อรักษาอาการติดเกม ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะพ่อของเค้าคิดเสมอว่า “แค่เด็กติดเกม..ไม่เห็นจะเป็นปัญหา” เมียถึงกับกรอกตามองบน “เนี่ยนะไม่มีปัญหา ?” วีหนึ่ง ... (จริงๆชื่อ “วี” แต่ในห้องมีหลายวี .. เพื่อนๆตั้งชื่อว่า “วีหนึ่ง” เพราะสอบได้ที่หนึ่งตลอด) เป็นเด็กหญิงที่ดูเพียบพร้อม สมบูรณ์แบบทุกอย่าง เรียนเก่ง ครอบครัวดี มีผลการเรียนดีเยี่ยม ปัญหาเดียวที่วีหนึ่งมีคือ .... ต้องการเป็นที่หนึ่งตลอดเวลาและแพ้ใครไม่ได้ มีลักษณะของ Perfectionism ทำให้กดดันตัวเองตลอดเวลา ทั้งเรื่องการเรียน กีฬา ทำทุกอย่างต้องดีที่สุด ความกดดันตัวเองของวีหนึ่งทำให้เพื่อนๆในห้อง เพลินเพลิน คีต์ และโต๋เต๋ เอาชีวิตของวีหนึ่งไปเปรียบเทียบกับรุ่นพี่ในตำนาน “พี่ปุ่น” ที่มีเรื่องเล่าว่าพี่ปุ่นกระโดดตึกฆ่าตัวตาย ทรายกับกรต้องเข้ามาช่วยให้วีหนึ่งเข้าใจตัวเอง และลดความคาดหวังลงก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป ..เหมือนที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วกับปุ่น เด็ก ๕ คน กับ ๕ ปัญหา ที่แสนโหด ยังไม่พอกรและทรายยังต้องเผชิญกับ ครูพรรณี หัวหน้าฝ่ายวิชาการที่มีความมุ่งมั่นในการสอนและยึดติดกับการวัดผล เชื่อว่าผลคะแนนหรือสถิติต่างๆที่ได้จากการแข่งขันคือสิ่งสำคัญของเด็กนักเรียน ถ้าไม่มีคะแนนมาเป็นเครื่องชี้วัดจะรู้ได้อย่างไรว่าการสอนสำเร็จหรือไม่ พรรณีพยายามต่อสู้กับกรเพื่อคงไว้ซึ่งการเรียนการสอนแบบเดิมๆ เป็นการต่อสู้ที่ไม่มีใครผิดใครถูก แต่ต้องหาตรงกลางและรูปแบบที่เหมาะสมที่สุด ทั้งกรและทรายต้องเรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตคู่ไปพร้อมกับการแก้ปัญหาให้คนอื่น และหลายครั้ง ที่ช่วยเค้าได้แต่เกือบเอาตัวเองไม่รอด ... แก้ปัญหาคนอื่นว่ายากแล้ว แต่ปัญหาตัวเองนี่แหละ....ยากที่สุด !!! ทั้ง ลูกพีท , อุ่น , ใบพัด, บุ๊ค และวีหนึ่ง และ คือ ๕ วัยแสบรุ่นต่อไป ที่ทรายกับกรจะต้องพาพวกเขาเดินผ่านอุโมงค์แห่งความมืดมิด เพื่อไปสู่แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์

ซีรีส์ลูกผู้ชาย ปัทม์ 2562

ซีรีส์ลูกผู้ชาย ปัทม์ (2562/2019) “ปัทม์” ก้าวเข้าสู่เจ้าของธุรกิจน้ำดื่มสมุนไพร ‘ไฟท์’ ผู้ที่กำลังประสบความสำเร็จในโลกธุรกิจ “กว่าผมจะมาถึงวันนี้ได้ ผมโตขึ้นมาพร้อมกับคำด่าว่าผมเป็นลูกกะหรี่ครับ” ...................... ชีวิตในวัยเด็กของปัทม์เรียกได้ว่าติดลบ เป็นเด็กกำพร้าถูกทิ้งอยู่ในบึงบัว จนกระทั่ง”ลินจง” หญิงขายบริการที่กำลังปลิดชีพตัวเอง ระหว่างนั้นลินจงได้ยินเสียงเด็กร้องไห้ จึงเดินไปตามเสียงร้องและพบเด็กน้อยถูกทิ้งในกะละมังลอยติดกอบัว มันคงเป็นชะตาชีวิตของสองแม่ลูก ชีวิตของเราไม่ควรจบลงเพียงเพราะคนชั่วที่ทิ้งเราไว้ จึงตัดสินใจเก็บปัทม์มาเลี้ยง พร้อมตั้งชื่อให้ว่า “ปัทม์” ที่มีความหมายแปลว่า “ดอกบัว” แต่ด้วยอาชีพของลินจงนั้น ทำให้ปัทม์เติบโตขึ้นมาในซ่อง ในสลัม “ลินจง”เลี้ยงดู “ปัทม์”อย่างดี พอมีเด็กชายเข้ามา หญิงสาวเหมือนมีกำลังใจมากขึ้น สองแม่ลูกรักกันมาก แม้ไม่ได้ผูกพันกันทางสายเลือด “ปัทม์” ถูกล้อว่าเป็นลูกกะหรี่มาตลอด “ปัทม์”ทำงานพิเศษหลายอย่างตั้งแต่ไปช่วย “ป้าแป้น”ขายน้ำในงานวัด “หนูตุ่น” มาเที่ยวงานมัวแต่สนุกจนลืมระวังตัว มีกลุ่มวัยรุ่นกำลังทะเลาะวิวาทกันนั่งร้านพันสายไฟมาล้มทับ “หนูตุ่น” ทุกคนต่างกลัวไฟช็อตจนไม่มีใครกล้าเข้าไปช่วย “หนูตุ่น” มีเพียง “ปัทม์” คนเดียวเท่านั้นที่กล้าเสี่ยงเข้าไปช่วยจน “หนูต่น”ปลอดภัย “ครูอัญ” แม่ของ “หนูตุ่น” ตอบแทนน้ำใจ “ปัทม์”ด้วยเงินจำนวนหนึ่ง แต่ “ปัทม์”ไม่ขอรับเพราะช่วยโดยไม่หวังผลตอบแทน ทำให้ “หนูตุ่น”ประทับใจในตัว “ปัทม์” “ลินจง” เจอลูกค้ากลัดมัน มีทั้งรอยกัดรอดช้ำตามตัว อาบน้ำร้องไห้ไปด้วยความสงสารตัวเอง “ปัทม์”เห็นแม่มีร่องรอยเหมือนถูกทำร้ายมา กลุ้มใจนอนไม่หลับสงสารแม่อยากให้แม่เลิกอาชีพนี้ “ปัทม์”ถูกพักการเรียนเพราะไปต่อยเพื่อนนักเรียน ที่ไปเที่ยวซ่องและล้อว่าแม่เป็นกะหรี่ “ปัทม์” ไม่ยอมบอก “ลินจง” และไปทำงานล้างจานที่ร้านขายก๋วยเตี๋ยว “ครูอัญ”ตามไปที่บ้านจึงรู้ว่า “ปัทม์”ไม่ได้ไปเรียน “ปัทม์” ไปรับลินจงตอนเลิกงานเจอสามีของเจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวมาใช้บริการ “ลินจง” เฮียเจ้าของร้านอึ้งไปที่รู้ว่าปัทม์เป็นลูกของ “ลินจง” เฮียโยนความผิดให้ “ปัทม์” เป็นคนแนะนำตนให้ “ลินจง” เมียร้านก๋วยเตี๋ยวจึงด่าทอ “ปัทม์”สารพัด ดูถูกว่าเป็นลูกกะหรี่ “ลินจง”กับ “สมพร” ทราบข่าวจึงตามมาอาละวาดร้านก๋วยเตี๋ยวพัง จากคนที่ไม่รู้ว่า “ปัทม์” เป็นลูกกะหรี่ จนเลยได้รู้กันทั้งตลาด!!! ลินจงเสียใจที่ทำให้ลูกรู้สึกไม่ดี ปัทม์ไม่โกรธแม่ ลินจงกลัวมันจะเป็นตราบาปติดตัวไปตลอดชีวิต ตัดสินใจเลิกอาชีพนี้สองแม่ลูกกอดกันร้องไห้ด้วยความตื้นตัน...แต่เรื่องราวมันไม่จบง่ายๆ เจ้าของบ้านเช่าที่รู้ว่าลินจงเป็นกะหรี่ก็มาไล่สองแม่ลูกออกจากบ้าน!!! สองแม่ลูก มาหยุดที่บ้าน “สมพร” โสเภณีที่รักและนับถือกันกับ “ลินจง” เหมือนครอบครัวเดียวกัน แมงดาที่มาเกาะ “สมพร” อยู่ไม่พอใจอาละวาด แต่สมพรไม่สน เลือกที่จะให้ลินจงอาศัยอยู่กับเธอ “ปัทม์” กล่อมให้ “สมพร” เลิกอาชีพโสเภณีแต่ไม่สำเร็จ “ปัทม์”และ “ลินจง” เริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยการทำขนมไทยขายในตลาด แต่เหมือนตลาดจะไม่ใช่ที่ของอดีตโสเภณี บรรดาแม่ค้าต่างออกมาขับไล่ ให้ไปขายของที่อื่น เพราะข่าวลือว่าผัวของบรรดาแม่ค้าต่างก็เป็นลูกค้าของ “ลินจง” “ปัทม์” เสียใจที่ทุกคนขับไล่แม่ทั้งที่ต้องการทำมาหากินสุจริต “ ลินจง”กับ “ปัทม์” แอบไปกินขนมที่เหลือ “สมพร” แอบมองร้องไห้ด้วยความสงสาร “ปัทม์” ได้กลยุทธ์การขายจาก “สมพร” เทเงินหมดประป๋องทำขนมและเอาไปแจกให้ทุกคนได้ชิมฟรี และแล้วโชคก็เข้าข้าง เมื่อทุกคนได้ชิมขนมอร่อย จนทำขายกันแทบไม่ทัน ปัทม์ช่วยแม่ทำขนมไม่ได้ ลินจงต้องออกไปขายของคนเดียวก็ถูกบบรรดาแม่ค้ารังแกก่อกวนอีก ครูอัญหาทางช่วยให้ลินจงได้เข้ามาขายขนมในโรงเรียน และทำให้ปัทม์กลับเข้ามาเรียนหนังสืออีกครั้ง ชีวิต “ปัทม์” ได้เดินทางเข้าสู่โลกสีดำเมื่อได้พบกับ “เฮียเล้ง”เจ้าของโรงน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุด เฮียเล้งเสนอให้ปัทม์ไปช่วยงานโดยใช้เวลาหลังเลิกเรียน โรงน้ำแข็งคือธุรกิจบังหน้า โลกสีดำที่ปัทม์ ไม่เคยคิดเลย ว่าจะถลำเข้าไปเพราะความนับถือเฮียเล้ง ถลำเข้าไปเพราะปัทม์เองที่เป็นคนดี ธุรกิจที่เฮียกำลังทำอยู่ตอนนั้นคือ การเรียกค่าคุ้มครองจากทุกซ่องในย่านนี้ โดยร่วมมือกับสารวัตรภักดี ซ่องไหนไม่ให้ความร่วมมือก็จะถูกตำรวจก่อกวนหนัก ปัทม์ทำงานดึกจนอ่อนเพลียหลับในเรียน ขายของก็หลับจนทุกคนเป็นห่วง แต่ปัทม์ไม่กล้าบอกใครได้แต่บอกว่าโรงงานน้ำแข็งเร่งผลิต ปัทม์ตั้งใจจะขอลาออกจากเฮียเล้ง แต่ลินจงป่วยหนักต้องเข้าโรงพยาบาล ค่ารักษาจำเป็นต้องใช้เงินจำนวนมาก เฮียเล้งดูแลให้ทั้งหมด ปัทม์จึงไม่มีทางเลือกเลิกคิดที่จะออกจากใต้ปีกของเฮียเล้ง “ เฮียเล้ง” มอบกุญแจเซฟที่ซ่อนเงินไว้ให้ “ปัทม์”ไปตั้งตัว บรรดาซ่องต่างๆ ที่โดนคุกคามรวมตัวกันจ้างมือปืนฆ่าสารวัตรภักดี และตามประกบยิงเฮียเล้ง การตายของเฮียเล้งถึงแม้ปัทม์จะเสียใจ แต่ก็ดีใจล้างมือจากวงจรโสมม ปัทม์ไปเปิดตู้เซฟไว้ที่เฮียเล้งทิ้งไว้ให้ มีเงิน ทองมากมาย ที่จะทำให้ปัทม์สบายไปทั้งชีวิต สมพรดีใจกับปัมท์และลินจงที่จะสบายได้ไปสร้างชีวิตใหม่ แต่ปัมท์เลือกที่จะคืนทุกอย่างให้กับเดือนกนกลูกสาวเฮียเล้ง “ปัทม์” หันหลังให้กับโรงน้ำแข็ง และตั้งใจจะทำขนมและเรียนให้จบ ปัทม์ตัดสินใจเข้าเรียนต่อในมหาวิทยาลัย และแล้วชีวิตที่เหมือนจะดี กลับเข้าสู่การเริ่มต้นนับเวลาถอยหลังในการที่”ปัทม์” กับแม่จะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน” สถิตย์หอบลูกมาขอยืมเงินลินจง “ปัทม์”จำได้แม่นว่าคือ “สถิตย์” แฟนเก่าของแม่ที่ไม่ทำมาหากินอะไร กินเหล้าเมาซ้อมทุบตีลินจงจึงเลิกรากันไป หลังจากนั้น “ลินจง”ตามไปทวงเงินสถิตย์ไม่ยอมคืน สถิตย์โกรธแค้นลินจงมากตามมาเอาเรื่องลินจง สมพรเข้าไปช่วยถูกตบจนสลบ ลินจงยื้อยุดจะเข้าไปช่วยสมพร จนถูกสถิตย์ใช้มีดแทง ลินจงถูกนำส่งโรงพยาบาล “ลินจง”เฝ้ารอ “ปัทม์” แต่สุดท้ายปัทม์ได้แต่วิ่งเข้าไปกอดร่างอันไร้วิญญาณที่ดับลง ปัทม์สติหลุดจนเจ้าหน้าที่ต้องมาควบคุมตัว ความโศกเศร้าของปัทม์ทำให้ทุกคนเป็นห่วง หมดอาลัยตายอยากกับชีวิตโลกทั้งใบของเค้ามืดดับลงเช่นกัน สมพรเลิกทำอาชีพโสเภณี สมพรปลูกสมุนไพรไว้รอบบ้านใช้รักษาตัวเองมาเป็นเวลานาน หลังจากเสียลินจงก็มีแต่สมพรที่คอยดูแลปัทม์ทุกอย่าง สมพรมีแฟนใหม่ ปัทม์เห็นภาพของ “สมพร”กับ “เดวิด” สวีทกัน จนปัทม์รู้สึกเป็นส่วนเกิน จึงตัดสินใจเขียนจดหมายลา ตัดสินใจจะไปอยู่กับลินจง...... หนูตุ่นเมื่อได้อ่านจดหมายนึกออกทันทีว่า “ปัทม์” อยู่ที่ไหน ตามไปห้ามและหมดความอดทนผิดหวังในตัวปัทม์ คำพูดของ “หนูตุ่น” กระแทกเข้าไปในใจ จน “ปัทม์คิดได้อีกครั้ง ถึงแม้เดวิดกับสมพรจะดีกับปัทม์แค่ไหน แต่ปัทม์ก็ยังรู้สึกว่าตัวเองเป็นส่วนเกิน ปัทม์ตัดสินใจออกไปใช้ชีวิตของตัวเอง แต่ครูอัญขอให้ปัทม์ไปอยู่ด้วยกัน ปัทม์ช่วยดูแลหนูตุ่นและช่วยขายของ ปัทม์คอยไปรับไปส่งหนูตุ่นทุกวันที่มหาวิทยาลัย จนปัทม์ขึ้นปี4 หนูตุ่นถูกเพื่อนแซวที่มีปัทม์มาส่งทุกวัน จนปัทม์รู้สึกอึดอัด รสสุคนธ์เพื่อนผู้หญิงคนสนิท ที่ปัทม์รู้สึกดีด้วย หนูตุ่นแอบนอยด์ที่เห็นปัทม์สนิท “รสสุคนธ์” “ปัทม์”ไปเยี่ยมสมพรที่ย้ายไปทำไร่สมุนไพรที่เชียงราย โชคดีที่ “เดวิด”สานฝันสมพรให้เป็นจริง “ ปัทม์”ตะลึงที่เห็น “สมพร”ปลูกสมุนไพรได้มากขนาดนี้และมั่นใจว่าในอนาคตคนจะหันมาสนใจมันมากขึ้น “สมพร”ช่วยเรื่องการศึกษาของปัทม์จนจบ หลังจาก “เดวิด”กลับมา “ปัทม์”ก็กลับกรุงเทพ มาช่วย “ครูอัญ” และ “หนูตุ่น”ขายของเหมือนเดิม “ปัทม์”ทดลองเอาสมุนไพรที่สมพรให้มาทำน้ำสมุนไพรขายที่ร้านแต่ก็ขายไม่ออก “หนูตุ่น” กับ “ปัทม์”ต้องช่วยกันกินเองจนพุงกาง และช่วยกันเอามาแจกฟรี ชีวิตที่เหมือนจะไปดีกับถูกติฉินนินทาจากกลุ่มชาวบ้านว่าเป็นลูกกะหรี่อยากยกระดับเป็นลูกเขยครู คำนินทาจากชาวบ้านยิ่งทำให้ระยะห่างของ “ปัทม์”กับ “หนูตุ่น”เพิ่มมากขึ้น “ปัทม์” เหินห่างกับ “หนูตุ่น” จนทะเลาะกัน “หนูตุ่น”รับรู้ได้ถึงความเหินห่างของ “ปัทม์” “ปัทม์”ไปปรึกษา “รสสุคนธ์” ไม่สบายใจที่จะอยู่บ้าน “ครูอัญ”อีกต่อไปแล้วถึงแม้ “ครูอัญ” จะมีบุญคุญต่อ “ปัทม์” มาก แต่ก็ไม่อยากให้ใครมองว่าเกาะบ้านนี้กิน “ปัทม์” ไล่หาสมัครงานทุกที่แต่ก็ไม่มีใครเรียก จน “รสสุคนธ์” แนะนำให้ “ปัทม์”ไปสมัครบริษัทเดียวกัน “ปัทม์”ดีใจที่ได้ทำงานกับ “รสสุคนธ์” ทั้งคู่รู้สึกดีต่อกัน “ปัทม์”ตั้งใจจะมาบอก “ครูอัญ” เรื่องได้งานทำแล้ว แต่กลับเจอ “สมพร” ที่มาจากเชียงรายในอาการซึมเศร้าเพราะได้รับข่าว “เดวิด”เสียชีวิตแล้ว “สมพร” อยากให้ “ปัทม์”ไปอยู่ด้วยกันที่เชียงราย “ปัทม์”ลำบากใจเพราะได้งานทำไหนจะ “รสสุคนธ์”อีก “สมพร”ตกใจแต่ก็ดีใจที่ “ปัทม์”ได้งาน “ปัทม์”กังวลใจไม่รู้จะเลือกตัดสินใจทางไหน “ปัทม์”ตัดสินใจย้ายไปอยู่กับ “สมพร”โดยไม่บอกลา “หนูตุ่น” หนูตุ่นร้องไห้เสียใจมาก ส่วน “รสสุคนธ์”โกรธมากที่ “ปัทม์”ไม่ยอมทำงานทำให้ตนเองเสียหน้า และอาจพลาดโอกาสในการทำงานไปด้วย จนความสัมพันธ์จบลงทั้งที่อาจจะได้เป็นแฟนกันแล้ว..... “ปัทม์”มาถึงไร่ของ “สมพร"สวนสมุนไพรที่ “สมพร”ได้สร้างมันขึ้นและเห็นความสุขภายใจผ่านสายตาของสมพร “สมพร”พาปัทม์เดินดูสมุนไพรแต่ละชนิด โดยที่ไม่รู้ว่าวันหนึ่งมันจะมีค่ามากกว่าทอง “ปัทม์”เรียนรู้การทำเกษตรและทำน้ำสมุนไพร ด้วยความตั้งใจ “ปัทม์”เขียนจดหมายไปหา “หนูตุ่น” แต่ไม่ได้รับการตอบรับใดๆ เพราะ “หนูตุ่น”ยังคงโกรธปที่จากมาโดยไม่ลาและไม่เคยคุยกับ “ปัทม์”อีกเลยตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา “หนูตุ่น”ตั้งใจทำขนมอย่างจริงจังโดยใช้ชื่อเดิมของแม่ปัทม์ ส่วน “รสสุคนธ์”ได้ว่าว่ามีแฟนใหม่ในที่ทำงาน “ปัทม์”ถึงแม้จะเสียใจแต่ก็ยอมรับในสิ่งที่ตัวเองเลือก 9 ปีผ่านไป “ปัทม์”ในวัยที่โตขึ้นยังยังปลูกต้นไม้ทุกวัน โดยมีคนงานมาช่วยเพิ่มขึ้น คือเอ้ กับมิ่ง ญาติของอ้ายคำ ที่ทุกคนต่างก็รักปัทม์ โดยเฉพาะเอ้สาวน้อยเมืองเหนือที่หลงรักปัทม์แบบหนุ่มสาว “สมพร”แข็งแรงขึ้นมากด้วยสมุนไพรที่ปลูกและมีโอกาสได้แบ่งปันเพื่อนบ้าน “รสสุคนธ์”ปรากฎตัวอีกครั้งที่ไร่ของ “ปัทม์” สร้างความประหลาดใจให้ปัทม์ ปัทม์มีอาการเคอะเขินรสสุคนธ์ จนทุกคนเดาว่าคือแฟนปัทม์ รสสุคนธ์พาปัทม์ไปซื้อของในเมือง โดยมีสมพรตามไปด้วย แต่แล้ว...ก็เหมือนฟ้าเล่นตลกกับ “ปัทม์”อีกครั้ง ระหว่างที่ “สมพร”กำลังข้ามถนน มีรถยนต์พุ่งเข้ามาชนร่างของ “สมพร”กระเด็นไปต่อหน้าปัทม์ สมพรไม่ได้สติเป็นอีกครั้งเป็นอีกครั้งในชีวิตที่ปัทม์ต้องเผชิญวิกฤติ หลังจากผ่าตัดใหญ่สมพรก็ยังไม่ฟื้น ปัทม์เสียใจมากและคอยเฝ้าสมพรโดยมีรสสุคนธ์คอยให้กำลังใจ ภาพในหลายๆเหตุการณ์ที่สมพรคอยทำทุกอย่างให้ปัทม์ลอยเข้ามาในหัว หลังจากสูญเสียสมพร ปัทม์ก็อยู่ในอาการเสียศูนย์ละทิ้งทุกอย่าง จะขายไร่ทิ้งจนทะเลาะกับอ้ายคำ ทุกคนเสียใจกับการตัดสินใจของปัทม์ “หนูตุ่น” กลับเข้ามาในชีวิตของ “ปัทม์”อีกครั้ง และคอยให้สติ “ปัทม์” ให้ลุกขึ้นมาสู้อีกครั้งและตั้งเป้าหมายในชีวิต ปัทม์ขอโทษ อ้ายคำ เอ้ มิ่ง ขอร้องทุกคนให้กลับมาช่วยกันอีกครั้ง ปัทม์จะสานฝัน “สมพร”ให้เป็นจริง “ปัทม์”กลับเข้ามากรุงเทพ เพื่อหาประสบการณ์กลับไปต่อยอด หนูตุ่นพาปัทม์เที่ยวกรุงเทพ กลับมาสดใสร่าเริงกันอีกรอบ หนูตุ่นให้ปัทม์ดูแบบร่างร้านขนมไทยจงรัก ที่สานต่อ จากลินจงแม่ของปัทม์ ปัทม์แอบสงสัยชื่ออารักษ์ที่เป็นคนออกแบบให้หนูตุ่น หนูตุ่นเองมาส่งปัทม์หารสสุคนธ์ หนูตุ่นแอบระแวง ความสัมพันธ์ระหว่างรสสุคนธ์และปัทม์ ปัทม์เห็นน้ำอัดลมวางขายในตู้แช่มากมาย จุดประกายความฝันที่จะทำน้ำสมุนออกมาให้ติดตลาดแบบน้ำอัดลมบ้าง ปัทม์กลับไปที่ไร่ทำน้ำสมุนไพรออกขาย แต่ก็ยังไม่ได้รับความนิยม ปัทม์ตัดสินใจออกหาประสบการณ์การทำงานอีกครั้ง คนแรกที่ปัทม์นึกถึงคือรสสุคนธ์ ที่ทำบริษัทน้ำอัดลม รสสุคนธ์ฝากงานให้ปัทม์ และย้ายมาเช่าบ้านอยู่เอง “หนูตุ่น”งอนที่ปัทม์ไม่ยอมบอก ปัทม์เข้าทำงานในบริษัทน้ำอัดลม TK ของไตรคุณ ในตำแหน่งฝ่ายขาย โดยมีรสสุคนธ์และทยุต คอยช่วย บริษัทกำลังมีปัญหาไตรคุณยึดติดกับความสำเร็จแบบเดิมๆ ไตรภพลูกชายที่ไม่อยากสานต่อธุรกิจ ปัทม์เสนอกิจกรรมส่งเสริมการขายโดยมีรสสุคนธ์คอยช่วย ปัทม์เรียนรู้การทำการตลาดจากรสสุคนธ์และทยุต เข้าออกร้านค้าร้านนั้นร้านนี้ จนยอดขายพุ่งสร้างผลงานดี ทั้งที่ทำงานได้ไม่นาน ไตรคุณตัดสินใจยกตำแหน่งผู้บริหารคนใหม่ให้กับปัทม์ “ปัทม์”ต้องพิสูจน์ตัวเองอย่างมาก “ปัทม์” กุมมือรสสุคนธ์ที่คอยให้กำลังใจอยู่ข้างๆกัน หนู่ตุ่นยังโกรธปัทม์ที่หายไปเลย หนู่ตุ่นมุ่งมุ่นในการทำร้านขนมไทยให้ดูทันสมัยขึ้น โดยมีอารักษ์เพื่อนสนิทที่ทำงานด้วยกัน คอยช่วยเหลือทุกอย่าง อารักษ์พยายามจีบหนูตุ่นแต่ก็ไม่ได้รับการตอบรับ คิดกับอารักษ์เพียงเพื่อน ปัทม์มาเยี่ยมครูอัญและหนูตุ่นที่บ้านช่วยหนูตุ่นทำขนมมีความสุขกัน อารักษ์มาเห็นเข้า รู้ได้ทันทีใครคือคนที่หนูตุ่นต้องการ ปัทม์เห็นอารักษ์รู้สึกแปลกใจที่รู้เรื่องตนทุกอย่าง เพราะหนูตุ่นคอยเล่าเรื่องทุกอย่างให้ฟังปัทม์แอบตึงๆที่เห็นอารักษ์และหนูตุ่นสนิทสนมกันแอบหึง ส่วนหนูตุ่นเองก็แอบหึงรสสุคนธ์กับปัทม์ ตั้งแต่นั้นมาทั้งคู่ก็ห่างกันไป ปัทม์มีรสสุคนธ์คอยดูแลแต่กลับคิดถึงหนูตุ่นมากกว่า ทยุตคอยคิดโปรเจคต่างๆ ให้กับน้ำอัดลมจนยอดขายพุ่งขึ้นเรื่อยๆ จึงปล่อยให้ทยุตทำตามใจ จนวันหนึ่งทยุตเสนอเจอะกลุ่มเป้าหมายใหม่คือ เด็ก ปัทม์ไม่เห็นด้วยที่จะมอมเมาเด็กด้วยน้ำอัดลม แต่ทุกคนไม่ฟังปัทม์ เป็นครั้งแรกที่ปัทม์รู้สึกเจอปัญหาขัดแย้งกับตนเอง เป็นผู้บริหารที่ไม่มีอำนาจ ยอดขายพุ่งขึ้นเป็นประวัติการณ์ ปัทม์ทนไม่ได้ที่จะเห็นสุขภาพของเด็กแย่ลงเพราะน้ำอัดลมที่มีแต่น้ำตาล เริ่มมีปัญหากับหลายฝ่ายในที่ประชุม บริษัทโดนตรวจเรื่องน้ำตาลที่เกินมาตรฐาน ปัทม์ต้องการให้ปรับลดลง แต่เสียงข้างมากในที่ประชุมไม่เห็นด้วยเลือกที่จะติดสินบนเจ้าหน้าที่ ปัทม์ผิดหวัง คนเดียวที่คิดถึงคนแรกคือหนูตุ่นหนูตุ่นยุ่งกับการทำขนมที่มีออเดอร์เพิ่มมากขึ้น อารักษ์คอยอยู่ข้างหนูตุ่นจนแทนที่เค้าไปแล้ว อารักษ์เขียนเรื่องราวของขนมหนูตุ่นจนบ.ก. ให้ลงตีพิมพ์ลงนิตยสาร ออเดอร์ยิ่งเพิ่มมากขึ้น ปัทม์รู้สึกเหมือนตัวคนเดียวอีกครั้ง หนูตุ่นเหนื่อยแต่มีความสุขแตกต่างจากตัวปัทม์เองที่เหนื่อยแต่มีความทุกข์ บริษัทน้ำอัดลม TK ถูกโจมตีหนักจนยอดขายตกร้านค้าคืนสินค้า ทยุตขอโทษที่ไม่ฟัง “ปัทม์”พร้อมกับ บอร์ดบริหารที่พากันลาออก ทยุตกับรสสุคนธ์แอบลงขันกับเปิดบริษัทใหม่ ปัทม์ผิดหวังในตัวรสสุคนธ์มาก ปัทม์อยู่แก้ปัญหาที่ตัวเองไม่ได้ก่อ ปัทม์ได้หลักฐานว่ารสสุคนธ์ร่วมมือกับทยุตโกงบริษัท ล็อบบี้พนักงานเก่าออกไปทำบริษัทที่ตัวเองร่วมกันต่อตั้ง หลอกใช้ปัทม์เป็นเครื่องมือ รสสุคนธ์วางแผนหลอกใช้ปัทม์มาตั้งแต่แรก ปัทม์ผิดหวังเสียใจมากกลายเป็นหุ่นให้รสสุคนธ์คอยสั่งการโดยไม่รู้ตัว เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้ปัทม์แทบไม่ไว้ใจใครอีกเลย ปัทม์ที่กำลังผิดหวังกับชีวิตขังตัวเองไว้กับความเศร้า หมดอาลัยตายอยากในชีวิต หนูตุ่นสารภาพรักปัทม์และจะไม่ทิ้งปัทม์ไปไหน ปัทม์เองก็สารภาพรัก “หนูตุ่น” เป็นอีกครั้งในชีวิตที่หนูตุ่นมาฉุดเค้าก็ลุกขึ้นยืนได้อีกครั้ง หนูตุ่นจุดประกายให้ปัทม์ลุกขึ้นมาทำน้ำดื่มสมุนไพรอย่างจริงจังอีกครั้ง น้ำสมุนไพรยี่ห้อ “Fight “ปัทม์ขอเทหมดหน้าตักสำหรับงานนี้...ชีวิตที่ล้มแล้วล้มอีกของ “ปัทม์”จะลุกขึ้นมายืนหยัดได้อย่างไร “ปัทม์ บุญวิจักษ์” ผู้พร้อมจะเปิดเผยเรื่องราวของตนเองให้คนอื่นได้รู้ ว่าคนเรา “แม้จะเกิดมากับโชคชะตาที่มืดมน ก็สามารถจะก้าวเดินตามทางที่มุ่งหวังได้”

The Single Mom คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวหัวใจฟรุ้งฟริ้ง 2560

The Single Mom คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวหัวใจฟรุ้งฟริ้ง (2560/2017) เรื่องราวการเอาตัวให้รอดของ “มุลิลา” แม่เลี้ยงเดี่ยวลูกหนึ่งที่ขังตัวเองไว้กับอดีตอันเจ็บปวดและความกลัวต่อความรักและการใช้ชีวิตครอบครัว แต่เมื่อความรักที่แสนจะบริสุทธิ์ใจเข้ามาเคาะประตูหัวใจอีกครั้ง แถมยังมีมาให้เลือกตั้งสองคน แล้วไหนจะอดีตสามีเก่าที่กลับตัวกลับใจและกลับมาขอโอกาสอีกครั้ง.... เธอจะกล้าเปิดใจให้โอกาสตัวเองอีกครั้งหรือไม่ ไม่มีใครให้คำตอบได้...นอกจากตัวเธอเอง “มุลิลา”(จ๊ะ จิตตาภา แจ่มปฐม) เจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดสาว วัย 30 ผู้มากความสามารถ มั่นใจในตัวเอง อีโก้มาเต็ม แต่ชีวิตของเธอดั่งสวรรค์ฟ้ากลั่นแกล้งเมื่อเธอได้ถูกไล่ออกจากงานเพียงเพราะหัวหน้างานบอกว่าเธอมีลูก ทำงานไม่เต็มที่ ความวัวยังไม่ทันจะหายความควายก็เข้ามาแทรก เพราะเธอดันจับได้ว่า พงศ์พิศุทธิ์ (คริน สาครินทร์ สุธรรมสมัย) สามีจอบเจ้าชู้ที่แสนไม่เอาไหนของเธอได้พาผู้หญิงแปลกหน้ามานอนบนเตียงนอนที่เธอและสามีได้ให้กำเนิด น้องปลื้ม (ด.ช.เฟรดดริก โซลร์เบิร์ก) ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนเพียงคนเดียว ที่เธอรักและอดทนสู้ทำงานเหนื่อยเพื่อลูกมาตลอด มุลิลา จึงตัดสินใจอย่ากับสามี เพราะทนความเจ้าชู้ไม่ไหวที่นอกใจเธอครั้งแล้วครั้งเล่าแต่ที่ทนมาตลอด ก็เพื่อลูก แต่ครั้งนี้ความอดทนก็ได้สิ้นสุดลง ต้องตา (อาย กมลเนตร เรืองศรี)เพื่อนสาวที่ใจเย็นดั่งน้ำแข็งในห้องแช่และพี่ ยักษ์ (แบด ศิวัช คูสกุลธรรม) แฟนของต้องตาที่คบกันมานานแต่ไม่ยอมแต่งงานกันซักที คอยช่วยเหลืออยู่ข้างๆ หลังจากมุลิลาอย่าขาดกับสามี ทำให้เธอกลายเป็น SINGLE MOM ทันที เพราะเธอไม่ยอมให้สามียุ่งเกี่ยวกับลูก เมื่อไม่มีงานเป็นหลักแหล่งจากชีวิตที่เคยอยู่สุขสบาย บ้านไม่ต้องเช่าข้าวไม่ต้องซื้อ ต้องมาเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวหาเลี้ยงลูกชายคนเดียว มุลิลาจำต้องหางานใหม่ ยังดีที่ฟ้ายังมีตา เมื่อต้องตาได้โทรมาบอกกับเธอว่า ดนัยเทพ (ก้อง จักรพันธ์ ตัณฑะสุวรรณะ) หรือ ดอลลี่ เพื่อนสนิทตอนมหาลัยที่ตอนนี้กลายเป็นผู้บริหารที่ Wow Shopping TV ที่ต้องการผู้กอบกู้สถานการณ์อันย่ำแย่ของสถานี ที่เพิ่งถูกเทคโอเวอร์โดย M-ONE บริษัทอุปโภคบริโภคยักษ์ใหญ่ มุลิลาจำใจกัดฟันรับงานแลกกับกับเงินอันน้อยนิดเมื่อเทียบกับความสามาถของเธอ เพื่อมีเงินไว้เป็นทุนสำรองและเพื่อหนีการคุกคามจากสามีเก่าที่ขู่เธอว่าหากไม่มีงานทำภายใน สามเดือนเขาจะเอาลูกไปเลี้ยงเอง !! ที่บริษัทWOW TV มุลิลาได้ทำงานในตำแหน่งหัวหน้า A Merchandise Marketing ที่ต้องทำงานกับ อัศวิน (เก้า จิรายุ ละอองมณี)หนุ่มตี๋หล่อใสเกาหลีเรียกพี่ หัวหน้าฝ่ายผลิตฝีมือขั้นเทพ แต่กวนบาทา ทั้งคู่จึงกลายเป็นคู่กัดกัน หากแต่ว่าก็ไม่ได้คลาดจากสายตาอันแหลมคมของ พราวฟ้า(คริสซี่ กฤษณ์สิรี สุขสวัสดิ์) เลขาหน้าหวานประจำตัวดอลลี่ที่แอบชอบอัศวินตั้งแต่แต่ครั้งแรก และ รัชนก (นิวเคลียร์ หรรษา จึงวิวัฒนวงศ์) AE สาว ประจำบริษัทไม่ชอบขี้หน้ามุลิลาเพราะเห็นว่ามุลิลาหน้าใหม่ไฟแรง ด้วยความเก่งของมุลิลาที่ทั้งทำงานและเลี้ยงลูกเพียงคนเดียวไปด้วย ประกอบกับความมั่นใจที่เธอมี ทำให้โดนตาโดนใจ ชิษณุ (วิลลี่ แมคอินทอช) นักธุรกิจหนุ่มรูปหล่อเจ้าของบริษัท M-ONE ผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภครายใหญ่ และ Wow Shopping TV ที่มี ตรีดาว (หญิง รังสิกานต์ โรจน์ชีวิน) หุ้นส่วนรายใหญ่แสนสวย เพียบพร้อมด้วยฐานะและชาติตระกูล แต่ขี้วีนและวางอำนาจ ที่พ่อแม่หมายมั่นปั้นมือให้แต่งงานกัน ด้วยเหตุผลทางธุรกิจ และตรีดาวยังไม่ใช่สำหรับเขา แต่กลับกลายเป็นมุลิลา แม่ม่ายลูกติดที่ได้เจอเพียงครั้งแรกก็ตกหลุมรักและคิดว่านี้แหละคือคนที่เขารอมานาน เมื่อมุลิลาได้ทำงานใกล้ชิดกับอัศวินมากขึ้น ทั้งคู่ได้เกิดความรู้สึกดีๆต่อกันขึ้นโดยไม่รู้ตัว รวมถึงชิษณุที่ออกตัวว่ารู้สึกอย่างไรกับมุลิลาอย่างออกนอกหน้า ทำให้ยิ่งสร้างความไม่พอใจให้กับพราวฟ้าและรัชนกเป็นอย่างมาก ทั้งสองจึงคอยหาทางกลั่นแกล้งมุลิลาโดยการสร้างข่าวลือต่างๆนานา เพื่อให้ทุกคนเข้าใจผิด ความโชคร้ายของมุลิลายังหมดแค่นั้น เพราะยังมีพงศ์พิสุทธิ์สามีเก่าก็ยังคอยมาตามราวีมุลิลาไม่เลิก เพราะเกิดความรู้สึกผิดและเสียดายมุลิลาขึ้นมา เรื่องราวทั้งหมดจะดำเนินไปอย่างไร มุลิลาคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวที่ต้องต่อสู้เพื่อลูกและรับมือกับคนที่คอยอิจฉา รวมทั้งหัวใจที่ถูกปิดเอาไว้เพราะความกลัว จะเปิดรับใครระหว่างอัศวินหนุ่มตี๋ หล่อใส เกาหลีเรียกพี่ หัวหน้าฝ่ายผลิต ที่ใช้ความรักในการเดินทาง หรือ ชิษณุ ผู้ที่เพียบพร้อมทุกอย่าง และพงศ์พิศุทธิ์สามีเก่าที่ยังตามราวีเธออยู่ เธอจะกล้าเปิดใจให้โอกาสตัวเองอีกครั้งหรือไม่ ไม่มีใครให้คำตอบได้...นอกจากตัวเธอเอง !!

วัยแสบสาแหรกขาด 2559

วัยแสบสาแหรกขาด (2559/2016) “ทรายทิพย์” (แซนด์) นักจิตวิทยาให้การปรึกษาเกี่ยวกับเด็ก และครอบครัว (counseling phychology) หนอนหนังสือบ้าตำรา ก้มหน้าก้มตาเรียนรวดเดียวตั้งแต่อนุบาลจนถึงด๊อกเตอร์ ชีวิตไม่เคยทำอย่างอื่น นอกจากเรียน แซนด์หอบปริญญาทางด้านจิตวิทยากลับมาจากต่างประเทศ พร้อมกับไฟในการทำงานอันเต็มเปี่ยม แต่เมื่อมาเจอความเป็นจริงของสังคมไทย ความฝันของเธอถูกดับอย่างอนาท ไม่มีใครให้ความสำคัญกับการรับคำปรึกษาจากนักจิตวิทยา แซนด์กำลังจะสิ้นหวัง แต่แล้ว ... เหมือนฟ้ามีตา เธอได้รับการติดต่อมาจาก “เปรมมิกา” (ปาล์ม) เพื่อนสนิท ปาล์มทำงานอยู่ที่ “โรงเรียนเปี่ยมคุณศึกษา” (ป.ศ) แซนด์พุ่งเข้าไปรับงานพร้อมความมั่นใจ โดยไม่รู้เลยว่างานนี้ไม่ได้หมูอย่างที่เธอคิด!

โรงเรียนเปี่ยมคุณฯ ก่อตั้งโดย “นพลักษณ์” (ลักษณ์) ไฮโซ ผู้ดีเก่า ผู้มากความสามารถ มั่นใจ แม้แต่ “สมภพ” สามียังต้องขอเลิก และหนีไปทำนา (แบบเกษตรสมัยใหม่เน้นความพอเพียง) เพราะทนต่อการโดนข่มไม่ไหว ภาระแห่งการต่อสู้เพื่อเอาชนะอัตตาของนพลักษณ์จึงตกมาถึง “คุณชวนากร” (กร) ลูกชายคนเดียว ผู้ต้องสืบทอดกิจการโรงเรียนต่อไป หลายคนมองว่าเขาโชคดีมีแม่ปูทางธุรกิจไว้ให้อย่างเข้มแข็ง แต่ในความเป็นจริง .. กรต้องต่อสู้กับความเก่งของแม่ เขาพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้แม่ยอมรับ ในขณะเดียวกันต้องเร่งสร้างผลงานให้บรรดาครูใหญ่ และครูน้อยในโรงเรียนเห็นว่าเขาไม่ใช่คุณหนูที่ทำอะไรไม่เป็น กรกดดันตัวเองจนกลายเป็นเจ้านายสุดเขี้ยว อารมณ์ร้ายเข้ากับใครไม่ค่อยได้ โดยเฉพาะ “อำนาจ” ครูใหญ่ กรกับอำนาจมีเรื่องต้องขัดแข้ง ขัดขา ขัดใจ ปะทะคารมกันเป็นประจำ พนักงานเพียงคนเดียวที่พอคุยกับกรรู้เรื่องก็คือ “ปาล์ม” เลขาคนสนิท ผลงานแรกที่กรหมายมั่นปั้นมือต้องทำให้สำเร็จ คือ โครงการ “เด็กดีไม่มีปัญหา (Sweet broken home)” โครงการนี้เกิดขึ้นเพราะมี “เด็กแสบ” สร้างปัญหาจนถึงขั้นต้องไล่ออกพร้อมกันถึง 5 คน อำนาจยืนยันว่าเด็กกลุ่มนี้เกินเยียวยาต้องไล่ออกเท่านั้น ! แต่หลังจากดูประวัติกรเห็นว่าเด็กทั้ง 5 มีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกัน คือ พ่อแม่แยกทางกัน เด็กแต่ละคนมีครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์ กรจึงเกิดความคิดที่จะทำโครงการพิเศษนี้ขึ้น เพื่อแก้ปัญหาให้เด็กสามารถใช้ชีวิตกับคนอื่นได้ ไม่ใช่โยนเด็กที่มีปัญหาออกไปสู่สังคมภายนอกโดยไม่ทำอะไร ซึ่งความคิดนี้ตรงกันข้ามกับอำนาจอย่างสิ้นเชิง และนพลักษณ์ก็เลือกที่จะให้กรพิสูจน์ตัวเองทำให้อำนวจไม่พอใจอยู่ลึกๆ นพลักษณ์ยื่นคำขาด ถ้าโครงการนี้ลดความแสบของเด็กทั้ง 5 ลงได้ถือว่ากรสอบผ่าน เด็กได้เรียนต่อและอาจจะมีโครงการนี้ต่อไป แต่ถ้าล้มเหลว เด็กทั้ง 5 ต้องโดนไล่ออก กรยอมรับการพิสูจน์ครั้งนี้ และสั่งให้ปาล์มตามหานักจิตวิทยาเฉพาะทางที่จะมาเป็นหัวหน้าโครงการโดยด่วน และคนคนนั้นก็คือ “ทรายทิพย์” นั่นเอง !! ในการพบกันครั้งแรกของทรายทิพย์ และ กร ไม่ได้สวยหรูอย่างที่เธอคิดไว้ เขาไม่ได้ปลื้มกับใบปริญญาที่วางเรียงเป็นแผงและเกรดอันดีเยี่ยมของเธอแม้แต่น้อย แต่เขากลับไม่ไว้ใจเพราะเธอไม่เคยทำงานจริง และ อายุก็ยังน้อย แซนด์เลยสวนกลับไปว่า “คุณกำลังตีค่าฉัน เหมือนกับที่ครูในโรงเรียนตีค่าคุณ พวกเขาคิดว่าคุณทำงานแทนแม่คุณไม่ได้ เพราะไม่มีประสบการณ์และอายุน้อย ถ้าคุณไม่พอใจที่คนอื่นตัดสินคุณด้วยเหตุผลนี้ คุณเองก็ไม่ควรตัดสินฉันด้วยเหตุผลนี้เช่นกัน” .... คำพูดของแซนด์จี้ใจดำกรอย่างแรง กรตัดสินใจยอมรับเธอเข้ามาทำงานในตำแหน่ง “หัวหน้าโครงการเด็กดี ฯ” เมื่อ “นักจิตวิทยาบ้าตำรายังไม่เคยเจอของจริง” ต้องมาทำงานกับ “คนจริงสุดเขี้ยว” และยังต้องปะทะกับเด็กแสบอีก 5 คน ความปั่นป่วน ชวนเวียนหัวจึงได้เกิดขึ้น ความผูกพันอันสวยงามของกรและแซนด์ค่อยๆก่อตัวขึ้น พร้อมๆไปกับการทำงานที่ใกล้ชิดแบบตัวแทบจะติดกัน เด็กคนแรก “ด.ญ.ญาทิป” (น้องปิ๊กปิ๊ก) อยู่ชั้น ป. 4 เด็กน้อยหน้าตาจิ้มลิ้ม แววตาใสซื่อ พ่อ (จักรินทร์) เป็นนักธุรกิจใหญ่ ร่ำรวย เจ้าชู้ จนต้องแยกทางกับ แม่ (ตรีทิพย์) ที่มีฐานะร่ำรวยไม่แพ้กัน แต่ปิ๊กปิ๊กกลับมีพฤติกรรม “ชอบขโมย” จนเพื่อนไม่อยากคบ แต่ปิ๊กปิ๊กกลับไม่รู้ร้อนรู้หนาว ไม่หยุดพฤติกรรม “จอมฉก”” ปิ๊กปิ๊กจึงเป็น “เด็กดีหมายเลข 1” ที่ท้าทายความสามารถของกรและทรายทิพย์ เด็กดี No. 2 เป็นเด็กชายอยู่ชั้น ป. 6 ชื่อ “ด.ช. ดังใจ” (โชกุน) พ่อแม่แยกทางกัน “ดุจฤทัย” (ดุจ) เป็นผู้หญิงเก่งที่ทุกอย่างต้อง “เป๊ะ ๆๆๆ” จน “ภูทอง” (ภู) สามีขอหย่า และหันไปเปิดผับเล็กๆ ในขณะที่ดุจฤทัยเป็นผู้บริหารระดับสูงของบริษัทข้ามชาติ ความเนี้ยบของดุจทำให้ “โชกุน” มีปัญหา “ไม่กล้าบอกความจริง” และนำมาสู่การเป็น “เด็กเลี้ยงแกะ” จอมโกหกของโรงเรียน “เมษา” (ตังเม) เป็นเด็กคนที่สาม ที่กรและแซนด์คัดเข้ามาอยู่ในโครงการ ตังเมอยู่ ม. 3 มีปัญหา “หมกหมุ่นกับการฆ่าตัวตาย” พ่อตังเมชื่อ “ชัยภูมิ” (ภูมิ) เป็นเจ้าของโรงงานขนาดใหญ่มีครอบครัวแล้ว “นวลสราญ” (นวล) แม่ของเธอมีฐานะเป็นเมียน้อยอย่างไม่เต็มใจ นวลปล่อยตัวให้จมกับความทุกข์ ไม่ลุกขึ้นสู้กับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น ทำให้ตังเมเป็นเด็กที่ไม่ได้รับความรัก การขู่ฆ่าตัวตายเพื่อเรียกร้องให้พ่อ แม่หันมาสนใจ คนที่ 4 ที่สุดแสบ แสบทั้งแม่ทั้งลูก เรียกได้ว่า .. แสบสะท้านวงการ เพราะเธอเป็นลูกสาวของ “พีรดา” (รดา) อดีตซุปตาร์ ที่กำลังอยู่ในขาลง “มงกุฎแก้ว” (มินนี่) เป็นดาวโรงเรียน เป็นคนหลงตัวเองอย่างสุดขั้ว แม่ลูกคู่วีน เหวี่ยง เป็นจอมสร้างภาพอันดับต้นๆของประเทศไทย มินนี่วางตัวเป็นเจ้าแม่คอยควบคุมเพื่อน เผด็จการ เป็นตัวแทนของเด็กในยุค GEN Me อย่างแท้จริง ติดโซเชี่ยลมีเดีย จนถึงขั้นรับความจริงไม่ได้ พีรดา และมินนี่ เธอรับไม่ได้ที่ตัวเองถูกส่งมารวมกับไอ้เด็กปัญหา อาละวาดจนแซนต์และกรต้องปวดหัว ความปวดหัวสุดท้ายที่ทำให้กรและแซนด์ คือเด็กคนที่ 5 “ถวายชัย” (ลูกหวาย) เด็กชั้น ม. 6 หน้าตาดี ภายนอกดูสุภาพ เรียบร้อย พูดน้อย ทรายทิพย์แทบไม่อยากเชื่อเลยว่าหวายจะเป็นเด็กที่ชอบใช้ความรุนแรง มีเรื่องชกต่อยกับเพื่อนเป็นประจำ ไม่ให้ความร่วมมืออะไรทั้งสิ้น เธอรู้แค่ว่าพ่อของหวายชื่อ “ยอดยุทธ” เป็นเจ้าของโรงเหล็ก ส่วน “เป็นสุข” ผู้เป็นแม่ แยกทางกับพ่อได้สองสามปี หวายมีน้องสาวชื่อ “ถวายพร” (ลูกหว้า) อยู่กับแม่ หลังจากได้รู้จักเด็กทั้ง 5 คน ทรายทิพย์เครียดสุดๆ เพราะแต่ละปัญหาไม่ได้ง่ายอย่างที่เธอคิด ซ้ำร้ายยังไม่มีใครให้ความร่วมมือแม้แต่คนเดียว ทั้งตัวเด็ก พ่อ แม่ แต่สิ่งที่ทั้งสองคนได้โดยไม่คาดคิดคือ การได้เรียนรู้กันและกัน ทั้งกรและแซนด์ได้เก็บข้อมูลของกันและกันโดยไม่ตั้งใจ แซนด์ได้รู้ถึงความกดดันที่ทำให้กรเป็นคนดุ และจริงจังจนเกินไป กรเองก็ได้รู้ว่าปัจจัยสำคัญที่ทำให้แซนด์เป็นผู้หญิงคิดบวก ไม่ท้อแท้ ไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ เป็นเพราะเธอมีครอบครัวที่แสนดี เป็นกองหนุนสำคัญ กรเองก็แอบมาขอกำลังกำลังใจจากพ่อแม่ของเธอเป็นประจำ เค้าคิดว่ากรเป็นลูกชายคนหนึ่งโดยไม่รู้ตัว แต่ถึงแม้แซนด์จะได้กำลังใจอย่างมากจากครอบครัว แต่ปัญหาสารพันที่รุมเร้าเข้ามา และฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้แซนด์สติขาดผึง เมื่อกรมาระบายความกดดันใส่ ด้วยการจิกเอาผลงาน การไล่บี้แบบไม่สนใจเหตุผลของกร ทำให้แซนด์ระเบิดอารมณ์อย่างกดดัน “ไม่ไหวแล้วเว้ยยยยยย....ฉันขอลาออก” !!!! แซนด์เก็บของและเดินออกไปเลย กร และ ปาล์ม ถึงกับอึ้ง ! การลาออกของแซนด์ทำให้อำนาจสะใจอย่างแรง อำนาจสรุปเลยว่าโครงการ “เด็กดี ฯ (จอมปลอม)” ล้มเหลว ไม่มีชิ้นดี ขณะนี้อำนาจหวังสูง เขาต้องการบีบขอซื้อหุ้นจากนพลักษณ์และยึดโรงเรียนมาเป็นของตัวเอง ต้องทำทุกอย่างเพื่อให้กรหมดความน่าเชื่อถือ กรเองเมื่อไม่มีแซนด์ก็เริ่มรู้สึกเหมือนขาดคนรู้ใจ กรเร่งให้ปาล์มไปตามตัวแซนด์กลับมา ทางด้านแซนด์หลังจากลาออก เธอกลับรู้สึกว่างจนเหงา ด้วยทิฐิแซนด์พยายามไม่ยอมรับความรู้สึกที่แท้จริง ยืนยันกับปาล์มว่า ไม่กลับไปทำงานเด็ดขาด แต่แล้ว..ความตั้งใจของเธอก็ต้องเปลี่ยนไป .. เมื่อ “ลูกหว้า” น้องสาวของหวายมาหาเธอที่บ้าน พร้อมกับ “เป็นสุข” ผู้เป็นแม่ ทั้งสองคนมาเพื่อขอให้ช่วยลูกหวาย เพราะถ้าโดนไล่ออกจริงๆ จะโดนพ่อตีอย่างหนักแน่ๆ ยอดยุทธ (พ่อ) เป็นคนอารมณ์ร้ายมาก ทำให้เป็นสุขทนไม่ได้ ขอหย่า และแบ่งลูกกัน หวายจึงเป็นคนเดียวที่ต้องรองรับอารมณ์ของพ่อ ทำให้เขากลายเป็นเด็กก้าวร้าว และใช้กำลังตัดสินปัญหา ในระหว่างที่ลังเลอยู่นั้น กรก็พ่ายแพ้ต่อความรู้สึกของตัวเอง เขามาหาเธอที่บ้านเพื่อตามกลับไปทำงาน แต่ยังมีฟอร์มด้วยการเอาคลิปที่อำนาจพูดในที่ประชุมด้วยความสะใจที่เธอทิ้งงานกลางครัน แซนด์ฟังแล้วจี๊ดดดดดดดขึ้นมาทันที กรรีบท้าทายถ้าอยากจะลบคำประมาทก็ต้องกลับไปทำงาน ดีกว่าจะต้องเสียชื่อไปทั้งชีวิต แซนด์คิด..คิด..คิด และตัดสินใจ “ฉันกลับไปทำก็ได้ ..ถ้าต้องการให้เธอกลับไปทำงานครั้งนี้ กรจะต้องทำตัวเป็นทีมเดียวกับเธอ ไม่ใช่อยู่ฝ่ายตรงข้ามแล้วมาคอยไล่บี้แบบไม่มีเหตุผล และจะช่วยเธอทำงานนี้ให้สำเร็จในฐานะ “เพื่อนร่วมงาน” ไม่ใช่ “เจ้านาย” กรกลับไปต่อรองกับแม่ได้สำเร็จ นพลักษณ์ยืดระยะเวลาของโครงการนี้ไปอีกหนึ่งเทอม กรและแซนด์ได้กลับมาทำงานด้วยกันอีกครั้ง จากผูกพันที่เริ่มก่อตัว ได้รับการสานต่ออย่างเหนียวแน่น โดยมีปัญหารายล้อมเป็นตัวเร่ง แซนด์รวบรวมกำลังใจ และ ข้อมูลที่มีเพื่อเริ่มต้นสานต่อโครงการ “เด็กดี ฯ” อีกครั้ง โดยมีกรคอยประกบอยู่ไม่ห่าง ระหว่างปิดเทอมเด็กทั้ง 5 ต่างมีกิจกรรมที่แตกต่างกันออกไป ทำให้แซนด์ได้รู้จักเด็กๆในอีกมุมที่เธอไม่เคยรู้ ระหว่างปิดเทอมที่ได้ทำงานด้วยกันทั้งกรและแซนด์ได้รู้จักกันมากขึ้น ได้ใช้ชีวิตในแบบที่ไม่เคยทำมาก่อน เหมือนได้กลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง โรงเรียนเปิดเทอม สิ่งไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น ... เด็กทั้ง 5 คนกลับมาสร้างปัญหาเหมือนเดิมและรุนแรงมากขึ้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน จากเหตุการณ์ร้ายแรงที่ประดังเข้ามาทำให้นพลักษณ์ตัดสินใจยุติโครงการ “เด็กดี ฯ ” ของกร และเรียกเด็กทั้ง 5 พร้อมกับผู้ปกครองมาชี้แจงเรื่องการขอเชิญให้ออกกลางเทอม ทุกคนถึงกับชอค และไม่ยอมออก ส่วนยอดยุทธเมื่อรู้เรื่องก็ตบหวายต่อหน้าทุกคนอย่างแรง ในจังหวะนั้นเอง แซนด์ก็พุ่งเข้าไปและเอาตัวเองกอดหวายไว้ยอมที่จะรับฝ่ามือ และกำปั้นของยอดยุทธแทนโดยไม่คำนึงถึงความเจ็บปวด กรเข้ามาเห็นพอดีรีบเข้ามาห้าม กว่าเหตุการณ์จะสงบทำเอาทุกคนอกสั่นขวัญหายและร่างกายของแซนด์ก็มีรอยฟกช้ำดำเขียวเต็มไปหมด กรปฐมพยาบาลให้แซนด์ด้วยความสงสาร วินาทีนี้เขาไม่กังขากับความทุ่มเทให้กับงานของเธออีกต่อไป เขาชื่นชมเธอ (เป็นครั้งแรก) แซนด์ดีใจและนึกไม่ถึงว่าเธอจะทำให้จอมเฮี้ยบอย่างกรเอ่ยปากชมได้ .. แต่สุดท้ายเธอก็ทำโครงการนี้ไม่สำเร็จ เด็กๆต้องโดนไล่ออก กรเสียเครดิต และตัวเธอเองก็ต้องตกงาน ความเห็นอกเห็นใจกันทำให้ทั้งสองคนใกล้ชิดกันมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น .. เมื่อนพลักษณ์เรียกแซนด์เข้าพบ และบอกให้กลับมาทำโครงการเดิมให้สำเร็จ นพลักษณ์บอกว่า.. หลังจากเกิดเรื่องเหล่าบรรดาผู้ปกครองของเด็กมาขอเข้าพบ และขอร้องในเรื่องเดียวกัน นั่นคือ .. ขอโอกาสเพื่อเข้าโครงการ “เด็กดี ฯ” อีกครั้ง การกลับมาของเด็กทั้ง 5 คน สร้างความแปลกใจให้เพื่อนร่วมห้องเป็นอย่างมาก หลายคนแสดงอาการรังเกียจอย่างเห็นได้ชัด แซนด์และกรต้องร่วมมือกันรีบแก้ปัญหา ก่อนที่เด็กจะโดนทำร้ายจิตใจจนยากจะแก้ไข แซนด์และกรร่วมมือกัน เริ่มต้นแก้ปัญหาจากทั้งสองด้านคือ แก้ที่เด็ก และ แก้ที่พ่อแม่ ในระหว่างที่แซนด์พยายามจะแก้ปัญหาอันแสนหนักหน่วงของเด็กทั้ง 5 เธอมีกรคอยเป็นผู้ช่วยและให้กำลังใจอย่างใกล้ชิด ทำให้เธอได้เห็นมุมต่างๆของผู้ชายแสนเฮี้ยบหน้าขรึมคนนี้มากมาย กลายเป็นความผูกพันที่แสนงาม ท่ามกลางความชื่นมื่นของแซนด์และกร กับโครงการที่กำลังไปได้ดี ทั้งสองไม่รู้เลยว่าอำนาจได้แอบสร้างคลื่นไต้น้ำ พลังความคิดในด้านลบนี้ถูกก่อขึ้นและพร้อมระเบิดในวันประชุมผู้ปกครองประจำปี ในการประชุม ผู้ปกครองหลายคนที่โดนปั่นหัวเห็นด้วย ลามปามจนถึงขั้นต้องไล่เด็กออก ไล่แซนด์ออก และขู่ว่าถ้านพลักษณ์ให้กรมาดูแลโรงเรียนแทนจะพาลูกลาออกทั้งหมด !!! อำนาจยิ้มพอใจกับปฎิกริยาของผู้ปกครอง แต่แล้ว....สิ่งที่อำนาจวาดฝันไว้ก็ต้องพังทลาย เมื่อพีรดา นวลสราญ ตรีทิพย์ ดุจฤทัย และภูทอง รวมทั้งเป็นสุข และ ยอดยุทธ (ที่อาการเริ่มดีขึ้น แม้ยังไม่หายสนิท แต่นั่งวีลแชร์มาร่วมประชุม) ลุกขึ้นพูดถึงการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นหลังจากที่ได้ร่วมโครงการนี้ แต่ละคนพูดถึงสิ่งที่ได้รับ ได้เห็นปัญหา ได้เข้าใจปัญหาของลูก ของตัวเอง ได้รู้ว่าเราจะปรับปรุงตัวอย่างไร เพื่อทำให้ลูกและตัวเราเป็นคนที่มีคุณภาพมากขึ้น สุดท้ายจะไล่เด็กทั้ง 5 ออกจากโรงเรียนก็ได้ แต่ขอให้มีโครงการนี้ต่อไป เพราะคนที่จะได้ประโยชน์คือลูกๆ และตัวคุณเอง ทำให้ผู้ปกครองคนอื่นๆ อึ้ง จากหน้ามือ เป็นหลังมือ จนอำนาจไม่พอใจ เผลอหลุดโวยวายออกมา จนนพลักษณ์ต้องรีบปิดการประชุม นพลักษณ์ต่อว่าอำนาจ และบอกว่าเธอรู้ทันเกมของเขา ไม่มีวันที่เธอจะขายหุ้น และนับจากนี้ไปเธอจะให้กรขึ้นมาบริหารโรงเรียนแทน !! ถ้ารับไม่ได้ก็พร้อมจะให้ลาออก อำนาจตีหน้าซื่อ และไม่มีปัญหาที่กรขึ้นมาแทน เขาพร้อมที่จะทำงานกับทุกคนเพื่อโรงเรียนเพื่อเด็กๆ อำนาจแม้จะพลาดในครั้งนี้ แต่เขาเก็บความแค้นไว้จนแน่นอก พร้อมจะแก้แค้นทันทีที่มีโอกาส การประชุมผู้ปกครองที่ผ่านพ้นไป .. เหมือนพายุที่พัดพาความมืดมัวออกไปจากชีวิตของหลายๆคน ปิ๊กปิ๊กเลิกนิสัยขโมยของโดยเด็ดขาด และนำของที่เคยเอาไปซ่อนเพราะความอิจฉามาคืนเพื่อนๆ คืนโรงเรียน และคืนแซนด์ ตรีทิพย์เลิกไปยุ่งวุ่นวายกับเมียอื่นๆของจักรินทร์ ดูแลลูก ดูแลตัวเอง โชกุนกล้าที่จะพูดความจริง และยอมรับความผิด แม้ต้องโดนลงโทษก็ไม่กลัว ดุจฤทัยและภูทองกลับมาคืนดีกันอีกครั้ง ทั้งสองคนเริ่มต้นกลับมาอยู่ด้วยกันใหม่ โดยมีโชกุนเป็นกาวใจ นวลสราญกลับมาสวยเหมือนเดิม เธอเลิกกับชัยภูมิอย่างเด็ดขาดและตัดสินใจกลับไปต่างจังหวัด พร้อมกับนำเงินที่เก็บสะสมไว้มาลงทุนทำสวนในที่ของตัวเอง ตังเมยินดีลาออกจากโรงเรียน และย้ายไปเรียนที่ประจำจังหวัดเพื่อจะได้อยู่กับแม่ ตังเมใช้เวลาไปกับการสร้างสรรค์งานศิลปะที่น่าทึ่ง มินนี่กลับมาเป็นเด็กธรรมดา ลดการสื่อสารทางโซเชี่ยลมีเดีย กลับมาอยู่กับเพื่อนๆ อยู่กับโลกความเป็นจริง และหาเวลาไปเที่ยวต่างจังหวัดกับแม่มากขึ้น ทุ่มเทให้กับการเรียน หวายเอาดีทางด้านกีฬา จนได้เป็นนักฟุตบอลโรงเรียน เมื่อได้ปลดปล่อยพลังออกมา ความก้าวร้าวก็ลดลง อาการของพ่อก็เริ่มดีขึ้น ยอดยุทธขอร้องให้เป็นสุขและหว้ากลับมาอยู่บ้าน ยอดยุทธหันไปฟังธรรมะและละวางเรื่องงาน เรียนรู้เรื่องการควบคุมอารมณ์ เพื่อแลกกับครอบครัวที่เป็นสุข นพลักษณ์ชื่นชมแซนด์อย่างมากในความสำเร็จครั้งนี้ แต่แซนด์ไม่รับ เธอตัดสินใจเลื่อนตำแหน่งให้กรขึ้นมาดูแลโรงเรียนแทนเธอ ท่ามกลางการยอมรับของครู และผู้ปกครอง กรขอบคุณแซนด์ที่ช่วยเหลือมาตลอด เขาชวนเธอมาเป็นพนักงานประจำ ทำหน้าที่ดูแลเด็กที่มีปัญหาคนอื่นๆ ที่อาจจะมีมาอีก แต่แซนด์ปฎิเสธ เธอขออยู่อย่างอิสระ แต่ถ้ามีเด็กต้องการความช่วย เธอจะมาทันที .. กรยอมรับและในการตัดสินใจ และถือเป็นสัญญาใจระหว่างเขาและเธอ .... ทรายทิพย์ปิดจ๊อบแรกในชีวิตอย่างมีความสุข เธอได้เรียนรู้ว่า “ครอบครัว” เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตมนุษย์ ไม่ว่าครอบครัวเราจะรั่ว แตก แยก ผุ อยู่ในสภาพเลวร้ายขนาดไหนก็ตาม ความรัก ความใส่ใจ ความสนใจ คืออุปกรณ์สำคัญที่จะอุดรอยรั่ว รอยร้าวได้อย่างดีที่สุด
นางสาวทองสร้อย คุณแจ๋วหมายเลข 1 2558

นางสาวทองสร้อย คุณแจ๋วหมายเลข 1 (2558/2015) ใคร ๆ มักจะบอกว่า อะไร ๆ บนโลกก็มักจะเกิดขึ้นได้ ไม่ต่างจากในละครน้ำเน่า เฉกเช่นชีวิตของผู้หญิงคนนี้ ที่เป็นตัวแทนของสังคม และจะสะท้อนให้เห็นว่าการสวมใส่เสื้อผ้าดี ๆ การมีอาชีพดี ๆ บางครั้งก็ไม่ได้บ่งบอกว่าคนคน นั้นจะเป็นคนดี การมีความคิดที่ดีต่างหากที่เป็นตัวบ่งบอก เธอ...คือลูกสาวคนเล็ก ทายาทเศรษฐี 1,000 ล้านเจ้าของกิจการด้านสุขภาพชั้นนำของประเทศ เธอ...คือคอลัมนิสต์ชื่อดังพ่วงด้วยดีกรีปริญญาด้านฟู้ดสไตล์ลิสจาก แพรรรีสสสสส แต่เธอ...กลับต้องตกกระไดพลอยโจนกลายมาเป็น นางแจ๋วก้นครัว ทองสร้อย พงษ์เดชา ลูกสาวคนเล็กของ นายทองก้อน พงษ์เดชา เสี่ยใหญ่เจ้าของกิจการทางด้านสุขภาพครบวงจรในเครือบริษัททองบริสุทธิ์ ทั้งศูนย์สุขภาพ ฟิตเนสที่มีสาขาทั่วประเทศ สปา บริษัทนำเข้าวิตามิน รวยระดับพันล้าน นายทองก้อนอยากให้ทองสร้อยแต่งงาน ในขณะที่ทองสร้อยยังสนุกกับการทำงานด้านโภชนาการที่ปารีส เป็นคอลัมนิสต์ เป็นกูรูด้านอาหารที่ได้รับการยอมรับนับถือ ทองก้อนกลัวว่าทองสร้อยจะสร้างประวัติศาสตร์ซ้ำรอย เหมือนลูกชายและลูกสาวคนโตที่ส่งไปเรียนเมืองนอก แล้วก็ไปแต่งงานกับฝรั่งไม่กลับเมืองไทยอีก ทองก้อนจึงบังคับให้ ทองโปรย ชายหนุ่มหัวใจรักสิ่งแวดล้อม พี่ชายอีกคนของทองสร้อย วางแผนหลอกทองสร้อยกลับมาเมืองไทยโดยอ้างว่าพ่อกำลังป่วยหนักให้รีบกลับมาดูใจ แต่เมื่อทองสร้อยกลับมาถึงบ้าน กลับได้พบเซอร์ไพรส์งานแต่งงานของเธอกับ กุลชาติ หนุ่มเนิร์ดบ้าเกาหลี ลูกชายของเพื่อนสนิทของพ่อ ที่เคยมีสัญญาใจกันเอาไว้ในอดีต ทองสร้อยอาละวาดขับไล่กุลชาติและแขกทั้งหมด และประกาศกร้าวว่าจะไม่ยอมให้คลุมถุงชนเด็ดขาด แล้วทองสร้อยก็ได้หนีออกจากบ้าน ทองก้อนไม่ยอมเสียชื่อมาเฟียสุขภาพของประเทศ ประกาศกร้าวเช่นกันว่าจะเอาตัวทองสร้อยกลับมาแต่งงานให้ได้ ทองสร้อยหนีเอาตัวรอดจากลูกสมุนของพ่อด้วยการไปสมัครเป็นแม่บ้านประจำบ้านเวียงคีรี ที่กำลังประกาศรับสมัครแม่บ้านอยู่ เธอปลอมตัวเข้าไปโดยใช้ชื่อว่า ทองสร้อย นาไกล หน้าที่หลักของทองสร้อยคือการทำอาหารให้คุณ ๆ ทานทั้งสามมื้อ เวลานอกเหนือจากนั้นก็ต้องช่วยทำงานอื่น ๆ ในบ้านด้วย ครอบครัวเวียงคีรี ประกอบธุรกิจห้างค้าส่งสินค้าตกแต่งบ้านทุกชนิด ตั้งแต่ปูนยันเฟอร์นิเจอร์หรู เป็นมรดกตกทอดมาจากบรรพบุรุษ โดยที่คุณใหญ่หรือคุณพิกุลแก้วนั่งแท่นประธานบริหาร และยังเป็นผู้กุมอำนาจภายในบ้านอย่างเบ็ดเสร็จ คุณกลางหรือคุณพฤกษ์ น้องชายร่วมมารดาของคุณใหญ่ ที่มีสิทธิ์และศักดิ์ภายในบ้านเท่าเทียมกัน เป็นผู้จัดการด้านอินทีเรียดีไซน์ คุณแหว๋ว ภรรยาของคุณกลางเป็นแม่บ้าน ส่วนคุณเล็กหรือนารียังเรียนมหาวิทยาลัยและมีฝันอยากทำงานสายการบิน ทองสร้อยพอรู้สาเหตุแล้วว่าทำไมคนใช้คนก่อน ๆ ต้องลาออกกันเป็นประจำ เพราะเธอทำงานหนักมากแถมยังถูกคุณใหญ่คอยกลั่นแกล้งสร้างแผนการต่าง ๆ นานาให้เธอกลายเป็นคนผิดในทุก ๆ เรื่อง แต่ในทุก ๆ ครั้งทองสร้อยก็รอดจากแผนการของคุณใหญ่มาได้เสมอ คุณแหว๋วกับทองสร้อยค่อนข้างจะสนิทกัน เพราะทองสร้อยอยากช่วยให้ความฝันของคุณแหว๋วเป็นจริงนั่นก็คือความฝันที่อยากมีร้านอาหารเป็นของตัวเอง คุณแหว๋วไม่อยากเป็นคนไร้ค่าขี้โรคไปวัน ๆ ทองสร้อยจึงรับปากว่าจะช่วยให้ความฝันของคุณแหว๋วเป็นจริง คุณใหญ่หาทางกำจัดทองสร้อยออกจากไปให้พ้นบ้าน ยุให้คุณแหว๋วระแวงทองสร้อย คุณแหว๋วเริ่มระแวงทองสร้อยหนักขึ้น คุณกลางเริ่มมีความรู้สึกดี ๆ กับทองสร้อย และติดใจในรสชาติอาหารของทองสร้อย แต่ก็มีความลับอึดอัดที่บอกใครไม่ได้ นั่นคือคุณแหว๋วเป็นเพียงแต่ภรรยาในนามที่ครอบครัวต้องการให้แต่งงานด้วย แต่คุณกลางไม่เคยรักและนอนร่วมห้อง มีเพียงคุณแหว๋วที่รักคุณกลางแต่เพียงข้างเดียว และถึงแม้คุณใหญ่จะไม่ชอบขี้หน้าทองสร้อยแต่ทองสร้อยก็ไม่เคยคิดร้ายตอบ พยายามค้นหาความจริงมาเปิดโปงบรรทัด ที่ตั้งใจมาปอกลอกคุณใหญ่ คุณกลางจับตาดูทองสร้อยมากขึ้น พบความผิดปกติหลาย ๆ อย่าง ทั้งเรื่องความรอบรู้เกินสาวใช้ของทองสร้อย เรื่องภาษาอังกฤษที่ทองสร้อยรู้จักคำศัพท์ยาก ๆ คุณกลางพยายามจะเสิร์ชกูเกิลหาใบหน้าที่แท้จริงของมาดามฟองดู แต่ก็ไม่พบข้อมูลใด ๆ คุณกลางรู้สึกสับสนมาก หลังจากที่ทองสร้อยหนีงานแต่งไป กรรมจึงมาตกอยู่ที่ทองโปรย เพราะทองก้อนยื่นคำขาดให้ทองโปรยไปตามทองสร้อยกลับมาแต่งงานให้ได้ภายใน 3 เดือน ไม่อย่างนั้นทองโปรยจะต้องรับผิดชอบคำสัญญาของพ่อ โดยการแต่งงานกับ กุลธิดา น้องสาวของกุลชาติ ผู้มีบุคลิกตรงกับคำว่า หน้าเสีย แต่ใจสวย และยังต้องรับสืบทอดบริหารกิจการในเครือทั้งหมดของบริษัทต่อจากพ่ออีก ทั้ง ๆ ที่ความใฝ่ฝันของทองโปรยคือการมีไร่เล็ก ๆ ทำสวนอย่างพอเพียง และที่สำคัญทองโปรยมีผู้หญิงที่เขาปักใจรักอยู่แล้ว คือนักศึกษาสาวสวยที่เขาเจอในสปอร์ตคลับของครอบครัว ซึ่งคนนั้นก็คือ คุณเล็กนั่นเอง ทองโปรยไม่มีทางเลือกอื่นใด นอกจากตามล่าทองสร้อยมาแต่งงานกับกุลชาติให้ได้ วันหนึ่งทองสร้อยได้รับอีเมลจากบรรณาธิการนิตยสารจากปารีสที่ทองสร้อยเขียนคอลัมน์เกี่ยวกับอาหารตีพิมพ์อยู่ในฉายาของ มาดามฟองดู บรรณาธิการจากปารีสจะมาร่วมงานเปิดตัวแมกกาซีนฉบับประเทศไทยและอยากพบทองสร้อยให้ได้ ทองสร้อยจึงต้องหาข้ออ้างเพื่อขอลางานกับคุณใหญ่ ภายในงานเปิดตัวนิตยสาร ทองสร้อยมาในฐานะมาดามฟองดู ทุกคนต่างอยากเห็นตัวจริงของมาดามฟองดูว่าเป็นใคร แต่ทองสร้อยสวมหน้ากากปิดบังใบหน้าไว้ ตามคอนเซ็ปต์ของคอลัมน์ที่ไม่เปิดตัวตนของคอลัมนิสต์ และแขกคนหนึ่งที่ทำให้มาดามฟองดูถึงกับตกใจนั่นก็คือคุณกลางที่เป็นแฟนคลับมาดามฟองดูด้วย คุณกลางมาแนะนำตัวว่าคือ เมอร์ซิเออร์นิโคลัส แฟนคลับที่เขียนอีเมลหามาดามฟองดูบ่อย ๆ ทองสร้อยถึงกับช็อกไม่คิดว่าจะเป็นคุณกลาง ทองสร้อยขอปลีกตัวออกมาจากงาน คุณกลางตามออกมา จนเกิดอุบัติเหตุได้เห็นใบหน้าใต้หน้ากากของมาดามฟองดู แล้วก็ต้องประหลาดใจเพราะคล้ายกับทองสร้อยมาก แม้จะคุ้นหน้าว่าเหมือนกับทองสร้อย แต่ก็ไม่แน่ใจนักว่าคือคนเดียวกัน เพราะมาดามฟองดูอยู่ในลุคคุณหนูสวยรวยร้าย ต่างกับทองสร้อยโดยสิ้นเชิง..ทั้งสีผม ทรงผม การแต่งหน้า การแต่งตัว และวิธีพูดจา ทองสร้อยรีบชิ่งออกจากงานก่อนที่คุณกลางจะจับได้ คุณกลางเริ่มสงสัยในตัวทองสร้อยมากขึ้น พบความผิดปกติหลาย ๆ อย่าง ทั้งเรื่องความรอบรู้เกินสาวใช้ของทองสร้อย เรื่องภาษาอังกฤษที่ทองสร้อยรู้จักคำศัพท์ยาก ๆ เรื่องที่มาดามฟองดูหน้าตาละม้ายคล้ายกับทองสร้อยอีก คุณกลางเริ่มจับตาดูทองสร้อยมากขึ้น ทองสร้อยมาแอบถามคุณเล็กเรื่องที่คุณกลางเป็นแฟนคลับมาดามฟองดู คุณเล็กรู้แค่ว่าคุณกลางเก็บคอลัมน์นี้ทุกฉบับใส่กล่องใบหนึ่งเอาไว้ ทองสร้อยจึงขอตัวไปทำความสะอาดห้องคุณกลางทันที เพื่อค้นหากล่องใบนั้น แล้วก็ได้พบว่าคุณกลางเก็บเอาไว้จริง ๆ แต่ทองสร้อยยังไม่ทันเปิดอ่านอะไร คุณกลางก็เข้ามาเสียก่อน จึงพยายามหลบซ่อนไม่ให้ถูกจับได้ ทองสร้อยหลบออกไปได้หวุดหวิด ได้แต่สงสัยว่าคุณกลางมีความหลังอะไรกับมาดามฟองดู ในอดีต สมัยที่คุณกลางอายุ 10 ขวบ ต้องติดตามบิดาไปเจรจาการค้าที่เวียงจันทน์คุณกลางได้พบกับเด็กสาวคนหนึ่งที่เข้ามาตีสนิทด้วย และช่วยทำให้ชีวิตของเด็กหนุ่มวัยกระเตาะอย่างเขามีชีวิตชีวามากขึ้น คุณกลางได้ขี่จักรยาน เก็บผักผลไม้กินกันสด ๆ และที่สนุกที่สุดคือ เด็กผู้หญิงคนนั้นสอนให้เขารู้จักวิธีทำอาหาร เปิดร้านขายอาหาร และสอนวิธีทำขนมแสนอร่อยที่ชื่อ ช๊อกโกแลตฟองดู ช่วงเวลาสั้น ๆ เหล่านั้นเป็นความประทับใจของคุณกลางมาจนถึงทุกวันนี้ คุณกลางยังจำคำพูดทีเล่นทีจริงของเด็กหญิงคนนั้นได้ว่า โตขึ้นเราเป็นแฟนกันมั้ย คุณกลางยังไม่ทันได้ตอบคำถามนั้น บิดาต้องกลับกรุงเทพฯ เสียก่อนเพราะมารดาประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต... แล้วหลังจากนั้นทั้งคู่ก็ไม่ได้เจอกันอีกเลย และแล้ววันที่ทองสร้อยต้องออกจากบ้านเวียงคีรีก็มาถึง ทองสร้อยถูกพากลับมาที่บ้านเพื่อเตรียมเข้าพิธีแต่งงานกับกุลชาติในวันรุ่งขึ้น ทองโปรยสงสารทองสร้อยคิดจะแต่งงานกับกุลธิดาแทน แต่ทองสร้อยไม่ยอมเพราะรู้ดีว่าทองโปรยรักคุณเล็ก ทองก้อนบอกว่าต้องมีใครคนใดคนหนึ่งเข้าพิธีแต่งงาน สองพี่น้องต่างเกี่ยงกันไปเกี่ยงกันมา จนในที่สุดทั้งสองก็ตัดสินใจหนีจากงานแต่งด้วยกันอีกครั้ง ทองก้อนโมโหอย่างที่สุด สั่งตัดขาดท่อน้ำเลี้ยงทุกอย่าง อายัดเงิน อายัดทรัพย์สินทุกชนิด คุณกลางอยากเจอทองสร้อย แต่ไม่สามารถติดต่อได้เลย คุณกลางตามไปหาที่บ้านพงษ์เดชา พบทองก้อนที่อยากเจอทองสร้อยเช่นกัน ทองก้อนจึงคิดใช้คุณกลางเป็นตัวล่อให้ทองสร้อยปรากฏตัวออกมา ทองก้อนหลอกใช้คุณกลาง จัดฉากว่าคุณกลางเกิดอุบัติเหตุ อาการสาหัส นอนอยู่โรงพยาบาล และคืนนั้น...ทองสร้อยก็มาหาคุณกลางจริง ๆ สารภาพว่าคุณกลางคือเด็กในความทรงจำของเธอเช่นกัน เธอจำได้แต่ไม่สามารถแสดงอะไรออกไปได้เพราะคุณกลางมีคุณแหว๋วอยู่แล้ว ซึ่งคุณแหว๋วก็แสนดีและรักคุณกลางมาก คุณกลางลืมตาขึ้นมาเรียกทองสร้อยว่ามาดามฟองดู คือคนคนเดียวกัน ในที่สุดก็ตามหาจนเจอ คุณกลางดีใจที่ได้พบรักครั้งแรกอีกครั้งกับทองสร้อย คุณกลางขอทองสร้อยแต่งงาน ทั้งสองได้ครองรักกันอย่างมีความสุข

นางร้ายซัมเมอร์ 2557

นางร้ายซัมเมอร์ (2557/2014) พลอยลดา (พัชรินทร์ จัดกระบวนผล) ต้องตกใจตัวแข็งค้าง นิ่งอึ้งตะลึงงันเมื่อเห็นหญิงสาวที่อยู่ในบูธ ครัวครบเครื่อง ในงานเที่ยวไทยช่วยไทย หน้าตาเหมือนตัวเองราวกับแกะ !!!!! หรือนี่คือ แพรชมพู (พัชรินทร์ จัดกระบวนผล) แฝดสาวผู้พี่ที่ รำไพ (ปราถนา สัชฌุกร) ผู้เป็นแม่เล่าให้ฟังว่าถูก สร้อยระย้า (ราตรี วิทวัส) ผู้เป็นป้าที่ไม่เคยยอมรับในตัวน้องสะใภ้ ขอไปเลี้ยงเป็นลูก ในวันที่ ศักดา (ปรินทร์ วิกรานต์) พ่อของทั้งสองสาวเสียชีวิต สร้อยระย้าสัญญาว่าจะติดต่ออย่างต่อเนื่อง แต่แล้วก็หนีหายไปไม่เคยติดต่อกลับมาอีกเลย !!!!

พลอยลดาละมือจากการอธิบายพรรณไม้แปลกตาฝีมือการปลูกและดูแลของตัวเองที่ประดับบูธ ภูสองธารรีสอร์ท รีสอร์ทที่ขึ้นชื่อเรื่องพรรณไม้งามยามซัมเมอร์ พลอยลดาเข้าไปหาแพรชมพูทันทีด้วยความดีใจ แต่แพรชมพู สาวหวานอ่อนโยน กุลสตรีทุกกระเบียดนิ้วตกใจ เพราะถูกป้อนข้อมูลมาโดยตลอดว่าตนเองเป็นลูกสาวคนเดียวของแม่สร้อยระย้าและพ่อประมุข แล้วหญิงสาวที่หน้าตาเหมือนกันคนนี้เป็นใคร !!! แพรชมพูเป็นลมช็อก โกลาหลกันทั้งบูธ ก่อนที่พลอยลดาจะมีโอกาสได้อธิบายความจริงก็ถูก ไม้สัก (จักรพันธ์ จันโอ) เพื่อนสนิทมาตามตัวให้ไปพบ ต้นน้ำ (เอกพงศ์ จงเกษกรณ์) ผู้บริหารหนุ่มไฟแรงทายาทของภูสองธารรีสอร์ทเป็นการด่วน โทษฐานละทิ้งการปฏิบัติงาน พลอยลดาถูกต้นน้ำลงโทษเกินกว่าเหตุนั่นคือไล่ออก พลอยลดาโวยลั่น เพราะรู้ดีว่าต้นน้ำไม่เคยชอบหน้าพลอยลดามาตั้งแต่เด็ก เพราะความดื้อรั้น หัวแข็งถึงขั้นหัวหมอลุกขึ้นมาเป็นผู้นำคนงานในรีสอร์ทเรียกร้องความยุติธรรม จากการบริหารของต้นน้ำที่เน้นระบบทุนนิยมจ๋า ฉีกการบริหารแบบครอบครัวที่พ่อและแม่เคยทำมา ต้นน้ำเลยพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้พลอยลดาพ้นไปจากรีสอร์ท แต่พลอยลดาไม่เคยยอมแพ้ให้กับความอยุติธรรมใด ๆ ประกาศเจตนารมณ์ว่า ต้นน้ำคือผู้บริหารที่หัวใจแห้งแล้ง สมควรถูกกูรูดูแลสวนไม้ดอกอันขึ้นชื่อของรีสอร์ทอย่างเธอ รดน้ำพรวนดินใช้จอบทิ่มแทงทุกวันให้รู้จักคุณค่าของมนุษย์ที่ไม่ได้เป็นเครื่องจักรไม่มีหัวใจ นอกจากนั้นพลอยลดาต้องการอยู่ทำงานทดแทนพระคุณ ธานินทร์ (วิวัฒน์ ผสมทรัพย์) และ สายธาร (ปานเลขา ว่านม่วง) พ่อแม่ของต้นน้ำ ที่เมตตาครอบครัวของเธอมาตลอดตั้งแต่ศักดาผู้เป็นพ่อยังมีชีวิต แต่ที่สำคัญเหนืออื่นใด บ้านในฝันที่พลอยลดาต้องการเก็บเงินเพื่อซื้อให้แม่ได้อยู่อาศัยอย่างสุขสบายในบั้นปลายของชีวิตคือเป้าหมายที่พลอยลดาต้องไปให้ถึง เพราะฉะนั้นต่อให้มีคนอย่างต้นน้ำสิบคนก็ขวางพลอยลดาไม่ได สองคนหัวหาย สามคนยิ่งสบาย ไม้สัก และ ลุงมงคล (ธมกร จักราวรวุธ) คนสวนเก่าแก่พ่อของไม้สัก คือแรงสนับสนุนสำคัญแบบลับ ๆ ของพลอยลดา เพราะกลัวถูกไล่ออก เพราะฉะนั้นการไล่ออกครั้งนี้ฝันไปเถอะ พลอยลดาแก้เผ็ดเอาคืนต้นน้ำ หาว่าเป็นนายจ้างที่กดขี่ข่มเหงใช้แรงงานเกินพิกัด ลูกน้องท้องเสียก็ยังไม่มีความปราณี !!! ต้นน้ำอายคนทั้งคอนเวนชั่นฮอลล์ จึงรีบเดินออกจากงานรอวันชำระแค้นพลอยลดาต่อไป ประกาศกร้าวว่าพลอยลดาอย่าได้เผลอ เป็นเจอดีแน่ !!! แพรชมพูฟื้นจากอาการเป็นลมที่บ้าน และเล่าเรื่องเจอคนหน้าเหมือนราวกับแกะให้สร้อยระย้าฟัง สร้อยระย้ารีบสั่งปิดบูธ ห้ามแพรชมพูไปที่บูธอีก เลิกขาย ยอมขาดทุน เพราะไม่ต้องการให้ความจริงที่ปิดบังมานานต้องเปิดเผย ไม่อยากเป็นนางมารร้ายพรากลูกไปจากอกแม่ในสายตาของแพรชมพู แพรชมพูต้องไม่รู้ความจริงและต้องอยู่เป็นแก้วตาดวงใจของเธอคนเดียวต่อไป แต่ความลับไม่มีในโลกฉันใด ย่อมไม่มีอะไรขวางทางพลอยลดาได้ฉันนั้น ระหว่างที่สร้อยระย้าพาแพรชมพูกลับมาดูแลที่บ้าน พลอยลดาและไม้ได้สะกดรอยตามมาด้วย และหาทางเจอกับแพรชมพูจนได้ในที่สุด สองคนพี่น้องดีใจที่ได้เจอกันอีกครั้ง และพลอยลดายิ่งดีใจไปอีกเมื่อรู้ว่าพี่สาวกำลังปลูกต้นรักกับ โชติโรจน์ ฐานะวาณิช (ธีรเดช เมธาวรายุทธ) ผู้บริหารและทายาทของห้างสรรพสินค้าเวลคัม แต่ติดปัญหาที่ว่า พรรณราย (ภัสสร บุณยเกียรติ) แม่ผู้เจ้ายศเจ้าอย่างและชอบดูถูกคนที่มีฐานะต่ำต้อยกว่า แพรชมพูไม่มีฤทธิ์เดชอะไรที่จะไปต่อกรกับพรรณรายได้ แม้ ชูพงศ์ (ศานติ สันติเวชกุล) ผู้เป็นพ่อของโชติโรจน์จะคอยช่วยโน้มน้าวใจภรรยาให้เห็นแก่ลูกชาย แต่ก็ไม่สำเร็จเพราะพรรณรายไม่เคยเชื่อใคร เธอคือผู้เป็นใหญ่สูงสุดในบ้าน และหวังกำจัดแพรชมพูไปให้พ้นทางลูกชาย จึงออกอุบายเปลี่ยนมาทำดีกับแพรชมพู และขอให้แพรชมพูมาอยู่ที่บ้าน 3 เดือนเพื่อเตรียมตัวเป็นลูกสะใภ้ แต่มีหรือที่พลอยลดาจะดูไม่ออกว่าพรรณรายมีแผนเจ้าเล่ห์ ตั้งใจจะกลั่นแกล้งให้แพรชมพูถอดใจและจากลาไปเอง เข้าทางพลอยลดาที่เกลียดคนบ้าอำนาจ เผด็จการเป็นทุนเดิมจึงวางแผนพิชิตใจทะลายกำแพงว่าที่แม่ผัว ด้วยการสลับตัวกับแพรชมพู แพรชมพูยอมคล้อยตามพลอยลดาในที่สุด การสลับตัวกับพลอยลดาเท่ากับว่าแพรชมพูจะได้มีโอกาสไปใช้ชีวิตอยู่กับรำไพแม่บังเกิดเกล้าให้สมกับที่จากกันมานาน แพรชมพูอยากดูแลและปรนนิบัติแม่ให้ดีที่สุด เพื่อเป็นการไถ่บาปให้สร้อยระย้า แต่ภารกิจเฉพาะกิจในฤดูซัมเมอร์นี้ต้องปิดเป็นความลับ จะไม่มีใครรู้เด็ดขาด พลอยลดาพยายามทำตัวเรียบร้อยเงียบหงิม เก่งงานบ้านงานเรือน เพื่อให้สร้อยระย้าตายใจ แพรชมพูพยายามทำตัวห้าว ก๋ากั่นเพื่อไม่ให้รำไพไม่สงสัย แต่ช่างยากเย็นแสนเข็นสำหรับแฝดทั้งสอง ที่พยายามโทรศัพท์หากันเพื่อสื่อสารและแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อไม่ให้ถูกจับได้จนทั้งคู่ทนไม่ไหวที่ไม่เป็นตัวของตัวเอง จึงวางแผนแกล้งทำเป็นลื่มล้มหัวฟาดพื้น เพื่อตื่นมาจะได้มีข้ออ้างได้ว่าเพราะสมองถูกกระทบกระเทือน พฤติกรรมเลยเปลี่ยน ปรากฏว่าทุกคนเชื่อสนิท พลอยลดาจึงก้าวเข้าสู่คฤหาสถ์ฐานะวานิชในภาพลักษณ์นางเอก ที่พรรณรายหวังจิกหัวใช้ให้กลายเป็นนางทาส แต่ไม่มีใครไหวตัวทันเลยว่านี่คือนางร้ายชัด ๆ แล้วปฏิบัติการปะ ฉะ ดะ กับพรรณราย ที่มี ละไม (จรรยา ธนาสว่างกุล) แม่บ้านช่างประจบเป็นลูกคู่ จึงเริ่มขึ้นลับหลังโชติโรจน์ ด้วยความแซบเว่อร์ เต็มพิกัด พรรณรายกำลังจะหมดทางสู้ แต่แล้วนรกก็เปิดประตูความคิดให้พรรณรายคิดได้ว่าต้องหาผู้ช่วย และผู้โชคดีได้แก่ นีน่า หรือ นันทินี (คัคกิ่งรักส์ คิดคิดสะระณัง) แฟนเก่าของโชติโรจน์ ที่โชติโรจน์เคยรักมากแต่ต้องผิดหวังเมื่อจับได้ว่าแท้จริงแล้วนีน่าหวังแค่สมบัติแต่ไร้ความรัก จึงได้ขอเลิกลาไป นีน่าตอบรับภารกิจจากพรรณรายโดยแลกกับค่าจ้างก้อนโต เข้ามาปั่นป่วน กระพือไฟรักเก่าให้คุโชนอีกครั้งให้ได้ ศึกคราวนี้พลอยลดารู้สึกเจ็บจี๊ด ลมเพชรหึงพัดรุนแรงโดยอัติโนมัติ อย่างไม่รู้ตัว พลอยลดาตกใจเพราะเพิ่งรู้สึกตัวว่าแอบหลงรักโชติโรจน์เข้าแล้วเต็มเปา พลอยลดากลัดกลุ้ม รู้สึกผิด เพราะเท่ากับกำลังแทงข้างหลังพี่สาว แพรชมพูพยายามทำงานดูแลดอกไม้งามของรีสอร์ทแทนพลอยลดาอย่างเต็มที่ แต่ดอกไม้กลับแห้งเหี่ยว ต้นน้ำเข้ามาเอาเรื่อง และขู่ไล่แพรชมพูออกจากงาน ถ้าไม่สามารถจัดการฟื้นฟูให้ดีดังเดิมได้ แพรชมพูกลุ้มใจ ตั้งใจปลูกดอกไม้ ดูแลอย่างหนัก แถมถูกคู่ปรับเก่าของพลอยลดาที่เคยมีเรื่องกันไว้ ย้อนกลับมาแก้แค้น แพรชมพูวิ่งหนีกระเซอะกระเซิง จนเกือบเสียท่าแต่โชคดีที่ต้นน้ำเข้ามาเห็นเหตุการณ์และช่วยเหลือเอาไว้ แพรชมพูปลอดภัยแต่ตกใจจนเป็นลม ต้นน้ำรีบช่วยเหลือและพาไปพักที่บ้านของตัวเองเพราะกลัวจะมีคนมาเห็นและเข้าใจผิด คิดว่าต้นน้ำรังแกแพรชมพู แพรชมพูฟื้นขึ้นมาในบ้านพักของต้นน้ำ รู้สึกสำนึกในบุญคุณ จึงทำการเก็บกวาดบ้านพักของต้นน้ำที่รกรุงรังจนสะอาดเอี่ยมเรียบร้อย แถมด้วยกับข้าวชาววังอีกสำรับใหญ่ พร้อมทิ้งโน้ตขอบคุณเอาไว้ ต้นไม้มาเห็นถึงกับอึ้ง ทึ่ง และพอใจ หลังจากนั้นแพรชมพูก็อยู่ในสายตาของต้นน้ำโดยตลอด ความอ่อนโยน ความอ่อนหวาน อยู่ใกล้แล้วสบายใจ ละลายหัวใจและท่าทางแข็งกร้าวของต้นน้ำลงทีละน้อย ๆ จนกลายเป็นความรักโดยไม่รู้ตัว แต่ต้นน้ำกลับปากแข็ง ปฏิเสธหัวใจตัวเองอย่างสิ้นเชิง และความแข็งกร้าว บึกบึน ปากร้ายของต้นน้ำก็ทำให้หัวใจของแพรชมพูอ่อนไหวด้วยเหมือนกัน แต่แพรชมพูจำเป็นต้องหักใจ เพราะไม่อยากจะทำบาปด้วยการนอกใจแฟน แพรชมพูเลยพยายามไม่ใกล้ชิดต้นน้ำ ทำให้ต้นน้ำคิดว่าแพรชมพูรังเกียจและเกลียดขี้หน้า จึงยิ่งประชดแพรชมพู ด้วยการเป็นเจ้านายมหาโหดมากกว่าเดิม คาดโทษว่าถ้าดอกไม้และสวนของภูสองธารรีสอร์ทไม่กลับมาสวยสดใสก่อนซัมเมอร์จะหมดไป จะไล่ออกทั้งแม่ทั้งลูก พลอยลดาและแพรชมพูประสบปัญหาเดียวกันนั่นคือ ต้องการหนีไปจากผู้ชายที่ทำให้ตัวเองหวั่นไหว บวกกับสถานการณ์อันตราย ดอกไม้และต้นไม้ที่รีสอร์ทแห้งเหี่ยว พลอยลดาเท่านั้นจึงจะแก้ปัญหาได้ ทำให้แฝดสาวทั้งสองคนสลับตัวกันอีกครั้ง เมื่อพลอยลดากลับมาที่ภูสองธารรีสอร์ท ก็ดำเนินการดูแลดอกไม้และสวนอย่างจริงจัง ทำให้ทุกคนงุนงงกับบุคลิกที่แปรเปลี่ยนง่ายราวดินฟ้าอากาศของพลอยลดา แต่ที่แย่กว่านั้น โชติโรจน์ซึ่งเป็นเพื่อนกับต้นน้ำมาทำงานและมาพักที่รีสอร์ทภูสองธาร พลอยลดาต้องหาทางหลีกเร้นหลบไม่ให้โชติโรจน์เห็นด้วยวิธีสารพัดจนเกือบถูกจับได้ แต่โชคยังเข้าข้าง มีเหตุทำให้โชติโรจน์ต้องรีบกลับกรุงเทพฯ เสียก่อนเพราะชูพงศ์โทรมารายงานว่า แพรชมพูถูกรังแก แพรชมพูก้มหน้าทำงานตามแต่พรรณรายจะจิกใช้โดยไม่โต้ตอบจนทุกคนแปลกใจ โชติโรจน์ไต่ถามแพรชมพูว่าเกิดอะไรขึ้น แพรชมพูก็ต้องหาเหตุผลมาแก้ตัวจนรอดไปได้ว่าเหนื่อยกับการเป็นคนเก่ง อยากอ่อนแอบ้างเพื่อให้โชติโรจน์ได้แสดงความรักความห่วงใย แต่โชติโรจน์กลับแสดงความรักต่อแพรชมพูอย่างไม่สนิทใจเหมือนเมื่อก่อนแล้ว เพราะโชติโรจน์รักแพรชมพูที่เป็นคนไม่ยอมคน เด็ดขาดคนนั้นไปเสียแล้ว แต่ไม่กล้าพูดให้แฟนสาวน้อยใจ ต้นน้ำกดกันพลอยลดาอย่างหนัก พลอยลดาแก้เผ็ดต้นน้ำด้วยการลาออกและลากให้ไม้สักและลุงมงคลออกด้วยเพื่อประท้วง ต้นน้ำไม่สนใจ หาคนสวนคนใหม่ แต่ไม่มีใครรับงานเพราะถูกพลอยลดาล็อบบี้ไว้หมดแล้ว ต้นน้ำจึงจำต้องมาง้อพลอยลดาให้กลับไป พลอยลดาได้ทีเรียกร้องสิทธิหลายประการเพิ่มเติมอันควรจะได้รวมถึงการให้ กุ้งนาง (อภิษฐา คล้ายอุดม) ลูกสาววัยรุ่นของนายด่วน ชาวประมงเพื่อนบ้านพลอยลดาเข้ามาทำงานที่รีสอร์ทด้วย เพราะไม่อยากให้กุ้งนางกลายเป็นสก๊อยไร้อนาคต สร้างภาระให้กับพ่ออีกต่อไป ต้นน้ำจำยอมรับข้อเสนอทุกประการเพื่อให้พลอยลดากลับมาทำงานเหมือนเดิม เมื่อทุกอย่างเข้าที่เข้าทางเรียบร้อย ดอกไม้และต้นไม้ได้รับการฟื้นฟู พลอยลดากำชับลุงมงคลและไม้สักว่าให้ช่วยดูแล อย่าทิ้งขว้างแล้วรีบกลับไปรับหน้าที่นางร้ายซัมเมอร์อีกครั้งด้วยหัวใจแช่มชื่นเพราะมั่นใจว่าตัวเองลืมความรักที่มีต่อโชติโรจน์ได้หมดใจ แต่พลอยลดาหลอกตัวเอง พลอยลดายังรักและคิดถึงโชติโรจน์ เพราะเมื่อเห็นนีน่าสร้างสถานการณ์ให้พลอยลดามาเห็นว่าโชติโรจน์และนีน่ากำลังโจ๊ะพรึม ๆ พลอยลดาเลือดขึ้นหน้า พรรณรายและนีน่าคิดว่าพลอยลดาต้องร้องไห้ร้องห่ม เข้าใจผิด คิดลาออกจากการเป็นแฟนของโชติโรจน์แน่แล้ว แต่ผิดคาดพลอยลดาสวมบทนางเอกแต่ร้ายเว่อร์อาละวาดไล่นีน่าเปิดออกไป ประกาศลั่นแฟนฉันห้ามยุ่ง ใครยุ่งมันต้องตาย โชติโรจน์ขอบคุณพลอยลดาที่มั่นใจในตัวเขา พลอยลดาชื่นชมในตัวโชติโรจน์เสมอ เพราะเป็นคนดีและรักแม่ ที่ถึงจะเป็นนางร้ายตัวแม่ โชติโรจน์ก็ไม่เคยโกรธหรือต่อว่าแม่ แถมยังทำตัวเป็นลูกชายที่อ่อนโยน เข้าอกเข้าใจแม่เสมอ เพียงแต่ขอไม่ยอมเรื่องแฟนเท่านั้น พลอยลดาสะดุ้งเฮือก เมื่อลืมตัวกอดแฟนพี่สาวแถมด้วยการประทับจูบอย่างดูดดื่ม พลอยลดาตะโกนในใจ ฉันกำลังกลายเป็นนางร้ายตัวจริง เพราะแย่งชิงผู้ชายของนางเอกอย่าง แพรชมพู กรี๊ดดด !!!! ส่วนแพรชมพูก็ต้องทำใจไม่ให้รักต้นน้ำ ผู้ชายเข้ม ร้ายกาจที่ยอมแพ้ต่อความอ่อนโยน เรียบง่ายเย็นเหมือนน้ำของแพรชมพู เพราะแพรชมพูรู้สึกผิดต่อโชติโรจน์ และเมื่อต้นน้ำเข้ามาพัวพันใกล้ชิด ทำให้แพรชมพูเข้าใจว่าต้นน้ำคงมีใจให้พลอยลดา ไม่ใช่เธอ !!!! วันหนึ่ง เจนวิทย์ เพื่อนของต้นน้ำแวะมาเยือนและชอบบรรยากาศของภูสองธารรีสอร์ทมาก อยากจะจัดงานแต่งงานที่นี้ บังเอิญหัวหน้าฝ่ายจัดเลี้ยงลาคลอด ต้องพักยาวไม่มีคนรับผิดชอบ ต้นน้ำจึงขอให้แพรชมพูเป็นแม่งานจัดสถานที่ให้สุดอลังการ ซึ่งงานนี้แพรชมพูไม่ต้องจำเป็นต้องปรึกษาพลอยลดาแล้ว เพราะนี่คือความถนัดส่วนตัวที่ทำได้ดีจนหาตัวจับยาก วันงานแต่งงานของเจนวิทย์ ทุกอย่างเกือบจะพร้อมหมดแล้ว ขาดแต่เพื่อนเจ้าสาวที่ป่วยกระทันหัน เจ้าสาวคนสวยเลยขอร้องให้แพรชมพูเป็นเพื่อนเจ้าสาว เพื่อนสนิทอย่างไม้สักรู้ดีว่าพลอยลดาไม่ชอบแต่งหน้าทาปากหรือใส่ชุดที่ดูหวือหวา แต่ครั้งนี้กลับตรงกันข้าม พลอยลดา ม้าดีดกะโหลกกะลาแก่นแก้วที่ไม่เคยชอบแต่งหน้าทาปากกลับสวยอย่างโดดเด่นจนคนตะลึงอึ้งไปทั้งงาน โดยเฉพาะต้นน้ำ !!! หลังงานเลี้ยงฉลองแต่งงานของเจนวิทย์ ต้นน้ำก็ชวนพลอยลดาดื่มต่อ หากเป็นพลอยลดาตัวจริงเธอคงจะไม่อิดเอื้อน แต่นี่แพรชมพูรู้ตัวดีว่าเธอแพ้แอลกอฮอล์ทุกชนิด เมื่อถูกต้นน้ำบังคับให้ดื่มเธอจึงจำใจต้องดื่มบ้างแอบเททิ้งบ้าง และพอเขาเมา ความรู้สึกพิเศษที่มีต่อหญิงสาวทำให้เขาเผลอตัวลวนลามเธอ แพรชมพูในคราบพลอยลดาโกรธมากจึงหนีต้นน้ำออกมา ไม้สักซึ่งคอยเฝ้าดูอย่างคนที่เขาแอบรักอยู่ห่าง ๆ จึงรีบพากลับไปส่งที่บ้าน กุ้งนางที่แอบรักไม้สักอีกทีแอบช้ำใจอยู่เงียบ ๆ เมื่อเห็นไม้สักเป็นห่วงเป็นใยแพรชมพูมากกว่าความเป็นเพื่อน รำไพเห็นลูกเมาเหล้าและเป็นผื่นแดงเต็มหน้าเต็มตัวก็ตกใจเพราะพลอยลดาไม่เคยเป็นเช่นนี้มาก่อน และที่คนเป็นแม่สงสัยมากที่สุดคือระหว่างเช็ดตัวให้ลูกสาวนั้น โดยปกติพลอยลดาจะมีไฝแบกหามอยู่ที่ไหล่ขวา แต่วันนี้กลับไม่มี ทำให้รำไพรู้ความจริงทันทีว่านี่ไม่ใช่พลอยลดา แต่เป็นแพรชมพู !!!! แพรชมพูจำใจสารภาพเรื่องราวทั้งหมดให้รำไพรับรู้ และขอร้องอย่าเพิ่งเปิดเผยความจริงตอนนี้ รำไพรับปากแต่นึกเป็นห่วงพลอยลดาที่กำลังหาทางระบายอาการอกหักด้วยการคุมร้านครัวครบเครื่องของสร้อยระย้าประหนึ่งเหมือนการคุมนักโทษในเรือนจำ ถ้าเจอแขกขี้เมาเมื่อไหร่ หรือใครเปรี้ยวลวนลามเธอ เป็นถูกพลอยลดาสอยจนร่วง พฤติกรรมเหล่านี้ของพลอยลดาสร้างความสงสัยให้กับสร้อยระย้าและประมุขเป็นอย่างมาก ไม่เพียงแต่สร้อยระย้าที่เห็นความเปลี่ยนแปลงไปของหลานสาว พรรณรายและละไม นายบ่าวเจ้าปัญหาก็เช่นกัน เมื่อพรรณรายสั่งให้พลอยลดารื้อสวนหย่อมและหาดอกไม้ใหม่มาลงให้สวยงาม พลอยลดาถนัดอยู่แล้ว เธอจึงสั่งดอกไม้ต้นไม้ราคาแพงมาจัดสวน แล้วให้ทางร้านไปเก็บเงินกับพรรณรายหลายหมื่นบาทเป็นการแก้เผ็ด พรรณรายที่งกแสนงกลมจับทันที พรรณรายไม่ยอมเสียรู้หล่อนจึงสั่งให้ว่าที่สะใภ้มาจัดห้องประชุมที่บ้านฐานะวาณิชและให้ทำหน้าที่เชิญสมาชิกชมรมสตรีนักธุรกิจกลุ่มห้างสรรพสินค้ามาประชุมเพื่อเลือกตั้งประธานชมรมคนใหม่แทนคนเก่าที่จะหมดวาระ พรรณรายที่หวังจะได้รับเลือกเป็นประธานในสมัยหน้านี้ สั่งงานหนักให้พลอยลดาทำหลายอย่างรวมถึงทำขนมของว่างเป็นของฝากสมาชิกติดไม้ติดมือกลับบ้านไปด้วย งานครั้งนี้โชติโรจน์รู้ว่าเป็นงานใหญ่และไม่เหมาะที่จะจัดที่บ้าน เขาจึงเสนอให้พลอยลดาจัดที่ห้องประชุมใหญ่ของห้างสรรพสินค้าเวลคัม และให้สั่งอาหารว่างจาก ครัวครบเครื่อง พลอยลดาลงมือทันที โดยมีเป้าหมายว่างานนี้พรรณรายต้องจดจำไม่รู้ลืม !!! ดังนั้นช่วงเตรียมงานแทนที่พรรณรายจะเห็นพลอยลดากวาดเช็ดถูห้องอาหารและจัดให้เป็นห้องประชุม แต่กลับได้รับบัตรเชิญให้เข้าร่วมประชุมที่ห้องประชุมของห้างสรรพสินค้า พรรณรายโกรธที่พลอยลดาขัดคำสั่ง แต่ก็จำต้องไปร่วมประชุมตามกำหนดการ วันประชุม พลอยลดาเอาของว่างใส่กล่องสวยหรูและแนบซองเงินแจกให้สมาชิกทุกคน พร้อมกับบอกว่าให้สนับสนุนเลือกพรรณรายเป็นประธานชมรมด้วย เมื่อพรรณรายมาถึงที่ประชุม ประธานชมรมและคณะกรรมการก็ตำหนิว่าพรรณรายติดสินบนสมาชิก ผิดกฎของชมรมจึงต้องแจกใบแดงห้ามลงสมัครตำแหน่งใด ๆ ของชมรมสองสมัย พรรณรายโกรธจนควันออกหูอาละวาดฟาดหางว่าพลอยลดาทำลายอนาคตของหล่อน พลอยลดาทำใสซื่อไม่รู้กฎระเบียบแต่หวังดีอยากจะให้พรรณรายได้เป็นประธานจึงลงมือกระทำการเช่นนั้น แต่คนอย่างพรรณรายไม่ยอมแพ้ใครง่าย ๆ เมื่อเห็นพลอยลดามีฤทธิ์มีเดชขึ้นมาอีก พรรณรายจึงดำเนินแผนเด็ด ไม้ตายไม้สุดท้ายคือ อนุญาตให้นีน่าขนข้าวของมาอยู่ในบ้านได้ โดยอ้างว่าสงสารลูกนกลูกกาไร้ที่พึ่ง และเป็นการเปิดไฟเขียวให้นีน่ามาเป็นตัวเลือก โดยที่โชติโรจน์ไม่มีสิทธิ์มีเสียงห้ามได้แต่อย่างใด พลอยลดาเข่นเขี้ยว งานนี้มีจัดเต็ม นีน่าเมื่อได้เข้ามาอยู่ในคฤหาสถ์ฐานะวาณิชก็กระหยิ่มใจว่าหล่อนมีความสำคัญมากและได้รับการยอมรับ จึงเริ่มทำตัวเป็นลูกสะใภ้เต็มรูปแบบ จิกใช้เหล่าบริวารไม่เว้นแม้แต่ละไมแม่บ้านใหญ่ เรียกร้องขอรถใหม่ไว้ใช้สักคัน พรรณรายต่อรองว่านีน่าต้องทำลายสัมพันธภาพระหว่างโชติโรจน์กับแพรชมพูให้พังลงเสียก่อน นีน่าจึงขอเงินจากพรรณรายเพื่อเอาไปช้อปปิ้งไม่เว้นแต่ละวัน และคอยตามติดโชติโรจน์ถึงห้องทำงานทุกวันจนไม่เป็นอันทำงาน แต่ที่ร้ายที่สุดคือนีน่าว่าจ้างโจรให้ฉุดพลอยลดาไปกระกระทำชำเรา แต่ผลก็คือคนที่โดนกระทำจนแทบเอาชีวิตไม่รอดคือโจรด้วยฤทธิ์หมัดและลูกเตะของพลอยลดา !!! แต่นีน่าไม่ได้หวังตกปลาแค่ตัวเดียว เหวี่ยงแหแล้วก็ต้องได้ปลาให้คุ้มการลงทุน ชูพงศ์คือเหยื่ออีกคนที่นีน่าบรรจงยั่วยวนหวังปอกลอกสมบัติ หากพลาดเป้าจากโชติโรจน์ พลอยดาแอบถ่ายคลิปเอาไว้ได้และใช้ขู่ชูพงศ์ว่าถ้าไม่จัดงานแต่งงานให้เธอกับโชติโรจน์ เตรียมเห็นคลิปป๋าแก่กับสาวแรดในยูทูบได้เลย ชูพงศ์เครียดจนลมจับและพรรณรายรู้เรื่อง ชูพงศ์ลมจับรอบที่สอง พรรณรายเจ็บใจที่ดึงนีน่างูพิษเข้ามาในบ้านจนตัวเองต้องเดือดร้อน พลอยลดาอาสาที่จะจัดการกับนีน่าให้ออกไปให้พ้นบ้าน แต่ขอให้พรรณรายยอมรับความจริงต่อหน้าโชติโรจน์ว่าเป็นคนดึงนีน่ามาเพื่อที่จะให้มากำจัดว่าที่สะใภ้ แต่พรรณรายไม่ยอมรับ พลอยลดาจึงขู่ว่า จะวิวาห์เหาะพาโชติโรจน์หนีไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ช่วยกันทำมาหากินสร้างฐานะและจะไม่ยอมให้ใครตามเจอหรือพบเห็นอีกเลยตลอดชีวิต !!! พรรณรายเมื่อทบทวนความหลังตั้งแต่มีนีน่าและแพรชมพูเข้ามาในชีวิตลูกชาย ใครทำสิ่งที่ดีและเกิดประโยชน์มากที่สุด และใครทำให้หล่อนทุกข์ร้อนใจที่สุด จึงยอมรับให้พลอยดาได้กำจัดนีน่า และยอมรับได้ในที่สุดว่า รักลูกก็ควรจะรักแฟนของลูกด้วย ยิ่งโดยเฉพาะเมื่อแฟนของลูกเป็นคนดี แม้ฐานะจะไม่ทัดเทียมก็ไม่ใช่อุปสรรค พลอยลดาปฏิบัติภารกิจนางร้ายอีกครั้งโดยอาศัยวันคล้ายวันเกิดของตัวเองเป็นวันลงมือตามที่ได้รับปากกับพรรณรายไว้ โดยเชิญครอบครัวฐานะวาณิชมาฉลองที่ร้าน ครัวครบเครื่อง ร้านริมแม่น้ำ และบอกนีน่าว่าจะหลีกทางให้นีน่า ระหว่างที่ทั้งหมดนั่งรับประทานอาหารในห้องพิเศษ พลอยลดาก็เปิดคลิปวิดีโอที่เธอทำขึ้น ตั้งแต่เรื่องคำสารภาพของสองโจรกระจอกบอกว่านีน่าเป็นคนบงการให้ทำร้ายแพรชมพู และปิดท้ายด้วยคลิปสวาทระหว่างนีน่ากับชูพงศ์ สร้อยระย้าเมื่อได้รู้เรื่องราวของนีน่า หล่อนก็แจ้งตำรวจมาจับนีน่าข้อหาจ้างวานให้คนมาทำร้ายหลานสาวของหล่อน นีน่าขอโทษพลอยลดา ในขณะนั้นเองแพรชมพูตัวจริงและรำไพก็ปรากฎตัวขึ้น ตามคำชวนของพลอยลดาที่ต้องการให้ความจริงเปิดเผยสักที ก่อนที่ใจตัวเองจะถลำลึกรักโชติโรจน์ไปมากกว่านี้ !!!! ความจริงทุกอย่างปรากฏ สร้อยระย้ารู้สึกผิดขอโทษที่ไม่ติดต่อรำไพ ทุกคนตื้นตัน แต่คนที่ว้าวุ่นใจและโกรธมากคือ โชติโรจน์ และต้นน้ำที่เข้ามาได้ยินความจริง เพราะสะกดรอยตามแพรชมพูมาหมายจะสารภาพรัก ทั้งโชติโรจน์และต้นน้ำรู้สึกโกรธที่ถูกหลอก และยิ่งกว่านั้นทั้งคู่ต้องกลับมาทบทวนตัวเองใหม่ว่าผู้หญิงที่ตัวเองรักคือใครกันแน่ !!!! ส่วนพลอยลดาและแพรชมพูก็ไม่กล้าบอกความในใจต่อกันว่าได้เปลี่ยนใจเกิดความรักต่อคนรักของอีกคนไปแล้ว แต่ในที่สุดเมื่อทนเก็บความอึดอัดต่อไปไม่ไหว พลอยลดาและแพรชมพูจึงสารภาพความในใจต่อกัน ทั้งคู่ดีใจที่ไม่ต้องรู้สึกผิดกันอีกต่อไป ต้นน้ำพยายามบอกตัวเองว่าผู้หญิงคนที่เขาพึงพอใจคืออดีตเด็กหญิงจอมแก่นที่เขาเฝ้ารอมาเกือบ 20 ปี ที่จะได้มาสานต่อสัมพันธ์ แต่เมื่อทบทวนถามใจตัวเองทีไรเขาก็ตอบตัวเองได้ว่าเขาเริ่มรักผู้หญิงคนนี้จริง ๆ คือวันที่ต้นน้ำพาแพรชมพูไปพักที่บ้านพัก และเห็นความเป็นแม่บ้านแม่เรือนของแพรชมพู รวมถึงการเป็นผู้หญิงที่ต้นน้ำต้องปกป้องดูแลทุกครั้งที่มีปัญหา แต่เมื่อแพรชมพูมาหาเพื่อปรับความเข้าใจ ต้นน้ำกลับมีทิฐิหนีไปที่เกาะแห่งความหลังที่ต้นน้ำและแพรชมพูเคยมาเที่ยวด้วยกันและห้ามไม่ให้นายด่วนบอกใคร แต่ไม่เหลือ ! เพราะความลับไม่มีในโลก นายด่วนรีบรายงานแพรชมพูทันที แพรชมพูเดินทางไปหาหัวใจของตัวเองอย่างทุลักทุเล จนเกือบจมน้ำทะเลตาย ต้นน้ำตะกายว่ายน้ำไปช่วย แล้วสองหนุ่มสาวก็ปรับความเข้าใจกันได้ในที่สุด ณ เกาะแห่งนั้น ส่วนโชติโรจน์มาคุกเข่าสารภาพรักกับพลอยลดาที่ร้านต้นไม้ ซึ่งพลอยลดาเพิ่งจะเปิดใหม่ขึ้นมา โชติโรจน์รวบรวมความกล้าหาญทั้งหมดที่มีสารภาพรักกับพลอยลดาว่า การมีหญิงห้าวแกร่งอย่างพลอยลดาเข้ามาในชีวิตทำให้สิ่งที่ขาดหายไปเติมเต็มขึ้นมา เพราะพลอยลดาเป็นผู้หญิงเก่งเหมือนแม่ พลอยลดาคือคำตอบของหัวใจ ไม่ใช่แพรชมพู ไม้สักอกหักอย่างแรง พุ่งลงทะเล แต่กุ้งนางสวมวิญญาณนางเอกและนางเงือกแหวกว่ายไปช่วยไม้สักเอาไว้ ทั้ง ๆ ที่ไม้สักไม่ได้ร้องขอ เพราะแค่อยากทิ้งรักลงทะเลไม่ได้ทิ้งชีวิต แต่ไม้สักได้เห็นความเป็นห่วงอย่างจริงใจของกุ้งนางแล้วก็คิดได้ว่า รักคนที่เขารักเราดีกว่า ภารกิจนางร้ายของพลอยลดาสิ้นสุดลงอย่างสมบูรณ์ ความรักของสาวคู่แฝดดำเนินไปอย่างราบรื่นบ้าง ติดขัดบ้างแต่ก็ประคองกันผ่านพ้นไปได้อย่างสวยงามทุกฤดู ไม่ว่าจะเป็นซัมเมอร์ เรนนี่ หรือวินเทอร์ ติดตามชมความสนุกสนานของ ละครนางร้ายซัมเมอร์
ก๊วนคานทองกับแก๊งพ่อปลาไหล 2557

ก๊วนคานทองกับแก๊งพ่อปลาไหล (2557/2014) 3 สาว อดีตเพื่อนเคยซี้สมัยมัธยม ต่อเนื่องถึงมหาวิทยาลัย แยกคณะกันไปเรียนตามความชอบและเป้าหมายในชีวิต และกลับต้องผิดใจกันนั่นคือ เมื่อน้ำผึ้งเห็นผู้ชายดีกว่าเพื่อน !!! เพราะเมเปิลและลินีจับได้ว่าแฟนของเพื่อนรักแอบไปมีกิ๊ก พยายามจะเปิดตาเปิดใจน้ำผึ้งให้เห็นความจริง แต่น้ำผึ้งกลับโกรธเพื่อนแทน สามสาวทะเลาะกันใหญ่โต ขุดปมด้อยปมอดีตมาโจมตีจนความรู้สึกพังยับกันไป ทั้งสามคนตัดสินใจสวมคอนเวิร์สทางใครทางมัน ทั้ง ๆ ที่เสียใจ แต่ทิฐิสร้างกำแพงในใจหนักหนา ไม่อยากเสียหน้าเสียฟอร์ม และในที่สุด…น้ำผึ้งก็ได้พบความจริงว่า เสียงเตือนจากเพื่อนคือสิ่งจริงแท้ น้ำผึ้งบอกเลิกแล้วหันหลังให้กับความรักอย่างสิ้นเชิง น้ำผึ้งเก็บงำความจริงข้อนี้ไม่ให้โลกรู้ว่าเธอพลาดเอง เพราะยังไงฉันก็ไม่เคยผิด ! น้ำผึ้งกล่าว การแตกหักของสามสาว ทำให้ ภัทรวลัย เพื่อสาวคนสนิทในก๊วนอีกคนที่ร้อนรนทนไม่ได้ คอยเป็นกาวใจสมานร้าวให้กลับมาดีดังเดิม แล้วอนาคตที่ภัทรวลัยวาดไว้ก็มาถึง วันที่แต่ละคนอายุอานามปาเข้าไปสามสิบห้า และเป็นวันสำคัญ คือวันแต่งงานของเธอกับคุณเป้ เทรนเนอร์หนุ่มหุ่นล่ำขยำใจชะนีแปลกอย่างภัทรวลัย คู่สร้างคู่สมที่เกิดมาเพื่อคู่กันอย่างแท้จริง ภัทรวลัยบังคับสามสาวให้เป็นเพื่อนเจ้าสาว ตามประสาเสือสามตัวอยู่ในถ้ำเดียวกันเมื่อไหร่ถ้ำย่อมสะเทือน งานหวุดหวิดเกือบล่ม ภัทรวลัยทนไม่ไหวด่ากราดสามสาวทั้งน้ำตาขอร้องขอให้ลดละเลิกทิฐิหันมารักกัน เมเปิ้ล น้ำผึ้ง ลินี รับปากเพื่อน…แต่อย่าหวังว่าในใจของสามสาวจะยอมรับ ใครอย่าพลาด ฉันจะซ้ำเติม !!! ในงานเลี้ยงฉลองสมรสสามสาวก็พลาด เมื่อถูกไต่ถามจากเพื่อนถึงชีวิตรัก เมเปิ้ลคว้าตัวผู้ช่วยหนุ่มรุ่นน้อง กฤษฎา เข้ามาประชิดแล้วแต่งตั้งแบบปัจจุบันทันด่วนว่านี่คือ…ว่าที่เจ้าบ่าวที่กำลังจะแต่งงานกันใน 1 เดือนข้างหน้าเหมือนกัน !!!! กฤษฎาหน้าซีดเมื่อถูกบังคับให้เป็นว่าที่เจ้าบ่าวแบบไม่ทันตั้งตัว !!!!! น้ำผึ้งและลินี ออกตัวแรงเช่นกันว่าฉันก็กำลังจะแต่งงานใน 1 เดือนข้างหน้าเหมือนกัน เพราะปากพาจน…เวรล่ะ แต่สิ่งหนึ่งที่แต่ละคนสังเกตได้และรู้สึกคือไม่เชื่อว่าเพื่อนจะมีแฟนจริง จึงเกิดการท้าทายและท้าพิสูจน์อีกหนึ่งอาทิตย์เราจะนัดเจอกันเพื่อพาแฟนมาให้ดูตัวว่าแฟนใครจะแซบกว่าใครและเพื่อยืนยันว่าแต่ละคนพูดจริง เมเปิ้ลเครียดเพราะแม้เธอจะเป็น fashion designer ชื่อดังและเป็นบรรณาธิการนิตยสารแฟชั่นของต่างประเทศที่ขยายตลาดในเมืองไทย เธอเป็นคนเจ้าอารมณ์ เหวี่ยงวีนแตก จึงไม่มีผู้ชายคนไหนอยากใกล้เธอ นอกจาก กฤษฎา ควรเวโรจน์ ผู้ช่วยของเธอ และกลายเป็นเหยื่อในที่สุด กฤษฎาอายุอ่อนกว่าเมเปิ้ล 5 ปี กฤษฎามีความฝันอยากเป็นบรรณาธิการและมีนิตยสารเป็นของตัวเอง เขาจึงยอมทนเป็นผู้ช่วยเมเปิ้ลและที่สำคัญ กฤษฎาแอบชอบเมเปิ้ล ดังนั้นเหตุตกกระไดพลอยโจนครั้งนี้ เป็นโอกาสที่กฤษฎาจะได้พิสูจน์ตัวเองกับเมเปิ้ลว่า แม้จะอายุน้อยกว่า แต่ว่าทำให้ฟินได้ แต่คงไม่ง่ายนักที่กฤษฎาจะเอาชนะใจเมเปิ้ลได้ เมเปิ้ลเห็นความล้มเหลวของจิลลา สาวแอร์โฮสเตสพี่สาวคนเดียวที่มีแฟนอายุอ่อนกว่าอย่าง ดรณ์ เมเปิ้ลไม่เคยเห็นว่าความรักของจิลลาจะมีความสุขตรงไหน มีแต่ความหวาดระแวง ไม่มีความมั่นใจเหลืออยู่ ไม่มีความมั่นคง ทะเลาะกันบ่อยยิ่งกว่าบอกรัก แล้วคนที่ต้องมานั่งถ่างตาฟังคำพูดฟูมฟาย ซ้ำ ๆ ซาก ๆ ก็คือเธอ การที่จิลลามีแฟนเด็กหาอนาคตไม่ได้ นำความไม่ปลื้มมาสู้คุณหญิงแสนสุข คุณหญิงย่าผู้เจ้าระเบียบ จู้จี้ เป็นผู้ดีเก่า แต่จิลลาก็ไม่แคร์ ยังคงดันทุรังคบกันดรณ์ต่อไป และเมเปิ้ลก็พร้อมที่จะเป็นอย่างที่คุณหญิงย่าหวัง ดังนั้น ความรักกับเด็กเป็นเรื่องห่วยแตกสำหรับเมเปิ้ลชาตินี้อย่าหวังว่าเธอจะรักเด็ก และอุปสรรคสำคัญอีกประการคือ ตรัยคุณ ว่าที่คู่หมั้นคู่หมายที่คุณหญิงย่าเตรียมเอาไว้ให้แต่งงานกับเมเปิ้ แต่เมเปิ้ลได้กลิ่นบางอย่างที่ผิดปกติ นั่นคือ กลิ่นเกย์ กฤษฎาอ้างว่ามีแฟนแล้ว น้ำฟ้าแฟนของกฤษฎาที่รักกันมาก เมเปิ้ลไม่ยอมแพ้ โดยมีการเลื่อนตำแหน่งมาเป็นผู้ช่วยบรรณาธิการบริหารเป็นสิ่งแลกเปลี่ยน กฤษฎายอมรับเงื่อนไขอย่างมีความสุข น้ำผึ้งทำได้ เพราะน้ำผึ้งงานลดหดหาย คล้าย ๆ ว่าคิวว่างยาวพรืด หาคิวงานแทบไม่เจอ ความสามารถหรือจะสู้กระแสใหม่ ๆ ตอนนี้ใคร ๆ ก็อยากได้ น้องเมอร์ดี้ ดาราสาววัยแรกแย้ม อายุ 19 ปี ซึ่งอยู่ในสังกัดบริษัท GT บริษัทเดียวกับน้ำผึ้ง ฝีมือของน้องเมอร์ดี้ไม่เท่าไหร่แต่ความใสกินขาด เด็กหน้าใสสร้างภาพใสซื่อตบตาชาวโลกว่าโดนน้ำผึ้งรังแกและตั้งฉายาให้น้ำผึ้งว่า ป้าน้ำเน่า นั่นคือสัญญาณ…ให้น้ำผึ้งรู้ว่าเส้นทางการเป็นนางเอกของตัวเองกำลังริบหรี่ลง ไหน ๆ เธอต้องแต่งงานโชว์เมเปิ้ลและลินีแล้วน้ำผึ้งก็ขอเลือกผู้ชายที่มีคุณสมบัติเลิศหน้าตา เพื่อเป็นเหตุผลว่าเธอออกจากวงการไปเป็นราชินีของมหาเศรษฐีแต่ปัญหาใหญ่คือ…เธอจะหาผู้ชายคนนั้นจากที่ไหน ???? พลันดวงตาคมสวยก็เหลือบไปเห็นหน้าปกนิตยสารธุรกิจ ทายาทนักธุรกิจหนุ่มที่ขึ้นหน้าปกนั้น คือ พีศทรรต โซ่อัมพัน พีศทรรตเป็นพ่อหม้ายป้ายแดง อายุเพียง 36 เป็นเจ้าของบริษัท GT ซึ่งเป็นบริษัท Artist Management หรือบริษัทบริหารและดูแลศิลปิน และน้ำผึ้งก็เป็นหนึ่งในศิลปินที่บริษัท GT ต๊ายย ! ใกล้เกลือกินด่างแท้ ๆ พีศทรรตเพิ่งหย่ากับ ธัญรดา ได้ 6 เดือน โดยทั้งสองมีลูกสาว 1 คน อายุ 7 ขวบ คือ น้องญาดา พีศทรรตกับธัญรดาแต่งงานกันเพราะความเหมาะสมในสายตาของกานดา ผู้เป็นแม่ แต่สุดท้ายชีวิตคู่ของพีศทรรตกับธัญรดาก็ไปไม่รอด เมื่อญาดาขาดความอบอุ่นและการดูแลเอาใจใส่จากแม่ ญาดาจึงกลายเป็นเด็กอ่อนแอเอาแต่ใจชอบทำตัวเป็นเด็กมีปัญหา เพื่อเรียกร้องความสนใจจากแม่ กานดาจึงทำตัวเป็นกาวหาทางปะชีวิตคู่ที่แตกหักของพีศทรรตและธัญรดาให้กลับมาครองคู่กันอีกครั้ง แต่ลูกชายหัวแข็งอย่างพีศทรรตก็ไม่มีวันยอมแม่เขาอีกแล้วเขาต้องการอิสระในชีวิตเขาคืน เขาคือผู้ชายที่ไม่มีผู้หญิงจับเขาได้เกิน 3 วัน แต่น้ำผึ้งหมายมาดว่าเธอนี่แหละจะเป็นผู้หญิงที่เขาอยู่ด้วยเกิน 3 วัน และจะต้องอยากอยู่ต่อไปตลอดชีวิต ด้านพีศทรรตคิดว่าความแรงของน้ำผึ้งจะเป็นกันชนอย่างหนากล้าปะทะกับกานดา เขาจึงร่วมเล่นเกมนี้กับน้ำผึ้งโดยประกาศว่า "ถ้าน้ำผึ้งทนเขาได้ถึง 1 เดือน เขาจะยอมแต่งงานกับน้ำผึ้ง น้ำผึ้งรีบเซย์เยสสสสสสสสส ลินีที่กำลังโกรธตัวเอง เพราะความขาดสติและต้องการเอาชนะ ใคร ๆ ก็รู้ว่าทนายความสาวที่ชื่อ ณัฏฐาลินี เป็นพวกหัวรุนแรงเรื่องการเรียกสิทธิสตรี เธอมีอคติต่อผู้ชาย โดยเฉพาะ วายุบุตร นักธุรกิจหนุ่มเจ้าของธุรกิจสถานที่ท่องเที่ยวกลางคืนสุดหรูกลางกรุง รูปหล่อน่าหลงใหล ในทัศนะของลินี วายุบุตรไม่ต่างอะไรกับเทพบุตรซาตาน จนเป็นที่รู้จักต่อสังคมในฐานะ คู่แค้นสนั่นเมือง วายุกลับได้ยินว่าลินีกำลังตกที่นั่งลำบากเกี่ยวกับหาเจ้าบ่าวแต่งงานโกหกเพื่อน ๆ ด้วยความแค้นและหมั่นไส้ผู้หญิงเฟมินิสอย่างลินีมานาน วายุบุตรไม่รอช้า เขาสั่งสิริมาไปจ้างทำการ์ดแต่งงานลงชื่อระหว่างเขาและลินี แล้วส่งไปให้เมเปิ้ลและน้ำผึ้ง แต่เมื่อเจอคำท้าทายของวายุบุตร ลินีจึงยอมตกกระไดพลอยโจนเออออว่าจะแต่งงานกับวายุบุตร วันนัดดูตัวว่าที่เจ้าบ่าวของสามสาวก็มาถึง สามหนุ่มยิ่งนึกสนุกที่จะได้แกล้งสามสาวจึงหวานเว่อร์เข้าใส่ และแล้ววินาทีพิเศษที่สร้างความหวั่นไหวให้หัวใจของสามสาวอย่างที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อน มันคืออะไรนะ สามสาวไม่แน่ใจกับความรู้สึกของตัวเอง เมเปิ้ลดีดตัวปฏิเสธความรู้สึกนี้ก่อนใคร ไม่มีทางที่เธอจะมีใจให้เด็ก กฤษฎาพอจะอ่านใจเมเปิ้ลออก จึงคิดทำอะไรบางอย่างเพื่อดัดนิสัยเมเปิ้ลที่ผิดสัญญา กฤษฎาลาออกโดยให้เหตุผลว่าเขาจะต้องกลับไปแต่งงานกับน้ำฟ้าในเดือนหน้า เมเปิ้ลไม่มีวันยอม เมเปิ้ลประกาศกร้าวว่าจะตามล่าตัวกฤษฎากลับมาแต่งงานกับเธอให้จงได้ เพราะตัวของกฤษฎา กำลังทำให้เมเปิ้ลหวั่นไหวเริ่มเปิดใจให้กับความรัก ในขณะที่น้ำผึ้งเองก็กำลังเจอวิกฤตเช่นกัน เดือนนี้ทั้งเดือนน้ำผึ้งว่างงาน ปิดประตูคอนโดนอนร้องไห้ หมดอาลัยตายอยาก ภัทรวลัยที่ตามมาสืบพฤติกรรมผิดปกติของเพื่อนกลัวว่าน้ำผึ้งคิดสั้น ไม่รู้จะตามใครได้นอกจากเมเปิ้ลและลินี และแล้วคำสารภาพผิดและคำขอโทษของน้ำผึ้งก็พรูออกจากปากสามสาว ทั้งสามคนกลับมาคบกันเหมือนเดิมแต่ก็ยังไม่มีใครกล้าบอกความจริงเรื่องเจ้าบ่าวจัดตั้ง เพราะในขณะนี้ต่างคนต่างหวังจะทำให้มันกลายเป็นความจริงด้วยเหตุผลที่แตกต่างกันสามสาวจึงเดินหน้าต่อเพื่อพุ่งชนเป้าหมาย เมเปิ้ลเริ่มปฏิบัติการตามล่าตัวกฤษฎาสืบประวัติจนรู้ว่าบ้านของกฤษฎาอยู่เกาะตะวันและเมื่อเมเปิ้ลย่างเท้าถึงผืนดินเกาะตะวันเธอถึงรู้ว่าที่ตัวคิดนั้นผิด เกาะตะวันเป็นเกาะส่วนตัวของนายหัวเดโชผู้มีธุรกิจส่งออกรังนกฟาร์มหอยมุกและเหมืองพลอย อดีตเลขาฯ มือซ้ายของเธอคือลูกชายคนเดียวของนายหัว เมื่อเมเปิ้ลพบกับกฤษฎาสิ่งที่กฤษฎาแสดงออกกับเมเปิ้ลนั้นกลายเป็นผู้ชายแข็งกร้าว เป็นลูกชายของนายหัวที่ไม่เคยกลัวเกรงใคร แทนที่เมเปิ้ลจะเป็นคนสั่งเขาตอนนี้เขากลับกลายเป็นเขาที่ออกคำสั่ง กฤษฎาประกาศกร้าวใส่เมเปิ้ลว่าเขาจะไม่กลับไปทำงานอีกเขาจะอยู่ที่นี่เพื่อรอแต่งงานกับน้ำฟ้าแต่เมเปิ้ลไม่ยอม เธอประกาศกร้าวเช่นกันว่าจะไม่ออกไปจากเกาะจนกว่าจะได้ตัวของกฤษฎากลับไปแต่งงานด้วย นอกจากเจอความใจร้ายของกฤษฎาแล้ว เมเปิ้ลต้องปะทะกับน้ำฟ้าผู้หญิงที่นกสองหัวยังเรียกแม่และเกมนี้จะจบก็ต่อเมื่อเมเปิ้ลยอมรับว่าที่เมเปิ้ลทำนั้นไม่ใช่เพราะแค่เอาชนะแต่เป็นเพราะเมเปิ้ลรักกฤษฎา แต่มันไม่ง่ายอย่างที่กฤษฎาคิด คุณโสนแม่บังเกิดเกล้าของกฤษฎาซึ่งแสดงตัวชัดว่าไม่ยินดีรับเมเปิ้ลมาเป็นสะใภ้ คุณโสนจึงซ้อนแผนให้น้ำฟ้านั้นเป็นแฟนและจะแต่งงานกับกฤษฎาจริง ๆ โดยที่กฤษฎาไม่รู้ เมเปิ้ลล่าถอยกลับกรุงเทพฯ เพื่อไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนสาวที่กำลังหนุนในเรื่องนี้ น้ำผึ้งกำลังจะกลายเป็นน้ำมัน เมื่อพีศทรรตเริ่มปฏิบัติการทำให้น้ำผึ้งหวั่นไหว แต่สิ่งแรกที่เป็นปัญหาของน้ำผึ้ง คือ กานดายายแก่บ้าอำนาจ+ธัญรดาเมียเก่าจอมหวงก้าง+เด็กปีศาจอย่างญาดา ส่วนลินีก็กำลังก่อศึกกับวายุบุตร ลินีกำลังจะคลั่งเมื่อโดยวายุบุตรเข้ามายุ่งวุ่นวายในชีวิตมากขึ้นทุกที และที่สำคัญลินีกำลังรู้สึกว่าตัวเองตกหลุมรักวายุบุตร ลินีจึงหนีไปอยู่กับกุ๊งกิ๊ง เพราะลินีมีคดีสำคัญที่ เสี่ยพิภพ เจ้าของโรงงานสิ่งทอบอกข่าวกับเธอว่าวายุบุตรจะส่งผู้หญิงไปให้นักธุรกิจแต่ดีที่เสี่ยพิภพช่วยไว้ได้ ลินีและกุ๊งกิ๊งต่างชื่นชมในหัวใจที่เป็นพ่อพระของเสี่ยพิภพอย่างมาก แต่เสี่ยพิภพนั้นคือพวกลักลอบค้าผู้หญิงตัวจริง และลินีก็ยิ่งใจอ่อนละลายลงไปอีกเมื่อรู้ว่าส่วนหนึ่งของรายได้ที่วายุบุตรหักต้นทุนแล้วถูกนำไปบริจาคให้กับมูลนิธิฟ้าหลังฝนที่เธอเป็นอาสาสมัครโดยที่ลินีไม่เคยรู้มาก่อน เพราะวายุบุตรไม่ต้องการจะออกหน้า รวมถึงได้ก่อตั้งมูลนิธิที่สนับสนุนการศึกษาให้กับโรงเรียนที่ขาดแคลนคุณทรัพย์ ด้านเสี่ยพิภพนั้นได้รับออร์เดอร์จากลูกค้าว่าอยากได้ลินี เพราะต้องการตัดเสี้ยนหนาม ดังนั้นเสี่ยพิภพจึงวางแผนลวงลินีว่าได้ข่าวจะมีการขนผู้หญิงไปพักที่เกาะแถวภูเก็ต ลินีหลงเชื่อเสี่ยพิภพสนิทใจ ลินีจึงรีบเก็บของเพื่อไปภูเก็ต วายุบุตรเป็นห่วงลินี จึงดื้อดึงตามลินีไปด้วย และทั้งสามสาวและสามหนุ่มก็มาที่เกาะตะวัน ด้วยภารกิจที่ต่างกัน แต่ไม่เคยมีอะไรที่ราบรื่นระหว่างทาง กฤษฎาไม่รู้ว่าคุณโสนมีแผนกับเขากับน้ำฟ้าจริง ๆ กฤษฎาจึงเล่นไปตามบทบาทแฟนของน้ำฟ้าเพื่อยั่วเมเปิ้ล เพื่อนรับรู้ได้แค่ว่าเมเปิ้ลกำลังต่อสู้เพื่อเอาชนะใจว่าที่แม่สามี และกำจัดนางมารร้ายหัวใจที่ชื่อน้ำฟ้า ด้านน้ำผึ้งเองก็เจอปัญหาแทบหาทางคลี่คลายไม่ออก เมื่อกานดา ธัญรดา และญาดามาที่เกาะตะวัน ซึ่งเพื่อน ๆ ก็รับรู้ได้แค่ว่า น้ำผึ้งกำลังท้อแท้กับปัญหาถ่านไฟเก่าของว่าที่เจ้าบ่าว ส่วนลินีนั้นกำลังหาทางตัดเยื่อใยบาง ๆ ที่กำลังก่อระหว่างเธอกับวายุบุตร เสี่ยพิภพบอกว่าจะมีการส่งผู้หญิงคืนนี้ ลินีจึงวางแผนจัดปาร์ตี้สละโสด แล้วเล่นเกมมอมเหล้าวายุบุตร วายุบุตรชวนลินีเต้นรำแล้วสารภาพว่าเขารักเธอ ด้านคุณโสนกับน้ำฟ้านั้น คุณโสนจะจัดฉากให้ว่าน้ำฟ้ากับกฤษฎามีอะไรกันจะได้จับแต่งงานกันจริง ๆ แต่เมเปิ้ลซ้อนแผนหลายตลบชิงตัดหน้าสร้างภาพว่ามีอะไรกับกฤษฎา เมเปิ้ลยิ้มย่องว่างานนี้กฤษฎากับตัวเองแต่งงานกันแน่ แต่มันไม่เป็นอย่างนั้น น้ำฟ้ามาบอกกับเมเปิ้ลว่ากำลังท้อง เมเปิ้ลอึ้งแต่เมเปิ้ลกลับพูดผลักไสให้กฤษฎาไปง้อน้ำฟ้า กฤษฎาน้อยใจที่สุดท้ายเมเปิ้ลก็ไม่ได้บอกรักเขา จึงตัดสินใจวิ่งไปตามหาน้ำฟ้า เมเปิ้ลยอมรับว่าเกมนี้เธอแพ้ ดังนั้นเมเปิ้ลจึงบอกความจริงกับน้ำผึ้งและลินี แล้วขอกลับกรุงเทพฯ อย่างยอมแพ้ ส่วนน้ำผึ้งนั้น ตลอดเวลาที่อยู่บนเกาะ น้ำผึ้งพยายามเข้าหาญาดาเพื่อเป็นเพื่อนที่เข้าใจ แต่ญาดานั้นไม่ยอมเปิดใจง่าย ๆ แถมยังดื้อแอบไปว่ายน้ำ ทำให้ญาดาเกิดหอบ น้ำผึ้งไปเห็นทันเลยช่วยชีวิตญาดาไว้ทัน ญาดากลัวถูกดุเลยโทษว่าน้ำผึ้งเป็นคนชวนตัวเองไปว่ายน้ำ พิศทรรตโมโหมากต่อว่าน้ำผึ้งว่านิสัยแย่ ญาดาแอบมาขอบคุณน้ำผึ้งที่หลัง แต่กานดายังคงกรีดกันน้ำผึ้ง กานดาเห็นความอ่อนแอของน้ำผึ้ง จึงฉวยโอกาสนี้ปั้นเรื่องว่าพีศทรรตกับธัญรดาดีกันแล้ว โดยจัดฉากให้น้ำผึ้งเห็นพีศทรรตกับธัญรดาจูบกัน ดังนั้น…น้ำผึ้งตัดใจสารภาพความจริงกับเมเปิ้ลแล้วขอกลับกรุงเทพฯ อย่างผู้แพ้ไปพร้อม ๆ กับเมเปิ้ล ลินีนั้นแอบหนีวายุบุตรออกจากเกาะตะวันไปตามที่เสี่ยพิภพนัดหมาย เมื่อลินีไปถึงเกาะ ก็โดยเสี่ยพิภพจับไว้เพื่อเตรียมส่งให้ลูกค้า แล้วนั้นทำให้ลินีรู้ความจริงว่า เสี่ยพิภพเป็นคนชั่วคอยสร้างข่าวทำให้วายุบุตรเสื่อมเสียชื่อเสียง วายุบุตรพาตำรวจบุกเข้ามาขวาง เสี่ยพิภพโกรธแค้นที่วายุบุตรเข้ามาขัดขวางธุรกิจตัวเองจึงควักปืนทำท่าจะยิง วายุบุตรเข้าไปรับกระสุนแทนลินีอย่างไม่เห็นแก่ชีวิตของตัวเอง ลินีได้ยินวายุบุตรพูดกับสิริมาว่าเขาชนะแล้ว ตอนนี้เขาทำให้ลินียอมรักผู้ชายได้แล้ว 3 สาวสวย เริ่ด เชิด หยิ่ง นั่งอยู่ในร้านอาหารพร้อมหน้าพร้อมตาด้วยใบหน้าซึมเศร้าต่างสารภาพความจริงและยอมรับความพ่ายแพ้ว่าตัวเองเกิดมาเพื่อขึ้นคาน โดยมีภัทรวลัยคอยปลอบใจพลางหวานสวีทกับคุณเป้ไม่ห่างให้เพื่อน ๆ อิจฉาตาร้อน จาก 3 สาวที่เคยเป็นศัตรูตอนนี้กลายเป็น 3 สาวที่จับมือให้กำลังใจกันว่าต่อให้ขึ้นคาน ก็ยังมีเพื่อนนั่งอยู่บนคานข้าง ๆ กัน ความรักนั้นช่างเจ็บจน 3 สาวที่แสนแกร่ง ตอนนี้กอดกันร้องไห้และตัดสินใจวางเรื่องหัวใจ หันไปมุ่งเรื่องงานที่ต้องพิสูจน์ตัวเองต่อไป ส่วนกฤษฎา พีศทรรต และ วายุบุตร สามหนุ่มจอมกระล่อนชอบวางแผน เมื่อรู้ว่า 3 สาวที่หมายปองยอมแพ้ ต่างรีบตามไปเคลียร์ความรู้สึกเรื่องหัวใจ สุดท้ายสามสาวจะยอมลงจากก๊วนคานทองตกล่องปล่องชิ้นกับแก๊งพ่อปลาไหลหรือไม่ ตามลุ้นกันต่อได้ใน ละครก๊วนคานทองกับแก๊งพ่อปลาไหล

แผนร้ายพ่ายรัก 2556

แผนร้ายพ่ายรัก (2556/2013) เปลี่ยนแปลงของเขมมิกหยุดอยู่เพียงเท่านั้นก็คงจะไม่เกิดเรื่องวุ่นวายตามมา เพราะความแค้นที่ถูกพี่เสือทิ้ง เขมมิกจึงไม่เชื่อและไม่ศรัทธาในความรัก และนั่นก็กลายเป็นที่มาของอาชีพเสริมสุดพิสดารของเธอ คือ “วางแผนพิสูจน์รักแท้” ซึ่งได้รับความนิยมในหมู่เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ แอร์โฮสเตสทั้งหลาย ครั้งแรกที่แผนร้ายของเขมมิกไม่สำเร็จ กัปตันพิทยา หรือ พี่พีท (สุรินทร คารวุตม์) ที่พร่ำบอกว่ารักจนเธอหมดหัวใจ เพราะพิทยากลับปันใจให้กับ พิศินี (เวธกา ศิริวัฒนา) ลูกสาวของประธานสายการบินที่เธอทำงานอยู่ เขมมิกวางแผนร้ายพิสูจน์รักแท้ พิทยาพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส ทำให้พิศินีเชื่อใจเขามากขึ้น...เขมมิกแค้นใจ จนประกาศลั่นกับเพื่อนรัก...แค้นนี้ต้องชำระ! ในวันแต่งงานของพิศินีและกับพิทยา เขมมิกคิดล้างแค้นอดีตแฟนหนุ่มด้วยการแต่งตัวเลิศหรูชนิดที่ใครก็เดาออกว่าเธอต้องการแย่งซีนเจ้าสาว แล้วเขมมิกก็ทำสำเร็จ เธอกลายเป็นจุดสนใจของหนุ่มๆ ในงาน รวมทั้ง พิแสง (รัฐภูมิ โตคงทรัพย์) พี่ชายของพิศินี แต่เหตุผลที่พิแสงจับตามองเขมมิก นอกจากความสวยเด่นของเธอแล้ว ยังเป็นเพราะเรื่องราวที่ พิศา (กัญญ์ณรัณ วงศ์ขจรไกล) น้องสาวคนเล็กเล่าให้ฟังทั้งน้ำตาว่าต้องเสียคนรักไปเพราะนิสัยประหลาดของเขมมิกที่ชอบเข้ามาป่วนทำให้คู่รักเลิกกัน พิศารู้สึกเสียหน้าและโทษว่าทั้งหมดเป็นความผิดของเขมมิก และตั้งตัวเป็นศัตรูกับเขมมิกตั้งแต่นั้นมา พิแสงเกิดความระแวงว่าเขมมิกจะมาก่อความวุ่นวายในงานจึงตามประกบติดเขมมิกแจ แต่ด้วยความไม่ตั้งใจเขมมิกสะดุดชายกระโปรงตัวเอง แล้วใช้เค้กวันแต่งงานสุดอลังการของบ่าวสาวเป็นเบาะกันกระแทกก่อนถึงพื้น !!!!สิ่งเดียวที่ทำได้คือ.....แกล้งเป็นลมขณะที่พิแสงกำลังเข้ามาหาเธอมองมองแวบเห็นเป็นพี่เสือ เขมมิกถูกลงโทษด้วยการถูกพักงานโดยไม่มีการจ่ายเงินเดือน แถมตอนนี้เขมมิกเพิ่งรู้ข่าวร้ายจากขนิษฐา (อุทุมพร ศิลาพันธ์) แม่ของเธอว่า พ่อที่เสียชีวิตไปแล้วได้สร้างหนี้สินหลายล้านไว้ให้แม่เธอต้องเป็นผู้รับผิดชอบ เขมมิกต้องการเงินจำนวนมากมากอบกู้วิกฤติให้กับแม่ เขมมิกก็ได้รับมอบหมายงานที่เธอแสนจะถนัดคือ “ทำลายความรัก” จาก แสงสุดา (จารุณี สุขสวัสดิ์) รองประธานสายการบิน ถ้าเป็นงานธรรมดาเขมมิกคงไม่คิดหนัก แต่ที่ทำให้เธอลังเลเพราะเป้าหมายคือ พิแสง ลูกชายคนเดียวที่ทั้งแสงสุดาและ พิสุทธิ์ (สันติสุข พรหมศิริ) บิดาของพิแสงที่หวังจะให้เขาเป็นผู้สืบทอดธุรกิจการบิน แต่การป่วยของขนิษฐาก็ทำให้ เขมมิกทิ้งความลังเลนั้นไป และตัดสินใจรับงานนี้เพื่อแลกกับเงินสามล้านบาท! ภารกิจของเขมมิกคือ ทำลายความรัก พังธุรกิจฟาร์มหมู และดึงพิแสงกลับสู่ธุรกิจสายการบิน และกลับมาแต่งงานกับ สาวิกา (พิชามญชุ์ ปทีปไพศาลสกุล ) เพื่อนสนิทของพิศา ที่เป็นลูกสาวของนักธุรกิจใหญ่ ไฮโซ แสงสุดาคิดว่าเหตุผลที่พิแสงยอมรับช่วงธุรกิจฟาร์มหมูที่พัทลุงต่อจากปู่ เพราะพิแสงหลงรัก วาศินี (อัญชสา มงคลสมัย) ลูกสาวของ อนงค์ (สรวงสุดา ลาวัณย์ประเสริฐ) แม่บ้านของฟาร์ม เพราะแสงสุดาระแวงว่าอนงค์ที่เคยคิดแย่งพิสุทธิ์เมื่อสมัยเป็นสาวรุ่นคงคิดใช้วาศินีมาล้างแค้น แย่งพิแสงลูกชายคนเดียวของเธอไป...รุ่นแม่ก็หึงเป็น! แสงสุดาไม่เคยรู้เลยว่าเหตุผลที่ทำให้พิแสงชายหนุ่มที่เคยใช้ชีวิตเสเพลเห็นผู้หญิงเป็นของเล่นผลิกผันตัวเองมาเป็นชายหนุ่มที่จริงจังและรักสันโดษ เพราะพิแสงรู้สึกผิด ที่ครั้งหนึ่งเขาได้ทำให้เด็กสาวบริสุทธิ์คนหนึ่งต้องเสียใจ เสียอนาคตเพราะเขา จึงคิดฝังความเจ้าชู้และอดีตทีเสเพลไว้ทีนี่ วาศินีหญิงสาวที่ภายนอกดูเป็นคนอ่อนหวานเรียบร้อยแต่ภายในเต็มไปด้วยความ ทะเยอทะยานที่อนงค์ผู้เป็นแม่อัดไว้ให้จนเต็มแน่นก็คิดไปแล้วเช่นกันว่าเธอเท่านั้นที่จะได้เป็น “นายแม่” ของฟาร์มแห่งนี้ เขมมิกเดินหน้าแผนการทำลายรักของพิแสงโดยที่ไม่รู้เลยว่าคือ เขมมิกเองต่างหากคือคนที่พิแสงรอคอย โดยมีธรรมศักดิ์ คนของแสงสุดาคอยให้การช่วยเหลือและรับสมอ้างฝากเขมมิกให้เป็นเด็กฝึกงานที่ฟาร์มของพิแสงในฐานะหลานสาวของธรรมศักดิ์ เขมมิกมุ่งหน้าสู่พัทลุงด้วยหัวใจเริงร่า ขอท้าไม่เกินสามเดือน แผนร้ายนี้ต้องสำเร็จ แล้วกลับกรุงเทพอย่างผู้มีชัย!!! เขมมิกก็เริ่มคุ้นว่า พิแสง คือผู้ชายที่เป็นต้นเหตุให้เธอล้มเค้กงานแต่งของพิศินีกับพิทยาและเป็นคนที่ทำให้เธอนึกถึงพี่เสือขึ้นมา แต่ไม่ว่าพิแสงจะเป็นใคร ภารกิจของเธอก็คือทำลายความรักของพิแสงและทำลายฟาร์มแห่งนี้ เรื่องทำลายฟาร์มก็ว่ายากอยู่แล้วแต่เรื่องที่ทำให้พิแสงสนใจในตัวเธอดูจะเป็นเรื่องที่ยากกว่า! ตั้งแต่ครั้งแรกที่เขมมิกและพิแสงเจอกัน พิแสงก็ไม่มีท่าทีสนใจเขมมิกแถมมองเขมมิกเป็นผู้หญิงที่ไร้เสน่ห์ที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็นมา แต่เขมมิกคิดผิด แววตาของเธอทำให้พิแสงคิดถึง ปุ๊กลุ๊ก พิแสงไม่ไว้ใจเขมมิก ในขณะที่พิแสงหาทางสืบว่าเขมมิกต้องการอะไรกันแน่ พิแสงก็มอบหมายงานที่ทั้งหนักทั้งสกปรกให้กับเขมมิกเริ่มจากให้เขมมิกดูแลทำความสะอาดเล้าหมู งานถ้าเป็นงานที่ได้เงิน แค่ล้างเล้าหมูขี้หมูก็ไม่ได้เลวร้ายไปกว่าการล้างห้องน้ำบนเครื่องที่เธอเคยทำมา ไม่นานนัก...เขมมิกก็ได้รู้ว่าพิแสงคือ พี่เสือ ผู้ชายคนที่เธอไม่อยากจะเจอ! เขมมิกขอยกเลิกข้อตกลงทั้งหมดกับแสงสุดา เพราะไม่อยากรื้อฟื้นเรื่องสะเทือนใจและน่าอับอาย กลัวพิแสงจับได้ว่าเธอคือปุ๊กลุ๊ก ผู้หญิงซื่อโง่ที่พิแสงเคยฟันแล้วทิ้ง! แต่แสงสุดาใช้อาการป่วยของขนิษฐาเป็นเครื่องต่อรอง ทำให้เขมมิกจำต้องเดินแผนทำลายความรักของพิแสงต่อ ไป ทั้งที่เขมมิกเองเป็นฝ่ายที่หวั่นไหวและแทบจะควบคุมหัวใจตัวเองไม่อยู่ แต่หัวใจของเธอกลับไม่ให้ความร่วมมือเอาเสียเลย และไม่ใช่เขมมิกคนเดียวที่คุมหัวใจตัวเองไม่ได้ พิแสงก็คุมหัวใจของตัวเองไว้ไม่ได้เช่นกัน ยิ่งเห็นความสนิทสนมของเขมมิกกับหมอปริญทำให้พิแสงพยายามดึงตัวเขมมิกไปด้วยทุกที่ ทำให้ทั้งคู่ยิ่งมีความรู้สึกที่ลึกซึ้งต่อกัน พิแสงได้เห็นเขมมิกในมุมที่เป็นตัวตนของเขมมิก พิแสงไม่สามารถห้ามใจและความรู้สึกของตนเองได้อีกต่อไปทั้งคู่เคลิบเคลิ้มจนเกือบตกเป็นของกันและกัน ถ้าเขมมิกไม่เกิดคิดถึงคืนที่ พี่เสือ มีความสัมพันธ์กับเธอแค่ความสนุกชั่วครั้งชั่วคราว จึงถามย้ำให้แน่ใจว่าสิ่งที่กำลังจะเกิด เกิดจากความรักหรือเพียงเพราะความต้องการ เขมมิกจึงคิดว่าพิแสงมีเพียงความใคร่กับเธอไม่ใช่ความรักและก็คงจะทิ้งเธอไปเหมือนที่ครั้งหนึ่ง พี่เสือเคยทิ้งปุ๊กลุ๊กไป เขมมิกจึงไม่ยอมตกเป็นของพิแสง พิแสงตัดสินใจเคลียร์เรื่องความสัมพันธ์ที่คลุมเครือของพิแสงกับวาศินี และขอให้วาศินีเปิดใจมองหมอปริญบ้าง วาศินีเก็บความแค้นไว้เต็มอกเพราะตลอดเวลาที่เฝ้ารักเฝ้ารอพิแสง วาศินีก็วาดฝันไปไกลเกินกว่าที่จะหยุดตัวเองได้ จากความรักเปลี่ยนเป็นความแค้น วาศินีร่วมมือกับ ต่อลาภ คนของบริษัทยูเอฟเกลี้ยกล่อมให้พิแสงเซ็นต์สัญญาร่วมทุนทั้งที่รู้ว่ามีคนจำนวนไม่น้อยที่เซ็นสัญญากับยูเอฟแล้วในไม่ช้าก็มีหนี้สินท่วมตัว เขมมิกหาทางขัดขวางไม่ให้พิแสงตกเป็นเหยื่อของยูเอฟได้สำเร็จ ทั้งๆที่หนึ่งในแผนการร้ายเขมมิกต้องทำลายฟาร์ม ซึ่งเป็นคำสั่งของแสงสุดา แสงสุดามาติดตามผลงานของเขมมิกที่ล่าช้า ก็ได้พบว่าทั้งเขมมิกและพิแสงเกิดรักกันขึ้นมาจริงๆ แสงสุดาย้ำกับเขมมิกเรื่องเงื่อนไขการว่าจ้างและข้อตกลงทั้งหมด ถ้าเขมมิกไม่ออกไปจากชีวิตของพิแสงตอนนี้ เขมมิกจะต้องคืนเงินทั้งหมดที่ได้เบิกล่วงหน้าไปพร้อมดอกเบี้ย! อนงค์และวาศินีได้ยินเข้าจึงเอาความจริงทั้งหมดไปบอกกับพิแสง แต่เขมมิกเข้ามาขัดจังหวะและขอเป็นคนสารภาพทุกอย่างด้วยตัวเอง อนงค์และวาศินีคาดหวังจะได้เห็นพิแสงโกรธและขับไล่เขมมิก แต่ผิดคาด พิแสงฟังทุกอย่างอย่างใจเย็น เพราะเขาล่วงรู้แผนการร้ายของมารดากับเขมมิกมาตั้งนานแล้ว และไม่คิดโกรธเขมมิก ผู้หญิงที่ตัวเองรักและที่สำคัญเป็นคนเดียวกับที่ตัวเองเฝ้ารอมานาน 5 ปี เขมมิกตกใจที่พิแสงจับได้ตั้งแต่แรกว่าเธอคือน้องปุ๊กลุ๊ก! พิแสงตัดสินใจสารภาพเรื่องทั้งหมดกับเขมมิก ถึงแม้เขมมิกและพิแสงจะใจตรงกันและดูเหมือนทุกอย่างจะลงเอยด้วยดี แต่ความโชคร้ายของเขมมิกก็เกิดขึ้นในเวลาสำคัญๆ เสมอ เพราะในระหว่างที่พิแสงขึ้นมา ประชุมบอร์ดสายการบินตามคำขอของพิสุทธิ์ ที่กรุงเทพฯ และฝากทุกอย่างในฟาร์มให้เขมมิกช่วยดูแล เขมมิกได้รับการติดต่อจากลุทซ์ เรื่องคดีหนี้สินของแม่และขอให้เขมมิกไปพบที่หาดใหญ่ วาศินีเห็นเป็นโอกาสที่จะทำให้พิแสงหมดความไว้ในใจตัวเขมมิกจึงวางยา ลิเดีย หมูแม่พันธุ์สุดที่รักและมีราคาแสนแพงของพิแสง พิแสงก็ไม่พอใจที่เขมมิกไม่อยู่ฟาร์มในช่วงเวลาที่สำคัญแบบนี้ วาศินีบอกกับพิแสงว่าเขมมิกทิ้งงานไปพบกับคู่หมั้น ประกอบกับระหว่างที่ขึ้นมาประชุม พิศาโจทย์เก่าตลอดกาลของเขมมิกก็ลากเอาบรรดาเพื่อนร่วมงานสุดแสบของเขมมิกมาให้ข้อมูลกับพิแสงถึงความเป็นสาวล่าแต้มของเขมมิก จนพิแสงเริ่มลังเลว่าเขาจะคือหนึ่งในเหยื่อของเขมมิกด้วยหรือไม พิแสงโกรธจัดตามไปที่โรงแรมที่เขมมิกจดที่อยู่ให้คนงานไว้ แล้วพิแสงก็ได้เจอภาพบาดตา...ลุทซ์ประครองเขมมิกเข้าลิฟท์ขึ้นห้องในโรงแรมไปด้วยกัน หลังจากคืนนั้นพิแสงมีท่าทีเหินห่างกับเขมมิกจนเขมมิกรู้สึกได้ เขมมิกพยายามซักถามว่าเกิดอะไรขึ้น พิแสงไม่ตอบแต่ขอให้เธอไปธุระในตัวเมืองหาดใหญ่ด้วยกัน คืนนั้นพิแสงพยายามจะมีอะไรกับเขมมิก เขมมิกกลัวว่าความสัมพันธ์ครั้งนี้จะเป็นเหมือนคราวที่ พี่เสือ เคยทิ้งปุ๊กลุ๊กไปอีก เขมมิกจึงถามพิแสงให้แน่ใจว่าพิแสงจะยอมแต่งงานกับเธอหรือเปล่า แต่พิแสงกลับเข้าใจว่าคำถามนี้เป็นคำถามเพื่อยืนยันว่าแผนการของเธอสำเร็จแล้ว พิแสงด่าประณามเขมมิกและคิดว่าสำหรับเขมมิกแล้วพิแสงคงจะเป็นแค่แต้มหนึ่งในเกมของเธอเท่านั้น พิแสงโกรธเขมมิกมากถึงขั้นไม่ยอมให้เขมมิกกลับเข้าฟาร์มอีก พิแสงละทิ้งฟาร์มหมูกลับไปทำงานสายการบินให้มารดา โดยขอให้หมอปริญเป็นผู้ดูแลแทน เพราะพิแสงไม่อาจทนอยู่ในสถานที่ที่เป็นที่เพาะพันธุ์ความรักระหว่างพิแสงกับเขมมิกได้อีกต่อไป เแสงสุดาเรียกเขมมิกเข้าไปรับเงินค่าจ้าง 3 ล้านบาทตามที่ได้ตกลงกันไว้ และยังได้หาที่ทำงานใหม่ให้เธอในสายการบินที่มีค่าจ้างสูงลิบ ที่สำคัญยังดูแลมารดาของเธออย่างดีตามสัญญา แต่ทั้งหมดที่เธอได้มาพร้อมกับความสำเร็จคือความเจ็บปวดจนยากที่จะบรรยาย เขมมิกตัดสินใจว่าจะไม่รับงานพิสูจน์รักแท้ให้ใครอีกต่อไป เขมมิกได้พบกับพิทยาอีกครั้ง แต่คราวนี้ไม่ใช่ในบทบาทของกัปตันหนุ่มแต่เป็นผู้บริหารระดับสูงของสายการบินที่แสงสุดามอบให้เป็นการรับขวัญ โดยหารู้ไม่ว่าพิทยาคือลูกชายคนเดียวของหุ้นส่วนของบูทิคแอร์ไลน์ที่แสงสุดาและพิสุทธิ์เคยร่วมทุนด้วย แล้วเกิดหักหลังกันจนล้มละลาย พ่อของพิทยายิงตัวตายหนีปัญหา พิทยาจึงหาทางใกล้ชิดจนได้แต่งงานกับพิศินีเพื่อต้องการแก้แค้นและเอาทุกอย่างคืนกลับมา เขมมิกหาทางเตือนแสงสุดาเรื่องพิทยาแต่ไม่มีใครเชื่อ หลังจากที่พิแสงเข้ามานั่งแท่นผู้บริหารสายการบิน ทำให้ตรวจพบความผิดปกติเรื่องพิทยา ทำให้ทุกคนคิดถึงคำเตือนของเขมมิก พิศินีจึงตัดสินใจขอหย่ากับพิทยา ต่อให้รักมากสักเพียงไหน แต่ถ้าคนรักใช้ตัวเองเพื่อผลประโยชน์โดยปราศจากความจริงใจ พิศินีก็พร้อมที่จะถอนตัว แม้จะต้องเจ็บปวดมากสักเพียงใด พิแสงทำงานต่อไปแม้ผลงานจะดีเลิศแต่ก็กลายเป็นคนเย็นชาตายซากไร้หัวใจลงไปทุกวัน แม้แต่สาวิกาที่พิแสงยอมคบหาด้วยเพื่อความสบายใจของแสงสุดายังดูออกว่าพิแสงไม่มีหัวใจให้ใครอีกแล้วนอกจากเขมมิก สาวิกาจึงขอสละตำแหน่งว่าที่ภรรยามาเป็นน้องสาวอีกคนของพิแสงดีกว่า พิสุทธิ์เตือนแสงสุดาว่าจะยอมทนเห็นลูกอยู่อย่างคนไร้หัวใจหรืออย่างไร ความสุขของลูกคือความสุขของคนเป็นพ่อเป็นแม่ แสงสุดาจึงยอมให้พิแสงทำตามใจตัวเอง แต่พิแสงยังมีทิฐิไม่ยอมออกตามหาเขมมิก จนได้ข่าวว่าเครื่องบินของลำที่เขมมิกเป็นแอร์บนเครื่องเกิดตกในทะเล พิแสงเสียใจแทบคลั่งเพราะคิดว่าเขมมิกตายแล้ว จนเมื่อได้พบกับเนตรนิภา พิแสงจึงได้รู้ความจริงว่าเขมมิกยังมีชีวิตอยู่ พิแสงตามไปที่บ้านของลุทซ์เพราะคิดว่าเขมมิกกำลังจะเข้าพิธีแต่งงานกับลุทซ์ พิแสงใช้วิธีเดียวกับเขมมิกคือพังเค้กงานแต่งหวังล้มงาน โดยหารู้ไม่ว่างานแต่งที่เนตรนิภาหมายถึงคืองานแต่งของพี่สาวลุทซ์ไม่ใช่ของเขมมิกกับลุกซ์อย่างที่เข้าใจ ฝั่งฟาร์มเพื่อนเกษตร อนงค์ผลักดันให้ วาศินี เข้าหาหมอปริญ แต่หมอปริญรู้ทันหลังตาสว่าง ทำให้อนงค์และวาศินีผิดหวัง และต้องย้ายออกไปจากฟาร์มเพื่อนเกษตร เพราะตำรวจมาเชิญตัว พิแสงขอให้เขมมิกกลับมาเป็นนายแม่ของฟาร์มเพื่อนเกษตร จะยกหมูพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ทั้งหมดให้เขมมิกดูแล รวมทั้งพ่อพันธุ์ที่ชื่อพิแสงคนนี้ด้วย เขมมิกเองก็ได้รู้แล้วว่าการล้อเล่นกับความรัก หรือใช้เล่ห์กลโกง มันไม่ทำให้ได้มาซึ่งความรักใดๆ เลย แต่ความจริงใจและรักแท้ต่างหากที่ทำให้สมหวังในความรักได้ เขมนิกจึงตกลงรับตำแหน่งนายแม่ของฟาร์มเพื่อนเกษตร และรับพ่อพันธุ์ที่ชื่อพิแสงเอาไว้ในหัวใจ...ตลอดไป

ผมไม่อยากเป็นสายลับ 2554

ผมไม่อยากเป็นสายลับ (2554/2011) ทอง เอก (ไชยา มิตรชัย) เป็นลูกชายคนสุดท้องของ นายบุญทอง (พุฒิพงศ์ พรหมสาขา ณ สกลนคร) และ นางทองพลับ (ราตรี วิทวัส) ซึ่งเปิดกิจการร้านขายข้าวสาร ตระกูลข้าวทอง อยู่ในตลาด ทองเอกคลอดก่อนกำหนดจึงทำให้เขาเป็นคนตัวเล็ก พ่อแม่เลี้ยงอย่างประคบประหงมตั้งแต่เล็กจนโต เพราะคิดว่าการเป็นคนตัวเล็กจะต้องอ่อนแอกว่าคนอื่นแม้เขาจะคว้าปริญญาตรี นิติศาสตร์มาให้กับตระกูลแล้วก็ตาม แต่เขาก็ทำให้ทองพลับกินไม่ได้นอนไม่หลับเมื่อเขามุ่งมั่นไปสมัครสอบตำรวจ แต่ทองเอกก็ไม่มีโอกาสแม้แต่จะสอบข้อเขียนเพราะทั้งความสูงและรอบอกของเขา ยังไม่ถึงเกณฑ์ที่ทางการกำหนดไว้ แต่เขาก็หวังว่าอีกสองปีข้างหน้าเขาจะต้องสอบเป็นตำรวจให้ได้ หลังจากวันนั้นทองเอกไม่ทำอะไรเลยนอกจาก โด๊ปทั้งอาหารทั้งวิตามินและออกกำลังกายสองปีต่อมาเขาก็กลับไปสมัครอีกตาม เคย แต่คราวนี้กลับไม่เหมือนเดิม พล.ต.ท.สนับหรือผู้การหนับ (มนตรี เจนอักษร) เป็นประธานคณะกรรมการสอบคัดเลือก เห็นความมุ่งมั่นของทองเอกหุ่นไม่ให้แต่ใจรักได้ยื่นข้อเสนอให้ทองเอกรับงาน สายลับไปก่อน แต่ทองเอกปฏิเสธข้อเสนอของผู้การหนับเสียงแข็งว่า ผมไม่อยากเป็นสายลับ เขาเอากลับไปคิดเป็นการบ้าน แต่คนที่บ้านไม่มีใครเห็นด้วย จึงทำให้ทองเอกตัดสินใจรับข้อเสนอ ติดตามต่อได้ใน ผมไม่อยากเป็นสายลับ

เพลงรักริมขอบฟ้า 2553

เพลงรักริมขอบฟ้า (2553/2010) นีรา (ณปภา ตันตระกูล) นักร้องซูปเปอร์สตาร์ของค่ายเพลินเรคครอร์ด ขึ้นโชว์คอนเสิร์ตโดยมี กิดาการ (พรชิตา ณ สงขลา) ลูกพี่ลูกน้องของนีราได้มาชมคอนเสิร์ตพร้อมกับ ญาณี แม่ของนีรา โดยหารู้ไม่ว่าหลังเวทีนั้นนีราถูกนักข่าวตามสัมภาษณ์เรื่องข่าวฉาวว่าเธอท้อง หลังจากคอนเสิร์ตมีการเปิดแถลงข่าว นีราประกาศว่ากำลังจะแต่งงานกับ เบน (วรินทร ปัญหกาญจน์) ลูกของ ชาร์ล็อต เมียคนสุดท้ายของ บัณทิต ผู้ก่อตั้งเพลินเรคคอร์ด เจ้าของค่ายที่นีราสังกัดอยู่ ซึ่งเบน เป็นน้องชายต่างมารดาของ บรม (มนตรี เจนอักษร) ซึ่งเป็นลูกเมียหลวงคือ เพลิน นีราถูกนักข่าวรุมสัมภาษณ์โดยมี อัญชลี (เบญจศิริ วัฒนา) ผู้จัดการของบริษัทดูแลอยู่ นักข่าวถามว่าท้องก่อนแต่งหรือเปล่า แต่นีราปฎิเสธ เบนเดินออกมาด้านนอกโดยมีกิดาการดักรอถามว่าจะแต่งงานเมื่อไหร่ เบนย้อนไปว่าแต่งทำไม ทำให้กิดาการเกลียดขี้หน้าของเบนขึ้นมาทันที เพราะเห็นว่าเขาเป็นคนที่ไม่รับผิดชอบลูกของในท้องของนีรา ทั้งคู่เถียงกันจน บรรณ (อภินันท์ ประเสริฐวัฒนะกุล)บรรณาธิการนิตยสารบันเทิง บุริม (พิษณุ นิ่มสกุล)โปรดิวเซอร์รุ่นเก๋า และ บัวบุษบา (อภิสรา ฉวีวงษ์) ครูสอนร้องเพลงทั้งสามคนเป็นลูกของ ทิพย์ เมียคนที่สองของบัณฑิต ต้องเข้ามาห้ามโดยมี แจ็ด(ปณิตา พัฒนาหิรัญ) พีอาร์สาวสวยที่แอบหลงรักเบนคาบข่าวไปบอกนักข่าว บรมถือว่าตัวเองเป็นลูกเมียหลวงและเป็นพี่ชายคนโต จึงมักข่มขู่น้องคนอื่นๆให้อยู่ใต้อาณัติเสมอ และเขายังเป็นผู้กุมบังเหียนเพลินเรคคอร์ดอีกด้วย บรมบังคับเบนพานีรามาอยู่ที่บ้านเพื่อกลบข่าวฉาวระหว่าง นีรากับ ดวงฤทธิ์ (โชคชัย บุญวรเมธี)หรือ ด้วง นักร้องค่ายคู่แข่ง นีราขอร้องให้กิดาการไปอยู่กับเธอด้วย หลังจากนั้นญาณีก็ไปอเมริกาทันที ขณะที่นีราย้ายเข้ามาในบ้านของเบน เขาเองก็หลบหนีการที่ต้องอยู่ร่วมบ้านกับนีราโดยการไปต่างประเทศ ทำให้กิดาการมีอคติกับเขามากขึ้น และเธอยังต้องคอยรับมือกับนักข่าวรวมทั้งจัดระเบียบเพื่อเตรียมความพร้อมการเป็นแม่ให้นีรา ซึ่งเธอไม่สนใจและยังสนุกกับการรับมือนักข่าวเพื่อเพิ่มความดังให้ตัวเอง บัวมาเตือนนีราว่าบรมเจ้าเล่ห์และให้เธอกลับไปอยู่บ้านของตัวเอง แต่นีราไม่ฟัง บี (ฐากูร การทิพย์) ลูกชายคนเดียวของบรมกลับมาจากเมืองนอก และกำลังจะได้ออกอัลบั้ม บรมระดมนักแต่งเพลงและโปรดิวเซอร์มือดีมาดูแล ซึ่งบุริมก็ได้รับมอบหมายให้เป็นโปรดิวเซอร์ แต่ด้วยความเอาแต่ใจของบี ทำให้บุริมต้องหนักใจ เบนกลับมาก็เจอนีรายังไม่ออกจากบ้าน คราวนี้เบนไล่นีรา อย่างโมโห กิดาการต่อว่าเบนไม่สนใจใยดีนีราเลย เบนเลยพูดว่าไม่รู้อะไรอย่ามาพูด นีรารู้สึกเบื่อเลยนัดเจอ จอย (จีรนันท์ ปรีดากุล) และ โอม (สุดที่รัก บำรุงญาติ) เพื่อนของเธอไปเที่ยวกลางคืน นีราดื่มจนเมามายโดยไม่สนใจลูกในท้องของเธอจนไปพบด้วง ซึ่งจอยและโอมนัดมาเหมือนกัน พอดีนักข่าวเห็นทั้งคู่อยู่ด้วยกัน จึงตามทั้งคู่ไปถ่ายรูปแต่นีรากับด้วงหนีไปหลบอยู่ในห้องเก็บของ บรรยากาศเป็นใจทั้งคู่จูบกัน โดยที่ด้วงแอบถ่ายคลิปไว้ด้วย กิดาการออกตามหานีราจึงรู้ว่านีราอยู่ที่ผับ เธอตามหานีราจนเจอแล้วพากลับบ้าน วันต่อมานีราแอบหนีไปหาด้วงที่คอนโด ทั้งคู่เกือบจะมีสัมพันธ์กันแต่นีรายับยั้งทัน ด้วงเลยรู้ว่านีรากำลังท้อง นีราเลยบอกกับด้วงว่าเขาไม่ได้รักเบน แถมท้าให้ด้วงพิสูจน์โดยใช้มือถือถ่ายรูปที่หอมแก้มกันเก็บไว้ นีราตามเบนออกไปทำงานในขณะเดียวกันบีก็มาหาเบนเพื่อให้ช่วยวิจารณ์เพลง เบนก็ถามว่าบีเป็นพ่อของเด็กในท้องของนีราหรือเปล่า บีไม่ยอมรับ เพราะนีรานอนกับคนทั่ววงการแล้ว และบียังบอกว่าพ่อของเขาทำเกินเหตุที่ให้เบนมารับผิดชอบแค่ให้นีราไปทำแท้งก็พอแล้ว ทำให้เบนผิดหวังในตัวของบีมาก นีราแสดงความเป็นเจ้าของเบนทำให้แจ็ดไม่พอใจทั้งคู่จึงทะเลาะตบตีกัน เบนทนไม่ไหวจึงบอกกิดาการให้พานีราออกจากบ้านไป ซึ่งนีราทำอย่างนั้นจริงๆ ทั้งคู่จึงต้องช่วยกันตามหาแต่นีรายื่นเงื่อนไขว่าเบนต้องไม่รังเกียจเธออีก เพราะต้องการให้สื่อเห็นว่าทั้งคู่รักกันจริง เบนทำตามแต่กิดาการกลับรู้สึกเจ็บปวดแต่ก็หักห้ามความรู้สึกนั้น แจ็คให้ข่าวว่านีราตบเธอ จนเป็นข่าวหน้าหนึ่ง อัญชลีออกมาแก้ข่าวให้ ด้วงเอาคลิปมาโชว์ เฮียเชษฐ์ (โอลิเวอร์ บีเวอร์) ซึ่งเป็นเจ้าของค่ายเพลงอาละดินคู่แข่งของเพลินเรคคอร์ด เฮียเชษฐ์จึงสั่งให้คนไปปล่อยคลิปเพื่อทำลายชื่อเสียงของนีรา กิดาการกลับต่อว่าเบนที่ไม่สนใจปล่อยให้นีราเหงาจนต้องไปคบด้วง ทั้งสองเถียงกัน จนเบนโมโหจูบกิดาการ เธอตบหน้าเบนและด่าเขาว่าเป็นพวกฉวยโอกาส เบนตามง้อกิดาการว่าถึงอย่างไรเขาจะไม่มีทางแต่งงานกับนีรา เพราะเขาไม่ใช่พ่อของเด็กในท้องจริงๆ ทั้งสองจึงปรับความเข้าใจกันจนความสัมพันธ์ดีขึ้น เบนขอให้กิดาการกลับเข้ามาอยู่ในบ้านอีกครั้งเพื่อดูแลนีรา กิดาการตอบตกลงเพราะอีกใจก็เป็นห่วงนีราเหมือนกัน นีรากลัวเธอจะเสียเปรียบเพราะถ้าคลอดเด็กออกมาเธอก็จะเรียกร้องสิ่งต่างๆยาก บรมไปปรึกษาอัญชลี สารภาพว่าเด็กในท้องของนีราเป็นลูกของบี เขาเป็นห่วงอนาคตของลูกที่กำลังจะออกอัลบั้ม ส่วนอัญชลีปล่อยข่าวว่านีราท้องกับด้วงแล้วไปทำแท้ง เฮียเชษฐ์จัดแถลงข่าวให้ ด้วงบอกว่าเป็นแค่เพื่อน ขณะเดียวกันบัวก็พบหลักฐานว่าอัญชลีเป็นคนปล่อยคลิปหลุด จึงบอกนีราว่าเป็นฝีมือของบรมแน่ นีราจึงเข้าไปพบบรมเพื่อยื่นไม้ตาย เอาคลิปวีดีโอที่บีกำลังเสพยาและขายยาในโรงเรียนสอนร้องเพลง บรมเป็นห่วงอนาคตของลูกชายแล้วจึงยอม บีเองก็ตามหานีราเพื่อจะถามว่าใครถ่ายคลิป นีราตระหนักว่าทุกอย่างจวนตัวแล้ว จึงบอกว่าบัวเป็นคนถ่ายคลิปแลกกับการจดทะเบียนกับเธออย่างลับๆบีจำใจยอม แต่นีราก็ยังใส่ร้ายกิดาการว่าเป็นคนช่วยวางแผนที่กิดาการรักกับเบนเพื่อบีบบรมตามแผนของบัว เบนไม่ต้องการจดทะเบียนกับนีรา บรมจึงบอกความจริงว่า นีราต้องการหุ้นจากเพลินเรคคอร์ด ทำให้เบนตะลึงที่ได้รับรู้เรื่องจริงและยังต่อว่านีราที่ใส่ร้ายกิดาการ ทำให้กิดาการเสียใจมาก บีอาละวาดตามขู่จะฆ่าบัวถ้าไม่เอาคลิปมาให้เขาทำลาย บัวสารภาพว่าที่ถ่ายคลิปเพราะว่าแค้นที่บรมข่มขืนเธอ ทำให้ทุกคนตะลึงกับความจริง บีต่อว่าบรมทำให้บัวรู้ว่าเวรกรรมตามมาทันบรมแล้ว ในขณะที่บุริมจะขอยอมรับเป็นพ่อเด็กให้นีราแต่เธอไม่ยอมแถมยังพูดดูถูกบุริมจนมีเรื่องกัน กิดาการและเบนมาห้ามทันและพานีราไปโรงพยาบาลเพราะเธอปวดท้องคลอด บรมกลับมาบริษัทเพ่อให้อัญชลีแก้ข่าวแต่เขาพบจดหมายลาออกของเธอแทน กิดาการคอยดูแลจนนีราคลอดลูกชาย บีก็ได้เปิดคอนเสิร์ตที่จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่แต่เขาแสดงได้สักพักตำรวจก็บุกมาจับหลังเวที เพราะได้คลิปของบีที่เสพยาเสพติดซึ่งคนปล่อยก็คืออัญชลีที่ลาออกไปเป็นผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ของอาละดินค่ายเทปคู่แข่ง บีถูกส่งไปโรงเรียนดัดสันดานเป็นเวลาสองปี บรมเองสำนึกที่ตัวเองทำผิดจึงแบ่งหุ้นให้พี่น้องเท่าๆกันแล้วประกาศลาออกจากประธานกรรมการ แล้วยกตำแหน่งให้เบนนังแท่นบริหารแทนโดยมีบรรณกับบุริมช่วยดูแล ส่วนบัวดึงกิดาการมาช่วยบริหารโรงเรียนสอนร้องเพลง นีราทนไม่ได้กับสิ่งที่ตัวเองทำลงไป คือเอาลูกมาเป็นเครื่องต่อรอง อีกทั้งข่าวเสียหายของเธอทำให้ประชาชนรับไม่ได้ จึงอำลาวงการไปอยู่อเมริกากับแม่ของเธอ แต่ก่อนไปนีราพาลูกไปเยี่ยมบีซึ่งเขาเองก็สำนึกผิด นีราก็พร้อมที่จะให้โอกาสเขา เบนขอกิดาการแต่งงาน กิดาการตอบตกลง หลังจากที่บีออกจากโรงเรียนคัดสันดาน เขาก็บินไปหานีรากับลูก และแต่งงานกับเธอเงียบๆที่นั่น โดยมีเบนและกิดาการพาลูกของตนไปร่วมยินดีกับทั้งสองด้วย

รุ้งร้าว 2553

รุ้งร้าว (2553/2010) ละครเรื่องนี้เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ ทอรุ้ง (เบนซ์-พรชิตา)หญิงสาวผู้พรั่งพร้อมด้วยเสน่ห์ ลูกสาวคนเดียวของ นเรนทร วิเศษเวโรจน์(อุ้ย-เกรียงไกร) นักธุรกิจเจ้าของโรงแรมและห้างสรรพสินค้า ตัดสินใจทิ้งอาชีพไกด์ที่ฝรั่งเศส เตรียมกลับเมืองไทยทันทีเมื่อเธอรู้ว่าผู้เป็นพ่อกลายเป็นคนสติฟั่นเฟือนอย่างมีเงื่อนงำจนถูกขังตัวอยู่ในโรงพยาบาลโรคประสาท กรองกาญจน์ (นก-จริยา)หุ้นส่วนธุรกิจผู้อยู่เบื้องหลังอาการป่วยของ นเรนทรรู้ว่าทอรุ้งกำลังจะเดินทางกลับเมืองไทย ก็เตรียมวางแผนกำจัดทอรุ้งทันทีแต่ทอรุ้งรู้ทันจึงระวังตัวและหนีรอดทุกครั้ง ต่อตระกลู (อั๋น วิทยา)บุตรชายคนโตของกรองกาญจน์รู้ความจริงและนึกไม่ถึงว่าแม่ของตนจะวางแผนร้ายกาจได้ขนาดนี้จึงหาทางช่วยเหลือทอรุ้ง ส่วนทอรุ้งหาทางรักษาพ่อขอเธอ แต่หารู้ไม่ว่า หมอพิธาน (ดุ๊ก ภาณุเดช)นายแพทย์ผู้รักษาพ่อของเธอจะเป็นพวกเดียวกับกรองกาญจน์เขาวินิจฉัยว่าสาเหตุที่นเรนทรเป็นเช่นนี้ก็เพราะความเครียดจากเรื่องงานด้านต่อตระกูล เมื่อสบโอกาสจึงเข้าไปแนะนำตัวให้ทอรุ้งรู้จักแต่จากข้อมูลที่ทอรุ้งได้จากเปรมยุดา ป้าของเธอเกี่ยวกับครอบครัวของกรองกาญจน์ทำให้หญิงสาวไม่ไว้ใจและต่อว่าต่อตระกูลอย่างสาดเสียเทเสีย จากนั้นทอรุ้งกลับไปอยู่บ้านวิเศษเวโรจน์และประกาศรับตำแหน่งต่อจากนเรนทรสร้างความแค้นใจให้กับกรองกาญจน์อย่างยิ่งทอรุ้งคิดจะจับ ผิดกรองกาญจน์เรื่องกิจการบัตเตอร์ฟลายทัวร์และพบสิ่งที่ไม่ชอบมาพากลหลายอย่างกรองกาญจน์แทบอยากจะฉีกทอรุ้งออกเป็นชิ้น ๆที่ตัดช่องทางทำมาหากินของหล่อนส่วนต่อตระกูลก็คอยเฝ้าปกป้องทอรุ้งจนทำให้ทั้งสองผูกพันกันโดยไม่รู้ตัว ในที่สุดทอรุ้งพลาดท่าถูกกรองกาญจน์วางยากล่อมประสาทลงไปในอาหารให้ทอรุ้งทาน เฉกเช่นเดียวกับที่เคยทำกับนเรนทร ด้วยความละอายที่มีต่อทอรุ้งต่อตระกูลจึงอาสามาดูแลหญิงสาวอย่างใกล้ชิดทำให้กำแพงหัวใจของเธอสั่นคลอนและพังทลายทีละน้อยระหว่างนั้นเขาก็คอยสืบหาสาเหตุอาการป่วยของหญิงสาวให้กระจ่าง อาการของทอรุ้งทรุดหนักลงเรื่อย ๆ จนถึงขั้นเพ้อและประสาทหลอนทอรุ้งถูกจับตัวส่งมาอยู่ในโรงพยาบาลโรคประสาทเธอพยายามพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่าเธอไม่ได้บ้าแต่ก็ไม่มีใครเชื่อเธอเลยนอกจากต่อตระกูล ด้านหมอพิธานยกหน้าที่ดูแลทอรุ้งให้กับ เอกวีร์ (เพ็ญเพ็ชร)เอกวีร์แปลกใจที่ทำไมพิธานถึงฉีดยากล่อมประสาทในปริมาณมากเกินจึงสืบหาความจริง พร้อมแอบบำบัดทอรุ้ง กับ นเรนทรจนอาการของทั้งสองคนเริ่มกลับมาเป็นปกติ ด้วยแรงแค้นทอรุ้งจึงตัดสินใจที่จะให้บทเรียนอันสาสมกับ กรองกาญจน์ผู้ที่ขึ้นชื่อว่าเป็น แม่ ของผู้ชายที่เธอรัก สุดท้ายทอรุ้ง จะเลือกอะไรระหว่าง ความรัก กับ ความแค้นและต่อตระกูลจะหาทางดับไฟแค้นในใจของผู้หญิงที่เขารักได้อย่างไรต้องไม่พลาดชม รุ้งร้าว ละครแนวดราม่าเข้มข้นพร้อมทั้งแฝงแง่คิดดีดีไว้มากมาย ทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.30 น.ทางช่อง 3 รุ้งร้าว เริ่มตอนแรกวันพุธที่ 10 กุมภาพันธ์ 2553

คุณหนูฉันทนา 2552

คุณหนูฉันทนา (2552/2009) เมื่อนวลจันทร์ภรรยาของปกป้องเสียชีวิต ปกป้องจึงมีรักครั้งใหม่กับวีรดาทำให้เนตรพธูโกรธและไม่ยอมกลับเมืองไทย ปกป้องจึงหลอกเนตรพธูว่าตนป่วยหนัก เพื่อให้ลูกสาวกลับมา พอเนตรพธูกลับมาเมืองไทย และได้เจอกับอาย น้องต่างมารดาของเธอ เมื่ออายเดินเข้ามาจับมือเนตรพธูเธอจึงสะบัด จนน้องอายตกน้ำ ปกป้องโกรธเนตรพธูมากที่ทำน้องตกน้ำจึงขู่เธอว่าจะยกโรงงานให้กับวีรดา เนตรพธูไม่ยอม เธอจึงพิสูจน์ตัวเองว่าสามารถดูแลโรงงานได้ โดยเข้าไปเป็นสาวโรงงานตามข้อตกลงของปกป้อง เมื่อเข้ามาทำงานที่โรงงานเนตรพธูได้เจอกับเพื่อนที่น่ารักอย่างพรพนาและ ชมนาด ที่คอยร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาตลอด หลังจากนั้นเธอได้เจอกับแท็กซี่หื่นกามทำให้เนตรพธูได้เจอกับขวัญกฤษฎิ์ ดีเจหนุ่ม ความไม่เข้าใจของเนตรพธูที่สงสัยในความสัมพันธ์ของขวัญกฤษฎิ์กับวีรดาแม่ เลี้ยงของเธอ และความเข้าใจผิดของขวัญกฤษฎิ์ที่คิดว่าเนตรพธูเป็นเมียเก็บของท่าน ประธาน ทำให้ความขัดแย้งของทั้งคู่ได้ก่อตัวเป็นความรักโดยไม่รู้ตัว หลายครั้งที่ขวัญกฤษฎิ์เกิดสงสัยในความเป็นสาวโรงงานของเนตรพธู ที่เธอสามารถพูดภาษาอังกฤษกับชาวต่างได้อย่างคล่องแคลว แต่ขวัญกฤษฎิ์ก็ยังไม่แน่ใจว่าที่จริงแล้วเนตรพธูเป็นใครกันแน่ อำพล ผู้จัดการโรงงานที่คอยจะทำลายธุรกิจของปกป้องทุกวิธีทาง ถูกวีรดาสงสัยว่ายักยอกเงินบริษัท เลยจัดการวางเพลิงโรงงาน หลังจากเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ด้วยความเป็นห่วงทั้งลูกสาวและโรงงานทำให้ปกป้องมีอาการป่วยกำเริบ เมื่อ เนตรพธูรู้ปัญหาของโรงงานจึงตัดสินใจที่จะบริหารงานแทนพ่อ เธอจึงเข้าร่วมประกวดแฟชั่นหวังจะช่วยกิจการของตนให้หลุดพ้นจากปัญหา ระหว่างที่เธอออกแบบเสื้อผ้าเพื่อเข้าประกวดอยู่นั้น วีรดาก็ได้พูดคุยกับเนตรพธู ทำให้เนตรพธูรู้ว่าวีรดารักพ่อของเธอจริงๆถึงบริษัทของเนตรพธูจะไม่ชนะการประกวด แต่ก็มีนักลุงทุนชาวต่างชาติมาร่วมผลิตสินค้าด้วย ทำให้เนตรพธูตัดสินใจเปิดเผยความจริงว่าตนเป็นใคร เมื่อขวัญกฤษฎิ์ได้ยินจึงเสียใจเพราะคิดว่าตนเองถูกหลอก ปกป้องสงสารลูกเลยให้วีรดาไปพูดให้ขวัญกฤษฎิ์คิดทบทวนอีกครั้งในเรื่องของความสัมพันธ์ระหว่างขวัญกฤษฎิ์กับลูกสาวของตน และในงานแต่งงานของศรลักษณ์กับชมนาดนั่นเอง ขวัญกฤษฎิ์ปรากฏตัวและได้ขึ้นไปขอโทษเนตรพธูบนเวที จากนั้นทั้งคู่ก็บอกรักกันท่ามกลางความยินดีของทุกคนที่โรงงาน

พ่อมาลัยริมทาง 2552

พ่อมาลัยริมทาง (2552/2009) คณะค่ายมวย ศ.ผดุงศักดิ์ ลูกเจ้าพระยา” ค่ายมวยเก่าแก่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ก่อตั้งตั้งแต่สมัย ขุนผดุงศักดิ์ ข้าราชการสมัยรัชกาลที่เจ็ดเป็นผู้ริเริ่มก่อสร้างขึ้น จนมาถึงรุ่น นาย เสริมศักดิ์ พร้อมเสริมชาติ ลูกชายและสุธินี ลูกสาว นายเสริมศักดิ์ หวังให้ เสริมชาติ สืบทอดเป็นเจ้าของค่ายมวยสืบไป แต่ เสริมชาติต้องทำให้พ่อผิดหวัง เพราะเขาเกิดมามีรูปร่างบอบบาง อ้อนแอ้นไม่สมกับเป็นเจ้าของค่ายมวย ผิดกับสุธินี ที่เป็นสาวห้าวชอบเรื่อง หมัด ๆ มวยๆ เสริมชาติมีจิตใจฝักใฝ่เรื่องงานศิลปะร้องรำทำเพลง และมักจะแอบพายเรือ ไปฝั่งตรงข้ามเพื่อไปดู “คณะพรนพรัตน์” หัดร้องรำและฝึกซ้อมลิเก ฐานะค่ายมวย ศ.ผดุงศักดิ์ ตกต่ำจนนายเสริมศักดิ์ต้องนำที่นาไปจำนองกำนันชอุ่ม ระหว่างนั้นคณะลิเกของนายทวยเทพได้ต้อนรับ นายธำรง กับ คุณลลิตา และรุจิรางค์ ลูกสาวคนเดียวที่ประสบอุบัติเหตุจากการแข่งขันขี่ม้าทำให้เธอกลายเป็นโรค เกี่ยวกับสมองไม่สามารถจดจำเรื่องราวต่างๆ ไปชั่วระยะหนึ่ง รุจิรางค์เป็นคนหงุดหงิดเจ้าอารมณ์คอยกราดเกรี้ยวใส่ทุกคน โดยเฉพาะเนตรดารา นางเอกลิเกวัยรุ่นที่หลงตัวเอง เสริมชาติ แอบหาเวลามาดูการฝึกซ้อม เขาพบรุจิรางค์นั่งอยู่บนศาลาริมน้ำบ้านนายทวยเทพ ชายหนุ่มเกิดความประทับใจในความงาม จึงแต่งกลอนลิเกร้องชมความงามของรุจิรางค์ แต่เธอกลับหงุดหงิดจึงต้องขับกลอนลิเกสัพยอกหยอกเย้าจนหญิงสาวสงบขึ้น เธอขอให้เสริมชาติช่วยถ่ายวีดีโอ บันทึกภาพขณะเธอร้องและร่ายรำเพลงไทยเดิม เพื่อว่าสักวันเธอพลิกฟื้นความทรงจำ เธอจะเก็บภาพพวกนี้ไว้เป็นที่ระลึก ติดตามต่อได้ใน พ่อมาลัยริมทาง

หาบของแม่ 2551

หาบของแม่ (2551/2008) กิมเน้ย (กุณณัฎฐ์ กุลปรียาวัฒน์) เป็นลูกสาวคนเดียวของนายเฉียว (เศรษฐา ศิระฉายา) ชาวประมงชาวจีนกับทองเต็ม สาวไทย หลังจากแม่ของกิมเน้ยคลอดกิมเน้ยแล้วก็เสียชีวิตทำให้นายเฉียวต้องทิ้งอาชีพ ประมงมาหาบปลาทูนึ่งเร่ขาย แม้กิมเน้ยจะขาดแม่แต่ก็เติบโตมาอย่างอบอุ่นเพราะมีครอบครัวของกิมกี (เพ็ญพัตร์ ศิริกุล) รวมทั้งหลุง (พศิน เรืองวุฒ) ลูกชายของกิมกี หลุงหลงรักกิมเน้ยซึ่งเรื่องนี้เฉียวกับกิมกีก็สนับสนุนหวังจะให้เป็นทอง แผ่นเดียวกันในอนาคต ติดตามต่อได้ใน หาบของแม่

หน้าที่