ดวงใจเทวพรหม ขวัญฤทัย

เรื่องย่อ : ดวงใจเทวพรหม ขวัญฤทัย (2567/2024) พันตรี นายแพทย์ หม่อมหลวงฉัตรเกล้า จุฑาเทพ บุตรชายของ หม่อมราชวงศ์พุฒิภัทร จุฑาเทพ กับ กรองแก้ว มีน้องสาวคือ หม่อมหลวงปกเกศ เขาเรียนจบวิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎ และย้ายไปประจำโรงพยาบาลที่เชียงราย ที่นั่นเขาได้พบ ขวัญฤทัย สาวห้าวจอมแก่นขาใหญ่ประจำเมือง เขาสนใจเธอมากจากฝีมือทำอาหารและอัธยาศัยที่ไม่เกรงกลัวใคร ขวัญฤทัยเป็นลูกสาวของ มณี มีพี่ชายต่างแม่ชื่อ ก้องภพ เธอรักแม่มาก แต่แม่กลับไม่ค่อยรักเธอ เพราะความหลังแห่งกำเนิดที่ฝังใจ ขวัญฤทัยพยายามหลีกเลี่ยงฉัตรเกล้า เมื่อรู้ว่าแม่มณีไม่ชอบหมอหน้าหวาน แต่เพราะสถานการณ์ที่ทั้งคู่ต้องมาคอยช่วยเหลือกันและกันทั้งเรื่องความเป็นอยู่ของชีวิต ทั้งเรื่องเจ็บไข้ได้ป่วย และการช่วยราชการ ทำให้ทั้งคู่ได้ใกล้ชิดและรู้สึกดีต่อกัน ฉัตรเกล้าแน่ใจในความรู้สึกของตัวเองที่มีต่อขวัญฤทัย ส่วนขวัญฤทัยที่ไม่อยากขัดใจแม่พยายามหลีกเลี่ยงฉัตรเกล้า แต่แล้วก็มีเหตุการณ์ที่ฉัตรเกล้าเอาตัวเองมารับกระสุนแทนขวัญฤทัยจนอาการโคม่า ขวัญฤทัยเป็นห่วงฉัตรเกล้ามากแต่รู้สึกว่าตัวเองไม่คู่ควรกับสกุล จุฑาเทพ จึงได้แต่หนีหน้าฉัตรเกล้าและบอกลากันอย่างทรมานใจ ขวัญฤทัยตัดสินใจเปลี่ยนแปลงชีวิตใหม่ เข้ามาเรียนพยาบาลที่กรุงเทพฯ ส่วนฉัตรเกล้ารับราชการที่เชียงรายต่ออย่างหงอยเหงา จนกระทั่งมีจุดเปลี่ยนแปลงอีกครั้งในชีวิตของคนทั้งสอง ความรักของขวัญฤทัยกับฉัตรเกล้าจะลงเอยได้อย่างไร ติดตามชมกันต่อได้ในละครชุด ดวงใจเทวพรหม เรื่อง ขวัญฤทัย

กลิ่นกาสะลอง 2562

กลิ่นกาสะลอง (2562/2019) ปีพุทธศักราช ๒๕๖๗ ทรัพย์ นายหมอหนุ่มเชื้อสายจีนผู้เรียนวิชาการแพทย์สมัยใหม่เดินทางมาประจำอยู่ที่โรงพยาบาลมิชชันนารีในมณฑลพายัพ (เชียงใหม่) ได้ตกหลุมรักสาวเหนือนามว่า กาสะลอง ผู้งดงามเพียบพร้อมตามแบบอย่างหญิงที่ได้รับการอบรมมาอย่างดี แต่ความเข้าใจผิดเพราะไม่รู้ว่านางมีฝาแฝดชื่อ ซ้องปีบ ซึ่งมีนิสัยแตกต่างกันสุดขั้ว จึงทำให้เกิดโศกนาฏกรรมแห่งความรักเกิดขึ้น ซ้องปีบต้องการแย่งความรักของกาสะลอง ต้องการเอาชนะหัวใจนายหมอทรัพย์ ส่วนนายแคว้นมั่ง บิดาของกาสะลอง-ซ้องปีบก็เกลียดชังคนต่างเชื้อชาติ ศาสนา ความรักของทรัพย์และกาสะลองจึงไม่อาจสมหวังได้ ทั้งคู่วางแผนหนีไปบางกอกด้วยกันหลายครั้งแต่ก็ล้มเหลว จนครั้งสุดท้ายแม้จะหนีได้สำเร็จแต่ก็ถูกสืบตามจนพบ ซ้องปีบสวมรอยเป็นกาสะลองใช้ชีวิตอยู่กับหมอทรัพย์แทน ส่วนกาสะลองถูกขังไว้ในยุ้งฉางจนตาย นายหมอทรัพย์ไม่มีโอกาสได้พบกาสะลองอีก ไปทันเพียงเห็นเปลวไฟสุดท้ายที่เผานาง ทรัพย์จึงเก็บเถ้ากระดูกของกาสะลองและเมล็ดดอกปีบต้นที่ขึ้นริมท่าน้ำ ที่ซึ่งเขาพบกาสะลองเป็นครั้งแรก มาปลูกที่บ้านที่เขาหนีมาอยู่กับกาสะลองและใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นจนตาย นายหมอทรัพย์และซ้องปีบ มาเกิดในชาติภพใหม่เป็นคู่รักกัน คือ ทินกฤต และพิมพ์พิศา แม้จะรักกันแต่ทินกฤตก็รู้สึกว่าตนเองยังเฝ้ารอใครสักคนอยู่ จนกระทั่งมาซื้อที่ดินปลูกบ้านที่เชียงใหม่ ที่ดินติดธารน้ำซึ่งมีต้นปีบใหญ่ขึ้นอยู่ ความรู้สึกว่าจะได้พบคนที่รอก็ชัดเจนขึ้น ทุกคืนเมื่อได้กลิ่นดอกกาสะลองโชยมาตามลม ทินกฤตจะฝันถึงเรื่องราวในอดีต เห็นภาพพิมพ์พิศาในชุดโบราณ เช่นเดียวกับพิมพ์พิศาก็มักฝันถึงเหตุการณ์ประหลาดที่น่าสะพรึงกลัวเช่นกัน วิญญาณกาสะลองที่ยังรอคอยหมอทรัพย์ใช้พิมพ์พิศาเป็นสื่อกลางเพื่อทำให้ทุกคนจำอดีตของตัวเองได้ ภาคภูมิ เพื่อนสนิทของทินกฤตในอดีตคือ มั่นฟ้า ผู้หลงรักและยอมทำทุกอย่างเพื่อซ้องปีบ ส่วนวิจิตรา คนรักของภาคภูมิก็คือ นางเหมย คนสนิทของซ้องปีบในอดีต ผู้หลงรักมั่นฟ้าแต่อีกฝ่ายไม่เคยใส่ใจ ทั้งหมดมีกรรมเกี่ยวพันกันมาจึงได้มาพบกันอีกในชาติภพใหม่ วิญญาณกาสะลองทำให้พิมพ์พิศากลายเป็นเจ้าหญิงนิทราโดยไม่สามารถหาเหตุผลได้ แต่ในความรับรู้ของพิมพ์พิศานั้น บางครั้งเธอถูกกำหนดให้เป็นผู้ดูเหตุการณ์ในอดีต แต่บางครั้งก็สามารถรับรู้ความรู้สึกต่างๆ ในเหตุการณ์นั้นด้วย ในขณะที่อีกด้านหนึ่งทินกฤตก็หลับฝันว่าเขาใช้ชีวิตอยู่กับกาสะลองโดยที่ไม่มีใครตามหาเขาพบว่าอยู่ที่ไหนเพราะกาสะลองบังตาไว้ ในที่สุดเมื่อทุกคนรู้ความจริงในอดีตก็เข้าใจ พิมพ์พิศาจึงไม่รบเร้าแต่งงานกับทินกฤตอีก ส่วนทินกฤตก็ใช้ชีวิตตามลำพังที่บ้านริมน้ำหลังนั้นจนตายตั้งแต่วัยหนุ่ม ภาคภูมิและวิจิตราแต่งงานกัน มีบุตรชายคือ ปรัศวินทร์ ส่วนพิมพ์พิศาก็แต่งงานและให้กำเนิดบุตรสาวคือ พิมพ์มาดา โดยที่ฝ่ายพ่อแม่ต่างรู้สึกกันอยู่ลึกๆ ว่าทั้งสองคนคือ นายหมอทรัพย์ (ทินกฤต) และกาสะลองกลับมาเกิดใหม่ แต่ก็ไม่อยากรื้อฟื้นถึงเรื่องในอดีตอีก เมื่อทินกฤตเสียชีวิต มารดาของเขาได้มอบบ้านและที่ดินที่เชียงใหม่ให้พิมพ์พิศาในฐานะอดีตคู่หมั้น พิมพ์มาดาผู้เป็นลูกจึงสร้างโฮมสเตย์ในพื้นที่นั้นเพราะรู้สึกชอบที่แห่งนั้นตั้งแต่แรกเห็น และมีความรู้สึกว่าตนเองเฝ้าคอยใครสักคนหนึ่งที่จะมากับสายน้ำ เช่นเดียวกับปรัศวินทร์ที่กลับจากต่างประเทศเพราะมีเป้าหมายว่าอยากพบบ้านหลังหนึ่งที่รู้สึกว่าเป็นบ้านของตัวเองจริงๆ และมีหญิงสาวคนหนึ่งคอยเขาอยู่ที่ท่าน้ำ เมื่อได้มาที่โฮมสเตย์แห่งนี้ก็รู้สึกว่านี่คือบ้านที่ตนเองตามหา แม้ว่าทุกครั้งที่ปรัศวินทร์และพิมพ์มาดาพบกันจะคอยเขม่นกันอยู่เรื่อย แต่ลึกๆ ในหัวใจทั้งคู่ก็รู้สึกผูกพันกันราวรู้จักกันแต่ชาติปางก่อน ณ โฮมสเตย์ของพิมพ์มาดาซึ่งเคยเป็นที่ใช้ชีวิตของคนคู่หนึ่งในอดีต ความรักของนายหมอทรัพย์และกาสะลองก็ได้บังเกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง

รักกันพัลวัน 2560

รักกันพัลวัน (2560/2017) สาวหล่ออย่าง ตุลญาณา ต้องอกหักรักคุดจากสาว ๆ มาถึงสามครั้งสามครา ทำให้เธอเริ่มคิดว่าจะยอมเป็นทอมกลับใจเพราะไม่อาจแบกรับความเจ็บปวดจากการโดนผู้หญิงด้วยกันหักอกซ้ำแล้วซ้ำเล่าได้อีกต่อไป และเมื่อคิดจะกลับมาเป็นผู้หญิงเต็มตัวก็คิดต่อไปว่าควรจะหาผู้ชายดี ๆ สักคนมาเป็นแฟน โดยมีสองสาวเพื่อนซี้คือ อโนมาและดารินทร์ คอยเป็นที่ปรึกษา เพื่อนซี้ทั้งสองพาตุลญาณาไปหาหมอดูยิปซี หมอดูทำนายว่าตุลญาณาจะมีคู่แท้เป็นผู้ชาย ซึ่งผู้ชายคนนั้นคือ คนที่มอบจูบแรก มอบลมหายใจ และชีวิตใหม่แก่เธอ

แล้วฟ้าก็บันดาลให้ตุลญาณาได้พบกับ ฐานัท เพื่อนรุ่นพี่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยด้วยความบังเอิญ ความทรงจำดี ๆ ผุดขึ้นมาในหัวราวน้ำเดือดปุดๆๆๆ เธอพบเขาครั้งแรกในชมรมจิตอาสา ความช่วยเหลือ ความมีน้ำใจที่เขามีให้ทุกคนสร้างความประทับใจให้ตุลญาณาไม่รู้ลืม ดังนั้นเมื่อได้พบกันอีกครั้ง ใจของตุลญาณาก็เริ่มหวั่นไหว เธอตัดสินใจเดินหน้าจีบฐานัท แต่แล้วทุกอย่างก็ต้องมีอันสะดุดลงเมื่อเธอรู้ว่าฐานัทมีแฟนชื่อ ญานิสา หรือ แนน แล้ว โอ้ววว..พระเจ้า!! ถูกผู้หญิงทิ้งยังไม่ทันข้ามวัน ต้องมาถูกผู้ชายหักอกอีกแล้วหรือนี่… ความผิดหวังทำให้ตุลญาณาเดินใจลอยจนถูกมอเตอร์ไซค์ชนสลบไปถึง 3 วัน 3 คืน ในความมืดมิดไม่ได้สติที่โรงพยาบาล เธอได้ยินเสียงห้าวทุ้มเจือความร้อนใจดังแว่วติดหู ตามด้วยความรู้สึกว่ามีริมฝีปากอุ่นชื้นของใครบางคนทาบประกบเรียวปากเธอแล้วเป่าลมเข้าไปครั้งแล้วครั้งเล่า เธอลืมตาขึ้นอย่างยากเย็น ในความพร่าเลือนนั้น..เธอเห็นโครงหน้าราง ๆ ของผู้ชายคนหนึ่งลอยเด่นอยู่ตรงหน้าก่อนจะค่อย ๆ เลือนหายไป ตุลญาณาเฝ้าเวียนถามตัวเองว่าเธอเป็นอะไรและผู้ชายคนนั้นเป็นใคร จากอุบัติเหตุครั้งนี้ทำให้ตุลญาณาต้องหยุดงานเพื่อรักษาตัว 1 สัปดาห์ ก่อนจะกลับไปทำงานในตำแหน่งเจ้าหน้าที่ดูแลสัตว์ที่ บลูแพลนเน็ต สวนสัตว์เอกชนแห่งหนึ่งในเชียงใหม่ที่ติดอันดับ 1 ใน 5 สวนสัตว์ที่ดีที่สุดในเอเชีย ตุลญาณารักงานที่นี่มาก เธอรู้จักและตั้งชื่อให้สัตว์ทุกตัวที่อยู่ที่นี่ ความรักและการใส่ใจดูแลสัตว์ที่โดดเด่นทำให้เธอได้เลื่อนขั้นเป็นหัวหน้าหน่วยดูแลสัตว์ ที่เป็นผู้หญิงคนแรกและคนเดียวของบลูแพลนเน็ต ตุลญาณาต้องคุมลูกน้องชายฉกรรจ์อีกเป็นโขยง โดยมีผู้ช่วยคือ ชาติ และ โตมร เพื่อนสนิทที่คอยตามจีบเธอโดยไม่สนว่าเธอจะห้าวเป้งและผ่านผู้หญิงมาแล้วกี่คน สำหรับโตมร..ตุลญาณาคือผู้หญิงในสเปกที่เขาอยากจะแต่งงานด้วย วันแรกของการกลับมาทำงานที่บลูแพลนเน็ต ตุลญาณาได้พบกับคู่ปรับเก่าที่เธอเคยควงแฟนสาวของเขาขณะเป็นนักเรียนทุนที่ออสเตรเลีย ทั้งคู่ทะเลาะกันเพราะเธอเข้าใจผิดคิดว่าเขาเป็นลูกค้าที่ล่วงล้ำเข้ามาในเขตหวงห้ามของพนักงาน กว่าจะรู้ว่าคู่ปรับของเธอคือ เมธากวิน เจนนิงส์ ซีอีโอคนใหม่ของบริษัท ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของ มิสเตอร์แบรด เจนนิงส์ ซึ่งเป็นประธานบริษัท ตุลญาณาก็ด่าและกวนโอ๊ยเขาไปเยอะ เธอถูก มนตรี ผู้จัดการจอมเฮี้ยบเรียกไปอบรม แล้วขู่ว่าเธออาจจะโดนไล่ออก เพราะซีอีโอคนใหม่เข้มงวดและเคร่งครัดเรื่องวินัยและมารยาทของพนักงานมาก ไม่ทันขาดคำเมธากวินก็เรียกตุลญาณาไปพบเป็นการส่วนตัว ตุลญาณายืนยันหัวชนฝาว่าที่เธอเสียงดังใส่เขาเพราะต้องทำตามกฎของบริษัทและเมธากวินไม่มีสิทธิ์ไล่เธอออก เมธากวินบอกว่าที่เรียกมาก็เพื่อจะเตือนว่าต่อไปนี้ห้ามป่วย ห้ามเจ็บ ห้ามตาย ห้ามมีเรื่องชู้สาว ห้ามเอ๋อเดินไปให้มอเตอร์ไซค์ที่ไหนชนอีก ตุลญาณาอึ้งถามเมธากวินว่ารู้เรื่องนี้ได้ยังไง เมธากวินตอบเสียงดังฟังชัดว่าเขาอยู่ในเหตุการณ์และที่สำคัญ เขาเป็นคนช่วยยื้อลมหายใจเธอไว้ก่อนที่เธอจะถูกส่งตัวไปที่โรงพยาบาล เมธากวินต้องทำงานพิสูจน์ตัวเองในฐานะซีอีโอคนใหม่แทน ทักษะ ที่โดนแบรดไล่ออก แถมแบรดยังส่ง ฌอน ลูกติดภรรยาใหม่มาคอยควบคุมและจับตาดูเมธากวินทุกฝีก้าว ทำให้เขาไม่พอใจและต่อต้านพ่อกับฌอนหนักขึ้น เมธากวินไม่เคยลืมเรื่องราวในอดีตที่แม่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตเพราะต้องไปหย่าให้พ่อ พ่อทิ้งเขาไปแต่งงานกับ เจน แม่ของฌอน พร้อมทั้งย้ายไปทำธุรกิจที่ออสเตรเลีย ถึงแม้พ่อจะส่งเสียเลี้ยงดูแต่ทุกอย่างเต็มไปด้วยความกดดันตั้งแต่เล็กจนโต ตั้งแต่เรื่องเรียนจนถึงเรื่องธุรกิจที่พ่อต้องการให้เขาเป็นที่หนึ่ง เมธากวินพยายามอย่างหนักเพื่อจะเอาชนะพ่อและฌอน แต่เขาก็ไม่เคยได้รับความไว้วางใจจากพ่อและไม่เคยเอาชนะฌอนได้สักครั้ง เมธากวินจึงเกลียดฌอนขั้นสุดและมักหาเรื่องกวนประสาทฌอนเสมอ โดยเฉพาะเรื่อง นาตาลี ภรรยาเก่าของฌอน เพราะเป็นเรื่องเดียวที่เขาจะเอาชนะและทำให้ฌอนเจ็บปวดได้ นอกจากเรื่องงานที่เมธากวินต้องรับผิดชอบเต็มตัวจนเครียด ยังมีเรื่อง พนิตพิชา น้องสาวสุดรักสุดหวง ลูกของน้าที่รู้จักกับตุลญาณา แต่ดูจะสนิทกันมากจนเขาระแวงว่าความสัมพันธ์จะลึกซึ้งเกินกว่าความเป็นเพื่อน เมื่อเจอเหตุการณ์นัวเนียระหว่างสองสาวบ่อยครั้งเข้า เมธากวินจึงสั่งห้ามไม่ให้ตุลญาณาทำตัวใกล้ชิดพนิตพิชาอีก ตุลญาณาพยายามหาทางเลี่ยงแต่ก็ไม่วายซวยซ้ำสอง เมื่อหญิงสาวบังเอิญมีเรื่องให้ต้องเข้าไปเกี่ยวพันกับ โรส หรือ สโรชินี สาวไฮโซที่หลงรักและเป็นคู่หมายของเมธากวินมาตั้งแต่เด็ก ถึงเมธากวินจะไม่ได้สนใจสโรชินีเพราะคิดกับเธอแค่เพื่อน แต่เขาก็ไม่ชอบที่จะเห็นตุลญาณาใกล้ชิดสนิทสนมกับเธอ เมธากวินจึงสั่งห้ามตุลญาณาไม่ให้ยุ่งกับทั้งพนิตพิชาและสโรชินีโดยเด็ดขาด ตุลญาณาไม่อยากมีปัญหาจึงพยายามหาทางหลบสองสาวสุดชีวิต แต่ก็มีเหตุการณ์ที่ทำให้เธอต้องเข้าไปนัวเนียกับสองสาวโดยไม่ได้ตั้งใจเสมอ เมธากวินโกรธมากเพราะคิดว่าตุลญาณาจงใจขัดคำสั่ง โดยที่ไม่รู้ว่าที่พนิตพิชาแอบมาพบตุลญาณาบ่อยๆก็เพราะพนิตพิชาแอบชอบฌอน แต่ไม่แน่ใจว่าฌอนมีรสนิยมทางเพศยังไง จึงขอร้องให้ตุลญาณาช่วยหาวิธีพิสูจน์ว่าฌอนชอบผู้ชายด้วยกันหรือไม่ ขณะที่สโรชินีเข้ามานัวเนียตุลญาณาเพราะต้องการให้เมธากวินหึงเท่านั้น ซึ่งฐานัทจับความคิดสโรชินีได้จึงเตือนหญิงสาวให้เลิกใช้ตุลญาณาเป็นเครื่องมือ ทำให้สโรชินีไม่ชอบขี้หน้าฐานัทไปโดยปริยาย แม้จะมีปัญหางัดข้อกับเมธากวิน แต่ชีวิตของตุลญาณาก็ยังพอมีรอยยิ้มอยู่ได้เพราะฐานัท หญิงสาวยอมสมัครเป็นเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย “มูลนิธิน้ำใจอาทร” ซึ่งฐานัทเป็นอาสาสมัครอยู่ เพียงเพื่อจะได้อยู่ใกล้เขาทั้งๆที่เธอเป็นคนกลัวผีที่สุดในโลก และงานแรกที่ตุลญาณาได้ทำร่วมกับฐานัทคือการไปช่วยผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังจะกระโดดตึกฆ่าตัวตายเพราะน้อยใจคนรัก เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ ตุลญาณาแทบช็อกเมื่อพบว่าผู้หญิงคนนั้นคือมะปราง อดีตแฟนสาวคนล่าสุด งานนี้ตุลญาณาสามารถเปลี่ยนใจมะปรางไม่ให้คิดสั้นได้ แต่ก็ต้องแลกกับการที่เพื่อนร่วมงานและฐานัทรู้ว่ามะปรางคือแฟนเก่าเธอ ซึ่งนั่นยิ่งทำให้ความหวังที่ฐานัทจะมองเธอเป็นผู้หญิงรางเลือนออกไปอีก แต่แล้วก็เหมือนสวรรค์เข้าข้างตุลญาณา เมื่อฐานัทจับได้คาหนังคาเขาว่าญานิสามีอะไรกับ เสี่ยนภ ลูกค้าเศรษฐีของบริษัท ญานิสาบอกเลิกกับฐานัท ฐานัทเฮิร์ทสุดขีดกินเหล้าเมามาย ตุลญาณารู้เรื่องจึงรีบตามไปดู เมธากวินเห็นตุลญาณาออกไปกับอโนมาก็เข้าใจว่าตุลญาณาทิ้งงานที่ยังทำไม่เสร็จออกไปเที่ยวกับแฟนสาว โดยไม่รู้ว่าจริงๆแล้วหญิงสาวตามไปดูแลผู้ชายคือฐานัท ไม่ใช่ผู้หญิง!!!! วันรุ่งขึ้นดารินทร์และอโนมาขับรถพาฐานัทในสภาพแฮงหนักเพื่อไปพรีเซนต์งานสำคัญที่ออฟฟิศ ระหว่างทางสองสาวแวะซื้อกาแฟที่ปั๊มแล้วขับรถออกไปโดยลืมฐานัทที่ขอไปเข้าห้องน้ำไว้ที่ปั๊ม ฐานัทเดินโซเซออกจากห้องน้ำแล้วไปล้มหน้ารถสโรชินี หญิงสาวปฏิเสธเสียงแข็งว่าไม่ได้ขับรถชนเขา แต่ด้วยมนุษยธรรมและถูกคนในปั๊มกดดัน เธอจึงต้องพาฐานัทไปโรงพยาบาล สภาพฐานัทที่ซังกะตายทำให้สโรชินีอดเห็นใจไม่ได้จึงขับรถไปส่งเขาที่บริษัท ระหว่างทางสโรชินีเห็นญานิสาควงเสี่ยนภเย้ยฐานัทเต็มตา สโรชินีแอบเห็นใจฐานัท ขณะที่ฐานัทก็เริ่มเห็นมุมดี ๆ ในตัวหญิงสาวเช่นกัน ฐานัทลางานไปเลียแผลใจที่หัวหิน พอตุลญาณารู้เข้าก็เป็นห่วงจึงขอลางานตามฐานัทไป เป็นจังหวะเดียวกับที่เมธากวินไปประชุมที่หัวหินพอดี ชายหนุ่มถึงกับงงเมื่อเห็นตุลญาณาควงผู้ชายมาเที่ยวตามลำพัง ตุลญาณาคอยดูแลฐานัทอย่างใกล้ชิดจนฐานัทรู้สึกดีขึ้น แต่แล้วหัวใจหญิงสาวก็แทบหยุดเต้นเมื่อคิดว่าฐานัทจมน้ำ หญิงสาวไปช่วยฐานัทแต่กลับเป็นตะคริวซะเอง เดือดร้อนเมธากวินที่ผ่านมาเห็นต้องลากเธอขึ้นจากทะเลมาช่วยผายปอดให้ ฐานัทไม่ได้จมน้ำอย่างที่ตุลญาณาคิด แต่เขาลงไปช่วยสโรชินีด้วยความเข้าใจผิดคิดว่าหญิงสาวจมน้ำและต้องการความช่วยเหลือที่อีกฟากหนึ่งของชายหาด ฐานัทกลับมาที่บังกะโลและเห็นเมธากวินกำลังเป่าปากตุลญาณาที่หยุดหายใจไปแล้วจนกลับมาหายใจได้อีกครั้ง เมธากวินเห็นฐานัทจึงขอให้ดูแลตุลญาณาต่อแล้วเดินจากไป เมื่อตุลญาณาฟื้นขึ้นมาเห็นฐานัทเพียงคนเดียวก็ยิ่งตอกย้ำให้เธอมั่นใจว่าฐานัทคือเนื้อคู่ที่มอบลมหายใจและให้ชีวิตใหม่แก่เธอ เมธากวินกลับไปประชุมด้วยสภาพเปียกซ่กไปทั้งตัว ทำให้แบรดไม่พอใจมากเพราะคิดว่าลูกชายหักหน้าเขากลางที่ประชุม พ่อลูกทะเลาะกันหนักมากในคืนนั้น เมธากวินถูกพ่อตบหน้า เขาระบายความรู้สึกต่อว่าพ่อที่ทำลายทุกอย่างในชีวิตเขา ทำให้ ทิชา แม่ของเขาต้องประสบอุบัติเหตุจนเสียชีวิต เรื่องทั้งหมดอยู่ในสายตาของตุลญาณาที่บังเอิญเข้ามาเห็นเหตุการณ์ หญิงสาวไม่คิดว่าผู้ชายที่ดูเฉยชาจะมีปมชีวิตที่น่าสงสารขนาดนี้ ตุลญาณาเริ่มเข้าใจว่าที่เมธากวินกร่าง เครียด เฉยชา เก็บกด เป็นเพราะแรงกดดันจากพ่อนั่นเอง และนั่นทำให้ตุลญาณามองเมธากวินเปลี่ยนไปจากเดิม พนิตพิชาดีใจมากเมื่อรู้ว่าฌอนไม่ใช่เกย์อย่างที่สงสัยจึงเดินหน้าสานความสัมพันธ์ต่อไป แต่หญิงสาวกลับห่อเหี่ยวหนักกว่าเดิมเมื่อรู้ว่าเขายังลืมอดีตภรรยาไม่ได้ เรื่องนี้ทำให้พนิตพิชาสับสนเพราะคิดว่าฌอนอาจกลับไปคืนดีกับนาตาลีได้ตลอดเวลา เพราะไม่ใช่แค่ความผูกพันแต่ทั้งคู่มีลูกด้วยกันด้วย ขณะที่ฌอนก็ยังจมอยู่กับความเสียใจความผิดพลาดของตัวเองในอดีตจนยังไม่กล้าเปิดใจมีใครใหม่ ความวุ่นวายในสวนสัตว์เริ่มก่อตัวขึ้นเมื่อเมธากวินพบว่าหมีควายหลุดจากกรง และเต่ามะเฟืองราคาแพงได้หายไป เมธากวินเริ่มสงสัยว่าความวุ่นวายที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ตุลญาณายืนยันที่จะรับผิดชอบเรื่องนี้ เธอรับปากว่าจะหาตัวคนร้ายให้ได้ หากไม่ได้เธอยินดีถูกไล่ออก ตุลญาณา โตมร มนตรี และเมธากวินวางแผนใช้งานกีฬาสัมพันธ์ของเหล่าคีปเปอร์จับตัวคนร้าย ชาติโดนจับได้และสารภาพว่าความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในสวนสัตว์ทุกครั้งล้วนเป็นฝีมือของเขา ที่เขาทำไปเพราะแค้นที่ตุลญาณาเป็นผู้หญิงแต่กลับได้ตำแหน่งหน้าที่การงานที่ดีกว่า เมธากวินไล่ชาติออกและพักรบกับตุลญาณาชั่วคราว โดยมีข้อแม้เหมือนเดิมคือห้ามเธอยุ่งเกี่ยวกับพนิตพิชาและสโรชินีโดยเด็ดขาด ตุลญาณายังคงใช้เวลาว่างหลังเลิกงานไปเป็นอาสาสมัครเพื่อจะได้อยู่ใกล้ชิดฐานัท จนทั้งคู่เริ่มสนิทสนมกัน ฐานัทเริ่มมารับส่งเธอที่บลูแพลนเน็ต เมธากวินแอบมองความสัมพันธ์ของทั้งคู่ด้วยความรู้สึกปั่นป่วนใจอย่างบอกไม่ถูก เขาดึงเธอไปเป็นผู้ช่วยดูแลโครงการ “บลูซีเวิลด์” พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่จะร่วมทุ่นกับต่างชาติ โดยอ้างว่าเธอจะได้อยู่ใกล้ๆเขา ไม่ไปวอแวกับพนิตพิชาและสโรชินี ตุลญาณาไม่ขัดขืนเพราะดีใจที่จะได้ทำงานกับสัตว์น้ำอย่างที่ใฝ่ฝันมานาน นั่นทำให้เมธากวินมีความสุขอยู่เงียบๆ เมธากวินและตุลญาณาช่วยกันเตรียมโปรเจ็กต์นำเสนองานจนเผลอหลับไปด้วยกัน ความใกล้ชิดระหว่างเตรียมงานทำให้ทั้งคู่แอบหวั่นไหวในใจ เมธากวินเกิดความรู้สึกแปลก ๆ และเริ่มไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมเขาจะต้องมาใส่ใจกับทอมอย่างตุลญาณาด้วย แถมยังรู้สึกว่าเธอมีแรงดึงดูดบางอย่างที่ทำให้เขาอยากเข้าใกล้ ทั้งๆที่เขาไม่เคยสนใจผู้หญิงคนไหนมานานมากแล้ว นับตั้งแต่เลิกกับ แองจี้ แฟนสาวคนล่าสุดคนที่ตุลญาณาเคยแย่งไปควงเมื่อหลายปีก่อน ในขณะที่ตุลญาณาเองก็ต้องข่มใจทำแมนใส่เมธากวินโดยที่ปฏิเสธตัวเองไม่ได้เลยว่าใจสั่นทุกครั้งที่อยู่ใกล้เขา ทั้งคู่ช่วยกันเสนอโปรเจ็กต์บลูซีเวิลด์จนผ่านการคัดเลือกรอบแรกจากบริษัทแม่สำเร็จ พนิตพิชาเดินหน้าเรื่องความรักตามคำแนะนำของตุลญาณา คอยดูแลเอาใจใส่ฌอน แม้ฌอนจะป่วยและหงุดหงิดใส่แต่พนิตพิชาก็ไม่ถือสา ฌอนเริ่มประทับใจในตัวพนิตพิชา หญิงสาวทำให้เขารู้สึกอบอุ่นใจเพราะไม่มีใครดูแลใส่ใจเขามานานมากแล้ว ในที่สุดฌอนก็เริ่มเปิดใจให้พนิตพิชา แต่เมธากวินกลับไม่พอใจเพราะไม่อยากเห็นน้องสาวเสียใจเหมือนนาตาลีที่เป็นเพื่อนของเขา เมธากวินคอยเตือนพนิตพิชาว่าผู้ชายบ้างานอย่างฌอนไม่มีวันทำให้พนิตพิชามีความสุขได้ แต่พนิตพิชาก็ยังดื้อดึงที่จะรักฌอนต่อไป ฐานัทเริ่มมองเห็นความเป็นผู้หญิงในตุลญาณาและเริ่มรู้สึกดีที่ได้ใกล้ชิดเธอ ตุลญาณามีความสุขมากแต่ในความสุขนั้นก็มักมีเมธากวินที่เอาเรื่องงานมาอ้างเพื่อขัดจังหวะทั้งคู่เสมอ ในส่วนของสโรชินีก็คิดวางแผนมัดเมธากวิน โดยชวนตุลญาณามาปรับทุกข์แล้วแกล้งเมาในงานปาร์ตี้วันเกิดก่อนจะนัวเนียตุลญาณาให้เมธากวินเห็น สโรชินีคิดว่าเมธากวินจะหึงแต่ทุกอย่างกลับผิดแผนเมื่อเมธากวินโกรธมากประกาศว่าถ้าสโรชินีรักตุลญาณาจริงๆ เขาก็จะไม่ยุ่งวุ่นวายกับเรื่องส่วนตัวของเธออีก สโรชินีเลิกแอ๊บเมาแล้วรีบตามไปง้อเมธากวินทันที ฐานัทและตุลญาณาจึงรู้ว่าทั้งหมดเป็นแผน ของสโรชินี สโรชินีขอโทษเมธากวินและบอกว่าทำไปเพราะรักเขา อยากให้เขาหึง เมธากวินสารภาพตรงๆว่าคิดกับสโรชินีได้แค่เพื่อน สโรชินีเสียใจมากขออยู่คนเดียว เมธากวินกลับไปหาสโรชินีแต่ไม่พบจึงไปชวนตุลญาณาออกตามหาสโรชินีอย่างร้อนใจ ทั้งคู่กลัวว่าสโรชินีอาจจะเสียใจจนไปกระโดดสะพานฆ่าตัวตาย แต่ที่จริงสโรชินีแค่พะอืดพะอมจึงจอดรถบนสะพานลงไปอาเจียน และคนที่รับเคราะห์ไปเต็ม ๆ คือฐานัทที่มาเจอสโรชินีอยู่ที่ราวสะพาน ฐานัทลงไปดู สโรชินีหันมาอาเจียนใส่เขาอย่างหมดไส้หมดพุง ฐานัทด่าสโรชินีอย่างรุนแรงที่ทำตัวไม่มีค่า สโรชินีฮึดคิดปรับปรุงตัวเป็นคนใหม่เพื่อให้เมธากวินกลับมาสนใจเธอให้ได้ และคนที่จะต้องช่วยเธอก็คือฐานัทที่เป็นคนจุดประกายไอเดียนี้ สโรชินีตั้งใจจะเป็นบล็อกเกอร์รีวิวอาหาร โดยเริ่มจากเมนูข้าวต้มมัดฝีมือบุญลือและสมฤดี พ่อแม่ของตุลญาณาที่เอามาให้เธอชิม สโรชินีตั้งอกตั้งใจทำงานโดยมีฐานัทเป็นที่ปรึกษา หลังปล่อยรีวิวเมนูแรกออกไป ยอดวิวพุ่งสูงจนสโรชินีคิดเปิดร้านขายข้าวต้มมัดจริงจัง โดยมีฐานัทเป็นคนช่วยออกแบบแพ็กเกจให้หญิงสาวอีกตามเคย ฐานัทเดินหน้าจีบตุลญาณา โดยมีเมธากวินคอยเป็นก้างขวางคอตลอดเวลา แต่แล้ววันฝันสลายก็มาถึง ตุลญาณาเตรียมตัวจะไปเดทกับฐานัท แต่ฐานัทกลับติดธุระด่วน ตุลญาณาตั้งใจเอาอาหารไปให้ฐานัทที่คอนโดแต่กลับเห็นญานิสาในชุดนอนเซ็กซี่กำลังกอดซุกไซ้ฐานัทที่ระเบียงห้อง ญานิสาเพิ่งถูกนภทิ้งจึงกลับมาหาฐานัท แต่คราวนี้ฐานัทรู้ทันมารยาจึงไม่ใจอ่อน ตุลญาณาเดินตากฝนออกมาอย่างคนใจสลายโดยไม่รู้ว่าเมธากวินแอบดูอยู่ ชายหนุ่มอาสาไปส่งเธอที่คอนโดด้วยความเป็นห่วง ตุลญาณาจำใจขึ้นรถไปด้วยก่อนจะปล่อยโฮออกมาอย่างสุดจะกลั้น เมธากวินอึ้งเมื่อเห็นความอ่อนแอบอบบางของเธอเป็นครั้งแรก เมธากวินได้รับสายจากศูนย์บริบาลช้างที่เขาไปเป็นอาสาสมัครแจ้งว่าลูกช้างป่วย ตุลญาณาลืมความเศร้าไปชั่วขณะขอตามเมธากวินไปช่วยดูแลลูกช้างทันที ทั้งคู่ต้องค้างคืนที่ศูนย์บริบาลช้าง เมธากวินเฝ้าดูอาการลูกช้างอย่างเป็ห่วง ฝนตกหนักทั้งคืนจนน้ำป่าไหลทะลักทำให้ฝายกั้นน้ำพังลงมา ตุลญาณาและเมธากวินอาสาไปช่วยซ่อมฝาย เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำท่วมเข้ามาที่ปาง ตุลญาณาตากฝนจนไม่สบาย เมธากวินคอยดูแลหญิงสาวด้วยความเป็นห่วง ตุลญาณาได้เห็นมุมอ่อนโยนที่ซ่อนอยู่ภายใต้เปลือกที่เย็นชาของเขา ความใกล้ชิดที่เกิดขึ้นโดยบังเอิญนี้ ทำให้สองหนุ่มสาวที่เป็นปรปักษ์กันเริ่มมีความรู้สึกแปลก ๆ เกิดขึ้นในใจมากขึ้นทุกที ฐานัทกลับไปปรับความเข้าใจกับตุลญาณา แต่ญานิสาพยายามตามตื๊อขอกลับมาคืนดี แถมยังสร้างความอับอายให้กับตุลญาณาด้วยการตามไปตบหน้าหญิงสาวถึงคอนโดฐานัท สโรชินีเห็นฐานัทจัดการญานิสาไม่ได้เด็ดขาดซะทีจึงยื่นมือเข้ามาช่วย โดยประกาศกลางออฟฟิศฐานัทว่าตุลญาณาคือตัวหลอกแต่เธอคือแฟนตัวจริง ฐานัทถึงกับเอ๋อไป 3 วิ ญานิสายังไม่ยอมเชื่อ ฐานัทจึงต้องแกล้งทำตัวเป็นแฟนกับสโรชินีอย่างแนบเนียนจนญานิสายอมถอยในที่สุด ยิ่งนานวันตุลญาณาก็ยิ่งรู้สึกสับสนว่าเธอชอบใครกันแน่ เธอควรจะคิดถึงคนที่ดีกับเธออย่างฐานัท แต่ทำไมใจไพล่ไปคิดถึงเมธากวินตลอดเวลา ความรู้สึกสับสนในใจตุลญาณาที่มีมากอยู่แล้วกลับยิ่งมากขึ้นไปอีกเมื่อเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้คอนโดห้องติดกับเธอ และเธอกับพ่อติดอยู่ในนั้น ขณะที่เพลิงกำลังลาม ฐานัทตามไปช่วยเธอออกมาได้ทันโดยเมธากวินประคองบุญลือตามออกมาติด ๆ ตุลญาณาซาบซึ้งใจมาก หลังจากวันนั้นสองหนุ่มก็เริ่มเขม่นหน้ากันอย่างสุดฤทธิ์ เมธากวินเสนอให้ตุลญาณาย้ายไปอยู่ที่บ้านแม่ของเขาโดยอ้างว่าเป็นสวัสดิการพนักงาน ทำให้ฐานัทกังวลอยู่ลึกๆว่าตุลญาณาจะแอบมีใจให้เมธากวิน ฌอนเริ่มคบหากับพนิตพิชา แต่สุดท้ายเขาก็เลือกงานก่อนพนิตพิชาเสมอ แถมยังต้องคอยดูแลแบรดที่ป่วยเป็นมะเร็งสมองโดยที่ไม่มีใครรู้เพราะแบรดสั่งห้ามไม่ให้บอกใครเด็ดขาด โดยเฉพาะกับเมธากวิน ในที่สุดพนิตพิชาก็หมดความอดทนกับฌอน หญิงสาวเสียใจที่ระหว่างเธอกับฌอนไปด้วยกันไม่ได้ และเสียใจที่เมธากวินเตือนแล้วเตือนอีกแต่เธอเองที่ไม่ฟัง พนิตพิชาตัดสินใจเดินออกจากชีวิตของฌอนด้วยการหากิจกรรมจิตอาสาทำ เธอสนุกกับงานและสังคมใหม่จนลืมความทุกข์ ในขณะที่ฌอนเริ่มรู้สึกว่างเปล่า เขาเพิ่งรู้ตัวว่าเมื่อขาดพนิตพิชาก็เหมือนชีวิตขาดอะไรไป เมธากวินเร่งทำโปรเจ็กต์กับตุลญาณา มนตรีและโตมรเห็นเจ้านายตามตุลญาณาเป็นเงาตามตัวก็เริ่มรู้ว่าทั้งคู่มีใจให้กัน โตมรอกหักอย่างแรงเพราะไม่มีอะไรไปสู้เมธากวินได้ จึงหันไปมองสาวเนิร์ดที่เคยเป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาก่อนอย่างอโนมาแทน ขณะที่ตุลญาณามัวแต่ยุ่งกับงาน ฐานัทก็ต้องไปยุ่งอยู่กับการช่วยสโรชินีเปิดร้านขายข้าวต้มมัด “ม่วนใจ๋ไฮโซ” จนกระทั่งสโรชินีเปิดร้านสำเร็จ ความใกล้ชิดทำให้ทั้งคู่รู้สึกวูบวาบหวั่นไหวต่อกันเช่นกัน เมธากวินและตุลญาณาเตรียมเสนองาน “บลูซีเวิลด์” รอบสุดท้ายกันเต็มที่โดยเก็บทุกอย่างเป็นความลับที่สุด แต่แล้วข้อมูลสำคัญกลับถูกบริษัทของทักษะขโมยไปหน้าด้านๆ สุดท้ายบริษัททักษะก็เป็นผู้ชนะการประมูลในที่สุด เมธากวินเสียใจที่ทำให้ทุกคนผิดหวัง แบรดไม่พอใจมาก ในขณะที่ตุลญาณาถูกเพ่งเล็งว่าเป็นคนขายความลับบริษัท เมธากวินเอาตำแหน่งเป็นประกันเพราะเขาไม่เชื่อว่าตุลญาณาจะทำแบบนั้นได้ เมธากวินสั่งให้มนตรีและโตมรสืบจนได้หลักฐานจากกล้องวงจรปิดว่ามีชายสวมหมวกไอ้โม่งเข้ามารื้อค้นเอกสารที่ทั้งคู่ประชุมงานกัน ซึ่งทำให้ตุลญาณารอดพ้นข้อกล่าวหาไปได้ เมธากวินขอแบรดทำโปรเจ็กต์บลูซีเวิลด์ต่อด้วยเงินทุนส่วนตัวของตัวเอง แต่กลับกลายเป็นว่าแบรดแอบดำเนินการเรื่องอะควาเรียมให้เขามาระยะหนึ่งแล้ว เมธากวินผิดหวังมากที่พ่อไม่เคยไว้ใจและเชื่อในความสามารถเขาเลยสักครั้ง เขาไม่รู้ว่าที่แบรดแอบทำทุกอย่างไว้ก็เพราะต้องการให้เขาได้ทำงานที่เขารักต่อไปแม้จะพลาดการประมูลก็ตาม ตุลญาณาขอให้เมธากวินสู้และผลักดันโครงการบลูซีเวิลด์ให้สำเร็จให้ได้ หญิงสาวขอให้ฐานัทช่วยมาเป็นสถาปนิกเพื่อดูแลโปรเจ็กต์นี้ด้วย โครงการบลูซีเวิลด์สำเร็จได้ในที่สุดเพราะการร่วมแรงร่วมใจของทุกฝ่าย โดยหนึ่งในนั้นคือปรีชา นักดำน้ำน้องใหม่ที่ตุลญาณาและเมธากวินเลือกมากับมือ ข่าวเมธากวินเตรียมเปิดตัวบลูซีเวิลด์อย่างเป็นทางการสร้างความโกรธแค้นให้ทักษะมาก แท้จริงแล้วความวุ่นวายทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นเรื่องสัตว์หรือเรื่องแผนงานที่ถูกขโมยความคิดล้วนแล้วแต่มีทักษะ และ นลินี เมียเก็บที่เคยเป็นเลขาฯ เขา และปัจจุบันเป็นเลขาฯ ของเมธากวินคอยเป็นสายรายงานความเคลื่อนไหวให้ทั้งสิ้น ทุกคนไม่เคยเอะใจสงสัยผู้หญิงหวานๆดูไม่มีพิษมีภัยอย่างนลินีเลย ในวันเปิดตัวบลูซีเวิลด์ แบรดไม่มาเป็นประธานในงานอย่างที่รับปากไว้ เมธากวินทั้งโกรธทั้งน้อยใจคิดว่าแบรดไปร่วมงานเปิดตัวน้ำหอมของเจนที่สิงคโปร์ ฌอนทนไม่ไหวระเบิดความจริงให้เมธากวินรู้ว่าที่แบรดไม่มาเพราะต้องเข้าผ่าตัดเพื่อรักษามะเร็งสมอง ทุกอย่างที่พ่อทำไปเพราะรักและเป็นห่วงเมธากวินมาก พ่อป่วยเป็นมะเร็งและน่าจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน พ่อจึงอยากเห็นเขาเติบโต ยืนอยู่บนลำแข้งตัวเองได้ก่อนที่พ่อจะไม่มีโอกาสได้เห็น ที่พ่อบีบบังคับเขาเรื่องงานเพราะต้องการให้เขาได้พิสูจน์ตัวเอง เมธากวินอึ้ง เสียใจและเจ็บใจที่เอาแต่ต่อต้านพ่อมาตลอด ฐานัทขอให้สโรชินีช่วยเลือกแหวนให้ตุลญาณา สโรชินีเอาแหวนมาส่งให้ในงานปาร์ตี้ที่ฐานัทจัดเพื่อจะขอตุลญาณาแต่งงาน สโรชินีเศร้าเมื่อรู้ว่าตอนนี้หัวใจตัวเองไม่ได้อยู่ที่เมธากวินแต่กลับอยู่ที่ฐานัท หญิงสาวเผลอใจจูบลาฐานัทเป็นครั้งสุดท้ายโดยที่ไม่รู้ว่าตุลญาณามาเห็นเข้าพอดี ตุลญาณาหนีกลับไปเงียบๆด้วยใจที่สับสน นี่เธอเสียใจหรือโล่งใจกันแน่!!! เมธากวินนั่งจมอยู่ในความมืดใต้อุโมงค์ปลาในบลูซีเวิลด์ ตุลญาณาเดินเข้ามาหาพร้อมเค้กวันเกิดที่ตั้งใจทำเซอร์ไพรส์เขา เมธากวินน้ำตาทะลักเพราะเสียใจเรื่องแบรด ตุลญาณาโผเข้ากอดชายหนุ่มแน่น ราวกับสองหัวใจจะหลอมเป็นหนึ่งเดียว ตุลญาณาไม่อยากให้เมธากวินขับรถไปหาแบรดถึงกรุงเทพฯ ในเวลาที่ใจสลายอย่างนี้ จึงอยู่เป็นเพื่อนเขาจนถึงเช้า เรื่องยิ่งพัลวันไม่จบไม่สิ้นเมื่อฐานัทตามมาขอโทษและอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นให้ตุลญาณาฟัง เมธากวินและสโรชินีได้ยินฐานัทขอตุลญาณาแต่งงาน ต่างคนจึงต่างเจ็บปวด เพราะไม่มีใครพูดความจริงในใจตัวเองออกมา เมธากวินและสโรชินีเริ่มลองคบกันจริงจังเป็นครั้งแรก ทั้งๆที่รู้อยู่เต็มอกว่าต่างเป็นได้แค่เพื่อนเท่านั้น ทั้งคู่จับมือกันไปเยี่ยมแบรดที่กรุงเทพฯ ฌอนและเจนคอยดูแลแบรดจนอาการดีขึ้น เมธากวินเริ่มเปิดใจรับเจนและฌอน แบรดขอโทษเมธากวินที่แสดงความรักในแบบของเขา จนทำให้เมธากวินอึดอัดและเจ็บปวดมาตลอด เมธากวินปรับความเข้าใจกับพ่อจนรู้ว่าจริง ๆ แล้วพ่อกับแม่ต่างเลิกกันด้วยความเข้าใจ ทั้งสองยังคงรักและปรารถนาดีต่อกันในฐานะเพื่อน ไม่ใช่เพราะพ่อทิ้งแม่ไปอย่างที่เขาคิดมาตลอด รักสี่เส้าเราสี่คนพัลวันกันหน่วงหนัก ทั้งเมธากวินและตุลญาณา..ต่างคนต่างทำงานและรักษาระยะห่างระหว่างกัน จนกระทั่งในกลางดึกคืนหนึ่ง มีใครบางคนแอบลักลอบเข้าไปในบลูแพลนเน็ตเพื่อปิดเครื่องปั๊มออกซิเจนจนปลาตาย แบรดที่เพิ่งฟื้นตัวจากการผ่าตัดต้องมาช่วยเมธากวินหาตัวคนลงมือและคนบงการ เมธากวินเครียดจัดเมื่อตุลญาณากลายเป็นผู้ต้องสงสัย เพราะเธอคือคนคนเดียวที่กลับเข้าไปในอะควาเรี่ยมในคืนเกิดเหตุตอนเที่ยงคืน แม้ลึก ๆ เขาจะเชื่อใจเธอ แต่หลักฐานทุกอย่างต่างพุ่งไปที่ตุลญาณา แบรดเรียกตุลญาณาไปคุยเป็นการส่วนตัว ถึงหลักฐานที่มีจะไม่สามารถผูกมัดตุลญาณาได้แน่นหนา แต่ผลที่เกิดขึ้นก็ทำให้บริษัทและภาพลักษณ์ของเมธากวินเสียหาย ถ้าเขาจะใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวปกป้องเธอ ตุลญาณาตัดสินใจลาออกเพื่อจบปัญหาทุกอย่าง ในขณะที่ฐานัทก็มาขอให้ตุลญาณาเดินทางไปอิตาลีกับเขาเพราะเขาได้ทุนไปเรียนต่อที่นั่น 6 เดือน ตุลญาณาขอเวลาตัดสินใจ มนตรีและโตมรเสียใจมากที่เพื่อนร่วมงานดีๆอย่างตุลญาณาลาออกไป ทุกคนรับปากว่าจะช่วยกันสืบและกระชากผู้ร้ายตัวจริงออกมาให้ได้ ในที่สุดมนตรีและโตมรก็สืบรู้ว่าทุกอย่างเป็นฝีมือของนลินีและปรีชา ปรีชาเป็นน้องชายของนลินีที่ยอมทำผิดเพราะความกตัญญูที่มีต่อพี่สาว ตุลญาณาสงสารทั้งนลินีและปรีชา จึงไม่ติดใจเอาความอะไรอีก เพราะไม่ว่ายังไงเรื่องระหว่างเธอกับเมธากวินก็ไม่มีทางเป็นไปได้อยู่แล้ว นลินีและปรีชายิ่งรู้สึกผิดต่อตุลญาณา ตุลญาณาเข้าใจว่าเมธากวินกำลังจะแต่งงานกับสโรชินี จึงตัดสินใจไปอิตาลีกับฐานัท คนที่รู้เรื่องนี้เป็นคนแรกและควรจะมีความสุขที่สุดคือสโรชินี แต่เธอกลับรู้สึกหน่วงในใจอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน การได้ทำงานที่รักได้ทำกิจกรรมเพื่อผู้อื่นทำให้ชีวิตพนิตพิชาร่าเริงสดใส แต่นั่นยิ่งทำให้ฌอนรู้สึกเหมือนถูกผลักให้ห่างจากเธอมากขึ้นทุกที คราวนี้ฌอนกลับมาเป็นฝ่ายไล่ตามพนิตพิชาและตัดสินใจขอเธอแต่งงาน แต่หญิงสาวปฏิเสธเพราะความรู้สึกที่เธอมีต่อเขาไม่เหมือนเดิมแล้ว ฌอนเจ็บปวดสุด ๆ ที่ความรักต้องมาพังเป็นครั้งที่ 2 อาภรณ์ น้าเมธากวินที่รู้เห็นเรื่องนี้ตั้งแต่แรก ตัดสินใจเล่าเรื่องทั้งหมดให้แบรดและเจนรับรู้ แบรดรู้สึกผิดที่เข้มงวดกับลูกๆมากเกินไปจนทำให้ลูกไม่มีความสุข การที่ฌอนที่ต้องหย่ากับนาตาลีหรือตอนนี้ก็ต้องห่างจากพนิตพิชา รวมไปจนถึงเมธากวินที่อยู่อย่างคนไม่มีชีวิตจิตใจ มีสาเหตุมาจากเขาทั้งสิ้น ในที่สุดแบรดก็ยอมปล่อยวางเรื่องงาน เปิดโอกาสให้ฌอนมีเวลาส่วนตัวได้สานความสัมพันธ์กับพนิตพิชาอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้เขาตั้งใจจะดูแลเธอให้ดีที่สุดและจะไม่ปล่อยมือเธอไปไหนอีกแล้ว ตุลญาณาเตรียมตัวเดินทางไปอิตาลีกับฐานัททั้งที่ในใจยังสับสน เมธากวินตัดสินใจจะไปตามตุลญาณา แต่นลินีและปรีชามาสารภาพผิด ซึ่งทำให้ตุลญาณาพ้นจากข้อกล่าวหา แบรดอนุญาตให้เมธากวินตามตัวตุลญาณากลับมาทำงานตามเดิม ชายหนุ่มรีบไปตามตุลญาณาที่สนามบินแต่ไม่ทัน เขาได้พบแต่สโรชินีที่แอบตามไปส่งฐานัท เมธากวินกับสโรชินีพยายามกลับมาใช้ชีวิตเป็นปกติเหมือนเดิม แต่ทั้งคู่ต่างก็รู้ตัวว่าไม่เคยลืมตุลญาณาและฐานัทได้เลย แล้ววันที่ฐานัทเดินทางกลับก็มาถึง สโรชินีแอบไปรอดูฐานัทเงียบ ๆ โดยที่ทำใจไว้แล้วว่าเขากับตุลญาณาคงแต่งงานกันแล้วที่อิตาลีและอาจมีลูกด้วยกันแล้วด้วยซ้ำ แล้วสโรชินีก็ต้องเซอร์ไพรส์และดีใจสุดขีดเมื่อรู้ความจริงว่าแท้จริงแล้วตุลญาณาไม่ได้ไปอิตาลีกับฐานัทอย่างที่ทุกคนคิด ตุลญาณายกเลิกการเดินทางกะทันหัน ซึ่งฐานัทเข้าใจและจากกันด้วยดี ฐานัทบินไปเรียนต่อที่อิตาลีเพียงลำพัง ส่วนตุลญาณาไปเป็นอาสาสมัครมูลนิธิรักษ์อันดามันที่กระบี่ ที่นั่นเมธากวินซึ่งเดินทางไปสมทบกับกลุ่มอาสาสมัครปล่อยปลาการ์ตูนใต้ทะเลได้เจอกับตุลญาณาอีกครั้ง เมธากวินดีใจมากที่รู้ว่าตุลญาณาไม่ได้แต่งงานกับฐานัท ตุลญาณาเองก็ดีใจที่เมธากวินไม่ได้แต่งงานกับสโรชินีอย่างที่เธอคิด ทั้งคู่ปรับความเข้าใจกัน ตุลญาณาบอกเขาว่า ที่เธอปฏิเสธไม่ไปอิตาลีกับฐานัทเพราะรู้ใจตัวเองดีว่าเธอจะแต่งงานกับใครไม่ได้นอกจากคนที่เธอรัก และคนที่เธอรักก็มีเพียงแค่เมธากวินคนเดียวเท่านั้น
ประทีปรักแห่งใจ 2559

แม่ของแผ่นดิน ประทีปรักแห่งใจ (2559/2016) ประทีปรักแห่งใจ เป็นเรื่องราวของ เมลดา คุณหนูไฮโซผู้เกิดมาพร้อมกับความสมบูรณ์ในชีวิต และไม่เคยคาดคิดว่าชีวิตนี้จะต้องตกระกำลำบาก เพราะมัลลิกา ผู้เป็นแม่ปลูกฝังว่าไม่จำเป็นต้องคิดอะไรมากมาย แค่ใช้ชีวิตหรูหราสุขสบาย และแต่งงานกับผู้ชายรวย ๆ สักคนก็พอ ครั้นคุณหนูเมลดาผู้มีชีวิตแสนสุขสบายต้องกลายเป็น หงส์ปีกหักในชั่วข้ามคืน สูญเสียทุกสิ่งทุกอย่าง และต้องเริ่มต้นชีวิตใหม่ตั้งแต่ศูนย์ ซ้ำแม่ที่คิดว่าจะเป็นหลักยึดเหนี่ยว ให้แก่ชีวิตก็หวังพึ่งอะไรไม่ได้ แล้วยังกลายเป็นภาระให้อีก เมื่อเจอปัญหารุมเร้าทุกด้าน คุณหนูเมลดาผู้ใช้ชีวิต ในโลกสีชมพูจะเอาตัวรอดได้อย่างไร นี่คือจุดเริ่มต้นของเรื่อง ที่นำไปสู่การปรับเปลี่ยนชีวิตของเมลดา ซึ่งสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตติ์ พระบรมราชินีนาถ คือ แม่ที่ทรงหยิบยื่นดวงประทีปชีวิตให้แก่เธอ เมลดา ศรานุสรณ์ หรือ มินนี่ คือหญิงสาวที่เกิดมาพร้อมกับความสมบูรณ์ในชีวิต ไม่ว่ารูปร่างหน้า ฐานะ ชื่อเสียงในวงสังคม พร้อมกับการปลูกฝังมาตั้งแต่เด็กว่าผู้หญิงที่เกิดมามีความเพียบพร้อม ไม่จำเป็นต้องขวนขวาย ทำสิ่งใดให้เหนื่อยยากลำบาก แค่รอเวลาให้เหมาะสมแต่งงานกับผู้ชายที่ดีพร้อมก็พอแล้ว ดังนั้นเมื่อจบการศึกษา ในปีนี้แล้วเธอจึงไม่มีเป้าหมายในชีวิตอะไรนอกจากรอเวลาแต่งงานกับ เป็นหนึ่ง เอกนุกูลกิจ ชายหนุ่มที่เมลดา คบหามานานเป็นปี ในขณะที่มีความยินดีกับงานแต่งงานที่จะเกิดขึ้นในเดือนหน้า แต่เธอกลับมีความสับสนและไม่แน่ใจอยู่ด้วยว่า อยากแต่งงานกับเป็นหนึ่งจริงหรือเปล่า หรือว่าจำเป็นต้องแต่ง เมื่อนำเรื่องนี้ไปปรึกษา กับมัลลิกาผู้เป็นมารดา ก็ได้รับคำตอบว่าอยู่กันไปก็เรียนรู้นิสัยกันปรับตัวเข้าหากันได้เอง

ระหว่างที่เมลดาและเพื่อน ๆ นั่งปรึกษาหารือกันเรื่องชุดแต่งงาน ต้องใจ เพื่อนร่วมมหาวิทยาลัยผ่านมา แล้วพูดจากระแทกแดกดัน เมลดาลุกขึ้นตอบโต้จนเพื่อน ๆ ต้องห้ามปรามไม่ให้ไปสนใจกับพวกบ้านนอก ที่ไม่มีเงินพอจะทำอย่างคนรวยเขาทำกันได้ จึงคิดอิจฉาเท่านั้นเอง แล้วเมื่อเพื่อนทั้งสองคนแยกย้ายกันไป คนที่เข้ามา แทนที่คือ แพรวดาว แฟนเก่าของเป็นหนึ่ง ที่แม้จะเลิกรากันไปก่อนที่เป็นหนึ่งจะมาคบหากับเมลดา แต่แพรวดาว ก็ยังพูดจาว่าเมลดานั้นเป็นมือที่สามแย่งคนรักของเธอ อย่างวันนี้ก็เข้ามาพูดจาบอกว่าการที่เป็นเป็นหนึ่งจะแต่งงาน ก็เพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจเท่านั้น หาใช่ความรักไม่ เป็นหนึ่งมารับเมลดาไปลองแหวนหมั้นที่ร้านเพชร แต่กลับกลายเป็นว่าแหวนที่เมลดาลองสวมนั้นหลวม เพราะทำผิดไซส์ เพชรประดับ เจ้าของร้านเพชรเผลอหลุดปากบอกว่าแหวนที่ทำมานั้น อาจจะเป็นไซส์นิ้ว ของแพรวดาว ทำให้เมลดาโกรธมาก และสั่งให้เขาทำแหวนให้เธอใหม่ และงอนออกจากร้านกลับบ้านทันที โดยที่เป็นหนึ่งก็ไม่ได้ตามมาง้องอน เมลดาเริ่มรู้สึกว่าเป็นหนึ่งอาจจะไม่ได้รักเธอจริงอย่างที่แพรวดาวบอก และตัวเธอเอง ก็ไม่ได้เจ็บปวดหรือเสียใจอะไรมากมายนอกจากรู้สึกเสียหน้าเท่านั้น ซึ่งตัวเธอเองก็อาจจะไม่ได้รักเป็นหนึ่งมากอย่างที่คิดก็ได้ เมื่อกลับมาปรึกษากับมารดาถึงความไม่แน่ใจในความรัก และอยากจะเลื่อนการแต่งงาน กลับถูกมารดาห้ามปรามไม่ให้เธอคิดมาก และยืนยันว่าไม่มีทางที่เป็นหนึ่งจะไม่รักหญิงสาวที่มีความเพียบพร้อมอย่างเธอ แม้แต่บิดาของเธอก็ไม่ยินยอมให้เธอได้มีโอกาสตัดสินใจสิ่งใด ในขณะที่เป็นหนึ่งก็ตามง้องอน และเปลี่ยนร้านทำแหวนพิสูจน์ ความจริงใจโดยการพาเธอไปเลือกซื้อเพชรใหม่ ทำแหวนวงใหม่จนเมลดาใจอ่อนลืมความขุ่นข้องหมองใจทั้งหมด เพราะรู้ว่าถึงแม้เธอจะเลื่อนการแต่งงานออกไป เธอเองก็ไม่มีแผนชีวิตสำรองด้านอื่น ๆ เลย พิธีหมั้นช่วงเช้าผ่านไปด้วยดี เมลดาเตรียมตัวสำหรับงานเลี้ยงในช่วงค่ำ ภาพเจ้าสาวที่เห็นในกระจกนั้นเหมือน ตุ๊กตากระเบื้องเนื้อดีมากกว่าจะเป็นคนจริง เครื่องหน้าที่งดงามอยู่แล้วยิ่งถูกแต่งเติมลงไปอีกก็ยิ่งสวยงามไม่มีที่ติ ระหว่างที่คู่บ่าวสาวกำลังถ่ายรูป และรับแขกที่มาในงานอยู่นั้น แพรวดาวก็เข้ามาในงานด้วยชุดราตรีขาวฟูฟ่อง ประหนึ่งชุดเจ้าสาว ปฏิกิริยาของเป็นหนึ่งเมื่อเห็นแพรวดาวนั้นทำให้เมลดารู้สึกหน้าชา แม้จะเตรียมใจมาแล้วว่าจะต้องเจอสถานการณ์นี้ แต่ไม่สามารถบังคับตัวเองได้ ยิ่งมีเสียงซุบซิบจากแขกเหรื่อว่าแพรวดาวเป็นคนรักเก่าของ เจ้าบ่าวด้วย เมลดาพยายามจะทักทายด้วยดี แต่แพรวดาวกลับทิ้งคำพูดบางอย่างไว้ทำให้เมลดาไม่สบายใจนัก ขณะที่งานเลี้ยงและพิธีการทุกอย่างดำเนินไป ท่ามกลางความไม่แน่ใจของเมลดาที่ไม่อาจจะเปลี่ยนแปลง อะไรได้อีกแล้ว แม้ว่าตัวเองอยากจะยกเลิกตอนนี้ก็คงจะสายไปแล้ว แต่ปรากฏว่า ชัยพงศ์ บิดาของเป็นหนึ่ง เข้ามาประกาศยกเลิกงานแต่งงานเพราะรู้ข่าวมาว่ากิจการของ ประยุทธ บิดาของเธอนั้นกำลังจะล้มละลาย เมลดาเริ่ม รับรู้ความจริงใจของเป็นหนึ่งเมื่อเขาสลัดมือเธอออกอย่างเมินเฉย แล้วยิ่งรับรู้มากยิ่งขึ้นเมื่อบิดายอมรับความเป็นจริง เรื่องที่กำลังจะล้มละลาย แม้เขาจะยืนยันว่าไม่คิดจะให้ครอบครัว ของเป็นหนึ่งต้องเข้ามาช่วยโอบอุ้มกิจการ แต่ขอร้องไม่ให้ยกเลิกงานแต่งงานเท่านั้น แต่ชัยพงศ์กลับไม่สนใจแล้วพาเป็นหนึ่งกลับออกไปทันที ประยุทธอับอาย และเครียดมากจนโรคหัวใจกำเริบ และเสียชีวิตที่โรงพยาบาล สองแม่ลูกที่ไม่เคยมีแผนในการดำเนินชีวิตด้วยตัวเอง และไม่ได้เตรียมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิต จึงไม่มีเงินออมในธนาคารเหลือมากนัก เงินสดก้อนสุดท้ายที่ต้องจ่ายให้โรงพยาบาล และจัดงานศพอย่างเรียบง่าย มีคนมาร่วมงานอย่างบางตาจน น่าใจหาย เมื่อล้มละลายก็ทำให้ญาติมิตรสหายที่เคยมีมากมายขาดหายไปในพริบตา แม้แต่เพื่อนสนิทร่วมมหาวิทยาลัย ของเมลดาก็ไม่ได้ปรากฏกายขึ้นในงานศพเลย เมลดานัดพบเพื่อนเพื่อจะหางานทำ แต่เพื่อนไม่ได้คิดจะให้ความช่วยเหลือแถมยังพูดจาดูถูกอีก หล่อนจึงแยกออกมาแล้วเดินเล่นเรื่อยเปื่อยในห้าง จนมาพบกับเป็นหนึ่ง และแพรวดาวในร้านเสื้อ เขาจะจ่ายค่าเสื้อผ้าให้ แต่เมื่อแรกเมลดาไม่คิดจะรับความเอื้อเฟื้อนี้ แต่อยากประชดแพรวดาวจึงยอมรับมาทั้งหมด สร้างความขุ่นเคืองให้กับแพรวดาว โดยที่เมลดาก็ไม่รู้ตัวเลยว่าจะมีผลร้ายติดตามมาอย่างไรบ้าง ข่าวไฮโซตกยากอย่างเมลดาดังไปถึงบ้านของ ปองคุณ ชายหนุ่มผู้เคยอกหักจากสาวเมืองกรุง และแบกความเจ็บช้ำไว้จนไม่ยอมชายตามองหญิงอื่นอีกเลย แถมยังมีอคติในใจอีกต่างหาก เขารับรู้ข่าวนี้อย่างไม่มีความเห็นอกเห็นใจนักต่างจาก ใจใส มารดาของเขาที่รู้สึกสงสารเมลดา แล้วเมื่อต้องใจเข้ามาหาแล้วแสดงตัวว่ารู้จักกับไฮโซสาว ผู้ตกยากนี้ แล้วแสดงความคิดเห็นในเชิงสมน้ำหน้า ทำให้ใจใสรู้สึกไม่ชอบใจ ทั้งยังรู้ว่าต้องใจมีความรู้สึกพิเศษ กับปองคุณด้วยแล้ว จึงเอ่ยปากตักเตือนลูกชายโดยที่เจ้าตัวก็ไม่ได้ให้ความสนใจนัก เมลดากลับมาถึงโรงแรมที่เช่าพักอาศัยชั่วคราวอยู่กับมารดา เพราะยังไม่รู้ว่าจะไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ไหน ท่ามกลางความรู้สึกที่ต้องคิดหาทางออกด้วยเงินที่มีเหลืออยู่ไม่มากนัก มัลลิกาผู้เป็นแม่ที่หวังว่าจะเป็นที่พึ่งพิงได้ กลับไม่มีความคิดอะไรเลย นอกจากการคร่ำครวญ และยังใช้ชีวิตเหมือนเดิม สร้างความหนักใจให้กับเธอยิ่งนัก แถมยัง มีคนโทรศัพท์มาข่มขู่ให้หนี้อีกในจำนวนเงินห้าแสนบาท สองแม่ลูกจึงคิดหาทางหนีออกจากโรงแรม เมลดามืดแปดด้าน ไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไป มัลลิกาจึงคิดว่าจะไปบากหน้าไปหา มาลัย พี่สาวร่วมสายเลือดที่เธอไม่เคยติดต่อมานานกว่ายี่สิบปีแล้ว ระหว่างที่สองแม่ลูกกำลังคิดจะเดินทางไปหามาลัย ทางด้านมาลัยเองก็ฝันถึงน้องสาว และคิดห่วงใยขึ้นมาบ้าง แต่ต้องใจก็ทักท้วงอย่างไม่เห็นด้วยนัก เพราะหล่อนรู้มาตลอดว่าเมลดานั้นเป็นญาติที่เรียนร่วมมหาวิทยาลัยเดียวกันมาตลอด แต่ไม่เคยแสดงตัวเพราะรังเกียจที่เมลดาเป็นสาวสวยไฮโซที่ทำตัวเหมือนคนไร้สมอง แม้จะได้รับรู้ข่าวว่า บัดนี้เมลดานั้นกำลังตกยากลำบาก ต้องใจก็ไม่มีความรู้สึกสงสารสองแม่ลูกเลยสักนิด นอกจากจะคิดสมน้ำหน้าเท่านั้น สองแม่ลูกเดินทางมาถึงแถวบ้านมาลัยแล้ว แต่เพราะไม่ได้กลับมานานกว่ายี่สิบปี สภาพบ้านเรือนที่เปลี่ยน แปลงไป ทำให้มัลลิกาไม่มั่นใจ จึงให้เมลดาไปถามหามาลัยกับชาวบ้านแถว ๆ นั้นเอง เมลดาไม่เข้าใจมารดา ตัวเองสักนิดว่าทำไมต้องเป็นตนที่ต้องทำอย่างนั้น แต่ในจังหวะนั้นเองที่หล่อนเห็นชายหนุ่มหน้าเหมือนโจรขี่มอเตอร์ไซค์ผ่านมา แล้วหยุดจะเข้าไปหามัลลิกาที่ยืนทำท่าจะเป็นลมอยู่ข้างทาง เมลดาเข้าใจว่าเขาเป็นโจรจะเข้ามาขโมยข้าวของ ของเธอกับแม่ จึงเข้าไปอาละวาดทุบตีชายคนนั้น จนมาลัยเข้ามาห้ามปรามแล้วจึงรู้ตัวว่าเธอเข้าใจผิด เลยตัดสินใจ แกล้งเป็นลมเพื่อเป็นการแก้หน้าให้ตัวเอง เมื่อมาลัยพาสองแม่ลูกเข้ามาในบ้านแล้ว เมลดาก็แทบช็อกเมื่อรับรู้ว่าต้องใจ เพื่อนร่วมมหาวิทยาลัยที่ชอบพูดกระแนะแหนเธอนั้นกลับกลายมาเป็นญาติกัน เพราะต้องใจ คือลูกสาวของ มาลัย พี่สาวของมารดาเธอนั่นเอง แล้วชายหน้าโจรที่เธอเข้าใจผิดก็คือ ปองคุณ ชายหนุ่มที่ต้องใจหมายปองนั่นเอง เพราะฉะนั้นเมื่อต้องใจรับรู้ว่าสอง แม่ลูกจะมาพักอาศัยอยู่ด้วย หล่อนจึงแสดงความไม่พอใจ และคัดค้านหัวชนฝา มาลัยต้องตัดความรำคาญแล้ว ขอตัดสินใจเอง ด้วยการให้สองแม่ลูกมาอยู่ด้วยกันได้ แต่ต้องทำงานบ้านแลกเปลี่ยน และต้องทำงานเพื่อหาเงินเลี้ยง ชีพเองด้วย แค่วันแรกเมลดาก็แทบจะรับกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิตไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นที่หลับที่นอน การต้องทำในสิ่งที่ตนเองไม่เคยต้องหยิบจับทำเลยสักครั้งในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการกวาดบ้าน ถูบ้าน ล้างจาน แล้วยังถูกบังคับ ให้ทำกับข้าว แถมมารดายังรักสบายหลบเลี่ยงไปปล่อยให้เธอผจญกับสิ่งใหม่ ๆ นี้เพียงคนเดียว ซึ่งระหว่างนี้ เธอยังไปมีเรื่องขัดแย้งกับปองคุณ ที่ต่างคนต่างไม่ชอบหน้ากัน ปองคุณแบกอาการอารมณ์เสียกลับไปถึงบ้าน แต่ในจิตสำนึกก็ยังสงสัยตัวเองว่าทำไมเขาต้องอคติกับเมลดาขนาดนี้ หรือว่าเขาเกิดสนใจเธอขึ้นมา แม้จะไม่มีความเชื่อในเรื่องของรักแรกพบเลยก็ตาม เช้าวันแรกในสิ่งแวดล้อมใหม่ ๆ เมลดาเอาตัวรอดจากอาหารมื้อแรก ด้วยการแอบออกไปซื้อข้าวต้มมาเป็นอาหารเช้าแทนการทำเอง ซึ่งก็ถูกมาลัยจับได้ และคาดโทษเอาไว้ หลังจากนั้นหล่อนก็ต้องมาหัดทำงานจักสาน จึงได้รู้ว่ามาลัยรวบรวมชาวบ้านมาตั้งกลุ่มสมาคมแม่บ้าน เพื่อหารายได้กับการสร้างกลุ่มงานจักสานขึ้นมา เมลดาได้พบกับใจใส ที่จะมาเป็นครูสอนเรื่องงานจักสานให้กับเธอ และมารดา เมื่อเริ่มต้นเมลดาก็ปากเสียวิจารณ์ และอวดรู้จนสร้างความไม่พอใจให้กับชาวบ้าน รวมทั้งใจใสเองที่เมื่อแรกยังมีความเมตตาสงสาร ใจใสสวนคำพูดของเมลดา และสั่งสอนจนหล่อนต้องยอมสงบปากสงบคำลง เมลดาหัดสานปลาตะเพียนอย่างตั้งอกตั้งใจ แต่ก็ต้องมาสะดุดลงอีก เมื่อต้องใจเข้ามาสั่งให้หล่อนไปทำกับข้าว มื้อกลางวัน เมลลาจำต้องอดทนเชื่อฟัง แล้วยังต้องไปทำคนเดียวเพราะดันไปประกาศว่าหล่อนสามารถทำได้ แต่พอมาถึงในครัวหล่อนก็ต้องยืนเคว้ง เพราะไม่เคยทำสิ่งเหล่านี้เลย ข้าวก็หุงไม่เป็น เตาแก๊สก็ไม่รู้จะเปิดยังไง หล่อนหยิบจับทำทุกอย่างไปอย่างคนไม่รู้ จนปองคุณเข้ามาพบวิธีการเปิดเตาแก๊สของหล่อนที่อันตรายมาก เขาตำหนิหล่อนจนร้องไห้ ปองคุณใจอ่อนยอมช่วยเหลือให้หล่อนรอดพ้นมีอาหารมื้อกลางวันสำหรับทุกคน ดูเหมือนทุกอย่างจะผ่านไปได้ แต่ต้องใจที่ตั้งใจจะจับผิดเมลดา จึงทำให้ทุกคนรู้ว่าอาหารมื้อนี้เป็นฝีมือ ปองคุณ มาลัยจึงลงโทษไม่ให้สองแม่ลูกได้กินอาหารกลางวัน เมลดากลัวมารดาจะทนไม่ไหว จึงแอบออกไปซื้อก๋วยเตี๋ยวที่ร้านมาให้ ระหว่างที่นั่งแอบกินอยู่นั้น หล่อนได้ยินเสียงชาวบ้านที่มาทำงานจักสานที่บ้านมาลัย นินทาว่าร้ายหล่อน กับมารดาและดูถูกว่าหุ่นไล่กาในท้องนายังมีประโยชน์เสียยิ่งกว่าตัวหล่อนกับมารดาเสียอีก เมลดาเจ็บปวด และพยายามระงับอารมณ์เต็มที่ หล่อนคิดมากจนต้องหันมาพิจารณาตัวเองว่าหล่อนไร้ค่าถึงเพียงนั้นเชียวหรือ ระหว่างนั้นเมลดาไม่รู้ตัวเลยว่ามีนักข่าวเห็นเหตุการณ์นั้น และแอบถ่ายรูปหล่อนพร้อมกับอัดคลิปเสียงไปด้วย ช่วงบ่ายวันนั้นเมลดาเงียบขรึมจนมัลลิกามองอย่างเป็นห่วง หล่อนโมโหหญิงชาวบ้านที่นินทาหล่อนจนเกิด แรงฮึดจนสามารถสานปลาตะเพียนได้ดี จนใจใสออกปากชมและบอกว่าถ้าหล่อนตั้งใจที่จะทำก็จะทำได้ และยังบอกว่าเห็นแววในตัวหญิงสาวจะสามารถทำงานจักสานได้ดีเหมือนคนอื่น ๆ วันต่อมาเมลดาทำอาหารเช้าได้ดีขึ้น เพราะมัลลิกาเข้ามาช่วยด้วยไม่ได้หลบเลี่ยงไปเหมือนทุกครั้ง แต่ต้องใจก็ ยังหาเรื่องว่าได้อีก แต่ เดช พ่อของต้องใจออกปากปกป้องทำให้ต้องใจไม่พอใจ และออกไปกินข้าวนอกบ้าน จึงได้ไปพบว่ามีข่าวของเมลดาที่ตกยากมานั่งกินก๋วยเตี๋ยวอยู่ที่อยุธยา แถมยังลงถึงเรื่องราวที่ชาวบ้านเม้าท์เมลดาด้วย แม้ต้องใจจะสะใจ แต่ก็พยายามจะบอกชาวบ้านที่รู้เรื่องให้ปิดข่าวเรื่องนี้ เพราะกลัวว่าเจ้าหนี้ที่สองแม่ลูกหนีมา จะตามมาถึงที่นี่ แล้วรีบกลับบ้านมาแจ้งข่าวกับมาลัย แต่ไม่อยากให้สองแม่ลูกรู้เรื่องนี้จึงไล่ให้ออกไปซื้อของที่ห้างในเมือง แต่กลับกลายเป็นว่าเมลดาไปเปิดเช็กอีเมล์แล้วทราบเรื่องข่าวทั้งหมดด้วยความอับอาย เมื่อกลับมาถึงจึงไปเก็บตัวอยู่ในห้องเก็บของแล้วไม่ออกไม่ได้ ปองคุณเข้ามาช่วยเพราะเข้าใจผิดว่าหล่อนจะฆ่าตัวตาย หลังจากถกเถียงกันแล้ว เมลดาก็แสดงความคิดว่าอยากจะพัฒนางานจักสาน ที่ป้ามาลัยทำอยู่ให้ดีขึ้น และมีราคามากกว่านี้ ปองคุณจึงแนะนำให้หญิงสาวไปเรียนรู้ที่ศูนย์ศิลปาชีพบางไทร เมลดาสนใจมากแต่ก็ยังติดที่มารดา จะยอมไปด้วยหรือไม่ ปองคุณจึงรับอาสาว่าวันรุ่งขึ้นเขาจะพาหล่อนและมารดาไปเที่ยวชมที่ศูนย์ศิลปาชีพ ก่อนการตัดสินใจ ความสัมพันธ์ที่เริ่มต้นไม่ค่อยดีนักของสองหนุ่มสาวเริ่มเป็นไปในทางที่ดีขึ้น เมลลาเริ่มนับข้อดีของปองคุณ ได้หลายข้อแล้วที่สำคัญเขาทำให้หัวใจของหล่อนอบอุ่นกว่าผู้ชายคนไหน ๆ ที่เคยผ่านเข้ามาในชีวิต ทางด้านครอบครัวของแพรวดาว และเป็นหนึ่ง มาร่วมเฉลิมฉลองอย่างเป็นทางการหลังงานแต่งงานของเป็นหนึ่ง และเมลดาถูกยกเลิกไป และถือว่าเป็นการฉลองหมั้นระหว่างเป็นหนึ่งกับแพรวดาวด้วย แม้เป็นหนึ่งจะรู้สึกผิดกับเมลดามากแค่ไหน แต่เขาเองก็รู้ว่าใจของเขานั้นมีแพรวดาวอยู่เสมอ ความรู้สึกที่มีต่อเมลดานั้นคือความเป็นพี่น้องกันมากกว่า เพราะความรู้สึกนี้นี่เองที่ทำให้เขายังแสดงความห่วงใย และกังวลว่าป่านนี้เมลดาจะเป็นอย่างไรบ้าง เมื่อมีการพูดถึงกันในเรื่องของเมลดาทำให้เขาเหม่อลอยคิดมาก และด้วยอาการที่เขาเป็นแบบนี้ทำให้แพรวดาว เข้าใจผิดว่าเขายังมีใจเผื่อให้เมลดาด้วย ทำให้เป็นเป็นภัยไปสู่เมลดาอีกครั้งอย่างไม่รู้ตัว เมื่อแพรวดาวคิดจะตัดบัวไม่ให้เหลือใย หล่อนจึงว่าจ้างนิคมลูกน้องคนสนิทของบิดา ให้โทรไปข่มขู่ว่าประยุทธเคยยืมเงินแล้วไม่คืน โดยตั้งใจจะแค่ข่มขู่เพื่อให้สองแม่ลูกหนีไปอยู่ไกล ๆ เพื่อไม่ให้เป็นหนึ่งติดต่อกับสองแม่ลูกนั้นได้อีกเท่านั้น แต่เมื่อรับรู้ว่าสองแม่ลูกนั้นหนีไปอยู่แค่อยุธยา หล่อนจึงสั่งให้นิคมตามไปจัดการอีกครั้ง ปองคุณพาเมลดา และมัลลิกาไปเยี่ยมชมศูนย์ศิลปาชีพ โดยมีต้องใจตามไปด้วย สร้างความหนักอกหนักใจ ให้กับเมลดาตั้งแต่เริ่มต้นเลยทีเดียว เริ่มตั้งแต่มัลลิกาที่ทำท่าจะไม่ยอมไปด้วย แถมยังมีต้องใจที่อาจจะมาแสดง ลมเพชรหึงใส่เธออีก คิดไปคิดว่าก็เริ่มสงสัยตัวเองขึ้นมาซะอีกว่าตัวเองเริ่มมีใจให้ปองคุณหรือเปล่า ปองคุณใช้จักรยานในการเที่ยวชมศูนย์ศิลปาชีพ เมลดาขี่จักรยานไม่เป็นจึงต้องซ้อนหลังปองคุณ สร้างความขุ่นเคืองให้กับต้องใจยิ่งนัก แต่สำหรับเมลลาแล้วคือความอบอุ่นใจที่บังเกิดขึ้นเงียบ ๆ ในระหว่างที่หล่อนกำลัง ผจญเจอมรสุมชีวิตที่หนักหนาสาหัสนี้ เมลดาเดินชมการฝึกงานวิชาชีพต่าง ๆ ด้วยความสนใจ แต่วิชาชีพที่เมลดาให้ความสนใจเป็นพิเศษ คือแผนกสอดย่านลิเภา ส่วนมัลลิกาสนใจแผนกศิลปะประดิษฐ์ และนี่เป็นครั้งแรกสนใจสิ่งอื่นนอกเหนือจากการสังสรรค์ และช็อปปิ้ง และหล่อนก็เห็นด้วยที่มารดาจะสนใจในวิชาชีพนี้ หล่อนเริ่มเรียนรู้ว่าที่ศูนย์ศิลปาชีพนี้คือสถานที่ที่นำแสงสว่างที่จะนำความหวังมาสู้ชีวิตต่อไปได้ ระหว่างที่เมลดาเดินเที่ยวชมในศูนย์ศิลปาชีพด้วยความรู้สึกของการเริ่มมีหวังขึ้นมาบ้าง ต้องใจก็ได้ข่าวว่าที่บ้านมีนักเลงบุกมาทวงหนี้สองแม่ลูก พอไม่เจอก็อาละวาดทำลายข้าวของในบ้านของมาลัยด้วย เมลดาจึงคิดว่าจะย้ายหนีไปอยู่ที่อื่นเพื่อตัดปัญหา แต่ปองคุณกลับเสนอให้ย้ายไปอยู่ที่บ้านของเขาเพื่อความปลอดภัย ทำให้ต้องใจเกิดความไม่พอใจและพยายามคัดค้านอย่างมาก แต่ปองคุณยังยืนยันว่าเขาทำเพื่อเพราะมนุษธรรม ไม่สามารถจะปล่อยให้สองคนแม่ลูกออกไปผจญภัยกันเพียงสองคนได้ เมลดานั้นแม้จะดีใจที่มีทางออก แต่หล่อนก็ยังกังวลว่าถ้าย้ายไปอยู่บ้านปองคุณ เธอจะต้องมีปัญหากับต้องใจอีกต่อไปอย่างไม่จบไม่สิ้นแน่ ๆ เมื่อทุกคนไปรวมตัวกันที่บ้านของปองคุณ ต่างก็ปรึกษาหารือกันถึงการแก้ไขปัญหาหนี้สินที่เกิดขึ้น มาลัยนั้น คิดจะใช้หนี้แทนให้จบกันไป แต่พวกนักเลงกลับไม่ยอมรับเงิน ยืนยันว่าจะต้องเป็นเงินของสองแม่ลูกนี้เท่านั้น ทำให้เกิดความสงสัยกันขึ้นมาว่าจริง ๆ แล้ว ประยุทธเป็นหนี้จริง ๆ หรือเปล่า เมื่อสอบถามมัลลิกาผู้เป็นภรรยา ก็ไม่เคยรู้เรื่องของสามีตัวเองเลย ทำให้เมลดาเผลอตัวตำหนิมัลลิกาอย่างรุนแรง จนมาลัยต้องห้ามปราม ในที่สุดปองคุณรับอาสาจะสืบเรื่องหนี้สินของประยุทธให้เพื่อความสบายใจของทุกคน การพักอาศัยในบ้านปองคุณแตกต่างจากการพักอาศัยที่บ้านของมาลัยอย่างคนละขั้ว ที่นี่ห้องพักสะดวกสบาย ข้าวของเครื่องใช้มีพร้อมสรรพ แถมยังไม่ต้องทำงาน ทำอาหารเองอีกด้วย แต่เมลดาก็พยายามจะเข้าช่วยเหลือ หยิบโน่นทำนี่ เพื่อต้องการจะทดแทนพระคุณเจ้าของบ้าน ที่ยื่นมือเข้ามาช่วยหล่อนกับมารดา ใจใสแนะนำให้ทั้งสอง คนเข้าไปฝึกอาชีพที่ศูนย์ศิลปาชีพ ซึ่งเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยจากพวกนักเลงที่สุด แถมยังได้ฝึกอาชีพ ซึ่งสองแม่ลูกก็เห็นดีตามนั้น ทางด้านแพรวดาวรับรู้ว่านิคมทำงานให้ไม่สำเร็จตามที่เธอต้องการ จึงต่อว่าและยังไม่ยอมจ่ายเงินค่าจ้าง เป็นหนึ่งเดินเข้ามาได้ยินโดยไม่ที่แแพรวดาวไม่รู้ตัว เป็นหนึ่งกลับมาบ้านพบว่าบิดามีแขก และไม่ยอมให้ใครเข้ามา รบกวนรวมทั้งตัวเขาด้วย เพราะลูกน้องของบิดาที่กางกั้นห้ามมิให้เขาเข้าบ้าน ครั้นบิดาได้ยินเสียงเขาโวยวาย อยู่ด้านนอกจึงเรียกเขาให้เข้าไปได้ ยิ่งเพิ่มพูนความสงสัยขึ้นอีกมากนักว่าบิดามีลับลมคมในอะไรปิดบังเขา ซึ่งเป็นลูกชายคนเดียวด้วย ในห้องนั้นเป็นหนึ่งได้พบกับ ศุภวัฒน์ พัฒนะกิจกำจร ที่บิดาแนะนำว่าบุคคลผู้นี้จะเข้ามาเป็นหุ้นส่วน ซึ่งเขาพอจะรู้ประวัติชายหนุ่มคนนี้ว่าไม่ค่อยจะขาวสะอาดนัก มีข่าวกับสาวน้อยสาวใหญ่มากมาย หลังจากการหย่าร้างกับสิริมน ภรรยาสาวสวยชื่อดังในวงสังคม แต่แค่ความเจ้าชู้ของเขาไม่ใช่สิ่งที่เป็นหนึ่งจะไม่ชอบใจ แต่เป็นเพราะ ชื่อเสียงที่ไม่ดีว่าเขาเป็นคนเจ้าเล่ห์เพทุบายมากกว่า แต่เป็นหนึ่งก็รักษามารยาทในการพูดจาด้วยเป็นอย่างดี แล้วก็อดเป็นห่วงบิดาไม่ได้จึงเอ่ยปากตักเตือน ซึ่งนอกจากจะไม่สำเร็จแล้วยังทำให้ชัยพงศ์หัวเสียเป็นอย่างมากด้วย เป็นหนึ่งรู้สึกเหนื่อยล้ากับเรื่องราวที่เขาได้รับรู้ทั้งสองเรื่องในวันนี้เป็นอย่างมาก เมื่อนอนครุ่นคิดถึงเรื่องราว ต่าง ๆ แล้วจึงตัดสินโทรหานักสืบที่เขาจ้างไปตามหาที่อยู่ของเมลดา ทำให้ได้รับรู้เรื่องว่าเมลดามีผู้ชายบ้านนอกคนหนึ่งคอยดูแลอยู่ แล้วยังได้ดูคลิปที่มีนักเลงตามไปอาละวาดที่บ้านของมาลัยด้วย เขาจำหน้านิคมได้ จึงรู้สึกผิดหวังกับแพรวดาวมากขึ้นเรื่อย ๆ นั่นทำให้เขาตัดสินที่จะไม่วางมือจากเมลดาแม้จะรู้ว่าเขากำลังนำตัวเองไปสู่ปัญหา และสิ่งที่เขาคาดคิดไม่ถึงเลยว่าการตัดสินใจครั้งนี้ จะนำปัญหาและหายนะมาสู่ครอบครัวของเขาอย่างอเนกอนันต์ วันที่ปองคุณนัดจะพาเมลดากับมารดาไปสมัครเข้าเรียนที่ศูนย์ศิลปาชีพ ต้องใจแวะมาแต่เช้าด้วยบุคลิกที่เปลี่ยนไปจากเดิม หล่อนหันมาใส่กระโปรง แต่งหน้าเข้มจัด หล่อนกลายเป็นตัวตลกของทุกคนแบบไม่รู้ตัว ปองคุณเองก็ไม่กล้าจะพูดตรง ๆ จึงบอกแค่ว่าหล่อนดูสวยแปลกตาดี ต้องใจจึงคิดว่าเมื่อตัวเองหันมาแต่งตัวแต่งหน้าแบบนี้จะ สามารถดึงใจของปองคุณได้ เมื่อเมลดาสมัครเรียนเรียบร้อยแล้ว ต้องใจยังไม่วายแขวะว่ากระทบกระแทกจนมาลัยต้องออกโรงปกป้อง สองแม่ลูกทำให้ต้องใจงอนเดินหนีออกมา เมลดาตามไปพูดคุยเพื่ออยากจะปรับความเข้าใจ โดยไม่รู้ว่าปองคุณเดินตามไปด้วย ต้องใจสารภาพว่ารักปองคุณ และไม่อยากให้ปองคุณต้องมาเสียใจกับสาวไฮโซซ้ำสองอีก แล้วเล่าเรื่องของ สิริมน คนรักเก่าของปองคุณที่ทิ้งเขาไปแต่งงาน ปล่อยให้ชายหนุ่มต้องชอกช้ำใจมากว่าห้าปี เมลดาเองก็เคยรู้จัก สิริมนแต่ไม่สนิท เคยเจอกันตามงานสังคมเท่านั้น หล่อนจึงแสดงความแปลกใจถึงความสัมพันธ์ของปองคุณ กับสิริมน และแม้ว่าตัวเองจะมีความรู้สึกดี ๆ กับปองคุณอยู่มาก แต่ไม่อยากจะมีปัญหากับญาติอย่างต้องใจ จึงพูดรับปากว่าเธอจะไม่ยุ่งเกี่ยว และคิดอะไรเกินเลยกับปองคุณอย่างเด็ดขาด นั่นทำให้ปองคุณซึ่งแอบฟังอยู่รู้สึกเจ็บแปลบในหัวใจคล้ายถูกมีดกรีดซ้ำที่รอยแผลเดิม และคิดว่าจะเปิดใจให้กับต้องใจ ที่เห็นคุณค่าและมั่นคงในรักที่มีต่อเขา เสมอมา ปองคุณพาเมลดากับต้องใจไปไหว้พระ ขณะที่อยู่ในวัดเมลดารู้สึกว่ามีคนแอบมองอยู่ตลอดเวลา เธอเข้าใจว่า เป็นพวกแก๊งทวงหนี้ หลังจากส่งต้องใจลงที่ตลาดแล้วทั้งสองจึงขับรถกลับบ้าน ระหว่างทางปองคุณรู้ว่ามีคนขี่มอเตอร์ไซค์ตามมา เขาจึงหลอกพาไปในที่เปลี่ยวแล้วยิงยางรถจนคนขับไม่สามารถหนีได้ เมื่อใช้ปืนขู่จนมารู้ ทีหลังว่าคนที่ตามมานั้นไม่ใช่แก๊งทวงหนี้ และกลายเป็นเป็นหนึ่งที่แอบติดตามเมลดามาจากวัดนั่นเอง ปองคุณยอมจ่ายค่าเสียหายค่าซ่อมรถ และพาสองคนไปนั่งคุยกันที่ร้านกาแฟ ตามประสงค์ของเป็นหนึ่งที่ร้องขอ เขาแยกตัวออกมานั่งรอโดยมีเมลดามองตามด้วยความไม่สบายใจสร้างความฉุนเฉียวให้กับเป็นหนึ่งเพิ่มขึ้นไปอีก เมื่อรับรู้ได้ว่าบัดนี้เมลดาอาจจะเปลี่ยนใจจากเขาไปเต็มร้อยแล้ว หันมาไปสนใจหนุ่มท่าทางบ้านนอกคนนั้น เขาจึงพยายามพูดจาเกลี้ยกล่อมให้เมลดากลับกรุงเทพฯ โดยเขายินดีจะรับดูแลหล่อนและมารดาอย่างดี และจะจัดการ เรื่องหนี้สินให้ด้วย แต่เมลดาไม่ยอมรับการช่วยเหลือนั้น และยืนยันว่าเธอยินดีจะใช้ชีวิตแบบที่กำลังทำอยู่ ปองคุณอดไม่ได้ที่จะถามไถ่ว่าเมลดาพูดจาสิ่งใดกับคนรักเก่า เมื่อได้รับคำตอบที่เขารู้สึกยินดี เมื่อรู้ว่าเมลดายืนยันจะทำตามเจตนารมย์เดิม คือการเข้าไปเรียนฝึกอาชีพที่ศูนย์ศิลปาชีพ โดยไม่คิดจะกลับกรุงเทพฯตามคำชวนของเป็นหนึ่ง ปองคุณเริ่มสืบเรื่องการเป็นหนี้ของประยุทธจากโทรศัพท์ที่เมลดายังเก็บไว้ ทำให้เขาพบว่าประยุทธมีการติดต่อ กับศุภวัฒน์ เขาไม่อยากจะคิดว่าเป็นคนคนเดียวที่เคยทำลายหัวใจของเขา เขาจึงโทรไปขอให้ศรุต เพื่อนตำรวจช่วยสืบให้ ทำให้เขาโดนเพื่อนแซวว่าเขาคงกำลังจะมีความรักอีกครั้ง ก่อนจะส่งเมลดาและมารดาเข้าศูนย์ศิลปาชีพ ปองคุณจึงพาทั้งสองคนไปห้าง เพื่อซื้อของใช้เตรียมตัวเข้าไปอยู่หอ โดยมีต้องใจตามไปอีกตามเคยเมื่อทานอาหารกลางวันเสร็จ เมลดากับมัลลิกาแยกตัวไปซื้อของกันสองคน แต่ช่วงจังหวะที่มัลลิกาขอไปห้องน้ำ เมลดาถูกชายสองคนใช้มีดจี้ให้เดินออกจากห้าง โชคดีที่มีหญิงอ้วนคนหนึ่ง เข้ามาช่วยเมลดาไว้ได้ แพรวดาวรับรู้ว่าลูกน้องทำงานพลาดด้วยความโมโห จึงตัดสินใจจ่ายเงินปิดปากไป เพราะกลัวจะมีหลักฐานโยงใยมาถึงตัว เพราะเริ่มรู้สึกว่าพักหลัง ๆ มานี้ เป็นหนึ่งเริ่มมาเลียบ ๆ เคียง ๆ ถามถึงนิคม แล้วเป็นหนึ่งคงไม่รู้ตัวว่าหล่อนทราบเรื่องที่เขาตามไปเมลดาถึงอยุธยา หล่อนเก็บความหึงหวงและคับแค้นใจไว้เงียบ ๆ จึงสั่งให้นิคมไปจัดการขั้นเด็ดขาดอีกครั้งแต่ก็พลาดอีกตามเคย ยังดีที่พักหลัง ๆ หล่อนเริ่มไม่ค่อยจะใส่ใจกับเป็นหนึ่งมากเท่าเดิม เพราะความสนใจของหล่อนตอนนี้กำลังอยู่ที่ ศุภวัฒน์ นักธุรกิจหนุ่มพ่อม่ายเนื้อหอม ที่แม้เขาจะไม่ได้หล่อเหลา อะไรมากมาย แต่ก็มีเสน่ห์บางอย่างที่ทำให้แพรวดาวไม่อาจจะละสายตาจากผู้ชายคนนี้ได้เลย เหตุการณ์ที่เกิดกับเมลดาในห้าง ทำให้ปองคุณคิดว่าต้องรีบสืบเรื่องเจ้าหนี้ของเมลดาให้เร็วที่สุด เพื่อนของเขาแนะนำให้ไปแจ้งความไว้ก่อน แต่ปองคุณกลับคิดว่าถ้าย้ายเข้าไปอยู่ในศูนย์ศิลปาชีพแล้วก็น่าจะปลอดภัย ศรุตวิเคราะห์เหตุการณ์นี้มาอย่างมากมาย และมีข้อสงสัยไปถึงแพรวดาวด้วยในเรื่องของการหึงหวง และสิ่งที่ได้รับรู้ อย่างชัดเจนก็คือ ศุภวัฒน์ คือคนคนเดียวกันจริง ๆ ปองคุณจึงตัดสินใจติดต่อกับสิริมนอีกครั้ง เป็นหนึ่งพบยุทธชัย ลูกน้องคนสนิทของประยุทธที่บริษัทของตัวเอง ยุทธชัยกลายมาเป็นคนสนิทของ ศุภวัฒน์แทน ทำให้เขารู้สึกว่าคนนี้ อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้บริษัทของประยุทธล้มละลาย เพราะเห็นแก่ผลประโยชน์ที่มากกว่าจึงสามารถหักหลังเจ้านายตัวเองได้ นี่เป็นจุดเริ่มต้นให้เป็นหนึ่งเริ่มสืบหาเรื่องราวอย่างเงียบ ๆ รวมทั้ง เรื่องที่แพรวดาวใช้นิคมทำด้วย แม้เขาค่อนข้างจะแน่ใจว่าเป็นแผนของแพรวดาวที่ส่งคนไปข่มขู่เมลดา แต่ก็ไม่มีหลักฐานจะจัดการกับหล่อนได้ แล้วเรื่องที่สำคัญคือถ้าเขาแตกหักกับแพรวดาวเรื่องนี้ จะกระทบไปถึงธุรกิจของสองครอบครัวต้องแตกหักลง ซึ่งพ่อของเขาคงไม่ยินยอมให้เกิดขึ้นอย่างแน่นอน เมลดากับมัลลิกาย้ายตัวเองจากบ้านปองคุณไปเข้าหอพักในศูนย์ศิลปาชีพ ระหว่างทางที่ปองคุณไปส่งสองแม่ลูก เขาก็มีเรื่องต้องถกเถียงกับเมลดา และแสดงความไม่พอใจเมื่อญิงสาวพูดถึงเป็นหนึ่ง มัลลิกาซึ่งนั่งอยู่เริ่มสงสัยและบอกกับเมลดาตรง ๆ ว่าเธอสงสัยว่าปองคุณจะมีใจให้กับลูกสาวของเธอ เมื่อเจอกับสภาพหอพักที่อยู่ร่วมกับ คนอื่นอีกนับสิบ เมลดาก็แทบจะถอดใจ แต่เมื่อเจอว่ามัลลิกาโอดครวญอย่างหนักหล่อนจึงต้องทำใจให้เข้มแข็ง และคิดว่าต้องยอมรับสภาพนี้ให้ได้ และยังต้องเตือนให้มารดาแสดงสีหน้าให้ดี เพราะกลัวคนอื่นจะเข้าใจผิดแล้วสิ่งที่ทำให้หล่อนดีใจจนลืมนึกเรื่องอื่นไปเลย ก็คือหล่อนได้พบกับหญิงสาวร่างอวบที่เคยช่วยเหลือหล่อนในวันที่ถูกจี้ การเริ่มเรียนวันแรก เมลดารับรู้ว่าแผนกที่เธอเลือกเรียนการสอดย่านลิเภานั้นด้วยอาการใจฝ่อนิด ๆ ว่าหล่อน จะไปรอดไหม เพราะแผนกนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นการฝึกอาชีพที่ยากที่สุด มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่จะเรียนงานสอดย่านลิเภาได้สำเร็จ และการจะเริ่มเรียนได้ก็ต้องมีการทดสอบก่อน ที่น่าแปลกใจที่สุดคือปองคุณมาช่วยสอนในแผนกนี้ด้วย แค่เริ่มต้นเขาก็เชือดหล่อนเสียไม่มีชิ้นดีแล้ว สิริมน และปองคุณ ไปปรากฎตัวในงานเลี้ยงเปิดตัวหุ้นส่วนระหว่างชัยพงศ์ วินัย พ่อของแพรวดาว และศุภวัฒน์ โดยไม่ได้รับเชิญ แพรวดาวออกอาการเป็นเดือดเป็นร้อนแทนศุภวัฒน์ จนเป็นหนึ่งเริ่มสงสัยในความสัมพันธ์ ของคนทั้งคู่ ในขณะที่ศุภวัฒน์นั้นเริ่มรับรู้ว่าสิริมนกำลังจะมาเอาคืน เพราะเมื่อตอนที่เขาเป็นแต่งงานกับสิริมนนั้น ได้ถ่ายโอนหุ้นในกิจการห้างสรรพสินค้าของครอบครัวหล่อนไปให้เจษฎา กว่าครอบครัวหล่อนจะรู้ตัวห้างนั้นก็หลุดมือไปแล้ว ยังดีว่าหล่อนยังมีกิจการทางด้านอื่นรองรับอยู่ จึงยังคงอยู่ได้โดยไม่ล้มละลายไปเหมือนกับประยุทธ เพราะปองคุณหายหน้าไป ทำให้เมลดาไม่มีสมาธิพอที่เรียนรู้จนหล่อนแทบจะถอดใจ แต่ได้ครูอย่างผลที่มากล่าวเตือนสติ และบอกว่าแท้จริงแล้วปองคุณเป็นห่วงหล่อนมาก ถึ
ลมซ่อนรัก 2558

ลมซ่อนรัก (2558/2015) ปราณ ทายาทผู้บริหารหนุ่ม ลูกชายพสุวัฒน์ ได้รับรางวัล นักบริหารและจัดการองค์กรสาธารณสุขยอดเยี่ยม จากการเป็นนักบริหารหนุ่ม ไฟแรง ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์การแพทย์ ในนาม จีแอลเอส นำมาซึ่งความภูมิใจให้กับพสุวัฒน์ผู้เป็นพ่ออย่างมาก อีกทั้งอัณณา ผู้บริหารสาว ที่เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงให้กับปราณ ก็มาแสดงความยินดีในการเข้ารับรางวัลของปราณด้วย สินธร น้องชายต่างมารดาของพสุวัฒน์ เก็บความอิจฉาไว้ในใจ ยิ่งเมื่อพสุวัฒน์ แต่งตั้งให้ปราณเป็นประธานบริหารบริษัท ยิ่งทำให้สินธรแค้นใจมากที่พสุวัฒน์ ไม่ยกตำแหน่งนี้ให้ตน อัณณาบอกกับปราณ ว่ามีการทุจริตในบริษัท ทั้งคู่ร่วมมือกันสืบหาความจริง โดยที่ภัทรินเอง กลับไม่รู้ตัวเลยว่า กำลังถูกแฟนหนุ่ม ธนาฒน์ หลอกให้ภัทริน เซ็นต์เช็คอนุมัติวงเงินให้จากเช็คใบละไม่กี่แสนบาท แต่รวมกันเป็นยอดเงินนับล้าน ที่ธนาฒน์หลอกจากภัทรินไป โดยวางแผนให้ภัทรินเป็นแพะรับบาป โดยเขาเอาเงินไปปรนเปรอให้กับ ชมนาด หญิงสาวที่เขาหลงไหล ทั้งที่รู้ว่า ชมนาดก็มีความสัมพันธ์อันลึกซึ้งกับสินธรอยู่แล้ว ด้านของหมอณนต์ หมอหนุ่มผู้ใจดี ฝาแฝดผู้น้องของปราณ ก็ใช้ชีวิตเป็นแพทย์ชนบท อยู่ที่ดอยผาหมอก ณนต์ไม่เคยญาติดีกับพสุวัฒน์ ผู้เป็นพ่อ นับตั้งแต่ พ่อของเขา ปล่อยให้แม่ต้องเป็นไข้ป่าตาย โดยที่ไม่ได้มาเหลียวแลเลย แม้ว่าพ่อของเขาจะพยายามส่งยาจากจีแอลเอสมาช่วย แต่ก็มาไม่ทันเวลา หมอณนต์ได้ช่วยเหลือ ภารตี แม่ของภัทรินไว้ ตอนที่ป่วยหนัก ภารตีให้หมอช่วยโทรตามภัทรินให้กลับมาเยี่ยมตนบ้าง หมอณนต์โทรหาภัทรินให้ แต่ภัทริน กลับตอบมาอย่างไม่มีเยื่อใย ภัทริน ควงคู่ธนาฒน์มางานเลี้ยงแสดงความยินดี ในการที่ปราณได้รับรางวัล แล้วทั้งคู่ก็หลบไปฉลองงานวันเกิดของภัทรินตามลำพัง ธนาฒน์ ทำเซอร์ไพร้ส์ ขอภัทรินแต่งงานที่โรงแรมนั่นเอง ทำให้ภัทรินปลื้มมาก ซึ่งภายในงานเลี้ยงฉลองรางวัลของปราณ ณนต์ ก็มาแสดงความยินดีกับพี่ชายฝาแฝดด้วย แต่ณนต์ ยังไม่ยอมพูดดีกับพ่อ ณนต์ ไปนอนที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นที่เดียวกับที่ภัทรินกับธนาฒน์ ไปเลี้ยงฉลองกัน ภัทรินดื่มฉลองจนเมามาย แถมอ้วกใส่ธนาฒน์อย่างไม่รู้ตัว ธนาฒน์โกรธมาก ทิ้งให้ภัทรินนอนหลับอยู่ในสวนของโรงแรม ส่วนตนเองนั้น กลับไปหาความสุขกับชมนาดที่คอนโด ณนต์มาเจอภัทรินแบบหมดสภาพเข้า จึงแจ้งเจ้าหน้าที่โรงแรม ให้พาไปยังห้องพัก ในวันรุ่งขึ้น มีการประชุมใหญ่ที่บริษัท ชมนาดใส่ร้ายว่าภัทรินยักยอกเงิน ภัทรินปฎิเสธ เพราะเธอรู้ดีว่า ธนาฒน์เป็นคนนำเงินไป แต่ชมนาดให้ภัทรินเซ็นต์เอกสาร การชดใช้เงินให้กับบริษัท 17 ล้าน แทนการดำเนินคดี เพราะชมนาดต้องการดิสเครดิต การบริหารงานของปราณ เพื่อไม่ให้เกิดความไว้วางใจในกลุ่มผู้ถือหุ้น ภัทรินเห็นธนาฒน์ขับรถไปกับชมนาด ทำให้เธอรู้ว่า ถูกธนาฒน์หลอกใช้เรื่อยมา เมื่อปราณรู้เรื่อง ก็ชวนอัณณาไปสำนักงานบริษัทอยุธยา สาขาที่ภัทรินทำงานอยู่ แต่เกิดอุบัติเหตุ มีคนตามประกบยิงเสียก่อน ปราณถูกยิง รถเสียหลัก ตกลงไปข้างทาง ปราณเจ็บหนัก ภัทรินหมดสิ้นหนทาง กลับไปหาภารตี ผู้เป็นแม่ที่ดอยผาหมอก ส่วนสินธร กับชมนาด ก็หวังจะให้มีการเปลี่ยนแปลงผู้บริหาร เพราะปราณหายตัวไป แต่สุดท้าย หมอณนต์ ก็ปลอมตัวเป็นปราณ เข้ามาในที่ประชุมบริษัท เสนอตัวเข้าบริหารงานต่อไป เพื่อจับตัวคนกระทำผิดมารับโทษให้ได้ ซ้ำร้าย ยังเป็นการพิสูจน์ตนเองด้วยว่า ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการทุจริต ด้านสินธรก็แต่งตั้งให้ธนาฒน์ เป็นทายาทผู้บริหารคนใหม่ของเขา ภัทรินว้าวุ่นใจ แต่ก็ไม่กล้าบอกความจริงกับแม่เรื่องหนี้สิน เธออยู่ต่างจังหวัดได้ไม่นานก็มีอาการเป็นเหา เพราะติดจากลูกคนงานในไร่ จึงต้องไปหาหมอ และพบเข้ากับณนต์ เธออายมากที่จะบอกหมอว่าเป็นโรคนี้ สุดท้ายณนต์ ก็ให้ยามารักษา เนตรมณี จันทร์วิภา เบญจคีย์ เพื่อนของภัทริน ก็มาเป็นเพื่อนคุยกับภัทรินอยู่เสมอ หมอณนต์ ยังคงไปมาหาสู่กับภารตี และได้พบกับภัทรินบ่อยครั้ง จนชาวบ้านแซวว่าทั้งคู่เป็นสามีภรรยากัน ตอนที่ทั้งคู่ไปจ่ายตลาดให้กับภารตี หมอณนต์ต่อว่าที่ภัทรินไม่ยอมมาดูแลแม่ ทำให้ภัทรินรู้ว่าหมอเคยโทรไปหาตนเองที่กรุงเทพฯ เพื่อให้กลับมาดูแม่ ซ้ำหมอยังพูดเรื่องที่ภัทรินดื่มเหล้าเมามาย จนธนาฒน์ คนรักทิ้งเธอไว้อีกด้วย ภัทรินอายหมอณนต์มาก ปราณ ถูกยิงอาการสาหัส อยู่ที่โรงพยาบาล ทั้งพสุวัฒน์และอัณณา ปกปิดเรื่องนี้เป็นความลับ เกรงจะกระทบเรื่องการบริหารงานของบริษัท ส่วนธนาฒน์ก็ทำตัวเป็นผู้บริหารระดับแนวหน้าของบริษัท โดยมีสินธรหนุนหลัง อัณณาขอร้องให้หมอณนต์ ปลอมตัวมาเป็นปราณในบางครั้งที่บริษัท มีประชุมใหญ่เรื่องธุรกิจ หมอยอมทำตามที่อัณณาแนะนำ แต่ไม่เคยพูดดีกับพสุวัฒน์เลย ภารตี จับได้เรื่องหนี้สินของภัทรินในที่สุด สองแม่ลูกกอดคอกันร้องไห้ ภัทรินต้องเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อเจรจาขอประนอมหนี้กับทางบริษัท แล้วกลับมาที่ดอยผาหมอกด้วยความเจ็บช้ำใจ หมอณนต์สงสารจึงเสนอข้อแลกเปลี่ยน ว่าจะใช้หนี้ให้ภัทริน แต่เธอต้องแต่งงานกับเขา โดยให้เหตุผลว่า ไม่ต้องการแต่งงานกับคนที่พ่อหามาให้ และอยากเป็นหมออยู่ที่นี่ ไม่ต้องการกลับไปอยู่กรุงเทพฯอีก ภัทรินไม่มีทางเลือก สุดท้ายตกลงใจแต่งงานกับหมอณนต์ในที่สุด งานแต่งงานถูกจัดขึ้นที่บ้านภารตีในวันต่อมา ภารตีดีใจมากที่ภัทรินได้แต่งงานกับหมอ ส่วนเพื่อน ๆ ก็ดีใจกันยกใหญ่ ทั้งคู่จนทะเบียนสมรสกัน โดยภัทรินมีข้อแม้ ไม่ให้บอกแม่ว่าเป็นการแต่งงานกันปลอม ๆ และห้ามไม่ให้หมอล่วงเกินเธอเด็ดขาด งานเลี้ยงฉลองการแต่งงานจัดขึ้นที่โรงแรมในเชียงใหม่ อัณณากับพสุวัฒน์มางาน อัณณาจำภัทรินได้ บอกกับพสุวัฒน์ว่าภัทรินคือคนที่ทุจริตบริษัท สินธร กับ ชมนาด ตามมาที่งานด้วย สินธรอ้างว่าอยากพบปราณด้วย เลยทำให้ณนต์ ต้องปลอมตัวเป็นปราณอีกครั้ง อัณณาบอกให้ภัทรินรู้ว่า หมอณนต์ มีพี่ชายฝาแฝดชื่อปราณ ภัทช็อคไป ชมนาดยังพูดจาดูถูกเรื่องที่ภัทแต่งงานเพื่อใช้หนี้ ภารตีได้ยิน คาดคั้นเอาความจริงกับภัทริน แต่เธอปฎิเสธ บอกว่ารักหมอจริง ๆ หมอณนต์ในคราบปราณ ต้องตามพ่อกับอัณณากลับมากรุงเทพฯ เพื่อให้สินธร กับชมนาดวางใจ ว่าเขาคือปราณ แล้วหมอณนต์ขับรถไปที่โรงพยาบาลเพื่อไปเยี่ยมปราณทันที อัณณาเสียใจ ที่หมอณนต์ พยายามยัดเยียดให้เธอรักปราณ ทั้ง ๆ ที่คนที่อัณณารักคือณนต์เท่านั้น ณนต์ขอให้อัณณาดูแลปราณ เพราะชีวิตชนบทไม่เหมาะกับอัณณา เขาอยากให้อัณณาดูแลกิจการไปพร้อม ๆ กับปราณ ไม่อยากให้แยกทางกัน เหมือนพ่อและแม่ สินธร กับชมนาด ส่งตัวธนาฒน์ไปทำงานที่บริษัทยาที่เชียงใหม่ พบกับภัทรินที่มาสัมภาษณ์งานพอดี เขาพูดจาถากถางภัท เรื่องที่ยอมเอาตัวเข้าแลก แต่งกับณนต์ เพื่อหาเงินใช้หนี้ ภัทรินอับอาย แค้นใจ โกรธแค้น พอดีณนต์เข้ามาพบ จึงต่อยธนาฒน์สุดแรง ด้วยเพราะสงสารและหึงหวงที่ภัทรินอยู่กับธนาฒน์ ธนาฒน์แค้นใจ ส่งคนมาสะกดรอยตามณนต์ จนรู้ที่อยู่บ้าน หาจังหวะที่ภัทรินอยู่บ้านคนเดียวเข้ามาทำร้าย ภัทรินสู้จนแทบหมดแรง พอดีหมอกลับบ้านมา เข้าช่วยภัทรินทันที แต่คนร้ายมีด้วยกันถึงสามคน ทำให้ภัทกับหมอเกือบเสียที พอดี เบญคีย์ เนตรนภา จันทร์วิภา มาช่วยอีกแรง ทำให้คนร้ายหนีไปได้ ภัทรินขวัญเสีย ร้องไห้ไม่หยุด หมอณนต์สงสารมาก เฝ้าปลอบทั้งคืน เขารู้ใจตนเองแล้วว่า รักภัทรินแค่ไหน จะทำอย่างไร ถ้าต้องสูญเสียเธอไป ณนต์จึงบอกรักภัทรินในคืนนั้น แล้วสุดท้ายทั้งสองก็เป็นของกันและกันในที่สุด ส่วนปราณเมื่อฟื้นขึ้นมา ก็จำเพียงอัณณาได้คนเดียว แล้วก็กลายเป็นคนโมโหร้าย ฉุนเฉียว จนอัณณาท้อแท้ในใจ ที่ต้องมาคอยรับอารมณ์ปราณอยู่เสมอ อัณณาเดินทางมาที่เชียงใหม่ ขอร้องให้ณนต์ กลับไปกรุงเทพกับเธอ ภัทรินได้ยินเข้าพอดี จึงทะเลาะกับหมออย่างหนัก ภัทรินเสียใจ คิดว่าณนต์รักอัณณา จนหมอณนต์น้อยใจ ขับรถออกไปจากบ้าน ทั้งที่พายุเริ่มก่อตัวขึ้นมา พสุวัฒน์ กับอัณณา วางแผนทำทีว่าณนต์ขับรถตกเหว ลูกน้องของธนาฒน์ได้เห็นกับตา จึงไปรายงานธนาฒน์ และชมนาด สินธร ทุกคนเข้าใจว่าณนต์ประสบอุบัติเหตุ ภัทรินร้องไห้เสียใจหนัก รีบตามไปที่โรงพยาบาล แต่ไม่เจอ เพราะพ่อของณนต์ นำณนต์ กลับไปกรุงเทพฯแล้ว ต่อไปนี้ ปราณ กับณนต์ จะสลับตัวกันอย่างเป็นทางการ หมอณนต์ กลายเป็นนักธุรกิจใหญ่ชื่อปราณ ส่วนปราณที่นอนป่วยอยู่ก็ต้องเล่นบทบาทเป็นหมอณนต์ ที่ประสบอุบัติเหตุแทน********************************** หมอณนต์กลายเป็นนักธุรกิจเย็นชา สวมบทปราณได้อย่างแนบเนียน เขาไม่เคยทำดีต่อภัทริน ช่วงที่เธอมาเฝ้าปราณที่โรงพยาบาล จนพสุวัฒน์ เริ่มสงสารภัทริน เพื่อความสมจริงในบริษัท อัณณากับหมอณนต์ในคราบปราณจึงหมั้นกัน ภัทรินไม่สนใจ เพราะมัวแต่ห่วงปราณที่นอนป่วยอยู่บนเตียง โดยเข้าใจผิดคิดว่าเป็นหมอณนต์ ซึ่งภัทริน ก็ต้องปวดใจทุกครั้งที่ปราณฟื้นขึ้นมา แล้วบอกว่าไม่รู้จักเธอ หมอณนต์เสียใจมากที่ได้ทำร้ายภัทรินโดยที่เขาไม่สามารถทำอะไรได้ ปราณเองก็เสียใจที่อัณณาไปสนิทสนมกับหมอณนต์ เพราะเขาเองรู้ดีอยู่แล้วว่า อัณณารักณนต์เสมอมา ปราณตัดใจ ยอมให้อัณณาหมั้นกับหมอณนต์ แล้วไม่ให้อัณณามาดูแลเขาอีก ขอให้เป็นหน้าที่ภัทริน ที่จะมาดูแลเขา ปราณหายป่วย และกลับบ้านได้ ภัทรินดีใจมาก ดูแลปราณอย่างใกล้ชิด ณนต์หึงหวง ไม่ยอมให้ภัทริน นอนห้องเดียวกับปราณ บอกจะเป็นคนดูแลปราณเอง อัณณาเริ่มมั่นใจว่าณนต์รักภัทรินเข้าจริง ๆ แล้ว พยายามบีบให้ณนต์สารภาพว่ารักภัทริน เพื่อที่อัณณาจะได้ตัดใจจากณนต์เสียที พสุวัฒน์ป่วย อาการเนื้องอกในสมอง กำเริบหนัก จนต้องเข้ารับการผ่าตัด ถึงแม้ความจำของปราณ จะกลับคืนมาไม่หมด แต่เขาก็ได้รับรู้เรื่องนี้ด้วย ภัทรินดูแลปราณเป็นอย่างดี เพราะคิดว่าปราณคือณนต์ ปราณเข้าไปที่ห้องนอนเดิมของเขา ความทรงจำเริ่มกลับคืน จำเรื่องราวของเขาและอัณณาได้เป็นช่วง ๆ สินธร และชมนาด กลับได้ใจเมื่อรู้ว่าพสุวัฒน์ป่วย เพราะคิดจะเข้ามาดูแลกิจการบริษัทแทนพสุวัฒน์อยู่แล้ว สินธรวางแผนใส่ร้ายว่า ปราณยักยอกเงินบริษัท เพื่อที่สินธรจะได้ขึ้นเป็นผู้บริหารจีแอลเอส หากเหตุการณ์ไม่สำเร็จก็จะป้ายความผิดให้กับธนาฒน์ และชมนาด ชมนาดตัดใจจากสินธรด้วยความแค้น ธนาฒน์ตัดสินใจ ตามประกบยิง ภัทรินและณนต์ในคราบปราณ ทั้งสองต้องหนีหัวซุกหัวซุน จนสุดท้าย ณนต์ต้องพาภัทรินไปอยู่ที่เรือนแพ ส่วนอัณณากับปราณ ก็หาหลักฐานมายืนยันความบริสุทธิ์ของตนเอง อัณณาถูกพักงาน สินธรเข้ายึดอำนาจในบริษัท ซ้ำสินธร ยังให้คุณแอ๋ว ภรรยามาออกหน้า ทำให้ชมนาดแค้นสินธรมาก ช่วงที่ภัทรินและหมอณนต์ ในคราบปราณอยู่บนเรือนแพด้วยกัน ภัทรินเห็นความสนุกสนานร่าเริงในตัวณนต์ ทั้งสองใกล้ชิดกัน ภัทรินบ่นถึงหมอณนต์ทุกวัน เธอร้องไห้คิดถึงณนต์ว่าอยากจะอยู่ด้วยกัน แต่เสียใจที่ณนต์จำเธอไม่ได้อีกแล้ว ณนต์สงสาร เห็นใจภัทริน อยากบอกความจริงว่าเขาไม่ใช่ปราณ แต่คือหมอณนต์ สามีของเธอ อัณณาพาปราณ ไปทุ่งดอกทานตะวัน ความทรงจำที่สำคัญช่วงที่ปราณเคยรักอัณณา จนทำให้ปราณระลึกความทรงจำได้ เขาสามารถเปิดรหัสคอมพิวเตอร์ จนหาหลักฐานเอาผิดสินธรได้ ปราณกับอัณณาตัดสินใจกลับไปที่บริษัทเพื่อเปิดเผยความจริง ส่วน ณนต์กับภัทริน ก็ตัดสินใจ กลับมาต่อสู้อีกครั้ง จึงกลับมาที่กรุงเทพ ปราณพบกับปราณนต์ ปราณดีใจที่ณนต์ปลอดภัย จึงพูดเรื่องความจริงทั้งหมด รวมถึงการสลับตัวมาตั้งแต่ต้น ภัทรินได้ยินโดยบังเอิญ ความลับถูกเปิดเผยขึ้นโดยที่สองพี่น้องไม่รู้ ภัทรินเจ็บปวดที่ณนต์หลอกตนเองมาตลอด เธอคิดว่าณนต์ต้องการปกป้องบริษัท และครอบครัวตนเอง จนลืมนึกถึงความรู้สึกของเธอ ภัทรินแอบยืนร้องไห้อยู่ลำพัง ชมนาดร่วมมือกับธนาฒน์ อุ้มสินธรเพื่อไปฆ่า พอดีปราณกับอัณณาไปพบเข้าเสียก่อน จึงแจ้งความให้ตำรวจไปช่วยสินธรได้ทันเวลา ด้านภัทรินก็ซ้อนแผน อัดเสียงพูดของธนาฒน์ สารภาพเรื่องที่ร่วมกับชมนาด ทุจริตบริษัทไว้ได้ทั้งหมด ในขณะที่ชมนาดป้ายความผิดทุกอย่างให้กับปราณ ว่าอุ้มฆ่าสินธร สินธรก็ปรากฎตัวขึ้นที่บริษัท เพราะปราณเกลี้ยกล่อมให้พูดความจริง เพื่อเห็นแก่ความเป็นอาหลานครั้งสุดท้าย สินธรจึงสารภาพว่าเรื่องทั้งหมดเกิดจากตนเอง ต้องการอำนาจบริหารงานในบริษัท จึงต้องการฆ่า ปราณและพสุวัฒน์ รวมถึงร่วมมือกับชมนาดทุจริตโครงการในบริษัทอีกด้วย ชมนาดกับธนาฒน์พยายามจะหนี แต่ก็ถูกจับกุมตัวไว้ได้ ทั้งคู่ รวมถึงสินธร ก็ไปชดใช้กรรมในคุก ความจริงทุกอย่างเปิดเผย ณนต์ตกใจที่ภัทรินรู้ความจริงแล้ว เขาคุกเข่า พยายามจะขอโทษภัทริน สารภาพว่าถึงแม้เขาจะโกหกภัทรินในทุกเรื่อง แต่สิ่งที่เป็นจริง คือความรักที่เขามีให้แก่ภัทรินเสมอมา ภัทรินไม่ฟัง กลับดอยผาหมอกไปหาแม่ด้วยหัวใจที่เจ็บช้ำ ปราณหายเป็นปรกติ กลับมาบริหารงานโดยมีอัณณาเคียงคู่ ส่วนอาการพสุวัฒน์ก็ค่อย ๆ ดีขึ้น ปราณนต์ ตัดสินใจกลับไปเป็นหมอชนบทที่ดอยผาหมอกอีครั้ง ทั้งภารตี เบญจคีย์ จันทร์วิภา และเนตรมณี ให้ความร่วมมีหมอณนต์เป็นอย่างดี ในการขอคืนดีกับภัทริน จนสุดท้ายภัทรินก็ใจอ่อนเพราะความรักที่ทั้งสองมีต่อกัน ภัทรินกลับไปอยู่ที่บ้านหมอณนต์อีกครั้งอย่างมีความสุข

ลูกไม้ลายรัก 2557

สามหัวใจเสริมใยเหล็ก ลูกไม้ลายรัก (2557/2014) ภัทรดนัย จงวัฒนา หรือ คุณต่อ ลูกชายคนเดียวของ ภพธรรม และ ขวัญฤดี เจ้าของโรงงานชุดชั้นในสตรียี่ห้อไทยแท้ ที่มีชื่อเสียงมานานนับสิบปี เรียนจบปริญญาโทด้านบริหารจัดการมาจากอเมริกา เขาบินกลับเมืองไทยพร้อมกับแฟนสาว อรรัมภา ลูกสาวนักธุรกิจที่สวย รวย เก๋ ชีวิตของคุณต่อสุดจะเลิศเลอ รูปหล่อ พ่อรวย แถมการศึกษาสูงลิบลิ่ว ทุกอย่างเกือบจะเพอร์เฟคอยู่แล้ว เชียว ยกเว้นเรื่องเดียวเรื่องที่เป็นปมด้อยหนึ่งเดียวในชีวิตนั่นคือการที่พ่อแม่ขายชุดชั้นใน ดังนั้นเมื่อพ่อและแม่ขอร้องให้เขามาดูแลกิจการโรงงานชุดชั้นในแทนท่าน คุณต่อจึงปฏิเสธเสียงแข็ง เพราะคุณต่ออยากจะร่วมหุ้นทำธุรกิจนำเข้ารถหรูจากเมืองนอกกับเพื่อน โดยให้เหตุผลว่าทำงานกับเพื่อนแค่ไม่กี่คน ชื้อมาขายไปไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องแบกรับภาระคนงาน ค่าสวัสดิการจิปาถะ ไม่เหมือนโรงงานของพ่อที่มีแต่ปัญหา ยิ่งคนเยอะปัญหายิ่งแยะ ต่อขอเงินพ่อไปลงทุนกับเพื่อนเป็นสิบล้าน แถมยังบอกให้พ่อเลิกทำงาน อายุมากแล้วน่าจะออกมาใช้ชีวิตสบาย ๆ อยู่กับบ้าน หรือไม่ก็เที่ยวรอบโลกก็ได้ ภพธรรม ผิดหวังที่ลูกไม่ยอมสานต่อกิจการ แต่ก็ไม่บังคับจิตใจและเจียดเงินทั้งหมดให้ลูกชายไปลงทุน โดยไม่ยอมปริปากบอกเรื่องหนี้สินของทางบ้าน หรือแม้แต่เรื่องที่เขาป่วยหนักให้ลูกชายรู้ ต่อขับรถออกจากบ้านเพื่อไปรับอรรัมภาไปกินข้าว แล้วก็ต้องอารมณ์เสียสุด ๆ เมื่อรถคันหรูของเขาเฉี่ยวกับมอเตอร์ไซด์บิ๊กไบค์คันหนึ่งซึ่งคนขับคือ หนุ่มแว้นชื่อ ภูวดล โดยมีสก๊อยสาวช้อนท้าย ชื่อ ก้อย หรือ กลอยตา ทองกำเนิด ทั้งสองฝายต่างโทษว่าอีกฝายผิดจนมีเรื่องจะชกกัน แต่คู่ชกไม่ใช่ต่อกับภูวดล แต่เป็น ก้อยกับต่อ โดยมีภูวดลคอยห้ามทั้งคู่ ก่อนที่ก้อยจะยอมแยกออกมา เพราะภูวดลเตือนก้อยว่า เดี๋ยวไปส่งของช้า แม่อยู่บ้านคนเดียวเป็นอะไรขึ้นมาจะยุ่ง เพียงแค่เริ่มต้น ธุรกิจของต่อก็มีปัญหา เพราะข่าวเรื่องลักลอบนำเข้ารถผิดกฎหมายทำให้ลูกค้าที่สั่งรถไว้ทิ้งออร์เดอร์ไปเพราะไม่อยากถูกดีเอสไอสุ่มตรวจรถหรูคันเก่า ๆ ของตัวเอง เพื่อนฝูงที่ร่วมหุ้นต่างก็พากันทิ้งงาน ต่อต้องรับภาระเคลียร์ค่าใช้จ่ายทั้งหมดสูญเงินไปเป็นสิบล้านเพียงชั่วข้ามคืน และเมื่อกลับมาบ้านเขาก็พบกับเรื่องที่ช็อคที่สุดในชีวิต นั่นก็คือ การที่เจ้าหนี้บุกมาทวงหนี้พ่อจนช็อคคาบ้าน นั่นทำให้เขาเพิ่งรู้ว่าพ่อป่วยหนักและแท้จริงแล้ว ครอบครัวเขากำลังจะล้มละลาย อ.ไตรภพ มาหาก้อยที่บ้านเพื่อเกลี้ยกล่อมให้ก้อยเรียนต่อปวส. เพราะเสียดายพรสวรรค์และความสามารถทางด้านการออกแบบของก้อย แต่ก้อยต้องปฏิเสธอาจารย์ซึ่งเป็นพ่อของภูวดลเพื่อนรักไปเพราะเธอต้องดูแลแม่ที่กำลังป่วย และต้องหางานทำเพื่อนำเงินมาจุนเจือครอบครัว เรื่องเรียนสำคัญมากก็จริงแต่ชีวิตแม่สำคัญกว่า ถ้าแม่แข็งแรงขึ้นและเธอเก็บเงินได้เมื่อไหร่เธอจะกลับไปเรียนต่อแน่นอน ก้อยออกหางานทำโดยมีภูวดลไปเป็นเพื่อน จนมาได้งานที่ร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง แต่ทำได้แค่วันเดียว ร้านก็ไฟไหม้ ไม่รู้ว่าเธอ หรือเจ้าของร้านกันแน่ที่ซวยสุด ๆ มรสุมของที่บ้านทำให้ต่อต้องตั้งสติและปรับวิธีคิดใหม่ หลังจากที่เขาส่งพ่อเข้าโรงพยาบาลแล้ว เขาได้พูดคุยกับแม่อย่างจริงจังถึงปัญหาที่เกิดขึ้น แม่เล่าว่าช่วงที่สินค้าขายดี พ่อต้องการขยายกิจการจึงไปกู้เงินมาลงทุนเพิ่มแต่โชคร้ายที่หลังจากนั้นไม่กี่เดือนก็มีคนออร์เดอร์ชุดชั้นในจากต่างประเทศเข้ามาตีตลาดหลายแบรนด์ รวมทั้งภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำทำให้โรงงานขาดทุนสะสมมาตลอด แล้วเงินที่ต้องส่งต่อเรียนที่เมืองนอกตลอด 6 ปีที่ผ่านมาก็ไม่น้อย ขวัญฤดีขอร้องให้ลูกชายนำความรู้ที่เรียนมา ช่วยพนักงานของโรงงานด้วยไม่อย่างนั้นโรงงานต้องถูกยึด พนักงานต้องตกงานและครอบครัวก็ต้องล้มละลาย ต่อสงสารพ่อแม่ที่ปกปิดฐานะของตัวเองเพื่อให้เขาได้เรียนและกินอยู่อย่างสบาย รวมทั้งให้โอกาสเขาได้เลือกทำในสิ่งที่ชอบ เขารับปากกับแม่ เขาสานฝันของตัวเองไม่สำเร็จแต่เขาจะสานฝันของพ่อแม่ให้สำเร็จ เขาจะกอบกู้กิจการของครอบครัวให้ได้ วันแรกที่ทำงานต่อก็พบว่าทฤษฎีที่เรียนมากับความเป็นจริงต่างกันโดยสิ้นเชิง ปัญหาจิปาถะเกิดขึ้นตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นปัญหาจากตัวโรงงานไฟช้อต ท่อประปาแตก จักรพัง ฯลฯ และที่สำคัญคนทำงาน ซึ่งทำให้ต่อมึนมากและที่มึนมากถึงมากที่สุดคือ ออร์เดอร์ที่ถูกตีกลับมาเพราะสินค้ามีปัญหาจากวัสดุและการผลิตที่ไม่ประณีต ต่อปรึกษาแม่ว่าใครจะเป็นที่ปรึกษาเขาได้ในเรื่องนี้ เพราะพ่อซึ่งรู้งานทุกอย่างก็ป่วยอยู่ที่โรงพยาบาลเขาต้องการที่ปรึกษาที่เชี่ยวชาญต้านการผลิตทุกขั้นตอน ขวัญฤดีบอกว่ามีอยู่คนหนึ่ง เป็นช่างเก่าแก่ที่ทำงานให้โรงงานมาตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง แต่ตอนนี้ลาออกไป 5-6 ปีแล้ว เพราะไม่สบายเป็นโรคหอบหืด แต่ก็ยังช่วยงานด้วยการเย็บชุดชั้นในที่บ้าน แล้วเอามาส่งโรงงานทุกเดือน เธอชื่อ ป้าดวงใจ ต่อพาอรรัมภามากินติ่มซำที่ร้านซึ่งก้อยเพิ่งเข้ามาทำงานได้วันเดียว และแล้วคราวซวยก็มาเยือนอีกครั้งเมื่อก้อยทำน้ำชาหกใส่อรรัมภา และทำซาลาเปาหล่นใส่หัวต่อ ชายหนุ่มจำก้อยได้จึงเอาเรื่องโดยให้ผู้จัดการไล่ก้อยออกจากงาน ก้อยทั้งโมโหทั้งเจ็บใจ ชี้หน้าด่าต่อว่าไม่หล่อแล้วยังบ้าอำนาจ แถมเตือนอรรัมภาว่าถ้าได้ต่อเป็นสามี ชีวิตไม่เจริญแน่ ต่อคลั่งจนอยากจะเตะเด็กสก๊อยปากเสียลักทีสองที ต่อขับรถหรูไปตามตรอกซอกซอยในชุมชนขนาดใหญ่ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากโรงงานสักเท่าไหร่ เพื่อตามหาป้าดวงใจ เมื่อได้พบบ้านเช่า ซึ่งเป็นห้องแถว เขาเห็นป้าดวงใจกำลังถีบจักรเย็บชุดชั้นในล็อตล่าสุดของโรงงานอยู่พอดี ฝีมือและความใส่ใจของป้าเตะตาจนเขาต้องหยุดมอง ต่อแนะนำตัว พร้อมทั้งขอร้องให้ป้าดวงใจกลับไปทำงานที่โรงงาน โดยเขาจะให้เงินเดือนเพิ่มเป็นสามเท่า แต่ป้าดวงใจปฏิเสธ โดยบอกว่าไม่มีแรงจะไปทำงานหนักขนาดนั้น งานที่เขาเห็นกอง ๆ อยู่นี่ ไม่ใช่ฝีมือป้า แต่เป็นฝีมือลูกสาวป้าต่างหาก ต่อขอพบลูกสาวของป้าดวงใจ ป้าให้เบอร์โทรศัพท์ไป บอกลูกสาวทำงานที่ร้านขายไอศกรีม ต่อโทรศัพท์เข้าเครื่องลูกสาวป้าดวงใจ ขณะยืนอยู่ที่หน้าร้านไอศกรีมสเวนเซ่น แล้วเขาก็พบสาวสวยที่คุยโทรศัพท์กับเขาซึ่งเป็นผู้จัดการร้าน เมื่อเขาเข้าไปทัก ปรากฏว่าผู้จัดการ ร้านคนนั้นไม่ใช่ลูกสาวป้าดวงใจเพียงแต่รับโทรศัพท์แทนพนักงานในร้านอีกคน และพนักงานเสิร์ฟที่เป็นลูกสาวป้าดวงใจตัวจริงก็คือ พระเจ้าช่วย เธอคือสก๊อยสาวที่มีเรื่องกับเขาที่ร้านติ่มซำนั่นเอง ต่อกดดันสุด ๆ ที่ต้อง ขอร้องเด็กแสบอย่างก้อยให้ไปทำงานด้วย เพราะถึงแม้จะยื่นข้อเสนอด้วยเงินเดือนที่สูงแค่ไหน ก้อยก็ส่ายหน้า อย่างโอหัง เขาทนการกวนประสาทของก้อยไม่ได้อีกต่อไป จึงทิ้งนามบัตรเอาไว้ เพื่อให้ก้อยมีเวลาตัดสินใจ ก่อนจะจากไปอย่างหัวเสีย ต่อรอโทรศัพท์จากก้อยไม่ไหว จึงตามไปขอคำตอบที่ร้านไอศกรีม แต่ผู้จัดการร้านบอกก้อยออกกะแล้วไปทำงานอีกที่ ต่อตามก้อยไปที่ร้านสุกี้เอ็ม เค เขาแกล้งสั่งอาหารเยอะ ๆ และมั่วไปมั่วมาเพื่อยั่วให้ก้อย โกรธ ก้อยแค้นใจอยากจะด่า ต่อบอกว่าเชิญด่าตามสบาย เพราะถ้าด่าลูกค้า ก้อยถูกไล่ออกแน่ ก้อยต้องระงับ อารมณ์ในเวลาที่พนักงานในร้านต้องเต้นโชว์ลูกค้าพอดี ก้อยจึงระบายความแค้นในใจด้วยการเต้นแบบจัดเต็ม จนต่อตาค้าง ก้อยหลอกให้ต่อกินอาหารที่สั่งจนหมด แต่พอเขากินหมด ก้อยกลับแถไม่ยอมให้คำตอบ ต่อหมดความอดทน ประกาศลั่นว่าจะไม่ง้อหญิงสาวอีกต่อไป พร้อมกับเย้ยหยันตบท้ายว่า เขาไม่น่ามาเสียเวลา กับจอมแสบอย่างเธอ สก๊อยอย่างเธอจะมาช่วยเขากอบกู้โรงงานได้ยังไง ภูวดลพาก้อยซ้อนมอเตอร์ไซค์มาทำงาน และแล้วความซวยก็มาเยือนก้อยอีกครั้ง เมื่อภูวดลหักรถ หลบหลุมใหญ่ แต่ก็ต้องมาชนกับรถของอรรัมภาที่ขับถอยหลังมาโดยไม่ทันระวังเพราะมัวแต่คุยโทรศัพท์กับต่อ ทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้น ก้อยข้อเท้าแพลงและเลือดไหลที่เท้า ส่วนภูวดลที่ไม่เป็นอะไรเลย เข้าไปฉะเอาเรื่องอร รัมภา อรรัมภาวีนกลับแต่ก็ยอมรับผิดจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้ ภูวดลพาก้อยไปทำแผลที่โรงพยาบาล ก้อยไม่ห่วงเรื่องเจ็บ แต่ห่วงงานมากกว่า คราวนี้ เธอจะไปทำงานยังไง เดินกะเผลกแบบนี้ ก้อยออกจากโรงพยาบาล แต่ก็ต้องกลับเข้าไปใหม่เมื่อ "ป้าณี" เพื่อนข้างบ้านพาแม่ของเธอมาส่ง ดวงใจต้องเข้าห้องไอซียูเพราะโรคหอบกำเริบ ก้อยต้องหาเงินอย่างด่วนมารักษาแม่ ภูวดลรับปากว่าจะไปยืมเงินที่บ้านมาให้ แต่ก้อยเกรงใจเพราะ ตอนนี้ มะปราง แม่ของภูวดลกำลังขยายกิจการน้ำพริก ซึ่งต้องใช้เงินทุนเยอะ ก้อยนึกถึงชุดชั้นในที่ยังไม่ได้ไปส่ง เธอรีบกลับไปที่บ้าน เพื่อทำต่อจนถึงเช้า จากนั้นจึงหอบของทั้งหมด ขึ้นรถมอเตอร์ไซค์ภูวดลไปส่งที่โรงงาน คราวนี้ก้อยขออนุญาต เกียรติยศ ผู้จัดการโรงงานเข้าไปส่งของด้านในเพื่อจะได้มีโอกาสเจอกับต่อ ก้อยต้องการสมัครงานกับเขา เมื่อทั้งคู่เจอกัน ต่อแอบดีใจเพราะปัญหา เรื่องสินค้าไม่ได้คุณภาพยังไม่ได้รับการแก้ไข เขาหวังลึก ๆ ว่าก้อยจะเปลี่ยนใจมาทำงานกับเขา แต่ด้วยความที่ฟอร์มจัด จึงตั้งท่าเป็นนักธุรกิจหน้าเลือดใส่ ก้อยจนปัญญา หมดหนทาง ป้าณีก็โทรมาเร่งตลอดว่าต้องจ่ายเงินค่ารักษาแม่ ก้อยจึงขอสมัครงานกับต่อด้วยเงินเดือนที่ต่อเคยเสนอในตอนแรก ต่อหัวเราะ แกล้งบอกว่าเขาหาคนมาแทนก้อยได้แล้ว ถ้าก้อยจะมาทำงานที่นี่ก็ได้ แต่เงินเดือนเท่าวุฒิการศึกษา ก้อยต่อรองขอโอทีและเบี้ยเลี้ยงมากกว่าปกติสามเท่า ต่อทำท่าคิดนานจนก้อยบอกถ้าอย่างนั้น ขอเงินเดือน 18000 และเบิกล่วงหน้า 2 ปี ถ้าไม่ให้กลับ ต่อรีบตกลงเพราะเขาเองก็อยากได้ก้อยมาช่วยงานจริง ๆ ภพรร อาแท้ ๆ ของต่อ เข้ามาเสนอตัวช่วยเป็นที่ปรึกษาในเรื่องการตลาดให้ เพราะไม่อยากเห็นกิจการของพี่ชายพังพินาศไปต่อหน้าต่อตา ขวัญจิตรภรรยาของภพธรรู้ดีว่าสามีคิดร้ายกับพี่ชาย หวังจะฮุบที่ดินที่ใช้สร้างโรงงานมาเป็นของตัวเอง ต่อยินดีที่อาเข้ามาช่วยงาน เพราะเขาจะมีทั้งนักการตลาดที่เก่ง และคนงานที่เชี่ยวชาญเรื่องชุดชั้นในพร้อมสรรพ ตอนนี้เขาพร้อมแล้วที่จะบุกตลาดชุดชั้นในและทำให้แบรนด์ไทย แบรนด์นี้มีชื่อ เสียงไปทั่วโลก ภูวดลสบายใจที่ก้อยได้งานทำเป็นหลักแหล่งมั่นคง เขาเลยมีเวลาปลีกตัวไปทำการตลาดให้ น้ำพริกแม่ มะปราง ของแม่ตามห้าง ระหว่างนั้นก็ได้เจอกับอรรัมภาที่ไปออกงานกับพ่อในฐานะหุ้นส่วนของห้าง ภูวดลตำน้ำพริกโชว์ลูกค้าว่ารสชาติน้ำพริกสำเร็จรูปกับที่ตำเองสด ๆ ไม่ต่างกัน ชายหนุ่มแกล้งเชิญอรรัมภาขึ้นมาตำและชิมน้ำพริกของเขา หญิงสาวเผ็ดร้อนจนต้องเอาคืนภูวดลด้วยการเหยียบเท้าชายหนุ่มจนหน้าเขียว ก้อยเข้ามาทำงานที่โรงงานชุดชั้นในอย่างเต็มตัว หญิงสาวได้เจอกับพนักงานของโรงงาน ซึ่งล้วนแล้วแต่ เป็นเพื่อนรุ่นพี่รุ่นน้องของแม่ดวงใจทั้งนั้น ก้อยแก้ไขงานที่ลูกค้าตีกลับให้ต่อจนลูกค้าพอใจและเพิ่มออร์เดอร์ เข้ามา ต่อพาก้อยไปพบลูกค้า ทั้งคู่ต่างเรียนรู้งานของกันและกัน ได้รู้จักคุณค่าของงานแต่ละแผนกว่ามีความสำคัญเท่า ๆ กัน ต่อต้องเรียนรู้งานเกี่ยวกับชุดชั้นในทุกขั้นตอน เขาจำเป็นต้องให้ก้อยสอน ต้องอดทนให้ก้อยว๊ากเอาบ่อย ๆ การทำงานด้วยกันตลอดเวลาทำให้ทั้งคู่เริ่มเรียนรู้และสนิทสนมกันมากขึ้นโดยไม่รู้ตัว ในขณะที่อรรัมภา นางแบบสุดสวยที่ตกลงรับปากจะมาเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับโรงงาน ต้องเผชิญชะตากรรมเมื่อพ่อถูกจับ ในข้อหาค้าของผิดกฎหมายและคอรัปชั่น ต่อให้กำลังใจเธอเป็นอย่างดี แต่เมื่อถึงเวลาคับขันเขากลับไปช่วยอรรัมภาไม่ได้ จะมีก็แต่ภูวดล ที่มักจะจับพลัดจับผลูเข้ามาในชีวิตและช่วยเธอได้เสมอ ภูวดลพาอรรัมภาไปช่วยแม่ของเขาทำน้ำพริกขาย ชายหนุ่มฝึกให้หญิงสาวทั้งปรุง ทั้งตำ ทั้งชิม จากที่กินไม่ได้กลายเป็นอร่อยเหาะ จากที่ร้องไห้กลายเป็นหัวเราะมีความสุขกับชีวิต ความเฟอะฟะไม่เอาไหนแบบลูกคุณหนูของอรรัมภา สร้างความสุขมากมายให้ภูวดลโดยไม่รู้ตัว นอกจากสร้างงานให้ต่อแล้ว ก้อยยังดึงต่อเข้ามารู้จักตัวตนของคนงานของเขาด้วย ก้อยพาต่อมารับรู้ปัญหา และในบางครั้งก็ช่วยกันแก้ปัญหาให้คนงานเหล่านั้น ไม่ว่าจะเป็นปัญหาของ โอฬาร หรือเจ๊โอ หนุ่มใหญ่ใจตุ้งติ้ง ที่เป็นศิษย์เอกของดวงใจ ที่วันดีคืนดีก็มีลูกชายโผล่มาหาเพื่อให้พ่อขลิบผมเพราะจะบวช ทุกคนต้องร่วมแรงร่วมใจทำให้เจ๊โอเป็นผู้ชาย ผู้ชายเพื่อให้ลูกสบายใจ หรือปัญหาของ ปองรัก ทอมสาวสุดเท่ ที่ถูกดี้สาวอย่าง หงส์หยก หยิกข่วนเป็นประจำเพราะความหึงหวง ยิ่งปองรักให้ความสนใจและคอยช่วยเหลือก้อยมากเท่าไหร่ หงส์หยกก็ยิ่งหึงไม่ไว้หน้าเท่านั้น แต่สุดท้าย หงส์หยกก็หนีตามพ่อค้ารถขายกับข้าวไปอย่างไร้ร่องรอย ทำให้ปองรักเสียใจดื่มเหล้าเมามายจนไปปล้ำ วิชัย ยามเฝ้าโรงงาน หลังจากนั้นปองรักก็หันมาเป็นเมีย และไม่คิดจะเป็นสามีให้ใครอีกเลย รวมทั้งปัญหาโลกแตกของเมียบ้าหวยกับผัวขี้เมา ป้าเพ็ญศรี กับ ลุงน้อย ที่ทะเลาะกันจะเป็นจะตายทุกวันแต่ก็ขาดกันไม่ได้ แม้แต่เรื่องของเกียรติยศ ผู้จัดการโรงงานใจซื่อมือสะอาดที่ขี้ลืมสุด ๆ ก็ไม่เว้น และเรื่องที่ทุกคนจะลืมไม่ได้คือเรื่องของ พี่จุรี สาวแก่ผู้เคร่งครัดในศีลธรรม กินผักกินมังสวิรัติมาเกือบยี่สิบปี สุดท้ายผลบุญที่สร้างสมก็นำพาให้เธอได้แบ่งปันอาหารมังสวิรัตให้หนุ่มตาน้ำข้าว ซึ่งใคร ๆ คิดว่าเป็นพวกฝรั่งขี้นก แต่ที่ไหนได้หนุ่มตาน้ำข้าวคนนั้นกลับเป็นลูกค้าสำคัญของต่อ และเป็นถึงดยุค ของประเทศอังกฤษ พี่จุรีของก้อยเลยได้เป็นเลดี้จุรี ออฟ อิงแลนด์ไปโดยปริยายในเวลาต่อมา เมื่อกิจการกระเตื้องขึ้น ต่อจึงคิดขยายกลุ่มลูกค้า เขาให้ก้อยช่วยออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ให้ก้อยอดหลับอดนอนทำงานจนเสร็จทันเวลา ต่อเอางานไปขายลูกค้า ทุกคนพอใจมีออร์เดอร์เข้ามามากมาย ต่อสั่ง ให้ เกียรตยศ เร่งกำลังการผลิต แต่แล้วความฝันอันสวยหรูของต่อกับก้อยก็พังครืน เมื่อลูกค้าระงับออร์เดอร์ เพราะมีสินค้าที่ทำเลียนแบบสินค้าของโรงงานออกมาวางขายก่อนหน้าในราคาที่ถูกกว่า ก้อยเชื่อว่าต้องมีหนอนบ่อนไส้ในโรงงาน เพราะก่อนหน้านี้โรงงานมักมีปัญหาเรื่องไฟดับ เครื่องจักรเสียเป็นอุปสรรคการทำงานอยู่บ่อย ๆ ต่อกับก้อยจึงคอยจับตามองจนรู้ว่าตัวการเรื่องนี้คือ ปรุงใจ หลานสาว วรรณา แม่ค้าขายข้าวแกงในโรงงาน ปรุงใจฝันอยากจะเป็นดารา เธอมักจะเปลี่ยนบทบาทเป็นนางเอกละครเรื่องต่าง ๆ มาเสิร์ฟอาหาร คนงานเป็นประจำ สร้างเสียงหัวเราะให้ทุกคนทุกวัน ภพธรรู้จุดอ่อนเรื่องนี้จึงขอให้ปรุงใจช่วยสืบเรื่องต่าง ๆ ใน โรงงานให้ โดยอ้างว่ามีพนักงานโกงบริษัท ถ้าปรุงใจเป็นหูเป็นตาให้จะพาไปรู้จักกับผู้จัดละครซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของเขา ปรุงใจเชื่อใจภพธร จึงส่งข่าวให้ภพธรรู้ปัญหาและจุดอ่อนของโรงงาน แรก ๆ แค่จับตาและส่งข่าว ต่อมาภพธรก็ให้ก๊อปปี้งานของก้อยออกมา และลามไปถึงการยุให้คนงานทะเลาะกัน ยุให้ประท้วงเรื่องค่าแรง และที่ร้ายแรงที่สุดคือการลักลอบเผาโรงงาน ปรุงใจรู้ตัวว่าถูกยืมมือเป็นคนวางเพลิงจึงรีบมาบอกก้อย ต่อก้อยและเพื่อน ๆ ช่วยกันดับไฟได้ทัน ภพธรซึ่งถูกจับได้ว่าเป็นคนวางแผนทั้งหมดเตรียมจะหนี ภพธรรมเข้ามาหาน้องบอกถ้าหนีก็ต้องหนีไปตลอดชีวิต ภพธรด่าพี่ชายว่าโกงมรดกพ่อแม่ เอาทุกอย่างไปจากเขาจนหมด แม้แต่โรงงานกับที่ผืนนี้ที่มีมูลค่ามหาศาล ซึ่งมันควรจะเป็นของเขา ภพธรรมจึงบอกความจริงว่าภพธรเข้าใจผิด มรดกก้อนสุดท้ายของพ่อแม่คือเงินที่ส่งให้ภพธรเรียนที่เมืองนอก ตัวเขาไม่ได้เรียนเพราะอยากทำงานหาเงินช่วยทางบ้าน เขาสร้างโรงงาน ซื้อที่ผืนนี้ด้วยตัวเอง และยกให้เป็นของพ่อแม่เพื่อให้ท่านได้ภูมิใจก่อนตาย ภพธรไม่เชื่อ ขวัญจิตรจึงออกมายืนยันว่าที่ภพธรรมพูดเป็นความจริงทั้งหมด เพราะตอนที่ภพธรรมยกโรงงานและที่ดินให้พ่อแม่ เธอซึ่งมาทำงานเป็นพยาบาลดูแลท่านอยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วย ภพธรเสียใจและละอายใจมากกับความผิดที่ตัวเองก่อขึ้น เขาก้มหัวคารวะพี่ชายที่อภัยให้กับความหลงผิดของเขา ต่อเข้าไปเช็คสภาพโรงงาน โรงงานไม่ได้รับความเสียหายมาก แต่สินค้าบางส่วนที่จะต้องรีบส่งในวันรุ่งขึ้นเสียหาย ต่อหวังจะใช้เงินจากการขายก้อนนี้ไปปิดหนี้งวดสุดท้าย ก้อยจึงนำทัพพาทุกคนเร่งงานหามรุ่งหามค่ำ เพื่อให้ส่งสินค้าได้ทัน ต่อซึ้งในน้ำใจของก้อย เขาขอบคุณหญิงสาวแต่อดเหน็บตามนิสัยไม่ได้ว่าเพราะก้อยอยากได้โอทีเยอะ ๆ ถึงได้ทุ่มสุดตัวขนาดนี้ ก้อยหมั่นไส้ต่อในหลาย ๆ เรื่อง ทั้งเรื่องงาน เรื่องอรรัมภา จนคิดจะลาออกจากโรงงาน ต่ออ้างสัญญาที่เขียนไว้ตั้งแต่เริ่มต้นสมัครงาน เธอไม่มีสิทธิ์จะลาออกจนกว่าจะใช้หนี้หมด ก้อยน้อยใจคิดว่าที่ต่อดึงเธอไว้ก็เพราะเรื่องเงินแค่นั้น ต่อบอกไม่ใช่เรื่องเงิน แต่เป็นเรื่องของหัวใจ...ต่อฉีกสัญญาทิ้งแล้วบอกหญิงสาวว่าสัญญาไม่ได้มีความหมายอะไร เพราะอย่างมากมันก็แค่รั้งตัวหญิงสาวไว้ได้อีกแค่ไม่ถึงครึ่งปี เขาจะใช้อย่างอื่นมัดหญิงสาวไว้แทน ก้อยถามว่าอะไร ต่อบอกหัวใจไง เขาจะใช้หัวใจมัดหญิงสาวไว้ไม่ให้หนีไปไหนตลอดชีวิต เพราะเขารู้แล้วว่าชีวิต เขาขาด เธอไม่ได้ ก้อย กูรูชุดชั้นใน ฉันไม่มีวันปล่อยเธอหลุดมือไปเด็ดขาด ติดตามชม ละครลูกไม้ลายรัก

กำลังแสดงผลลัพธ์ทั้งหมด 6 รายการ