ครั้งนั้น..ไม่ลืม 2560

ครั้งนั้น..ไม่ลืม (2560/2017) เรื่องราวของ “ปม” ที่เป็นจุดเริ่มต้นของประสบการณ์ ความทรงจำ ที่มีความหมายไม่อาจลืมเลือนได้ของเด็กมัยธมเกิดขึ้นในกิจกรรมวัน “ศิษย์-ลูก” ของโรงเรียนมัธยมไตรมาลีศึกษา เป็นวันประชุมพบปะระหว่างผู้ปกครองและครูของนักเรียนมัธยมปีที่ ม.6 ก โดยมีครูที่ปรึกษาคือ ครูไพรัช และเหล่าผู้ปกครองของนักเรียน เช่น สันตินายทหารชั้นผู้ใหญ่พ่อของ “พอร์ช” ณัฐฐาน้าสาวของ “น้ำอุ่น” แม่เลี้ยงเดี่ยวผู้ซึ่งพาลูกชาย”อะตอม”มางานประชุมด้วย นุชนารถแม่ของ “อิฐ” ผู้ที่มีความเป็นลบค่อนข้างสูง ชัยวุฒิและโชติกาพ่อแม่จอมโอ้อวดของ “ข้าวฟ่าง” ผู้ที่คุยอวดในเรื่องของตนจนเกินจริง ก้องเกียรติพ่อของ “มาร์ค” ผู้ที่มีความคาดหวังในตัวของลูกชายสูง ฯลฯ เข้าร่วมประชุม ผู้ปกครองของแต่ละคนต่างพูดคุยถึงพฤติกรรมของลูกตนเองที่พวกเขารู้จักและอยากให้ผู้อื่นรับรู้ พอร์ช อิฐและน้ำอุ่น เพื่อนสนิทตั้งแต่สมัยมัธยมต้น พอร์ชและน้ำอุ่นเป็นหัวหน้าและรองหัวหน้าห้องที่ความสนิทสนมจนเหมือนเป็นแฟนกันและเพื่อนๆก็ยกให้เป็นคู่จิ้นของห้อง มาร์คหนุ่มนักกีฬาที่ใส่ใจกับการเรียนและการซ้อมมากกว่าเรื่องอื่นๆรอบตัว ข้าวฟ่างเด็กสาวธรรมดาที่ไม่ค่อยมีเพื่อนนอกจากน้ำอุ่นเป็นเป้าหมายการกลั่นแกล้งของแก๊งนางฟ้า กลุ่มสาวเชียร์ลีดเดอร์ซึ่งมีเกรซเป็นหัวหน้าแก๊งอยู่เป็นประจำ น้ำอุ่นทำงานพิเศษที่ร้านเบอร์เกอร์คิงเป็นประจำทุกวันเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระทางบ้าน เนื่องจากน้าสาวต้องแบกภาระเลี้ยงดูอะตอม ยาย และตัวเธอเองหลังจากที่พ่อและแม่เสียชีวิตไปแล้ว น้ำอุ่นเป็นคนขยันและมองโลกในแง่ดี มีอัธยาศัยดี จึงเป็นที่รักของเพื่อนร่วมงานในร้านทุกคน ข้าวฟ่างผู้ที่ไม่ค่อยมีเพื่อนมักจะมานั่งที่ร้านเพื่อคุยกับน้ำอุ่นและเล่น Facebook หรือ Line เป็นประจำโดยไม่ได้สนใจสิ่งรอบข้าง พอร์ช หนุ่มน้อยหน้าตาดีที่กำลังก้าวสู่วงการบันเทิงที่ต้องพบเจอเรื่องราวที่ไม่เคยคิดว่าต้องเจอ อิฐ ผู้ที่รักในดนตรีแต่ต้องทนอยู่กับปัญหาภายในบ้านที่ต้องหาทางออกในทางที่ผิดและได้รับการช่วยเหลือจากสีน้ำให้กลับมาใช้ชีวิตได้ดังเดิม แต่เรื่องราวมันจะดำเนินต่อไปด้วยซับซ้อนที่เพิ่มมากขึ้นจาก “ปม” ที่เกิดจากภูมิหลังของครอบครัว นิสัย สิ่งแวดล้อม อารมณ์ ความรู้สึก ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนที่ถูกปิดจะค่อยๆถูกคลายปมและสิ่งที่ฝังใจของพวกเค้าตลอดไป

ขอเป็นเจ้าสาวสักครั้งให้ชื่นใจ 2558

ขอเป็นเจ้าสาวสักครั้งให้ชื่นใจ (2558/2015) ตระกูล “วรรณดำรง” ตระกูลใหญ่ที่เริ่มต้นสืบเชื้อสายในไทยมาจากท่านเจ้าสัววรรณ ผู้ล่วงลับไปนานแล้ว ปัจจุบัน คุณปู่จรัล(เศรษฐา ศิระฉายา)เป็นเจ้าของธุรกิจหมื่นล้าน นั่นคือ “ธนาคารไทยธนกิจ” รวมทั้งกิจการในเครืออีกหลายรายการ คุณปู่จรัลมีน้องสาวแท้ๆ คือ คุณย่าพริ้มเพรา(โฉมฉาย ฉัตรวิไล) ที่ครองความเป็นโสดมาเนิ่นนาน เจ้าระเบียบในแบบคนรุ่นเก่า ไม่มีใครใน “วรรณดำรง” ที่กล้าขัดคำสั่งของเธอ ทั้งคู่มีหลานสาวคนโตสุดรัก วรรณวิวาห์ หรือ วีว่า (ภีรนีย์ คงไทย) วีว่า (ภีรนีย์ คงไทย) สาวนักเรียนนอกเจ้าของ “วรรณวิวาห์เวดดิ้ง” บริษัทรับจัดงานแต่งงานแบบครบวงจร ที่มีชื่อเสียงและกำลังมาแรงในวงการธุรกิจนี้ โดยวีว่ามีความใฝ่ฝันตั้งแต่เด็ก “หากโตขึ้นและเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม เธอจะได้สวมชุดเจ้าสาวที่สวยเริ่ดที่สุด พร้อมเข้าพิธีแต่งงานอันสุดแสนเพอร์เฟค“ วีว่ามีคู่หมั้นอยู่แล้วคือ ลาภิศ หรือ ลม (ธีรเดช เมธาวรายุทธ) หนุ่มหน้าตาดีมีเสน่ห์ เป็นเพื่อนเล่นกันมาตั้งแต่วัยเด็ก ลมได้ให้คำมั่นสัญญากับวีว่า เมื่อเค้าเรียนจบจากเมืองนอกจะขอเธอแต่งงานทันที แต่แล้วการสิ้นลมหายใจแบบไม่คาดฝันของคุณปู่จรัล ทำให้ทุกอย่างกลับตาลปัตร แทนที่วีว่าหลานสาวคนโตสุดรักจะได้เป็นผู้ครอบครองทรัพย์สินทั้งหมดตามที่หลายฝ่ายคาดไว้ คุณปู่จรัลกลับยกทรัพย์สินพร้อมกิจการทั้งหมดให้ ปูรณ์(วรินทร ปัญหกาญจน์) ลูกบุญธรรม ที่มีศักดิ์เป็นอาของวีว่า ความคาดหวังของทุกคนพังทลาย แต่ก็น้อมรับตามพินัยกรรมที่คุณปู่จรัลระบุไว้ วีว่ายังชังน้ำหน้าปูรณ์อยู่บ้าง ด้วยความที่คุณย่าพริ้มเพราปลูกฝังไว้ให้เกลียดชังอาปูรณ์ ที่เป็นแค่คนนอกสายเลือดหวังมากอบโกยเงินทอง ได้ใช้ชีวิตสุขสบายอย่างที่ไม่ควรได้รับ หลังเปิดพินัยกรรม คนที่เดือดร้อนเห็นมีแต่คุณหญิงแขอุไร(สรวงสุดา ลาวัลย์ประเสริฐ)กับลมเท่านั้น ทั้งสองโมโหจนขาดสติ เพราะพลาดเงินทองมหาศาลที่หมายไว้หลังจากการดองกับวีว่า เมื่อคุณย่าพริ้มเพราเอ่ยปากเรื่องแต่งงาน คุณหญิงแขอุไรทำเฉไฉบอกปัดและขอเลื่อนออกไปทันที ใจเด็ด(สมมาตร ไพรหิรัญ)พ่อของวีว่าถึงกับโมโห รู้เช่นเห็นชาติความละโมบของคุณหญิงแขอุไรก็คราวนี้ ที่สำคัญทำให้ลูกสาวสุดรักต้องเสียชื่อว่าถูกฝ่ายชายทิ้งก่อนแต่ง วีว่าจะต้องตกเป็นขี้ปาก เม้าท์มอยและเสียงหัวเราะเยาะในแวดวงไฮโซอย่างแน่นอน วันหนึ่ง ขณะวีว่ากำลังขับรถอยู่มีมอเตอร์ไซค์ขับมาขนาบข้าง ชายสวมหมวกกันน็อคชักปืนขึ้นยิงใส่วีว่าทันที ในความฝันอันเลือนราง คุณลึกลับ(จรรยางค์ ดีกุล)ชายหนุ่มสวมชุดขาวเดินมาหาวีว่า วีว่าถามว่าเธอตายแล้วเหรอ แล้วเขาเป็นใคร ทำไมถึงมาหาเธอในฝันได้ ชายหนุ่มขำแล้วบอกจะพาเธอกลับไปส่ง เบื้องบนต้องการให้เธอไปอยู่ในอีกร่างหนึ่ง ที่บังเอิญเสียชีวิตพร้อมกัน วีว่าสะลึมสะลือตื่นขึ้นมา เธอนอนอยู่บนเตียงในโรงพยาบาล และเมื่อเธอรู้สึกตัว คนที่เข้ามาแสดงความดีใจกลับเป็นลมและพี่บี(คัชชาเทพ เอี่ยมศิริ) ผู้จัดการส่วนตัวของมุกริน(รัชวิน วงค์วิริยะ)ดารานางแบบชื่อดัง ผู้หญิงที่ลมบอกกับเธอว่าจะแต่งงานด้วย วีว่างุนงงว่าสองคนมาทำอะไรที่นี่ ทำไมไม่ใช่พ่อแม่หรือเจ้าขาน้องสาวเธอที่มาเยี่ยมไข้ แต่ไม่กี่นาทีต่อมา เมื่อเธอได้ส่องกระจก เธอก็ต้องพบคำตอบสุดช็อค เพราะในขณะนี้วีว่าอยู่ในร่างของมุกรินเรียบร้อยแล้ว เธอกลายเป็น มุกริน แม็กซ์เวลส์ ไปได้อย่างไร!!! แล้วเรื่องราวบางส่วนก็ค่อยๆ คลี่คลาย เมื่อวีว่าในร่างของมุกรินรู้ความจริงว่า มุกรินเสียใจที่ถูกพี่บีผู้จัดการส่วนตัวแก้แค้น ด้วยการปล่อยภาพหลุดของมุกรินที่คลอเคลียกับผู้ชายหลายคนออกสื่อจนเป็นข่าวฉาว แถมยังถูกลมคนรักบอกเลิกอีก มุกรินเสียใจมาก จึงกรีดข้อมือตัวเอง ลมมาเห็นเข้ารีบพาส่งโรงพยาบาลทันที เป็นเวลาเดียวกับที่วีว่าถูกคนร้ายยิงพอดี มุกรินหัวใจหยุดเต้นไปนาน แต่จู่ๆ หัวใจของมุกรินก็กลับมาเต้นอีกครั้ง เธอฟื้นคืนสติแถมไม่มีอาการบาดเจ็บอะไรเลยราวกับปาฏิหารย์ ขณะเดียวกันวีว่าที่ยังไม่ตาย กลับต้องกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา ไม่รู้จะฟื้นเมื่อใด ปูรณ์ตกใจและเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นมาก เขาโอบกอดร่างของวีว่าแล้วร้องไห้อย่างคนเสียสติ เขาอยากให้เธอฟื้นขึ้นมาเจอเขาเดี๋ยวนี้ เขาจะไม่หลบหนี ไม่ห่างหายไปจากเธออีกตลอดกาล ทุกอย่างอยู่ในสายตาของวีว่าในร่างมุกริน วีว่าเข้าใจชัดเจนว่าอาปูรณ์รักเธอเหมือนเดิม แต่ที่อาปูรณ์ต้องหายตัวไป เพราะทำตามคำสั่งคุณย่าพริ้มเพรา เรื่องราวเข้มข้นขึ้นไปทุกที แต่เรื่องราวความรักของทั้งคู่จะเป็นอย่างไร? อาปูรณ์กับ วีว่าจะฝ่าฟันอุปสรรคและปัญหาไปได้หรือไม่? “วีว่า” จะได้สวมใส่ชุดเจ้าสาวที่สวยเริ่ดดดที่สุดอย่างที่ฝันไว้หรือเปล่า? ติดตามชมได้ใน “ขอเป็นเจ้าสาวสักครั้งให้ชื่นใจ”

คุณชายรักเร่ 2557

คุณชายรักเร่ (2557/2014) เหตุเกิดจากข้อความที่ระบุในพินัยกรรม กับคำขอร้องครั้งสุดท้ายก่อนที่ ม.ร.ว.สิรดนัย(สุเชาว์ พงษ์วิไล)จากไปด้วยโรคหัวใจวาย ที่มอบหมายให้ ม.ล.ภูผาเทพ หรือ รักเร่(แฟร์-กันต์ดนย์ อาคาซาน)ติดตามคุณใหญ่ หรือ ม.ล.อัศวเมธา(สรณัฐ ยุปานันท์) ให้มารับมรดกตามที่ระบุในพินัยกรรม หลังจากตัดเป็นตัดตายกับอัศวเมธาที่ยืนยันจะแต่งงานกับฟ้ารุ่ง(จ๊ะโอ๋-พรหมภัสสร เจียมสกุลศักดิ์)ลูกสาวชาวบ้าน หลังจากอัศวเมธาแต่งงานไป รัชนีกร(มิ๊ง-ฐรินดา กรรณสูต)ผู้เป็นมารดาก็ตรอมใจตาย สร้างความเศร้าโศกเสียใจให้กับท่านสิรดนัย ถึงขนาดออกปากห้ามไม่ให้ภูผาเทพติดต่อกับพี่ชายอีกต่อไป ขณะเดียวกันภูผาเทพก็ถูกส่งไปเรียนต่อยังต่างประเทศ เขาจึงไม่ได้ติดตามข่าวคราวของพี่ชายอีกเลย นอกจากสิรดนัยจะมีลูกชายสองคนแล้ว เขากับรัชนีกรยังรับอุปการะ พีรณัฐ(เจมส์-กิจเกษม แมคแฟดเดน) ซึ่งมีอายุรุ่นราวคราวเดียวกับอัศวเมธา โดยจดทะเบียนรับเป็นบุตรบุญธรรม แถมยังให้ใช้นามสกุล “ศิรดารังสรรค์” หลังจากที่ วราวุฒิ(ธนายง ว่องตระกูล)ลูกน้องคนสนิทและไว้ใจนำมาฝากไว้ ด้วยเหตุผลที่ว่าพ่อแม่ของพีรณัฐซึ่งเป็นญาติห่างๆ ของวราวุฒิถูกพวกค้ายายิงตาย สิรดนัยส่งเสียเลี้ยงดูพีรณัฐจนกระทั่งเรียนจบปริญญาตรี และให้ชายหนุ่มเข้าทำงานใน บริษัท ศิรดารังสรรค์ กรุ๊ป ที่ดำเนินงานเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ วราวุฒิจะเป็นคนคอยดูแลช่วยเหลืองานของสิรดนัยแล้ว พีรณัฐยังถือเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงสำคัญคนหนึ่งของศิรดารังสรรค์ ตั้งแต่เล็กจนโตภูผาเทพให้ความเคารพรักพีรณัฐดุจพี่ชายคนหนึ่ง แต่แล้วความรู้สึกนั้นต้องเปลี่ยนไป เมื่อรู้ว่าพีรณัฐแอบคบหากับ นาถลดา(แอ-ภัทราริน ยอดกมล) แฟนสาวของตนเอง ภูผาเทพจึงต้องยอมหลีกทางให้พี่ชายบุญธรรม ด้วยเหตุนี้สองหนุ่มจึงมองหน้ากันไม่ติดนับจากนั้นเป็นต้นมา เมื่อถึงวันเปิดพินัยกรรม มนตรี(สุรศักด์ ชัยอรรถ)ทนายประจำตระกูล ได้อ่านพินัยกรรมที่สิรดนัยระบุให้อัศวเมธา หรือทายาทของคุณใหญ่ เป็นผู้มีสิทธิ์ได้รับมรดกเป็นเงินสดในธนาคารจำนวนหนึ่งพันล้านบาท รวมทั้งหุ้นในศิรดารังสรรค์กรุ๊ปอีกครึ่งหนึ่ง ส่วนที่เหลือตกเป็นของภูผาเทพ ด้านพีรณัฐได้รับมรดกเป็นที่ดินในต่างจังหวัดเพียงสิบไร่ และให้ได้รับเงินเดือน เงินปันผลจากบริษัทตามจำนวนหุ้นที่สิรดนัยให้ไว้ตั้งแต่เขาเริ่มเข้ามาทำงาน นอกจากนั้นพินัยกรรมยังระบุอีกว่า หากอัศวเมธาหรือทายาทไม่สามารถมารับมรดกภายในหนึ่งปีได้ เงินสดในธนาคารพร้อมทั้งหุ้นจะถูกแบ่งออกเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งจะตกเป็นของพีรณัฐ ส่วนอีกครึ่งให้บริจาคเพื่อการกุศล จากข้อความในพินัยกรรม สร้างความไม่พอใจให้กับพีรณัฐเป็นอย่างมาก แต่คนที่พยายามเก็บซ่อนความผิดหวังอย่างสุดซึ้งกลับกลายเป็นวราวุฒิ ภูผาเทพถูกรอบทำร้ายขณะเตรียมออกตามหาพี่ชายและครอบครัว ทำให้เขาและศักดิ์ (แจ๊ส ชวนชื่น) ลูกน้องคนสนิท ต้องปลอมตัวเป็นพ่อค้าเร่ นามว่า “รักเร่” กับ “นะจ๊ะ” (ศักดิ์) โดยซื้อรถมาดัดแปลงเป็นมินิมาร์ทเคลื่อนที่และลงทุนเปลี่ยนลุคส์ จากคุณชายหล่อเฟี๊ยวมาเป็นหนุ่มจอมเปิ่น ทั้งคู่มาปรากฏตัว ณ ตำบลเนินไหแตก ชาวบ้านไม่ว่าเด็ก ผู้ใหญ่ คนแก่ที่ได้ยินเสียงประกาศของรถเ ร่ ต่างพากันออกมาซื้อของอย่างเนืองแน่น ไม่เว้นแม้แต่ น้องนน หรือ ชญานน(แม็ค-ณัฐพัชร์ นิมจิรวัฒน์) ลูกชายวัยห้าขวบของฝนริน(มายด์-วรัทยา ว่องชยาภรณ์) ซึ่งฝนรินไม่ไว้วางใจรักเร่นัก เพราะรักเร่มีท่าทางแปลกๆ เลยกลัวว่าจะขายของบังหน้าแต่เบื้องหลังอาจเกี่ยวข้องกับพวกค้ายาเสพติด ที่เริ่มมาระบาดมอมเมาผู้คนในตำบล รักเร่เป็นพ่อค้าที่อารมณ์ดี ซื่อสัตย์กับลูกค้าเสมอต้นเสมอปลาย ชายหนุ่มเลยได้ใจสาวๆ ในตำบลเนินไหแตกไปครองอย่างง่ายดาย และหนึ่งในนั้นก็คือ ชมนาด(โบว์-โชติมา นวคุณากร) ลูกสาวคนเดียวของ ชัชชัย(เวนซ์ ฟอลโคเนอร์) ซึ่งเป็นเจ้าของโรงสีที่ร่ำรวย เบื้องหลังเป็นนักค้ายาเสพติดรายใหญ่ ถือเป็นผู้มีอิทธิพลคนหนึ่งที่ทางตำรวจกำลังจับตามองเป็นพิเศษ ขณะเดียวกันวราวุฒิก็รู้ความจริงว่าน้องนนคือทายาทศิรดารังสรรค์ เลยบุกมาจับเพื่อหวังกำจัดให้สิ้นซาก ฝนรินกับรักเร่ช่วยกันออกตามหา ชะตาชีวิตของน้องนนท์จะเป็นเช่นไร...เมื่อความจริงทุกอย่างถูกเปิดเผย...ฝนรินจะยกโทษให้ภูผาเทพหรือไม่ ติดตามชมได้ใน " คุณชายรักเร่ "

มาเฟียตาหวาน 2556

มาเฟียตาหวาน (2556/2013) เสี่ยปฐพี หรือ เจ้าพ่อหลี่ (จาตุรงค์ ม๊กจ๊ก) แห่งแก๊งพยัคฆ์ขาวได้ถูกลอบสังหารอย่างลึกลับ ทำให้เหล่าสมาชิกต่างทำท่าจะเปิดศึกเพื่อแย่งชิงความเป็นใหญ่ ก่อนตายเจ้าพ่อหลี่จึงมอบหมายให้ เฮียกำชัย (กฤตย์ อัทธเสรี) สมาชิกอาวุโสผู้เป็นสหายรักของตน ออกตามหาทายาทนอกสมรสที่เกิดกับหญิงสาวชาวไทยผู้หนึ่ง ซึ่งเรื่องราวของเธอกับเด็กในท้องถูกปกปิดเป็นความลับมาตลอด 50 ปี อารักษ์ หรือ อาลัก (ฐปนัท สัตยานุรักษ์) เป็นหลานชายคนที่หกของเฮียกำชัยซึ่งมีใจรักด้านเสียงดนตรี แต่ด้วยพันธะที่สืบมาของครอบครัว เลยทำให้เขาต้องกลายมาเป็นที่ปรึกษาให้สกุลหลี่ และถูกมอบหมายให้เดินทางไปหาดใหญ่ เพื่อตามหาทายาทคนสุดท้ายของตระกูล โดยเฮียกำชัยได้มอบแหวนเขี้ยวพยัคฆ์ซึ่งเป็นแหวนประจำตำแหน่งหัวหน้าให้เขานำติดตัวไปด้วยเพื่อยืนยันฐานะ ขณะเดินทางไปหาดใหญ่เขากลับถูก สาลี่ (ณัฐพิมล นาฏยลักษณ์) เด็กหนุ่มหน้าหวานแถวท่ารถฉกเงินไปจนหมดกระเป๋า ซ้ำยังหลอกให้ไปมีเรื่องกับนักเลงจนหวิดถูกรุมสกรัมอีกด้วย อารักษ์ตามล่าสาลี่จนถึงบ้านเพื่อทวงหนี้แค้น แต่เมื่อได้เจอกับยายของสาลี่เขาจึงรู้ว่าแท้จริงสาลี่ก็คือหลานของเจ้าพ่อหลี่นั่นเอง เมื่อสาลี่ยืนกรานว่าจะอยู่เลี้ยงยายที่หาดใหญ่ โดยไม่ยอมตามอารักษ์ไปรับตำแหน่งเจ้าพ่อ อารักษ์จึงต้องสร้างสถานการณ์ว่าแก๊งคู่อริของเจ้าพ่อหลี่ได้ส่งคนมาทำร้ายสาลี่เพื่อบีบบังคับเธอ แต่คาดไม่ถึงว่าจะมีคนมาตามฆ่าสาลี่จริง ๆ ทำให้ทั้งสองต้องหนีตายกันจ้าละหวั่น ระหว่างนั้นเองอารักษ์ก็พบว่าสาลี่เป็นผู้หญิง แต่ปลอมเป็นชายเพื่อความสะดวกในการเป็นมิจฉาชีพ แถมเธอยังขโมยแหวนเขี้ยวพยัคฆ์ไปจากเขาอีกด้วย สาลี่สวมแหวนเขี้ยวพยัคฆ์ขณะวิ่งหนีเพราะกลัวมันจะหล่นหาย แต่ทันทีที่เธอสวมมันวิญญาณของเจ้าพ่อหลี่ที่สถิตย์อยู่ในแหวนก็ได้เข้าสิงร่างของเธอทันที ทำให้สาลี่สามารถออกลวดลายวิชากังฟูได้อย่างปาฏิหาริย์ เธอเล่นงานพวกคนร้ายจนแตกกระเจิงหนีไป เหตุการณ์ไล่ล่าที่เกิดขึ้นทำให้ยายของสาลี่บาดเจ็บสาหัส สาลี่จึงยอมตามอารักษ์ไปกรุงเทพฯ เพื่อหาเงินมารักษายาย เขาสั่งให้เธอปิดเรื่องเพศของตัวเองเป็นความลับ เพราะเกรงว่าเหล่าสมาชิกหัวเก่าจะไม่ยอมรับผู้หญิงเป็นหัวหน้า จากนั้นอารักษ์ก็ให้อาต้า (วิวิศน์ บวรกีรติขจร) ญาติผู้น้องจอมบู๊ของตน มาเป็นบอดี้การ์ดให้ และให้ ซินดี้ (อาชิรญาณ์ ภีระพัภร์กุญช์ชญา) อดีตเลขาสุดเซ็กซี่ของเจ้าพ่อหลี่ มาปรับปรุงบุคลิกของสาลี่ให้ดูเป็นชายยิ่งกว่าเดิม สาลี่ถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการในที่ประชุม การมาของเธอทำให้สงครามแก่งแย่งอำนาจของคนในแก๊งค์ยุติลง แต่ทุกคนก็ยังกังขาอยู่ว่าเด็กหนุ่มตาหวานผู้นี้จะนำพาองค์กรไปได้สักกี่น้ำ โดยเฉพาะ สมจิตร (นุ้ย เชิญยิ้ม) หลานเขยของเจ้าพ่อหลี่ผู้หมายมั่นจะคลองบัลลังก์มาช้านาน ได้เสนอแผนว่าควรทำบุญศพเจ้าพ่อหลี่ให้ครบร้อยวันเสียก่อน จึงค่อยให้สาลี่รับตำแหน่ง ทั้งนี้ก็เพื่อถ่วงเวลาหาทางกำจัดสาลี่นั่นเอง การกระทำของสมจิตรได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจาก อาคิ้ม (พรสุดา ต่ายเนาว์คง) ภรรยาสาวที่ต้องการให้สามีตนก้าวมาเป็นใหญ่ ผิดกับ อาหงส์ (วารินทร์ วงค์คม) น้องสาวของเธอที่เอาแต่สนใจเรื่องเย็บปักถักร้อย ไม่แยแสด้านการเมืองสักนิด สาลี่ถูกชะตากับอาหงส์เพราะสงสารที่ไม่มีเพื่อน จึงมักชวนไปเที่ยวเปิดหูเปิดตาอยู่เสมอ ซึ่งในระหว่างนั้นสมจิตรก็พยายามสังหารสาลี่อยู่หลายครั้ง แต่วิญญาณของเจ้าพ่อหลี่ที่อยู่ในแหวนก็ออกมาช่วยสาลี่เอาไว้ทุกครั้ง ระหว่างนั้นคนสนิทของสมจิตรก็วางแผนอุ้มตัวสาลี่กับอารักษ์มาฆ่าทิ้งกลางป่า แต่ระหว่างทางอารักษ์ก็ได้เสี่ยงตายปกป้องสาลี่ไว้จนหนีรอดมาได้ ระหว่างรอนแรมหลบหนีอยู่ในป่า สาลี่ก็คอยดูแลอารักษ์ที่บาดเจ็บเป็นอย่างดี ทำให้อารักษ์เริ่มสัมผัสได้ถึงความน่ารักแบบจริงใจของสาลี่ แต่เขาไม่ต้องการให้แผนทั้งหมดต้องมาพังเพราะเรื่องรักใคร่ ๆ จึงพยายามหลอกตัวเองให้ลืมความรู้สึกนี้ไป อาคิ้มคิดจะทุ่มกายหว่านเสน่ห์กับสาลี่ เพื่อหวังจะอาศัยเรื่องชู้สาวมาทำลายเครดิตของอีกฝ่าย แต่สาลี่กลับไม่สนใจอาคิ้มเลยแม้แต่น้อย ทำให้อาคิ้มเริ่มเข้าใจว่าสาลี่เป็นเกย์ ข่าวลือเรื่องสาลี่แต๋วแตกแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว เรื่องราวชุลมุนวุ่นวายจึงเริ่มขึ้น !! งานนี้ถ้าสาลี่ถูกจับได้ว่าตนคือผู้หญิง !! ทุกคนจะยอมให้เธอเป็นหัวหน้ามาเฟียต่อไปหรือไม่? ติดตามชมความสนุกสนานเหล่านี้ได้ใน ละครมาเฟียตาหวาน

หลบผี ผีไม่หลบ 2556

หลบผี ผีไม่หลบ (2556/2013) นักศึกษาคณะนิเทศศาสตร์ สาขาภาพยนตร์ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งมีโครงการจะผลิตภาพยนตร์สารคดีเพื่อส่งเข้าประกวด ซึ่งในทีมนี้ประกอบด้วย ญาดา (พรภัสสร อัตถปัญญาพล), วิทย์, แป๋ม, อู๊ดและนุ่น โดยมีอาจารย์สำอาง (อุเทน คตน่วม) ทำหน้าที่เป็นอาจารย์ที่ปรึกษา ญาดาตกลงกับทีมว่าจะทำหนังสารคดีแนวผี ๆ กัน โดยเลือกโลเคชั่นชนบทที่ยังมีความเชื่อในเรื่องลี้ลับ เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศ เมื่อถึงกำหนดนัดหมาย ทั้งหมดก็พากันออกเดินทางไปยังสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ ซึ่งอยู่ในอำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี แต่ก่อนที่จะไปถึงจุดหมายปลายทางนั้นเอง จู่ ๆ รถก็เกิดเสียแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย จวบจนกระทั่งพลบค่ำก็มีรถอีแต๊กของ คำมี ชาวบ้านที่เพิ่งกลับจากไร่ขับผ่านมา คำมีพาทั้งหมดไปขออาศัยพักที่บ้านของผู้ใหญ่มา ผู้ใหญ่บ้านแห่งตำบลบ้านโคก และยังช่วยลากรถที่เสียไปให้ บุญรอด ช่างประจำหมู่บ้านช่วยซ่อมให้ด้วย ผู้ใหญ่มากับนางฟ้อนผู้เป็นเมียให้การต้อนรับขับสู้ทุกคนด้วยความเต็มใจยิ่งและยังกำชับทุกคนว่าห้ามออกจากบ้านดึก ๆ ดื่น ๆ ตามลำพังเป็นอันขาด เพราะเวลานี้มีผีปอบกำลังออกอาละวาดอยู่ในหมู่บ้าน แต่ญาดากลับคิดว่าเป็นโอกาสที่ดีมาก เพราะถ้าทีมของเธอสามารถถ่ายภาพผีปอบตัวจริง ๆ ได้ล่ะก็หนังของพวกเธอมีหวังดังเป็นพลุแตกแน่นอน กลุ่มของญาดาคิดว่าเรื่องผีปอบยายม้วน (ปนัดดา โกมารทัต) กับวานี (ณัทธมนกาญจน์ ศรีนิกรโชติ) อาจจะมีเบื้องลึกเบื้องหลังซ่อนเร้นอยู่ จึงอยากจะสืบหาความจริงต่อไป ประกอบกับรถที่เสียนั้นบุญรอดก็ยังหาอะไหล่มาซ่อมไม่ได้ ทั้งหมดจึงตกลงใจที่จะพักอยู่ที่นี่ต่อไปและเปลี่ยนโลเคชั่นที่จะใช้ถ่ายทำหนังสารคดีแนวผี ๆ มาเป็นที่บ้านโคกซะเลย เวลาต่อมา เอ๊ด (รัชชานนท์ สุประกอบ), ปาล์ม, เป็ด, ชัย, เจนและหนูนา กลุ่มนักศึกษาคณะวิทยาศาสตร์ ซึ่งไม่เชื่อว่าผีมีจริงในโลกก็ได้เดินทางมาพร้อมกับ อาจารย์พูน (โจ บอยสเกาต์) ซึ่งเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาเพื่อพิสูจน์เรื่องนี้ด้วยเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ และก็บังเอิญมารถเสียบริเวณเดียวกันกับทีมแรก และยังได้พบกับคำมีขับรถอีแต๊กผ่านมาเหมือนกันเปี๊ยบ คำมีพาทั้งหมดไปพบกับผู้ใหญ่มาและได้พักอยู่ที่บ้านอีกหลังซึ่งอยู่ใกล้ ๆ กับบ้านที่กลุ่มของญาดาพักอยู่ ทั้งสองกลุ่มเริ่มเปิดฉากไม่ลงรอยกันตั้งแต่ได้พบหน้า เพราะก่อนหน้านี้ก็ไม่ค่อยจะกินเส้นกันอยู่แล้ว โดยเฉพาะญาดากับเอ๊ดซึ่งเคยเป็นคู่รักกันในอดีต แต่มีเรื่องบาดหมางจนถึงขั้นตัดสัมพันธ์กันไป เปลี่ยนสถานะจากคนรักมาเป็นศัตรูคู่ปรับที่ต่างก็ไม่มีใครยอมใคร เอ๊ดกับญาดาถึงขั้นเดิมพันกันว่าถ้าทีมไหนสามารถพิสูจน์ได้ก่อนว่าผีมีจริงหรือไม่ก็จะเป็นผู้ชนะ และผู้แพ้จะต้องยอมเป็นเบ๊ให้ผู้ชนะใช้งานได้ทุกอย่าง ทีมของญาดากับวิทย์เริ่มถ่ายทำสารคดีเกาะติดวิญญาณโดยมีการสัมภาษณ์ชาวบ้านหลายคนถึงเรื่องวิญญาณผีเฮี้ยนที่ชาวบ้านเคยประสบพบมา ซึ่งชาวบ้านต่างก็ยืนยันว่าที่บ้านโคกมีผีจริงและเฮี้ยนกว่าที่อื่นแน่นอน วิทย์เสนอให้ถ่ายทำบางส่วนเป็นภาพเหตุการณ์จำลองตามคำบอกเล่าของชาวบ้านเพื่อให้ดูสมจริง โดยให้ชาวบ้านมาร่วมแสดงเป็นผีด้วย และพอถึงเวลาถ่ายทำจริงตัวประกอบเหล่านั้นก็แสดงได้สมจริงมากไม่ว่าจะแสดงเป็นผีหัวขาด, ผีไส้ไหล, ผีตาโบ๋, ผีกระสือ ฯลฯ แต่ละตัวก็ดูสมจริงอย่างน่าทึ่ง ทั้ง ๆ ที่ไม่มีทีมเอฟเฟกต์มาช่วยแต่งหน้าแม้แต่คนเดียว ซึ่งภาพที่ออกมานั้นทำให้ทุกคนพอใจมาก แต่บางคนก็เริ่มรู้สึกว่ามีอะไรแปลก ๆ ซะแล้ว ส่วนทีมของเอ๊ดกับปาล์มก็พากันออกสำรวจหาวิญญาณด้วยการใช้เครื่องมือไฮเทคตรวจจับคลื่นความถี่ และปรากฏว่าเครื่องจะร้องทุกครั้งที่มีชาวบ้านเข้ามาอยู่ใกล้ๆ แต่เอ๊ดคิดว่าเครื่องอาจจะขัดข้องจนทำงานผิดพลาด แต่ไม่ว่าจะลองแก้ไขแล้วนำมาทดลองกี่ครั้งผลก็ยังเป็นเหมือนเดิมคือทุกครั้งที่มีชาวบ้านเข้ามาใกล้เครื่องก็จะส่งสัญญาณดังขึ้นทันที แต่พอทีมของญาดากลับมาเช็กภาพในเทปวิดีโอที่ถ่ายไว้กลับปรากฏว่าเทปเสียทั้งหมด จึงไม่มีหลักฐานมายืนยันได้ว่าผีที่ทุกคนเห็นนั้นเป็นผีจริงหรือว่าผีปลอมกันแน่ แต่เอ๊ดมั่นใจว่าสิ่งที่ทุกคนเห็นจะต้องมีใครสักคนที่อยู่เบื้องหลังแล้วจัดฉากขึ้นมาหลอกลวงแน่ ๆ และเขาจะต้องกระชากหน้ากากพวกลวงโลกพวกนี้ให้ได้ อาจารย์สำอางกับอาจารย์พูนต้องอกหักยับเยินเมื่อถูกวานีปฏิเสธรักแถมทั้งคู่ยังได้เห็นวานีกำลังจับไก่กินสด ๆ ก็รู้ทันทีว่าวานีเป็นผีปอบตามที่ชาวบ้านบอกจริง ๆ อาจารย์สำอางกับอาจารย์พูนเสียใจจนถึงขั้นดวลเหล้ากันจนเมามาย และที่ช็อกยิ่งกว่าก็เมื่อไปเจอภาพถ่ายที่ใช้ตั้งหน้าศพของผู้ใหญ่มาซึ่งเสียชีวิตมานานแล้ว ผู้ใหญ่มากับนางฟ้อนยอมรับกับทุกคนว่าเขากับเมียเสียชีวิตกันแล้วจริง ๆ พอทุกคนรู้ว่าถูกผีหลอกก็รีบเผ่นแน่บไปหาหลวงพ่อทอง หลวงพ่อทองจึงยอมเล่าความจริงเรื่องหมู่บ้านโคกให้ทุกคนฟัง เกิดอะไรขึ้นกับหมู่บ้านโคกกันแน่? และความรักระหว่างเอ๊ดกับญาดาจะกลับมาเหมือนเดิมอีกครั้งหรือไม่? ติดตามชมได้ใน ละครหลบผี ผีไม่หลบ

กองร้อยกระทะเหล็ก 2556

กองร้อยกระทะเหล็ก (2556/2013) ณ กองร้อยที่ 88 ในช่วงเวลาใกล้เที่ยง บรรยากาศในหน่วยประกอบเลี้ยงดูคึกคักวุ่นวาย พลสูทกรรม 5 นาย กำลังวุ่นกับการเตรียมเสบียงอาหารสำหรับมื้อเที่ยง ปราบ กำลังถกเถียงกับ จ่าโย่ง ผู้บังคับหน่วยหัวอนุรักษ์เรื่องขั้นตอนของการทำอาหาร โดยมี หนูยิ้ม ลูกสาวจ่าโย่งแอบเชียร์ปราบอยู่ในใจ ปีนี้หนูยิ้มเรียนจบแล้ว กำลังรอเรียกสัมภาษณ์งาน แต่ถึงยังไงจ่าโย่งก็ยังคงเป็นห่วงและหวงหนูยิ้มอยู่ดี และมักจะหนีบลูกสาวติดไปด้วยทุกที่ แม้แต่เวลาออกปฏิบัติงาน หนูยิ้มเลยกลายเป็นลูกมือของพ่อไปโดยปริยาย ครั้นหนูยิ้มจะสมัครเป็นทหารรับราชการให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย พ่อก็ไม่เห็นด้วย อีกด้านหนึ่ง พลทหารบาน กำลังสับหมู หั่นผักอย่างเมามันถึงขั้นเขียงแตก เพราะความบ้าพลัง ส่วน หมู่เลี้ยงกำลังละเมียดละไมกับการเด็ดพืชผักสมุนไพร และดมกลิ่นของมันไปด้วย ทำให้หนูยิ้มหงุดหงิดใจมาก ๆ กับความเชื่องช้าของเลี้ยง เพราะหนูยิ้มเป็นผู้หญิงที่คล่องแคล่วว่องไว กว่าอาหารจะเสร็จ ปราบกับจ่าโย่งต้องได้เถียงกันไปหลายยก เรื่องราวของหน่วยประกอบเลี้ยงแห่งนี้เป็นอยู่อย่างนี้ทุกเมื่อเชื่อวัน วันนี้เป็นเวรปราบที่จะต้องนำอาหารไปเสิร์ฟให้ทหารในห้องรับ-ส่งวิทยุสื่อสาร แล้วปราบก็ต้องแปลกใจเมื่อไม่พบใครในห้องนั้น ขณะที่ปราบกำลังจะหันหลังออกจากห้อง ก็บังเอิญได้ยินเสียงดังลอดออกมาจากวิทยุใจความสำคัญคือ ทหารฝ่ายตรงข้ามได้จับทหารฝ่ายเราไว้เป็นตัวประกัน ทุกคนอยู่ในอันตราย ปราบไม่รอช้ารีบจดพิกัดไว้ แล้วเสียงผู้แจ้งก็หายไปพร้อมเสียงปืนรัวกระหน่ำ ความเป็น ความตายเท่ากัน ปราบถือกระดาษที่จดพิกัดไว้ในมือวิ่งออกไปหมายจะแจ้งให้ทุกคนทราบ แต่แล้วก็พบว่าเพื่อนทหารได้หายไปหมด เหลือแต่เพื่อน ๆ พลสูทกรรม ซึ่งยืนรอเก้ออยู่ที่โรงประกอบเลี้ยง ปราบรีบเล่าเรื่องที่ได้ยินให้เพื่อน ๆ ฟัง ทุกคนตกใจมาก ปราบออกความเห็นว่านี่เป็นโอกาสที่จะได้แสดงฝีมือให้ทุกคนเห็นว่าหน่วยของเราก็มีฝีมือเชิงรบเหมือนกัน ไม่ได้หน่อมแน้มปวกเปียกอย่างที่โดนล้อเลียน ทุกคนเห็นด้วย โดยเฉพาะหนูยิ้มซึ่งรอมานานที่จะได้แสดงความสามารถเฉพาะตัวที่คล่องแคล่วว่องไวและเก่งในเชิงมวยและการต่อสู้ ส่วนบาน หนูยิ้มว่าไงบานว่างั้น บานมีสมองก็เหมือนไม่มีแต่พละกำลังเหลือเฟือ แม้จ่าโย่งจะค้านแต่ก็ไม่มีใครฟัง 4 หนุ่มสาวออกค้นหาอาวุธแต่ก็ไม่พบ จึงนำข้าวของที่ใช้ในครัวเท่าที่จะหาได้ติดตัวไป ปราบพกที่จุดเตาแก๊สกับขวดน้ำมันไป หนูยิ้มมือผัดเอากระทะกับตะหลิวติดตัวไป บานได้อีโต้ 2 อัน ส่วนเลี้ยงได้ขวดพริกไทยกับพริกป่นไป จ่าโย่งไม่รู้จะเครียดหรือจะขำกับภาพที่เห็น พยายามโน้มน้าวให้ทุกคนล้มเลิกความตั้งใจ แต่ไม่มีใครฟัง จ่าโย่งยื่นคำขาดไม่ให้หนูยิ้มไป แต่หนูยิ้มไม่ยอม ด้วยความที่อยากจะเอาใจหนูยิ้ม บานจึงฟาดหัวจ่าโย่งจนสลบไป ท่ามกลางความตกใจของทุกคน แต่ภารกิจก็ไม่อาจล้มเลิก ทุกคนมุ่งหน้าไปสู่พิกัดที่ได้รับแจ้งหมายจะให้ได้มาซึ่งคำว่า "ฮีโร่" ทั้ง 4 บุกมาถึงพิกัดข้าศึกได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายอย่างไม่น่าเชื่อ เบื้องหน้าเป็นข้าศึกที่อยู่ในชุดดำ ปกปิดหน้าตา ไม่ระบุสัญชาติ และทหารฝ่ายเราที่ตกเป็นเชลย หนึ่งในนั้นเป็นแพทย์ทหารนาม สายรุ้ง คุณหมอคนสวยลูกสาวนายทหารชั้นผู้ใหญ่ที่เลี้ยงหลงรัก แทบไม่น่าเชื่อใช้เวลาและเรี่ยวแรงไม่มาก ทั้ง 4 คน ก็สามารถใช้ตะหลิว มีด และไฟจัดการข้าศึกได้ไม่ยาก ท่ามกลางความตกใจระคนฉงนสนเท่ห์ของข้าศึก ทั้ง 4 เข้าประชิดตัวหัวหน้าข้าศึกจนจะสามารถช่วยสายรุ้งได้ หัวหน้าศัตรูซึ่งใช้ผ้าปิดหน้าปิดตาได้เข้ามาขวาง ทำให้มีการประมือกับปราบ ปราบอาศัยทีเผลอเล่นงานศัตรูด้วยไฟ แล้วแย่งปืนยิงใส่ศัตรูทันที หยุดเดี๋ยวนี้ !! เสียงตวาดอันแสนจะคุ้นเคยแผดขึ้นจนทุกคนตกใจและหยุดชะงัก ผบ.สุชาตินั่นเอง ผบ. เดินหน้าเครียดเข้ามาพร้อมกับเหล่าทหารและศัตรูที่ต่างถอดผ้าปิดหน้าออก ทั้ง 4 ตกตะลึงเมื่อพบว่าทหารศัตรูเหล่านั้น คือเพื่อน ๆ ทหารของเขานั่นเอง "มาทำบ้าอะไรกันเนี่ย เขาซ้อมรบกันอยู่โว้ย"

แสนซนค้นรัก 2556

แสนซนค้นรัก (2556/2013) ชาวดาวเฮร่าส่ง ทหาร นักวิทยาศาสตร์ นักบิน และลูกระเบิดมหาประลัยมายังโลกมนุษย์ เพื่อตัดสินชะตากรรมของชาวโลกว่าสมควรมีชีวิตอยู่ต่อไปหรือไม่ เพื่อให้การแฝงตัวเข้ามาในโลกสมบูรณ์แบบไม่ทำให้มนุษย์สังเกตเห็นถึงความแตกต่าง ชาวดาวเฮร่าจึงแปลงร่างเป็นมนุษย์ตามที่เขาสามารถรับชมได้จากละครโทรทัศน์ ซึ่งเป็นสิ่งเดียวที่สัญญาณคลื่นวิทยุโทรทัศน์สามารถเดินทางข้ามจักรวาลได้ เปงกุมปราสเลียน่า (ริด้า ณัฐพิมล นาฏยลักษณ์) นักวิทยาศาสตร์ผู้เฉลียวฉลาดแปลงร่างมาเป็นหญิงสาวที่มีหน้าตาสวยงามเหมือนนางเอกละคร มีชื่อเรียกทางโลกว่าวีนัส มีหน้าที่แฝงกายเป็นสาวใช้ของชาวโลก ตีย่าตีย่าแวนคร๊อฟ (ลักขณา วัธนวงส์ศิริ) สุดยอดนักรบแห่งดาวเฮร่าแปลงร่างเป็นกระถิน ตีย่าตีย่าแวนคร๊อฟแทบกระอักเมื่อต้องเรียนรู้ในการทำอาหาร เพื่อเลี้ยงดูครอบครัวนายจ้าง ซึ่งแต่ละคนก็เรื่องมาก ยูบิสมันตุมสล๊าพกีกี้ (เกริก ชิลเลอร์) นักบินยานอวกาศมือดีที่สุดในจักรวาลแปลงร่างเป็นไอ้ย้อย ผู้มีอาชีพรับจ้างขับรถตามบ้าน และท้ายที่สุดจากีมันร๊อฟฟสิบเจ็ด (ด.ช.อธิพิชญ์ ชุติวัฒน์ขจรชัย) จรวดมหาประลัยรุ่นล่าสุดที่สามารถทำลายโลกได้ภายในพริบตา ถูกแปลงให้เป็นเด็กผู้ชายแก้มยุ้ยน่ารักจอมซุกซนมีชื่อเป็นภาษาไทยว่าเด็กชายขีปนาวุธหรือน้องลูกดอก มีหน้าที่ระเบิดตัวเองตามเสียงส่วนใหญ่ ชะตากรรมของมนุษย์ต่างดาวทั้งสี่ต้องขวัญหนีกับพลุจำนวนมหาศาลที่ระเบิดขึ้นรอบ ๆ ตัวของพวกเขา จนทำให้พวกเขาทั้งสี่ต้องสละยานอวกาศ และดิ่งพสุธาลงมาบนพื้นพิภพอย่างไม่รู้ชะตากรรมและพวกเขาไม่สามารถติดต่อกลับไปสู่มาตุภูมิต่างดาวของเขาได้อีก มนุษย์ต่างดาวทั้งสี่ได้ตกลงมายังบริเวณบ้านของด็อกเตอร์เอกภพ (วสุ แสงสิงแก้ว) เจ้าของมหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่ง ด็อกเตอร์เป็นคนสมองเป็นเลิศ จึงมีความเข้มงวดในเรื่องการเรียนกับลูก ๆ เพราะมุ่งหวังให้ลูกเจริญรอยตามตัวเอง ด็อกเตอร์มีลูก 3 คนด้วยกัน ลูกชายคนโตคือ โอม (ฌอน จินดาโชติ) อายุ 18 ปี กำลังเรียนหมออยู่ชั้นปีที่ 1 ส่วนลูกคนรองคือ อิม (ปณิตา ธนโชติธรากร) อายุ 17 ปี กำลังเรียน ม.6 ส่วนลูกสาวคนสุดท้องคือ อาย (เอวีน่า เครื่องสาย) อายุ 7 ปี ครอบครัวของด็อกเตอร์เอกภพกำลังต้องการลูกจ้างทุกตำแหน่งไม่ว่าจะเป็น แม่ครัว พี่เลี้ยงลูกสาวคนเล็ก รวมไปถึงคนขับรถ เพราะเขาเพิ่งไล่ลูกจ้างออกยกครัว สเปคของลูกจ้างที่เขาเรียกร้องจากบริษัทจัดหางานก็คือ อ่านออกเขียนได้ ความรู้ขั้นต่ำระดับอนุปริญญา เมื่อมนุษย์ต่างดาวทั้งสี่ที่มีท่าทางแปลกประหลาด แต่ชาญฉลาด ปรากฏตัวขึ้นที่หน้าบ้านเขา เอกภพจึงเหมาเอาทันทีว่าคนทั้งสี่นี้คือลูกจ้างที่เขาต้องการ และเมื่อเขาแจกข้อสอบเพื่อทดสอบสติปัญญา เขาต้องช็อกเพราะข้อสอบที่ว่ายากแสนยาก คนใช้เหล่านี้กลับทำได้ เอกภพตัดสินใจรับลูกจ้างแปลกประหลาดทั้งสี่เข้ามายังครอบครัวของตน ซึ่งก็ตรงกับความต้องการของชาวเฮร่าที่จะการเรียนรู้พฤติกรรมของชาวโลกและวิเคราะห์อารมณ์ของมนุษย์เรื่อง รัก โลภ โกรธ หลง สถาบันครอบครัว ความเชื่อ และคุณค่าต่าง ๆ ของชาวโลก นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ชะตากรรมของโลกมนุษย์ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของมนุษย์ต่างดาวแปดชีวิตได้ร่วมเผชิญกับอุปสรรคนานัปการ และได้ร่วมใจแก้ปัญหาด้วยหัวใจของคนกับสิ่งประดิษฐ์ล้ำยุคจากต่างดาว เพื่อแสวงหาวิธีที่จะอยู่อย่างสันติสุขต่อไปในภายภาคหน้า แต่ถ้าไม่สำเร็จ พวกเขาทั้งแปดคนก็จะเป็นคนกลุ่มแรกที่จะแหลกสลายไปเป็นจุลพร้อม ๆ กับโลกมนุษย์ของเรา ด้วยอานุภาพของจากีมันร๊อฟฟสิบเจ็ด จรวดมหาประลัยรุ่นล่าสุด ที่เริ่มนับถอยหลังตั้งแต่ตกลงมาบนพื้นพิภพ มาร่วมลุ้นกันว่าพวกเขาจะแก้ปัญหาได้สำเร็จหรือไม่? ติดตามหาคำตอบกันได้ใน ละครแสนซนค้นรัก

ยัยบุญกับหมอทึ่ม 2556

ยัยบุญกับหมอทึ่ม (2556/2013) ทัชมา หรือ ทึ่ม สัตวแพทย์หนุ่มหล่อ จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์กำลังถ่ายรูปกับเพื่อนในวันรับปริญญาอย่างมีความสุข ผิดกับกำนันเถอะ ผู้เป็นพ่อที่ทั้งเสียหน้า และโกรธลูกชายตัวดีที่หลอกให้เขาหลงดีใจและไปป่าวประกาศทั่วตำบลว่า เรียนหมอรักษาคน แต่แท้จริงเรียนหมอรักษาสัตว์ ปารมี หรือลูกปลา น้องสาวทัชมาต้องปลอบให้พ่อใจเย็น ปารมีกำลังเรียนคหกรรมศาสตร์ปีสุดท้าย แม้พ่อจะไม่ชอบ แต่ปารมีก็อ้อนจนพ่อยอม ทัชมากลับไปอยู่บ้าน มีแป้นแล้น สาวประเภทสองวัยดึก สาวใช้เก่าแก่ของบ้านกำนันเถอะคอยดูแล และส่งตาหวานตลอดเวลา แต่ทัชมาเคยชินแล้วจึงไม่สะเทือนอะไร

กำนันเถอะกลับมาจากทำบุญที่วัดด้วยความอับอาย เพราะผู้คนต่างหัวเราะเยาะเขา กำนันเถอะโมโหที่ทัชมาไม่เห็นความหวังดี หลังจากภรรยาเสียชีวิตตั้งแต่ลูกยังเล็ก กำนันก็ดูแลลูกตามลำพัง คาดหวังว่าลูกจะได้ดีตามแนวที่ตนวางไว้ กำนันเถอะคิดดัดนิสัยทัชมาจึงไปที่ไร่สะท้านทรวง สระบุรี ขอให้บุญจิรา หรือ แม่บุญ เจ้าของไร่รับทัชมาทำงาน กำนันเถอะเป็นญาติห่าง ๆ กับแม่ของบุญจิรา และเคยทำงานที่ไร่ตั้งแต่รุ่นบุกเบิก แม้พ่อแม่บุญจิราจะเสียไปแล้ว แต่บุญจิราก็นับถือกำนันเหมือนญาติสนิท จึงตกลงรับทัชมา กำนันเถอะกลับมาบังคับให้ทัชมาไปเป็นโคบาลที่ไร่สะท้านทรวง ทัชมาไม่อยากไป แต่ขัดไม่ได้ เพราะพ่ออ้างว่าทัชมาต้องใช้หนี้ที่พ่อส่งเรียน แป้นแล้นอยากไปด้วย แต่กำนันไม่ให้ไป กำนันเถอะให้ไอ้จุก คนขับรถรับจ้างไปส่งที่ไร่ กำนันเคยมีบุญคุณกับไอ้จุก ไอ้จุกจึงไม่คิดเงิน แต่วันนี้ รถกระบะไม่อยู่ เขาเลยขับอีแต๋นไปส่งแทน ทัชมาแอบนินทาบุญจิราในใจว่าเป็นสาวแก่ เอาใจยาก แต่เมื่อได้พบตัวจริง ทัชมาตะลึง เพราะบุญจิรายังสาวและสวย แม้จะเป็นม่ายมีลูกถึงสามคนก็ตาม ทัชมาคิดว่าเธอคงมีสามีหลายเชื้อชาติ เพราะลูกที่เกิดมาหน้าตาไม่เหมือนกันเลย ไร่สะท้านทรวงกว้างใหญ่ มีทั้งฟาร์มโคนม คอกม้า โรงเรือนเพาะพันธุ์วัวชั้นดีส่งนอก และพื้นที่ทำการเกษตรแผนใหม่ บุญจิราให้ทัชมาทดลองงานที่ฟาร์มโคนมและเตือนให้เขาทำตามกฎของไร่อย่างเคร่งครัด เช้าวันแรก ทัชมาเจอการรับน้องจากลูก ๆ (บุญธรรม) ของบุญจิรา นำโดยทอมมี่ ลูกชายคนโตเชื้อสายเยอรมัน คองโก ลูกชายคนรองเชื้อสายเคนย่า และเด็กหญิงลูกหมี ลูกสาวคนเล็กเชื้อสายเกาหลี ทั้งสามเกณฑ์ลูกคนงานในไร่มาเป็นกองทัพอินเดียแดงไปถล่มทัชมา อรชร สาวใช้ที่ดูแลเรือนใหญ่ของบุญจิราบอกว่าหากทัชมาเป็นผู้หญิงจะโดนรับน้องด้วยการทำผีหลอก ในไร่สะท้านทรวง ส่วนที่เป็นบ้านพักคนงาน จะมีร้านค้า โรงอาหารสำหรับลูกจ้าง ร้านค้าแห่งเดียวในไร่เป็นของนางปีบ เมียตาผาน คนงานเก่าแก่ในไร่ ทุกเช้าทั้งคู่จะทะเลาะกันเสมอ โดยเฉพาะเมื่อตาผานดื่มเหล้าจะเห็นผู้ชายทุกคนเป็นชู้กับเมียตัวเอง เช้านี้ก็เช่นกัน ทัชมามาซื้อแปรงสีฟัน ก็ถูกตาผานหาว่าเป็นชู้กับนางปีบ จนเขาต้องกลับไปมือเปล่า ด้าน ทรงศักดิ์ หรือเสี่ยซ้ง หนุ่มตี๋ลูกชายเสี่ยทรงเกียรติ เจ้าของโรงเก็บพืชพันธุ์ทางการเกษตรแห่งใหญ่มาตามจีบบุญจิรา และมีของกำนัลมาด้วยทุกครั้ง เด็ก ๆ ไม่ชอบทรงศักดิ์เลย เพราะรักและหวงแม่มาก ที่สำคัญทรงศักดิ์ขี้เหนียว และชอบกดขี่คนอ่อนแอกว่า จึงถูกเด็ก ๆ เรียกลับหลังว่า ตี๋แสบ ระหว่างที่ทรงศักดิ์คุยกับบุญจิรา เด็ก ๆ แอบยิงหนังสติ๊กใส่ทรงศักดิ์จนล้มด้วยความสะใจ และยอมให้แม่ลงโทษ ทัชมาเจอตาผานที่ฟาร์ม ตาผานหายเมาจำทัชมาไม่ได้จึงทักทายอย่างดี และพาทัชมาเดินดูรอบฟาร์มพร้อมเล่าสาเหตุที่ไม่เลี้ยงโคเนื้อ เพราะบุญจิราสงสารไม่อยากส่งพวกมันไปโรงฆ่าสัตว์ ทำให้ทัชมาประทับใจ ตกเย็น ทัชมากลับที่พักก็ถูกลูกดอกลอบทำร้าย แต่เขาหลบทัน เด็ก ๆ ไม่พอใจที่ทัชมาไม่ยอมลงให้ แถมยังพูดจาสั่งสอนพวกเขาอีก ทัชมารู้จากตาผานว่าเด็ก ๆ ต้องทดสอบทุกคนเพื่อความปลอดภัยของบุญจิราที่จะไม่ถูกใครทำร้ายและถูกหลอก แต่ทัชมาไม่เห็นด้วยกับวิธีการของเด็ก ๆ ทรงศักดิ์ขับรถมาหาบุญจิราอย่างเร็วจนเฉี่ยวทัชมาตกคูและไม่รับผิด ทัชมาจึงตอบโต้ด้วยถ้อยคำเจ็บแสบให้ทรงศักดิ์เจ็บใจ ด้านเด็ก ๆ วางแผนหลอกผีทัชมา แต่นำมาทดสอบกับทรงศักดิ์ จนเขาตกใจขับรถลอยไปติดบนรั้ว และจับไข้หัวโกร๋นผมร่วงหมดหัว เด็ก ๆ พอใจมากใช้แผนนี้กับทัชมา แต่ทัชมารู้ทันเอาคืนจนเด็ก ๆ จับไข้หัวโกร๋น เขาปีนบันไดขึ้นมาดูเด็ก ๆ เด็ก ๆ เจ็บใจผลักบันไดล้มจนทัชมาขาหักต้องเข้าเฝือกและนอนพักที่โรงพยาบาล บุญจิราขอโทษแทนลูก ๆ แต่ก็ย้ำว่าทัชมาไปหลอกผีเด็ก ๆ ก่อน ด้านแป้นแล้นกับปารมีคิดถึงทัชมาจึงขอพ่อกำนันไปเยี่ยมทัชมา โดยบอกว่ากลัวทัชมาจะหอบลูกกลับมาหากไม่ไปเยี่ยม กำนันจึงยอม บุญจิราต้อนรับปารมีกับแป้นแล้นอย่างดี เพราะเธอรู้จักปารมีตั้งแต่เด็ก ๆ บุญจิราอนุญาตให้ปารมีและแป้นแล้นอยู่กี่วันก็ได้ หมอให้ทัชมากลับบ้านได้ เขาลากขาที่ยังใส่เฝือกไปซื้อของร้านนางปีบ ตาผานดื่มเหล้าเมาจำทัชมาไม่ได้จึงคว้ามีดไล่ฟันหาว่าเขาเป็นชู้ ทัชมาวิ่งหนีอย่างลืมตัว แต่กลายเป็นดี เพราะรุ่งเช้า เขาก็หายเป็นปกติกลับไปทำงาน ขณะที่คนงานล้างโรงเรือนเตรียมรับม้าเจ็บจากคอกนายเกริกพลที่โคราช เขามีอิทธิพลในกลุ่มนักพนันม้าแข่ง บุญจิรารับอนุบาลม้าพันธุ์ให้เกริกพล ตอนนี้ม้าสำคัญอย่างเด็ดดวงดารกา เจ็บหนัก ซึ่งถ้าม้าหมดประโยชน์จะถูกฆ่า เรียกว่าจบตำนานอย่างสมศักดิ์ศรี ทัชมาที่รู้เรื่องไม่เห็นด้วย บุญจิราต้อนรับเกริกพลที่นั่งเฮลิคอปเตอร์ส่วนตัวมา เกริกพลคิดจะรวมคอกม้าน้อยใหญ่เป็นคอกเดียว และทำให้การแข่งม้าเป็นกีฬาระดับประเทศ เขาชวนบุญจิราร่วมหุ้น เพื่อไร่สะท้านทรวงจะเป็นแหล่งอนุบาลพันธุ์ม้า และสนามฝึกที่ใหญ่ที่สุด บุญจิราปฏิเสธแต่เกริกพลไม่ยอมแพ้ คิดรวบหัวรวบหางเธอเมื่อมีโอกาส เด็ก ๆ ไม่ชอบเกริกพลอย่างมากแต่ยังหาวิธีจัดการไม่ได้ ทัชมาดูแลและพูดคุยกับเด็ดดวงดารกาอย่างเพื่อน จนมันไว้ใจเขา แต่กลับตกใจกลัววิ่งหนีเตลิดไปเมื่อเห็นเกริกพล เกริกพลให้บุญจิราหามันให้พบเพื่อจะจบชีวิตมัน ทัชมาสงสัยว่าเกริกพลอาจทรมานสัตว์ แต่บุญจิราไม่เชื่อ ทรงศักดิ์ล้อเลียนทอมมี่ว่าเป็นกะเทย และด่าเด็ก ๆ ว่าเป็นแค่เด็กที่บุญจิราเก็บมาเลี้ยง เด็ก ๆ โกรธมากต่อยทรงศักดิ์จนลงไปกอง ด้านปารมีเห็นว่าทัชมาหายดีจึงเตรียมตัวกลับ แต่บุญจิราชวนให้อยู่ฝึกงานช่วงปิดเทอม เพราะพนักงานธุรการเพิ่งลาออกไป ปารมีตกลงทันที ทำให้แป้นแล้นดีใจมาก ทัชมาพบเด็ดดวงดารกาที่ชายป่าก็ดีใจมากเข้าไปพูดคุยจนมันสงบลง ทัชมาแอบพามันกลับไปรักษาโดยไม่ให้บุญจิรารู้ ด้านเด็ก ๆ ไม่พอใจที่ทรงศักดิ์มาทานข้าวกับบุญจิรา จึงแกล้งเอาหมามุ่ยโรยขอบแก้วกาแฟ เมื่อทรงศักดิ์ดื่มเข้าไปก็คันจนปากเจ่อ เด็ก ๆ กลัวถูกลงโทษจึงหลบไปที่คอกม้า ลูกหมีอยากขี่ม้าแต่ปากแข็ง ทัชมาเห็นจึงแกล้งขี่เจ้าลิลลี่โชว์เด็ก ๆ ทำให้ลูกหมีไม่พอใจมาก บุญจิราโกรธมากเมื่อรู้ว่าทัชมาเจอเด็ดดวงดารกาแล้วไม่บอกเธอ ทัชมาขอเวลาพิสูจน์ความจริง บุญจิราไม่อยากมีปัญหากับเกริกพลจึงปฏิเสธ เด็ก ๆ ได้ยินว่าจะมีม้าถูกฆ่าก็แอบไปดู ทัชมาสอนให้เด็ก ๆ จับม้าด้วยความรัก เด็ก ๆ สงสารจึงขอไม่ให้แม่ฆ่าม้า บุญจิรายอมให้ทัชมาพิสูจน์ความจริง เด็ก ๆ เอาขนมไปให้เด็ดดวงดารกา แต่ทัชมาห้ามไว้ เพราะกลัวม้าท้องเสีย เขาใช้โอกาสนี้ต่อรองให้เด็ก ๆ ทำตามคำสั่งเขาในการดูแลเด็ดดวงดารกา เด็ก ๆ ตกลงทันที บุญจิราไม่ยอมรับโทรศัพท์เกริกพลเพื่อถ่วงเวลา บุญจิราเดินทางไปรับเด็กหญิงมะลิ เด็กทารกขี้โรคมาเป็นลูกบุญธรรมอีกคน เด็ก ๆ ทั้งสามมาช่วยกันดูแลน้องอย่างดี ทัชมาแปลกใจที่บุญจิรามีลูกเพิ่มขึ้นอีก แต่ตอนนี้เขาสนใจเรื่องของเด็ดดวงดารกามากกว่า เพราะอาการของมันไม่ดีขึ้น ทัชมาตรวจอย่างละเอียดจนพบยาโด๊ป สารกระตุ้นที่มีอันตรายสูง เด็ดดวงดารกาถูกใช้ยาโด๊ปมานานจนกระดูกผุ กล้ามเนื้อตาย เกริกพลกลับมาที่ไร่อีกครั้ง ทัชมาจึงพาเด็ดดวงดารกาไปซ่อนบ้านตาผาน เกริกพลยืนยันจะมาอีกในวันรุ่งขึ้น เด็ก ๆ หาทางจัดการเกริกพล โดยใช้กระสุนดินเหนียวยิงใส่เฮลิคอปเตอร์ จนเครื่องเสียการทรงตัวตกในป่าละเมาะ เกริกพลบาดเจ็บเลยแจ้งตำรวจด้วยความโมโห ตำรวจใช้สุนัขดมกลิ่น ทำให้เด็ก ๆ กลัวถูกจับ ทัชมาให้เด็ก ๆ อยู่ใกล้ไหปลาร้า จนสุนัขดมกลิ่นไม่เจอ เด็ก ๆ รอดตัว แต่ยังไม่ยอมรับทัชมา ทัชมาให้ตาผานช่วยหาที่ซ่อนเด็ดดวงดารกาใหม่ ตาผานแนะให้ไปหลบที่ถ้ำหินปูนในป่า แต่ทัชมามีปัญหาการขนย้ายเด็ดดวงดารกา เด็ก ๆ มาช่วยทำรถลาก แต่ใช้ไม่ได้ผล ทั้งหมดจึงใช้แผนสองของคองโก เกริกพลกับทรงศักดิ์มาหาบุญจิราพร้อมกัน ทั้งสองพูดจาข่มกันจนเกริกพลลืมเรื่องม้า เด็ก ๆ แกล้งบอกว่ากำลังทำงานพิเศษล้างรถหาเงิน ทรงศักดิ์อยากเอาหน้าบุญจิราจึงให้เด็ก ๆ ล้างรถเขา ทัชมาจึงใช้รถขับพาเด็ดดวงดารกาเข้าป่า ก่อนจะเอารถกลับมาจอดในสภาพยับเยิน ทัชมาขอสัญญาจากเด็ก ๆ ว่าจะไม่บอกใครเรื่องที่ซ่อนเด็ดดวงดารกา เด็ก ๆ ตกลงด้วยความเต็มใจ เกริกพลหงุดหงิดที่ยังกำจัดเด็ดดวงดารกาไม่ได้จึงเรียกทวีผล ลูกน้องคนสนิทกลับจากอเมริกาหลังหนีคดีไปเป็นคนเก็บขี้ม้า เกริกพลให้ทวีผลแฝงตัวไปสืบข่าวและฆ่าม้า ขณะที่ทัชมาติดต่อนิธิ เพื่อนนักข่าวให้ช่วยหาข่าวเก่า ๆ เกี่ยวกับเกริกพลและการแข่งม้า มีทั้งข่าวเด็ดดวงดารกาชนะการแข่ง ข่าวนักธุรกิจชื่อดังหลายคนล้มละลาย ฆ่าตัวตายเพราะแพ้พนัน ผิดกับเกริกพลที่ร่ำรวยมหาศาลขึ้นมาแทน เด็ก ๆ ทั้งสามพบว่ามีผู้บุกรุกจากกับดักที่วางไว้ จึงไปดู และพบทวีผลห้อยอยู่บนต้นไม้ ทวีผลแกล้งอ่อนข้อให้เด็ก ๆ จนเด็ก ๆ ถูกชะตาทวีผล ที่เรียกตัวเองว่า โคบาลนิกกี้ และอ้างตัวเป็นจ็อกกี้ที่เก่งมาก จนเด็ก ๆ รับทวีผลเข้าเป็นพวก เด็กหญิงมะลิป่วยกะทันหัน ทัชมากับบุญจิราจึงพาไปโรงพยาบาลหมอตรวจพบว่ามะลิเป็นไข้เลือดออกต้องถ่ายเลือด ทัชมาอาสาให้เลือดมะลิ ทำให้บุญจิราซึ้งใจ ด้านบุญปลึ้มเห็นทวีผลครั้งแรกก็หลงชอบ จึงหาที่นอนให้ทวีผลเพื่อรอพบบุญจิราวันรุ่งขึ้น ทวีผลหาโอกาสเดินสำรวจคอกม้า ตาผานส่งข่าวให้ทัชมารู้ ทัชมาจึงแอบสังเกตทวีผล ทวีผลแกล้งตามจีบปารมีเพื่อล้วงความลับของทัชมา และอาสาพาเด็ก ๆ ไปส่งโรงพยาบาล บุญจิราไม่ถูกชะตากับทวีผลแต่ก็ยอมรับเขาเข้าทำงาน วันต่อมาบุญจิราให้ทัชมามารับเธอกับมะลิกลับบ้าน แต่เด็ก ๆ ให้ทวีผลมารับแทน บุญจิราไม่พอใจที่ทวีผลขับรถผาดโผนทำให้เด็ก ๆ หลงผิดว่าเป็นสิ่งดีจึงตำหนิเขา ด้านทัชมาหาหลักฐานได้ว่ามีการฆ่าเด็ดดวงดารกาโดยเจตนา แต่เขายังไม่บอกบุญจิรา เพราะกลัวบุญจิราเข้าข้างเกริกพล เด็ก ๆ เกลียดทัชมามากขึ้น เพราะทวีผลคอยยุยง และสร้างวัฒนธรรมการใช้ชีวิตอย่างโคบาลสะท้านทรวง มีเด็ก ๆ ทั้งสามเป็นตัวตั้งตัวตี รวมถึงอรชร ปารมี แป้นแล้น และนางปีบที่หันมาแต่งตัวเป็นโคบาลสาว บุญปลึ้มที่พลอยปลื้มทวีผลไปด้วยจนหลงลืมดูแลมะลิ ทำให้ถูกบุญจิราตัดเงินเดือน บุญจิราไม่พอใจที่ทวีผลสอนเด็ก ๆ ใช้ความรุนแรงแบบคาวบอยทำร้ายทัชมา จึงให้ทวีผลไปเป็นลูกน้องทัชมาช่วยงานที่คอกม้า ทัชมาสั่งให้ทวีผลโกยขี้ม้า ทวีผลจึงไปโอดครวญกับเด็ก ๆ เด็ก ๆ มาจัดการทัชมา แต่โดนทัชมาใช้งานแทน เขาว่าทายาทเจ้าของไร่ต้องเป็นงานทุกอย่าง บุญจิรารู้สิ่งที่ทัชมาทำก็สนับสนุนและสั่งให้เด็ก ๆ ไปทำงานกับทัชมาทุกวัน ทัชมาดัดนิสัยเด็ก ๆ โดยให้ทำงานทุกอย่างและกินข้าวพร้อมคนงาน ทวีผลทำผิดกฎเข้างานช้า จึงถูกทัชมาลงโทษให้งานล่วงเวลา ด้านแม่เปล่ง แม่ครัววัยหกสิบลาออกไปแต่งงาน บุญจิราจึงให้นางปีบมาเป็นแม่ครัว ทวีผลหลอกถามปารมีจนรู้ว่า ทุกเช้าทัชมากับตาผานเข้าไปในป่า ก็สงสัย ด้านลูกหมีนึกถึงเด็ดดวงดารกาขึ้นมาจึงชวนพี่ ๆ ไปดู ทวีผลแอบตามไป แต่ถูกเด็ก ๆ จับได้ ทวีผลทายผิดว่าเด็ก ๆ มาจับผีเสื้อ ทำให้ลูกหมีผิดหวังที่ทวีผลไม่เก่งอย่างที่คิด ทวีผลหลอกถามถึงม้าป่วยจากนางปีบจนเกือบรู้เรื่องแต่ตาผานมาพอดี เขาหมั่นไส้ทวีผลจึงแกล้งเมาหาว่าทวีผลเป็นชู้กับนางปีบและต่อยทวีผลจนสลบ เหตุการณ์นี้ทำให้ลูกหมีผิดหวังในตัวทวีผลอีก และเริ่มผิดใจกับพี่ชายที่เข้าข้างทวีผล และดูถูกผู้หญิง ทั้งสามทะเลาะกันจนบุญจิราเริ่มหนักใจกับพฤติกรรมเด็ก ๆ ทัชมาปลอบใจบุญจิรา และบอกว่าสักวันเด็ก ๆ จะได้เรียนรู้และเลิกเห่อคาวบอยไปเอง บุญจิรารู้สึกดีที่ได้พูดคุยกับทัชมา บุญจิราตั้งใจจะมอบลูกม้าตัวใหม่ให้เป็นของขวัญวันเกิดลูกหมี เธอขอให้ทัชมาช่วยฝึกลูกหมีให้พร้อมสำหรับดูแลม้า จากวันนั้น ทัชมาฝึกและให้ลูกหมีทำงานหนักขึ้น จนลูกหมีทนไม่ไหวขอให้ทวีผลท้าดวลกับทัชมา แต่ทวีผลปฏิเสธอ้างว่าเป็นวันพระ ทำให้ลูกหมีผิดหวังรุนแรง เด็ดดวงดารกาอาการดีขึ้น ทัชมาได้ข้อมูลว่าทวีผลเป็นคนของเกริกพล แต่ยังไม่มีหลักฐาน ทวีผลสะกดรอยตามทัชมาจนรู้ที่ซ่อนเด็ดดวงดารกา เกริกพลสั่งให้ทวีผลฆ่าม้าและทัชมาก่อนการแข่งนัดหน้า เกริกพลจะจัดงานเปิดตัวยอดเยาวมาลย์ ม้าตัวใหม่ที่ไร่สะท้านทรวง บุญจิราจึงเชิญทรงศักดิ์มาเป็นกันชน ด้านทัชมาวางแผนเปิดโปงเกริกพลในงาน ขณะที่เด็ก ๆ ทะเลาะกันหนักขึ้น จนพี่ ๆ ไล่ลูกหมีออกจากบ้านโทษฐานที่ทำให้พวกเขาถูกบุญจิราดุที่จำคำพูดหยาบคายของทวีผลมาพูด ลูกหมีเสียใจหนีไปทันที บุญจิราเป็นห่วงขอให้ทัชมาช่วยตามหา ทัชมากับตาผานมั่นใจว่าลูกหมีไปหาเด็ดดวงดารกาเลยรีบตามไป ลูกหมีมาปรับทุกข์กับเด็ดดวงดารกา จึงพบทวีผลจะฆ่าเด็ดดวงดารกา เขาจะฆ่าลูกหมี แต่ทัชมากับตาผานมาช่วยไว้ทัน และต่อยทวีผลสลบไป ทั้งสองรีบพาลูกหมีและเด็ดดวงดารกากลับ เด็ก ๆ เริ่มยอมรับทัชมา ลูกหมีเล่าความเลวของทวีผลให้ทุกคนฟัง ปารมีกับแป้นแล้นถูกทวีผลจับไปในป่า ทัชมาจะตามไปช่วยและขอให้บุญจิราเตรียมงานเลี้ยงตามปกติ เด็ก ๆ ตัดสินใจเข้าป่าไปช่วยปารมี ลูกหมีใช้ความสามารถในการแกะรอยจนพบปารมี แต่ก็ถูกทวีผลจับตัวไว้ ตาผานกับทัชมาที่ตามมาเผาว่านเพชรหลับเพื่อรมควันทวีผล แต่ลมพัดหวน จนทั้งคู่สลบไปและถูกทวีผลจับไว้ บุญจิราเป็นห่วงทุกคนจึงไปขอร้องเด็ดดวงดารกาให้ช่วยตามหาเด็ก ๆ เด็ดดวงดารกาทำเสียงเหมือนตอบรับก่อนวิ่งนำเข้าป่าไป ทวีผลเปิดโปงปูมหลังของเด็กทั้งสามที่บุญจิรารับเป็นลูกบุญธรรม ทำให้ทัชมารู้ความจริงและสงสารที่ทั้งสามเป็นเด็กกำพร้า ทวีผลยื่นคำขาดให้ทัชมาเอาม้ามาแลก และหันไปตบทอมมี่ที่ตะโกนด่าเขา ทัชมากับตาผานโมโหใช้หัวพุ่งใส่ทวีผลพร้อมกัน ทวีผลชักมีดมาสู้ แต่ถูกเด็ดดวงดารกาที่ตามมากระโจนใส่จนกระเด็นไปสลบ ทัชมาจับทวีผลไปขังที่คอกม้า ในงานเลี้ยง เกริกพลหลอกให้เสี่ยทรงเกียรติพนันม้า ทรงศักดิ์พยายามห้ามพ่อแต่ไม่เป็นผล ขณะที่กำนันเถอะมาเยี่ยมทัชมากับปารมีพอดี เขาตามหาทัชมาไปจนถึงคอกม้า และได้ยินเสียงทวีผลร้องให้ช่วย ด้วยความใจดี กำนันเถอะจึงช่วยทวีผลจนตัวเองถูกจับไว้เอง ดีที่ตาผานมาช่วยไว้ได้ เกริกพลให้ลูกน้องฉีดยาโด๊ปให้ม้า โดยไม่รู้ว่าทัชมาแอบเปลี่ยนยาพวกนั้นแล้ว การแข่งขันม้าการกุศลเพื่อนำเงินสร้างชมรมอาชาช่วยม้าป่วยม้าพิการเริ่มขึ้น ระหว่างนั้น เสียงประทัดที่เด็ก ๆ วางไว้ทั่วสนามแข่งก็ดังขึ้นจนม้าตกใจวิ่งวุ่น จากนั้นเด็ดดวงดารกาก็ปรากฏตัว เด็ก ๆ ช่วยกันแฉความผิดของเกริกพล และยิงกระสุนดินเหนียวใส่ ทำให้เกริกพลโมโหควักปืนออกมายิง ทัชมากอดบุญจิราหลบกระสุน เด็ดดวงดารกาโดดทับเกริกพล ทวีผลจะเข้าช่วย แต่สุดท้ายทั้งคู่ก็ถูกตำรวจจับ ขณะที่เด็ดดวงดารกาโดนยิง ทัชมาช่วยเหลือจนมันรอดชีวิต ทัชมาปลอบใจบุญจิราที่ต้องเสียลูกค้ารายใหญ่อย่างเกริกพล แต่เขาสัญญาจะช่วยฟื้นฟูคอกอนุบาลม้าให้เป็นที่รู้จักในฐานะนักอนุรักษ์ ทัชมาจับมือบุญจิราให้กำลังใจ ทำให้เด็ก ๆ ที่แอบดูยิ้มพอใจ เกริกพลประกันตัวเองออกมา แต่ก็ต้องหลบการตามฆ่าจากนักพนันที่เสียผลประโยชน์ ลูกหมีทำอาหารเช้าให้ทัชมา ทัชมาจำใจทานขนมปังและไข่ไหม้ เพราะไม่อยากให้ลูกหมีผิดหวัง กำนันเถอะบังคับให้ทัชมาไปทำงานเป็นผู้จัดการฟาร์มหมูที่พิจิตรของดวงสมร แม่ม่ายสามีตาย เพราะกำนันเถอะแอบชอบดวงสมร โดยไม่รู้ว่าดวงสมรชอบซื้อผู้ชายเป็นของว่าง และนางสนใจทัชมา กำนันไปลาออกกับบุญจิราแทนทัชมา ทำให้บุญจิราน้อยใจ ทัชมาจึงรีบมาง้อและยืนยันกับบุญจิราว่าจะไม่ไปไหน จนกว่าเจ้าของไร่จะไล่ออก ลูกหมีที่แอบฟังอยู่ดีใจมาก และยอมเป็นสาวกคุณหมอทึ่มตลอดไป เมื่อทัชมาปฏิเสธ กำนันเถอะก็ไม่ยอมแพ้ไปรับดวงสมรมาที่ไร่ ดวงสมรดูออกว่าทัชมารักบุญจิราจึงกันท่าและพยายามอ่อยทัชมา แต่ทัชมาไม่เล่นด้วย ขณะที่ทรงศักดิ์มาขอบคุณทัชมาที่ช่วยให้พ่อของเขาไม่ต้องเสียพนันม้า ทั้งคู่ตกลงเป็นเพื่อนกัน ทรงศักดิ์เห็นดวงสมรครั้งแรกก็สนใจ เด็ก ๆ ไม่ต้องการให้ทัชมาไปจึงแกล้งหลอกผี จนดวงสมรเป็นลมถูกส่งโรงพยาบาล กำนันตามไปดูแล แต่ต้องผิดหวังเมื่อพบว่าทรงศักดิ์ดูแลดวงสมรอยู่แล้ว ด้านทัชมาตัดสินใจบอกรักและขอบุญจิราแต่งงาน บุญจิราตกลงแต่งงานด้วยความปลื้มใจ เธอบอกข่าวดีกับทัชมาเรื่องไร่สะท้านทรวงได้รับเลือกให้เป็นที่อนุบาลม้าแข่งจากคอกต่าง ๆ เพราะเรื่องเด็ดดวงดารกา ขณะที่ปารมีบอกกำนันเถอะเรื่องที่ทัชมาจะแต่งงานกับบุญจิรา ทำให้กำนันเถอะดีใจลืมเรื่องโกรธเคืองทัชมาทั้งหมด ในวันแต่งงาน กำนันเถอะหอบสินสอดทองหมั้นมามากมายเพื่อให้เกียรติบุญจิรา ขณะที่เด็ดดวงดารกากลับมาเดินได้เป็นปกติ ทัชมากลายเป็นโคบาลประจำไร่สะท้านทรวงที่สงบสุขตลอดไป ติดตามชม ละครยัยบุญกับหมอทึ่ม
มิสเตอร์บ้านนา 2556

มิสเตอร์บ้านนา (2556/2013) จิมมี่ (กันต์ดลย์ อาคาซาน) เป็นเด็กลูกครึ่งไทยอีสาน-อเมริกัน วันดี (สุนารี ราชสีมา) แม่ของเขาพบรักกับพ่อตอนไปทำงานเป็นสาวเสิร์ฟอยู่ถนนข้าวสาร จิมมี่ไม่เคยเห็นหน้าพ่อ รู้แต่ว่าพ่อชื่อ บ็อบ (รอน สมูเรนเบิร์ก) เป็นฝรั่งนักท่องเที่ยวชาวอเมริกัน แม่ชวนพ่อมาอยู่กินด้วยกันที่บ้านเกิดในขอนแก่นได้เพียงปีเดียวพ่อก็จากแม่กลับประเทศไป โดยบอกแม่ว่าจะไปจัดการทำเรื่องย้ายมาอยู่เมืองไทยอย่างถาวร แต่พ่อก็ไม่เคยกลับมาหาแม่อีกเลย แม่เคยติดต่อไปยังที่อยู่ในอเมริกาที่พ่อให้ไว้ ก็พบว่าพ่อย้ายออกไปแล้ว แม่จึงโดนคนดูถูกต่าง ๆ นานาว่าโดนฝรั่งทิ้ง แต่แม่ก็ยึดอาชีพทำนาเลี้ยงดูลูกชายโดยไม่กลับไปเป็นสาวเสิร์ฟอีก ด้วยความหวังว่าสักวัน สามีฝรั่งจะกลับมาหาตน จิมมี่เติบโตขึ้นมาท่ามกลางทุ่งนา และวิถีชีวิตแบบอีสานแท้ ๆ เขาชอบเป่าแคนและร้องเพลงหมอลำเป็นชีวิตจิตใจ โดยมี ครูกิจจา (ถนอม สามโทน) คอยสนับสนุน ครูกิจจาชอบวันดี แต่วันดีไม่แลใครเพราะเฝ้ารอบ็อบเพียงคนเดียว พอจิมมี่เรียนจบมัธยมปลาย วันดีก็ขายนาและขายควายเพื่อให้จิมมี่เข้ากรุงเทพฯ ตามหาพ่อ โดยเข้าไปเป็นเด็กวัดอาศัยอยู่กับ หลวงพี่ (หยอง ลูกหยี) ซึ่งเป็นลุงแท้ ๆ ของเขา ก่อนจะสมัครเข้าเรียนต่อ และทำงานเด็กเสิร์ฟในร้านอาหารเพื่อส่งตัวเองเรียนไปด้วย จิมมี่ยังมีความสามารถในการพูดภาษาอังกฤษอย่างคล่องแคล่วจากการฝึกฝนด้วยตนเองมาตั้งแต่เด็ก เพราะคิดว่าเมื่อเจอพ่อแล้วเขาจะได้คุยกับพ่อได้รู้เรื่อง ทุกครั้งที่เจอลูกค้าชาวต่างชาติ เขาจะเอารูปของพ่อให้ดูและถามว่ามีใครรู้จักพ่อของเขาบ้าง แต่ก็ไม่มีใครเห็นพ่อของเขาเลย ที่วัดนั้นจิมมี่ยังได้รู้จักกับทศพล (แจ๊ส ชวนชื่น) หนุ่มอีสานบ้านเดียวกันจึงคุยกันอย่างถูกคอ และเป็นเพื่อนซี้กัน วันแรกที่จิมมี่เข้ามาเรียนที่มหาวิทยาลัย เขาก็เกือบถูกรถสปอร์ตของ โรจน์ (ภูชิสสะ ศุภธนพัฒน์) ชน โรจน์เป็นแฟนหนุ่มของแคท (เกวลิน ศรีวรรธนา) คุณหนูไฮโซเปรี้ยวจี๊ด ซึ่งย้ายที่เรียนมาหลายมหาวิทยาลัยแล้วเพราะเรียนไม่จบสักแห่ง และนี่เป็นวันแรกที่เธอเข้ามาเรียนที่นี่เช่นกัน แคทคิดว่าจิมมี่เป็นฝรั่ง จึงต่อว่าเขาเป็นภาษาอังกฤษที่เดินไม่ดูตาม้าตาเรือ จิมมี่ได้ทีเถียงกลับเป็นภาษาอังกฤษเป็นชุดเช่นกัน เขาแกล้งทำเป็นเจ็บและขู่ว่าจะฟ้องเธอ ทำให้แคทอายมาก เอาเงินชดใช้จิมมี่แล้วหนีขึ้นรถขับออกไป หลังจากจิมมี่เข้าห้องเรียนก็เจอแคทกับแก๊งเพื่อนเข้ามาในห้องเดียวกัน จิมมี่จึงวางแผนให้ทศพลคุยกับเขาเป็นภาษาอังกฤษ แคทคิดว่าจิมมี่เป็นนักศึกษาโครงการแลกเปลี่ยนที่ฟังภาษาไทยไม่ออก จึงแกล้งนินทาเป็นภาษาไทยกับ ทีน่า (พัสกร พลบูรณ์) เพื่อนสาวสุดห้าว แต่ อรวรรณ (อริยดา พริ้งสกุล) เพื่อนอีกคนคอยห้ามไว้ จิมมี่ทำเป็นฟังภาษาไทยไม่รู้เรื่อง จึงรู้ว่าแคทแกล้งเขาโดยแอบขโมยเลคเชอร์ของเขาไป เขาซ้อนแผนแกล้งกลับ ประกาศว่าเธอเป็นหัวขโมย ทำให้เธออับอายต่อหน้าคนทั้งห้อง แคทจึงรู้ว่าที่แท้จิมมี่เป็นหนุ่มลูกครึ่งอีสานนี่เอง ไม่ใช่ฝรั่งอย่างที่เธอเข้าใจ ทั้งสองจึงกลายเป็นไม้เบื่อไม้เมากันตลอด ทศพลชวนจิมมี่ไปเตะตะกร้อกับเพื่อน ๆ จนวันหนึ่งตะกร้อที่จิมมี่เตะไปโดนโรจน์ แคทคิดว่าเขาเจตนา จึงต่อว่าเขาอย่างรุนแรง แม้จิมมี่จะขอโทษไปแล้ว โรจน์ถึงกับชกจิมมี่ แต่เขาไม่ตอบโต้ หลังจากนั้นที่แคทเจอกับจิมมี่ เธอก็จะหาทางแกล้งเขาต่าง ๆ นานา แต่จิมมี่ใช้ไหวพริบเอาตัวรอดมาได้ตลอด จนกระทั่งเย็นวันหนึ่ง แคทนัดกับโรจน์แฟนหนุ่มที่ร้านอาหารและพบว่าจิมมี่ทำงานที่ร้านนั้น จึงแกล้งสั่งอาหารหาเรื่องจิมมี่เสิร์ฟผิดหลายครั้ง จนจิมมี่ถูกผู้จัดการร้านตำหนิ จิมมี่ขอลาออก จิมมี่ต้องออกหางานทำอีกครั้ง ในขณะที่ทศพลจีบอรวรรณ เพราะชอบที่เธอเป็นหญิงสาวเรียบร้อยและออกจะเชยเหมือนผู้หญิงสมัยโบราณ แต่อรวรรณไม่ชอบทศพล เพราะเธอแอบชอบจิมมี่อยู่นั่นเอง แคทไปสมัครเรียนเต้นที่สถาบันค้างฟ้าของ เจ๊จ๋อน (เจเน็ต เขียว) ระหว่างที่จิมมี่เตร็ดเตร่หางานอยู่แถวถนนข้าวสารจนดึกดื่น เขาก็บังเอิญเห็น มานพ (ปรินทร์ วิกรานต์) กำลังถูกโจรทำร้าย จิมมี่จึงเข้าไปช่วยและนำเขาส่งโรงพยาบาล ก่อนจะช่วยขับรถไปส่งที่บ้านด้วย แต่พอไปถึงบ้านของมานพ เขาก็ได้เจอกับแคทอีก เธอเข้าใจผิดคิดว่าจิมมี่ทำร้ายพ่อเธอ จึงต่อว่าจิมมี่อย่างรุนแรง และไล่เขาออกไป จนมานพต้องช่วยอธิบายว่า จิมมี่ช่วยตน แคทจึงเริ่มเข้าใจ แต่ก็ยังปากแข็งไม่ยอมขอโทษเขา จิมมี่รู้สึกว่าแคทรักพ่อมากแม้เธอจะปากร้ายกับเขาก็ตาม มานพเห็นว่าจิมมี่เป็นเด็กดี จึงให้ไปทำงานที่บริษัทของเขา แม้ รัศมี (กรองทอง รัชตะวรรณ) แม่ของแคทจะรังเกียจจิมมี่ก็ตาม มานพฝากจิมมี่ช่วยดูแลเรื่องการเรียนของแคทด้วย จิมมี่รับปาก เพราะจิมมี่ขาดพ่อเขาจึงรู้สึกว่า มานพเป็นเหมือนพ่ออีกคนหนึ่งของเขา จิมมี่เข้าชมรมเพลงลูกทุ่งของมหาวิทยาลัย เขาทำหน้าที่เป่าแคนและได้เป็นนักร้องนำเพราะเสียงร้องที่โดดเด่นของเขา และเขายังตั้งวงดนตรีลูกทุ่งกึ่งหมอลำ โดยมีทศพล และ ประพันธ์ (วิชัย จงประสิทธิ์พร) เพื่อนร่วมมหาวิทยาลัยเป็นสมาชิกในวงด้วย วงดนตรีของจิมมี่ได้เล่นในงานวัดที่เขาอาศัยอยู่ จนมีคนเห็นแววจ้างไปเล่นงานวัดอื่น ๆ อีก แคทจึงมองจิมมี่อย่างดูถูกว่าเป็นผู้ชายเฉิ่มเชยไม่ทันสมัย หลายครั้งจะถามประชดว่าเจอพ่อหรือยัง ทำให้จิมมี่กลับเศร้าและคิดถึงแม่ เขาจึงคอยเตือนเธอเสมอว่าให้ตั้งใจเรียน เพราะพ่อเธอฝากฝังไว้ เธอโชคดีที่มีพ่อดูแลมาตั้งแต่เกิด ในวันประกาศผลสอบครั้งแรก จิมมี่ได้คะแนนสูงสุดของห้อง ในขณะที่แคทสอบตก แคททำท่าไม่แคร์แต่ใจจริงก็เสียใจ เธอแอบไปร้องไห้ที่สวนในมหาวิทยาลัย จิมมี่ผ่านไปเห็นเข้าพอดี เขาจะเข้าไปปลอบแต่กลับถูกแคทไล่ที่มาเห็นความอ่อนแอของเธอ เมื่อสอบครั้งต่อไปจิมมี่จึงแอบเอาข้อสอบติวไปวางที่โต๊ะเธอ โดยไม่เปิดเผยว่าเป็นใคร แคทหาทางสืบหาคนที่ช่วยเธอแต่ก็ยังไม่เจอตัวสักที เจฟ (ปีเตอร์ ธูนสตระ) เพื่อนชาวอเมริกันของ ไกรฤกษ์ (เวนย์ ฟอลโคเนอร์) พ่อของโรจน์มาทำงานในเมืองไทย ขอให้ช่วยเขาตามหาหลานชายซึ่งเป็นลูกของพี่ชายกับหญิงสาวคนไทย ซึ่งพี่ชายของเขาฝากฝังไว้ก่อนตาย เจฟมีเบาะแสเพียงแค่แม่ของเด็กอยู่จังหวัดขอนแก่น เพราะที่อยู่และรูปหายไปตอนที่พี่ชายของเขาประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต ซึ่งพี่ชายของเจฟคือ บ็อบนั่นเอง ไกรฤกษ์วานโรจน์ให้ช่วยตามหาเด็กคนนั้น เพราะเจฟมีผลประโยชน์ทางธุรกิจร่วมกัน โรจน์ช่วยสืบหาตัวหลานของเจฟแบบไม่จริงจังนัก เพราะเอาเงินที่พ่อให้ไปใช้กับ ซินดี้ (ปิยะดา ตุรงคกุล) กิ๊กใหม่ของเขา จนแคทจับได้ว่าโรจน์มีกิ๊ก เธอจึงขอเลิกแต่โรจน์ไม่ยอม ตามตอแยแคทและรับปากว่าจะเลิกกับผู้หญิงคนนั้น ทศพลดูออกว่าที่แท้จิมมี่ชอบแคท จึงบอกความจริงกับแคทว่า ที่แท้คนที่เอาข้อสอบติวมาให้เธอคือ จิมมี่นี่เอง เธอจึงไปขอบคุณและขอโทษเขาเป็นครั้งแรก จิมมี่ดีใจมาก แคทพาจิมมี่ไปติวที่บ้าน แต่รัศมีรังเกียจและบอกจิมมี่ว่าเขาไม่เหมาะกับแคทหรอก น่าจะปล่อยให้แคทได้เจอกับคนที่ดีกว่านี้และรวยกว่านี้ จิมมี่ยอมรับ จิมมี่ขอลาออกจากงานร้านอาหารของมานพเพื่อจะหนีจากแคท รัศมีใส่ร้ายให้แคทฟังว่า จิมมี่มีหญิงอื่น และมีเรื่องชู้สาวในที่ทำงานจึงต้องลาออก แคทผิดหวังในตัวจิมมี่มาก โรจน์เข้าทางรัศมีขอคืนดีกับแคท แคทแกล้งดีกับโรจน์เพื่อประชดจิมมี่ ทำให้จิมมี่ยิ่งพยายามตัดใจจากเธอ โรจน์รู้จากรัศมีว่าจิมมี่เป็นแค่เด็กบ้านนอกจากขอนแก่น แถมแม่ยังถูกฝรั่งทิ้ง จึงเกิดความสงสัยและสืบรู้ว่าที่แท้หลานของเจฟคือ จิมมี่นั่นเอง จึงหาทางขัดขวางไม่ให้เจฟเจอกับจิมมี่ และเอา ดอน เด็กหนุ่มอีกคนมาสวมรอยแทน จิมมี่ได้งานใหม่ในร้านอาหารแห่งหนึ่งซึ่งเจ้าของคือ เจ๊กิม (จอย ชวนชื่น) เจฟพาดอนกับโรจน์และไกรฤกษ์มาฉลองที่ได้พบกัน เจฟเห็นจิมมี่ก็ถูกชะตา และรู้สึกว่าจิมมี่หน้าคล้ายพี่ชายของเขามาก จึงให้โรจน์ไปเรียกจิมมี่มาคุย โรจน์กลับแกล้งไปบอกเจ๊กิม ว่าอย่าให้จิมมี่เข้าไปเสิร์ฟอีก เพราะจิมมี่เสียมารยาทก่อนจะกลับไปโกหกเจฟว่า จิมมี่กลับไปแล้วไว้เขาจะติดต่อจิมมี่ให้เอง แต่โรจน์ก็คอยขัดขวางไม่ให้เจฟกับจิมมี่มีโอกาสพบกันอีก โรจน์มารับแคทที่มหาวิทยาลัย พอเจอจิมมี่เขาก็ดูถูกต่าง ๆ นานา และขู่ไม่ให้ยุ่งกับแคทอีก แคทแอบได้ยินโรจน์คุยโทรศัพท์ตกลงอะไรบางอย่างกับดอน จึงรู้ว่าที่แท้โรจน์แอบเอาดอนมาหลอกเจฟว่าเป็นหลาน เธอจึงต่อว่าเขาและขอเลิก เจฟให้พาดอนไปตรวจดีเอ็นเอให้ได้ แต่ดอนไม่ยอมไป เจฟจึงแอบเอาเส้นผมของดอนไปตรวจดีเอ็นเอเทียบกับตน และพบว่าที่แท้ดอนไม่ใช่หลานชาย เจฟตามไปต่อว่าโรจน์ แต่โรจน์อ้างว่า เขาก็ถูกดอนหลอกเหมือนกัน วันหนึ่งนักร้องในร้านอาหารขาด จิมมี่จึงขึ้นไปร้องเพลงแทน ปรากฏว่า ลูกค้าในร้านชอบใจมาก โดยเฉพาะเมื่อจิมมี่ร้องหมอลำทั้งที่หน้าตาอินเตอร์ ชาญชัย (จิ้ม ชวนชื่น) เจ้าของค่ายเพลงมองเห็นแวว จึงติดต่อให้จิมมี่เป็นนักร้องในสังกัด เจฟกลับมาหาจิมมี่ที่ร้านอีกครั้ง แต่พบว่าเขาลาออกไปเสียแล้ว ทั้งสองต่างรู้สึกว่าในใจยังมีกันและกัน แต่แคทซึ่งถือตัวว่าเป็นคุณหนูก็ยังปั้นปึงใส่จิมมี่ ในขณะเดียวกันจิมมี่ก็ถูกจับคู่กับ รพีพร (พาเมล่า เบาว์เด้น) หรือพี นักร้องสาวขวัญใจวัยรุ่นในค่ายเดียวกัน พีเองก็ชอบจิมมี่และคอยยุให้ชาญชัยโปรโมทเธอกับจิมมี่คู่กัน แต่จิมมี่คิดว่า เป็นเพียงแผนการตลาดของชาญชัยเท่านั้น เพราะเขาไม่ได้สนใจพีเลย จิมมี่กลายเป็นนักร้องดังโดยมีประพันธ์ช่วยแต่งเพลงให้ แคทได้งานที่บริษัทเดียวกัน โดยเป็นคนดูแลศิลปินลูกทุ่ง จึงได้ทำงานใกล้ชิดกับจิมมี่ และเริ่มคบกันอย่างจริงจัง แต่ทั้งสองต้องคบกันอย่างหลบ ๆ ซ่อน ๆ เพื่อไม่ให้แฟนเพลงรู้ พีหาทางแฉเรื่องของทั้งสอง โรจน์เองก็ต้องการทำลายชื่อเสียงจิมมี่ จึงร่วมมือกับพีแอบถ่ายรูปทั้งสองและส่งข่าวให้นักข่าว แฟนคลับเริ่มรับไม่ได้และต่อว่าจิมมี่ตามสื่อต่าง ๆ ชาญชัยให้จิมมี่แถลงข่าวปฏิเสธ แต่จิมมี่ไม่ยอมกลับประกาศยอมรับว่า เขากำลังคบกับแคทอยู่ ชาญชัยเรียกจิมมี่ไปตำหนิ แต่ปรากฏว่าแฟนเพลงส่วนใหญ่กลับให้กำลังใจจิมมี่ โรจน์ยิ่งเจ็บใจมากที่ทำอะไรจิมมี่ไม่ได้ ในขณะเดียวกัน จิมมี่ยังรู้สึกว่าส่วนที่ขาดหายไปในชีวิตเขายังไม่ถูกเติมเต็ม เมื่อเขากลับไปเยี่ยมแม่ที่บ้าน และจะสร้างบ้านหลังใหญ่ให้ แต่แม่ไม่ต้องการ สิ่งที่แม่อยากเห็นมากที่สุดคือ พ่อ คำถามแรกที่แม่ถามเขาเหมือนทุกครั้งที่เขากลับบ้านก็คือ หาพ่อเจอหรือยัง เจฟหมดวาระการทำงานในประเทศไทย เขาตัดสินใจกลับประเทศเพราะหมดหวังในการตามหาหลานชาย แต่เมื่อเขาได้เห็นจิมมี่ให้สัมภาษณ์ในรายการโทรทัศน์ว่าเขามีพ่อเป็นชาวอเมริกันชื่อ บ็อบ เจฟจึงรีบติดต่อทางรายการเพื่อขอพบจิมมี่ทันที ในที่สุดอากับหลานได้พบกัน เจฟบอกว่า พ่อของจิมมี่ตายไปแล้ว แต่ฝากฝังให้เขาช่วยตามหาลูกชายเพียงคนเดียว และยกสมบัติที่มีอยู่ทั้งหมดให้ วันดีเสียใจที่เธอจะไม่ได้พบกับบ็อบอีกแล้ว แต่ก็ตื้นตันใจเมื่อเจฟบอกว่าบ็อบไม่เคยลืมเธอและลูกเลยจนวินาทีสุดท้าย ครูกิจจาเข้ามาปลอบใจวันดีจนเธอเริ่มเห็นใจเขา เพราะที่ผ่านมาเขาคอยช่วยเหลือเธอมาตลอด และจิมมี่ก็อยากให้แม่มีใครสักคนมาอยู่เคียงข้างอีกครั้ง จิมมี่ตัดสินใจเลิกเป็นนักร้องและกลับบ้านเกิดไปเป็นทนายช่วยว่าความให้ชาวบ้านที่ถูกนายทุนเอาเปรียบ เขาเปิดสำนักทนายความด้วยเงินที่ได้จากพ่อ และยังซื้อที่นาผืนใหม่ให้แม่เพื่อตอบแทนที่แม่เคยขายนาให้เขาไปเรียนหนังสือ แคทตามมาขอสมัครงานเป็นผู้ช่วยจิมมี่ บอกว่าจะได้ช่วยให้เขารวยเร็ว ๆ เพื่อให้เขามีเงินไปสู่ขอเธอ จิมมี่ทดสอบว่า แคทจะอยู่ที่บ้านนาของเขาได้หรือเปล่า โดยให้เธอใช้ชีวิตและทำงานแบบสาวบ้านนา แคทยอมทำแต่ก็เก้ ๆ กัง ๆ และหลุดเปิ่นหลุดโก๊ะตลอดเววลา หลายครั้งเธอใส่รองเท้าบู๊ทราคาแพงลุยโคลนจนหน้าทิ่มหมดสวย จิมมี่แกล้งดุแต่ที่จริงแอบขำและชื่นชมในความพยายามของเธอ โรจน์รู้ว่าแคทกลับมาหาจิมมี่ก็เจ็บใจ ตามมาง้อเธอ แคทเห็นจิมมี่ยังไม่ใจอ่อนสักที จึงแกล้งทำเป็นจะไปคืนดีกับโรจน์ แต่จิมมี่แกล้งโรจน์จนโรจน์หนีกลับกรุงเทพฯ ทศพลกับอรวรรณมาเที่ยวบ้านนาของจิมมี่เพื่อแจกการ์ดแต่งงาน ทั้งสองช่วยเป็นตัวประสานให้จิมมี่กับแคทคืนดีกัน จิมมี่ขอแคทแต่งงาน ถามว่าเธอจะอยู่บ้านนอกกับฝรั่งบ้านนาอย่างเขาได้ไหม แคทตอบตกลง… ติดตามชมความสนุกสนานของ ละครมิสเตอร์บ้านนา

เงาะแท้แซ่ฮีโร่ 2556

เงาะแท้แซ่ฮีโร่ (2556/2013) สังข์ ฮีโร่สายพันธุ์ใหม่ผิวทองล่ำบึกข้ามมิติมาแบบไม่ได้เจตนาเสียแค่ว่าซื่อไปหน่อย ระหว่างรอหาทางกลับโลกของตนก็ปราบคนพาลไปด้วย ปัญหามันอยู่ตรงที่ดันเกิดไปมีความรักกับนักสืบสาวต่างเวลานามว่า รจนา รจนา (อภัสนันท์ วรภิรมย์รักษ์) ขับรถหรูไปชนชายตัวดำผมแอฟโฟล่คนหนึ่งเข้า ชายหนุ่มคนนั้นนุ่งผ้าเตี่ยวผืนเดียวไม่มีหลักฐานอะไรในตัวเลย นอกจากไม้พลองสีเปลือกไม้อันเดียวที่ถือติดมืออยู่ รจนาตกใจต้องรับผิดชอบดูแลพาชายคนนั้นที่ไม่ได้สติไปหาหมอที่เป็นเพื่อนของเธอ ชายหนุ่มได้สติขึ้นมา จำความอะไรไม่ได้เลย จำได้เพียงว่าตัวเองชื่อ เงาะ(ฐากูร การทิพย์) รจนาไม่อยากตกเป็นข่าว จึงว่าจะพาเงาะไปปล่อยที่อื่นแล้วทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น แต่แล้วเธอก็รู้สึกผิด ต้องขับรถกลับไปรับและจำใจต้องดูแลเงาะจนกว่าจะจำความได้ รจนา เปิดบริษัทเป็นนักสืบเอกชน ได้รับการว่าจ้างจาก ท่านประธานหวัง (ประกาศิต โบสุวรรณ) ให้ตามหาของที่ถูกขโมยไปจากตู้เซฟ เขาต้องการเพียงแว่นขยายโบราณอันเดียว ท่านประธานไม่บอกรายละเอียด เพียงแต่เอารูปให้ดูแล้วบอกว่า แว่นขยายอันนี้ถ้าตกไปอยู่ในมือคนเลว จะเป็นอันตรายต่อมนุษย์มาก มันไม่ใช่สมบัติของตระกูลเขา แต่มันเป็นคำสาป เอกสิทธิ์ (อัศนัย เทียนทอง) นายตำรวจที่เป็นแฟนหนุ่มของรจนา ไม่ค่อยชอบใจนักที่รู้ว่า รจนา รับดูแลชายชื่อเงาะที่ไม่รู้จักหัวนอนปลายเท้าเอาไว้ในชายคาบ้าน ถึงแม้เงาะจะช่วยทำงานบ้านให้รจนาก็ตามที เอกสิทธิ์กำลังตามคดีเรื่องคนหายอยู่ โดยทางรูปคดีแล้วคิดว่าน่าจะเป็นแก๊งลักเด็ก เขาต้องจับมันให้ได้ ฟากแก๊งค้ามนุษย์พอรู้ว่า เอกสิทธิ์กำลังตามจับพวกตนอยู่ จึงคิดเล่นงานเอกสิทธิ์ ด้วยการจับตัวรจนามาเพื่อให้เอกสิทธิ์วางมือจากพวกตนซะ เอกสิทธิ์และเงาะต่างก็ตามไปช่วยรจนา ด้วยอานุภาพพลองในมือเงาะ ทำให้เขากลายร่างเป็นชายหนุ่มรูปงาม ผิวพรรณเปล่งปลั่ง และสามารถกำจัดผู้ร้ายได้ ไม่มีใครทันได้มองเห็นหน้าเขาชัด ๆ เพราะสถานการณ์ชุลมุนและค่อนข้างมืด เงาะเองกลับมาที่บ้านในสภาพตัวดำผมฟูเช่นเดิม เขานั่งดูใบหน้าตัวเอง ถึงจะเป็นใบหน้าเดียวกับซูเปอร์ฮีโร่ตนนั้น แต่เขาดูขี้เหร่มาก เงาะพยายามแปลงร่างอีกครั้ง แต่เขาก็ทำไม่ได้ ระหว่างนั้นเงาะก็มีเหตุให้ต้องออกช่วยเหลือผู้คน โดยการช่วยเอกสิทธิ์ปราบผู้ร้ายอยู่เนือง ๆ ภายใต้ชุดซูเปอร์ฮีโร่สีทอง สวมหน้ากากทอง รูปหอยสังข์อย่างสง่างามความในใจของรจนากับสังข์ (เงาะในร่างคนหล่อ) ก็พัฒนาไปเรื่อย ๆ โดยที่เธอไม่รู้เลยว่า สังข์คือคน ๆ เดียวกับเจ้าเงาะ และเป็นคนเดียวกับฮีโร่ในชุดสังข์ทอง สุดท้ายเงาะได้เผชิญหน้ากับศัตรูตัวฉกาจคือประธานหวัง โดยมีชีวิตของรจนาเป็นเดิมพัน เงาะจะสามารถช่วยรจนาได้หรือไม่? และถ้าต้องเลือกระหว่างกลับไปมิติของตนกับความรักที่มีต่อรจนา เขาจะเลือกอะไร? ติดตามชม ละครเงาะแท้แซ่ฮีโร่

รักข้ามเส้น 2556

รักข้ามเส้น (2556/2013) อมร กับ นวล ค้าเจริญ เจ้าของร้านบะหมี่ลือชื่อ มีลูกชายหญิง 3 คน คือ ฟ้ามุ่ย (น้ำฝน) ฟ้าลั่น และฟ้าใส โดยอมรและนวลฝึกลูกๆ ทั้งสามให้ช่วยงานในร้านตั้งแต่เล็กจนโต จนกิจการเจริญรุ่งเรือง พวกเขาขยายร้านและยังทำโรงงานผลิตบะหมี่ขนาดเล็กๆ ส่งขายอีกด้วย โดยให้ฟ้ามุ่ยเป็นคนดูแลกิจการในร้านเป็นหลัก เธอจึงสมัครใจที่จะเรียนจบแค่ชั้นม.6 แล้วออกมาช่วยพ่อแม่ทำงานอย่างเต็มตัว เพื่อเสียสละให้น้อง ๆ ทั้งสองได้เรียนหนังสือกันเต็มที่ ดังนั้นฟ้าลั่นกับฟ้าใสจึงเรียนจบมหาวิทยาลัย พอจบแล้วฟ้าลั่นก็กลับมาดูแลโรงงาน ส่วนฟ้าใสนั้นช่วยนวลดูแลด้านบัญชีทั่วไป ฟาก ชาคริต (เฟิร์ส) หนุ่มนักเรียนนอก ลูกชายโทนของ คุณหญิงพจนีย์ ซึ่งถูกมารดาบังคับให้คบกับ พิมพ์สิริ หญิงสาวผู้เพียบพร้อมทั้งฐานะและการศึกษา และที่สำคัญเลยก็คือ เธอสืบเชื้อสายมาจากผู้ดีเก่าเช่นเดียวกับตระกูลของชาคริตอย่างที่คุณหญิงพจนีย์ต้องการ คุณหญิงพจนีย์ต้องการให้สาวๆ ที่หมายตาชาคริตรู้ว่าชาคริตมี คนรักที่เหมาะสมอยู่แล้ว จึงบังคับเขาพาพิมพ์สิริออกงานสังคม โดยยอมแลกข้อแลกเปลี่ยนกับชาคริตว่าคุณหญิงจะยอมให้เขาไปสอนพิเศษตอนกลางคืน แต่ตอนกลางวันเขาจะต้องเข้าทำงานเป็นผู้บริหารโรงแรมที่คุณหญิงเป็นเจ้าของ ทั้งๆที่ชาคริตไม่ชอบงานบริหารเอาเสียเลย ชาคริตจึงต้องจำใจยอมไปงานสังคมกับพิมพ์สิริแทบจะรายวัน ชาคริตอึดอัดมากเมื่อต้องอยู่ในงานสังคมสวยหรูแต่คนใส่หน้ากากเข้าหากัน ขาดความจริงใจต่อกัน ดังนั้นเมื่อพิมพ์สิริเผลอเขาจึงหลบออกมาจากงาน โดยได้รับความช่วยเหลือจาก หมอนิธิ เพื่อนสนิทของเขาที่มางานสังคมด้วย พอออกมาจากงานได้แล้วชาคริตเกิดหิวขึ้นมาจึงแวะเข้ามากินบะหมี่ที่ร้านของอมร เพราะถึงเขาจะเกิดมาในตระกูลผู้ดีเก่า แต่ชาคริตก็ชอบชีวิตความเป็นอยู่ที่เรียบง่ายและสงบ เมื่อฟ้ามุ่ยเห็นชาคริตก็หลงรักเขาทันที แต่เธอก็ทำได้แค่แอบมองเขา ส่วนชาคริตไม่ได้สนใจฟ้ามุ่ยเลย นับตั้งแต่ชายหนุ่มในฝันจากไป ฟ้ามุ่ยก็เศร้าใจมาก นวล ฟ้าลั่น ฟ้าใส และฉัตร ต่างเป็นทุกข์ไปกับฟ้ามุ่ย แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง ฟ้าใสจึงออกความคิดให้ฟ้ามุ่ยลองเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตประจำวันดูบ้าง เผื่อว่าสักวันที่ฟ้ามุ่ยได้เจอชายในดวงใจจะได้ไม่ต้องแห้วอีก ฟ้ามุ่ยจึงตัดสินใจขออมรไปเรียนต่อพราะหวังจะเอาวิชาความรู้กลับมาช่วยขยายกิจการร้าน อมรยอมให้ฟ้ามุ่ยเรียนได้ เพราะใจจริงเขาก็ต้องการให้ลูกสาวมีการศึกษาไม่น้อยหน้าใครอยู่แล้ว แต่มีเงื่อนไขว่าจะต้องไปเรียนเมื่อปิดร้านแล้วเท่านั้น เพื่อไม่ให้งานทางร้านเสียหาย เพราะฟ้ามุ่ยเป็นตัวหลักของกิจการร้านบะหมี่อยู่ ฟ้ามุ่ยจึงตัดสินใจเลือกเรียนภาคค่ำแทนภาคปกติ และที่เรียนภาคค่ำนั่นเอง ฟ้ามุ่ยก็ได้พบกับชาคริตอีกครั้ง เพราะชาคริตเป็นอาจารย์พิเศษสอนหนังสือที่นั่น เมื่อได้พบชายในฝันอีกครั้ง ฟ้ามุ่ยจึงคิดจะเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อให้ชาคริตสนใจ เธอเริ่มแต่งหน้า แต่งตัวมากขึ้น โดยมีฟ้าใสและฉัตรคอยช่วยเหลือแนะนำ จากที่เคยเป็นอีเพิ้ง ฟ้ามุ่ยก็เริ่มสวยขึ้นอย่างผิดหูผิดตาจนเป็นที่แปลกใจของอมรมาก อมรจึงพยายามซักถามฟ้ามุ่ยถึงสาเหตุของการเปลี่ยนรูปแปลงโฉมของลูกสาวในครั้งนี้ แต่ก็ไม่เคยได้คำตอบ อมรจึงแอบไปจ้างพล ชายหนุ่มที่เปิดร้ายขายข้าวมันไก่อยู่ข้างๆ ร้านบะหมี่ของอมรให้คอยแอบตามดูพฤติกรรมของฟ้ามุ่ยทุกระยะ แต่พลเกิดมาหลงรักฟ้าใสเข้า จึงถูกฟ้าใสชักชวนเข้าเป็นพวกที่คอยให้ความช่วยเหลือให้ฟ้ามุ่ยได้สมหวังในรักกับชาคริต โดยตั้งเงื่อนไขว่าถ้าพลไม่ช่วยกันปิดบังเรื่องฟ้ามุ่ยกับชาคริตแล้ว ฟ้าใสจะไม่ยอมรับรักพล พลจึงกลายเป็นสายให้พวกฟ้ามุ่ยเสียแทน ฝ่ายชาคริตเมื่อมาได้สอนหนังสือภาคค่ำให้ฟ้ามุ่ย เขาก็ได้รู้จักกับเธอมากขึ้น รู้ว่าเธอเป็นคนอ่อนโยนและจริงใจเพียงใด แล้วเขาก็ตกหลุมรักฟ้ามุ่ยในที่สุด ฟ้ามุ่ยตื่นเต้นมากที่ชาคริตหันมาสนใจเธอ แต่เธอก็กลัวว่าถ้าเขารู้ว่าเธอคือสาวร้านขายบะหมี่ที่เขาเคยมองเมินมาแล้ว เธออาจจะผิดหวังในรักครั้งนี้ก็ได้ ฟ้ามุ่ยจึงหลอกชาคริตว่าเธอเป็นลูกเศรษฐี ชาคริตชวนฟ้ามุ่ยออกเดทหลายครั้ง ความรักของฟ้ามุ่ยกับชาคริตดูเหมือนจะงอกงามดี แต่ฟ้ามุ่ยก็ไม่สบายใจเรื่องที่โกหกชาคริตว่าเธอคือใคร จนเธอเกือบจะหลุดปากบอกวามจริงก็หลายครั้งแต่ก็ไม่กล้าพอ นวลเห็นลูกสาวมีทุกข์จึงบอกฟ้ามุ่ยว่าก่อนที่ความรักของเธอจะก้าวไปไกลกว่านี้ ฟ้ามุ่ยควรจะบอกความจริงกับชาคริตเสีย เพราะคนเราถ้าคิดจะเป็นคู่ชีวิตกันแล้วก็ควรจะยอมรับตัวตนที่แท้จริงของอีกฝ่ายให้ได้ ไม่เช่นนั้นชีวิตคู่ไม่มีทางไปรอด ฟ้ามุ่ยจึงตัดสินใจบอกความจริงกับชาคริตในวันออกเดทกันวันหนึ่งว่าเธอคือยายเพิ้งที่ขายบะหมี่ที่ชาคริตเคยมองเมินคนนั้น และเมื่อได้รู้ความจริงอย่างงี้แล้วชาคริตยังอยากจะคบเธอต่อไปหรือไม่ ชาคริตอึ้งไป ฟ้ามุ่ยจึงคิดว่าชาคริตผิดหวังเมื่อรู้ความจริงว่าเธอคือใครจึงวิ่งหนีไป เหล่าพี่น้องและแม่ต้องพากันช่วยปลอบใจฟ้ามุ่ยกันเป็นการใหญ่ แต่อาการของเธอก็ไม่ดีขึ้น วันๆเอาแต่เศร้าซึม ทำบะหมี่ให้ลูกค้าๆ ผิดๆ ถูกๆ จนถูกลูกค้าต่อว่า ยิ่งทำให้ฟ้ามุ่ยเครียดมากขึ้นไปอีก ในที่สุดฟ้ามุ่ยก็ตัดสินใจจะย้ายไปเรียนที่อื่นเพื่อที่จะได้ไม่ต้องเจอหน้าชาคริตให้ช้ำใจอีก ฝ่ายชาคริตหลังจากหายตกใจแล้วก็พยายามจะตามหาฟ้ามุ่ยเพื่อปรับความเข้าใจ แต่กลับพบว่าฟ้ามุ่ยย้ายไปเรียนที่อื่นเสียแล้ว ชาคริตก็เศร้าใจมาก แต่ก็ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ เขาจึงตัดสินใจแอบค้นที่อยู่ของฟ้ามุ่ยจากใบสมัครเข้าเรียนจนรู้ว่าฟ้ามุ่ยอยู่ที่ไหน แล้วแอบไปดักเจอฟ้ามุ่ยที่หน้าบ้าน ฟ้าลั่นกับพลเห็นชาคริตมาด้อม ๆ มอง ๆ อยู่แถวบ้านก็คิดว่าเป็นโจร จึงช่วยกันรุมซ้อมชาคริต แต่ฟ้ามุ่ยกลับมาเจอจึงห้ามไว้ ฟ้ามุ่ยตกใจมากที่เห็นว่าคนที่ถูกรุมซ้อมจนสะบักสะบอมนั้นคือชาคริตจนทำอะไรไม่ถูก ชาคริตจึงรีบบอกว่าเขาไม่ได้นึกรังเกียจลูกร้านขายบะหมี่อย่างเธอเลย แต่วันนั้นที่เขาเงียบไปหลังจากรู้ความจริงว่าฟ้ามุ่ยคือใครแล้วนั่นก็เป็นเพราะว่าเขาโกรธตัวเองที่มองผ่านเลยผู้หญิงดีๆอย่างฟ้ามุ่ยไปได้ และชาคริตขอโอกาสให้เขาได้กับมาคบกับฟ้ามุ่ยอีกสักครั้ง ฟ้ามุ่ยอึ้งไป ชาคริตเลยคิดว่าฟ้ามุ่ยยังโกรธเขาอยู่ จึงตัดสินใจพิสูจน์รักแท้ของเขาด้วยการขอฟ้ามุ่ยแต่งงาน ! ฟ้ามุ่ยตกใจมาก ! เพราะรู้ว่าพ่อของเธอไม่ชอบลูกคนรวยอย่างชาคริต แต่ชาคริตไม่หวั่น เขากลับบอกฟ้ามุ่ยว่าเมื่อเขารักแล้ว เขาจะไม่ยอมเปลี่ยนใจเป็นอันขาด และเขาจะต้องเอาชนะใจว่าที่พ่อตาของเขาให้ได้ไม่ว่าจะต้องใช้ความพยายามสักแค่ไหนก็ตามฟ้ามุ่ย นวล ฟ้าลั่น ฉัตร ฟ้าใส และพลจึงช่วยกันออกอุบายให้ชาคริตปลอมตัวเป็น "ชาติ" หนุ่มกำพร้าเข้าไปเป็นคนงานในโรงงานบะหมี่ของอมร ยอมทำงานใช้แรงงานอย่างที่เขาไม่เคยทำมาก่อน ชาคริต ตอบตกลง เอาละสิ !!! เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป แรงงานโรงงานบะหมี่อย่าง “ชาคริต” จะสามารถเอาชนะใจ ว่าที่พ่อตาแม่ยาย ได้หรือไม่ และการฟันฟ่าอุปสรรคนานับประการของทั้งคู่ จะประสบความสำเร็จหรือเปล่า ติดตามรับชมละคร “รักข้ามเส้น”

ลับ ลวง หลอน 2555

ลับ ลวง หลอน (2555/2012) เรื่องราวของจอมทัพ(ซัน-ประชากร ปิยะสกุลแก้ว)วิศวกรหนุ่มนักเรียนนอก ที่เพิ่งกลับมาเมืองไทยเพื่อตั้งบริษัทรับเหมาก่อสร้างของตนเอง โดยงานแรกที่จอมทัพได้เซ็นสัญญาก็คือโครงการสร้างสวนสนุกพันล้าน จอมทัพภูมิใจมากที่ได้รับเลือกให้เป็นผู้ทำโครงการนี้ และเขาต้องรื้อถอนหอพักร้าง“เยี่ยมวิมาน”เพื่อสร้างโครงการ หากแต่ก่อนหน้านี้มีบริษัทรับเหมามากมายที่ล่าถอยไปจากโครงการนี้อย่างกระทันหัน เหตุผลคือ“ผีหลอก”หากจอมทัพกลับมองว่าเป็นเรื่องไร้สาระ วันแรกที่เยียบย่างเข้าไปยังหอพักร้าง จอมทัพสั่งให้ช่างเริ่มทำการรื้อถอนทันที หากยังไม่ทันจะลงมือทำ ก็มีหญิงสาววัยรุ่นคนหนึ่งวิ่งเข้ามาห้าม จนจอมทัพต้องให้ตำรวจนำตัวออกไป ค่ำคืนนั้นเองช่างรื้อถอนก็เจอมหกรรมการโดนผีหลอกแบบจัดเต็ม จนต้องหนีกระเจิดกระเจิงแบบไม่คิดชีวิต และไม่กลับมาทำงานอีกเลย เดือนร้อนจอมทัพที่ต้องหาช่างรับเหมาทีมใหม่แทบพลิกแผ่นดิน จนได้พบกับช่างเชียร(กฤตย์ อัทธเสรี)ที่เรียกค่าตัวสูงมาก แต่จอมทัพก็ตอบตกลงเพราะหมดหนทาง ที่แท้ช่างเชียรเป็นพ่อของหนูนา(ยีน-เกวลิน ศรีวรรณา)หญิงสาวที่เข้าไปอาละวาดห้ามจอมทัพรื้อถอนหอพักเยี่ยมวิมาน ตั้งแต่เกิดหนูนามีเซนส์สามารถสื่อสารกับวิญญาณได้ จนเป็นที่เลื่องลือในชุมชน เธอมักจะช่วยเหลือคนที่เดือนร้อน เช่น ของหาย คนหาย เป็นประจำ ซึ่งความสามารถตรงนี้ทำให้ช่างเชียร พ่อบังเกิดเกล้าบีบบังคับเธอให้ไปเจรจากับวิญญาณต่างๆ ให้ออกจากหอพักไปซะ เพื่อที่ตนเองจะได้รื้อถอนหอพักอย่างสบายใจ และรับเงินค่าจ้างก้อนโตแต่เพียงผู้เดียว แต่นั่นถือเป็นงานหินเลยก็ว่าได้ เพราะหนูนารู้อยู่แก่ใจว่าวิญญาณแต่ละดวงที่สิงอยู่ในหอพักเยี่ยมวิมานไม่ธรรมดา แต่ละดวงยึดมั่นอยู่กับห้องที่ตัวเองสิ้นชีวิต เพื่อรอคอยใครบางคน ซึ่งวิญญาณเหล่านี้เชื่อว่าหากออกไปจากหอพัก จะไม่สามารถพบกับคนที่รอคอยได้ หนูนาอธิบายเรื่องทั้งหมดกับจอมทัพ ชายหนุ่มจำใจรับปากทำหน้าที่ปลดปล่อยดวงวิญญาณ เพราะใกล้เวลารับปากลูกค้าเข้าทุกที โดยสัญญาที่ทำไว้คือเขาต้องพา “ผู้คน” ที่ดวงวิญาณแต่ละดวงต้องการพบ มายังหอพักเยี่ยมวิมานให้ได้ งานนี้จอมทัพและหนูนาจึงต้องเป็นนักสืบสมัครเล่นชั่วคราว เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป ทั้งคู่จะทำภารกิจปลดปล่อยดวงวิญญาณ “สุดเฮี้ยน” สำเร็จหรือไม่? ร่วมลุ้นไปกับภารกิจสุดหลอนนี้ได้ในละคร “ลับ ลวง หลอน” แสดงน้อยลง

ปราสาทมืด 2552

ปราสาทมืด (2552/2009) หม่อมเจ้าหญิง “อุมารังษี” ทะเลาะกับ “หม่อมอร” ผู้เป็นมารดา เรื่องที่หม่อมอรจะลดตัวลงไปแต่งงานกับนายเม้ง คนไทยเชื้อสายจีน เธอจึงหนีออกจากบ้าน โดยโดยสารรถไฟ ทำให้เธอได้พบกับ “ภะรต” หมอหนุ่มวัยกลางคน ที่เงียบขรึบ และทำท่าทางไม่สนใจเธอ แต่กลับชวนเธอทานข้าวที่ห้องอาหารรถไฟ ระหว่างสนทนาภะรตรู้ว่าอุมารังษีจะไปเป็นครูที่ จ.เชียงใหม่ แต่ยังไม่มีจุดหมายแน่นอน จึงเอ่ยชวนไปทำงานเป็นครูพี่เลี้ยงให้ “คุณแจ๋ว” น้องสาวพิการและเป็นใบ้ของเขา อุมารังษีที่ใช้เพียงชื่อ “อุมา” ตอบตกลง เมื่อถึงปราสาทกลางป่าลึก อุมารังษี ต้องปะทะคารมกับ “ป้าแช่ม” แม่บ้านของปราสาท และ “กัญญา” ที่ทำตัวเป็นเจ้าของภะรตตลอดเวลา ตกกลางคืนอุมารังษีได้ยินเสียงกรีดร้องของผู้หญิง จึงตัดสินใจออกไปดู แต่กลับเจอภะรต ชายหนุ่มบอกหญิงสาวไม่ให้พะวงกับสิ่งที่ไม่เกี่ยวกับตัวเธอ ทำให้อุมารังษีสงสัยมากยิ่งขึ้นไปอีก วันต่อมา อุมารังษีขี่ม้าไปจนถึง “ไร่สองพี่น้อง” ทำให้ได้พบกับ “ศุลีมาศ” และ “วิษณุ” เจ้าของไร่ ทั้ง 3 คุยกันอย่างถูกคอ จึงไปมาหาสู่กันเรื่อยมา จนวันหนึ่งพระองค์เจ้า “รวิศักดิ์” และนมนุ่ม มาพักที่ไร่สองพี่น้อง และได้พบกับอุมารังษี พระองค์เจ้ารวิศักดิ์ ตกหลุมรักทันที แต่ก็แอบสงสัยว่าอุมาจะเป็นคนเดียวกับท่านหญิงอุมารังษี เพราะก่อนหน้านั้น รวิศักดิ์นำจดหมายจากประเทศอังกฤษ ของ “พงศ์อิสรา” พี่ชายอุมารังษีไปให้หม่อมอร ทำให้เห็นรูปอุมารังษี และหม่อมอรก็เล่าว่าลูกสาวหนีออกจากบ้าน อุมารังษีดูแลพร้อมสอนหนังสือ คุณแจ๋วอย่างดี จึงเกิดความสนิทสนมกัน ภะรตก็เริ่มหลงรักอุมารังษีขึ้นทุกวันหากไม่แสดงออก แต่ป้าแช่มและกัญญาก็คอยกลั่นแกล้ง ใส่ร้ายอุมารังสีสารพัด กลางดึกคืนหนึ่งอุมารังษีพบซากแมวเลือดอาด แขวนอยู่ที่หน้าต่างห้องนอน เธอกรีดร้อง และมั่นใจว่าปราสาทแห่งนี้ต้องมีความลึกลับซ่อนอยู่ เรื่องราวจะเป็นอย่างไร ติดตามรับชม “ปราสาทมืด” ละครพีเรียดแนวพิศวาส-ฆาตกรรม เรื่องราวความลึกลับของคฤหาสถ์ ผู้คนที่มีบุคลิก และพฤติกรรมอันแปลกประหลาด เต็มไปด้วยปริศนา

แกะรอยรัก 2551

แกะรอยรัก (2551/2008) อำนาจจิตเปลี่ยนฟ้า ชักนำเขาและเธอต้องมาแกะรอยจนเกิดรักร่วมกัน ณ ตำหนักเปลี่ยนฟ้า ที่มีชื่อเสียงโด่งดังเรื่องของการทำนายทายทักอนาคตว่าแม่นราวกับตาเห็น มีอันต้องแตกตื่นเมื่อ ไดอาน่า ( แอนนี่ ) ศิลปินนักร้องชื่อดังได้พา ทรงรบ ผู้บริหารฮาร์ทซองกับ ทรงต้น อดีตนักร้องชื่อดังระดับซุปเปอร์สตาร์พี่ชายของทรงรบ มาฟังคำทำนายเนื่องจากเธอฝันร้าย คนของตำหนักเปลี่ยนฟ้าอันประกอบด้วย ปู่ปึก, พฤกษ์ หมอดูไพ่, ยายแผ่น ร่างทรงของเจ้าแม่ทับทิม รวมทั้ง เปลี่ยนฟ้า ลูกชายของพฤกษ์ที่สามารถมองเห็นอนาคต ต่างทำนายไปในทิศทางเดียวกันว่า แอนนี่จะประสบเคราะห์กรรมจนถึงชีวิต ขอให้รีบทำบุญโดยด่วน เมื่อรู้เรื่อง ชมเดือน ตกใจเป็นอย่างมาก เพราะชมเดือนเป็นแฟนพันธ์แท้ของแอนนี่ เพียงแต่ชมเดือนไม่มีอำนาจพิเศษในการหยั่งรู้ฟ้าดิน ทำนายทายทักอนาคตเหมือนทุกคนที่ตำหนัก ชมเดือนจึงพยายามถามเปลี่ยนฟ้าน้องชายถึงวิธีที่จะช่วยอะไรแอนนี่ แต่เปลี่ยนฟ้าบอกว่าทุกอย่างเป็นเรื่องของพรหมลิขิตที่กำหนดไว้แล้ว อะไรจะเกิดก็คงต้องเกิด ชมเดือนเป็นห่วงแอนนี่มาก แต่เมื่อ เพลินพิศ แม่ของแอนนี่ รวมทั้ง ภาษิต สามีใหม่ของเพลินพิศรู้เรื่องกลับหาว่าแอนนี่เหลวไหล แอนนี่ได้แต่เก็บความกลัดกลุ้มเอาไว้ เพราะเธอสังหรณ์ใจว่าสิ่งที่ตำหนักเปลี่ยนฟ้าทำนายจะเป็นเรื่องจริง โดย ไม่มีใครคาดคิดอีกหนึ่งอาทิตย์ต่อมา มีเหตุให้แอนนี่ตกจากดาดฟ้าบ.ฮาร์ทซองตาย ตามคำทำนายจริงๆ ตำรวจชันสูตรศพและสรุปว่าเป็นอุบัติเหตุ เพลินพิศไม่เชื่อเพราะปักใจไปแล้วว่าต้องเป็นการฆาตกรรม เพลินพิศพุ่งเป้าไปที่สองพี่น้องผู้บริหารค่ายเพลงฮาร์ทซอง เพราะทรงรบกับทรงต้นมีเรื่องพัวพันอยู่กับแอนนี่ นั่นคือทรงรบแอบรักแอนนี่ แต่แอนนี่เกิดรักทรงต้น เมื่อปัญหารักสามเส้าตกลงกันไม่ได้จึงลงเอยด้วยโศกนาฏกรรม สารวัตรมนัส ตำรวจเจ้าของคดีนำทรงรบกับทรงต้นมาสอบปากคำแต่ไม่พบพิรุธ สองพี่น้องให้การตรงกันว่าขณะเกิดเหตุทั้งคู่อยู่ด้วยกัน เพลินพิศ ไม่เชื่อยังปักใจว่าการตายของแอนนี่คือการฆาตกรรม เธอต้องการให้ทรงรบกับทรงต้นชดใช้ในสิ่งที่เกิดขึ้น แม้ เจนนิเฟอร์ ( จิลลี่ ) ซึ่งเป็นลูกสาวคนสุดท้องและเป็นน้องสาวของแอนนี่ จะบอกให้เพลินพิศยุติเรื่องของแอนนี่ เนื่องจากจิลลี่กลัวว่าทรงรบกับทรงต้นจะไม่ปั้นเธอเป็นนักร้องเหมือนอย่าง ที่ใจฝัน เพลินพิศก็ไม่เชื่อเพลินพิศบอกว่าจิลลี่โง่ที่ไปแอบรักทรงต้นเหมือนแอนนี่ ชมเดือนเองก็ไม่เชื่อ ยิ่งเมื่อเปลี่ยนฟ้ายืนยันว่าการตายของแอนนี่ไม่ใช่เป็นการฆ่าตัวตาย แต่เป็นการฆาตกรรม ชมเดือนก็ยิ่งปักใจเชื่อ ชมเดือนพยายามถามเปลี่ยนฟ้าว่าฆาตกรเป็นใคร แต่เปลี่ยนฟ้าบอกว่าถึง รู้ก็บอกไม่ได้เพราะมันผิดกฎของสวรรค์ แต่ไม่ต้องห่วงสักวันฆาตกรจะเปิดเผยตัวออกมาเอง ชมเดือนร้อนใจอยากเปิดเผยโฉมหน้าฆาตกรเร็วๆ คืนหนึ่งชมเดือนเห็นแอนนี่มาหาด้วยท่าทางเศร้าสร้อยคล้ายมีทุกข์ แต่เมื่อชมเดือนบอกทุกคนทั้งพ่อพฤกษ์ ปู่ปึก ยายแผ่น เปลี่ยนฟ้า ทุกคนกลับบอกว่าสิ่งที่ชมเดือนเห็นเหลวไหล ชมเดือนเสียใจมากที่ทุกคนไม่เชื่อ จึงปฏิญาณว่าจะพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่าชมเดือนก็มีอำนาจพิเศษ เหมือนกับทุกคนในตำหนักเปลี่ยนฟ้า สไบทิพย์ แม่ของชมเดือนบอกว่า แล้ววันหนึ่งชมเดือนจะรู้ว่าการเป็นคนธรรมดาเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ไม่ อย่างนั้นสไบทิพย์คงไม่เลือกเป็นคนธรรมดา แทนที่จะเป็นหมอดูอย่างกับยายแผ่นผู้เป็นมารดา ชมเดือนไม่เชื่อหญิงสาวยังคงคาใจเรื่องการตายของแอนนี่ และที่สำคัญชมเดือนต้องการพิสูจน์ให้คนที่ตำหนักเปลี่ยนฟ้าเห็นว่าชมเดือนมี อำนาจพิเศษ การที่ชมเดือนเห็นวิญญาณแอนนี่เป็นเรื่องจริงไม่ใช่ความฝัน ชมเดือนพยายามหาทางสมัครเข้าไปทำงานในบ.ฮาร์ทซอง เพื่อสืบหาเรื่องราวการตายของแอนนี่ โดยมี สุณิสา ( บี ) เพื่อนร่วมมหาวิทยาลัย สมัครเข้าไปทำงานด้วย ทั้งคู่ไม่ถูกกันเพราะสุณิสาแอบขโมยผลงานของชมเดือนไปส่งอาจารย์ตัดหน้าศรีริต้า เจนเซ่น รับบท ชมเดือน ผล ปรากฏว่าโปรเจ็คงานนั้นสุณิสาได้เอบวก แต่ชมเดือนซึ่งเป็นเจ้าของผลงานกลับได้ดีลบ ชมเดือนโกรธมาก ตั้งตัวเป็นศัตรูกับสุณิสาตั้งแต่ตอนนั้น แต่สุณิสาไม่เดือดร้อนเพราะเธอถูกปลูกฝังจาก วันดี ผู้เป็นย่าว่าโลกเป็นของคนฉลาดและแข็งแรง สืบเนื่องมาจากแม่ของเธอถูกพ่อของเธอคือ จักรธร ทิ้งไปหา อาจารีย์ สาวสวยที่มีทุกอย่างครบเครื่อง สุณิสาฝังใจมากตั้งแต่เล็กจนโตเธอบอกตัวเองว่าเธอต้องเป็นหนึ่ง เหนือกว่าทุกคนไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม เพียงเข้าไปทำงานที่บ.ฮาร์ทซอง สุณิสาก็ทอดตัวให้ สมิทธิ์ ( หนุ่ม ) โปรดิวเซอร์ ด้วยคาดหวังว่าหนุ่มจะพาเธอไปสู่ความยิ่งใหญ่ได้ ชมเดือนได้เข้าไปทำ งานเป็นครีเอทีพที่ไม่มีบทบาท เพราะไม่ว่าจะเสนอไอเดียอะไรก็ถูกสุณิสาแย่งไปหมด ชมเดือนอยู่อย่างซังกะตายแต่ไม่เดือดร้อน เพราะเป้าหมายของชมเดือนคือการตามหาฆาตกร ที่บ.ฮาร์ทซอง ชมเดือนแอบสังเกตและสงสัยแทบทุกคนว่าจะเป็นฆาตกร ไม่ว่าจะเป็น ชัย รปภ.ที่มีบุคลิกโลมเลียออกจะติดหื่นๆ พี่พิศ แม่บ้านที่รักความสะอาดจนถึงขั้นโรคจิต เจ๊กิฟต์ เจ้าหน้าที่ฝ่ายเสื้อผ้าที่เคยมีเรื่องกับแอนนี่ ชมเดือนเข้าไปตามพิสูจน์จนปริศนาคลี่คลายไปทีละเปราะว่า คนที่ชมเดือนสงสัยไม่มีใครเป็นฆาตกรสักคน แทนที่ชมเดือนจะหยุดแค่นั้น กลับ มีเหตุให้ชมเดือนสงสัยขึ้นมาใหม่ เมื่อสืบรู้ว่าทรงต้นเป็นแฟนกับแอนนี่ ขณะเดียวกันทรงต้นก็แอบคั่วกับจิลลี่ ว่าที่ศิลปินหน้าใหม่น้องสาวของแอนนี่ ชมเดือนตามสืบและพุ่งเป้าไปที่จิลลี่ เพราะมีคืนหนึ่งที่ทรงต้นกับจิลลี่ทะเลาะกัน และจิลลี่พลั้งปากว่าเกลียดแอนนี่ แต่เมื่อชมเดือนตามสืบกลับรู้ว่าความจริงแล้วจิลลี่เพียงแต่น้อยใจ และนึกอิจฉาเท่านั้นที่ถูกเอาตัวเปรียบเทียบกับแอนนี่ตลอดเวลา ความจริงแล้วจิลลี่ทั้งรักและเทิดทูนแอนนี่มาก เพราะแอนนี่เสียสละทุกอย่าง ถึงขนาดยอมเอาตัวเข้าแลกกับเหล่าผู้หลักผู้ใหญ่คนร่ำรวย เพื่อปก ป้องไม่ให้เพลินพิศบังคับจิลลี่ให้ไปทำงานแบบนั้น เพราะเพลินพิศเป็นคนจมไม่ลง ชอบความสุขสบายถึงขนาดขายลูกกิน เมื่อรู้ความจริงชมเดือนสงสารจิลลี่มาก แต่ทรงต้นกลับทำให้ชมเดือนสงสัย เพราะท่าทางของทรงต้นมีพิรุธหลายอย่าง โดยเฉพาะการที่ทรงต้นต้องการเลิกราจากแอนนี่ แต่แอนนี่ไม่ยอม ชมเดือนตามสืบดูพฤติกรรมของทรงต้น เมื่อทรงรบรู้เข้าทั้งคู่ก็เป็นไม้เบื่อไม้เมา ทรงรบสั่งให้ชมเดือนยุติการตามล่าหาความจริง แต่ชมเดือนไม่ยอม ท่าทางที่ดื้อรั้นเชื่อมั่นในตัวเองของชมเดือนถูกใจทรงรบเข้าอย่างจัง เพราะ ทรงรบกำลังตามหาพิธีกรหน้าใหม่มาทำรายการ “แกะรอย” รายการประเภทตามล่าหาความจริงคู่กับทรงต้น สุณิสารู้เข้าก็แทบเต้นด้วยความอิจฉา สุณิสาบอกกับหนุ่มว่าชมเดือนไม่มีอะไรสู้เธอได้ซักอย่าง ไม่ว่าจะเป็นหน้าตาหรือความสามารถ สุณิสาพยายามให้ข่าวกับ เทิดทูน นักข่าวรุ่นพี่เพื่อทำลายชมเดือน แต่แทนที่จะดับชมเดือนกับดังเปรี้ยงปร้าง ทุกคนสนใจข่าวคาวๆ ของพิธีกรหน้าใหม่กับผู้บริหารค่ายใหญ่ยักษ์ สุณิสาโกรธมากตั้งตัวที่จะแข่งกับชมเดือน ด้วยการผละจากหนุ่มไปหาทรงต้น ทรงต้นไม่ปฏิเสธเพราะเป็นหนุ่มเจ้าชู้ชอบหว่านเสน่ห์อยู่แล้ว แต่ เมื่อจิลลี่รู้ว่าทรงต้นมาพัวพันกับพนักงาน จิลลี่ก็มาอาละวาด สุณิสาโบ๊ยความผิดให้ชมเดือน จิลลี่ปักใจเชื่อเกลียดขี้หน้าชมเดือนตั้งแต่เดี๋ยวนั้น หนุ่มแค้นมากที่ถูกหลอกใช้ตามมาต่อว่าสุณิสา แต่กลับถูกด่ากลับว่าอยากโง่เอง หนุ่มสัญญากับตัวเองจะต้องแก้แค้นสาวจอมแสบอย่างสุณิสาให้ได้ความสัมพันธ์ ระหว่างทรงรบกับชมเดือนกลับดีขึ้นเรื่อยๆ ในฐานะพิธีกรกับโปรดิวเซอร์ ชมเดือนได้เรียนรู้อุปนิสัยที่แท้จริงของทรงรบ ในขณะที่ทรงรบก็ได้เรียนรู้และรู้จักความเป็นมาของชมเดือน ในความดื้อรั้นเอาแต่ใจ ชมเดือนน่าสงสารที่ไม่มีญาณพิเศษเหมือนคนในตำหนัก พิษณุ นิ่มสกุล รับบท ทรงต้นซึ่ง ชมเดือนถือว่าเป็นปมด้อย ทรงรบให้กำลังใจชมเดือนว่าการเป็นคนธรรมดานั่นแหล่ะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด เมื่อชมเดือนได้อยู่ใกล้ทรงรบ ชมเดือนก็ได้รู้ว่าทรงต้นไม่ได้เป็นฆาตกร เพราะความจริงแล้วทรงต้นรักแอนนี่มาก ทรงรบขอให้ชมเดือนหยุดตามหาฆาตกร เพราะยิ่งชมเดือนค้นหาเท่าไหร่ วิญญาณของแอนนี่จะไม่เป็นสุขชมเดือนตกลง ทั้งชมเดือนกับทรงรบต่างหลงรักซึ่งกันและกัน ชมเดือนเพิ่งรู้ว่าทรงรบชอบถ่ายวิดีโอเก็บภาพความทรงจำต่างๆ เอาไว้ เพราะเวลาไปไหนมาไหน ทรงรบจะบันทึกภาพชมเดือนเอาไว้ รายการ “แกะรอย” เรตติ้งพุ่งฉิว เมื่อมีคนของตำหนักทั้ง เปลี่ยนฟ้า ปู่ปึก ยายแผ่น มาร่วมเป็นพิธีกรด้วย สุณิสาโกรธมากที่ทำอะไรชมเดือนไม่ได้ จึงกลับมาหาหนุ่มใหม่อ้อนวอนต่างๆ นานา จนหนุ่มใจอ่อนยอมคืนดีด้วย ที่ไหนได้ สุณิสากลับล้วงความลับจนรู้ว่าทรงรบแอบรักแอนนี่ หนังสือพิมพ์ตีข่าวใหญ่โต ผลคือคุณเพลินพิศมาขู่เอาเงินกับทรงรบและทรงต้น ไม่อยากนั้นจะให้รื้อคดีของแอนนี่ขึ้นมาใหม่ สองพี่น้องไม่ยอมให้ข่มขู่ บอกใครอยากจะรื้อก็เชิญตามสบาย คดีของแอนนี่จึงถูกขุดขึ้นมาอีกครั้ง ทรงรบโกรธมากตามหาต้นเหตุเมื่อรู้ว่ามาจากสุณิสาก็ไล่ออก แต่สุณิสา โบ๊ยว่าความลับทุกอย่างมาจากหนุ่ม ทรงรบโกรธมากไล่สุณิสาและหนุ่มออกทันที หนุ่มแสนจะแค้นสุณิสาที่ทำให้ตัวเองตกงาน สุณิสาไปสมัครงานใหม่กับบริษัทของ กัมพล หวังจะท้าชนกับบ.ฮาร์ทซอง สุณิสาไม่รู้ว่าเป็นแผนของหนุ่มที่วางเอาไว้ ที่สุดสุณิสาก็ยอมมีอะไรกับกัมพลหวังเป็นใหญ่เป็นโต โดยไม่รู้ว่าถูกหนุ่มแอบถ่ายวิดีโอเอาไว้แบล็คเมล์ เมื่อเรื่องแดงสุณิสาโกรธมากแจ้งตำรวจจับสองหนุ่ม และหนีไปอยู่เมืองนอกแก้อาย ทรงรบกับทรงต้นต้องขึ้นศาลอีกรอบ เปลี่ยนฟ้าแนะนำให้พูดความจริง จะได้ไม่ต้องทุกข์ใจเหมือนที่ผ่านมา ทรง รบกับทรงต้นตกลง ทรงต้นเล่าว่าวันที่เกิดเหตุอยู่กับสาวน้อยวัยสิบสี่ แต่ไม่อยากให้เป็นข่าว จึงจำต้องให้ทรงรบโกหกว่าอยู่บริษัท ด้วยความรักพี่ทรงรบจำต้องทำตาม เพราะฉะนั้นวันนั้นจึงมีทรงรบอยู่ที่บริษัทกับแอนนี่เพียงคนดียว ชมเดือนตกใจมากเมื่อรู้ความจริง ช็อคหนักเมื่อเจอเทปดีวีที่ทรงรบทะเลาะกับแอนนี่ เรื่องที่แอนนี่ไม่ได้รักทรงรบ แอนนี่บอกถึงฆ่าแอนนี่ให้ตาย แอนนี่ก็เปลี่ยนใจมารักทรงรบไม่ได้ ในเทปทรงรบขู่แอนนี่ว่าอย่าบีบบังคับกัน เพราะไม่อย่างนั้นทรงรบอาจทำอะไรบ้าๆ ขึ้นมาก็ได้ ชมเดือนแทบล้มทั้งยืนเมื่อรู้ว่าคนที่ไม่เคยสงสัยมาก่อนเลย อย่างทรง รบแท้จริงแล้วคือฆาตกร ชมเดือนพยายามหลบหนีทรงรบแต่ก็ไม่รอด เรื่องราวประจวบเหมาะเมื่อมีหลายเหตุการณ์แสดงให้ชมเดือนเชื่อว่าทรงรบเป็น ฆาตกร ชมเดือนเสียใจมาก ระหว่างความรักกับความถูกต้องที่ว่าฆาตกรต้องได้รับการลงโทษ ทำให้ชมเดือนไม่รู้จะตัดสินใจอย่างไร ทรงรบไม่เข้าใจกับความห่างเหินและหวาดกลัวที่ชมเดือนมีต่อเขา ที่สุดชมเดือนก็ตัดสินใจเลือกความถูกต้อง ด้วยการรวบรวมหลักฐานทุกอย่างที่เกี่ยวกับทรงรบและแอนนี่ ยื่นให้สารวัตรมนัสในวันบันทึกเทปแกะรอยตอน “แอนนี่” ในการบันทึกเทปวันนั้น ตติยา ( ตุ๊ก ) โปรดิวเซอร์ ได้เชิญผู้เกี่ยวข้องกับแอนนี่มาทั้ง หมดไม่ว่าจะเป็น ทรงรบ จิลลี่ เพลินพิศ ภาษิต ชมเดือนทำรายการด้วยใจระทึก เมื่อเปลี่ยนฟ้าบอกว่าจุดจบของฆาตกรมาถึงแล้ว วันนี้ฆาตกรจะเปิดเผยตัวเอง ราวกับปาฏิหาริย์เกิดเหตุการณ์ลึกลับมากมายในห้องส่ง ไฟดับแล้วผีแอนนี่ก็ปรากฏตัวขึ้นมา ทุกคนตกตะลึงไม่มีใครคาดคิดเมื่อเพลินพิศสารภาพทั้งน้ำตาออกมาว่าไม่ได้ฆ่า แอนนี่ เหตุการณ์ครั้งนั้นเป็นแค่อุบัติเหตุ เมื่อเพลินพิศพลั้งมือผลักแอนนี่ตกดาดฟ้าตาย ทุกคนตกตะลึงกับคำสารภาพของเพลินพิศ ทันใดนั้นเองไฟก็สว่างผีแอนนี่ที่ทุกคนเห็น แท้ที่จริงก็คือชมเดือน ปลอมตัวมา ผลคือคุณเพลินพิศถูกจับ ทรงรบพ้นมลทิน ชมเดือนกับทรงรบสงสัยว่าเหตุใดวิญญาณของแอนนี่ จึงวนเวียนอยู่กับทรงรบ ทรงต้น และเจนนิเฟอร์ เปลี่ยนฟ้าบอกว่าทุกคนเป็นคนที่ไดอาน่ารัก แม้กระทั่งก่อนที่วิรากานต์ เสณีตันติกุล รับบท เจนนิเฟอร์ ( จิลลี่ )เพลิน พิศจะสารภาพความจริง เปลี่ยนฟ้าก็เห็นไดอาน่าร้องไห้ข้างๆ เพลินพิศ และตอนนี้เปลี่ยนฟ้าก็ไม่เห็นวิญญาณของแอนนี่วนเวียนอยู่ใกล้ใครอีก เธอคงไปเกิดแล้วเหลือแต่คนทำผิดอย่างเพลินพิศที่ต้องรับกรรม

กำลังแสดงผลลัพธ์ทั้งหมด 14 รายการ