สายลมกับสามเรา 2549

เรื่องย่อ : สายลมกับสามเรา (2549/2006) นานา เด็กสาววัยรุ่นที่เติบโตมาจากสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าได้มาพัวพันกับคดีฆ่า คนตายโดยไม่เจตนา เธอกำลังจะพ้นจากการรอลงอาญาและกำลังจะเดินทางไปรายงานตัวต่อ เจนจิต พนักงานคุมประพฤติ ในวันสุดท้ายของการคุมประพฤติ นานา ลาเจ๊หน่อยเจ้าของร้านสัก ที่พัทยา แต่ในระหว่างทางนานาเจอกับร่องกล้า ทายาทเศรษฐีเจ้าของธุรกิจในเครือสารินคลับ ซึ่งมีทั้งสโมสรเรือใบ สปอร์ตคลับและอู่ต่อเรือ ที่เดินทางมาลอยอังคารกระดูกของพ่อและแม่ที่เพิ่งเสียชีวิตเพราะการเล่นเรือ ใบ ร่องกล้าขับรถเฉี่ยวนานาแต่ไม่เป็นอะไรมาก นานาโมโหที่ร่องกล้าไม่ยอมขอโทษ แถมยังเอาเงินฟาดหัวเพื่อให้เรื่องยุติ นานา เจอ ฟรองซ์ จิ๊กโก๋จอมกวน ที่ร้านเจ๊หน่อย ฟรองซ์รู้ว่านานาจะไปกรุงเทพฯ จึงอาสาไปส่งที่ท่ารถ ระหว่างทางนานาได้พบว่ามียาเสพติดซ่อนอยู่ใต้ท้องรถ นานาคิดหนีแต่ฟรองซ์รู้ทันจึงเกิดการต่อสู้ ซึ่งระหว่างนั้น ร่องกล้า และ องศา น้องชายต่างมารดา ได้เห็นเหตุการณ์แต่เข้าใจผิดคิดว่าทั้งคู่กำลังพรอดรักกัน นานากับฟรองซ์สู้กันบนรถจนเป็นเหตุทำให้รถเสียหลักพลิกคว่ำ ฟรองซ์สลบไป นานารีบเก็บของหนี แต่เผลอหยิบโทรศัพท์ของฟรองซ์ติดมือไปด้วย ที่ท่ารถมีหญิงสาวคนหนึ่ง ฝากลูกไว้กับนานาแล้วหนีไป นานาจึงตกกระไดพลอยโจนพาเด็กเข้ากรุงเทพฯ ด้วย เธอพบจดหมายที่แม่ของเด็กเขียนบอกไว้ว่าจะมีคนชื่อเลียบหรือเล้งมารอรับอยู่ ที่ท่ารถ พอถึงกรุงเทพฯ นานารีบส่งเด็ก ให้กับ เล้ง น้องชายของชุ่ย แล้วรีบหนีไป แต่ทว่าตำรวจยังป้วนเปี้ยนอยู่แถวนั้นและมีข่าวของการตามจับเธอในทีวี ทำให้เธอต้องสมอ้างว่าเธอคือ เจ๊นา และออกไปพร้อมกับเล้ง เล้งพานานาไปพักอยู่กับสารินคลับ ซึ่งเป็นคลับของร่องกล้าที่ปิดกิจการชั่วคราว ร่องกล้าพบนานาอีกครั้งที่สารินคลับจึงไล่นานาออกไป จนได้พบกับ ส้มจี๊ด พี่สาวแสนดีเจ้าของร้านอาหารภายในคลับ ส้มจี๊ดพานานากลับมาที่สารินคลับและขอร้องให้ร่องกล้าพานานาไปอยู่ด้วย ร่องกล้าไม่กล้าปฏิเสธ จึงพานานากับตี๋น้อยไปพักที่บ้านตน ร่องกล้ามีคู่หมั้น ซึ่งหมั้นหมายกันตั้งแต่อยู่ในท้องชื่อว่า มัดหมี่ วีเจชื่อดัง ลูกสาวนายตำรวจใหญ่ ไม่พอใจการเข้ามาอยู่ในบ้านของนานา และมีเรื่องกระทบกระทั่งกันเป็นประจำ ดนู น้องชายขององศา ไม่พอใจและอิจฉาที่ร่องกล้าได้รับมรดกเกือบทั้งหมด จึงยุยงองศาน้องชายต่างแม่ของร่องกล้าให้เกลียดร่องกล้า องศาเองก็ไม่ชอบร่องกล้าอยู่แล้วเพราะคิดว่าร่องกล้าวางแผนฆ่าพ่อแม่เพื่อ ฮุบมรดก ดนูแอบทำธุรกิจผิดกฎหมาย ค้ายาเสพติดในสารินคลับ และพัวพันกับ เสี่ยแป๊ะ เจ้าพ่อค้ายาเสพติด ส่วนฟรองซ์เมื่อฟื้นได้ให้การกับตำรวจว่านานาเป็นตัวการใหญ่ในการค้ายา หมวดโจ ตำรวจผู้ติดตามคดีนี้ เชื่อฟรองซ์และออกตามล่าตัวนานา หลังจากที่ร่องกล้าขอร้องให้เลียบรับนานากับตี๋น้อยไปอยู่ในบ้านของ เลียบ พ่อของชุ่ยกับเล้ง และเลขาคนสนิทของพ่อร่องกล้า เลียบก็ตั้งแง่รังเกียจและกลั่นแกล้งนานากับตี๋น้อย เพราะคิดว่านานาเป็นเหตุทำให้ชุ่ย พี่ชายของเล้ง เสียคนจนต้องติดคุก ร่องกล้าให้นานามาทำงานที่ร้านของส้มจี๊ด และเมื่อเข้ามาทำงานนานาเริ่มสังเกตว่าร่องกล้าแอบชอบพี่ส้มจี๊ด จึงยื่นมือเข้ามาเป็นแม่สื่อให้เพื่อแลกกับการสงบศึกการไม่ชอบขี้หน้าซึ่ง กันและกัน ทำให้สองคนนี้ดูสนิทสนมกันมากขึ้น ส่วนเล้งเริ่มหลงรักพี่สะใภ้ของตนอย่างไม่รู้ตัว จากการที่ช่วยนานาดูแลตี๋น้อย และไม่พอใจที่ร่องกล้าและนานาชอบไปไหนต่อไหนกันสองคนและดูสนิทสนมกันมากกว่า แต่ก่อน ด้านมัดหมี่ ก็ไม่พอใจร่องกล้าที่ดูจะไปสนใจผู้หญิงแก่อย่างพี่ส้มจี๊ด และสนิทสนมกับนานามากกว่าตนเอง จึงได้ไปปรึกษาองศาเพื่อขอความช่วยเหลือ ขณะนั้นเสี่แป๊ะ ก็ส่งคนออกตามล่าตัวนานาเพื่อจะเอาชิพเครือข่ายยาเสพติดในโทรศัพท์ของฟรองซ์ ที่มาตกอยู่ในมือของนานา ส่วนทางตำรวจ หมวดโจก็มาสืบคดีที่ร้านของส้มจี๊ด ทำให้นานาต้องหลบเอาตัวรอดทั้งตำรวจและลูกน้องโจรทุกครั้งไป ร่องกล้าตัดสินใจสารภาพรักส้มจี๊ด แต่ส้มจี๊ดปฏิเสธเพราะคิดว่าร่องกล้าเป็นแค่น้องชาย ร่องกล้าเสียใจขับรถไปเรื่อยๆ โดยไม่รู้ว่ามีนานาที่พลาดโดนยานอนหลับที่ตนเองพยายามวางยาหมวดโจที่ร้านของ ส้มจี๊ดติดท้ายรถร่องกล้าไปด้วย ทั้งสองคนนั่งรถไปจนถึงท่าเรือพัทยา นานาได้รับรู้ว่าร่องกล้าเคยชอบการเล่นเรือใบเป็นชีวิตจิตใจ แต่ร่องกล้าเลิกแตะต้องเรือที่เค้ารักเพราะว่าพ่อกับน้าดาหวันตายด้วย อุบัติเหตุเรือคว่ำ และร่องกล้าเชื่อว่าตัวเองดูแลเรือของพ่อไม่ดี จึงเป็นสาเหตุให้พ่อตาย นานาให้ร่องกล้าลืมอดีตและก้าวต่อไปข้างหน้า จึงให้กำลังใจร่องกล้าให้กลับมาเล่นเรือใบอีกครั้ง ทั้งสองคนเล่นเรือใบออกไปในทะเลอย่างมีความสุข จนพลบค่ำมีพายุฝนตกหนัก ทำให้สองคนพลัดตกน้ำไปติดเกาะร้างกันสองคน มัดหมี่ตกใจกับการหายตัวไปของร่องกล้าจนออกตามหาและลากองศาไปเป็นเพื่อน แล้วขับรถหลงทางไปจนหลงป่ากันสองคน ทั้งสองคู่เริ่มที่จะมีความรู้สึกดีๆ ให้กันและกัน คนอื่นๆ ตามร่องกล้าไปที่ท่าเรือที่พัทยา เล้งดูจะเป็นเดือดเป็นร้อนที่นานาหายไปมากกว่าใครๆ ร่องกล้ากับนานาหนีกลับมาได้ด้วยการขโมยเรือของโจรที่ติดตามนานาไปเกาะร้าง ส่วนองศากับมัดหมี่ก็ได้ชาวบ้านช่วยไว้ หลังจากกลับมาสองหนุ่มร่องกล้ากับเล้ง ต่างเริ่มรู้สึกกับนานามากกว่าคำว่าเมียเพื่อน และเมียพี่ จนนานาเริ่มรู้สึกแปลกใจ เจนจิตสืบรู้ว่านานาทำงานอยู่กับร่องกล้าจึงมาพบร่องกล้าและเล่าเรื่องราว ของนานาให้ร่องกล้าฟัง เพื่อที่จะพาตัวนานาไปพิสูจน์ความจริง แต่ร่องกล้าปฏิเสธว่าไม่รู้จักนานา แต่หลังจากนั้นร่องกล้าพยายามสืบหาความจริงจากนานา และเริ่มคิดว่าคนที่เขารักจริงๆ ไม่ใช่พี่ส้มจี๊ดและไม่รู้สึกผิดที่จะคิดรักนานาไม่ใช่เจ๊นาเมียเพื่อน วันหนึ่งตี๋น้อยป่วยเป็นไข้เลือดออก แต่นานาไม่สามารถให้เลือดกับตี๋น้อยได้ เล้งเริ่มสงสัยว่านานาไม่ใช่แม่ของตี๋น้อย จึงพยายามหาทางพิสูจน์ จนรู้ว่านานาเป็นเจ๊นาตัวปลอม และเล้งก็มีสิทธิ์ที่จะรักนานาได้อย่างเต็มหัวใจ เมื่อร่องกล้า กับ เล้ง กำลังจะบอกความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเองกับนานา ชุ่ยพี่ชายของเล้งกลับพ้นโทษกลับมาอยู่กับครอบครัว นานาขอร้องให้ชุ่ยเก็บเรื่องตนเป็นเมียตัวปลอมเป็นความลับ และพยายามเล่นละครสวีทตบตาคนอื่น ร่องกล้าและเล้งต่างเศร้ากับภาพที่เกิดขึ้น ในขณะเดียวกันหมวดโจก็พยายามล่าตัวนานา เจนจิตพยายามจะติดต่อเพื่อช่วยเหลือนานาให้พ้นข้อกล่าวหาต่างๆ ส่วนฟรองซ์ได้แหกคุกออกมาตามล่าตัวนานาด้วยอีกคน ร่องกล้ากับเล้งพยายามถามความจริงจากนานาและอยากช่วยนานาให้พ้นคดี ส่วนเลียบเริ่มมองเห็นความดีของนานา แต่ความมาแตกเสียก่อนตอนที่เลียบเจอบัตรประชาชนของนานา ทำให้เลียบโกรธมาก แต่ก่อนที่เลียบจะจับนานาส่งตำรวจ ก็เกิดเรื่องที่โกดังที่พัทยา ซึ่งเป็นแผนของดนูกับเสี่ยแป๊ะ ที่จะกำจัดร่องกล้ากับเลียบ ชุ่ยขับรถพาร่องกล้ากับเลียบไปที่เกิดเหตุและถูกวางระเบิด เลียบบาดเจ็บสาหัส ถูกส่งเข้ามารักษาที่กรุงเทพฯ ในคืนที่นานาเฝ้าเลียบ ดนูได้ลอบเข้าฆ่าปิดปากเลียบ นานาพยายามช่วย ดนูหนีไปได้เลียบถูกยาพิษจนเสียชีวิต ทุกคนสงสัยนานาเป็นคนทำจากประวัติคดีเก่าของเธอ นานาปฏิเสธ ชุ่ยโกรธมากและบอกความจริงกับทุกคนว่านานาไม่ใช่เมียตน หมวดโจจับนานาเข้าคุก ร่องกล้าพยายามช่วยประกันตัวนานา และวางแผนให้ ฟรองซ์ตามมาเอาชิพข้อมูลจากนานา แต่โดนดนูซ้อนแผนไปจับตี๋น้อยเป็นตัวประกัน องศากับมัดหมี่พยายามขัดขวางดนู องศาจึงถูกยิง และบอกความจริงว่าเขาเป็นคนฆ่าพ่อและแม่ขององศาเอง ดนูเรียค่าไถ่ตี๋น้อย เป็นชิพข้อมูลกับเงินหนึ่งล้านเหรียญสหรัฐฯ หมวดโจพยามซ้อนแผนอีกชั้น แต่กลายเป็นนานาที่โดนจับไปแทนตี๋น้อย เล้งถูกดนูยิงอาการสาหัส ดนูพานานาไปขึ้นเรือเพื่อหนีไปต่างประเทศ ในขณะที่กำลังจะหนีขึ้นเรือ ดนูก็เห็นวิญญาณของเลียบมาช่วยนานา ดนูตกใจจนเสียสติและถูกตำรวจจับ ส่วนฟรองซ์ เสี่ยแป๊ะ กับพวก ถูกตำรวจวางแผนล้อมจับได้จนหมดทั้งแก๊ง เมื่อนานาผ่านพ้นเหตุการณ์มาก็รีบมาเฝ้าเล้งด้วยความเป็นห่วง เมื่อเล้งฟื้นนานาก็ดูแลเล้งอย่างดี จนร่องกล้าเข้าใจผิดหนีไป ไปยังสถานที่ที่เขากับเธอเคยมีความสุขด้วยกัน นั่นคือ เกาะร้างที่ทั้งคู่ไปติดอยู่ด้วยกัน เล้งสารภาพรักนานา นานาขอบใจเล้งและบอกว่าเล้งคือเพื่อนที่ดีที่สุดของเธอ เล้งเข้าใจและบอกให้นานาไปตามหาร่องกล้าและบอกความรู้สึกที่แท้จริงกับเขา นานาตามร่องกล้าไปที่เกาะแต่ไม่พบร่องรอยใดๆ นานานั่งร้องไห้อยู่ริมทะเลทั้งคืน และบอกความรู้สึกที่แท้จริงกับทะเล ร่องกล้าแอบฟังอยู่ตรงนั้นและก้าวออกมาบอกความรู้สึกที่แท้จริงของตนเองกับ นานาเช่นกัน งานปาร์ตี้จัดขึ้นที่ร้านส้มจี๊ด ทุกคนพร้อมหน้าพร้อมตา ร่องกล้ากับนานา องศาหายดีและมีมัดหมี่ดูแลอยู่ใกล้ๆ ส่วนส้มจี๊ดมีหมวดโจเป็นบอดี้การ์ด ชุ่ยได้เจนจิตเป็นแม่ใหม่ของตี๋น้อย เล้งได้รู้จักกับเพื่อนของมัดหมี่และกลายเป็นรักแรกพบ เลียบได้มาปรากฏตัวในคืนนั้นและบอกว่าทั้งหมดคือแผน โดยเลียบอัดเสียดนูสารภาพความจริงก่อนที่จะลงมือฆ่าเลียบที่โรงพยาบาลมาเป็น หลักฐานทำให้นานาพ้นจากข้อกล่าวหา ร่องกล้าออกเดินทางแล่นเรือรอบโลกตามความฝันของตัวเอง โดยมีนานาเป็นคู่บัดดี้ และคู่ชีวิตโดยไม่พรากจากกันตลอดไป

99 วันฉันรักเธอ 2548

เรื่องย่อ : 99 วันฉันรักเธอ (2548/2005) เภตรา ( เปรี้ยว ) และอมราวดี ( อ้อ ) สองสาวครีเอทีฟและเออีแห่งเดอะวัน บริษัทโฆษณาหน้าใหม่ไฟแรง ที่มี ชาติชาย ชายหนุ่มบุคลิกดี อดีตช่างภาพมือรางวัลเป็นเจ้าของ แม้ว่าสองสาวต่างเป็นมือดีที่มักต้องทำงานคู่กันตลอด แต่ทั้งคู่กลับมีเรื่องขัดแย้งกันได้ทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องส่วนตัวหรือเรื่องงาน โดยที่ไม่มีใครเข้าใจสาเหตุ จนกระทั่งวันหนึ่งชาติชายได้รับ ปิลันธน์ ( ปั้น ) ช่างภาพหน้าใหม่เข้ามาร่วมทีม เปรี้ยวเกลียดขี้หน้าปั้นในทันที เพราะเธอเคยได้บังเอิญพบกับเขามาแล้ว เธอเข้าใจมาตลอดว่าเขาเป็นพวกแอบถ่ายรูปลามก ตรงข้ามกับอ้อที่ต้อนรับพูดคุยกับปั้นอย่างดีในทันที เพราะเธอเองก็เคยเจอกับเขามาแล้วเช่นกัน แต่ในครั้งนั้นปั้นได้ช่วยเธอให้พ้นจากผู้ชายที่หลอกมอมเหล้าเธอ

หลังคาแดง 2547

เรื่องย่อ : หลังคาแดง (2547/2004) หลังคาแดง เป็นเรื่องราวของ ทองดี ชายหนุ่มผู้ล้มเหลวทั้งชีวิตส่วนตัวและหน้าที่การงาน เขาทำงานในบริษัทใหญ่โตในหน้าที่พนักงานรักษาความปลอดภัยประจำทางเข้าออก ด้านหน้าของอาคาร แต่แล้วจู่ๆ โดยไม่คาดฝันทองดีก็ถูกไล่ออกจากงานเพราะบริษัทได้นำระบบคอมพิวเตอร์เข้ามา ควบคุมอาคารตั้งแต่การเปิดปิดประตูโดยอัตโนมัติและกล้องวงจรปิด ทำให้บริษัทไม่มีความจำเป็นที่จะต้องจ้างพนักงานรักษาความปลอดภัยในจำนวนมาก เท่าเดิม และทองดีก็กลายเป็นหนึ่งในจำนวนพนักงานที่บริษัทปลดออก ทองดีพยายามไปสมัครงานที่ใหม่ๆ แต่ก็ไม่เคยมีที่ไหนรับเขาเลย วันๆ เขาออกไปหางานแล้วก็กลับมาอยู่ห้องเช่าอย่างโดดเดี่ยว จะมีก็เพียงไอ้มะลิหมาจรจัดเท่านั้นที่เป็นเพื่อนพอพูดคุยระบายความในใจได้ ทุกวันทองดีจะนั่งคุยกับมะลิเล่าถึงความหลังของเขากับน้ำฝนอดีตแฟนสาวที่ ทิ้งเขาไป ทองดียังหวังว่าวันหนึ่งเขาจะสามารถสร้างเนื้อสร้างตัวให้มั่นคงเพื่อให้น้ำ ฝนกลับมาหา ด้วยความหวังในชีวิตนี้เองที่ทำให้ทองดียังมีกำลังใจในการดำเนินชีวิตต่อไป โดยที่ไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนล้มเหลวอย่างที่คนอื่นๆ ในสังคมมองว่าเขาเป็น จนเมื่อยังหางานใหม่ไม่ได้ ประกอบกับถูกไล่ออกจากห้องเช่า เพราะค้างค่าเช่า ทองดีรู้สึกคับแค้นใจอยู่ไม่น้อยเขาคิดว่าสาเหตุที่ทำให้เขาต้องตกต่ำเช่น นี้ก็เพราะการถูกไล่ออกจากงาน ทองดีรู้สึกอยู่เสมอว่าเขาเป็นพนักงานที่ยอดเยี่ยม เขามั่นใจว่าเขาเป็นคนที่ทุกคนในบริษัทตั้งแต่พนักงานทำความสะอาดไปจนถึง ประธานบริษัทต้องรู้จักเพราะทุกวันเขาจะเปิดประตูต้อนรับให้ทุกคนพร้อมด้วย รอยยิ้มและคำทักทาย เขาไม่เชื่อว่าคอมพิวเตอร์จะทำหน้าที่นี้ได้ดีไปกว่าเขา ในที่สุดทองดีก็ตัดสินใจกลับเข้ามาที่บริษัท พอมาถึงเขาก็ก้าวเข้าประตูที่เลื่อนเปิดปิดได้เองโดยอัตโนมัติพร้อมทั้งมี เสียงกล่าวต้อนรับเข้าสู่บริษัทพร้อมสรรพ ทองดีรู้สึกอึ้งกับความล้ำสมัยนี้แต่ถึงอย่างไรเขาก็ยังมั่นใจในประสิทธิภาพ การทำงานของตน เขาจึงตรงไปขอเข้าพบประธานบริษัทเพื่อจะเรียกร้องความยุติธรรมให้กับตนเอง จากการกระทำอันอุกอาจนี้ทองดีก็ถูกจับส่งตำรวจ ในช่วงเวลาเดียวกันนี้เอง ทางด้านของโฉมศรี ภรรยามหาเศรษฐีชื่อดังซึ่งไปใช้ชีวิตอยู่ที่ต่างประเทศได้ติดต่อมาแจ้งความ ให้ตำรวจไทยช่วยตามหาสามีที่หายไป โดยหลักฐานท้ายสุดที่พอจะมีเกี่ยวกับสามีก็คือ จดหมายหนึ่งฉบับพร้อมกับรูปถ่ายล่าสุด โฉมศรีซึ่งตอนนี้ก็ยังอยู่ที่ต่างประเทศได้ให้ข้อมูลว่าสามีหรือโกยทอง ได้เดินทางไปเที่ยวรอบโลกตั้งแต่สองเดือนที่แล้ว โฉมศรีไม่ได้ข่าวใดของสามีอีกจนกระทั่งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โกยทองได้ติดต่อกลับมาว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ประเทศไทยและได้ทำศัลยกรรมใบหน้า ใหม่ และได้แนบรูปถ่ายมาให้ดูซึ่งในรูปถ่ายนั้นโกยทองมีใบหน้าเหมือนทองดีอย่าง กับคนๆ เดียวกัน ทองดีซึ่งกำลังถูกควบคุมตัวอยู่ที่สถานีตำรวจถูกเข้าใจผิดคิดว่าเป็นโกยทอง ทองดีพยายามปฏิเสธว่าเขาไม่ใช่โกยทอง แต่ก็ไม่มีใครฟัง เมื่อเห็นว่าทองดีไม่ยอมรับ ตำรวจก็คิดว่าบางทีอาจะเป็นเพราะโกยทองเสียสติไปแล้ว เพราะจากคำให้การของโฉมศรีได้ระบุว่า พักหลังๆ โกยทองได้เกิดอาการเครียดและระแวงว่าจะมีคนมาทำร้ายอยู่เสมอ จนในที่สุดก็ได้มีความคิดที่จะหนีไปที่ไหนสักพักเพื่อพรางตัว ตำรวจเชื่อว่าอาการเครียดที่ว่านี้อาจจะมีผลให้โกยทองเสียสติไปได้ ตำรวจจึงได้ส่งตัวทองดีไปอยู่โรงพยาบาลหลังคาแดงซึ่งเป็นสถานบำบัดและรักษา ผู้วิกลจริตที่โกยทองเป็นผู้ก่อตั้งขึ้นเอง วันแรกที่ถูกส่งตัวไป ทองดีถูกจัดให้พักในบ้านพักของผู้ป่วยพิเศษเพื่อรอให้ ผ.อ.คนใหม่ของโรงพยาบาลมาถึง ทองดียังไม่รู้ว่าเขาถูกส่งตัวมาที่ใด ส่วนหนึ่งก็เพราะทุกคนคิดว่าเขาเป็นโกยทองผู้เป็นเจ้าของที่นี่ จึงได้ปฏิบัติกับเขาและให้การรับรองอย่างดีเสียจนทองดีไม่รู้ว่าตัวเองกำลัง อยู่ในโรงพยาบาลบ้า การมาของทองดีหรือโกยทองตามที่คนอื่นเข้าใจนี้สร้างความตื่นเต้นให้กับเจ้า หน้าที่ทุกคนในโรงพยาบาลมากเพราะตลอดมา โกยทองเป็นบุคคลลึกลับ ไม่เคยปรากฏตัวให้ใครเห็นมาก่อน ที่โรงพยาบาล จิตแพทย์ประจำโดยการนำของ กุหลาบและสายใจ ได้จัดงานเลี้ยงต้อนรับ ผ.อ.คนใหม่ โดยได้คัดเลือกคนไข้จำนวนหนึ่งจากฝ่ายคนไข้พิเศษมาร่วมงานเลี้ยงครั้งนี้ แต่ ผ.อ.คนใหม่ก็มาช้าเพราะรถของโรงพยาบาลอื่นที่มาส่งเกิดหลงทาง ประกอบกับคนไข้รายใหม่ในท้ายรถอาละวาด ผ.อ.จึงต้องเสียเวลาไปกับการเข้าไปเกลี้ยกล่อมอยู่ท้ายรถ ทองดีซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มคนไข้พิเศษได้มาร่วมในงานเลี้ยงครั้งนี้ ด้วยคอนเซ็ปต์ของงานที่พยายามทำให้ ผ.อ.รู้สึกเป็นกันเอง ไม่มีบรรยากาศของโรงพยาบาล ทำให้ทองดียังไม่รู้สึกถึงความผิดปกติเท่าไรนัก เมื่อ ผ.อ.คนใหม่มาถึง ทุกคนก็ตื่นเต้นดีใจโดยเฉพาะกุหลาบซึ่งเป็นสาวโสดวัย 30 ซึ่งรู้สึกประทับใจในตัว ผ.อ.ตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น กุหลาบได้แนะนำทองดีให้ ผ.อ. รู้จักในฐานะโกยทอง ผู้ก่อตั้งโรงพยาบาลแห่งนี้ ขณะที่งานดำเนินไปอย่างเรียบร้อยจู่ๆ กลุ่มคนไข้อนาถาก็บุกเข้ามาร่วมในงานด้วยทำให้งานปั่นป่วนไปหมด และหนึ่งในคนไข้จำนวนนั้นก็มี อาลัย คนไข้สาวรวมอยู่ด้วย และตอนนี้เองทองดีแน่ใจในทันทีว่าเขาถูกจับมาอยู่ในโรงพยาบาลบ้า ทองดีตกใจจนเป็นลมไป เช้าวันต่อมาทองดีฟื้นขึ้นมาในห้องพักส่วนตัวท่ามกลางความเป็นห่วงของกุหลาบ และสายใจ เมื่อทองดีฟื้นเขารีบปฏิเสธกับใครๆ ว่าเขาไม่ใช่โกยทอง การปฏิเสธเช่นนี้ยิ่งทำให้ทุกคนเข้าใจว่าโกยทองกำลังอยู่ในอาการหนัก การหมดสติไปของโกยทองกลายเป็นเรื่องใหญ่ในที่ประชุมของคณะกรรมการของโรง พยาบาลเนื่องจากเห็นว่าปัญหาทั้งหมดนี้เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นจากคนไข้อนาถา ผ.อ.ที่มาใหม่นี้ได้เล็งเห็นว่าปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเพราะมีความเหลื่อม ล้ำกันมากไประหว่างคนไข้อนาถากับคนไข้พิเศษ ทำให้คนไข้อนาถาลุกขึ้นมาเรียกร้อง ดังนั้นสิ่งแรกที่ ผ.อ. ต้องการเปลี่ยนแปลงในโรงพยาบาลแห่งนี้ก็คือทำให้คนไข้ทุกคนมีความเท่าเทียม กัน นโยบายใหม่ของ ผ.อ.นี้แม้จะไม่ค่อยเป็นที่พอใจแต่ก็ไม่มีใครสามารถขัดได้ นโยบายนี้จึงนำมาปฏิบัติโดยเริ่มจากการลดสิทธิพิเศษของคนไข้พิเศษลง แต่ก็มีข้อยกเว้นสำหรับโกยทองหนึ่งคน เมื่อโฉมศรีได้รับการติดต่อว่าโกยทองได้ถูกควบคุมตัวไว้ที่โรงพยาบาลหลังคา แดงแล้วเธอก็วางใจ แม้จะรู้สึกตกใจอยู่บ้างที่ตอนนี้สามีได้เสียสติไปแล้ว แต่เธอก็ได้ติดต่อมาที่โรงพยาบาลให้คอยดูแลโกยทองให้ดี อย่าให้หนีไปที่ไหนอีก ส่วนทองดีเมื่ออยู่ในโรงพยาบาลแม้จะได้รับการรับรองอย่างดีแต่เขาก็ไม่วาย รู้สึกว่าที่นี่ไม่ใช่ที่ๆ เขาสมควรอยู่ เขาพยายามอย่างยิ่งที่จะหาทางหลบหนีออกจากโรงพยาบาล ที่นั่นทองดีไม่เคยคุยกับใครรู้เรื่อง มีเพียงคนเดียวที่เขาพอจะสื่อสารได้รู้เรื่องที่สุด นั่นก็คือ อาลัย ทองดีแปลกใจที่อาลัยต้องมาอยู่โรงพยาบาลแห่งนี้ ทั้งๆ ที่เธอเองก็อยู่ในอาการที่ดี พอที่จะไปใช้ชีวิตอยู่ข้างนอก ทองดีเพิ่งสังเกตเห็นว่าอาลัยมานั่งรอแม่กับน้องชายทุกวันพุธซึ่งเป็นวันที่ โรงพยาบาลเปิดให้ญาติมาเยี่ยม แต่จนแล้วจนรอดแม่ของเธอก็ไม่เคยมา ทองดีรู้สึกสงสารจึงสัญญากับอาลัยว่าถ้าเขาหาทางออกไปได้ เขาจะกลับมารับอาลัยออกไปในฐานะญาติของเธอ และจะพาอาลัยไปพบแม่และน้องชายเอง อาลัยดีใจมากจึงตกลงจะช่วยหาทางหนีให้ทองดี แรกๆ คนไข้อนาถาซึ่งเป็นคนไข้ส่วนใหญ่ของโรงพยาบาลพากันเห่อทองดีเพราะคิดว่าเป็น โกยทอง พวกเขาจึงคอยแอบเฝ้าดูพฤติกรรมของทองดีและเลียนแบบตลอดเวลาทำให้ทองดีรู้สึก อึดอัดอย่างมาก การตกเป็นเป้าสายตาขนาดนี้ทำให้ความพยายามของทองดีที่จะหาทางหลบหนีออกจาก โรงพยาบาลเป็นไปได้ยากขึ้น การหลบหนีครั้งแรกๆ ของทองดีไม่ประสบความสำเร็จ ซ้ำร้ายเขายังได้เห็นตัวอย่างของคนไข้ที่พยายามหลบหนีแล้วถูกจับได้ว่าจะถูก นำไปขังไว้ในห้องขังพิเศษที่มีลักษณะคล้ายๆ กับคุกมืด ห้องขังพิเศษนี้มีไว้ให้สำหรับคนไข้ที่มีอาการรุนแรง มีแนวโน้มจะทำร้ายผู้อื่นและมีไว้สำหรับลงโทษคนไข้ที่ไม่ปฏิบัติตามกฏของโรง พยาบาล ทองดีเห็นตัวอย่างแล้วก็คิดว่าแผนการหลบหนีของเขานั้นควรจะทำอย่างรัดกุม ยิ่งขึ้น ทองดีถือโอกาสหลอกใช้คนไข้คนอื่นๆ ที่กำลังชื่นชมเขาให้ช่วยเหลือพาเขาหลบหนี ทองดีวางแผนตีซี้กับคนไข้คนอื่นๆ โดยแรกๆ เขาใช้วิธีนำขนม บุหรี่ ข้าวของเครื่องใช้ที่เขาได้รับเป็นพิเศษจะได้รับมาแบ่งให้กับคนไข้อนาถา แล้วเขาก็เริ่มนัดแนะกับทุกคนในตอนกลางคืนให้มารวมตัวกันประชุมลับ ทองดีสอนให้คนไข้ไม่กินยานอนหลับ คนที่นำยานอนหลับมาให้ทองดีจะได้รางวัลตอบแทน และในเวลากลางคืนนี้เองที่ทองดีใช้ให้ทุกคนช่วยหาทางหลบหนีให้เขาโดยทองดี เรียกเกมนี้ว่า เกมฉกตัวจารชน ซึ่งทองดีสมมุติให้ทุกคนกำลังหาทางหลบหนีออกจากสถานกักกัน คนไข้ทุกคนก็สนุกไปกับเกมนี้เพราะนึกว่าเป็นเรื่องจริง มีเพียง ลุงหนับ คนไข้ผู้เป็นอดีตจ่าตำรวจคนเดียวเท่านั้นที่ไม่เล่นด้วยกับแผนนี้และเขาก็ รู้ดีว่าทองดีกำลังหลอกใช้ให้คนอื่นๆ ทำเพื่อตัวเองอยู่ หลังจากวางแผนมานานหลายคืน ในที่สุดก็ถึงวันที่ทองดีจะหนีออกไปตามแผนด้วย แต่แล้วพอเอาเข้าจริงทองดีก็แอบหนีออกไปทางด้านหลังของโรงพยาบาลตามลำพัง คนไข้อื่นๆ พยายามจะตามไปด้วยแต่ก็ถูกเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลจับตัวได้เสียก่อน การถูกจับได้ครั้งนี้ทำให้คนไข้ต้องได้รับการลงโทษ ตั้งแต่ถูกคุมตัว งดให้ญาติเยี่ยม ในขณะที่ทองดีสามารถเอาตัวรอดไปได้ คนไข้รู้สึกว่าทองดีหักหลัง มีเพียงอาลัยเท่านั้นที่คอยแก้ตัวให้ทองดีด้วยการบอกกับทุกคนว่าทองดีออกไป แล้วจะหาทางมาช่วยพวกเขาทีหลัง เมื่อพูดเช่นนี้แล้วคนไข้อื่นๆ จึงรู้สึกดีขึ้น และรอวันที่ทองดีจะกลับมาช่วยอย่างมีความหวัง ทองดีเมื่อหนีออกไปได้ก็ไม่มีทางไปเพราะห้องเช่าที่เขาอยู่ก็ไม่มีแล้ว ทางโฉมศรีเมื่อรู้ว่าโกยทองหลบหนีออกไปได้ก็โกรธมาก ให้ตำรวจช่วยหาทางจับกลับมาให้ได้โดยให้เหตุผลว่าเธอเป็นห่วงความปลอดภัยของ สามีมาก และตัวเธอเองก็ตัดสินใจจะเดินทางกลับมาที่เมืองไทยเพื่อมาพบสามีด้วยตนเอง ระหว่างที่ทองดีหลบออกมาข้างนอกเขาก็ไม่ต่างไปจากคนจรจัด ต้องอยู่เร่ร่อนไปเรื่อย แต่สิ่งหนึ่งที่ทองดีเริ่มสังเกตได้คือ เขากลับสื่อสารกับคนจรจัดหรือพวกคนบ้าข้างถนนได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อ แล้วเขาก็เพิ่งได้ตระหนักว่าเขามองว่าคนบ้าและคนข้างถนนพวกนี้น่าดูถูกอย่าง ไร คนในสังคมก็มองตัวเขาไม่แตกต่างไปจากนี้เลย หลบออกมาได้ไม่นานทองดีก็ถูกตำรวจจับกลับไปส่งที่โรงพยาบาลหลังคาแดงดังเดิม การที่ทองดีถูกจับกลับมานี้ทำให้คนไข้ทุกคนผิดหวังมาก เพราะนั่นหมายความว่าทองดีไปไหนไม่รอดและก็คงไม่มีทางที่จะพาพวกเขาออกไปได้ ด้วย ทองดีพอมารู้ว่าการหลบหนีออกไปของเขานั้นสร้างความเดือดร้อนให้กับคนไข้ อื่นๆมากแค่ไหนก็รู้สึกผิด และครั้งนี้ทองดีก็ได้พบกับโฉมศรีเป็นครั้งแรก โฉมศรีนึกว่าทองดีเป็นโกยทองตัวจริง แต่ทองดีก็ยังคงปฏิเสธ ซึ่งการปฏิเสธนี้ทำให้โฉมศรีเป็นกังวลมากเพราะนั่นหมายความว่าโกยทองยังไม่ มีวี่แววว่าจะมีอาการดีขึ้นแต่อย่างใด โฉมศรีได้แต่ร้องไห้เสียใจไปกับชะตากรรมของสามีและได้อ้อนวอนให้ผ.อ.และ จิตแพทย์ช่วยกันรักษาอาการของสามีให้ดีขึ้น ผ.อ.เห็นโฉมศรีเป็นเช่นนี้ก็รู้สึกเห็นใจและสัญญาว่าพร้อมจะช่วยเหลือเธอ อย่างเต็มที่ การมาของโฉมศรีครั้งนี้ เธอได้สั่งยกเลิกนโยบายที่จะสร้างความเท่าเทียมกันในโรงพยาบาลเพราะเห็นว่า นั่นเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้คนไข้ก่อเหตุวุ่นวายดังกล่าว ในเมื่อโฉมศรีสั่งเช่นนั้นก็ไม่มีใครกล้าขัดได้อีก พวกคนไข้อนาถายิ่งมีความเป็นอยู่แย่กว่าเดิมมาก ทุกคนโทษว่าทั้งหมดเป็นความผิดของทองดี ทองดีพยายามจะแก้ตัวกับทุกคนแต่ก็ไม่มีใครฟัง มีเพียงอาลัยเท่านั้นที่เข้าใจและคอยให้กำลังใจทองดี หลังจากถูกจับตัวกลับมาครั้งนี้ ทองดีก็เริ่มปลงกับการหลบหนีออกไปมากขึ้น เขาเริ่มยอมรับว่าบางทีเขาอาจจะเหมาะที่จะอยู่ในที่เช่นนี้ ทองดีเริ่มหันมามองผู้คนรอบตัวซึ่งก็รวมถึงอาลัยเพื่อนที่ดีที่สุดของเขาใน ขณะนี้ ระหว่างการเข้ากลุ่มบำบัดทองดีจึงได้รู้ว่าอาลัยมีปมเรื่องความรัก ด้วยความสงสัยทองดีจึงแอบไปเปิดดูแฟ้มคนไข้ของอาลัยแล้วก็ได้รู้ว่าตอนเธอ อายุ 14 เธอเคยหนีตามผู้ชายออกมาจากบ้าน แต่แล้วเมื่อเธอไปรอชายคนรักตามนัดที่ว่าจะมารับเขาก็กลับไม่มา ความผิดหวังนี้มีผลต่อสภาพจิตใจของเธอ อาลัยกลัวความผิดหวังจึงพยายามสร้างโลกส่วนตัวที่สวยงามปกป้องเธอไว้จากโลก ความจริงอันโหดร้าย ทุกสิ่งที่เธอเห็นและแสดงออกจึงดูใสบริสุทธิ์เหมือนอย่างที่เธอเคยเป็นก่อน หน้าที่เธอจะเจอเหตุการณ์เลวร้ายนั้น เมื่อตำรวจพาอาลัยกลับไปส่งบ้าน ด้วยความอับอายและเพื่อหนีคำครหาแม่และน้องชายก็กลับส่งอาลัยมาอยู่ที่โรง พยาบาลนี้ และไม่เคยมารับอีกเลย ทองดีรู้สึกเห็นใจอาลัยเป็นอย่างมากส่วนหนึ่งก็เพราะ เธอเห็นว่าเขาทั้งสองต่างก็เคยผิดหวังจากความรักมาเหมือนกัน ยิ่งมาเห็นอาลัยที่เศร้าใจหนัก เมื่อรู้ว่าตอนนี้กำลังถูกลงโทษจากโรงพยาบาลไม่ให้ญาติมาเยี่ยม แล้วอาลัยก็มั่นใจมากว่าแม่จะต้องมาหาเธออาทิตย์นี้แล้วก็ไม่ได้พบเธอ เมื่อรู้ว่าอาลัยคิดเช่นนี้ทองดียิ่งรู้สึกผิดหนักขึ้นว่าทั้งหมดนี่เป็น เพราะเขาคนเดียว ไม่เพียงแต่อาลัยเท่านั้น เล็ก เด็กหนุ่มซึ่งความจริงกำลังจะได้ออกไปจากโรงพยาบาล แต่เมื่อทางบ้านรู้ว่าเขาก่อเรื่องวุ่นวายครั้งนี้ ทางบ้านจึงไม่มั่นใจว่าเขาจะหายดี ก็เลยตัดสินใจไม่ยอมมารับ เล็กเสียใจมากที่ถูกพ่อแม่ทิ้งไว้ที่นี่ เล็กเกิดอาการหดหู่จนถึงขั้นทำร้ายตัวเอง เหตุการณ์ของเล็กทำให้คนไข้ในโรงพยาบาลคนอื่นๆ เกิดอาการหวาดกลัวและเศร้าซึม ทองดีพยายามสร้างบรรยากาศในโรงพยาบาลให้ดีดังเดิม แต่จนแล้วจนรอดเขาก็รู้ว่าไม่มีทางจะดีขึ้นได้ เพราะนอกจากเรื่องร้ายๆ ที่เกิดขึ้นแล้ว คนไข้ยังต้องได้รับความกดดันจากกฎระเบียบต่างๆ ที่โฉมศรีได้ตั้งขึ้น ในที่สุดเพื่อรับผิดชอบการกระทำของตัวเองและเพื่อแก้ไขสถานการณ์ในโรงพยาบาล ให้ดีขึ้น ทองดีจึงคิดว่าหากเขายอมรับว่าเขาเป็นโกยทองเสีย เขาก็คงจะยกเลิกกฎระเบียบต่างๆ ในโรงพยาบาลและช่วยปรับปรุงความเป็นอยู่ของคนไข้ในนี้ให้ดีขึ้นได้ ดังนั้นทองดีจึงยอมรับว่าเขาเป็นโกยทอง เมื่อโฉมศรีรู้ว่าโกยทองมีสติกลับคืนมาแล้วก็ดีใจมากตรงมารับโกยทองกลับไป อยู่ที่บ้านทันที ทองดีต้องสวมรอยเป็นโกยทอง เขาเข้าไปอยู่ที่คฤหาสน์ของโกยทอง และก็ไม่ลืมที่จะทุ่มเงินบริจาคให้โรงพยาบาลและลงไปควบคุมงานบริหารของโรง พยาบาลด้วยตัวเอง ระหว่างนั้นกิจการในโรงพยาบาลดีขึ้นมาก มีการแข่งขันกีฬาระหว่างโรงพยาบาลเอกชนที่อื่นๆ ที่เปิดรักษาผู้ป่วยวิกลจริตด้วยกันซึ่งทองดีก็ลงไปช่วยทำการแข่งขันร่วมกับ เพื่อนๆ คนไข้ด้วย ทองดีดีใจที่เห็นคนไข้เริ่มกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง และเขาเองก็เพิ่งมารู้สึกว่าเขาผูกพันกับคนที่นี่มาก เขารู้สึกว่าทุกคนในโรงพยาบาลชื่นชมเขา ซึ่งความรู้สึกเหล่านี้เขาไม่เคยได้จากสังคมภายนอก ทองดีนึกถึงสัญญาที่เขาเคยให้กับอาลัยไว้ว่าถ้าเขาออกมาได้ เขาจะไปรับเธอออกมาอยู่ข้างนอกด้วย ทองดีใช้ฐานะของโกยทองขอรับอาลัยมาพักอยู่ที่คฤหาสน์ ความสนิทสนมระหว่างทองดีกับอาลัยนี้ สร้างความไม่พอใจให้กับโฉมศรี แต่โฉมศรีก็ไม่สามารถทำอาลัยได้เพราะเมื่อก่อนโกยทองก็เคยมีผู้หญิงอื่นอยู่ ตลอดเวลา แต่ก็ไม่เคยมีรายไหนเลยที่โกยทองจะถึงขนาดนำมาอยู่ร่วมบ้านด้วย โฉมศรีได้แต่นำความอึดอัดนี้ไประบายให้ ผ.อ.ฟังในฐานะที่เขาก็เป็นจิตแพทย์คนหนึ่ง และนี่เองก็ทำให้ ผ.อ. เกิดเห็นอกเห็นใจโฉมศรีมากขึ้นจนกระทั่งความสงสารที่ว่าเริ่มกลายมาเป็นความ รักโดยไม่รู้ตัว ทองดีพาอาลัยไปตามหาแม่ การออกมาพบความจริงว่าแม่และน้องชายไม่ได้ต้องการเธอ ทั้งคู่อยู่กันอย่างมีความสุขแทบจะลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่ามีอาลัยอยู่ในโลกก็ทำ ให้อาลัยรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก ทองดีรู้สึกสงสาร เขาพาอาลัยกลับบ้านและบอกกับอาลัยว่าถึงอย่างไรอาลัยก็จะยังมีเขาอยู่อีกคน ทองดีเริ่มสังเกตว่าความสัมพันธ์ระหว่างโกยทองและภรรยาคงจะไม่ได้รักกันมาก นัก ทองดีรู้สึกโฉมศรีมักจะพะวงถึงสมบัติของสามีมากกว่าตัวสามีเองเสียอีก โดยสังเกตได้จากเธอมักจะถามถึงของอยู่เสมอ แต่ทองดีก็ได้แต่งงานเพราะเขาไม่รู้ว่าของที่ว่านี้หมายถึงอาลัย ซึ่งแท้จริงแล้วแม้แต่ตัวโฉมศรีเองก็ไม่รู้ว่าของที่ว่านี้คืออาลัย เธอรู้แต่เพียงว่าที่สามีเธอมาเมืองไทยครั้งนี้ ได้โอนเงินและถอนออกมาหมด แต่โฉมศรีรู้ว่าสามีไม่ได้ซื้ออะไรจึงคิดว่าสมบัติของสามีจะต้องถูกเปลี่ยน ไปอยู่ในรูปของอะไรซักอย่าง ทองดีเองเพื่อเอาตัวรอดเขาก็ต้องทำอ้ำอึ้งและได้แต่ตอบเหมือนกันทุกครั้งว่า ตอนนี้ของได้อยู่ในที่ๆ ปลอดภัยแล้ว ในขณะเดียวกันโฉมศรีก็เริ่มสังเกตเห็นความผิดปกติในตัวสามีหลายๆ อย่าง โดยเฉพาะการที่สามีของเธอสามารถเข้ากับนำโชคสุนัขที่เธอเลี้ยงเหมือนลูกได้ เป็นอย่างดี จนพักหลังนี้นำโชคดูจะติดโกยทองมากกว่าเธอเสียอีก ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับโกยทอง เพราะโกยทองจะเป็นคนที่เกลียดสุนัขมาก และนำโชคเองก็จะกลัวโกยทองมากเช่นกัน ด้วยเหตุที่ต่างคนต่างเริ่มรู้ทันกันนี้เอง ทั้งคู่จึงได้เริ่มจับผิดกันและกันมากขึ้น โฉมศรีให้ลูกน้องไปตามสืบดูพฤติกรรมของสามี และพยายามล้วงความลับจากอาลัยเรื่อง ของ แต่อาลัยก็ไม่สามารถบอกได้ โฉมศรีจึงคิดจะใช้อาลัยให้ช่วยสืบให้เธอเพราะเห็นว่าโกยทองไว้ใจอาลัย มากกว่าใคร แต่ด้วยเพราะความซื่อไร้เดียงสาของอาลัย อาลัยก็ไม่สามารถทำตามที่โฉมศรีต้องการได้ ซ้ำยังทำให้โกยทองรู้ทันโฉมศรีขึ้นมาอีกขั้นหนึ่ง วันหนึ่งทองดีได้เจอกับน้ำฝน คนรักในอดีตของเขาอีกครั้ง น้ำฝนตกใจไม่น้อยที่เห็นทองดีมีฐานะดีขึ้นมาก ทองดีต้องช้ำใจเมื่อรู้ว่าตอนนี้น้ำฝนแต่งงานไปแล้ว การพบกันในครั้งนี้ไม่พ้นหูตาของลูกน้องโฉมศรี โฉมศรีสั่งให้ลูกน้องไปสืบประวัติของน้ำฝนทันที เมื่อสืบมาได้โฉมศรีก็ไปพบและถามจากน้ำฝนด้วยตัวเอง จึงได้รู้ว่า น้ำฝนรู้จักโกยทองในฐานะของนายทองดี ทนนาน แต่ก็ไม่ได้ติดต่อกันนานแล้ว โฉมศรีซักถามจนมั่นใจว่าน้ำฝนไม่ได้โกหกแล้วก็ได้ให้เงินปิดปากน้ำฝนไว้ก้อน หนึ่ง แล้วโฉมศรีก็ได้สั่งให้ลูกน้องไปสืบประวัติและหาตัวของนายทองดี ทนนานตัวจริงมาให้ได้ เมื่ออยู่ที่คฤหาสน์นั้น อาลัยก็ได้พบความจริงว่าโฉมศรีนั้นมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับถมทอง น้องชายไม่แท้ของโกยทองซึ่งเป็นลูกบุญธรรมที่พ่อของโกยทองได้รับเลี้ยงไว้ อาลัยพลั้งปากบอกทองดีเรื่องนี้ทำให้โฉมศรีไม่พอใจคิดจะกำจัดอาลัย ทองดีรู้ทันจึงทำเป็นว่าจะฟ้องหย่าและเปิดโปงเรื่องของโฉมศรีและถมทอง และได้ให้อาลัยกลับไปอยู่ที่โรงพยาบาลเพื่อความปลอดภัยของตัวเธอเอง ทองดีบอกกับโฉมศรีว่าตราบใดที่อาลัยยังปลอดภัย เขาจะไม่เปิดเผยเรื่องความสัมพันธ์ของโฉมศรีกับถมทองโดยเด็ดขาด และวันหนึ่งนำโชคซึ่งตอนนี้ติดทองดีแจก็พาทองดีไปพบกับตู้เซฟของโกยทอง ตอนนี้ทองดีจึงเริ่มแน่ใจว่าของที่ว่านี้เกี่ยวพันกับตู้เซฟนี้แน่นอน ทองดีพยายามหาทางจะเปิดเซฟแต่ก็เปิดไม่ได้ เขาจึงคิดว่าบางที ของก็คงเป็นกุญแจสำหรับเปิดตู้เซฟนี้ ในขณะที่ทองดียังเป็นโกยทองอยู่นี้ วันหนึ่งโฉมศรีก็ได้รับจดหมายจากโกยทองอีกฉบับหนึ่ง ในฉบับนั้นได้ส่งรูปถ่ายล่าสุดจากโกยทองตัวจริงแนบมาด้วย ในจดหมายนั้นบอกว่าตอนนี้เขาอยู่ที่อินเดียและได้ทำศัลยกรรมเปลี่ยนใบหน้าไป อีก จดหมายฉบับนี้ได้บอกมาด้วยว่าตอนนี้ของได้อยู่ไม่ไกลจากโฉมศรีแต่อย่างใด จากจดหมายประกอบกับข้อมูลที่ลูกน้องของเธอได้สืบมาว่านายทองดีตัวจริงนั้น ได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยแล้ว ทำให้โฉมศรีแน่ใจว่าโกยทองคนที่เธออยู่ด้วยไม่ใช่ตัวจริงแน่นอน แต่เธอก็ยังเก็บความลับนี้ไว้อยู่กับตัวเพียงคนเดียว ทองดีเริ่มรู้สึกแล้วว่าชีวิตมหาเศรษฐีอย่างโกยทองช่างเป็นชีวิตที่ไม่มี ความสุขเอาเสียเลย เขาไม่สามารถไว้ใจคนรอบข้างได้สักคนโดยเฉพาะกับภรรยาอย่างโฉมศรี โฉมศรีตัดสินใจบอกความจริงกับทองดีว่าเธอรู้ความจริงหมดแล้วว่าทองดีเป็นโกย ทองตัวปลอม เธอขู่ให้เขาบอกความจริงมาให้หมดว่าเคยเจอกับโกยทองเมื่อไหร่ และโกยทองเอารูปถ่ายของเขามาได้อย่างไร ทองดีเห็นรูปถ่ายของเขาก็จำได้ทันทีว่ามันเป็นรูปของเขาที่หายไปเมื่อตอนถูก ไล่ออกจากห้องเช่า แต่เพื่อรักษาชีวิตตัวเองเอาไว้ ทองดีจึงโกหกไปว่าเขาเคยเจอกับโกยทองตัวจริงมาก่อน และโกยทองเป็นคนมาขอรูปนั้นไปจากเขาเอง และที่สำคัญเขาก็รู้ด้วยว่าของอยู่ที่ไหน แต่พอโฉมศรีถาม ทองดีก็ไม่ยอมบอก ทองดีคิดหาทางจะหนีออกไปจากปัญหายุ่งเหยิงนี้ทั้งหมด เขาตัดสินใจจะหลบไปใช้ชีวิตอยู่อย่างเรียบง่ายที่ต่างจังหวัด เขานำแผนนี้ไปบอกแก่อาลัยเพื่อชวนให้เธอหนีไปกับเขา การที่ทองดีมาชวนหนีครั้งนี้เท่ากับเป็นการมาสะกิดบาดแผลในใจของอาลัยในอดีต อาลัยกลัวว่าเหตุการณ์จะซ้ำรอย เธอจึงปฏิเสธไม่ยอมไปกับทองดี ทองดีพูดโน้มน้าวให้อาลัยเชื่อใจเขา เขารับรองว่าเขาจะไม่ทำให้อาลัยผิดหวังเหมือนคนรักคนก่อนของอาลัย และเขาเองก็เชื่อว่าหากเขาทำให้อาลัยยอมไปกับเขาได้ นี่อาจจะเป็นการทำให้อาลัยก้าวพ้นกลับมาสู้ความจริงได้อีกครั้งหนึ่ง ทองดีบอกกับอาลัยว่าเขาจะมารับเธอที่หลังโรงพยาบาลในวันพรุ่งนี้ ข้อเสนอของทองดีทำให้อาลัยนำไปครุ่นคิดหนักทั้งคืน วันรุ่งขึ้นทองดีกำลังจะไปรับอาลัยตามที่นัดไว้ แต่ก็ถูกตำรวจดักไว้เสียก่อน โฉมศรีบอกให้ตำรวจช่วยจับตัวทองดีไว้ ทองดีบอกกับตำรวจว่าเขาไม่ใช่โกยทอง พอทองดีพูดเช่นนี้ ตำรวจก็คิดว่าโกยทองกลับมามีอาการป่วยอย่างเก่าอีกก็จึงนำตัวทองดีกลับไปที่ โรงพยาบาลหลังคาแดง ที่โรงพยาบาลทองดีถูกจับมาขังเดี่ยว เขาเป็นห่วงอาลัยอย่างมาก เพราะเขารู้ว่าอาลัยกำลังรอเขาอยู่ และถ้าเขาไม่ไปก็เท่ากับว่าเขาทรยศอาลัยและก็จะยิ่งทำให้บาดแผลในจิตใจของ อาลัยบอบช้ำมากขึ้นอีก แต่โฉมศรีก็ไม่ยอมปล่อย โฉมศรีบอกกับทองดีว่าถ้าหากเขายอมบอกมาว่าของอยู่ที่ไหน เธอจะยอมปล่อย ทองดีสารภาพเรื่องตู้เซฟและขอให้โฉมศรีปล่อยเขาไป แต่โฉมศรีก็ไม่ยอมปล่อย ทางด้านของอาลัย เธอก็ได้แต่นั่งรอทองดีต่อไปที่หลังโรงพยาบาลจนถึงดึก เจ้าหน้าที่พากันตามตัวกันให้วุ่น อาลัยผิดหวังอย่างมากที่ทองดีหลอกเธอ อาลัยได้แต่นั่งเศร้าซึม ไม่พูดไม่จา ทำให้ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับอาลัย ทองดีพอรู้ว่าอาการของอาลัยทรุดหนักลงเรื่อยๆ ก็ทนไม่ไหว เมื่อโฉมศรีมาพบกับเขาอีกครั้ง พร้อมกับยื่นข้อเสนอว่าจะมอบส่วนแบ่ง 30% ของทรัพย์สมบัติทั้งหมดของโกยทองให้ถ้าทองดียอมบอกว่าที่ซ่อนของกุญแจเปิด เซฟ ทองดีบอกว่าเขาไม่รู้แต่โฉมศรีไม่เชื่อด้วยความคับแค้นใจ ทองดีก็ตรงเข้าไปบีบคอโฉมศรีให้หายแค้นกับที่เป็นเหตุทำให้อาลัยต้องทรุดลง ผ.อ.เข้ามาเห็นเหตุการณ์พอดีก็จึงเข้าไปช่วยโฉมศรีออกมา และสั่งให้เจ้าหน้าที่นำตัวทองดีไปช็อตไฟฟ้าแม้สายใจจะพยายามคัดค้านแต่ก็ ไม่เป็นผล หลังจากการถูกลงโทษด้วยการช็อตไฟฟ้า ทองดีก็ถูกส่งกลับมาในสภาพของคนไร้ความรู้สึกและความทรงจำ เป็นเพียงแต่ร่างที่มีเพียงลมหายใจเท่านั้นที่บ่งบอกว่าเขายังมีชีวิตอยู่ พออาลัยได้พบกับทองดีในสภาพนี้เธอก็รู้ทันทีว่าทำไมทองดีมารับเธอตามนัดไม่ ได้ เมื่อรู้ว่าทองดีไม่มีเจตนาหลอกลวงเธอ อาลัยก็อาการดีขึ้น และการที่อาลัยกล้าตัดสินใจไปตามนัดกับทองดีนี้ก็เท่ากับว่าอาลัยกล้าเผชิญ กับความจริงมาขึ้น นั่นก็หมายความว่าอาการของเธอเริ่มดีขึ้นแล้ว ระหว่างนั้นลุงหนับมาเยี่ยมทองดี เขาพูดกับทองดีทั้งๆ ที่รู้ว่าทองดีคงจะไม่ได้ยินสิ่งที่เขาพูด เขาบอกให้ทองดีพอใจกับสภาพที่เป็นอยู่ และบอกว่าการเป็นคนบ้าบางครั้งก็ไม่ได้เลวร้ายไปซะหมด คนบ้าเท่านั้นที่จะได้ทำสิ่งที่ตัวเองอยากทำได้โดยไม่มีใครถือสา แล้วเขาก็สารภาพกับทองดีว่าความจริงเขาเองก็ไม่ได้บ้าแต่ในเมื่อมาอยู่โรง พยาบาลแล้วสบายกว่าอยู่ข้างนอกเขาก็เลยแกล้งบ้าเพื่อจะได้อยู่ในนี้ต่อไป และนี่เป็นสาเหตุที่เขาไม่เคยเห็นด้วยกับการที่ทองดีพยายามจะหลบหนีออกไปจาก ที่นี่ หรือคอยปฏิเสธว่าตัวเองไมได้บ้า เขาเห็นว่าบางทีการยอมรับว่าบ้าเสียก็อาจจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ลุงหนับไม่รู้เลยว่าคำพูดของเขาจุดประกายให้ทองดีซึ่งมีสติได้ยินคำพูดของ ลุงทั้งหมดคิดจะแกล้งทำเป็นบ้าไปตามที่ลุงหนับทำ โฉมศรีคิดจะไปหลอกใช้ทองดีซึ่งตอนนี้วันๆ ได้แต่นั่งเหม่อ ไม่รู้สึกรู้สมอันใดมาเป็นเครื่องมือแทน โดยเธอคิดจะใช้โอกาสนี้ให้ทุกคนเห็นว่าโกยทองเป็นบุคคลวิกลจริต แล้วก็ทำเป็นเรื่องทางกฏหมายให้โกยทองกลายเป็นบุคคลไร้ความสามารถแล้วหลัง จากนั้นทรัพย์สมบัติและกิจการต่างๆ ของโกยทองก็จะกลายเป็นของโฉมศรี เพื่อให้ประสบผลสำเร็จ โฉมศรีซึ่งรู้ดีว่า ผ.อ. นั้นชื่นชอบเธออยู่ไม่น้อย เธอจึงแกล้งทำเป็นหลอกล่อให้ ผ.อ.ช่วยด้วยการสัญญาว่าจะแต่งงานด้วยทันทีที่ศาลสั่งให้โกยทองกลายเป็น บุคคลวิกลจริตไปแล้ว ผ.อ.ซึ่งหลงรักโฉมศรีอยู่แล้วเป็นทุนเดิม ย่อมอยากจะช่วยให้โฉมศรีพ้นจากผู้ชายที่ไม่เคยเห็นค่าของเธออย่างโกยทองมา ได้ เขาสัญญาว่าจะทำให้หมอคนอื่นๆ ลงความเห็นวินิจฉัยว่าโกยทองเป็นบุคคลวิกลจริตไปให้ได้ อาลัยเห็นอาการของทองดีไม่ดีขึ้น และรู้ว่าทองดีกำลังตกเป็นเหยื่อของโฉมศรีก็พยายามจะหาทางช่วยด้วยการแอบ เข้ามาหาทองดีและพยายามจะรื้อฟื้นความจำให้ทองดี ทองดีถือโอกาสนี้บอกความจริงแก่อาลัยว่าเขาไม่ได้บ้าหรือความจำเสื่อมไป อาลัยดีใจมากที่รู้ว่าทองดีปลอดภัยดี ทองดีบอกกับอาลัยว่าเขากำลังมีแผนจะหักหลังโฉมศรี ทองดีขอให้อาลัยช่วยเขาด้วยการทำอะไรบางอย่างให้ ผ.อ.มัวแต่หมกมุ่นเรื่องโกยทองเสียจนแทบจะไม่ใส่ใจงานวันครบรอบการก่อตั้ง โรงพยาบาลซึ่งจะต้องจัดขึ้นทุกปี ในการประชุมเพื่อจัดเตรียมงาน ผ.อ.ยกเรื่องอาการป่วยของโกยทองมาพูดในที่ประชุม และขอให้แพทย์และคณะกรรมการช่วยลงชื่อพิจารณาให้โกยทองเป็นบุคคลวิกลจริต กุหลาบซึ่งแอบชอบ ผ.อ.อยู่ตกลงใจร่วมลงชื่อด้วย แต่ถึงอย่างไรเสียงในที่ประชุมก็เข้าข้างฝ่าย ผ.อ.มากกว่า ทำให้สายใจรู้สึกไม่พอใจจึงตัดสินใจลาออกไป หลังจากลงชื่อไป ต่อมากุหลาบก็ได้มารู้ความจริงว่า ผ.อ.ทำไปเพื่อช่วยเหลือโฉมศรี กุหลาบรู้สึกน้อยใจมาก ส่วนสายใจก็เก็บของย้ายออกจากโรงพยาบาลไป เมื่อเจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาลมัวแต่ไปยุ่งเรื่องโกยทอง ก็มีเพียงแต่พวกคนไข้เท่านั้นที่ตื่นเต้นกับงานด้วยการพากันซ้อมการ แสดงอย่างจริงจังโดยการนำของอาลัย ผ.อ.นำใบรับรองไปให้โฉมศรีและทวงสัญญาเรื่องแต่งงาน โฉมศรีปฏิเสธและบอก ผ.อ.ว่าจริงๆ เธอหลอกใช้ ผ.อ.เป็นเครื่องมือเท่านั้น ผ.อ.ช้ำใจมากที่โฉมศรีไม่ได้รักตนตอบ หลังจากได้ใบรับรองจากแพทย์มาแล้ว โฉมศรีก็ส่งให้ทนายความดำเนินเรื่องตามกฎหมาย โฉมศรีมีแผนว่าจะเปิดเผยตัวจริงของโกยทองในวันงาน เพื่อให้ทุกคนเห็นว่าโกยทองนั้นบ้าไปแล้ว ดังนั้นเธอจึงตามตัวสื่อมวลชนและประชาสัมพันธ์งานก่อตั้งโรงพยาบาลอย่างยิ่ง ใหญ่ สื่อมวลชนต่างก็ตื่นเต้นกันมาเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่มหาเศรษฐีโกยทองยอม เปิดเผยตัว

สุภาพบุรุษลูกผู้ชาย 2545

เรื่องย่อ : สุภาพบุรุษลูกผู้ชาย (2546/2003) หรั่ง เด็กหนุ่มลูกกำพร้า (พอร์ช ศรัณย์ ศิริลักษณ์) ร็อกเก็ตรูปไวโอลิน คือ สิ่งเดียวที่ติดตัวเขามา หรั่งทำงานสารพัดเพื่อส่งเสียตัวเองเรียนและหาเงิน มาเป็นค่าผ่าตัดตาให้ ก้อย หญิงสาวตาบอดที่หรั่งรับมาดูแลอย่างน้องสาว ชีวิตที่ไม่ร่ำรวยในชุมชนแออัด แต่เขาก้มีความสุขกับน้องสาวและเพื่อนอย่าง โบ้ เท่ห์ เช็ง แพรวา สาวสวยไฮโซ (ธัญญะสุภางค์ จิรปรีชานนท์) หรั่งแอบหลงรักและรู้ตัวดีว่าเขากับแพรวาแตกต่างกันมาก เธอมีคู่รัก คือ ตะวันฉาย แพราให้หรั่งมาช่วยงานในฐานะผู้ช่วย เผ่าลาภ อยากผลักดันให้แพรวาขึ้นมาสืบทอดตำแหน่ง เพราะเขาจะไปเล่นการเมืองในพรรคของสุริยะ พ่อของตะวันฉาย มีคู่แข่งอย่าง เทพทอแสง ด้วยการใช้สุริยะเป็นทางลัดเพื่อการขอสัมปทานเหมือนกัน แพรวาขึ้นมาทำงานแทนเผ่าภาลทำให้อรทัยน้องของเผ่าลาภไม่พอใจ

น้ำพุ 2545

เรื่องย่อ : น้ำพุ (2545/2002) พ่อกับแม่สุวรรณี สุคนธา (สินจัย เปล่งพานิช) ของ "น้ำพุ" (ตะวัน จารุจินดา) เลิกลากัน เพราะพ่อไปมีผู้หญิงคนใหม่ และพ่อทำลายของน้ำพุและแม่เข้าปกป้องน้ำพุ น้ำพุจึงมีความรู้สึกสว่าตนเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ครอบครัวต้องแตกแยก แม่พาน้ำพุและลูกสาวทั้งหมดไปอาศัยบ้านเพื่อน แม่เป็นอาจารย์สอนหนังสือที่มหาวิทยาลัย และยังมีงานเขียนอีกด้วยเพื่อหารายได้เลี้ยงลูก ๆ ระหว่างที่แม่ น้ำพุ และพี่ ๆ น้อง ๆ อาศัยบ้านเพื่อนแม่ ก็มี "น้าแพ็ท" (จิรายุส วรรธนะสิน) เพื่อนรุ่นน้องของแม่มาเยี่ยมและคอยอยู่เป็นเพื่อนพวกเขาเสมอ ๆ น้ำพุรู้สึกว่าแม่สนิทสนมกับน้าแพ็ทมากเป็นพิเศษ ต่อมาแม่ก็พาลูก ๆ ไปฝากยายที่พิษณุโลก ส่วนแม่ก็ย้ายออกมาอยู่ห้องเช่า ต่อมาแม่ก็มารับน้ำพุมาอยู่ด้วย เพราะแม่ฝากความหวังไว้ที่น้ำพุลูกชายคนเดียวว่าอนาคตอยากให้น้ำพุเป็นหมอ จึงอยากให้น้ำพุได้เรียนโรงเรียนดี ๆ ที่กรุงเทพฯ น้ำพุดีใจมากที่จะได้กลับมาอยู่กับแม่อีกครั้ง แต่น้ำพุมาอยู่ได้ไม่นาน จู่ ๆ แม่ก็ทิ้งงานสอนตามน้ำแพ็ทไปต่างประเทศ จนถูกไล่ออกจากมหาวิทยาลัย น้ำพุรู้สึกว่าตนเองถูกแม่ทอดทิ้ง และน้าแพ็ทก็มาแย่งความรักจากแม่ไปหมด จึงหันไปคบเพื่อนที่พากันริกินเหล้า สูบบุหรี่เพื่อเป็นการประชด หลังจากที่แม่กลับมา งานของแม่ก็เหลือเพียงงานเขียนอย่างเดียวเท่านั้น จนแม่ต้องเร่งทำงานหนักขึ้นเพื่อให้รายได้เพียงพอที่จะมาเจือจุนครอบครัว และแม่ก็ตั้งใจจะหาบ้านเช่าเพื่อรับลูกสาวที่ฝากยายไว้มาอยู่ด้วยกัน แม่ทำงานหนักจนไม่มีเวลาสนใจน้ำพุนัก เมื่อแม่รับพี่ ๆ และน้อง ๆ มาอยู่ด้วย แทนที่ครอบครัวจะอบอุ่นเช่นเดิม แต่น้ำพุกลับรู้สึกว่าตัวเองแปลกแยก เพราะความที่เป็นผู้ชายคนเดียวในบ้าน แต่นั่นก็ยังไม่พอ น้ำพุรู้สึกแย่ยิ่งขึ้นเมื่อน้าแพ็ทย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านด้วย "อ๊อด" และ "เบิ้ม" เพื่อนสนิทพาน้ำพุได้รู้จักกับ "ม้ง" เพราะทั้งหมดสนใจเรื่องดนตรีเหมือน ๆ กัน แต่แม่กลับไม่สนับสนุน เพราะเกรงว่าน้ำพุจะสนใจดนตรีจนไม่สนใจการเรียน อย่างที่ตนวาดอนาคตการเป็นหมอของน้ำพุ ยิ่งทำให้น้ำพุห่างเหินกับแม่ยิ่งขึ้น แล้วน้ำพุก็ได้รู้จักกับ "กิ๊ก" (เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์) ทั้งคู่ถูกใจกันจนถึงขั้นที่น้ำพุแอบพากิ๊กมาค้างที่บ้านบ่อย ๆ น้ำพุและเพื่อน ๆ เริ่มทดลองสูบกัญชา จนวันหนึ่งทั้งหมดถูกตำรวจจับ แม่ไปประกันตัวน้ำพุออกมา หลังจากนั้นแม่ก็คุมเข้มน้ำพุยิ่งขึ้น จนวันหนึ่งแม่ก็จับได้ที่น้ำพุพากิ๊กมาค้างที่บ้าน แม่ไล่กิ๊กออกจากบ้านและห้ามไม่ให้น้ำพุพากิ๊กมาที่บ้านอีก ต่อมา กิ๊กก็ถูกไล่ออกจากบ้าน จึงมาชวนน้ำพุให้หนีไปใช้ชีวิตด้วยกัน ระหว่างทาง ทั้งคู่ก็ไปพบ "ใหม่" เพื่อนอีกคนหนึ่งที่ติดยางอมแงม ใหม่ขอร้องให้น้ำพุกับกิ๊กกลับบ้าน น้ำพุพากิ๊กกลับด้วยกัน และขอร้องให้แม่รับกิ๊กเข้ามาอยู่ในบ้านด้วยกัน แม่จำยอมเพราะกลัวน้ำพุจะเตลิดไปอีก น้ำพุยังคงคบกับเพื่อนกลุ่มเดิม ๆ และยังพากันไปเล่นยาอยู่ จึงโดนตำรวจจับอีกครั้ง ครั้งนี้น้ำพุถูกส่งไปอยู่บ้านเมตตา ส่วนกิ๊กถูกส่งไปอยู่บ้านปรานี แม่วิ่งเต้นหาทางช่วยจนรับน้ำพุออกมาได้ แม่ตัดสินใจส่งน้ำพุไปอยู่กับย่าที่เชียงใหม่เพื่อกันน้ำพุออกจากเพื่อนๆ น้ำพุขอแม่เรียนต่อด้านศิลปะ แม่ไม่เห็นด้วยและผิดหวังที่น้ำพุไม่เป็นอย่างที่ตนคาดหวังไว้ แต่แพ็ทก็ช่วยเกลี้ยกล่อมจนแม่ยอมใจอ่อน น้ำพุสอบเข้าได้เรียนศิลปะตามที่ตั้งใจ เขากลับมาอยู่กรุงเทพฯ กับแม่อีก และได้เพื่อนใหม่คือ "จุก" และมีแฟนใหม่อย่าง "ปอแก้ว" น้ำพุยังคงติดยาอยู่และทำให้จุกร่วมเสพย์ยาไปด้วย แม่เห็นน้ำพุผ่านผอมลงจนผิดตาจึงพาไปหาหมอ หมอบอกว่าน้ำพุเป็นโรคตับ ต้องรักษาตัวในโรงพยาบา ทำให้น้ำพุต้องเสียเวลาเรียนไปหนึ่งปีเต็ม ๆ แม่และแพ็ทก็ร่วมหุ้นกันทำนิตยสาร แม่จึงไม่มีเวลาสนใจลูก ๆ มากนัก น้ำพุเริ่มเสพย์ยามากขึ้น จนทนไม่ไหว จึงยอมสารภาพกับแม่และขอไปเลิกยาที่ถ้ำกระบอก เมื่อรักษาตัวจนหาย น้ำพุก็กลับมาเรียนอีกครั้ง ปอแก้วก็ไปมีแฟนใหม่แล้ว แถมน้ำพุยังไปมีปัญหากับนักเรียนโรงเรียนอื่นอีก น้ำพุยืนยันว่าเขาไม่ผิด แต่เพราะประวัติที่เคยติดยาทำให้บรรดาอาจารย์ไม่เชื่อที่น้ำพุพูด น้ำพุหมดกำลังใจ กลับบ้านไปก็ไม่มีใครสนใจ น้ำพุไม่รู้จะพึ่งใคร จึงหันไปเสพย์ยาอีกครั้ง และนั่นเป็นครั้งสุดท้ายของน้ำพุ การจากไปของน้ำพุสร้างความเสียใจให้แก่ทุกคนในครอบครัว โดยเฉพาะแม่ที่โทษว่าเป็นความผิดของตนเองที่เลี้ยงดูน้ำพุไม่ดีพอ จึงได้เขียนเรื่องของน้ำพุไว้เพื่อเป็นอุทธาหรณ์สำหรับครอบครัว

กำลังแสดงผลลัพธ์ทั้งหมด 5 รายการ