บ้านนาคาเฟ่ (2553)

เรื่องย่อ : บ้านนาคาเฟ่ (2553/2010) ละครเพลงแนวหรรษา ส่งเสริมอาชีพชุมชน และเสริมสร้างสำนึกรักบ้านเกิด ผ่านเรื่องราวความรักของน้องนางบ้านนา กับ ทายาทเศรษฐี ที่มีลำคลอง ท้องทุ่ง และ รถไถเป็นพยาน ดล (น้ำ – รพีภัทร) หนุ่มทายาทเสี่ยเจ้าของกิจการส่งออกแถวหน้า ได้รับโทรศัพท์จากบิดาเรียกตัวให้รีบบินกลับเมืองไทยกะทันหัน เมื่อไปถึงคฤหาสน์ เลิศมหาดำรงสกุล ก็ได้พบว่า เสี่ยดิเรก ผู้เป็นพ่อก็ได้หลบหนีเจ้าหนี้ไปอย่างไร้ร่องรอย ทิ้งไว้แต่จดหมายสั่งเสียกับแผนที่อีก 1 ฉบับระบุให้ดล เดินทางไปที่หมู่บ้านโคกสำราญ เพื่อขอความช่วยเหลือจาก ผู้ใหญ่ยิ้ม เพื่อนรัก เมื่อไม่มีทางหลีกเลี่ยง ดลจำต้องเดินทางไปที่โคกสำราญ ในสภาพที่ทรหดเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ก็เพราะหนทางเพื่อไปสู่หมู่บ้านโคกสำราญนั้นทุรกันดารเป็นอย่างมาก แต่ต่อให้ดลวาดภาพโคกสำราญไว้เลวร้ายขนาดไหน ก็ไม่สามารถเทียบได้กับความเป็นจริงที่เขาต้องเผชิญและยอมรับให้ได้ว่าต้องอยู่กับมันไปอย่างไม่มีกำหนด ด้วยความโกรธ เมื่อเขาถึงทางที่พอจะเร่งเจ้ารถคันงามของเขาได้ ดลเหยียบคันเร่งจนสุดและทำให้เจ้ารถคู่ชีพคันงามพุ่งทะยานราวจรวด เกือบจะเสยเข้ากับเกวียนของหลานสาวผู้ใหญ่ยิ้ม นามว่า หวานใจ (กระติ๊บ-ชวัลกร) สาวน้อยบ้านนา อายุ 18 พ่อตายตั้งแต่เด็ก ส่วนแม่ทิ้งไปทำงานที่กรุงเทพฯ แล้วหายสาบสูญไป จึงต้องอยู่กับผู้ใหญ่ยิ้มผู้เป็นลุงตั้งแต่เด็ก จึงรักลุงเหมือนพ่อ ถูกฝึกให้ทำทุกอย่างได้เหมือนผู้ชาย รักบ้านเกิดมาก เป็นครูของโรงเรียนโคกสำราญ ในช่วงวิกฤต ดลหักรถหลบควาย จนทำให้เจ้ารถคันงามก็ไปสิ้นฤทธิ์อยู่ที่ใต้ต้นไทรและเขาได้หมดสติลงในทันที แต่อย่างน้อย หวานใจก็พาร่างที่ไร้สติของดลมายังโคกสำราญจนได้ในท้ายที่สุด โคกสำราญเป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ อันที่จริง การไร้ซึ่งความเจริญนี้มีเหตุผลที่เข้าใจได้ ทั้งนี้ก็เพราะนายชัย เจ้าของโรงงานผลไม้กระป๋องที่ใช้เงินซื้อเสียงจนก้าวมาเป็นอบต. บิดาของบัวตูม (โอ๋-รุ่งระวี) บัวบาน (น้ำหวาน-ลาวัลย์) สองศรีพี่น้อง ที่ใฝ่ฝันอยากจะเป็นดาว ได้ใช้ความสามารถทุกวิถีทางที่จะยึดหมู่บ้านนี้ให้มาเป็นของเขาให้ได้ แต่ทั้งนี้หมู่บ้านนี้ก็ยังมีผู้ใหญ่ยิ้มที่ไม่ใช่ผู้ใหญ่บ้านธรรมดา ที่จะยอมใครได้ง่าย ๆ ในอดีต ยิ้มเป็นคนแรกของหมู่บ้านที่ลุยเข้าเมืองหลวงเก็บหอมรอมริบจนเป็นเจ้าของคาเฟ่ที่เริ่มจากเล็กๆจนใหญ่โตที่มีชื่อว่า บ้านนาคาเฟ่ ยิ้มได้พบรักและแต่งงานกับ สาลิกา (ฮันนี่-ภัสสร) หนึ่งในนักร้องแม่เหล็กที่สามารถเรียกแขกเข้ามาฟังเพลงจากเธอจนแน่นขนัดและในคาเฟ่ของเขายังได้ ครูนวล (โย่ง เชิญยิ้ม) ผู้ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าวงลูกทุ่งที่สอนและสร้างนักร้องที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสามารถ อีกทั้งยิ้มยังได้ ทับ (ดอน จมูกบาน) และชู (ชูศรี เชิญยิ้ม) ตลกของคาเฟ่ที่เรียกเสียงหัวเราะจากแขกได้ทุกค่ำคืน ในครั้งนั้น ยิ้มกับลูกน้องต่างเสพสุขกันมากอย่างน่าอิจฉา จนกระทั้งวันหนึ่ง เมื่ออิทธิพลมืดเข้ามาบีบบังคับให้ยิ้มขายคาเฟ่ให้ แต่ยิ้มไม่ยอม แต่ช่างเป็นโชคที่ลูกค้าผู้ร่ำรวยและเมตตาคนหนึ่ง ซึ่งก็คือเสี่ยดิเรกได้ยื่นมือเข้ามาช่วยเคลีย์ปัญหาให้จนทำให้เขาและลูกน้องสามารถรอดชีวิตมาได้แต่ก็ลำบากยากจนถึงกับหมดเนื้อหมดตัว และก็เสี่ยดิเรกอีกนั้นเองที่หยิบยื่นเงินก้อนหนึ่งให้กับยิ้ม จนทำให้เขาอพยพลูกน้องกว่าห้าสิบครอบครัวอพยพมาปักหลักปักฐานกันที่หมู่บ้านแห่งนี้ ยิ้มและลูกบ้านของเขาได้เรียนรู้ความจริงที่ว่าเมืองกรุง ที่ดูมีเสน่ห์นั้นแฝงไว้ด้วยเล่ห์เหลี่ยมและมนุษย์ที่มากไปด้วยกิเลส สังคมชนบทที่อยู่ใกล้ชิดกับธรรมชาติแท้ที่จริงแล้วนั้นคือสังคมที่สมบูรณ์ ที่หล่อหลอมมนุษย์จนมีจิตใจที่ดีงาม ดังนั้น ยิ้มและลูกบ้านของเขาจึงตั้งใจที่จะรักษาให้หมู่บ้านอยู่ในสภาพใกล้ธรรมชาติที่สุด แต่อย่าได้เข้าใจผิดว่าชีวิตในโคกสำราญไร้สีสัน ยิ้มและลูกบ้านที่เป็นลูกหลานของนักร้อง นักดนตรีและตลกต่างก็ช่วยกันได้สร้างบรรยากาศของบ้านนาคาเฟ่ให้เกิดขึ้นทุกคืนวัน จึงเป็นที่เข้าใจได้ถึงความจริงข้อที่ว่าแม้นายชัยจะใช้แผนร้ายประการใด ก็ไม่อาจแผ่อิทธิพลชั่วเข้าสู่หมู่บ้านของผู้ใหญ่ยิ้มได้เลย แต่คนอย่างชัยก็ไม่เคยยอมแพ้ เมื่อไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็ต้องเอาด้วยกล ชัยจึงใช้อำนาจในนามนายกอบต.หาทางกลั่นแกล้งหมู่บ้านของยิ้มทุกวิถีทาง เพื่อบีบให้หมู่บ้านของยิ้มเป็นถิ่นกันดารจนไม่น่าจะมีผู้คนทนอยู่ได้ แต่สิ่งที่แปลกก็คือ แผนการร้ายของชัยไม่อาจทำอันตรายต่อยิ้มและลูกบ้านของเขาให้รู้สึกท้อถอยลงได้เลย ขณะที่ ดล สลบไปเขากำลังฝัน และเป็นความฝันที่เปี่ยมไปด้วยความสุข ในฝันเขากำลังอยู่ในคลับหรูต่างแดนที่แวดล้อมไปด้วยสาวสวยมากหน้าหลายตา แต่เมื่อแหม่มสาวอ้าปากพูด กลับเอื้อนเอ่ยเป็นภาษาถิ่นอิสานของไทยเราอย่างคล่องปาก พวกฝรั่งก็เว้าลาวกันอย่างอื้ออึงจนทำให้ ดลสติกลับคืนมา เมื่อเขาลืมตาขึ้นมาก็พบว่ารอบตัวของเขานั้นเต็มไปด้วยพวกบ้านนอกคอกนา แต่ในขณะที่เขากำลังจะกรีดร้องด้วยความสยดสยอง เสียงแตรวงของผู้ใหญ่ยิ้มที่มารอรับก็แผดเสียงขึ้น แต่ที่สะดุดตาที่สุด ก็เห็นจะเป็นใบหน้าคมคายของ หวานใจ หลานสาวของผู้ใหญ่ยิ้มที่พยายามปฐมพยาบาลดลด้วยวิธีต่างๆอย่างคล่องแคล่ว ดลพบว่าทุกคนในหมู่บ้านแสดงท่าทีดีใจมาก ที่ได้ต้อนรับเขา โดยเฉพาะผู้ใหญ่ยิ้ม ซึ่งบอกดลว่า เสี่ยดิเรกเป็นเพื่อนรักเพื่อนตายที่มีพระคุณกับผู้ใหญ่ยิ้มอย่างมาก และดิเรกได้เคยส่งเงินก้อนนึงมาให้ผู้ใหญ่ยิ้มซื้อที่เอาไว้แปลงหนึ่งเพื่อจะได้มาอยู่ในบั้นปลายชีวิต ดลเริ่มมีความหวังขึ้นมาทันที อย่างน้อย พ่อก็ยังทิ้งสมบัติเอาไว้ให้เขาบ้าง แต่เมื่อดลได้เห็นที่ดิน ใจที่เริ่มพองฟูก็แฟบลงทันที เพราะที่ดินห้าสิบไร่ที่ผู้ใหญ่ยิ้มภูมิใจนำเสนอนั้น คือที่ดินล้วน ๆ ไม่มีสิ่งปลูกสร้างใด ๆ นอกจากเพิงเล็ก ๆ กับต้นไม้ใหญ่บ้าง เล็กบ้าง ดลโวยวายขอขายที่คืน เพื่อเอาเงินกลับกรุงเทพฯ ทำให้หวานใจ ไม่พอใจอย่างมากเพราะสำหรับหวานนั้น ที่ดินของดลเป็นที่ในฝันที่หวานแอบวาดหวังว่า หากมันเป็นของหวานหวานจะพรวนดินหว่านไถ และสร้างให้มันเป็นผืนดินที่สมบูรณ์และน่าอยู่ที่สุด แต่สำหรับดลมันกลับเป็นของที่ไร้ค่า ผู้ใหญ่ยิ้มรับปากว่าจะหาเงินมาให้ดล ดลตีอกชกลมว่าเขาไม่สามารถทนอยู่ในที่อันล้าสมัยได้เลยแม้เพียงวันเดียว และขอให้ยิ้มหาทางขายที่ดินของเขาให้ได้จนหวานรำคาญ คิดแผนจะดัดนิสัยดล โดยสัญญาว่าจะหาคนมาซื้อที่ดินต่อจากดลให้อย่างเร็วที่สุด แต่ดลต้องทำให้ที่ดินเป็นที่ที่ดูดีมีค่ากว่าที่เป็นอยู่โดย เข้าไปถากถาง ปลูกพืชไร่ และสร้างบ้านในที่ดิน แสดงความภูมิใจที่ได้เป็นเจ้าของ เพื่อให้คนเห็นแล้วอยากจะซื้อ ดลหลงกลรับปาก และขอให้หวานเป็นพี่เลี้ยงบุกเบิกที่ดินร่วมกับเขาและเขาจะจ่ายค่านายหน้าให้อย่างงามซึ่งหวานก็แกล้งตอบตกลงเพื่อให้ดลตัดสินใจอยู่โคกสำราญต่อตามแผน หวานได้พบว่า ดลเป็นผลิตผลคนเมืองที่ไร้คุณภาพอย่างที่สุด ทั้งจับจด เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ เป็นทาสเทคโนโลยี ขณะที่ดลก็รู้สึกเหมือนตัวเองย้อนกลับไปอยู่ในยุคก่อนกรุงศรีอยุธยาแตก แต่สิ่งที่ทำให้ดลเกือบจะเป็นบ้าก็คือ แทบทุกคนในโคกสำราญนั้นไม่มีใครเดือดเนื้อร้อนใจกับสภาพความลำบากในชีวิตเลย ยิ่งไปกว่านั้น ทุกคนยังอารมณ์ดีจนเกินกว่าเหตุ ในแต่ละวัน ดลต้องกลายเป็นเกษตรกรจำเป็น ผจญทั้งภัยธรรมชาติ ทะเลาะเบาะแว้งกับหวาน ขณะเดียวกันดลก็ค่อย ๆ ได้ซึมซับถึงวิถีชีวิตของชาวชนบทที่เรียบง่าย งดงามโดยไม่รู้ตัวรวมทั้ง ได้เห็นการแก้ปัญหาให้ลูกบ้านโดยใช้หลักเมตตาของผู้ใหญ่ยิ้ม ที่สำคัญดลยังได้ซาบซึ้งถึงความรัก ความผูกพันระหว่างผู้คนในหมู่บ้านที่พร้อมจะเผชิญความทุกข์ยากและฝ่าฟันปัญหาต่าง ๆ ไปด้วยกันโดยไม่เคยคิดจะทอดทิ้งแผ่นดินถิ่นเกิด เมื่อทางการขอให้โคกสำราญ ซึ่งเป็นตำบลเดียวที่ไม่เคยมีสินค้าโอท็อป ส่งสินค้าของตนเข้าประกวด และหวานก็เห็นว่าจะเป็นทางเดียวที่สามารถบีบให้ชัยต้องเจียดงบมาสนับสนุนสินค้านี้ และเป่าประกาศขอให้ชาวบ้านช่วยกันสร้างสรรสินค้าโอท๊อปของหมู่บ้าน แต่ชัยก็หาทางสกัดดาวรุ่งโดยอ้างว่าสินค้าเหล่านั้นล้วนเป็นโอท๊อปของที่อื่นทั้งหมดทั้งสิ้นแล้ว แต่คนในโคกสำราญก็ยังไม่สิ้นหวัง สร้างสรรค์สิ่งที่ไม่มีใครนึกฝันระดับปฐม อีกทั้งดลยังใช้ความรู้ความสามารถของเขาช่วยชาวบ้านคิดประดิษฐ์สินค้าโอท๊อปอีกจำนวนหนึ่งซึ่งถึงแม้มันจะดูไม่เข้าท่า แต่การอุทิศกายใจให้กับชาวบ้านและทำให้เขาต้องเกือบเอาชีวิตไม่รอดเช่นกรณีของข้าวหลามดิลิเวอรี่ก็ทำให้หวานเริ่มเปิดใจให้กับเขา แต่ขณะที่ความสัมพันธ์ของเขา และหวานกำลังดำเนินไปได้ด้วยดี พ่อของดลในสภาพสิ้นเนื้อประดาตัวก็ปรากฏกายขึ้นเพื่อขอให้ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนพยายามหาเงินสดก้อนใหญ่เพื่อให้เขาไปชำระหนี้เพื่อที่จะกลับมายืนหยัดได้อีกครั้งซึ่งเมื่อเขาขอความช่วยเหลือจากดลเสร็จแล้วก็ต้องรีบหลบหนีการตามล่าจากบรรดาเจ้าหนี้และเงื้อมมือของกฏหมายต่อไป ดลที่สงสารพ่อและกำลังมืดแปดด้านจึงจำเป็นต้องหันหน้าไปพึ่ง ชัย ผู้หมายมั่นปั้นมือที่จะยึดหมู่บ้านของยิ้มให้ได้ ซึ่งชัยปฏิเสธที่จะซื้อที่ของดลโดยอ้างว่าถึงแม้จะเป็นที่ ๆ สวยงามเพียงไรแต่ขนาดไม่พอที่เขาจะสามารถทำประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ เขาต้องการที่จะกว้านซื้อที่ดินจำนวนมากจากบรรดาชาวบ้านและถ้าดลสามารถโน้มน้าวจิตใจของลูกบ้านให้ขายที่ดินให้กับเขาได้ เขาจะสมนาคุณให้กับดลอย่างงามด้วยเงินก้อนใหญ่ที่จะสามารถช่วยปัญหาของพ่อของดลได้ ดลรู้สึกเป็นห่วงว่าชัยจะเอาที่ดินไปทำอะไรแต่ชัยสังเกตุเห็นรีบออกตัวว่าเขามีแผนที่จะพัฒนาโคกสำราญให้เป็นแหล่งเพาะปลูกขนาดใหญ่เพื่อป้อนวัตถุดิบให้กับโรงงานผลไม้กระป๋องของเขาและจะทำให้ชาวบ้านมั่งคั่งมากขึ้นซึ่งทำให้ดลสบายใจที่ได้ยินเช่นนั้น ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าการกระทำเช่นนี้เท่ากับทรยศยิ้มและทรยศความไว้วางใจที่หวานมีให้กับเขา แต่ด้วยความสงสารพ่อ ดลจำเป็นต้องทำตามที่ชัยขอร้อง ดลวางแผนพาเพื่อน ๆ ในหมู่บ้านไปค้นพบความศิวิไลท์ที่เมืองกรุงจนทำให้หลาย ๆ คนเผลอหลงไปกับแสง สี เสียง เมืองกรุง จนกลับมาคิดขายที่นา สวนของตนเพื่อไปอยู่กรุงเทพฯ หวานใจรู้ว่าทั้งหมดดลเป็นคนที่อยู่เบื้องหลัง ทำให้หวานใจเสียใจมาก และออกปากไล่เขาให้ออกไปจากหมู่บ้านของเธอ ด้วยความเสียใจที่ทำให้หวาน ผู้หญิงที่เขาเพิ่งรู้ตัวว่าเขาตกหลุมรักอย่างถอนตัวไม่ขึ้นแล้วเสียใจ ดลตัดสินใจสวนกระแสเปลี่ยนใจไม่ขายที่ดินให้กับชัยและเมื่อเขาไปพบชัย เขาได้พบกับความจริงโดยบังเอิญว่าแท้ที่จริงแล้วเขาถูกชัยหลอกมาตั้งแต่ต้น ชัยตั้งใจจะสร้างโรงงานเครื่องกระป๋องในที่ดินของหมู่บ้านโคกสำราญในทันทีที่เขานำเอาไฟฟ้า และประปาที่เป็นเงินหลวงมาพัฒนาหมู่บ้านแห่งนี้และหมู่บ้านของยิ้มจะกลายเป็นที่ทิ้งกากของเสียจากโรงงานอุตสาหกรรมจนสภาพแวดล้อมจะกลายเป็นพิษ ดล ที่รู้ตัวว่าผิดไปแล้วเขาต้องหาทางที่จะต่อสู้กับชัยเพื่อรักษาหมู่บ้านของหญิงคนรักที่สอนให้เขารู้จักกับความสวยงามของความพอเพียง เพื่อทำให้โคกสำราญกลับมามีความสุขเหมือนกับอดีตที่ผ่านมาโดยใช้ชีวิตเป็นเดิมพัน ติดตามชมละคร บ้านนาคาเฟ่ ได้ทางช่อง 7 บ้านนาคาเฟ่ ออกอากาศทุกวัน จันทร์-อาทิตย์ เวลา 18.45 น. บ้านนาคาเฟ่ เริ่มตอนแรกวันอาทิตย์ที่ 3 มกราคม 2553

เจ้าสาวริมทาง 2553

เรื่องย่อ : เจ้าสาวริมทาง (2553/2010) เรื่องราวของเด็กสาวที่เกิดมาพร้อมความงาม และความสามารถ หากกลับต้องมีชีวิตที่ทุกข์ยาก ลำเค็ญ จนเธอได้พบกับชายหนุ่มรูปงาม ผู้เพียบพร้อมทุกอย่าง ทว่าชายหนุ่มผู้นี้กลับเห็นผู้หญิงเป็นของเล่น แต่โชคชะตาเล่นตลก ทำให้ทั้งสองต้องมาใช้ชีวิตคู่ร่วมกันอย่างปลอมๆ จนเขาได้เห็นถึงความดี และจิตใจที่ดีงามของเธอ กว่าจะรู้ตัวอีกครั้ง ชายหนุ่มจึงได้รู้ว่า เธอผู้มีความงามโดดเด่นคนนี้ ได้สอนให้ผู้มากประสบการณ์อย่างเขา ได้เรียนรู้ และรู้จักความรักจริง ๆ เข้าให้แล้ว เอ็มฟิตเนส ฟิตเนสหรูระดับห้าดาว เนืองแน่นไปด้วยสมาชิกที่ออกกำลัง กิจกรรมที่ได้รับความสนใจมากที่สุด เป็นการเต้นออกกำลังกายที่นำโดยเทรนเนอร์สาวสวย หุ่นดี ที่ชื่อว่า รสา แม้จะมาจากครอบครัวยากจน แต่รสาเป็นเด็กรักดีพยายามเรียนจนจบปริญญาตรี แม้จะเรียนเก่งและมีความสามารถ แต่เพราะไม่มีเส้นสาย ต้องมาเป็นเทรนเนอร์สอนการออกกำลังและโยคะ แต่เมื่อเป็นแล้วเธอก็พยายามทำงานให้ดี จนได้รับคำชมจากสมาชิกมากมาย รวมทั้ง วิษณุ เจ้าของบริษัทจำหน่ายรถยนต์ชื่อดัง วิษณุเป็นหนุ่มใจดี รวย มีการศึกษา และรักการออกกำลังกาย นอกจากจะติดใจที่รสานำการออกกำลังได้ดีแล้ว ยังติดใจในนิสัยที่น่ารัก รสาเองก็จำวิษณุได้เพราะมาเล่นเป็นประจำ หลังงานเลิก สมาชิกบางคนที่ติดใจรสาหาโอกาสลวนลามเธอ หวังจะซื้อตัว จนวิษณุต้องมามาช่วยและมีเรื่องชกต่อยกับแขกคนนั้น รสาซาบซึ้งในความดีของชายหนุ่มมาก จึงยอมคบเขาเป็นเพื่อน แต่วิษณุนึกสนใจเธอมากกว่านั้น รสามอบเงินเดือนเกือบทั้งหมดให้ สมร แม่เลี้ยง สมรเลี้ยงเธอมาแต่เด็ก หลังจากแม่ที่แท้จริงตายไป และเมื่อเรียนจบ พ่อก็มาตายไปอีกคน ชีวิตรสาจึงเหลือแต่สมร รสาส่งเสียให้ มิ้น ได้เรียนหนังสือ มิ้นเป็นลูกสาวของสมรที่เกิดจากสามีเก่า แต่มิ้นกลับเอาเงินของรสาไปใช้ฟุ่มเฟือย ซื้อเสื้อผ้า ซื้อเครื่องสำอางค์แพง เกเร ไม่เรียนหนังสือ แต่นอกจากสมรจะไม่ว่าแล้ว ยังให้ท้ายมิ้นอีกต่างหาก รสาจึงต้องอยู่อย่างอดทนกล้ำกลืน เพราะความกตัญญูต่อสมร สมรเองก็คอยทวงบุญคุณ และตอกย้ำให้รสาต้องเสียสละเพื่อมิ้นทุกอย่าง เธอคนเดียวจึงต้องหาเลี้ยงคนทั้งบ้าน รวมทั้ง เผด็จ สามีใหม่ของสมรด้วย นอกจากจะเกาะลูกเลี้ยงกินแล้ว เผด็จ พ่อเลี้ยงตัวแสบ ยังคอยลวนลามรสาทุกครั้งที่มีโอกาส แต่เธอไม่กล้าบอกสมรเพราะรู้ว่าแม่เลี้ยงหลงสามีใหม่มาก รสาจึงต้องคอยปกป้องตัวเอง โดยมีวิษณุช่วยเหลืออีกคน อัคริน เพลย์บอยหนุ่มรูปหล่อ รวย การศึกษาดี ขวัญใจของบรรดาสาว ๆ อัครินไม่เคยคิดจริงจัง จะแต่งงานกับใคร ไม่รู้แม้แต่วิธีที่จะรัก ผู้เป็นปู่อย่าง อำนาจ จึงคิดสั่งสอน ดัดนิสัยหลานชาย ปู่บังคับให้อัครินแต่งงาน เพื่อแลกกับการได้ดูแล เอ็มฟิตเนส สถานออกกำลังกายชื่อดัง ซึ่งเป็นธุรกิจของครอบครัวอัคริน อัครินรับคำท้าจากปู่ทันที เพราะไม่ใช่เรื่องยากสำหรับหนุ่มเจ้าเสน่ห์อย่างเขา ที่จะหาเจ้าสาวสักคน อรอุมา น้องสาวของอัคริน รีบประกาศจะแต่งงานกับคู่หมั้น เพื่อกดดันพี่ชาย เพราะเธอก็ต้องการชิงตำแหน่งผู้บริหารของเอ็มฟิตเนสเหมือนกัน อัครินพยายามเลือกเจ้าสาวจากบรรดาคู่ควง ไม่ว่าจะเป็น น้ำเพชร ไฮโซสาวหรูชื่อดัง หรือ ชิดใจ ลูกน้องสาวที่คอยให้ท่าเขาอยู่บ่อย ๆ แต่สาว ๆ พวกนี้ล้วนมีข้อบกพร่องจนเขารับไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นการนอนกรนเสียงดัง การกินอยู่อย่างไม่มีมารยาท บางคนก็ต้องการแต่เงินของเขา อัครินกลุ้มหนัก นึกไม่ถึงว่าการหาเจ้าสาวจะยากเย็นขนาดนี้ อัครินได้พบรสา ก็สะดุดใจในความสวยของเธอ แต่เมื่อเห็นผู้ชายคุยจีบรสาอย่างสนิทสนม นึกดูถูก คิดว่าอย่างเธอ คงซื้อได้ไม่ยาก โดยอัครินไม่ได้รู้เลยว่ารสาจำใจต้องคุยตามมารยาท แต่ที่จริงแล้วเธอจะวางตัวดี ไม่เคยทำอะไรเสียหาย อัครินทำจีบรสาแบบทีเล่นทีจริง เพราะเชื่อว่าไม่มีผู้หญิงคนไหนจะกล้าปฎิเสธผู้ชายที่แสนจะสมบรูณ์แบบอย่างเขา แต่รสาดูออกว่าอัครินดูถูก ดูแคลนเธอ เลยไม่สนใจตอบ แม้จะจีบไม่ติด แต่อัครินก็ไม่ละความพยายาม เพราะลึก ๆ เขานึกชื่นชมในกริยามารยาทที่ดีงามของรสา ซึ่งบรรดาคู่ควงของเขาไม่เคยมี ยิ่งรวย แวะมาดูที่ฟิตเนส เห็นรสาก็นึกชอบใจ ลวนลามเธอเพราะความเมา รสาตอบโต้ เตะผ่าหมากให้ รสาถูกอรอุมาไล่ออกจากงาน โดยไม่ฟังเหตุผล สมรโกรธมากที่รสาตกงาน เผด็จจะลวนลามเธอแต่สมรมาเห็นเข้า แทนจะโกรธเผด็จ สมรกลับหาว่ารสาให้ท่าเผด็จ พร้อมกับไล่เธอออกจากบ้าน รสาต้องเดินมาตามถนนท่ามกลางสายฝนอย่างไร้จุดหมาย เจอคนร้าย คิดจะข่มขืนเธออีก ดีแต่อัครินผ่านมา และช่วยไว้ได้อย่างฉิวเฉียด สมรก็ทะเลาะกับเผด็จจนตกจากบ้าน ต้องทำการผ่าตัดด่วน มิ้นโทษรสาว่าเป็นความผิดของเธอ บังคับให้รสาหาเงินมาเป็นค่าผ่าตัดแม่ให้ได้ รสาคิดไปปรึกษาวิษณุ แต่กลับพบว่าเขากำลังยุ่งกับการเตรียมงานแต่งงานกับอรอุมา รสาเลยไม่กล้าไปเกี่ยวข้องด้วย เมื่อใกล้สัญญาที่ปู่กำหนด อัครินตัดสินใจจ้างรสาไปเป็นภรรยาชั่วคราว เพื่อตบตาอำนาจ โดยทำสัญญาว่าเธอต้องอยู่กับเขาเป็นเวลาหนึ่งปี และจะเป็นสามีภรรยากันแต่เพียงในนามเท่านั้น เมื่อไหร่ที่เขาได้ดูแลกิจการของครอบครัว เขาจะหย่าให้ โดยรสาจะได้ค่าตอบแทน 2 ล้านบาท ครั้งแรกจะจ่ายให้หนึ่งล้านก่อน รสาตัดสินใจตกลงเพราะเธอไม่มีทางเลือก อัครินอ้างบุญคุณที่ช่วยเหลือเธอและ ถ้าไม่ได้เงินไปผ่าตัด สมรคงไม่รอดแน่ ส่วนอัครินนั้นไม่ยอมรับว่าจริง ๆ แล้ว เขาเองก็พึงพอใจในตัวรสาอยู่ลึก ๆ เช่นกัน อัครินจับรสาแปลงโฉมกลายเป็นสาวสวย มีชาติมีตระกูล เขากับรสาเลยทันได้แต่งงานพร้อมคู่ของวิษณุและอรอุมา พักตร์พิไล ผิดหวังมากที่ลูกสะใภ้ไม่ใช่สาวสังคมหรูอย่างที่หวัง แต่อำนาจกลับถูกใจหลานสะใภ้คนนี้ เพราะรสาทั้งฉลาด และมีความรู้รอบตัวมากมาย อำนาจว่าถ้าอัครินและรสาอยู่ด้วยกันครบหนึ่งปี จะยกธุรกิจให้ อรอุมา ผิดหวังมาก ที่รสาทำให้คนดุอย่างอำนาจเอ็นดูได้ ต่อหน้าคนอื่นอัครินจะทำเหมือนรักภรรยาเหลือเกิน แต่ลับหลังทุกคน เขากลับดูถูกเธอ เห็นเป็นผู้หญิงง่าย นึกจะลวนลามก็ทำ รสาเองก็ช้ำใจที่เขาดูถูกเธอเช่นนี้ หลังผ่าตัดสมรกลายเป็นอัมพฤกษ์ เดินไมได้แต่ยังด่าเก่งเหมือนเดิม เผด็จมาคอยรีดไถเงินจากรสาเสมอ ขู่ว่าถ้าไม่ให้ เขาจะทิ้งสมรไป กระแตไปฟ้องพักตร์พิไลว่าเผด็จเป็นแฟนเก่ารสา มิ้นเองก็โดนไล่ออกจากโรงเรียน อยู่บ้านก็เบื่อที่ต้องดูแลแม่ เลยบังคับแกมขู่มาขออยู่กับรสา รสาจำใจต้องรับ เพราะความกตัญญูที่มีต่อสมร แต่มิ้นกลับมาสร้างปัญหาให้ รสาหนักขึ้นอีกมากในบ้านหลังนี้ วันเกิดอำนาจ น้ำเพชรมารำอวยพร พร้อมให้ท่าอัครินอย่างเปิดเผย อัครินเองก็พูดจาดูถูกเธอ ทำให้รสานึกหึงโดยไม่รู้ตัว เลยเต้นการออกกำลังโชว์ เพื่อจะแกล้งให้อัครินขายหน้า แต่ปู่กลับถูกใจ อัครินเข้าใจผิด คิดว่ายิ่งรวยเคยเป็นแฟนรสามาก่อน เลยชกให้จนยิ่งรวยแทบคลานกลับบ้านด้วยความโมโหหึง อัครินว่าเขาจะต้องได้ตัวเธอด้วยความเต็มใจ รสาว่าไม่มีวัน มิ้นนึกชอบอัคริน อยากแย่งจากพี่สาว พยายามให้ท่าต่าง ๆ นา ๆ แต่อัครินไม่สนใจ พร้อมกันนั้นมิ้นก็โปรยเสน่ห์กับวิษณุด้วย จนมีเรื่องกับอรอุมาเป็นประจำ มิ้นทำเก่ง ไม่กลัวใคร มิ้นใส่ร้ายหาว่ารสาเคยมีผู้ชายหลายคนมาก่อน รวมทั้งวิษณุด้วย อัครินมีเรื่องชกกับวิษณุ วิษณุว่าถ้าเมื่อไหร่รสาเลือกเขา เขายินดีจะแต่งงานกับเธอทันที อัครินว่าไม่มีวันปล่อยเธอไป อรอุมาเริ่มสงสัยวิษณุเรื่องรสา แต่วิษณุกลับปกปิดภรรยา เพราะถึงจะนึกชอบรสามาก แต่เขาก็ไม่เคยคิดจะหย่าขาดกับอรอุมา อำนาจบังคับให้อัครินมีลูกกับรสา เพื่อให้แน่ใจว่าเป็นผู้ใหญ่พอที่จะรับผิดชอบธุรกิจทั้งหมด รสาบอกอัครินว่าเธอไม่มีวันมีอะไรกับเขาแน่ อัครินคิดหนัก หาทางออกด้วยการทำให้รสาท้องปลอม ๆ เพื่อหลอกปู่ไปก่อน พักตร์พิไลผิดหวังที่รู้ว่ารสาท้อง เธอกดดัน หาเรื่องทุกทางเพื่อให้รสากับอัครินเลิกกัน น้ำเพชรเองก็เอาตัวมาวุ่นวายกับอัครินตลอดเวลา อรอุมาหาว่ารสาเป็นชู้กับเผด็จ แต่อัครินรู้ความจริง จึงไม่สนใจ และห้ามเผด็จไม่ให้มาข่มขู่เอาเงินจากรสาอีก รสาซึ้งใจเงียบ ๆ ที่อัครินดูแล ปกป้องเธอทุกอย่าง เมื่อเอาชนะใจรสาไม่ได้ วิษณุก็เริ่มปล่อยความร้ายออกมา เขาพยายามจะลวนลามเธอ แต่มิ้นมาเห็นเข้า และหวังจะให้วิษณุลวนลามเธอแทน แต่อรอุมามาพบ อรอุมาเอาเรื่องมิ้นจนบ้านแทบแตก รสาให้มิ้นกลับไปอยู่กับแม่ตามเดิม มิ้นโกรธมาก เผด็จพาสมรมาแฉความจริงว่ารสาเป็นลูกของสามีเก่าเธอเอง ไม่ใช่ผู้ดีมาจากไหน แต่อำนาจกลับจำได้ว่าพ่อของรสาก็มีเชื้อแถวผู้ดีเหมือนกัน พักตร์พิไลให้อัครินหย่าจากรสา เพราะทนไม่ได้ที่จะมีลูกสะใภ้เป็นอดีตลูกจ้าง แต่อัครินไม่ยอม อำนาจว่าไม่เห็นแปลก เทรนเน่อร์ฟิตเนสก็เป็นอาชีพสุจริต ไม่เห็นน่าอายตรงไหน เวลาผ่านไป อรอุมาจับผิด ทักว่าทำไมท้องรสาไม่ค่อยโต อัครินช่วยหาฝาชีมาให้ใส่อยู่ด้านใน รสากลุ้มใจที่ต้องโกหกทุกคนเรื่องเธอท้อง อัครินว่าท้องจริง ๆ ก็หมดเรื่อง อัครินทำปล้ำรสาทีเล่นทีจริง แต่ด้วยความรักที่ทั้งคู่มีต่อกัน ทำให้ต่างได้เสียกัน อัครินแปลกใจที่เธอยังบริสุทธิ์ ไม่เคยมีใครมาก่อน แต่เขาก็นึกอายที่จะบอกว่ารักเธอ รสาผิดหวัง คิดว่าอัครินไม่ได้รักเธอ เหมือนที่เธอรักเขา อรอุมาเหยียดหยามว่ารสาสารพัด แต่เธอก็พยายามอดทนเพราะไม่อยากให้อัครินและอำนาจร้อนใจ อรอุมาพยายามทำให้ทุกคนเห็นว่าเธอเหมาะสมที่จะดูแลธุรกิจมากว่าอัคริน เพราะเธอมีครอบครัวที่อบอุ่น แต่ชิดใจพาลูกในท้องมาเรียกร้องสิทธิ์ให้วิษณุแต่งงานด้วย เพราะเคยรับปากเธอไว้ อรอุมาจะเข้าทำร้ายชิดใจ ชิดใจสู้เต็มที่ รสาต้องเข้าช่วยอรอุมา เมื่อการต่อสู้จบลง ทุกคนแปลกใจที่ท้องของรสาแฟ่บลงเหมือนคนปรกติ ใกล้กันนั้นมีฝาชีตกอยู่ อำนาจทำท่าโกรธมาก รสาบอกอัครินว่าสัญญาระหว่างเธอกับเขาจบลงแล้ว และออกจากบ้านไป พักตร์พิไลให้อัครินหย่าขาดกับรสาเพราะไม่ได้มีลูกด้วยกัน อัครินไปขอโทษปู่ที่โกหกมาตลอด แต่อำนาจว่ารู้มานานแล้ว และยังดูออกอีกว่าอัครินรักรสา อัครินยอมรับ บ่นอย่างน้อยใจว่าเธอต่างหากที่ไม่เคยรักเขา อำนาจว่าหลานชายไม่น่าโง่แบบนี้ ถ้าไม่รัก ผู้หญิงอย่างรสาคงไม่ยอมทำสัญญา มาแต่งงานกับอัครินหรอก รสามอบเงินอีกหนึ่งล้าน ที่ได้จากอัคริน ให้สมรทั้งหมด ตอบแทนบุญคุณที่สมรเลี้ยงดูเธอมา รสาต่อว่าอย่างน้อยใจที่สมรไม่เคยรักเธอเลย สมรชักเริ่มสำนึกผิด แต่เมื่อกลับถึงบ้านกลับเจอเผด็จกำลังจะปลุกปล้ำมิ้น สมรเอามีดฟันเผด็จอย่างลืมตัวด้วยความโกรธ แต่พลั้งมือจนเผด็จตาย สมรติดคุก อัครินหางานให้มิ้นทำ บอกมิ้นว่าที่เขายอมช่วยเพราะเห็นแก่รสา แต่ต่อไปเธอต้องหัดรับผิดชอบตัวเอง อย่าเป็นภาระของใครอีกอัครินพยายามตามหารสาแต่ไม่พบ จนได้เห็นโฆษณาชิ้นใหม่ นางแบบในภาพคล้ายรสามาก อัครินพยายามหาทางจนได้พบเธอ ซึ่งอยู่ในสภาพท้องโต อัครินนึกว่าเธอใส่ฝาชีไว้ข้างในอีก แต่คราวนี้พบว่าเธอกลับท้องจริง ๆ อำนาจบอกว่าคราวนี้เขาจะได้เหลนจริง ๆ ตลอดเวลาที่รสาหายไป เขาเป็นคนดูแลเธอเอง แต่ที่ไม่บอกอัครินเพราะอยากดัดนิสัยอัครินจะได้รู้เสียบ้าง ว่าความรักเป็นยังไง อัครินดีใจมาก ตามตื๊อภรรยาจนรสายอมปรับความเข้าใจด้วย ทั้งคู่ก็กลับไปบ้านอย่างมีความสุข อำนาจยกธุรกิจทั้งหมดให้อัครินดูแล โดยตัวเขาจะได้มีเวลาเล่นกับเหลนคนใหม่ พักตร์พิไลจำใจรับสะใภ้คนนี้อย่างไม่มีทางเลือก ส่วนอรอุมาก็ตามราวีชิดใจต่อไป เพื่อแย่งวิษณุกลับมาให้ได้ ติดตามชมเรื่องราวความเข้มข้นของ ละครเจ้าสาวริมทาง ได้ทุกวันศุกร์-อาทิตย์ เวลา 20.25 น. ทางช่อง 7 สี ละครเจ้าสาวริมทาง เริ่มตอนแรกวันศุกร์ที่ 5 พฤศจิกายน 2553

เทพบุตรมายา เทพธิดาจำแลง 2553

เรื่องย่อ : เทพบุตรมายา เทพธิดาจำแลง (2553/2010) รามิล หนุ่มหล่อมาก เนื้อหอมมากร่ำรวยระดับมหาเศรษฐีเพราะมรดกที่พ่อแม่ทิ้งไว้ให้พ่อแม่ของรามิลเสียชีวิตหมดแล้ว เหลือแต่ แม่แก้ว หรือ คุณแก้วอังกาบแม่เลี้ยงสุดแสนดีผู้เป็นน้าแท้ๆ ของเขารามิลใช้ชีวิตเพลย์บอยเต็มที่กับสาวสวยมีระดับทั้งสิ้นข้อตกลงของเขากับสาวทุกคนคือ คบกันเท่าที่พอใจไม่ผูกพันและไม่ล่วงล้ำเรื่องส่วนตัวอื่น ๆ ขาประจำล่าสุดของเขา คือ อัจฉราวดีนางแบบและดาราสาวสวยเฉี่ยวเปรี้ยว ผู้หมายมาดจะจับเขาให้ได้ แล้ววันหนึ่งรามิลแทบเป็นบ้าเมื่อแม่แก้วบอกว่า ราเมศวร์พ่อเขาตกลงหมั้นลูกสาวของภาคินัย เพื่อนรักไว้ให้เขาก่อนที่พ่อจะเสียชีวิตและคู่หมั้นของเขาคือ ภัครมัย หรือ มัดไหม เด็กหญิงที่รามิลเห็นแค่ตอนเด็กๆ และไม่เคยเห็นกันอีกเลย แต่เขาจำความซน เฮี้ยวและแสบสุดขั้นของเธอได้ไม่มีวันลืมเธอเคยแกล้งเขาสารพัดรูปแบบจนเขาขยาดและเกลียดขี้หน้าเธอมากตั้งฉายาเธอว่าเด็กนรก และที่เจ็บใจคือ รามิลชอบผู้หญิงสวย แต่ด็กหญิงมัดไหมหน้าตาไม่เอาไหน แถมยังสวมแว่นสายตาหนาเตอะรูปร่างผอมเหมือนเสาโทรเลข อีกอย่างที่รามิลจำได้คือบ้านเธอมีไร่ชื่อมนตรามีคอกม้าที่ไร่ และมัดไหมรักม้ามาก รามิลโวยกับแม่แก้วว่าเขาไม่มีวันแต่งงานกับมัดไหมแต่ถึงกับอึ้งเมื่อแม่แก้วบอกว่าพ่อของเขาและมัดไหมมีเงื่อนไขว่าเมื่อรับรู้เรื่องหมั้นแล้วรามิลกับมัดไหมต้องแต่งงานกันภายในสามเดือนและถ้ารามิลไม่แต่งงานกับมัดไหมหรือแต่งแล้วอยู่กันไม่ถึงปีเขาต้องยกเงินสดทั้งหมดที่มีให้มัดไหม ฝ่ายมัดไหมก็เช่นกันและรามิลอยากตายลงไปเลยเมื่อแม่แก้วบอกว่าทางมัดไหมตอบตกลงจะแต่งงานกับเขาแล้ว รามิลตั้งปณิธานว่าจะไม่มีวันแต่งงานกับมัดไหมและก็จะไม่ยอมสูญเสียเงินทั้งหมดให้เธอด้วยเขาจะทำ ให้เธอเป็นฝ่ายปฏิเสธเขา รามิลไปหามัดไหมภาพแรกที่ทำให้เขาถึงตะลึงคือหญิงสาวร่างระหง สวยไม่มีที่ติอยู่บนหลังม้าที่วิ่งอย่างสง่า งาม เธอคือภัครมัยหรือมัดไหมแต่เธอมีแผนอยู่แล้วที่จะแกล้งปั่นหัวเขาเธอจึงบอกว่าเธอไม่ใช่มัดไหมคู่หมั้นของเขา แต่บังเอิญชื่อมัดไหมเหมือนกันเพียงแต่เธอมีฐานะเป็นคนรับใช้ของมัดไหมคู่หมั้นเขา รามิลเห็นหน้าตาผิวพรรณและเสื้อผ้าราคาแพงของต่างประเทศที่เธอสวมอยู่แล้วไม่อยากเชื่อเลยว่ามาดอย่างเธอจะเป็นคนรับใช้ แต่อะไรดลใจให้เขาเชื่อไปก็ไม่รู้ และมัดไหมคนนี้ก็ปากจัดใช่ย่อยไม่ยอมลงให้เขาด้วยเพียงแรกเจอกันเธอก็กัดเขาสะตั้งตัวไม่ติด เป็นสาวใช้บรรดาศักดิ์จริง ๆกล้ากัดกระทั่งคู่หมั้นของเจ้านายรามิลแปลกใจว่าเธอรู้รายละเอียดของเขาและคู่หมั้นราวกับเธอคือภัครมัยซะเองแต่มัดไหมก็เอาตัวรอดไปได้อย่างชาญฉลาด รามิลหัวเสียกลับไปมัดไหมขำกลิ้งกับ ติ๋ม สาวใช้ตัวจริง ติ๋มไม่อยากให้มัดไหมแกล้งรามิลแต่มัดไหมบอกว่าผู้ชายเจ้าชู้เสเพลอย่างรามิลต้องให้บทเรียนแสบ ๆ ซะบ้างไม่งั้นจะคิดว่าอะไร ๆโดยเฉพาะผู้หญิง ง่ายไปซะหมด รามิลไปปรับทุกข์กับ ดนุพันธ์ เพื่อนรักของเขาดนุพันธ์ขำว่ารามิลถูกพ่อดัดหลัง แต่ดนุพันธ์เองก็ปวดเศียรกับความรักที่ยังไม่มีท่าจะสมหวังของตัวเอง เขาจีบ นาตาชาน้องสาวของรามิลอยู่ และนาตาชายังไม่ยอมรับรักเขาแถมความรักของเขายังมีมารผจญอีกคือ พิมมาดา ที่ตามตื้อเขาจนนาตาชาไม่ไว้วางใจเขา ว่าเขาเจ้าชู้เหมือนรามิล ส่วนนาตาชาก็มี อภิชาติเจ้าของนิตยสารชั้นนำ ที่เธอเป็นตากล้องให้อยู่ตามจีบและดนุพันธ์หึงแทบหน้ามืดตาลาย นาตาชาเป็นเพื่อนรักของมัดไหม แสบพอ ๆกับมัดไหม มัดไหมเพิ่งกลับจากฝรั่งเศส เธอใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นนานและเป็นนางแบบที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งของปารีสเคยขึ้นปกนิตยสารแฟชั่นชั้นนำของโลกมาแล้ว เธอใช้ชื่อว่า แม็ตตี้นาตาชาขอให้มัดไหมถ่ายแบบและเป็นปกให้นิตยสารของเธอ มัดไหมตกลงแต่ขอแต่งตัวแต่งหน้าแบบแฟนซีแปลก ๆ รามิลฮึดกลับไปหามัดไหมอีกเขาไปจ้างให้มัดไหมเป็นแฟนเป็นเวลาสามเดือนรามิลกะยิงนกสองตัวด้วยกระสุนนัดเดียว คือ ทั้งตัดคู่หมั้นที่เขาแสนเกลียดและตัดอัจฉราวดีที่เขารู้สึกว่าเริ่มรุกรานเขา และจะจับเขาจริง ๆ จัง ๆเขาจะจ่ายค่าจ้างมัดไหมหนึ่งหมื่นเพราะประเมินว่าเธอเป็นแค่คนรับใช้แต่มัดไหมเรียกหนึ่งล้าน รามิลต้องยอมจ่ายมัดไหมเรียกเงินล่วงหน้าห้าแสนบาทรามิลนัดกับมัดไหมกินอาหารมื้อค่ำเพื่อปล่อยข่าวเธอเป็นแฟนคนใหม่ของเขาเขาพาเธอไปที่ร้านของ พลอยไพลิน เพื่อนรักของ อัจฉราวดีกะให้พลอยไพลินเห็นเต็ม ๆ ว่าเขามีแฟนใหม่และเพราะที่ร้านของพลอยไพลินมักมีนักข่าวไปนั่งหาข่าวเป็นประจำด้วยมัดไหมแต่งชุดราตรี สวยจนรามิลตะลึงและเมื่อไปถึงร้านก็โดนพลอยไพลินเสียดสีขบกัดมัดไหมบอกรามิลว่าพลอยไพลินชอบรามิล ที่เธอกัดนั่นเพราะความหึงรามิลไม่เชื่อ พลอยไพลินโทรฟ้องอัจฉราวดีรุ่งขึ้นอัจฉราวดีไปหารามิลถึงบริษัท รามิลเฉย ๆ กับเธอ อัจฉราวดีอาฆาตบอกตัวเองว่าจะทำให้รามิลเจ็บจำไปจนตาย รามิลนัดพามัดไหมไปงานกาลาดินเนอร์ วันที่ไปรับมัดไหมเขาเห็นหญิงสาวรูปร่างแบบเดียวกับมัดไหมยืนหันหลังสั่งงานอยู่ เขาเรียกแต่เธอคนนั้นไม่หันมา จนกระทั่ง อัคนี หัวหน้าคนงานบอกเธอจึงหันหาเขารามิลตกใจ หน้าเธอเป็นแผลเป็นเละจนเหมือนหน้าผี เมื่อพูดกันรามิลจึงรู้ว่าเธอคือภัครมัยคู่หมั้นของเขารามิลลืมความเกลียดชังเขาสงสารเธอมาก ยิ่งภัครมัยมีทีท่าเจียมตัวและพูดทำนองว่าเขาโชคร้ายที่จะต้องเป็นคู่หมั้นหญิงหน้าตาอย่างเธอรามิลยิ่งสงสารจนพูดแทบไม่ออก เขาพูดอ่อนโยนแสดงความเห็นใจเธอแทนตัวเองว่าพี่ เรียกเธอว่าน้อง เหมือนที่เคยเป็นเมื่อตอนเด็ก ๆ มัดไหมหน้าผีเข้าบ้านไปหัวเราะกับติ๋มแทบตายว่ารามิลมีตาแต่หามีแววไม่บอกอะไรก็เชื่อหมด ติ๋มเห็นใจรามิลมากให้มัดไหมเลิกเล่นตลกและบอกความจริงรามิล แต่มัดไหมบอกว่าเธอยังสนุกอยู่ มัดไหมแกะหน้าผีแล้วออกไปต้อนรับรามิลในฐานะมัดไหมสาวใช้อัจฉราวดียังตามตื้อสม่ำเสมอ จนวันหนึ่งเจอกับมัดไหมและนาตาชาเมื่อเธอพารามิลไปที่ห้องเสื้อของ ยังโซน หรือ วายซีดีไซเนอร์มือใหม่ของไทยที่ไปโด่งดังมากในต่างประเทศ และอัจฉราวดีอยากเป็นนางแบบให้วายซีมาก รามิลเห็นมัดไหมในร้านอาหารอิตาเลียนเขานึกว่าเธอมากับหนุ่ม ไม่รู้ตัวเลยว่าฤทธิ์หึงขึ้นหน้าเขาไปกระชากตัวเธอ มัดไหมเพิ่งเสร็จจากการถ่ายแบบและยังไม่ได้ถอดคอนแทกเลนซ์สีฟ้าออก เธอเลยทำตัวเป็นแม็ตตี้พูดไทยไม่ชัดกับเขา รามิลมีทีท่าไม่เชื่อ แต่นาตาชาออกมาช่วยมัดไหมไว้ทันอัจฉราวดีมาที่กลุ่มเมื่อเห็นมัดไหมเธอตื่นเต้นมากว่าได้สัมผัสตัวจริงของนางแบบโลกเธอทักมัดไหมว่าแม็ตตี้ รามิลจึงสงบได้ทั้ง ๆที่ยังไม่ค่อยเชื่อสนิทใจว่ามัดไหมกับแม็ตตี้เป็นคนละคนกัน อัจฉราวดีพูดจาไม่เข้าหูนาตาชาเลยโดนนาตาชาด่าไปมัดไหมรู้ว่ารามิลต้องตามเรื่องถึงที่สุดเลยรีบกลับบ้านแล้วให้ติ๋มสวมหน้ากากหน้าเละเป็นภัครมัยป่วยแล้วเธอดูแลรามิลตามมาถึงบ้านจริง ๆและเมื่อเห็นภัครมัยปลอมอยู่กับมัดไหมเขาเลยเลิกสงสัยและสงสารภัครมัยหน้าผีขึ้นมาอีก เขาบอกมัดไหมให้บอกภัครมัยว่าคราวต่อ ๆไปที่เจอเขาไม่ต้องสวมฮู้ดปกปิดหน้าผี มัดไหมชื่นชมรามิลขึ้นมาหน่อย รามิลพามัดไหมไปไหว้ญาติผู้ใหญ่ทั้งสี่ คือ แม่แก้ว คุณพิศมัยหรือ ย่าน้อย คุณอุมาพร กับ คุณอรรุจิพี่น้องฝาแฝดผู้พูดกันคำทะเลาะกันสามคำ แต่รักกันมากทั้งสี่ท่านทราบความจริงแล้วว่ามัดไหมเป็นใครจึงพยายามร้ายเต็มที่ถล่มใส่มัดไหมเต็มที่ แล้วต่างลุกไปโดยที่มัดไหมยังไม่ทันได้กราบมัดไหมน้อยใจมาก เธอไม่รู้เลยว่านี่คือแผนซ้อนแผนของนาตาชากับแม่แก้วเธอจำต้องค้างที่บ้านสวนตามคำสั่งของรามิลมัดไหมยังเผชิญแผนการดูถูกและกลั่นแกล้งของญาติผู้ใหญ่ทั้งสี่ของรามิลอัจฉราวดีตามตื้อรามิลทุกวันและไม่รู้ตัวเลยว่าถูกผู้ใหญ่ทั้งสี่ใช้เป็นเครื่องมือทดสอบความรักของรามิลกับมัดไหม มัดไหมไม่กล้ายอมรับว่าทุกคำพูดและทุกอาการที่เธอแสดงออกต่อรามิลนั้นเกิดจากความหึงหวงรามิลเองก็ไม่อยากยอมรับเหมือนกันว่าความฉุนเฉียวทุกวันของเขาเกิดจากความรักมัดไหมสาวใช้คนนี้ ความที่รามิลรักมัดไหมและไม่อยากให้เธอจากไปทำให้เขาตัดสินใจพูดกับเธอว่าเขาคงต้องยอมแต่งงานกับผู้หญิงที่มีชาติตระกูลตามที่ญาติผู้ใหญ่เห็นสมควรแต่ถ้าเธอไม่รังเกียจเขาจะขอพาเธอหลบไปอยู่ด้วยกันเงียบ ๆ ณที่ห่างไกลผู้คน จะรักและทะนุถนอมเธอไม่ให้เธอลำบากไปชั่วชีวิต มัดไหมโกรธนั่นหมายถึงว่าเธอต้องเป็นเมียน้อย เธอตบหน้ารามิล ขณะที่มัดไหมกำลังเก็บเสื้อผ้าจะหนีไปจากบ้านสวนอัจฉราวดีเข้ามาตอกย้ำความเจ็บปวดของเธออีกด้วยทีท่าสงบเสงี่ยมเป็นมิตรอัจฉราวดีบอกว่ารามิลเล่าทุกอย่างให้ฟังหมดแล้วว่ามัดไหมรับจ้างเป็นแฟนของรามิลด้วยค่าจ้างล้านบาทและเมื่อเธอเห็นว่ารามิลเป็นฝ่ายเลิกสัญญาก่อนกำหนดเธอจึงขอให้รามิลจ่ายเงินให้มัดไหมให้ครบเพื่อว่ามัดไหมจะได้มีเงินไปลงทุนทำอะไรของตัวเองจะได้ไม่ต้องเป็นคนใช้เขาต่อไป คราวนี้มัดไหมโกรธรามิลจริง ๆไม่ใช่โกรธแง่งอนชั่วแวบเหมือนครั้งก่อนๆ มัดไหมขอติดรถอัจฉราวดีเข้าเมืองอัจฉราวดีสมใจ รามิลตัดสินใจไปหามัดไหมคนหน้าผีเพื่อจะทำความใกล้ชิดกับเธอให้มากขึ้นแต่อีกใจก็จะไปเพราะความหวังว่าจะได้พบมัดไหมสาวใช้เจ้าหัวใจของเขาด้วยตลอดเวลาที่อยู่กับมัดไหมหน้าผี รามิลไม่มีสมาธิเลยเขาคอยมองหามัดไหมสาวใช้ตลอด มัดไหมหน้าผีถามแต่รามิลไม่บอกว่าเขาไม่สบายใจเรื่องอะไรเขาเบนเรื่องไปที่จะให้มัดไหมคนนี้ไปปรึกษาแพทย์เรื่องใบหน้าเละแต่มัดไหมบอกว่าผ่านมานานขนาดนี้แล้วไม่ไปแล้วแล้วในที่สุดรามิลก็พูดถึงมัดไหมสาวใช้จนได้มัดไหมบอกว่าลาออกไปแล้วรามิลใจหายเขาตัดสินใจถามมัดไหมว่าคนเราควรจะแต่งงานด้วยเหตุผลใดมัดไหมบอกว่าด้วยความรัก รามิลถามถึงความเหมาะสม มัดไหมยืนยันความรักแต่ก็บอกว่าแล้วแต่ความจำเป็นเฉพาะตัวของแต่ละคนด้วยรามิลบอกว่าเขาคิดอะไรไม่ออกแล้วเพราะกระทั่งคนที่เขาคิดว่ารู้จักดีก็ยังไม่ใช่อย่างที่เขาคิดเหมือนว่าคนเราทุกวันนี้ใส่หน้ากากใส่กันเล่นเอามัดไหมสะดุ้งเพราะว่าเธอก็กำลังใส่หน้ากากอยู่จริง ๆ ด้วยรามิลสับสนมากกระทั่งไม่รู้ตัวเลยว่ามาจากบ้านมัดไหมตอนไหน ดนุพันธ์สรุปว่ารามิลรักมัดไหมสาวใช้ ให้เขาตามหาเธอแต่รามิลบอกว่ามัดไหมมีโอกาสพบผู้ชายดี ๆแต่ภัครมัยหน้าผีไม่มีใครนอกจากเขา เขาตัดสินใจแล้วว่าจะแต่งงานกับภัครมัยดนุพันธ์ไปเล่าทั้งที่รามิลบอกว่ารักมัดไหมสาวใช้และที่บอกว่าจะแต่งงานกับภัครมัยให้นาตาชาฟังโดยไม่รู้ว่ามัดไหมอยู่กับนาตาชาด้วยนาตาชาให้มัดไหมบอกความจริงกับรามิลก่อนที่นานไปเขารู้เองมัดไหมเชื่อว่ารามิลจริงใจในกรณีมัดไหมหน้าผีแต่เธอยังอยากทดสอบความจริงใจของเขาต่อมัดไหมสาวใช้ต่ออีกด้านรามิลก็ไม่เข้าใจว่าเหตุใดเขาจึงมีความรู้สึกใกล้เคียงกันกับผู้หญิงถึงสามคน สำหรับแม็ตตี้ เขาพอจะรู้ว่าเพราะเธอหน้าเหมือนกับมัดไหมสาวใช้เขาโทรนัดแม็ตตี้ทานอาหาร เธอพูดถึงมัดไหมสาวใช้อีกรามิลตัดสินใจถามมัดไหมหน้าผีว่ามัดไหมสาวใช้อยู่ที่ไหนรามิลพยายามตามหามัดไหม ใจลอยมารู้ตัวอีกทีก็เมื่อรถเขามาถึงหน้าไร่มนตราของมัดไหมสถานที่แรกที่เขาได้พบกับเธอ สาวสวยคนหนึ่งควบม้าอยู่ รามิลดีใจที่สุดเขาตะโกนเรียกเธอสุดเสียง เธอไม่ได้ยิน รามิลกดแตรรัวเจ้าตะวันสาดแสงม้าที่มัดไหมควบอยู่ตกใจ สลัดมัดไหมตกจากหลังรามิลประคองมัดไหม เธอไม่เป็นไรมาก งอนเขาที่ทำให้ตกม้าแล้วรามิลก็งอนมัดไหมบ้าง เมื่อหนุ่มหล่อผมยาวขี่ม้าอีกตัวมาหามัดไหม มัดไหมเรียกเขาว่าวายซีรามิลเหม็นขี้หน้านายวายซีนี่ทันที และยิ่งงอนหนักเมื่อมัดไหมสะบัดจากเขาไปหาวายซี ท่าทางเธอไว้ใจนายนั่นมากกว่าเขาเขาพาลว่าเธอแกล้งตกม้าเพื่อเรียกความสนใจ มัดไหมต่อปากต่อคำกับรามิลแล้วเผลอตกเป็นเหยื่อเมื่อโดนเขายั่วว่าสำออย เธอเดินไปขึ้นรถเขากว่าจะรู้ตัวว่าโดนรามิลเจ้าเล่ห์ใส่ เธอก็ออกมาจากไร่กับเขาเขาจงใจยั่วเธอเพื่อแยกเธอจากวายซี รามิลสารภาพรักกับมัดไหมมัดไหมจึงต้องสารภาพแผนการทั้งหมดของเธอ และสารภาพว่ารักเขาเช่นกันรามิลมีความสุขที่สุดในชีวิต ติดตามชม ละครเทพบุตรมายา เทพธิดาจำแลง ได้ทุกวันศุกร์ - อาทิตย์ เวลา 20.25 น. ทางช่อง 7 สี ละครเทพบุตรมายา เทพธิดาจำแลง

หงส์ฟ้า (2553)

เรื่องย่อ : หงส์ฟ้า (2553/2010) นาฏลดาถูกเรียกตัวกลับจากอเมริกา พร้อมครรภ์แก่ใกล้คลอด คุณหญิงชฎาผู้เป็นแม่ทำเช่นนี้เพราะก่อนที่สามีของเธอจะตายได้หมั้นหมายนาฏลดากับอนุวัฒน์ นักธุรกิจหนุ่มชื่อดัง ชฎาคิดว่าจับลูกสาวใส่ตะกร้าล้างน้ำได้ เธอส่งนาฏลดาไปคลอดลูกที่ต่างจังหวัด โดยมีสำลี แม่นมของนาฏลดาคอยช่วยเหลือ นาฏลดาคลอดทารกเพศหญิง เธอผูกเส้นเชือกซึ่งเป็นหูกระเป๋าผ้าไหมจีนลายหงส์ทองกับข้อมือของทารก ซึ่งเป็นของสิ่งสุดท้ายที่เจ้ามิ่งหล้า คนรักของเธอมอบให้ ก่อนที่เขาจะหนีจากไป นาฏลดารู้เพียงว่าเขาเป็นเจ้าชายจากรัฐอิสระรัฐเล็กๆ ทางตอนเหนือของประเทศไทย แต่ต้องจากเธอไปด้วยเหตุผลทางการเมือง มิ่งหล้าไม่สามารถบอกรายละเอียดเกี่ยวกับตัวเขาได้ เพราะเกรงว่านาฏลดากับลูกจะมีภัย วิทย์ ได้รับคำสั่งจากคุณหญิงชฎาให้ขโมยลูกของนาฏลดาไปทิ้ง นาฏลดาเสียใจมาก มีเพียงสำลีที่คอยปลอบใจ เธอถูกส่งตัวเข้าพิธีแต่งงานตามฤกษ์ที่ซินแสให้อย่างกะทันหัน ส่วนเด็กทารกนั้นวิทย์ นำใส่รถตู้ไปทิ้งไว้ข้างบุญช่วย ขอทานริมถนน บุญช่วยตื่นขึ้นมาเพราะเสียงร้องไห้ของทารกตอนเช้าตรู่ และเห็นทารกน้อยอยู่ข้างกะลาที่แกใช้ขอทาน บุญช่วยจ้างยายนิ่ม ให้ช่วยเลี้ยงทารกน้อย กระเป๋าลายหงส์ที่ผูกข้อมือทารก ทำให้แกตั้งชื่อทารกว่า “หงส์ฟ้า” แต่ยายนิ่มเรียกว่า “นังกะลา” ในที่สุดทุกคนในสลัมก็เรียกเด็กหญิงว่า “กะลา” และต่างก็เชื่อว่ากะลา เป็นลูกของโสเภณีคนหนึ่งในซ่อง ซึ่งวิ่งหนีตำรวจ แล้วนำเด็กมาทิ้งไว้ กะลาเองก็เชื่อว่าแม่ของตนคือโสเภณีคนหนึ่งในซ่องนั้น ทุกครั้งที่กะลาเสียใจ เพราะถูกยายนิ่มตี เธอจะไปที่หน้าซ่องแล้วก็เรียกหาแม่ ทำให้พิกุล แม่เล้าเจ้าของซ่องเกิดความเวทนาและรับกะลาเป็นลูก อ้อมกอดของพิกุล สร้างความอบอุ่นให้แก่กะลา โดยที่เด็กหญิงมิเคยรังเกียจ กะลาเติบโตมาพร้อมกับเงาะ หลานยายนิ่ม ซึ่งแม่คลอดแล้วก็มาฝากไว้ แล้วไม่กลับมาอีกเลย เงาะชอบลักเล็กขโมยน้อย กะลาไม่อยากทำ แต่ก็ถูกยายนิ่มตี ถ้าวันไหน บุญช่วยไม่มีเงินค่าเลี้ยงดูมาให้ แกก็จะบังคับให้กะลาหาเงินมาให้แกแทน บ่อยครั้งที่กะลาได้เงินจากมานพ เด็กวัด ข้างสลัม มานพสงสารกะลา เขารู้สึกผูกพันกับกะลามาก วันหนึ่งบุญช่วยถูกรถชน คนขับชนแล้วหนีไป กะลาต้องหาเงินค่ารักษาพยาบาลให้ได้ เธอตัดสินใจวิ่งราวกระเป๋าของนาฏลดา ซึ่งลงจากรถมาซื้อพวงมาลัยข้างทาง แล้วกะลาก็วิ่งหนีเข้าไปในวัด มานพหาที่ซ่อนให้ แต่ไม่วายถูกวิทย์ตามมาพบ วิทย์จับตัวกะลาได้พร้อมของกลาง มานพเข้าช่วยแต่ก็สู้วิทย์ไม่ได้ วิทย์ทุบตีกะลาแต่นาฏลดาเกิดความเวทนาจึงเข้าห้าม และจะอุปการะกะลา เมื่อถามว่าพ่อแม่เป็นใคร กะลาก็ตอบว่า “พ่อเป็นขอทาน แม่เป็นผู้หญิงหากิน” ทำให้อนุวัฒน์รังเกียจกะลาตั้งแต่แรกเห็น นาฏลดาขอให้กะลาไปอยู่กับตน กะลาจึงเรียกค่าตัวเป็นค่ารักษาพยาบาลบุญช่วย เธอขอไปบอกยายนิ่มก่อน แล้วจะกลับมาพบ เมื่อถึงบ้านยายนิ่ม กะลามอบเงินให้ สั่งให้นำไปเป็นค่ารักษาพ่อ เธอขอเพียงกะลาที่บุญช่วยใช้ขอทานกับกระเป๋าไหมจีนรูปหงส์ทองติดตัวไปเท่านั้น แต่เมื่อพบมานพ เธอซึ้งใจในน้ำใจของเพื่อน จึงให้กระเป๋าหงส์ทองใบนั้นเป็นสิ่งตอบแทน ขอให้มานพสัญญาว่าจะไม่ทิ้งขว้างมัน เพราะมันคือสิ่งเดียวที่ยืนยันการมีอยู่ของตัวเธอ กะลามาถึงรถตู้ของอนุวัฒน์ นาฏลดาดีใจมาก ขณะที่รถตู้จอดที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง อนุวัฒน์ให้เงินกะลาพันบาทเพื่อซื้อน้ำดื่ม กะลาหลงเชื่อ แต่เมื่อลงจากรถไป อนุวัฒน์ก็สั่งให้วิทย์ขับรถหนีไป กะลาวิ่งตามจนหกล้ม เธอคิดแค้น ผูกใจเจ็บ และคิดว่านาฏลดาเปลี่ยนใจ และไม่รักษาสัญญา ส่วนนาฏลดาเสียใจมาก มีปากเสียงกับอนุวัฒน์อย่างรุนแรง ยายนิ่มนำเงินของกะลาไปเล่นหวย และใช้หนี้ค่าแชร์ที่ติดค้างเจ้าหนี้ไว้ บุญช่วยได้รับการช่วยเหลือจากสถานสงเคราะห์ ขาของบุญช่วยเสียข้างหนึ่ง ต้องใช้ไม้เท้าพยุงตัว เขาเข้ารับฝึกอาชีพในสถานสงเคราะห์คนพิการ รอคอยการกลับมาของกะลา ลูกสาวที่เขาแสนรัก เช่นเดียวกับมานพที่รอคอยการกลับมาของเพื่อนรัก ชีวิตสมรสของนาฏลดาเหมือนตกอยู่ในนรก อนุวัฒน์ทรมานใจเธอ เขารู้ว่าตลอดเวลาเธอไม่เคยลืมคนรักเก่า รัชนีวิภา ผู้ซึ่งเคยใช้ชีวิตอยู่ที่อเมริกา นำความลับเรื่องที่เธอเคยท้องกับผู้ชายคนหนึ่งมาแล้ว ไม่ใช่ผู้หญิงบริสุทธิ์ผุดผ่องอย่างที่คุณหญิงชฎามารดาของนาฏลดาบอกใครๆ รัชนีวิภาจ้างสด หัวหน้าแม่บ้านให้คอยรายงานความเคลื่อนไหว และหาทางกลั่นแกล้งนาฏลดาทุกวิถีทาง แม้สำลีจะคอยช่วยเหลือ แต่ไม่สามารถช่วยได้ทุกครั้ง รัชนีวิภาหาทางทำลายชีวิตสมรสของนาฏลดา เพื่อเธอจะได้อยู่กินกับอนุวัฒน์ อย่างเปิดเผย ไม่ใช่ในฐานะเมียเก็บอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน แต่นาฏลดาไม่สามารถหย่าได้เพราะธุรกิจของครอบครัวขาดทุนอย่างหนัก ต้องใช้เงินทุนของอนุวัฒน์พยุงธุรกิจไว้ กะลาเร่ร่อนไป ในย่ามเก่าๆมีเพียงกะลาที่ใช้ขอทาน เธอตัดสินใจใช้กะลาของบุญช่วยขอทานเพื่อยังชีพ และรับจ้างทำงานสารพัด หลายครั้งที่ต้องผจญภัยแทบเอาชีวิตไม่รอด สุดท้ายเธอหนีไปแอบในโรงเรียนแห่งหนึ่ง ครูอารี มาพบเข้าและอุปการะ จัดการให้เรียนหนังสือ ต่อมาคุณหญิงชฎากับนาฏลดามามอบทุนการศึกษาที่โรงเรียนนี้ นาฏลดาขอให้กะลาไปอยู่กับตนตามที่เคยสัญญากันไว้ กะลาต่อว่านาฏลดาที่ไม่รักษาสัญญา คุณหญิงชฎาเห็นว่าลูกสาวมีความต้องการอุปการะกะลาจริง จึงยินดีให้กะลาไปอยู่กับตน คอยรับใช้เล็กๆน้อยๆ กะลาจึงลาครูอารีไปอยู่กับคุณหญิงชฎา อนุวัฒน์รู้เรื่องก็โกรธนาฏลดามาก สั่งห้ามไม่ให้พาเด็กกะลาเข้ามาในบ้าน กะลาโตเป็นสาว สวย ผิวพรรณดี คุณหญิงชฎาเมตตากะลามาก และมักจะพาออกงาน คุณหญิงชฎาเลยคิดจะตั้งชื่อให้เธอใหม่ แต่กะลาพอใจจะใช้ชื่อนี้ หรือไม่ก็ชื่อหงส์ฟ้า วันที่เธอเล่าให้คุณหญิงฟังเรื่องที่มาของชื่อหงส์ฟ้า นาฏลดาอยู่ด้วย ทำให้เธอมั่นใจว่ากะลาคือลูกสาวของตน แต่ไม่อาจเปิดเผยกับกะลาได้ เพราะไม่อยากทำให้อดีตของเธอถูกเปิดเผยต่อสังคมวงกว้างมากขึ้น กะลานำเงินเก็บก้อนหนึ่งกลับไปยังสลัม และเธอก็พบว่าสลัมกลายเป็นสถานที่ก่อสร้างคอนโดมิเนียมขนาดใหญ่ ซึ่งก็คือโครงการของอนุวัฒน์นั่นเอง ยายนิ่มเสียชีวิตแล้ว พิกุลป่วยเป็นโรคร้ายตาย ศพยังเก็บไว้ที่วัด รอคอยญาติมาทำพิธี มานพเล่าเรื่องนี้ให้เธอฟัง กะลามอบเงินจำนวนนั้นให้มานพเป็นค่าทำศพพิกุล แล้วเธอก็ได้พบกับเงาะ หลานสาวของยายนิ่ม ซึ่งออกจากสถานพินิจมาทำงานในสถานที่ก่อสร้างคอนโดมีเนียม เงาะเห็นกะลามีความสุขก็เกิดอิจฉาและหาทางลัดให้กับตัวเอง โดยยอมเป็นเมียเก็บของอนุวัฒน์ ซึ่งมาคุมงานก่อสร้างบ่อยๆ รัชนีวิภารู้เข้าก็อาละวาดใส่เงาะ และเล่าเรื่องนี้ให้นาฏลดาฟัง แต่นาฏลดาไม่เจ็บร้อนเพราะเธอไม่เคยรักอนุวัฒน์เลย พลโทชัชวาล กลับจากอังกฤษ พาวายุ บุตรชายมาเยี่ยมชฎา วายุเห็นกะลาก็นึกชอบ วายุได้รับการว่าจ้างให้ตกแต่งภายในคอนโดมิเนียมของอนุวัฒน์ เขาได้พบกับพริ้งพิไล หลานสาวของรัชนีวิภา พริ้งพิไลชอบวายุมาก จึงหาเรื่องกับกะลาบ่อยๆ แต่วายุก็แอบมาพบกะลาเสมอ มานพสอบบรรจุเป็นตำรวจได้ เขาถูกส่งไปประจำการที่ชายแดนที่ภาคเหนือ ขณะนั้นรัฐอิสระเกิดการรัฐประหารขึ้น มิ่งหล้าหนีตายเข้ามาในชายแดนไทย มานพถูกสั่งให้ปฏิบัติการพิเศษ โดยการนำตัวเจ้ามิ่งหล้าเข้ามาในแผ่นดินไทยและดูแลอารักขาในฐานะแขกของรัฐบาลไทย มานพถูกย้ายเข้ากรุงเทพฯ มิ่งหล้าซ่อนตัวอยู่ในแฟลตแคบๆของมานพ ในฐานะญาติคนหนึ่งที่เพิ่งเดินทางมาจากต่างจังหวัด วันหนึ่งมานพหยิบกระเป๋าลายหงส์ออกมาดู มิ่งหล้าจำได้ และอยากพบเจ้าของกระเป๋านี้มาก แต่ก็ไม่ยอมเปิดเผยว่าเพราะเหตุใด พริ้งพิไลกับรัชนีวิภารวมหัวกันหาเรื่องกับกะลา กะลาตบสองน้าหลานจนได้รับบาดเจ็บ อนุวัฒน์สั่งให้นาฏลดาตบหน้ากะลาแทนตนเป็นการลงโทษ นาฏลดาจำใจตบลูกทั้งน้ำตา คืนนั้นเธอสารภาพกับกะลาว่าเธอคือแม่ แต่กะลาไม่ยอมรับ พร้อมยืนยันว่าพ่อของเธอเป็นขอทาน ส่วนแม่เป็นผู้หญิงหากิน ถ้าคุณเคยเป็นผู้หญิงหากินมาก่อน กะลาก็จะยอมรับว่าเป็นแม่ คำตอบของกะลาทำให้นาฏลดาเสียใจมาก มานพติดตามขบวนของคุณหญิงชฎามาสถานสงเคราะห์คนพิการ กะลาตามคุณหญิงชฎามาด้วย มานพกับกะลาดีใจที่ได้พบบุญช่วย กะลาบอกกับใครๆว่านี่คือพ่อของเธอ ส่วนแม่เสียชีวิตแล้ว นาฏลดา ซึ่งไปร่วมการกุศลครั้งนั้นด้วย ได้ยินก็เสียใจมาก มานพชวนกะลาไปเที่ยวบ้าน มิ่งหล้าได้พบกับกะลา เขาแอบร้องไห้ดีใจ แต่ไม่กล้าแสดงตัวเพราะเกรงว่ากะลาจะมีอันตราย เงาะแสดงความหมางเมินกับกะลาและทำทุกวิถีทางที่จะมีชีวิตที่ดีเหมือนกะลาให้ได้ แต่อนุวัฒน์กลับไม่ให้เงินทองอย่างที่เงาะต้องการ เงาะจึงดื้อแพ่งมาอยู่ในบ้านของอนุวัฒน์ หาเรื่องกับนาฏลดา แต่กะลาซึ่งรู้อยู่เต็มอกว่านาฏลดาคือแม่ของตน เธอจึงปกป้องนาฏลดาเท่าที่จะทำได้ ทำให้เงาะตั้งตัวเป็นศัตรูกับกะลาอย่างเปิดเผย กะลาจึงต้องรับศึกหนัก ทั้งจากพริ้งพิไล รัชนีวิภาและเงาะ วายุให้บิดามาสู่ขอกะลา ชัชวาลตามใจลูก ทำให้พริ้งพิไลกับรัชนีวิภาไม่พอใจมาก กะลาไม่กล้าตัดสินใจเพราะชีวิตตนเป็นหนี้บุญคุณคุณหญิงชฎา ในวันหมั้นกันนั่นเอง พริ้งพิไลกับรัชนีวิภาจ้างนักข่าวมาทำข่าวขุดคุ้ยกำพืดของกะลา ชัชวาลอับอายที่จะบอกใครๆว่าสะใภ้ของตนมีกำเนิดที่น่ารังเกียจ กะลาวิ่งหนีแขกเหรื่อในงาน เป็นที่สะใจของสองน้าหลานเป็นอย่างมาก นาฏลดาจึงเปิดเผยกับทุกคนว่ากะลาไม่ได้มีกำเนิดที่น่ารังเกียจ เพราะเธอคือลูกของตน รัชนีวิภาจึงถามว่าพ่อของกะลาเป็นใคร นาฏลดาจึงเปิดเผยว่าพ่อของกะลาเป็นบุคคลสูงส่ง ซึ่งไม่สามารถเปิดเผยตัวได้ อนุวัฒน์ข่มขู่นาฏลดาให้เปิดเผยความจริงว่าพ่อของกะลาเป็นใคร เขาทนไม่ได้ที่รู้ว่าตลอดเวลานาฏลดายังมีใจให้ผู้ชายคนนั้น ไม่เช่นนั้นเขาจะถอนหุ้นในบริษัทของคุณหญิงชฎาให้หมด สังคมจะได้รู้กันเสียทีว่าคุณหญิงชฎามีแต่เปลือก และจะฆ่ากะลาเสียด้วย ในฐานะที่กะลาเป็นพยานรักอันน่ารังเกียจสำหรับเขา นาฏลดากลัวคำขู่นั้นจึงบอกความจริงว่าพ่อของกะลาคือเจ้ามิ่งหล้า องค์รัชทายาทผู้สูงส่ง อนุวัฒน์เรียกวิทย์ไปพบ ขอให้วิทย์สืบหาตัวมิ่งหล้า ซึ่งแอบมาซ่อนตัวอยู่ในกรุงเทพฯให้พบและฆ่าเสีย อย่าให้มีชีวิตกลับไปที่รัฐของตนได้ แต่วิทย์ไม่ตกลงเขาเปิดเผยว่าเขาหลงรักนาฏลดามาตั้งแต่เธอยังสาว และเขาก็ทำงานเป็นลูกน้องพ่อของนาฏลดามา เขาไม่สามารถทำร้ายจิตใจของนาฏลดาได้ อนุวัฒน์ตกใจมากที่รู้ความจริง จึงไล่วิทย์ออกไปจากบ้าน เงาะแอบได้ยินจึงอาสาว่าจะทำงานนี้ให้ แต่มีข้อแลกเปลี่ยนคืออนุวัฒน์จะต้องหย่ากับนาฏลดาและจดทะเบียนสมรสกับตนทันทีที่ทำงานนี้สำเร็จ เงาะเข้ามาสนิทกับกะลาอีกครั้ง นาฏลดาย้ายข้าวของมาอยู่กับมารดา ทำให้เธอเริ่มปรับความเข้าใจกับกะลา แม้กะลายังมึนตึงกับเธออยู่ก็ตาม วายุตามมาง้องอนแต่กะลาไม่มีใจให้แล้ว เธอรู้ดีว่าคนที่รักเธอมาตลอดคือมานพ มานพมาชวนให้กะลาไปหาลุงมิ่ง กะลาถูกชะตากับลุงมิ่งอยู่แล้ว จึงไปเยี่ยม เงาะสงสัยจึงสะกดรอยตามไป และได้เห็นการเปิดเผยความจริงของพ่อกับลูก เงาะยิงมิ่งหล้า แต่กระสุนพลาดไปถูกกะลา มานพตามล่าเงาะ แต่เธอหนีไปที่คอนโดมีเนียม ซึ่งกำลังมีงานเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ เงาะขอให้อนุวัฒน์ช่วยตน แต่อนุวัฒน์บอกให้เงาะหลบไปซ่อนตัวที่ไหนก่อน เงาะเสียใจมาก จึงยิงอนุวัฒน์ตายในงาน ต่อมามานพนำกำลังตำรวจมาจับตัวเงาะได้ นาฏลดา มิ่งหล้า และกะลา ดีใจที่เปิดเผยความในใจต่อกัน กะลากราบพ่อแม่ของตน มิ่งหล้าเห็นว่าสถานการณ์ในรัฐของตนสงบแล้ว จึงชวนให้ทั้งสองไปกับตนด้วย กะลารับรักมานพ วายุยอมรับความพ่ายแพ้ เขาเดินทางไปศึกษาต่อยังต่างประเทศ พริ้งพิไลขอติดตามวายุไปด้วย ส่วนรัชนีวิภาสูญเสีย อนุวัฒน์ไปแล้ว ก็กลายเป็นบ้าอยู่ในคอนโดมีเนียมร้าง

รักซ่อนรส 2553

เรื่องย่อ : รักซ่อนรส (2553/2010) ณ ร้านอาหารไทยแห่งหนึ่ง แกงป่าถูกวางตรงหน้าฟ้าใส เธอตักแกงขึ้นดมและรู้ได้ทันทีว่าพ่อครัวลืมใส่กระชาย ฟ้าใสหวังดีเพียงแค่อยากเตือนพนักงานเสิร์ฟให้บอกพ่อครัว แต่สุชินพ่อครัวเผอิญออกมาได้ยิน และโกรธจัดที่ถูกเด็กสอน โวยวายตะเพิดใส่ฟ้าใส บังเอิญเจ้าของร้านมาตรวจเยี่ยมร้านพอดีรู้ว่าพ่อครัวสะเพร่าจึงไล่พ่อครัวออกจากงาน ฟ้าใสรู้สึกผิดที่ตัวเองเป็นสาเหตุแต่ไม่มีเวลาไล่ตามไปขอโทษสุชินเพราะต้องรีบไปเข้าเรียนทำอาหารวันแรก ทำให้สุชินผูกใจเจ็บกับเหตุการณ์ครั้งนี้

ฟ้าใสมีความใฝ่ฝันอยากเป็นเชฟอาหารไทย ด้วยพรสวรรค์ที่ติดตัวมาประกอบกับคลุกคลีอยู่กับธุรกิจการส่งออกวัตถุดิบและเครื่องเทศอาหารไทยของอาทิตย์ซึ่งเป็นบิดา ทำให้ฟ้าใสรอบรู้ด้านเครื่องเทศ แต่อรุณผู้เป็นย่าต่อต้านความฝันของฟ้าใสชนิดสุดลิ่มทิ่มประตู เพราะย่าอรุณเจ็บช้ำกับอดีตสมัยที่เคยเป็นต้นห้องทำครัวอยู่ในวัง แต่โดนใส่ร้ายว่าใส่สมุนไพรบางตัวที่เป็นอันตรายทำให้เจ้านายในวังล้มป่วย ย่าอรุณถูกไล่ออกจากวังจึงเสียใจอย่างหนักเลิกทำอาหารตั้งแต่บัดนั้น แต่ฟ้าใสก็ยังดื้อรั้นแอบมาสมัครเรียนจนได้

ความหวังของฟ้าใสล้มเหลวเพราะย่าอรุณตามมาลากหลานสาวกลับบ้าน ขณะกำลังโดนย่าลงโทษ ทั้งคู่ก็ได้รับข่าวร้ายว่า บริษัทส่งออกของอาทิตย์ถูกบริษัทหลักทรัพย์ของอมราใช้เล่ห์กลเข้าฮุบกิจการ จนอาทิตย์บิดาของฟ้าใสรับสภาพล้มละลายไม่ได้ตัดสินใจแขวนคอตาย การตายของอาทิตย์เปลี่ยนแปลงชีวิตฟ้าใสจากคนมีอันจะกินกลายเป็นยาจกไปในพริบตา แถมย่าอรุณยังล้มป่วยเพราะสูญเสียลูกชายสุดที่รักไปอย่างไม่มีวันกลับ ฟ้าใสต้องพาย่าไปเช่าบ้านถูก ๆ อยู่ และรับภาระเป็นหัวหน้าครอบครัวเลี้ยงดูย่า กับน้องอีกสองคน คือฝนทิพย์และด.ช.เมฆ ทั้ง ๆ ที่ตัวเองมีอายุเพียงแค่ 17 ปีเท่านั้น เธอจึงต้องไปรับจ้างปอกมะพร้าวกะทิในตลาด ฟ้าใสกัดฟันสู้อย่างไม่ยอมแพ้

นายอำนาจ มหาเศรษฐี เจ้าของธุรกิจไฟแนนซ์ ประกาศวางมือทางธุรกิจ แล้วยกกิจการให้อยู่ในความดูแลของอมรากับอุไร หลานสาว ซึ่งอยู่ในวัยสาวใหญ่ ยังไม่ได้แต่งงานเพราะอำนาจกีดกัน เนื่องจากคิดว่าผู้ชายที่เข้ามาในชีวิตของหลานสาว มีแต่หวังปลอกลอกเอาสมบัติมากกว่าจะรักด้วยความจริงใจ สาเหตุอีกประการหนึ่งก็คืออารีย์ หลานสาวอีกคนหนึ่งของอำนาจ เคยถูกผู้ชายทิ้งกระทั่งอารีย์ต้องเลี้ยงลูกแต่เพียงลำพัง

ลูกสาวของอารีย์ชื่อชฎาฉัตร เรียนอยู่ที่ต่างประเทศ ขณะที่อยู่ต่างประเทศชฎาฉัตรเคยผูกพันกับพรวุฒิหรือคุณตั้มทายาทนักธุรกิจร้อยล้าน แต่คุณตั้มสำเร็จการศึกษาก่อน และต้องรีบกลับมาช่วยกอบกู้บริษัทเลิศรส ซึ่งประกอบธุรกิจร้านอาหารแบบเฟรนไชน์ของครอบครัว ที่กำลังประสบกับภาวะวิกฤตเพราะคนไทยหันไปนิยมกินอาหารต่างชาติ โดยมีพรฤดีพี่สาวคอยช่วยอีกแรง

พนักงานของร้านอาหารเลิศรสหลายสาขาพากันลาออกไปสมัครงานกับร้านอาหารทั้งญี่ปุ่นและอิตาเลี่ยน ทำให้คุณตั้มต้องรีบประกาศรับคนด่วน เหมือนพรหมลิขิตชักพาให้คุณตั้มกับฟ้าใสต้องโคจรมาพบกัน เมื่อเกิดปัญหามะพร้าวขาดตลาด พ่อค้าที่คอยจัดส่งกะทิให้กับร้านอาหารเลิศรสต้องไปตระเวนซื้อกะทิจากตลาดทั่วไป ร้านขายกะทิที่ฟ้าใสรับจ้างทำงานอยู่จึงให้ฟ้าใสนำกะทิไปส่งที่ร้านอาหารเลิศรสสาขาหนึ่ง ทำให้ฟ้าใสรู้ข่าวการรับสมัครงานของบริษัทเลิศรส จึงรีบสมัครเป็นพนักงานในตำแหน่งผู้ช่วยเชฟ ซึ่งจะต้องเข้าไปฝึกงานในบริษัทแม่ แต่โชคร้ายเมื่อเธอได้เข้าไปทำงาน กลับต้องไปเจอกับสุชินที่เคยถูกไล่ออกจากงานเพราะฟ้าใส สุชินมีหน้าที่ดูแลเด็กฝึกงาน เขาจำฟ้าใสได้อย่างแม่นยำ จึงคอยกลั่นแกล้งฟ้าใสให้ทำงานปัดกวาดเช็ดถู ล้างห้องน้ำ ไม่ให้ฟ้าใสได้มีโอกาสฝึกทำอาหารเลย

ด้านชฎาฉัตรทนอยู่ที่ต่างประเทศคนเดียวไม่ได้ จึงเดินทางกลับมาเงียบ ๆ โดยไม่มีปริญญาติดตัวมาเลย อำนาจโกรธมาก กดดันชฎาฉัตรไปช่วยงานที่บริษัท เพราะวิตกว่าชฎาฉัตรจะพลาดพลั้งอย่างมารดาและอาจเสียคน ชฎาฉัตรแม้จะยอมไปทำงาน แต่ก็ไปวางท่าหยิ่งผยองถือตัวว่าเป็นผู้ดีมีระดับเหนือพนักงาน

คุณตั้มต้องการปรับปรุงด้านรสชาติอาหารโดยการคัดเลือกเครื่องเทศที่มีคุณภาพมากขึ้น ทำให้เขานึกถึงอาทิตย์เพื่อนสนิทของบิดาที่เคยมีบุญคุณช่วยเหลือบิดาของคุณตั้มในสมัยเริ่มทำธุรกิจร้านอาหาร คุณตั้มอยากติดต่อซื้อเครื่องเทศจากอาทิตย์ แต่พรฤดีบอกว่าอาทิตย์เสียชีวิตไปแล้ว คุณตั้มเป็นห่วงครอบครัวของอาทิตย์ จึงแวะไปที่บ้านเดิมของฟ้าใส ปรากฏว่าบ้านหลังนั้นตกเป็นของครอบครัวอมราเสียแล้ว คุณตั้มออกตามหาครอบครัวฟ้าใสโดยไม่รู้เลยว่าเด็กสาวที่ทำขยะหกใส่หัวเขาในบริษัทโดยไม่ตั้งใจ ที่แท้ก็คือฟ้าใสคนที่เขาตามหานั่นเอง

พนักงานฝึกงานหลายคนถูกส่งตัวไปทำงานที่ร้านอาหารตามสาขาต่าง ๆ เหลือเพียงฟ้าใสที่สุชินไม่ให้ผ่านงาน ฟ้าใสถูกให้ออก ก่อนไปฟ้าใสแอบทำข้าวผัดสูตรชาววังที่ย่าเคยทำให้กินตอนเด็กที่ตัวเองแอบจำสูตรมา จัดใส่กล่องสวยงามให้แม่บ้านเป็นการตอบแทนน้ำใจที่คอยช่วยเหลือฟ้าใสมาตลอดที่ฝึกงาน ข้าวผัดกล่องนั้นได้ถูกแม่บ้านนำไปเสิร์ฟให้คุณตั้มกิน คุณตั้มรู้สึกคุ้นรสชาติข้าวผัดที่ย่าอรุณเคยทำให้กิน รีบให้คนตามหาคนทำ จนได้พบกับฟ้าใสในที่สุด

คุณตั้มให้การช่วยเหลือครอบครัวของฟ้าใสด้วยการให้มาอยู่ตึกแถวริมถนนที่ตนซื้อทิ้งไว้ ย่าอรุณห่วงหลานทั้งสามเลยออกไปรับจ้างทำงานหนักจนป่วยหนัก ฟ้าใสจึงอุบายบอกย่าอรุณว่าเธอจะแต่งงานกับเศรษฐี จะได้ไม่ลำบากเพื่อให้ย่าสบายใจ แต่อรุณไม่เชื่อให้ฟ้าใสพาคนรักมาพบ ฟ้าใสตัดสินใจบากหน้าไปหาคุณตั้ม เพื่อขอร้องให้มาช่วยเล่นละครรับปากกับย่าที่กำลังเจ็บหนักใกล้ตาย เพื่อให้ย่าตายอย่างสงบ

ฟ้าใสเข้าไปพบคุณตั้มในคฤหาสน์ ขณะที่เขากำลังจัดงานปาร์ตี้ มีเพื่อนฝูงทั้งหญิงชายล้วนแต่เป็นผู้ลากมากดีมีฐานะ รวมทั้งคุณชฎาฉัตร ฟ้าใสโดนหัวเราะเยาะ ถูกมองว่าเป็นผู้หญิงชั้นต่ำไม่มีความละอาย ถึงขนาดมาขอให้ผู้ชายที่ไม่เคยรักกันมาก่อนให้มาแต่งงานด้วย ฟ้าใสอธิบายว่าเธอทำเพียงเพื่อจะให้ย่าที่เจ็บป่วยสบายใจ ชั่วคราวเท่านั้น และเธอก็คิดว่าไม่ช้าย่าก็จะตาย และทุกอย่างก็จะสิ้นสุดลง แต่ชฎาฉัตรไม่ยอม ซ้ำยังประณามและดูถูกฟ้าใส รวมทั้งเพื่อนคนอื่น ๆ เช่นเทียนสีหรืออำพลกลับนึกสนุกล้อเลียนฟ้าใสเป็นที่สนุกสนาน ฟ้าใสรู้สึกละอายและผิดหวัง จึงกลับไปหาย่า ตั้งใจจะบอกความจริง แต่คุณตั้มกลับบอกฟ้าใสว่าเขาจะไปพบย่าของฟ้าใส และไปบอกย่าตามที่ฟ้าใสขอร้อง เพราะเขาเห็นใจฟ้าใสและสงสารย่า อยากให้กำลังใจคนแก่ที่ใกล้ตาย ทำให้ชฎาฉัตรโกรธมาก เธอคิดว่าฟ้าใสวางแผนกับย่าเพื่อหลอกลวงคุณตั้มให้แต่งงานด้วย จึงขอตามไปดูว่าสิ่งที่ฟ้าใสพูดมาเป็นความจริงหรือไม่ แต่คุณตั้มไม่อนุญาต และขู่ชฎาฉัตรกับเพื่อน ๆ ว่าหากทุกคนไปวุ่นวายขัดขวางเรื่องนี้ เขาจะเลิกคบทันที

ย่ามีความสุขขึ้นเมื่อเห็นกับตาว่าคุณตั้ม ชายหนุ่มที่ย่าเคยเห็นว่าเป็นลูกชายคนเดียวของเศรษฐีใกล้บ้านของย่ามารักหลานสาวจริง ๆ จากนั้นย่าอรุณก็แข็งแรงขึ้นอย่างกับปาฏิหาริย์และคุณตั้มกับฟ้าใสก็เลยต้องเล่นละครเป็นคนรักกันต่อมาอย่างไม่มีกำหนด ทำให้ชฎาฉัตรยิ่งเชื่อว่า ทั้งหมดเป็นแผนของฟ้าใส และพยายามโน้มน้าวให้คุณตั้มเชื่อว่าฟ้าใสเป็น 18 มงกุฎ แต่คุณตั้มไม่สนใจแถมยังรับปากที่จะส่งเสียฝนทิพย์และดช.เมฆให้เรียนจนจบอีกด้วย แต่ได้รับการปฏิเสธจากฟ้าใส เพราะเธอไม่ต้องการสูญเสียศักดิ์ศรีที่เป็นสิ่งเดียวที่เธอมีอยู่ในตอนนี้

คุณตั้มจึงให้ฟ้าใสไปเป็นผู้ช่วยเชฟในร้านอาหารเลิศรสในห้างใหญ่ พรฤดีขัดขวางเพราะกลัวว่าน้องชายจะไปหลงรักฟ้าใสซึ่งต่างฐานะกัน การได้ชฎาฉัตรมาเป็นน้องสะใภ้น่าจะเกิดประโยชน์ต่อธุรกิจมากกว่า แต่พรฤดีก็ไม่อยากหักหาญน้องชายเสียทีเดียว จึงเสนอให้ฟ้าใสเป็นแค่เด็กเสิร์ฟแล้วค่อยไต่เต้าไปเป็นผู้ช่วยเชฟ ชฎาฉัตรรู้ข่าวโกรธมากตามไปราวีฟ้าใสแต่ก็ทำอะไรฟ้าใสไม่ได้ จึงพาลไปอาละวาดกับคนในบ้านตัวเองแทน

เริ่มต้นจากการทวงสิทธิ์ของอารีย์ในกองมรดก จนอมรากับอุไรต้องแบ่งบริษัทที่ยึดมาจากพ่อของฟ้าใสให้ชฎาฉัตรดูแล แต่ชฎาฉัตรเอาแต่ตามหึงหวงฟ้าใส จนกิจการขาดทุน เมื่อถูกอำนาจตำหนิ ชฎาฉัตรก็หันไปหาเรื่องกับสาริกา ลูกของสำรวยคนใช้ในบ้าน ทำให้สาริกาไม่พอใจ คิดเอาชนะชฎาฉัตรด้วยการตั้งใจเรียนหนังสือและทำงานปรนนิบัติอำนาจ เพื่อให้อำนาจเอ็นดูและให้เห็นว่าเธอนั้นมีความรู้เหนือกว่าชฎาฉัตร จนอำนาจเอ็นดูถึงกับจะยกสมบัติส่วนหนึ่งให้สาริกา

ที่เลิศรสพนักงานเสิร์ฟไม่ค่อยใส่ใจงานด้านบริการทำให้ยอดขายตก แต่ฟ้าใสช่วยกู้สถานการณ์ตั้งใจเสิร์ฟอาหารให้ลูกค้าพร้อมแนะนำคุณประโยชน์ของอาหารไทยแต่ละประเภทให้ลูกค้าฟัง จนลูกค้าพากันชื่นชอบเรียกหาแต่ฟ้าใส ฟ้าใสจึงโดนเพื่อนพนักงานหมั่นไส้ลากไปรุมตบตี อธิป เพื่อนสมัยเรียนที่หลงรักฟ้าใสอยู่ ตามมาช่วยได้ทันเวลาพาฟ้าใสส่งโรงพยาบาล คุณตั้มรู้เรื่องโกรธมากจะไล่พนักงานพวกนั้นออกและจับส่งตำรวจ แต่ฟ้าใสกลับบอกว่าตัวเองถูกอันธพาลทำร้ายไม่เกี่ยวกับเพื่อนพนักงานเลย ทำให้เพื่อนพนักงานสำนึกผิดหันมาทำดีกับฟ้าใส ชฎาฉัตรยังคอยตามราวีกลั่นแกล้งฟ้าใสไม่เลิกรา ด้านพรฤดีเริ่มรู้สึกเห็นใจและมองเห็นความดีงามในตัวของฟ้าใส เด็กสาวที่เธอมองว่าฐานะต่ำชั้น แต่กลับมีนิสัยดีกว่าชฎาฉัตรที่ถือตัวเป็นผู้ดีหลายเท่านัก

พยัคฆ์ หุ้นส่วนบริษัทคุณตั้ม เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ แสดงท่าทีว่าชอบพรฤดี แต่เธอทำเป็นไม่สนใจ ขณะที่คุณตั้มต้องการให้พี่สาวมีครอบครัว จึงเปิดทางให้พยัคฆ์ได้เข้ามาใกล้ชิดกับพรฤดีตลอดเวลา พรฤดีเริ่มใจอ่อน แต่ก็ยังไว้ฟอร์มไม่ยอมรับปากแต่งงานกับพยัคฆ์

ธุรกิจร้านอาหารของคุณตั้มประสบปัญหาใหญ่อีกครั้ง เพราะสุชินขโมยสูตรอาหารไทยเมนูใหม่ ซึ่งเป็นสูตรผสมระหว่างอาหารไทยกับอาหารฝรั่งไปขายให้กับบริษัทเฟรนไชน์เปิดใหม่ ซึ่งคุณตั้มไม่รู้เจ้าของบริษัทที่ชิงสูตรไปนั้นก็คือพยัคฆ์นั่นเอง ลูกค้าของเลิศรสโดนแย่งไปหมดสถานการณ์จวนเจียนเจ๊ง แต่ฟ้าใสอ้อนวอนให้ย่าอรุณช่วยสอนสูตรการทำอาหารตำรับชาววังขนานแท้ให้เพื่อช่วยเหลือคุณตั้ม ย่าอรุณทนเห็นความทุกข์ใจของหลานไม่ไหว จึงยอมสอนฟ้าใส คุณตั้มกับฟ้าใสช่วยกันพลิกฟื้นฐานะของบริษัทจนเพิ่มยอดขายถล่มทลาย ฟ้าใสกลายเป็นที่ยอมรับของเชฟทุกคนได้เลื่อนตำแหน่งให้เป็นเชฟที่มีอายุน้อยที่สุดของบริษัท แถมยังได้รับรางวัลเชฟหน้าใหม่ยอดเยี่ยมจากสถาบันอาหารไทยสู่ครัวโลก

ชฎาฉัตรริษยาฟ้าใสหนักขึ้น ด้วยความกลุ้มใจจึงไปหาเทียนสีกับอำพล ซึ่งเป็นคู่รักกัน ชฎาฉัตรลักลอบได้เสียกับอำพล ขณะเดียวกันก็ยังเฟลิตกับผู้ชายมากหน้าหลายตา ชฎาฉัตร ออกเที่ยวกลางคืนทุกวัน จนพบกับพยัคฆ์ที่ไปนั่งกินเหล้ากับลูกค้าในบาร์แห่งหนึ่ง ทั้งคู่สนิทสนมกันอย่างรวดเร็ว พยัคฆ์ช่วยชฎาฉัตรแก้ปัญหาเรื่องบริษัท ที่สุดชฎาฉัตรก็ได้เสียกับพยัคฆ์ และตั้งท้องขณะเดียวกันพรฤดีก็ตัดสินใจรับปากแต่งงานกับพยัคฆ์ พยัคฆ์จึงขอให้ชฎาฉัตรไปทำแท้งเสีย ประจวบกับอำนาจประกาศยอมรับสาริกาเป็นบุตรบุญธรรม

ชฎาฉัตรเสียหน้าอย่างที่สุด เธอคิดกลับมาหาคุณตั้ม และเริ่มดำเนินแผนการที่จะทำให้คุณตั้มแตกกับฟ้าใส โดยใช้อธิปเป็นเครื่องมือ แผนของชฎาฉัตรสำเร็จ คุณตั้มหึงฟ้าใสกับอธิปจนทะเลาะกันรุนแรง และมีท่าทีว่าจะกลับมาสนิทกับชฎาฉัตรเป็นการประชด ชฎาฉัตรเห็นว่าได้ที่พึ่ง จึงปฏิเสธเงินของพยัคฆ์ โชคร้ายที่การพบกันครั้งสุดท้ายของพยัคฆ์และชฎาฉัตรรู้ถึงหูพรฤดี พรฤดีเสียใจมากยื่นคำขาดล้มเลิกการแต่งงาน

พยัคฆ์โกรธมาก เพราะการที่เขาแต่งงานกับพรฤดีครั้งนี้ เพราะต้องการจะเข้าฮุบกิจการของพรฤดี พยัคฆ์จึงโทรแบล็คเมล์อำนาจให้ขายหุ้นให้ตัวเองในราคาถูก ไม่งั้นจะแฉเรื่องที่ชฎาฉัตรท้องกับตน อำนาจเสียใจมากจนหัวใจวายตาย สาริกาบุกไปตามชฎาฉัตรขณะกำลังจะมอมยาคุณตั้ม และประณามว่าชฎาฉัตรเป็นคนทำให้ทวดตาย คุณตั้มตกใจมากที่รู้ความจริงว่าพยัคฆ์เป็นคนเลว และคิดร้ายกับครอบครัวตนเองมาตั้งแต่ต้น ส่วนชฎาฉัตรก็ตามไปเอาเรื่องพยัคฆ์ แต่ถูกพยัคฆ์ทำร้ายจนตกบันไดแท้งลูก พยัคฆ์นึกว่าชฎาฉัตรเสียชีวิต จึงให้คนเอาร่างของชฎาฉัตรไปทิ้งที่ชานเมือง

ฟ้าใสโดนย่าบังคับให้ลาออกจากร้านอาหารเลิศรสเพราะรู้ความจริงว่าฟ้าใสกับคุณตั้มร่วมกันโกหกเรื่องเป็นแฟนกัน ย่าอรุณโกรธคุณตั้มมาก พาหลาน ๆ ย้ายไปอยู่ชานเมือง เปิดร้านขายข้าวแกงเล็ก ๆ พออยู่พอกิน ฟ้าใสได้พบชฎาฉัตรโดยบังเอิญจึงช่วยชฎาฉัตรไว้ ที่บ้านของฟ้าใสนี่เองที่ทำให้ชฎาฉัตรรู้ตัวว่าคนจนที่ตัวเองรังเกียจ กลับมีจิตใจอันงดงาม ไม่เหมือนกับตัวเองที่หลงคิดว่าสูงส่งมาตลอดแต่กลับทำเรื่องน่าละอายสารพัด ชฎาฉัตรขอโทษฟ้าใสและรับปากว่าจะคืนบริษัทที่อมรายึดมาคืนให้แก่ฟ้าใส

ส่วนฟ้าใสนั้นสงสารและเห็นใจชฎาฉัตรมาก เมื่อคุณตั้มตามมาปรับความเข้าใจ จึงแกล้งโกหกคุณตั้มว่าตนแต่งงานกับอธิปแล้ว ทั้ง ๆ ที่ความจริงอธิปย้ายมาอยู่บ้านฟ้าใสเพราะแต่งงานกับฝนทิพย์ ฟ้าใสต้องการให้คุณตั้มลงเอยกับชฎาฉัตร แต่ชฎาฉัตรสำนึกตัวแล้ว จึงไม่คิดจะกลับไปหาคุณตั้มอีก คิดแต่ว่าจะกลับมาแก้แค้นพยัคฆ์แทน

ชฎาฉัตรนัดพยัคฆ์เจรจาโอนหุ้นของอำนาจคืนให้ตน ไม่งั้นจะแฉเรื่องที่พยัคฆ์พยายามฆ่าตนกับตำรวจ พยัคฆ์แกล้งตกลงพาชฎาฉัตรไปเอาเอกสารและจะฆ่าปิดปาก แต่คุณตั้มพาตำรวจตามมาช่วยไว้ได้ทัน เพราะฟ้าใสแอบรู้ว่าชฎาฉัตรนัดกับพยัคฆ์ จึงบอกให้คุณตั้มรู้ พยัคฆ์ถูกจับ

คุณตั้มซื้อหุ้นของอำนาจคืนให้ชฎาฉัตร และรีบกลับไปหาฟ้าใส แต่ปรากฏว่าฟ้าใสพาครอบครัวย้ายหนีไปแล้ว คุณตั้มออกตามฟ้าใสจนพบและขอฟ้าใสแต่งงาน เพราะเขาตระหนักแล้วว่าฟ้าใสคือผู้ดีที่ถูกตีตราด้วยความดีงาม คุณตั้มขอหมั้นฟ้าใสด้วยสิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิตของฟ้าใส นั่นคือบ้านเก่าที่ถูกอมรายึดไป ซึ่งฟ้าใสไม่รู้เลยว่าคุณตั้มซื้อเก็บไว้นานแล้ว ฟ้าใสและทุกคนมีความสุขมากที่ได้กลับมาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันอีกครั้ง รักซ่อนรส

ด้วยแรงอธิษฐาน 2553

ด้วยแรงอธิษฐาน (2553/2010) ก่อนสิ้นลม เธอ อธิษฐานเพื่อให้ได้เกิดมาเพื่อแก้แค้น เขา แต่เขา มีชีวิตอยู่เพื่อรัก และรอเธอคนเดียว ความรัก ความแค้น ข้ามเวลา วรดา ลูกสาวของวารี ภรรยาบ่าวของนายพลประพจน์ หลบออกมาจากงานเลี้ยงวันเกิดของผาณิต ลูกสาวคุณหญิงผกา ภรรยาแต่งของประพจน์ คุณหญิงผกาและผาณิตไม่เคยนับญาติกับวรดา วารีสอนให้วรดาต้องอดทนทุกครั้งเมื่อต้องฟังคำพูดดูถูกของคุณหญิงผกา วรดานั่งอ่านเจนแอร์ นวนิยายเล่มโปรดในสวนใกล้ต้นปีบ กฤตย์เห็นวรดาครั้งแรกก็ชอบทันที กฤตย์ชวนวรดาคุยและสัญญาว่าจะเอาหนังสือนิยายมาให้ วรดาขอบคุณและเป็นสุขใจ เกื้อกับสายพิณมีลูกสามคน คือเกตุมณี พี่สาวคนโต กฤตย์ ลูกชายคนเดียวในบ้าน และแกมแก้ว ลูกคนเล็กที่เอาแต่ใจตัวเองมาก เกื้อมีเชื้อสายจีน เขาย้ายมาอยู่ข้างบ้านประพจน์ คุณหญิงผกาไม่ชื่นชมมากนัก แต่ผาณิตกลับชอบกฤตย์ผาณิตเป็นคนหัวอ่อนขี้กลัว จึงสนิทกับแกมแก้วที่มีนิสัยกระด้าง ชอบเอาชนะ ผาณิตแอบชอบ กฤตย์ ขณะที่แกมแก้วแอบชอบปิติ ซึ่งเป็นนายทหารผู้ช่วยประพจน์ ปิติเป็นสุภาพบุรุษจึงมักไปส่งผาณิตและแกมแก้วซื้อของเป็นประจำ แกมแก้วไม่ชอบวรดาเพราะรู้ว่าปิติชอบวรดา กฤตย์ชวนวรดาไปเดินเล่นในสวนที่บ้านกฤตย์ โดยมุดกำแพงผุที่อยู่ระหว่างบ้านกฤตย์ และบ้านวรดา วรดาถามเรื่องหลุมหลบภัยในบ้านกฤตย์ แต่กฤตย์ไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหน ทั้งสองคนจึงช่วยกันหาแล้วลงไปในหลุมนั้นด้วยกัน ก่อนกลับบ้าน กฤตย์ขอสัญญาที่จะเจอวรดาอีกแต่วรดาไม่รับปาก ปิติแอบไปหาวรดาที่สวนหลังบ้าน ปรากฏว่าเขาเห็นวรดาอยู่กับกฤตย์ ปิติเสียใจมาก จนขับรถไปชนกับรถเกตุมณี ปิติกำลังโมโหจึงพูดจาไม่ดีกับเกตุมณี เมื่อนึกได้ปิติจึงไปขอโทษเกตุมณี วันหนึ่งแม่ของปิติไปตลาดจึงได้เจอกับเกตุมณี ทั้งคู่ถูกชะตากัน แม่ของปิติเชียร์ให้ปิติจีบเกตุมณี แกมแก้วมาหาผาณิตที่บ้านจึงเห็นว่าวรดายืนคุยกับคนสวน ทั้งสองหาว่าวรดาร่าน จึงไปฟ้องประพจน์กับคุณหญิงผกา แต่เมื่อมาอีกครั้งผู้ชายคนนั้นกลับเป็นกฤตย์ กฤตย์ยอมรับผิดทุกอย่างพร้อมทั้งขอให้เกื้อมาสู่ขอวรดาให้เขา เกตุมณีเล่าเรื่องที่กฤตย์จะแต่งงานกับวรดาให้ปิติฟัง เธอจึงได้รู้ว่าปิติเคยรักวรดา รวมถึงแกมแก้วก็หลงรักปิติเช่นกัน ทำให้เกตุมณีคิดตัดใจ แต่ปิติตามง้อและบอกรักเกตุมณี ในที่สุดเกตุมณีก็ยอมแต่งงานกับปิติ เมื่อแก้มแก้วรู้เธอรับไม่ได้และหาว่าเกตุมณีแย่งปิติไป ปิติกับเกตุมณีจึงตัดสินใจย้ายไปอยู่เพชรบูรณ์ ตั้งแต่วันที่เกิดเรื่องในสวน วรดาไม่ได้เจอกฤตย์เลยเพราะถูกกีดกันจากคุณหญิงผกา แกมแก้ว และผาณิต วรดาทำงานหนักจนไม่สบาย กฤตย์อยากพูดกับวรดาเมื่อเจอหน้ากัน แต่ทุกอย่างแย่ลง คุณหญิงผกาพูดให้กฤตย์คิดว่าวรดาท้อง กฤตย์ไม่อยากเชื่อ วรดาเข้าใจว่ากฤตย์หันไปชอบผาณิต ทั้งสองเข้าใจผิดกัน และวันสุดท้ายที่เจอกันกฤตย์นัดวรดาไปที่สวนหลังบ้านวรดารีบทำงานเพื่อไปตามนัด เมื่อเธอไปถึงกลับไม่พบกฤตย์ แต่โดนคนเอาไม้มาตีคอ วรดาคิดแค่ว่ากฤตย์ทำร้ายเธอ ที่สำคัญเขาจับเธอไปขังที่หลุมหลบภัย จนวรดาขาดอาหาร ก่อนตายเธอตั้งสัตย์อธิษฐาน ขอกลับมาแก้แค้นคนที่ทำให้เธอต้องเจ็บจนตาย มนทิรากับนิกรมีลูกสาวชื่อนัทธมน เด็กสาวเกิดมาพร้อมพลังพิเศษที่สามารถบังคับสิ่งของได้ คืนใดที่นัทธมนฝันร้าย สิ่งรอบตัวของเธอจะลอยขึ้นจนทำให้มนทิรากับนิกรตกใจและเป็นห่วงนัทธมน แต่ทั้งสองยังไม่พานัทธมนไปหาหมอเพราะยังเด็กอยู่วันหนึ่งมนทิราพานัทธมนวัยขวบเศษไปใส่บาตรกับพระธุดงค์รูปหนึ่ง พระรูปนี้เตือนให้มนทิราเลี้ยงนัทธมนให้ดี ให้สอนเรื่องการให้อภัยเพื่ออนาคตของนัทธมน แม้นัทธมนจะโตขึ้นแต่อาการฝันร้ายยังมีเหมือนเดิม มนทิราจึงคอยระวังไม่ให้นัทธมนกลัวและสอนนัทธมนให้อโหสิ แต่ยิ่งโตขึ้น นัทธมนเริ่มไม่เชื่อฟังจนมนทิราหนักใจเมื่อนัทธมนเข้าโรงเรียน เธอไม่ชอบเพื่อนคนหนึ่งชื่อติสรณ์ หรือเต้ย ซึ่งเป็นลูกนักการเมืองใหญ่ ติสรณ์ชอบกระตุกผมเพื่อนผู้หญิง วันหนึ่งติสรณ์กระตุกผมนัทธมนทำให้เธอโกรธและใช้พลังพิเศษจนติสรณ์ได้รับบาดเจ็บมากกว่านัทธมนหลายเท่า มนทิรารู้ว่านัทธมนเป็นคนทำ เธอให้นัทธมนสาบานว่าจะไม่ทำอีก แต่นัทธมนไม่ยอม ทำให้แม่ลูกทะเลาะกัน นิกรเกิดอุบัติเหตุรถชนตาย นัทธมนรู้ล่วงหน้าจึงรีบกลับมาอยู่เป็นเพื่อนมนทิราก่อนที่เพื่อนร่วมงานของนิกรจะโทรมาบอกว่านิกรเสียแล้ว หลังจบมัธยมสาม นัทธมนบอกมนทิราว่าจะเรียนต่อเลขานุการโดยไม่ยอมบอกเหตุผลที่แท้จริงว่า มีอะไรบางอย่างดึงดูดให้เธอต้องไปเรียนที่นี่ มนทิราห้ามไม่ได้จึงปล่อยไป แม้แต่ติสรณ์ที่เดี๋ยวนี้กลายเป็นเพื่อนสนิทของนัทธมนก็เสียดายความรู้ของนัทธมนแทน วันแรกของการเข้าเรียน นัทธมนได้เพื่อนใหม่ชื่อกลิกาหรือถุงแป้ง ลูกของเกตุมณีกับปิติ และนัทธมนก็ได้รู้จักกฤตย์ ซึ่งเป็นน้าชายของกลิกา นัทธมนรู้ทันทีว่าเป็นเขาที่เธอต้องแก้แค้นนัทธมนนั่งอ่านเจนแอร์ ทำให้กลิกางงที่นัทธมนอ่านหนังสือเก่า แต่นัทธมนไม่รู้สึกซาบซึ้งไปกับเนื้อหา เธอเห็นว่าเจนแอร์เป็นผู้หญิงโง่ที่ยอมให้ผู้ชายหลอกแล้วทิ้งไปเหมือนวรดาที่โง่ให้กฤตย์หลอก แล้วก็ตายเพราะเขาเพื่อนของกลิกามักถามถึงกฤตย์ แม้แต่นัทธมนที่ยังไม่เคยเจอกฤตย์ก็ถามถึงจนเพื่อน ๆ งง นัทธมนจึงบอกว่าเธอสนใจกฤตย์ กลิกาอยากให้เป็นจริงเพราะไม่อยากให้กฤตย์ต้องตกลงปลงใจกับปณิตา หม้ายสาวที่ตามตื้อกฤตย์มานาน ที่กฤตย์ยังไม่มีใครเพราะลืมวรดาไม่ได้ กฤตย์มารับกลิกาที่โรงเรียน เขาเห็นนัทธมนแล้วตกใจมากเพราะคิดว่าเป็นวรดา ขณะที่ติสรณ์มารับนัทธมนที่โรงเรียน ติสรณ์สนใจกลิกา นัทธมนจึงช่วยติสรณ์เพราะรู้ว่าทั้งคู่เป็นคนดีนัทธมนแต่งตัวไปงานวันเกิดของกลิกาที่บ้านกฤตย์ เมื่อไปถึงนัทธมนตกใจที่บ้านกฤตย์กลายเป็นบ้านเรือนไทย บ้านเก่าเธอ นัทธมนถามกลิกาจนรู้ว่า กฤตย์ซื้อบ้านหลังนี้มาเพราะทุกคนในบ้านตายหมด ส่วนบ้านอีกหลังกฤตย์ใช้เป็นสำนักงาน นัทธมนยังไม่ได้เจอกฤตย์เพราะเขาไม่สบายจึงลงมาร่วมงานไม่ได้ กฤตย์เห็นนัทธมนเดินอยู่ในสวนแต่เรียกไม่ทัน จนสะดุดโต๊ะที่วางเค้กวันเกิดของกลิกา แกมแก้วโวยวายว่าเป็นความคิดของกลิกา แต่กฤตย์ปกป้องกลิกา นอกจากนี้ เขาถามกลิกาถึงเพื่อนที่มาเดินในสวนจึงรู้ว่าเป็นนัทธมน กฤตย์จึงบอกกลิกาให้ชวนนัทธมนมาทำงานเป็นเลขาที่บริษัท ซึ่งนัทธมนก็ยินดี นัทธมนจะได้มาทำงานเป็นเลขาของกฤตย์โดยตรง และทำงานที่บ้านเรือนไทย ไม่ใช่ที่สำนักงาน กลิกาดีใจที่นัทธมนได้งาน แกมแก้วนำเอกสารขอส่งลินจันทร์ ลูกสาวที่เป็นใบ้ไปเรียนต่างประเทศเพื่อรักษาตัว ลึกๆ แกมแก้วอิจฉาที่กฤตย์จะส่งกลิกาลูกเกตุมณีไปเรียน กฤตย์ขอเวลาตัดสินใจ วันแรกของการทำงาน นัทธมนได้รู้จักกับพิษณุ เลขาเก่าของกฤตย์ ซึ่งจะย้ายไปประจำที่สาขาชลบุรี พิษณุสอนงานให้นัทธมนตอนบ่ายกฤตย์พานัทธมนไปประชุมที่สำนักงานฝั่งตรงข้ามบ้านเรือนไทย นัทธมนได้ทักทายบงกช ซึ่งต้องติดต่องานประจำเมื่อกฤตย์กับนัทธมนไปแล้วบงกชโทรศัพท์บอกเรื่องนัทธมนให้ปณิตารู้ทันที ปณิตาไม่ไว้วางใจจึงคิดหาทางกำจัดนัทธมน ปณิตา เป็นลูกแม่ค้าจน ๆ จึงตัดสินใจแต่งงานเพื่อยกระดับตัวเองถึงสองครั้ง ครั้งที่สองทำให้เธอรวยมาจนถึงทุกวันนี้ และเมื่อปณิตาตั้งใจจะจับกฤตย์แล้วเธอต้องทำให้ได้ แกมแก้วเข้ามาดูเลขาคนใหม่ของกฤตย์ทำให้แกมแก้วตกใจมากที่นัทธมนหน้าเหมือนวรดา หลังจบประชุม กฤตย์พานัทธมนไปยังสระน้ำที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นหลุมหลบภัยที่วรดาตาย กฤตย์บอกว่าเคยคิดทำสวน กฤตย์พานัทธมนเดินมาหาลินจันทร์เมื่อนัทธมนเห็นลินจันทร์จึงรู้ว่าลินจันทร์คือผาณิตกลับชาติมากเกิด ลินจันทร์รู้เช่นกัน จึงกลัวนัทธมนจนวิ่งหนีไป มนทิราบอกเรื่องที่คนจะขายรถ นัทธมนสนใจเพราะจะได้ไปทำงานสะดวก หลังจากไปลองนำรถมาใช้ นัทธมนก็ตกลงซื้อ และขับรถไปทำงานทุกวัน ปณิตาชวนกฤตย์ไปทานข้าว แต่กฤตย์นัดนัทธมนและกลิกาไว้แล้ว ปณิตาจึงขอไปด้วย โดยเลือกร้านอาหารทะเล และเหน็บแนมนัทธมนตลอดเวลา สุดท้าย นัทธมนใช้พลังพิเศษทำให้ปูหนีบนิ้วปณิตา ปณิตาถึงกับพูดไม่ออก ไม่มีใครรู้ว่าเป็นฝีมือของนัทธมน วันรับวุฒิบัตร มนทิราได้เจอกับกฤตย์ที่ไปแสดงความยินดีกับกลิกาและนัทธมน ทั้งสี่คนจึงไปทานอาหารเย็นด้วยกัน มนทิราสังเกตเห็นว่านัทธมนไม่ชอบกฤตย์ และแน่ใจว่าผู้ชายที่ลูกฝันถึงเป็นกฤตย์ มนทิราไม่สบายใจที่นัทธมนไม่ตัดความแค้นออกจากใจเสียที ขณะที่นัทธมนนำรูปคู่ระหว่างตนเองกับกฤตย์ไปตั้งบนโต๊ะทำงานตามที่กลิกาของร้อง แกมแก้วมาเห็นจึงไม่ชอบใจนัก กลิกากลับไปเพชรบูรณ์พร้อมของฝากและรูปถ่าย เมื่อเกตุมณีและปิติเห็นรูปนัทธมนทั้งคู่ตกใจว่าทำไมถึงเหมือนวรดามาก ปณิตาเห็นรูปที่ตั้งบนโต๊ะนัทธมน ปณิตาไม่พอใจมาก เธอชวนกฤตย์ไปทัวร์ยุโรปแถมจองตั๋วเผื่อกฤตย์แล้ว แต่กฤตย์ปฏิเสธเพราะติดธุระพอดี ปณิตาช้ำใจมาก ยิ่งเธอชวนนัทธมนไปทำงานที่บริษัทเพื่อให้ห่าง กฤตย์แต่นัทธมนปฏิเสธ ปณิตาก็ยิ่งแค้น เมื่อคนใช้ยกกาแฟมาให้ ปณิตาจะแกล้งทำกาแฟหกใส่นัทธมน ปรากฏว่ากาแฟหกรดตัวเอง ปณิตางงกับเหตุการณ์ที่พลิกผัน แกมแก้วพยายามพาลินจันทร์ไปหากฤตย์ พอดีไพโรจน์มาเยี่ยมลูกสาวคือลินจันทร์ และจะพาไปเที่ยว แต่แกมแก้วไม่ยอมจึงทะเลาะกันรุนแรง คราวนี้ไพโรจน์ไม่ยอมเหมือนครั้งก่อน เมื่อลินจันทร์ไปกับไพโรจน์แกมแก้วจึงมีอาหารเหมือนคนคลุ้มคลั่ง กฤตย์รีบพาแกมแก้วส่งโรงพยาบาลไพโรจน์ขอโทษที่เกิดเรื่องร้ายแรงขึ้น แต่กฤตย์เข้าใจนัทธมนจัดเสื้อผ้าเตรียมไปทำงานกับกฤตย์ที่เชียงราย โดยกฤตย์รับปากมนทิราว่าจะดูแลนัทธมน อย่างดี ตอนขึ้นเครื่องนัทธมนอาเจียนเพราะกลัวความสูงจึงไม่มีแรง เมื่อถึงเชียงรายกฤตย์จึงพาไปพักที่โรงแรมก่อน แต่นัทธมนกลับไม่ยอมขึ้นลิฟต์เพราะกลัวที่แคบและความมืด จนลืมตัวพูดไปว่า กฤตย์จะฆ่าตัวเอง ทำให้กฤตย์สงสัย แต่เขาตัดสินใจพักชั้นล่างและพานัทธมนเดินขึ้นบันไดนัทธมนฝันร้ายจนสิ่งของลอยเหมือนตอนแด็กอีกครั้ง ทำให้กฤตย์คิดว่าแผ่นดินไหวแต่เมื่อไปถามคนอื่น ทุกคนยืนยันว่าไม่มีแผ่นดินไหว กฤตย์คิดว่านัทธมนต้องมีอะไรปิดบังเขาอยู่สิงห์ หรือสีหนาท เป็นคนมารับกฤตย์กับนัทธมนไปยังไร่สัตตบุษย์ที่กฤตย์จะทำโครงการนัทธมนออกปากชมบ้านของสีหนาท แต่สีหนาทบอกว่ากฤตย์เป็นคนออกแบบ นัทธมนจึงเงียบลงไปเพราะไม่ชอบให้ใครชื่นชมกฤตย์ต่อหน้าก่อนที่อำพล วิศวกรร่วมโครงการจะขึ้นมา กฤตย์กับนัทธมนได้ไปเที่ยวฝั่งพม่าพร้อมกับสีหนาทและน้องสาว กฤตย์ซื้อสร้อยคอเส้นที่นัทธมนให้นัทธมน เธอจะไม่รับ กฤตย์จึงบังคับเธอ เมื่อกฤตย์และนัทธมนต้องไปเที่ยวกันตามลำพัง นัทธมนไม่อยากไปจนครั้งหนึ่งเธอทำร้ายกฤตย์ กฤตย์สงสัยในพฤติกรรมแปลก ๆ ของนัทธมนแต่ยังหาคำตอบไม่ได้ เมื่ออำพลขึ้นมา กฤตย์เร่งทำงานส่วนนัทธมนใช้เวลาว่างในการคิดแผนการที่จะจัดการกฤตย์ให้เร็วที่สุด เพราะกฤตย์เริ่มรู้ตัวแล้ว กฤตย์ไปส่งนัทธมนที่บ้านหลังกลับจากเชียงราย มนทิราขอบคุณกฤตย์ เมื่อนัทธมนกลับไปทำงาน กฤตย์ก็ดีต่อเธอทุกอย่าง แต่นัทธมนไม่ต้องการมัน เธอเริ่มดำเนินตามแผนแก้แค้นเริ่มจากการเอากุญแจห้องเก็บของมาไว้ที่ตัวเองนัทธมนเจอปิติก่อนที่เขาจะกลับเชียงรายจึงได้รู้ว่า ประพจน์ขอหย่าจากผกาหลังวรดาตาย แล้วไปบวชเป็นพระออกธุดงค์ไปเรื่อย ๆ คุณหญิงผกากับผาณิตถูกรถชนตาย ประพจน์จึงขายบ้านให้กฤตย์ แล้วออกธุดงค์ต่อ ในที่สุดก็มรณภาพ แกมแก้วเห็นปิติคุยกับนัทธมนจึงเข้ามาหาเรื่อง เมื่อปิติกลับไปถึงเชียงรายก็เล่าเรื่องให้เกตุมณีฟัง ปณิตารู้ว่านัทธมนกลับมาจึงรีบโทรหาสมุนของเธอให้จัดการกับนัทธมน แต่ทุกอย่างผิดแผน เพราะคนร้ายตามรถที่นัทธมนใช้ประจำไปโดยไม่ได้ดูว่าใครขับ ทำให้มนทิราเคราะห์ร้าย เมื่อนัทธมนรู้เรื่อง เธอสัญญาว่าจะต้องจัดการกับคนร้ายให้ได้ แม้มนทิราจะขอร้องแต่นัทธมนไม่รับปาก ปณิตารู้ว่างานพลาดจึงสั่งให้จัดการใหม่อีกครั้ง แต่นัทธมนไม่กลัวเพราะรอชำระความอยู่แล้ว คนร้ายทั้งสองถูกจัดการจนบาดเจ็บสาหัส คนแรกที่นัทธมนจัดการคือบงกช นัทธมนใช้วิธีสะกดจิตให้บงกชเกิดภาพหลอนเห็นหนอนเต็มปาก ส่วนปณิตาเมื่อรู้ว่านัทธมนไม่ใช่คนธรรมดา เธอจึงมาเตือนกฤตย์ แต่กฤตย์ไม่สนใจ นัทธมนสะกดจิตปณิตาให้เห็นปีศาจอย่างที่ปณิตากล่าวหาว่านัทธมนเป็นปีศาจ เมื่อเลิกงาน นัทธมนชวนกฤตย์ไปห้องเก็บของ กฤตย์ยอมไปแต่โดยดีและเดินลงไปในห้องเก็บของตามที่นัทธมนต้องการ กฤตย์รอฟังคำอธิบายจากนัทธมนจึงรู้ว่านัทธมนคือวรดากลับชาติมาเกิด นัทธมนไม่ฟังสิ่งที่กฤตย์จะบอก เธอทำให้กองอุปกรณ์หล่นมทับขากฤตย์หักและขังกฤตย์ไว้ เธอหวังให้เขาร้องขอความช่วยเหลือแต่เขาไม่ร้อง สุดท้ายคนที่แพ้คือนัทธมนอีกครั้ง วันรุ่งขึ้นนัทธมนให้ทุกคนตามหากฤตย์ที่หายไปจนเจอ แกมแก้วจะพากฤตย์ไปหาหมอ แต่กฤตย์ขอคุยกับนัทธมนเป็นการส่วนตัวกฤตย์ส่งแหวนที่เขาเตรียมให้วรดากับนัทธมน วันนั้นกฤตย์ยังไม่ทันออกจากบ้าน แม่ของกฤตย์เกิดหกล้มขาหักเขาจึงพาส่งโรงพยาบาลและให้แกมแก้วไปบอก วรดาแทน แต่วันต่อมาวรดาหายไปไม่มีใครพบ จนกระทั่งวรดาตาย นัทธมนตกใจที่รู้ว่าไม่ใช่กฤตย์ เธอจึงไปหาลินจันทร์และแกมแก้ว นัทธมนคาดคั้นลินจันทร์ให้พูดความจริง ลินจันทร์กลัวมากจึงเล่าว่า แกมแก้วเป็นคนวางแผนทั้งหมด ตั้งแต่ตีหัววรดา และลากวรดาไปซ่อนในหลุมหลบภัย ซึ่งแกมแก้วบอกจะปล่อยวรดาในอีกสองสามวันข้างหน้าแต่แกมแก้วไม่ทำ จนวรดาตาย นัทธมนโกรธมากที่รู้ว่าแกมแก้วทำแกมแก้วไม่เชื่อในสิ่งที่เห็น ลินจันทร์พูดได้แต่เป็นเสียงผาณิต เมื่อเรื่องทุกอย่างเปิดเผยแกมแก้วจึงยอมรับออกมาและคิดจะฆ่านัทธมนอีกครั้ง แต่นัทธมนใช้พลังจิตทำร้ายแกมแก้วจนแกมแก้วกลัวลนลาน กฤตย์พยายามห้ามไว้แล้วให้นัทธมนอโหสิกรรม หลังจากวันนั้น แกมแก้วเป็นอัมพาต กฤตย์รักษาตัวอยู่โรงพยาบาล และตัดสินใจส่งลินจันทร์ไปเรียนต่างประเทศ นัทธมนหลีกเลี่ยงการพบกับกฤตย์แต่ยังถามข่าวจากกลิกานัทธมนพามนทิราไปเที่ยวชายทะเล จนคิดได้ตามที่แม่สอนว่าคนเราไม่ควรฝืนชะตาความรัก นัทธมนโทรหากฤตย์ แต่กฤตย์ไม่อยู่บ้าน เธอจึงเสียใจ แต่กฤตย์ตามเธอมาที่ทะเล ทั้งสองปรับความเข้าใจกันในที่สุด ทั้งคู่ก็ยอมรับในความรักของกันและกันเวลาผ่านไป กลิกาใกล้เรียนจบ โดยมีติสรณ์รออยู่เมืองไทย ส่วนนัทธมนมีลูกชายหนึ่งคน ชื่อ อธิษฐ์ แม้อธิษฐ์จะดื้อ แต่นัทธมนก็รักเขามาก รวมถึงลูกในท้องที่จะเป็นเด็กผู้หญิง กฤตย์และนัทธมนตกลงจะตั้งชื่อลูกว่า วรดา

เงากามเทพ 2553

เรื่องย่อ : เงากามเทพ (2553/2010) เมื่อโรมหนุ่มกรุงเทพฯ ไฮโซเนื้อหอมโดนกลั่นแกล้งและโกงจนหมดตัว เขาจึงไปตั้งต้นชีวิตใหม่ในดินแดนไกลปืนเที่ยง แต่แล้วเพื่อนสนิทต้องจบชีวิตอยางอนาถ โดยค้นพบว่าคู่แค้นของเขาอำมหิตขนาดสลับเปลี่ยนตัวลูกสาวคนเดียวกับลูกของคน ใช้ เพื่อสมบัติมหาศาล เขาจึงใช้เด็กสาวเป็นเครื่องมือทำร้ายอีกฝ่ายอย่างเลือดเย็น โดยใช้โฉมหน้าที่หล่อเหลาราวกับเทพบุตรซ่อนความโหดเหี้ยมอำมหิตดุจมารร้าย ไว้ แต่ความบริสุทธิ์น่ารักไร้เดียงสาของเธอกลับทำให้หัวใจมารนั้นอ่อนไหว เขาจะเลือกความแค้นหรือความรัก

เงาหัวใจ 2553

เรื่องย่อ : เงาหัวใจ (2553/2010) เพราะรอยรักรอยแค้นที่เธอฝากไว้ให้เขา ทำให้ เขากลายเป็นคนเลือดเย็น ใช้อำนาจเงินซื้อทุกอย่าง แม้กระทั่งซื้อหัวใจโดยไม่รู้ว่า เธอยอมขายศักดิ์ศรีให้เขาเพื่อทดแทนคุณพ่อแม่และพี่ชายอันเป็นที่รักเมื่อทั้งคู่กลับมาพบกันอีกครั้ง เงาอดีตที่ทาบทับอยู่ในใจ ก็ปรากฏขึ้น พร้อมกับความผูกพันครั้งใหม่ที่ยากจะสลัดพ้น ในงานปาร์ตี้ บนห้องพักหรูของตึกสูงกลางมหานครนิวยอร์ค วิศเวศ นักธุรกิจหนุ่มเลือดเย็น กำลังสนุกมือกับการกว้านซื้อกิจการที่ตกต่ำเอามาขายต่อเพื่อเอากำไร ทุกอย่างในชีวิตสามารถซื้อได้ด้วยเงิน นี่คือนิยามของวิศเวศแม้แต่ความรัก วิศเวศควงสาวสวย นางแบบ ดาราไม่ซ้ำหน้า อยากได้อะไรวิศเวศสามารถปรนเปรอซื้อให้พวกเธอได้ทุกอย่างไม่อั้น แต่สาวทุกคนที่เป็นคู่ควงต่างรู้ดีถึงกฎที่ตั้งไว้ คือ ห้ามหวังความสัมพันธ์ที่ถาวร ไม่มีการผูกมัดใด ๆ ทั้งสิ้น อย่าหวังเยื่อใยเพราะต่างก็แค่มาสนุกด้วยกันทั้งสองฝ่าย สิ่งที่ผู้หญิงของวิศเวศเลือกทำเมื่อจบความสัมพันธ์ก็คือ จะเดินออกไปเฉย ๆ หรือเดินออกไปพร้อมเช็คที่เขาเซ็นให้ และนี่คือทางเลือกที่วิศเวศเสนอให้กับคู่ควงคนล่าสุดในงานปาร์ตี้ มีผู้หญิงเพียงคนเดียวเท่านั้น ที่สามารถรับพฤติกรรมของวิศเวศได้ คือ ลูซี่ ลูกสาวของท่านชายอภินพกับแหม่มฝรั่งลูซี่ทำตัวไม่รู้ไม่เห็นกับพฤติกรรมของวิศเวศ เป็นคู่ควงเบอร์ 1 ที่ออกหน้าออกตาของวิศเวศ วิศเวศได้รับอีเมลล์จาก ไวณิก น้องชายต่างบิดา ให้กลับเมืองไทยด่วน! เนื่องจากโรงงานทอผ้าส่งออกในและนอกประเทศ ที่เค้ายกให้น้องชายดูแลมีปัญหา วิศเวศเป็นลูกชายคนโตของวิมาลากับบิดาเศรษฐีเจ้าของรีสอร์ทหลายแห่งทางภาคใต้ วิมาลาหย่าร้างกับบิดาของวิศเวศ แล้วจึงไปแต่งงานอยู่กินกับบิดาของไวณิกซึ่งมีอายุน้อยกว่า แต่ก็ต้องเลิกรากันอีกเพราะความจู้จี้ เจ้าระเบียบ และการคาดหวังความสมบรูณ์แบบทุกอย่างในชีวิตของวิมาลาเอง หลังจากบิดาของวิศเวศเสียชีวิตและยกมรดกทั้งหมดให้วิศเวศ ไวณิกทั้งรักและนับถือพี่ชายคนนี้มากสำหรับเค้าวิศเวศเป็นทั้งพ่อ พี่ชาย และเป็นไอดอลในใจเลยทีเดียว วิศเวศหัวเสียมากเมื่อกลับมาพบว่าโรงงานไม่ได้มีปัญหาอย่างที่ไวณิกบอก แต่ไวณิกต้องการให้พี่ชายช่วยออกหน้าพูดกับแม่เรื่องที่เค้าชอบผู้หญิงอยู่คนหนึ่ง แต่ปัญหาอยู่ตรงที่ เธอคนนี้เป็นเพียงพนักงานในโรงงานเท่านั้น แถมยังเป็นแม่ม่ายลูกติดอีก วิศเวศรู้ทันทีว่าน้องชายผู้อ่อนต่อโลกกำลังจะถูกผู้หญิงจับ จึงบอกให้ไวณิกพามาดูตัว แล้ววิศเวศก็ต้องตะลึงเมื่อเจอกับ อัญชิสา หญิงสาวที่ไวณิกชอบ ผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้า ทำให้อดีตที่แสนเจ็บปวด ความรัก ความแค้นที่อัดแน่นอยู่ในใจหวนคืนมาเมื่อหกปีก่อนที่นิวยอร์ค

The Gang พลพรรครักแผ่นดิน

The Gang พลพรรครักแผ่นดิน (2552/2009) ในชีวิตคนเราล้วนมีประสบการณ์ในแต่ละช่วงชีวิต ที่ถูกบันทึกไว้ในความทรงจำ โดยเฉพาะ ความผิดพลาด สูญเสียที่ไม่อาจแก้ไขจะกลายเป็นบทเรียน ชีวิตที่คอยเตือนสติให้นำ พาชีวิตเดิน ในทางที่ถูกที่ควร ประสบการณ์เหล่านั้นคือ เรื่องราว ของกลุ่มวัยรุ่น ที่ต่างทั้งที่มา ฐานะ รวมถึง ความต้องการ ที่แตกต่างกันออกไป แต่สิ่งที่เหมือนกันคือพลัง ที่เปี่ยมล้นทั้งร่างกายและจิตใจ การแสวงหาการยอมรับ จากครอบครัวและคนใกล้ตัว และต้องการเป็นหนึ่งในสายตา ของเพศตรงข้าม ทั้งชายและหญิง แต่พลังมหาศาล เหล่านั้นกลับพุ่งไปอย่างไร้ ทิศทางเมื่อไม่สามารถควบคุม พลังแห่งการสร้างสรรค์ที่สามารถสร้างชาติให้ยิ่งใหญ่ จึงถูกผันแปรเป็นพลังแห่งการทำลายล้างด้วยความคึกคะนองชั่ววูบจนเกิด ความสูญเสียกลาย เป็นจุดพลิกผันผลักดันให้ชีวิตที่กำลัง จะรุ่งโรจน์ต้องดับสลายกลายเป็นภาระของสังคม แต่ยังมีสถานที่แห่งหนึ่งที่มองเห็นถึงขุมพลังจากเด็กเหล่านี้ สถานที่ ๆ จะเปลี่ยนแปลงเด็ก เหล่านี้จาก "ภาระให้เป็นพลังสร้างชาติ" ด้วยความรักจากกลุ่มครูอาจารย์ ที่เลือกจะนำ ประสบการณ์ในชีวิตของตน มาเป็นบทเรียนในการสั่งสอนและ เยียวยาทั้งกายและใจ เพื่อให้เด็กทุกคนก้าวข้ามความเจ็บปวด และเรียนรู้ในการเริ่มต้นชีวิตใหม่ ด้วยความสุข ที่ต้องการอย่างแท้จริง ปัจจุบัน เมื่อมีเหตุการณ์ที่เด็กนักเรียนช่างกล ก่อเหตุทะเลาะวิวาท กันอย่างต่อเนื่อง จึงได้มีการก่อตั้งสถานศึกษาพิเศษขึ้น ในชื่อว่า "สถานวิวัฒน์เยาวชน" ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการอบรมสั่งสอนเด็กที่มีปัญหาเหล่านี้ โดยมีวัตถุประสงค์ หลักคือ "การเปลี่ยนภาระให้เป็นพลัง" ด้วยการชี้แนะและให้ความรู้ ปลูกฝังศีลธรรม เพื่อให้นักเรียนเหล่านี้ได้กลับตัวกลับใจ พร้อมสำหรับการออกไปสู่โลก ภายนอกในฐานะที่เป็นคนดีต่อสังคมต่อไป ตรัยคุณ ครูหนุ่ม อดีตนักเรียนช่างกลกลับใจ พี่ชายของ ภูมิ (แน็ท-ชาลี) เด็กช่างกลรุ่นใหม่ที่ เห็นว่าการใช้กำลัง สามารถตัดสินปัญหาทุกอย่าง ตรัยคุณได้รับมอบหมาย ให้รับหน้าที่ครูฝ่าย ปกครองในสถานวิวัฒน์เยาวชน คอยดูแลนักเรียนที่เกเร และมีปัญหาการใช้ชีวิตในโลกภายนอก โดยที่สถาบันแห่งนี้อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ คธาซึ่งทำหน้าที่เสมือนหนึ่งผู้ปกครองของเยาวชนเหล่านี้ อีกทั้งเหล่าครูอาจารย์มากมาย อาทิเช่น เทียนรุ่ง ครูสาวฝ่ายแนะแนวที่ใช้จิตวิทยาในการดูแลเด็กๆ ทุกคน รวมถึงคอยรักษา แผลทางใจ ของบรรดาเด็กๆ และบางครั้งก็ลามไปถึงแผลเก่าของตรัยคุณ เทียนรุ่งยึดมั่นกับ ความคิดที่ว่า มนุษย์มีประสาทรับรู้การฟัง เพราะครอบครัว ของเทียนรุ่งอบรมเลี้ยงดูมา กับการเปิดอกพูดจา ด้วยเหตุผล การพูดด้วยเหตุผลคือทางออกในการปรับเปลี่ยน พฤติกรรม ไม่จำเป็นต้องใช้ความรุนแรง ปราดเปรื่อง ครูสอนวิทยาศาสตร์ที่สามารถทำให้วิชาที่เรียน เป็นเรื่องง่าย และนำมาเป็น บทเรียนใช้ในชิวิตจริงได้ นอกจากนี้ยังมี ละเอียด ครูสอนคณิตศาสตร์ที่ เข้มงวด ยึดถือระเบียบ วินัยเป็นที่ตั้ง แม้จะดูเป็นคนจู้จี้จุกจิกตามประสาสาวโสด แต่ก็เป็นคนที่ไม่เลว ร้ายอะไรนัก ครูอาจารย์ทั้งหมดนี้ต้องร่วมมือกัน เพื่ออบรมสั่งสอนเด็กๆ ที่มีปัญหาที่เข้ามาอยู่ใน สถานวิวัฒน์เยาวชนแห่งนี้ กลับตัวเป็นคนดี และส่งพวกเขาคืนสู่สังคมต่อไป

นิทานทะลุมิติ 2552

เรื่องย่อ : นิทานทะลุมิติ (2552/2009) เมื่อเจ้าหญิงแสนสวยจากโลกนิทาน มาเป็นสาวงามในเมืองมนุษย์ จากโลกที่เพ้อฝัน มาเผชิญความวุ่นวายในโลกแห่งความจริง ความอลวนไร้ขอบเขตจึงเกิดขึ้น ร่วมลุ้นและเอาใจช่วยเจ้าหญิงแสนสวยได้ใน…นิทานทะลุมิติ

เพื่อนรักตัวยุ่ง 2552

เรื่องย่อ : เพื่อนรักตัวยุ่ง (2552/2009) เจ้าคุณ (เขตต์ ฐานทัพ) นักสัตวแพทย์หนุ่มสมองเฟื่อง ตอนเด็กเขามีความฝันอยากจะพูดคุยสื่อสารกับสัตว์ได้ ทันทีที่ศูนย์พิทักษ์สัตว์ ภูผา ติดต่อมาเพื่อให้เขาร่วมทีมวิจัยค้นคว้าทดลองเครื่องมือเพื่อสื่อสารกับสัตว์ เจ้าคุณก็ตอบรับทันที แต่การทดลองของเขาก็ผิดพลาด แทนที่เขาจะทำให้สัตว์พูดได้แต่กลับทำให้สัตว์กลายร่างเป็นมนุษย์ไปซะเอง และสัตว์เหล่านั้นจะคงสภาพเป็นมนุษย์อยู่เพียงแค่ 8 ชม. หลังจากนั้นก็จะกลับเป็นสัตว์ดังเดิม ภูผา (เวฟ สาริน บางยี่ขัน) เจ้าของศูนย์พิทักษ์สัตว์ตื่นเต้นมากไปแอบคุยกับ รัศมี (ณัฐกมล สอนเพ็ง) เพื่อนของเจ้าคุณที่ทำการทดลองร่วมกันมา ภูผาอยากเอาสัตว์พวกนี้ไปก่ออาชญากรรม โดยที่จะไม่มีใครจับมือดมได้ รัศมีเห็นด้วยแต่เกรงว่าเจ้าคุณจะค้าน ภูผาเลยคิดจะเก็บเจ้าคุณ แต่เจ้าคุณได้ยินเข้าก่อนเลยหอบเอางานวิจัยหนีไป แล้วเปิดคลินิกรักษาสัตว์ขนาดเล็กในชานเมืองบังหน้าเพื่อหลบซ่อนตัว ภูผาส่งคนตามหาแต่ก็ไม่พบ เขาต้องการงานวิจัยกลับคืนมา

เพื่อนซ่า เทวดาจิ๋ว 2552

เรื่องย่อ : เพื่อนซ่า เทวดาจิ๋ว (2552/2009) พัชระ (ทรงสิทธิ์ รุ่งนพคุณศรี) นักธุรกิจหนุ่มมีภรรยาชื่อ บุศรา(เจมี่ บูเฮอร์) เป็นครูสอนอยู่ในโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่ง มีลูกสาวชื่อ ไพลิน หรือ น้องพลอย (ด.ญ.ไพลิน จเรฤทธิ์ ) วัย 9 ขวบ พัชระทุ่มเทกับงานจนบางครั้งละเลยให้ความอบอุ่นทางบ้าน ทำให้เกิดปัญหา เพราะว่าบุศราไม่เข้าใจคิดว่าพัชระเจ้าชู้ และสนใจผู้หญิงคนใหม่ คอยระแวงและจับผิด ทำให้พัชระยุ่งยากใจ อยากจะมีคนใหม่ขึ้นมาจริงๆ โดยเฉพาะเมื่อ อุษา (รุ่งระวี บริจินดากุล) พนักงาน สาวสวยในบริษัทมาคอยเอาอกเอาใจ และเสนอตัวให้อยู่ตลอดเวลา แต่เมื่อคิดถึงความน่ารักของลูกสาว และความดีที่ผ่านมาของบุศรา พัชระก็ยับยั้งชั่งใจไว้ได้ โกเมน (ชาลี ไตรรัตน์) หลานชายของบุศรากำลังเรียนอยู่ใน ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย และมาพักอยู่ในครอบครัวนี้ จึงเป็นพี่ใหญ่ที่น้องพลอยภาคภูมิใจ แต่เมื่ออยู่นอกบ้านโดยเฉพาะที่โรงเรียนโกเมนกลับไม่ค่อยมีความมั่นใจเท่า ไหร่ ยิ่งเวลาที่เข้าใกล้เพื่อนสาวอย่าง เฟิร์น (วรรษมน แซ่ตั้ง) ที่ ตนเองรู้สึกปิ๊งตามประสาหนุ่มวัยรุ่นก็เกิดอาการเก้อเขินจนสั่นถึงขั้นไปไม่ เป็นหรือพูดอะไรไม่ถูก จนเป็นที่ขบขันของเพื่อนๆ และสาวๆ ยิ่งมีเด็กหนุ่มอย่าง มนู (ยังเติร์ก กัลป์) เป็นคู่แข่ง โกเมนก็ถึงกับเศร้าเพราะไม่มีอะไรเทียบกับมนูได้ พอได้ยินบุศราเล่านิทานเกี่ยวกับเทวดาให้กับน้องพลอยฟัง โกเมนก็หูผึ่งเมื่อได้ฟังเรื่องราวของเทพแห่งความรักคือ กามเทพ และแอบมาบนบานด้วยความหวังลมๆ แล้งๆ เพื่อขอให้กามเทพช่วยเหลือในด้านความรัก แต่บนสวรรค์ก็กำลังประสบกับปัญหา โดยเฉพาะองค์กามเทพที่ศรรัก ชักจะทำงานไม่ได้ผล ไม่ว่าจะยิงไปเท่าไหร่ผู้คนก็ไม่ค่อยจะสมานฉันท์หรือรักกันตามที่ต้องการ องค์กามเทพ (ประกาศิต โบสุวรรณ) จึงทรงดำริจะไปบำเพ็ญภาวนาเพื่อชาร์ตแบตหรือเสริมเทวฤทธิ์ และสั่งเสียชายา คือ อนงคเทวี ให้ดูแล อนเทวบุตร (ด.ช.ริชาร์ด เกียนี่) โอรสองค์น้อยที่กำลังอยู่ในวัยซุกซน และไร้เดียงสา แต่พอองค์กามเทพไม่ได้ประทับอยู่ในทิพยวิมาน อนเทวบุตรก็เริ่มแผลงฤทธิ์จนบรรดานางฟ้าที่เป็นพี่เลี้ยงปวดเศียรเวียนเกล้า ไปตามๆ กัน โดยเฉพาะ อัปสรา (นิธิตรา เชาว์พยัคฆ์) พี่ เลี้ยงประจำตัวที่ตามไม่ค่อยจะทัน และวันหนึ่งเมื่อเกิดพายุหมุนพัดขึ้นมาถึงแดนสวรรค์ อนเทวบุตรนึกสนุกออกมาเล่นพายุ เลยถูกแรงลมหมุนพัดวนจนปีกน้อยๆ ไม่อาจต้านทานไหว และลมหมุนพัดพาเอาเทพองค์น้อยหล่นตุ้บลงบนโลกมนุษย์ที่หน้าบ้านของพัชระ และหมดสติไป พัชระกับน้องพลอยมาเห็นเข้าจึงอุ้มเข้ามาในบ้าน และช่วยกันปฐมพยาบาลจนอนเทวบุตรรู้สึกตัวฟื้นขึ้นมาอย่างมึนงง แต่บุศรากลับเข้าใจผิดคิดว่าพัชระไปแอบไข่ทิ้งไว้ที่ไหน และแม่ของเด็กนำลูกมาคืนให้ แม้พัชระจะพยายามปฏิเสธอย่างไร บุศราก็ไม่ยอมเชื่อง่ายๆ และไม่ยอมให้เลี้ยงเอาไว้ยืนยันจะให้ส่งตำรวจอย่างเดียวเท่านั้น แต่พลอยอยากได้เป็นน้องชายเพราะรู้สึกรัก และเอ็นดูอนเทวบุตรที่มีหน้าตาน่ารัก โกเมน อาสาจะพาไปส่งที่โรงพัก อนเทวบุตรเห็นว่าตนเองเป็นผู้สร้างปัญหาจึงลุกเดินหนีออกมา พอลับสายตาทุกคนก็เลือนหายไปทันที (หมายเหตุ กามเทพมีอีกนามว่า อนงค์ แปลว่า ไม่มีตัวตน เพราะเคยถูกพระศิวะลืมเนตรที่สามมาโดนตัวจนถูกเผาไหม้หายไป แต่เนื่องจากเป็นอมตเทพจึงไม่ตายและโอรสของกามเทพจึงหายตัวหรือไม่มีตัวตน ได้เช่นกัน) แต่ตอนที่หายตัว ไข่มุก สาวใช้วัยรุ่นมาเห็นเข้าพอดีจึงร้องโวยวายว่าถูกผีหลอก แต่ไม่มีใครเชื่อบุศราเริ่มเป็นห่วง และสงสารเด็กน้อยกลัวจะเป็นอันตราย เพราะยังเล็กเกินไป ทุกคนจึงช่วยกันตามหาแต่ก็ไม่มีใครหาพบ ป้ามณี แม่ครัวของบ้านเล่าตามความคิดของตนเองว่าเด็กนั้นอาจจะเป็นกุมารทองหรือ ลูกกรอกก็ได้ บุศราคอยปรามไว้เพราะเกรงว่าพลอยจะตกใจกลัวผี และสอนลูกว่าไม่มีผีในโลกนี้ทุกคนเข้านอนด้วยความคิดต่างๆ กัน พลอยตื่นขึ้นมาอย่างแปลกใจ เมื่อเห็นอนเทวบุตรหรือเด็กชายน่ารักตัวเล็กๆ มานอนอยู่ข้างๆ เนื่องจากตนเองเป็นเด็กที่ถูกปลูกฝังให้มีความกล้าหาญจึงไม่กลัว และไม่คิดว่าเป็นผี นอกจากนี้ อนเทวบุตรยังยืนยันว่าตนเองเป็นเทวดาที่ตกลงมาจากสวรรค์ และพยายามพิสูจน์ให้พลอยเชื่อถือด้วยเทวฤทธิ์เท่าที่ตนเองมี เมื่อพลอยเชื่อเทวดาองค์น้อยก็ขออยู่ด้วยพอเห็นพลอยลังเลใจเพราะกลัวพ่อกับ แม่มีปัญหากันอีก ก็สัญญาว่าจะไม่ให้ใครเห็นตัว พลอยขอให้เปลี่ยนชื่อใหม่เพราะอนเทวบุตรเป็นชื่อที่เรียกยากเกินไป จึงเรียกชื่อใหม่ว่า น้องอ้น ทุกคนในบ้านรู้สึกแปลกใจที่พลอยมีพฤติกรรมแปลกๆ ไป เช่น ชอบพูดหรือเล่นกับสิ่งที่ไม่มีตัวตนหรือมีใครเห็น ไข่มุกกับป้ามณีก็เจอกับเหตุการณ์ประหลาด เช่น เห็นข้าวของเครื่องใช้เคลื่อนที่ หรือลอยได้ ก็เลยยิ่งปักใจว่าบ้านนี้ต้องมีผีกุมารทองแน่ แต่ทุกคนก็เริ่มรู้สึกดีกับผีตนนี้ เมื่อมีขโมยขึ้นบ้าน และหัวขโมยถูก น้องอ้น ที่ทุกคนเข้าใจว่าเป็นผีจัดการเล่นงานจนจับตัวได้ในที่สุด น้องอ้นตามพลอยไปที่โรงเรียน และคอยช่วยเหลือเมื่อพลอยถูก เหมียว และเพื่อนที่มีนิสัยแย่ๆ มารุมรังแก ทุกคนจึงถูกน้องอ้นเล่นงาน และพยายามดัดนิสัยจนเด็กๆ กลับตัวกลับใจ และกลายเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน พลอยสังเกตเห็นโกเมน ไม่ค่อยมีความสุขเท่าไหร่ จึงพยายามซักถามจนรู้ถึงปัญหาหัวใจ และนำมาเล่าให้น้องอ้นฟัง น้องอ้นขอตามโกเมนไปที่โรงเรียนจนกระทั่งเห็นโกเมนแอบชอบเฟิร์นอยู่ แต่ก็ไม่มีความมั่นใจแม้เฟิร์นจะไม่ได้มีท่าทีรังเกียจเท่าไหร่ แต่เป็นโกเมนที่ไม่กล้าเอง และยังมีมนูเป็นก้างชิ้นใหญ่ น้องอ้นมาเล่าให้พลอยฟัง และบอกว่าสามารถช่วยได้เพราะตนเองเป็นโอรสหรือลูกชายของกามเทพที่เป็นเทพ แห่งความรัก น้องอ้นหรืออนเทวบุตรจึงคิดจะยิงศรรักอย่างคิวปิด แต่กว่าจะหาศรที่ทำด้วยต้นอ้อย สายธนูจากตัวผึ้ง และลูกศรที่เป็นดอกกุหลาบแดง ก็ชุลมุนวุ่นวายอยู่พักใหญ่ และเมื่อได้มาก็ยังเกิดปัญหาเพราะน้องอ้นยิงศรรักไม่ค่อยแม่นเท่าไหร่ กลายเป็นผิดฝาผิดตัวไป เพราะศรรักไปโดนมนูแทนทำให้มนูมาชอบโกเมนโดยไม่ได้ตั้งใจ กว่าจะแก้ไขให้เฟิร์นกับโกเมนเกิดความรู้สึกดีๆ ต่อกันได้ก็วุ่นวายไม่น้อย นอกจากนี้พลอยยังขอให้น้องอ้นตามไปช่วยเหลือพัชระ พ่อของเธอที่กำลังมีปัญหาที่ทำงานจัดการกับอุษาที่จุ้นจ้านวุ่นวาย และปรับความเข้าใจระหว่างแม่กับพ่อ แต่กว่าจะสำเร็จได้กลับยิ่งยุ่งเหยิงอยู่พักใหญ่ด้วยฝีมือของเทพบุตรจิ๋วมือ ใหม่ ทุกคนสงสัยว่าพลอยต้องมีความลับที่ปิดบังไว้ จึงพยายามหาทางจับผิดแต่ก็ไม่เป็นผล จนพลอยยอมเล่าให้ฟังว่ามีเทวดาตัวน้อยมาอยู่กับตัวเอง และคอยจัดการแก้ไขปัญหาของทุกคนให้ผ่านไปด้วยดี ทีแรกไม่มีใครเชื่อคิดว่าพลอยพูดเพ้อเจ้อเหลวไหลหรือมีปัญหาด้านจิตใจ เฟิร์นอาสามาคอยดูแล และช่วยปลอบให้ จนน้องอ้นปรากฏตัวขึ้น เฟิร์นตกใจคิดว่าน้องอ้นเป็นผี น้องอ้นเกรงว่าเฟิร์นจะรังเกียจหรือตีตัวออกห่างโกเมนจึงพยายามพิสูจน์ให้ เฟิร์น และทุกคนเชื่อว่าตนเองเป็นเทวดาจริงๆ จนได้ ทุกคนตื่นเต้นดีใจที่มีเทวดามาอยู่ในบ้าน มนูเห็นเฟิร์นชอบมาขลุกอยู่กับโกเมนก็ไม่พอใจตามมาแอบดู และคิดว่าเฟิร์นถูกไสยศาสตร์ จึงขอให้พ่อกับแม่ช่วย พิชิต กับ วดี ที่อยู่บ้านชิดติดกัน และสงสัยมานานจึงติดต่อหาหมอผีมาปราบ น้องอ้นเกือบจะพลาดท่าเพราะเป็นเทวดาที่ยังขาดประสบการณ์ แต่ด้วยบุญบารมีที่เหนือกว่าภูตผีปีศาจใดๆ จึงจัดการกำหราบหมอผีให้พ่ายแพ้ไปจนได้ บุศราสงสัยว่าเฟิร์นชอบโกเมนเพราะศรรักของน้องอ้นมากกว่าชอบด้วยความจริงใจ จึงขอให้น้องอ้นลองถอนศรรักออก แต่เฟิร์นก็ยังรู้สึกดีๆ ต่อโกเมนอยู่ และทั้งคู่สัญญาว่าจะมุ่งมั่นเรียนไปพร้อมๆ กัน แม้ว่าน้องอ้นจะมีความสุขที่ได้อยู่กับพลอย และครอบครัวของพัชระโดยไม่ต้องปิดบังระวังตัวอีกต่อไป แต่เมื่อเวลาผ่านไปก็อดคิดถึงบ้านของตัวเองหรือแดนสวรรค์ไม่ได้ และยังคิดถึงองค์กามเทพ และอนงคเทวีที่เป็นพระบิดาพระมารดา ยิ่งเวลาที่เห็นพัชระกับบุศราแสดงความรักที่มีต่อลูกคือน้องพลอยน้องอ้นหรือ อนเทวบุตรก็ยิ่งคิดถึงพ่อแม่ของตนอย่างจับใจจนทุกคนเริ่มรู้สึกได้ แต่ก็ไม่รู้จะหาทางช่วยอย่างไร เมื่อองค์กามเทพกลับมาก็ตกใจเมื่อรู้ว่าโอรสสูญหาย อนงคเทวีกำลังเศร้าเสียใจจึงพยายามติดตามค้นหาเป็นการใหญ่ จนในที่สุดก็รู้ว่าอนเทวบุตรอยู่ที่ไหนจึงเดินทางมาหาเพื่อขอรับโอรสกลับไป แม้ทุกคนจะไม่อยากให้น้องอ้นจากไป แต่ก็รู้ดีว่าอนเทวบุตรควรจะได้กลับบ้านคือทิพยวิมานแดนสวรรค์ อนเทวบุตรจึงจำต้องจากลาทุกคนด้วยความอาลัย และสัญญาว่าเมื่อถึงเวลาที่พลอยเติบโตขึ้น และจะต้องรักกับใครสักคน น้องอ้นจะกลับมาหาพลอยอีกหนเพื่อทำหน้าที่ยิงศรรักปักใจพลอยด้วยตนเอง

วังน้ำค้าง 2552

เรื่องย่อ : วังน้ำค้าง (2552/2009) “วังน้ำค้าง สวรรค์ริมทะ​เลที่มี​แต่​ความสงบสุข ต้องกลาย​เป็นอ​เวจีที่​เร่าร้อน ​เมื่อบันลือประมุขของวังต้อนรับลำ​เพาสาวสวย​แสนอาภัพ​เข้ามา​ในหัว​ใจ ​ทำ​ให้​ไฟริษยาลุก​โชนขึ้น​ใน​ใจระรินญาติสาว​ผู้มอบหัว​ใจ​ให้​เขามาตลอด ​และ​ความ​แค้นนั้น​ก็ตกทอดมา​ถึง รัตติกาลลูกติดท้องของลำ​เพา​ซึ่งต่อมา​ก็​ได้ครอบครองหัว​ใจของธนนท์ ชายหนุ่มทายาทคน​เดียวของบันลือที่​ทำ​ให้ระริน​เกิด​ความรักครั้ง​ใหม่ ระริน​ซึ่งกำลังจะสูญ​เสียทุกอย่าง จะ​ทำอย่าง​ไร ​เพลิง​แค้นของ​เธอจะ​แผด​เผา​ให้วังน้ำค้างกลาย​เป็นจุน​หรือ​ไม่……” ลำ​เพา สาวชนบท​แสนสวยรักกับ ​เดียว พลทหารยากจน ​แม่บังคับลำ​เพา​แต่งงานกับ​เศรษฐี​ซึ่ง​เป็นนัก​เลง ​เดียวกลับมาจากรบ​เขาขาพิ​การต้อง​ใช้​ไม้ค้ำ ลำ​เพา​และ​เดียว​ได้​เสียกันวันที่​เดียวกลับมา ​โดย​เดียว​ไม่รู้ว่ารุ่งขึ้นลำ​เพาต้อง​แต่งงาน ลำ​เพาหนี​การ​แต่งงาน ​แต่ถูกกลุ่ม​เศรษฐีตามล่า ​เดียวยิงตาย​ทั้งหมด​เขา​โดนจับ ​โดนตัดสินจำคุกยี่สิบปี ลำ​เพาหนีออกจากบ้าน ระหว่างลำ​เพา​เดินทางทอดอาลัย​ไม่รู้จะ​ไป​ไหน บันลือ มหา​เศรษฐี​เจ้าของ​เกาะวังน้ำค้างขับรถผ่านมา บันลือชอบ​เธอทันที​เมื่อ​แรก​เห็น ​เมื่อรู้ว่าลำ​เพา​ไม่มีที่​ไป บันลือพาลำ​เพา​ไปอยู่ด้วยที่คฤหาสน์ของ​เขาที่ริมทะ​เล ​เขาอยู่กับญาติสาวชื่อระริน ​และชายรับ​ใช้​ผู้ซื่อสัตย์ ชื่อพร ​แม้จะ​เป็นสาวสวย​แต่ระรินยังคงครอง​โสด ​เพราะตั้ง​แต่ที่​เธอต้องมาอาศัยอยู่กับครอบครัวของบันลือ หลังจากพ่อ​แม่​เสียชีวิตด้วยอุบัติ​เหตุ ระริน​ก็​แอบหลงรักบันลือตั้ง​แต่​เด็ก ​แต่​ไม่กล้า​แสดงออก จนกระทั่งบันลือ​แต่งงาน ​และภรรยา​เสียชีวิตลง ทิ้ง​เพียงลูกชาย​ไว้1คน ​ซึ่งบันลือ​ก็ส่ง​ไป​เรียนที่กรุง​เทพฯ ​เมื่อ​เรียนจบมัธยม​ก็ส่งต่อ​ไป​เรียนที่ต่างประ​เทศ ระริน​จึง​ได้อยู่กับบันลือ​ในคฤหาสน์อย่างมี​ความสุขมาตลอด จนกระทั่ง บันลือรับลำ​เพามาอยู่ด้วย ​และ​ให้​ความสนิทสนม​เป็นพิ​เศษ ระริน​จึงริษยาลำ​เพามาก ลับหลังบันลือ ลำ​เพาถูกระรินกระ​ทำต่างๆ นานา ​แต่​เธอ​ก็อดทน​เพราะรู้ตัวว่ากำลังตั้งท้องอ่อนๆ ​ไม่สามารถระ​เห​เร่ร่อน​ไปอยู่ที่อื่น​ได้ ยิ่งนานวัน บันลือ​ก็ยิ่ง​เอ็นดูลำ​เพามากขึ้นจนกลาย​เป็น​ความรัก บันลือขอลำ​เพา​แต่งงาน​และขอรับ​เป็นพ่อของ​เด็ก​เอง ระริน​แค้น​ใจมาก วันหนึ่ง​เมื่อ หนู​แดง ลูกสาวของลำ​เพาอายุยัง​ไม่ครบขวบ ​และ​เป็นวันที่ปลอดคน บันลือ​ไม่อยู่บ้าน นายพรพาหนู​แดง​ไปตัดดอก​ไม้ที่สวนวังน้ำค้างระรินหลอกลำ​เพา​ไปธุระด้วยกัน ที่​เกาะ ​เมื่อ​ถึงกลางทะ​เล ระรินตีลำ​เพาจนตกน้ำ ลำ​เพาว่ายน้ำ​ไม่​เป็น​เธอจมทะ​เลตาย บันลือรู้​เรื่องลำ​เพาประสบอุบัติ​เหตุจมน้ำตาย บันลือรับ​เลี้ยงหนู​แดง​เป็นลูก ​เขาตั้งชื่อหนู​แดงว่ารัตติกาล ​เกือบยี่สิบปีผ่าน​ไป รัตติกาล​โต​เป็นสาวสวย บันลือรักมาก ตรงข้ามกับระรินที่ยังปัก​ใจว่า รัตติกาลมา​แย่ง​ความรักของบันลือ​ไป รัตติกาล​เรียกนายพรที่​เลี้ยง​เธอมาตลอดตั้ง​แต่​เด็กว่าตา บันลือขอร้องระริน​และตาพร​ให้ปกปิดว่า​เขา​ไม่​ใช่พ่อ​แท้ๆ ของ​เธอ​และ​ให้ปกปิดว่าพ่อ​แท้ๆ ของ​เธอ​เป็น​ใคร ​แต่วันที่บันลือ​เข้ากรุง​เทพ​เพื่อ​ไปรับ ธนนท์ ลูกชาย​ซึ่งกลับจากอ​เมริกา ระรินรุกรานรัตติกาล ​และ​เมื่อรัตติกาล​เถียงระริน​โกรธจัด ตบหน้ารัตติกาล​และ​เผย​ความจริงว่า รัตติกาล​ไม่​ใช่ลูกบันลือ​แต่​เป็นลูก​ไอ้ขี้คุก​ผู้ร้ายฆ่าคนตาย รัตติกาล​เสีย​ใจมากวิ่งหนี​เตลิดออกจากบ้าน ​เธอวิ่ง​ไป​เจอ สีมา สาวลูกชาวประมงยากจน สีมา​ทำตัว​เป็นทอม รัตติกาลบอกว่า​เธอจะ​ไปตาย สีมากระชาก​ไว้​ไม่​ให้​ไป ชวนรัตติกาล​ไปอยู่ด้วย บันลือกลับมา ระรินบอกว่ารัตติกาลหนีออกจากบ้าน คงหนีตาม​ผู้ชาย บันลือออกตามทุกวันจน​เจอรัตติกาล ช่วยสีมา​ทำประมง บันลือขอร้อง​ให้รัตติกาลกลับบ้าน สีมาขอตาม​ไปอยู่ด้วย ระริน​แสดง​ความพึงพอ​ใจ​ในธนนท์ ​แบบหญิงชอบชาย ​เพราะธนนท์คล้ายบันลือตอนหนุ่มๆมาก ​เธอหา​โอกาส​เคลมธนนท์ ​แต่ตาพรมาขัดจังหวะทุกครั้ง ธนนท์​เอง​ก็รู้ตัว ​เขา​เลี่ยงอย่างสุภาพกับระริน ธนนท์รักรัตติกาลทันทีที่​เห็น รัตติกาล​ก็​เช่น​เดียวกัน บันลือสนับสนุนอย่าง​ไม่ออกหน้าออกตา​เกิน​ไป ​แต่ระรินหึงหวงริษา ระรินมอม​เหล้าธนนท์ จะปล้ำ​เขา ​แต่ตาพรมาขัด​ไว้​ได้อีก ระริน​โกรธมาก ต่อมาระรินจะฆ่ารัตติกาลขณะนอนหลับ ตาพรมาช่วยทัน ​แก​ไม่​ได้​ทำอะ​ไรระริน ​แค่ยืนมอง​เฉยๆ ​แต่ตาพร​ไม่​เคยพูดกับ​ใคร​เรื่องระรินที่จะ​เคลมธนนท์ ​และจะฆ่ารัตติกาล ระรินยัง​แค้นรัตติกาลที่จะ​ได้ทุกอย่าง​ไปจากวังน้ำค้าง​เพราะรัตติกาลจะ​ เป็นคู่ครองของธนนท์​แน่นอน ระรินลวงรัตติกาลจะ​ไปฆ่ากลางทะ​เล​เหมือนที่​เคยฆ่าลำ​เพามา​แล้ว ​โดยหลอกว่าธนนท์ประสบอุบัติ​เหตุ ​เมื่อ​เรือมา​ถึงที่ที่ลำ​เพา​เคยจมน้ำตาย ระริน​เตรียมฆ่ารัตติกาล​โดยรัตติกาล​ไม่รู้​เลยว่า​เธอกำลังจะถูกฆ่า ​แต่​แล้วระริน​เห็นผีลำ​เพา​โผล่ขึ้นมาจาก​ใต้ทะ​เลมายืนบนผิวน้ำ ​และ​เดินมาหา​เธอ​ใน​เรือ​โดย​ไม่พูดจาอะ​ไร​เลย ​แต่ลำ​เพาจ้องจะ​เอา​เรื่อง ลำ​เพายังสวย​เหมือน​เมื่อครั้ง​เธอยังมีชีวิตอยู่ ระรินกลัวลำ​เพาจน​เป็นลม รัตติกาล​ไม่รู้​เรื่อง ​เมื่อระริน​เป็นลม ​เธอพา​เรือกลับ​เข้าฝั่ง ระหว่างยัง​ไม่ฟื้นระริน​เห็นลำ​เพามารับ​เธอ​ไปด้วยกัน ระริน​ไปด้วยอย่าง​เต็ม​ใจ ​แต่​เมื่อลำ​เพา​ให้​เธอลง​เรือระรินหวีดร้อง​ไม่​ไปด้วย ​เธอตื่นขึ้นมา​เห็นธนนท์กับรัตติกาลนั่ง​เฝ้าอยู่อย่างห่วง​ใย ระรินกอดธนนท์ราวกอดขอ​ความช่วย​เหลือจากชายคนรัก ​เดียวพ้น​โทษ ​ไปหา​แม่ของลำ​เพาที่บ้าน ​แม่ของลำ​เพาสำนึก​ใน​ความผิดที่​ทำ ​แก​เอาจดหมายของลำ​เพา​ให้​เดียวอ่าน ​เดียวรู้ว่าลำ​เพามีลูกสาวกับ​เขา ​และลำ​เพา​ไปอยู่ที่วังน้ำค้างกับชายที่ชื่อบันลือ​เดียว​ไปที่​เกาะวังน้ำ ค้าง พบรัตติกาล รัตติกาลรู้สึกว่าถูกชะตากับชายคนนี้ตั้ง​แต่​แรก​เห็น ​เธอบอกว่าพ่อของ​เธอ​เป็นชายขี้คุกชื่อ​เดียว ​แม่ของ​เธอชื่อลำ​เพา ​แต่​แม่ตาย​ไปตั้ง​แต่​เธออายุยัง​ไม่ครบขวบ​เดียวช็อกที่ลำ​เพาตาย จากนั้น​เดียวมา​แอบดูรัตติกาลทุกวัน ​ไม่คิดจะ​เปิด​เผยว่าตัว​เอง​เป็นพ่อ​เพราะขณะนี้ลูกสาวมีชีวิตที่สูงส่ง กว่า​เขามาก รัตติกาล​ให้ดอกกุหลาบ​แดงของวังน้ำค้าง​แก่ชายพิ​การลึกลับทุกวัน จนวันหนึ่งระริน​เห็น ​และตอกหน้า รัตติกาลต่อหน้าธนนท์ว่า​แอบลักลอบพบชาย​ไม่มีหัวนอนปลาย​เท้าฉันชู้สาว รัตติกาล​แก้ตัว​ไม่​ได้ ​แต่บันลือ​ไม่​เชื่อว่ารัตติกาลจะ​เป็นดังที่ระรินกล่าวหา ระริน​ให้ตาพร​เป็นพยาน ตาพรบอกว่า​ไม่​เคย​เห็นรัตติกาลคุยกับชาย​แปลกหน้าที่​ไหน​เลย ระริน​โกรธที่ตาพร​โกหก​เข้าข้างรัตติกาล​ทั้งๆ ที่ตาพร​ก็อยู่กับรัตติกาลตอนรัตติกาลพบกับ​เดียว รัตติกาลกับธนนท์ร่วมมือกันจับสีมาลอกคราบ​ความ​เป็นทอม​ให้กลับ​เป็นหญิง ​เพราะ​เห็น​แล้วว่าจริงๆ สีมา​เป็นสาวที่สวยมาก ​และพ่อบันลือ​ก็อ้างว้างว้า​เหว่มานาน ควรจะมีคู่​ใจ​เสียที สีมา​แต่งกาย​เป็นสาว​แล้วสวยจริงๆ บันลือถูก​ใจมาก ระรินยังอาฆาตที่จะฆ่ารัตติกาลตลอด วันหนึ่งสบ​โอกาสที่สีมา​เอา​เครื่องดื่ม​ไป​ให้คุณๆ ​แต่ละคน​ในบ้าน ระริน​แอบ​ใส่ยาพิษ​ในนมสดของรัตติกาล ​แต่บันลือ​เกิดอยากดื่มนมสด ​เขา​เอาของรัตติกาล​ไปดื่มก่อน ​ให้สีมา​ไป​ทำ​ให้รัตติกาล​ใหม่ ระรินยินดี​เมื่อ​ได้ยิน​เสียงสีมาหวีดร้อง ​แต่​แล้วกลับตก​ใจ​เมื่อคนดื่มนมผสมยาพิษคือบันลือ หมอล้างท้องช่วยบันลือทัน ​เมื่อบันลือกลับบ้าน​ได้ ​เขาพูดกับระริน ​เขารู้ว่าระรินตั้ง​ใจจะฆ่ารัตติกาลรู้ว่าระรินหลงรักธนนท์ฉันชู้สาว ​แต่​เมื่อระริน​เป็นญาติ​เขา ​เขา​จึง​ไม่​ทำรุน​แรง​ถึงกับจะส่ง​เธอ​ให้ตำรวจ ​แต่​เขาจะตัดปัญหา​ให้ธนนท์​แต่งงานกับรัตติกาล ทุกอย่างจะ​ได้จบลง​เสียที วัน​แต่งงานของธนนท์กับรัตติกาล ​เดียวมา​แอบดู​ความรุ่ง​เรือง​ในชีวิตลูก ระริน​เห็น​แฉกลางงาน​แต่งว่า​เดียว​เป็นชายชู้ของรัตติกาล ​เดียว​เข้ามา​ในงาน บอกว่า​เขาคือชายที่มา​แอบดูรัตติกาลตลอด​เพราะ​เขารักรัตติกาล ​แต่​ไม่​ใช่ฉันชู้สาว ​เพราะ​เขาคือพ่อของรัตติกาล ทุกคนตะลึง​ไปหมด รัตติกาลดี​ใจที่​ได้พบพ่อที่​แท้จริงที่​เธอ​เฝ้าตามหามาตลอด ​เดียว​แฉอีกว่า​เขารู้จากชาวประมงว่าลำ​เพา​ไม่​ได้จมน้ำตาย​เอง ​แต่ระรินฆ่าลำ​เพา ระรินช็อค​ไม่ยอมรับ ​เธอวิ่ง​ไป​ในตึก ค้น​ได้ปืนพก ​แต่ก่อนที่จะกลับออก​ไป ระริน​เห็นภาพวาดของลำ​เพากลาย​เป็นลำ​เพาจริงๆ ​เดินออกมาจากภาพวาด มาชวนระริน​ไปด้วยกัน ระริน​ไม่ยอม​ไปด้วย จะยิงลำ​เพา ตาพร​เข้ามา​ในตึกระรินมอง​เห็นตาพร​เป็นลำ​เพา ยิงตาพรตาย ​แล้วระรินวิ่ง​เตลิดออกนอกตึก ​เธอกำลัง​เสียสติ ระรินวิ่ง​ไปท่าน้ำ ​เจอลำ​เพารออยู่ ลำ​เพาบอก​ให้​ไปด้วยกัน ​ไป​ในที่ที่จะ​ไม่มี​ใครตามระริน​เจอ ระรินดี​ใจว่าจะหนีพ้นที่ฆ่าตาพร ลง​เรือ​ไป ​ไป​ถึงทะ​เลจุดที่ระริน​เคยฆ่าลำ​เพา ระริน​เห็นลำ​เพาลุกลง​ไป​เดินบนผิวน้ำทะ​เล ระรินตก​ใจ ลำ​เพา​เรียกระรินลง​ไป ระรินนึก​ได้ว่าลำ​เพาตาย​แล้วระรินกลัวมาก จะหนี ​ในที่สุดระรินตกทะ​เล จมน้ำ ธนนท์ขับ​เรือพาบันลือมา​ถึง​เรือระรินที่ลอยอยู่ ​แต่หาระริน​ไม่​เจอ​แล้ว บันลือรู้ว่าระรินชด​ใช้กรรมที่ก่อ​ไว้​แล้ว บันลือ​เ​ก็บปืนที่ตกอยู่​ใน​เรือ​ไป ทุกคน​ในงาน​แต่งงานนึก​ถึง​เดียวขึ้นมา​ได้ ​แต่​เดียวหาย​ไป​แล้ว มี​แต่กระดาษพับวางอยู่​ใต้กุหลาบ​แดงดอกหนึ่ง ​เป็นจดหมายที่​เดียว​เขียนฝากฝังรัตติกาล​ให้กลับคืน​เป็นลูกสาวของบันลือ ​และสำนึก​ในบุญคุณของบันลือ ตัว​เขา​เองขอ​เพียงที่น้อยนิดบน​เกาะวังน้ำ-ค้าง​ให้​เขา​ได้อาศัยชมบุญ รัตติกาลทุกวัน รัตติกาลกับธนนท์สังหรณ์ รีบ​ไปที่​เกาะวังน้ำค้าง ร่าง​เดียวนอนคว่ำหน้า​เสียชีวิตอยู่​ในน้ำทะ​เล ​เขากระ​โดดหน้าผาลงมา

รหัสโลกันตร์ 2552

เรื่องย่อ : รหัสโลกันตร์ (2552/2009) รหัสโลกันตร์ เล่าถึง แดน โปรแกรมเมอร์หนุ่ม, ไอริณ ศัลยแพทย์สาว,แนท ลูกสาวของ เสี่ยกำจรเจ้าพ่อผู้ทรงอิทธิพลและเป็นคู่หมั้นของแดนซึ่งจะคอยกลั่นแกล้งไอ ริณไม่ให้เข้าใกล้แดนและอัศนัยอดีตนายทหารเรือหนุ่มที่ถูกแก๊งอินทรีใส่ความ จนถูกจับเข้าคุกทั้ง 4 จึงต้องสืบหาข้อมูลของแก๊งอินทรีไปสักพักจะทำให้ทั้ง 4 ได้รู้ความจริงว่าแท้ที่จริงแล้วเดวิลก็คือหมอพิสุทธ์นั่นเองและนอกจากนี้ หมอ พิสุทธ์หรือเดวิลยังได้สร้างกองทัพนักรบปีศาจขึ้นมาเพื่อจัดการกับทุกคนที่ มาเกี่ยวข้องกับแก๊งอินทรีโดยมี เทพี และ เคออส ซึ่งก็คือหมอมาร์ค หรือหมอมาคีหมอในศูนย์การแพทย์นั่นเองแต่เนื่องจากเขาได้เห็นหน้าที่แท้จริง ของเดวิลจึงต้องเป็นสมุนของเดวิลและเดวิลยังมีหัวหน้านักรบปีศาจที่แข็ง แกร่งซึ่งแท้ที่จริงแล้วเขาก็คือ จิว เพื่อนและลูกน้องของแดนนั่นเองในที่สุดเดวิลก็ถูกจัดการแต่แล้วเรื่องราวก็ ยังไม่จบ เมื่อมีสมาชิกแก๊งอินทรีจากต่างประเทศอีก 2 คนคือ แอนนา และ มาเรีย ได้เดินทางมายังประเทศไทยเพื่อช่วยฟื้นคืนชีพเดวิลหรือหมอพิสุทธิ์ขึ้นมาอีก ครั้งจึงทำให้ทั้ง 4 ต้องกลับมาจัดการกับแก๊งอินทรีให้สิ้นซาก

ดอกบัวขาว 2552

เรื่องย่อ : ดอกบัวขาว (2552/2009) ตำนาน การกำเนิดดอกบัวขาว มาจากเศรษฐีนีสาว ผู้มีจิตใจงดงาม เธอเสียสละทรัพย์สินทุกอย่างให้แก่ผู้ยากไร้ จนเธออดอาหารเสียชีวิตอยู่ริมบึงน้ำ ร่างกายของเธอกลายเป็นดอกบัวขาวสวย พิสุทธิ์ที่ใช้บูชาพระ เช่นเดียวกับอรนุชหญิงสาวสวยผู้มีจิตใจสะอาดบริสุทธิ์ราวดอกบัวขาว เธอเสียสละทุกอย่างให้กับพี่น้องร่วมบิดา แม้แต่หัวใจรักของตัวเอง แต่ความเสียสละของเธอดูเหมือนจะจบสิ้นต่อเมื่อชีวิตของเธอจบลงเท่านั้น ประมุขของบ้านเทพทัตคือร้อยโทอภิชาต เทพทัต (เก่ง-ชาติชาย งามสรรพ์)มีคู่หมั้นที่พ่อแม่หาให้คือ สุชาดา (วรรณษา ทองวิเศษ) ในวัยหนุ่มอภิชาตจีบชบา (นิกัลยา ดุลยา) สาวใช้ แข่งกับนายเสริฐคนสวนของบ้าน แต่อภิชาตใช้กำลังจนได้ชบาเป็นเมียก่อนวันแต่งงานวันเดียว นางรำเพย (ทัศน์วรรณ เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา)แม่ ของชบาซึ่งเป็นแม่ครัวของบ้านเมื่อรู้ข่าวก็ด่าว่าและจะจับชบาแต่งงานกับนาย เสริฐ แต่ชบาตั้งท้องซะก่อน เมื่อสุชาดารู้ก็มาอาละวาดด่าว่าชบาแต่สุชาดาก็ตั้งท้องเหมือนกัน ลูกสาวของสุชาดาเกิดก่อนชื่อกุลธิดา(น้อย) (ณิชานันท์ ฝั้นแก้ว) ลูกสาวของชบาชื่อ อรนุช(นุช) (ปู-ไปรยา สวนดอกไม้) อภิชาต ลอบเข้าหาชบาอีกจนชบาตั้งท้องลูกสาวคนที่สอง สุชาดาอาละวาดและยื่นคำขาดให้ลูกของชบาอยู่ในฐานะคนใช้เท่านั้น อภิชาตตกลง และเมื่อชบาคลอดลูกคนที่สอง ก็ล้มป่วยด้วยโรคร้ายจนเสียชีวิต ก่อนตายชบาสั่งเสียให้นุชรักพี่รักน้องและเสียสละโดยเฉพาะกับน้อยพี่สาวต่าง แม่ เพื่อไถ่บาปในการเป็นเมียน้อยของแม่ด้วย โดยมีนางรำเพย คอยเลี้ยงดู ทั้งนุชและแก้วอย่างเข้มงวด ให้เจียมตัวและอย่าเผยอขึ้นเทียมคุณนายเรือนใหญ่ น้อยมักแอบมาเล่นกับนุชและแก้ว (นัยนา ปามี) เสมอ แม้สุชาดาจะคอยห้าม น้อยมีนิสัยค่อนข้างเอาใจตัวเอง และถืออำนาจว่าเป็นพี่ ส่วนนุชนั้น เป็นเด็กรักดี จิตใจงาม แก้วดื้อรั้น ขี้อ้อนประสาน้องคนเล็กที่มีนุชคอยปกป้อง นุชจึงต้องรองรับอารมณ์ทั้งจากพี่และน้องด้วยความอดทน ไม่ว่าความผิดใดใดที่เกิดขึ้น คนที่ถูก ทำโทษจะเป็นนุชเสมอ ถ้าไม่เป็นสุชาดาก็เป็นยายรำเพย ซึ่งนุชก็ไม่เคยปริปาก โชคดีที่มีรังสี (เชน-ณัฐวัฒน์ เปล่งศิริวัธน์) ลูก ชายนายเสริฐคนสวนของบ้าน เป็นเพื่อนที่นุชสนิทสนมและปรับทุกข์ทุกอย่างด้วยได้(หลังจากอกหักจากชบา นายเสริฐแต่งงานไปกับสาวใช้อีกคนและเลิกรากันหลังรังสีเกิดไม่นาน) ครอบครัวศราชัย ครอบครัวนักธุรกิจใหญ่ ฐานะร่ำรวยมั่นคง ซึ่งสามีภรรยาเจ้าของบ้านคือ นายไพศาล (โดย ทนงศักดิ์ ศุภการ) และนางวารี (กชกร นิมากรณ์) ได้พาลูกชายพนา (นิว-วงศกร ปรมัตถากร) และศวัส (พูลภัทร อัตถปัญญาพล) มา ทำความรู้จักกับครอบครัวเทพทัตเนื่องจากได้ย้ายครอบครัวมาอยู่บ้านติดกัน เด็กทั้งห้าเป็นเพื่อนเล่นกัน แต่นุชมักปลีกตัวออกมาเล่นกับรังสีมากกว่า ทำให้พนาหมั่นไส้ ค่อนขอดตลอด นุชไม่ชอบหน้าเขาที่สุด วันหนึ่งรังสีทำให้น้อยบาดเจ็บ อภิชาตเลยไล่เสริฐและรังสีออกจากบ้าน พ่อลูกตัดสินใจกลับบ้านนอก เมื่อรังสีต้องจากไปทำนาบ้านนอก ทั้งสองสัญญากันว่าจะเขียนจดหมายติดต่อกัน โดยใช้ดอกบัวขาวเป็นสัญลักษณ์แทนตัวนุช สิบปีต่อมาหนุ่มสาวทั้งห้า เติบโต เป็นสาวสวย และหนุ่มรูปงาม ทั้งหมดยกเว้นแก้วที่อยู่ ม.5 สอบติดมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ทั้งหมด น้อยติดคณะอักษรศาสตร์ พนากับนุชสอบติดคณะวิทยาศาสตร์ และศวัสสอบติดวิศวะ ส่วนรังสีก็สอบติดคณะประมงด้วย สำหรับพนานั้นตั้งใจมาเรียนคณะเดียวกับนุชเพื่อจะได้ใกล้ชิดกัน นุชระอาที่พนาแกล้งเอาเปรียบในการเรียน แต่เมื่อถึงคราวคับขันพนาก็แก้ปัญหาทุกอย่างได้ดีจนนุชทึ่ง เมื่อพนานัดนุชจะไปเที่ยว นุชมักปฎิเสธแต่กลับใช้เวลาส่วนใหญ่ติวหนังสือให้กับรังสี เพราะเขาต้องทำงานพิเศษส่งเสียตัวเองเรียน ทำให้พนาโกรธและหมั่นไส้มาก พนาเริ่มรักนุชแต่ไม่รู้ใจตัวเองแสดงออกด้วยการด่าว่ากระแหนะกระแหน ทำให้นุชเกลียดขี้หน้าพนาที่สุด ศวัสน้องชายพนาแอบชอบนุชเหมือนกัน แต่ด้วยความที่ศวัสเงียบขรึม พูดน้อย จึงได้แต่มองดูนุชและคอยช่วยเหลืออยู่ห่างๆ ที่สำคัญศวัสรู้ว่าพี่ชายชอบนุชแม้จะควงน้อยเป็นแฟนอย่างเปิดเผยก็ตาม ส่วนรังสีผู้เจียมตัวและอดทนได้แต่แอบรักแอบบูชาเพราะเจียมตัวว่าจนไม่คู่ ควรกับนุช เขาต้องออกจากการเรียนตั้งแต่ปี1 และจากไปเป็นเกษตรกรต่างจังหวัด ตลอดการเรียนในมหาวิทยาลัย นุชต้องรับศึกหนัก ทั้งเรื่องเรียน เรื่องทางบ้าน เพราะสุชาดามักคอยหาเรื่องให้นุชต้องไปเรียนไม่ทัน บางครั้งก็เกือบขาดสอบ ไหนจะต้องดูแลความประพฤติของแก้วที่เหลวไหล ติดเพื่อนที่ชวนเที่ยว จนเกือบจะติดยาเสียคน ไหนจะต้องคอยรับใช้น้อยที่ มีนุชเป็นเบ๊ในทุกเรื่อง แต่ความอดทนและเสียสละของนุชก็ทำให้พนาและศวัสยิ่งประทับใจนุชมากขึ้น เมื่อ จบการศึกษา พนาทำเซอร์ไพรส์ขอให้พ่อแม่มาสู่ขอนุช บ้านเทพทัตต่างแปลกใจเพราะพนาสนิทสนมไปไหนมาไหนกับน้อยมากกว่า น้อยอาละวาดเสียใจ โดยมีแม่มาปลอบใจและยุแยงว่านุชแผนสูงจะแย่งพนาไป น้อยมาต่อว่านุชที่แย่งของรักของตัว นุชปฎิเสธและให้สัญญาว่าจะไม่มีทางแย่งของรักของน้อย พนามาหานุช นุชไม่ยอมมาพบ พนาบุกเข้าไปแล้วลวนลามจะจูบ แก้วกับน้อยมาเห็นโกรธนุชว่าไม่รักษาสัญญา นุชพยายามจะอธิบายแต่ไม่มีใครฟัง แก้วถูกน้อยยุยงให้เกลียดนุช นุชเสียใจมาก วันหมั้นนุชปฎิเสธการหมั้นกับผู้ใหญ่ พนาโกรธมาก มาอาละวาด ขอคำตอบว่าทำไมปฎิเสธเขา นุช ยืนยันว่าเกลียดคนอย่างพนาที่สุดและจะไม่มีวันรัก พนาถึงกับอึ้งเสียใจกินเหล้าเมายา มีน้อยมาคอยปลอบใจ ศวัสเมื่อเห็นนุชปฎิเสธพนาจึงพาตัวมาใกล้ชิดนุช ทำให้แก้วซึ่งแอบชอบศวัสเกลียดนุชไปด้วย พนาเห็นศวัสมาจีบนุชก็หึง ด่าว่าและพยายามลวนลาม น้อยมาเห็นทำให้ยิ่งเกลียดนุชเข้าไส้ เข้าใจว่านุชมารยา หน้าไหว้หลังหลอก นุชหาทางออกโดยโกหกกับพนาว่ารักรังสีและจะต้องแต่งงานกันให้ได้ พนาอาละวาดและประชดนุช กลับไปควงน้อยออกนอกหน้า ให้สัมภาษณ์เปิดตัวแฟนใหม่ในนิตยสารไฮโซ ส่วนนุชเมื่อเห็นข่าวก็ปวดใจเริ่มรู้ตัวว่าแอบรักพนาจึงหาทางหนีไปจากบ้าน เพื่อปิดกั้นใจตัวเอง ครูสุรีย์ได้ขอร้องให้นุชมาช่วยสอนหนังสือชั่ว คราวที่ปราณบุรี นุชได้พบรังสี ที่มาเป็นชาวประมงอยู่ที่นี่ รังสีมาช่วยงานโรงเรียนบ่อยๆ และสารภาพว่ารักนุช แต่นุชให้ได้เพียงแค่ความเป็นเพื่อน รังสีเสียใจแต่ยอมรับได้ ทั้งสองสนิทสนมไปไหนมาไหนด้วยกัน จนคนที่นี่คิดว่าทั้งคู่เป็นแฟนกัน พนาเริ่มงานที่บริษัทของไพศาล ต้องมาดูงานแถวปราณบุรีและเจอนุชโดยบังเอิญ เข้าใจว่านุชหนีมาหารังสีจริงๆทั้งหึงทั้งโกรธ พนาท้ารังสีกินเหล้า ทั้งสองเมาอย่างหนัก แล้วท้าดวลต่อยกัน สุดท้ายทั้งคู่จับมือเป็นเพื่อนกัน รังสีกลับบ้านไปหาเสื้อผ้าให้พนา ระหว่าง นั้น พนาด่าว่าดูถูกนุช นุชตบหน้า พนาใช้กำลังปลุกปล้ำนุช พนาพร่ำขอโทษสารภาพว่าทำเพราะรักไม่ใช่ความใคร่ และสัญญาว่าจะส่งผู้ใหญ่ไปสู่ขอ รังสีมาเจอภาพบาดตา อกหักกลับไป รุ่ง เช้า นุชหนีกลับกรุงเทพ หลบหน้าทุกคนและเข้าไปกราบอภิชาต พ่อได้มอบเครื่องประดับให้นุชในวันเกิดและมอบจดหมายที่ชบาฝากไว้ให้นุชอ่าน ใจความในจดหมายขอให้นุชรักพี่รักน้องและเสียสละให้ทั้งสอง น้อย มาดักพบนุชคุกเข่าอ้อนวอนขอร้องให้ยกพนาให้กับตน นุชให้สัญญาอีกครั้งว่าจะทำให้พนาหันไปรักน้อย พนามาหานุชที่บ้านเพื่อกำหนดวันแต่งงาน นุชหัวเราะใส่หน้า ไม่ยอมแต่งงานบอกว่าตัวเองรักรังสีลักลอบได้เสียกันมาหลายครั้งแล้ว ขอให้พนาออกไปจากชีวิต พนาเสียใจและเจ็บแค้นมากประชดแต่งงานกับน้อยภายในอาทิตย์นั้น น้อยยุยงให้แก้วหนีตามเอสเพื่อนนิสัยเลวของตัวเองไป นุชออกตามหาแก้ว แต่ไม่เจอ ในวันแต่งงาน นุชเป็นลมล้มลงทับเค้กแต่งงาน เพราะท้อง น้อยโกรธมาก ศวัสพานุชไปหาหมอเลยรู้ว่านุชท้อง รังสีมาเยี่ยมนุชและบอกศวัสว่าพนาเป็นพ่อของเด็กในท้อง ศวัสมาขอนุชแต่งงานเพื่อรักษาเกียรติให้เทพทัตและเพื่อให้เด็กมีพ่อโดยสัญญา ว่าจะไม่แตะต้องตัวนุชถ้านุชไม่ยินยอม พร้อมทั้งยินดีเซ็นใบหย่าควบคู่กับทะเบียนสมรสเพื่อให้นุชได้เป็นอิสระเมื่อ ต้องการ พนากับน้อยมีชีวิตคู่ที่หวานอมขมกลืน เพราะ พนาไม่ยอมมีความสัมพันธ์กับน้อย สุชาดาจ้างคนมาฆ่านุชแต่นุชก็แคล้วคลาดได้ตลอด เมื่อนุชย้ายมาอยู่ร่วมกันในบ้านศราชัยและต้องเผชิญหน้ากัน นุชพยายามหลบ พนาหาโอกาสเข้าใกล้ชิด กวน ประสาทนุช ซึ่งศวัสเข้ามาขวางได้ตลอด วารีเห่อลูกในท้องนุชมากจนน้อยอิจฉา วันหนึ่งน้อยมาแอบได้ยิน พนาต่อว่านุชและแสดงความรู้สึกว่ายังรักนุชอยู่ น้อยเจ็บแค้นมาก แต่น้อยแสร้งทำไม่รู้ ร่าเริง ดูแลนุชด้วยความหวังดีแต่แท้จริงเจตนาทำร้ายให้เด็กแท้งแต่ไม่สำเร็จ นุชแคล้วคลาดไปทุกครั้ง รังสีรู้เรื่องนุชแต่ง งานเลยมาเยี่ยมและแสดงความยินดี รังสีกลับไปที่พักก็กินเหล้าเสียใจ น้อยสะกดรอยตามมาเสนอเงินให้พานุชหนีไปตั้งตัวที่อื่น ให้พ้นจากพนา รังสีไม่ยอม น้อยทั้งดูถูกรังสีและด่าว่านุช ทำให้รังสีโมโหปลุกปล้ำน้อยจนตกเป็นของตน น้อยแค้นใจมาก สุชาดาเริ่มติดการพนันถูกเฮียเส็งเจ้าของบ่อนทวงเงิน น้อยได้ยินศวัสคุยกับนุชเลยรู้ว่า เด็ก เป็นลูกของพนา เลยเอาเรื่องไปปรึกษาสุชาดา ทำให้พนารู้เรื่องไปได้ พนาฉุดนุชไปบ้านที่ปราณบุรี แต่เกิดอุบัติเหตุเสียก่อน น้อยมาช่วยทั้งคู่และทำให้นุชแท้งลูก นุชเสียใจมากขอหย่ากับศวัส และกลับมาอยู่บ้านเทพทัต อภิชาตได้ยินที่น้อยมาเล่าให้สุชาดาฟังว่าเป็นคนทำให้นุชแท้ง อภิชาตจึงเห็นใจนุชมากขึ้น เอสหลอกแก้วให้ไปเป็นเมียเก็บของไพศาล ไพศาลติดใจแก้ว เอสมาขู่เลยถูกลูกน้องไพศาลเล่นงานจนขาเป๋ ส่วนแก้วก็ทิ้งเอสมาอยู่กับไพศาล พนามาดักฉุดนุชไปอยู่เพนท์เฮาส์ โดยสัญญาว่าจะขอใช้เวลากับนุชแค่ 4 วันแล้วจะปล่อยนุชเป็นอิสระ จะไปทำหน้าที่สามีที่ดีให้กับน้อย นุชใจอ่อนตกลง ที่นี่ ทั้งสองมีความสุขมาก น้อยติดใจรังสีแอบมาหาบ่อยๆ ทำให้ศวัสผิดสังเกต พยายามจับผิด แต่จับไม่ได้ น้อยท้องกับรังสี แต่มาขู่ว่าเป็นลูกพนา พนาไม่ยอมรับ น้อยเลยไปบอกนุช นุชหนีไป น้อยแค้นร่วมมือกับเอสหาทางเล่นงานนุช รังสีรู้ว่าเด็กในท้องเป็นลูกของตัวเอง มาทวงสิทธิ์ น้อยเลยฆ่ารังสี แต่รังสีรอดชีวิตมาได้ ศวัสเพิ่งรู้ว่าแก้วเป็นเมียน้อยไพศาล ศวัสทะเลาะกับไพศาลเรื่องแก้ว จนไพศาลโรคหัวใจกำเริบเข้าโรงพยาบาล วารีขอให้แก้วเลิกยุ่งกับศวัสอีก เอส น้อย สุชาดา วางแผนกันเรื่องนุช บ่เติงแอบมาได้ยินเรื่องทั้งหมดเลยถูกจับตัวไป ไพศาลต้องเข้ารับการผ่าตัด น้อยแอบเห็นพินัยกรรมแล้วรู้ว่าพนาจะได้สมบัติทั้งหมด จึงแอบถอดเครื่องช่วยหายใจของไพศาลออก ไพศาลเสียชีวิตลง น้อยมาขอหย่ากับพนาโดยแบ่งทรัพย์สินกันคนละครึ่ง พนาไม่ยอม ใน งานศพนุชมาที่งาน พนามาปลอบนุชเรื่องแก้ว น้อยเห็นมาอาละวาดหวังให้ทุกคนในงานคิดว่านุชมาแย่งพนาไปและจะได้ฟ้องหย่า พนา แต่รังสีเข้ามาเปิดโปงเรื่องทั้งหมดเสียก่อน น้อยโกรธแค้นมากวางแผนให้เอสจัดการกับนุชและแก้ว สุชาดาเผาเรือนเพื่อไล่นุชกับแก้วออกไปจากบ้าน แก้วพานุชไปพักที่ เพนท์เฮาส์ของไพศาล และทั้งคู่เตรียมจะไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยกัน เอสปลอมตัวเข้ามาที่เพนท์เฮาส์จับนุชไปขังไว้กับบ่เติง เอสส่งจดหมายมาขู่แก้ว แก้วเป็นห่วงนุชมากไม่รู้จะทำยังไง พนาไปตามหานุชแต่มาเจอแก้ว และรู้เรื่องราวทั้งหมด ทั้งคู่ต้องรอให้เอสติดต่อมา อภิชาตจับได้ว่าสุชาดาติดพนัน จึงไล่สุชาดาออกจากบ้าน สุชาดาแค้นมาก ไปหาน้อยกับเอสและร่วมมือกันจัดการกับนุช นุชกับบ่เติงพยายามหาทางหนี แต่พวกน้อยมาเห็นเสียก่อน บ่เติงโดนยิง เอสโทรหาแก้วให้เอาเงินไปไถ่ตัวนุช พนาจับสัญญาณได้ว่านุชถูกขังอยู่ที่สตูดิโอของเอส พนาพาแก้วรีบไปช่วยนุช แต่ พนาก็โดนจับตัวไป แก้วไม่รู้จะทำยังไงรีบบอกศวัสกับรังสี เอสให้แก้วเอาเงินมาไถ่ตัวนุชแต่แก้วก็ถูกจับไปอีกคน ศวัสกับรังสีรีบมาช่วยพวกพนา เกิดการต่อสู้กันขึ้น น้อยพลาดท่าเกือบถูกเหล็กแทง แต่นุชก็เอาตัวบังไว้ทำ ให้ตัวเองได้รับบาดเจ็บสาหัส เอสถูกตำรวจจับตัวไป สุชาดาถูกพวกเฮียเส็งข่มขู่จนเป็นบ้า น้อยแท้งลูกและเป็นอัมพาตเพราะคอไปกระแทกกับแท่งเหล็ก พนากับนุชก็คอยดูแลน้อยที่พิการอยู่ตลอด น้อยละอายใจสำนึกผิดถึงความเสียสละที่นุชมีให้น้อยเสมอมา แก้วไปปฏิบัติธรรมเพื่อชดใช้ความผิดที่เคยทำไว้กับครอบครัวศวัส พนาขอนุชแต่งงาน ในที่สุดความดีที่นุชทำด้วยความอดทนก็ส่งผล

วงเวียนหัวใจ 2552

เรื่องย่อ : วงเวียนหัวใจ (2552/2009) ทันทีที่บุปผชาติ (สาวิกา ไชยเดช) สาวสวยนักเรียนนอก เดินทางเหยียบแผ่นดินไทย เธอก็ได้รับข่าวร้ายว่า วราพงษ์ (พูลภัทธ อัตถปัญญาพล) แฟนหนุ่มที่รักกันมายาวนาน ตัดสินใจแต่งงานกับวิธนี (กัญญา รัตนเพชร) น้องสาวของทศ (ศุกลวัฒน์ คณารศ) มหาเศรษฐีเจ้าของไร่องุ่นไปเสียแล้ว บุปผชาติพกพาหัวใจที่บอบช้ำไปนั่งปล่อยอารมณ์คนเดียวในผับแห่งหนึ่ง และถูกมิจฉาชีพในคราบหนุ่มนักธุรกิจแอบใส่ยาในเครื่องดื่ม เพื่อล่อลวงเธอไปถ่ายคลิปเพื่อแบคเมล์

ระหว่างที่บุปผชาติครองสติไม่อยู่ เจียนถูกพาออกไปจากผับ ทศ พี่ชายของวิธนี เข้าไปช่วยเหลือได้ทันเวลา แต่บุปผชาติเมายาจนพูดจาไม่รู้เรื่อง ทำให้ทศต้องเปิดห้องพักในโรงแรมให้หญิงสาวนอนพักชั่วคราว

ฤทธิ์ยาทำให้บุปผชาติ ร้องห่มร้องไห้คร่ำครวญถึงคนรักที่ทอดทิ้งไป แถมยังอาละวาดใส่ทศสารพัด จนชายหนุ่มปั่นป่วนต้องคอยจัดการให้หญิงสาวหมดฤทธิ์นอนหลับไปได้ในที่สุด ท่ามกลางค่ำคืนอันแสนสั้น ความรักถูกจุดขึ้นในหัวใจของทศอย่างรวดเร็ว เขารู้ตัวว่าได้ตกหลุมรักผู้หญิงแปลกหน้าคนนี้เสียแล้ว

บุปผชาติ รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาในเช้าวันใหม่ เสื้อเชิ้ตของทศที่สวมอยู่บนเรือนร่างของเธอ ทำให้บุปผชาติหลงเข้าใจผิดว่าได้เสียตัวให้กับทศเสียแล้ว ยังไม่ทันที่ทศจะได้อธิบายอะไร บุปผชาติก็รีบวิ่งหนีออกจากโรงแรมด้วยความอับอาย ไม่กล้าแม้แต่จะเล่าเรื่องนี้ให้กับบุศยาภรณ์ พี่สาวที่เธอไว้วางใจ

หญิงสาวได้แต่เก็บความระทมทุกข์นี้ไว้เพียงผู้เดียว และอยากให้ผู้ชายคนนี้ตายไปจากโลก

วราพงษ์ เป็นผู้ชายอ่อนแอ และโลเลไม่แน่นอน เมื่อรู้ข่าวว่าบุปผชาติกลับมาเมืองไทย จึงพยายามนัดเจอ ทันทีที่ได้พบกันบุปผชาติขอเลิกกับวราพงษ์ แต่ความรักที่ยาวนานทำให้เธอหวั่นไหวไปกับคำแก้ตัวของคนรัก เขายืนยันว่ายังรักเธอไม่เสื่อมคลาย แต่เพราะ บุปผชาติไปเรียนต่อต่างประเทศความห่างไกลทำให้เขาเผลอไผลมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับวิธนี จนตั้งครรภ์ เขาจำเป็นต้องแต่งงานกับวิธนีเพื่อแสดงความรับผิดชอบ และวิงวอนอย่างน่าสงสารให้บุปผชาติรอเขา

ในวินาทีที่บุปผชาติแข็งใจจะบอกเลิกให้เด็ดขาด วิธนีสะกดรอยตามมาเจอและด่าทอ ตบหน้าบุปผชาติ พูดจาเสียดแทงใจว่าบุปผชาติเป็นได้แค่เมียน้อย แย่งสามีชาวบ้านอย่างไม่มียางอาย อารมณ์โกรธทำให้บุปผชาติอยากเอาชนะ จึงสวนกลับว่าวิธนีต่างหากคือเมียน้อยตัวจริง เพราะมายื้อแย่งวราพงษ์ไป วิธนีโรคหัวใจกำเริบจนวราพงษ์ และบุปผชาติต้องรีบพาส่งโรงพยาบาล

ทศ รีบตามมาดูน้องสาว และได้เห็นภาพวราพงษ์น้องเขย จับมือบุปผชาติอย่างสนิทสนม ความผิดหวังแล่นจู่โจมหัวใจของทศ ผู้หญิงคนแรกในชีวิตที่เขาเฝ้าคิดถึง คือ บุปผชาติ ผู้หญิงที่กำลังจะเข้ามาทำลายครอบครัวของน้องสาวคนเดียวที่เขารักมากที่สุดในชีวิต คำบอกเล่าของวิธนีหลังออกจากโรงพยาบาล ยิ่งยืนยันแน่ชัดว่า บุปผชาติคิดจะแย่งวราพงษ์คืนไป

วิธนีโทรศัพท์มาหาบุปผชาติ แต่คุณหญิงบุษบา (ดวงดาว จารุจินดา) มารดาของบุปผชาติ เป็นคนรับสาย วิธนีด่าคุณหญิงให้อบรมสั่งสอนลูกอย่าให้มาแย่งสามีชาวบ้าน จนคุณหญิงตกใจเป็นลม นายพลเริงศักดิ์ (ฐาปกรณ์ ดิษยนันทน์) บิดาของบุปผชาติโกรธมาก คิดว่าลูกสาวจะไปแย่งสามีคนอื่นจริง จึงต่อว่าบุปผชาติด้วยถ้อยคำรุนแรง บุปผชาติน้อยใจพ่อ ความเป็นคนนิสัยดื้อรั้นเอาแต่ใจจึงประชดประชันว่าตนเองรักวราพงษ์ และจะไม่เลิกกับเขาเด็ดขาด (พูดด้วยอารมณ์แต่ไม่ได้ทำจริง) ความอดทนของนายพลขาดผึงจึงหลุดปากตัดขาดกับบุปผชาติ หญิงสาวหอบเสื้อผ้าออกจากบ้าน โดยไม่ฟังคำทัดทานเตือนสติของบุศยาภรณ์ผู้เป็นพี่สาวที่ไม่อยากให้น้องสาวทำผิดศีลธรรม ทำลายครอบครัวคนอื่น

คอนโดหรูหราใจกลางเมือง กลายเป็นที่หลบซ่อนตัวของบุปผชาติ เธอตั้งใจจะหลบหน้าวราพงษ์แต่สุดท้ายก็หนีไม่พ้น วราพงษ์บุกไปหาบุปผชาติถึงห้องพัก ร้องไห้เสียใจที่ไม่สามารถพรากจากบุปผชาติไปได้ ความผูกพันที่เคยมีต่อกันทำให้หญิงสาวใจอ่อนตัดใจจากวราพงษ์ไม่ขาด

ทศสืบหาตัวบุปผชาติจนตามมาเจอที่คอนโดแห่งนี้ เขาเห็นเธอเดินลงมาส่งวราพงษ์ เข้าใจผิดว่าสองคนมาเช่าห้องอยู่ด้วยกันแล้ว

ทศคิดได้ว่าเขาควรทำอะไรสักอย่างเพื่อแยกบุปผชาติ และวราพงษ์ออกจากกันให้ได้ เพื่อช่วยน้องสาว และหลานที่กำลังจะเกิดขึ้นมาให้มีครอบครัวที่สมบูรณ์ และที่สำคัญที่สุดเขาไม่อาจปฏิเสธหัวใจตัวเองได้เลยว่า เขาหวงแหนบุปผชาติ และไม่อาจทนเห็นผู้หญิงคนนี้ตกเป็นเมียน้อยของน้องเขยตัวเอง

แต่บุปผชาติเป็นคนดื้อรั้น และเอาแต่ใจ เขาจะเปลี่ยนหัวใจเธอได้อย่างไร ??

ชัย (วิชญ จารุจินดา) เพื่อนสนิทของทศ คุ้นเคยกับครอบครัวของบุปผชาติเป็นอย่างดีเป็นผู้ที่ช่วยให้ข้อมูลเกี่ยวกับครอบครัวของบุปผชาติแก่ทศ ทศจึงตัดสินใจบุกไปพบนายพลเริงศักดิ์บิดาของบุปผชาติในทันที พร้อมรับสารภาพอย่างลูกผู้ชายว่า ตนเองได้รู้จักกับบุปผชาติโดยบังเอิญ ความมึนเมาด้วยกันทั้งคู่ทำให้เกิดได้เสียกันในคืนนั้น เขาจึงมาเพื่อแสดงความรับผิดชอบด้วยการขอแต่งงานกับลูกสาวคนเล็กของนายพลฯ อย่างลูกผู้ชาย นายพลเริงศักดิ์ชกหน้าทศด้วยความแค้นเคือง และจะแจ้งความดำเนินคดีกับทศให้ถึงที่สุด แต่บุศยาภรณ์ลูกสาวคนโต รีบห้ามปรามไว้เพราะเกรงว่าน้องสาวจะเสียชื่อเสียง นายพลจึงตวาดไล่ทศออกจากบ้านไป

ทศไม่ลดละความพยายาม ไปขอร้องให้คุณเรือง (อนุสรณ์ เดชะปัญญา) พ่อของชัยซึ่งรู้จักกันดีกับนายพลฯ ไปทำหน้าที่สู่ขอบุปผชาติ

ท่านนายพล และคุณหญิงฯ กำลังร้อนใจเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างบุปผชาติกับวราพงษ์ เพราะรู้จากลูกสาวคนโตว่า บุปผชาติไปเช่าคอนโดอยู่เพียงลำพัง นายพลฯ กลัวว่าลูกสาวจะแอบอยู่กินกับวราพงษ์ในฐานะภรรยาน้อย ขณะกำลังกังวล และหมดหนทางอยู่นั้น คุณเรืองก็มาสู่ขอบุปผชาติให้ทศและหว่านล้อมให้นายพลฯ คิดได้ว่า ไหนๆ ข้าวสารก็กลายเป็นข้าวสุกแล้ว การให้บุปผชาติแต่งงานกับทศ ย่อมดีกว่าปล่อยลูกสาวไปเป็นเมียน้อยชาวบ้าน ต้องระทมทุกข์ชั่วชีวิต

(อีกทั้งนายพลรู้จากคุณเรืองว่า ทศเป็นลูกชายคนเดียวของเพื่อนเก่าแก่ที่เคยสนิทกันมากของนายพลฯคือ คุณสุทน และดาราศรี เจ้าของธุรกิจพันล้าน ทั้งเหมืองแร่ทางใต้ และไร่องุ่นใหญ่โต แต่พ่อแม่ของทศเสียตั้งแต่ทศยังเด็ก ในด้านฐานะของทศก็เพียบพร้อม ที่สำคัญที่สุดคือยังไม่มีพันธะ ทศย่อมมีคุณสมบัติเหนือกว่านายวราพงษ์ )

แต่ปัญหาก็คือ บุปผชาติ ไม่ยอมรับว่าได้มีสัมพันธ์กับทศ และจะไม่ยอมแต่งงานกับทศเด็ดขาด !

เพราะความรักที่มีต่อลูก นายพลจึงตัดสินใจเลือกทางที่จะให้บุปผชาติไปอยู่กับทศที่ไร่องุ่น ส่วนคุณหญิงต้องทำใจแข็งเพื่ออนาคตของลูก

บุศยาภรณ์ทำตามแผนของบิดา ด้วยการชวนบุปผชาติไปดูที่ดินในต่างจังหวัด โดยอ้างว่ามารดาอยากซื้อที่ตรงนี้ไว้เพราะเป็นแปลงที่สวยมาก บุปผชาติยินยอมไปเป็นเพื่อน แต่เมื่อเดินทางไปถึงกลับกลายเป็นไร่องุ่นของทศ บุศยาภรณ์ตัดใจทิ้งน้องไว้ที่นี่ ก่อนหนีกลับกรุงเทพฯ ด้วยน้ำตา

บุปผชาติโกรธมาก และเสียใจเมื่อรู้ว่าพ่อแม่ และพี่สาวรู้เห็นกับทศ จึงแผลงฤทธิ์ด้วยการอาละวาดขว้างปาข้าวของในกระเป๋าเสื้อผ้าของเธอ จนเกลื่อนไปทั่วห้อง แต่ทศไม่ว่าอะไร กลับช่วยจัดเสื้อผ้าใส่ตู้ให้อย่างดีจนบุปผชาติแปลกใจ แต่ก็ยังไม่ยอมแพ้ทศง่ายๆ

ระหว่างอยู่ที่ไร่องุ่น ทศต้องอดทนกับความเอาแต่ใจ และหยิ่งผยองของบุปผชาติ ที่คอยแกล้งให้เขาหัวปั่นอยู่ตลอดเวลา แถมยังต้องคอยระวังไม่ให้เธอหลบหนีออกจากไร่ไปได้ และยื่นคำขู่ว่าถ้าเธอคิดหลบหนี หรือพูดเรื่องเขาฉุดเธอกับคนอื่นๆ เขาจะนำเรื่องที่เธอเมามายจนเสียตัวให้เขา ประจานไปให้ทั่ว

แม้บุปผชาติจะแสดงท่าทีเกลียดชังเขาหนักข้อขึ้นทุกที แต่ชายหนุ่มกลับยิ่งรักเธอมากขึ้น และคอยหึงหวงเมื่อคิดว่าบุบผชาติแอบคิดถึงวราพงษ์คนรักเก่า

ระหว่างนี้ นายพลเริงศักดิ์ ได้รู้ความจริงว่า ภรรยาของวราพงษ์ก็คือน้องสาวของทศ นายพลโกรธจัดที่โดนทศปกปิดความจริง จึงเรียกตัวทศมาพบถึงกรุงเทพฯ ทศยอมรับผิดโดยให้เหตุผลว่าถ้าทุกคนรู้ว่าวิธนีคือน้องสาวเขา นายพลคงไม่ยอมยกบุปผชาติให้อย่างแน่นอน แต่เขายืนยันหนักแน่นว่ารักบุปผชาติจริง นายพลจึงยกโทษให้เพราะเชื่อสายตาตัวเองว่าทศคือลูกผู้ชายตัวจริงคนหนึ่ง

การปรากฏตัวของใบตอง (คีตภัทร อันติมานนท์) ลูกสาวของประสิทธิ์ (ตฤณ เศรษฐโชติ) นักธุรกิจค้าไวน์ในท้องถิ่น ทำให้บุปผชาติเกิดความคิดที่จะเป็นแม่สื่อแม่ชักให้ใบตองกับทศ เพราะเธอสังเกตเห็นว่าใบตองชื่นชอบทศ และแวะมาเยี่ยมเยือนทศอยู่เสมอ ใบตองแอบเกลียดชังบุปผชาติเมื่อรู้จากปากทศว่า บุปผชาติเป็นคนที่ทศจะแต่งงานในอีกไม่ช้า บุปผชาติเองก็หลงไว้ใจใบตอง จนบางครั้งเผลอระบายความในใจเรื่องคนรักเก่า และสารภาพว่าเธอไม่ได้รักทศเลยแม้แต่น้อย แต่ก็ไม่กล้าเล่าว่าโดนทศฉุดมา

ความเป็นหญิงที่สุภาพเรียบร้อย พูดน้อย และจิตใจดี ทำให้บุปผชาติ และทศดูไม่ออกเลยว่า ใบตองซุกซ่อนความร้ายกาจไว้ภายใน เธอวางแผนกลั่นแกล้งบุปผชาติหลายอย่างเพื่อให้ทศเข้าใจบุปผชาติผิด จนเกิดความระหองระแหง ปั้นปึ่งใส่กันหลายครั้ง แต่ด้วยความรักที่ทศมีต่อบุปผชาติ เขาก็ต้องเป็นฝ่ายงอนง้อเธอทุกคราวไป ความดีของทศทำให้บุปผชาติเริ่มหวั่นไหว และรู้สึกหัวใจแปลบๆ เวลาที่เห็นทศแสดงความสนิทสนมกับใบตองเพื่อประชดประชันที่เธอพยายามผลักไสเขาให้คนอื่น

ส่วนทศเอง ก็ไม่อาจเสแสร้งฝืนใจรักใบตองได้ จึงปฏิเสธใบตองอย่างละมุนละหม่อมว่าเขารักใบตองแบบน้องสาวคนหนึ่งเท่านั้น ใบตองเสียใจอย่างรุนแรง ด้วยความรักที่มีต่อทศ เธอจึงตัดสินใจจ้างไอ้เม่น (ธรรมลักษณ์ ตระกูลโชคดี) คนงานในไร่ ฉุดบุปผชาติไปข่มขืน แต่ทศตามมาช่วยได้ทันเวลา ส่วนไอ้เม่นหลบหนีไปได้

ทศเฝ้าดูแลบุปผชาติซึ่งล้มป่วยเพราะพิษไข้ ความห่วงใยของทศทลายกำแพงแห่งความเกลียดชังของหญิงสาวจนพังทลาย บุปผชาติเริ่มรู้ตัวว่า เธอลืมวราพงษ์จนสิ้นเมื่อได้อยู่ใกล้ชิดกับทศ

บัดนี้….บุปผชาติมั่นใจแล้วว่า เธอรักผู้ชายคนนี้

ในวันที่บุปผชาติ ตัดสินใจจะตอบตกลงแต่งงานกับทศ และเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยกัน ใบตองสืบรู้ว่าคนรักเก่าของบุปผชาติก็คือ สามีของน้องสาวทศ จึงส่งข่าวให้น้องสาวทศรู้ ว่าทศพาผู้หญิงแปลกหน้ามาซุกซ่อนไว้ที่ไร่ ถึงขนาดจะแต่งงานด้วยกัน วิธนีซึ่งหวงแหนพี่ชายอยู่แล้ว รีบสั่งให้วราพงษ์พาเธอเดินทางมาที่ไร่ในทันที

การปรากฏตัวของวิธนี และวราพงษ์ เหมือนสายฟ้าฟาดกลางใจบุปผชาติ เธอได้ยินการทะเลาะกันระหว่างวิธนีกับทศ วิธนีต่อว่าพี่ชายที่มาวุ่นวายกับคนที่เธอเกลียด แต่ทศกลัวน้องสาวโรคหัวใจกำเริบจึงพยายามอธิบายให้น้องสบายใจว่าที่ไปยุ่งเกี่ยวกับบุปผชาติ เพราะต้องการกีดกันผู้หญิงคนนี้ออกจากวราพงษ์ บุปผชาติเสียใจหนักวิ่งร้องไห้หนีออกจากไร่ วราพงษ์ตามไปทันรีบอาสาพาบุปผชาติกลับกรุงเทพฯ วิธนีแทบคลุ้มคลั่งที่รู้ว่าสามีไปกับบุปผชาติ

ความยุ่งยาก รอทศอยู่เบื้องหน้า ผู้หญิงใจแข็งอย่างบุปผชาติจะยอมให้อภัยเขาหรือไม่

ที่กรุงเทพฯ บุปผชาติขอให้วราพงษ์เลิกยุ่งเกี่ยวกับเธอ และกลับไปหาครอบครัว โดยไม่กล้าบอกว่าเธอรักทศแต่วราพงษ์ก็ยังคงเห็นแก่ตัว ไม่ยอมเลิกกับบุปผชาติ ใช้ลูกตื้อว่าถึงไม่ได้อยู่ด้วยกัน ก็ขอได้พบได้คุยกันบ้าง บุปผชาติใจอ่อนสงสาร ยินดีจะคบกันแค่เพื่อน

บุศยาภรณ์ รู้ข่าวว่าน้องสาวหนีกลับมากรุงเทพแล้ว รีบพาแม่ไปหา ความสงสารแม่ทำให้หญิงสาวโกรธแม่ไม่ลงเรื่องทศ แต่ก็ไม่อยากกลับบ้านเพราะไม่พอใจที่พ่อร่วมมือกับทศ และมองความรักความปรารถนาดีของพ่อเป็นเรื่องของการห่วงชื่อเสียงของตนเอง

นายพลรู้ข่าวว่าแผนล้มเหลว จึงยื่นคำขาดให้ทศต้องหาทางแต่งงานกับบุปผชาติให้เร็วที่สุด

ทศ ตามงอนง้อบุปผชาติ แต่ไม่สำเร็จ ขณะเดียวกันวราพงษ์เกิดรู้ความจริงว่า วิธนีไม่ได้ตั้งท้องจริง ที่ผ่านมาเป็นแค่คำหลอกลวงเพื่อหาทางผูกมัดเขาเท่านั้น วราพงษ์โกรธมากประกาศขอเลิกกับวิธนีและคิดกลับไปขอคืนดีกับบุปผชาติ วิธนีหัวใจวายถูกส่งตัวเข้าโรงพยาบาล

วราพงษ์ รีบมาแจ้งข่าวดีกับบุปผชาติ ว่าเขาตัดสินใจจะหย่าขาดกับวิธนีแน่นอนแล้ว ขอคำมั่นจากบุปผชาติให้ตกลงแต่งงานกับเขา บุปผชาติเกิดความสับสนขอเวลาคิดดูก่อน เธอตัดสินใจแอบไปดูอาการป่วยของวิธนี แต่ความจริงแล้วอยากเห็นหน้าทศมากที่สุด วิธนีพอเห็นหน้าบุปผชาติ รีบร้องห่มร้องไห้น่าสงสาร อ้อนวอนขอวราพงษ์คืน ถึงกับจะคุกเข่าขอร้องบุปผชาติ จนต้องถูกส่งตัวเข้าห้องฉุกเฉินอีกครั้ง

ทศ คิดว่าบุปผชาติมาหาเรื่องวิธนี เขาด่าทอเธออย่างเจ็บแสบ และกล่าวหาว่าเธอเป็นคนทำให้ครอบครัวของน้องสาวเขาแตกแยก

แต่แล้วคำตอบของบุปผชาติทำให้ทศถึงกับหัวใจหยุดเต้น !!

บุปผชาติประกาศตกลงแต่งงานกับทศ เธอปรารถนาให้วราพงษ์ตัดใจจากเธอ และกลับไปทำหน้าที่ดูแลภรรยาที่กำลังเจ็บหนัก บุปผชาติรู้สึกสุขใจเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ได้รู้จักคำว่าเสียสละทำเพื่อคนอื่น เธอกลับบ้านไปกราบขอโทษพ่อ ความสงบสุขกลับคืนสู่ครอบครัวของบุปผชาติอีกครั้ง ส่วนวราพงษ์เสียใจอย่างหนักเมื่อรู้ว่าบุปผชาติจะแต่งงานกับทศ แต่ข่าวการป่วยหนักของภรรยาก็ทำให้เขาไม่อาจทอดทิ้งไปอย่างคนแล้งน้ำใจได้

หลังการแต่งงาน ทศ และบุปผชาติ พาวิธนีมาพักรักษาตัวฟื้นฟูสุขภาพที่ไร่องุ่น วราพงษ์ต้องรับผิดชอบดูแลงานของทศทางกรุงเทพฯ แต่ก็ยังหมั่นเดินทางไปคอยดูแลภรรยาบ่อยครั้ง ความโลเลของวราพงษ์ทำให้เขาอดใจไม่ไหวพยายามเข้าไปพัวพันกับบุปผชาติ จนทำให้ทศเกิดอาการหึงหวงบุปผชาติ เพราะบุปผชาติแม้จะยอมแต่งงานด้วย แต่ไม่ยอมนอนเตียงเดียวกับทศ เพราะยังคาใจคิดว่าทศแต่งงาน เพราะช่วยน้องสาว ส่วนทศก็น้อยใจที่บุปผชาติยืนยันตลอดเวลาว่าแต่งงานกับเขาเพราะไม่อยากถูกคนประณามว่าเป็นฆาตกรทำให้วิธนีหัวใจวายตาย

ชีวิตคู่ของคนทั้งสองเกิดรอยร้าวมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อใบตองก้าวเข้ามาเป็นตัวยุแยง

บุปผชาติ พยายามเอาใจใส่วิธนีด้วยความห่วงใยเหมือนอยากจะชดเชยความผิดที่เคยทำร้ายหัวใจวิธนีโดยไม่ตั้งใจ แรกทีเดียววิธนีเริ่มใจอ่อนเพราะเริ่มสังเกตเห็นความรักที่พี่ชายมีต่อบุปผชาติ แต่เมื่อโดนใบตองยุแหย่ใส่ร้ายบุปผชาติว่าพยายามยั่วยวนวราพงษ์ วิธนีหลงเชื่อจึงแกล้งสำออยให้พี่ชายเห็นว่าพี่สะใภ้เกลียดชังตน และคอยกลั่นแกล้งตนตลอดเวลา อีกทั้งคอยเป่าหูทศว่าบุปผชาติยังรักวราพงษ์อยู่ อ้อนวอนให้พี่ชายหย่ากับบุปผชาติ เพราะเธออยากให้ใบตองมาเป็นพี่สะใภ้มากกว่า

วราพงษ์เบื่อหน่ายวิธนีที่อารมณ์ฉุนเฉียว และหาเรื่องหึงหวงตลอดเวลา จึงระเบิดอารมณ์ทะเลาะกับวิธนีรุนแรง สุดท้ายวิธนีโกรธจัดจนเป็นลมต้องเข้าโรงพยาบาลอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ทุกคนได้รับข่าวดีว่าวิธนีตั้งครรภ์ ทศจึงขอร้องให้วราพงษ์อดทนเพื่อลูกที่กำลังจะเกิดมา และที่สำคัญที่สุดบุปผชาติยอมเปิดใจ สารภาพกับวราพงษ์ว่าเธอมั่นใจแล้วว่ารักทศ และไม่คิดรักใครได้อีก ขอร้องให้วราพงษ์เริ่มต้นชีวิตใหม่สร้างครอบครัวที่มีความสุข เหมือนอย่างที่เธอตั้งใจเช่นกัน วิธนีแอบได้ยินโดยบังเอิญจึงเลิกคิดแค้นต่อบุปผชาติ และนำไปสู่การตัดสินใจที่เด็ดเดี่ยว

ความรักที่มีต่อลูกเปลี่ยนหัวใจที่รุ่มร้อนของวิธนีให้เกิดสติ วิธนีขอหย่ากับวราพงษ์ด้วยเหตุผลว่าเธอไม่อยากให้ลูกเกิดมาเห็นพ่อแม่ไม่รักกัน วราพงษ์ไม่ได้รักเธอ อยู่ร่วมกันต่อไปจะส่งผลเสียต่อลูกในอนาคต ทศ และบุปผชาติพยายามทัดทานแต่ไม่เป็นผล ทศจึงขอให้แยกกันอยู่สักระยะ ถ้าวิธนีสามารถอยู่ได้ จึงค่อยหย่าขาดจากกัน แรกทีเดียววราพงษ์เต็มใจแยกทาง แต่หลังจากเขาไม่เจอหน้าวิธนี และเป็นห่วงลูก ทำให้รู้สึกขาดอะไรบางอย่างในชีวิตไป สุดท้ายวรพงษ์ก็ได้คำตอบให้ตัวเองว่า วิธนีคือความผูกพันที่เขาไม่อาจตัดขาดจากชีวิตได้ เขาจึงกลับไปงอนง้อวิธนี แต่คราวนี้วิธนีกลับใจแข็งไม่ยอมคืนดีง่ายๆ เพราะคิดว่าวราพงษ์คิดคืนดีเพราะลูกเท่านั้น ทำให้บุปผชาติต้องคอยเป็นกองกำลังสนับสนุนช่วยเหลือวราพงษ์หาทางให้วิธนีใจอ่อน มีการแอบปรึกษากัน ให้กำลังใจกัน ให้ทศแอบเห็นหลายครั้ง

จุดนี้เอง… ใบตองเอามายุแหย่ให้ทศเข้าใจผิดว่าบุปผชาติกับวราพงษ์จะหวนมาคบกัน

ความพยายามของวราพงษ์เป็นผลสำเร็จ เขาสารภาพรักวิธนีในวันที่เธอคลอดลูก เธอจึงยอมให้อภัย ใบตองเห็นเหตุการณ์นี้ ยิ่งหวาดกลัวว่าตัวเองจะสูญเสียทศไปในไม่ช้า

ใบตองจำเป็นต้องจัดการบุปผชาติขั้นเด็ดขาด!!ด้วยการฆ่าวิธนี

ใบตอบเชื่อว่า…ถ้าไม่มีวิธนี วราพงษ์จะต้องกลับไปหาบุปผชาติอย่างแน่นอน

แผนร้ายเกิดขึ้นในวันที่ทศกับวราพงษ์ต้องเข้าเมืองไปคุยธุรกิจไวน์กับพ่อของใบตอง ใบตองปรากฏตัวในห้องวิธนี แกล้งทำทีจะบีบคอเด็กให้ตาย วิธนีเข้าไปยื้อแย่งจนหัวใจวายเสียชีวิต แล้วใส่ร้ายป้ายสีว่าตนเองเข้ามาเห็นวิธนีกับบุปผชาติทะเลาะกันเรื่องวราพงษ์ จนเห็นวิธนีล้มฟุบลง

การตายของวิธนี สร้างความสะเทือนใจให้ทศอย่างรุนแรง เขาไม่เชื่อว่าผู้หญิงจิตใจดีงามอย่างใบตองที่รู้จักมายาวนานจะสร้างเรื่องโกหกดังที่บุปผชาติยืนยัน ความสับสนดังกล่าวทำให้ทศเก็บตัว และหมางเมินกับบุปผชาติ ความหยิ่งทะนงทำให้บุปผชาติขอหย่า แต่ทศไม่ยินยอม อ้างว่าจะไม่ยอมให้บุปผชาติสมหวังกับวราพงษ์ให้เป็นขี้ปากชาวบ้านเด็ดขาด หากแท้ที่จริงแล้ว…ทศไม่อาจทนสูญเสียบุปผชาติได้

วราพงษ์ขออนุญาตทศพาลูกไปอยู่เมืองนอก แถมยังแอบได้ยินบุปผชาติปรับทุกข์กับพี่สาวที่แวะมาเยี่ยมเยือนว่าอยากไปเรียนต่อ ทำให้ทศคิดไปเองว่าวราพงษ์กับบุปผชาติจะไปอยู่ต่างประเทศด้วยกัน ทศพยายามตัดใจจากอดีตภรรยา ยอมตกลงหย่าให้บุปผชาติเพื่อให้คนรักได้สมหวัง แม้ตัวเองจะต้องเจ็บปวดมากเท่าใดก็ตาม เขาก็รู้ว่าการตายของน้องสาวคงไม่สามารถทำให้รอยร้าวในหัวใจของเขากลับมาเหมือนเดิมได้อีก

ในวันที่บุปผชาติเดินทางออกจากไร่เพียงลำพัง ทศหมกตัวอยู่ในไร่ เขาเจอกับไอ้เม่นอดีตคนงานที่เคยฉุดบุปผชาติไปข่มขืน มันย้อนกลับมาตัดองุ่นในไร่ และถูกคนงานจับตัวได้

ทำให้ทศรู้ว่าตัวบงการที่จ้างคนงานมาทำร้ายบุปผชาติ และฆ่าน้องเขา ก็คือ ใบตองนั่นเอง

ทศ แจ้งความจับใบตอง แต่ใบตองไหวตัวทันหลบหนีไปเจอกับบุปผชาติในระหว่างเส้นทางเข้าเมือง ใบตองไม่มีอะไรจะสูญเสียอีกแล้วเธอชักปืนที่ขโมยมาจากบิดาจะยิงบุปผชาติ ทศ และศุภชัยพ่อของใบตองตามมาช่วยได้ทันเวลา ใบตองยอมมอบตัวกับตำรวจเพราะน้ำตาของพ่อที่อ้อนวอนลูกด้วยความรัก และโทษว่าเป็นความผิดของตัวเองคนเดียวที่คอยบังคับใบตองในทุกเรื่อง (ศุภชัยชอบดูถูกลูกตัวเองว่าโง่ และไม่เอาไหนโดยเฉพาะเรื่องทศ)

หลังมรสุมร้ายผ่านไป ทศพาบุปผชาติมาอยู่ที่ไร่องุ่นอีกครั้ง แต่ครั้งนี้บุปผชาติมั่นใจว่า…วงเวียนหัวใจที่แสนสับสนของเธอ จะมีเขาเป็นจุดศูนย์กลางที่ทำให้ชีวิตรักเปี่ยมด้วยความสุขที่แท้จริง