สุสานคนเป็น 2534

สุสานคนเป็น (2534/1991) ลั่นทม เจ้าของโรงงานทอผ้าและกิจการต่าง ๆอีกจำนวนมาก มีฐานะดี หลังจากสามีเสียชีวิตไปแล้วเธอได้แต่งงานใหม่กับชีพ ด้วยความรักและลุ่มหลงในตัวสามี เธอจึงมอบหมายกิจการต่าง ๆ ให้เขาดูแล เชื่อว่าเขารักเธอเหมือนที่พร่ำบอก โดยไม่รู้เลยว่าชีพหวังสมบัติของเธอ และลับหลังลั่นทม ชีพจะออกลายเจ้าชู้กับผู้หญิงทั่วไป โดยเฉพาะกับอุษา หลานสาวของสามีเก่าลั่นทม ซึ่งอาศัยอยู่ร่วมคฤหาสน์เดียวกัน อุษาทำงานเป็นพนักงานฝ่ายบัญชีในโรงงานของลั่นทม มีคนรักเป็นตำรวจชื่อธารินทร์ ทั้งสองมีโครงการจะแต่งงานกัน แต่อุษาเป็นห่วงลั่นทมที่เจ็บป่วยด้วยโรคประหลาดอยู่เป็นประจำ อาการของโรคคือ หายใจไม่ออก แขนขาอ่อนแรง และจะหมดสติในที่สุด มีสภาพเหมือนคนตายไปแล้ว แต่หัวใจยังเต้นเป็นปกติ หมอตรวจแล้วไม่พบว่าเป็นโรคอะไร จึงเข้าใจว่าเธอเครียด พักผ่อนน้อย หวาน คนรับใช้ประจำตัวของลั่นทมลากลับบ้าน โดยไม่คาดคิด พี่เขยกับพี่สาวฆ่าตัวตายหนีหนี้นอกระบบ จึงจำเป็นต้องรับรสสุคนธ์ หลานสาวมาอุปการะ ลั่นทมยินดีเพราะอยากตอบแทนความดีที่หวานมีต่อเธอมาตลอด หารู้ไม่ว่ารสสุคนธ์มีนิสัยทะเยอทะยาน หวังมีชีวิตสุขสบายทางลัดจึงยั่วยวนชีพ ส่วนชีพก็ลุ่มหลงรสสุคนธ์ ในที่สุดก็มีความสัมพันธ์กัน อุษารู้เรื่องนี้จึงพยายามหาทางบอกให้ลั่นทมรู้ แต่ไม่มีโอกาส ชีพรับรสสุคนธ์มาอยู่บนตึกใหญ่ ลั่นทมจับได้ แต่ปิดบังไว้เพราะคิดว่าไม่นานชีพก็เลิกรา แต่ลั่นทมคิดผิด ทั้งสองกลับร่วมมือกันฆ่าลั่นทม เพราะเห็นว่าลั่นทมหายใจไม่ออกบ่อยๆ หากตายจริง สมบัติทั้งหมดจะตกอยู่กับชีพ ลั่นทมเสียชีวิตจริงๆ ในวันหนึ่ง แต่ก็ฟื้นมาได้อย่างปาฏิหาริย์ หลังจากวันนั้นลั่นทมก็มีความคิดที่จะสร้างสุสานของตนเองไว้โดยปลูกเรือนไทยสวยงาม สั่งให้อุษาและคนรับใช้ทุกคนทราบว่าหากเธอตายให้นำศพของเธอมาไว้ที่สุสานที่สร้างขึ้น ทุกคนไม่เห็นด้วย แต่ไม่กล้าคัดค้าน ชีพไม่ละความพยายาม สอนให้ลั่นทมขับรถ และชวนไปพักผ่อนต่างจังหวัด ลั่นทมต้องการแสดงให้ชีพเห็นว่าเธอไม่ได้ป่วย หวังว่าชีพจะกลับมารักเธอเหมือนเดิม รถประสบอุบัติเหตุ ลั่นทมเสียชีวิต รสสุคนธ์รีบจัดงานศพ ต้องการเผาศพลั่นทมให้เร็วที่สุด แต่อุษากับ ธารินทร์ออกอุบายให้เก็บศพก่อน โดยเจาะรูให้อากาศผ่านได้ อุษาขโมยศพออกมาจากสุสานของวัด ให้หมอผัน พ่อของธารินทร์ ซึ่งมีวิชานำสมุนไพรมาปลุกคนตายให้ฟื้นขึ้นมาได้ หมอผันทำไม่สำเร็จ ลั่นทมไม่ฟื้นขึ้นมา วิญญาณของเธอยิ่งได้พบได้เห็นถึงความทรยศที่ชีพกับรสสุคนธ์มีต่อเธอจึงเกิดความแค้นที่จะสั่งสอนให้ทั้งสองรู้สำนึก ศพของลั่นทมได้อยู่ในสุสานที่เธอสร้างขึ้น หวาน และพวกจะต้องนำเครื่องเซ่นไปเซ่นศพของเธอทุกวัน ชีพกับรสสุคนธ์คัดค้านไม่เห็นด้วย ดื้อดึงที่จะเผาศพ แต่ปรากฏว่าทุกสิ่งทุกอย่างระบุไว้ในพินัยกรรม หากชีพไม่ทำตาม ก็ไม่มีสิทธิ์ในกองมรดก ชีพพยายามยักยอกสมบัติเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยมีรสสุคนธ์ร่วมมือ วิญญาณของลั่นทมเจ็บปวดเป็นทวีคูณที่เห็นชีพท้าทายเธอ ในที่สุดลั่นทมก็มิอาจอยู่ในสุสานอย่างปกติสุข เธอจึงออกอาละวาดหวังสั่งสอนให้ทุกคนในบ้านเชื่อว่าเธอยังวนเวียนอยู่ในบ้าน และหวังให้ชีพกับรสสุคนธ์กลับตัวเสียใหม่ จากนั้นเธอจะไปใช้กรรมเหมือนผีทั่วไป รสสุคนธ์นำญาติมาอยู่ในบ้านของชีพ ซึ่งแต่ละคนล้วนไม่เชื่อว่าผีลั่นทมจะทำอะไรได้ ฉลอง ญาติของรสสุคนธ์ถูกผีลั่นทมหลอกจนเป็นบ้า ส่วนเรวัติ ญาติผู้พี่ก็เสียชีวิตจากถูกลั่นทมหลอก นฤมล พี่สาวของรสสุคนธ์ ซึ่งเป็นภรรยาของเรวัตยังคงดื้อที่จะอยู่ในบ้าน เพราะหวังว่าวันที่รสสุคนธ์ได้สมบัติแล้วจะแบ่งให้เธอบ้าง ชีพท้าทายลั่นทมอยู่บ่อยๆ ลั่นทมบังคับให้ชีพไปที่สุสานแล้วบังคับให้นอนในโลงศพกับเธอ ทุกคนค้นหาชีพ ในที่สุดก็ได้พบว่านอนอยู่กับลั่นทมในโลงศพ ชีพกับรสสุคนธ์ตัดสินใจหนีไปอยู่ที่อื่น แต่ความจริงแล้วรสสุคนธ์จะหาหมอผีเก่งๆ มาปราบลั่นทมให้ได้ ลั่นทมสั่งสอนชีพกับรสสุคนธ์ให้ขับรถวนเวียนไม่ไปไหนเสียที ในที่สุดก็ประสบอุบัติเหตุร้ายแรงต้องรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล หวานกับอุษาไปหาจรัล ซึ่งสนใจเรื่องวิญญาณ จนสามารถติดต่อกับวิญญาณได้ อุษาต้องการให้จรัลติดต่อกับลั่นทม ขอร้องให้ลั่นทมอย่าทำบาปเพิ่ม แต่ลั่นทมไม่ยอมมาพบ ลั่นทมหลอกชีพในโรงพยาบาล อุษาเห็นว่าวิธีเดียวที่จะทำให้วิญญาณของลั่นทมยุติความแค้นได้ก็คือจ้างรสสุคนธ์ให้ออกไปจากชีวิตของชีพ โดยให้จรัลไปเจรจาให้ รสสุคนธ์อยู่ในภาวะสิ้นไร้ไม้ตอกจึงตกลง แต่แผนเสียเพราะพี่สาวของจรัลคิดว่ารสสุคนธ์ให้ท่าจรัล หลังจากพลาดหวังสมบัติของลั่นทมมา ทั้งสองมีปากเสียงกัน รสสุคนธ์ผิดหวังจึงตัดสินใจกลับไปอยู่กับชีพที่คฤหาสน์ของลั่นทมอีกครั้ง แต่ก็ยังไม่ละพยศเหมือนเดิม ลั่นทมจึงสั่งสอนชีพด้วยการบังคับให้ลงไปอยู่ในโลงศพกับเธออีกครั้งโดยที่ไม่มีใครรู้ ส่วนรสสุคนธ์แอบเอาเครื่องเพชรและทองคำของลั่นทมไปขาย หวังว่าได้เงินจะหนีไป แต่ร้านทองบอกว่าเพชรทองเหล่านั้นเป็นของปลอม รสสุคนธ์รู้ว่าถูกลั่นทมแกล้ง รสสุคนธ์ไปหาจรัลเพื่อขอเงิน จรัลช่วยแต่ไม่ยอมจัดการกับวิญญาณของลั่นทมตามที่รสสุคนธ์ขอร้อง แต่เงินที่จรัลให้มาเมื่อถึงบ้านก็พบว่าเงินเหล่านั้นกลายเป็นกระดาษ รสสุคนธ์ยิ่งแค้น อุษาเห็นชีพหายไปจึงขอให้หมอผันติดต่อกับวิญญาณของลั่นทม จึงรู้ว่าลั่นทมกักขังชีพไว้ แต่ด้วยความสงสารลั่นทมและเห็นถึงความร้ายกาจของชีพจึงไม่ยอมบอกใคร แม้จะมีคนสงสัยว่าชีพน่าจะถูกลั่นทมกักไว้ในสุสานแต่ก็หาตัวชีพไม่พบ เพราะลั่นทมพรางตัวไว้ หมอผันบอกให้ลั่นทมรู้ถึงบาปกรรม ลั่นทมรับปากว่าจะไม่ฆ่าใครอีก เพียงแต่ต้องการให้ชีพสำนึกผิด อุษาสงสัยว่าเครื่องเซ่นที่นำมาไว้หน้าโลงศพของลั่นทมหายไปทุกวัน จึงแน่ใจว่าลั่นทมกักตัวไว้ จึงขอให้จรัลช่วย แต่จรัลได้รับการขอร้องจากลั่นทมอีก จึงไม่ยอมบอกใครว่าชีพอยู่ในสุสาน รสสุคนธ์สงสัยจึงไปหาหมอผีมาจัดการกับลั่นทม แต่ทั้งพระและหมอผีไม่ยอมมาจัดการลั่นทม เพราะต่างก็สำนึกในคุณความดีของลั่นทมเมื่อครั้งเธอยังมีชีวิตอยู่ จึงหันมาเล่นงานอุษากับ ธารินทร์ให้แยกจากกัน แต่ก็ทำไม่สำเร็จ ลั่นทมหลอกรสสุคนธ์จนแทบบ้า ชีพอ้อนวอนลั่นทมให้ปล่อยเขาไป ลั่นทมต่อรองให้เอารสสุคนธ์มาอยู่ในสุสานแทนชีพ รสสุคนธ์ไม่ยอม ชีพจึงเห็นความเห็นแก่ตัวของรสสุคนธ์ รสสุคนธ์ซมซานออกไปจากบ้านแต่ไม่ยอมละความพยายามที่จะจัดการกับลั่นทมให้ได้ จึงไปพบสัปเหร่อ ขอให้สัปเหร่อหาหมอผีเก่งๆ ให้ โดยยอมหลับนอนกับสัปเหร่อ แต่หลังจากเสียตัวไปแล้ว สัปเหร่อกลับไม่ช่วย รสสุคนธ์เจ็บใจมาก ใส่พระเครื่องไปในสุสาน ลั่นทมกลัวอิทธิฤทธิ์ของพุทธคุณ แต่ก็ตัดสินใจกระชากสร้อยคอรสสุคนธ์จนขาด รสสุคนธ์ถูกลั่นทมบังคับให้เข้าไปอยู่ใต้โลงศพ น้ำเหลืองจากศพของลั่นทมหยดใส่หน้ารสสุคนธ์ จากนั้นลั่นทมก็จัดการขังรสสุคนธ์กับชีพให้อยู่ด้วยกันในโกดังเก็บศพในวัด ทั้งสองหิวโหยต่างแย่งเครื่องเซ่นโลงศพกัน ในที่สุดชีพก็ตัดสินใจฆ่ารสสุคนธ์จนตาย ส่วนชีพเป็นบ้า อุษาตัดสินใจเผาศพลั่นทมเพื่อยุติความแค้นทุกอย่าง ลั่นทมปรากฏตัวให้ทุกคนเห็น อวยพรและขอบใจทุกคน พร้อมยกสมบัติทุกอย่างให้แก่อุษา

ข้าวนอกนา 2534

ข้าวนอกนา (2534/1991) - ดำ (ดำตับเป็ด ดลินหรือดอลลี่) เป็นลูกนิโกรที่ไม่มีใครต้องการ ถูกซื้อตัวไปใช้งานเป็นเด็กรับใช้ในบ้านถูกกดขี่ทั้งแรงงานและจ ิตใจ ขณะที่ เดือน เป็นลูกฝรั่งหน้าตาสวยงามเหมือนตุ๊กตา ที่ได้รับการเลี้ยงดูอย่างลูกบุญธรรมของครอบครัวที่มีเกียรติแล ะร่ำรวย - สีผิวของดำ ก่อให้เกิดปมด้อยจากการถูกเหยียดผิว และส่งผลให้ดำเติบโตมาอย่างไร้รัก และกลายเป็นคนที่เต็มไปด้วยความก้าวร้าว เกลียดชัง อิจฉาริษยา และอาภัพในเรื่องความรักตลอดเวลา แต่พรสวรรค์ที่มากับพันธุกรรม ทำให้ดำกลายเป็นนักร้องสาวที่เปี่ยมความสามารถ - ขณะที่ความงามของเดือน(เดือนไขแสง) ทำให้เธอโดดเด่น เป็นที่รักของผู้คนโดยไม่เว้นแม้แต่พ่อบุญธรรมของเธอ และกลายเป็นเครื่องทำลายความสุขในชีวิตของเดือนไปในที่สุด - เส้นทางชีวิตของตัวละครทั้งสองนี้ดำเนินไปอย่างเข้มข้น มีรสชาติ ทั้งความเผ็ดร้อนรุนแรงจัดจ้าน หวานซึ้ง เศร้าสะเทือนใจ ตลกขบขัน เสียดสี และสะท้อนสังคม และยังมีแง่คิด ที่คมคายลึกซึ้งหลายมิติ

ขมิ้นกับปูน 2533

ขมิ้นกับปูน (2533/1990) เมื่อปี พ.ศ.2486 ความเปลี่ยนแปลงด้านการเมืองและสังคมเกิดขึ้นในเมืองไทย แต่ยังคงมีสิ่งหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงตามกาลเวลาเลย คือความเกลียดชังระหว่างตระกูล พระยาอภิบาลบำรุง และตระกูลหลวงวิจิตร ศิลปาการ สาเหตุเนื่องมาจากคุณแม่ของพระยาอภิบาลบำรุง ได้หนีตามคุณพ่อของหลวงวิจิตรไป ซึ่งนำความเสื่อมเสียมายังตระกูลของพระยาอภิบาลอย่างยิ่ง พระยาอภิบาลมีบุตรชาย 1 คน คือพระนิติรักษ์ธรรมสถิต (ปรุง) และธิดา 3 คน คือ คุณปริก คุณจำปา และคุณปีบ ซึ่งครองความเป็นสาวจนกระทั่งปัจจุบัน ในรุ่นหลานของตระกูล ซึ่งเป็นลูกของพระนิติรักษ์ ได้แก่สามสาวปัทมา ปวีณา และปารมี เมื่อทางราชการเปลี่ยนแปลงไม่ให้มีการใช้ยศถาบรรดาศักดิ์อีก พระนิติรักษ์ ทนไม่ได้จึงลาออกจากราชการ ฝ่ายพระยาอภิบาลก็เกษียณแล้ว ทำให้ตระกูลอภิบาลบำรุงเริ่มเสื่อมถอย เงินทองร่อยหรอ ผิดกับตระกูลของหลวงวิจิตร ที่เจริญมั่งคั่งขึ้นทุกวัน ปวีณา เป็นเด็กสาวช่างฟ้อง อิจฉาปัทมาพี่สาว จึงฟ้องพระยาอภิบาลว่าปัทมาแอบคบกับทานตะวันและธนา หลานและลูกของหลวงวิจิตร ปัทมาจึงถูกเฆี่ยนตีอย่างหนัก จนเริ่มเก็บกด แข็งกระด้างและเจ้าทิฐิโดยไม่รู้ตัว ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 พระนิติรักษ์ทำการค้า และถูกโกง ยิ่งทำให้พระยาอภิบาลกลุ้มใจหนัก ในระหว่างนั้นเอง ปัทมาขออนุญาตไปเรียนต่อที่ศรีราชา กับเพื่อนรัก ทานตะวัน ที่นั่นเอง ปัทมาพบรักกับคุณธนา น้าของทานตะวัน เมื่อพระยาอภิบาลทราบเรื่อง ปัทมาถูกตบตีอย่างรุนแรง หลังจากนั้นปัทมาถูกจับไปบวชชี ทานตะวันและธนาช่วยปัทมาหนีออกจากวัดได้ ปัทมาได้แต่งงานกับธนาในที่สุด พระยาอภิบาลโกรธแค้นมาก ตัดปัทมาออกจากตระกูลเวลาผ่านไป ปวีณา และปารมีเริ่มเป็นสาว ปวีณา แอบอิจฉาปารมีที่สวยกว่าตน แต่ปวีณาเป็นที่โปรดปรานของคุณปู่และคุณพ่อ จึงได้รับอนุญาตให้เรียนต่อมหาวิทยาลัย ส่วนปารมีให้เรียนถึงมัธยมแปดเท่านั้น ปวีณา ได้พบกับแทนพงศ์ หลานของหลวงวิจิตรที่เพิ่งจบการศึกษาจากเมืองนอก และมาเป็นอาจารย์พิเศษของปวีณา ปวีณาได้ที่อยู่ของปัทมา เธอจึงไปเยี่ยมพี่สาว และนำความไปบอกเจ้าคุณปู่กับคุณพ่อ พระนิติรักษ์จึงมาพาตัวปัทมากลับไป ปัทมาเสียใจที่ถูกพรากจากสามี เธอตรอมใจจนผูกคอฆ่าตัวตาย แต่คุณปีบมาช่วยไว้ทัน วันหนึ่งปัทมาเห็นรูปถ่ายของธนากับทานตะวัน เพื่อนรัก ปัทมาเข้าใจว่าเพื่อนรักแย่งสามีตน เธอจึงกินยาฆ่าตัวตายอีกครั้ง แต่ทุกคนช่วยไว้ได้ทัน สภาพจิตใจของปัทมาแย่ลงทุกที ทันพันธุ์ หลานอีกคนหนึ่งของตระกูลหลวงวิจิตร แอบชอบปารมีอยู่ ทันพันธุ์มาร่วมงานทำบุญเลี้ยงพระ เพื่อเปิดร้านอาหารของคุณทั้ง 3 นาง และมีโอกาสพูดคุยกับพระยาอภิบาล พระยาอภิบาลไม่ทราบว่าทันพันธุ์เป็น หลานศัตรู ทั้งคู่พูดคุยกันถูกคอ เมื่อพระยาอภิบาลรู้ความจริงว่าทันพันธุ์เป็นใคร ก็มิได้จงเกลียดจงชังมากนัก ธนาส่งจดหมายหย่าให้ปัทมา เป็นเหตุให้ปัทมาช็อค กลายเป็นคนบ้า ทันพันธุ์ทนไม่ได้จึงเขียนจดหมายไปต่อว่าธนากับทานตะวัน ทานตะวันสำนึกได้ และขอให้ธนากลับไปหาปัทมา แต่พระยาอภิบาลยอมรับธนาไม่ได้ จึงขับไล่ธนากลับไปทันพันธุ์ขอปารมีแต่งงาน พระยาอภิบาลมีข้อแม้อยู่ว่าทันพันธุ์ต้องเปลี่ยนมาใช้นามสกุลของท่าน และวันแต่งงาน รดน้ำสังข์ ห้ามไม่ให้ญาติทันพันธุ์มาร่วมงาน ทันพันธุ์ยอมรับข้อเสนอทุกประการ วันฉลองงานแต่งงานมาถึง ญาติพี่น้องของทันพันธุ์ไปจัดงานกันที่อื่น ที่บ้านของพระยาอภิบาลช่างเงียบเหงาเหลือเพียงแต่ปัทมา ที่เป็นคนวิกลจริตไปแล้ว โดยที่ท่านไม่ยอมรับรู้เลยว่า ปัทมาต้องมาเป็นเช่นนี้ เพราะความอาฆาต พยาบาทที่ท่านมีต่อตระกูลหลวงวิจิตร ที่เป็นเสมือนขมิ้นกับปูนนั่นเอง

ผู้หญิงแถวหน้า 2533
บัวแล้งน้ำ 2533

บัวแล้งน้ำ (2533/1990) บัวแล้งน้ำ เป็นเรื่องของผู้หญิง 5 คน ที่มีปมชีวิตแตกต่างกัน แต่ได้รับการอุปการะจาก”คุณท่าน”ให้เติบโต ปมชีวิตที่แตกต่างกันของแต่ละคนทำให้ทางเดินของชีวิตไม่เหมือนกัน บางคนดีขึ้น บางคนแย่ลง แต่นั่นขึ้นอยู่กับว่า ยอมรับทางชีวิตของตัวเองได้แค่ไหน

ทูตมรณะ 2533

ทูตมรณะ (2533/1990) ทูตมรณะ เป็นเรื่องของมือสังหารชื่อ เทพกร คำนึง(รับบทโดย สรพงศ์ ชาตรี) เดิมเป็นคนดี ฐานะยากจนแต่ไม่รู้ว่าพ่อคือใคร แต่ก่อนที่แม่ของเทพกรจะตาย ได้ทิ้งปริศนาไว้ว่าพ่อคือดาวคุกที่หายสาบสูญ เทพกรจึงตั้งใจตามหาแต่ชีวิตขาดที่พึ่ง ซ้ำยังเจอความอยุติธรรม เทพกรจึงเดินเข้าหาอาชีพทุจริต เป็นมือปืน โดยมีเจ้าพ่อเป็นหนุนหลัง แต่ แล้ว เทพกรพยายามกลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดี เมื่อได้หลงรัก รติการ (รับบทโดย จารุณี สุขสวัสดิ์) และพบว่า อำรุง คำนึง (รับบทโดย สมบัติ เมทะนี) ซึ่งเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่คือพ่อของเขา แต่เรื่องกลับกลายเป็นว่า รติการคือเมียน้อยของพ่อ และผู้ใหญ่ที่คอยหนุนหลังเจ้าพ่อคือพ่อของเขาเอง ซ้ำยังเปิดทางให้ตำรวจ(รับบทโดย จอนนี่, อธิวัฒน์, รณ)สังหารตน เพราะไม่รู้ว่าเทพกรคือลูก

สมการวัย 2532
เจ้าสาวในชุดสีดำ 2532
สงครามเงิน 2532

สงครามเงิน (2532/1989) "ทุกอย่างที่ ""เอริณ"" กระโจนลงไปสู้อย่างทรหดในชีวิตไม่ว่าจะเป็นความรัก การงาน อนาคตหรือความใฝ่ฝัน มันคือสงคราม ที่ต้องเผชิญหน้าเพื่อให้ได้มา แล้วในที่สุดอะไรต่อมิอะไรก็หนีไม่พ้น เงิน...เงิน...เงิน...สำหรับเอริณแล้ว เธอเรียกสงครามชนิดนี้ว่า...""สงครามเงิน""

จ้าวพ่อกรรมกร 2532

จ้าวพ่อกรรมกร (2532/1989) จ้าวพ่อกรรมกร เรื่องราวการต่อสู้ของผู้ใช้แรงงาน

สายลับสองหน้า 2532
เวิ้งระกำ 2531

เวิ้งระกำ (2531/1988) ชีวิตชายหนุ่มผู้เพียบพร้อมไปด้วยรูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติ และสติปัญญา กลับต้องจมดิ่งลงสู่หุบเหวแห่งทุกข์ ด้วยฤทธิ์ของอบายมุข นำความชอกช้ำระกำใจมาสู่บุพการีและหญิงสาวอันเป็นที่รัก

มุกดามะดัน 2531
ตะรุเตา 2531

ตะรุเตา (2531/1988) ตะรุเตา เป็นเรื่องราวของเอื้อย นักโทษการเมือง ที่ต้องย้ายจากบางขวางไปอยู่เกาะตะรุเตา ซึ่งที่นั่นต้องพบกับความยากลำบากต่างๆ มากมาย จากผู้คุม และเหล่านักโทษด้วยกัน

มายา 2531
Placeholder