ด้วยแรงอธิษฐาน 2561

ด้วยแรงอธิษฐาน (2561/2018) ก่อนลมหายใจสุดท้ายของวรดา (นิษฐา จิรยั่งยืน) หญิงสาวผู้อาภัพจากชาติกำเนิดจะสิ้นสุดลง เธอรวบรวมแรงอธิษฐานด้วยจิตใจอันแน่วแน่ และสงบนิ่ง ดวงตาฉายแววแค้นพยาบาท วรดาอธิษฐานว่า “ชาตินี้ลูกเกิดมาโง่เขลาจนต้องมาตายอนาถแบบนี้ ถ้าชาติหน้ามีจริง ลูกขออธิษฐานให้ลูกมีพลัง มีอำนาจที่แข็งกล้าเหนือใคร ชาตินี้เขาพรากชีวิตลูกไป แต่ชาติหน้าลูกสาบานว่าจะขอเอาคืน!” นัทธมน(นิษฐาน จิรยั่งยืน)นอนฝันร้ายทุกคืน เพราะเห็นภาพหญิงสาวที่ตายอย่างทุกข์ทรมานในฝัน และยังเห็นข้าวของในห้องลอยเต็มห้อง ด้วยพลังจิตของเธอเอง มนทิรา (มยุริญ ผ่องผุดพันธ์) แม่ของเธอเล่าให้ลูกสาวฟังว่าพลังพิเศษของนัทธมน มีมาตั้งแต่เด็กแล้ว โดยนิกร (ตระการ พันธุมเลิศรุจี)พ่อของนัท และ มนทิรา ได้พบกับพระธุดงค์ บอกว่าเป็นกรรมเก่าในอดีตของนัท ขอให้นัทธรู้จักให้อภัย ละความโกรธเกลียดชัง ชีวิตจึงจะพบความสงบ เหตุการณ์ประหลาดยังคงเกิดขึ้นทุกครั้งที่นัทฝันร้าย ในความฝันเธอคือวรดา ลูกสาวของนายพลประพจน์ (ทรงสิทธิ์ รุ่งนพคุณศรี)นายทหารจากตระกูลเก่ากับวารี (อาภาศิริ นิติพน) เด็กรับใช้ในบ้าน ประพจน์แต่งงานกับคุณหญิงผกา (ชนานา นุตาคม) และมีลูกสาวอีกคนคือผาณิต (ปารีณา บุศยศิริ) ซึ่งมีนิสัยเอาแต่ใจตัวเอง และเกลียดพี่สาวต่างแม่อย่าง วรดามาก คอยหาเรื่องตลอดเวลา รวมทั้งไม่พอใจที่กฤตย์ (เจษฎาภรณ์ ผลดี)สถาปนิกหนุ่มตระกูลดีที่อยู่บ้านติดกัน กลับชอบวรดามากกว่าเธอ โดยที่ผาณิตรวมหัวกับแกมแก้ว (พัชรินทร์ ศรีวสุภิรมย์) น้องสาวของกฤตย์คอยกลั่นแกล้งวรดา แกมแก้วพอใจที่ผาณิตอยู่ในคำสั่งของเธอ ก็เลยคอยสนับสนุนให้สมหวังกับพี่ชาย แม้ว่ากฤตย์จะไม่เคยสนใจผาณิตเลยก็ตาม แกมแก้วมีใจชอบผู้กองปิติ (สุพจน์ จันทร์เจริญ)นายทหารหนุ่มที่ชอบมาช่วยงานนายพลประพจน์ที่บ้านเสมอ แต่ขณะเดียวกันปิติกลับมีใจให้วรดา คอยไปมาหาสู่เสมอ แต่วรดาก็นับถือปิติเหมือนพี่ชายเท่านั้น กลับมีใจให้กับกฤตย์มากกว่าการช่วยเหลือ เห็นอกเห็นใจกัน ทำให้วรดาและกฤตย์รักกันอย่างหมดหัวใจ เย็นวันหนึ่งกฤตย์นัดให้วรดาไปเจอที่รั้วหลังบ้าน ซึ่งทั้งสองแอบพบกันเป็นประจำ วรดาไปตามนัด แต่ยังไม่ทันพบกฤตย์วรดาก็หมดสติล้มลงจากการถูกของแข็งฟาดอย่างแรง และเมื่อเธอตื่นขึ้นมาอีกครั้งพร้อมความระบมที่ศีรษะก็พบว่าตัวเองอยู่ในหลุมหลบภัยอันหนาวเย็น ซึ่งมีเพียงเธอและเขาเท่านั้นที่เคยมา นัทธมนตกใจตื่นพร้อมคราบน้ำตาจากความหนาวเหน็บและหิวโหยอย่างสุดทรมาน เธอมั่นใจว่าชาตินี้เธอเกิดมาพร้อมพลังพิเศษ และความสามารถในการรำลึกอดีตเพื่อจะมาแก้แค้นทุกคนที่ทำร้ายเธอ โดยเฉพาะกฤตย์ ผู้ชายที่เธอทั้งรักและเทิดทูน แต่กลับหยิบยื่นความตายให้เธออย่างเลือดเย็นนัทธมนได้พบกับกฤตย์เป็นครั้งแรก ในวันที่เขามารับถุงแป้ง (ภัทรากร ตั้งศุภกุล)เพื่อนสนิทของเธอ ซึ่งเป็นหลานสาวของกฤตย์ ลูกของเกตุมณี (สโรชา วาทิตตพันธ์)และปิติ และมีโอกาสได้เจออีกครั้งเมื่อนัทธมนไปสมัครงานเป็นเลขาของกฤตย์ โดยการแนะนำของถุงแป้ง ทำให้กฤตย์ดีใจที่ได้เจอกับนัทธมน และรู้สึกว่านัทธมนต้องมีบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับวรดาอย่างแน่นอน กฤตย์รับนัทธมนเข้าทำงานทันที สร้างความสับสนในใจให้กับนัทธมนเพราะทั้งดีใจ และหวาดกลัวกับอนาคตที่จะต้องทำงานกับคนที่อาจเคยฆ่าเธอเมื่อชาติก่อน นัทธมนเริ่มทำงานกับกฤตย์ โดยที่นัทธมนพยายามสืบเรื่องราวของวรดาที่เกี่ยวกับครอบครัวของกฤตย์ แกมแก้ว มีลูกสาวชื่อลินจันทร์(ด.ญ.จิตณิตา เต็มอุดมภาค) เด็กหญิงวัย 9 ขวบ ที่มีอาการทางจิต ไม่ยอมพูดจาจนหลายคนคิดว่าเป็นใบ้แต่เมื่อเจอกับนัทธมน กลับเรียกชื่อวรดา จนทำให้แกมแก้วแปลกใจมากและด้วยหน้าตาของนัทธมน ก็ทำให้แกมแก้วรู้สึกไม่ชอบนัทธมน ไม่เว้นแม้แต่เกตุมณี เพราะอดีตปิติ ก็เคยชอบและหลงรักวรดามาก่อน นัทธมนเล่าเรื่องความฝันและครอบครัวของกฤตย์ให้กับติสรณ์ หรือ เต้ย (จิตรภาณุ กลมแก้ว) เพื่อนชายคนสนิทฟัง ทำให้เต้ยพยายามเกลี้ยกล่อมให้นัทธมนลืมเรื่องราวในอดีต และเลิกแค้นใคร นัทธมนยอมรับว่าเต้ยพูดเหมือนกับมนทิรา แม่ของเธอ พนักงานในบริษัทไม่ว่าจะเป็นพิษณุ (พิษณุ นิ่มสกุล) ผู้ช่วยของกฤตย์ แล้วก็สาวๆพนักงานฝ่ายขายสวยเฉี่ยว บงกช (นนทพร ธีระวัฒนสุข) และ กิ่งกาญจน์ (พริมาภา กรโรจนชวิน) รวมทั้งบอลลูน (จักรพันธ์ ตัณฑะสุวรรณะ) พีอาร์หนุ่ม จริตออกสาวและหัวหน้าฝ่ายบัญชีพี่น้ำหวาน (จรรยา ธนาสว่างกุล) ต่างก็แปลกใจที่กฤตย์รับเลขาสาวสวยที่เพิ่งเรียนจบมาหมาดๆอย่างนัทธมน ขณะที่กฤตย์มีความรู้สึกดีดีให้กับนัทธมน เหมือนที่เคยมีกับวรดามาก่อนทำให้ปณิตา (เบญจวรรณ อาร์ตเนอร์) ม่ายสาวสวยเซ็กซี่ ซึ่งชอบกฤตย์มานานและไปมาหาสู่เป็นประจำไม่พอใจ ปณิตาเคยคิดจะทำร้ายนัทธมน แต่ก็โดนพลังพิเศษของนัทธมนทำร้ายกลับไป เธอหาว่านัทธมนเป็นผี ปีศาจ แต่กฤตย์ไม่เชื่อ กฤตย์พานัทธมนเดินดูรอบบริษัท นัทธมนยืนตะลึงกับความเปลี่ยนแปลงของสวนหลังบ้านที่บัดนี้ไม่มีแล้วหลุมหลบภัย “ที่ตาย” ของเธอ แต่กลับกลายเป็นสระว่ายน้ำ อาการของนัทธมน ทำให้กฤตย์เกิดความสงสัย โดยเฉพาะเมื่อเธอหลุดปากว่าน้ำในสระนั้นคงหนาวเย็นเหมือนในหลุม กฤตย์ตกใจกับคำพูดของนัทธมน แต่ไม่สามารถหาคำอธิบายอะไรจากเธอได้ กฤตย์ต้องเดินทางไปหลวงพระบาง เพื่อดูการก่อสร้างโรงแรมของสิงหนาท (หลุยส์ สก๊อต) เพื่อนรุ่นน้องที่รู้จักกันสมัยอยู่ต่างประเทศ นัทธมนเดินทางไปด้วย แต่ระหว่างเดินทางบนเครื่องบิน นัทธมนอึดอัดกับพื้นที่แคบๆจนหน้าซีดวิงเวียนและอาเจียนจนหมดสภาพ โดยมีกฤตย์คอยดูแลอย่างใกล้ชิดและเป็นห่วง แม้นัทธมนจะปฏิเสธความเอาใจใส่นั้นก็ตาม กฤตย์ดูแลเอาใจใส่ตลอดเวลาจนถึงโรงแรมที่พัก แต่ความกดดันในใจ นัทธมนปฏิเสธการดูแลจากเขา แถมกล่าวหาว่ากฤตย์เป็นคนที่ทิ้งให้เธอต้องตายในที่แคบที่เขาเคยฆ่าเธอมาแล้ว ทำให้กฤตย์แปลกใจมาก แต่นัทธมนไม่ยอมพูดอะไรต่อ แต่นัทธมนก็แสดงออกถึงความเกลียดชัง แม้บางครั้งเผลอใจรู้สึกดีต่อกฤตย์ก็พยายามปกปิดเอาไว้ กฤตย์เก็บความสงสัยเอาไว้ ระหว่างไปทำธุระที่หลวงพระบาง สิงหนาท และ คำรณ (อัศนัย เทียนทอง) ผู้ช่วยของสิงหนาทคอยเอาใจใส่ พาเที่ยว พาไหว้พระ กฤตย์และนัทธมนรู้สึกมีความสุข แต่นัทธมน พยายามห้ามใจตัวเอง เรื่องราวความรัก ความแค้นในชาติอดีตจนมาถึงปัจจุบันของกฤตย์และนัทธมน จะลงเอยอย่างไร ใครคือคนที่ฆ่าวรดากันแน่ ต้องติดตามชมในด้วยแรงอธิษฐาน…

เพลิงนรี 2559

เรื่องย่อ : เพลิงนรี (2559/2016) พันตำรวจตรีธีภพ (เจษฎาภรณ์ ผลดี) สังกัดหน่วย อรินทราช 26 (S.W.A.T) เป็นหน่วยตำรวจที่มีความเชี่ยวชาญการใช้อาวุธและยุทธวิธีพิเศษ มีขีดความสามารถในการปฏิบัติการพิเศษต่อภัยคุกคามที่เป็นอาชญากรรมและการก่อการร้าย ลูกชาย พลตำรวจโทธเนศ(ทูน หิรัญทรัพย์) ผู้บัญชาการตำรวจหน่วยพิเศษผู้เคยเข้าร่วมในปฏิบัติการรักษาสันติภาพ ที่ประเทศไทรจีสช่วงที่มีการก่อการกบฏ เมื่อ 17 ปีก่อน จนธเนศเกษียรออกมาดูแลธุรกิจอย่างเต็มตัว และเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นของบริษัทบูรพเกียรติ บริษัทส่งออกเครื่องประดับเพชรชื่อดัง ธีภพเจริญรอยตามพ่อในเรื่องการเป็นตำรวจ

ท่ามกลางความไม่สบายใจนักของวิวรรณ (รัชนี ศิระเลิศ)ผู้เป็นแม่ ที่ไม่อยากให้ลูกทำงานเสี่ยงอันตราย จนเมื่อธเนศทำงานหนักเริ่มมีอาการโรคหัวใจ ทำให้วิวรรณกังวลใจมากยิ่งขึ้น จึงขอร้องให้ธีภพลาออกจากราชการตำรวจมาทำงานแทนธเนศเพราะเป็นลูกชายคนเดียว ธีภพรักพ่อมาก จึงจำใจลาออกจากราชการตำรวจเพื่อมาทำงานแทนพ่อ ธเนศจึงตัดสินใจส่งธีภพไปทำงานที่ท้าทายเพื่อดูว่าลูกชายจะสานต่องานนี้ได้ดีแค่ไหน โดยให้ธีภพศึกษาวิกฤตของบริษัทบูรพเกียรติที่กำลังขาดทุน ด้วยความสัมพันธ์ที่สนิทสนมกันมาตั้งแต่สมัยรุ่นพ่อกับครอบครัวบูรพเกียรติ ทำให้ธเนศจำต้องยื่นมือให้ความช่วยเหลือ และให้ธีภพเดินทางไปไทรจีส ประเทศบนเกาะเล็ก ๆ ที่กำลังมีนโยบายเปิดประเทศ ให้นักธุรกิจต่างชาติเข้ามาดูงานตลาดการค้าของที่นี่ ธีภพต้องไปศึกษาหาลู่ทางสำหรับช่องทางขยายธุรกิจที่นั่นเพื่อแก้วิกฤตของบูรพเกียรติ ซึ่งไทรจีสเพิ่งยอมเปิดประเทศให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจ ธีภพเดินทางไปครั้งนี้โดยไม่รู้เลยว่านี่คือบุพเพสำคัญในชีวิต ที่จะทำให้เขาได้ค้นพบหัวใจตัวเอง

ที่ไทรจีส เจ้าหญิงพริริสา (ดาวิก โฮร์เน่) หญิงสาวสายเลือดไทยแท้ ได้รับการแต่งตั้งเป็นพระราชกุมารี เมื่ออายุครบ 22 ปี โดย กษัตริย์ราอิล(เกรียงไกร อุณหะนันทน์) แม้ชีวิตเธอจะเหมือนความฝันแต่วัยเด็กกลับมีชีวิตผกผันและน่าสงสารที่ทำให้เธอและ พีรดา(เพ็ญพักตร์ ศิริกุล) ผู้เป็นแม่ระหกระเหินมาอาศัยอยู่ที่ไทรจีส จนกระทั่งพีรดาได้พบรักใหม่และอภิเษกสมรสกับกษัตริย์ราอิล เมื่อ 17 ปีก่อน เป็นช่วงเวลาที่กษัตริย์ราอิลเพิ่งสูญเสียพระชายาไปไม่นาน และมีลูกชายเพียงคนเดียวคือ เจ้าชายคามิน(เกริกพล มัสยวาณิช) ที่จะเป็นองค์รัชทายาทแห่งไทรจีสคนต่อไป พริริสาหวนระลึกถึงวัยเด็กอีกครั้ง แผลเป็นที่ข้อมือเธอเป็นอีกสิ่งที่ย้ำเตือนไม่ให้ลืมเลือนว่าเธอและแม่เคยถูก กานดา(ซินดี้ สิรินยา บิชอฟ)และคุณหญิงจินตนา(ดวงตา ตุงคะมณี) ผู้เป็นย่า ข่มขู่ ทำร้ายจะเอาชีวิต ถ้าไม่ไปให้พ้นจากชีวิตของผู้ชายที่ชื่อ คณิน(สันติสุข พรหมศิริ) บูรพเกียรติ พ่อแท้ ๆ ของเธอเอง พีรดาจึงต้องหอบหิ้วพริริสามาที่ไทรจีสเพื่อให้ไกลจากครอบครัวอดีตสามีและเริ่มต้นชีวิตใหม่

พริริสาได้เห็นภาพข่าวคณินและกรนันท์(รวีวรรณ บุญประชม) ลูกสาวอีกคนที่เกิดจากกานดาออกงานสังคมเสวยสุขกันอย่างไม่ทุกข์ร้อนก็ยิ่งโกรธที่แม่เคยโดนทำร้ายจนมีผลต่อการเจ็บป่วยกระเสาะกระแสะในปัจจุบัน แต่คนใจร้ายกลับมีความสุขโดยไม่เคยได้รับผลกรรมใด ๆ พีรดาพยายามย้ำนักหนาไม่ให้พริริสาคิดแค้นคนที่ได้ชื่อว่าพ่อ ทำให้พริริสาอัดอั้นขี่ม้าเตลิดออกไปเพื่อระบายความคับแค้นในใจ ม้าของพริริสามีอาการตื่นวิ่งออกนอกเขต ในขณะที่ธีภพมาเยี่ยมชมอุทยานสำคัญของไทรจีสตามคำเชิญของคู่ค้า ธีภพเห็นพริริสาอยู่บนม้าที่เตลิดจึงเข้าไปช่วยเอาไว้ แต่กลับถูกพริริสาหาว่ายุ่งไม่เข้าเรื่อง พร้อมขบวนรถจี๊บที่ตามมาโค้งคำนับและรับตัวพริริสากลับไป ทำให้ธีภพสงสัยว่าหญิงสาวสวยแสนเอาแต่ใจพูดภาษาไทยอย่างชัดถ้อยชัดคำคนนี้เป็นใครกันแน่

พริริสากลับวังอย่างขุ่นเคืองใจไม่สามารถทำตามคำขอของแม่ได้ ตัดสินใจไปเมืองไทยเพราะอยากเห็นคนใจร้ายได้รับผลกรรมบ้าง จึงหนีออกจากวังไทรจีสไปพร้อมกับ มิรา(มณีรัตน์ ศรีจรูญ ) พระสหายที่เรียนหนังสือและเติบโตมาด้วยกัน ธีภพกลับมาเมืองไทย รายงานเรื่องการดูงานให้ธเนศฟัง ธเนศเห็นธีภพมีแววที่จะทำธุรกิจได้ดี โดยธเนศคอยเป็นที่ปรึกษาอยู่ห่าง ๆ วิวรรณพอใจที่ธีภพไปช่วยงานบูรพเกียรติอย่างเต็มที่ ถือว่าเป็นการช่วยเหลือว่าที่พ่อตาแม่ยายไปในตัว เพราะวิวรรณทาบทามกรนันท์ไว้ให้เป็นคู่หมายกับลูกชาย ธีภพจำใจต้องไปทำงานตำแหน่งกรรมการผู้จัดการที่บริษัทบูรพเกียรติ และได้เจอผู้ช่วยเลขาคนใหม่ของคณินที่เขารู้สึกคุ้นหน้าเสียเหลือเกิน

ศจี (วิมลพันธ์ ชาลีจังหาญ) เลขาคณินแนะนำ ให้ธีภพได้รู้จักกับพริริสาผู้ช่วยเลขาคนใหม่ พริริสาจำธีภพได้ ธีภพแปลกใจว่าเคยเจอพริริสาที่ไทรจีส แต่พริริสาแกล้งทำไม่รู้เรื่อง บอกว่าเธอไม่เคยไปที่นั่น พยายามทำตัวเป็นพนักงานธรรมดาคนหนึ่งในบริษัท โดยสนิทสนมกับ ชนิตา(อนุสรา วันทองทักษ์) สาวประชาสัมพันธ์สุดเปรี้ยว บุษกร (วรินดา เขียวสลับ) พนักงานบัญชีสุดเชย และไพโรจน์(โรซี่) (จักรพันธ์ ตัณฑะสุวรรณะ) พนักงานการเงิน เพราะทั้งสามดูจริงใจและไม่ช่างซักช่างถามอยากรู้ความเป็นมาของเธอนัก แถมเม้าท์ทุกเรื่องในบริษัทที่รู้มาให้เธอฟัง

แต่นิสัยธีภพยิ่งสงสัยเขายิ่งต้องรู้ให้ได้ จึงพยายามจับตาดูพริริสาเป็นพิเศษ ขณะเดียวกันสายใยที่มองไม่เห็นทำให้คณินรู้สึกเอ็นดูพริริสาอย่างบอกไม่ถูก อาจเพราะเธอมีเค้าหน้าคล้ายพีรดาคนรักเก่าของเขาก็เป็นได้ เช่นเดียวกับ ดร.กฤษ(สมภพ เบญจาธิกุล) ปู่ของเธอที่ถูกชะตาพริริสาที่ดูเก่งกล้าและเฉลียวฉลาด สู้คน ทำให้นึกย้อนไปในอดีตหากตอนนั้นลูกสะใภ้อย่างพีรดาจะลุกขึ้นสู้เหมือนพริริสาคนนี้ คงไม่เกิดเรื่องน่าเศร้าที่หวนไปแก้ไขไม่ได้ นั่นยิ่งทำให้คุณหญิงจินตนาและกานดาไม่ถูกชะตากับพริริสาตั้งแต่แรกเห็น

ธีภพบังเอิญเห็นพริริสาเดินเข้าออกสถานทูตไทรจีส ทำให้เขายิ่งต้องรู้ให้ได้ว่าพริริสาเป็นใครแล้วทำไมต้องโกหกเขาว่าไม่เคยรู้จักประเทศไทรจีส แต่พริริสาก็ยังปากแข็งหาทางเอาตัวรอดไป กรนันท์เห็นธีภพวนเวียนใกล้พริริสาไม่ห่างก็ยิ่งเกิดความหึงหวงมีเรื่องลงไม้ลงมือกับพริริสา แต่คนอย่างพริริสาก็ไม่ยอมใคร กรนันท์จึงให้คณินไล่พริริสาออกเพื่อตัดไฟแต่ต้นลม

คณินเสียดายความสามารถของพริริสา แต่เจอกรนันท์อาละวาดใส่ หนัก ๆ เข้าก็ต้องตามใจลูกสาว ทำให้พริริสาเจ็บใจที่คณินคิดว่าเขามีเพียงกรนันท์เป็นลูกสาวเพียงคนเดียวถึงได้ทำผิดให้กลายเป็นถูก เขาคงลืมเธอและแม่ไปหมดสิ้นแล้ว เมื่อธีภพรู้เข้า เขาจึงเสนอให้พริริสามาเป็นเลขาตนเพราะเขาต้องการผู้ช่วยที่มีคุณสมบัติที่ดี พริริสากลัวสายตาธีภพที่เหมือนคอยจับผิดกลัวว่าเขาจะจำเธอได้ และรู้ว่าเธอคือเจ้าหญิงพริริสาแห่งไทรจีส แต่ก็จำใจยอมทำงานนี้เพราะการทำงานกับธีภพทำให้เธอยังรู้ความเคลื่อนไหวของบูรพาเกียรติอยู่ เพื่อหาช่องทางให้ทุกคนในครอบครัวนั้นต้องเจ็บปวดอย่างสาสม แม้พริริสาจะถูกธีภพแกล้งใช้งานสารพัดเพื่อทดสอบ แต่ด้วยคุณสมบัติทางการศึกษาและความสามารถทำให้พริริสามองออกว่าหนทางการแก้ปัญหาของบูรพเกียรติมีอะไรบ้าง ทุกสิ่งที่เธอเสนอธีภพก็มองเห็นแบบนั้นเช่นกัน

เจ้าชายคามิน รู้ว่าพริริสาหนีมาเมืองไทย ก็เดาได้ทันทีว่าพริริสามีแผนการอะไร เพราะคามินผูกพันกับพริริสามาก คามินจึงรู้ความคิดจิตใจของพริริสาอย่างดีว่ากำลังคิดจะทำอะไร ด้วยความเป็นห่วงจึงส่งไคซัจ(ทวีฤทธิ์ จุลละทรัพย์)มาคอยดูแล ทั้งที่อยากจะไปเองใจแทบขาด แต่ไทรจีสก็กำลังมีปัญหา เพราะเริ่มมีข่าวการกลับมาของพวกกบฏ เมื่อ 17 ปีก่อน คามินต้องอยู่สืบหา ราห์มาน(บิลลี่ โอแกน) อดีตพระอนุชาที่เป็นผู้นำก่อกบฏในอดีตแต่ไม่สำเร็จและกำลังคิดจะก่อการอีกครั้ง

ธีภพดึงพริริสามาอยู่ใกล้ จะได้จับผิดให้ได้ว่าพริริสาเป็นใครได้ง่ายขึ้น ยิ่งพริริสาเก่งกล้า เอาแต่ใจ รสนิยมดีเกินเลขาปกติทั่วไป ยิ่งทำให้เขาสงสัย แต่ก็ไม่สามารถจับผิดได้สักที แม้แต่ ผู้กองอธิรุธ(ธนกฤต พานิชวิทย์) เพื่อนสนิทก็ยังตามสืบอะไรไม่ได้ เพราะมิราและไคซัจคอยตามไปป่วนและกลบเกลื่อนหลักฐานทั้งหลาย ไม่ว่าอธิรุธจะไปสืบที่ไหนที่พอจะได้เบาะแสเกี่ยวกับพริริสา ที่นั่นจะต้องมีเหตุประหลาดเกิดขึ้นเสมอ ไม่ว่าจะไฟไหม้ คนหาย รวมไปถึงอุบัติเหตุต่างๆ จนอธิรุธจับได้ว่ามิราคือตัวการพยายามขัดขวาง แต่มิราไม่ยอมรับ ยืนกระต่ายขาเดียวไม่รู้เรื่อง

ธีภพเข้ามาทำงานได้ระยะหนึ่งก็เห็นปัญหาของบูรพเกียรติที่ย่ำแย่ลงเรื่อย ๆ หนทางเดียวที่จะช่วยพยุงบริษัทได้คือต้องหา แหล่งนำเข้าเพชรดิบใหม่และหุ้นส่วนใหม่มาช่วยเหลือซึ่งต้องเป็นนายทุนต่างชาติที่พร้อมมาลงทุนอุตสาหกรรมเพชรและเครื่องประดับในประเทศไทย ธีภพเสนอเรื่องนี้กับคณินเพราะตอนที่ไปดูงานที่ไทรจีสเขาพบว่าประเทศไทรจีสมีเหมืองเพชรขนาดใหญ่ แต่ไม่เคยมีนโยบายขายเพชรดิบให้ต่างชาติ แต่ตอนนี้กำลังมีนโยบายเปิดประเทศให้นักธุรกิจต่างชาติเข้าไปดำเนินธุรกิจนี้ และมีนักธุรกิจในไทรจีสหลายคนที่สนใจที่จะร่วมลงทุนในประเทศไทย

แต่คณินไม่ต้องการให้บริษัทของครอบครัวกลายเป็นของต่างชาติจึงยังลังเลใจอยู่ ความคิดเห็นในบริษัทเองก็แตกเป็นสองทางที่เห็นด้วยกับคณิน และคนที่เห็นด้วยกับธีภพเพราะนี่คือทางเดียวที่จะทำให้บริษัทอยู่ต่อไปได้ ดร.กฤษเห็นคณินลังเลใจจึงเอาจดหมายเร่งรัดหนี้สินจากธนาคารไปให้คณินดู เพราะตอนนี้คณินแทบไม่เหลืออะไรอีกแล้ว เขาจำนองที่ดินและบ้านหลังใหญ่เพื่อเอาเงินไปผ่อนผันหนี้จนหมด แล้วไหนจะเงินที่กู้ยืมจากธนาคารในต่างประเทศ ในที่สุดคณินก็ต้องจำนนยอม ธีภพจึงพาพริริสาไปไทรจีสด้วยกันเพื่อพูดคุยกับนายทุนใหม่ กรนันทร์รู้เข้าไม่พอใจ อยากตามไปด้วยจะไม่ยอมให้พริริสาได้มีโอกาสอยู่กับธีภพสองต่อสองเด็ดขาด แต่กานดาห้ามไว้ เพราะมีแผนการที่ดีกว่า แค่รอให้ธีภพกลับมา ธีภพจะหันไปสนใจผู้หญิงอื่นไม่ได้อีก

คามินรู้ว่าพริริสากลับมาไทรจีสจึงไปรับ แต่พริริสาว่าเธอมาทำงานยังกลับวังไม่ได้ ธีภพเห็นพริริสาแอบไปหาผู้ชายอื่นก็เข้าใจผิดว่าคามินเป็นคนรักของพริริสา ความหึงหวงเกิดขึ้นในใจทำให้ธีภพอดไม่ได้ต้องประชดประชันพริริสา คามินรู้ว่าธีภพเฝ้าตามดูตนอยู่กับพริริสา และรู้สึกได้ว่าธีภพคิดกับพริริสาเกินเจ้านายกับลูกน้องจึงยิ่งแกล้งแสดงความสนิทสนมกอดหอมพริริสาให้เห็น ธีภพยิ่งโกรธแสดงออกชัดว่าเขากำลังหึงหวงพริริสาอยู่ พริริสาเห็นธีภพเข้าใจผิดก็รีบบอกว่ามาหาคามินเพราะเขาคือคนที่สนใจจะมาเป็นหุ้นส่วนกับบูรพาเกียรติ ทำให้ธีภพรู้ว่าคามินคือเจ้าชายรัชทายาทแห่งไทรจีส แต่จู่ ๆ กลับมีคนร้ายเข้ามาลอบเล่นงานคามินและพริริสาอย่างจงใจ ธีภพจึงช่วยเหลือทั้งคู่เอาไว้ จนรู้ว่าเป็นคนของฝ่ายกบฏ แต่ธีภพก็ยังสงสัยว่าคนร้ายทำไมต้องคิดเล่นงานพริริสาด้วย

กษัตริย์ราอิลรู้เรื่องนี้ก็เป็นกังวลมากทั้งห่วงความปลอดภัยของคามินและพริริสา รวมทั้งเรื่องความสงบของประเทศ กลัวประชาชนจะตื่นตระหนก คามินจึงเสนอเรื่องการลงทุนร่วมหุ้นกับบริษัทบูรพเกียรติ เพื่อเป็นการแสดงให้เห็นว่าไทรจีสกำลังขยายเศรษฐกิจการค้า และยังมีประเทศไทยที่เป็นมิตรที่ดีต่อกันมาโดยตลอด เพื่อให้ฝ่ายกบฏไม่กล้าทำอะไรผลีผลาม กษัตริย์ราอิลเห็นด้วย

คามินจึงบอกข่าวดีกับธีภพ แต่ก่อนจะตัดสินใจร่วมหุ้น ทางไทรจีสจะต้องไปดูกิจการของบูรพเกียรติก่อน ธีภพว่ายินดีและจะกลับไปเตรียมทุกอย่างเพื่อต้อนรับคามิน แต่ที่สนามบินไทรจีสมีปัญหาเรื่องการประท้วง ทำให้ธีภพต้องอยู่ไทรจีสต่ออีกสองวัน พริริสาจึงอาสาพาธีภพเที่ยว เพราะนี่เป็นโอกาสที่เธอจะได้ออกมาเที่ยวอย่างสามัญชนโดยไม่มีคนตาม การได้อยู่กับธีภพทำให้พริริสาเริ่มหวั่นไหว ธีภพเองก็เช่นกัน แต่ยิ่งธีภพรู้สึกดีกับพริริสาแค่ไหน เขายิ่งต้องรู้ให้ได้ว่าตัวตนที่แท้จริงของเธอคือใคร

แต่เมื่อกลับมาเมืองไทยธีภพกลับถูกกรนันท์และครอบครัวรวบรัดเรื่องงานหมั้น โดยที่ไม่ได้ตั้งตัว ความสุขที่ไทรจีสมลายหายไปสิ้นจากใจพริริสา เพราะธีภพหมั้นกับกรนันท์ไปแล้ว คามินตามมาเมืองไทยรู้เข้าก็ดีใจที่ธีภพหมั้นกับคนอื่นไป พริริสาเสียใจที่ธีภพหมั้นกับกรนันท์จึงพยายามทำตัวออกห่าง แต่ธีภพกลับไม่ยอมให้พริริสาห่างตัว พริริสาพยายามผลักไส แต่ธีภพก็ยิ่งดึงพริริสามาใกล้อย่างอยากบอกให้รู้ว่าเขาไม่ได้เต็มใจหมั้นและคนที่เขาอยากอยู่ใกล้ไม่ใช่กรนันท์แต่เป็นพริริสา โดยอ้างเรื่องการต้อนรับเจ้าชายคามินที่จะมาดูกิจการของบูรพเกียรติ ไม่ยอมให้พริริสาไปไหน ด้านกรนันท์รู้ว่าจะมีเจ้าชายมาก็ตื่นเต้นไปด้วย

คามินรู้จักผู้หญิงแบบกรนันท์ดีจึงแกล้งให้ความหวังไปในตัว ทำให้กรนันท์ยิ่งหลงคิดไปว่าจะได้เป็นเจ้าหญิงขึ้นมารำไร แต่เมื่อเห็นคามินแสดงความเอ็นดูพริริสายามลับตาผู้คน ก็คิดไปว่าพริริสาเป็นเสี้ยนหนามที่คิดจะแย่งทั้งธีภพและคามิน กรนันท์จึงจ้างคนมาฉุดพริริสาเพื่อให้พ้นทาง ธีภพตามไปช่วยแต่กลับเจอพวกกบฏที่แอบตามมาสวมรอยจะจัดการพริริสา ธีภพยิ่งสงสัยว่าจากโจรกระจอกทำไมกลายเป็นกลุ่มคนร้ายที่น่ากลัวและพวกมันก็คือกบฏจากไทรจีส

ธีภพพาพริริสาหนีมาหลบที่บ้านพักตากอากาศของตน และยึดมือถือ ห้ามพริริสาติดต่อใคร หวังจะคาดคั้นให้รู้ความจริง แต่พริริสาไม่ยอมปริปากพูด ธีภพทำทีใจร้ายกลั่นแกล้งพริริสาสารพัดหวังให้เธอกลัวและพูดความจริงออกมา แต่คนใจแข็งและมุ่งมั่นกับแผนการไม่ยอมปริปากง่าย ๆ พริริสายอมทนให้ธีภพแกล้งเธอจนป่วยเพราะพิษไข้ ธีภพจึงต้องมาดูแลพริริสาอย่างรู้สึกผิด ยามพริริสาไร้พิษสงเธอดูน่ารัก ยามอ่อนแอเช่นนี้ดูอ่อนหวาน จนเขาไม่อยากแกล้งเธออีก ความอ่อนโยนของธีภพทำให้พริริสาหวั่นไหวยิ่งขึ้น ทั้งคู่ต่างแอบคิดหากหยุดเวลาที่บ้านพักหลังนี้ไว้ได้ก็คงดี

มิราเห็นพริริสาหายไป พยายามสืบจากอธิรุธก็ไม่ได้อะไร จึงร้อนรนเป็นกังวลใจมากรีบไปรายงานคามิน ขณะเดียวกันทางไทรจีสรู้เรื่องพวกกบฏราห์มานเข้ามาไทยเพื่อมุ่งร้ายคามินและพริริสาจึงตัดสินใจติดต่อกับรัฐบาลไทยเพื่อขอกำลังคุ้มกัน โดยมีผู้การเอกสิทธิ์เป็นคนดูแลเรื่องนี้ ด้านธีภพแอบติดต่อกับอธิรุธและผู้การเพื่อรายงานเรื่องกบฏไทรจีสที่เข้ามาในไทย ซึ่งเรื่องนี้ทางหน่วยได้ข่าวมาบ้างแล้วและกำลังจัดกำลังคนคุ้มครองเจ้าชายคามินและเจ้าหญิงตามที่ทางไทรจีสร้องขอ

อธิรุธพยายามจะบอกธีภพว่าเจ้าหญิงคือใครแต่ก็ไม่มีโอกาส ด้านคามินรู้ว่าพริริสาอยู่กับธีภพจึงตามมาเจอจนได้ คามินโกรธจัดที่ธีภพบังอาจกักขังตัวเจ้าหญิงแห่งไทรจีสเอาไว้ ทำให้ธีภพประหลาดใจมาก คามินให้ไคซัจจับตัวธีภพเพื่อจัดการให้สาสมกับที่ทำให้เจ้าหญิงแห่งไทรจีสต้องเสียเกียรติ พริริสาตกใจมากเอาตัวปกป้องธีภพเอาไว้ หากธีภพตายเธอก็จะตายด้วย ทำให้คามินรู้ทันทีว่า พริริสาเผลอมอบหัวใจให้ธีภพไปแล้ว

ธีภพรู้ความจริงเรื่องพริริสาเป็นใครและมาทำอะไรที่บูรพเกียรติ เขาขอร้องให้เธอหยุดความคิดแก้แค้นพ่อของตัวเองเพราะความแค้นไม่เคยให้ความสุขกับใคร เมื่อถึงวันหนึ่งพริริสาเองที่จะเป็นคนเจ็บปวดที่สุด แต่พริริสาไม่ยอมหยุด ธีภพจึงตัดสินใจอาสากลับมารับหน้าที่กับผู้การเอกสิทธิ์มาอารักขาพริริสา เพราะคงไม่มีใครทำหน้าที่นี้ได้ดีเท่าเขาอีกแล้ว แม้ทั้งคู่จะอยู่ใกล้กัน แต่ความเหินห่างจากความไม่เข้าใจได้เกิดขึ้นเสียแล้ว ยิ่งพริริสาคือเจ้าหญิง คามินยิ่งคอยกรอกหูธีภพว่าเขาไม่คู่ควรกับพริริสาสักนิด และต้องการจบเรื่องนี้ให้เร็วที่สุดเพื่อพาพริริสากลับไทรจีส

เรื่องราวความรักความแค้นของพริริสาและธีภพจะลงเอยอย่างไร ก็ต้องติดตามชมกัน

พลับพลึงสีชมพู 2558

พลับพลึงสีชมพู (2558/2015) วิศรุต มรุพงษ์ (แอนดริว เกร้กสัน) เจ้าของโฮมสเตย์ Greenery Homestay พบรอยย่ำดินข้างกอพลับพลึงหน้าทางเข้าบ้าน พอแหวกดูก็พบหญิงสาวหน้าตามอมแมมซุกนอนคุดคู้หลับสนิท จึงปลุกเรียกเข้าบ้านด้วยความสงสาร เข้าใจว่าเป็นเด็กจรจัด โดยไม่รู้ว่าที่แท้เธอคือสโรชา สุนทรเกษม (อมีนา กูล) ทายาทมหาเศรษฐี ซึ่งเพิ่งกลับจากต่างประเทศ แต่ถูกโจรในคราบแท็กซี่ล่อลวงมาทำร้าย จนต้องหนีกระเซอะกระเซิงกลางสายฝนมาซุกอยู่ใต้กอพลับพลึงใหญ่ตลอดคืน สโรชาไม่บอกวิศรุตว่าตนเองเป็นใคร ปล่อยให้วิศรุตตั้งชื่อเธอว่าพลับพลึง วิศรุตให้พลับพลึงอาศัยอยู่ด้วยในฐานะคนงานใหม่ สโรชาตื่นเต้นกับบรรยากาศโฮมสเตย์ที่มีทั้งบรรยากาศริมคลอง สวนผักออร์แกนิค และคนร่วมชายคาอัธยาศัยดี ที่นี่นอกจากนายวิศรุตหน้าขรึม ยังมีประพันธ์ (กนกฉัตร มารยาทอ่อน) หนุ่มนักขายที่คิดว่าตัวเองเจ้าเสน่ห์ สุทิศ (เดชดินทร์ ฉายทองดี) บริกรจอมกะล่อน และธารา (ธงธง มกจ๊ก) หนุ่มหน้าสวยขี้ใจน้อย สามสมุนที่ทำให้ชีวิตมีสีสัน สโรชาแอบกลับบ้านไปเล่าเรื่องทั้งหมดให้พ่อฟัง นายพิสิฐ (มนตรี เจนอักษร )เป็นนักธุรกิจใหญ่มีอำนาจเงินล้นฟ้า แต่ไม่เคยขัดใจลูกสาวได้ ยอมให้ลูกเล่นสนุกกับการ แปลงกายสลับไปมาระหว่างการเป็นคุณหนูลิลลี่ที่คฤหาสน์กับพลับพลึงคนงานบ้านวิศรุต โดยมีน้ำมนต์ (สุมนทิพย์ เหลืองอุทัย) เพื่อนรักที่บินตามมาจากยุโรป เป็นผู้ช่วย สุทิศกับธาราเป็นคู่กัดขัดคอกันเป็นประจำ โดยมีประพันธ์คอยปราม สามคนล้วนฉลาดหูตาไว ทำให้พลับพลึงต้องเจ้าอุบายในการปลอมตัวมากขึ้น น้ำมนต์เตือนให้ระวังความเจ้าชู้ของประพันธ์ แต่ที่น่ากลัวกว่าคือยายหวาน (วิยะดา อุมารินทร์) ชาวสวนข้างโฮมสเตย์ ที่คอยแอบมองอย่างสอดรู้ พลับพลึงช่วยวิศรุตปลูกผักไร้ดิน เขาเปรียบงานนี้เหมือนตนเอง ที่ใช้ชีวิตโดดเดี่ยวไร้ราก พลับพลึงแอบชอบเจ้านาย ส่วนวิศรุตก็แอบพอใจในตัวสาวแสนซื่อคนยาก ต่างไม่รู้เทือกเถาเหล่ากอซึ่งกันและกัน นายพิสิฐอยากได้ที่ดินผืนใหญ่ในเขตจังหวัดนนทบุรี เพื่อพัฒนาเป็นมัลติเพล็กซ์และหมู่บ้านจัดสรรรองรับการขยายตัวของเมือง เขาให้น้ำมนต์ช่วยสืบจนรู้ว่าเจ้าของคือพระองค์หญิง (นันทวัน เมฆใหญ่) แห่งวังเทวาสถิตย์ ผู้ทรงมีกิตติศัพท์ว่าถือพระองค์ ไม่รับแขกแปลกหน้า โดยเฉพาะใครก็ตามที่คิดจะมาซื้อที่ดิน เพราะทรงมีพระประสงค์จะเก็บไว้ให้พระนัดดาที่หายไป พระองค์หญิงทรงเป็นชายาของพระองค์เจ้ามรุพงษ์ประพัฒน์ผู้วายชนม์ไปแล้ว ทรงมีหลานย่าสองคน คือ ม.ร.ว.พิริยพงษ์ (วริษฐ์ ทิพโกมุท) และ ม.ร.ว.ประสงค์สม (เปรมสินี รัตนโสภา) แม้มิใช่นัดดาแท้ๆ แต่ก็ประทานพระเมตตาเลี้ยงดู คุณชายพิริยพงษ์นั้นแสดงออกชัดว่าอยากได้มรดก ส่วนคุณหญิงประสงค์สมเป็นคนไม่ยินดียินร้าย พอใจในสิ่งที่ได้รับตามสภาพ ความเรียบร้อยน่ารักของคุณหญิงทำให้วิศรุตซึ่งได้พบคุณหญิงในโรงเรียนสอนภาษา รู้สึกเอ็นดูอย่างน้องสาวคนหนึ่ง คุณหญิงประสงค์สมเสี่ยงเชิญวิศรุตเข้าวัง น่าแปลกที่วิศรุตได้รับพระเมตตาเป็นพิเศษ ประทานอนุญาตให้เข้าออกวังอย่างสะดวกดาย ทั้งที่วังนั้นไม่เคยต้อนรับคนนอก สโรชารู้จากน้ำมนต์ ว่าวิศรุตเข้านอกออกในวังเทวาสถิตย์อย่างสะดวก ก็ขอให้พ่อจ้างวิศรุตเป็นผู้ติดต่อซื้อที่ดินจากเสด็จพระองค์หญิง วิศรุตรับหน้าที่นี้เพราะเขาต้องการเข้าวังเทวาสถิตย์อยู่แล้ว ม.ร.ว.พิริยพงษ์ไม่พอใจอย่างมาก ที่วิศรุตกลายเป็นคนโปรดพระองค์หญิงโดยไม่มีเหตุผล เขาคาดหมายว่าท่านย่าต้องประทานมรดกทุกอย่างให้เขากับน้องสาว สิ่งเดียวที่เขากังวลคือการที่พระองค์หญิงทรงเฝ้ารอพระธิดาที่หายสาบสูญไปนานเกือบ 30 ปี เพราะหม่อมเจ้าหญิงกิรติโสภณ (คัทลียา แมคอินทอช) นั้นหายไปขณะทรงครรภ์ ซึ่งไม่ว่าจะเป็นบุตรหรือธิดาก็จะต้องเป็นทายาทสายตรง การที่วิศรุตปรากฏตัวในวัยใกล้เคียงกับทายาทที่หายไปจากวังเทวา.. ทำให้คุณชายพิริยพงษ์กระวนกระวายใจนัก กลัวมีคนมาแย่งสมบัติ แต่คุณชายมีแผนสองที่จะได้ครอบครองที่ดินผืนงาม เพราะวินิตา (โชติกา วงศ์วิลาศ) คนรักของคุณชายเป็นธิดาคนโตของนายพลโทวินิต ราชโยธิน (จักรกฤษณ์ อำมรัตน์) ที่ต้องการซื้อที่ดินผืนนี้เช่นเดียวกัน พลโทวินิตมีอดีตที่บาดหมางกับพระองค์หญิง จนไม่กล้าเข้ามาเฝ้าฯเพื่อติดต่อซื้อด้วยตนเอง จึงส่งวินิตามาทาบทาม แต่พระองค์หญิงไม่พระทัยอ่อน โดยเฉพาะกับคนตระกูลราชโยธิน คุณหญิงจริยา ราชโยธิน (กัลยา เลิศเกษมทรัพย์) รู้สาเหตุดี เพราะเธอคือต้นเหตุแห่งความบาดหมางนั้น เมื่อครั้งพลโทวินิตเป็นเพียงนายพันโทวินิต ได้มาติดพันชอบพอหม่อมเจ้าหญิงกิรติโสภณ พระธิดาพระองค์หญิง.. แต่ในวันที่จะมากราบทูลสู่ขอ พันโทวินิตกลับต้องรับคำแต่งงานกับนางสาวจริยา ที่หลอกว่าตั้งท้องและจะไปร้องเรียนผู้บังคับบัญชาหากไม่ยอมรับ หม่อมเจ้าหญิงกิรติโสภณอับอายจนหนีหายไปจากวัง หลายเดือนต่อมาจึงมีจดหมายจากเพื่อนหญิงชาวอังกฤษชื่อแนนซี่ (ดวงใจ หทัยกาญจน์) ถึงพระองค์หญิง ว่าทรงให้กำเนิดทารกเพศชายที่อังกฤษ พระองค์หญิงไม่ได้ข่าวจากพระธิดาอีกเลย ส่วนนางสาวจริยาก็ได้แต่งงานกับนายทหารหนุ่มสมความตั้งใจ แม้ภายหลังความจริงปรากฏว่าไม่ได้ตั้งท้อง ก็ตกกระไดพลอยโจน จนมีลูกสาวสองคนคือวินิตา และ แก้วกิริยา (พะเพื่อน) ซึ่งอายุห่างกันหลายปี การที่วิศรุต มรุพงษ์ ทูลพระองค์หญิงว่าเขาเคยอยู่อังกฤษในวัยเด็ก ประกอบกับท่วงทีกิริยาที่ถูกชะตา ทำให้พระองค์หญิงทรงหวังว่าเขาจะเป็นพระนัดดาแท้ ๆ ที่ทรงเฝ้ารอ แต่เมื่อทรงถามซักไซ้ วิศรุตกลับทูลปฏิเสธไม่เคยได้ยินชื่อท่านหญิงกิรติโสภณ ซึ่งทำให้คุณชายพิริยพงษ์เบาใจ แต่ก็ยังไม่วางใจนัก สโรชามีความสุขกับการเป็นพลับพลึง วิศรุตเองก็รู้สึกชีวิตมีความหมายขึ้น เมื่อมีผู้หญิงบอบบางมาให้ดูแล สลับกับการต้องไปปะทะคารมกับสโรชาจอมเฮี้ยวที่ออฟฟิศโรงแรมในเวลาที่ต้องไปติดต่องาน วันหนึ่งเขาให้พลับพลึงดูแหวนโบราณที่สวมติดนิ้วเสมอ แล้วบอกว่า หากจะหมั้นผู้หญิงสักคน เขาคงมีเพียงแหวนวงนี้ เพราะเป็นสิ่งมีค่าที่สุดเท่าที่เขาจะหาได้ พลับพลึงฟังแล้วซึ้งใจ เพราะลำพังโฮมสเตย์ที่รับลูกค้าในราคาย่อมเยาไม่น่าจะทำเงินรายได้ให้วิศรุตเท่าใดนัก ธาราเกิดปัญหาการเงินทางบ้านอย่างแรง วิศรุตต้องหาเงินช่วยเหลือเฉพาะหน้าโดยแอบจำนำแหวนวงงามกับนายพิสิฐเป็นการฉุกเฉิน ให้นายพิสิฐช่วยเก็บรักษาไว้อย่างดี สโรชามาเห็นก็ขอดู พบว่าแหวนเปิดหัวออกได้ ภายในเป็นภาพหญิงสาวคุ้นตา สโรชาขอยืมจากพ่อไปชั่วคราวเพื่อทบทวนคิด คุณชายพิริยพงษ์เป็นนักเลงพนัน ฝนตกขี้หมูไหลพาคุณชายมาพบคุณหญิงจริยา ราชโยธิน ที่บ่อนชายแดน เมื่อไก่เห็นตีนงู ว่าที่แม่ยายกับว่าที่ลูกเขยร่วมมือกันหาทางครอบครองมรดกชิ้นใหญ่โดยไม่ต้องลงทุนซื้อ ในใจคุณหญิงจริยานั้นริษยาที่สามียังคิดถึงท่านหญิงกิรติโสภณ และโหยหารอลูกชายที่หายไปจนพยายามติดต่อซื้อที่ดินผืนที่ท่านหญิงเคยโปรด ทั้งๆที่คุณหญิงจริยาไม่เห็นด้วยเลย คุณหญิงจริยาเมื่อรู้จากคุณชายว่าพระองค์หญิงเฝ้ารอทายาทที่เกิดจากท่านหญิงกิรติโสภณ ก็บอกคุณชายให้หาคนมาสวมรอย จะด้วยวิธีใดก็ตาม พระองค์หญิงตัดสินพระทัยจะขายที่ดินให้นายพิสิฐ เพราะทรงถูกชะตาวิศรุต และทรงฝากฝังให้วิศรุตดูแลหญิงประสงค์สมเป็นการตอบแทน นายพิสิฐถือโอกาสนี้เตรียมจัดงานฉลอง พร้อมเปิดตัวสโรชาว่าจะเป็นทายาทบริหารโครงการใหญ่ วิศรุตค่อย ๆ จับสังเกตจนแน่ใจว่าพลับพลึงกับสโรชาคือคนเดียวกัน หลายครั้งที่เขาพูดเป็นนัยว่าเขาชอบพลับพลึงมากกว่าสโรชา ก่อนงานเลี้ยง สโรชารับเชิญจากคุณหญิงประสงค์สม วินิตา แก้วกิริยา คุณชายพิริยพงษ์ ไปเล่นสกีน้ำ วิศรุตพานักท่องเที่ยวมาแถวนั้นพอดี สโรชารีบถอดแหวนออก แต่แหวนร่วงลงพื้น คุณชายพิริยพงษ์เก็บได้แอบพิจารณาดู เห็นรูปท่านหญิงกิรติโสภณผู้เป็นหม่อมอา คุณชายสงสัยว่าได้มาอย่างไร สโรชาเห็นท่าทีคุณชายสนใจมากก็นึกได้ ว่ารูปหญิงสาวในหัวแหวนนั้นอาจเป็นภาพใดภาพหนึ่งในวังเทวาสถิตย์ เมื่อมีโอกาสจึงแอบเดินลัดเลาะเข้าห้องที่ปิดอยู่ แต่ไม่ทันเห็นภาพนั้น สโรชาถูกวางยาสลบขโมยแหวนไป วิศรุตมาขอไถ่แหวนคืนจากนายพิสิฐ สโรชาให้พ่อตอบบ่ายเบี่ยงไปก่อน จนกระทั่งวันงานเลี้ยงแฟนซี ซึ่งพระองค์หญิงประทานอนุญาตให้จัดในวัง มีบุรุษแปลกหน้ามาปรากฏกาย พระองค์หญิงประกาศว่าชื่อ วิศรุต ราชโยธิน (อนุชิต สพันธุ์พงษ์) เป็นพระนัดดาที่เกิดจากพระธิดาที่สาบสูญ โดยมีแหวนเป็นเครื่องยืนยัน วิศรุต มรุพงศ์ ประหลาดใจ วินิตากับแก้วกิริยางง ว่าทำไมนายวิศรุตคนใหม่นี้ มีนามสกุลเดียวกับตน คุณหญิงจริยาตอบว่าคงเป็นญาติสายอื่นที่เราไม่รู้จัก เมื่อกลับไปเล่าให้บิดาฟัง พลโทวินิตตื่นเต้น อยากเห็นหน้าวิศรุต ราชโยธิน ออกอาการจนคุณหญิงจริยาหมั่นไส้ทะเลาะกันด้วยเรื่องเก่า วิศรุตคนใหม่ประจบพระองค์หญิงจนประทานเมตตา แม้ไม่เท่าที่ทรงเอ็นดู วิศรุต มรุพงษ์ แต่แหวนที่สวมอยู่ ทำให้พระองค์หญิงเปลี่ยนพระนัดดาให้เป็นคนที่โปรดไม่ได้ วิศรุต ราชโยธิน กับ วิศรุต มรุพงษ์ มีนิสัยต่างกันราวฟ้ากับเหว แต่วิศรุต ราชโยธิน ได้ข้อมูลการวางตัวแบบชาววังจากคุณชายพิริยพงษ์ เขาไม่รู้ว่าคุณชายเอาแหวนมาจากไหน เขาเป็นเพียงคนเฝ้าบ่อนผู้ใฝ่ฝันเป็นพระเอกหนัง รับค่าจ้างมาให้แสดงตนเป็นทายาท จนกว่าจะได้รับมรดก แล้วทั้งคุณชายพิริยพงษ์และคุณหญิงจริยาจะทวงคืน ระหว่างนี้เขาจึงขอใช้ชีวิตสำราญสุดขีดเป็นการตอบแทน ความพยายามเอาใจพระองค์หญิงเกือบเป็นผลสำเร็จ แต่ความเจ้าชู้หลงตัวเองทำให้คุณหญิงจริยาแทบคลั่ง เพราะวิศรุตกำมะลอคอยฉวยโอกาสกับแก้วกิริยาและลามไปถึงคุณหญิงประสงค์สม วิศรุต มรุพงษ์ หลบหน้าพระองค์หญิง แต่แอบสะกดรอย วิศรุต ราชโยธิน ตลอดเวลา ทีแรกเขาไม่ได้อยากเป็นทายาท ด้วยเข้าใจว่าพระองค์หญิงพระทัยร้ายทำให้มารดาเขาช้ำใจตาย แต่ยิ่งนานยิ่งเข้าใจท่านยาย เขากล่าวโทษตนเองที่ไม่อาจรักษาแหวนมารดาไว้ได้ และพาลโกรธสโรชาด้วย วิศรุตไล่พลับพลึงออกจากบ้าน เพราะเขาหมดสนุกกับการเฝ้าดูการปลอมตัวของหญิงสาวแล้ว วิศรุตไปเยี่ยมแนนซี่ (ดวงใจ หทัยกาญจน์) แม่นมที่เลี้ยงดูเขามาที่อิตาลี สโรชารักวิศรุต ก็เลย ตามไปง้องอนเขาที่นั่น ตอนแรกวิศรุตทำงอนไม่ยอมคืนดีด้วย แต่สุดท้ายก็ใจอ่อน ต่างคนต่างสารภาพรักกัน และชวนกันกลับเมืองไทยเพื่อจัดการเรื่องราวต่างๆ คุณชายพิริยพงษ์กับ วิศรุต ราชโยธิน ทะเลาะกันเงียบ ๆ เมื่อทายาทตัวปลอมออเซาะพระองค์หญิงเกินหน้า และยังเอาใจวินิตาราวกับจะช่วงชิง แก้วกิริยาคนน้องเกลียดวิศรุต ญาติคนใหม่ แต่พลโทวินิตแก้แทนทุกอย่าง ด้วยเข้าใจว่าเป็นลูกชายที่พลัดพราก คุณหญิงประสงค์สมไว้ใจพี่ชายคนใหม่ ใกล้ชิดสนิทสนมจนพลาดท่า ได้แต่กล้ำกลืนอับอาย เก็บตัวไม่พูดจา แต่ก็เกิดตั้งครรภ์ขึ้นมา วิศรุตช่วยยอมรับเป็นพ่อของเด็กในท้อง สู่ขอกับพระองค์หญิงเพื่อจัด พิธีแต่งงาน ทำให้สโรชาเสียใจมาก แต่ในวันหมั้น ชัยบดีบุกเข้าไปทำลายพิธี ยิงวิศรุตจนได้รับบาดเจ็บ เรื่องราวความรักของวิศรุตและสโรชาจะลงเอยอย่างไร รวมทั้งพระองค์หญิงจะพบกับทายาทที่แท้จริงได้อย่างไร ก็ต้องติดตามชมดู

My Melody 360 องศารัก (2556/2013) ละครเพลงซีรีส์แนวใหม่ ที่ใช้ดนตรีและเสียงเพลง เป็นตัวนำเสนอการเล่าเรื่อง เพื่อให้เกิดความแตกต่าง ในเรื่องราว ความสนุกสนาน วุ่นวาย กับการแก้ปัญหาวัยรุ่น วัยเรียน ที่เกิดขึ้น ณ โรงเรียนมัธยมต้นนานาชาติแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นหน้าที่ของผู้ที่ใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน พ่อแม่ หรือครู ต้องมีส่วนในการเรียนรู้ และแก้ไขปัญหาของพวกเขา ซึ่งเพลงที่นำมาใช้ จะเล่าเรื่องในฉากนั้น ๆ ไม่ว่าจะเป็นเพลงเก่า ที่มา แต่ทำนองใหม่ รวมทั้งเพลงใหม่ ที่เข้ามาประกอบเนื้อหา ฉากร้องเพลงของเรื่องนี้ ส่วนใหญ่จะถูกเล่าโดยการเปลี่ยนฉากเข้าไปในจินตนาการเหมือน เช่น ร้อง เต้น เล่น ละครเวที วันเปิดเทอมแรก ของโรงเรียนมัธยมนานาชาติ แห่งหนึ่ง ครูโจ (เจตริน วรรธนะสิน) ครูพละหนุ่มรูปหล่อ เป็นที่ชื่นชมของบรรดาครูสาว ครูแก่ และนักเรียนมากมาย เทอมใหม่นี้ ครูพละผู้ปั้นนักกีฬาจนโด่งดัง ในสายเยาวชนคนนี้ได้มาพบกับครูมารี (แคทรียา อิงลิช) ครูสาวสวย เซ็กซี่ ที่โรงเรียนสั่งตรงจากต่างประเทศ โดยที่เขาไม่รู้เลยว่า ครูมารีเคยเป็นเพื่อนสมัยมัธยม โดยมารี แอบหลงรักครูโจข้างเดียว ซึ่งบัดนี้เธอได้กลับมาเป็นครูสอนหลักสูตรร้องเพลง และดนตรีแนวใหม่ ณ โรงเรียนแห่งนี้ การแก้แค้นของครูมารีจึงเริ่มไปพร้อม ๆ กับการตกหลุมรักครูโจ โดยมี ครูโรส (รฐา โพธิ์งาม) ครูสวยเซ็กซี่ หุ่นดี เข้ามาประชันรักอีกคน ส่วนเทอมใหม่นี้ บรรดานักเรียน ก็มีทั้งที่เข้ามาใหม่และนักเรียนเก่า แต่ละคนเป็นไปตามวัย ที่ไม่หยุดจะสร้างความปั่นป่วนให้ผู้ปกครอง โรงเรียน เพื่อนฝูง และคุณครู อย่างไม่ได้ว่างเว้น โดยมีคุณครูเข้ามามีส่วนสร้างเหตุการณ์ แต่นักเรียนจะมีจุดมุ่งหมายเดียวกัน นั้นคือการได้เข้าร่วมการแข่งขัน ร้องเพลงชิงถ้วยรางวัล ระดับประเทศ เริ่มด้วย วิน (พีช พชร จิราธิวัฒน์) นักเรียนใหม่ รูปหล่อ หุ่นนักกีฬา ถูกจับจ้อง จากบรรดาสาว ๆ มากมาย รวมทั้งแพร (เพลง ชนม์ทิดา อัศวเหม) นักเรียนสาวแสนเฉิ่ม โก๊ะสวย แต่ซุ่มซ่ามเพราะสายตาสั้น แต่ไม่ชอบสวมแว่น ที่บังเอิญเพราะความซุ่มซ่ามเลยทำให้ภาพแรกที่ทั้งเธอและวินเจอกัน คือภาพทั้งคู่ต้องเดินชนกัน จนทำให้เค้กแสนอร่อยของแพรหลุดมือ จึงเป็นสาเหตุของการไม่ชอบหน้ากัน นายแจ็ค (แจ็ค แฟนฉัน) ลูกเศรษฐี ขี้โอ่ อ้วนหน้าตาดูไม่ได้ ทำอะไรก็ไม่เก่ง แต่เป็นขาใหญ่ประจำโรงเรียน เพราะตกซ้ำหลายปี พยายามแทรกตัวมาเป็นคู่แข่งความรักกับวินและเอก (วริศ พรพงศา) (ลูกคนใช้ที่บ้าน ของแจ็คมาเรียนด้วย) ลูกน้องจอมแสบคู่ใจ จัดการเรื่องแทนให้ทั้งหมด โดยที่รู้ว่าแจ็คไม่มีทางได้สาวสวยแน่นอน นอกจากนี้ยังมี แจน (เมทัล สุขขาว) เชียร์ลีดเดอร์สาวสวย เซ็กซี่ ดาวโรงเรียน เจ (มงคล กิจแสวง) เด็กเงียบขรึม แต่รักเสียงเพลงเป็นชีวิตและจิตใจ ใส่หูฟังเพลงตลอดเวลา เรื่องราววุ่น ๆ จึงก่อตัวขึ้น ไม่ว่าจะเป็นปัญหาด้านการเรียน ปัญหาทางบ้าน ปัญหาการอยู่ร่วมกันที่เหล่านักเรียนจอมวุ่นประสบ ครูมารี จำต้องดึงนักเรียนแสบทั้งหมดนี้มาเข้าเรียนดนตรีให้ได้ เพื่อกล่อมเกลา และปรับบุคลิกให้พวกเขาก้าวสู่สังคมอย่างภาคภูมิ แต่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย นอกจากนี้ ยังมีครูใหญ่สมเจตน์ (ไพบูลย์เกียรติ เขียวแก้ว), ครูอังคณา (วิยะดา โกมารกุล) ฝ่ายวิชาการ และภารโรงเจ๊ชัย (ธงธง ม๊กจก) ที่แอ๊บแมนเพื่อหวังทำตัวใกล้ชิดหนุ่ม ๆ ในโรงเรียนตลอดเวลา รวมทั้ง เจ๊จุ๊บแจง (มัม ลาโคนิก) แม่ค้ากะเทยที่ตั้งบูธขายขนม เครื่องดื่ม กาแฟ ไอศกรีม ในโรงเรียน เป็นแหล่งที่นักเรียนมานั่งกันประจำ ทั้งหมดนี้ที่จะมาสร้างสีสัน ความสนุกและปั่นป่วนร่วมกันใน ละครMy Melody 360 องศารัก

แหม่มแก้มแดง 2555

แหม่มแก้มแดง (2555/2012) ที่ วิทยาลัยศิลปะในลอนดอน อนามิกา (ภิรนีย์ คงไทย) หรือ อะนา ของเพื่อน ๆ มาเรียนคอร์ส 2 ปีจบทางด้าน Fashion Design อะนามีเพื่อนซี้รูมเมทคือ เมธาวี (วิริฒิภา ภักดีประสงค์) หรือ เม ที่ต่างก็กำพร้าพ่อแม่ ทำงานหาเงินส่งตัวเองเรียนในเมืองที่ค่าครองชีพแทบจะแพงที่สุดในโลก แต่ก็โชคดีที่ อัทธวุธ (พลังธรรม กล่อมทองสุข) หรือ อาร์ท เพื่อนกะเทยซี้ปึ้กตั้งแต่สมัยเรียนอยู่เมืองไทยซึ่งมีฐานะร่ำรวยและให้ทั้ง สองมาพักฟรีในบ้านเช่าของตน งานพิเศษหาค่าเทอมของอะนา และเม คืองานที่ร้านอาหารไทยในลอนดอนของ เจ๊พนิดา (ดารณีนุช โพธิปิติ) หรือ เจ๊แพนด้า ที่มีลูกชายฉลาดน่ารักลูกครึ่งฝรั่งชื่อ จ๊อด (ศักดิเดช ศศิประภา) ซึ่งมาจากจอร์จนั่นเอง (แต่ปัจจุบันสามีฝรั่งทิ้งเจ๊แพนด้าไปแล้ว) อะนากับเม รับหน้าที่สารพัดในร้าน โดยอะนาเป็นคนเก่ง คล่องแคล่ว ก็จะทำหน้าที่คล้ายผู้จัดการ + แคชเชียร์ + เด็กเสิร์ฟ + เด็กล้างจานเก็บกวาดร้าน รวมไปถึง บางครั้ง ก็ต้องแต่งชุดไทยรำไทยโชว์ฝรั่งหาทิป ขณะที่ เมจะได้ทำงานง่าย ๆ กว่าอะนา ทั้งสองอาศัยรายได้ทั้งเงินเดือนเงินทิป และอาศัยห่อข้าวในครัวกลับไปกิน เมื่อกินฟรีพักฟรี จึงทำให้ทั้งสองเรียนและดำรงชีวิตอยู่ในเมืองที่ค่าครองชีพสูงปรี๊ดอย่าง ลอนดอนได้ ติดตามต่อได้ใน แหม่มแก้มแดง

กำลังแสดงผลลัพธ์ทั้งหมด 5 รายการ