กุหลาบขาว 2471

เรื่องย่อ : กุหลาบขาว (2471/1928) เมื่อ ดอกเตอร์วงจีฮี นายแพทย์หนุ่มจากเมืองจีน เดินทางกลับมาหา แป๊ะบุ้นกุ่ย หรือ นางสาวกุหลาบขาว หญิงคนรักพร้อมกับแร่เรเดียม แร่ที่มีคุณสมบัติในการรักษาโรคได้มากมาย จนเป็นที่หมายปองของบรรดาสี่โจรโฉด เพราะแร่เรเดียมนั้นเป็นแร่ที่มีมูลค่ามหาศาล ดีที่วงจีฮีนั้นเก่งในทางหมัดมวยจึงสามารถรักษาแร่ไว้ไม่ให้ตกไปถึงมือเหล่าโจรร้าย แต่กระนั้นแร่เรเดียมก็ยังไม่ปลอดภัยวงจีฮีจึงต้องนำไปเก็บไว้ในเซฟที่ปิดอย่างมิดชิด แต่บรรดาสี่โจรก็ยังล่วงรู้ จึงวางแผนจับตัวกุหลาบขาวมาเป็นตัวประกันพร้อมกับจ้างให้ เอียวโจโง๋ อดีตโจรงัดแงะตัวฉกาจไปทำการปลดเซฟ แต่เพราะวงจีฮีเคยช่วยเหลือหลานชายของเอียวโจโง๋ให้หายจากโรคร้ายเอียวโจโง๋จึงเอ่ยปากให้เบาะแสแก่วงจีฮี วงจีฮีจึงพาตำรวจเข้าตะลุมบอนกับสี่โจร จับตัวพวกมันไปขังคุก และช่วยกุหลาบขาวคนรักไว้ได้สำเร็จ

เลือดแค้น 2471

เรื่องย่อ : เลือดแค้น (2471/1928) เป็นภาพยนตร์ไทยเรื่องแรก ที่มีความลึกลับ เกี่ยวกับการผจญภัยและการต่อสู้ในเชิงหมัดมวยอย่างน่าตื่นเต้น ถ้าว่าถึงตลกคะนอง ก็เป็นตลกที่ไม่ได้แกล้งให้ตลก เป็นตลกที่อาศัยเกิดจากลักษณะเดิมของตัวผู้แสดงเอง มีตาเชยเตี้ยเป็นต้น ลักษณะของตาเชย ผู้ดูโดยมากที่ไปเที่ยวตำบลบางลำพู คงจะได้เคยเห็น แกเดินชมอากาศอยู่ตามแถวนั้นบ่อยๆ หรือมิฉะนั้นก็แถวหน้าโรงปีนัง ผู้ทำเรื่อง เลือดแค้น ได้ใช้ความระวังหลายประการที่จะไม่ให้เลือดแค้นกลายเป็นเลือดไม่แค้นหรือเลือดจืด มีเหตุผลกินกลืนกันสมเรื่อง ตลอดจนภูมิฐานฐานะของบุคคลและการแต่งตัว ที่จัดให้เหมาะแก่ลักษณะ เหมาะแก่เวลาที่ควรไม่ควร ถ้าจะกล่าวแล้วเรื่อง เลือดแค้น ถึงจะมีข้อที่น่าติอยู่บ้าง แต่ก็เชื่อว่าน้อยที่สุด ท้องเรื่อง เลือดแค้น แสดงถึงน้ำใจของน้องเมียนายทองใบ ที่พยายามแก้แค้นแทนพี่สาวอันเนื่องจากนายทองใบทิ้งพี่สาวและทำทารุณโหดร้ายเมื่อ 20 ปีก่อน จึงตามมาแก้แค้นโดยปลอมตัวเป็นคนลึกลับ ท่านจะได้เห็นการต่อสู้กันบนเรือใบกลางทะเล การต่อสู้ในบ้าน และการต่อสู้ชิงนางกลางทุ่ง การต่อสู้นี้ล้วนไปด้วยหมัดมวยและอาวุธปืน ทุกตอนจะทำให้ท่านรู้สึกพอใจ ในที่สุดท่านจะต้องออกปากว่า "หนังไทยเรื่องนี้ของเขาควรผูกโบว์แดงให้ได้" พูดถึงผู้แสดง มีโดยมากนับว่าใช้บทบาทได้สนิท ผู้ที่ควรได้รับความชมเชยชั้นเยี่ยมของการแสดงในเรื่องก็คือ จรวย วีละเวีย ลีละชาติ นางเอกผู้เป็นตัว "สุลักษณ์" บุตรี เลี้ยงของนายทองใบ จรวยได้วางบทบาทสมแก่เป็นตัวภาพยนตร์ได้ดีจริงๆ ดีจนควรนับได้ว่าอยู่เหนือนางเอกภาพยนตร์ไทยที่ท่านเคยเห็นมา เช่น ยามโกรธ ยามตกใจ ดีใจ ยามออเซาะ เหล่านี้ ชวนให้รู้สึกว่าจรวยไม่มีการเก้อเขินแต่อย่างใดเลย ถัดจากนี้ก็ตัวพระเอกพระรองและตัวประกอบอีก ซึ่งมีบทดีไม่แพ้แม่จรวย นอกจากนั้นยังแสดงการชกต่อยและการขี่ม้าขี่ฬาคล่องแคล่วอย่างน่าชม บางคนสังเกตว่าพยายามเลียนจากบท ฮูด กิ๊บสัน หรือ เคน เมย์นาดไม่ผิดเลย ยังมีผู้แสดงที่ควรได้รับความชมเชยเป็นพิเศษอีกคนหนึ่ง คือ นายไกวัลย์ ซึ่งแสดงเป็นตัวบ้าหรือใบ้ นายคนนี้ เมื่อแสดง "ไม่คิดเลย" ยังมีอาการขวางๆ รีๆ อยู่มาก ครั้น มาแสดงเรื่องนี้กลับมีสภาพเป็นคนละคน การแสดงของนาย ไกวัลย์ในเรื่อง "เลือดแค้น" สกปรกโสมมเหลือกำลัง เสื้อผ้า ขาดกะรุ่งกะริ่งผมเผ้ายาวเหมือนบ้าหอบฟาง เพราะถูกเกณฑ์ให้เป็นคนใบ้เนื่องจากในเรื่องถูกน้องชายโกงสมบัติ ตามสังเกตดูเหมือนนายไกวัลย์จะเลียนแบบ "ลอน ชานีย์" เอา เสียจริงๆ ถึงหากบทจะด้อยกว่าลอน ชานีย์ ก็ยังนับว่าเป็น ลอน ชานีย์ ไทยได้ ไม่อายคนดูทีเดียว ตัวนี้คู่หูกับตาเชยเตี้ย นับว่าเป็นผู้ทำให้เรื่องครึกครื้นมากอยู่ (ที่มา: หนังสือพิมพ์ข่าวภาพยนตร์ กรกฎาคม พ.ศ. 2471)

กรรมสนองกรรม 2471
เรื่องย่อ : กรรมสนองกรรม (2471/1928) ท้องเรื่องเป็นทำนองรักแกมโศกกับโลดโผน และยังมีวิวงามๆ มาก อย่างเช่นงานถวายบังคมพระบรมรูปทรงม้า การแข่งควาย การทำน้ำตาล การถีบ กระดานเก็บหอยในทะเล (ที่มา: หอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน))
Placeholder
ใครดีใครได้ 2470

เรื่องย่อ : ใครดีใครได้ (2470/1927) ร้อยเอกกริส แห่งราชนาวี รักอยู่กับนางเอกของเรื่องซึ่งเป็นบุตรสาวของท่านเจ้าคุณ นางเอกมีชายหนุ่มมาหมายปองมากเพราะความเป็นคนรูปสวยคนหนึ่งที่หมายปองคือ นายเลียบ โลหมุข นักเลงพนันเจ้าคุณนั้นเป็นคนชอบเล่นการพนัน แล้วก็เป็นหนี้นายเลียบ นายเลียบพยายามเร่งรัดหนี้ และเสนอว่าหากไม่ชำระหนี้ ต้องให้ลูกสาวแต่งงานกับตน ที่สุดร้อยเอกกริสต้องวางแผนแข่งพนันชกมวยกับนายเลียบ โดยมีข้อแม้ว่าหากนายเลียบชนะ นางเอกจะต้องแต่งงานกับเขา แต่หากนายเลียบแพ้ก็เป็นอันปลดหนี้ นายร้อยเอกสู้อย่างสามารถบนเวทีผืนผ้าใบเพื่อเอาชนะคู่แข่งและเพื่อสมรัก

ไม่คิดเลย 2470

เรื่องย่อ : ไม่คิดเลย (2470/1927) พระเศรษฐกิจวิบูลย์ เศรษฐีม่าย มีลูกสาวแสนสวยชื่อ นางสาวประภา หมั้นหมายอยู่กับนายกาหลง บุญชุบ เศรษฐีเหมืองแร่จอมเปิ่น และก็เพราะความเปิ่นนี้เองที่ทำให้นางสาวประภาไม่ผูกสมัครรักใคร่นายกาหลงและพยายามบ่ายเบี่ยงเรื่องการแต่งงาน หารู้ไม่ว่า นายประเสริฐ หลานชายคุณพระหมายจะครอบครองเธออยู่ วันหนึ่งขณะที่นางสาวประภาออกไปขี่ม้าเผอิญเจออุบัติเหตุตกจากหลังม้า ดีที่ได้ นายอำนวย ชายพเนจรช่วยไว้ ครั้นถามไถ่จึงรู้ว่านายอำนวยกำลังตกงาน นางสาวประภาจึงรับนายอำนวยไว้เป็นคนเลี้ยงม้า กระทั่งความใกล้ชิดทำให้ทั้งสองชอบพอกัน นายประเสริฐที่เห็นเหตุการณ์มาโดยตลอดจึงพยายามขัดขวางความรักของทั้งสอง โดยกุแผนขึ้นมาใส่ร้ายให้นายอำนวยกลายเป็นขโมย พร้อมทั้งฉุดตัวนางสาวประภา เมื่อนายอำนวยทราบเรื่องจึงรีบนำความไปบอกนายกาหลง นายกาหลงจึงรีบมาช่วยนางสาวประภาด้วยการตะบันหน้านายประเสริฐลงไปกองกับพื้น ตำรวจจึงสามารถจับผู้ร้ายไว้ได้ นายอำนวยจึงเปิดเผยว่าแท้ที่จริงเขาคือ นายร้อยตำรวจแห่งกองพิเศษปลอมตัวมาจับนายประเสริฐ เพราะนายประเสริฐนั้นสร้างคดีไว้ที่ต่างจังหวัด ทั้งบอกว่าความสัมพันธ์ระหว่างตนกับประภามิได้มีอะไรจริงจัง นางสาวประภาจึงกลับมามองเห็นความดีของนายกาหลงและยินดีที่จะแต่งงานกับเขา

ไม่เชื่อน้ำมนต์หมอผี 2470

เรื่องย่อ : ไม่เชื่อน้ำมนต์หมอผี (2470/1927) ไม่เชื่อน้ำมนต์หมอผี เล่าถึงครอบครัวหนึ่งซึ่งอาศัยอยู่ทางจังหวัดธนบุรีตอนเหนือ ตั้งแต่พ่อสมบุญ จิตต์กระด้างยังเชื่อน้ำมนต์หมอผี จนกระทั่งไม่เชื่อน้ำมนต์หมอผี เรื่องมีอยู่ว่า พ่อสมบุญป่วยเรื้อรังเป็นเวลานาน ไม่ยอมทานยารักษาโรคแผนปัจจุบันใดๆ เพราะพ่อสมบุญมีความเชื่อว่าอาการของแกจะทุเลาลงได้ ก็ต่อเมื่อได้รับการเสกเป่าน้ำมนต์เท่านั้น วันหนึ่ง พ่อสมบุญได้ยินกิตติศัพท์ของหมอดั่น ว่าสามารถรักษาผู้เจ็บป่วยหรือถูกผีเข้าได้ พ่อสมบุญจึงให้ลูกชายชื่อ นายสุพินธ์ ไปเชิญหมอดั่นมาตรวจอาการ ก่อนเริ่มพิธี หมอดั่นขอเงินค่าไหว้ครูเป็นเงิน 5 บาทแล้วจึงลงมือปลุกเสกน้ำมนต์ แต่อาการของพ่อสมบุญก็ไม่มีทีท่าจะดีขึ้น จนกระทั่ง แกคิดว่าจะต้องสิ้นชีวิตแน่จึงแจกเงินให้ลูกคนละ 1 บาท เพื่อไปทำบุญอย่างใดอย่างหนึ่งตามที่ตนชอบแล้วให้แผ่กุศลมาให้แก นายสุพินธ์นำเงินไปซื้ออ้อยให้ช้างกิน นายโสพิตร์ให้ทานคนพิการ 10 คน คนละ 10 สตางค์นางสาวสนองบริจาคเงิน 1 บาท แก่สภากาชาดสยามปรากฏว่า พ่อสมบุญเห็นดีงามกับการทำบุญของนางสาวสนอง เพราะยังประโยชน์แก่คนหมู่มาก จึงขอให้ลูกทั้งสามพาไปรักษาที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ แพทย์ตรวจพบว่าพ่อสมบุญเป็นโรคลำไส้พิการ ไม่ใช่ถูกคุณไสยแต่อย่างใด อาการป่วยของพ่อสมบุญค่อยๆ หายเป็นปรกติ ทำให้เขาเลื่อมใสในวิธีการแพทย์แผนปัจจุบันเป็นอันมาก ต่อมา หมอดั่นบังเอิญผ่านมาหน้าบ้านพ่อสมบุญ เห็นพ่อสมบุญแข็งแรงดีก็คุยโวโอ้อวดสรรพคุณของตน พ่อสมบุญจึงไล่ตะเพิดพร้อมกับตะโกนว่า "ไอ้เรื่องวิธีรักษาของแกอย่างบ้าๆ ฉันไม่ขอพบขอเห็นอีกแล้ว"

โชคสองชั้น 2470

เรื่องย่อ : โชคสองชั้น (2470/1927) นายกมล มาโนช (มานพ ประภารักษ์) พระเอกของเรื่อง เป็นนายอำเภอหัวเมืองฝ่ายเหนือ ได้รับมอบหมายให้ลงมาสืบจับผู้ร้ายคนหนึ่งซึ่งซ่อนตัวอยู่ในกรุงเทพ นายกมลเข้ามาพักอยู่ที่บ้านพระยาพิชัย (อุทัย อินทร์วงศ์) และมีหลานชื่อว่า นางสาววลี ลาวัณยลักษณ์ (หม่อมหลวงสุดจิตตร์ อิศรางกูร) ซึ่งทั้งสองได้พบรักกันโดยเร็ว แต่นายวิง ธงสี (มงคล สุมนนัฏ) ซึ่งหมายปองนางสาววลีอยู่แล้วและชอบไปมาหาสู่พระยาพิชัยเป็นเนือง ๆ และนายวิงคนนี้ก็คือคนร้ายที่นายกมลกำลังสืบจับอยู่นั่นเอง นายวิงไหวตัวทันเรื่องที่นายกมลตามคนร้าย จากนั้นนายวิงก็วางแผนร้ายโดยส่งพรรคพวกลูกสมุนเข้ามาทำร้ายนายกมล แต่นายกมลมีความชำนาญในการระวังภัยจากโจรจึงต่อกรขัดขวางกำลังได้ จนนายวิงและพรรคพวกต้องหลบหนีไป นายกมลไล่ตามจับแต่เกิดหลงทาง นายวิงได้วกกลับมาที่บ้านพระยาพิชัยและจับนางสาววลีไป แต่นายกมลมีเชาวน์ที่ดี เข้าใจว่าเป็นแผนลวง จึงวกกลับบ้านพระยาพิชัยและได้พบนายวิง นายกมลจึงตามล่านายวิงไปจนสุดทางและเกิดการต่อสู้ขึ้น จนกระทั่งตำรวจที่พระยาพิชัยโทรไปแจ้งมาสมทบร่วมจับนายวิงและสมุนได้ทันเวลา นายวิงจึงถูกตำรวจจับเข้าตะราง ส่วนนายกมลมีโชคสองชั้น นอกจากจะจับผู้ร้ายได้แล้วยังได้นางสาววลีมาเป็นภรรยาอีกด้วย

เชื้อไม่ทิ้งแถว 2470
เรื่องย่อ : เชื้อไม่ทิ้งแถว (2470/1927) เป็นเรื่องสมเหตุสมผล พร้อมไปด้วยคติสอนใจ โลดโผน โศก รัก ตลก คะนอง กับยังมียวดยานเกือบทุกประเภทแสดงประกอบอยู่ในเรื่อง เช่น รถยนต์ รถไฟ เรือยนต์ เรือแข่ง เรือกระฐินหลวง เครื่องบิน ฉวี (พระเอก) ต้องผจญภัยไม่แต่เพียงในเรื่องเท่านั้น แม้แต่นอกเรื่องก็ถูกผจญภัยด้วย ดังข่าวตกเครื่องบินในขณะทำการแสดง ดังปรากฏในข่าวหนังสือพิมพ์ที่เคยลงซู่ซ่ากันมาแล้ว ผู้ที่ได้รับความชมเชยเป็นพิเศษยังมีอีก เช่น เล็ก ซึ่งแสดงเป็นตัวนางลม้าย ภรรยานายสมบุญ (เชงจู) ผู้นี้นับว่าทำหน้าที่แม่ได้สนิทมาก โรคปากมากก็เป็นที่ 1 บูชาพ่อหลานชาย (สนอง) เสียเป็นเทวดา เข้าใกล้ผัวทีใดเป็นมีเรื่องทะเลาะกับผัววันยังค่ำ ทุกสิ่งของแม่ลม้ายไม่มีสิ่งใดที่จะเหลือไว้ให้สงสัยเลยว่าพ่อหลานชายยอดยากของแก เป็นบรมจอมโจรที่จะคอยล้วงตับแกในวันแล้ววันอีก ถ้าผัวคัดค้านถึงเรื่องพ่อหลานชายคนนี้ แม่ลม้ายเป็นแหงคัดค้านเสียจนคอหอยแทบจะระเบิดทีเดียว ในที่สุดนายสมบุญก็ต้องยอมแพ้ตามเคย เพราะทนปากแม่ลม้ายไม่ไหว ยังอีกคนหนึ่งคือ ตุ๊ ซึ่งแสดงเป็นนางผ่อง คนใช้ผู้สัตย์ซื่อของนางเอก นางผ่องคนนี้ไม่แต่เป็นคนใช้ที่ซื่อสัตย์ ยังทำหน้าที่เป็นตัวโจ๊กของเรื่องได้อย่างขบขันมาก ความขบขันของนางผ่องผู้นี้จะเห็นได้คราวหนึ่ง เผอิญไปแอบเห็นนายสาวกำลังกอดกับพระเอก นางผ่องจะเกิดรู้สึกขันอย่างไรไม่ทราบ ถึงกับปล่อยถาดถ้วยกาแฟลงไปกับพื้นดังโครมใหญ่ ยังอีกตอนหนึ่ง อารามตกใจว่าคู่รัก ของนายสาวถูกเจ้าสนั่น ตัวโกงหลอกเอาไป วิ่งกระหืดกระหอบไปบอกนายเสียจน "หางหงษ์" หลุด ความจริง สังขารของนางผ่อง ประกอบกับท่าทางที่แสดง ก็ชวนให้ น่าขันอยู่แล้ว ยิ่งไปทำอาการจูบพระธรณีในขณะที่วิ่งจนนางหางหงษ์หลุด จึงดูอาการคล้ายๆ กับลูกฟักใบเขื่องๆ ตกตุบลงในกองดินอย่างหนักๆ ตอนนี้จะทำให้ท่านผู้ดูถึงกับกลั้นหัวเราะไว้ไม่ไหวทีเดียว เพื่อเป็นหลักฐานแสดงให้ท่านเห็นว่าเรื่อง "เชื้อไม่ทิ้งแถว" เป็นเรื่องควรแก่การทัศนาของท่านเพียงใด พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระบรมราชินี ภายหลังเมื่อได้ทอดพระเนตรแล้ว มีพระราชดำรัสชมเชยว่า "เรื่องนี้ของเขาพอดูได้" (ที่มา: หนังสือพิมพ์ข่าวภาพยนตร์ พ.ศ. 2470)
นางสาวสุวรรณ 2466

เรื่องย่อ : นางสาวสุวรรณ (สุวรรณสยาม) (2466/1923) ชายหนุ่มคนหนึ่งชื่อนายกล้าหาญ เป็นข้าราชการยากจนมีรูปร่างหน้าตางดงาม รับราชการอยู่ในหอพระสมุดประจำพระนครและพักอาศัยอยู่กับบิดาและมารดาเลี้ยงซึ่งเขาเรียกพ่อเย็นกับแม่มะลิ วันหนึ่งแจวเรือกันมาในคลองบางหลวงเห็นสตรีผู้หนึ่งตกน้ำ กล้าหาญ ก็กระโดดลงไปช่วย เธอชื่อนางสาวสุวรรณ เป็นบุตรีของคุณวณิช เหตุการณ์นี้ทำให้คุณวณิชไม่พอใจที่เห็นนายกล้าหาญกอดลูกสาวตัวเองไว้แนบอก หลังจากนั้นนายกล้าหาญก็หลงรักนางสาวสุวรรณแบบหัวปักหัวปำ วันหนึ่งได้พบนางสาวสุวรรณอีกครั้งในวัดพระแก้วแต่นายกล้าหาญก็ถูกผู้ร้ายกีดกันและเขาผู้นั้นคือคู่แข่งนามว่านายก่องแก้ว นายก่องแก้วเองเป็นลูกคนมีฐานะและก็มีใจรักนางสาวสุวรรณเช่นกัน เขาจึงกันท่ากล้าหาญทุกครั้งเท่าที่เขาจะทำได้ ฝ่ายนางสาวสุวรรณก็ถูกกรอกหูอยู่ตลอดเวลาว่ากล้าหาญยากจนแต่ก็หลงรักเข้าไปจนหมดหัวใจแล้ว นายก่องแก้วก็ยังมาตามราวีอยู่ตลอดและดุแคลนเรื่อยมา ทำให้พ่อเย็นกับแม่มะลิจำต้องเปิดเผยความจริงว่าที่จริงแล้วนายกล้าหาญเป็นคนมีตระกูลทางภาคเหนือ พ่อแม่ของนายกล้าหาญพามาเที่ยวบางกอกแต่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตที่บางกอก พ่อเย็นกับแม่มะลิจึงได้เลี้ยงดูเด็กชายกล้าหาญจนเติบใหญ่ นายก่องแก้วรู้เรื่องราวเกรงจะเสียเปรียบจึงได้วางแผนฆ่าโดยหลอกนายกล้าหาญกับพ่อเย็นไปทำงานที่เชียงใหม่ แต่ดันพลาดฆาตกรดันไปฆ่าผิดตัว นายกล้าหาญโดนซัดทอดว่าเป็นคนที่ฆ่าเหยื่อคนนั้นตายจึงถูกจับไปดวย นางสาวสุวรรณเมื่อทราบข่าวจากพ่อเย็นจึงรีบบินไปเชียงใหม่พร้อมกับหลักฐานที่แสดงว่านายกล้าหาญเป็นคนมีชาติตระกูล คหบดีที่เชียงใหม่พอเห็นหลักฐานที่เป็นเสมาทองคำก็รู้ทันทีว่านายกล้าหาญเป็นหลานชายของตัวเอง ทำให้นายกล้าหาญพ้นผิด ขณะเดียวกันตัวฆาตกรก็ยอมรับสารภาพทำให้ผู้จ้างวานถูกจับกุม พ่อของนางเอกตามขึ้นมาที่เชียงใหม่ พอรู้ว่านายกล้าหาญเป็นคนมีชาติตระกูลจึงยอมยกลูกสาวให้ ฝ่ายนายกล้าหาญก็มอบสินสอดทองหมั้นอย่างสมน้ำสมเนื้อ

หน้าที่