องค์บาก (2546)

องค์บาก (2546/2003) ในประวัติศาสตร์หมู่บ้านหนองประดู่ ที่ยาวนานตั้งแต่ครั้นสมัยสงครามไทยกับพม่า ตำนานของครูดำ ผู้แกร่งกล้าด้วยศิลปะการต่อสู้ คือชายไทยผู้กล้าที่เคยแหวกฝ่ากองทัพพม่า ไปแย่งชิงเอาองค์พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ ที่ถูกทหารพม่าบุกมาปล้นสดมภ์ และแย่งชิงไปจากหมู่บ้าน เมื่อคราครั้งกระโน้นได้เป็นผลสำเร็จ จนเกิดปาฏิหาริย์แห่งรอยบาก อยู่บนพระพักตร์ขององค์พระ ว่ากันว่าร่องรอยดังกล่าว คือบาดแผลจากการต่อสู้ ที่เกิดจากอิทธิฤทธิ์ขององค์พระศักดิ์สิทธิ์ ที่รับแทนคมหอกคมดาบ ที่ทหารพม่าถาโถมฟาดฟัน เข้าใส่ร่างของครูดำนั่นเอง ว่ากันว่าความเชื่อดังกล่าวที่เกิดขึ้นกับครูดำ และผู้คนในหมู่บ้านได้ถูกเล่าขาน สืบเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน แต่แล้วองค์บากกลับถูก ดอน (วรรณกิตย์ ศิริพุฒ) อดีตลูกหลานบ้านหนองประดู่ ที่ปัจจุบันหันหน้าเข้าสู่โลกแห่งความชั่วช้าอย่างเต็มรูปแบบ ทั้งเรื่องของยาเสพติด การพนัน และที่ร้ายแรงที่สุด คือการแอบตัดเศียรองค์พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ ไปให้กับนักสะสมวัตถุโบราณ ที่มีจิตใจชั่วช้าในกรุงเทพ ในคืนก่อนงานเฉลิมฉลองงานบุญ ที่ชาวหนองประดู่จัดขึ้น เพื่อเฉลิมฉลองศรัทธาต่อองค์บาก ที่ได้หมุนเวียนมาครบ 24 ปี ส่งผลให้เหตุการณ์ดังกล่าว สร้างความสะเทือนใจ ต่อทุกชีวิตในบ้านหนองประดู่ โดยเฉพาะบรรดาผู้เฒ่าผู้แก่ ที่รอวันนี้มาค่อนชีวิต ราวกับว่านี่คือกงล้อแห่งศรัทธา ที่หมุนเวียนบรรจบมา เพื่อทดสอบในศรัทธาแห่งความความผูกพัน และพลังแห่งความดีงาม ของผู้คนในบ้านหนองประดู่อีกครั้งหนึ่ง โดยเฉพาะกับผู้ที่ได้รับการสืบทอดชะตากรรม จากองค์บากโดยตรงอย่าง ทิ้ง (จา พนม ยีรัมย์) เด็กหนุ่มลูกกำพร้า ที่ได้รับการชุบเลี้ยงเติบโต จนมีสายเลือดของบ้านหนองประดู่อย่างข้นคลั่ก รวมทั้งเคล็ดวิชานวอาวุธ (อาวุธที่ก่อเกิดจากอวัยวะสำคัญ ในร่างกายของมนุษย์ทั้ง 9 อันประกอบไปด้วย 1 ศรีษะ 2 หมัดกร้าวแกร่ง 2 แรงกระทุ้งของศอก ตอกย้ำความหนักหน่วงของ 2 เข่า และความคล่องแคล้วว่องไวของ 2 เท้า) ผสมผสานกับศิลปะมวยไทยโบราณ ที่ได้รับการถ่ายทอดจากพระครู หลวงพ่อผู้เป็นดั่งเสาหลัก ที่เคารพนับถือของผู้คนในหมู่บ้านหนองประดู่ ลูกศิษย์คนสำคัญของครูดำ ปูชนียบุคคลที่มีคุณอนันต์ของหมู่บ้าน การเดินทางมุ่งหน้าสู่หนทางแห่งการต่อสู้ การทบทวนจิตวิญญาณแห่งความใฝ่ดี และการเผชิญหน้ากับโลกใหม่ ที่เต็มไปด้วยผู้คนที่ลุ่มหลงนิยมในวัตถุเงินทอง ท่ามกลางแสงสีของเมืองหลวง ที่เต็มไปด้วยความคดโกง หลอกหลวง และแก่งแย่งชิงดี ทิ้งได้พบกับบททดสอบแห่งศรัทธา และภาระรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่มากขึ้น อันตรายมากขึ้น โดยมีคนๆ เดียวในเมืองหลวง ที่จะช่วยทิ้งตามหาดอนได้คือ หำแหล่ หรือ ยืนยง (หม่ำ จ๊กหมก) ลูกชายของผู้ใหญ่น้อย อีกหนึ่งลูกหลานบ้านหนองประดู่ ที่ถูกส่งมาเล่าเรียน เพื่อกอบโกยเอาความรู้ นำกลับไปพัฒนาถิ่นเกิด แต่กลับกลายเป็นว่า ทิ้งถูกหำแหล่ ที่บัดนี้เปลี่ยนรูปโฉมเป็น ไอ้ยอร์จ หนุ่มหัวทองไร้ซึ้งหัวจิตหัวใจ หลอกขโมยเอาถุงห่อของมีค่า ที่รวบรวมเอาแบ๊งค์ยี่สิบเก่าๆ เงินเหรียญ และบรรดาทรัพย์สมบัติของผู้เฒ่าผู้แก่ ลูกหลานของบ้านหนองประดู่ ที่รวบรวมให้ทิ้งเพื่อเป็นทุนรอน ในการตามหาองค์บากในเมืองใหญ่ ไปวางเดิมพันในมวยเถื่อนเสียแล้ว เส้นทางในการเสาะหาองค์บาก ดึงเอาทิ้งเข้าไปเกี่ยวข้อง กับชีวิตของผู้คนอันหลากหลายในเมืองใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น เง็ก (รุ่งระวี บริจินดากุล) หญิงสาวสู้ชีวิต ที่ถูกความเหลวแหลกของเมืองหลวง กัดกินทั้งร่างกายและจิตใจ, หมวยเล็ก (ภุมวารี ยอดกมล) เด็กสาวแก่นแก้ว ที่งดงามทั้งหน้าตาและจิตใจ, ไอ้เป๋ง (เชษฐวุฒิ วัชรคุณ) นักเลงหัวไม้ หัวโจกของบรรดาจิ๊กโก๋คุมซอย คู่ปรับคนสำคัญของยอร์จ ความเป็นจริงในความหวังที่ไม่เพียงดูริบหรี่ แต่กลับเริ่มไกลห่าง ออกไปจากตัวทิ้งมากขึ้นทุกที เมื่อจิตศรัทธาแห่งความดีงาม จากคนรอบข้างที่มีต่อองค์บาก ค่อยรางเลือนมากยิ่งขึ้น กลับกันกับชักนำให้ทิ้ง ถล้ำเข้าไปสู่วังวนแห่งการต่อสู้ ที่ดูเหมือนจะขัดกับถ้อยคำที่พร่ำสอนจากพระครู เมื่อทิ้งถูกดึงเข้าไปเกี่ยวข้อง กับเกมการต่อสู้และการไล่ล่า ที่อบอวลไปด้วยความชั่วร้าย จากทั้งคนไทยด้วยกันเองและชาวต่างชาติ และนี่คือจุดเริ่มต้น ของการเดินทางแห่งจิตศรัทธา ที่นำมาซึ่งการต่อสู้ เพื่อพิสูจน์ศักดิ์ศรีของศิลปะการต่อสู้ ที่เรียกขานว่า แม่ไม้มวยไทยโบราณ

น.ช. นักโทษชาย (2545/2002) นักโทษคนหนึ่งต้องตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก เมื่อได้รับข้อเสนอให้เป็นสายรายงานเพื่อนนักโทษ และเขาจะต้องเลือกระหว่างผลประโยชน์ส่วนตัวกับการช่วยเหลือคนที่อาจต้องการเขา
14 ตุลา สงครามประชาชน (2544/2001) เหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 ซึ่งเกิดจากพลังแรงกล้า ของการใฝ่หาเสรีภาพ โดยการนำของนิสิตนักศึกษา ได้สร้างภาพยิ่งใหญ่ตราไว้ในประวัติศาสตร์ของชาติ ตั้งแต่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ถึงตลอดแนวถนนราชดำเนิน จากผู้คนเรือนล้านที่ออกจากบ้านและสถานศึกษา มาด้วยวิญญาณประชาธิปไตย ถึงร่างเปื้อนเลือด ซึ่งนอนทอดนิ่งอยู่ภายใต้ธงไตรรงค์ ท่ามกลางควันปืน และเสียงร่ำไห้ของเพื่อนพ้องผู้ใกล้ชิด ขณะประชาธิปไตยเริ่มผลิบานอีกครั้งหนึ่ง เสกสรรค์ ประเสริฐกุล (ภาณุ สุวรรณโณ) หนึ่งในผู้นำนักศึกษา ซึ่งยืนหยัดเป็นศูนย์กลางของฝูงชน ตลอดวันคืนอันยาวนานของเดือนตุลาฯ กลับพบว่าสภาพรอบตัวของเขา เริ่มเปลี่ยนแปลงไปอย่างน่ากลัว อันตราย และเต็มไปด้วยความขัดแย้งคุกคาม หลังจากเพื่อนพ้องคนรู้จักโดนลอบสังหารต่อเนื่อง เขาตัดสินใจชวน จิระนันท์ พิตรปรีชา (พิมพ์พรรณ จันทะ) คนรักซึ่งเป็นดาวจุฬาฯ หันหลังให้กับกิจกรรมความงาม มาเข้าร่วมอยู่ในขบวนการเรียกร้องความเป็นธรรม พากันหนีเข้าป่าไปร่วมกับ พคท. ซึ่งก็เหมือนเพื่อนพ้องนักศึกษารุ่นพี่รุ่นน้องจำนวนมาก ทั้งเดินทางเข้าไปก่อนหน้า และติดตามไปภายหลัง ทั้งสองใช้ชีวิตอย่างอยากลำเค็ญ ท่ามกลางป่าเขาบนภูร่องกล้า เฝ้าฝันว่าสักวันจะได้กลับเมือง พร้อมชัยชนะตามอุดมการณ์ที่ตั้งหวัง แต่แล้วเขากับจีระนันท์ก็เริ่มพบว่า สภาพแบบที่ทำให้เข้าต้องหนีออกจากเมือง ได้ย้อนกลับมาเป็นปัญหาให้ต้องเผชิญอีกครั้งในป่า
เชอรี่ แอน (2544/2001) ภาพยนตร์ที่ตีแผ่คดีดัง “คดีฆาตกรรมของนางสาวเชอรี่ แอน” มีผู้พบศพของนางสาวเชอรี่ แอนที่ป่าแสมใกล้ถนนสุขุมวิทสายเก่า หลักกิโลเมตรที่ 42 แถว บางปู สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2519 หลังการสอบสวนผู้เกี่ยวข้อง ภายใต้ความรับผิดชอบของ พ.ต.ท.เลิศล้ำ ธรรมนิสา กับ พ.ต.ท.มั่งคั่ง ศรีพรพงษ์ นำไปสู่การจับกุม นายวิชัย ชนะพานิช พร้อมบริวาร 4 คน นายเฉลิมรุ่ง นายพิพัฒน์ นายกระสิน และนายธวิช ในข้อหาจ้างฆ่าและร่วมกันฆ่า โดยตำรวจได้แยกย้ายผู้ต้องหาออกคุมขังกระจายไปตามสถานีตำรวจจังหวัดสมุทรปราการ นางไพลิน-พี่สาวของเสี่ยหนุ่ม ได้ว่าจ้างสำนักงานทนายเข้าแก้คดี เพ็ญนภา ธรรมรุ่งโรจน์ ทนายสาวจึงเข้ามารับผิดชอบในคดีนี้ ในระหว่างการถูกคุมขัง ผู้ต้องหาต่างต้องเผชิญกับเหตุการณ์ต่างๆนาๆ ทั้ง 4 คน ถูกฟ้องร้องด้วยหลักฐานปลอม พยานเท็จ จากการปรุงแต่งของตำรวจชั่ว จนถูกศาลชั้นต้นพิพากษาประหารชีวิต และส่งตัวไปจองจำที่เรือนจำบางขวาง แพะรับบาปทั้งหมด ต้องรอความหวังจากกระบวนการยุติธรรมของศาลอุทธรณ์และศาลฎีกา โดยไม่ได้รับอนุญาตให้ประกันตัว ทุกคนจึงต้องแบกรับชะตากรรมอันเลวร้ายต่อสิ่งที่ตนเองไม่ได้ก่อขึ้น สัมผัสกับเรื่องจริงอันโหดร้าย ของแพะรับบาปและความหมายและคุณค่าของคำว่า “อิสรภาพ” ได้ในภาพยนตร์เรื่อง “เชอรี่แอน”
มือปืน/โลก/พระ/จัน (2544/2001) กรุงเทพมหานคร ปีพุทธศักราช 2554 เป๋ ปืนควาย (เทพ โพธิ์งาม) อดีตมือปืนรุ่นใหญ่ถูกปล่อยตัวออกจากคุก พร้อมสังขารที่ชราภาพ งานแรกที่ได้รับการติดต่อให้สังหาร เถกิง มือปราบตงฉินฉายา ตำรวจเหล็ก เป๋ จัดการรวบรวมทีมงานที่เคยคุ้นมือ ซึ่งปัจจุบันล้วนได้ชื่อว่าเป็น มือปืนตกรุ่น ไปแล้ว ไม่มีใครสนใจจ้าง นี่จึงเป็นงานที่ทุกคนต้องตะครุบ นอกจากเงินค่าจ้างตัวเลขสูงแล้ว ทุกคนต่างมีความหวังที่จะกลับมารุ่งโรจน์อีกครั้ง ได้แก่ หมา ลูกบักเขียบ (หม่ำ จ๊กม๊ก หรือ เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา) มือระเบิดลูกอิสานจอมโว เอ๋อ เอลวิส (เท่ง เถิดเทิง หรือ พงษ์ศักดิ์ พงษ์สุวรรณ) นักฆ่าหมื่นศพ สิงห์สำอาง ผี ไรเฟิล (ถั่วแระ) นักแม่นปืนจิตหลอน ขณะเดียวกัน คิด ไซเลนเซอร์ (สมชาย เข็มกลัด) มือปืนรุ่นใหม่ค่าตัวราคาแพง และทำงานคนเดียว ก็ได้รับการว่าจ้างให้ลงมือฆ่าตำรวจเหล็กคนนี้ด้วยเช่นกัน การปะทะฝีมือระหว่างมือปืนตกรุ่น กับรุ่นใหม่ไฟแรงจึงโหมปะทุ มิหนำซ้ำความจริงเปิดเผยว่ามีการว่าจ้างผิดตัว ชุลมุนฆ่าจึงเกิดขึ้น และกลายเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของวงการอาชญากรรม ในตอนท้ายของหนัง มือปืนถูกฆ่าเกือบหมด โดยเป๋ถูกคิดยิงตาย หมาโดนระเบิดที่ตัวเองจุดระเบิดใส่ ผีถูกบาซูก้ายิงตาย โดยเหลือคิดที่รอดชีวิต และ เอ๋อ เอลวิส ที่ปรากฏตัวท้ายฉากเครติดในขณะที่กำลังร้องเพลงในคุก พร้อมเฉลยว่าฆาตกรตัวจริงที่ฆ่าพ่อแม่ของคิดคือใคร สมชาย เข็มกลัด รับบท สมคิด ไทรงาม "คิด ไซเลนเซอร์" นักฆ่ารุ่นใหม่ที่นิยมใช้ปืนติดลำกล้องเก็บเสียง มือปืนวัยรุ่นหัวกบฏ ไร้สังกัด ไร้ซุ้ม ไม่ยอมคบหาสมาคมกับมือปืนในวงการ ประสบการณ์น้อย แต่ทำงานไม่เคยพลาด ไม่มีใครรู้ที่มาที่ไป ว่าเป็นใครมาจากไหน คิดไม่ชอบเสียงดัง เขาใช้ปืนสั้น 2 กระบอกติดลำกล้องเก็บเสียง ลงมือด้วยความรวดเร็ว แม่นยำ และเงียบเชียบ ชอบลงมือในที่สาธารณะหรือชุมชน แล้วอาศัยความชุลมุนวุ่นวาย หายตัวไปอย่างรวดเร็ว เป็นมือปืนมาแรง และหาตัวจับยากคนหนึ่งในวงการ ในตอนจบคิดละทิ้งความเคียดแค้น เลิกตามล่าคนที่ฆ่าแม่ ยอมทิ้งปืนของเขาและออกเดินทางไกลต่อไปโดยเรือของชาวประมง สุเทพ โพธิ์งาม รับบท "เป๋ ปืนควาย" นักฆ่ามือเก๋าของวงการ เพิ่งเข้าวงการหลังจากติดคุกนานหลายปี นักฆ่าขาเก๋าของวงการ แยบยลหลักแหลม ลงมือแต่ละครั้งไม่เคยพลาด เป็นเพราะเขาวางแผนอย่างรัดกุม แต่มีครั้งหนึ่งที่เป๋พลาดอย่างใหญ่หลวง เป๋ตัดสินใจข้ามถนนโดยไม่ใช้สะพานลอย เลยโดนสิงห์มอเตอร์ไซด์เสย เป๋ต้องนอนโรงพยาบาลหลายวัน เมื่อออกมา เขากลายเป็นคนขาเป๋ เมื่อหมอต้องตัดกระดูกออกไปหลายนิ้ว ด้วยขาที่เป๋ ประกอบกับอายุที่มากขึ้น สายตาที่สั้นลง ทุกอย่างคืออุปสรรคในการทำงาน เป๋เริ่มทำงานพลาดบ่อยครั้ง จนเขา ต้องถอนตัวออกจากวงการ เป๋ออกมาประกอบอาชีพเป็นเซลแมน ขายเครื่องกรองน้ำตามหมู่บ้าน เป๋เหมือนเสือลำบากที่กำลังเมา เพราะดื่มเหล้าอย่างหนัก เป๋เสียชีวิตจากกระสุนปืนของคิด ไซเลนเซอร์ที่เข้าใจผิดว่าเขาคือคนฆ่าแม่ของตน เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา หรือ หม่ำ จ๊กมก รับบท "หมา ลูกบักเขียบ" นักฆ่าที่ยิงปืนไม่เป็น เลยใช้แต่ระเบิดเป็นอาวุธ นักฆ่าผู้ใช้แต่ระเบิดเป็นอาวุธ (เป็นความลับ ...หมายิงปืนไม่เป็น) หมาเป็นคนโผงผาง พูดจาเสียงดัง เพราะเป็นคนหูตึง ซึ่งเป็นผลมาจากแรงระเบิดของตัวเอง หมามักจะใช้ระเบิดน้อยหน่าเป็นอาวุธ ซึ่งคนอีสานเรียกน้อยหน่าว่า ลูกบักเขียบ หมามีความใฝ่ฝันที่จะเป็นทหาร แต่เขากลับไม่ผ่านเกณฑ์ที่กำหนด หมาจึงได้แต่แต่งตัวเลียนแบบทหาร และเริ่มศึกษาเรื่องของระเบิด ตั้งแต่ระเบิดขวดยันระเบิดไข่เน่า หมาศึกษาระเบิดจนสามารถทำระเบิดน้อยหน่าขึ้นมาใช้เองได้ในที่สุด ยุคที่การวางระเบิดบ้านคนดังกำลังฮิต หมาได้เงินมากมาย แต่หมากลับใช้เงินหมดไปกับผู้หญิง การเต้นรำและยาบ้า จนในที่สุด หมาก็ติดยาบ้าจนเสียงานเสียการ ทำระเบิดด้านบ่อยครั้ง จนคนเลิกจ้างไปในที่สุด หมาเข้าสู่ยุคตกต่ำ ต้องกลายมาเป็นเสือเต้นแร๊ปโบกรถเข้าปั๊ม แลกเงินเลี้ยงชีพ แต่ได้เงินมาเท่าไร หมาก็ซื้อยาบ้าจากปั๊มที่ตัวเองทำงานอยู่จนหมดไม่เคยเหลือ หมาเสียชีวิตจากระเบิดของตัวเองที่ปลดชนวนจะระเบิดฝรั่งนักฆ่า แต่เอ๋อ ที่ไม่รู้เรื่องได้ยิงหลังของนักฆ่าโดยที่ไม่รู้ว่ามีระเบิดที่หมาปลดชนวนออกไว้ ทำให้ระเบิดทำงานพร้อมกับระเบิดร่างหมา และนักฆ่าฝรั่งไปพร้อมกัน ศรสุทธา กลั่นมาลี หรือ ถั่วแระ เชิญยิ้ม รับบท "ผี ไรเฟิล" นักฆ่าบุปผาชนที่ยิงไรเฟิลจากระยะไกลแม่นยิ่งกว่าจับวาง แต่กลัวผีเป็นที่สุด นักฆ่าผู้รักสันโดษและกัญชาเป็นชีวิตจิตใจ ผีลงมือแต่ละครั้งไม่เคยพลาด และยากที่จะชี้ตำแหน่งเขาได้ เพราะผีสามารถยิงคนจากระยะไกลมากๆ เป็นมือปืนที่ถือได้ว่าแม่นยำที่สุดในวงการ แต่มีสิ่งหนึ่งที่ผีเก็บเป็นความลับ ไม่เคยเปิดเผยให้ใครได้รู้ ผียิงใกล้ไม่แม่น ถ้าอยู่ในระยะใกล้ ผีจะตกที่นั่งลำบากทันที ผีจึงทำตัวห่างไกลกับผู้คนไว้เสมอ ระยะหลังความแม่นยำของผีเริ่มหายไป เมื่อผีสูบกัญชามากจนมือสั่น ทำให้ผีทำงานพลาดบ่อยครั้ง จนผีต้องถอนตัวออกจากวงการ ผีพยายามถือศีลบำเพ็ญเพียร เพราะผีเชื่อว่านี่คงเป็นกรรมที่เขาก่อไว้ ผีทำได้ไม่ดีนัก เขาผิดศีลเป็นประจำ ถึงแม้จะลงทุนนุ่งขาวห่มขาว อาการสั่นกลับยังคงอยู่ ผีปล่อยเลยตามเลย เขาเปลี่ยนอาชีพเป็นคนทรงเจ้า หลอกชาวบ้านที่งมงายไปวันๆ เพื่อเลี้ยงชีพ แต่นานวันเข้าชาวบ้านก็เริ่มจับได้ ผีเปรียบเหมือนเสืออดโซที่กำลังจะอดตาย ผีเสียชีวิตจากการโดนบาซูก้ายิงใส่จนร่างร่วงจากบังเกอร์ และเขาก็ได้พบกับภรรยาอีกครั้งและอยู่ด้วยกันตลอดไป พงษ์ศักดิ์ พงษ์สุวรรณ หรือ เท่ง เถิดเทิง รับบท อดีต "โอ๋ เอ็ม 16 หมื่นศพสิงห์สำอาง" แต่เพี้ยนคิดว่าตัวเองเป็น เอลวิส เพรสลีย์ ใครๆ เลยเรียกว่า "เอ๋อ เอลวิส" ฉายาเดิมคิอ โอ๋ เอ็ม 16 "หมื่นศพสิงห์สำอาง" โอ๋รับจ้างฆ่าคนไม่เว้นว่าจะเป็นหญิงหรือชาย จนกระทั่งวันหนึ่ง โอ๋ ไปเที่ยวที่ เรดิโอ ซิตี้ เพื่อฟังเพลงเอลวิสที่โอ๋ชื่นชอบ วันนั้นร้านถูกวางระเบิด (ฝีมือของหมา) โอ๋โดนลูกหลงส่งเข้าไอซียู พอฟื้นขึ้นมาก็มีอาการเลอะเลือน แต่โอ๋ก็ยังรับงานฆ่าคนได้ แต่พักหลังโอ๋ลงมือแต่ละครั้ง เป้าหมายมักจะรอด แต่คนบริสุทธ์รอบข้างกลับล้มตายกันเป็นเบือ คนจ้างที่มีคุณธรรมหน่อย จึงไม่ค่อยนิยมใช้บริการโอ๋ ยกเว้นการฆ่าล้างโคตร พักหลังโอ๋อาการหนักถึงขนาดคิดว่า ตัวเองเป็นเอลวิส โอ๋เริ่มแต่งตัวเป็นเอลวิส และเริ่มพูดภาษาไทยไม่ชัด การรับงานแต่ละครั้งผู้จ้างต้องพูดภาษาอังกฤษกับเขา จนในที่สุด ก็ไม่มีใครจ้าง หลังจากนั้นชื่อ โอ๋ ก็ถูกเรียกเป็น เอ๋อ แทน เมื่อไม่มีคนจ้าง เอ๋อก็ไม่แคร์ เพราะเขาคือเอลวิส เอ๋อ ตระเวนร้องเพลงตามคาเฟ่ต่างๆ แม้เสียงร้องจะแสนห่วยอย่างไร แต่ก็ไม่มีคาเฟ่ไหนกล้าปฏิเสธเอ๋อ เอลวิสผู้ที่มี เอ็ม 16 ซ่อนอยู่ในกระเป๋ากีตาร์ ในตอนจบ เอ๋อ ถูกจับเข้าคุก และได้เป็นนักดนตรีอยู่ในคุก โดยในฉากที่เล่นดนตรีก็ได้เฉลยคนที่ฆ่าแม่ของ คิด ไซเลนเซอร์ อีกด้วย
สตางค์ (2543/2000) ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 ประเทศไทยได้รับความช่วยเหลือจากญี่ปุ่น ให้พิมพ์ธนบัตรใหม่ในโรงพิมพ์ธนบัตรที่ชวา เป็นธนบัตรฉบับละสิบบาทถ้วน ระหว่างธนบัตรถูกขนย้ายจากชวามาประเทศไทย ธนบัตรจำนวนหนึ่งถูกปล้นหายไป ทำให้รัฐบาลสมัยนั้นตัดสินใจไม่นำธนบัตรส่วนที่เหลือออกใช้ อย่างไรก็ตาม เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 สงบลง แม้ว่าบ้านเมืองจะเข้าสู่ภาวะปกติ แต่ก็เกิดสถานการณ์ข้าวยากหมากแพง และขาดธนบัตร ทำให้รัฐบาลหลังสงคราม ต้องนำธนบัตรชุดที่มีปัญหาออกประกาศใช้ โดยพิมพ์ประทับราคาใหม่ลงไปด้วยหมึกสีดำ เปลี่ยนเป็น 'ห้าสิบสตางค์' ทองย้อย (วีรชัย หัตถโกวิท) คนร้ายร่วมปล้นธนบัตร ซึ่งรอดชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนั้น และเป็นผู้ที่นำธนบัตรที่ปล้นได้ ไปซ่อนไว้ในห้องแพชลประทานร้างหลังหนึ่ง ถูก พยนต์ (ฉัตรชัย เปล่งพานิช) พร้อมด้วย โชติ (โอลิเวอร์ บีเบอร์) และ บุญมา (รัฐพงศ์ เตโชชัชวาล) ทหารคนสนิท ซึ่งเป็นผู้ร่วมรู้เห็น ตามล่าเพื่อค้นหาที่ซ่อนธนบัตร และหมายที่จะฆ่าทองย้อย ทองย้อยจึงหนีมาซ่อนตัว ในตรอกโรงเจริมแม่น้ำแห่งหนึ่ง ทำให้ข่าวเกี่ยวกับแพชลประทานร้างที่ซ่อนธนบัตร แพร่กระจายถึงชาวตรอกโรงเจบางคน อาทิ ระบือ (เจษฎาภรณ์ ผลดี) พนักงานขายเครื่องกระป๋อง ที่ไม่เคยขายอะไรได้เลย, จำรัส (มานพ อัศวเทพ) เจ้าของโรงพิมพ์ และร้านเช่าหนังสือผู้เห็นแก่ตัว, นาท (พิทักษ์ ศัลย์วิวรรธน์) ข้าราชการจัตวาผู้โลภมาก ซึ่งเช่าห้องอยู่กับ สมพิศ (พัฒนาวดี พัฒนถาบุตร) เมียสาวท้องแก่, เลี้ยง (ชูชัย บุศราคัมวงค์) เจ้าของร้านกาแฟ และของชำแห่งเดียวในตรอกโรงเจ, ตรอง (พัทสน ศรินทุ) จิตรกรยากไร้ ผู้พิสมัยการวาดภาพเปลือยของมนุษย์ มีจินตนาการ ไม่สนใจใคร, หมอ (ปอง จุลละทรัพย์) ผู้เห็นเงินสำคัญกว่าการรักษาคนเจ็บ, ครูแรม (ชนประคัลภ์ จันทร์เรือง) ครูตกงาน กับ ศรี ภรรยาที่ป่วยกระเสาะกระแสะ, โรจน์ (ศรัณยู วงศ์กระจ่าง) อดีตหนุ่มสังคม และครูสอนลีลาศ ผู้พิการจากสงคราม พร้อมด้วยภรรยา ขวัญตา (จินตหรา สุขพัฒน์) คู่ลีลาศของโรจน์ ที่ต้องผันชีวิตมาเป็นโสเภณีในตรอกเล็กๆ แห่งนี้, รัมภา (เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์) สาวผู้ดีตกยาก หยิ่งทะนง และ ปราณี (เข็มอัปสร สิริสุขะ) ผู้พี่บุญธรรม รวมทั้ง จ่อน (สรพงศ์ ชาตรี) ชายบ้าเพราะสงคราม และสูญเสียครอบครัวไประหว่างสงคราม บรรดาชาวตรอกโรงเจเหล่านี้ พร้อมด้วย เที่ยงแท้ (มีศักดิ์ นาครัตน์) คหบดีเจ้าของตรอกผู้หน้าเลือด กับ บุรี ลูกสมุนคนสนิทของเที่ยงแท้ จึงได้ว่าจ้าง และอาศัยเรือของ พร้อม (สันติสุข พรหมศิริ) กับเมียสาว จำเรียง (กัญญารัตน์ บ่อสันเที๊ยะ) พร้อมด้วย หนูแดง ลูกสาวเพียงคนเดียว โดยมีทองย้อยเป็นผู้นำทาง ออกตามหาแพชลประทานที่ซ่อนธนบัตรหลังนั้นโดยทันที ซึ่งในขณะนั้นพวกของพยนต์ โชติ และบุญมา แอบตามล่าทองย้อย และติดตามบรรดาชาวตรอกโรงเจที่ร่องเรือเช่นกัน การเดินทางเต็มไปด้วยความยากลำบาก การเผชิญภัย และความขัดแย้งในระหว่างกัน ธาตุแท้ของหลายคนถูกเผยออก ขณะอีกหลายคนเริ่มเรียนรู้ว่า แม้ว่าเงินจะเป็นยอดปรารถนา แต่การสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างมีความสุข ก็น่าจะเป็นสิ่งที่เพียงพอแล้ว แพร้างหลังนั้นถูกตามจนเจอ หลายคนได้เดินทางกลับสู่โรงเจ ด้วยความสุขความอิ่มเอิบใจ ในสิ่งที่ได้รับจากการเดินทาง และการใช้ชีวิตช่วงสั้นๆ ร่วมกัน รวมทั้งจากความสัมพันธ์ใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างกันด้วย
เรื่องตลก 69 (2542/1999) เหตุการณ์ในภาวะเศรษฐกิจไทยตกต่ำยุคฟองสบู่แตกหรือวิกฤติการณ์ต้มยำกุ้ง เมื่อปี พ.ศ. 2540 ผ่านเรื่องราวของ ตุ้ม พนักงานสาวประจำบริษัทการเงินแห่งหนึ่งที่ถูกปลดออกจากงานเพราะปัญหาเศรษฐกิจ ซ้ำโชคชะตายังเล่นตลกเมื่อลูกน้องของเจ้าพ่อแห่งวงการมวย นำกล่องบะหมี่สำเร็จรูปที่เต็มไปด้วยเงินสดจำนวนมหาศาลมาวางไว้หน้าห้องพักหมายเลข 6 ของเธอ ด้วยความเข้าใจผิดคิดว่าเป็นห้องหมายเลข 9 เพราะตัวเลข 6 หน้าห้องของตุ้มบังเอิญพลิกตกกลับหัวกลายเป็น 9 เป็นจุดเริ่มต้นให้ชีวิตที่กำลังจนตรอก ต้องตกเข้าไปอยู่ในวังวนของอาชญากรรมโดยไม่ตั้งใจ "ตุ้ม" เลขาที่ถูกเลิกจ้างในช่วงภาวะเศรษฐกิจย่ำแย่ วันแรกของการตกงาน ตุ้มตื่นมาเจอมาม่ากล่องใบหนึ่งวางอยู่หน้าห้องพักเธอ เมื่อเธอนำกล่องเข้าห้องมาและเปิดดูกลับพบเงินจำนวนมากมายในกล่อง และกล่องใบนั้นจะนำพามาด้วยโชคชะตาที่เล่นตลกกับเธอที่จะทำให้ชีวิตของเธอเปลี่ยนไปอย่างที่เธอคิดไม่ถึง
ดอกไม้ในทางปืน (2542/1999) ลพ ลำนารายณ์ นิด วัดสอง และสวน สรรพยา เป็นมือปืนใกล้ชิดเสี่ยล้อ แต่ละคนต่างมีเอกลักษณ์ความเป็นมือปืน ที่รักษากฎเกณฑ์อันพึงปฏิบัติของนักฆ่ามืออาชีพไว้อย่างเคร่งครัด การที่ลพได้พบรักกับดลใจ พนักงานขายประกันชีวิตสาว และความรักที่เริ่มผูกพันอย่างแนบแน่นของคนทั้งสอง ทำให้ลพพร้อมที่จะเลิกอาชีพนักฆ่า เพื่อไปประกอบอาชีพสุจริต คือทำสวนดอกไม้ และปลูกดอกไม้ขาย ตามความปรารถนาของดลใจ ในขณะที่ลพกำลังพยายามล้างมือจากการเป็นนักฆ่าอาชีพ สวน สรรพยา ได้มาเสนองานง่าย แต่เงินดี และไม่ต้องเสี่ยงตาย หรือต้องปลิดชีวิตใครอีกแล้ว และเป็นงานที่สวนรับมาจากเสี่ยเคี้ยง เศรษฐีนักค้ายาเสพติดอีกต่อหนึ่งให้ลพเพื่อทำงานร่วมกับเขา และเมื่อเสร็จงานลพก็จะสามารถเอาเงินมาตั้งเนื้อตั้งตัวทำสวนดอกไม้กับดลใจสมดังเจตนารมย์ แต่…งานง่ายแต่เงินดีของสวนครั้งนี้กลับพลิกผันโดยสิ้นเชิงอย่างไม่คาดฝัน ทำให้ความหวังของลพและดลใจ ที่จะเลิกอาชีพนักฆ่า และพนักงานขายประกันชีวิต ต้องพังทลายลงอย่างไม่อาจหวนกลับคืนมาได้อีก และกลายเป็นการทรยศหักหลังซับซ้อนกัน อย่างที่ลพเองก็ไม่คาดคิดว่ามันจะทำให้ชีวิตของเขาและดลใจต้อง เปลี่ยนจากหน้ามือไปได้ถึงเพียงนั้น
ล่าระเบิดเมือง (2542/1999) “อำนาจ” และ “เงินตรา” น้อยคนนักที่จะปฏิเสธการเป็นเจ้าของ และน้อยคนนักที่จะหลุดพ้นจากการเป็นทาสของมัน…. “ก้อง” บอดี้การ์ดหนุ่มมือหนึ่งของ “ธรรมคุณ” นักการเมืองที่อาศัยอำนาจหน้าที่บังหน้า โดยมีเบื้องหลังคือการค้ายาเสพติดรายใหญ่ระดับประเทศ แต่ขณะเดียวกัน ก้องก็ถูกว่าจ้างให้เป็นสายให้กับหน่วยปราบปรามพิเศษด้วยเช่นกัน สาเหตุที่เขาทำเช่นนี้เพราะอำนาจของ “เงิน” ที่เขาต้องการเท่านั้น เงินสามารถจะซื้อทุกสิ่งทุกอย่างให้กับ “หน่อย” น้องสาวคนเดียวที่เขามีอยู่ “หนุ่ย” คอมมานโดหน่วยปราบปรามพิเศษ ที่มีคู่หูคือ “อ๊อฟ” เพื่อนรักที่สามารถยอมตามแทนกันได้ ทั้งสองอยู่ในความควบคุมของ “แดน” หัวหน้าหน่วยปราบปรามพิเศษ ที่คอยตามจับตัวราชายาเสพติดรายใหญ่อยู่ ในที่สุดทั้งสามคนก็สามารถร่วมกันจับ “เล่าซู” ราชายาเสพติดได้ ด้วยข้อมูลลับๆของก้อง เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ก้องถูกจับได้ว่าเป็นสายให้กับทีมของแดน ก้องถูกสั่งเก็บแต่เขา หนีรอดออกมาได้ และยังได้หลักฐานชิ้นสำคัญมาอีกด้วย แต่หน่อยน้องสาวของก้องก็ถูกจับเป็นตัวประกันอยู่ เพื่อต่อรองกับก้อง… ผู้ก่อการร้ายกลุ่มหนึ่งได้ปฏิบัติการอุกอาจ เข้ายึดโบกี้รถไฟไว้ขบวนหนึ่งและจับผู้โดยสารเป็นตัวประกันเพื่อแลกกับเล่าซู โดยใช้ “จ๋อม” พยาบาลสาวทำหน้าที่สื่อกลางระหว่างผู้ก่อการร้ายกับตำรวจ… หน่วยปฏิบัติการพิเศษของแดนออกปฏิบัติการอีกครั้ง เพื่อทำการช่วยเหลือตัวประกัน เหตุการณ์นี้หนุ่ยได้ช่วย จ๋อมออกมาได้ แต่ได้เสียสองเพื่อนรักไป อ๊อฟถูกฆ่าตาย และแดนเพื่อนรักก็หักหลังเพื่อนเพียงเพื่อ “อำนาจ” เท่านั้น แดนตามฆ่าหนุ่ยด้วยเหตุเพราะหนุ่ยล่วงรู้ความลับของตน หนุ่ยทั้งเสียใจและเครียดแค้นแดน จากเพื่อนรักต้องกลายมาเป็นคู่แค้น โชคดีที่เขามีจ๋อมคอยเป็นเพื่อนและคอยให้กำลังใจอยู่ตลอดเวลา ก้องยังถูกเจ้านายตามล่าอยู่ โดยใช้น้องสาวของเขาเป็นข้อต่อรองกับหลักฐานชิ้นสำคัญที่เขามีอยู่ ในที่สุด ก้อง หนุ่ย และจ๋อม ก็ถูกตามล่าและหนีมาเจอกัน จากความเข้าใจผิดกลับกลายมาเป็นเพื่อน เพราะต้องร่วมชะตากรรมในการหนีตายจากเหตุการณ์ต่างๆเหมือนกัน ก้อง…จะช่วยชีวิตน้องสาวได้หรือไม่…? ความสัมพันธ์ระหว่างหนุ่ยกับจ๋อมจะลงเอยอย่างไร…? แดน…จะรับโทษทัณฑ์อย่างไร…? และการตามล่าจะส่งผลเช่นไรกับเมือง…เมืองนี้
เสือ โจรพันธุ์เสือ (2541/1998) ภาพยนตร์ที่ดัดแปลงจากเรื่องราวของ เสือใบ จอมโจรชื่อดังในช่วงหลังสงครามโลก ครั้งที่ 2 ยุคข้าวยากหมากแพงที่ประชาชนเดือดร้อนไปทั่ว แม้การกระทำของเสือใบจะเป็นที่รักของชาวบ้านจากการออกปล้นคนรวยช่วยคนจน แต่เหล่าตำรวจนำโดยผู้กอง ยิ่ง มือปราบคนสำคัญ ก็จำต้องปราบปรามเขาอย่างเด็ดขาด ชีวิตที่เปลี่ยนผันของนายใบทำให้ต้องกลายเป็นเสือใบผู้ออกปล้นคนรวยช่วยคนจน แม้การกระทำของเสือใบจะเป็นที่รักของชาวบ้านมากเพียงใด ทางการตำรวจก็ต้องปราบปรามอย่างเด็ดขาด นำโดยผู้กองยิ่งนายตำรวจมือปราบรับหน้าที่กำราบเสือใบและขบวนโจรที่มีเสือยอด สิงห์ปืนคู่ เป็นมือขวาคนสำคัญ พุทธศักราช 2449 แผ่นดินลุกเป็นไฟ ผู้คนเดือดร้อนไปทั่วจากกลียุคข้าวยากหมากแพง หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เกิดโจรร้ายออกปล้นสดมภ์ไปทั่วทุกหัวระแหง มีเพียงหนึ่งที่แตกต่าง เสือใบ (อำพล ลำพูน) คนดีที่ชีวิตถูกลิขิตให้เป็นโจรผู้ยิ่งใหญ่แห่งเมืองลพบุรีที่กลายเป็นตำนานเสือใบ จะปล้นเฉพาะพ่อค้าคหบดีที่เลวๆ ที่ขูดรีด เอาเปรียบชาวบ้าน เพื่อแจกจ่ายเงินนั้นกลับคืน แต่ถึงอย่างไรขึ้นชื่อว่าโจรก็คือผู้ทำผิดกฎหมาย ทางกรมตำรวจ จึงเรียกตัว ผู้กองยิ่ง (ดอม เหตระกูล) อัศวินโล่ห์เงินแห่งกองปราบเข้าพบ เพราะเป็นเพียงผู้เดียวเท่านั้น ที่จะรับมือกับเสือใบได้ เสือใบรับมือกับผู้กองยิ่งโดยมีเสือยอดเป็นมือขวา การตามล่าอันตื่นเต้น ชั้นเชิง ไหวพริบ ที่หยิบมาใช้จากเสือร้ายกับตำรวจ
กอดคอวัดใจนายกับเรา (2541/1998) กรีน สูญเสียน้องชายอันเป็นที่รักไปอย่างไม่มีวันกลับ ระหว่างที่น้องไปเที่ยวในบ่อนกับ ปอง เพื่อนของกรีนที่สนิทกันมาตั้งแต่เด็ก การมีเรื่องกันครั้งนั้นทำให้ปองต้องหนีหัวซุกหัวซุนลงจากเชียงใหม่มากบดานที่กรุงเทพฯ เพราะ ม๊อค นักเลงที่คุมบ่อนอยู่โกรธแค้นปองมากที่ทำให้ตัวเองตาบอด กรีนคอยติดตามความเป็นไป และคอยช่วยเหลือเพื่อนอยู่เสมอด้วยความเป็นห่วง แต่เขาจะทำอย่างไรเมื่อค้นพบในตอนสุดท้ายว่า คนที่ทำให้น้องชายคนเดียวของเขาต้องตาย คือ เพื่อนรักของเขานี่เอง
วัยระเริง (2541/1998) อาจารย์วัยกลางคนที่ยึดถืออุดมคติและอุทิศ­ตนเพื่อให้ความรู้แก่นักเรียนของเธอ เธอเข้ามาเป็นครูประจำชั้นเรียนของเด็กวัยรุ่นที่แย่และหยาบคายท­ี่สุด เธอพยายามปรับการเรียนการสอนเพื่อให้นักเรียนสนใจในการเรียน ท่ามกลางปัญหาของวัยรุ่นที่เธอต้องพบเจอทั้งความรุนแรง และยาเสพติด
18 ฝนคนอันตราย (2540/1997) เรื่องราวกลุ่มเด็กวัยรุ่นสี่คน ในปีที่ 18 แห่งชีวิต ต๊ะถูกตราหน้าว่าเป็นคนเลว โด่งกลายเป็นไอ้ขี้คุก นิคตกเป็นทาสยาเสพติด ชะตากรรมอันเลวร้ายได้รุกซ้ำสอง เมื่อนิ้งหญิงของต๊ะถูกกลุ่มทรชนรุมข่มขืน ความปวดร้าวในหัวใจที่เห็นหญิงคนรัก ถูกกระทำชำเรา กลายเป็นเชื้อไฟในชีวิตพวกเขาทั้งสี่คน ในการเริ่มเรียนรู้ถึงคำว่าแก้แค้น ไม่มีใครไม่เคยเจ็บปวดในชีวิต แต่ใครเล่าจะเป็นผู้บอกได้ว่า ความเจ็บปวดนั้นจะจบลงตรงที่ใด โดยเฉพาะชีวิตของคนกลุ่มนี้ 18 ฝนคนอันตราย คนกลุ่มหนึ่งที่กำลังถูกสังคมรังแก แต่พวกเขาไม่ยอมแพ้ เพราะพวกเขาอันตรายแรงเกินตัวเหมือนกัน ต๊ะ โด่ง ต่อ และ นิคกี้ เป็นวัยรุ่นที่ล้วนมีปัญหาชีวิต จนถูกตราหน้าว่าเป็นคนเลว ขี้ยา และขี้คุก แต่เมื่อทั้งสี่คนคิดจะกลับตัวเป็นคนดีขึ้นมา กลับมีเหตุร้ายเกิดขึ้นเมื่อ หญิง น้องสาวของต๊ะได้ถูกข่มขืนอย่างทารุณ ทำให้พวกเขากลับมาสู่เส้นทางความรุนแรงอีกครั้ง เพื่อตามล่าเหล่าทรชนที่ข่มขืนหญิงมาลงโทษให้สาสม
ฝัน บ้า คาราโอเกะ (2540/1997) ปู (เฟย์ อัศเวศน์) หญิงสาวที่อาศัยอยู่กับพ่อ (ไพบูลย์เกียรติ เขียวแก้ว) สองคนหลังจากแม่ตายไปตั้งแต่เธอยังเล็ก ช่วงหลังเธอมักจะฝันเห็นแม่กำลังสร้างบ้านโมเดลหลังเล็กๆ อยู่ และฝันว่าแม่เอาปืนยิงพ่อเสียชีวิต พ่อเพื่อนสนิทของปูทำนายฝันว่า วันใดที่แม่เธอสร้างบ้านโมเดลเสร็จ วันนั้นเป็นวันที่พ่อเธอจะต้องตาย พ่อเธอเป็นคนดื่มเหล้า สูบบุหรี่จัด และชอบร้องคาราโอเกะ ทั้งยังแอบไปมีความสัมพันธ์กับ หยก (แชมเปญ เอ็กซ์) เมียน้อยของเสี่ยโต้ง (วีรดิษ วิญญรัตน์) เจ้าของร้านคาราโอเกะ ซึ่งเมื่อรู้ความสัมพันธ์ลับนั้นก็ส่งมือปืนมาตามเก็บพ่อปู น้อย (เรย์ แมคโดนัลด์) ชายหนุ่มขี้อายที่เป็นลูกค้าร้านสะดวกซื้อที่ ปั๋ม (ณัฐณิชา ครองลาภยศ) เพื่อนปูทำงานอยู่ เวลาน้อยมาซื้อของ มักจะเจอกับปู ที่มาขลุกอยู่ที่ร้านปั๋มอยู่เสมอ ทั้งคู่ต่างมีใจให้กัน โดยที่ต่างฝ่ายต่างไม่รู้ว่าเบื้องหลังนั้น น้อยเป็นลูกน้องของเสี่ยโต้ง เป็นมือปืนที่มีหน้าที่เก็บกวาดคนที่มาเกาะแกะเมียน้อยของเจ้านาย น้อยมุ่งมั่นทำงานเก็บเงิน เพื่อเดินทางไปหาประสบการณ์ที่อเมริกา ในฝันนั้น บ้านโมเดลใกล้จะเสร็จลงทุกวัน ปูพยายามทุกวิถีทางเพื่อช่วยต่อชีวิตพ่อ ไม่ว่าจะบริจาคโลงศพ แก้เคล็ด ฯลฯ ในขณะที่น้อยกับปู ต่างก็ค่อยๆ สานต่อความรู้สึกดีๆ ที่มีต่อกัน
2499 อันธพาลครองเมือง (2540/1997) เรื่องราวทั้งหมดเล่าโดยผ่านความทรงจำของ เปี๊ยก วิสุทธิ์กษัตริย์ (สุริยัน ศักดิ์ไธสง-ให้เสียงบรรยายโดย รุจน์ รณภพ) ก่อนปี พ.ศ. 2500 สมัยที่กรุงเทพฯยังถูกเรียกว่าพระนคร อิทธิพลของวัฒนธรรมตะวันตกเริ่มหลั่งไหลมายังกลุ่มวัยรุ่นเมืองไทย แดง (เจษฎาภรณ์ ผลดี) เป็นหัวโจกเด็กวัยรุ่น แดงเป็นลูกของ โฉม (ปาริชาต บริสุทธิ์) คนงานบ้านโสเภณีที่ตรอกไบเล่ย์ ข้างหัวลำโพง เขาจึงสร้างปมเด่นขึ้นมาด้วยการเป็นหัวหน้าแก๊งอันธพาลเพื่อกลบปมด้อยที่เป็นลูกโสเภณี แดงมีเพื่อนสนิทคือ ปุ๊ (ศุภกรณ์ กิจสุวรรณ), ดำ (ชาติชาย งามสรรพ์), แหลม (นพชัย มัททวีวงศ์) และ เปี๊ยก (อรรถพร ธีมากร) แดงสร้างชื่อจากการสังหารเฮียหมา นักเลงท้องถิ่นในงานฉลองวันขึ้นปีใหม่ วันหนึ่งในงานเจมส์ ดีนรำลึก พวกแดงได้เจอกับนักร้องสาวคนหนึ่งชื่อ วัลลภา (แชมเปญ เอ็กซ์) วัลลภามีท่าทีสนใจแดงทั้งสองคนจึงได้รู้จักกัน ครั้งนึงปุ๊ไปมีเรื่องกับเด็กในแก๊งของเปี๊ยก ทำให้เปี๊ยกออกรับหน้าแทนจึงเกิดการทะเลาะวิวาทกันขึ้น ทำให้เปี้ยกต้องติดคุกและโดนไล่ออกจากโรงเรียนในภายหลัง เป็นชนวนเหตุให้แก๊งระเบิดขวดที่นำโดยปุ๊ และแก๊งไบเล่ย์ของแดงเกิดบาดหมางและก่อให้เกิดเรื่องราวความรุนแรงในเวลาต่อมา
แก๊งค์ กระแทกก๊วนส์ เก๋ากวนเมือง (2540/1997) แก๊งค์ล้วงกระเป๋า 4 คนที่ดันไปล้วงเอาเพชรจากกลุ่มโจรมืออาชีพมาได้ ทั้งหมดจึงต้องเดือดร้อนจากการตามล่าเอาเพชรคืน นอกจากนี้ยังต้องถูกนายตำรวจหนุ่มที่เป็นเจ้าของคดีตามจับ แต่เรื่องยุ่งหนักขึ้นเมื่อพวกโจรได้จับตัวอาจารย์นักล้วงของทั้งสี่ไป พวกเขาจำต้องร่วมมือกับนายตำรวจหนุ่มเพื่อเข้าไปช่วยเหลืออาจารย์ และจับกุมแก๊งค์โจรเหล่านี้ให้ได้ ชานัฐ นายตำรวจหนุ่มฝีมือดีจากกรมตำรวจ พร้อมเดชาเพื่อนคู่หูที่ไม่ค่อยเต็มสักเท่าไหร่นัก ทำการสืบสวนเรื่องคดีเพชรของประเทศซีดานที่หายไป และตามเรื่องมาจนพบกับ แก็งค์ล้วงกระเป๋า 4 คน ฟ้า บอย ข้าว และกิ๊ฟ พวกแก๊งค์นี้เป็นลูกศิษย์ และพักอาศัยอยู่ในบ้านอาจารย์ยอดมิจฉาชีพ ทั้งหมดเกิดไปฉกเพชรซีดานมูลค่าหลายสิบล้านบาทมาจากไอ้แขก มหาโจรตัวจริง ที่ไปขโมยเพชรซีดานมา ขณะที่ไอ้แขกกำลังส่งมอบเพชรให้ มร.ยีป นักค้าของเถื่อนรายใหญ่ ซึ่งเป็นเจ้าพ่อที่ตำรวจกำลังควานหาตัวอยู่ ระหว่างมีการแลกของกันนั้น พวกนักล้วง กระเป๋าลอบเข้าไปฉกเอามาโดยที่พวกตนไม่รู้ว่าของข้างในนั้นเป็นอะไร จากเหตุการณ์ที่ผ่านมาสร้างความเป็นเดือดเป็นแค้นให้กับไอ้แขกมากและตามล่าตัวพวกแก๊งค์นักล้วง เพื่อต้องการเอาเพชรกลับคืนมา แต่ระหว่างการหลบหนีการตามล่านั้น ทั้งหมดก็ถูกชานัฐจับต้วได้แล้วควบคุมตัวเอาไว้ หลังจากที่สืบสาวราวเรื่องนั้น ทั้งหมด ให้การปฏิเสธ ว่าพวกตนไม่รู้เรื่องเพชรซีดาน ในเมื่อไม่มีหลักฐานแน่นหนา ทั้งสี่ก็ถูกปล่อยตัวไป แต่อย่างไรชานัฐก็ยังไม่วางใจเชื่อว่าทั้งหมดไม่รู้เห็นเรื่องเพชร หลังจากที่ถูกปล่อยตัวออกมาแล้ว ทั้งสี่คนก็เอาเพชรไปจำนำ แต่ปรากฎว่าเป็นเพชรปลอม ทั้งหมดจึงผิดหวังแล้วกลับมาหาอาจารย์ที่บ้าน แต่กลับมาพบว่าไอ้แขกได้จับตัวอาจารย์ไปแล้ว เพื่อแลกกับเพชรทั้งหมด จึงเข้าไปช่วยอาจารย์ แล้วบอกไอ้แขกว่าเพชรทั้งหมดนี้เป็นของปลอม แต่ไอ้แขกไม่เชื่อ ระหว่างที่ต่อรองอยู่นั้น ชานัฐก็เข้ามาช่วยเหลือพวกนักล้วง แล้วพาหนีไปอยู่บ้านพักตากอากาศ ชานัฐรู้สึกชอบฟ้า แต่สาวเจ้าไม่เล่นด้วย ระหว่างที่พวกนักล้วงหลบซ่อนตัวอยู่ ทางอาจารย์ผู้ที่มีความละโมบอยู่เต็มตัว ตนจึงแอบติดต่อแบบลับๆ กับ มร.ยีป เพื่อที่จะขายเพชรและเอาเงินทั้งหมด มาเป็นของตน ระหว่างนั้นก็มีการต่อสู้ของทั้งสามฝ่าย ทั้งผู้ร้ายและตำรวจ เพื่อที่จะแย่งเพชรเอามาเป็นของตนเอง