Love's Coming ใช่รักหรือเปล่า (2557/2014) วันสุดท้ายของการสอบกลางภาคของ กั้ม (สุทธิณัฐ อึ้งตระกูล) เด็กเรียนดีได้สี่ทุกวิชา ซี (กร คุณาธิปอภิสิริ) หัวโจ๊กประจำกลุ่ม ปี๊ด (ชานน สันตินธรกุล) เด็กหนุ่มจอมทะเล้น อาร์ม (สุรพัศ คีรีวิเชียร) เด็กหนุ่มเรียบร้อยพูดเพราะ โดยที่ ซี มีแผนจะชวนเพื่อนไปเที่ยว แต่กลับได้รับคำปฏิเสธจาก กั๊ม เพราะติดติวหนังสือให้ ไนท์ (นรภัทร สกุลซ้ง) เด็กหนุ่มหน้าหล่อจอมแว้นข้างบ้าน ซึ่ง ไนท์ เองนั้นเป็นคนที่ กั๊ม แอบมีความรู้สึกพิเศษให้ แต่ กั๊ม เองก็ไม่รู้ว่าความรู้สึกนั้นคืออะไร กั้ม จึงพยายามค้นหาคำตอบให้กับความรู้สึกที่อยู่ข้างใน พร้อมกับต้องทำให้ ไนท์ สนใจที่จะเรียนมากขึ้น แต่เรื่องราวดันสับสนวุ่นวาย เมื่อ โซดา (จีรญา สว่างเถื่อน) สาวเปรี้ยวซ่า แฟนเก่า ไนท์ ตัดสินใจจะกลับมาขอคืนดี และด้วยความที่พฤติกรรมของ กั๊ม ที่เปลี่ยนไปและความสงสัยในความสัมพันธ์ของ กั๊ม กับ ไนท์ ทำให้ ซี ปี๊ด อาร์ม จึงบังเกิดแผนการที่จะพิสูจน์ความเป็นเกย์ของเขาทั้งสองขึ้น ซึ่ง ซี ได้ไปขอคำปรึกษากับ ป้าคิตตี้ (ศุกรินทร์ พวงเข็มขาว) เกย์แก่รุ่นใหญ่เพื่อนพ่อ แผนการพิสูจน์ความเป็นเกย์ที่แสนจะฮาพร้อมกับการตามหาคำตอบของหัวใจจะจบลงเช่นไร
พี่ชาย My Bromance (2557/2014) กอล์ฟ เด็กหนุ่มนิสัยก้าวร้าว ไม่เคยได้รับความรักจากพ่อและแม่ เป็นลูกชายคนเดียวของครอบครัว วันหนึ่งได้พบกับ แบงค์ เข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ภายในบ้าน จากคนที่ไม่เคยเป็นพี่ และไม่ต้องการจะมีน้อง ต้องยอมรับบทบาทใหม่ของตัวเอง ทั้งสองต้องเรียนรู้การอยู่ร่วมกัน เอาชนะกำแพงในจิตใจและอุปสรรคจากสิ่งรอบตัว เพื่อรู้จักความรักที่แท้จริงและบริสุทธิ์ของคำว่า พี่ชาย และน้องชาย จนสุดท้ายแล้วความรักนั้นกลายเป็นรักที่ยิ่งใหญ่ คงอยู่ในความทรงจำของทั้งสองตลอดกาล กอล์ฟและแบงค์ ทั้งสองเป็นพี่น้องต่างสายเลือดที่ไม่ค่อยจะลงรอยกัน แต่เมื่อเวลาผ่านไป ความใกล้ชิดและความผูกพันของทั้งคู่ ได้ก่อเกิดเป็นความรัก รักที่บริสุทธิ์ รักที่นำมาซึ่งการเสียสละที่ยิ่งใหญ่ ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่เพียงแค่นำเสนอความรักของพี่น้องคู่หนึ่งเท่านั้น แต่ยังเต็มไปด้วยความรักของครอบครัว และมิตรภาพระหว่างเพื่อนที่แนบแน่น
TOM GAY มึนรักสลับขั้ว (2556/2013) ความรักในอีกแง่มุมหนึ่ง ระหว่างทอมกับเกย์ เมื่อ แฮงค์ ทอมบอยสุดซ่า และ คิง เกย์หนุ่มสุดเฟี้ยว ถูกคุณแม่ตัวแสบล่ามโซ่ใส่กุญแจมือให้มาแต่งงานกัน จนทำให้พวกเขาได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น แล้วจะเกิดการตกหลุมรักกันในที่สุด หรือจะฆ่ากันให้ตายไปข้างหนึ่ง
Me my familiar people ,คิดถึงคนแปลกหน้า (2556/2013) เรื่องราวความรักของสามชายหนุ่ม ที่ตั้งอยู่บนความสับสน เย้ายวน และอ่อนไหว เป้ (ภาณุพงศ์ วงษ์ถม) เจอกับ อาร์ต (ธนิต โอภาสวานิชกุล) ไม่นาน แต่ทั้งสองก็รู้จัก และรู้ใจกันอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นเพื่อนสนิทกันในที่สุด เป้ กับ อาร์ต คบกันบนความเย้ายวนรุนแรงแห่งอารมณ์เพศ ที่เพศชายคนหนึ่งมีต่ออีกคน เป้ ตัดสินใจก้าวล้ำเส้นคำเพื่อน อาร์ต ไม่ปฏิเสธว่าเขาก็ต้องการสิ่งนั้นเช่นกัน เป้ และ อาร์ต ต่างไขว่คว้าสิ่งเดียวกันนั้นคือ เซ็ก ที่พวกเขาหลงผูกโยงมันไว้กับความรัก และไม่สามารถจะต้านทานได้ในทุกครั้งเมื่อพบกัน เป้ บอกตัวเองว่า อาร์ต ทำให้เขารู้จักกับความรักอีกครั้ง จนกระทั่ง เป้ ได้มาเจอกับเพื่อนเก่าคือ เอ (รัชกฤช ศตเรืองวุฒิ) ที่พัทยา ซึ่งครั้งหนึ่ง เอ เคยมีความรู้สึกดี ๆ ให้ เป้ แต่ เป้ เลือกที่จะคบกับ เอ ในฐานะเพื่อนสนิทเ­ท่านั้น ชีวิตของ เอ ได้นำพาให้ เป้ เดินทางไปเห็นอีกด­้านของคนที่เจ็บปวดจากความรัก และใช้วิธีเยียวยาบาดแผลนั้นด้วยการมี เซ็ก กับคนแปลกหน้า เอ ทำให้ เป้ เริ่มไม่แน่ใจในความสัมพันธ์ระห­ว่างเขากับ อาร์ต มันคือเรื่องราวการเดินทางของชีวิตเมื่อทุ­กอย่างต่างจากที่ฝันไว้ เราต่างก็มักจะถามตัวเองว่าจะยังคงเดินต่อ หรือหันกลับไปยังที่ที่เราจากมา
Yes or No 2 รัก ไม่รัก...อย่ากั๊กเลย (2555/2012) Yes or no 2 รักไม่รัก อย่ากั๊กเลย กำกับการแสดงโดย สรัสวดี วงศ์สมเพ็ชร ผู้กำกับจากภาคแรก เรื่องราวในภาคนี้ก็ต่อเนื่องจากภาคแรก ความรักของ คิม (ติ๊นา - ศุภนาฏ จิตตลีลา) และ พาย (ออม - สุชาร์ มานะยิ่ง) ที่คบหาดูใจกันมาถึง 3 ปี และปีที่ 4 ทั้งสองคน ต่างต้องแยกไปฝึกงาน ทำให้ความรักต้องพิสูจน์ด้วยระยะทาง คิม ขึ้นไปฝึกงานที่จังหวัดน่าน ในไร่ของเพื่อนพ่อ เพราะมีแผนว่าเรียนจบจะกลับไปดูแลไร่ของพ่อต่อ ส่วน พาย เด็กประมง จึงต้องไปฝึกงานที่จันทบุรี ทั้งคิมและพายต่างก็ไม่เคยห่างกันเลย และครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ทั้งสองคนต้องห่างไกลกัน ความรักจึงถูกพิสูจน์ด้วยระยะทางและเวลาซึ่งต้องมาลุ้นกันว่า ความห่างไกลกันครั้งนี้จะทำให้ความรักของทั้งคู่สั่นคลอนหรือรักกันมากขึ้นกว่าเดิม
Yes or No อยากรัก ก็รักเลย... (2553/2010) พาย (สุชาร์ มานะยิ่ง) สาวน้อยแสนหวาน ดาวเด่นของมหาลัย ต้องย้ายออกจากห้องของหอพัก นศ.หญิง เพราะสุดจะทนกับเพื่อนร่วมห้องเก่าอย่าง เจน (อริสรา ทองบริสุทธิ์) สาวสวยเซ็กซี่อารมณ์สุดแปรปรวน การย้ายห้องเพื่อหนีปัญหาของเพื่อน ทำให้ พาย เองก็ต้องเจอกับรูมเมทคนใหม่อย่าง คิม (ศุภนาฎ จิตตลีลา) เด็กคณะเกษตรฯ หน้าตาน่ารักแถมเท่ห์จนเหมือนผู้ชายมาก การมาเรียนวันแรกที่นี่ของ คิม ทำให้เจนที่กำลังเฮิร์ทจากแฟนทอมคนเก่า กลับมามีชีวิตสดชื่นทันที แต่ พาย กลับตั้งแง่ใส่ คิม ตั้งแต่วันแรกที่เจอ เพราะเธอไม่ชอบทอมบอยเท่าไหร่นัก แต่ด้วยนิสัยของ คิม ที่เป็นคนชอบเทคแคร์ การใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันในห้องเล็ก ๆ ทั้งคู่เริ่มเรียนรู้กัน สนิทกันมากขึ้น จนเกิดความรู้สึกพิเศษเกินเพื่อน พาย เริ่มสับสนว่าเกิดอะไรขึ้นกับใจตัวเอง ส่วน คิม ก็สับสนและคิดไม่ต่างจาก พาย เท่าไหร่นัก การมาอยู่หอพักในมหาลัยของพายนั้นได้รับการดูแลเทคแคร์เป็นอย่างดีจากหนุ่ม แวน (สรณัฐ ยุปานันท์) ชายหนุ่มมาดเท่ห์ อบอุ่น โรแมนติกและใจดี ซึ่งทั้งคู่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก ๆ ทำให้ แวน ได้รับไฟเขียวจากครอบครัวของ พาย โดยเฉพาะแม่ของ พาย ที่คาดหวังว่า พาย และ แวน จะได้เป็นแฟนกันและแน่นอน แวน นั้นแอบรัก พาย เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เรื่องราวความรักของทั้งสี่คนมันอาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่สังคมเข้าใจ ความวุ่นวาย สับสน ในใจของเธอและเธอบทสรุปแล้วมันจะเป็นอย่างไร? เพราะคำว่า "รัก" เกิดขึ้นกับใครก็ได้ กับเพศไหนก็ได้ เพราะสุดท้ายรักก็คือ "รัก!"
เพื่อน...กูรักมึงว่ะ (2550/2007) เมฆ เป็นมือปืนที่ใช้ชีวิตอยู่อย่างโดดเดี่ยว เมฆมีแต่เพียงแม่และหมอก น้องชายที่ป่วยเป็นโรคเอดส์ทั้งคู่ จากพ่อเลี้ยง เมฆเป็นมือปืนที่ทำงานไม่เคยพลาดและไม่เคยตั้งคำถามใด ๆ ต่อชีวิต วันหนึ่ง เมฆได้รับคำสั่งให้จับตัว อิฐ นายตำรวจหนุ่มคนหนึ่งมาให้เฮียและท่าน อิฐเป็นคนดีที่ไปล่วงรู้เบื้องหลังการโกงกินของท่าน เมฆปฏิเสธที่จะไม่ฆ่าอิฐตามคำสั่งเฮีย เมฆจึงถูกยิงและถูกพาหนีไปโดยอิฐ ทั้งคู่หลบไปอยู่ในห้องพักบนอาคารตึกสูง ในช่วงเวลาที่ทั้งคู่อยู่ด้วยกัน อิฐไม่ปฏิเสธหัวใจตัวเองว่ารักเมฆ แต่เมฆกลับหลบหนีเขา ทำให้ทราย แฟนสาวของอิฐรู้สึกแปลกในความสัมพันธ์ระหว่างกัน ต่อมา หมอกต้องไปขายตัวเพื่อหาเงิน อิฐเป็นห่วงเมฆ จึงตามไปถึงที่บ้าน ทรายจึงได้รับรู้เรื่องหมดทุกอย่าง แม่ของเมฆและหมอกก็ผูกคอตาย เมื่อหมดสิ้นแล้วทุกอย่าง เมฆจึงตัดสินใจบุกเดี่ยวไปฆ่าทั้งท่านและเฮีย โดยที่อิฐตามไปทีหลังด้วยความเป็นห่วง
Rainbow Boys: The Movie เรนโบว์บอยส์ เดอะ มูฟวี่ (2548/2005) เรื่องราวรักวัยรุ่นสามคน และมิตรภาพอันลึกซึ้งเปี่ยมด้วยอารมณ์ขัน ระหว่างเพื่อนนักเรียนเกย์สามคนในเมืองหลวง พวกเขาต้องการค้นหาความรู้สึกของตัวเอง ผ่านการเรียนรู้และต่อสู้กับความขัดแย้งภายในใจ พวกเขาดิ้นรนให้หลุดจากสิ่งที่ใครๆ บอกและตีกรอบเอาไว้ จนเริ่มเรียนรู้ว่าการเป็นตัวของตัวเองคือ สิ่งที่มีความหมายที่สุด
ปลาบู่ทอง (2537/1994) ข้อความบนใบปิด กรุ๊ฟโฟร์โปรดัคชั่น ปลาบู่ทอง สรพงศ์ ชาตรี ขวัญภิรมย์ หลิน เกรียง ไกรมาก, นวพร อินทรวิมล, ปาลีรัฐ ศศิธร, ทักษิณา สิงหวิบูลย์, สุชาดา อีแอม, สงัด เหงือกงาม, อ๋อง ดับเบิ้ลบ๊องส์, ด.ญ.พรนภา ทรงนิคร, ด.ญ.เกศสุดา หลวงศรีราช, ด.ช.ประชา หนูสุข อาทิตย์ บทภาพยนตร์ จ้อย อัศวิน ผู้ช่วยถ่ายภาพ อดิเทพ ตัดต่อ-ลำดับภาพ ษ อินทรา ถ่ายภาพ สมยศ พุ่มสุวรรณ-ตามใจ ผู้ช่วยกำกับ อรรถสิทธิ์ เพลงประกอบภาพยนตร์ เอก ติกฤษณเลิศ ผู้จัดการกองถ่าย สิทธิชัย พัฒนดำเกิง กำกับการแสดง (ที่มา :Thai Movie Posters)
พระรถเมรี (2524)
พระรถ เมรี นางสิบสอง (2524/1981) ข้อความบนใบปิด เอเพ็กซ์ภาพยนตร์ เสนอ โรงถ่ายไชโย รังสิต สร้าง สมโพธิ แสงเดือนฉาย กำกับเทคนิค เนรมิต กำกับการแสดง พระรถ เมรี นางสิบสอง ทูน หิรัญทรัพย์ สุพรรษา เนื่องภิรมย์ อำภา ภูษิต, ดามพ์ ดัสกร, รณ ฤทธิชัย, ดวงชีวัน โกมลเสน, เมตตา รุ่งรัตน์,จันทนา ศิริผล, สีเทา, สมพงษ์ พงษ์มิตร, ม.ล.รุจิรา อิศรางกูร,สุคนธ์ คิ้วเหลี่ยม ชมเทคนิคมหัศจรรย์ระดับโลก! ยักษ์ตัวใหญ่เท่าภูเขากินคนทั้งเมือง! ถิ่นมะงั่วหาว มะนาวโห่!
บัวแก้วบัวทอง (2523)
บัวแก้วบัวทอง (2523/1980) ข้อความบนใบปิด เวชยันต์ภาพยนตร์ เสนอ ภาพยนตร์แสนสนุก อภินิหาร โชว์เทคนิคเต็มจอจากญี่ปุ่น บัวแก้วบัวทอง 24 ซีเนมาสโคป จตุพล ภูอภิรมย์ รัชนู บุญชูดวง เยาวเรศ นิสากร, ศิรดา ศิริวัมน์, จิตรกร สนธยา, ชลูด แฉล้มกุล สมาน คัมภีร์ กำกับการแสดง อดิศักดิ์ รัตนศักดิ์วิบูลย์ อำนวยการสร้าง
เจ้าหญิงแตงอ่อน (2523)
เจ้าหญิงแตงอ่อน (2523/1980) ข้อความบนใบปิด ทรงกิจฟิล์ม โดย ทรงกิจ จงสมจิตต์ เสนอ ภาพยนตร์ยอดฮิต ดังจากทีวีช่อง 7 มาเป็นภาพยนตร์จอยักษ์ โดย ผู้แสดงครบทีม จาก เจ้าหญิงแตงอ่อน ท่านชมจากทีวีไม่สะใจ โปรดมาดูให้เต็มอิ่มบนจอใหญ่ สมบูรณ์กว่าที่ท่านชมมาแล้วจากช่อง 7 ระบบ 35 ม.ม.สโคป ไม่มีภาพยนตร์เรื่องใดสนุกเท่า เจ้าหญิงแตงอ่อน ชานนท์ มณีฉาย วนิษฐา วัชโรบล พัชรา กองแก้ว ออยา นาวิน ณรงค์ พุทธโกษา นาคราช หาทูล เป๊ะ สุโขทัย ถ่ายภาพ จรูญ ธรรมศิลป์ กำกับการแสดง สันติสุชาภาพยนตร์ จัดจำหน่าย
ปลาบู่ทอง (2522)
ปลาบู่ทอง (2522/1979) ข้อความบนใบปิด ศิริมงคลโปรดัคชั่น โดย ชาญชัย เนตรขำคม เสนอ ภาพยนตร์นิยายพื้นบ้านที่ทุกครัวเรือนลืมไม่ได้ ชิต ไทรทอง กำกับการแสดง ปลาบู่ทอง ลลนา สุลาวัลย์ รับบทฝาแฝดครั้งแรก พบ ปฐมพงษ์ สิงหะ พระเอกวัยรุ่น เศรษฐา ศิระฉายา, อรสา พรหมประทาน, เทพ โพธิ์งาม, สมควร กระจ่างศาสตร์, รัตนาภรณ์ อินทรกำแหง, ด.ช.เอ๋, สุลาลีวัลย์ สุวรรณทัต, ศรชัย, นิทัศน์, จิตร เชาวลิต มาฬมงคล ดำเนินงานสร้าง รังสี รุ่งรัศมี ถ่ายภาพ ชาญชัย เนตรขำคม อำนวยการสร้าง พี 78 โปรดักชั่น จัดจำหน่าย
นางสิบสอง (2517)
นางสิบสอง (2517/1974) ข้อความบนใบปิด ดาราฟิล์ม เสนอ นางสิบสอง 12 BLIND WOMEN นำโดย นรา นพนิรนันดร์ เยาวเรศ นิสากร วาสนา ชลากร สมชาย ศรีภูมิ ร่วมด้วย มารศรี อิศรางกูร, ชูศรี มีสมมนต์, มาเรีย เกตุเลขา, ชฎาพร วชิรปราณี, พูนสวัสดิ์ ธีมากร, ถวัลย์ คีรีวัตร, เชาว์ แคล่วคล่อง, ดารา รัตนานุช ด.ช.ธวัชชัย ธีระบัญชา และ 2 ดาราคู่ขวัญ ด.ช.สยม สังวริบุตร กับ ไอ้งั่ง แห่ง”ฝนสามฤดู” ผุสดี ยมาภัย อำนวยการสร้าง มานิต สัมมาบัติ ลำดับภาพ ไพรัช สังวริบุตร กำกับการแสดง ดาราฟิล์ม โดยคนไทย เพื่อคนไทย ด้วยศักดิ์ศรีของภาพยนตร์ไทย ขอเสนอผลงานยอดเยี่ยม จากทีมผู้สร้าง ไอ้งั่ง แห่ง ฝนสามฤดู ที่ลือลั่น ด้วยแรงอธิษฐานของแม่ ด้วยปกาศิตของพ่อ ด้วยแรงกตัญญูของข้า สามสิ่งนี้ ข้าขอเป็นเกราะคุ้มภัย ด้วยชีวิตและหัวใจ เพื่อนางสิบสอง
ชูชก กัณหา ชาลี (2516) ชูชก กัณหา-ชาลี (2516)
ชูชก กัณหา ชาลี (2516/1973) ข้อความบนใบปิด บริษัทไทยสากลธุรกิจจำกัด โดย ณรงค์ สันติสกุลชัยพร เสนอ... จงมาช่วยกันอนุรักษ์ความเป็น ไทยแท้ ไว้ ยากนักที่จะมีผู้กล้าลงทุนสร้าง เพราะต้องใช้ทุนสร้างมโหฬาร ใครๆก็ทราบและดื่มด่ำใน..รสเรื่อง..อันอมตะ 2 ดารามาตรฐาน สมบัติ เมทะนี พิศมัย วิไลศักดิ์ นำแสดง ชูชก กัณหา-ชาลี จากพุทธประวัติก้องโลก ชมกระบวนช้างและผู้แสดงประกอบมากมาย รสเรื่องจากพุทธประวัติไม่เคยทำให้ใครผิดหวัง รัตน์ เศรษฐภักดี แห่ง “เทพกรภาพยนตร์” กำกับการแสดง ประกิต บุญยรัตพันธ์ ถ่ายภาพ อาจารย์สุรพล วิรุฬรักษ์ อกแบบฉาก-เครื่องแต่งกาย ร่วมใจฟิล์ม จัดจำหน่าย
โสนน้อยเรือนงาม (2509)
โสนน้อยเรือนงาม (2509/1966) กษัตริย์นครโรมวิสัย (ม.ล.ขาบ กุญชร) มีพระราชธิดาที่งดงามมาก เมื่อพระราชธิดาประสูติมีเรือนไม้เล็กๆปรากฎขึ้นข้างกาย เรือนนี้เมื่อพระธิดาเจริญวัยขึ้น เรือนไม้นี้ก็โตขึ้นด้วยและกลายเป็นของเล่นของพระราชธิดา พระบิดาจึงตั้งชื่อพระราชธิดาว่า โสนน้อยเรือนงาม (เพชรา เชาวราษฎร์) เมื่อโสนน้อยเรือนงามมีพระชนม์พรรษาได้สิบห้าพรรษา โหรทูลพระบิดาว่าโสนน้อยเรือนงามกำลังมีเคราะห์ ควรให้ออกไปจากเมืองเสีย เพราะจะต้องอภิเษกกับคนที่ตายแล้ว พระบิดาและพระมารดาก็จำใจให้โสนน้อยเรือนงามออกไปจากเมืองแต่ผู้เดียว โสนน้อยเรือนงามปลอมตัวเป็นชาวบ้านและเอาเครี่องทรงพระราชธิดาห่อไว้ พระอินทร์สงสารนางจึงแปลงร่างเป็นชีปะขาวมามอบยาวิเศษสำหรับรักษาคนตายให้ฟื้นได้ โสนน้อยเรือนงามเดินทางเข้าไปในป่าพบนางกุลา (ชฎาพร วชิรปราณี) หญิงใจร้ายนอนตายเพราะถูกงูกัด โสนน้อยเรือนงามจึงนำยาของชีปะขาวมารักษา นางกุลาก็ฟื้น นางจึงขอเป็นทาสติดตามโสนน้อยเรือนงาม. ที่นครนพรัตน์มีกษัตริย์ (ม.ล.รุจิรา อิศรางกูร) ครองอยู่ มีพระราชโอรสนามว่า พระวิจิตรจินดา (ไชยา สุริยัน) ซึ่งเป็นชายหนุมรูปงามและมีความสามารถ แต่วันหนึ่งพระวิจิตรจินดาถูกนาคราชกัดสิ้นพระชนม์ พระบิดาและพระมารดาเศร้าโศรกเสียใจมาก แต่โหรทูลว่า พระวิจิตรจินดาจะสิ้นพระชนม์ไปเจ็ดปีแล้วจะมีพระราชธิดาของเมื่องอื่นมารักษาได้ พระบิดาและพระมารดาจึงเก็บพระศพของพระวิจิตรจินดาไว้ และมีประกาศให้คนมารักษาให้ฟื้น โสนน้อยเรือนงามและนางกุลาเดินทางมาถึงเมืองนพรัตน์ได้ทราบจากประกาศ จึงเข้าไปในวังและอาสาทำการรักษา โดยขอให้กั้นม่านเจ็ดชั้น ไม่ให้ใครเห็นเวลารักษา โสนน้อยเรือนงามแต่งเครื่องทรงพระราชธิดาทำการรักษา โดยนางกุลาติดตามเฝ้าดู เมื่อโสนน้อยเรือนงามทายาให้พระวิจิตรจินดา พิษของนาคราชเป็นไอร้อนออกมาทำให้นางรู้สึกร้อนมาก จึงถอดเครื่องทรงพระราชธิดาออกแล้วเสด็จไปสรงน้ำ ระหว่างนั้นนางกุลาก็นำเครื่องทรงพระราชธิดาของโสนน้อยเรือนงามามแต่ง พอดีพระวิจิตรจินดาฟื้น ทุกคนก็คิดว่านางกุลาเป็นพระราชธิดาที่รักษาจึงเตรียมจะให้อภิเษก ส่วนโสนน้อยเรือนงามต้องกลายเป็นข้าทาสของนางกุลาไป พระวิจิตรจินดาและพระบิดาและพระมารดาก็ยังมีความสงสัยในนางกุลา จึงให้นางเย็บกระทงใบตองถวาย นางกุลาทำไม่ได้โยนใบตองทิ้งไป โสนน้อยเรือนงามเก็บใบตองมาเย็บเป็นกระทงสวยงาม นางกุลาก็แย่งไปถวายพระราชบิดามารดาของพระวิจิตรจินดา พระวิจิตรจินดาไม่อยากอภิเษกกับนางกุลาจึงขอลาพระบิดาพระมารดาไปเที่ยวทางทะเล พระบิดาพระมารดาให้นางกุลาย้อมผ้าผูกเรือ นางกุลาก็ทำไม่เป็น โยนผ้าและสีทิ้ง โสนน้อยเรือนงามเก็บผ้าและสีไปย้อมได้สีงดงาม นางกุลาก็แย่งนำไปถวายพระบิดาพระมารดาอีก. เมื่อพระวิจิตรจินดาจะออกเรือก็ปรากฎว่าเรือไม่เคลื่อนที่พระวิจิตรจินดาทรงคิดว่าคงมีผู้มีบุญในวังต้องการฝากซื้อของ เรือจึงไม่เคลื่อนที่จึงให้ทหารมาถามรายการของที่คนในวังจะฝากซื้อ ทุกคนก็ได้มีโอกาสฝากซื้อ แต่โสนน้อยเรือนงามอยู่ใต้ถุนถึงไม่มีใครไปถาม เรือก็ยังไม่เคลื่อนที่ พระวิจิตรจินดาจึงให้ทหารกลับไปค้นหาคนในวังที่ยังไม่ได้ฝากซื้อของ ทหารจึงได้ไปค้นหานางโสนน้อยเรือนงามได้ นางจึงฝากซื้อ "โสนน้อยเรือนงาม" เมือพระวิจิตรจินดาเดินทางไป ลมก็บันดาลให้พัดไปยังเมืองโรมวิสัยของพระบิดาของโสนน้อยเรือนงาม พระวิจิตรจินดาซื้อของฝากได้จนครบทุกคน ยกเว้นโสนน้อยเรื่อนงาม พระวิจิตรจินดาจึงสอบถามจากชาวเมือง ชาวเมืองบอกว่าโสนน้อยเรือนงามมีอยู่แต่ในวังเท่านั้น พระวิจิตรจินดาจึงเข้าไปในวังและทูลขอซื้อโสนน้อยเรือนงามไปให้นางข้าทาส พระบิดาของโสนน้อยเรือนงามทรงถามถึงรูปร่างหน้าตาของนางทาส ก็ทรงทราบว่าเป็นพระธิดา จึงมอบโสนน้อนเรือนงามให้พระวิจิตรจินดาและให้ทหารตามมาสองคน เมื่อพระวิจิตรจินดากลับถึงบ้านเมือง ทหารเมืองโรมวิสัยก็ไปทำความเคารพนางโสนน้อยเรือนงาม และเรือนวิเศษก็ขยายเป็นเรือนใหญ่มีข้าวของเครื่องใช้พระธิดาครบถ้วน โสนน้อยเรือนงามก็เข้าไปอยู่ในเรือนนั้น พระวิจิตรจินดาจึงแน่ใจว่าโสนน้อยเรือนงามเป็นพระราชธิดาที่รักษาตน จึงจะฆ่านางกุลาแต่โสนน้อยเรือนงามขอชีวิตไว้ จึงเนรเทศนางกุลาออกจากเมือง พระวิจิตรจินดาก็ได้อภิเษกกับนางโสนน้อยเรือนงาม หลังจากอภิเษกแล้วพระวิจิตรจินดาและโสนน้อยเรือนงามได้เดินทางโดยสำเภาไปยังเมืองโรมวิสัย แต่เรือถูกพายุพัดจนแตก พระวิจิตรจินดาและทหารถูกน้ำพัดไปติดที่เกาะแห่งหนึ่งเป็นที่อยู่ของฤาษีตาไฟ ซึ่งช่วยสอนวิชาอาคมให้เพื่อพระวิจิตรจินดาจะได้เดินทางกลับบ้านเมืองได้ ส่วนโสนน้อยเรือนงามซึ่งกำลังตั่งครรภ์ได้ขึ้นฝั่งไปพบนางกุลากำลังป่วยใกล้ตายจึงใช้ยาวิเศษช่วยชีวิตไว้ แต่หลังจากฟื้นมาแล้วนางกุลากลับผลักโสนน้อยเรือนงามตกลงไปในบ่อพิษทำให้ใบหน้าอัปลักษณ์ โสนน้อยซมซานไปพบกับเศรษฐีใจบุญ (พยงค์ มุกดา) และภรรยา (ศรีสละ ทองธารา) ทั้งสองสงสารจึงเลี้ยงดูเหมือนลูกและคลอดพระโอรสออกมารูปโฉมงดงาม ส่วนนางกุลาเดินทางมาพบกับกองเกวียนของมะเดื่อ (ชาย เมืองสิงห์) ซึ่งเป็นบุตรของเศรษฐีใจบุญ นางกุลาใช้เสนห์ยั่วยวนจนได้เป็นเมียของมะเดื่อ เมื่อมะเดื่อพานางกุลามาถึงบ้านก็ได้พบกับโสนน้อยเรือนงามที่หน้าตาอัปลักษณ์ แต่นางกุลาแกล้งทำเป็นไม่รู้จัก เมื่อสบโอกาสก็แอบลักพระโอรสไปโยนทิ้งน้ำ แต่พระโอรสมีบุญไม่ถึงแก่ชีวิต ลอยไปยังเกาะที่มีฤาษีผู้มีฤทธิ์แก่กล้า ฤาษีเศกให้พระโอรสโตขึ้นเป็นเจ็ดขวบและสอนวิชาให้ นางกุลาแสดงความร้ายกาจจนครอบครัวเศรษฐีใจบุญทนไม่ไหว จึงขับไล่ออกจากบ้าน นางกุลาเดินทางมาในป่าจนพบกับเหล่าโจรป่า จึงยั่วยวนจนหัวหน้าโจรลุ่มหลง วันหนึ่งนางกุลาจึงวางแผนให้โจรป่าเข้าปล้นบ้านเศรษฐีใจบุญเพื่อจะฆ่าโสนน้อยเรือนงาม ขณะเดียวกับที่พระวิจิตรจินดาและพระโอรสต่างสำเร็จวิชาที่ร่ำเรียนกับพระฤาษี อาจารย์ของทั้งสองจึงสั่งให้มาช่วยโสนน้อยเรือนงาม พระวิจตรจินดาและพระโอรสใช้วิชาปราบเหล่าโจรร้ายจนราบคาบ และได้สาปนางกุลาให้กลายเป็นวัว โสนน้อยหมดเคราะห์กรรมทำให้ใบหน้าหายจากความอัปลักษณ์ ทั่งหมดจึงได้ใช้ชีวิตร่วมกันอย่างมีความสุข