Final Score 365 วัน ตามติดชีวิตเด็กเอ็นท์ (2550/2007) เรื่องราวการเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัย ของเด็กนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 4 คน ในช่วงปีการศึกษา พ.ศ. 2548 ซึ่งเป็นปีแรกที่ใช้การสอบแอดมิดชันส์ แทนการสอบเอ็นทรานซ์ และชีวิตที่ถูกฟันธงของเด็ก ปี 2549 ปีนี้ไม่เหมือนปีไหน ๆ เพราะมันเป็นปีที่ปฏิทินการเมืองร้อนระอุด้วยม็อบกู้ชาติ ปีที่ใคร ๆ ก็ถามไถ่ "ไปพารากอนมารึยัง?" ปีที่ขวัญและกำลังใจของนักเรียน ม.6 แหลกสลาย เมื่อพระพรหมเอราวัณถูกทุบทำลาย ที่สำคัญมันเป็นปีแรกของการประกาศใช้ระบบแอดมิชชั่นส์ ปีนี้... วัยรุ่นไทยวัย 17 ที่อยากเอ็นทรานซ์ต้องสอบ โอเน็ต-เอเน็ต สดจากโรงเรียน กองถ่ายภาพยนตร์สุดอึดจาก GTH ทุ่มเทเวลา 1 ปีเต็มเฝ้าติดตามชีวิตของนักเรียน ม.6 จำนวน 4 คนในปีที่พวกเขาก้าวเข้าสู่สนามการแข่งขันที่ดุเดือดที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิต โดยไม่รู้ว่าพระเจ้าจะดลบันดาลใจให้เกิดอะไรขึ้นบ้าง
Seasons Change เพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย (2549/2006) หลังจากจบมัธยมต้นแล้ว ป้อม ตัดสินใจสมัครเข้าเรียนมัธยมปลาย ที่ วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล สาขาเตรียมดนตรี เพราะต้องการอยู่ใกล้กับ ดาว เด็กสาวจากโรงเรียนเดียวกัน ที่เขาแอบหลงรัก ในขณะที่พ่อของป้อมเข้าใจว่า ลูกชายเรียนสาขาเตรียมแพทยศาสตร์ โดยที่ป้อมเองก็ไม่กล้าบอกความจริง เนื่องจากพ่อของป้อมเห็นว่า ดนตรีเป็นวิชาชีพที่ไม่มั่นคง ขณะเดียวกัน ป้อมก็ได้พบกับ อ้อม ลูกสาวของเพื่อนพ่อ ที่ถึงแม้ด้านปฏิบัติจะไม่เอาไหน แต่ความรู้ด้านทฤษฏีดนตรีเป็นเลิศ และสอบเข้าที่วิทยาลัยฯ เช่นกัน เมื่อทราบเรื่อง อ้อมก็เข้าใจว่า ป้อมรักดนตรีเหมือนกัน จึงสัญญาจะช่วยป้อมเก็บความลับ ถึงแม้จะตามผู้หญิงที่แอบรักมาเรียน แต่ป้อมกลับค้นพบว่า ตัวเขามีพรสวรรค์ในการตีกลองชุดที่เป็นเลิศ ทำให้ เฉด และ ฉัตร สองหนุ่ม ผู้กำลังมองหามือกลอง ให้กับวงดนตรีของตัวเอง เลือกป้อมเข้าร่วมวง เพื่อเข้าประกวด การแข่งขันวงดนตรี ฮอทเวฟมิวสิคอวอร์ด โดยตั้งชื่อวงว่า Ass-Ho-Le (แอสโฮลี่) นอกจากนี้ ฝีมือการตีกลองของป้อม ยังไปเข้าตา จิทาโร่ อาจารย์ชาวญี่ปุ่น ผู้สอนเครื่องดนตรีประกอบจังหวะ (เพอร์คัชชัน) อาจารย์จิทาโร่ จึงมักจะเรียกใช้ป้อม ให้มาช่วยทำวิทยานิพนธ์ของเขาอยู่เสมอ อย่างไรก็ตาม ป้อมกลับเลือกสมัครเป็นมือกลองทิมปะนี ในวงออร์เคสตราของโรงเรียนแทน เพราะต้องการอยู่ใกล้ชิดดาว ซึ่งเป็นมือไวโอลินของวง ส่วนอ้อม ซึ่งเคยเป็นมือไวโอลินเช่นกัน ต้องเปลี่ยนไปเล่นฉาบแทน เนื่องจาก ฝีมือการเล่นเครื่องดนตรีอื่นไม่เอาไหนจริงๆ เนื่องจาก วงออร์เคสตรา ใช้การเคาะจังหวะด้วยกลองไม่มาก ป้อมจึงต้องรออย่างเบื่อหน่าย กว่าจะถึงช่วงเล่นของตนแต่ละครั้ง ต่างกับอ้อม ที่มีความสุขกับดนตรี แม้ทั้งเพลงจะได้เล่นน้อยมาก ป้อมจึงเริ่มนึกถึงความรู้สึกของตนเอง ที่เปลี่ยนแปลงไปมาอยู่เสมอ ทั้งเรื่องดนตรี การเรียน ความรัก และชีวิตของตนในอนาคต ราวกับอากาศที่เปลี่ยนแปลงบ่อย
มอ๘ (2549/2006) เมื่อนักเรียนชายสุดทะโมนกระโจนมาเรียนรวมกับนักเรียนหญิงสุดเรียบร้อย ก่อให้เกิด “โรงเรียนสหศึกษาแห่งแรก” ในเมืองไทย แต่ความรักแบบปั๊ปปี้เลิฟกลับถูกปิดกั้นจาก “ครูสมปัติ” สุดเฮี้ยบ นักเรียนชายหญิงจะหาทางออกของมิตรภาพความรักได้อย่างไร… ย้อนไปเมื่อปี พ.ศ. 2500 การศึกษาของไทยเกิดการเปลี่ยนแปลงและมีการจัดตั้ง “โรงเรียนสหศึกษาแห่งแรก” โดยโรงเรียนหญิงที่ได้รับคัดเลือกให้เป็นโรงเรียนนำร่องคือ “โรงเรียนดรุณีศึกษา” โรงเรียนสตรีที่ชนะเลิศรางวัล “โรงเรียนสตรีดีเด่น“ ติดต่อกันมาถึง 25 ปี ส่วนโรงเรียนชายที่ได้รับเลือกคือ “โรงเรียนอักษรศิลป์” โรงเรียนที่ได้ชื่อว่า “เรียนดี กีฬาเด่น“ “ครูบุญรอด” ครูใหญ่โรงเรียนดรุณีศึกษามอบหมายให้ “ครูสมปัติ” ครูสาวจอมเฮี้ยบและ “ครูเกษร” ครูสาวเรียบร้อยแสนหวานสองศิษย์คนโปรดเป็นผู้คัดเลือกและควบคุมนักเรียนหญิง 15 คนที่ดีที่สุดในโรงเรียนทั้งด้านการเรียนและความเป็นกุลสตรีงามทั้งกายงามทั้งมารยาทเพื่อเข้าร่วมโครงการนี้ โดยให้ครูสมปัติไปเป็นครูประจำชั้น ส่วนครูเกษรให้ไปดูแลเรื่องมารยาท ก่อนไปครูบุญรอดอบรมและย้ำเน้นเรื่องความเป็นกุลสตรีและความมีคุณค่าของผู้หญิง อย่าให้เสียชื่อโรงเรียนที่สร้างสมมายาวนาน ครูสมปัติยืนยันหนักแน่นถึงความมั่นใจกับนักเรียนหญิงที่คัดเลือกเอาไว้และเรียกกลุ่มนี้ว่า “ดอกไม้เหล็ก“ ด้วยความแตกต่างกันระหว่างชายหญิงครูสมปัติต้องเจอเรื่องห่ามๆ ซนๆ ของบรรดานักเรียนชายโรงเรียนอักษรศิลป์ ส่วนครูเกษรและนักเรียนสาวทั้ง 15 คนต้องเจอกับการจีบทุกรูปแบบจากเด็กผู้ชายและครูหนุ่มของโรงเรียนอักษรศิลป์เหตุการณ์วุ่นวายแต่น่ารักๆ ภายในโรงเรียนเกิดขึ้นพร้อมความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นระหว่างนักเรียนหญิงและนักเรียนชายภายใต้กฎระเบียบที่ครูสมปัติวางไว้อย่างเคร่งครัด ทุกอย่างกำลังไปด้วยดีจนกระทั่งนักเรียนชายไปมีเรื่องชกต่อยในงานก่อเจดีย์ทรายโดยครูชายประจำโรงเรียนไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ กระทรวงศึกษาธิการทราบเรื่อง “คุณหญิงกุหลาบ” จึงแต่งตั้งครูสมปัติขึ้นทำหน้าที่หัวหน้าฝ่ายปกครองของโรงเรียนอักษรศิลป์โดยมีกฎข้อแรกคือ ห้ามนักเรียนมีเรื่องชกต่อยและห้ามมีความรักในโรงเรียนเด็ดขาด เพราะครูสมปัติเห็นว่าความรักในวัยเรียนถ้ามีมากไปเราจะควบคุมกันไม่ได้…
อุกกาบาต (2547/2004) เกิดเหตุอาเพทขึ้นบริเวณชายแดนทางภาคเหนือเมื่อท้องฟ้าปั่นป่วนเกิดฝนดาวตกอยู่ทั่วไป ก่อนที่อุกกาบาตอาถรรพณ์ลูกหนึ่งจะตกกระทบซากสุสานโบราณกลางดงไม้ใหญ่แห่งหนึ่ง ในจังหวะทารกชายสองคนเกิดขึ้นแทบจะพร้อมกันพอดี แต่พวกเค้านั้นไม่ใช่เด็กชายธรรมดาทั่วไป เพราะทั้งสองมีพลังจิตเหนือธรรมชาติ จนเมื่อคนไข้ประหลาดคนหนึ่งซึ่งเอาแต่นั่งนิ่งซึมไม่พูดไม่จาถูกส่งตัวมาจากบ้านเกิดโอมเพื่อขอรับการรักษา จึงเกิดเรื่องวุ่น พลังอำนาจอันชั่วร้ายบางอย่างที่แฝงมากับตัวคนไข้นั้น โรคประหลาดแพร่ระบาดไปทั่วอำเภอชายแดนแห่งนั้น ชาวบ้านในหลายๆหมู่บ้านเอาแต่นั่งซึมไม่พูดไม่จาไปตามๆกัน แม้ว่าเด็กชายทั้งสองจะเกิดในวันและเวลาใกล้เคียงกัน แต่ชะตาชีวิตของพวกเค้านั้นต่างกันคนละขั้ว คนนึงใช้พลังจิตเหนือธรรมชาติในการรักษาชีวิตคน ส่วนอีกคน ใช้พลังในการฆ่าล้างแค้น ธรรมะจะชนะอธรรมหรือไม่ เอาใจช่วยได้ใน “อุกกาบาต”
อมนุษย์ (2547/2004) เหตุการณ์แห่งคืนขวัญผวา กับการมาเยือนบางอย่าง เกิดขึ้นแบบไม่มีใครคาดคิด ฝนดาวตกลูกใหญ่มหึมา ได้ตกลงมายังหมู่บ้านอำเภอพนมดงรัก ต่อหน้าต่อตาเจ้าหน้าที่ป่าไม้อุทยานชาติพนมดงรัก สวรรค์ (ป๊อบ - สุรชัย แสงอากาศ) ที่เกิดนึกครึ้มอกครึ้มใจ อยากจะเจอเกลอเพื่อนเก่าสมัยเรียนตอนมัธยมปลาย จึงชักชวนกันมาตั้งแคมป์ดูฝนดาวตกกันที่นี่ โดยมี สุจินต์ (บอม - ภูพาน คัญทัพ) นักโบราณคดีข้อมูลใหม่ไฟแรง พร้อมด้วยอายุรแพทย์สาวสวย ฟ้ารุ่ง (มด - ณัฐชา ทรงสุวรรณ) และ รงค์ (ต้น - พิทักษ์ ศัลย์วิวรรธน์) นักเขียนสารคดีผู้ชำนาญด้านการถ่ายภาพ เกิดถ่ายภาพเหตุการณ์ประหลาดไว้ และทั้งหมดจึงยังไม่เดินทางกลับกรุงเทพฯ แต่กลับจะหาชนวนเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น พวกเขาต้องพบกับเหตุการณ์ ที่ชาวบ้าน 2 คนถูกฆ่าตายอย่างไม่ทราบสาเหตุ โดยหนึ่งในนั้น ทำงานภายในสถานีวิจัยของ ดร.มั่น (โกวิท วัฒนกุล) และ ดร.วิลาสิณี (อุ้ย - สุธิตา เกตานนท์) นักวิทยาศาสตร์คู่หู ที่ทำการวิจัยอวัยวะคน เพื่อปลูกถ่ายขายให้มหาเศรษฐีทั่วโลก ร่วมกันปกปิดอะไรบ้างอย่าง กับเหตุการณ์ร้ายที่กำลังจะเกิด เพราะชาวบ้านส่วนใหญ่เคารพ ยายทอง (พิมพรรณ บูรณพิมพ์) หมอผีชาวเขมรประจำหมู่บ้าน ซึ่งเมื่อถูกขับไล่ออกไปก็เกิดความเคียดแค้น และยายทองใช้อำนาจวิเศษ เข้าครอบงำอมนุษย์สัตว์นรกสายพันธ์ใหม่ทั้งหมด เพื่อการแก้แค้น เมื่อเหตุการณ์ยุ่งเหยิง จนทำให้ทางราชการต้องส่ง รตอ.พิชิต (ใหญ่ - ศิระ แพทย์รัตน์) ตำรวจมือดีรุ่นใหม่ มาคลายปมปริศนาพร้อมกับ ดร.นริสรา (เก๋ - ชลลดา เมฆราตรี) ผู้เชี่ยวชาญด้านพันธุ์กรรมโดยเฉพาะ มาร่วมสืบคดีให้จบสิ้น แต่เรื่องราวทั้งหมดไม่จบแค่นี้ เมื่อวันหนึ่ง มะยม (หญิง - นราวัลย์ นิรัตศัย) สาวชาวบ้านที่ผูกคอตายอย่างปริศนาจบชีวิตลง จนทำให้ รตอ.พิชิต, ดร.นริสรา, สรรค์, ฟ้ารุ่ง, รงค์ และสุจินต์ กลุ่มเพื่อนตายกลุ่มใหม่ ต้องคลี่คลายปัญหาทั้งหมด ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ และจะสามารถป้องกันอันตราย ที่กำลังจะเกิดกับมวลมนุษยชาติได้หรือไม่ ?
ปักษาวายุ (2547/2004) ลีน่า นักโบราณคดีสาวชาวครึ่งไทย-ฝรั่งเศส เป็นลูกสาวของนักโบราณคดีชาวฝรั่งเศสที่เคยค้นพบ โครงกระดูกสัตว์โบราณยุคเดียวกับไดโนเสาร์ ที่มีโครงร่างคล้ายกับสัตว์ในเทพปกรณัมของภูมิภาคเอเชียอาคเนย์ ลีน่าได้สูญเสียพ่อไปพร้อมกับซากดังกล่าว หลังจากพ่อของเธอถูกกล่าวหาว่าเหลวไหล นั่นทำให้ลีน่าฝังใจในเรื่องนี้และมุ่งมั่นที่จะพิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็นว่า สิ่งที่พ่อเธอค้นพบนั้นไม่ใช่เรื่องเหลวไหล ในปี พ.ศ. 2548 ในระหว่างที่ลีน่าและทิม เพื่อนนักโบราณคดีชาวฝรั่งเศส กำลังขุดค้นนั้น ไม่ทราบมาก่อนเลยว่าจะเป็นที่เดียวกับที่ทางการได้ทำรถไฟใต้ดินเฟส 2 และพบกับนายทหารลึกลับกลุ่มหนึ่ง ที่นำโดย แทน ซึ่งไม่เป็นมิตรเลย และพยายามไล่เธอกลับไป โดยพยายามบอกว่า สิ่งที่เธอตามหานั้นอาจจะไม่ใช่แค่สัตว์ธรรมดา ๆ หากแต่เป็นสัตว์ประหลาดที่น่าสะพรึงกลัว มีพลานุภาพในการทำลายล้างสูง ก่อนที่มันจะปรากฏตัวออกมาใจกลางกรุงเทพมหานคร เมืองหลวงของประเทศไทย และมันไล่ล่าพวกเขา
เกิร์ลเฟรนด์ 14 ใสกำลังเหมาะ (2545/2002) บี (ณัฐวรา หงษ์สุวรรณ), ตุ้ม (ปาริชาต แก้วกำพล), นุ้ย (ชโลธร บริราช), ติ๋ม (จีระนันท์ กิจประสาน) สี่สาววัยใสเพื่อนซี้ ทั้งหมดกำลังเรียนอยู่ในชั้น ม.3 โรงเรียนผู้หญิงล้วน มีชีวิตอย่างสนุกสนาน และน่ารักตามวัย เด็กสาววัยใสทั้งสี่มาจากครอบครัวที่แตกต่างกัน พ่อของบี (ไพบูลย์เกียรติ เขียวแก้ว) เป็นนักเขียน เจ้าของนิยาย ขายดีเรื่อง "ความรักของพ่อนกเงือก" ที่บรรยายถึงความสำคัญของพ่อนกเงือกต่อคู่ชีวิต และลูกที่เพิ่งฟักออกจากไข่ ส่วนแม่ของบีเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุบนถนน ตุ้มเป็นลูกสาวของนายแพทย์ตำรวจ (ณรงค์ ลัมะกานนท์) นุ้ยอยู่กับแม่ (ริสา หงษ์หิรัญ) ที่มีอุปนิสัยห้าวพอกัน เรียกว่าลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น ส่วนติ๋มเป็นลูกสาวของนายธนาคารใหญ่ (ศรัณยู วงศ์กระจ่าง) ที่กำลังมีปัญหาเรื่องทุจริตในสถาบันการเงิน อันจะส่งผลต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ วันหนึ่ง ขณะที่ทั้งสี่ไปเดินเที่ยวตามศูนย์การค้า นุ้ยถูกรปภ.จับหาว่าขโมยของ ตุ้ม ติ๋ม บีพยายามเข้าไปช่วย แต่พลาดท่ารปภ.ตัวร้าย แต่โชคยังเข้าข้าง เจ้าหน้าที่ตำรวจบุกเข้ามาจับ หัวหน้ารปภ.ตัวร้ายได้ทัน การผจญภัยครั้งนั้นส่งผลอย่างมากต่อตุ้ม จากเด็กห้าวท่าทางเหมือนทอมบอย ตุ้มเปลี่ยนแปลงตัวเองใหม่กลายเป็นสาวสวย สร้างความประหลาดใจให้กับหมู่เพื่อนๆ ตุ้มชวนเพื่อนไปเรียนกวดวิชา เตรียมตัวสอบเข้าเรียน ม.4 ทุกคนเห็นด้วย ยกเว้นบี ที่ไม่อยากเรียนสัปดาห์ละ 7 วัน และนี่คือจุดสำคัญ ที่พลิกผันความผูกพันของกลุ่มเพื่อนทั้งสี่ ที่โรงเรียนกวดวิชานี่เอง ตุ้มรู้จักกับเด็กหนุ่มวัยเดียวกันชื่อ แดง (ชาญนนท์ คล่องสุดใจ) หลังจากนั้น ความสัมพันธ์ของกลุ่มเริ่มเปลี่ยนแปลง ตุ้มทุ่มเวลาทั้งหมดให้กับแฟนหนุ่ม จนไม่เหลือสำหรับเพื่อนๆ ในกลุ่ม สร้างความน้อยเนื้อต่ำใจเป็นอย่างมากกับบี ซึ่งถือว่าสนิทกับตุ้มที่สุด... ในบรรดากลุ่มเพื่อนๆ กลุ่มที่เหนียวแน่นมาตลอด เริ่มสำแดงความแตกร้าว ตุ้มตีจากไป ตามด้วยบีซึ่งผิดหวังกับเพื่อนสนิท ความผิดหวังทำให้บีตัดสินใจหนีความเบื่อหน่าย ด้วยการพยายามสอบชิงทุนไปเรียนต่อต่างประเทศ ซึ่งก็ทำให้เธอต้องตีจากกลุ่มกลายๆ นุ้ยก็มีปัญหาความขัดแย้งกับตุ้ม ด้วยความเข้าใจผิดของฝ่ายหลัง ตุ้มคิดว่านุ้ยคิดจะแย่งแฟนตัวเอง เมื่อรอยร้าวในกลุ่มแผ่ขยายกว้าง จนทำท่าว่าความสัมพันธ์อันแนบแน่นมาถึงจุดอวสาน ทำให้ติ๋มที่แต่ไหนแต่ไร ไม่เคยลุกขึ้นมาพูดแสดงความต้องการของตัวเอง ไม่เคยขัดใจเพื่อน ต้องลุกขึ้นมาทำหน้าที่เป็นเสมือนกาวใจ หาทางแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น เพื่อคงรักษาไว้ซึ่งมิตรภาพ และความรักอันบริสุทธิ์ ที่แต่ละคนเคยให้กันและกัน ความรัก การเสียสละ และการให้อภัย คือทางออกทางเดียวสำหรับพวกเธอ
โคลนนิ่ง คนก๊อปปี้คน (2542/1999) เมื่อ ดร.จอร์จ หอบเอาการทดลอง "โคลนนิ่งมนุษย์" มาที่ประเทศไทย การทดลองดังกล่าวจึงดำเนินการขึ้นอย่างลับ ๆ โดยมีเจ้าของโรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งรับอาสาเป็นนายทุนให้กับโครงการนี้ ด้วยความหวังว่าหากการทดลองชิ้นนี้เป็นผลสำเร็จเขาจะกลายเป็นมหาเศรษฐี ด้วยการ "ขาย" อวัยวะที่ได้จากการโคลนนิ่ง นิวัติ โปรแกรมเมอร์ที่มุ่งมั่น ทำแต่งานโดยไม่สนใจเหตุการณ์รอบตัว ก็กลายเป็นหนึ่งในเหยื่อการทดลองครั้งนี้…"B-7" ร่างโคลนนิ่งของนิวัติเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว หลุดรอดออกมาสู่โลกภายนอก และพยายามเข้ามาแทนที่นิวัติ แย่งชิงความเป็น "คน" เพื่อความอยู่รอดในโลกมนุษย์ การต่อสู้ระหว่างคน 2 คน จึงเกิดขึ้นโดยมีสิ่งเดิมพันคือ ชีวิต…ครอบครัว และความรัก
ม. 6/2 ห้องครูวารีเทอม 2 (2539/1996) วารียังเป็นครูฝึกสอนห้อง ม.6/2 นักเรียนทุกคนกำลังจะสอบเพื่อสำเร็จการศึกษา และมีความฝํนในอนาคต ชีวิน สันต์ เอก และเพื่อนๆ พาสาวๆไปเที่ยว ถูกอาร์มก่อกวน และมีนักเลงอยู่แถวนั้นเกิดเข้าใจผิดจึงตีกัน สันต์ถูกตีเขาที่ลูกตาจึงถูกส่งโรงบาล หมอต้องผ่าตัดแต่แม่ของสันต์ไม่มีเงิน หวาน แจน นุช จึงไปขอร้องให้อาจารย์ใหญ่ช่วย เพราะสันต์เป็นนักกีฬามวยประจำโรงเรียนที่สร้างชื่อเสียงให้โรงเรียนเสมอ ทุกคนจึงช่วยกันจัดงานเพื่อเอาเงินมาช่วยสันต์ อาร์มมาขอโทษและขอร่วมงานด้วย เอกไปเล่นละคอนแต่ไม่บอกทุกคนและไม่ได้ไปช่วยงาน ทำให้เพื่อนๆโกรธเอก งานสำเร็จไปด้วยดี เอกนำเงินจากการเล่นละคอนมาช่วยสันต์ ทุกคนจึงเข้าใจในตัวเอก สันตืขอบใจเพื่อนๆ ที่ช่วยเขาให้ได้เงินรักษาตา มิตรภาพ มิตรภาพระหว่างเพื่อนจึงเหมือนเดิม ทุกคนตั้งใจเรียน และสอบไล่เพื่อเตรียมตัวพบความสมหวังในชีวิตต่อไป ในห้องเรียน ม.6/2 ยังมีครูวารีเป็นครูประจำชั้นเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือมิตรภาพของนักเรียนในห้องที่แน่นแฟ้นกันมาก ทั้งหมดเข้าใกล้ช่วงการสอบก่อนสำเร็จการศึกษาทว่าเกิดเรื่องร้ายขึ้นเมื่อ "สันต์" เพื่อนในกลุ่มเกิดเหตุทะเลาะวิวาทจนบาดเจ็บที่ดวงตาต้องเข้ารับการผ่าตัดโดยด่วน ทว่าฐานะทางบ้านของสันต์นั้นยากจน เหล่าเพื่อนๆจึงพยายามหาเงินมาช่วยด้วยวิธีต่างๆ เพื่อให้เพื่อนได้หายจากการบาดเจ็บและจบการศึกษาไปพร้อมกัน
สมศรี 422 R โปรแกรม D ปีนี้มีน้อง (2538/1995) เมื่องานเทพีช้างใกล้เข้ามาทุกที คุณตาเริ่มพบแสงสว่าง มองเห็นทางจะเอาชนะสักครั้ง จึงกริ๊งกร๊างถึงคุณเต๋อและลูกสะใภ้ พร่ำพรรณว่าชักแก่ตัว ทำงานไม่ค่อยไหว ต้องการขอยืมตัวสมศร์ มาช่วยดูแลบ้าน ด้วยความรักความผูกพันที่ครอบครัวนี้มีต่อสมศรี ไม่อยากให้สมศรีไปไหนจึงสร้างหุ่นตัวใหม่ขึ้นมาชื่อ สมพร และให้เป็นน้องสมศรี จากนั้นก็ยกขบวนครอบครัวเดินทางสู่บ้านคุณตา คุณตาจึงส่งสมพรเข้าแข่งขัน ครั้นเมื่อเรื่องรู้ถึงหูเสี่ยประชิด จึงจ้างให้คนมาตีหัวสมพร พอถึงเวลาแข่งขันสมพรโดนตีหัวไฟฟ้าช๊อต เลยแข่งรอบแรกแพ้สมศรีจึงอาสาลงแข่งเอง เพื่อแก้แค้นให้น้อง ความสนุกจึงเกิดขึ้นด้วยลวดลายการแข่งขันขณะที่เสี่ยประชิด ก็คิดแผนการเพื่อการโกง กลายเป็นความสนุกสนาน
กาเหว่าที่บางเพลง (2537/1994) เรื่องราวแปลกประหลาดที่เกิดขึ้น ณ หมู่บ้านบางเพลง ในคืนวันลอยกระทง ได้เกิดเหตุการณ์พระจันทร์ทรงกลดขึ้นทำให้ทุกสิ่งหยุดไปชั่วขณะ ต่อมา ผู้หญิงในหมู่บ้านไม่ว่าจะเป็นหญิงสาว คนชรา หรือแม่ชี กลับตั้งครรภ์พร้อมกันโดยไม่มีสาเหตุ เมื่อคลอดออกมา เด็กที่เกิดจากการตั้งครรภ์ลี้ลับเหล่านี้กลับมีหน้าตาที่แปลกประหลาด และมีพลังลึกลับแตกต่างจากมนุษย์ทั่วไป เมื่อวัตถุประหลาดบินผ่านบางเพลง ผู้หญิงทั้งหมู่บ้านไม่เว้นคนชราและแม่ชี เกิดตั้งท้องพร้อมๆกันและต่อมาให้กำเนิดเด็ก 214 คน เป็นเด็กที่มีพลังพิเศษและสามารถสื่อสารกันได้ทางโทรจิต นำมาซึ่งเรื่องราวลึกลับและความหวาดกลัวถึงแผนการใหญ่ของผู้มาเยือนจากต่างโลก
แบบว่าโลกนี้...มีแต่น้ำเต้าหู้และครูระเบียบ (2537/1994) สาลี่ (สุวนันท์ คงยิ่ง) เด็กสาวชั้นมัธยมปลายเพิ่งย้ายโรงเรียนเข้ามาใหม่ และกลุ่มเพื่อนผู้คลั่งน้ำเต้าหู้ เข้าร่วมทีมวอลเลย์บอลหญิงประจำโรงเรียน โดยมี กานต์ (ศรราม เทพพิทักษ์) ประธานนักเรียนเป็นโค้ชของทีม แต่ครูใหญ่ต้องการยุบชมรมนี้เพราะทีมไม่เคยชนะและนำชื่อเสียงมาให้กับทางโรงเรียนเลย แต่ก็ได้ครูระเบียบ (ดวงตา ตุงคะมณี) จอมโหดออกหน้าแทนและเป็นเหตุการณ์ให้ครูระเบียบต้องลาออก กานต์ สาลี่ และเพื่อน ๆ จึงต้องคว้าชัยชนะในการแข่งขันนี้ให้ได้ถึงจะสามารถช่วยครูระเบียบให้กลับมาสอนได้ดังเดิม
ม.6/2 ห้องครูวารี (2537/1994) เรื่องราวเกี่ยวกับห้องเรียน ม.6/2 ที่มีครูวารี (จินตหรา สุขพัฒน์) นิสิตฝึกสอนที่กลายเป็นครูประจำชั้นจำเป็น ครูวารีต้องรับมือกับเหล่านักเรียนที่มีปัญหาแตกต่างกันไปอย่าง "วิน" หนุ่มที่อยากเป็นนักดนตรีซึ่งขัดกับความตั้งใจของพ่อที่อยากให้เขาตั้งใจเรียนอย่างเดียว อีกคนคือ "นุช" ที่บังเอิญคือเป็นน้องสาวของครูวารีเอง โดยพ่อแม่ของพวกเธอแยกทางกัน สองพี่น้องจึงต่างแยกกันอยู่โดยนุชอยู่กับแม่ นุชจึงเกลียดพ่อและพาลเกลียดครูวารีที่อยู่กับพ่อไปด้วย เรื่องร้ายเกิดขึ้นเมื่อวินต้องเข้าร่วมการแข่งขันดนตรีแต่เกิดทะเลาะกับพ่อและประสบกับอุบัติเหตุในขณะที่ใกล้การแข่งขันรอบชนะเลิศไปทุกที วารี ครูฝึกสอนห้อง ม.6/2 ที่มีนักเรียนหัวโจกหลายคน โดยเฉพาะ ชีวิน อ้วน และเอก ที่มักจะนำแต่ปัญหามาให้และไม่สนใจเวลาวารีสอน ขณะที่ชีวินก็มีปัญหาทะเลาะกับพ่อ กลายเป็นเป็นปัญหาที่วารีต้องคอยแก้ไข ท่ามกลางความรักที่นักเรียนคนอื่น ๆ มีให้เธอ วารีเป็นครูฝึกสอนของห้อง ม.6/2 ฃึ่งมีนักเรียนหัวโจกหลายคน แต่ทุกคนก็รักวารี ชีวิน อ้วน เอก ชอบดนตรี จึงหนีเรียนไปแข่งดนตรี โดยมีกลุ่ม แจน หวาน นุช ไปให้กำลังใจ นุชเป็นน้องสาวของวารี แต่มักจะนำปัญหามาให้เนื่องจากพ่อแม่เลิกกัน นุชจึงไม่สนใจเวลาวารีสอน ชีวินทะเลาะกับพ่อ จึงหนีการสอบ วารีไปเตื่อนสติ ในขณะจะไปสอบชีวินถูกรถชนต้องเข้าโรงพยาบาล ในวันแข่งดนตรี ชีวินหนีออกจากโรงพยาบาลเพื่อไปแข่งกับเพื่อน ๆ พ่อตามไปแต่เจอกับพ่อของหวานและรู้ว่าพ่อของชีวินเป็นนักดนตรีเก่า พ่อของหวานจึงพูดเตือนสติให้นึกถึงลูกที่เจริญรอยตามแต่ไม่เสียการเรียน พ่อและชีวินเข้าใจกัน นุชมาขอโทษวารีที่เธอไม่เข้าใจปัญหาครอบครัว และให้กำลังใจชีวิน
กระโปรงบานขาสั้น (2536/1993) แซ็กถูกไล่ออกจากโรงเรียนเก่า ได้มาอยู่โรงเรียนใหม่ แซ็กตกหลุมรักใบเฟิร์นตอนไปดูแอโรบิค และได้พบกับใบเฟิร์นอีกที่สนามเทนนิส แต่แซ็กได้แต่แอบมอง แซ็กได้รู้จากแพรว่าพรุ่งนี้เป็นวันเกิดใบเฟิร์นแซ็กจึงซื้อกล่องดนตรีให้เป็นของขวัญวันเกิด ใบเฟิร์นชวนแซ็กไปงานวันเกิดด้วย ระหว่างนั้นแซ็กโดยพวกบอมส์ขับรถชนกับรถจักรยานของแซ็กแต่แซ็กก็ขี่ไปจนถึงบ้านใบเฟิร์น พอมาถึงก็เจอแพรระหว่างคุยกันก็เกิดอุบัติเหตุทำให้แพรไปกอดกับแซ็ก ใบเฟิร์นผ่านมาเห็นพอดีเลยเข้าใจผิด พอถึงเวลาเปิดห่อของขวัญใบเฟิร์นชอบของขวัญของแซ็กมาก จึงมาขอโทษแซ็ก แล้วทั้งสองก็เข้าใจกัน ใบเฟิร์นถูกขโมยชิงสร้อยคอและรุมทำร้าย ระหว่างทางแซ็กผ่านมาเห็นจึงเข้าช่วย จนแซ็กถูกทำร้ายบาดเจ็บ บอมส์ผ่านมาโดยบังเอิญจึงเข้าช่วย จนใบเฟิร์นเข้าใจว่าบอมส์เป็นคนช่วย บอมส์และเพื่อนได้ขโมยจักรยานของแซ็กไป แซ็กท้าบอมส์ชก จนเรื่องถึงหู ครูชาลี แซ็กถูกไล่ออกอีกครั้ง แซ็กจึงจะกลับกรุงเทพระหว่างทางแซ็กพบบอมส์และเพื่อนถูกทำร้าย แซ็กจึงเข้าช่วยบอมส์จนทำให้บอร์มเข้าใจแซ็กว่าแซ็กเป็นคนดี สุดท้ายแซ็กและ ใบเฟิร์นก็เข้าใจกัน
สมศรี โปรแกรมบี ปีนี้ 2 ขวบ (2536/1993) สมศรีโดนอุดมและอิ๊ดเพื่อนบ้านหลอกไปให้ ดร. เบิ้ม ซึ่งเป็นอริกับอาจารย์เต๋อผู้สร้างเธอ เพื่อเอาไปศึกษาว่าสร้างเธอมาได้อย่างไร กฤษชายหนุ่มผู้หลงรักสมศรี เห็นเหตุการณ์จึงตามครอบครัวอาจารย์เต๋อออกค้นหา สมศรีหนีออกมาได้ ทั้งหมดเข้าไปในสวนสนุกทำให้การตามหาและการลักพาชุลมุน ทุกคนช่วยสมศรีได้หรือไม่……
โจ๋ไม่โจ๋หัวใจให้โจ๋ (2535/1992) ครอบครัวของโจ๋ย้ายบ้านบ่อยโจ๋จึงไม่ค่อยมีเพื่อน มีเพียงลิดาที่เป็นเพื่อนที่รู้ใจ แต่พ่อของทั้งสองมีเรื่องทะเลาะกันเสมอ พ่อจึงกีดกันไม่ให้ลิดาคบกับโจ๋ โจ๋ถูกจิ๊กโก๋ทำร้าย พ่อของลิดาช่วยไว้และห้ามไม่ให้มายุ่งกับลิดาอีก ครอบครัวของโจ๋ต้องย้ายบ้านอีกครั้ง ก่อนไปโจ๋ต้องเข้าแข่งกีฬาแทนเพื่อนที่เคยมีเรื่องกัน โจ๋กลายเป็นที่รักของเพื่อนๆ และคุณครูพ่อของลิดาเกิดอุบัติเหตุรถคว่ำ โจ๋และพ่อมาช่วยไว้ ทั้งสองครอบครัวจึงเข้าใจกันและยอมให้โจ๋และลิดาคบกันต่อไป