6:66 ตาย ไม่ได้ ตาย (2552/2009) เรื่องราวน่าสะพรึงกลัวกำลังจะเกิดขึ้นภายใน 24 ชั่วโมงต่อจากนี้ นักข่าวสาวสายอาชญากรรมคนหนึ่งที่ชื่อ ดาว ในวันที่ชีวิตการทำงานของเธอขึ้นสู่จุดสูงสุด เธอก็ได้รับข่าวจากโรงพยาบาลว่า อาจารย์ดิน พ่อของเธอที่ขาดการติดต่อกันมากว่า 15 ปี นับตั้งแต่การจากไปของแม่ ฆ่าตัวตายอย่างปริศนา แต่เมื่อไปถึงที่นั่นเธอกลับพบเรื่องเหลือเชื่อคือ พ่อของเธอฟื้นคืนชีพอย่างปาฏิหาริย์ หลังจากนั้นดาวก็พบกับเหตุการณ์ประหลาด เมื่อคนตายกลับไม่ตาย เด็กที่จะเกิดกลับไม่ได้เกิด ทุกรายล้วนทุกข์ทรมาน นำพาเธอไปสู่ภาวะเฉียดตายซ้ำแล้วซ้ำเล่า มันเหมือนมีอำนาจอะไรบางอย่าง ไม่อยากให้เธอมีชีวิตอยู่ และนั่นเองเป็นจุดเริ่มต้นให้ดาวต้องค้นหาความจริง จนกระทั่งเธอได้มาเจอกับ วุธ นายตำรวจหนุ่มเพื่อนเก่าสมัยเรียน เขามาเพื่อสอบสวนคดีการฆ่าตัวตายของอาจารย์ดินเช่นกัน และแล้วทั้งคู่ก็ต้องช่วยกันคลี่คลายปริศนาที่เกิดขึ้น แต่เมื่อเธอได้พบว่า เมื่อวัฏจักรความตายถูกทำให้ผิดเพี้ยน คนตายไม่ได้ตาย คนเกิดไม่ได้เกิด อำนาจแห่งความตาย จึงพยายามทำทุกวิถีทางให้ทุกอย่างกลับคืน และดาวเป็นคนเดียวที่จะหยุดเรื่องราวเหนือความตายนี้ได้ โดยที่เธอไม่รู้ว่า คนที่ต้องทนทุกข์ทรมาน ด้วยการตายแต่ไม่ตายคนต่อไป อาจจะเป็นเธอ!
นางไม้ (2552/2009) มุ่งสู่ความสยองของลำเนาแห่งธรรมชาติ ที่จะมอบบทลงโทษอันสาสมให้กับผู้ที่ล่วงเข้ามาในเขตแดนต้องห้ามนี้ ขอเชิญท่านทั้งหลายมาสัมผัสกับความสยองของวิญญาณแห่งป่าใน “นางไม้” ผลงานกำกับการแสดงที่ฉีกแนวทางการทำงานไปจากเดิมๆของผู้กำกับฯมือดี “เป็นเอก รัตนเรื่อง” ที่สำคัญ นี่ยังเป็นการแสดงภาพยนตร์ครั้งแรกในชีวิตของนักร้องสาวแสนเซ็กซี่ “กิ๊บซี่-วนิดา เติมธนาภรณ์” ที่มาในบทบาทของ เมย์ สาวทันสมัยแต่ออกจะขี้เหงา ที่กำลังไปได้สวยกับธุรกิจส่วนตัวและความรักที่ นพ สามีช่างภาพนิตยสารมอบให้กัยเธอ แต่ดูเหมือนว่าทั้ง เมย์ แล้วก็ นพ มีวิถีชีวิตที่เป็นของคนเมืองทั่วไปที่ใช้ชีวิตหมดไปวันๆโดยไม่ได้คิดอะไร แถมยังปล่อยให้ตัวเองไปมีสัมพันธ์กับชายอื่น แต่แล้วก็ดูเหมือนว่าภายหลังจากที่ นพ เข้าไปถ่ายรูปกลางป่าลึกแล้วพบเจอกับสิ่งเร้นลับบางอย่างเข้า นั่นคืดจุดเริ่มต้นของความสยองขวัญเกินกว่าที่ใครจะคาดคิด ที่สำคัญมันได้เปลี่ยนให้ความสัมพันธ์ฉันท์สามีภรรยาระหว่าง เมย์ กับ นพ เปลี่ยนไป แต่จะเป็นไปในทิศทางไหน หลายคนที่ได้มีโอกาสชมภาพยนตร์เรื่องนี้มาแล้ว ต่างก็ยกนิ้วให้กับความสามารถทางการแสดงของ กิ๊บซี่-วนิดา ที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่าเธอ ไม่ได้มีดีอยู่แค่หน้าตาและความสวย เพราะความสามารถของเธอนั้นก็จัดอยู่ในระดับแถวหน้าเลยก็ว่าได้
บุปผาราตรี 3.1 (2552)

เรื่องย่อ : บุปผาราตรี 3.1 (2552/2009) ท่ามกลางความเงียบสงบของอพาร์ตเม้นต์ชื่อดังแห่งหนึ่ง ภายในห้อง 609 มีบางสิ่งบางอย่างกำลังจะถูกปลุกให้กลับมา “เฮี้ยนสยอง...ยกกำลังสาม” ณ ออสการ์อพาร์ตเม้นต์ ยุคเรโนเวท บริหารงานโดย “เจ๊สาม” (ฉันทนา กิติยพันธ์) พี่สาวของเจ๊สี่ที่เสียชีวิตไปแล้ว หลังปรับปรุงใหม่ครั้งใหญ่ เจ๊สามก็เกิดพุทธิปัญญาจัดการเปิดชั้น 3 ของอพาร์ตเม้นต์ให้เป็น “บ่อนพนันเถื่อน” แบบลับๆ มันซะเลย ในขณะเดียวกัน “หรั่ง” (มาริโอ้ เมาเร่อ) หนุ่มนักวาดการ์ตูนเรื่องผีๆ ที่สามารถมองเห็นผีได้จริง ก็ย้ายเข้ามาอยู่ที่ “ออสการ์อพาร์ตเม้นต์” ด้วยเหตุจำเป็นบางอย่าง เพียงแค่ไม่กี่วัน เขาก็มีโอกาสได้พบกับ “บุปผา” (เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์) หญิงสาวใน “ห้อง 609” ที่เหมือนเป็นรักแรก (ข้ามรุ่น) ของเขา คงเป็นด้วย “ความรักบังตา” หรั่งจึงไม่อาจรู้ได้ว่า “หญิงสาว” ที่เขาหลงรักเป็น “ผีสาวเฮี้ยนรัก” ที่เขาต้องพึงระวังไม่เฉียดกรายเข้าใกล้จะดีกว่า ทันที่ที่เขาก้าวเข้าสู่ห้อง 609 “บุพเพสันนิวาส” ที่หรั่งเคยคิดเมื่อแรกเจอบุปผา มันกลับกลายเป็น “บุปผาอาละวาด” ไปซะงั้น ทันใดนั้นเองเสียงกรีดร้องของ “บุปผา” ผีสาวตัวแม่ก็ดังโหยหวนขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัว และแล้วเหตุการณ์ “เฮี้ยนขั้นเทพ-โหดสยองนองเลือด-เชือดไม่เลือกหน้า” ก็ถูกบรรเลงขึ้นชุดใหญ่ไล่ตั้งแต่ห้อง 609 จนแตกตื่นไปทั่วทั้งออสการ์อพาร์ตเม้นต์...อีกครั้ง

หลวงพี่กับผีขนุน (2552)

หลวงพี่กับผีขนุน (2552/2009) ภาพยนตร์หรรษาป่าช้าแตกที่จะทำให้ทุกคนได้ขำขันไปกับเรื่องราวของ 18 มงกุฏจอมลวงโลกที่ถูกโปลิศจอมเก๋าตามล่าหัว จนต้องตกกระไดพลอยโจนไปเป็นพระโดยที่ไม่ทันตั้งตัว และกลายเป็นความหวังหนึ่งเดียวของชาวบ้านในการปราบผีขนุนสุดเฮี้ยน ที่จะทำให้คุณขากรรไกรค้างไปกับเรื่องราวชุลมุนอลเวง “หลวงพี่กับผีขนุน” ผลงานอารมณ์ดีที่จะทำให้ใบหน้าคุณเปื้อนยิ้ม กำกับโดย “ดุลยสิทธิ์ นิยมกุล“ แท็กทีมความหรรษาโดย “หม่ำจ๊กมก” โปลิศหน้าเหลี่ยม พร้อมด้วยการประเดิมเป็นพระเอกครั้งแรกของ “ทศพล 108 มงกุฎ“ ที่จะพาคุณขวัญผวาฮากันให้หัวใจชื่นบานไปกับการปะทะกันระหว่าง “หลวงพี่ป้ายแดง VS ผีขนุนสุดเฮี้ยน” ศึกครั้งนี้ต้องวัดกันให้รู้ดำรู้แดง!!! “เสือ” (ทศ 108 มงกุฎ) เซลล์แมนขายเครื่องกรองน้ำจอมกะล่อน ที่ไม่ว่าเด็ก-สตรี-หญิงมีครรค์หรือคนชราเขาก็ต้มตุ๋นไม่เลือกหน้า ร้อนถึงมือปราบหน้าเหลี่ยมจอมกวนอย่าง “จ่าคงเดช” (หม่ำ จ๊กม๊ก) ต้องออกตามล่าหัวไม่เว้นแต่ละวัน แต่จอมแสบลื่นเป็นปลาไหลอย่างไอ้เสือ มีหรือที่จะยอมให้จับง่ายๆ ว่าแล้วก็เบนเข็มไปบวชตามความต้องการของแม่ให้มันรู้แล้วรู้รอด พร้อมขอเสนอที่ยั่วน้ำลายว่า “ถ้าไปบวชให้แม่แล้วเอ็งจะได้เบียดกับสาวหมวยขาวเอ็กซ์ที่แม่จัดให้” ว่าแล้วไอ้เสือก็โกนหัวบวชกลายเป็น “พระเสือ” แบบไม่ทันตั้งตัว เห็นทีงานนี้ “เสือซ่อนเล็บ” ต้อง “สิ้นลาย” เมื่อพระเสือต้องเรียนรู้โลกใหม่ที่แตกต่างอย่างสุดโต่ง กลางวันถูกทดสอบด้วยพระธรรมพร้อมเรื่องวุ่นๆ ของชาวบ้าน หนำซ้ำยังต้องโดนทดสอบจิตใจจากสิ่ง (ไม่มีชีวิต) ที่ชาวบ้านพร้อมใจเรียกว่า “ผีขนุน” (ไม่ใช่ผู้หญิงสวยเอ็กซ์เซ็กซี่อย่างว่านะ แต่เป็นป้าแก่ๆ เจ้าของเงินกู้ที่แสบซ่าจนโดนลูกขนุนยักษ์หล่นทับหัวตายต่างหาก) คราวนี้เห็นทีว่า “โจรชั้นครู” จะหนี “จ่าชั้นเทพ” มาเจอะ “ผีชั้นเซียน” ที่จะทำให้คุณเจอความน่ารักของศาสนาที่ยังไม่เคยเห็น และขำขันไปกับปะทะกันของ “หลวงพี่ VS ผีขนุน” แค่คิดก็หนาวแล้ว บรู๊ว…ววววว

คนไฟลุก (2551/2008) อะไรจะเกิดขึ้น ถ้าร่างกายเราลุกเป็นไฟได้เองโดยไม่ทราบสาเหตุ!!! “ปรากฏการณ์คนลุกเป็นไฟฉับพลัน” เป็นไปได้อย่างไร อาถรรพ์ ไสยศาสตร์ ฆาตกรรม หรืออะไรกันแน่ คุณเท่านั้น!!! ต้องเป็นผู้ร่วมพิสูจน์และหยุดยั้งมัน ก่อนที่ “ไฟมรณะ” นี้ จะคืบคลานมาสู่…ตัวคุณ ในภาพยนตร์ลึกลับ-ระทึกขวัญแห่งปีที่มีแรงบันดาลใจมาจากเหตุการณ์จริง “คนไฟลุก” (Burn) เหตุการณ์ระทึกขวัญนี้เกิดขึ้นโดยไม่มีลางบอก เมื่อจู่ๆ ไฟประหลาดก็ลุกท่วมร่างของผู้หญิงคนหนึ่งจนเสียชีวิต และเธอคือหญิงไทยรายแรกที่เกิดปรากฏการณ์ไฟลุกท่วมตัวโดยฉับพลันนี้ “โมนา” (บงกช คงมาลัย) ลูกสาวของผู้ตาย เป็นนักค้าหุ้นสาวผู้ทะเยอทะยานต้องเข้ามาพัวพันกับเหตุการณ์นี้อย่างไม่ทันตั้งตัว และเธอไม่อาจทำใจได้ที่อยู่ๆ แม่ก็มาตายจากไป ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้ปรับความเข้าใจกัน เหตุการณ์นี้ทำให้เธอได้พบกับ “พลอย” (อาชิรญาณ์ ภีระภัทร์กุญช์ชญา) พยาบาลสาวซึ่งแม่ของเธอก็ต้องชะตากรรมถึงตายด้วยไฟลุกท่วมตัวโดยไม่ทราบสาเหตุอย่างไม่ผิดแผกกันเลย นี่เป็นสิ่งที่ทำให้โมนาและพลอยต้องพยายามสืบหาสาเหตุที่แท้จริงให้ได้ว่า อะไรกันแน่ที่เกิดขึ้นกับแม่ของพวกเธอ ในขณะที่ทั้งคู่กำลังตามล่าหาความจริงอยู่นี้ พวกเธอก็ได้รับความช่วยเหลือด้านข้อมูลจาก “ขวัญ” (ปรางทอง ชั่งธรรม) นักข่าวสาวที่ตามติดข่าวนี้อย่างจิกไม่ปล่อยมาตั้งแต่แรก ตามสัญชาตญาณของอาชีพนักข่าว เธอมั่นใจว่าเหตุการณ์นี้ต้องมีอะไรเคลือบแฝงอยู่เบื้องหลังเป็นแน่ รวมถึง “ดอน” (ชลัฏ ณ สงขลา) นายตำรวจหนุ่มเจ้าของคดีนี้ แม้จะได้รับคำสั่งจาก “วัง” (สุธีรัชย์ ชาญนุกูล) หัวหน้าของเขาให้ปิดคดีนี้ว่าเป็นอุบัติเหตุไปแล้วก็ตาม แต่ด้วยความสงสัยและยึดมั่นในความถูกต้องยุติธรรม เขาจึงต้องร่วมสืบหาความจริงของเหตุการณ์ลึกลับนี้และหยุดยั้งมันให้ได้ แม้จะรู้ว่ากำลัง “เล่นกับไฟ” อยู่ก็ตาม ความจริงในเหตุการณ์นี้ มันเป็นการฆ่าตัวตาย, อุบัติเหตุ, ฆาตกรรม หรือเครื่องสังเวยความลี้ลับ ปริศนาแห่งเบื้องหลัง “ไฟมรณะ” จะต้องถูกคลี่คลายก่อนที่ความเป็นความตายจาก “ไฟสยอง” นี้จะโหมลุกขึ้นอีกครั้ง
สี่แพร่ง (2551/2008) **เหงา ผู้กำกับ : ยงยุทธ ทองกองทุน เรื่องย่อ : ปิ่น (มณีรัตน์ คำอ้วน) สาวทำงานคนหนึ่งอาศัยอยู่คนเดียวในห้องแคบๆ เธอเหงา เธอตกงาน เธอโดนทิ้ง เธอหดหู่สุดขีด เมื่อมีข้อความเข้ามาในโทรศัพท์มือถือว่า อยากรู้จัก เธอจึงเริ่มต้นติดต่อกลับไปโดยที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาเป็นใคร มาจากไหน และไม่รู้ว่าเขาเป็นคนที่เธอจะต้องเสียใจ** **ยันต์สั่งตาย ผู้กำกับ : ปวีณ ภูริจิตปัญญา เรื่องย่อ : เด็กช่างกลคนหนึ่ง เลือกวิธีแก้แค้นหรือเอาคืนแบบคนมีวิชาอาคมโดยการเล่นของอย่างหนึ่ง ที่เรียกว่า ยันต์สั่งตาย เพื่อมาไล่ล่าแก้แค้นแทนการลงมือเอง แต่สุดท้ายการแก้แค้นก็ไม่มีประโยชน์อะไรเลย เพราะมันไม่มีวันสิ้นสุด** **คนกลาง ผู้กำกับ : บรรจง ปิสัญธนะกูล เรื่องย่อ : วัยรุ่นกลุ่มหนึ่ง ออกไปตั้งเต็นท์กลางป่าลึก พวกเขาล้อมวงเล่าเรื่องผี ทำกิจกรรมห่ามๆ ไร้สาระ พอตอนเข้านอน ทุกคนต่างแย่งกันนอนตรงกลาง เพราะเชื่อว่าผีจะหลอกคนที่นอนริมสุดก่อน แต่แล้วจะทำอย่างไรเมื่อคนที่นอนตรงกลางกลับเป็นคนที่โดนผีหลอกคนแรก** **เที่ยวบิน 224 / Last Fright ผู้กำกับ : ภาคภูมิ วงศ์ภูมิ เรื่องย่อ : พิมพ์ (เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์) เป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน ที่ต้องเดินทางไปกับผู้โดยสารที่เป็นเจ้าหญิงจากต่างประเทศ เจ้าหญิงเอาแต่ใจและค่อนข้างโหดร้ายกับเธอตลอดทาง แต่แล้วเรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเมื่อเจ้าหญิงสิ้นพระชนม์ เลยต้องขนศพเจ้าหญิงกลับประเทศ พิมพ์จึงต้องเดินทางไปกับศพอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ แล้วเรื่องสยองต่างๆ ก็เกิดขึ้นบนเครื่องตลอดการเดินทาง**
ลองของ 2 (2551/2008) ครูพนอ (นภคปภา นาคประสิทธิ์) สาวสวยรวยเสน่ห์ ชีวิตครูต่างจังหวัด ของเธอ คงเหมือนกับครูทั่ว ๆ ไป แต่ความสวยความสาวของเธอ กับทำให้เธอต้องประสบเคราะห์กรรม จากคนที่มารุมรัก ถูกทำของใส่ทั้งจากครู และเหล่านักเรียนชายมัธยมในโรงเรียน เพื่อแก้มนต์ดำแก้อาถรรพณ์ ทำให้ครูพนอต้องฆ่า นายพร (ธีรยุทธ ปรัชญาบำรุง) และทำให้ได้เทพ 3 ตามาครอบครอง จ่าดิษ (ศุภกรณ์ กิจสุวรรณ) เพื่อนนายพร คนเล่นของที่มีชีวิตอยู่เพื่อเดรัจฉานวิชา เข้ามาเกี่ยวข้องกับครูพนอ ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ เทพสามตามาครอง เรื่องราวเริ่มต้นขึ้น หลังจากที่ครูพนอกินเนื้อของหมอไสยศาสตร์ เพียงหวังเพื่อล้าง “ของ” ในตัวเองออก แต่การกระทำในครั้งนั้นกลับทำให้ชีวิตของตัวเธอเองต้องตกอยู่ในอำนาจมนต์ดำของหมอไสยศาสตร์เสียเอง เธอนั้นได้รับความเจ็บปวดทรมานจากรอยบาดแผลอักขระบนตัวเธอที่เกิดขึ้นโดยทีเธอไม่รู้สึกตัว จนต้องถูกจับส่งโรงพยาบาลประสาท เพราะเข้าใจว่าตัวเธอนั้นป่วยทางจิต แต่เรื่องราวก็ไม่ได้หยุดเพียงเท่านี้เมื่อครูพนอต้องตกอยู่ในการดูแลของพยายบาลที่ชื่อเพ็ญ ซึ่งเพ็ญและครอบครัวหวังใช้ประโยชน์จากร่างของครูพนอ เพื่อเรียกขวัญของพี่สาว (เดือน) เพื่อให้ขวัญของเดือนนั้นได้เข้าอยู่ในร่างของครูพนอแทน โดยอาศัยจังหวะในช่วงที่ครูพนอเข้ารับการรักษาอาการอยู่ในโรงพยาบาล แต่เรื่องราวกลับไม่ง่ายอย่างที่คาดคิดเมื่อ จ่าดิษจอมขมังเวทย์ที่รับจ้างเพ็ญและครอบครัว ในการสลับเปลี่ยนขวัญในครั้งนี้กลับต้องการพลังที่อยู่ในตัวครูพนอนั้นเอาไว้กับตัวเสียเอง เป็นเหตุให้ขวัญของครูพนอที่ถูกกักขังไว้กับเข้าสู่ร่างของตัวเองได้อีกครั้ง แรงอาฆาตแค้นที่เธอได้รับจากการกระทำของครอบครัวเพ็ญ ด้วยวิธีการอันโหดเหี้ยม ประกอบกับพลังอำนาจของหมอไสยศาสตร์ที่อยูในตัวครูพนอ ทำให้เธอกลับมาตามชำระล้างความแค้นกับครอบครัวเพ็ญอย่างน่าสพรึงกลัวและน่าสยดสยอง
บอดี้...ศพ # 19 (2550/2007) ชลสิทธิ์ (อารักษ์ อมรศุภศิริ) ไม่ได้นอนมาแล้วเกือบอาทิตย์ เขาไม่อยาก ไม่กล้า และไม่อาจข่มตานอน เพราะยามใดก็ตามที่เผลอหลับตา ชลจะฝันเห็นภาพผู้หญิงคนหนึ่งถูกฆ่าอย่างโหดเหี้ยม เขาไม่รู้ว่าเธอเป็นใคร จำได้แค่ว่าเขาเคยสบตาผู้หญิงแปลกหน้าคนนี้โดยบังเอิญครั้งหนึ่งในร้านอาหาร ในฝันเธอกรีดร้องให้เขาทำอะไรบางอย่าง และเขาคงไม่มีวันหยุดฝันร้าย ถ้าไม่ทำตามคำสั่งของเธอ อาการของชลทำให้ เอ๋ (อรจิรา แหลมวิไล) พี่สาวซึ่งเป็นนักศึกษาแพทย์ฝึกหัด บังคับให้เขาเข้ารับการบำบัด ชลเล่าให้ อุษา (กฤตธีรา อินพรวิจิตร) จิตแพทย์ของเขาฟังว่า ทุกครั้งที่ฝันเขาจะรู้สึกเหมือนตัวเองตกเป็นเหยื่อฆาตกรรมเสียเอง สัมผัสในวินาทีที่อวัยวะโดนทิ่มแทง แรงกระตุกของลมหายใจเมื่อวิญญาณหลุดจากร่าง ความทรงจำอันเจ็บปวดค่อยๆ เข้าครอบงำสมองของชล หรือเขากำลังจะเป็นบ้า ด้วยร่องรอยเพียงน้อยนิดของผู้หญิงในฝัน มันนำชลไปสู่ตู้เก็บศพหมายเลข 19 ชลพยายามจะพิสูจน์กับเอ๋ว่าเขาไม่ได้บ้าไปเอง และความลับในตู้ใบนั้นเท่านั้นที่จะยืนยันได้ ในขณะที่ยิ่งอุษารักษาชลนานเข้า เธอก็เริ่มสงสัยว่าชลอาจเกี่ยวข้องกับเหตุฆาตกรรมที่เกิดขึ้นรอบๆ ตัว นับแต่เขาก้าวเข้ามาเป็นคนไข้ของเธอ ภายในตู้หมายเลข 19 ร่างไร้วิญญาณร่างหนึ่ง นอนอยู่อย่างโดดเดี่ยวในที่ที่ทั้งแคบ มืดมิดและหนาวเหน็บสุดขั้วหัวใจ เธอกำลังร่ำร้องหาใครบางคน ด้วยความคิดถึง แต่มันเป็นความคิดถึงที่คุกรุ่นไปด้วยแรงแค้น แค้นที่ต้องมานอนอยู่ในตู้ใบนี้คนเดียว เธอกำลังกระซิบผ่านชลไปยังใครคนนั้นว่า กูคิดถึงมึง
บ้านผีสิง (2550/2007) ระหว่างที่ ชาลินี (อินทิรา เจริญปุระ) นักข่าวทีวี ไปถ่ายทำสกู๊ปรายการรื้อคดี ที่หยิบเอาฆาตกรรมครึกโครม 6 ปีก่อนที่อาจารย์แพทย์ชื่อดัง หมอวสันต์ (วรพจน์ นิ่มวิจิตร) ตกเป็นผู้ต้องหาคดีฆาตกรรมอำพรางศพภรรยา พญ.ผุสรัตน์ (วิบูลย์ศิริ คงพูล) ชาลินี ถ่ายเก็บภาพบ้านพักแพทย์ที่หมอวสันต์เคยพักอาศัยไว้ บรรยากาศบ้านวังเวง มืด ๆ ชวนให้คิดถึงหลุมศพมากกว่าที่อยู่อาศัย ชาลินีถ่ายติดภาพเลือนรางคล้ายเงาผู้หญิงในชุดสีฟ้าอยู่ในบ้านนั้นด้วย ภาพนั้นรบกวนจิตใจชาลินีเรื่อยมา ชาลินีรู้สึกลึก ๆ ว่า เป็นเงาของหญิงสาวดูเศร้า นัยน์ตาโตไร้แวว แต่จ้องมองเธอเหมือนจะบอกบางอย่าง ขณะที่ชาลินีเจาะลึกไปกับคดีของหมอวสันต์ เธอพบข้อมูลใหม่ที่ชวนตกตะลึง ยังมีฆาตกรคนอื่นเคยอาศัยอยู่ในบ้านพักแพทย์หลังเดียวกัน ... หมอเฉลิม (คมสัน นันทจิต) ผู้ต้องหาคดีฆาตกรรมอำพรางศพแฟนนักศึกษาสาว จามจุรี (ณัฏฐกันย์ ทยุตาจารุวิชญ์) เมื่อ 8 ปีก่อน หมอเฉลิม เป็นผู้ต้องหาเพียงรายเดียวที่ยอมให้ชาลินีสัมภาษณ์ แต่เมื่อไปถึงเรือนจำ ชาลินีกลับเป็นฝ่ายถูกคุณหมอเฉลิมซักถามแทน โดยเฉพาะคำถามเกี่ยวกับบ้านหลังนั้น ถ้อยคำของหมอเฉลิมบ่งบอกถึงอาถรรพ์บางอย่างซ่อนในบ้านหลังนี้ เป็นเหตุให้เขาลงมือฆ่าแฟนสาว ชาลินีทุ่มเทสืบค้นคดีฆาตกรรมอย่างหนักจน ภาณุ (ชมะนันทน์ วรรณวินเวศร์) สามีของชาลินี เกิดความหวาดระแวงความสัมพันธ์ของชาลินีกับ เชน (ณัฐวัฒน์ เปล่งศิริวัธน์) โปรดิวเซอร์รายการ ทั้งที่ภาณุเคยเป็นสามีที่แสนดี เข้าใจการทำงานของชาลินีมาตลอด ชาลินีค้นรายชื่อแพทย์ที่เคยพักอยู่บ้านหลังนี้ไล่ย้อนกลับไป เธอแทบช็อคเมื่อพบว่า หมออุทิศ (คงเดช จาตุรันต์รัศมี) ผู้ต้องหาคดีฆ่าอำพรางศพ คุณนวล (ชฎาธิรัฏฐ์ เลิศทวีสิน) นางพยาบาลสาวเมียรักในคดีฆาตกรรมโด่งดังเมื่อ 45 ปีก่อน ทั้งคู่เคยอาศัยอยู่บ้านพักแพทย์หลังนี้เช่นกัน! มีอะไร มากกว่า ความบังเอิญ? อะไร สิงอยู่ในบ้านพักแพทย์หลังนี้? หญิงสาวในชุดสีฟ้า เกี่ยวข้องอะไรกับ เหยื่อ และ การฆาตกรรรม
เปิงมาง กลองผีหนังมนุษย์ (2550/2007) พิง หนุ่มที่มีใจรักในเสียงดนตรี ออกจากราชการ มาฝากตัวเป็นลูกศิษย์ ครูด้วง เจ้าของสำนักปี่พาทย์ในจังหวัดปทุมธานี ซึ่งมีเรื่องเล่าสืบต่อกันมา ถึงกลองเปิงมางศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวสำนักใช้กราบไหว้บูชามาช้านาน และเรื่องการตายของลูกวงที่คิดทรยศ พิงมาเพื่อศึกษาร่ำเรียนวิชาเปิงมางตามที่บรรพบุรุษของพิงได้สั่งเสียไว้ก่อนตาย พิงได้พบกับหญิงสาวนางหนึ่งที่ชอบทำตัวลึกลับ เธอชื่อ ทิพย์ ตลอดเวลาพิงและทิพย์พบกันในเวลากลางคืน และสร้างสัมพันธ์ที่ดีร่วมกันจนเกิดเป็นความรัก ปลัดเหมือน นักเลงปี่พาทย์ผู้มีอาคม ที่ปรากฏตัววางแผนทำลายสำนักครูด้วง และหวังแย่งชิงเปิงมางศักดิ์สิทธิ์เพื่อให้ตัวเองได้เป็นที่หนึ่งในด้านดนตรีไทย ปลัดเหมือนใช้เงินหว่านล้อมจนลูกวงของครูด้วง หลายคนสับสนและทรยศย้ายสำนักไปอยู่กับปลัดเหมือน แต่ในที่สุดพวกลูกวงเหล่านี้ก็พบจุดจบอย่างสยดสยอง ต่อมาปลัดเหมือนก็กระทำการล้มครูด้วงจนสำเร็จ และ แย่งชิงเปิงมางศักดิ์สิทธิ์ไปได้ ทิพย์หายตัวไป ครูด้วงขอให้พิงสืบทอดวงต่อไป และเล่าความจริงว่า เปิงมางศักดิ์สิทธิ์นั้นได้ถูกสร้างมาจากผิวหนังของหญิงสาวคนหนึ่งชื่อทิพย์ ทำให้พิงรู้ว่าการตายของพวกลูกวงเป็นฝีมือของทิพย์ พิงเป็นคนเดียวที่จะกุมชะตาสำนักนี้ต่อไป หลายปีต่อมา พิงกลายเป็น ครูพิง ซึ่งตอนนี้ชราลงและพิงเห็นนางรําคนนึงรําจึงนึกถึงตอนที่เจอทิพย์และเมื่อการแสดงจบลง พิง ก็ได้เสียชีวิตด้วยวัยชราภาพ
แฝด (2550/2007) พิม (หทัยรัตน์ อีเกอรีฟ) และพลอย (ฤทัยรัตน์ อีเกอรีฟ) แฝดหญิงตัวติดกันวัย 15 ที่เข้ารับการผ่าตัดแยกช่องท้องและกระเพาะอาหารเป็นคู่แรกในเมืองไทย ผลปรากฏว่าพิมพี่สาวพ้นขีดอันตราย ส่วนคนน้องนั้นเสียชีวิต หลังพลอยตาย พิมเลือกที่จะทิ้งความเจ็บปวดและความรู้สึกผิดไว้เบื้องหลัง แล้วหนีไปตั้งต้นชีวิตใหม่ที่เกาหลี ชีวิตของพิมคงดำเนินต่อไปอย่างมีความสุขกับผู้ชายที่เธอเลือก ถ้าเสียงโทรศัพท์ในกลางดึกคืนหนึ่ง จะไม่ดึงให้เธอต้องหวนกลับมาพบความหลังที่เธอทั้งผูกพันและกลัวสุดหัวใจ ข่าวจากเมืองไทยแจ้งว่าแม่ของเธอ (รัชนู บุญชูดวง) ประสบอุบัติเหตุ พิม (มาช่า วัฒนพานิช) จึงรีบเดินทางกลับเมืองไทย แต่ทันทีที่เธอเหยียบย่างกลับเข้าบ้านหลังเก่า ความทรงจำในอดีตที่เธอแกล้งลืมมันไปก็ย้อนคืนมา ในบ้านเดิมที่พิมเคยอาศัยสมัยเด็ก ข้างของทุกอย่างของพิมและพลอยยังคงแน่นิ่งอยู่ในที่ของมัน รองเท้าสองคู่ ตุ๊กตาสองตัว เสื้อผ้าชุดติดกัน เวลาเหมือนจะหยุดนิ่งไม่ไหลผ่าน พิมเริ่มสัมผัสได้ถึงความรู้สึกเก่าๆ อีกครั้ง ความรู้สึกคล้ายมีคนอยู่ข้างกายตลอดเวลา ทุกลมหายใจ คงจะดีกว่าถ้าพลอยจะเกลียดพิมซะจนไม่อยากกลับมาอยู่ข้างๆ พิมเหมือนเดิม ทว่าพลอยยังคงอยู่ที่นี่ รอเธอและโกรธเธอ หรือกระทั่งความตายก็ไม่อาจแยกพลอยจากพิม
นารีผล (2550/2007) *ปีอาจไม่ตรง* ต้นไม้ปีศาจ ซ่อนเร้นแรงเสน่หา หลอกล่อให้ทุกคนเข้าสู่ความตาย นักวิทยาศาสตร์กลุ่มหนึ่งได้ค้นพบว่าผลไม้นารีผลสามารถรักษาโรคได้ จึงเดินทางเข้าป่าเพื่อไปหาผลไม้ดังกล่าว แต่ระหว่างทางพวกเขาต้องพบกับอุปสรรคมากมาย จนได้เข้าไปในเขตทะเลหมอกซึ่งเป็นเขตอาถรรพ์ของป่านารีผล ปีศาจซึ่งสิงอยู่ในลูกนารีผลได้กลายร่างเป็นหญิงสาวสวยออกมาเพื่อหลอกล่อให้แต่ละคนเข้าไปหาและฆ่าตายทีละคน สุดท้ายจะมีใครสามารถเอาชีวิตออกมาจากป่าอาถรรพ์ได้หรือไม่
Final Score 365 วัน ตามติดชีวิตเด็กเอ็นท์ (2550/2007) เรื่องราวการเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัย ของเด็กนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 4 คน ในช่วงปีการศึกษา พ.ศ. 2548 ซึ่งเป็นปีแรกที่ใช้การสอบแอดมิดชันส์ แทนการสอบเอ็นทรานซ์ และชีวิตที่ถูกฟันธงของเด็ก ปี 2549 ปีนี้ไม่เหมือนปีไหน ๆ เพราะมันเป็นปีที่ปฏิทินการเมืองร้อนระอุด้วยม็อบกู้ชาติ ปีที่ใคร ๆ ก็ถามไถ่ "ไปพารากอนมารึยัง?" ปีที่ขวัญและกำลังใจของนักเรียน ม.6 แหลกสลาย เมื่อพระพรหมเอราวัณถูกทุบทำลาย ที่สำคัญมันเป็นปีแรกของการประกาศใช้ระบบแอดมิชชั่นส์ ปีนี้... วัยรุ่นไทยวัย 17 ที่อยากเอ็นทรานซ์ต้องสอบ โอเน็ต-เอเน็ต สดจากโรงเรียน กองถ่ายภาพยนตร์สุดอึดจาก GTH ทุ่มเทเวลา 1 ปีเต็มเฝ้าติดตามชีวิตของนักเรียน ม.6 จำนวน 4 คนในปีที่พวกเขาก้าวเข้าสู่สนามการแข่งขันที่ดุเดือดที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิต โดยไม่รู้ว่าพระเจ้าจะดลบันดาลใจให้เกิดอะไรขึ้นบ้าง
ศพ (2549/2006) บางคนอาจเคยตั้งคำถาม ในขณะที่หลายคนเพียงแค่สงสัย แล้วถ้าเป็นคุณล่ะจะทำอย่างไร เมื่อมองยังร่างที่ปราศจากลมหายใจตรงหน้า ไม่รู้ประวัติ ไม่รู้ที่มา รู้แต่เพียงว่านี่คือร่างกายที่ไร้ชีวิตที่นักศึกษาแพทย์ชั้นปีที่ 2 ทุกคนต่างให้ความเคารพในฐานะ “อาจารย์ใหญ่” ครูผู้บริจาคร่างกายเป็นวิทยาทานเพื่อให้กับนักศึกษาแพทย์ทุกคนได้เรียนรู้ถึงความซับซ้อนภายในร่างกายมนุษย์ และนำความรู้ที่ได้จากร่างอาจารย์ไปเป็นประโยชน์ในการรักษาผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่ต่อไป มีเรื่องเล่ามากมายเกี่ยวกับอาจารย์ใหญ่ แต่สำหรับ “ไหม” (ณัทธมนกาญจน์ ศรีนิกรโชติ) แล้วสิ่งที่เกิดขึ้นกลับเป็นประสบการณ์จริงที่ชวนขนลุก ซึ่งเกิดขึ้นในระหว่างที่เธอเข้าเรียนชั่วโมงแรกของวิชากายวิภาคศาสตร์ เมื่อจู่ๆ ร่างของอาจารย์ใหญ่ที่นอนสงบนิ่งก็เงื้อมมือขึ้นมาบีบคอเธอ เหตุการณ์ต่อจากนั้นได้สร้างความหวาดผวามากยิ่งขึ้น เมื่อเธอรู้สึกว่ามีวิญญาณของผู้หญิงที่ไม่รู้จักคอยติดตามเธอไปในทุกที่ ตั้งแต่ชั้นเรียน ห้องน้ำ มุมมืดในห้องพัก รวมทั้งข้างตัวเธอบนเตียงนอนที่บ้าน ในท่ามกลางความสับสน และสถานการณ์ที่กำลังเลวร้ายลง “อาจารย์นายแพทย์ประกิต” (นิรุตติ์ ศิริจรรยา) ดูเหมือนจะเป็นคนเดียวที่แสดงความห่วงใยไหม และตัดสินใจยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือลูกศิษย์คนนี้ในทุกวิถีทาง ไหมเริ่มตั้งคำถามและค้นหาคำตอบอย่างที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน นั่นคือการค้นหาที่มาของอาจารย์ใหญ่ แต่ดูเหมือนยิ่งสาวยิ่งลึก และมีบางสิ่งที่ซับซ้อนเกินกว่าที่ผู้หญิงตัวเล็กๆ อย่างเธอจะต้านทานไหว บางอย่างที่เกี่ยวพันและเชื่อมโยงถึงผู้หญิงที่ชื่อ “ดาหวัน” กับร่างของอาจารย์ใหญ่ตรงหน้าเธอ ความจริงในด้านมืดที่ชวนขนลุก และเหตุการณ์ที่เลวร้ายในอดีตได้กลับมาหลอกหลอนเธอขึ้นอีกครั้ง…
ลาง หลอก หลอน | BLACK NIGHT (2549/2006) NEXTDOOR – ฮ่องกง กรกฎาคม ตามจันทรคติ เป็นเดือนแห่งเทศกาลของภูตผี ผู้คนจุดธูปเผากระดาษตามท้องถนนเพื่อเซ่นไหว้ผีเร่ร่อน เหตุการณ์น่าสะพรึงกลัวเกิดขึ้นซ้ำๆ ในคืนอาถรรพ์ เมื่อเจนสาวชาวไต้หวัน (แสดงโดย Annie LIU) มาเยี่ยม Joe แฟนตำรวจหนุ่ม (แสดงโดย Dylan KUO) แต่กลับพบว่าเขาเริ่มมีสัมพันธ์สวาทกับเพื่อนบ้าน สาวสวยจากจีนแผ่นดินใหญ่ Hosie (แสดงโดย Race WONG) และเมื่อความรักและความคาดหวังที่แรงกล้า กลับถูกตอบแทนด้วยความหลอกลวง ความหายนะจึงจำต้องเกิดขึ้น. ท่ามกลางเสียงแปลกประหลาดจากการกระทบกันของลูกหิน เสียงประตูถูกเคาะอย่างฉับพลัน เมื่อมองผ่านรูกุญแจประตูเห็นเป็นเงารูปร่างน่ากลัว… เรื่องราวของสามชีวิตในชะตาที่โยงใยกันจนเป็นเงื่อนปมได้คลี่คลายออกอย่างระทึกขวัญ และให้แง่คิดแบบ ขนหัวลุก DARK HOLE – ญี่ปุ่น ว่าที่เจ้าสาว Yuki (แสดงโดย Asaka SETO) ต้องทนทรมานกับฝันร้ายของเธอมาตลอด วันหนึ่งเธอสังเกตเห็นเด็กในชุดสีเหลือง ซึ่งเคยเห็นในฝันบ่อยๆ ได้ปรากฏตัวขึ้นในชีวิตจริง มีแต่เพียงเธอเท่านั้นที่สังเกตเห็นเด็กคนนี้ได้ แต่เมื่อใดที่เธอจำเขาได้จริงๆ เขาก็จะหายไปเหลือเพียงน้ำกองหนึ่ง เธอรู้สึกหวาดกลัวกับเหตุการณ์ประหลาดนี้ คู่หมั้นของเธอ Satoshi (แสดงโดย Takashii KASHIWABARA) จึงแนะนำให้เธอไปพบจิตแพทย์ Dr. Kawai (แสดงโดย Tomorowo TAGUCHI) และในที่สุดจิตแพทย์ท่านนี้ก็สามารถค้นพบสาเหตุของฝันร้ายของเธอได้หลังจากรักษาเธอมาหลายต่อหลายครั้ง เนื่องจากเธอสูญเสียความทรงจำในวัยเด็กเมื่อตอนอยู่ชั้นประถม และบังเอิญช่วงนั้นทั้งเพื่อนและแม่ของเพื่อนเธอได้ตายไปอย่างประหลาดและ เป็นปริศนา Yuki กลัวมากเมื่อเธอพบความเกี่ยวเนื่องกันระหว่างความฝันของเธอและอุบัติเหตุครั้งนั้น หนึ่งระหว่างการรักษาโดยการสะกดจิต เธอได้เปิดเผยความลับถึงเรื่องที่เธอมีสัตว์เลี้ยงที่แสนประหลาด… THE LOST MEMORY – ไทย ปราง (แสดงโดย พิชญ์นาฎ สาขากร) แม่หม้ายและ ซัน ลูกชาย (แสดงโดย เด็กชายอธิพันธ์ ฉันทอภิชัย) ทั้งคู่ ดูน่าจะมีความสุข เว้นแต่ว่ามีชายคนหนึ่งคอยติดตามเธอทุกแห่งหน เธอเชื่อว่าเขาถูกจ้างวานโดย วิทย์ อดีตสามีเธอ (แสดงโดย ขจรศักดิ์ รัตนนิสสัย) เธอเชื่อว่าเขามุ่งร้ายที่จะจับลูกชายเธอไป ชีวิตเธออยู่ท่ามกลางความหวาดผวาจนแทบจะเป็นบ้า ระหว่างการสืบหาความจริงนั้น เธอได้พบห้องเช่าแห่งหนึ่งที่ดูคุ้นตา และเริ่มจำได้ว่า แพรว เพื่อนของเธอ (แสดงโดย นัชชา บุตรศรี) ซึ่งเคยเป็นเพื่อนรักของเธอและวิทย์ ตั้งแต่สมัยมหาวิทยาลัย แต่ความทรงจำของเธอเลือนหายไปอยู่ตลอดเวลา ยิ่งนึกก็ยิ่งพบว่าเหตุการณ์น่าสะพรึงกลัวในอดีตนั้นหลอกหลอนเธอเหมือนหนังเก่า ที่ฉายซ้ำไปซ้ำมาไม่รู้จบ ความทรงจำที่ลึกที่สุดมันเจ็บปวดเกินกว่าที่จะรับได้ มันยังคงสถิตย์ในห้วงลึกของจิตใจเธอ และความสัมพันธ์ที่แท้จริงระหว่าง วิทย์ กับ แพรว ก็คือกุญแจไขปริศนาของมรสุมในอดีตเธอ
เด็กหอ (2549/2006) ชาตรี (ชาลี ไตรรัตน์) อายุ 12 เรียน ม.1 ถูกส่งไปอยู่โรงเรียนประจำอย่างฉุกละหุก สาเหตุเป็นเพราะ ชาตรี รู้ความลับบางอย่างของคุณพ่อ การต้องย้ายโรงเรียนกลางเทอมเป็นเรื่องโหดร้ายมาก ไหนจะห้องเรียนใหม่ ไหนจะเรือนนอนที่ไม่สนิทใจเหมือนอยู่บ้าน ที่แย่ที่สุด คือ ต้องนอนเตียงเก่าของคนอื่น ชาตรี ไม่ค่อยมีเพื่อน มีที่สนิทกันจริงๆ แค่คนเดียว เขาสองคนมักแอบไปนั่งเล่นที่สระน้ำเก่าหลังโรงเรียนเสมอๆ อาจด้วยทั้งความเหงา ความซน หรือความรู้สึกอะไรบางอย่าง จึงตัดสินใจใช้สระว่ายน้ำเก่าหลังโรงเรียนเป็นเครื่องระบายความเหงาและความเศร้าอยู่เป็นประจำ มีเรื่องเล่าว่าหลายปีมาแล้ว ก่อนที่โรงเรียนจะสร้างสระว่ายน้ำใหม่ สระแห่งนี้เคยเป็นที่เล่นน้ำของพวกเด็กๆ ในช่วงสุดสัปดาห์ แต่ปัจจุบันสระกลับถูกปิดตาย มีเรื่องเล่ามากมายเกี่ยวกับสระน้ำนั้น ถ้าคุณเชื่อเรื่องเล่าในโรงเรียนประจำ และสัญญาว่าจะไม่บอกใคร ชาตรีพร้อมจะเล่าความลับบางอย่างให้คุณรู้