My Precious รักแรก โคตรลืมยาก (2566/2023) เรื่องราวความรักของ "ต๋อง" (นนน-กรภัทร์ เกิดพันธุ์) เด็กผู้ชายในวัย 16 หัวโจกของแก๊งสุดห่ามประจําโรงเรียน และแก๊งเพื่อนอย่าง "โด่ง" (โอม-ภวัต จิตต์สว่างดี), "แบงค์" (ชิม่อน-วชิรวิชญ์ เรืองวิวรรธน์), "ไม้" (นีโอ-ตรัย นิ่มทวัฒน์) และ "เปา" (ยูโร-ธนเศรษฐ์ สุริยะพรชัยกุล) ที่มักจะก่อวีรกรรมสุดป่วนสร้างความปวดหัวให้กับเหล่าครูในโรงเรียนอยู่เสมอ แต่แล้ววันหนึ่ง "ต๋อง" และเพื่อน ๆ เกิดนึกสนุกเล่นพิเรนทร์กลางห้องเรียน จนทําให้ "ต๋อง" ถูกทําโทษด้วยการย้ายมานั่งอยู่หน้า "หลิน" (ฟิล์ม-รชานันท์ มหาวรรณ์) นักเรียนดีเด่นประจําโรงเรียนที่ทั้งน่ารักและเรียนเก่ง แถมยังเป็นคนที่เหล่าเพื่อน ๆ ในแก๊งของต๋องแอบชอบอีกด้วย มีเพียง "ต๋อง" ที่ไม่ได้ชอบ "หลิน" เพราะเขารู้สึกว่าตัวเองเป็นคนที่ 'โคตรเจ๋ง' เกินกว่าจะชอบใคร แต่สุดท้ายด้วยความใกล้ชิดเพราะต้องติวหนังสือให้กันก็เกิดเป็นความรู้สึกดี ๆ ที่พวกเขาเรียกมันว่า "รักแรก" และต่อให้เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน "รักแรก" ก็ยังคงเป็นคนที่เราไม่มีวันลืมอยู่ดี
หนังสือรุ่น ภาพยนตร์ (2565/2022) จากซีรีส์แห่งความทรงจำ 8 ตอน ตัดต่อรูปแบบใหม่ในแบบ ภาพยนตร์ เรื่องราวมิตรภาพ ความทรงจำ คำสัญญา ของเพื่อนสนิท 2 คน นัท - ภพ เมื่อคำสัญญาเป็นแค่ลมปาก การพลัดพรากจึงเกิดขึ้น แต่มีสิ่งนึงที่ทำให้เขากลับมาเจอกันอีกครั้ง " หนังสือรุ่น " ภาพยนตร์กระชากน้ำตา ที่อาจทำให้คุณเห็นคุณค่าของชีวิต
บ้านพักหลังป่วนกับก๊วนเด็กเมือง 2 (2565/2022) เมื่อ "น้องเก็บตะวัน" เดินทางมาทำงานในตัวเมืองและได้พบกับ "พี่นับดาว" อีกครั้งในสถานการณ์ที่แตกต่างออกไปจากปีที่แล้ว ความสัมพันธ์ของ "เก็บตะวัน" กับ "นับดาว" จะลงเอยอย่างไร
Cloud Cuckoo Country (2565/2022) เรื่องราวความรักของ 2 สาวอดีตคนรัก ที่มีความคิดเห็นทางด้านการเมืองที่แตกต่างกัน สาวคนแรกเป็นสายอนุรักษนิยม หัวโบราณ (นัตตี้ นันทนัท ฐกัดกุล) ที่กำลังจะแต่งงานกับชายหนุ่ม กับนักข่าวสาวหัวรุนแรง (เฌอเอม ชญาธนุส ศรทัตต์) ซึ่งเป็นการพบเจอกันอีกครั้งหลังจากเลิกรากันไป ท่ามกลางสถานการณ์การเมืองไทยที่ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง
ลูกเสือ Boy Scouts (2565/2022) ปีพุทธศักราช 2543 ที่จังหวัดแห่งหนึ่งในภาคเหนือ "วุธ" และ "ราม" หนุ่มน้อย ม.3 ที่ไม่ค่อยได้คุยกันที่โรงเรียน ได้มาเข้าค่ายลูกเสือด้วยกันเป็นครั้งสุดท้ายในชีวิต การเข้าค่ายครั้งนี้ ทำให้ "วุธ" และ "ราม" ได้ค้นพบตัวตน ในอีกมิติหนึ่ง ซึ่งเขาทั้งสองจะต้องตัดสินใจว่า จะรักษาตัวตนนี้ไว้ หรือปล่อยให้ผ่านเลยไปตามกาลเวลา
เวลา Anatomy of Time
เวลา Anatomy of Time (2565/2022) "แหม่ม" หญิงชราวัย 70 ปี ดูแลสามีของเธอ ในช่วงสุดท้ายในชีวิตของเขา เธอมองย้อนกลับไปยังอดีตอันเปี่ยมไปด้วยความสูญเสีย ความขมขื่น แต่ก็ตราตรึงไปด้วยความสุขเมื่อครั้งเธอยังสาว
บ้านพักหลังป่วนกับก๊วนเด็กเมือง (2564/2021) ว่าด้วยเรื่องราวของ "นับดาว" หนุ่มเหนือฐานะดี และเพื่อนๆ ไปเที่ยวโฮมสเตย์นอกเมืองเชียงใหม่ที่กำลังจะเจ๊งและจะโดนยึดที่ดินทำกิน เขาได้พบกับ "เก็บตะวัน" ลูกชาวบ้านเจ้าของโฮมเสตย์ท่าทางใสซื่อและจริงใจ ทั้งสองรู้สึกถูกชะตากันจนนำมาซึ่งมิตรภาพที่ทั้งสองไม่อาจลืมเลือน
ตุ๊ดซี่ส์ & เดอะ เฟค (2562/2019) ความเฟคเริ่มต้นขึ้นเมื่อ กอล์ฟ ตุ๊ดร่างยักษ์ ดันเป็นต้นเหตุให้ เคที่ (ชมพู่ อารยา) ซุป’ตาร์ตัวแม่ เกิดอุบัติเหตุจนอาการโคม่า นอนสลบเป็นเจ้าหญิงนิทราและไม่มีทีท่าว่าจะฟื้นขึ้นมาถ่ายโฆษณาที่เธอเป็นพรีเซ็นเตอร์อยู่ได้ ทำให้กอล์ฟจะต้องชดใช้ค่าเสียหายถึง 50 ล้านบาท! แต่ในความฉิบหายนั้นยังมีความโชคดีอยู่ เมื่อกอล์ฟได้เจอกับ เจ๊น้ำ (ชมพู่ อารยา) แม่ค้าขายอาหาร ที่ทำศัลยกรรมมาจนเบ้าหน้าเหมือนเคที่แบบเป๊ะเว่อร์ เจ๊น้ำจึงเป็นความหวังหนึ่งเดียวที่จะมาแทนเคที่ในวันถ่ายโฆษณาได้ แต่เจ้ากรรม! เจ๊น้ำดันเป็นแม่ค้าปากจัด ที่มาพร้อมกับกิริยาสุดห่ามกึ่งทราม ต่างจากเคที่แสนอ่อนหวานสุดขั้ว งานนี้แก๊งตุ๊ดซี่ส์จึงต้องมารวมตัวช่วยกอล์ฟปฏิบัติการลวงโลก ปลอมแปลงเจ๊น้ำ ทั้งนิสัย น้ำเสียง กิริยา ท่าทาง ยันปกปิดหูกางของเจ๊อีกด้วย! แถมเรื่องยังทวีความวายป่วงไปอีกค่ะแม่!!! เพราะแก็งตุ๊ดซี่ส์มีเรื่องวุ่น ๆ ของตัวเองที่ต้องเคลียร์ให้จบไปพร้อมกัน!
ดิว ไปด้วยกันนะ (2562/2019) ณ ปางน้อย ปี พ.ศ. 2539 ดิว (ภวัต จิตต์สว่างดี) ซึ่งเป็นเด็กใหม่กำลังเดินทางไปโรงเรียน ได้พบกับภพ (ศดานนท์ ดุรงคเวโรจน์) ที่ขี่จักรยานยนต์มา จึงได้อาสาไปส่งที่โรงเรียน แต่เมื่อฝนตกจึงทำให้รถล้มลงไปในคูข้างทาง มาถึงโรงเรียนจึงต้องเปลี่ยนชุด โดยดิวให้ยืมชุดพละของตน ส่วนดิวใส่ชุดเชียร์ลีดเดอร์ ที่หน้าเสาธง ครูประกาศเรื่องการแพร่ระบาดของโรคเอดส์ จึงได้ให้นักเรียนที่มีพฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยง มาลงทะเบียน ดิวกับภพ เริ่มทำความรู้จักมากขึ้นหลังจากคลาสเต้นลีลาศ ที่ได้จับคู่เต้นกัน เวลาผ่านไปทั้งคู่เริ่มสนิทสนมกันมากขึ้น และชวนกันไปเชียงใหม่เพื่อเรียนพิเศษ โดยทั้งคู่อยู่ร่วมห้องกันที่เชียงใหม่ ที่โรงเรียนสอนพิเศษมีโครงการให้แปลเพลงไทยเป็นภาษาอังกฤษ โดยดิว แปลเพลง "ก่อน" ของวงโมเดิร์นด็อกเพื่อหวังเป็นผู้ชนะเลิศไปกระโดดบันจีจัมพ์ที่นิวซีแลนด์ จนวันหนึ่งภพสอนดิวขี่จักรยานยนต์ แต่ก็ได้ทะเลาะกัน ไล่ภพกลับ แต่ท้ายสุดภพก็กลับมากอดดิว จูบกันในตู้โทรศัพท์ขณะฝนตก ทั้งคู่กลับไปที่ห้องพัก ภาพที่เห็นคือทั้งคู่เปลือยในห้องน้ำ แต่พอออกจากห้องน้ำ เพื่อนร่วมห้องอีกคนก็เข้ามาเห็นพอดี กลับมายังปางน้อย ภพเปลี่ยนไปเพราะกลัวมีใครรู้ ไม่ยอมคุยกับดิว แต่ดิวไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด จึงทะเลาะกันจนดิวต่อยภพ จนเพื่อนเข้ามาห้ามภายหลัง ครูได้ทำการสอบสวนต่อหน้าผู้ปกครองของทั้งคู่ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น จนดิวเปิดเผยสถานะว่าตนเองเป็นเกย์ เรื่องนี้ทำให้รู้กันทั้งโรงเรียน ภพนัดดิวมาเจอเพื่อเอาจะขอบัตรนักเรียนไปรับการบำบัดแทน ทั้งคู่คุยกันว่าจะหนีออกจากปางน้อย แต่พ่อภพรู้ว่าภพไปค่ายบำบัดการเบี่ยงเบน มีปากเสียงจนภพหนีออกจากบ้าน และได้ส่งข้อความไปทางเพจเจอร์ให้หนีไปด้วยกัน ตอน 5 ทุ่มครึ่ง แต่แม่ดิวเข้ามาอ่านข้อความ แม่จึงเริ่มซักไซ้ ไม่อยากให้ดิวไปเพราะแม่อยู่คนเดียว ขณะที่กำลังคุยกันภพโทรเข้าบ้านดิว แต่ท้ายสุด ดิวตัดสินใจไม่ไป จะอยู่กับแม่ ภพบอกที่ภพทำทุกอย่างเพราะดิว จนต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ แต่ภพก็ทิ้งท้ายว่า ที่ทำทุกอย่างเพราะแค่สงสารดิวเท่านั้น ณ ปางน้อยปี พ.ศ. 2562 ภพ (ศุกลวัฒน์ คณารศ) กลับมายังปางน้อยอีกครั้งพร้อมภรรยาที่ชื่อ อร (ญารินดา บุนนาค) ได้กลับมาสอนที่โรงเรียนเก่าของตัวเอง ภพได้รับคำสั่งให้ดูแลนักเรียนหญิงเกเรที่ชื่อ หลิว (ดริสา การพจน์) ที่ซ่องสุมกับเด็ก ม.6 ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นแฟนของหลิว ที่ชื่อ ท็อป (พันธุ์ธัช กันคำ) ซึ่งภพต้องคอยดูแลหลิวที่มักโดดเรียนอยู่เสมอ ก่อนที่ภพจะผ่านการประเมินบรรจุเป็นครู ภพต้องหากิจกรรมให้นักเรียนทำเป็นผลงาน ภพได้ชวนหลิวไปแข่งตอบปัญหาวิทยาศาสตร์ที่เชียงใหม่ ภพพูดคุยกับหลิวเรื่องที่ว่าเคยมาเชียงใหม่ตอนเด็ก แล้วภพก็ถามหลิวว่า เชื่อเรื่องการกลับชาติมาเกิดหรือไม่ ขณะที่ท็อป แฟนของหลิว เริ่มรู้สึกว่าทั้งคู่เริ่มมีความใกล้ชิดกันเกินไป ภพยังได้ช่วยแปลเพลง "ก่อน" ของวงโมเดิร์นด็อก เพื่อไม่ให้หลิวตกซ้ำชั้น ภาพตัดมาที่ภพวัยเด็ก หลังเหตุการณ์หนีออกจากบ้าน ภพกลับมายังปางน้อยอีกครั้ง จึงได้รู้ว่าดิวตายไปแล้ว ถูกรถชนในวันที่ภพหนีออกจากบ้าน ขณะที่หลิวเริ่มนึกได้ถึงเหตุการณ์ ความสัมพันธ์ของดิว ภพ ส่วนท็อปก็รู้สึกไม่พอใจ จึงหาเรื่องครูภพ หลิวเข้ามาอยู่ในเหตุการณ์ จนภพต่อยท็อป เมื่อมีการสืบสวน คณะครูว่าหากใครเริ่มก่อนฝ่ายนั้นจะถูกไล่ออก หลิวเข้าข้างภพ ทำให้ท็อปถูกไล่ออก ภพไปหาหลิวที่ห้องที่แต่งห้องแบบยุคคริสต์ทศวรรษ 1990 ภพพูดกับหลิวราวกับว่า หลิวนั้นคือดิว เพราะภพเชื่อว่าหลิวนั้นคือดิวกลับชาติมาอยู่ในร่างหลิว ท้ายสุดทั้งคู่สวมกอดกัน ในจังหวะเดียวกับที่ท็อปได้เข้ามาและได้ถ่ายทอดสดลงสังคมออนไลน์ เหตุนี้ทำให้รู้กันไปทั่ว รวมถึง อร ภรรยาภพ และได้บอกเลิกภพและเดินทางกลับกรุงเทพ ภพได้เก็บข้าวของจากโรงเรียนเพื่อออกจากโรงเรียน ภาพตัดสลับไปมาเหตุการณ์ในอดีตกับปัจจุบัน หลิวขับจักรยานยนต์จะมาหาภพที่สถานีรถไฟ ส่วนดิวก็ขับมาที่สถานีรถไฟสถานีรถไฟเช่นกัน ทั้งดิวและหลิวประสบอุบัติเหตุ แต่ดิวเสียชีวิต ส่วนภาพปัจจุบัน หลิวกลับมาหาภพได้ ดิวกับภพคุยกันเรื่องว่าหายไปไหน จำเหตุการณ์อะไรได้บ้าง บนรถไฟ หลิวแทนตัวเองว่าดิว และได้เดินทางมายังเชียงใหม่ เพื่อมากระโดดบันจีจัมพ์ด้วยกัน ตามที่ทั้งดิวและภพอยากเมื่อตอนเด็ก ตอนจบของเรื่องเป็นภาพภพกับหลิวกระโดดลงมาโดยที่ไม่ได้ผูกเชือกไว้
อีปึก อัศจรรย์วันแห่งศรัทธา

อีปึก อัศจรรย์วันแห่งศรัทธา (2560/2017) จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง ของนักร้องลูกทุ่งสาวชื่อดัง "สาวมาด เมกะแด๊นซ์" ตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นของวัยเรียน จุดเปลี่ยนของชีวิตในก้าวแรกที่เดินบนเส้นทางสายดนตรี จวบจนนาทีที่ป่วยหนักจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด ด้วยอาการครรภ์เป็นพิษอย่างรุนแรง ทำให้ความดันโลหิตสูงจนเลือดออกไปทับก้านสมอง ได้สามีสุดที่รัก กรุง สุขสันต์ มานอนเฝ้าดูอาการโดยไม่เคยทิ้งไปไหน และยอมทำทุกวิถีทางเพื่อให้ภรรยากลับมามีชีวิตที่แข็งแรงอีกครั้ง และเชื่อว่าเป็นการเกิดปาฏิหาริย์จากพญานาคที่มาช่วยให้ปาฏิหาริย์เกิดขึ้น

ทองดีฟันขาว (2560)

ทองดี ฟันขาว (2560/2017) เรื่องราวความกล้าหาญและความจงรักภักดีในช่วงชีวิตสำคัญของ “นายทองดี ฟันขาว” นักสู้หัวใจแกร่งที่มากความสามารถและฝีไม้ลายมวย โชคชะตานำพาให้เขาได้เป็นทหารเอกคู่ใจแห่งพระเจ้าตากสินมหาราช และพลีชีพต่อสู้ปกป้องบ้านเมืองจนกลายเป็นวีรบุรุษของชาวไทยที่รู้จักกันในนาม “พระยาพิชัยดาบหัก” ทองดี นักสู้หัวใจแกร่ง ผู้มีความมุ่งมั่นไม่ย่อท้อรักษาคำมั่นสัญญา กล้าหาญจงรักภักดี มีความสามารถและฝีไม้ลายมือทางหมัดมวยและดาบอย่างหาตัวจับยาก เขาไม่ชอบกินหมาก จึงเป็นที่มาของฉายา ทองดีฟันขาว ชีวิตของเขาต้องระหกระเหินจากครอบครัวตั้งแต่ครั้งเยาว์วัย และต้องออกเดินทางหาเงินเลี้ยงตัวจากการชกมวย และร่ำเรียนวิชามวยเพิ่มเติมจากบรรดาครูมวยตามเมืองต่างๆ จนสุดท้ายโชคชะตาและวีรกรรมอันเลื่องชื่อของเขาก็นำพาให้เขาได้เป็นทหารเอกคู่ใจแห่ง พระเจ้าตากสินมหาราช และพลีชีพต่อสู้ปกป้องบ้านเมืองจนกลายเป็นวีรบุรุษของชาวไทย ที่รู้จักกันในนาม พระยาพิชัยดาบหัก

มาดพยัคฆ์ (2558/2015) สารคดีร้อยเรียงเรื่องราวผ่านบทสัมภาษณ์ของ สามารถ พยัคฆ์อรุณ และผู้คนรอบข้างที่มี่ส่วนเกี่ยวข้อง เริ่มตั้งแต่วัยเด็กที่เริ่มต้นชกมวย ผสมด้วยการถ่ายทำจำลองการชกมวยไทยจนเป็นแชมป์ รวมไปถึงคลิปการชกตั้งแต่ชกมวยสากล จนได้ตำแหน่งแชมป์โลกจนถึงเสียเข็มขัด และคลิปการชกมวยไทยเมื่อคราวกลับมาต่อยมวยไทยอีกครั้ง จนได้ตำแหน่งนักมวยไทยยอดเยี่ยมประจำปี พ.ศ. 2531 โดยภาพยนตร์แบ่งการเล่าเรื่องออกเป็น 5 ยก ได้แก่ ยกที่ 1 กำเนิดพยัคฆ์, ยกที่ 2 ทางพยัคฆ์ผ่าน, ยกที่ 3 พยัคฆ์คำราม, ยกที่ 4 พยัคฆ์ลำบาก และยกที่ 5 ชาติพยัคฆ์ต้องไว้ลาย
ขรัวโต อมตะเถระกรุงรัตนโกสินทร์ (2558/2015) ภาพยนตร์ถ่ายทอดเรื่องราว ชีวประวัติของ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังษี วัดระฆังโฆสิตาราม ตั้งแต่เกิดจนบวชเรียน จนค้นพบสุดยอดแห่งพระคาถาชินบัญชรที่มีคุณวิเศษ โดยแบ่งช่วงชีวิตของขรัวโต ทั้งหมด 4 ช่วง ช่วงแรกว่าด้วยชีวิตวัยเด็ก ของเด็กชายโต (ชัยธวัฒน์ เนื่องจำนงค์) ซึ่ง ขรัวโต วัยเด็กก็เป็นเหมือนเด็กเล็กทั่วไปที่รักสนุก แต่ท่านเป็นเด็กที่มีจิตใจโอบอ้อมอารีต่อผู้อื่น มีเมตตา ที่โดดเด่นเป็นพิเศษคือ ท่านฉายแววในการเป็นคนที่มีหัวใจใฝ่เรียนรู้ ท่านร่ำร้องจะเรียนหนังสือ จนมารดาต้องพาไปฝากเรียนกับหลวงตาแก้ว ที่เป็นเหมือนครูคนแรกของท่าน ช่วงที่ 2 อยู่ในช่วงที่ ขรัวโต บวชเณร ท่านก็ตัดสินใจมุ่งที่จะบวชเป็นสามเณรอย่างจริงจัง แม้ว่ามารดาจะยังรักเป็นห่วง อยากให้อยู่ใกล้ ๆ แต่ท่านก็ยืนยันชัดเจนว่าต้องการจะบวชเรียน จนโยมแม่ต้องยอมตามใจ ซึ่งหลังจากที่ท่านพบความจริงว่า ท่านไม่ใช่ลูกของพ่อที่เลี้ยงดูท่านมา ท่านก็ขอลาบวชเรียนและไม่สึกอีกเลย ช่วงที่ 3 สามเณร ท่านบวชต่อเป็น พระโต (ปรัชญา ประทุมเดช) เป็นช่วงที่ท่านออกธุดงค์กับอาจารย์อีกคนคือ ขรัวตาแสง ได้ร่ำเรียนวิชาต่าง ๆ รวมถึงออกเดินทางไปตามสถานที่ต่าง ๆ ได้พบเห็นชีวิตทางโลกมากขึ้น และช่วงปัจฉิมวัยของ ขรัวโต (เศรษฐา ศิระฉายา) ในชีวิตจริง ขรัวโต ท่านไม่ได้เป็นพระที่เคร่งเครียด ท่านเป็นพระที่อารมณ์ดี จิตใจดี มองโลกในแง่ดี มีอารมณ์ขัน ท่านนำธรรมะมาสอนประชาชนด้วยถ้อยคำที่ฟังง่าย ๆ แต่คมคาย แฝงปรัชญาธรรมะ และอารมณ์ขัน
คีตราชนิพนธ์ บทเพลงในดวงใจราษฎร์ (2558/2015) ไม่เฉพาะเพียงความสมบูรณ์พูนสุขทางกายเท่านั้นที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงใส่พระทัยพสกนิกร โดยริเริ่มโครงการต่าง ๆ มากมายเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีและยั่งยืนของพี่น้องชาวไทย หากในแง่การเติมเต็มพลังใจ พระองค์ท่านยังพระราชทานขวัญ กำลังใจ แด่ประชาชนผ่านบทเพลงพระราชนิพนธ์อันแฝงไปด้วยปรัชญาการดำเนินชีวิตมากมายหลายต่อหลายเพลง และ 4 บทเพลงพระราชนิพนธ์ใน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้รังสรรค์แรงบันดาลใจให้ 4 ผู้กำกับชั้นแนวหน้าของเมืองไทย ถ่ายทอดเรื่องราวสู่ 4 ภาพยนตร์ "The Singers" เพลงพระราชนิพนธ์ที่เป็นแรงบันดาลใจ "ชะตาชีวิต" เรื่องราวของ หญิงชราสองคน จากสองครอบครัวที่มีความแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงทั้งในด้านฐานะและสถานภาพในสังคม แต่ทั้งคู่มีความเหมือนกันในแง่ของสภาพจิตใจเมื่อทั้งสองได้โคจรมาพบกันและรับรู้เรื่องราวของกันและกันการผจญภัยของสองย่ายายจึงเริ่มต้นขึ้น ย่าเป้า อยู่ในครอบครัวที่เป็นเจ้าของกิจการมีลูกหลานมากมายแต่ล้วนแล้วแต่แก่งแย่งชิงดีกันบ้างก็เสแสร้งเอาใจเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองจน ย่าเป้า รู้สึกเบื่อและเหนื่อยหน่ายกับลูกหลานเหล่านี้ ด้าน ยายเงิน มีชีวิตที่ลำบากอยู่ในชุมชนเล็กๆ กลางเมืองใหญ่ที่วุ่นวายอยู่กับหลานสาววัยหกขวบที่สุขภาพไม่ใคร่ดีนักเพียงลำพัง จนวันหนึ่ง ยายเงิน โดนจับเพราะขายแผ่นหนังและเพลงเก่า ๆ โดยไม่มีใบอนุญาต ต้องประกันตัวและเสียค่าปรับในอัตราสูงเธอและหลานจะมีชีวิตอยู่ต่อไปอย่างไร แต่เมื่อฟ้าส่งให้ทั้ง ย่าเป้า กับ ยายเงิน มาพบเจอกันความเห็นอกเห็นใจก็เริ่มต้นขึ้นและเมื่อถึงจุดวิกฤตจุดหนึ่งของชีวิตเธอก็ได้ตัดสินใจที่จะใช้เสียงเพลงของเธอทั้งสองเพื่อที่จะฝ่าฟันกับอุปสรรคนั้นไปให้ได้ "อมยิ้ม" เพลงพระราชนิพนธ์ที่เป็นแรงบันดาลใจ "ยิ้มสู้" เรื่องราวของ เด็กชายคนหนึ่ง ที่กลายเป็นตัวประหลาดในสายตาคนในโรงเรียน เพราะไม่เคยมีใครเห็นเขาโกรธร้องไห้ หัวเราะ หรือแม้แต่ยิ้ม เขาคือคำถามของทุกคน คือของเล่นแสนสนุกน่าแกล้ง แต่ไม่มีใครอยากอยู่ใกล้หรือคิดทำความรู้จักเขาจริง ๆ และทุกคนก็ต้องประหลาดใจเมื่อได้ข่าวว่าคนที่หน้าตายนิ่งเฉยไม่เคยขยับอย่างเขากำลังจะเล่นละคร แถมเล่นกับนักเรียนหญิงสุดสวยแสนป๊อบของโรงเรียนที่เขาแอบชอบ แต่เธอก็มีแฟนเป็นนักกีฬาสุดเท่เนตไอดอล ความเป็นไปไม่ได้ที่สุดกำลังจะเกิดในโรงเรียน เขาจะเล่นละครได้ไหมนักเรียนหญิงสุดสวยกำลังจะเจอกับอะไร ความจริงที่ถูกเปิดเผยอาจเปลี่ยนความรู้สึกใครบางคนไปตลอดกาล "ฝนตกที่ห้วยขาแข้ง" เพลงพระราชนิพนธ์ที่เป็นแรงบันดาลใจ "สายฝน" เรื่องจริงของ สืบ นาคะเสถียร หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์ป่าห้วยขาแข้ง นักสู้ผู้อุทิศชีวิตเพื่อผืนป่าเมืองไทย ในช่วงสี่ปีสุดท้ายที่เขามุ่งมั่นและต่อสู้เพื่อยุติการตัดไม้ทำลายป่าและล่าสัตว์ป่าอย่างไม่เกรงกลัวต่อกฏหมาย สืบ ยืนหยัดต่อกรกับอิทธิพลมืด นักการเมือง และเจ้าหน้าที่รัฐที่ทุจริตด้วยมือเปล่าและหัวใจที่จะไม่ยอมให้ผืนป่าของเมืองไทยต้องหมดสิ้นไปเพราะความโลภและเห็นแก่ตัว "ดาว" เพลงพระราชนิพนธ์ที่เป็นแรงบันดาลใจ "ความฝันอันสูงสุด" ใคร ๆ ก็รู้ว่า การได้เป็นคนเชิญธงชาติของโรงเรียนเป็นความฝันอันสูงสุดของนักเรียนทุกคน ดังนั้น ทันทีที่ครูประกาศหาคนเชิญธงคนใหม่แทนพี่ ป.6 ที่กำลังจะจบไป การแข่งขันของหนุ่มน้อยสองคนจึงเกิดขึ้นสำหรับ โก้ (อภิธาร รุ่งเจริญรอด) การได้เชิญธงชาติจะทำให้เขาได้ใกล้ชิดกับสาวที่เขาตั้งเป้าว่าต้องจีบเป็นแฟนให้ได้ก่อนสอบปลายปี แต่สำหรับ หนึ่ง (กฤตเมธ เมืองดี) การได้เป็นคนเชิญธงชาติมีความสำคัญมากกว่าที่ใครจะคาดถึง การแข่งขันที่มีจำนวนดาวเป็นตัวตัดสิน จะทำให้ความฝันอันสูงสุดของหนึ่งเป็นจริงได้หรือไม่!?
ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค ๖ อวสานหงสา

ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค ๖ อวสานหงสา (2558/2015) ในปี พ.ศ. 2135 หลังพ่ายศึกยุทธหัตถี ฝ่ายหงสาวดีพระเจ้านันทบุเรง ทรงโทมนัสที่ต้องสูญเสียพระราชโอรส จึงมีรับสั่งให้คลอกไฟเหล่าแม่ทัพนายกอง ที่ตามเสด็จพระมหาอุปราช ให้ตายตกตามกัน ทั้งยังระบายพระโทสะไปที่ พระสุพรรณกัลยา องค์ประกัน และพระราชโอรสธิดาถึงสิ้นประชนม์ชีพ ข้าง สมเด็จพระนเรศวร นั้น มีพระราชประสงค์จะนำทัพปราบหงสาวดี ให้ราบคาบ มิให้ตกค้างเป็นเสี้ยนหนาม ครั้นมาได้ทราบข่าวการสิ้นพระชนม์ ของพระพี่นาง และพระราชนัดดาก็ยิ่งโทมนัส จึงตัดสินพระทัยยกทัพใหญ่ หมายเหยียบหงสาวดีให้ราบเป็นหน้ากลอง ในระหว่างที่เดินทางมาถึงเมืองเมาะตะมะได้จับตัว พระยาลอ ผู้สำเร็จราชการแทน ที่พระเจ้านันทบุเรง ส่งให้มาปกครองเมือง ถูก เม้ยมะนิก ราชธิดาของ ศิริสุธรรมราชา เจ้าเมืองเมาะตะมะลอบสังหาร เพื่อแก้แค้นแทนบิดา พร้อมรวบรวมชาวรามัญเพื่ออาสาขอเข้าร่วมรบพม่ากับชาวอโยยา แต่ครั้นเมื่อทัพของพระองค์เสด็จถึงหงสาวดีก็พบแต่เพียงเศษซากของมหานครอันเคยยิ่งใหญ่ ด้วยนัดจินหน่อง ราชบุตรพระเจ้าตองอูได้วางอุบาย เชิญพระเจ้านันทบุเรงพร้อมกวาดต้อนผู้คนแลทรัพย์ศฤงคารของหงสาไปไว้ยังตองอูจนหมดสิ้น ครั้งนั้น สมเด็จพระนเรศวร จึงทรงยกทัพตามขึ้นไปถึงเมืองตองอู มีพระราชบัญชาให้ เมงเยสีหตู เจ้าเมืองส่งตัว พระเจ้านันทบุเรงออกมาถวาย ด้านนัดจินหน่องเห็นว่าพระเจ้านันทบุเรง ที่เชิญมานั้น เป็นภัยชักศึกเข้าบ้าน จึงหมายยืมมือ สมเด็จพระนเรศวร สังหาร พระเจ้านันทบุเรง เสีย แต่เมื่อ สมเด็จพระนเรศวร ได้ทอดพระเนตรเห็น พระเจ้านันทบุเรง ที่ทรงทุพพลภาพเป็นที่น่าสมเพช ก็ให้สลดพระราชหฤทัย ระหว่างนั้น เมงราชาญี เจ้าเมืองยะไข่ได้แต่งทัพเป็นกองโจร ตีลัดตัดเสบียงอยุธยามิให้ส่งข้าวน้ำขึ้นไปเลี้ยงทัพที่ล้อมพระนครตองอูอยู่ สมเด็จพระเอกาทศรถ จึงแบ่งทัพลงมาหมายจะเผด็จศึกยะไข่มิให้เป็นหอกข้างเเคร่ แต่ทรงพลาดท่าถูกเมงราชาญีจับตัวได้ พระราชมนู จำต้องขันอาสานำกำลังลงมา แก้เอา สมเด็จพระเอกาทศรถ กลับคืน และยกทัพกลับยังอยุธยา ข้างฝ่ายพุกามประเทศนั้นได้บังเกิดกษัตริย์ชาตินักรบขึ้นมา แทนพระเจ้าชนะสิบทิศ มีพระนามว่า พระเจ้ายองยาน ตามชื่อพระนครที่ปกครอง พระเจ้ายองยาน ทรงขยายแสนยานุภาพครอบคลุมดินแดนพม่าตอนบน เข้ายึดครองหัวเมืองในรัฐไทยใหญ่ทั้งหลาย และทรงกรีฑาทัพเข้าตีเมืองยองห้วยและเมืองแสนหวีซึ่งขณะนั้นล้วนเป็นเมืองประเทศราชของอยุธยา เมื่อ สมเด็จพระนเรศวร ทรงล่วงรู้ก็ทรงมีพระราชดำริที่จะตัดไฟเสียแต่ต้นลม ไม่ให้อธิราชศัตรูพลิกฟื้นขึ้นมา เป็นเสี้ยนหนามแผ่นดินอยุธยาได้อีก สมเด็จพระนเรศวร จึงได้เสด็จยกกองทัพไปตีอังวะ ครั้งนั้น พระมหาเถรคันฉ่อง และ พระอัครมเหสีมณีจันทร์ ซึ่งกำลังทรงพระครรภ์ก็ทูลขอให้งด ซึ่งราชการสงคราม สมเด็จพระนเรศวร จึงทรงให้สัญญาว่า จะเสด็จไปทำศึกครานี้เป็นครั้งสุดท้าย เมื่อเสด็จถึงเมืองเชียงใหม่ก็ยั้งทัพจัดกระบวนอยู่หนึ่งเดือน แล้วให้ทัพ สมเด็จพระเอกาทศรถ ยกขึ้นไปทางเมืองฝาง ส่วนกองทัพหลวงยกไปทางเมืองหาง ตั้งค่ายหลวงประทับอยู่ที่ทุ่งแก้ว อยู่มา สมเด็จพระนเรศวร ทรงพระประชวรจึงโปรดให้ข้าหลวงรีบเชิญเสด็จ พระเอกาทศรถ มาเฝ้า ครั้นมาถึงได้ 3 วัน สมเด็จพระนเรศวร ก็เสด็จสวรรคตเมื่อวันจันทร์ขึ้น 8 ค่ำ เดือน 6 ปีมะเส็ง ตรงกับวันที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2148 สมเด็จพระเอกาทศรถ จึงได้อัญเชิญพระบรมศพ สมเด็จพระนเรศวร กลับกรุงศรีอยุธยาราชธานี

เพชฌฆาต The Last Executioner (2557/2014) เชาวเรศน์ จารุบุณย์ (วิทยา ปานศรีงาม) เป็นมือประหารคนสุดท้ายของประเทศไทย ที่ปลิดชีวิตนักโทษด้วยวิธีการยิงเป้าจากนักดนตรีหนุ่มผู้หลงใหลในเพลงร็อคแอนด์โรล และเล่นดนตรีให้กับเหล่าทหารไอจีในช่วงสงครามเวียดนาม เขาต้องเลือกทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ผู้คุมในเรือนจำเพื่อความมั่นคงของครอบครัวที่เขารักเขาใช้ชีวิตทั้งชีวิตยอมรับกรรมดีกรรมชั่วที่เกิดจากหน้าที่ของเขา ในการทำหน้าที่เป็นเพชฌฆาตผู้ปลิดชีพนักโทษมาแล้วถึง 55 คน ตลอดกว่า 19 ปี ในเรือนจำกลางบางขวางหรือที่รู้จักกันดีในนาม คุกเสือใหญ่ หรือ The Bangkok Hilton

หน้าที่