นักรบมนตรา : ตำนานแปดดวงจันทร์ (2566/2023) “นักรบมนตรา : ตำนานแปดดวงจันทร์” เปิดม่านภารกิจมหาสงครามระดับจักรวาล ท่องเอาไว้ขึ้นใจ ‘หน้าที่เหนือชีวิต’ ! มหาศึกสงครามระหว่างกองทัพแห่งองค์ราม และ จักรพรรดิทศกัณฐ์ ที่ต่อสู้กันมาอย่างยาวนานไม่รู้จักจบสิ้นในจักรวาลอีกห้วงมิติหนึ่ง ซึ่งในระหว่างที่สู้รบนั้น องค์รามได้เกิดพลาดท่าถูกทศกัณฐ์ลักพาตัวพระแม่สีดาขึ้นยานหนีไป เพราะตามตำนานได้กล่าวไว้ว่าในทุกๆ 500 ปี พลังแห่งเทพที่สามารถสร้างหรือทำลายทุกสรรพสิ่งในพริบตา จะตื่นขึ้นในร่างสตรีนางหนึ่ง ซึ่งทศกัณฐ์เชื่อว่าพลังอันยิ่งใหญ่ที่หลับใหลนี้อยู่ในตัวพระแม่สีดา ทำให้องค์รามต้องส่ง “วายุ” “เวฬา” และ “บุษบา” นักรบทั้งสามเพื่อออกติดตามนำตัวพระแม่สีดากลับคืนมา แต่ก็ถูกขัดขวางด้วยพละกำลังอันมหาศาลจากราชาพาลี แม่ทัพผู้แข็งแกร่งที่ไม่เคยพ่ายแพ้ในศึกสงคราม และหนทางเดียวที่จะชิงตัวพระแม่สีดากลับคืนมาและเอาชนะศึกสงครามระดับจักรวาลในครั้งนี้ได้ คือต้องรอคอยนักรบในตำนานที่ถูกเรียกขานว่า นักรบมนตรา ที่จะถือกำเนิดในห้วงเวลาที่เกิดปรากฏการณ์ดวงจันทร์ทั้งแปดแห่งดาววานาราเรียงตัวกันเท่านั้น (ที่มา : sfcinemacity.com)
Man Suang แมนสรวง (2566/2023) “เขม” และ “ว่าน” สองหนุ่มจากเมืองแปดริ้วรับภารกิจเข้าไปสืบสาวเงื่อนงำใน “แมนสรวง” สถานเริงรมย์อันโอ่อ่าและลึกลับที่สุดในพระนคร หลังม่านของสุขสถานที่ผู้คนนานาชาติมาชุมนุมกันแห่งนี้เป็นที่วางแผนและตกลงทางการเมืองในปลายสมัยรัชกาลที่ 3 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ สองเกลอได้เข้าร่วมคณะละครและพบกับ “ฉัตร” มือตะโพนของวงดนตรี ความสัมพันธ์ของทั้งสามพัฒนาไปพร้อมกับความลับมืดดำของแมนสรวงรวมถึงปมในใจของทั้งสามเองค่อยๆ เผยออกมา (Source: sfcinemacity.com)
ขุนแหย 2565

เรื่องย่อ: ขุนแหย (2565/2022) ได้เวลาฮาลั่นอโยธยา กับภาพยนตร์คอมเมดี้ “ขุนแหย THE LOST HERO OF AYODHYA” ผลงานจาก MONO ORIGINALS ที่ได้ ‘เปลว ศิริสุวรรณ’ มานั่งแท่นกำกับและดึงเอาดาวตลกทั่วฟ้าเมืองไทย มาร่วมกันถ่ายทอด เรื่องราวสุดฮาเต็มคาราเบลของ “แหย” (กรภพ จันทร์เจริญ) หมอยาสมุนไพรใจพระแถมยังใจซื่อมือสะอาด ถูก “หลวงถลอก” (สมชาย ศักดิกุล) ขุนนางตัวร้าย ลวงให้ไปตัวหัว “เนเมียว” (จตุรงค์ พลบูรณ์) แม่ทัพชาวพม่าแล้วทำการพอกน้ำผึ้งไว้ไม่ให้หัวเน่า เพื่อจะได้ไปรับรางวัลที่อยุธยาได้ทันการ แต่เรื่องไม่ได้ง่ายอย่างนั้น เพราะถึงแม้แหยจะเอาชีวิตรอดจากสนามรบแถมยังมีหัวของแม่ทัพเนเมียวเป็นของแถม แต่ก็ต้องผจญกับจอมขมังเวทย์อสรพิษ (สายเชีย วงศ์วิโรจน์) ที่พยายามจะชิงหัวแม่ทัพ รวมถึงต้องเอาชีวิตรอดจาก “ลินดา” (ภัทรวดี เหลาสา) สาวนักฆ่าที่ถูกจ้างอีกด้วย งานนี้ต้องมาช่วยกันลุ้นว่า แหย จะสามารถเอาชีวิตรอด และจะได้กลับบ้านไปนอนกอด “สายสร้อย” (บุตรี กัลย์จารึก) เมียรักด้วยร่างกายที่ครบ 32 หรือไม่?  (ที่มา : monomax.me)

เวลา Anatomy of Time
เวลา Anatomy of Time (2565/2022) "แหม่ม" หญิงชราวัย 70 ปี ดูแลสามีของเธอ ในช่วงสุดท้ายในชีวิตของเขา เธอมองย้อนกลับไปยังอดีตอันเปี่ยมไปด้วยความสูญเสีย ความขมขื่น แต่ก็ตราตรึงไปด้วยความสุขเมื่อครั้งเธอยังสาว
พญาโศกพิโยคค่ำ The Edge of Daybreak (2564/2021) ปี พ.ศ. 2549 ท่ามกลางความตึงเครียดทางการเมือง ปาล นักการเมือง ได้อยู่กับครอบครัวภายในบ้านอันเป็นที่รักของเขาเป็นคืนสุดท้ายก่อนต้องหลบหนีเพราะเกิดรัฐประหาร ยามดึกคืนนั้นขณะที่ปาลกำลังหลบหนี เขาได้พบกับกลุ่มผู้ลักลอบเข้าเมืองบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะที่ พลอย ภรรยาของปาลที่ถูกขังในโรงพยาบาลก็ฝันเห็นพ่อคือ ปราสาท ย้อนกลับไปเมื่อปี 2518 ตอนพลอยอายุ 9 ขวบ เธออยู่ในอาการโคม่า หลังพ่อหายตัวไปสามปี ส่วนแม่คือ ไพลิน ก็เพิ่งได้รับการปล่อยตัวจากโรงพยาบาลจิตเวช มาอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ประจำตระกูล สุริยุปราคาได้สะกดทุกคนให้ต้องมนต์ ไพลินและแพทย์หนุ่มร่วมกันระลึกถึงความหลังและเติมเต็มความปรารถนาที่เก็บซ่อนไว้มานาน ในวันนั้นแพทย์หนุ่มหายตัวไป พร้อมการกลับมาอย่างไม่คาดฝันของปราสาท
ขุนบันลือ (2561/2018) ในปี พ.ศ. 2447 ที่สยามมีการพัฒนาเปลี่ยนแปลงประเทศในหลายๆ ด้าน จนส่งผลต่อวิถีชีวิตของประชาชนมากมาย ขุนบันลือ ขุนนางในกระทรวงมหาดไทยผู้สนับสนุนแนวคิดการเลิกทาสมาโดยตลอด ได้รับมอบหมายหน้าที่ให้ไปทําธุระที่เมืองเชียงราย เพราะเคยไปราชการที่นั่นมาก่อน แต่ขุนบันลือกลับกังวลกับภารกิจนี้ เพราะตนเองเคยมีเรื่องราวแต่หนหลังในเชียงราย เรื่องราวชุลมุนในเรือนขุนบันลือจึงเริ่มขึ้น เรื่องราวเกิดขึ้นในสมัย รศ.๑๒๓ (พ.ศ. ๒๔๔๗) เมื่อ "ขุนบันลือ" (เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา) ได้รับมอบหมายให้ไปราชการที่เมืองเชียงราย แต่ขุนบันลือเองกลับกังวลใจ เพราะถูก "มด" (เอ็นดู วงษ์คำเหลา) ทาสหญิงที่ขุนบันลือแอบมีความสัมพันธ์ด้วยจับได้ว่าท่านขุนเคยมีสัมพันธ์กับใครบางคนที่เมืองเชียงรายมาก่อน เรื่องยุ่งมากขึ้นเมื่อเพื่อนรักของท่านขุน พาลูกสาวลูกชายมาฝากให้ช่วยดูแลระหว่างที่ไปราชการต่างประเทศ แต่ทั้งคู่กลับมีเรื่องชอบพอกับบรรดาทาสในเรือนท่านขุนซะอีก เรื่องราวความรักระหว่างชนชั้นจึงเริ่มขึ้นอีกครั้ง ตั้งแต่รุ่นพ่อแม่ยันรุ่นลูก แลเวท่านขุนจะหาทางออกอย่างไร
ครุฑ มหายุทธ หิมพานต์ (2561/2018) ในอดีตอันไกลโพ้นนานเกินกว่าจินตนาการจะเดินทางไปถึง ในสมัยที่โลกยังมิได้เป็นเช่นที่เห็นทุกวันนี้ และมนุษย์ก็ยังมิได้เป็นผู้ครอบครองพิภพทั้งหมด หากเป็นเพียงเผ่าพันธุ์เล็ก ๆ ที่เพิ่งเกิดใหม่ในหมู่สิ่งมีชีวิต อาทิ คชสีห์, นรสิงห์, ครุฑ, นาค, รากษส, กินนรี, กินนร ที่ผลัดเปลี่ยนกันทำสงครามเพื่อแย่งชิงและยึดครองอาณาจักรของกันและกัน สมัยนั้นศูนย์กลางของโลกคือเขาพระสุเมรุแวดล้อมด้วยมหานทีสีทันดรอันกว้างใหญ่ไพศาล กินอาณาเขตไปจนเกือบจะถึงสุดขอบโลก ไกลโพ้นออกไปจากนั้นคือ ป่าหิมพานต์อันเป็นที่อยู่ของบรรดาสิงสาราสัตว์แสนพิสดารทั้งหลาย "รากษส" เผ่าพันธุ์เร่ร่อนมีนิสัย ดุร้ายป่าเถื่อน ที่รวบรวมไพร่พลบุกตะลุยตีอาณาจักรเล็กอาณาจักรน้อยจนพ่ายแพ้ราบคาบ จนมาถึงชายแดนเมืองอโยธยา ที่ปกครองโดยเหล่าครุฑ จนในที่สุดทัพหน้าของพวกรากษสก็ยาตรามาถึงและทำการถล่มประตูเมืองอโยธยาอย่างหนัก "พญาวัชระครุฑ" ทหารเอกแห่งอโยธยา และเหล่าทหารครุฑเห็นทีว่าจะป้องกันเมืองไม่อยู่ จึงตีฝ่าวงล้อมบินข้ามมหานทีสีทันดร ไปรวบรวมความช่วยเหลือจากสัตว์น้อยใหญ่ในป่าหิมพานต์ รวมถึง "กินนร" ผู้เคยเป็นปรปักษ์กันมาก่อน มหาสงครามระหว่างเผ่าพันธุ์เริ่มขึ้นแล้ว กองกำลังผสมของเหล่าสัตว์หิมพานต์ จะไปช่วยพวกครุฑชิงเมืองอโยธยากลับคืนมาจากพวกรากษสได้หรือไม่
๙ ศาสตรา (2561/2018) 9 ศาสตรา เป็นเรื่องราวการผจญภัยของเด็กหนุ่มคนหนึ่ง ที่ชะตาลิขิตให้มากอบกู้อาณาจักรรามเทพนคร แผ่นดินปิตุภูมิของเขาให้รอดพ้นอำนาจทมิฬของยักษา ผู้ก่อความทุกข์เข็ญให้ประชาราษฎร์ เป็นการเดินทางที่ต้องอาศัยทั้งโชคชะตาและวิชายุทธอย่างมีคุณธรรม อ๊อด ชายหนุ่มแห่งโพ้นทะเล คือ ผู้ที่ถูกลิขิตมาให้รับภารกิจอันยิ่งใหญ่ในการกอบกู้อาณาจักร พร้อมกับพลพรรคเพื่อนพ้อง ที่มีทั้งอาวุธและยุทธวิธีตามวิถีตะวันออก ไม่ว่าจะเป็น “เสี่ยวหลาน”โจรสลัดอากาศชาวจีน เธอเป็นสาวงามนักแม่นปืนจากกองเรือเหาะทะยานเมฆ พร้อมด้วยลิงทโมน นามว่า วาตะ รวมถึง อสูรสีชาด ยักษ์สีแดงร่างใหญ่ใจดี ส่วนอ๊อดนั้นได้ร่ำเรียนศิลปะการต่อสู้มวยไทย ที่เคยหายสาบสูญจากครูมวยอันดับหนึ่งของแผ่นดิน และได้ฝึกฝนเคี่ยวกรำอย่างหนักมาโดยตลอด เพื่อเตรียมต่อสู้กับหมู่มวลอธรรม
อีปึก อัศจรรย์วันแห่งศรัทธา

อีปึก อัศจรรย์วันแห่งศรัทธา (2560/2017) จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง ของนักร้องลูกทุ่งสาวชื่อดัง "สาวมาด เมกะแด๊นซ์" ตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นของวัยเรียน จุดเปลี่ยนของชีวิตในก้าวแรกที่เดินบนเส้นทางสายดนตรี จวบจนนาทีที่ป่วยหนักจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด ด้วยอาการครรภ์เป็นพิษอย่างรุนแรง ทำให้ความดันโลหิตสูงจนเลือดออกไปทับก้านสมอง ได้สามีสุดที่รัก กรุง สุขสันต์ มานอนเฝ้าดูอาการโดยไม่เคยทิ้งไปไหน และยอมทำทุกวิถีทางเพื่อให้ภรรยากลับมามีชีวิตที่แข็งแรงอีกครั้ง และเชื่อว่าเป็นการเกิดปาฏิหาริย์จากพญานาคที่มาช่วยให้ปาฏิหาริย์เกิดขึ้น

ทองดีฟันขาว (2560)

ทองดี ฟันขาว (2560/2017) เรื่องราวความกล้าหาญและความจงรักภักดีในช่วงชีวิตสำคัญของ “นายทองดี ฟันขาว” นักสู้หัวใจแกร่งที่มากความสามารถและฝีไม้ลายมวย โชคชะตานำพาให้เขาได้เป็นทหารเอกคู่ใจแห่งพระเจ้าตากสินมหาราช และพลีชีพต่อสู้ปกป้องบ้านเมืองจนกลายเป็นวีรบุรุษของชาวไทยที่รู้จักกันในนาม “พระยาพิชัยดาบหัก” ทองดี นักสู้หัวใจแกร่ง ผู้มีความมุ่งมั่นไม่ย่อท้อรักษาคำมั่นสัญญา กล้าหาญจงรักภักดี มีความสามารถและฝีไม้ลายมือทางหมัดมวยและดาบอย่างหาตัวจับยาก เขาไม่ชอบกินหมาก จึงเป็นที่มาของฉายา ทองดีฟันขาว ชีวิตของเขาต้องระหกระเหินจากครอบครัวตั้งแต่ครั้งเยาว์วัย และต้องออกเดินทางหาเงินเลี้ยงตัวจากการชกมวย และร่ำเรียนวิชามวยเพิ่มเติมจากบรรดาครูมวยตามเมืองต่างๆ จนสุดท้ายโชคชะตาและวีรกรรมอันเลื่องชื่อของเขาก็นำพาให้เขาได้เป็นทหารเอกคู่ใจแห่ง พระเจ้าตากสินมหาราช และพลีชีพต่อสู้ปกป้องบ้านเมืองจนกลายเป็นวีรบุรุษของชาวไทย ที่รู้จักกันในนาม พระยาพิชัยดาบหัก

ขุนพันธ์ (2559/2016) ในขณะที่สงครามโลกครั้งที่ 2 กำลังก่อตัวขึ้น ญี่ปุ่นเริ่มแผ่ขยายอำนาจรุกรานทั่วเอเชีย รวมทั้งประเทศไทยที่กำลังเกิดการปฏิวัติวัฒนธรรมครั้งใหญ่เพื่อเตรียมก้าวเข้าสู่โลกอารยะ ความเจริญเริ่มรุกล้ำ แต่กลับกลายเป็นว่าผู้คนกลับขัดสนยากจน ถูกกดหัวอยู่ภายใต้อาณัติของเหล่าชุมโจรเสือร้ายที่ก่อร่างสร้างอิทธิพลไปทั่วทุกหัวระแหงโดยหาได้หวั่นเกรงต่อกฎหมายแต่อย่างใด แต่ถึงกระนั้นก็ใช่ว่าผืนปฐพีจะไร้ซึ่งผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ที่สัตย์ซื่อ ภักดีในความถูกต้อง และยึดมั่นในความยุติธรรม จังหวัดชุมพร ปี พ.ศ. 2481 ภายหลังจากเด็ดชีพ “เสือกลับ คำทอง” และพวกพ้องที่อุกอาจปิดเมืองทั้งเมืองและจับ “สารวัตรดำเกิง” ผู้บังคับบัญชาเป็นตัวประกัน “นายบุตร์” หรือ “ร้อยตำรวจโท ขุนพันธรักษ์ราชเดช” (อนันดา เอเวอริงแฮม) นายร้อยตำรวจหนุ่มฝึกหัดก็ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าด้วยกระสุนเพียงนัดเดียวก็สามารถกำราบเสือร้ายเลื่องชื่อได้เป็นผลสำเร็จ นั่นเป็นเพราะความสามารถเฉพาะตัวและวิชาที่บ่มเพาะติดตัวมา ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกทำในสิ่งที่ยังไม่เคยมีนายตำรวจมือปราบรายใดในประวัติศาสตร์เคยทำมาก่อน นั่นคือเสนอตัวเข้ารับผิดชอบในภารกิจลับที่เสี่ยงที่สุด อันตรายที่สุด ซึ่งอาจใช้เวลานับเดือนหรือแรมปีโดยต้องทิ้งชีวิตที่เหลืออยู่เป็นเดิมพัน นั่นคือการเสาะหาและออกไล่ล่าเพื่อปิดตำนานของ “อัลฮาวียะลู” (กฤษดา สุโกศล แคลปป์) มหาโจรผู้โหดเหี้ยม ดุดัน แกร่งกล้า ฆ่าไม่ตาย หนำซ้ำยังคงกระพันหนังเหนียว ครองอิทธิพลแผ่ขยายครอบคลุมไปทั่วภาคใต้ ซึ่งเป็นที่เลื่องลือกันว่าแกร่งกล้าเพราะมีวิชาและของดีอยู่ในตัว ขุนพันธ์ในคราบของนายบุตร์จึงแอบแฝงตัวเข้าไปสืบข่าวโดยได้รับความช่วยเหลือจาก “ไข่โถ” (สนธยา ชิตมณี) และ “มาลัย” (กานต์พิสชา เกตุมณี) 2 พี่น้องครอบครัวชาวประมงที่ทำงานในสโมสรงาช้างของ “หลวงโอฬาร” (ภคชนก์ โวอ่อนศรี) ข้าราชการใหญ่ผู้ทรงอำนาจและอิทธิพลจนทุกคนต้องเคารพและยำเกรง ซึ่งทำให้ต้องเผชิญกับ “เสือสัง” (ชูพงษ์ ช่างปรุง) และ “บุหงา” (พิมลรัตน์ พิศลยบุตร) 2 มือสังหารข้างกายของมหาโจรที่ว่ากันว่าคือนักฆ่าเลือดเย็นและไร้ความปรานีอย่างที่สุด พร้อมด้วยเหล่าทัพเสือโจรร้ายนับไม่ถ้วน ณ ดินแดนแห่งนี้นี่เองที่ทำให้ขุนพันธ์ได้รู้ความจริงว่า เมืองทั้งเมืองคือชุมโจรขนาดใหญ่ ชาวบ้านตกเป็นเครื่องมือโดยมีนักการเมือง ข้าราชการท้องถิ่นรู้เห็นกับมหาโจร คอยชักโยงและอยู่เบื้องหลังเพื่อกอบโกยผลประโยชน์โกงกินและขายชาติ กระทั่งความจริงปรากฏ พวกโจรรู้ว่าขุนพันธ์แฝงตัวเข้ามา การไล่ล่าและเผชิญหน้าระหว่างสุดยอดมือปราบและมหาโจรฆ่าไม่ตายจึงอุบัติขึ้นท่ามกลางห่ากระสุน คาวเลือด และการต่อสู้ อาคมต่ออาคม ตาต่อตา ฟันต่อฟัน ขุนพันธ์ต้องเลือกระหว่างหนีเพื่อเอาชีวิตตัวเองให้รอด หรือกลับไปช่วยเหลือและเปลี่ยนใจชาวบ้านให้ลุกขึ้นมาสู้กับโจร สร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นกับเมืองนี้ และเพื่อพิสูจน์ให้รู้ว่าแรงกระสุนหรือจะสู้แรงศรัทธา…
คุณทองแดง The Inspirations (2558/2015) ด้วยแรงบันดาลใจอันยิ่งใหญ่ จากพระราชนิพนธ์ "เรื่องทองแดง" เรื่องราวของสุนัขทรงเลี้ยงยอดกตัญญูใน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สู่ปรากฏการณ์ภาพยนตร์แอนิเมชั่นฝีมือคนไทย ประกอบได้ด้วยแอนิเมชั่นทั้ง 3 เรื่อง "ทองหล่อ" เรื่องราวของ เจ้าทองหล่อ ลูกสุนัขขนปุกปุย ขี้เล่น ช่างสงสัยตามประสาหมาเด็ก ซุกซน แต่แอบมีความฝันอยากจะเก่งแบบ คุณทองแดง เพื่อจะได้เป็นองครักษ์หรือบอดี้การ์ดคอยปกป้องเจ้านายน้อย ๆ เด็กหญิงตาบอดในไร่พลับกับ คุณยาย เรื่องราวเหนือจินตนาการของสุนัขตัวน้อยที่เต็มไปด้วยความจงรักภักดี โดยได้รับแรงบันดาลใจจากคุณทองแดงที่จงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว "หมาวัด" จร (พากย์เสียงโดย จิรายุ ตั้งศรีสุข) สุนัขไทยแบบบ้าน ๆ ขนสั้น ตาโต หูตั้ง ว่ากันว่าสุนัขไทยเป็นตัวแทนของความซื่อสัตย์ สำนึกในบุญคุณยึดมั่นในความกตัญญูชนิดที่ว่าเอ่อล้นอยู่เต็มหัวใจ จร ก็คือหมาวัดดี ๆ นี่เองที่อาศัยข้าวแดงแกงร้อน และความรักความเมตตาจากหลวงพ่อที่ชุบเลี้ยง คอยช่วยเหลือดูแลยามป่วยไข้ เฉกเช่นเดียวกับหมาวัดต่างพันธุ์ที่อาศัยวัดที่เปรียบได้กับบ้านเกิดเรือนนอนที่ตนหวงแหน และพร้อมที่จะลุกขึ้นมาปกป้องเมื่อยามที่มีใครไม่ดีคิดมาบุกรุกทำร้ายและทำลาย แน่นอนว่าแรงบันดาลใจอันยิ่งใหญ่ในตัวคุณทองแดงที่เต็มไปด้วยความซื่อสัตย์สำนึกในความกตัญญูรู้คุณต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไม่ต่างอะไรกับที่ จร มีต่อหลวงพ่อนั่นเอง "คอบเปอร์เพื่อนรัก" คอปเปอร์ เจ้าสุนัขหุ่นยนต์ จากเศษเหล็ก เศษน็อต เศษสปริง โลหะไร้ค่า ที่ไม่มีใครสนใจ แต่กลับถูกชุบชีวิต ประกอบร่างกลายเป็น สุนัขหุ่นยนต์สุดเอ๋อ บ้าพลังเกินร้อย สนุกสนานอารมณ์ดีเกินเหตุ และเป็นเพื่อนสี่ขาของ น้องสนิม (พากย์เสียงโดย ชนัญญา เลิศวัฒนามงคล) เด็กผู้หญิงหุ่นกระป๋องตัวจ้อยผู้ชุบหัวใจใส่ความรักให้กับ เจ้าคอปเปอร์ จากแรงบันดาลใจที่สมเด็จย่าทรงให้แง่คิดแก่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวครั้นทรงพระเยาว์ ให้รู้ว่าหากอยากได้ของสิ่งใดก็ตามจงหัดเรียนรู้ที่จะสร้างหรือทำขึ้นมาด้วยตนเอง และการที่พระองค์ท่านทรงไม่เคยมองข้ามสิ่งเล็ก ๆ ท่านสอนให้พสกนิกรชาวไทยรู้ว่าข้าวของทุกชิ้นล้วนมีคุณค่า ในตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นสิ่งใดชิ้นเล็กหรือชิ้นใหญ่
มาดพยัคฆ์ (2558/2015) สารคดีร้อยเรียงเรื่องราวผ่านบทสัมภาษณ์ของ สามารถ พยัคฆ์อรุณ และผู้คนรอบข้างที่มี่ส่วนเกี่ยวข้อง เริ่มตั้งแต่วัยเด็กที่เริ่มต้นชกมวย ผสมด้วยการถ่ายทำจำลองการชกมวยไทยจนเป็นแชมป์ รวมไปถึงคลิปการชกตั้งแต่ชกมวยสากล จนได้ตำแหน่งแชมป์โลกจนถึงเสียเข็มขัด และคลิปการชกมวยไทยเมื่อคราวกลับมาต่อยมวยไทยอีกครั้ง จนได้ตำแหน่งนักมวยไทยยอดเยี่ยมประจำปี พ.ศ. 2531 โดยภาพยนตร์แบ่งการเล่าเรื่องออกเป็น 5 ยก ได้แก่ ยกที่ 1 กำเนิดพยัคฆ์, ยกที่ 2 ทางพยัคฆ์ผ่าน, ยกที่ 3 พยัคฆ์คำราม, ยกที่ 4 พยัคฆ์ลำบาก และยกที่ 5 ชาติพยัคฆ์ต้องไว้ลาย
ฟ.ฮีแลร์ (2558/2015) เรื่องราวของ พงศธร (ภรัณยู โรจนวุฒิธรรม) ครูในโรงเรียนประถมศึกษาแห่งหนึ่ง ซึ่งต้องการจะมีเงินเดือนที่มากขึ้น ทางเดียวที่เขาจะทำได้คือการลงเรียนต่อปริญญาโท เพื่อนำวุฒิการศึกษามาปรับขึ้นเงินเดือน พงศธร ซึ่งเป็นครูสอนภาษาไทยจึงลงเรียนปริญญาโทสาขาวรรณกรรมและเลือกทำวิทยานิพนธ์เรื่อง ฟ.ฮีแลร์ เป็นงานจบของเขา ฟ.ฮีแลร์ (เจสัน ยัง) คือนักบวชชาวฝรั่งเศส ผู้ที่เดินทางมายังประเทศไทยเมื่อ 100 กว่าปีก่อน เพื่อมาเป็นครูและเป็นครูฝรั่งที่นั่งเรียนภาษาไทยกับนักเรียนจนพูดภาษาไทยได้ และไม่ใช่เพียงพูดได้เท่านั้น ฟ.ฮีแลร์ ยังเก่งถึงขนาดเขียนตำราให้คนไทยเรียน ยิ่ง พงศธร ค้นคว้าเรื่องราวของ ฟ.ฮีแลร์ ใหม่ลึกลงไปเท่าไหร่ ก็ยิ่งเหมือนเป็นการตบหน้าตัวเอง เพราะเขาค้นพบว่า ฟ.ฮีแลร์ ก็เป็นครูเช่นเดียวกับเขา แต่ความเป็นครูเขาเทียบอะไรไม่ได้กับ ฟ.ฮีแลร์ เลย ขณะที่เขาสอนเพื่อแลกเงิน แต่ ฟ.ฮีแลร์ กลับสอนเพื่อต้องการให้ความรู้ เขาได้ค้นพบความจริงที่ว่า ตำราดรุณศึกษาที่เขาใช้สอนนักเรียนทุกวันนี้ ประพันธ์โดย ฟ.ฮีแลร์ นักบวชชาวฝรั่งเศสผู้ซึ่งอุทิศตัวเพื่อการศึกษาของไทยแม้ว่าจะไม่ใช่คนไทยก็ตาม พงศธร เริ่มค้นพบปรัชญาชีวิตบางอย่างจากการค้นคว้าชีวิตของ ฟ.ฮีแลร์ แต่ พงศธร ยังคงไม่เข้าใจว่าเพราะเหตุใด ฟ.ฮีแลร์ จึงได้เลือกอยู่ในประเทศเล็ก ๆ อย่างประเทศไทยจนวันสุดท้ายของชีวิต และเมื่อ พงศธร ได้รู้เหตุผลนั้น มันจะเปลี่ยนแปลงชีวิตของเขาตลอดไป...
ขรัวโต อมตะเถระกรุงรัตนโกสินทร์ (2558/2015) ภาพยนตร์ถ่ายทอดเรื่องราว ชีวประวัติของ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังษี วัดระฆังโฆสิตาราม ตั้งแต่เกิดจนบวชเรียน จนค้นพบสุดยอดแห่งพระคาถาชินบัญชรที่มีคุณวิเศษ โดยแบ่งช่วงชีวิตของขรัวโต ทั้งหมด 4 ช่วง ช่วงแรกว่าด้วยชีวิตวัยเด็ก ของเด็กชายโต (ชัยธวัฒน์ เนื่องจำนงค์) ซึ่ง ขรัวโต วัยเด็กก็เป็นเหมือนเด็กเล็กทั่วไปที่รักสนุก แต่ท่านเป็นเด็กที่มีจิตใจโอบอ้อมอารีต่อผู้อื่น มีเมตตา ที่โดดเด่นเป็นพิเศษคือ ท่านฉายแววในการเป็นคนที่มีหัวใจใฝ่เรียนรู้ ท่านร่ำร้องจะเรียนหนังสือ จนมารดาต้องพาไปฝากเรียนกับหลวงตาแก้ว ที่เป็นเหมือนครูคนแรกของท่าน ช่วงที่ 2 อยู่ในช่วงที่ ขรัวโต บวชเณร ท่านก็ตัดสินใจมุ่งที่จะบวชเป็นสามเณรอย่างจริงจัง แม้ว่ามารดาจะยังรักเป็นห่วง อยากให้อยู่ใกล้ ๆ แต่ท่านก็ยืนยันชัดเจนว่าต้องการจะบวชเรียน จนโยมแม่ต้องยอมตามใจ ซึ่งหลังจากที่ท่านพบความจริงว่า ท่านไม่ใช่ลูกของพ่อที่เลี้ยงดูท่านมา ท่านก็ขอลาบวชเรียนและไม่สึกอีกเลย ช่วงที่ 3 สามเณร ท่านบวชต่อเป็น พระโต (ปรัชญา ประทุมเดช) เป็นช่วงที่ท่านออกธุดงค์กับอาจารย์อีกคนคือ ขรัวตาแสง ได้ร่ำเรียนวิชาต่าง ๆ รวมถึงออกเดินทางไปตามสถานที่ต่าง ๆ ได้พบเห็นชีวิตทางโลกมากขึ้น และช่วงปัจฉิมวัยของ ขรัวโต (เศรษฐา ศิระฉายา) ในชีวิตจริง ขรัวโต ท่านไม่ได้เป็นพระที่เคร่งเครียด ท่านเป็นพระที่อารมณ์ดี จิตใจดี มองโลกในแง่ดี มีอารมณ์ขัน ท่านนำธรรมะมาสอนประชาชนด้วยถ้อยคำที่ฟังง่าย ๆ แต่คมคาย แฝงปรัชญาธรรมะ และอารมณ์ขัน

หน้าที่