เงา กรรมใครกรรมมัน (2553/2010) เรื่องของกรรมที่เกิดจากการกระทำและเวรกรรม ที่เกิดขึ้น "คุณเคยมีใครเรียกหาไหม" เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับผลกรรมของการชิงสุกก่อนห่าม ของนักศึกษาในระดับมหาลัย บางทีสิ่งที่เราคิดว่าเป็นแค่เรื่องระหว่างคนสองคน แต่บางทีอาจไม่เป็นเช่นนั้นก็ได้ "คุณเคยมีเพื่อนแท้สักคนไหม" เป็นเรื่องของวัยรุ่นที่ขาดการยั้งคิด ในวัยคึกคะนอง บางทีเพื่อนของคุณบางคน อาจต้องการมากกว่าคำว่า เพื่อนร่วมทาง "คุณเคยสัมผัสกับมันไหม" ความเชื่อโบราณเกี่ยวกับคนตาย แต่มีใครบางคนเห็นว่าเป็นเรื่องไร้สาระ นั่นอาจนำมาซึ่งความน่าสะพรึงกลัวอย่างที่คุณคาดไม่ถึง
ดวงอันตราย POP STAR (2553/2010) หลังกลับมาจากเรียนต่อที่เมืองนอก ดูเหมือนว่าดวงชีวิตของ เจย์ (มณฑล จิรา) นักร้องชื่อดังกำลังจะกลับมารุ่งอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการได้ออกอัลบั้มใหม่ กับค่ายเพลงต่างชาติชื่อดัง จากการผลักดันของพ่อซึ่งเป็นผู้จัดการสวนตัว แต่มีสิ่งหนึ่งค้างคาใจเจย์ตลอดมา นั่นคือการที่อดีตคนรักของเขาอย่างนุ้ยกลายเป็นเมียใหม่ของพ่อ เพราะนั่นทำให้เขาคิดว่าเป็นสาเหตุสำคัญให้แม่ฆ่าตัวตาย จึงทำให้เขาไม่พอใจพ่อ และ นุ้ย (บงกช คงมาลัย) รวมไปถึงชีวิตที่ทุกอยางล้วนถูกกำหนดโดยพ่อ ด้วยเหตุผลที่ว่าการเป็นซุปเปอร์สตาร์จะให้ใครรู้ว่ามีแฟนไม่ได้ แต่หารู้ไม่ว่า เหตุผลสำคัญที่ทำให้นุ้ยยอมเป็นเมียใหม่ของพ่อเจย์ ก็เพื่อที่จะได้ใกล้ชิดกับเจย์ เพราะแท้จริงแล้วชีวิตที่เป็นอยู่ ณ ตอนนี้ หาได้ทำให้นุ้ยมีความสุขแต่อย่างใด เพราะพ่อของเจย์ยังคงเจ้าชู้อยู่เหมือนเดิม จนกระทั่ง แม่นุ้ย ซึ่งเป็นคนที่เชื่อในเรื่องหมอดูและการทำนายทายทักได้พา นุ้ย ไปหาหมอดู และทักว่าดวงไม่ดีให้ระวังสัตว์สี่เท้า เพศตรงข้ามจะนำโชคร้ายมาให้ ต้องถือศีล 5 และต้องทำตามหมอดู ทุกอย่างชีวิตจะดีขึ้น รวมทั้งให้เลิกกับพ่อของ เจย์ และการที่นุ้ยเลิกกับ พ่อเจย์ นุ้ยจะได้ค่าเลิกและค่าเลี้ยงดูลูกเป็นเงินจำนวนมหาศาล แต่นุ้ยก็ไมอยากเพราะเป็นห่วง น้องแพร์ ขณะที่ เจย์ เองเริ่มมีอาการประสาทหลอน เป็นผลจากฤทธิ์ยาที่พ่อเป็นคนสั่งให้กินตลอดเวลา ทำให้ยิ่งรู้สึกตนเหมือนเป็นหุ่นยนต์ที่ต้องทำตามความต้องการของพ่อ ทำให้เค้ายิ่งรู้สึกคิดถึงแม่ และยิ่งทำเจ็บปวดและเคียดแค้นที่ต้องอยู่ใกล้ ๆ นุ้ย เพราะความจริงแล้ว นุ้ย คือผู้หญิงที่ เจย์ เคยรักมาก แต่พ่อของเค้าทำให้ต้องเลิกกัน วันหนึ่ง เจย์ เกิดประสาทหลอน บังเอิญกับที่พ่อตกบันไดลงมาทำให้คิดว่าตัวเองเป็นคนฆ่าพ่อ จึงพยายามอำพรางศพไว้ในห้องโดยไม่ให้ใครรู้ และระแวงว่าทุกคนจะสงสัยการหายไปของพ่อโดยเฉพาะ นุ้ย แต่หารู้ไม่ว่าความจริงทุกอยางที่เกิดขึ้นล้วนอยู่ในสายตาของนุ้ยมาโดยตลอด ไม่วาเรื่องใด ๆ ก็ตามที่เกิดขึ้นกับชีวิตเธอและ เจย์ เพียงทว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นนั้น เกิดจากการกระทำที่ถูกกำหนดโดยใครบางคน หรือเป็นเพราะดวงกันแน่
องค์บาก 3 (2553)

องค์บาก 3 (2553/2010) หลังจากพ่ายแพ้แก่ ภูติสางกา (ชูพงษ์ ช่างปรุง) สูญเสียทั้ง 2 บิดา ออกญาสีหเดโช (สันติสุข พรหมศิริ) และ เชอนัง (สรพงษ์ ชาตรี) รวมทั้งบรรดาพี่น้องแห่งชุมโจรผาปีกครุฑ ทุกศาสตร์ยุทธ์ที่ถูกบ่มเพาะฝึกฝนมาทั้งชีวิตของเทียน (ทัชชกร ยีรัมย์) ล้วนถูกทำลายย่อยยับจนหมดสิ้น ต้องโทษฑัณฑ์ถูกทรมานพิการเจียนตาย เหลือเพียงแค่ลมหายใจอันรวยริน ฤาชีวิตทั้งมวลล้วนจบสิ้นลง ดั่งคำทำนาย เมื่อครั้งถือกำเนิด ยามใดจับต้องศาสตรา ชีวิตจักมืดมนต้องโทษทุกข์แสนสาหัส ท่ามกลางบ่วงกรรมที่ยังคงดำเนินเกี่ยวพันสืบเนื่องต่อไป บัดนี้ร่างที่ไร้ชีวิตของบุรุษนักสู้ผู้เป็นตำนานได้รับความช่วยเหลือถูกลำเลียงขนย้ายส่งต่อไปยังหมู่บ้านอโรคยา ที่ในอดีต เทียน และ พิม (พริมรตา เดชอุดม) เคยใช้ชีวิตเติบโตเรียนรู้เรื่องสมุนไพรใบยาบ่มเพาะสมาธิ ซึมซับวิชาโขนนาฏศิลป์ โดยมีเหล่าผู้คนในหมู่บ้านทั้งหมดไม่เว้นแม้แต่เด็กเล็กผู้เฒ่าผู้แก่ หรือกระทั่งคนบ้าที่ไร้สติแต่ไม่เคยมีพิษภัยกับใครอย่าง ไอ้เหม็น (เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา) ก็ต่างมาร่วมกันหลอมจิต ศรัทธารวมเป็นหนึ่งช่วยกันหล่อพระพุทธรูปอันศักดิ์สิทธิ์ขึ้นเพื่อส่งจิตระลึกให้เทียนฟื้นคืนสติกลับมามีชีวิตอีกครั้ง ขณะที่พิมเองได้นำเอาท่วงท่าการร่ายรำดัดตัวตามรูปแบบของนาฏศิลป์โขนโบราณ มาช่วยในการรักษาบำบัดร่างกายที่เสื่อมสลายโดยมี ครูบัว (นิรุตติ์ ศิริจรรยา) ที่ปัจจุบันกลายเป็นพระบัวเปิดทางให้เทียนได้เริ่มต้นเข้าสู่สมาธิเพื่อฝึกควบคุมร่างกาย กล่อมเกลาสภาวะจิตให้นิ่ง เรียนรู้และต่อสู้กับด้านมืดในใจ เพื่อบรรลุถึงจิตวิญญาณอันบริสุทธิ์ที่หลับใหล หลอมหลวมเข้ากับ พลังศรัทธาอันแรงกล้า จากธาตุธรรมชาติทั้ง 4 ดิน น้ำ ลม ไฟ ผสมผสาน จนก่อเกิดการค้นพบ นาฏยุทธ์ ศาสตร์และศิลปะการต่อสู้อันทรงอานุภาพอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ในขณะที่แผนการณ์ต่าง ๆ ของ พระยาราชเสนา (ศรัณยู วงษ์กระจ่าง) ล้วนแต่บรรลุตามความประสงค์แทบทั้งสิ้น โดยมีเป้าหมายหลักคือ การก้าวขึ้นสู่ความเป็น จอมราชันย์ที่พร้อมสยบทุกสิ่ง และแน่นอนว่าเมื่อรวมเหล่านักฆ่ามากฝีมือ และบรรดาไพร่พลที่มีอยู่รายล้อมรอบตัวอันมากมายมหาศาลด้วยแล้ว ภายใต้ผืนนภา และเหนือพื้นพสุธาอันกว้างใหญ่ไพศาลย่อมไร้ซึ่งผู้กล้ารายใดที่คิดจะต่อกร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อได้ ภูติสางกา ฑูตสังหารที่มาพร้อมกับ ภูติยุทธ์ ศาสตร์การต่อสู้ที่ไร้รูปแบบและร่องรอย อยู่เคียงข้างและรวมเป็นหนึ่งเดียวด้วยแล้ว ดูเหมือนว่าทุกสรรพสิ่งล้วนสยบนิ่งอยู่แทบเท้าเลยทีเดียว และทันทีที่พระยาราชเสนารู้ว่าบัดนี้เทียนได้รับการชุบชีวิตจากชาวหมู่บ้านคณะโขนด้วยแล้ว คำสั่งเลือดและการระดมเหล่าทหารและขุมกำลังทั้งหมดถูกส่งไปเพื่อทำลายร้างและเข่นฆ่าผู้คนในหมู่บ้านที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเกิดขึ้นอย่างทันท่วงที โดยที่ตัวพิมเองถูกทหารจับตัวกลับไปยังพระราชวังเพื่อสำเร็จโทษอาญาคชฑัณฑ์ (ใส่ตะกร้อให้ช้างเตะ) ต่อหน้าหมู่ทาสและกลุ่มประชาชนทั้งหมด ทำให้เทียนที่บัดนี้กำลังเรียนรู้และก้าวเข้าสู่วิถีสมาธิอันสงบนิ่ง ต้องยอมละตัวเองออกจากดวงจิตอันบริสุทธ์เพื่อเผชิญกับวิบากกรรมและขวากหนามที่เป็นอุปสรรคซึ่งถูกลิขิตไว้อย่างไม่จบสิ้น จากเหล่าอริราชแลศัตรูอันชั่วร้ายที่ยังคงหมายที่จะคร่าเอาชีวิตเทียน ไม่ว่าจะเป็น ภูติสางกา หรือ พระยาราชเสนา เอง ในขณะเดียวกันดูเหมือนว่า ความแค้นและพลังจากด้านมืดในจิตของเทียนเอง ก็พร้อมที่จะถาโถมเข้าครอบงำ ทำลายและทำร้ายเทียนตลอดเวลา ทางเดียวที่จะเอาชนะกรรมที่เริ่มก่อตัวขึ้น นั่นคือต้องเผชิญหน้าและเรียนรู้ที่จะควบคุมและเอาชนะจิตใจตนเองให้ได้ เตรียมพบกับการเผชิญหน้าและศึกการต่อสู้ครั้งสุดท้ายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต กับอภิมหาภาพยนตร์แอ็คชั่นที่คนทั้งโลกรอคอยกับบทสรุปของ องค์บาก 3 จุดกำเนิดขององค์บาก ตำนานการต่อสู้แห่งจิตวิญญาณ หลอมรวมพลังศรัทธาอันมุ่งมั่นที่ไม่เคยดับสูญของบุรุษผู้เกิดมาเพื่อเป็นตำนาน

เกาะสวรรค์ หาดนรก (Island of Dark Desire) (2553/2010) จอย แอน เอ็มมี่ เดินทางไปเที่ยวเกาะที่แสนสงบแห่งหนึ่ง ด้วยความสวยงามของ ธรรมชาติ ทำให้พวกเธอสัญญากันว่าจะกลับมาที่นี่อีก จนในที่สุด พวกเธอก็ได้กลับมาที่นี่ อีกครั้งตามสัญญา แต่ครั้งนี้ พวกเธอไม่ได้มากันแค่ 3 คนเหมือนเดิม เมื่อเอ็มมี่ ได้พา วิน แฟนหนุ่มมาด้วย การท่องเที่ยวของทั้งหมดเริ่มต้นขึ้น แต่ก็เกิดปัญหาหลายครั้งระหว่าง ทาง นับว่าโชคดีที่มีวินคอยช่วยเหลือ ทำให้คลาดแคล้วจากปัญหาไปได้ และเมื่อมาถึง เกาะ เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นกับพวกเขาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้กลับสร้างความสยดสยอง น่ากลัว จนทำให้พวกเขาหวาดผวา และไม่รู้เลยว่าจะได้มีโอกาสออกจากเกาะแห่งนี้ได้ หรือไม่
สวย ซามูไร (2552/2009) กุนจา (โสภิตา ศรีบาลชื่น) ตำรวจสายลับสาวฝีมือฉกาจในหน่วยปฏิบัติการพิเศษซีไอเอถูกองค์กรของตัวเองสั่งจับตายเพื่อปกปิดความลับสำคัญบางอย่าง หลังเสร็จสิ้นการปฏิบัติภารกิจลับครั้งใหญ่ที่ชายแดนของประเทศไทย แต่โชคยังดี เธอเอาชีวิตรอดมาได้ และเก็บตัวเงียบเพื่อรอคอย...วันล้างแค้น สองปีต่อมา ข้อมูลลับของซีไอเอในทำเนียบขาวเกี่ยวกับการก่อวินาศกรรมวางระเบิดกรุงเทพฯ เพื่อป้ายสีขบวนการโจรก่อการร้ายในไทย เกิดรั่วไหลไปเข้าหู วายิบ (ศรัณยู วงษ์กระจ่าง) หัวหน้าโจรก่อการร้าย ทำให้เขาจำเป็นต้องลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อปกป้องขบวนการของเขาให้พ้นจากการถูกใส่ร้ายครั้งนี้ ในขณะเดียวกัน ซีไอเอก็มอบหมายให้ แคลร์ (แจ็คเกอลิน อภิธนานนท์) มือสังหารหญิง-หัวหน้าหน่วยสายลับคู่ปรับเก่าของกุนจา พร้อมด้วย หน่วยพยัคฆ์ดำ ภายใต้การนำของทหารสายลับหญิง ศิรินทร์ (เกศริน เอกธวัชกุล) และซามูไรนักฆ่า มาซารุ (ธนภณ ทองเจือ) เข้ามาจัดการเรื่องนี้โดยเร็วที่สุด เพื่อภาพลักษณ์ฮีโร่จอมปลอมที่โลก...ต้องยอมสยบ เมื่อฝ่ายหนึ่งต้องการโยนความผิดเพื่อปกปิดความลับ ฝ่ายหนึ่งต้องการเปิดโปงโฉมหน้าอันชั่วร้าย และอีกฝ่ายหนึ่งเผยตัวขึ้นอีกครั้งเพื่อกลับมาชำระแค้นส่วนตัว นั่นนำมาซึ่งสถานการณ์อันเลวร้ายในคืนที่มหานครศิวิไลซ์อย่างกรุงเทพฯ กำลังโดนก่อวินาศกรรมขั้นร้ายแรง พร้อมด้วยการไล่ล่าสังหารอันสุดแสนดุเดือดของ กุนจา, แคลร์ และศิรินทร์ สามสาวสายลับฝีมือระดับพระกาฬที่ต้องเดิมพันภารกิจนี้ด้วยชีวิตของ...พวกเธอ...ระเบิดเวลาทำลายล้างครั้งใหญ่กำลังถูกเปิดสวิตช์นับถอยหลัง
เฉือน ฆาตกรรมรำลึก (2552/2009) เกิดคดีฆาตกรรมต่อเนื่องสุดสยอง เมื่อเหยื่อทุกรายถูกฆ่าหั่นศพ และนำชิ้นส่วนแยกไปทิ้งคนละแห่งศพแล้วศพเล่า ตำรวจมืดแปดด้านไม่อาจหาตัวฆาตกรได้ ไท (อารักษ์ อมรศุภศิริ) นักโทษชั้นหนึ่ง อดีตมือปืนรับจ้างกลับใจ เขาพยายามที่จะบอกเรื่องราวความสงสัยที่เขารู้ว่าใครคือฆาตกรรายนี้ กับ ชิน (ฉัตรชัย เปล่งพานิช) นายตำรวจใหญ่ที่ใช้เขาทำงานลับ แต่ชินไม่ใส่ใจ ทว่าเมื่อเหตุสยองเกิดขึ้นอีกคราวกับลูกชายรัฐมนตรี ตำรวจต้องพยายามทำทุกวิถีทางในการจับฆาตกรมาลงโทษให้ได้ และไทก็ถูกนำตัวมาจากเรือนจำ การต่อรองเกิดขึ้น ไทขอให้ปล่อยตัวเขาโดยไม่มีข้อแม้ และขออิสระในการทำงานทุกอย่างภายใน 15 วัน เขาจะต้องนำตัวฆาตกรมาลงโทษให้ได้ โดยจับตัวภรรยาของเขาไว้เป็นตัวประกัน ถ้าเขาไม่กลับมาพร้อมฆาตกร ให้ฆ่าภรรยาเขาทันที ไทแกะรอยความทรงจำของเขาในอดีต และแล้วความจริงจากอดีตก็เริ่มฉายภาพชัดเจนขึ้น ฆาตกรมืออาชีพและฆาตกรต่อเนื่อง ถูกกำหนดให้เผชิญหน้ากันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
บุปผาราตรี 3.2 (2552)
เรื่องย่อ : บุปผาราตรี 3.2 (2552/2009) หลังการกลับชาติมาเกิดของ บุปผา (เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์) ในร่างของเด็กหญิงปลา (วีนัส ศักดิ์ศิริ) เด็กน้อยผู้น่าสงสารและโชคร้ายที่ถูกฆ่าตายอย่างทารุณในห้อง 609 ของ ออสการ์อพาร์ตเม้นต์ ฉบับเรโนเวท ที่มาพร้อม บ่อนเถื่อน ซึ่งบริหารงานนับเงินโดยเจ้าของบ่อนอย่าง เจ๊สาม (ฉันทนา กิตติยาพันธ์) และดำเนินการโกงเนียน ๆ โดย เซียนต้อม (อาคม ปรีดากุล) เซียนพนันที่มี ลูกกรอกตัวพ่อ (อุดม ทรงแสง) คอยช่วยเหลือทุกครั้งที่ลงสนามไฮโล ฉับพลันชั่ววูบความตาย ผีปลา ก็ออกอาการร้อนวิชาเฮี้ยนโหด จัดการบรรเลงเพลงเชือดสยองชุดใหญ่ไล่ตั้งแต่ห้อง 609 ยันบ่อนชั้น 3 ที่เหล่าเซียนพนันนานาชาติสิงสถิตย์อยู่ อีกด้านหนึ่ง หลังจากที่ หรั่ง (มาริโอ้ เมาเร่อ) นักวาดการ์ตูนผีได้ย้ายมาอยู่ที่ออสการ์อพาร์ตเม้นต์แห่งนี้เพียงไม่กี่วัน เขาก็มีโอกาสได้พบกับบุปผา-หญิงสาวที่เขาแอบหลงรักมาตั้งแต่วัยเด็ก โดยไม่รู้ว่าเธอกลายเป็นผีบุปผาไปแล้ว หาใช่พี่บุปผาคนเดิมไม่ เขาตัดสินใจว่าเป็นไงเป็นกัน เขาจะต้องบอกรักพี่บุปผาให้ได้ แต่แล้ว บุพเพสันนิวาส ที่หรั่งเคยคิดเมื่อแรกเจอกัน มันกลับกลายเป็น บุปผาอาละวาด จนกระทั่ง... หรั่งสิ้นสติไป ร้อนถึงเจ๊สามที่ต้องจ้างหมอคง หรือด๊อกเตอร์คง (สมชาย ศักดิกุล), หมอผีเขมร และฤาษีตาไฟ มาร่วมด้วยช่วยปราบผีบุปผาเฮี้ยนรักโดยด่วน! และในขณะที่ การสืบคดีเด็กหญิงปลาถูกฆ่า ของนักสืบเทพ กำลังถูกแก้ปมใหญ่ ไขปริศนาอันน่าสะพรึง ข้างฝ่าย หมวดอังเคิล จ่าบุญถิ่น คู่หูตำรวจสุดป่วนก็ต้องกลับมาเยือนออสการ์อพารต์เม้นต์อีกครั้งด้วยความ (ไม่) เต็มใจอย่างสุดซึ้ง เมื่อพวกเขาได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติการ ดักทลายบ่อนเจ๊สาม เพื่อจับกุมอาชญากรข้ามชาติที่หนีมากบดานที่นี่ให้ได้ โดยงานนี้มี เดวิด เจียง มือปราบพระกาฬ (!?!) แห่งเกาะฮ่องกง มาช่วยกันจ้ำอ้าวหนีผีไม่มีอั้น...ซะงั้น เรื่องราวโกลาหล งงงวยซวยเป็นหมู่คณะออสการ์จะลงเอยอย่างไร กำแพงรักของหนุ่มหรั่งและสาวบุปผาจะถูกฝ่าไปสิ้นสุดตรงจุดไหน เสียงกรีดร้องฉบับดั้งเดิมพร้อมตวัดปลายมีดโกนของ ผีสาวตัวแม่รุ่น 3.2 กำลังรอทุกคนมาขมวดปมส่งท้ายความสยองไปพร้อม ๆ กัน
6:66 ตาย ไม่ได้ ตาย (2552/2009) เรื่องราวน่าสะพรึงกลัวกำลังจะเกิดขึ้นภายใน 24 ชั่วโมงต่อจากนี้ นักข่าวสาวสายอาชญากรรมคนหนึ่งที่ชื่อ ดาว ในวันที่ชีวิตการทำงานของเธอขึ้นสู่จุดสูงสุด เธอก็ได้รับข่าวจากโรงพยาบาลว่า อาจารย์ดิน พ่อของเธอที่ขาดการติดต่อกันมากว่า 15 ปี นับตั้งแต่การจากไปของแม่ ฆ่าตัวตายอย่างปริศนา แต่เมื่อไปถึงที่นั่นเธอกลับพบเรื่องเหลือเชื่อคือ พ่อของเธอฟื้นคืนชีพอย่างปาฏิหาริย์ หลังจากนั้นดาวก็พบกับเหตุการณ์ประหลาด เมื่อคนตายกลับไม่ตาย เด็กที่จะเกิดกลับไม่ได้เกิด ทุกรายล้วนทุกข์ทรมาน นำพาเธอไปสู่ภาวะเฉียดตายซ้ำแล้วซ้ำเล่า มันเหมือนมีอำนาจอะไรบางอย่าง ไม่อยากให้เธอมีชีวิตอยู่ และนั่นเองเป็นจุดเริ่มต้นให้ดาวต้องค้นหาความจริง จนกระทั่งเธอได้มาเจอกับ วุธ นายตำรวจหนุ่มเพื่อนเก่าสมัยเรียน เขามาเพื่อสอบสวนคดีการฆ่าตัวตายของอาจารย์ดินเช่นกัน และแล้วทั้งคู่ก็ต้องช่วยกันคลี่คลายปริศนาที่เกิดขึ้น แต่เมื่อเธอได้พบว่า เมื่อวัฏจักรความตายถูกทำให้ผิดเพี้ยน คนตายไม่ได้ตาย คนเกิดไม่ได้เกิด อำนาจแห่งความตาย จึงพยายามทำทุกวิถีทางให้ทุกอย่างกลับคืน และดาวเป็นคนเดียวที่จะหยุดเรื่องราวเหนือความตายนี้ได้ โดยที่เธอไม่รู้ว่า คนที่ต้องทนทุกข์ทรมาน ด้วยการตายแต่ไม่ตายคนต่อไป อาจจะเป็นเธอ!
บุปผาราตรี 3.1 (2552)

เรื่องย่อ : บุปผาราตรี 3.1 (2552/2009) ท่ามกลางความเงียบสงบของอพาร์ตเม้นต์ชื่อดังแห่งหนึ่ง ภายในห้อง 609 มีบางสิ่งบางอย่างกำลังจะถูกปลุกให้กลับมา “เฮี้ยนสยอง...ยกกำลังสาม” ณ ออสการ์อพาร์ตเม้นต์ ยุคเรโนเวท บริหารงานโดย “เจ๊สาม” (ฉันทนา กิติยพันธ์) พี่สาวของเจ๊สี่ที่เสียชีวิตไปแล้ว หลังปรับปรุงใหม่ครั้งใหญ่ เจ๊สามก็เกิดพุทธิปัญญาจัดการเปิดชั้น 3 ของอพาร์ตเม้นต์ให้เป็น “บ่อนพนันเถื่อน” แบบลับๆ มันซะเลย ในขณะเดียวกัน “หรั่ง” (มาริโอ้ เมาเร่อ) หนุ่มนักวาดการ์ตูนเรื่องผีๆ ที่สามารถมองเห็นผีได้จริง ก็ย้ายเข้ามาอยู่ที่ “ออสการ์อพาร์ตเม้นต์” ด้วยเหตุจำเป็นบางอย่าง เพียงแค่ไม่กี่วัน เขาก็มีโอกาสได้พบกับ “บุปผา” (เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์) หญิงสาวใน “ห้อง 609” ที่เหมือนเป็นรักแรก (ข้ามรุ่น) ของเขา คงเป็นด้วย “ความรักบังตา” หรั่งจึงไม่อาจรู้ได้ว่า “หญิงสาว” ที่เขาหลงรักเป็น “ผีสาวเฮี้ยนรัก” ที่เขาต้องพึงระวังไม่เฉียดกรายเข้าใกล้จะดีกว่า ทันที่ที่เขาก้าวเข้าสู่ห้อง 609 “บุพเพสันนิวาส” ที่หรั่งเคยคิดเมื่อแรกเจอบุปผา มันกลับกลายเป็น “บุปผาอาละวาด” ไปซะงั้น ทันใดนั้นเองเสียงกรีดร้องของ “บุปผา” ผีสาวตัวแม่ก็ดังโหยหวนขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัว และแล้วเหตุการณ์ “เฮี้ยนขั้นเทพ-โหดสยองนองเลือด-เชือดไม่เลือกหน้า” ก็ถูกบรรเลงขึ้นชุดใหญ่ไล่ตั้งแต่ห้อง 609 จนแตกตื่นไปทั่วทั้งออสการ์อพาร์ตเม้นต์...อีกครั้ง

เชือดก่อนชิม (2552/2009) บุษ เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อสูตรโบราณต้องรับภาระหนักทำงานหาเลี้ยงครอบครัว เพื่อเลี้ยงดู น้องบัว น้องสาวต่างวัยที่มีขาพิการเพียงลำพัง เมื่อใครๆถามถึง ประวิทย์ สามีที่ไม่ค่อยเอาถ่าน เธอก็จะตอบว่าประวิทย์หนีไปกับ อ้อย ลูกจ้างในร้านตั้งนานแล้ว ทุกครั้งที่บุษกดดัน เธอมักจะหาทางออกด้วยการมุดหัวดำลงไปในโอ่งน้ำ แล้วตะโกนเพื่อระบายความเก็บกด แต่กลายเป็นว่า เธอกลับได้ยินเสียงอู้อี้เหมือนคนพูดคุยกันผ่านเข้าไปในหูของเธอ จากนั้นมาเธอมักจะได้ยินเสียงแปลกๆกระซิบอยู่ข้างหูสั่งให้ทำโน่นทำนี่อยู่ เสมอ วันหนึ่งระหว่างมีการชุมนุมประท้วงของกลุ่มนักศึกษา บุษกำลังเข็นรถก๋วยเตี๋ยวขายอยู่พอดี เมื่อมีการใช้กำลังทหารเข้าสลายการชุมนุม เกิดความโกลาหลขึ้น อรรถพล ก็วิ่งเข้ามาช่วยบุษให้วิ่งหนีไปได้ทันท่วงที ทำให้ทั้งสองคนได้รู้จักกันเป็นครั้งแรก เย็นวันนั้นตอนเก็บรถเข็นเข้าหลังร้าน เธอถึงได้รู้ว่ามีใครคนหนึ่งแอบอยู่ในรถเข็น แต่รอยกระสุนที่ผ่านทะลุเข้าไปได้ ทำให้ชายคนนั้นเสียชีวิตไปนานแล้ว บุษมองดูร่างไร้วิญญาณของชายคนนั้น และจัดการแล่เนื้อหมักสมุนไพรตามสูตรโบราณของครอบครัว จากนั้นมาลูกค้าต่างร่ำลือถึงรสชาติที่เอร็ดอร่อย ทำให้กิจการของเธอเติบโตขายดิบขายดี ลูกค้าคนสำคัญคนนึงของร้านก็คือ อรรถพล คนที่คอยเห็นอกเห็นใจเธออยู่ตลอด แต่เสียงกระซิบของร่างเด็กสาวผมยาวยังคงมีอิทธิพลกับการใช้ชีวิตของบุษเสมอ ทำยังไงก็ไม่สามารถสลัดทิ้งออกจากหัวได้ เธอเริ่มคิดค้นสูตรก๋วยเตี๋ยวใหม่ๆ จากเนื้อคนที่เธอหลอกเอามาฆ่าทีละคนๆอย่างแนบเนียน บุษเริ่มปันใจให้อรรถพลจากความดีที่เขาแสดงออกต่อเธอ ความสัมพันธ์ของบุษกับอรรถพลก่อตัวจนสุขงอมและยอมมอบกายให้กับเขา แต่เมื่ออรรถพลเริ่มถลำตัวก็ยิ่งมองเห็นด้านมืดอันน่ากลัวของบุษเข้า เขาจึงพยายามหลบหน้าบุษและหันไปคบกับ นิดา นักศึกษาสาวรุ่นน้องที่มหาวิทยาลัย จนเธอเกิดอาการหึงหวงจนถึงขั้นวิกลจริต วางแผนลวงให้นิดาเข้ามาในร้านก๋วยเตี๋ยวของเธอ และจับขังทรมานไว้ในห้องใต้ดิน นิดาได้พบว่า ประวิทย์กับอ้อยถูกขังอยู่ในห้องนั้น ประวิทย์ยังมีชีวิตอยู่แบบครึ่งคนครึ่งสัตว์ เขามีชีวิตอยู่ได้จากการแทะกินศพของอ้อยที่นอนตายอยู่ข้างๆแต่เมื่ออรรถพล รู้ว่านิดาโดนบุษหลอกไป เขาก็เร่งรีบตามมาช่วยเหลือ บุษจึงรีบหลบหนีออกจากที่นั่นอย่างเจ็บแค้นใจ เธอวิ่งไปอย่างคลุ้มคลั่ง โดยไม่หันกลับมามองอีกเลย และสุดท้ายเธอก็ได้เลือกทางออกสำหรับตัวเอง เพื่อจบบทสรุปสำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง.........................
ปาฏิหาริย์รักต่างพันธุ์ (2551/2008) ความลับแห่งสายเลือด สู่แรงปรารถนาข้ามสายพันธ์ การไล่ล่าต่างสายพันธุ์ ระหว่าง วินทร์ (เจษฎาภรณ์ ผลดี) ชายหนุ่มอดีตหน่วยข่าวกรองของรัฐบาล เขาคือผู้อยู่บนเส้นขีดขั้นระหว่าง คุณธรรม และความมั่นคงของชาติ จิน (พลอย จินดาโชติ) หญิงสาวผู้ถูกปลดปล่อยจากความทรงจำอันโหดร้ายในอดีต เธอกำลังถูกคุกคามจากกองกำลังที่ไม่เปิดเผยนาม และบางสิ่งบางอย่างที่ไม่ใช่คน จาย (ศักดิ์ดา แก้วบัวดี) ชายผู้เป็นความหวังสุดท้ายของชนเผ่า ชายผู้มีพลังอำนาจลึกลับบางอย่างในตัวพร้อมจะปะทุได้ทุกเมื่อที่เขาต้องการ ความลี้ลับของชาติพันธุ์แห่งอดีตกาลการไล่ล่าด้วยสัญชาติญาณแห่งป่าดงดิบ สู่ความรักโรแมนติกที่ทำลายกำแพงแห่งความเป็นมนุษย์
องค์บาก 2 (2551)

องค์บาก 2 (2551/2008) เมื่อรอยบากแห่งความแค้นฝังลึกถึงก้นบึ้งแห่งจิตใจ ทุกศาสตร์ยุทธ์แห่งศิลปะการต่อสู้จะถูกหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว ดวงชะตากำหนดทุกสรรพสิ่ง ลิขิตชีวิตขึ้นสู่จุดสูงสุด และพร้อมดับทุกชีวิตดำดิ่งลงลึกถึงปลายเหวสู่จุดต่ำสุด บัดนี้มันได้กำหนดชีวิตของ “เทียน” เด็กหนุ่มที่หวังเติบใหญ่เป็นนักรบผู้แกร่งกล้าเฉกเช่นบิดา “ออกญาสีหเดโช” (สันติสุข พรหมศิริ) นายทหารผู้ซื่อสัตย์ซึ่งจงรักภักดีต่อเหนือหัวผู้ซึ่งยอมได้แม้กระทั่งสละชีวิตตนเองเพื่อปกป้องผืนแผ่นดินจากเหล่าผู้ฉ้อฉลและคนทรยศ แต่จากคำทำนายที่ว่าเมื่อใดที่เทียนซึ่งถือกำเนิดในฤกษ์พระกาฬเติบใหญ่ภายใต้วังวนแห่งคมดาบและกลิ่นคาวเลือด เมื่อนั้นผู้คนจำนวนมากจักต้องล้มตายกันอย่างพร้อมเพรียง ทำให้ออกญาสีหเดโชตัดสินใจส่งเทียนไปให้ “ครูบัว” (นิรุตติ์ ศิริจรรยา) เพื่อนสนิทซึ่งต่างเป็นลูกศิษย์ของพระครูปั้นมาด้วยกันช่วยบ่มเพาะสมาธิ เรียนรู้การฝึกจิตให้นิ่ง และศึกษาในด้านวิชาโขนนาฏศิลป์ เพื่อหวังว่าสิ่งเหล่านี้จะช่วยจรรโลงจิตใจให้เกิดแต่สิ่งที่ดีงามขึ้น โดยมี “พิม” เด็กสาวที่ครูบัวเก็บมาเลี้ยงคอยให้ความช่วยเหลือ และมี “ไอ้เหม็น” (หม่ำ จ๊กม๊ก) ชายบ้าเสียสติแต่หลงใหลในนาฏศิลป์เป็นเพื่อนเล่น แต่แล้วชีวิตเทียนต้องพบกับความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต เมื่อ “พระยาราชเสนา” (ศรัณยู วงษ์กระจ่าง) ซึ่งวางแผนขึ้นครองความเป็นใหญ่ในแผ่นดินลงมือส่งเหล่านักฆ่ามือดีมาลอบสังหารออกญาสีหเดโชทั้งครอบครัว และเหล่าทหารหาญให้สิ้นซากด้วยตนเอง โดยมีเทียนเพียงคนเดียวที่เล็ดรอดชีวิตมาได้ท่ามกลางความคลั่งแค้นที่อัดแน่นฝังลึกในจิตใจ โชคชะตาพลิกผันอีกครั้งเมื่อเทียนได้พบกับ “เชอนัง” (สรพงษ์ ชาตรี) หัวหน้ากองโจรผาปีกครุฑผู้ยิ่งใหญ่ซึ่งช่วยชีวิตจากเงื้อมมือของเหล่าพ่อค้าทาสและยักษ์ขมุจอมโหด เพราะเล็งเห็นถึงจิตวิญญาณความเป็นนักสู้และสัญชาตญาณความเป็นนักฆ่าที่แฝงเร้นอยู่ในแววตาซึ่งพร้อมจะสังหารผู้คนได้ทุกเมื่อ จึงตัดสินใจรับเป็นลูกบุญธรรมเข้าร่วมเป็นหนึ่งในกองโจร ให้การชุบเลี้ยงฝึกฝนเหล่าสรรพวิชาอาวุธในศิลปะการต่อสู้ทุกรูปแบบจากเหล่าปรมาจารย์ผู้เชี่ยวชาญในแต่ละสาขาวิชา ไม่ว่าจะเป็นการต่อสู้ด้วยมือเปล่า หมัดมวย การใช้เวทมนตร์คาถา ไปจนถึงการใช้สรรพวุธทุกชนิด ดาบ กระบี่ กระบอง 3 ท่อน วิชากล การใช้ระเบิด ฯลฯ เมื่อทุกศาสตร์ยุทธ์แห่งศิลปะการต่อสู้ถูกบ่มเพาะหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว “เทียน” (จาพนม ยีรัมย์) เติบใหญ่พร้อมพิษสงความสามารถรอบตัวที่ยากจักหาใครทัดเทียม หนำซ้ำยังเป็นเรี่ยวแรงสำคัญในการปฏิบัติภารกิจทุกครั้งของกองโจรผาปีกครุฑ จนได้รับการยอมรับจากทุกคนโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสามารถสยบช้างงาดำ ช้างศักดิ์สิทธิ์ที่เหล่าชุมโจรให้ความเคารพและสักการะ ในขณะที่เชอนังเองตั้งใจมอบตำแหน่งหัวหน้ากองโจรให้เทียนรับหน้าที่ผู้สืบทอดต่อไป เพียงทว่า ณ เวลานี้มีเพียงภารกิจเดียวในชีวิตที่เทียนจักต้องกระทำคือการขจัดความคลั่งแค้นที่มันสุมอกอยู่ในจิตใจตลอดมา นั่นคือการมุ่งหน้าเพื่อสังหารเจ้าพระยาราชเสนาด้วยน้ำมือตนเอง โดยมีเป้าหมายในคืนวันสถาปนาเทวเสาวนีย์ครุฑที่เจ้าพระยาราชเสนาจะขึ้นครองอำนาจในฐานะจอมราชันย์อย่างสมบูรณ์ ภายใต้เปลวเพลิงแห่งความอาฆาต เทียนผสมผสานทุกความสามารถในการต่อสู้ที่บ่มเพาะมาทั้งชีวิต แปรเปลี่ยนเป็นพลังแห่งความอำมหิต โหดเหี้ยม เกรี้ยวกราด ดุดัน เพื่อที่จะสังหารทุกผู้คนที่เกี่ยวข้องอย่างไม่กลัวเกรง โดยหารู้ว่าไม่ว่ายังมีเหล่านักฆ่าระดับยอดฝีมือของจอมราชันย์ที่เขาจะต้องเผชิญหน้าและรับมือที่ล้วนแล้วแต่ยากในการต่อกรไม่ว่าจะเป็น “องค์รักษ์เกราะทอง” (ศุภกรณ์ กิจสุวรรณ), “กลุ่มนักฆ่าลึกลับในชุดดำ” ไปจนถึง “ภูติสางกา” (ชูพงษ์ ช่างปรุง) ที่ถูกส่งมาเพื่อนำเทียนไปสัมผัสกับดินแดนแห่งความตายโดยเฉพาะ หรือนี่คือจุดเริ่มต้นของการต่อสู้ที่มีต้นกำเนิดจากรอยบากแห่งความคลั่งแค้นที่ต้องแลกมาด้วยชีวิต เลือดเนื้อ และจิตวิญญาณ มีเพียงพลังแห่งศรัทธาอันแรงกล้าเท่านั้นที่จะทำให้ชีวิตของเทียนอยู่รอดได้

งูเก็งกอง (2551/2008) ตำนานแห่งงูคำสาป และทายาทคนต่อไป น้ำใสสาววัยรุ่นผู้ถูกคำสาปให้เป็นงูเก็งกอง ซึ่งเวลากลางคืนก็ไม่ต่างจากกลางวัน เธอใช้ชีวิตร่วมอยู่กับมนุษย์ทั่วไป วันหนึ่งเธอต้องการแก้ไขเรื่องราวที่เกิดขึ้นในชีวิต มันเหมือนบาปติดตัวไปทั้งชาติ เพราะเธอฆ่าคนตายโดยที่ตัวเองก็ไม่สามารถจะหยุดยั้งจากอำนาจงูได้ เธอจึงตามหาความจริงและรู้ว่าคำสาปที่ติดอยู่ในตัวเธอสามารถแก้ไขได้ และคงไม่สายเกินไปหากเธอคิดจากแก้คำสาปเลวร้ายนี้ให้หายไปจากตัวเธอ
คนไฟลุก (2551/2008) อะไรจะเกิดขึ้น ถ้าร่างกายเราลุกเป็นไฟได้เองโดยไม่ทราบสาเหตุ!!! “ปรากฏการณ์คนลุกเป็นไฟฉับพลัน” เป็นไปได้อย่างไร อาถรรพ์ ไสยศาสตร์ ฆาตกรรม หรืออะไรกันแน่ คุณเท่านั้น!!! ต้องเป็นผู้ร่วมพิสูจน์และหยุดยั้งมัน ก่อนที่ “ไฟมรณะ” นี้ จะคืบคลานมาสู่…ตัวคุณ ในภาพยนตร์ลึกลับ-ระทึกขวัญแห่งปีที่มีแรงบันดาลใจมาจากเหตุการณ์จริง “คนไฟลุก” (Burn) เหตุการณ์ระทึกขวัญนี้เกิดขึ้นโดยไม่มีลางบอก เมื่อจู่ๆ ไฟประหลาดก็ลุกท่วมร่างของผู้หญิงคนหนึ่งจนเสียชีวิต และเธอคือหญิงไทยรายแรกที่เกิดปรากฏการณ์ไฟลุกท่วมตัวโดยฉับพลันนี้ “โมนา” (บงกช คงมาลัย) ลูกสาวของผู้ตาย เป็นนักค้าหุ้นสาวผู้ทะเยอทะยานต้องเข้ามาพัวพันกับเหตุการณ์นี้อย่างไม่ทันตั้งตัว และเธอไม่อาจทำใจได้ที่อยู่ๆ แม่ก็มาตายจากไป ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้ปรับความเข้าใจกัน เหตุการณ์นี้ทำให้เธอได้พบกับ “พลอย” (อาชิรญาณ์ ภีระภัทร์กุญช์ชญา) พยาบาลสาวซึ่งแม่ของเธอก็ต้องชะตากรรมถึงตายด้วยไฟลุกท่วมตัวโดยไม่ทราบสาเหตุอย่างไม่ผิดแผกกันเลย นี่เป็นสิ่งที่ทำให้โมนาและพลอยต้องพยายามสืบหาสาเหตุที่แท้จริงให้ได้ว่า อะไรกันแน่ที่เกิดขึ้นกับแม่ของพวกเธอ ในขณะที่ทั้งคู่กำลังตามล่าหาความจริงอยู่นี้ พวกเธอก็ได้รับความช่วยเหลือด้านข้อมูลจาก “ขวัญ” (ปรางทอง ชั่งธรรม) นักข่าวสาวที่ตามติดข่าวนี้อย่างจิกไม่ปล่อยมาตั้งแต่แรก ตามสัญชาตญาณของอาชีพนักข่าว เธอมั่นใจว่าเหตุการณ์นี้ต้องมีอะไรเคลือบแฝงอยู่เบื้องหลังเป็นแน่ รวมถึง “ดอน” (ชลัฏ ณ สงขลา) นายตำรวจหนุ่มเจ้าของคดีนี้ แม้จะได้รับคำสั่งจาก “วัง” (สุธีรัชย์ ชาญนุกูล) หัวหน้าของเขาให้ปิดคดีนี้ว่าเป็นอุบัติเหตุไปแล้วก็ตาม แต่ด้วยความสงสัยและยึดมั่นในความถูกต้องยุติธรรม เขาจึงต้องร่วมสืบหาความจริงของเหตุการณ์ลึกลับนี้และหยุดยั้งมันให้ได้ แม้จะรู้ว่ากำลัง “เล่นกับไฟ” อยู่ก็ตาม ความจริงในเหตุการณ์นี้ มันเป็นการฆ่าตัวตาย, อุบัติเหตุ, ฆาตกรรม หรือเครื่องสังเวยความลี้ลับ ปริศนาแห่งเบื้องหลัง “ไฟมรณะ” จะต้องถูกคลี่คลายก่อนที่ความเป็นความตายจาก “ไฟสยอง” นี้จะโหมลุกขึ้นอีกครั้ง
สี่แพร่ง (2551/2008) **เหงา ผู้กำกับ : ยงยุทธ ทองกองทุน เรื่องย่อ : ปิ่น (มณีรัตน์ คำอ้วน) สาวทำงานคนหนึ่งอาศัยอยู่คนเดียวในห้องแคบๆ เธอเหงา เธอตกงาน เธอโดนทิ้ง เธอหดหู่สุดขีด เมื่อมีข้อความเข้ามาในโทรศัพท์มือถือว่า อยากรู้จัก เธอจึงเริ่มต้นติดต่อกลับไปโดยที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาเป็นใคร มาจากไหน และไม่รู้ว่าเขาเป็นคนที่เธอจะต้องเสียใจ** **ยันต์สั่งตาย ผู้กำกับ : ปวีณ ภูริจิตปัญญา เรื่องย่อ : เด็กช่างกลคนหนึ่ง เลือกวิธีแก้แค้นหรือเอาคืนแบบคนมีวิชาอาคมโดยการเล่นของอย่างหนึ่ง ที่เรียกว่า ยันต์สั่งตาย เพื่อมาไล่ล่าแก้แค้นแทนการลงมือเอง แต่สุดท้ายการแก้แค้นก็ไม่มีประโยชน์อะไรเลย เพราะมันไม่มีวันสิ้นสุด** **คนกลาง ผู้กำกับ : บรรจง ปิสัญธนะกูล เรื่องย่อ : วัยรุ่นกลุ่มหนึ่ง ออกไปตั้งเต็นท์กลางป่าลึก พวกเขาล้อมวงเล่าเรื่องผี ทำกิจกรรมห่ามๆ ไร้สาระ พอตอนเข้านอน ทุกคนต่างแย่งกันนอนตรงกลาง เพราะเชื่อว่าผีจะหลอกคนที่นอนริมสุดก่อน แต่แล้วจะทำอย่างไรเมื่อคนที่นอนตรงกลางกลับเป็นคนที่โดนผีหลอกคนแรก** **เที่ยวบิน 224 / Last Fright ผู้กำกับ : ภาคภูมิ วงศ์ภูมิ เรื่องย่อ : พิมพ์ (เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์) เป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน ที่ต้องเดินทางไปกับผู้โดยสารที่เป็นเจ้าหญิงจากต่างประเทศ เจ้าหญิงเอาแต่ใจและค่อนข้างโหดร้ายกับเธอตลอดทาง แต่แล้วเรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเมื่อเจ้าหญิงสิ้นพระชนม์ เลยต้องขนศพเจ้าหญิงกลับประเทศ พิมพ์จึงต้องเดินทางไปกับศพอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ แล้วเรื่องสยองต่างๆ ก็เกิดขึ้นบนเครื่องตลอดการเดินทาง**
ลองของ 2 (2551/2008) ครูพนอ (นภคปภา นาคประสิทธิ์) สาวสวยรวยเสน่ห์ ชีวิตครูต่างจังหวัด ของเธอ คงเหมือนกับครูทั่ว ๆ ไป แต่ความสวยความสาวของเธอ กับทำให้เธอต้องประสบเคราะห์กรรม จากคนที่มารุมรัก ถูกทำของใส่ทั้งจากครู และเหล่านักเรียนชายมัธยมในโรงเรียน เพื่อแก้มนต์ดำแก้อาถรรพณ์ ทำให้ครูพนอต้องฆ่า นายพร (ธีรยุทธ ปรัชญาบำรุง) และทำให้ได้เทพ 3 ตามาครอบครอง จ่าดิษ (ศุภกรณ์ กิจสุวรรณ) เพื่อนนายพร คนเล่นของที่มีชีวิตอยู่เพื่อเดรัจฉานวิชา เข้ามาเกี่ยวข้องกับครูพนอ ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ เทพสามตามาครอง เรื่องราวเริ่มต้นขึ้น หลังจากที่ครูพนอกินเนื้อของหมอไสยศาสตร์ เพียงหวังเพื่อล้าง “ของ” ในตัวเองออก แต่การกระทำในครั้งนั้นกลับทำให้ชีวิตของตัวเธอเองต้องตกอยู่ในอำนาจมนต์ดำของหมอไสยศาสตร์เสียเอง เธอนั้นได้รับความเจ็บปวดทรมานจากรอยบาดแผลอักขระบนตัวเธอที่เกิดขึ้นโดยทีเธอไม่รู้สึกตัว จนต้องถูกจับส่งโรงพยาบาลประสาท เพราะเข้าใจว่าตัวเธอนั้นป่วยทางจิต แต่เรื่องราวก็ไม่ได้หยุดเพียงเท่านี้เมื่อครูพนอต้องตกอยู่ในการดูแลของพยายบาลที่ชื่อเพ็ญ ซึ่งเพ็ญและครอบครัวหวังใช้ประโยชน์จากร่างของครูพนอ เพื่อเรียกขวัญของพี่สาว (เดือน) เพื่อให้ขวัญของเดือนนั้นได้เข้าอยู่ในร่างของครูพนอแทน โดยอาศัยจังหวะในช่วงที่ครูพนอเข้ารับการรักษาอาการอยู่ในโรงพยาบาล แต่เรื่องราวกลับไม่ง่ายอย่างที่คาดคิดเมื่อ จ่าดิษจอมขมังเวทย์ที่รับจ้างเพ็ญและครอบครัว ในการสลับเปลี่ยนขวัญในครั้งนี้กลับต้องการพลังที่อยู่ในตัวครูพนอนั้นเอาไว้กับตัวเสียเอง เป็นเหตุให้ขวัญของครูพนอที่ถูกกักขังไว้กับเข้าสู่ร่างของตัวเองได้อีกครั้ง แรงอาฆาตแค้นที่เธอได้รับจากการกระทำของครอบครัวเพ็ญ ด้วยวิธีการอันโหดเหี้ยม ประกอบกับพลังอำนาจของหมอไสยศาสตร์ที่อยูในตัวครูพนอ ทำให้เธอกลับมาตามชำระล้างความแค้นกับครอบครัวเพ็ญอย่างน่าสพรึงกลัวและน่าสยดสยอง