เมย์ไหน ไฟแรงเฟร่อ (2558/2015) ป๋อง (ธิติ มหาโยธารักษ์) เด็กหนุ่มนักเรียนชั้นม.5 แบ่งนักเรียนในโรงเรียนในระดับฐานันดรต่างๆ คือ คนทั่วไป, อันธพาล, เด็กเนิร์ด, นักกีฬา, คนหน้าตาดี, และนักกิจกรรมตัวท็อป โดยจัดตัวเองเป็นอยู่ในกลุ่มไร้ตัวตน ไม่มีคนสนใจ แต่ป๋องก็มีความในใจคือแอบชอบมิ้ง (นรีกุล เกตุประภากร) นักกิจกรรมตัวท็อป เธอยังเป็นว่าที่ประธานสีคนต่อไป ทั้งที่เธอไม่เคยเหลียวป๋องเลย จนวันนึงป๋องได้รู้จักกับเมย์ไหน (สุทัตตา อุดมศิลป์) ผู้หญิงเก็บตัว ไม่เข้าสังคม และเป็นกลุ่มคนประเภทไร้ตัวตนเฉกเช่นเดียวกับตัวป๋องเอง ป๋องเองรู้ความลับของเมย์ไหนว่าเธอแอบชอบพี่เฟม (ธนภพ ลีรัตนขจร) เป็นนักกีฬาประจำโรงเรียน ประธานสี ป๋องยังทราบว่าเมย์ไหนเลือกที่จะไร้ตัวตนเพราะเธออยู่กับใครไม่ค่อยได้ ร่างกายของเธอจะปล่อยกระแสไฟฟ้าเมื่อเธอ ตื่นเต้น หรือตกใจ ทังสองจึงตกลงเป็นเพื่อนและเก็บความลับของกันและกัน ค่อยๆ สนิทกัน และช่วยกันจีบมิ้ง
ห่วยขั้นเทพ Suck Seed!! ชีวิตมันต้องลองซักซี้ดนึง!! (2554/2011) เป็ด (จิรายุ ละอองมณี) เด็กประถมสุดเห่ย ที่ไม่เคยฟังเพลง นอกจากจะไม่ชอบฟังเพลงและยังเข้าใจเอาเองผิด ๆ ว่า เพลงเร็วเรียกเพลงร็อค เพลงช้าเรียกเพลงรัก ส่วนเพลงไทยนั้นก็มีแค่สองประเภทคือ เพลง แกรมมี่ และ อาร์เอส เป็ด หัดเล่นดนตรีเพียงเพราะแอบหลงรัก เอิญ (ณัฐชา นวลแจ่ม) เพื่อนร่วมห้องได้ทำให้เขารู้จักกับเพลง และความรัก เอิญ สอน เป็ด ว่าเวลาเราฟังเพลงก็จะเหมือนมีเพื่อนมาอยู่ข้าง ๆ เป็ด เลยอยากเป็นคนข้าง ๆ เอิญ บ้าง ยิ่งรู้ว่า เอิญ เป็นสาวหูเหล็ก เป็นสาวกเพลงร็อคที่คลั่งไคล้กีตาร์ฮีโร่เป็นชีวิตจิตใจ เป็ด จึงเกิดแรงฮึดที่จะผันตัวเองจากไอ้แหยขี้อายให้กลายเป็น ร็อคเกอร์ แต่รักครั้งแรกก็ต้องแตกสลาย เมื่อเธอต้องย้ายไปไกลแสนไกล เวลาผ่านไปไวถึง ม.6 เอิญ ก็กลับมาพร้อมกับความน่ารักและฝีมือกีตาร์ขั้นเทพ เป็ด ที่ยังเห่ยเหมือนเดิมจึงจับมือกับ คุ้ง (พชร จิราธิวัฒน์) มือกีตาร์ของวงนั้นมีบ้านเป็นโรงรับจำนำซึ่งเปรียบเสมือนดีสนีย์แลนด์ของเพื่อน ๆ ของเก่าของคนอื่นจะกลายมาเป็นของเล่นชิ้นใหม่ของ คุ้ง เสมอ ตั้งแต่ประถมยันมัธยมคุ้งคือผู้นำเทรนด์ ไม่ว่าจะเป็นเกมส์แฟมิคอม โรลเลอร์เบลด ตู้สติ๊กเกอร์ เกมเต้น โฟโต้ฮันท์ คุ้ง เป็นต้องได้ประเดิมเป็นคนแรก เป็นเพื่อนสนิทสุดเกรียนที่วัน ๆ คิดแต่จะหม้อหญิง พ่วงด้วย เอ็กซ์ (ธวัช พรรัตนประเสิรฐ) มือกลองบ้าพลังที่อยากสอยดาวโรงเรียนที่แอบชอบอยู่ รวมกันเป็นสามตัวห่วย ตั้งวงเพื่อจีบสาวสวย คุ้ง อาจจะมีชะตากรรมเป็นถึงไอดอลของโรงเรียน ถ้าจะไม่มีกรรมมาบังให้คุ้งดันมีฝาแฝดชื่อ เค น้องชายที่ทั้งเรียนเก่งกว่า ที่สำคัญเคยังเป็นมือกีตาร์ของวงโรงเรียนที่ได้รับเลือกให้เป็นตัวแทนเข้าประกวด Hot Wave Music Award ไม่ต้องสงสัยเลยว่าความฮ็อตของ เค จะทำให้ คุ้ง กลายเป็นแค่ฝาแฝด เค ในสายตาของทุกคน ในปีสุดท้ายของชีวิตมัธยมปลาย เมื่อวงของ เค ลงสมัคร Hot Wave โดยมี เอิญ เข้าร่วมในฐานะนักร้องนำ เป็ด และ คุ้ง จึงจับมือกันปฏิวัติตัวเองฟอร์มวง SuckSeed ขึ้นมา หาญกล้าท้าแข่งเพื่อพิสูจน์ให้คนที่พวกเขาทั้งรักทั้งอยากเอาชนะได้เห็นว่า พวกเขาไม่ใช่แค่ "ตัวห่วย" อย่างที่ใคร ๆ คิด
สิ่งเล็กเล็ก ที่เรียกว่า..รัก (2553/2010) น้ำ (พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์) สาวน้อย ม.1 วัย 14 หน้าตาธรรมดา ๆ กระเดียดไปทางไม่สวย หรือเรียกง่าย ๆ ว่า ขี้เหร่นั่นแหละ แต่เธอดันไปแอบชอบ พี่โชน (มาริโอ้ เมาเร่อ) พี่ม.4 ที่หล่อ เท่ ที่สุดในโรงเรียน แล้วแถมยังใจดีอีกตะหาก ทำให้น้ำมีคู่แข่งเป็นสาว ๆ ทั้ง ม.ต้น และ ม.ปลาย ที่มีแต่คนสวย ๆ เต็มไปหมด แต่น้ำไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ เธอพยายามลุยทำทุกอย่าง สู้ทุกรูปแบบเพื่อที่จะเก่งและสวย แล้วเด่นขึ้นในโรงเรียนให้ได้ เพราะแอบหวังในใจเล็ก ๆ ว่าถ้าทำสำเร็จพี่โชนอาจจะหันมามองเธอซักครั้ง น้ำ ทำตั้งแต่เอามะขามเปียกมาขัดผิว สมัครเป็นนางรำแม้จะถูกคัดออก หัดเป่าคาริเน็ตแล้วสมัครเข้าวงโยธวาทิตเพื่อที่จะได้อยู่ใกล้ ๆ พี่โชน ด้วยความช่วยเหลือของเพื่อน ๆ แก๊งหน้าแย่ ในที่สุด น้ำ ก็ได้เป็นดรัมเมเยอร์มือหนึ่งของโรงเรียน จนตอนที่เรียนอยู่ ม.3 เธอได้เป็นดาวของโรงเรียน จริง ๆ! น้ำ ตกเป็นเป้าสายตาของหนุ่ม ๆ ทั้งโรงเรียน มีคนเข้ามาจีบเป็นสิบ ๆ คน ยกเว้นคนที่เธอรอคอยอยู่คนเดียว โชน แล้วเรื่องราวความรักของ น้ำ จะเป็นอย่างไร โชน จะหันมาสนใจเธอมั้ย สุดท้ายแล้วความรัก ความฝัน กับความเป็นจริง จะได้พบกันเมื่อไหร่ เวลาคงเป็นคำตอบของทุกอย่างเอง
Seasons Change เพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย (2549/2006) หลังจากจบมัธยมต้นแล้ว ป้อม ตัดสินใจสมัครเข้าเรียนมัธยมปลาย ที่ วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล สาขาเตรียมดนตรี เพราะต้องการอยู่ใกล้กับ ดาว เด็กสาวจากโรงเรียนเดียวกัน ที่เขาแอบหลงรัก ในขณะที่พ่อของป้อมเข้าใจว่า ลูกชายเรียนสาขาเตรียมแพทยศาสตร์ โดยที่ป้อมเองก็ไม่กล้าบอกความจริง เนื่องจากพ่อของป้อมเห็นว่า ดนตรีเป็นวิชาชีพที่ไม่มั่นคง ขณะเดียวกัน ป้อมก็ได้พบกับ อ้อม ลูกสาวของเพื่อนพ่อ ที่ถึงแม้ด้านปฏิบัติจะไม่เอาไหน แต่ความรู้ด้านทฤษฏีดนตรีเป็นเลิศ และสอบเข้าที่วิทยาลัยฯ เช่นกัน เมื่อทราบเรื่อง อ้อมก็เข้าใจว่า ป้อมรักดนตรีเหมือนกัน จึงสัญญาจะช่วยป้อมเก็บความลับ ถึงแม้จะตามผู้หญิงที่แอบรักมาเรียน แต่ป้อมกลับค้นพบว่า ตัวเขามีพรสวรรค์ในการตีกลองชุดที่เป็นเลิศ ทำให้ เฉด และ ฉัตร สองหนุ่ม ผู้กำลังมองหามือกลอง ให้กับวงดนตรีของตัวเอง เลือกป้อมเข้าร่วมวง เพื่อเข้าประกวด การแข่งขันวงดนตรี ฮอทเวฟมิวสิคอวอร์ด โดยตั้งชื่อวงว่า Ass-Ho-Le (แอสโฮลี่) นอกจากนี้ ฝีมือการตีกลองของป้อม ยังไปเข้าตา จิทาโร่ อาจารย์ชาวญี่ปุ่น ผู้สอนเครื่องดนตรีประกอบจังหวะ (เพอร์คัชชัน) อาจารย์จิทาโร่ จึงมักจะเรียกใช้ป้อม ให้มาช่วยทำวิทยานิพนธ์ของเขาอยู่เสมอ อย่างไรก็ตาม ป้อมกลับเลือกสมัครเป็นมือกลองทิมปะนี ในวงออร์เคสตราของโรงเรียนแทน เพราะต้องการอยู่ใกล้ชิดดาว ซึ่งเป็นมือไวโอลินของวง ส่วนอ้อม ซึ่งเคยเป็นมือไวโอลินเช่นกัน ต้องเปลี่ยนไปเล่นฉาบแทน เนื่องจาก ฝีมือการเล่นเครื่องดนตรีอื่นไม่เอาไหนจริงๆ เนื่องจาก วงออร์เคสตรา ใช้การเคาะจังหวะด้วยกลองไม่มาก ป้อมจึงต้องรออย่างเบื่อหน่าย กว่าจะถึงช่วงเล่นของตนแต่ละครั้ง ต่างกับอ้อม ที่มีความสุขกับดนตรี แม้ทั้งเพลงจะได้เล่นน้อยมาก ป้อมจึงเริ่มนึกถึงความรู้สึกของตนเอง ที่เปลี่ยนแปลงไปมาอยู่เสมอ ทั้งเรื่องดนตรี การเรียน ความรัก และชีวิตของตนในอนาคต ราวกับอากาศที่เปลี่ยนแปลงบ่อย
แบบว่าโลกนี้...มีแต่น้ำเต้าหู้และครูระเบียบ (2537/1994) สาลี่ (สุวนันท์ คงยิ่ง) เด็กสาวชั้นมัธยมปลายเพิ่งย้ายโรงเรียนเข้ามาใหม่ และกลุ่มเพื่อนผู้คลั่งน้ำเต้าหู้ เข้าร่วมทีมวอลเลย์บอลหญิงประจำโรงเรียน โดยมี กานต์ (ศรราม เทพพิทักษ์) ประธานนักเรียนเป็นโค้ชของทีม แต่ครูใหญ่ต้องการยุบชมรมนี้เพราะทีมไม่เคยชนะและนำชื่อเสียงมาให้กับทางโรงเรียนเลย แต่ก็ได้ครูระเบียบ (ดวงตา ตุงคะมณี) จอมโหดออกหน้าแทนและเป็นเหตุการณ์ให้ครูระเบียบต้องลาออก กานต์ สาลี่ และเพื่อน ๆ จึงต้องคว้าชัยชนะในการแข่งขันนี้ให้ได้ถึงจะสามารถช่วยครูระเบียบให้กลับมาสอนได้ดังเดิม
กระโปรงบานขาสั้น (2536/1993) แซ็กถูกไล่ออกจากโรงเรียนเก่า ได้มาอยู่โรงเรียนใหม่ แซ็กตกหลุมรักใบเฟิร์นตอนไปดูแอโรบิค และได้พบกับใบเฟิร์นอีกที่สนามเทนนิส แต่แซ็กได้แต่แอบมอง แซ็กได้รู้จากแพรว่าพรุ่งนี้เป็นวันเกิดใบเฟิร์นแซ็กจึงซื้อกล่องดนตรีให้เป็นของขวัญวันเกิด ใบเฟิร์นชวนแซ็กไปงานวันเกิดด้วย ระหว่างนั้นแซ็กโดยพวกบอมส์ขับรถชนกับรถจักรยานของแซ็กแต่แซ็กก็ขี่ไปจนถึงบ้านใบเฟิร์น พอมาถึงก็เจอแพรระหว่างคุยกันก็เกิดอุบัติเหตุทำให้แพรไปกอดกับแซ็ก ใบเฟิร์นผ่านมาเห็นพอดีเลยเข้าใจผิด พอถึงเวลาเปิดห่อของขวัญใบเฟิร์นชอบของขวัญของแซ็กมาก จึงมาขอโทษแซ็ก แล้วทั้งสองก็เข้าใจกัน ใบเฟิร์นถูกขโมยชิงสร้อยคอและรุมทำร้าย ระหว่างทางแซ็กผ่านมาเห็นจึงเข้าช่วย จนแซ็กถูกทำร้ายบาดเจ็บ บอมส์ผ่านมาโดยบังเอิญจึงเข้าช่วย จนใบเฟิร์นเข้าใจว่าบอมส์เป็นคนช่วย บอมส์และเพื่อนได้ขโมยจักรยานของแซ็กไป แซ็กท้าบอมส์ชก จนเรื่องถึงหู ครูชาลี แซ็กถูกไล่ออกอีกครั้ง แซ็กจึงจะกลับกรุงเทพระหว่างทางแซ็กพบบอมส์และเพื่อนถูกทำร้าย แซ็กจึงเข้าช่วยบอมส์จนทำให้บอร์มเข้าใจแซ็กว่าแซ็กเป็นคนดี สุดท้ายแซ็กและ ใบเฟิร์นก็เข้าใจกัน
นางอาย (2533/1990) เรื่องราวชีวิตในวัยเรียนในโรงเรียนคอนแวนต์ในสิงคโปร์ อภิรดีหรือนาง ได้ถูกส่งตัวมาเรียน เธอต้องพบเพื่อนใหม่ที่มีทั้งเป็นมิตร และไม่เป็นมิตรรวมทั้งการเข็มงวดของบรรดาเหล่าแม่ชีด้วยความซุกซนของนางทำให้เกิดความวุ่นวายอยู่เสมอ นอกจากนี้นางยังถูกคัมพล เพื่อนชายและธนาธิปทูตหนุ่ม แย่งกันพิชิตหัวใจของนางให้ได้ นางอายเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นของเด็กสาวชื่อนาง ซึ่งเรียนประจำอยู่ที่โรงเรียนประจำ นางเป็นเด็กที่มีความร่าเริง สนุกสนาน ซุกซน แก่นแก้ว นางมีเพื่อนรักอยู่คนหนึ่ง ในโรงเรียนคอนแวนแห่งนี้ คือ สินีนาฎ สินีนาฎประสบปัญหาทางบ้าน ไม่สามารถเรียนต่อได้ แต่นางไปขอความช่วยเหลือจากคุณธนาธิป ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ประจำสถานฑูตไทย และเป็นพี่ชายของสายสุดา ในระหว่างที่ นาง สินีนาฎและ สายสุดา เรียนอยู่ในคอนแวน เกิดเรื่องราวต่างๆ มากมายจากความไม่ลงเอยกับสายสุดา คัมพลเป็นลูกชายของเพื่อนพ่อนางที่มาคลุกคลีใกล้ชิดกับนางและหลงรักในตัวนางอยู่ลึกๆ เมื่อนางเรียนจบ พ่อของนางต้องการให้นางแต่งงานกับพี่ชายของคัมพล แต่นางไม่ยอม เพราะนางชอบกับธนาธิปอยู่ก่อนล้ว เมื่อกำพลรู้เรื่องแต่งงานเข้าไม่พอใจอย่างมาก และได้รู้ความจริงจากนางว่ารักกับธนาธิป และนางไม่ได้คิดอะไรกับกำพลนอกจากพี่ชาย ธนาธิปเมื่อรู้เรื่องแต่งงานจึงไปสู่ขอและก็ได้แต่งงานกัน
หวานมันส์ ฉันคือเธอ 2 (2531/1988) หลังจากที่ต้นและนับเดือนกลับเข้าสู่ร่างเดิม ก็นำความดีใจมาสู่ทั้งสอง แต่ความที่ทั้งสองสลับร่างกันนานเกินไป จึงมีบางครั้งที่ทั้งคู่เกิดอาการ “เผลอหลุด” แสดงท่าทางผิดเพศออกมา ครอบครัวของต้นต้องเข้ากรุงเทพฯเพราะหน้าที่การงาน พ่อจึงฝากต้นไว้กับครูเชวง ต้นย้ายเข้ามาอยู่ในหอพักของตาและยายวัยเก๋า ต้นได้รู้จักพี่เจี๊ยบรุ่นพี่เพล์บอย ถือคติ “ฟันแหลก” ฝ่ายครูเชวงรับคำสั่งพ่อของต้นอย่างเคร่งครัด เรียกอั๋น เพื่อนสุดแสบของต้น มาคุยเพื่อให้เป็นสายลับคอยจับตาดูต้นตลอดเวลา อั๋นชวนเจี๊ยบมาวางแผนพิสูจน์ความเป็นชายของต้น แผนแรก เจี๊ยบกับอั๋นทำให้ต้นถูกนับเดือนตบหน้าฉาดใหญ่ เมื่อวันหนึ่งนับเดือนไปชวนต้นติวหนังสือ แต่ได้ยินเสียงผู้หญิงผู้ชายโรมรันกันอยู่ในห้องของต้น โดยไม่รู้ว่าเป็นเสียงพี่เจี๊ยบกับคู่ขาที่มาขอยืมห้องชั่วคราว แผนที่2 ยิ่งทำให้นับเดือนยิ่งเข้าใจผิดหนักไปใหญ่เมื่อเจี๊ยบกับอั๋นวางแผนให้แสงโสมเข้าไปยั่วต้นถึงในห้อง นับเดือนโกรธและเหลือทน ต้นพยายามจะอธิบายให้นับเดือนเข้าใจ แต่นับเดือนไม่เปิดโอกาส การสอบไล่ยิ่งใกล้เข้ามา ต้นไม่เป็นอันดูหนังสือ นับเดือนเพื่อนที่เคยรู้ใจก็มาห่างเหินเพราะความเข้าใจผิด วันหนึ่งพ่อของนับเดือนผ่านมาพบต้นกำลังจับมือนับเดือน เพื่อขอปรับความเข้าใจ เรื่องจึงลุกลามใหญ่โต เมื่อพ่อนำเรื่องนี้ไปบอกกับครุใหญ่ ถึงพฤติกรรมที่เหมาะสม เมื่อเรื่องราวเลวร้าย นับเดือนก็โกรธ พ่อแม่ก็ไม่อยู่ ต้นรู้สึกเหมือนอยู่คนเดียว ต้นจึงขอลาออกจากโรงเรียน ท่ามกลางความตะลึงของทุกคน วันต่อมา นับเดือนไปหาต้นที่หอพัก แต่ไม่มีใครรู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน …
แผลเก่า (2483)
แผลเก่า (2483/1940) เป็นเรื่องเก่าของชาวบางกะปิ ที่บรรยายความรักของหนุ่มลูกบ้านนั้น ซึ่งมีความรักที่คุระอุอยู่ในอกเหลืออดกลั้น มันว่า... "ยิ่งมืดก็จะยิ่งฝ่า ยิ่งหนาก็จะยิ่งบุก... เรียมเอ๋ย พี่จะตายให้อ้ายหนุ่มลูกบ้านนี้ มันรู้ทั่วกันว่า อ้ายขวัญ มันรักของมันยังไง.." ว่าด้วยเรื่องราวความรักที่ไม่ราบรื่นนักของหนุ่มสาวชาวบางกะปิ ขวัญกับเรียม เพราะญาติฝ่ายหญิงไม่เห็นด้วยจึงพยายามกีดกันทุกประการ ถึงกับจับเรียมล่ามโซ่เอาไว้แต่ขวัญก็แอบมาหาจนได้ ในที่สุดญาติฝ่ายหญิงเลยขายเรียมให้กับคนชาวกรุง ภายในระยะหนึ่งปีที่ผ่านไป เรียมเปลี่ยนสภาพจากสาวบ้านนอกเป็นสาวชาวกรุงอย่างทันสมัย ถึงกับมีหนุ่มๆมาติดพันอยู่หลายคน ต่อมาเรียมได้ข่าวว่าแม่ป่วยหนักเลยกลับไปยังบ้านเดิมเพื่อพยาบาลแม่ เป็นโอกาสให้ขวัญได้พบปะกับเรียมอีกครั้ง ความรักซึ่งมีอยู่แต่เดิมก็คุระอุยิ่งขึ้น เมื่อแม่ของเรียมถึงแก่กรรมลง ขวัญได้บุกเข้ามาทำการเคารพศพโดยไม่เกรงต่อญาติฝ่ายหญิงจึงถูกลอบทำร้าย ขวัญได้สังหารเสียหลายคนแต่ขวัญถูกยิงจึงตะเกียกตะกายไปที่ศาลเจ้าต้นไทร ณ ที่ที่เคยสาบานรักกัน เรียมวิ่งตามมาถึงพลางกระโดดลงน้ำว่ายเข้าไปหา เมื่อขวัญเห็นว่าชีวิตความรักของเขาและเธอหมดหวังเพียงแต่นี้เอง ขวัญเลยเอามีดจ้วงแทงเรียมจนจมหายตายไปด้วยกัน
ไม่เคยรัก (2483)
ไม่เคยรัก (2483/1940) โรจน์ สืบทอดกิจการร้านนิยมไทยจำหน่ายสินค้าไทยต่อจากบิดา เขาคร่ำเคร่งกับการทำงานจนไม่สนใจเรื่องอื่นรวมทั้งเรื่องความรัก จนกระทั่งเช้าวันหนึ่ง ขณะที่โรจน์ขับรถไปทำงาน บังเอิญขับรถชนรถสามล้อ ซึ่งมีสาวงามชื่อ วนิดา โดยสารอยู่ โรจน์หลงรักวนิดาตั้งแต่แรกเห็นและตามไปส่งที่บ้าน จึงได้รู้ว่าวนิดาเป็นหลานสาวของ พระพฤกษาพิทักษ์ ซึ่งหลงใหลในกล้วยไม้ ขากลับโรจน์พบ สนิท ซึ่งมาติดพันวนิดา และเป็นผู้ที่ มาลี แม่ของวนิดาหมายมั่นจะให้แต่งงานกับลูกสาว สนิทมีนิสัยเจ้าชู้ ทำให้วนิดาใจโอนเอียงไปทางโรจน์ แต่แล้ววันหนึ่ง โรจน์ขึ้นไปรับ ผ่องพรรณ น้องสาวซึ่งป่วยหนักมารักษาที่กรุงเทพ กาจ นักหนังสือพิมพ์ซึ่งมีความแค้นโรจน์ในเรื่องส่วนตัว บังเอิญเห็นจึงนำไปเขียนข่าวกล่าวหาว่าโรจน์ล่อลวงสาวบ้านนอกมากรุงเทพ ทำให้วนิดาเข้าใจผิด โรจน์โกรธมากจึงฟ้องร้องหนังสือพิมพ์ฉบับนั้น ศาลพิจารณาตัดสินให้หนังสือพิมพ์ฉบับนั้นแก้ข่าว วนิดากับโรจน์จึงเข้าใจกันในที่สุด
ตื่นเขย (2481)
ตื่นเขย (2481/1938) อำนวย คล่องเชิงค้า เป็นพนักงานอุตสาหกรรมน้ำตาลไทยมีภรรยาชื่อ ลัดดา วันหนึ่งเขาได้รับมอบหมายให้ไปเจรจาการค้ากับ พระทวีผลกสิกรรม ผู้เป็นเอเย่นต์ขายน้ำตาลที่โคราช แต่ดันไปตกหลุมรัก ลออ ลูกสาวของพระทวีผลฯ ถึงขั้นอยากจะแต่งงาน ระหว่างที่ยังเจรจางานอยู่ที่โคราช เจ้านายได้ส่งโทรเลขให้อำนวยไปเจรจาการค้ากับ พระยาพิชัยพานิชย์ที่อุบล อำนวยก็ไปตกหลุมรัก บุญเกื้อ บุตรีพระยาพิชัยฯ อีก ด้านพระทวีผลฯ กับภรรยายังไม่ค่อยเชื่อถือในตัวอำนวยนัก ด้วยข้อที่ว่าอำนวยนั้นโอ้อวดว่ามีบ้านช่องใหญ่โต จึงพากันมาพิสูจน์ที่กรุงเทพ อำนวยร้อนใจกลัวความแตก จึงไปขอยืมบ้าน สันต์ เกลอเก่าตบตาพระทวีผลฯ ชั่วคราว หารู้ไม่ว่าสันต์เป็นหลานชายของพระทวีผลฯ ขณะเดียวกัน ครอบครัวของพระยาพิชัยฯ ก็กำลังเดินทางมาดูบ้านของว่าที่ลูกเขยด้วยความตื่นเต้นพระยาพิชัยฯ ได้พบกับพระทวีผลฯ ที่บ้านซึ่งอำนวยหลอกว่าเป็นของตน เมื่อได้พูดคุยกันจึงได้รู้ว่าพระทวีผลฯหมายมั่นให้ลออได้แต่งงานกับอำนวย พระยาพิชัยฯจึงเป็นฝ่ายลากลับ จีบ สาวใช้ของสันต์สุดจะทนกับพฤติกรรมเจ้าชู้ของอำนวยจึงไปฟ้องลัดดา ลัดดาจึงแกล้งมาสมัครงานเป็นคนใช้ของพระทวีผลฯ นับวันก็ยิ่งใกล้ถึงวันแต่งงานของลออกับอำนวย ลัดดาเจ็บใจสามีจึงจ้างวาน ปริก ให้มาประกาศความเป็นภรรยากลางงานอำนวยปฏิเสธพัลวัน แต่สุดท้ายก็จำนนด้วยหลักฐาน เมื่อลัดดาประกาศตัวว่าเป็นเมียของอำนวยตัวจริง พระทวีผลฯ จึงอดได้ลูกเขย
แม่สื่อสาว (2481)
แม่สื่อสาว (2481/1938) เพราะบริษัทสบู่ตราหอยของ นายวาณิชย์ คล่องการค้า กับ วิไล น้องสาว มีท่าทีจะเจ๊งบรรดาหุ้นส่วนเฮโลกันมาทวงเงิน วาณิชย์กับวิไลจึงใช้ความกะล่อนหาวิธีต้มตุ๋นหุ้นส่วน ให้ยังทำมาค้าขายกับตนแบบขอไปที กระทั่งวาณิชย์นึกขึ้นได้ว่าตนยังมีคนรู้จักที่ชื่อ นายหน่ำ ท่องเที่ยว เศรษฐีบ้านนอกที่เคยบอกว่าอยากให้ตนหาสาวชาวกรุงมาแลกกับเงินจำนวนมากโขวาณิชย์และวิไลจึงรุดหน้าไปหานายหน่ำเพื่อทำการตกลง วิไลทำหน้าที่แม่สื่อสาว เสนอชื่อ คุณนายจำปาภักดีกุล เศรษฐีนีม่ายบ้าผู้ชาย สาวใหญ่ที่วิไลรู้จัก ทว่าทุกอย่างกลับตาลปัตร เพราะนายหน่ำดันมาตกหลุมรักวิไล ส่วนคุณนายจำปาก็ดันมาคลั่งไคล้วาณิชย์ ครั้นทุกอย่างคลี่คลาย บทสรุปจึงกลายเป็นว่านายหน่ำก็ได้ครองรักกับวิไลสมใจ ส่วนคุณนายจำปาก็ยอมอุทิศทั้งเงินและหัวใจให้วาณิชย์ บริษัทสบู่ตราหอยจึงรอดพ้นจากการล่มจม
หวานใจนายเรือ (2481)
หวานใจนายเรือ (2481/1938) ร.ท. เกษม ยุทธนาวิน ร.น. กับ ร.ต.ชลัชชาญนาวี ร.น. ต้องเดินทางไปฝึกยิงปืนป้อม ณ สถานีฝึกสัตหีบชั่วคราว วันหนึ่ง ขณะที่เกษมกับชลัชเดินเล่นที่ชายหาด ได้ยินเสียงร้องเพลงของหญิงสาว จึงเดินตามหาเสียงนั้น บังเอิญเห็นคนร้ายกำลังฉุดคร่าหญิงเจ้าของเสียง ทั้งสองจึงเข้าไปช่วย และโดนแทงบาดเจ็บ ชายชราคนหนึ่งวิ่งเข้ามาช่วย และพาเกษมไปทำแผลที่บ้าน จึงได้ทราบว่าหญิงสาวนั้นชื่อเพลินใจ อาศัยอยู่กับพ่อคือ พร เพียงสองคน พวกที่เข้ามาทำร้ายตนนั้นคือสมุนของ ทองอ่อน ซึ่งต้องการลายแทงขุมทรัพย์โจรสลัดที่พรครอบครอง จึงมักส่งสมุนมากลั่นแกล้งสองพ่อลูกอยู่เสมอ เกษมติดใจในน้ำเสียงของเพลินใจจึงเสนอให้เพลินใจไปเรียนร้องเพลงที่กรุงเทพ เพื่อให้เพลินใจพ้นน้ำมือของทองอ่อน โดยให้อาศัยอยู่ที่บ้าน พระยาพัศดุนาวา-การ ผู้เป็นบิดาของตน พรมีสีหน้าตกใจเมื่อได้ยินชื่อพระยาพัศดุฯ แต่ก็กำชับบุตรสาวให้อยู่ในโอวาทของท่าน ส่วนตัวเกษมเองต้องฝึกงานอยู่ที่สัตหีบต่อ เพลินใจตั้งใจเรียนร้องเพลงเป็นอย่างดีจนได้สมญานามว่า นักร้องเสียงทอง และเป็นที่หมายปองของ ประกอบ บุตรบุญธรรมของพระยาพัศดุฯ ไม่นาน เกษมก็กลับมารับราชการที่กรุงเทพฯ และเริ่มสนิทสนมกับเพลินใจมากขึ้นทำให้ พิศมัย คู่หมั้นของเกษมเกิดความหึงหวง ทองอ่อนสมคบกับ เถ้าแก่เลี่ยงฮง แซ่อึ้ง เจ้าของเรือตังเก ตามหาขุมทรัพย์โจรสลัด พรเริ่มกังวลว่าทองอ่อนจะรู้ที่ซ่อน จึงปรึกษา ทองต่อ น้องภรรยา ให้ไปเยี่ยมเพลินใจที่บ้านพระยาพัศดุฯ แทน และเล่าความหลังว่าหลังจากภรรยาเสียชีวิตได้ฝาก ประกอบ ลูกชายให้พระยาพัศดุฯ เลี้ยงดู และได้แอบซ่อนสมุดข่อยลายแทงขุมทรัพย์ในห้องเครื่องลายครามที่บ้านพระยาพัศดุฯ เมื่อทองต่อเดินทางมาพักที่บ้านพระยาพัศดุฯ ก็พยายามหาโอกาสขโมยสมุดข่อยแต่โดนประกอบจับได้ จึงต้องบอกความจริงว่าประกอบกับเพลินใจมีความเกี่ยวดองกันและรีบลากลับสัตหีบ พิสมัยร้องขอให้ คุณนายแจ่ม มารดา เร่งรัดการแต่งงานของตนกับเกษม พระยาพัศดุฯ จำต้องแบ่งรับแบ่งสู้ยอมตกลง เพลินใจกลับมาจากเรียนร้องเพลงเผอิญได้ยินสองแม่ลูกกล่าวดูถูกเหยียดหยามตนเอง บังเกิดเป็นความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจจึงเก็บข้าวของกลับมาหาบิดาที่สัตหีบ จากนั้น พร เพลินใจ และทองต่อก็เริ่มออกตามหาขุมทรัพย์ จนในที่สุดก็พบหีบสมบัติบรรจุเพชรนิลจินดาและทองคำมากมายทองอ่อนซึ่งสะกดรอยตามมาจึงแย่งชิงสมบัติไป เกษม ชลัช และประกอบนำเจ้าหน้าที่ไล่ตามทองอ่อนจนทัน เกิดการปะทะกันแต่ก็จับกุมทองอ่อนกับพวกได้สำเร็จ
ในสวนรัก (2481)
ในสวนรัก (2481/1938) ชื่น ลูกชายคนเดียวของ นายเชยเศรษฐีเจ้าของทุ่งสาลีแห่งนครชัยศรี กำลังจะไปเรียนต่อที่กรุงเทพ ก่อนเดินทางชื่นมาบอกลา พิม คนรักซึ่งเป็นเพื่อนตั้งแต่เด็ก แต่เมื่อมาถึงกรุงเทพแทนที่ชื่นจะตั้งใจศึกษาร่ำเรียน กลับเอาเงินที่นายเชยส่งเสียไปปรนเปรอวิลัย ผู้หญิงหากิน หลงลืมพิมเสียสิ้น อีกฟากหนึ่ง พระยาวินิจวิจารณา ข้าราชการเบี้ยบำนาญเดินทางมานครชัยศรีเพื่อขายที่ให้แก่นายเชยได้พบพิมที่อาสาพายเรือไปส่งที่บ้านนายเชย ระหว่างทางได้พูดจากันจึงรู้ว่าพิมคือลูกสาวของ พร น้องสาวของตน พระยาวินิจฯ จึงขออุปการะพิมให้ไปอยู่ที่กรุงเทพ แล้วล้มเลิกความคิดที่จะขายที่ให้นายเชย เมื่อมาอยู่กรุงเทพได้สักพัก พิมก็ต้องประหลาดใจมาก เพราะตกกลางคืนพระยาวินิจฯ มักจะไม่อยู่บ้าน จึงชวน ต่อม คนใช้แอบสะกดรอยตามพระยาวินิจฯ จนมาถึงภัตตาคารที่ซึ่งวิลัยทำงานอยู่ แทนที่จะได้พบพระยาวินิจฯ พิมกลับได้พบชื่นกำลังครวญเพลงอยู่แทน ต่อมช่วยพาชื่นให้มาพบกับพิม เมื่อชื่นเห็นพิมอยู่ในสถานที่แบบนี้ก็เข้าใจผิด ด่าทอพิมเสียๆ หายๆ พิมเสียใจเป็นอันมาก จึงเขียนจดหมายถึงนายเชยเล่าสิ่งที่ตนพบ เพื่อให้นายเชยเรียกตัวชื่นกลับนครชัยศรี เมื่อนายเชยได้ทราบข่าวจึงหยุดส่งเงินให้ชื่นทันที เมื่อวิลัยรู้ว่าชื่นไม่มีเงินก็ตีจากไป ชื่นสำนึกในความผิดจึงกลับไปขอคืนดีกับพิม
จันทร์เจ้าขา 2479

จันทร์เจ้าขา (2479/1936) จากเรื่องอ่านเล่นลือชื่อมาเปนลครร้องเรื่องที่ดูไม่น่าเบื่อ จากเรื่องลครที่ดูกันไม่เบื่อมาเปนภาพยนตร์พากย์ชั้นมโหฬาร คือ "จันทร์เจ้าขา" ของ "พรานบูรพ์" (ที่มา: หนังสือพิมพ์กรุงเทพฯ วารศัพท์ พฤษภาคม พ.ศ. 2479)

พญาน้อยชมตลาด (2478/1935) พญาน้อย ราชบุตรของพระเจ้าช้างเผือกมีอุปนิสัยชอบเอาแต่ใจตนเอง เป็นที่กลุ้มใจของพระราชบิดา จึงจัดการอุปภิเษกแต่พญาน้อยก็ยังไม่เลิกนิสัย วันหนึ่ง มะโดด กับ มะดวด มหาดเล็กคู่ใจของพญาน้อยมาถวายรายงานว่าพบสาวงามและเชิญพญาน้อยไปทอดพระเนตร พญาน้อยจึงทำทีเป็นเสด็จเยี่ยมทุกข์สุขของราษฎร เมื่อไปถึงตลาดท้ายเมืองตะเกิง พญาน้อยตรงดิ่งไปยังร้านแป้งน้ำมัน ซึ่ง เม้ยเจิง เป็นเจ้าของและพยายามเกี้ยวพาราสี แต่เม้ยเจิงมีสามีแล้วชื่อ มะเทิ่ง เมื่อเม้ยเจิงปฏิเสธหนักเข้า พญาน้อยผู้เอาแต่ใจจึงข่มขู่ว่าจะทำร้ายมะเทิ่งหากเม้ยเจิงไม่ยอมเป็นสนมเอก เม้ยเจิงจึงต้องตามพญาน้อยเข้าวัง พญาน้อยนำเม้ยเจิงแอบไว้ในห้องหนึ่งและให้คนหว่านล้อมเม้ยเจิง แต่นางก็เอาแต่ร้องไห้รำพันถึงสามีมะดวด กับ มะโดด แนะนำให้พญาน้อยจูบเม้ยเจิง ปรากฏว่าได้ผลดีเกินคาด เม้ยเจิงลืมมะเทิ่งเสียสิ้น ขนาดมะเทิ่งถวายฎีกาต่อพระเจ้าช้างเผือก เม้ยเจิงก็กลับให้การว่าตามพญาน้อยมาโดยสมัครใจ มะเทิ่งจึงต้องกลับบ้านทั้งน้ำตาพร้อมเงินค่าทำขวัญ 50 ชั่ง ปล่อยให้เม้ยเจิงมีความสุขกับพญาน้อย

หน้าที่