นคร - สวรรค์ (2562/2019) หลังจากบ้านเกิดไป 5 ปี เอย ก็เดินทางกลับนครสรรค์หนึ่งสัปดาห์เพื่อร่วมพิธีศพของแม่ ปากน้ำโพเป็นดินแดนที่เชื่อว่าจะสามารถนำวิญญาณผู้ตายไปสู่สรวงสวรรค์ได้ และในเช้าวันนั้น เอยก็ได้ล่องเรือลำเดียวกันกับครอบครัว บิดา เพื่อนเก่า และความทรงจำในอดีตของเธอ เพื่อลอยอังคารเถ้ากระดูกของมารดา
BNK48: Girls Don't Cry บีเอ็นเคโฟร์ตีเอต: เกิร์ลดอนต์คราย (2561/2018) BNK48 คือ Idol Girl Group ที่มีสมาชิกเป็นหญิงสาวตั้งแต่อายุ 13 ถึง 23 ปีรวมทั้งหมด 26 คน โดยคอนเซ็ปต์ของวงคือ ‘เด็กหญิงธรรมดาๆ ที่มีความพยายาม’ ในการออกแต่ละซิงเกิ้ลจะมีสมาชิกเพียง 16 คนจากทั้งหมด เท่านั้นที่จะได้รับเลือกให้มีผลงาน สมาชิกทุกคนจึงพยายามทุ่มเทให้กับการฝึกซ้อมและพัฒนาตัวเอง แต่แล้ววันหนึ่ง…ทุกคนก็เรียนรู้ว่าความพยายามอย่างเดียวอาจไม่พอ และปลายทางของความพยายาม นอกจากความสําเร็จแล้ว มันยังมีอย่างอื่นที่ไม่คาดคิดรออยู่เช่นกัน
Die Tomorrow พรุ่งนี้ตาย (2560/2017) เป็นการนำเรื่องราวที่สร้างจาก 6 เหตุการณ์การเสียชีวิตอันแปลกประหลาดบนหน้าหนังสือพิมพ์มาสร้างเป็นหนังสั้นที่ไม่มีจุดเชื่อมโยงกัน และฉายสลับกับสารคดีว่าด้วยเรื่องมุมมองการตายของคนต่างวัย
DHARAMSALA ดารัมซาล่า ความหวังแห่งศรัทธา (2560/2017) อินท์ (ธันน์ ธนากร) ช่างภาพนิ่งมือดี แต่นิสัย เต็มไปด้วยความหลงตัวตน คิดว่าตนเก่งเหนือใคร เลยค่อนข้างจะเห็นแก่ตัว ไม่เอาใคร แม้แต่ หญิง (อภิสรา รักชาติ) และ ชิน (ชิตวัน อัครนพธนา) พี่สาวและน้องชายแท้ๆ ยังเอือมระอา อินท์ยอมอ่อนข้อ แค่ เมธาวี (อาภา ภาวิไล) และ ศรุต (ไตรรงค์ ชัยนรานนท์) เพื่อนสนิทเท่านั้น และด้วยความเห็นแก่ตัวเอาใจตัวเองเป็นที่ตั้ง ทำให้ อินท์ ทะเลาะกับ เม ขั้นรุนแรงถึงกับเลิกรากัน อินท์ จึงบินตามไปหา ศรุต ที่อินเดีย เพื่อถ่ายภาพพระเดินธุดงค์ แต่ด้วยความที่เขาเป็นคนเห็นแก่ตัว จึงทำให้ ทัต (ทีฆทัต เจริญสถิตย์พงศ์) และ โน่ (ภูวเนตร สีชมพู) สองหนุ่มที่หวังไปดูแลคณะสงฆ์แกล้งปล่อยให้ อินท์ หลงทางจนสลบไป ครูมิ้งค์ (เพ็ญจันทร์ วงศ์สมเพ็ชร) และ ศรุต รีบไปรับพาตัวมารักษา อินท์เริ่มคิดได้ว่าเขาไม่มีใครชอบ ยิ่งได้ฟังคำสอนของ เณรชนก (ณชนก เจริญสถิตพงศ์) ที่เป็นเหมือนแสงสว่างแห่งธรรมให้ อินท์เริ่มเข้าใจ หันมามองคนรอบๆ ข้าง อินท์ได้มองเห็นปัญหาของคนอื่นๆ อย่าง เณรกร (สามเณรฐิติกร งามยิ่ง) ที่ตอนเป็นเด็กก่อนบวช กร (ด.ช.ดบัสวิน ศิริกิตติรัตน์ ) และ กุ๊กไก่ (ด.ญ.ดลณพรรณ ศิริกิตติรัตน์) ถูก ดา (แอนนี่ บรู๊ค) ทำร้ายอย่างรุนแรง ทำให้ พ่อยศ (ปิติศักดิ์ เยาวนานนท์) เสียใจจนเมามาย แต่ก็คิดได้เพราะลูกชายขอร้องอยากบวชอย่างสงบ ธรรมะเปลี่ยนแปลงชีวิตคุณได้จริงๆ หากมีศรัทธา อย่างเช่น ลีลา (วรรณษา ทองวิเศษ) พี่สาวของศรุต หลงในความรักเป็นชู้กับ คิม (จิรกิตติ์ สุวรรณภาพ) จน ตวง (สาวิกา กาญจนมาศ) ภรรยาคิมมาเปิดโปงให้อับอายอยู่เมืองไทยไม่ได้ต้องหนีมาพึ่งพิงร่มเงาแห่งแสงพระธรรมเพื่อสงบจิตใจ แม้แต่เพื่อนสนิทอย่าง พี่อ้วน (อนันต์ เสมาทอง) ฟ้า (ปภัสรา ดิสกุล) และ อั้ม แอบแซ่บ (รัฐ ริมธีรกุล) ก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้ ส่วน คุณจิตรา (เกศริน เอกธวัชกุล) ที่ชอบทำบุญ แต่เพราะหลงว่าทำเยอะกว่าคนอื่นต้องดีกว่าวิเศษกว่า และต้องได้สิทธิ์พิเศษ คุณจิตรา รังเกียจแม้แต่ แม่ชีมี่ (เอ็มมี่ อมลวรรณ) อดีตนางแบบวาบหวิว ที่ไปถือศีลที่อินเดีย แต่เพราะเธอเป็นนางแบบเซ็กซี่มาก่อนแม้บวชแล้ว คุณจิตราก็ยังรังเกียจ แต่เมื่อทุกๆคน ได้ฟังคำเทศนา จาก พระอาจารย์ต้น (พระทรงศักดิ์ แพทย์เพียร) และ หลวงพ่อ พระเทพปริยัติสุธี เทศนาให้เห็นถึงแก่นธรรม ในการละวางตัวตน ทำให้ทุกคนคิดได้ อินท์เองก็เช่นกัน การที่เขาได้ร่วมเดินทางกับคณะสงฆ์ ได้รับฟังเทศนา และ ได้เห็นชีวิตผู้อื่นที่เปลี่ยนไปด้วยธรรมะ ทำให้เขาได้คิดกลับตัว ทำทุกๆอย่างที่เมชอบเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา ด้วยแรงศรัทธา เมธาวี จึงยอมมาพบเขาอีกครั้ง อินท์พึ่งได้รู้ว่า ตลอดระยะทาง เม คอยติดตาม ดูเขาอยู่ห่างๆ ไม่เคยทิ้งหายจากไปไหน อินท์ ได้เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง เขาเพิ่งเข้าใจว่า ความรักนั้นเกิดง่าย แต่รักษาไว้ช่างอย่างยิ่ง เขาโชคร้ายที่เคยหลงตัวเอง แต่ในความโชคร้ายเขากลับเป็นคนโชคดี ที่มีกัลยามิตร ที่ดีอย่าง เมและ ศรุต ที่คอยชี้นำทางให้เขาได้พบกับธรรมะ และ ที่เป็นเช่นนี้ได้ เพราะ ความหวัง แห่งศรัทธา ของผู้หญิงที่ชื่อว่า เมธาวี
ปู่สมบูรณ์ Somboon (2557/2014) ภาพยนตร์สารคดีเล่าถึงความรักของปู่สมบูรณ์ที่มีต่อเมียดผู้เป็นภรรยาในช่วงอายุสุดท้ายของชีวิต เป็นเวลากว่า 45 ปีแล้วที่สองสามีภรรยาดูแลซึ่งกันและกัน จนถึงตอนที่ย่าเมียดได้ล้มป่วยด้วยโรคไต และไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้อีกต่อไป ปู่สมบูรณ์ก็คอยอยู่เคียงข้างย่าเมียดเสมอ แม้การร่วมชีวิตคู่จะมาจากขณบประเพณีคลุมถุงชน แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาในการใช้ชีวิตคู่ของทั้งสอง เพราะต่างฝ่ายต่างทำหน้าที่สามีภรรยาที่ดีต่อกัน รวมทั้งเป็นพ่อแม่ของลูก และปู่ย่าของหลาน ตลอดเส้นทางชีวิตพวกเขาได้สร้างความรักขึ้นมาและรักษามันไว้ชั่วนิรันดร์ แม้นไม่มีคำหวานใดๆเอ่ยจากปากของทั้งสอง แต่สิ่งที่เป็นอยู่มันสามารถสัมผัสรับรู้ได้ด้วยหัวใจ
Mother (2557/2014) ลูกชายคนโตของครอบครัวเล็ก ๆ ครอบครัวหนึ่ง ได้เพียงเฝ้ามองครอบครัวกำลังล่มสลาย หลังเผชิญปัญหาเศรษฐกิจอย่างหนักและผู้เป็นแม่ตัดสินใจฆ่าตัวตาย แม้จะไม่สำเร็จ หลังจากเหตุการณ์นั้น แม่ได้กลายเป็นผู้พิการที่เต็มไปด้วยบาดแผลในใจ ส่งผลกระทบไปถึงสมาชิกคนอื่น ๆ ในครอบครัวที่ต่างปวดร้าวจากการตัดสินใจครั้งนั้นไปด้วย
สิ้นเมษาฝนตกมาปรอยปรอย (2555/2012) หนุ่ม (อุเทน ศรีริวิ) เป็นหัวหน้าคนงานก่อสร้างในกรุงเทพฯ ที่เต็มไปด้วยบรรยากาศของความขัดแย้งทางการเมือง เมื่อหนุ่มตกงาน เขาจึงถือโอกาสเดินทางกลับบ้านที่จังหวัดขอนแก่นในช่วงเทศกาลสงกรานต์เพื่อไปงานแต่งงานของเพื่อนสมัยเรียน ที่นั่น หนุ่มได้พบกับ จอย (จิณณพัต ลดารัตน์) หญิงสาวรุ่นพี่สมัยมัธยมที่หนุ่มเคยชอบ ทั้งคู่จึงแลกเบอร์โทรศัพท์เพื่อสานต่อความสัมพันธ์ ทำให้มีโอกาสได้พูดคุยกันเรื่องวิถีแห่งความสุขของ อัลแบร์ กามูส์ และหนุ่มก็เปิดใจว่าเขาอยากจะสร้างภาพยนตร์สักครั้ง ทันใดนั้น เรื่องราวก็เปลี่ยนทิศทางไปอย่างกระทันหัน เมื่อคุณพ่อและพี่ชายของผู้กำกับ วิชชานนท์ สมอุ่มจารย์ ปรากฏตัวขึ้น เปิดเผยเรื่องราวของครอบครัวและชีวิตการสร้างภาพยนตร์ ทำให้รับรู้ว่าหนุ่มเป็นเพียงตัวละครที่ถูกสร้างขึ้นมาจากเศษเสี้ยวของความทรงจำ นำไปสู่การสำรวจเส้นทางชีวิตของชายหนุ่ม คนที่คดเคี้ยวราวกับเขาวงกตแห่งความเป็นจริงและจินตนาการ สารคดีและเรื่องแต่ง ภาพอดีตและปัจจุบัน ซึ่งไม่ได้เป็นภาพสะท้อนของตัวละครเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงสังคมไทยในภาพรวมอีกด้วย
ไม่เชื่อน้ำมนต์หมอผี 2470

เรื่องย่อ : ไม่เชื่อน้ำมนต์หมอผี (2470/1927) ไม่เชื่อน้ำมนต์หมอผี เล่าถึงครอบครัวหนึ่งซึ่งอาศัยอยู่ทางจังหวัดธนบุรีตอนเหนือ ตั้งแต่พ่อสมบุญ จิตต์กระด้างยังเชื่อน้ำมนต์หมอผี จนกระทั่งไม่เชื่อน้ำมนต์หมอผี เรื่องมีอยู่ว่า พ่อสมบุญป่วยเรื้อรังเป็นเวลานาน ไม่ยอมทานยารักษาโรคแผนปัจจุบันใดๆ เพราะพ่อสมบุญมีความเชื่อว่าอาการของแกจะทุเลาลงได้ ก็ต่อเมื่อได้รับการเสกเป่าน้ำมนต์เท่านั้น วันหนึ่ง พ่อสมบุญได้ยินกิตติศัพท์ของหมอดั่น ว่าสามารถรักษาผู้เจ็บป่วยหรือถูกผีเข้าได้ พ่อสมบุญจึงให้ลูกชายชื่อ นายสุพินธ์ ไปเชิญหมอดั่นมาตรวจอาการ ก่อนเริ่มพิธี หมอดั่นขอเงินค่าไหว้ครูเป็นเงิน 5 บาทแล้วจึงลงมือปลุกเสกน้ำมนต์ แต่อาการของพ่อสมบุญก็ไม่มีทีท่าจะดีขึ้น จนกระทั่ง แกคิดว่าจะต้องสิ้นชีวิตแน่จึงแจกเงินให้ลูกคนละ 1 บาท เพื่อไปทำบุญอย่างใดอย่างหนึ่งตามที่ตนชอบแล้วให้แผ่กุศลมาให้แก นายสุพินธ์นำเงินไปซื้ออ้อยให้ช้างกิน นายโสพิตร์ให้ทานคนพิการ 10 คน คนละ 10 สตางค์นางสาวสนองบริจาคเงิน 1 บาท แก่สภากาชาดสยามปรากฏว่า พ่อสมบุญเห็นดีงามกับการทำบุญของนางสาวสนอง เพราะยังประโยชน์แก่คนหมู่มาก จึงขอให้ลูกทั้งสามพาไปรักษาที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ แพทย์ตรวจพบว่าพ่อสมบุญเป็นโรคลำไส้พิการ ไม่ใช่ถูกคุณไสยแต่อย่างใด อาการป่วยของพ่อสมบุญค่อยๆ หายเป็นปรกติ ทำให้เขาเลื่อมใสในวิธีการแพทย์แผนปัจจุบันเป็นอันมาก ต่อมา หมอดั่นบังเอิญผ่านมาหน้าบ้านพ่อสมบุญ เห็นพ่อสมบุญแข็งแรงดีก็คุยโวโอ้อวดสรรพคุณของตน พ่อสมบุญจึงไล่ตะเพิดพร้อมกับตะโกนว่า "ไอ้เรื่องวิธีรักษาของแกอย่างบ้าๆ ฉันไม่ขอพบขอเห็นอีกแล้ว"

กำลังแสดงผลลัพธ์ทั้งหมด 8 รายการ