ดอยบอย 2566

เรื่องย่อ : Doi Boy ดอยบอย (2566/2023) เรื่องราวของ “ศร” (รับบทโดย อัด-อวัช รัตนปิณฑะ) เด็กหนุ่มที่ลี้ภัยเข้าประเทศไทยอย่างผิดกฎหมาย และทำงานค้าประเวณีในบาร์เกย์ที่จังหวัดเชียงใหม่ ชีวิตของเขาเริ่มสั่นคลอนเมื่อเกิดการระบาดใหญ่ของโควิด-19 บาร์ที่เขาทำงานประจำจึงต้องปิดตัวลง ศรต้องกระเสือกกระสนดิ้นรนหารายได้ทางอื่นเพิ่มท่ามกลางอุปสรรคนานัปการ หนึ่งในนั้นคือการที่เขาไม่มีพาสปอร์ตเข้าประเทศอย่างถูกกฎหมาย ทำให้ศรแทบหางานทำเพื่อประทังชีวิตไม่ได้ ขณะที่เงินเก็บก็เริ่มร่อยหรอลงทุกที หากแต่จุดเปลี่ยนก็มาถึง เมื่อ “จิ” (รับบทโดย เป้-อารักษ์ อมรศุภศิริ) ลูกค้าประจำของศร ออกปากให้ศรช่วยทำภารกิจหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับ “วุธ” (รับบทโดย เอม ถาวรศิริ) นักกิจกรรมที่ทางการกำลังตามล่าตัว ท่ามกลางความขัดแย้งทางการเมืองอันแสนระอุที่ก่อตัวขึ้นในประเทศ ตลอดจนข่าวคราวการหายตัวไปอย่างลึกลับของนักกิจกรรมคนอื่นๆ ชีวิตที่เลือกไม่ได้ บีบให้ศรไม่มีทางเลือกอีกครั้ง และการตัดสินใจในครั้งนี้ยังส่งผลให้ชีวิตของคนทั้งสามพลิกผันไปตลอดกาล (ที่มา : about.netflix.com)

4Kings อาชีวะ ยุค 90 (2564/2021) จากเหตุการณ์จริงของเรื่องราวความขัดแย้งระหว่างนักเรียนช่างต่างสถาบัน สู่ภาพยนตร์ที่ถ่ายทอดบทเรียนชีวิตที่พวกเขาได้พบเจอ เมื่อความคึกคะนองในช่วงวัย สร้างมิตรภาพ และศัตรูมาพร้อมกัน เรื่องราวของกลุ่มวัยรุ่นอาชีวะต่างสถาบันที่่ต่างเป็นอริกัน นำโดย "บิลลี่" (อิชณน์กร พึ่งเกียรติรัศมี) และ "ดา" (อารักษ์ อมรศุภศิริ) แห่งอินทรอาชีวะ ที่ต้องห้ำหั่นกับคู่ปรับตัวฉกาจอย่าง เทคโนโลยีประชาชลที่มี "มด" (อัครินทร์ อัครนิธิเมธรัฐ) และ "โอ๋" (ณัฏฐ์ กิจจริต) เป็นหัวโจก ร่วมด้วยสองสถาบันสุดแสบอย่าง กนกอาชีวะ และช่างกลบุรณพนธ์ ความสัมพันธ์ของพวกเขาบ้างเป็นศัตรูที่อยู่ร่วมโลกไม่ได้ บ้างเป็นศัตรูที่ยอมรับให้เกียรติกัน บ้างก็เป็นมิตรที่อยู่คนละขั้วและต้องเลือกอยู่เสมอว่าระหว่างสถาบันกับเพื่อนว่าน้ำหนักสิ่งไหนสูงกว่ากัน เรื่องความสัมพันธ์ของกลุ่มเด็กวัยรุ่นอาชีวะจาก 4 สถาบัน ได้แก่ กนกอาชีวะ, ช่างกลบูรณพนธ์, เทคโนโลยีประชาชล และอินทรอาชีวะศึกษา ผ่านตัวละคร บิลลี่ อดีตเด็กอาชีวะที่ตอนนี้ผันตัวมาเป็นคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว บิลลี่ มีลูกสาวหนึ่งคน แม้ความสัมพันธ์ของเขาและลูกสาวไม่ค่อยดีนัก แต่เมื่อลูกสาวประสบอุบัติเหตุจากเหตุการณ์เด็กอาชีวะตีกัน ก็ทำให้บิลลี่นึกย้อนกลับไปถึงช่วงสมัยที่เขาเป็นวัยรุ่น ซึ่งเป็นยุคที่สังคมมองว่าเด็กอาชีวะล้วนเกเรและไม่มีอนาคต เพราะพฤติกรรมที่ขอบยกพวกตีกันจนได้ออกข่าวด้วยกันไม่เว้นวัน บิลลี่ได้รับความกดดันจากครอบครัว เนื่องจากแม่แต่งงานใหม่ และดูเหมือนพ่อเลี้ยงจะไม่ชอบเขาเท่าไรนัก เมื่อเขาไม่ได้รับการยอมรับจากครอบครัว เขาก็ต้องหาสิ่งเติมเต็มจากทางอื่น นั่นก็คือเพื่อน เพื่อนจึงเป็นสิ่งสำคัญเดียวในชีวิตที่เขาต้องรักษา ต้องปกป้อง ส่งผลให้บิลลี่ต้องเผชิญหน้ากับความขัดแย้งต่างๆ และความสูญเสียที่ถือเป็นตราบาปในใจ และเป็นบทเรียนชีวิตราคาแพงที่เขาต้องชดใช้
Nemesis คืนยุติ-ธรรม (2563/2020) มานพ (จิรายุ ตันตระกูล) ชายหนุ่มผู้มีอนาคตอันสดใสทั้งเรื่องการงานและความรัก และกำลังจะแต่งงานกับ "ดวงใจ" แต่อนาคตของเขากลับต้องพังทลาย เมื่อ ดวงใจ โดนเจ้านายที่ชื่อ สิทธิชน (เกียรติ กิจเจริญ) ข่มขืน ทำให้ มานพ โกรธแค้นจึงไปทำร้าย สิทธิชน ที่บริษัท นำไปสู่เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด เมื่อ สิทธิชน พลั้งมือยิง ดวงใจ ตาย ส่วน มานพ ได้รับบาดเจ็บสาหัส และตื่นขึ้นมาพร้อมตกเป็นผู้เป็นต้องหาในคดีฆ่าภรรยาตัวเองจนเขาต้องติดคุก หลังจากออกจากคุกเขาได้พบกับ กานดา (รามาวดี นาคฉัตรีย์) จิตแพทย์สาวที่อาสาเข้ามาเยียวยาอาการป่วยทางจิตใจของเขา แต่แล้วเมื่อเวลาผ่านไปเธอกลับค้นพบ มานพ อีกคนที่เธอไม่รู้จัก ที่ลุกขึ้นมาตั้งตนเป็นศาลเตี้ยทวงความยุติธรรมแก่สังคมด้วยความรุนแรงในทุกค่ำคืน ยิ่งค่ำคืนล่วงเลยความรุนแรงก็ทวีความโหดเหี้ยมจนกลายเป็นการนองเลือด และนำไปสู่ความจริงปริศนาที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ทั้งหมด มานพ ชายหนุ่มผู้มีอนาคตอันสดใสทั้งเรื่องงานและความรัก กำลังจะแต่งงานกับ ดวงใจ แต่ความฝันกลับต้องพังทลาย เมื่อดวงใจโดนเจ้านายที่ชื่อ สิทธิชน ข่มขืน ทำให้มานพโกรธแค้นไปทำร้ายสิทธิชนที่บริษัท นำไปสู่เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเมื่อสิทธิชนพลั้งมือยิงดวงใจตาย ส่วนมานพได้รับบาดเจ็บสาหัส และตื่นขึ้นมาตกเป็นผู้เป็นต้องหาในคดีฆ่าภรรยาตัวเองจนต้องติดคุก
โจรปล้นโจร the EXChange (2562/2019) ปิดหน้า เปลี่ยนลุค จับปืน วางแผนจารกรรมในร้านแลกเงิน ...เรื่องราวของ "โจ" (เป้ อารักษ์) และ "เมย์" (คิทตี้ ชิชา) กำลังจนตรอกเมื่อโจป่วยเป็นเนื้องอกในสมอง เมย์นำเงินที่แม่ของเธอทิ้งไว้ให้ไปแลกที่ร้าน The Exchange แต่กลับกลายเป็นว่าเงินเหล่านั้น กลายเป็นเงินสกุลที่เลิกใช้ไปแล้ว ทั้งคู่ถูกผู้จัดการร้านสบประมาท นั่นก็เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้เมย์เริ่มวางแผนปล้นร้านแลกเงิน แม้โจจะไม่เห็นด้วยแต่ด้วยความเป็นห่วงเมย์ เขาก็ไม่อาจจะปล่อยให้เมย์ทำเรื่องนี้คนเดียวได้ ทั้งคู่ตัดสินใจปล้น ทว่าเมื่อถึงวันที่ลงมือกลับกลายเป็นว่ามีกลุ่มโจรอีกกลุ่มบุกเข้ามาและจับพนักงานร้าน ลูกค้า รวมถึงโจและเมย์เป็นตัวประกัน กลุ่มโจรบอกว่าต้องการแค่เงิน และจะไม่ทำร้ายใคร แต่คำพูดเหล่านั้นจะเชื่อได้จริงหรือ โจต้องการจะหนีออกจากสถานการณ์นี้ แต่เมย์กลับมองเห็นช่องทางที่จะขโมยเงินต่อจากโจรอีกทีในพื้นที่ปิดตาย ที่คน 13 คนติดอยู่ด้วยกันนั้นไม่อาจตอบได้ว่าสุดท้าย ใครจะเป็นคนที่อันตรายที่สุด
แซ้ป แสบโลกแตก (2560/2017) เมื่อพวกอัธพาลฆ่าแม่ หนุ่มวัยรุ่นเชียงใหม่จึงตัดสินใจเข้าร่วมแก๊งฝ่ายตรงข้ามเพราะหวังจะแก้แค้น
พระมหาชนก 2557

เรื่องย่อ: พระมหาชนก The Story of MAHAJANAKA (2557/2014) "องก์ ๑ กำเนิด" พระเจ้ามหาชนกฯ ผู้ครองกรุงมิถิลาแห่งแคว้นวิเทหะที่มีอาณาเขตกว้างใหญ่ไพศาล ทรงมีพระโอรส 2 พระองค์ พระองค์แรกทรงมีพระนามว่าพระอริฏฐชนกผู้ทรงมีความเข็มแข็งเฉียบขาด ส่วนองค์ที่สองทรงพระนามว่าพระโปลชนกผู้ทรงมีพระทัยเมตตาโอบอ้อมอารี ครั้น พระเจ้ามหาชนกฯ ทรงสวรรคต พระอริฏฐชนก ทรงขึ้นครองราชย์โดยมี พระโปลชนก เป็นอุปราช ทั้ง 2 พระองค์มีความคิดเห็นในการปกครองที่แตกต่างกัน พระอริฏฐชนก ทรงเห็นว่าอาณาจักรมิถิลาจะต้องยิ่งใหญ่ภายใต้กองทัพที่เข้มแข็ง ส่วน พระโปลชนก ทรงเห็นว่าต้องไม่ลืมจิตใจที่เปี่ยมสุขของประชาชนด้วย ในเวลาต่อมามีอำมาตย์ผู้ใกล้ชิดที่ทุตจริตได้ออกอุบายใส่ความว่า พระโปลชนก กำลังซ่องสุมผู้คนเพื่อก่อการกบฎ พระองค์จึงถูกจับไปขังไว้ แต่พระองค์ทรงตั้งจิตอธิฐานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์จนสามารถหลบหนีออกมาพร้อมผู้จงรักภักดีและได้ไปพำนักอยู่ ณ เมืองชายแดน จนกระทั่งวันหนึ่ง พระโปลชนก ได้นำทัพกลับมามิถิลาเพื่อหวังจะขอปรับความเข้าใจกับ พระอริฏฐชนก จึงส่งสาส์นเพื่อแสดงเจตนาขอปรับความเข้าใจกัน แต่ถูกขัดขวางจากอำมาตย์ผู้นั้นด้วยการปลอมแปลงข้อความในสาส์นให้เป็นสาส์นท้ารบขณะเดียวกันพระอริฏฐชนทรงเป็นห่วงพระเทวี มเหสีของพระองค์ที่กำลังทรงครรภ์อยู่ จึงได้ให้หลบหนีออกไปจากวังเสีย ในสนามรบ พระอริฏฐชนก ทรงสิ้นพระชนม์จากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจากฝีมือของอำมาตย์ผู้นั้น หลังจากนั้น พระโปลชนก จึงทรงขึ้นครองราชย์สืบต่อแทน พระเทวี ทรงหนีออกจากเมืองมิถิลาอย่างยากลำบาก แต่ด้วยบุญญาธิการของพระโอรสในครรภ์จึงทำให้ทรงได้รับความช่วยเหลือจากท้าวสักกเทวราชที่ช่วยให้พระองค์สามารถหลบหนีไปถึงเมืองจัมปากะได้ ณ ที่นี้ พระเทวี ได้ทรงรับความช่วยเหลือจากอุทิจจพราหมณ์ โดยอุปการะรับ พระเทวี เป็นน้องสาว ต่อมาพระโอรสในครรภ์ทรงประสูติกาล โดยมีพระนามตามพระอัยยิกาว่า พระมหาชนกกุมาร "องก์ ๒ ความเพียร" เมื่อพระโอรสทรงเจริญวัยได้ถูกเพื่อน ๆ ล้อว่าเป็นลูกหญิงหม้ายพระมารดาจึงเล่าความจริงให้ทราบว่าพระองค์เป็นใคร พระองค์จึงตั้งพระทัยว่าเมื่อเติบใหญ่แล้วจะไปเอาราชสมบัติและนครมิถิลาคืนมาให้ได้ครั้นเมื่อ พระมหาชนกกุมาร ทรงเจริญวัยเติบใหญ่เปี่ยมไปด้วยพระปรีชาสามารถ พระองค์ทรงตรัสกับพระมารดาว่าจะไปล่องเรือทำการค้าขายที่ดินแดนสุวรรณภูมิ เพื่อสะสมทุนรอนและกำลังพลเพื่อหวังที่จะชิงราชสมบัติคืนมาให้ได้ ระหว่างทางในมหาสมุทร พระมหาชนก ได้มองเห็นว่าจะเกิดพายุขึ้น แต่ไม่มีใครเชื่อจนกระทั่งพายุกระหน่ำเรืออย่างรุนแรง บรรดาลูกเรือทั้งหลายหวาดกลัวคร่ำครวญหนีตายกันอย่างโกลาหล ตรงกันข้ามกับ พระมหาชนก ที่ทรงตระหนักว่าเรือใกล้จะแตกเต็มที จึงเตรียมพระองค์โดยทรงเสวยให้อิ่ม และนำผ้าชุบน้ำมันมาพันกายให้แน่นหนา เมื่อเรือล่มเหล่าบรรดาลูกเรือที่ขาดสติและเดิมไม่เชื่อในสิ่งที่พระมหาชนกได้เตือนเกี่ยวกับพายุได้ตกน้ำกลายเป็นอาหารของฝูงปลาและสัตว์ทะเลทั้งหลาย ส่วน พระมหาชนก ก็ทรงแหวกว่ายด้วยความเพียรอยู่ในมหาสมุทรนี้เป็นเวลาถึง 7 วัน 7 คืน นางมณีเมขลา เทพธิดาผู้รักษาท้องมหาสมุทรเห็น พระมหาชนก ว่ายน้ำอยู่จึงลงมาช่วย พระมหาชนก และได้มีโอกาสสนทนาแลกเปลี่ยนความเห็น จนทำให้ นางมณีเมขลา เข้าใจถึงหลักปรัชญาของการบำเพ็ญวิริยบารมีของ พระมหาชนก จากนั้น นางมณีเมขลา จึงช่วยอุ้ม พระมหาชนก จนมาถึงฝั่งเมืองมิถิลา "องก์ ๓ ปัญญา" ที่เมืองมิถิลานี้ พระโปลชนก กำลังทรงพระประชวรอย่างหนักพระองค์ต้องการให้พระธิดาคือ พระนางสิวลีเทวี ได้ทรงมีคู่ครอง โดยได้ทรงตรัสทิ้งไว้ก่อนสิ้นพระชนม์ว่าผู้ใดไขปริศนาของพระองค์ได้จะทรงยกพระราชสมบัติทั้งหมดให้พร้อมด้วยพระราชธิดา เมื่อ พระโปลชนก สิ้นพระชนม์ลงเหล่าอำมาตย์ได้จัดพิธีเสี่ยงราชรถเพื่อหาผู้มีบุญญาบารมีมาไขปริศนานั้น ราชรถได้มาหยุดที่ พระมหาชนก ผู้ซึ่งทรงบรรทมอยู่ในสวนพระองค์ทรงไขปริศนาได้หมดทุกข้อ ทุกคนในเมืองมิถิลาต่างพากันสรรเสริญในพระปรีชาสามารถของพระองค์ จึงได้อัญเชิญพระองค์ให้ทรงอภิเษกกับ พระนางสิวลีเทวี เมื่อขึ้นครองราชย์ได้ทรงปกครองด้วยหลักทศพิธราชธรรมและนำพาความผาสุกมาสู่ปวงประชาชน วันหนึ่ง พระมหาชนก เสด็จประพาสอุทยานและทรงทอดพระเนตรเห็นต้นมะม่วงต้นหนึ่งมีผลงามและอีกต้นหนึ่งไม่มีผลเลย พระองค์ทรงเสวยมะม่วง และตรัสว่ามะม่วงรสชาติดีดุจรสทิพย์ หลังจากพระองค์เสด็จกลับบรรดาประชาชนทั้งหลายก็เข้ามาโค่นต้นมะม่วงต้นนั้นเพื่อหวังจะเอาผลของมันมาบริโภค จนเป็นเหตุทำให้ต้นมะม่วงต้นนั้นถูกถอนรากโค่นลงมา เมื่อ พระมหาชนก ทรงทราบความ ทรงเศร้าพระทัยอย่างยิ่ง พร้อมกันนั้นทรงได้เปรียบเปรยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแก่ต้นมะม่วงกับพระราชสมบัติดังนี้ ต้นมะม่วงที่มีผลอาจจะถูกทำลายหรือถ้าไม่ถูกทำลายก็ต้องคอยเป็นกังวลจักต้องดูแลระแวดระวังรักษาไว้ ในทางกลับกันพระองค์ทรงคิดว่าถ้าจะเข้าถึงความสุขได้นั้นจักต้องทำตัวให้เป็นเสมือนเช่นต้นมะม่วงที่ไม่มีผล ที่ไม่ต้องกังวลว่าผู้คนในสังคมที่ไม่รู้จักคิดการณ์ไกลในการทำนุบำรุงต้นไม้เพื่อเก็บผลไว้กินในวันหน้า จะมาโค่นต้นมะม่วงนี้ได้ หลังจากนั้นจึงมอบหมายให้ผู้เชี่ยวชาญนำหลักการของพระองค์ไปทดลองเพื่อฟื้นฟูต้นมะม่วงที่ถูกโค่นลงและหาวิธีการที่ทำให้ต้นมะม่วงที่ไร้ผลกลับมาเกิดผล พร้อมกันนั้นพระองค์ทรงมีพระราชดำริให้จัดตั้งสถาบันการศึกษาขึ้นชื่อว่าปูทะเลย์วิชชาลัย เพื่ออบรมวิชาการด้านต่าง ๆ แก่บรรดาเหล่าอำมาตย์ข้าราชการและประชาชนในเมืองมิถิลา เพื่อที่ทุกคนจะได้มีวิชาความรู้ทั่วไป และมีสามัญสำนึกไม่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวแฉกเช่นเหล่าคนที่ชอบกินผลมะม่วงแต่กลับทำลายต้นมะม่วงทิ้งไป และเพื่อสังคมจะได้เจริญรุ่งเรืองและอยู่กันอย่างผาสุกสืบต่อไปกาลนานเทอญ

ต้มยำกุ้ง 2 (2556)

ต้มยำกุ้ง 2 3D (2556/2013) เมื่อสาเหตุการฆาตกรรม เสี่ยสุชาติ เจ้าของปางช้างผู้กว้างขวาง คือการถูกกระแทกเข้าอย่างจังในจุดตาย 3 แห่งโดยผู้เชี่ยวชาญด้านการต่อสู้ หลักฐานทั้งหมดบ่งชี้มัดตัว ไอ้ขาม เนื่องจากเขาเป็นคนสุดท้ายที่ถูกพบอยู่ในที่เกิดเหตุกับผู้ตาย ขามจึงต้องหลบหนีจากการจับกุมและการตามล่าเพื่อทวงแค้นจาก ปิงปิง-ซือซือ หลานสาวฝาแฝดของเสี่ยสุชาติ แต่โชคยังเข้าข้างเมื่อระหว่างการหลบหนี ขามได้รับการช่วยเหลือจาก จ่ามาร์ค ตำรวจสากลที่ถูกส่งมาจากซิดนีย์เพื่อจัดการภารกิจบางอย่าง ขามหนีการตามล่าพร้อมกับการตามหา ขอน ช้างตัวเดียวที่เป็นเสมือนทั้งเพื่อนและพี่น้องที่ถูกขโมยไปเมื่อหลายวันก่อน ยิ่งหนีขามก็ยิ่งต้องเข้าไปพัวพันกับองค์กรลึกลับที่ถูกควบคุมโดย แอล ซี นายใหญ่ผู้คลั่งไคล้การสะสมนักสู้จากทั่วโลกอย่างลับๆ ทำให้เหล่านักสู้ที่ถูกตีตราด้วยตัวเลข ไม่ว่าจะเป็น ทเวนตี้ หรือ Number 2 ล้วนแต่มีเป้าหมายอยู่ที่การจัดการไอ้ขามเพื่อวัตถุประสงค์บางอย่างของนายใหญ่

อุโมงค์ผาเมือง (2554/2011) ปีพุทธศักราช 2110 ณ นครผาเมืองแห่งอาณาจักรเชียงแสนอันรุ่งเรือง วันหนึ่งหลังจากเกิดวิบัติการณ์ครั้งยิ่งใหญ่ทั้งอัคคีภัยครั้งใหญ่หลวง แผ่นดินไหวอันรุนแรง และโรคร้ายระบาดคร่าชีวิตประชาชนไปกว่าครึ่งนคร ก็เกิดคดีฆาตกรรมปริศนาที่น่าสะพรึงกลัวและซับซ้อนซ่อนเงื่อนสุดที่จะค้นหาความจริงได้ โจรป่าสิงห์คำ (ดอม เหตระกูล) ผู้โหดร้ายที่สุดในแผ่นดินถูกจับได้ในคดีฆาตกรรม ขุนศึกเจ้าหล้าฟ้า (อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม) และข่มขืน แม่หญิงคำแก้ว (เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์) ภรรยาของขุนศึกในป่านอกเมือง ขณะที่สองสามีภรรยาเดินทางออกจากเมืองเพื่อไปเยี่ยมญาติที่นครเชียงคำ จากคำให้การของ โจรป่า และ แม่หญิง สร้างความปั่นป่วนและพิศวงงงงวยให้แก่ เจ้าผู้ครองนคร (ศักราช ฤกษ์ธำรงค์) และประชาชนผู้มาฟังคำให้การเป็นอย่างยิ่ง เพราะทั้งคู่ต่างยอมรับอย่างหน้าชื่นตาบานว่าตนเองเป็นผู้ฆ่าขุนศึก เจ้าหลวงจึงเรียก ผีมด-ร่างทรง (รัดเกล้า อามระดิษ) มาเข้าทรงดวงวิญญาณของขุนศึกเพื่อค้นหาความจริง แต่แล้ววิญญาณของขุนศึกกลับให้การผ่านร่างทรงว่า ตนต่างหากที่ฆ่าตัวตายเอง! เหตุการณ์ทั้งหมดถูกถ่ายทอดผ่านการพบเห็นและสนทนาของ พระหนุ่ม (มาริโอ้ เมาเร่อ), ชายตัดฟืน (เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา) และ สัปเหร่อ (พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง) ภายในอุโมงค์ผีที่ผาเมือง ซึ่งไม่อาจเข้าใจได้เลยว่า เหตุใดทั้ง 3 คนจึงให้การปิดบังความจริงที่เกิดขึ้น และ ความจริงทั้งหมดคืออะไรกันแน่?
Dek Dehn เด็กเดน (2548/2005) เด็กเดน เรื่องราวของ แจ็ค (แจ๊คแฟนฉัน) นักเรียนมัธยมที่พยายามจีบหญิงจนเป็นเหตุของนักเรียนสองสถาบัน ก่อเหตุยกพวกตีกันกลางเมือง จนทำให้มีผู้บาดเจ็บ หนึ่งในนั้น คือวิว (แพททริค ชานนท์) กับน้องอิ๋ว (ณัฐกุล พิชยะพงษ์ไพบูลย์) น้องสาวสุดที่รักของชาญ(ธนากร โปษยานนท์) ได้รับบาดเจ็บจนกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา เหตุการณ์ครั้งนี้ ชาญหัวใจแทบสลาย เจ้าหน้าที่รวบตัวนักเรียนได้จำนวนหนึ่ง หนึ่งในนั้นมี แจ็ค อาจารย์ดุสิต(ทัช ณ ตะกั่วทุ่ง) และวณิพก(ใหม่ วงไอน้ำ) ติดร่างแหไปด้วย ทุกคนจึงโดนส่งไปฝึกอบรมในโครงการบุรุษอาชีวะ ในค่ายทหารแห่งหนึ่งในภาคใต้ ซึ่งมีผู้กองอภิวัฒน์( ปั๋ง ประกาศิต) จ่าสมหมาย (ฐิติ พุ่มอ่อน) จ่าชะเอม (ทวีศักดิ์ นกเทศ) จ่าสมร (อุบลวรรณ บุญรอด) เป็นครูฝึก แต่แจ็ค อาจารย์ดุสิตและวณิพก และหัวโจกสองสถาบันนำโดย ขิง (หลุยส์ สก๊อตต์)และแว่น (นันทศัย พิศยบุตร)กับพวกแว่น (นันทศัย พิศยบุตร)วางแผนหนีออกจากค่ายแม้จะพ้นออกมาได้แต่ต้องไปอยู่ในเหตุการณ์สมรภูมินองเลือดอีก และจะเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขาอีก
ต้มยำกุ้ง (2548)

The Protector ต้มยำกุ้ง (2548/2005) การเดินทางข้ามโลกของ “ขาม” (จา พนม ยีรัมย์) เด็กหนุ่มบ้านป่าที่ชีวิตต้องพลิกผันโดยเงื้อมมือของผู้มีอิทธิพลระดับประเทศที่ลักพาช้างพลายสองพ่อลูก ซึ่งเด็กหนุ่มและ “พ่อของขาม” (โสรธร รุ่งเรือง) เขารักดั่งชีวิต และมีความมุ่งหมายอันสูงสุดที่จะมอบเป็นคชบาทแด่ในหลวง ไปขาย ณ ประเทศออสเตรเลีย ทางเดียวที่จะช่วยเหลือและรักษาชีวิตของช้างอันเป็นที่รักของเขาได้ นั่นก็คือ การบุกตะลุยถึงถิ่นเสือ โดยการเดินทางข้ามโลก เรื่องไม่ง่ายอย่างใจคิด แม้เขาจะได้รับความช่วยเหลือจาก “จ่ามาร์ค” (หม่ำ จ๊กมก) นายตำรวจไทยและ “ปลา” (บงกช คงมาลัย) สาวไทยที่ถูกหลอกมาขายตัวในซิดนีย์ก็ตาม แต่ที่นั่น เขากลับต้องไปพัวพันกับการไล่ล่าของแก๊งมาเฟียที่นำโดย “มาดามโรส” (จิน ซิง) ที่มีลูกสมุนต่างชาติที่เต็มไปด้วยฝีมือทางการต่อสู้อย่าง “จอห์นนี่” (จอห์นนี่ เหงียน) และ “ทีเค” (นาธาน โจนส์) พร้อมลูกสมุนย่อยที่มีฝีไม้ลายมือทางการต่อสู้เหลือรับอย่าง “คาโปเอร่า” (ลาธีฟ คราวเดอร์) และ “วูซู” (จอน ฟู) อย่างไม่ได้ตั้งใจ ณ วินาทีนี้ การต่อสู้ข้ามชาติเพื่อเอาชีวิตรอดของเด็กหนุ่มและเพื่อนพ้อง ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว เพื่อตามหาและช่วยเหลือ พ่อใหญ่ และ ขอน ช้างพ่อลูก ที่เปรียบได้กับญาติพี่น้องของเขา นำไปสู่บททดสอบและการต่อสู้ครั้งสำคัญที่สุดในชีวิตของเขาให้โลกได้ล่วงรู้ถึง อานุภาพของ "ไม้มวยไทยโบราณ" ที่หนักหน่วง รุนแรง และยังไม่เคยได้รับการเปิดเผยมาก่อน โดยเฉพาะ "ตำนานมวยคชสาร"

ซุ้มมือปืน (2548/2005) “ซุ้มมือปืน” คือเรื่องราวที่สะท้อนตัวละครที่เกี่ยวข้องในโลกอาชญากร ธุรกิจผิดกฎหมาย อำนาจและอิทธิพลมืด ตัวหนังเองไม่ได้เน้นเรื่องราวไปที่ตัวของมือปืนอย่างเดียว แต่โยงใยไปถึงระบบหรือตัวคนที่เกี่ยวข้องซึ่งล้วนหลากสีสันอาชีพไม่ว่าจะเป็นมือปืนรับจ้าง เจ้าพ่อหรือผู้มีอิทธิพล นักการเมือง และพวกในเครื่องแบบนอกรีตและแตกแถวในสังคมไทย หนังเล่าเรื่องผ่าน “สหายแทนไท” (ฉัตรชัย เปล่งพานิช) มือปืนรับจ้างอดีตสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ที่ผ่านสมรภูมิรบมานักต่อนักจนว่ากันว่าเป็นมือปืนระดับพระกาฬที่หาตัวจับยาก เป้าหมายของเขาแต่ละรายล้วนเป็นผู้มีอิทธิพลในสังคม โดยที่หลายคนอาจไม่เคยคาดขึ้นว่าบ่อยครั้งที่จุดเริ่มต้นของความสูญเสียเลือดเนื้ออาจเกิดจากปมความขัดแย้งเพียงจุดเล็กๆ ที่ขยายผลไปสู่วงกว้างของผู้คนหลากรายระดับชั้นในสังคม ดังเช่นที่กำลังเกิดขึ้นในครั้งนี้ที่เริ่มต้นจากการไม่ลงรอยในเส้นทางธุรกิจระหว่าง “กำนันเบิ้ม” (ธนิตย์ จิตนุกูล) และ “หลีเม้ง” (นิรุตติ์ ศิริจรรยา) เจ้าพ่อยาเสพติดรายใหญ่ โดยมีตัวกลางคือ “ชบา” (บงกช คงมาลัย) อดีตคนรักกำนันเบิ้ม แม่ม่ายสาวที่หน้าฉากคือเจ้าของบาร์ แต่แท้จริงแล้วเบื้องหลังคือคนจัดหามือปืนให้กับผู้มีอิทธิพล ได้รับว่าจ้างให้ส่งมือปืนชั้นดีไปเก็บขาใหญ่แห่งเยาวราชอย่างหลีเม้ง อันนำไปสู่ปมแห่งความขัดแย้งระหว่างผู้มีอิทธิพลทั้งในและนอกเครื่องแบบ ซึ่งเกี่ยวพันและโยงใยไปสู่ “เสธ.สุพงศ์” (สมภพ เบญจาธิกูล) อีกหนึ่งตัวหมากสำคัญในโลกแห่งอำนาจและอิทธิพลมืด โดยมี “อิฐ อัมพวา” (ศรัณยู วงษ์กระจ่าง) อดีตทหารหนุ่มอนาคตไกลผู้ผันตัวเข้าสู่วงจรอุบาทว์ และเป็นศัตรูต่างขั้วอุดมการณ์ของสหายแทนไทมาก่อนหน้า ทุกความเคลื่อนไหวของบรรดาเจ้าพ่อทั้งหลายล้วนตกอยู่ในสายตาของ “สารวัตรชาติ” (สันติสุข พรหมศิริ) ตำรวจฝีมือดีที่มีภารกิจในการกวาดล้างงานนอกระบบทุกรูปแบบ ซึ่งเขาจะเป็นผู้ที่จัดการให้วงจรอุบาทว์เหล่านี้หมดสิ้นไปหรือเลือกที่จะให้โลกของอาชญากรรมที่เต็มไปด้วยอำนาจและเงินตราดังกล่าวคงอยู่ และนี่คือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวของ “ซุ้มมือปืน” ที่ไม่ว่าคุณจะเป็นใครหรืออยู่ชนชั้นใดของสังคมก็ไม่มีสิทธิ์หลีกเลี่ยงวงจรดังกล่าวที่ค่อยๆ คืบคลานเข้าสู่วิธีแห่งการดำรงอยู่ของคุณโดยไม่รู้ตัวดังเช่นที่เกิดขึ้นกับ “ไอ้น้อย” (ปิติศักดิ์ เยาวนานนท์) เด็กหนุ่มนักดนตรีที่ชะตากรรมต้องกับเลือดและความตาย…
ซี-อุย (2547/2004) ปีพุทธศักราช 2489 หนุ่มชาวจีนแผ่นดินใหญ่ ลี่ฮุย หรือ ซีอุย ดั้นด้นข้ามน้ำข้ามทะเลมาแผ่นดินไทยเพื่อแสวงหาชีวิตที่ดีกว่า พร้อมมีดเล่มเดียวที่มารดามอบให้เป็นสมบัติติดตัว แต่เมื่อมาถึงทุกอย่างกลับไม่เป็นอย่างที่คิด เขาโดนรังแกถูกเหยียดหยามจากคนรอบข้าง เขาพยายามดิ้นรนทุกวิถีทางเพื่อความอยู่รอด จนเขาเริ่มล้มป่วย คิดถึงแม่ เวลาเดียวกัน สัญชาติญาณความอยู่รอดก็เริ่มบีบบังคับเขามากยิ่งขึ้น เขาเริ่มฆ่าเด็ก ควักหัวใจ และตับออกมาเพราะความเชื่อว่าตับและหัวใจเด็กจะทำให้เขารู้สึกแข็งแรงขึ้น และเมื่อใดที่เขารู้สึกอ่อนแอ เขาจะฆ่าและฆ่าอีก เพื่อให้ตนเองพ้นจากความอ่อนแออีกครั้ง เมื่อเหตุการณ์ดำเนินมาถึงทางตันเขาถูกจับได้และยอมรับสารภาพในการกระทำที่เขาทำ เขาถูกตัดสินประหารชีวิต สังคมเริ่มกลับมาสู่ความปลอดภัยอีกครั้ง แต่ทำไมยังคงมีเด็กหายและถูกฆ่าอีก หรือซีอุยที่ตายไปนั้นเป็น…?
สายล่อฟ้า (2547/2004) ไอ้ตุ่น (โหน่ง ชะชะช่า) กับ ไอ้เต่า (เต๋า - สมชาย เข็มกลัด) เป็นเพื่อนคู่ซี้คู่ฮาประจำหาดพัทยา ไอ้ตุ่นเป็นเซียนพระที่ได้มรดกกิจการมาจากเซียนต่ายพ่อมัน ส่วนไอ้เต่าเป็นเซียนบอลที่คลั่งไคล้เพลง "สายล่อฟ้า" ของพี่ป้อม-อัสนี เข้าไส้ ไปคาราโอเกะทีไร มันแหกปากร้องเพลงนี้จนหวิดหัวแตกมาแล้วหลายเที่ยว คืนหนึ่งที่บาร์คาราโอเกะไอ้ตุ่น ไปตกหลุมรักสาวนางหนึ่งเข้าโดยไม่รู้เลยว่า น้องนก (เมย์ - พิชญ์นาฏ สาขากร) เป็นเด็กของ กำนันหมู (เล็ก - สมชาย ศักดิกุล) มาเฟียใหญ่ของพัทยา ที่ไอ้เต่าเช่ามาเอาใจเพื่อน หลังจากคืนแห่งความทรงจำ น้องนกก็หายตัวไป ไอ้ตุ่นพยายามตามหาจนถูก อีปลา (น็อต - อนุชา ฉัตรแก้ว) กะเทยแม่เล้าหลอกฟันเงินไปแสนหนึ่ง ร้อนถึงไอ้เต่าที่กำลังอยากจะยืมเงินเพื่อน ไปคืนหนี้โต๊ะบอลอยู่พอดีต้องไปทวงให้ อีปลาขอใช้คืนเป็นโคเคน โดยเอาไปขายให้ เฮียหมา (หม่ำ มกจ๊ก) แต่ด้วยความซื่อผสมความเซ่อ ไอ้เต่ากลับโดนเฮียหมาต้มซ้ำเข้าไปอีก เมื่อเข้าตาจนไอ้เต่าจึงไปดักจับ น้องหนู (แป้ง - อรจิรา แหลมวิไล) สาวลูกครึ่งมาเรียกค่าไถ่ ข้างไอ้ตุ่นซึ่งหลงรักน้องนกหัวปักหัวปำ บ้าเลือดเข้าไปขอตัวเธอคืนจากกำนันหมู กำนันหมูยื่นข้อเสนอ ให้มันเอาเงินมาซื้อความรักในราคาสามล้าน พอดีกับที่ ผู้ใหญ่หมี (แบล็ค ผมทอง) เรียกไอ้ตุ่นไปดูพระ มันได้ทีจึงแกล้งตีเป็นของเก๊ แล้วทำเลียนแบบไปขายเองได้เงินมาสามล้าน ไอ้ตุ่นได้เงินไปไถ่ตัวนกสมใจ รวมทั้งใช้หนี้ให้ไอ้เต่าด้วย แต่อะไรจะเกิดขึ้น เมื่อผู้ใหญ่หมีรู้ความจริงว่าเสียรู้ไอ้ตุ่น และ ไมเคิล พ่อของน้องหนูที่ไอ้เต่าลักพาตัว ดันเป็นเพื่อนกับกำนันหมูอีกที ไอ้ตุ่นกับไอ้เต่าจะเอาชีวิตรอดหรือไม่ น้องนกจะซึ้งในความรักของตุ่นหรือเปล่า แล้วไอ้เต่าจะได้กลับไปครวญเพลงสายล่อฟ้าอีกหรือไม่ มีแต่ยุทธเลิศเท่านั้นที่รู้!
เกิดมาลุย (2547)

เกิดมาลุย (2547/2004) โดยเรื่องราวพูดถึงการเผชิญหน้า กับเหตุการณ์ร้ายแรงที่สุดในชีวิต ที่อยู่นอกเหนือจากความควบคุม อันนำมาซึ่งความเป็นความตายของผู้คนจำนวนมาก เมื่อตกอยู่ภายใต้การจับกลุ่มของผู้ก่อการร้าย ซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อย ที่ตั้งใจสร้างความปั่นป่วนให้กับประเทศไทย พร้อมกับชาวบ้านในหมู่บ้านแห่งหนึ่งริมชายแดน ที่พวกเขาและเธอตั้งใจนำข้าวของมาบริจาค และช่วยพัฒนาหมู่บ้าน วิธีเดียวที่จะรักษาชีวิตของพวกพ้องและชาวบ้าน คือต้องนำเอาความสามารถเฉพาะตัวทางด้านกีฬาในแต่ละประเภท มาผสมผสานในการต่อสู้ด้วยมือเปล่า โดยมีเงื่อนไขของเวลา ในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าที่เกิดขึ้นให้ได้

Macabre Case of Prompiram คืนบาป พรหมพิราม (2546/2003)  “พรหมพิราม” เป็นชื่ออำเภอเล็กๆ ในจังหวัดพิษณุโลก ศพของหญิงสาวคนหนึ่งถูกพบที่ริมทางรถไฟในอำเภอแห่งนี้ การตายของเธอคล้ายกับว่าเป็นอุบัติเหตุ แต่ท้ายที่สุดจากการสืบสวนของตำรวจถึงเหตุการณ์สืบเนืองอันน่าขยะแขยงที่ไปไกลเกินความคาดหมายก็ได้เปิดเผยออกมา พบว่าเธอชื่อ “สำเนียน” หญิงสาวชาวบ้าน ผู้ซึ่งตกเป็นเหยื่อของความหื่นของพวกผู้ชายเกือบทั้งตำบล ตอนมีชีวิตเธอเป็นคนมีสติไม่ค่อยสมประกอบ และได้ดั้นด้นออกจากภูมิลำเนาเพื่อไปหาสามีที่จังหวัดอุตรดิตถ์โดยรถไฟ แต่ถูกไล่ลงจากขบวนรถที่สถานีรถไฟ อ.พรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก เนื่องจากไม่มีเงินตีตั๋วรถไฟ แต่ไม่รู้เลยว่าจะเป็นการลงรถไฟเที่ยวสุดท้ายในชีวิต เมื่อมีคนพบศพของหญิงสาวดังกล่าวเสียชีวิตโดยปริศนาที่รางรถไฟในเวลาต่อมา เรื่องราวในภาพยนตร์จับความในวันท้ายๆ ของ “สำเนียน” เปิดเผยการตกเป็นเหยื่อที่ถูกรุมโทรมอย่างโหดร้าย เหตุการณ์สืบเนื่องที่ทำให้เธอเหมือนตกลงไปหลุมขวาก ตลอดจนการตายของเธอสะท้อนให้เห็นถึงความความเลือดเย็นที่มนุษย์กระทำต่อมนุษย์ด้วยกัน ความเสื่อมทรามในก้นบึ้งของจิตใจมนุษย์ถูกตอกย้ำให้เห็นในภาพยนตร์เรื่องนี้จะรบกวนและแม้กระทั่งท้าทายผู้ชมให้ตระหนักถึงมหันตภัยที่ผู้หญิงถูกคุกคาม เรื่องราวทั้งหมดเป็นเรื่องหนัก แต่วิธีการนำเสนอในภาพยนตร์ได้ดำเนินไปโดยอาศัยกลเม็ดที่ชวนให้ติดตามอย่างเร้าใจ การเคลือบด้วยอารมณ์ขันทำให้การชมเป็นไปด้วยความราบรื่นโดยไม่เสียประเด็นนั้นเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของภาพยนตร์เรื่องนี้ ผู้กำกับ “มานพ อุดมเดช” เลือกใช้องค์ประกอบทางด้านเทคนิคพื้นฐานของภาพยนตร์ทั้งในด้านการตัดต่อ, เทคนิคทางด้านภาพ, ดนตรีประกอบ ฯลฯ บอกเล่าเหตุการณ์อย่างมีชั้นเชิงคล้ายกับการปลอกหัวหอมที่จะนำไปสู่ใจกลางของหัวหอม ภายใต้การโปรดิวซ์โดย “ม.จ.ชาตรีเฉลิม ยุคล” ยกทีมงานผู้อยู่เบื้องหลังภาพยนตร์แห่งสยามประเทศอย่าง “สุริโยไท” มาผลิตเป็นผลงานที่น่าจับตา ซึ่งรวมถึง “ริชาร์ด ฮาร์วีย์” คอมโพสเซอร์ระดับโลก (Animal Farm, สุริโยไท) มาถ่ายทอดความรู้สึกของตัวละครและบรรยากาศที่น่าสะเทือนใจลงบนตัวโน้ตในภาพยนตร์แนวอาชญกรรมชีวิตระทึกขวัญเรื่องนี้ “สารวัตรหนุ่มใหญ่” (สมภพ เบญจาธิกุล) ที่มากด้วยไหวพริบ และ “ผู้หมวดหนุ่มหน้าใหม่” (กมล ศิริธรานนท์) ที่เพิ่งย้ายราชการมาใหม่ต้องรับผิดชอบคดีการเสียชีวิตของ “หญิงสาวไม่ทราบชื่อ” (พิมพ์พรรณ ชลายนคุปต์) เมื่อเข้าไปรับผิดชอบคดีที่ดูเหมือนเป็นการเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุ แต่พอเข้าไปใกล้รูปคดีมากยิ่งขึ้นกลับพบเงื่อนงำบางอย่างที่บ่งบอกว่านี่คือคดีฆาตกรรมที่อื้อฉาวที่สุดในประวัติศาสตร์ ซึ่งดึงเอาผู้คนหลากอาชีพหลายวัยจากชนชั้นต่างๆ ในอำเภอนั้นถึง 30 ชีวิตเข้ามาเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของหญิงสาวรายดังกล่าวภายใต้คดีฆาตกรรมข่มขืนกระทำชำเราหาใช่อุบัติเหตุอย่างที่บางคนคิด ภายใต้แรงกดดันที่ถูกเร่งเร้าจากทุกทิศทางทำให้สารวัตรต้องเร่งคลี่คลายประเด็นและสรุปรูปคดีให้เร็วที่สุด ภายใต้เส้นตายที่ถูกกำหนดและเร่งรัดจากเบื้องบน…
ส้ม+แบงค์ มือใหม่หัดขาย (2546/2003) แบงค์ (ปวริศร์ มงคลพิสิฐ) เป็นเด็กหนุ่มที่ใช้ชีวิตไปวันๆ อยู่ในแฟลตเก่าแห่งหนึ่ง กับแม่ผู้ไม่ไยดีเขานัก ทั้งคู่อยู่ร่วมกัน เหมือนต่างคนต่างอยู่ แม่ไม่เคยรู้เลยว่า ลูกชายของเธอไม่เพียงแค่ติดยา แต่เขายังขายยาเองด้วย ส้ม (วนัชดา ศิวะพรชัย) เป็นนักศึกษาสาว ที่ดูภายนอกก็เหมือนวัยรุ่นทั่วไป ซ้ำยังเป็นวัยรุ่นที่เอาการเอางาน หาเงินส่งบ้านที่ต่างจังหวัดตัวเป็นเกลียว แต่ใครล่ะจะรู้ว่า งานที่เธอทำอยู่นั้น คือการเป็นหญิงขายบริการ จิ๊กโก๋ปากซอยกับนักศึกษาสาว... ภายใต้รูปลักษณ์ที่ต่างกันอย่างลิบลับนั้น ส้มและแบงค์กลับเหมือนกัน อย่างไม่ยากที่จะเข้าใจ หนึ่ง.. พวกเขาต้องการเงิน และสอง.. พวกเขาอ่อนหัด และมองโลกสวยงามเหมือนกัน ด้วยความเหมือนซึ่งมองไม่เห็นนั่นเอง ที่ชักพาเธอกับเขามาพบกัน ปรารถนาในตัวกัน และรักกันในเวลาอันรวดเร็ว ชีวิตที่ได้รับการเติมเต็ม อย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ทำให้แบงค์เริ่มฝันอยากให้ส้มมีความสุข และไม่ต้องทำงานอย่างเดิมอีก เขาดิ้นรนหาทางขายยาให้มากขึ้น ...แต่ยิ่งขายได้มากเท่าไหร่ มันย่อมหมายถึงความเสี่ยง ที่เพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว ดูเหมือนว่า ชีวิตของทั้งสอง ที่ไม่เคยมีใครคาดคิดว่า จะมาบรรจบกันได้ กลับกำลังดำเนินเป็นคู่ขนาน ไปสู่จุดหมายเดียวกัน... และที่นั่นคือ หายนะ

หน้าที่