The Murderer เมอร์เด้อเหรอ ฆาตกรรมอิหยังวะ

เรื่องย่อ : The Murderer เมอร์เด้อเหรอ ฆาตกรรมอิหยังวะ (2566/2023) หลังมีผู้เสียชีวิตหลายราย ณ ชุมชนเล็กๆ ในต่างจังหวัด เจ้าหน้าที่สืบสวนที่มุ่งมั่นก็พยายามหาตัวฆาตกร จนพุ่งเป้าไปที่ "เอิร์ล" ชาวอังกฤษซึ่งเป็นผู้ต้องสงสัยคนสำคัญ (Source : Netflix)

คืนหมีฆ่า The World Of Killing People (2565/2022) เรื่องราวของกลุ่มเพื่อนวัยรุ่น 5 คน ที่รวมตัวกันไปพักร้อนในบ้านกลางป่า ก่อนจะถูกตามล่าจากฆาตกรหน้าหมีที่ออกไล่ล่าพวกเขาอย่างไม่ลดละ ความลับในอดีตที่พวกเขาร่วมกันปกปิด กำลังกลับมาเอาชีวิตพวกเขาทีละคน!
ผ้าผีบอก (2565/2022) เมื่อ 1,000 ปีก่อน ณ เวียงไชยเชษฐ์บุรี เจ้าหลวงรังสิมันต์ จัดแข่งขันทอผ้าขึ้นเพื่อเลือกชายาองค์ใดองค์หนึ่งมาเป็นเจ้านางหลวงคู่บัลลังก์ แต่ในวันที่ต้องถวายผ้า อัญญานางหอมนวล จากนครผางาม ได้ถูกรัดคอตายในระหว่างทอผ้าเจียนเสร็จ ทิ้งแต่รอยไหมไว้ที่คอและไม่สามารถรู้ได้ว่าใครทำ 1,000 ปีต่อมา อชิ หนุ่มวัยรุ่นโอตาคุผี และหัวหน้าทีมผลิตรายการออนไลน์แนวล่าผีทุบศาล “ผีกลางวันแสกๆ” ได้ยกเพื่อนร่วมทีมอันได้แก่ ยองแจ แบมแบม และจูเนียร์ มาที่บ้านของยายทวดที่เชียงใหม่ อชิโกหกยายทวดว่ามาเที่ยว ทั้งที่จริงๆ มาเพราะจะมาทำรายการผีที่นี่ ยายทวดไม่ไว้ใจเลยเตือนว่าอย่าเข้าไปยุ่งกับห้องเก็บของ แต่คำห้ามสำหรับเด็กพวกนี้เหมือนกับคำท้าทาย อชิเข้าไปในห้องเก็บของแล้วเจอกับผ้าตุ้มโบราณ เมื่ออชิสัมผัสผ้าวิญญาณของอัญญานางหอมนวลได้ปรากฏออกมาแล้วบอกว่า หากใครได้สัมผัสผ้าแล้วหาคนร้ายที่ฆ่าเธอไม่ได้ภายใน 3 วัน ผู้นั้นจะต้องตาย ! เดือดร้อนถึงเพื่อน ๆ ต้องมาร่วมแก้เควสอันนี้เพื่อรักษาชีวิตอชิไว้ ผู้ต้องสงสัยในการนี้ เห็นจะหนีไม่พ้นเจ้านางองค์อื่นที่ร่วมประลองทอผ้าด้วยกัน ได้แก่ สาระปี แห่งนครภวินท์ เจ้านางฝีปากกล้า ยิ่งผยองจองหองตีตัวเหนือกว่าใคร สะบันงา แห่ง เมืองกวินทราบุรี เจ้าหญิงขี้เมาที่บ้านเกิดยังไม่อยากให้กลับ เจ้าเล่ห์เพทุบายเป็นหนึ่ง และเก็ดถะหวา เจ้านางเจ้าถิ่นเมืองไชยเชษฐ์บุรี อ่อนหวาน อ่อนโยน และอ่อนแอเพราะขี้โรค แต่ใครรู้ล่ะ นางอาจจะร้ายก็ได้เพราะมีผู้สนับสนุนอย่าง พระมหาเทวีศรีมอย พระมารดาของเจ้าหลวงรังสิมันต์ การสืบเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อ 1,000 ปีที่แล้วไม่ใช่เรื่องง่าย หอมนวลและพวกอชิจึงต้องตามหาวิญญาณของเจ้านางอีกสามดวงมาถามให้รู้ความ จากผ้าทั้งสามที่แต่ละนางได้ทอไว้ เส้นไหมและรอยทอได้พาพวกอชิและหอมนวล เข้าไปหาความลับที่ซ่อนเร้นทีละคืบ ทีละคืบ แล้วอชิยังได้เจอกับเรื่องที่ไม่คาดคิด สืบไปสืบมาพบว่าเพื่อนๆ ของเขาเองเกี่ยวข้องกับกรรมแต่ปางก่อน แล้วกลายเป็นคนในอดีตชาติไปทีละคน ทางเดียวที่จะได้เพื่อนๆ กลับมาก็คือต้องเอาความจริงออกมาเปิดเผยและปลดปล่อยทุกคน เส้นตายของคำสาปเข้าใกล้มาทุกที แต่ความจริง และ คนร้ายตัวจริง...ยิ่งหาไม่เจอ หอมนวลจะเป็นอิสระจากความแค้นหรือไม่ แล้วอชิจะตายรึเปล่า ?! หรือยังจะมีศัตรูลึกลับที่ขัดขวางไม่ให้บ่วงกรรมนี้จบลง เรื่องราวฮาป่วนสยอง จะคลี่คลายลงอย่างไร โปรดติดตาม “ผ้าผีบอก” เร็ว ๆ นี้
E-SAN OF THE DEAD ซอมบี้ไทบ้าน (2565/2022) เกิดโรคระบาดในหมู่บ้านแห่งหนึ่งที่ห่างไกลความเจริญ และทำให้ชาวบ้านกลายเป็นซอมบี้ สามเพื่อนซี้อย่าง อาจ ก้า และเป็กโก้ ต้องหาคำตอบไปด้วยกันว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร
My Boss is a Serial Killer บอสฉันขยันเชือด (2564/2021) เรื่องราวของแก๊งหนุ่มสาวชาวออฟฟิศที่อยู่ ๆ ก็ไปแอบล่วงรู้ความลับของเจ้านายตนเอง (ก้อง สหรัถ) ว่าบอสใหญ่ของพวกเขาเคยมีอดีตเป็นฆาตกรโรคจิตต่อเนื่อง! แล้วจะอยู่เฉยได้อย่างไร เมื่อออฟฟิศลุกเป็นไฟ ปฏิบัติขุดคุ้ยอดีตและสืบหาความลับอันแสนระทึกที่มาพร้อมกับความสนุกและเสียงหัวเราะจึงได้เกิดขึ้น!
Check-In Shock เกมเซ่นผี (2563/2020) "เกมเซ่นผี" ถูกนำเสนอผ่านเรื่องราวของรายการเรียลลิตี้เกมสุดฮิตติดกระแส ที่มีชื่อว่า "เช็คอินช็อก" จากคนธรรมดาที่มักมากในเงินรางวัล สู่เรื่องสยองขวัญที่มาจากนรกภายในโรงพยาบาลร้างแห่งหนึ่ง การเอาตัวรอดจากสถานที่ผีสิง กับพิธีกรหนุ่ม 3 คน กองถ่ายทาเรียลลิตี้โชว์ในครั้งนี้จะเต็มไปด้วยความเกลียดชัง อาฆาตแค้น การย่างก้าวเข้าสู่พื้น ที่แห่งคำสาปที่ขังความอาฆาตของวิญญาณร้าย เรื่องราวอลหม่าน จะเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะหรือเสียงร้องไห้กับบทสรุปที่ลงเอยอย่างไม่คาดคิด....เผชิญหน้ากับสิ่งลี้ลับ แล้วกลับไปพร้อม เงินรางวัลหรือความตาย?
บุปผาอาริกาโตะ (2559)

เรื่องย่อ : บุปผาอาริกาโตะ (2559/2016) โรส สาวสวยวัย 20 ผู้เพียบพร้อม มีชื่อจริงว่า บุปผาราตรี จับได้ว่า แม็ค คนรักนอกใจเธอ โรสฆ่าแม็คและหนีไปอยู่ที่เมืองนิเซโกะ ประเทศญี่ปุ่น “ออสการ์ลอดจ์” คือบ้านเช่าที่โรสเข้าไปหลบซ่อนตัว ที่เดียวกันนี้ แน็ก และ แก๊งเพื่อนเข้าพักเพื่อมาถ่ายมิวสิควิดีโอราคาประหยัดสำหรับอัลบั้มใหม่ของแน็ก แน็กหน้าตาเหมือนกับแม็คแฟนเก่าของโรสราวคนเดียวกัน ความแค้นเข้าครอบงำโรสอีกครั้ง รวมทั้งความรักด้วย แต่ครั้งนี้เกิดขึ้นที่บ้านพักที่ร่ำลือกันว่าเป็นที่สิงสถิตย์ของวิญญาณที่เคยบูชารักสุดหัวใจ

แก๊งค์ ตบผี (2555/2012) เมื่อกลุ่มหมอผีกลุ่มหนึ่งที่ยังหลงเหลือในยุค 2011 ได้ถูกเชิญให้ไปออกรายการทีวี ซึ่งเป็นรายการที่กำลังถูกโจมตีอยู่ในตอนนี้ หลังจากทางทีมงานได้เห็นคลิปการปราบผีของกลุ่มคนผู้อ้างตัวว่าเป็นหมอผีที่โพสต์โชว์ไว้ในยูทูป แล้วเห็นว่าเป็นกลที่มันส์และเนียนดี จึงต้องการเชิญมาแสดงโชว์เพื่อเรียกเรทติ้งกลับคืนมา ในวันอัดรายการ เรื่องที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อไอ้เม่นกับไอ้เฉียดสองหนุ่มมาดกวนที่อยู่ในคลิปไม่ใช่แค่พวกเล่นกลปาหี่อย่างที่ทีมงานเข้าใจแต่งานนี้ดันเป็นหมอผีตัวจริงเสียงจริง ที่หวังจะแจ้งเกิดส่งเสริมชื่อเสียง เรื่องราวความชุลมุนวุ่นวายจึงเกิดขึ้นตามมา ขณะที่รายการก็ต้องถ่ายต่อ ให้จบเพราะงานนี้เป็นงานลบคำสบประมาทด้วย
ก้านคอกัด (2554/2011) หลังหนีตายจาก ผีจ้างคอนเสิร์ต ที่ป่าคำชะโนดมาหมาด ๆ 8 หนุ่มฮิปฮอปสุดจี๊ดในนาม ก้านคอคลับ ต้องมารับภารกิจใหม่ นั่นคือการลงเรือไปถ่ายแฟชั่นกับบรรดานางแบบสาวสุดเซ็กซี่จากนิตยสารปลุกใจเสือป่าชั้นนำ แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อเรือดันมาดับอับปางเอาที่เกาะร้างห่างรักและห่างไกลผู้คน ความสนุกสนานดำเนินไปได้แค่เพียงช่วงระยะเวลาสั้น ๆ แล้วปาร์ตี้ก็ต้องเลิก เมื่อบรรดาชาวเกาะจอมโหดออกมาไล่ฆ่าผู้คนเป็นผักปลา เท่านั้นยังไม่พอ ในยามที่ฝนลงเม็ด ยังมีผีดิบจากท้องทะเลโผล่ขึ้นมาสร้างความสยดสยองให้กับเกาะนี้อีกมากขึ้นเป็นทวีคูณ
บุปผาราตรี 3.2 (2552)
เรื่องย่อ : บุปผาราตรี 3.2 (2552/2009) หลังการกลับชาติมาเกิดของ บุปผา (เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์) ในร่างของเด็กหญิงปลา (วีนัส ศักดิ์ศิริ) เด็กน้อยผู้น่าสงสารและโชคร้ายที่ถูกฆ่าตายอย่างทารุณในห้อง 609 ของ ออสการ์อพาร์ตเม้นต์ ฉบับเรโนเวท ที่มาพร้อม บ่อนเถื่อน ซึ่งบริหารงานนับเงินโดยเจ้าของบ่อนอย่าง เจ๊สาม (ฉันทนา กิตติยาพันธ์) และดำเนินการโกงเนียน ๆ โดย เซียนต้อม (อาคม ปรีดากุล) เซียนพนันที่มี ลูกกรอกตัวพ่อ (อุดม ทรงแสง) คอยช่วยเหลือทุกครั้งที่ลงสนามไฮโล ฉับพลันชั่ววูบความตาย ผีปลา ก็ออกอาการร้อนวิชาเฮี้ยนโหด จัดการบรรเลงเพลงเชือดสยองชุดใหญ่ไล่ตั้งแต่ห้อง 609 ยันบ่อนชั้น 3 ที่เหล่าเซียนพนันนานาชาติสิงสถิตย์อยู่ อีกด้านหนึ่ง หลังจากที่ หรั่ง (มาริโอ้ เมาเร่อ) นักวาดการ์ตูนผีได้ย้ายมาอยู่ที่ออสการ์อพาร์ตเม้นต์แห่งนี้เพียงไม่กี่วัน เขาก็มีโอกาสได้พบกับบุปผา-หญิงสาวที่เขาแอบหลงรักมาตั้งแต่วัยเด็ก โดยไม่รู้ว่าเธอกลายเป็นผีบุปผาไปแล้ว หาใช่พี่บุปผาคนเดิมไม่ เขาตัดสินใจว่าเป็นไงเป็นกัน เขาจะต้องบอกรักพี่บุปผาให้ได้ แต่แล้ว บุพเพสันนิวาส ที่หรั่งเคยคิดเมื่อแรกเจอกัน มันกลับกลายเป็น บุปผาอาละวาด จนกระทั่ง... หรั่งสิ้นสติไป ร้อนถึงเจ๊สามที่ต้องจ้างหมอคง หรือด๊อกเตอร์คง (สมชาย ศักดิกุล), หมอผีเขมร และฤาษีตาไฟ มาร่วมด้วยช่วยปราบผีบุปผาเฮี้ยนรักโดยด่วน! และในขณะที่ การสืบคดีเด็กหญิงปลาถูกฆ่า ของนักสืบเทพ กำลังถูกแก้ปมใหญ่ ไขปริศนาอันน่าสะพรึง ข้างฝ่าย หมวดอังเคิล จ่าบุญถิ่น คู่หูตำรวจสุดป่วนก็ต้องกลับมาเยือนออสการ์อพารต์เม้นต์อีกครั้งด้วยความ (ไม่) เต็มใจอย่างสุดซึ้ง เมื่อพวกเขาได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติการ ดักทลายบ่อนเจ๊สาม เพื่อจับกุมอาชญากรข้ามชาติที่หนีมากบดานที่นี่ให้ได้ โดยงานนี้มี เดวิด เจียง มือปราบพระกาฬ (!?!) แห่งเกาะฮ่องกง มาช่วยกันจ้ำอ้าวหนีผีไม่มีอั้น...ซะงั้น เรื่องราวโกลาหล งงงวยซวยเป็นหมู่คณะออสการ์จะลงเอยอย่างไร กำแพงรักของหนุ่มหรั่งและสาวบุปผาจะถูกฝ่าไปสิ้นสุดตรงจุดไหน เสียงกรีดร้องฉบับดั้งเดิมพร้อมตวัดปลายมีดโกนของ ผีสาวตัวแม่รุ่น 3.2 กำลังรอทุกคนมาขมวดปมส่งท้ายความสยองไปพร้อม ๆ กัน
บุปผาราตรี 3.1 (2552)

เรื่องย่อ : บุปผาราตรี 3.1 (2552/2009) ท่ามกลางความเงียบสงบของอพาร์ตเม้นต์ชื่อดังแห่งหนึ่ง ภายในห้อง 609 มีบางสิ่งบางอย่างกำลังจะถูกปลุกให้กลับมา “เฮี้ยนสยอง...ยกกำลังสาม” ณ ออสการ์อพาร์ตเม้นต์ ยุคเรโนเวท บริหารงานโดย “เจ๊สาม” (ฉันทนา กิติยพันธ์) พี่สาวของเจ๊สี่ที่เสียชีวิตไปแล้ว หลังปรับปรุงใหม่ครั้งใหญ่ เจ๊สามก็เกิดพุทธิปัญญาจัดการเปิดชั้น 3 ของอพาร์ตเม้นต์ให้เป็น “บ่อนพนันเถื่อน” แบบลับๆ มันซะเลย ในขณะเดียวกัน “หรั่ง” (มาริโอ้ เมาเร่อ) หนุ่มนักวาดการ์ตูนเรื่องผีๆ ที่สามารถมองเห็นผีได้จริง ก็ย้ายเข้ามาอยู่ที่ “ออสการ์อพาร์ตเม้นต์” ด้วยเหตุจำเป็นบางอย่าง เพียงแค่ไม่กี่วัน เขาก็มีโอกาสได้พบกับ “บุปผา” (เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์) หญิงสาวใน “ห้อง 609” ที่เหมือนเป็นรักแรก (ข้ามรุ่น) ของเขา คงเป็นด้วย “ความรักบังตา” หรั่งจึงไม่อาจรู้ได้ว่า “หญิงสาว” ที่เขาหลงรักเป็น “ผีสาวเฮี้ยนรัก” ที่เขาต้องพึงระวังไม่เฉียดกรายเข้าใกล้จะดีกว่า ทันที่ที่เขาก้าวเข้าสู่ห้อง 609 “บุพเพสันนิวาส” ที่หรั่งเคยคิดเมื่อแรกเจอบุปผา มันกลับกลายเป็น “บุปผาอาละวาด” ไปซะงั้น ทันใดนั้นเองเสียงกรีดร้องของ “บุปผา” ผีสาวตัวแม่ก็ดังโหยหวนขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัว และแล้วเหตุการณ์ “เฮี้ยนขั้นเทพ-โหดสยองนองเลือด-เชือดไม่เลือกหน้า” ก็ถูกบรรเลงขึ้นชุดใหญ่ไล่ตั้งแต่ห้อง 609 จนแตกตื่นไปทั่วทั้งออสการ์อพาร์ตเม้นต์...อีกครั้ง

คนหิ้วหัว (2550/2007) “คนหิ้วหัว” พล็อตเรื่องสุดเข้มข้นที่ว่าด้วยเรื่องราวของอดีตทหารเรือขี้โมโหที่พร้อมระเบิดโทสะได้ทุกเมื่อหากถูกใครเรียกเขาว่า “ไอ้เตี้ย” (พิง ลำพระเพลิง) นอกจากจะเป็นพ่อที่ไม่เอาไหนในสายตาของ “หงส์” (วิสา สารสาส) เมียสาวที่กลายเป็นเสาหลักของบ้านโดยพึ่งพาเหล้าและการพนันในการประทังความสุขและเลี้ยงดูชีวิตของ “เต้ย” ลูกชายเพียงลำพัง ในเมื่อทั้งชีวิตไม่เคยแม้แต่จะได้ดีหรือทำดีขึ้นเลยสักครั้ง เตี้ยตัดสินใจเลือกทำความดีด้วยการตัดสินใจสาบานกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ว่าจะไม่ยอมตายหากไม่สามารถหาเงินมาจ่ายค่าเทอมให้ลูกได้ และวิธีเดียวที่เตี้ยคิดได้ก็คือ “ปล้นโรงรับจำนำ” จนเป็นเหตุให้เขาเข้าไปพัวพันกับ “รงค์” (อภิชาติ ชูสกุล) และ “ค่อม” (คืนสิทธิ์ สุวรรณวัฒกี) สองโจรถ่อยที่กำลังวางแผนปล้นวงเงินแชร์ก้อนโต แต่แล้วโชคชะตากลับเล่นตลกกับศรัทธาแห่งความใฝ่ดีครั้งแรกและครั้งสุดท้ายในชีวิตของเตี้ย เมื่อสัจจะไม่เคยมีอยู่ในหมู่โจร จนเป็นเหตุให้ “หัว” กับ “ตัว” ของเขาต้องแยกออกจากกัน ในขณะที่หัวตกไปอยู่ในมือของ 18 มงกฎ “หนุ่ม” จอมกะล่อน (ภูริ หิรัญพฤกษ์) ที่ฝีมือลายมือในการต้มตุ๋นเหยื่อแพรวพราวพอๆ กับความเจ้าชู้ ทะลึ่งหื่นกามที่กลายเป็นสันดานฝังลึก ในขณะที่ตัวตกไปอยู่กับพนักงานเก็บศพ “สาว” สุดห้าว (ศุภักษร ไชยมงคล) อดีตพนักงานไปรษณีย์ที่งามทั้งตัวและหัวใจ จนเป็นเหตุให้ทั้งสามต้องมาเกี่ยวพันกันและช่วยให้ศรัทธาขอเตี้ยสัมฤทธิ์ผล แต่ก่อนที่จะเริ่มต้นภารกิจ “ตะวันชิงหัว” หรือ “ตามล่าตัวสุดขอบฟ้า” สาวจะต้องสื่อสารและคุยกับตัวที่ไร้หู ปราศจากตาและปากในการสื่อสาร ในขณะที่หัวจะต้องความสามารถที่มีแค่หัวพาหนุ่มให้ไปเจอตัวให้ได้ และอีกสารพัดเรื่องราวที่ทั้ง 3 จะต้องฟันฝ่าไปด้วยกันในเมื่อ “หัวจ๋าตัวไม่ได้” อยู่นี้จนทำให้ทุกคนเข้าใจ “วันใดขาดหัวแล้วตัวจะรู้สึก” กับ “คนหิ้วหัว” ภาพยนตร์ชวน “หัว” ให้มาเจอกับ “ตัว” ผลงานเรื่องล่าสุดของ “พิง ลำพระเพลิง”
ฅนไฟบิน

ฅนไฟบิน (2549/2006) ปี พ.ศ. 2398 เป็นต้นมาได้เกิดอาชีพ “นายฮ้อย” ขึ้นมา เพราะประเทศต้องการทำนาเพื่อนำข้าวส่งออกต่างประเทศ เหล่ากลุ่มนายฮ้อยเหล่านี้ต้อนควายเพื่อมาขายยังกรุงเทพฯ นายฮ้อยบางกลุ่มก็เป็นโจรแฝงมาเพื่อปล้นควายและฆ่าชาวบ้าน ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนโดยทางการมิได้เข้าช่วยเหลือแต่อย่างใด หนำซ้ำ “พระยาแหว่ง” (ลีโอ พุฒ-พุฒิพงศ์ ศรีวัฒน์) ยังต้องการให้ฆ่าควายให้หมดอีกด้วยเพื่อจะได้ขายรถไถฝรั่งให้กับประชาชนใช้แทนควาย กลุ่มนายฮ้อยโจรเหล่านี้ต้องเผชิญกับ “โจรบั้งไฟ“ (ชูพงษ์ ช่างปรุง) ผู้ออกปล้นด้วยเหตุผล 2 ประการคือ ช่วยเหลือชาวบ้านผู้ทุกข์ยาก และที่สำคัญหาคนที่ฆ่าพ่อแม่ของตน จนกระทั่งเจอกับ “นายฮ้อยสิงห์” (สามารถ พยัคฆ์อรุณ) และเชื่อมั่นว่าเป็นคนฆ่าพ่อแม่ของตนจริงๆ ในขณะที่พระยาแหว่งจ้างโจรปล้นฆ่านายฮ้อยได้หมด แต่กลับไม่สามารถฆ่านายฮ้อยสิงห์คนที่ไม่เคยแพ้ใครได้ พระยาแหว่งจึงวางแผนหลอกใช้โจรบั้งไฟและ “ปอบดำ” (พันนา ฤทธิไกร) ผู้ลึกลับและมีความแค้นอยู่กับนายฮ้อยสิงห์มานาน จึงตกลงใจช่วยเหลือโดยทันที ทั้งพระยาแหว่งและโจรบั้งไฟต่างก็หลงรัก “อีสาว” (กัญญาภัค สุวรรกูฏ) ลูกสาวคนเดียวของปอบดำ แต่ปอบดำก็ไม่ยอมให้ใครได้อีสาวไปครอง… “นายฮ้อยสิงห์” ยังไม่รู้ว่าตนเองถูกปองร้าย… ชีวิตของ “อีสาว” ยังมีความลึกลับที่ยังไม่เปิดเผย… “โจรบั้งไฟ” และ “พระยาแหว่ง” ยังไม่รู้ความลับของ “ปอบดำ” แต่ทั้งสามก็ต้องร่วมมือกันเพื่อให้บรรลุจุดประสงค์ของแต่ละคน…

บุปผาราตรี เฟส 2 (2548)
เรื่องย่อ : บุปผาราตรี เฟส 2 (2548/2005) ออสการ์อพาร์ทเมนต์ ขึ้นชื่อลือชาว่าเฮี้ยนนักเฮี้ยนหนา โดยเฉพาะห้อง 609 ที่เจ้าของอพาร์ทเมนต์ถึงกับปิดตายทั้งชั้น "รับประกันความเฮี้ยน" จะมีก็แต่แก๊งโจรมือใหม่หัดปล้น และ ทิพย์ สาวตาบอด ที่ไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวอะไรกับใครเขา ขอเปิดห้องพักหน้าตาเฉย แต่เมื่อคนอยู่ดีไม่ว่าดีดันไปยุ่มย่ามในที่ของผี เจ้าของห้อง 609 อย่าง บุปผา เลยระเบิดแรงอาฆาตตามคำขอ อพาร์ทเมนต์ผีสิงจึงได้อลหม่านฮาแตกอีกครั้ง!! คณะตลกตกอับ ตัดสินใจผันเปลี่ยนอาชีพมาเป็นโจรปล้นธนาคาร พวกเขาหอบเงินหลบหนีตำรวจไปกบดานอยู่ ณ อพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งโดยหารู้ไม่ว่ามันคืออพาร์ทเมนต์ผีสิง ระหว่างที่พวกโจรกำลังจะทำการแบ่งเงินกันนั้น พวกเขาพบว่าเงินก้อนนั้นได้หายไปอย่างลึกลับ... พวกโจรออกค้นหาทุกซอกทุกมุมในอพาร์เมนต์ เหลืออยู่แต่เพียงชั้น 6 ที่เจ้าของอพาร์ทเมนต์ปิดตายไว้ห้ามไม่ให้ใครเข้า โจรทั้งสี่ไม่ฟังคำเตือนออกค้นหาเงินในชั้น 6 จนได้พบว่าเงินซ่อนอยู่ในห้อง 609 แต่พวกเขาก็ไม่สามารถนำเงินออกจากห้องนั้นได้เพราะถูกผีเจ้าของห้องออกมาหลอกหลอน โจรทั้งสี่จึงต้องคิดหาวิธีเอาเงินออกจากห้อง 609 ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ แม้จะกลัวผีเพียงไรก็ตาม ขณะเดียวกัน ตำรวจก็เริ่มระแคะระคายแกะรอยโจรทั้งสี่มาถึงอพาร์ทเมนต์แล้ว
ขุนกระบี่ ผีระบาด (2547/2004) เมื่อไวรัส SARS สายพันธุ์ใหม่ แพร่กระจายข้ามทวีปสู่ประเทศไทย ซูเปอร์แมนนอนป่วย สไปเดอร์แมนไม่ว่าง แบตแมนรถเสีย “ขุนกระบี่” (ต๊อก ศุภกรณ์) ฮีโร่รับจ้างสัญชาติไทยแท้ และ “โคตรขุนกระบี่ชาเขียว” (เทพ โพธิ์งาม) จำต้องชักกระบี่ออกปกป้องโลกอีกครั้ง และครั้งนี้มีความฮาและมันส์เป็นเดิมพัน ระหว่าง “ไวรัสซาร์ส์รุ่น 4 / สาวเซ็กซี่ / ผีดิบ / ซอมบี้ / งูยักษ์ / ระเบิดเวลา / รัฐมนตรี” ทั้งคู่จะจัดการกับอะไรก่อน หากทายไม่ถูก ไปหาคำตอบได้ใน “ขุนกระบี่ ผีระบาด” เกิดโรค “ไวรัส SARS รุ่นที่ 4” เป็นไวรัสกลายพันธุ์ร้ายแรงที่สุดที่เคยค้นพบกำลังระบาดอย่างหนักในทวีปแอฟริกา ผู้ที่ติดเชื้อร้ายแรงจะมีสภาพไม่ต่างจากผีดิบหิวกระหาย แมลงสาบตัวหนึ่งนำเชื้อนั้นบินร่อนข้ามน้ำข้ามทะเลจากทวีปแอฟริกามาถึงประเทศไทย “ด็อกเตอร์ไบรอัน ทอมสัน” (แอนดรูว์ บิ๊กส์) ผู้เชี่ยวชาญจากอเมริกาที่กำลังคิดค้นและวิจัยเรื่องวัคซีนแอนตี้ไวรัสในประเทศไทย แต่หมองูตายเพราะงู ดร.ไบรอันจึงพลาดท่าได้รับเชื้อ SARS เข้าไปเต็มๆ “หลิว” (บอลลูน พินทุ์สุดา) ลูกสาวคนสวยของ “เฮียเหลา” (สุเทพ ประยูรพิทักษ์) เจ้าพ่อคนดังแห่งกทม. ถูก “โจรกลุ่มหนึ่ง” (สมเล็ก ศักดิกุล, ปื๊ด แบล็กแคต และสมุนอีก 2 หน่อ) ลักพาตัวมากักขังเอาไว้เพื่อแลกกับเงินค่าไถ่ “อ.เทพลีลา” (เทพ โพธิ์งาม) โคตรขุนกระบี่ชาเขียวฮีโร่ปลดระวางในฐานะเพื่อนเก่าแก่ของเฮียเหลาได้รับการติดต่อให้มาชิงตัวหลิวคืน แต่เนื่องด้วยอ.เทพลีลาได้ประกาศวางมือถอนตัวออกจากวงการแล้ว ฮีโร่รับจ้างนาม “ไอ้ขุน” (ต๊อก ศุภกรณ์) ขุนกระบี่สายพันธุ์ใหม่ในฐานะศิษย์รุ่นสุดท้ายจึงถูกส่งตัวมาที่คอนโดฯ นี้ เพื่อจัดการกับเหล่าโจรกระจอกกลุ่มนั้น และนำตัวหลิวกลับคืน แต่ทว่าสิ่งที่กำลังรอคอยขุนกระบี่ อยู่ในคอนโดฯ แห่งนี้ไม่ได้มีแค่กลุ่มโจรกระจอกเท่านั้น ดร.ไบรอันก็พักอาศัยอยู่ที่นี่ และบัดนี้เชื้อ SARS ที่เขาได้รับทำให้เขากลายสภาพไปเป็น “ผีดิบ” (SARS Zombie) อย่างเต็มตัว ด็อกเตอร์ผีดิบเริ่มแพร่เชื้อสู่ผู้คนที่อาศัยอยู่ในคอนโดฯ เดียวกันนี้อย่างรวดเร็ว คอนโดฯ มรณะถูกทางการสั่งปิดตาย คนในห้ามออกคนนอกห้ามเข้าเพื่อไม่ให้มีเชื้อแพร่กระจายออกมาภายนอก รัฐบาลส่งทีมแพทย์และหน่วยพิเศษในความรับผิดชอบของ “ท่านรองรัตน์สุดา” (เนาวรัตน์ ยุกตะนันท์) เข้ามาจัดการอย่างเร่งด่วน “ด็อกเตอร์ไดอาน่า” (ลีน่า คริสเตนเซ่น) ผู้เชี่ยวชาญทางด้านเชื้อไวรัสร้ายแรงซึ่งทำงานในคณะของดร.ไบรอันเป็นหัวหน้าทีมแพทย์และหน่วยพิเศษชุดนี้ ดร.ไดอาน่ามาพร้อมกับปืนบรรจุกระสุนเคมีวัคซีนแอนตี้ไวรัสที่เพิ่งค้นพบของเธอพยายามยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสร้าย แต่ทุกอย่างก็กลับกลายเป็นความผิดพลาดไปหมด เพราะวัคซีนแอนตี้ไวรัสไม่เป็นผล เมื่อทางการไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ คำสั่งสุดท้ายคือ “ระเบิดตึกทิ้ง!!!” ขุนกระบี่กับหลิวยังติดอยู่ในนั้น กลุ่มโจรกระจอกก็ติดอยู่ในนั้น ดร.ไดอาน่าก็ติดอยู่ในนั้น แถมฝูงผีดิบ SARS Zombie ที่กำลังหิวกระหายก็ยิ่งเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ ทุกนาที ทุกชั่วโมง สถานการณ์กำลังคับขันสุดๆ ทุกคนกำลังจวนตัวและจนตรอกที่ต้องปะทะทั้งผี ทั้งกลุ่มโจร และระเบิดเวลาของภาครัฐ เพล้ง…งงง กรอบรูปของขุนกระบี่ร่วงตกแตกกระจาย พร้อมๆ กันกับจิ้งจกร้องทักไปทั่วที่พำนักของอาจารย์เทพ-สุดยอดฝีมือโคตรขุนกระบี่ชาเขียวรู้สึกได้ทันทีถึง ลางสังหรณ์บอกเหตุอันตรายที่กำลังจะเกิดกับศิษย์รักและมหาชนผู้บริสุทธิ์ หลังจากปลดระวางล้างมืออำลาวงการไปนาน ในวันนี้เห็นทีอ.เทพลีลาจะอยู่เฉยไม่ได้เสียแล้ว เขาตัดสินใจคืนวงการมุ่งหน้าไปยังคอนโดฯ ที่เกิดเหตุเพื่อไปช่วยขุนกระบี่ศิษย์รักพร้อมกับอาวุธคู่กาย-กระบี่ชาเขียว สุดยอดศาสตราวุธ ชักแล้วต้องมีเจ็บ เก็บแล้วต้องมีตาย ภารกิจนี้ใหญ่หลวงนัก สองขุนกระบี่ฮีโร่แบบไทยๆ ลูกศิษย์-อาจารย์ต้องร่วมมือกันกับดร.ไดอาน่าและหลิวฟันฝ่าอุปสรรคมากมาย ทั้งฝูง SARS Zombie ผู้หิวกระหาย ทั้งแก๊งโจรกระจอกที่พยายามชิงตัวหลิวไป และระเบิดเวลาจากภาครัฐที่เตรียมทำลายล้างเชื้อไวรัส SARS 4 ผีระบาด และคอนโดฯ นี้ให้พังพินาศสิ้นซากไปพร้อมๆ กัน ใครจะอยู่ ใครจะไป ใครติดเชื้อ ใครไม่ติดเชื้อ เหตุการณ์ทั้งหมดต้องจบลงก่อนรุ่งเช้า!!! ก่อนเวลาที่ระเบิดจะทำงานวี้ด…ดดดบึ้ม!
Headless Hero 2 ผีหัวขาด 2 (2547/2004) ไอ้ไฝ (แสดงโดย อรุณ ภาวิไล) กับ ไอ้เทือง(แสดงโดย โต อำพล รัตนวงศ์) ทั้งคู่เป็นเพื่อนกันและทั้งคู่ก็ขโมยสร้อยศพของผีถั่วแระ(ถั่วแระ เชิญยิ้ม) และไฝก็เอาสร้อยเส้นหนึ่งไปแต่ความซุ่มซ่ามของไอ้เทือง มือของไอ้เทืองติดอยู่กับปากศพของคนจีนจนทำให้ไอ้เทืองตาย และไอ้ไฝวิ่งหนีไป และไอ้ไฝก็รอดตัวจากผีตามหาสร้อยของมัน และรุ่งเช้ามีงานเทศกาลแข่งเรือ เวลาที่กำลังจะเริ่มแข่งเรืออยู่นี้เห็นเรือประหลาดโผล่มาและมีคนประหลาดที่แล่นเรือเอง โดยมีไม่มีฝีพายและเรือของผีหัวขาดก็ชนะในการแข่งขัน และกรรมการให้รางวัลในการชนะเลิศแต่ผีหัวขาดก็ไม่ชอบใจ และคนอื่นก็ใช้มือในผลักหัวแต่นี่ไม่ใช่คนมันเป็นผีหัวขาด และทุกคนก็วิ่งหนีไป และมีหมอเฒ่าเป็นนักปราบผี และใช้ไหโบราณผนึกผีหัวขาดตัวนั้น ตอนที่หมอเฒ่ากำลังผนึกผีหัวขาดตนนั้นได้แต่หัว ส่วนร่างของผีหัวขาดก็เก็บไว้ในสุสานตามเดิม 25 ปีต่อมา เมฆ ลูกชายของไฝ มีนิสัยเป็นคนชอบช่วยเหลือคน โดยเฉพาะ ป๋อง เพื่อนสนิทของเมฆที่มักมีเรื่องให้เมฆต้องช่วยอยู่เสมอ จนกระทั่งวันหนึ่งทั้งสองได้เจอผกากับเพื่อนชื่อเง็ก ผู้หญิงที่ทั้งสองแอบชอบอยู่ถูกคนร้ายกระชากกระเป๋า จึงเข้าไปช่วย สร้างความไม่พอใจให้สาธิต คู่หมั้นของผกาเป็นอันมาก ส่วนป๋องนั้นแอบหลงรักเง็ก แต่เง็กไม่เล่นด้วยแถมไล่ตะเพิดทุกครั้งที่เห็นหน้า จนป๋องทนไม่ไหวได้ขอร้องให้เมฆช่วยเรื่องเง็ก เมฆทนคำขอร้องไม่ไหวจึงยอมช่วย โดยเมฆได้ไปขโมยตำราปราบผีของพ่อ (ไฝ) เพื่อที่จะมาทำพิธีกลั่นไอเสน่ห์ โดยที่ทั้งสองได้ไปทำพิธีในป่าช้าฝังศพผีถั่วแระ และได้ทำให้ผีถั่วแระฟื้นคืนชีพขึ้นมาเพราะป๋องได้ไปดึงมีดที่สะกดวิญญาณผีถั่วแระออก แต่ทั้งสองนั้นไม่รู้ ในขณะที่กำลังเดินทางกลับเมฆได้ช่วยเหลือผีกองกอย ให้หลุดพ้นจากการคุมขังทำให้ผีกองกอยยอมเป็นผีรับใช้เมฆ ในขณะที่ผีถั่วแระพอฟื้นคืนชีพก็จับหนูดูดเลือดเพื่อเพิ่มพลัง และเริ่มติด ตามหาหัวของตัวเอง เพื่อให้มารวมกับตัว และตามหาสร้อยหยกที่ไฝนั้นขโมยมาคืนซึ่งตอนนี้สร้อยได้อยู่ที่เมฆลูกของไฝ ณ จวนผู้ว่า ในงานวันเกิดของผู้ว่า หรือขุนวิชัยพ่อของผกา สาธิตและเสี่ยกวงได้นำของขวัญมาให้ผู้ว่าซึ่งก็คือโถที่ใส่หัวของผีถั่วแระไว้แต่ไม่มีใครรู้เลยแม้แต่คนเดียว ขณะเดียวกันในงาน เมฆและ ป๋องที่แอบอยู่ก็พยายามที่จะพ่นไอเสน่ห์ใส่เง็กแต่พลาด ไอเสน่ห์ไปโดนมารีรีน คนใช้ของเง็กแทนทำให้เกิดความวุ่นวายเพราะมารีรีนคอยวิ่งไล่ตามป๋องจนทำให้ทั้งป๋องและเมฆต้องหนีออกจากงาน ต่อมาในงานวันหมั้นของสาธิตและผกา เมฆและป๋องแอบเข้าไปในงานพร้อมกับนำผีกองกอยใส่กระบอกไม้ไผ่ เพื่อที่จะไปขัดขวางการหมั้น โดยเมื่อถึงเวลาที่จะต้องสวมแหวนผีกองกอยก็คอยกวนจนไม่สามารถสวมแหวนได้ ในขณะที่ทั้งเมฆและป๋องหลุดหัวเราะออกมาทำให้ดาบแฉ่ง รู้ตัวและไล่จับทั้งสองรวมทั้งมารีรีนที่คอยไล่ตามป๋องจนทำให้งานหมั้นวุ่วาย เมฆและป๋องต้องหนีอีกครั้ง จนหนีมาถึงป่าช้าที่เก็บศพ โดยที่มารีรีนตามมาด้วย แต่มารีรีนต้องโชคร้ายไปเจอกับผีถั่วแระ และถูกผีถั่วแระที่ยังไม่มีหัวดูดเลือดจนตายต่อหน้าเมฆและป๋อง ดาบแฉ่งที่ตามมาเข้าใจผิดคิดว่าทั้งสองฆ่า จึงตามจับป๋องและเมฆหนีกลับไปหาใฝที่บ้านเล่าเรื่องผีหัวขาดให้ฟัง ใฝตกใจมากและทั้งสามคนจึงต้องหาวิธีปราบ แต่ทั้งสามกลับถูกดาบแฉ่งจับได้เสียก่อน ในโรงพักทั้งสามพยายามพูดเรื่องผีหัวขาด แต่ไม่มีใครเชื่อ จึงต้องถูกขังต่อไป ณ จวนผู้ว่า เง็กมาขอนอนกับผกา ภายนอกไม่มีใครรู้ว่าผีหัวขาดกำลังตามหาหัวเข้ามาในจวน และได้ฆ่าท่านผู้ว่าและคุณนายพวงทอง ตายและต่อหัวได้สำเร็จ ทำให้ผกาและเง็กต้องหนีไปอาศัยอยู่กับสาธิตชั่วคราว ในโรงพักผีหัวขาดได้ตามไปเอาสร้อยคืนจนเกิดการกันต่อสู้กันระหว่างผีถั่วแระกับผีกองกอยทำให้ผีกองกอยตายไป แต่ทั้งสามก็หนีออกมาได้ และหาวิธีกำจัดผีหัวขาด โดยการวางระเบิดเพื่อที่จะเผาผีหัวขาดแต่ไม่สามารถทำอะไรผีหัวขาดได้ จนในที่สุดทั้งหมดหนีไปและไปพบกันที่โรงทำน้ำแข็ง ผีถั่วแระก็ตามไปอาละวาดเพื่อทวงสร้อยคืน ขณะที่กำลังอาละวาดอยู่นั้น ผีถั่วแระได้เดินผ่านท่อไฮโดรเจน ไอเย็นจากท่อไฮโดรเจนทำให้ผีถั่วแระชะงักตัวสั่นแข็ง เมฆจึงรู้ทันทีว่า ผีถั่วแระกลัวความเย็นจึงให้ทุกคนเปิดวาล์วในโรงน้ำแข็ง แต่ว่าวาล์วแต่ละอันแข็งมากไม่สามารถเปิดออกได้ ผกาพยายามจะเดินไปช่วยเมฆเปิดวาล์วแต่รองเท้ากลับติดอยู่กับร่องไม้จนถูกผีหัวขาดจับตัว เมฆพยายามช่วยด้วยการเอาสร้อยเข้าแลก ขณะที่ผีหัวขาดเผลอ เมฆเข้าไปจะเอาสร้อยคืนจึงเกิดการต่อสู้กัน ผีถั่วแระพลาดท่าตกลงไปในบ่อผลิตน้ำแข็งทำให้ร่างของผีถั่วแระค่อยๆแข็งตัวจนกลายเป็นน้ำแข็ง และค่อยๆ แตกตัวสลายไปในที่สุด ทุกคนดีใจมากที่ปราบผีถั่วแระลงได้ และจากการเสี่ยงของเมฆเพื่อที่จะช่วยเหลือผกาทำให้ผกาซึ้งใจและยอมรับไมตรีจากเมฆ และบอกเลิกกับสาธิตที่ไม่ยอมช่วยเธอเลย และหลังจากนั้นทั้งหมดก็ทยอยเดินออกจากโรงน้ำแข็ง โดยที่ไม่มีใครสังเกตเห็น ก้อนน้ำแข็งก้อนหนึ่งละลายพร้อมกับทิ้งคำปริศนาไว้

หน้าที่