แอคชั่น
เผ็ด (2518/1975) ไชโย เจ้าของฉายา เผ็ด ชายหนุ่มที่ใช้ชีวิตเสเพลไปวันๆ จนวันหนึ่งได้ช่วย ราเมธ ชายหนุ่มฐานะร่ำรวย ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกับ ลลิตา ลูกสาวเสี่ยใหญ่เจ้าของบาร์จากพวกอันธพาล ทั้งสองจึงกลายเป็นเพื่อนสนิทกัน แต่แล้ววันหนึ่ง ชวนชม น้องสาวของไชโยถูกอันธพาลจับตัวไปขาย ไชโยจึงต้องออกตามล่าเหล่าอันธพาลเพื่อช่วยเหลือน้องสาว
มือปืนพ่อลูกอ่อน (2518/1975) นายพลวังปอ (ส.อาสนจินดา) เป็นนายพลประจำอยู่ที่เวียงภูคา ได้ตั้งกองกำลังประจำอยู่ที่นั่น จ่าเข็ม (แอ๊ด สมบัติ เมทะนี) เป็นลูกน้องของนายพลวิฑูรย์ (น้อย ประจวบ ฤกษ์ยามดี) มาก่อน ต่อมานายพลวังปอได้มีการรบกับพวกกะเหรี่ยงจึงต้องนำลูกน้องกลับฝั่งไทย เพราะเกรงว่าลูกจะได้รับอันตราย ขณะที่จะส่งกลับฝั่งไทย ชาวกะเหรี่ยงได้โจมตี จึงต้องพลัดพรากกับนายพลวังปอ ต่อมาจ่าเข็มได้ไปพบเด็กน้อบโดยบังเอิญ จ่าเข็มจึงรับเด็กมาเป็นลูก ส่วนทางด้านนายพลก็ได้ส่งลูกน้องตามหาเด็กที่มีจุดตำหนิปานที่ก้นเด็ก จ่าเข็มเป็นคนที่เจ้าขู้ จนกระทั่งวันหนึ่งได้แต่งงานกับลูกสาวนายพลวิฑูรย์ แต่งานแต่งงานก็ไม่สำเร็จเพราะดวงเดือน (มยุรา ธนะบุตร) โมเมว่าเป็นเมียหลวง เพราะความเป็นคนที่เจ้าชู้ สุดท้ายจ่าเข็มต้องแต่งงานกับเจ้าสาวทั้งหมด 4 คนพร้อมกัน
สาวเจ้าพยัคฆ์ (2518/1975) อารดา เป็นตำรวจสาวยอดนักสืบ ที่ได้รับมอบหมายให้ตามสืบคดีฆาตกรรมเสี่ยสมานและเสี่ยทวีป ภารกิจนี้เป็นไปด้วยความยากลำบากเพราะเบาะแสและร่องรอยต่าง ๆ ล้วนทำให้อารดาไขว้เขวออกจากความจริง เบาะแสเดียวที่มีคือจดหมายลับเรียกค่าคุ้มครองจากอาชญากรที่ใช้นามแฝงว่า จงอาง
สาวแรงสูง (2518/1975) ข้อความบนใบปิด บางกอกการภาพยนตร์ เสนอผลงานของ วินิจ ภักดีวิจิตร จาก “ขัง 8” กายถูกขัง พลังความใคร่ระเบิด เกิดเป็น “หัวใจ 100 ห้อง” และบัดนี้ ขอเสนอ สาวแรงสูง FOXY LADY ของ พ.ต.ต.ประชา พูนวิวัฒน์ ถึงกายสลาย หัวใจฉันไม่สิ้นโลกีย์ ฉันอยากจะรัก ฉันอยากจะใคร่ กับผู้ชายทั้งโลก (กรุง ศรีวิไล) (เปี๊ยก อรัญญา นามวงศ์) (ไพโรจน์ ใจสิงห์) รุ้งลาวัลย์ ศรีปฏิมากูร (มานพ อัศวเทพ) นรา นพนิรันดร์, กฤษณะ อำนวยพร พบนางเอกใหม่ ธัญญรัตน์ โลหะนันท์ อุไรวรรณ ภักดีวิตร ผู้สร้าง สันทัด ศรีสัมพันธ์ ถ่ายภาพ วิสิทธิ์ แสนทวี กำกับแสง วินิจ ภักดีวิจิตร กำกับการแสดง
ทอง (2516/1973) เรื่องราวในช่วงยุคสงครามเวียดนาม เครื่องบินขนทองคำของสหรัฐอเมริกาถูกจี้กลางอากาศและถูกบังคับให้ไปลงที่ซำทองที่เต็มไปด้วยข้าศึก นักบินและลูกเรืองถูกฆ่าหมด ทางการสหรัฐอเมริกาจึงว่าจ้าง ฮิลล์ (เกร็ก มอร์ริส) สายลับชั้นดีให้ทำหน้าที่เข้าไปชิงทองกลับมา ฮิลล์จึงรวบรวมคนมาทำงานกับเขาประกอบไปด้วย ชาติ (แอ๊ด สมบัติ เมทะนี) นักโทษฆ่าคนตายแต่เคยเป็นอดีตทหารผ่านศึกเกาหลีมาก่อน ศาตรา (กรุง ศรีวิไล) ผู้ที่มีสามารถด้านการขับขี่และขับยานพาหนะได้ทุกชนิด ซินทาโร่ (ดามพ์ ดัสกร) ผู้ที่มีความสามารถด้านการใช้มีดเป็นพิเศษ และจางเฟย (กฤษณะ อำนวยพร) ผู้ที่ใช้รถมอเตอร์ไซด์ติดปืนกลเป็นพาหนะและอาวุธคู่กาย ทั้งหมดลอบเข้าไปโดดร่มในดินแดนข้าศึกโดยมี ซูผิง (มิสถ่ำถุ่ยหั่ง) สายลับท้องถิ่นมามาคอยประสานงานและนำพาพวกของฮิลล์ไปสู่ที่หมายที่เครื่องบินอยู่ ศาตรา ซินทาโร่ และซูผิง ต่างก็มีความหลังและความเกี่ยวเนื่องกันอยู่ ซินทาโร่ไม่ชอบศาสตราเพราะเคยแพ้พนันเขาและเสีย ซูผิงให้ศาสตรา แต่ซูผิงเองก็ทิ้งศาตราไปเช่นกันโดยที่ศาสตราเองก็ยังฝังใจอยู่กับซูผิง เพียงแค่ไปถึงคนของฮิลล์ก้ปะทะกับทหารเวียตนามแล้วแต่ก็เอาตัวรอดมาได้ ระหว่างการเดินทางฮิลล์และชาติพบว่าพวกเขาถูกสะกดรอยโดยจันทร์แรม (อโนมา ผลารักษ์) และแตงอ่อน (ดลนภา โสภี) เมื่อถูกจับได้จันทร์แรมอ้างว่าพวกเธอกำลังเดินทางไปฆ่าทหารเวียตนามเพื่อแก้แค้นให้พ่อและแม่ของแตงอ่อน พวกของฮิลล์และชาติจึงให้จันทร์แรมร่วมทางไปด้วย ฮิลล์และพวกถูกจับพร้อมกับถูกสอบสวนแต่ไม่มีใครบอกถึงวัตถุประสงค์ของพวกเขา แต่สุดท้ายทุกคนก็หนีออกมาได้พร้อมกับเริ่มสงสัยว่าใครคือไส้ศึกที่นำทหารมาจับพวกเขา ตอนแรกซูผิงต้องสงสัยที่สุดแต่ภายหลังทุกคนรู้ว่าไส้ศึกคือแตงอ่อน จากนั้นฮิลล์และพวกก็มุ่งหน้าสู่สนามบินซำทองเพื่อปล้นเครื่องบินกลับคืน ในขณะที่ทหารเวียตนามชุดใหญ่ก็กำลังเดินทางมาเอาทองเช่นกัน