ไทยพีบีเอส (Thai PBS)
เรื่องย่อ : สืบสวนสำนวนรัก 2 Investigation Of Love II (2568/2025) “แพท” ทนายสาวสุดแกร่งลูกหนึ่งยังคงทำงานอยู่กับสำนักงานกฎหมายมวลชน ภายใต้การดูแลของ “มโนธรรม” เช่นเดิม แต่คราวนี้ผู้ช่วยคนเก่าของเธออย่าง “คมกฤช” ได้กลายเป็นทนายความหน้าใหม่ในสำนักงานกฎหมายชื่อดังอย่าง New Law Society ดำเนินการโดย “พงทอง” ทนายความที่ดังขึ้นมาจากการช่วยแม่ค้าที่ต่อสู้กับมาเฟียในตลาด จนกลายเป็นดาวเด่นของวงการทนายความ คมกฤชคิดว่าการมาทำงานที่ใหม่จะช่วยให้เขาได้ประสบการณ์การเป็นทนายมากขึ้น แต่เมื่ออยู่ไปนานวัน เขาก็ยิ่งค้นพบว่าวิธีการทำงานของคนที่นั่นช่างแตกต่างจากสำนักงานกฎหมายมวลชนมากเหลือเกิน เขาอึดอัดกับการทำงานที่ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเงินและค่าตอบแทน หนำซ้ำยังต้องถูกอัยการสาวอย่าง “น้ำหวาน” ดูถูกว่าเป็นคนไม่มีอุดมการณ์ เห็นแก่เงิน ที่ร่วมมือกับ “กวิน” ตำรวจหนุ่มผู้คอยหาหลักฐานมาคัดง้างในคดีต่าง ๆ ที่เขาทำอยู่ แพทยังคบอยู่กับวสุ แม้ว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองจะไม่ได้หวานชื่นเหมือนตอนแรกเริ่ม แต่ก็ยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดี กลับกันด้านหน้าที่การงานของแพทดูจะไม่ค่อยราบรื่นมากนักเพราะบ้านของเธอกำลังจะถูกขึ้นค่าเช่าที่อย่างไม่เป็นธรรมจากวัด งานที่สำนักงานทนายก็มีมาไม่หยุดหย่อนแต่ล้วนเป็นงานที่แทบไม่ได้เงินทั้งสิ้น แถมเธอยังต้องไปเป็นคอมเมนเตเตอร์ในรายการตอบปัญหาข้อกฎหมายของประชาชน ซึ่ง “ไป๋” เพื่อนสนิทของแพทเป็นโปรดิวเซอร์รายการ ในรายการเธอมักจะมีปากเสียงกับพงทองอยู่หลายครั้งเพราะความเห็นไม่ตรงกันจนทำให้ทัวร์ลงแพทอยู่บ่อย ๆ ถึงกระนั้นเธอก็ยังจำใจทำต่อเพราะเห็นว่าเป็นรายการของเพื่อน วันหนึ่งแพทพบว่ามโนธรรมได้หาผู้ช่วยคนใหม่มาแทนที่คมกฤช อย่าง “โจ้” เด็กวัยรุ่นหน้าตาดีที่ดูเหมือนมีปมอะไรบางอย่างไม่น่าไว้ใจแพทเองก็สงสัยว่าโจ้จะเป็นประโยชน์ต่อเธอหรือไม่ ดูเหมือนการมาทำงานที่สำนักงานของโจ้เองก็เหมือนจะมีอะไรแอบแฝงอยู่ตลอด แพทลอบสังเกตความเคลื่อนไหวของโจ้ที่ดูไม่ค่อยชอบมาพากล ชีวิตส่วนตัวก็เริ่มมีปัญหาเมื่อพะพายเข้าไปข้องเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของกลุ่มวัยรุ่นที่ต้องการประท้วงซอคอร์ป แพทตกที่นั่งลำบาก เธอจะรับมือกับการงานและความวุ่นวายในฐานะแม่ได้อย่างไร ต้องติดตาม
เรื่องย่อ : เกิด/แก่/เจ็บ/โต (2568/2025) แจน เด็กสาว มัธยมปลายวัย 17 ปี แม้ภายนอกเธอจะเงียบ ๆ ธรรมดา ๆ เหมือนเด็กทั่วไปที่ไม่โดดเด่น แต่แท้จริงแล้วเธอเป็นเนิร์ดที่หมกมุ่นอยู่กับการพัฒนา AI เพื่อหาช่องทางทำเงิน ด้วยความเชื่ออันแรงกล้าว่า AI จะยิ่งเข้ามามีบทบาทกับชีวิตมากขึ้นเรื่อย ๆ และจะแทนที่ความสามารถของมนุษย์ในไม่ช้า
แต่แจนก็ต้องพบกับจุดหักเหครั้งใหญ่ในชีวิต เมื่อเธอถูกครูที่โรงเรียนจับได้ว่าใช้โปรแกรม AI ทำการบ้านและรายงานมาตลอดปีการศึกษา บทลงโทษที่แจนได้รับคือการถูกไล่ออก แต่ยังโชคดีที่เธอได้รับโอกาสแก้ตัวด้วยการเข้าโปรแกรมบำเพ็ญประโยชน์ และสถานที่ที่แจนต้องไปบำเพ็ญประโยชน์ก็คือที่ ‘ร้านรับฝาก สว. (สูงวัย)’
สังคมผู้สูงอายุ ที่ประเทศไทยและโลกกำลังเผชิญอยู่ เปิดโอกาสให้ ป้าภา หญิงวัย 60 ต้น ๆ เปิดบ้านตึกแถว แปลงโฉมเป็น Cafe กึ่ง Nursery ขนาดย่อม ๆ ในชื่อ ‘Senior Smart’ บริการรายวันแก่คนวัยทำงานที่ไม่มีเวลาดูแลญาติผู้ใหญ่ที่บ้าน ให้พามาฝากไว้ที่ร้านของเธอ แจนที่ชีวิตปกติมีแต่ง่วนอยู่กับหน้าจอคอม เมื่อต้องมารับมือกับเหล่าผู้สูงอายุที่ความต้องการหลากหลายก็ต้องเผชิญสารพัดปัญหา จนป้าภาถึงกับเกือบจะขอให้เธอเลิกมาบำเพ็ญประโยชน์ แต่ด้วยเรื่องโอกาสทางการศึกษา ประกอบกับเห็นแจนมีสกิลในการใช้คอมพิวเตอร์ เธอจึงมอบหมายงานใหม่ให้แจนซึ่งน่าจะใช้ความสามารถของเธอได้ตรงจุดกว่า และนั่นก็พาให้แจนได้พบกับ ลุงนก
ลุงนก เป็นชายวัย 60 ต้น ๆ เฟรนด์โซนของป้าภา ทั้งคู่รู้จักและอยู่ในชีวิตกันและกันมาเกือบ 20 ปี ลุงนกเป็นนักเขียนและคอลัมนิสต์ เจ้าของนามปากกา ‘ไร้รัง’ ผู้เคยมีผลงานรวมเรื่องสั้นเข้ารอบรางวัลซีไรต์เมื่อกว่า 30 ปีก่อน แต่ไม่เป็นที่รู้จักและไม่มีใครสนใจงานของแก ปัจจุบันลุงนกเขียนคอลัมน์ชื่อ ‘เกิด / แก่ / เจ็บ / ตาย’ ตอบคำถามสัพเพเหระจากแฟนคลับทางบ้านด้วยแนวทางปลง ๆ ลงเพจรายสัปดาห์ ทว่าแกกลับเพิ่งประสบอุบัติเหตุรถมอเตอร์ไซค์ล้มและต้องเข้าเฝือกที่แขนทั้งสองข้าง การใช้มือไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการทำงานเขียนของแกที่ต้องใช้หาเลี้ยงชีพ และความที่ทำงานคนเดียวมาทั้งชีวิต แกจึงไม่มีผู้ช่วยและไม่เคยเรียนรู้การทำงานเป็นทีม แต่เมื่อถึงคราวจำเป็น ลุงนกจึงต้องจำยอมทำงานร่วมกับแจนอย่างไม่เต็มใจนัก
การร่วมงานกันของแจนและลุงนกเต็มไปด้วยปัญหา ตลอดเวลาที่ต้องพิมพ์ในสิ่งที่ลุงนกคิด แจนขัดใจที่บทความเต็มไปด้วยคอมเมนต์ที่สะท้อนถึงการมองโลกด้วยแว่นที่ต่างกันระหว่าง Gen ด้านลุงนกก็ดูอึดอัดที่มีคนคอยมาส่ายหัว หรือแอบหัวเราะให้ความคิดของเขา จนความหัวร้อนตามธรรมชาติ Gen ของทั้งคู่เกือบจะพาให้ทั้งสองแตกหักกันหลายครั้ง แต่ทั้งคู่ก็ต้องพยายามหาวิธีอยู่ร่วมกันให้ได้เพราะความจำเป็นของแต่ละฝ่าย โดยมีความช่วยเหลือจากป้าภา และ ลูกเกด นักกีฬาวิ่งหญิงตัวเต็งโรงเรียน
เมื่อทำงานด้วยกันนานขึ้น รวมถึงได้คลุกคลีกับชีวิตมนุษย์สูงวัยในร้าน Senior Smart ที่ใช้เป็นที่นัดพบในการเขียนงาน ก็พอจะทำให้แจนเปิดใจกับลุงนกขึ้น เช่นเดียวกับลุงนกที่ยอมเปิดรับฟังความคิดเห็นจากแจนที่เข้ามาช่วยขัดเกลาให้งานเขียนของเขาร่วมสมัยและอ่อนโยนขึ้น ซึ่งไม่เพียงแต่งานเขียนแต่ยังรวมถึงนิสัยของทั้งคู่ด้วย
แจนเริ่มมองเห็นช่องทางการทำเงินจากการพัฒนา AI เพื่อใช้เป็นเพื่อนผู้ดูแลผู้สูงอายุ เธอจึงยิ่งมีโอกาสได้พูดคุย Research จากบรรดาผู้สูงอายุทั้งหลายที่แวะเวียนมาใช้บริการของร้าน ขณะเดียวกัน ลุงนกก็เปิดเผยถึงความตั้งใจก่อนตายที่อยากให้เขียนงานเพื่อเยียวยา ชำระล้างบาดแผลของตัวเองในอดีต
ทั้งแจนและลุงนกเริ่มได้เรียนรู้ปูมหลังชีวิตกันและกัน ลุงนกเคยมีผู้หญิงที่รักมากคนหนึ่งสมัยเป็นนักเขียนหนุ่มไฟแรง แต่ก็ต้องแยกทางกันไปด้วยนิสัยหัวรั้นของลุงที่ทำให้ไม่มีใครทนอยู่ด้วยได้ แต่สิ่งหนึ่งที่เขาไม่เคยได้รู้ก็คือ หญิงสาวคนนั้นตั้งครรภ์กับเขา และให้กำเนิดเด็กชายคนหนึ่งที่เขาไม่เคยมีโอกาสได้ดูแลเลย กลายเป็นปมในใจที่ฝังอยู่กับเขามาจนปัจจุบัน ที่พอเมื่อตัวเองสำนึกแต่ก็ไม่เคยได้รับการให้อภัยจากลูก เช่นเดียวกันกับแจน พ่อแม่เธอหย่าร้างกันตั้งแต่เด็ก แม่แจนกลายเป็นคนติดเหล้าที่คุ้มดีคุ้มร้ายอยู่ตลอด แจนไม่เคยได้เห็นตัวอย่างความสัมพันธ์ที่ปลอดภัย จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้เธอไม่เชื่อเรื่องความสัมพันธ์ ไม่ศรัทธาในมนุษย์ ปิดกั้นความรู้สึก และคิดว่าความสัมพันธ์กับ AI นั้นจัดการได้ง่ายกว่า
แม้จะโกรธลุงนกที่ทำตัวน่าผิดหวังในอดีต ซึ่งทำให้เธออดคิดเปรียบเทียบกับเรื่องพ่อตัวเองไม่ได้ แต่เมื่อลุงนกสลัดอัตตา แสดงความจริงใจ ยอมเปิดใจว่างานเขียนชิ้นสุดท้ายที่เขาตั้งใจเขียนก่อนตาย แท้จริงแล้วคืองานที่ตั้งใจเขียนถึงคนรักเก่าที่เป็นแผลฝังใจมาตั้งแต่สมัยหนุ่ม เป็นงานที่ปอกลอกความรู้สึกผิดในใจเขา เพื่อสารภาพบาปครั้งสุดท้ายกับลูกชาย แจนเองจึงตัดสินใจยอมช่วยเหลือลุงนกอย่างเต็มที่ไปพร้อม ๆ กับการแก้ปัญหาตัวเอง ทั้งเรื่องอนาคตที่ต้องเลือกเส้นทางชีวิต รวมถึงการจัดการความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง
โดยไม่รู้ตัว... คนสอง Gen ที่จับพลัดจับผลูต้องมาทำงานร่วมกัน แลกเปลี่ยนความคิด ความรู้สึก รวมถึงบาดแผลชีวิตแก่กัน ก็ค่อย ๆ เพิ่มพูนมิตรภาพ เกิดเป็นการเรียนรู้ เข้าใจกันและกัน ที่จะพาให้คนทั้งสองก้าวข้ามความเจ็บปวด เพื่อเติบโตอย่างมั่นคงไปอีกขั้นพร้อม ๆ กัน...
ติดตามชมละคร "เกิด แก่ เจ็บ โต" ทุกวันศุกร์ - อาทิตย์ เวลา 20.30 - 21.30 น. ทางไทยพีบีเอส ช่องหมายเลข 3
เรื่องย่อ : สังข์ทอง ไม้พลอง ทองใบ กับการตายของคุณพระ (2568/2025) เรื่องราวเกิดขึ้นที่เมืองสุวรรณธานี เมืองที่อยู่ในยุคสมัยเดียวกับกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น เป็นเรื่องราวของ สังข์ทอง ไม้พลอง ทองใบ สามเพื่อนรักที่เป็นทาสในเรือนของ คุณพระบำเรอกรุง สังข์ทอง ทาสหนุ่มสุดหล่อ ปากหวานพูดเก่งช่างประจบไม้พลอง ทาสหนุ่มสุดทึ่ม จอมบ้าพลัง มือไว ชอบใช้กำลัง และ ทองใบ ทาสหนุ่มสายคิ้วอีกคนในแก๊ง นักประดิษฐ์ประจำกลุ่ม ซึ่งของแต่ละ ชิ้นที่ทองใบทำ มันช่างคล้ายกับของที่เกิดขึ้นในยุคปี 2025 เหลือเกิน ทั้งสามคนสนิทและเป็นเพื่อนรักกันมาก แต่ก็มิวายมาขัดแข้งขัดขากันเอง เพราะดันไปหลงเสน่ห์ โจลี่ มิชชันนารีฝรั่งที่เข้ามาสอนภาษาอังกฤษให้กับลูก ๆ ของคุณพระบำเรอกรุง อีกหนึ่งคนที่จะไม่กล่าวถึงก็ไม่ได้นั่นก็คือ กระต่าย โหงพรายเด็กหญิง 10 ขวบ ซึ่งตายตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้เธอมีลางสังหรณ์ที่แม่นยำและคอยกระซิบบอกเหตุกับสังข์ทองประจำ จนวันหนึ่งที่คุณพระบำเรอกรุงผู้มีเมียมาแล้ว 99 คน อยากจะจัดงานฉลองมงคลสมรสครั้งแรกกับ นวลละออ สาวชาววังที่คุณพระไปต้องตาต้องใจเข้า ซึ่งดันเป็นวันเดียวกับที่สุริยุปราคาจะมาถึง ชาวบ้าน ต่างตื่นเต้นและแตกตื่น ลือกันไปทั่ว เพราะนี่เป็นปรากฏการณ์ครั้งแรกที่เกิดขึ้นในเมืองสุวรรณธานี ซึ่งงานแต่งงานของคุณพระบำเรอกรุงกับนวลละออนั้นก็มีแขกมาร่วมงานมากมายไม่ว่าจะเป็น รำพึง จำปี โจลี่ ขุนบำรุงนคร ทองพิภพ หมื่นอินทร์ และขาดไม่ได้ สังข์ทอง ไม้พลอง ทองใบ ระหว่างที่งานแต่งงานดำเนินไปนั้นเอง ก็เกิดเงาของสุริยุปราคากลืนกินดวงอาทิตย์ ท้องฟ้าเริ่ม มืดมิดไปทั่ว ชาวบ้านต่างออกมาตีเกราะ เคาะไม้ จุดประทัด ยิงปืนเพื่อขับไล่ราหู เสียงดังไปทั่วสุวรรณธานี เสียงขับไล่ราหูนั้นดังมาถึงในงานแต่งงาน และแล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เสียงกรีดร้องดัง ลั่นงานแต่ง เพราะจู่ ๆ คุณพระบำเรอกรุงก็ไปกองอยู่ที่พื้น ถูกยิงตายในงานแต่งงานของตน ! ในความชุลมุน หมื่นอินทร์เห็นทองใบอยู่ไม่ไกลจากร่างคุณพระ พร้อมกับถือปืนอยู่ในมือ หมื่นอินทร์จึงบอกให้ลูกน้องตำรวจที่มาด้วยกันเข้าจับกุมตัวทันที และยิ่งพอได้รู้ว่าทั้งสามเป็นทาสที่ปลอมตัวเข้ามา มั่วดริ๊งค์ ก็ยิ่งไปกันใหญ่ คนในงานเริ่มพูดกันว่าไอ้ทองใบนี่แหละ คือฆาตกร ! ถึงทองใบจะพูดว่าตนเองไม่ได้ทำก็ไม่มีใครเชื่อ เพราะหลักฐานทุกอย่างมันช่างเหมาะเจาะเหมาะ เหม็งให้พวกเขาเป็นผู้ร้ายเสียเหลือเกินงานนี้เลยต้องเล่นใหญ่ใส่ไข่หนีการจับกุม พวกเขาต้องพิสูจน์ ตัวเองให้ได้ว่าไม่ใช่ฆาตกร ทั้งสามคนกับอีกหนึ่งโหงพรายเลยต้องหาฆาตกรตัวจริงให้จงได้ ติดตามชมละคร "สังข์ทอง ไม้พลอง ทองใบ กับการตายของคุณพระ" ทุกวันศุกร์ - อาทิตย์ เวลา 20.30 - 21.30 น. ทางไทยพีบีเอส ช่องหมายเลข 3
เรื่องย่อ : ฝันของฉัน คือฟันดาบ (2568/2025) เรื่องราวของ " ซัน " นักกีฬาฟันดาบสากลผู้ไม่ค่อยอยู่กับปัจจุบัน แต่ชอบไปพะวงกับอดีตและอนาคตจนขาดสมาธิ ในวัยเด็กซันฝึกวิชาดาบไทยในสายอาทมาฏจากคุณตา ต่อมาเมื่อซันได้มาเล่นกีฬาดาบสากลประเภทเซเบอร์ ก็ทำให้เขาเป็นนักฟันดาบที่มีสไตล์โดดเด่น แต่ไปไม่สุดทางก็เพราะสมาธิของเขาไม่ดีพอ ซันอยู่กับแม่ (รุ่งทิวา) และคุณตา (ชำนาญ) ที่บ้านเป็นร้านขายของเก่าที่ใกล้จะเจ๊ง รุ่งทิวาเป็นโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะระยะที่ 4 ซันถูกพ่อทิ้งไปตั้งแต่อยู่ในท้องแม่ แต่ที่บ้านบอกซันว่าพ่อตายไปแล้ว ซันจึงเติบโตมาโดยรับรู้ว่าพ่อตายไปตั้งแต่ก่อนเขาเกิด ซันมีสาวที่แอบชอบคนหนึ่ง ชื่อ " เวฬา” ทั้งคู่เรียนที่เดียวกันแต่คนละห้อง ต่อมายังเรียนมหาวิทยาลัยเดียวกันอีก เวฬาอยู่ชมรมฟันดาบสากลของมหาวิทยาลัย เวฬามีหนุ่มรุ่นพี่ที่สนิทอยู่คนหนึ่งชื่อ " ทาม " เป็นนักกีฬาฟันดาบที่กำลังลุ้นติดทีมชาติ รูปร่างหน้าตาดี พ่อของทาม คือนักธุรกิจดังชื่อ " อาทิตย์ “ สมาร์ต เท่ สุขุม การพบกันครั้งแรกของทามกับอาทิตย์และซันดันไม่ค่อยดีนัก ถึงขั้นต้องไปโรงพัก ซันเจออาทิตย์ครั้งแรกมาประกันตัวให้ทาม แถมยังโดนสบประมาทด้วยคำพูดดูถูกแม่ซันจากอาทิตย์อีกต่างหาก เหตุการณ์นี้จึงทำให้ความสัมพันธ์ของทั้ง 3 คน ไม่ค่อยดีนัก น้าสาวของซันมาบอกความจริงกับซัน เรื่องที่แม่กับคุณตาปิดบังเอาไว้ไม่เคยบอก คือ พ่อของซันยังมีชีวิตอยู่ และเป็นคนรวยมาก น้าสาวอยากให้ซันไปขอความช่วยเหลือจากพ่อ เรื่องค่ารักษาโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะของแม่ซัน ซันไม่รู้ว่าตอนนี้เขาควรรู้สึกอย่างไร จะดีใจที่รู้ว่ายังมีพ่ออยู่ หรือเจ็บปวดที่รู้ว่าเขาและแม่ถูกทิ้ง แต่ว่านี่ไม่ใช่เวลามาสนใจความรู้สึกของตัวเอง สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ เรื่องการรักษา ค่าผ่าตัด การหาหัวใจดวงใหม่ พ่ออาจจะช่วยแม่ได้ดีกว่าการรอคอยแบบคนธรรมดา ซันมีภาพลักษณ์ที่ดูเป็นอันธพาลมาตั้งแต่มัธยม เขาจึงพยายามฝึกฝนให้ตัวเองเป็นนักกีฬาที่เก่ง เพื่อลบภาพลักษณ์ที่ดูเป็นนักเลงนั้นออกไป และอีกเหตุผลก็เพราะ คำพูดที่ดูถูกจากอาทิตย์ในครั้งนั้น เขาพยายามอย่างหนักเพื่อที่จะได้เข้าแข่งขันในรอบลึก เพื่อไปแข่งกับทาม มือวางอันดับ 1 ของมหาวิทยาลัย และอยากจะชนะให้ได้เพื่อลบคำสบประมาทของอาทิตย์ แต่ระหว่างทางการฝึกซ้อมฟันดาบอันหนักหน่วงนั้น มีเรื่องราวที่ทำให้ชีวิตของซันไม่ราบรื่นมาตลอด ทั้งเรื่องดาบไทยล้านนามูลค่าหลักแสนที่ถูกขโมย มีเรื่องชกต่อยกับนักเลงคนอื่น ๆ แถมยังทำให้ทามได้รับบาดเจ็บจากการดวลดาบกันครั้งแรกอีก ทำให้อาทิตย์ไม่พอใจเอาเสียมาก แต่ซันยังมีกำลังใจจาก “ทราย” สาวสวยรวยเสน่ห์ ที่แอบชอบซัน และคอยช่วยเหลือซันอีกหลาย ๆ เรื่อง ซันเริ่มสับสนว่าตนเองมีใจให้ใครกันแน่ ระหว่าง เวฬา กับ ทราย จนถึงการแข่งขันรอบสุดท้าย ซันจะสามารถสู้กับนักกีฬาฟันดาบเก่ง ๆ และพาตัวเองเข้าไปสู่รอบลึก เพื่อที่จะได้แข่งขันกับทามหรือไม่ ใครจะเป็นฝ่ายชนะ และซันจะได้เจอพ่อที่ยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ โปรดติดตาม... ติดตามชมละคร "ฝันของฉัน คือฟันดาบ" ทุกวันศุกร์ - อาทิตย์ เวลา 20.30 - 21.30 น. ทางไทยพีบีเอส ช่องหมายเลข 3
เรื่องย่อ : หม่อมเป็ดสวรรค์ (2567/2024) “คุณขำ” (อัญรินทร์ ธีราธนันพัฒน์) กับ “คุณสุด”(เฌอร์ลิษา เสรีวิบูรณ์กิจ) เป็นหม่อมห้ามใน “กรมพระราชวังบวรฯ” ทั้งสองคนมีความรู้สึกเกินเพื่อนให้แก่กัน แต่ไม่กล้าเปิดเผยให้อีกฝ่ายรู้ ทำได้แค่ดูแลกันอยู่ห่าง ๆ จนกระทั่งเมื่อกรมราชวังบวรฯ สิ้น คุณสุดก็ถูกทาบทามให้เข้าไปรับราชการในพระตำหนักใหญ่ของ “พระองค์เจ้าวิลาส”(มณีรัตน์ คำอ้วน) พระเชษฐภคินีของ “พระองค์เจ้าสังข์” (กิติกร โพธิ์ปี) เหลือก็แต่คุณขำที่ยังหลักลอย จนสุดท้ายต้องกลับไปอยู่บ้านเกิดที่อัมพวา กับ “นายคร้าม” (ณัฐนันท์ คุณวัฒน์) ผู้เป็นพ่อ วันหนึ่งคุณขำเจอ “ปาน” (ณภัค เจนจิตรานนท์) ซึ่งเป็นเด็กหญิงกำพร้า จึงรับอุปการะเป็นลูก และชวนมาเปิดร้านขายขนมในตลาดกันเพื่อประทังชีวิต แต่คุณขำกับปานถูกแม่ค้าในตลาดกลั่นแกล้งให้อยู่ไม่ได้ เพราะทั้งคู่เป็นพวกหน้าใหม่ แต่ยังโชคดีได้ “เจ้าคุณเจนอภิบาล” (สิทธา สภานุชาติ) ช่วยเหลือไว้ ท่านเจ้าคุณเจนตกหลุมรักคุณขำตั้งแต่แรกพบ จนถึงขั้นเพ้อถึงเจ้าคุณบอกกับ “ประจง”(ณัฐพล ดิลกนวฤทธิ์) ข้าราชการในกรมพระตำรวจหลวงคนสนิทว่ารักคุณขำ ถึงขั้นอยากร่วมหอลงโรงด้วย ประจงมั่นใจแล้วว่า เจ้าคุณไม่ได้มีรสนิยมรักเพศเดียวกันเหมือนตน เขาจึงพยายามหักห้ามใจ ต่อมาไม่นานนัก ประจงก็ได้พบกับ “ขวัญ” (กิตติภัทร แก้วเจริญ) ชายหนุ่มหน้าสวยซึ่งเป็น นางเอก ในคณะละครนอกที่พระองค์เจ้าวิลาสทรงอุปถัมภ์อยู่ ขวัญรู้สึกปลาบปลื้มในตัวประจงมาก แต่ “ครูทองคำ” (ประดิษฐ ประสาททอง) ผู้เป็นพ่อสั่งห้ามไม่ให้ขวัญคบกับประจงอย่างเด็ดขาด ฝ่ายคุณสุด เมื่อได้เข้ามาอยู่ในตำหนักใหญ่ก็ต้องผ่านบททดสอบมากมายจาก “คุณสุวรรณ” (หัสสยา อิสริยะเสรีกุล)กระทั่งความสามารถด้านกวี โดนใจพระองค์เจ้าวิลาศ คุณสุดเอ่ยปากขอให้พระองค์เจ้าวิลาสรับคุณขำเข้ามาอยู่ด้วยอีกคน แต่พระองค์เจ้าวิลาสให้เงื่อนไขว่า คุณขำจะต้องมีความสามารถพิเศษเหมือนคนอื่น ๆ ในตำหนักใหญ่นี้ “แม่อึ่ง” (ภัคจิรา กรรรัตนสูตร) แอบรัก “แม่ปริก” (หนึ่งฤทัย ชัยอะทะ) บ่าวในเรือนครัว แต่แม่ปริกไม่ยอมเล่นด้วย เพราะรักอยู่กับ “มั่น” (ธนเดช ดีสีสุข) ข้าราชการในกรมพระตำรวจหลวง มั่นเป็นตำรวจในสังกัด “พระสุริยภักดี” และเป็นลูกน้องของประจง และยังมี “หม่อมแก้ว” (ณัฐชยกานต์ ปากหวาน) หม่อมห้ามคนใหม่ของพระองค์เจ้าสังข์ ก็เข้ามาสร้างความวุ่นวายภายในตำหนักอย่างไม่กลัวเกรงหน้าอินทร์หน้าพรหม และไม่ถูกชะตากับคุณสุด เพราะหม่อมแก้วเกลียดชังพวก “เล่นเพื่อน” จนได้ชื่อว่าเป็นไม้เบื่อไม้เมากันกับคุณสุด สร้างความเดือดเนื้อร้อนใจให้แก่พระองค์เจ้าสังข์แทบไม่เว้นแต่ละวัน แม้จะห้ามปรามตักเตือนแค่ไหน หม่อมแก้วก็ไม่เคยฟัง แถมยังหนักข้อขึ้นเรื่อย ๆ วันหนึ่งคุณสุดดั้นด้นมาหาคุณขำที่อัมพวาด้วยความคิดถึง และได้พบกับเจ้าคุณเจนอภิบาลที่ตามเทียวไล้เทียวขื่อคุณขำ คุณสุดเข้าใจว่าคุณขำคงอยากกลับไปมีชีวิตแบบเดิมมากกว่า (แต่งงานมีสามี) คุณสุดถอดใจจึงกลับตำหนัก ปาน (ณภัค เจนจิตรานนท์) แนะนำให้คุณขำทำตามหัวใจตัวเอง คุณขำจึงตัดสินใจกลับไปเข้าเฝ้าพระองค์เจ้าวิลาส คุณขำเข้าครัวไปทำแกง เมื่อพระองค์เจ้าวิลาสได้ชิมก็พอใจในรสชาติ พระองค์เจ้าวิลาสถามปานว่าทำอะไรได้ ปานตอบอย่างมั่นใจว่าเธออยากเป็นหมอ บรรดาข้าราชบริพารทุกคน ต่างก็พากันหัวเราะขบขัน แต่พระองค์เจ้าวิลาสกลับประทับใจในความซื่อตรงของสองแม่ลูก จึงให้คุณขำกับปานขนของเข้ามาตำหนักใหญ่ได้เลย คุณขำกับคุณสุดจึงได้กลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้งหนึ่ง เมื่อปานเข้ามาอยู่ในตำหนักใหญ่ เรียนอ่าน เขียน ปานจึงใช้เวลาระหว่างวันแอบไปเรียนวิชาแพทย์ที่จารึกที่วัด แล้วเอาวิชาที่ได้รู้มาช่วยเหลือแม่ ๆ ป้า ๆ ในตำหนัก จนกระทั่งวันหนึ่งปานได้พบเด็กผู้หญิงจีนซึ่งเป็นใบ้ “ซิ่วลั้ง” (วิชาดา อติเวศย์อังกูร) ปานได้เข้าไปรักษาอาการบาดเจ็บ พ่อสาวใบ้ซึ่งเป็นพวก “จีนตั้วเหี่ย” ปานจึงต้องมีชีวิตสองด้าน ด้านหนึ่งเป็นชาววัง ส่วนอีกด้านหนึ่งเป็นหมอรักษาพวกตั้วเหี่ย ต่อมาคุณสุดมีโอกาสได้เจอกับเจ้าคุณเจนอีกครั้ง เจ้าคุณเจนเข้ามาขอคำปรึกษาว่าอยากจะรับคุณขำไปเป็นภรรยา คุณสุดรู้สึกเจ็บปวด แต่ก็ยอมเป็นแม่สื่อให้ เพราะเห็นว่าเจ้าคุณเจนเป็นคนดี แต่ความเจ็บปวดทำให้เธอต้องตีตัวออกห่างคุณขำมากขึ้นเรื่อย ๆ ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เริ่มอึมครึมหนักขึ้น จนถึงจุดที่ต้องเผชิญหน้ากัน ในที่สุดพระองค์เจ้าวิลาสจึงสั่งลงโทษให้ทั้งสอง คุณสุวรรณนึกสนุกขึ้นมา จึงแต่งกลอน “หม่อมเป็ดสวรรค์” ถวายพระองค์เจ้าวิลาศขึ้น
เรื่องย่อ : กล้าทะเล (2567/2024) ชีวิตของ กะเอ้ (ภีม ณัฐภัทร) มอแกนหนุ่มวัย 18 ปี ต้องเปลี่ยนไปเมื่อเขาพบกล้องตัวหนึ่งนอนนิ่งอยู่ก้นทะเล กะเอ้นำกล้องไปปรึกษา เงย (ซัน ร้อยพินิจ) และ ไท (เจเจ แดน) เพื่อนสนิทชาวมอแกนทั้งสองคน ขณะนั้นเอง พีพี ลูกชายของ ปริญญ์ เจ้าของบริษัททัวร์รายใหญ่ Sea Saw Seen เพื่อนสนิทอีกคนของกะเอ้ พาลูกค้ามาเที่ยวหมู่บ้านมอแกนพอดี พีพีจะช่วยเอากล้องไปตรวจสอบหาเจ้าของให้ จังหวะเดียวกัน กิ๊บซี่ หัวหน้าไกด์สาวจาก Andaman Society บริษัทคู่แข่งของพ่อพีพี สังเกตเห็นเข้าโดยบังเอิญ กิ๊บซี่กลับไปรายงาน อัลเบิร์ต เจ้านายสุดโหดผู้เป็นเจ้าของและกำลังตามหากล้องดังกล่าวเพื่อป้องกันไม่ให้ความลับที่อยู่ภายในกล้องถูกเปิดเผย ชีวิตหลังจากนี้จะมีมรสุมชีวิตอะไรพัดโหมใส่พวกเขา นานูยกับกะเอ้จะได้เจอกันหรือไม่ คลิปลับอะไรที่ทำให้ชีวิตกะเอ้ต้องระหกระเหิน และการเดินทางของพวกเขาจะสิ้นสุดลงที่ตรงไหน หรือบางทีการมีชีวิตอาจหมายถึงการเดินทางที่ไม่มีจุดสิ้นสุดก็เป็นได้
เรื่องย่อ : อาชญาโกง (2567/2024) หลิว ได้เข้าฝึกงานในบริษัทอสังหาริมทรัพย์แห่งหนึ่งอย่างไม่ตั้งใจ เธอต้องเผชิญอุปสรรคมากมาย ทั้งการกลั่นแกล้งและบูลลี่จากคนในที่ทำงาน แต่ที่หนักสุดคือการไม่ถูกชะตากับ ราเชน ผู้เป็นเจ้านาย ทว่าเธอก็อดทนพิสูจน์ตัวเองอย่างไม่ย่อท้อ แต่ปัญหาก็ยังถาโถมเข้ามา เมื่อ ย่า มาล้มป่วยแถม จ่าสน พ่อที่เป็นอดีตตำรวจก็ถูกทำร้ายจนต้องเข้าโรงพยาบาล ระหว่างที่สิ้นไร้ไม้ตอก ราเชนคือคนที่ยื่นมือเข้ามาช่วย ทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองดีขึ้น
ขณะเดียวกันราเชนโดนมือมืดเรียกค่าไถ่ข้อมูลทางธุรกิจ เขากำลังเดือดร้อนอย่างหนัก หลิวพบพิรุธบางอย่างว่าอาจเป็นกลโกงของคนในบริษัท จึงเริ่มสืบหาความจริง จนได้มาพบกับ เณรธรรม เณรวัดป่าพลัดถิ่นที่ต้องมาจำวัดที่วัดใหญ่เป็นการชั่วคราว ซึ่งกำลังคลางแคลงในหลักปฏิบัติของสถานที่ที่มาอาศัย หลิวและเณรธรรมพบหลักฐานหลายอย่างที่เชื่อมโยงถึงการฉ้อโกงที่มีจำนวนเงินมหาศาล โดยมี ลุงกิ่ง มัคนายก อดีตนักเลงเก่าเป็นผู้ต้องสงสัย ยิ่งหลิวค้นหาความจริงลึกลงไปมากเท่าไร ก็พบว่าเธออาจจะเป็นเบี้ยตัวสำคัญในเกมอาชญาโกงครั้งนี้...- ตอนที่ 1 จ่าสนพยายามดิ้นรนหาเงินมาจุนเจือครอบครัว แต่อดีตเรื่องเป็นตำรวจขี้คุกทำให้ทุกอย่างดูยากเย็น ลูกสาวอย่างหลิว ได้พบกับราเชน นักธุรกิจหนุ่ม ซึ่งเต็มไปด้วยความเย็นชา จึงไม่ถูกชะตา แต่หลิวได้ราเชนเข้ามาช่วยชีวิตไว้จากอาชญากรรม ทำให้เธอรู้สึกติดหนี้บุญคุณ
- ตอนที่ 2 เณรธรรมพยายามปรับตัวกับวัดใหญ่ แต่ยิ่งเรียนรู้ก็ยิ่งรู้สึกว่าทุกอย่างแตกต่างจากที่ควร ส่วนหลิวได้รับโอกาสให้เข้าฝึกงานในบริษัทของราเชนแทนที่เพื่อนสนิท แล้วพี่ที่ฝึกงานมองเธอเป็นตัวปัญหา ทำให้รู้สึกแปลกแยก ด้านราเชนโดนบุคคลปริศนาแฮกข้อมูลบริษัท
- ตอนที่ 3 จ่าสนถูกไล่ออกจากงาน ทำให้ไม่มีเงินไปจ่ายค่ารักษาย่านุ้ย ด้านหลิวพยายามแก้ไข แต่ทุกอย่างก็ไม่ดีขึ้น ซ้ำยังไปช่วยเณรธรรมที่ได้รู้จักกันโดยบังเอิญ ทำให้มีข้อพิพาทกับคนในวัด ดีที่ได้ราเชนช่วยเหลือไว้อีกครั้ง ทำให้มุมมองที่หลิวมีต่อราเชนเปลี่ยนไป
เรื่องย่อ : ตำรับแม่ (2567/2024) เรื่องราวของเฉิงตู ช่างภาพฟรีแลนซ์กับศรีญาดา อินฟลูเอนเซอร์ด้านความงามที่เพิ่งเริ่มต้นชีวิตแต่งงาน แต่ศรีญาดาทำอาหารไม่เป็น ถึงแม้ว่าเฉิงตูจะไม่ได้คาดหวังให้ภรรยาต้องคอยทำกับข้าวให้กิน แต่ศรีญาดาก็อยากมัดใจสามีด้วยการทำอาหารอยู่ดี ศรีญาดาจึงพยายามเรียนรู้เคล็ดลับและวิธีปรุงอาหารจากผู้คนรอบข้างที่แวะเวียนเข้ามาในชีวิต อาหารและเรื่องราวที่พวกเขาพบเจอจะส่งผลต่อชีวิตคู่ที่เพิ่งเริ่มต้นและความสัมพันธ์ต่อผู้คนรอบข้างอย่างไร ติดตามชมได้ในตำรับแม่
เรื่องย่อ : รู้จักพี่ยาใจไหม ? (2567/2024) “ยาใจหัตถ์เทวดา” ฉายาของ ยาใจ หมอนวดสาวที่เป็นที่ต้องการตัวของรีสอร์ตสปามากมายแต่หลบหนีทุกสิ่ง ใช้ชีวิตลึกลับ เพื่อซ่อนตัวจากชื่อเสียงมาอยู่ในแฟตเล็ก ๆ ที่มีชาวแฟลตขี้ระแวง และสงสัยว่าเธอทำมาหากินไม่สุจริต และหลบซ่อนตัวจาก คุณยายน้อย ญาติผู้ใหญ่เพียงคนเดียวของเธอที่พยายามจะจับคู่เธอกับ เกรียงไกร เพื่อหวังให้มีทายาทเพื่อสืบทอดวิชาการนวด “หัตถ์เทวดา”
ท่ามกลางความสงสัยของเหล่าเพื่อนบ้านและความวุ่นวายรอบตัว เธอมีที่พักใจเพียงแห่งเดียว คือ ร้านทำผมของ ชาติชาย ซึ่งเป็นเพื่อนที่รู้จักมาตั้งแต่สมัยมัธยม แต่ก็ต้องพบกับการต่อต้านของ ชมพู ลูกสาวของชาติชาย ชีวิตของยาใจ จะดำเนินต่อไปอย่างไร ผู้คนรอบข้างจะทำให้เธอวุ่นวายแค่ไหน ต้องติดตาม “รู้จักพี่ยาใจไหม ?”
เรื่องย่อ : 8 ยอดมนุษย์ธรรมดา Eightraordinary (2567/2024) 8 ยอดมนุษย์ธรรมดา เป็นเรื่องราวของคนธรรมดา 8 คนที่ประกอบอาชีพแตกต่างกันในสังคมเมืองกรุงเทพมหานคร มีทั้ง “ลุงบุญสร้าง” ลุงขับรถแท็กซี่ “เต๋าเต้ย” สวัสดิการกองถ่าย “เจนนี่” สัปเหร่อ “โจอี้” นักศึกษาฝึกงานที่อยากทำหนัง “ป้าสร้อย” คุณป้าขายลูกชิ้นหน้าโรงเรียน “แพร” เจ้าของร้านดอกไม้ประดิษฐ์ “ทิวลิป” นักเรียนสาวที่ฝันอยากเป็นบิ้วตี้บล็อกเกอร์และ “จอย”โปรดิวเซอร์รายการ
ในชีวิตที่ดูธรรมดาสามัญแต่ละคนต่างมีเรื่องราวการต่อสู้เป็นของตัวเอง มีทั้งวันที่พวกเขาประสบความสำเร็จ มีทั้งวันที่ผิดหวังและพลาดพลั้ง แต่สุดท้ายแล้วไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นทุกคนต่างก็มุ่งมั่นที่จะใช้ชีวิตให้ดีที่สุดโดยไม่ลืมที่จะหยิบยื่นกำลังใจให้กับคนรอบตัว
เรื่องย่อ : Sweet Sensory เรื่องรัก หลากรส ซีซัน 2 (2567/2024) การเดินทางครั้งใหม่ของ “คราม” และ “แตม” กำลังจะเริ่มขึ้น เมื่อครามตัดสินใจรับงานเซตเมนูให้กับร้านอาหารที่จะเปิดใหม่ ทำให้พวกเขาต้องเดินทางไปยังสมุทรสงคราม เพื่อค้นหาเมนูพื้นบ้านย่านแม่กลอง แม้ครามจะยังไม่สามารถรับรสได้อย่างปกติ แต่เมื่อมีแตม เขาก็เชื่อว่าจะยังคงทำอาหารได้ ทั้งสองคนมาพักที่โฮมสเตย์ของ “ชล” เพื่อนสนิทของครามสมัยมัธยม อดีตสถาปนิกดาวรุ่ง ที่ผันตัวกลับมาเป็นชาวสวนที่บ้านเกิด โดยมี “ลุงโต” เพื่อนบ้านที่ผูกพันกันเหมือนญาติคอยช่วยดูแลโฮมสเตย์อีกแรง
“แพรว” เพื่อนรักของแตมได้เลื่อนขั้นเป็นหัวหน้าแผนก ส่วนมอสก็สอบตั๋วทนายผ่าน รวมถึง “เบิ้ม” กับ “นุช” ที่ค่อย ๆ ปรับตัวกับหน้าที่ของพ่อแม่มือใหม่ ในขณะที่นุชตั้งใจกลับไปเรียนต่อให้จบเพื่อทำตามความฝัน ส่วนเบิ้มก็ตั้งหน้าตั้งตาทำงานหาเลี้ยงครอบครัวอย่างขยันขันแข็ง
ท่ามกลางการเริ่มต้นใหม่ของทุกคน “เอิร์ธ” นักธุรกิจหนุ่มไฟแรง ทายาทบริษัทอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ ได้รับมอบหมายให้ดูแลโปรเจกต์เจรจาซื้อที่ดินของชลเพื่อขยายโครงการรีสอร์ตริมน้ำแม่กลอง เอิร์ธจึงตัดสินใจใช้เวลาอยู่ที่นี่เพื่อศึกษาทั้งชุมชนและตัวชล แต่แล้วเขาก็ได้ค้นพบคำตอบของความสุขและรสชาติของชีวิตที่หลากหลาย
เรื่องย่อ : Beating Again ขยับหัวใจมาใส่จังหวะ (2567/2024) “โฟกัส” ไอดอลและนางแบบสาวตัดสินใจพักงานและกลับไปยังชุมชนที่เธอเคยจากมาสมัยเด็ก เธอได้พบกับ “ดินแดน” รุ่นพี่แชมป์เต้นที่ผันตัวมาเป็นครูอาสา และ “นาย” เพื่อนสมัยเด็กที่เคยเต้นมาด้วยกัน แดนเล่าว่า “ทานตะวัน” เด็กสาวในชุมชนอยากจะตั้งทีมเต้นเพื่อมาแสดงในงานวันวาเลนไทน์ การรวมทีมเฉพาะกิจจึงเกิดขึ้น โดยมีสมาชิกมาเพิ่มคือ “จิ๊ดริด” ที่ตั้งใจตามล่าฝัน “เค” หนุ่มน้อยที่มาทำงานเพื่อส่งเงินหาเลี้ยงครอบครัว และคนสุดท้ายคือ “เฟมัส” น้องคนละแม่ของโฟกัส ที่ตามพี่สาวมาเพราะอยากกลับไปคืนดีกับพี่ ทุกเหตุการณ์อยู่ในสายตาของ “อาโกวฮัว” เจ้าของร้านชำประจำชุมชนที่ภายนอกปากร้าย แต่จริง ๆ เพราะเป็นห่วงทุกคน สุดท้ายแล้วพวกเขาจะได้เต้นบนเวทีตามที่ตั้งใจไว้ หรือจะมีอุปสรรคหนักหนาเกินกว่าที่จะรับไหว
เรื่องย่อ : รถรางเที่ยวสุดท้าย (2567/2024) นที เด็กหนุ่มวัย 27 กำลังตามหาความฝันที่อยากจะเป็นคนเขียนบทภาพยนตร์ เขาได้ชวน ภารดร เพื่อนสนิทวัยเดียวกันให้มาร่วมเขียนบทด้วยกัน นทีได้แรงบันดาลใจการเขียนบทมาจากบทกลอนที่แขวนเรียงรายอยู่ในร้านอาหารที่ชื่อ รถราง บทกลอนเหล่านี้เขียนขึ้นโดยเจ้าของร้านที่ชื่อ อารักษ์ เมื่อนทีได้ทำความรู้จักกับอารักษ์มากขึ้นก็ทำให้ล่วงรู้เรื่องราวส่วนตัวเพิ่มขึ้นเช่นกัน พวกเขารับรู้ว่ารักแรกของอารักษ์นั้นเริ่มต้นขึ้นในวันที่รถรางวิ่งเป็นวันสุดท้าย บนรกรางเที่ยวสุดท้ายวันนั้น อารักษ์และเพื่อนสนิทที่ชื่อ บริพัตร และพวกเขาทั้งสองกลับตกหลุมรักหญิงสาวคนเดียวกันที่ชื่อ มุกดา หลังจากวันนั้นเรื่องราวรักสามเส้าก็ได้เริ่มต้นขึ้น บทหนังที่เป็นรักสามเส้าเหมือนถูกทับซ้อนด้วยเรื่องจริงของนที ภราดร และ ซอแก้ว เพราะซอแก้วหลงรักนที และภารดรหลงรักซอแก้ว แต่นทีไม่ได้คิดกับซอแก้วอย่างแฟนสาว แม่ของซอแก้วชื่อ บุหงา เป็นแม่ครัวของร้านอาหารรถราง และเป็นเมียคนที่สองของอารักษ์ที่ไม่ได้มีการจดทะเบียนสมรส หรือพิธีแต่งงานแต่อย่างไร ซอแก้วไม่ชอบอารักษ์ และไม่ยอมเรียกเขาว่าพ่อ เธอหาทางที่จะพาแม่ออกไปจากชีวิตของอารักษ์ตลอดเวลา รวมถึงการเปลี่ยนช่วงเวลาของร้านอาหารที่ก้าวเข้าสู่ยุคปัจจุบัน ปัญหาต่าง ๆ เกิดขึ้นทับซ้อนกันระหว่างช่วงรอยต่อของคนรุ่นเก่า และคนรุ่นใหม่ ทุกคนรอบตัวอารักษ์ต้องมีส่วนร่วมในการสร้างร้านนี้ขึ้นมาใหม่ แต่อารักษ์ยังลังเลที่จะให้คนรุ่นลูก ๆ มีส่วนร่วมในการบูรณะร้านรถรางแห่งนี้
ทุกคนล้วนต้องเรียนรู้จากความผิดพลาดของตัวเอง อารักษ์ต้องยอมรับความจริง และยังต้องยอมรับด้วยว่าอดีตก็ไม่ได้มีแต่เรื่องงดงามอย่างที่อารักษ์ต้องการให้นทีและภราดรเขียนไว้ในบทภาพยนตร์
เรื่องย่อ : หมอตลอดกาล (2567/2024) เรื่องราวของ “หมอตลอดกาล” ศัลยแพทย์หัวใจและทรวงอก เจอมรสุมถูกตราหน้าว่าเป็น “หมอฆาตกร” จนเริ่มหมดความมั่นใจ คิดตั้งคำถามและจะล้มเลิกการเป็นหมอ แต่เพราะเรื่องราวบางอย่างของแม่ ทำให้ตลอดกาลกลับมาสู้อีกครั้ง แต่เขายังต้องเจอกับแรงกดดันและการตั้งคำถามจากทั้งเพื่อนร่วมงาน เพื่อนสนิท และความสงสัยในตัวเอง หนทางชีวิตการเป็นหมอของตลอดกาลจะเป็นอย่างไร ? (ที่มา : thaipbs)
เรื่องย่อ : นางฟ้าไร้นาม (2566/2023) เป็นเรื่องราวของ เพียร เวชบุล หญิงไทยที่มุ่งทำตามความฝันจนสำเร็จการศึกษาแพทยศาสตร์บัณฑิตจากมหาวิทยาลัยปารีส ฝรั่งเศส นับเป็นแพทย์สตรีคนแรกที่จบการศึกษาด้านกามโรคและเดินทางกลับสยามเมื่อต้นปี พ.ศ.2480 แม้บทบาทแพทย์หญิงในสังคมไทยในยุคเริ่มต้นไม่ง่ายนัก แต่หมอเพียรก็ยังบุกเบิกการรักษาโรคกามโรคและโรคซิฟิลิซให้แก่ประชาชนและแอบเข้าไปรักษาเหล่าโสเภณีในซ่องที่เรียกว่า “บ้านสีฟ้า” แม้จะเจอกับความยากลำบากและความขัดแย้งกับผู้มีอำนาจในสังคม จนได้ชื่อว่า “แม่พระของเหล่าโสเภณี” นอกจากนี้ยังได้จัดตั้ง “มาตาภาวสถาน” เพื่อช่วยเหลือหญิงตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์และเด็กกำพร้า
หลังผ่านพ้นสงครามเอเชียบูรพา หมอเพียรตัดสินใจกู้เงินธนาคารออมสินจำนวนกว่า 3 ล้านบาทเพื่อขยับขยายมาตาภาวนาสถานเป็น “พีระยานุเคราะห์มูลนิธิ” พร้อมทั้งก่อตั้ง “บ้านเกร็ดตระการ” ขึ้นเพื่อเป็นสถานฝึกทักษะแก่หญิงโสเภณีไม่ให้กลับไปทำอาชีพเดิม
ต่อมาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชนนีพระราชทานนามสกุล “เวชบุล” และรับ “พีระยานุเคราะห์มูลนิธิ” ไว้ในอุปถัมภ์ และพระราชทานคำนำหน้าหมอเพียรว่า “แพทย์หญิง ดร.คุณเพียร เวชบุล” หมอเพียรยังคงเดินหน้ารักษาผู้ป่วยอย่างต่อเนื่อง และช่วยเหลือโสเภณีและผู้ป่วยกามโรคนับหมื่นชีวิต รวมถึงลูก ๆ เวชบุล กว่า 4,000 ชีวิต ให้เติบโตขึ้นอย่างมีคุณภาพต่อไป นิตยสารรีเดอร์ไดเจสได้บันทึกเรื่องราวแพทย์หญิง ดร.คุณเพียร เวชบุล ในฐานะ “ผู้หญิงมหัศจรรย์” (ที่มา : thaipbs.or.th)
เภรีระบัดชัย (2566/2023)“พระสิทธา” พระหนุ่มแห่งวัดก๋องคำได้จัดตั้งกลุ่มเยาวชนฮักษาขึ้นเพื่อให้เด็ก ๆ ในหมู่บ้านได้เรียนรู้และสืบสานการตีกลองสะบัดชัย แต่หนานสิงห์ซึ่งมีความริษยาพระสิทธามาแต่อดีตปล่อยข่าวเรื่องพระโกงเงินและมีความสัมพันธ์กับเด็กในกลุ่มทำให้ชาวบ้านไม่พอใจไม่ยอมให้ลูกหลานมาเรียนกลองอีก แม้กระทั่ง “มิ่งฟ้า” ลูกศิษย์ที่เติบโตมาในวัดตั้งแต่เด็กก็ยังไม่มั่นใจ แต่ “แผ่นดิน” และเยาวชนกลุ่มฮักษาที่ยังคงเชื่อมั่นในพระสิทธาตั้งใจฝึกซ้อมต่อจนมีโอกาสแสดงในงาน “มหาบุญจุลกฐินถิ่นไทลื้อ” คนดูชื่นชอบพากันแชร์คลิปออกไปมากมายทำให้มิ่งฟ้ากับกลุ่มไม่พอใจ เด็กสองกลุ่มจึงทะเลาะกันจนได้รับบาดเจ็บและกลองเสียหาย หนานสิงห์กับพวกได้ทียุยงชาวบ้านให้คิดว่าเพราะพระสิทธาทำผิดร้ายแรงจึงทำให้เกิดเรื่องขึ้นชาวบ้านจึงพากันไปหาเจ้าอาวาสขอให้ขับไล่พระสิทธาออกจากวัด พระสิทธาจึงตัดสินใจขอสึกพ่อครูและมัคนายกยืนยันว่าพระสิทธาไม่ได้โกงแต่นำเงินไปให้สล่าซ่อมกลองและหอกลองของวัด หนานสิงห์กับเพื่อนเจ็บใจที่ไม่สามารถขับไล่พระสิทธาออกจากวัดได้จึงไปเผาศาลาเก็บกลอง ไฟไหม้ลามไปทั่วทำให้คานหล่นลงมาทับหนานสิงห์แต่พระสิทธาเข้ามาช่วยไว้ได้ กลุ่มฮักษากับชาวบ้านมาช่วยกันดับไฟได้ทัน มิ่งฟ้ากับแผ่นดินเข้าไปช่วยกันย้ายกลองออกมาและมีโอกาสปรับความเข้าใจกัน วันรุ่งขึ้นพระสิทธากำลังกล่าวคำขอลาสิกขา แต่หนานสิงห์มาห้ามไว้ และสารภาพกับทุกคนว่าตนเป็นคนปล่อยข่าวลือใส่ร้ายพระทุกอย่าง ชาวบ้านขอขมาพระสิทธา และกลับมาร่วมใจกันส่งเสริมและสืบสานศิลปะการตีกลองสะบัดชัยด้วยความสามัคคีอีกครั้ง(ที่มา : thaipbs)
ของขวัญ The Gift (2566/2023) แม่เลี้ยงเดี่ยวอย่าง “พิมพ์พิมล” ที่เป็นพยาบาลสภากาชาดไทยมาจนใกล้ถึงวัยเกษียณ ต้องมาเจอกับวิกฤตชีวิตอีกครั้ง เมื่อ “อิ้งค์” ลูกสาวเกิดเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวแบบเฉียบพลัน แต่ในความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดีที่เธอได้สเต็มเซลล์จากผู้บริจาคมาทำการรักษา จึงรอดกลับมาใช้ชีวิตได้อีกครั้ง เรื่องราวของสองแม่ลูกที่ผูกพันกับการให้และการรับไม่ได้ราบเรียบเท่าไร จนกระทั่งทั้งคู่ได้เรียนรู้ว่า “ของขวัญ” ที่มีค่าที่สุดในชีวิตคืออะไร
(ที่มา : thaipbs)
ใต้ปีกแห่งฝัน Dream A Little Dream (2566/2023) "เมย์" หญิงสาวยุคใหม่ เป็น Working Women ตัวแม่ในอดีตเคยผิดพลาดและผ่านช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อมา ปัจจุบันกลายมาเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวที่ไม่แคร์ผู้ชายที่ลูกเรียกว่าพ่อ เพราะเธอสามารถทำหน้าที่เป็นทั้งพ่อและแม่ที่ดีได้เมย์มีลูกสองคน “ใบเฟิร์น” ลูกสาวคนโตที่กำลังก้าวเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น และ “ออก้า” ลูกชายคนเล็กที่ยังเรียนอยู่ชั้นประถม เมย์เป็นผู้หญิงเก่งที่มีความสามารถและมีความมั่นใจในตัวเองสูง เมย์เลี้ยงลูกทั้งสองคนแบบคนรุ่นใหม่ ที่พร้อมจะยอมรับการเปลี่ยนแปลงในทุกด้านของสังคม เธอมักคิดเสมอว่าเราต้องก้าวไปให้ทันโลกจนกระทั่งวันหนึ่งออก้ามาบอกแม่ว่าอยากเรียนโขนไทย แม่ที่ดูแลซัพพอร์ตลูกทุกอย่างแบบเมย์ จึงต้องพาลูก ๆ มาศึกษาหาข้อมูลของการแสดงโขน จาก “ครูอาร์ต” ชายหนุ่มอายุรุ่นราวคราวเดียวกับเธอ แต่กลับมีความคิดที่ต่างกันอย่างสุดขั้วและด้วยความรักที่ต้องช่วยให้ลูกปฏิบัติภารกิจแสดงโขนได้สำเร็จ ทำให้เมย์ต้องกลับไปเจอกับปมในใจของเธอที่มีมาตั้งแต่ยังเด็ก ๆ ว่าเธอไม่ชอบศิลปะไทยแบบนี้ เพราะเธอมีปมบางอย่างในอดีต การได้กลับมาเรียนรู้การแสดงโขนพร้อมกับลูกครั้งนี้ ทำให้เมย์รู้ว่ามันมีอะไรมากไปกว่าการแสดงแบบที่เห็น(ที่มา : thaipbs)
เรื่องย่อ : ต้นไม้น้อยใหญ่ (2566/2023) เรื่องราวของ “ไหม” รับบทโดย ตังตัง นัฐรุจี วิศวนารถ สาววัยทำงานที่ถูกให้ออกจากงาน เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย เธอจึงต้องกลับบ้านซึ่งอยู่ในพื้นที่โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ การกลับมาครั้งนี้ทำให้เธอได้เรียนรู้ที่มาของหมู่บ้านของตนเอง และเรียนรู้ความมั่นคงของชีวิตที่ป่ามอบให้ผ่านการหลงป่า โดยมี นนท์ และแพตตี้ ร่วมชะตากรรม พวกเขาจะเอาตัวรอด และใช้ชีวิตในป่าได้อย่างไร (ที่มา : thaipbs)
It's ok to be 30 สามสิบกำลังดี (2566/2023)
ในวัย 30 ปี พลอยดาว พบว่าตัวเองกำลังหลงทางกับเส้นทางชีวิต ไม่ว่าจะเป็นงานที่ปรึกษาธุรกิจที่ดูไร้โอกาสเติบโต เงินทองเก็บไม่อยู่ เป็นออฟฟิศซินโดรม ติดเหล้า ทั้งยังล้มเหลวกับความสัมพันธ์ทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว เพื่อน หรือกับคน (เคย) รัก
ทว่าก่อนจะยอมให้ชีวิตตัวเองล่มสลายไปมากกว่านี้ พลอยดาวตัดสินใจไปพบกับ น้ำค้าง นักจิตวิทยา การได้พบน้ำค้างทำให้พลอยดาวตัดสินใจปฏิวัติหลาย ๆ อย่าง เธอลาออกจากงานที่ทำ หวนกลับไปฟื้นความสัมพันธ์กับกลุ่มเพื่อนสนิทที่เคยมีเรื่องบาดหมางกัน และนั่นก็พาให้เธอได้พบกับ ชนิน แฟนเก่าที่เคยเหลวไหล ไม่มีอนาคต แต่ตอนนี้เขาได้เข้ามารับช่วงต่อธุรกิจของครอบครัว ทำให้เขาต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองจนเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาก
ชนินตัดสินใจชวนพลอยดาวมาร่วมงานในฐานะที่ปรึกษาเพื่อการเปลี่ยนผ่านองค์กร การได้ใกล้ชิดกันอีกครั้งพาให้ทั้งสองค่อย ๆ ได้รื้อฟื้นความรู้สึกดี ๆ ที่มีต่อกันตั้งแต่สมัย ม.ปลาย รวมถึงความสัมพันธ์ในกลุ่มเพื่อน ๆ ที่ล้วนแล้วแต่เคยโดดเด่นท่ามกลางแสงไฟละครเวทีโรงเรียนที่ทำร่วมกัน แต่ปัจจุบันก็ต่างประสบพบวิกฤตชีวิตในช่วงวัย 30 ที่มีตั้งแต่การทำธุรกิจ ความสัมพันธ์ที่เป็นพิษ การแต่งงาน หรือแม้กระทั่งความสงสัยในคุณค่าความเป็นมนุษย์ของตัวเอง
ไม่ใช่เรื่องง่ายที่พลอยดาวกับชนินจะกลับมาคบกันอีกครั้ง เพราะปมในอดีตอันแสนเจ็บปวดในชีวิตของพลอยดาวนั้นมีสาเหตุมาจากการที่เธอเติบโตขึ้นมาพร้อมภาพจำของพ่อแม่ที่มีปัญหาการหย่าร้าง ส่งผลให้ลึก ๆ เธอกลัวและไม่มั่นใจเรื่องความสัมพันธ์มาตลอด ในวัยนี้...พลอยดาวจึงต้องตั้งคำถามจริงจังกับตัวเองอีกครั้งว่า ระหว่างความสัมพันธ์ที่ไม่มีอะไรมารับประกันว่าจะมีความสุขไปได้ตลอด กับเส้นทางชีวิตที่มีแต่จะต้องเดินไปข้างหน้า เธอควรจะเลือกอย่างไหน ?
(ที่มา : thaipbs)