ช่อง 9 เอ็มคอต เอชดี
เกรียนเฮ้าส์ เดอะซีรีส์ 2014 (ซีซั่น 1) (2557/2014)
เดชแม่ยาย (2542/1999) อันแม่ยายนั้น ก็เปรียบเสมือนแม่ทัพ การรู้จุดอ่อนของแม่ทัพ ย่อมสามารถโจมตีกองทัพได้… หาก “เดชแม่ยาย” ก็มากเหลือล้น แต่เมื่อรักลูกสาว…สิ่งใดจะมาขัดขวางฤาก็หาไม่…แม้แต่แม่ยาย! ความรักความห่วงใยที่แม่มีต่อลูก ด้วยแม่หนูใหญ่ก็อายุมากขึ้นทุกวัน ยังไม่มีวี่แววว่าจะลงหลักปักฐานกับใครได้ ความร้อนรุ่มจึงสุมอกคุณนายมะปราง ด้วยอยากให้ลูกมีหลักมีฐาน…แต่ฐานนั้นหลักนั้นต้องดีและมั่นคง คุณนายมะปรางวาดคุณสมบัติลูกเขยไว้แล้วอย่างครบถ้วน ต้องดีพร้อมทุกกๆ อย่าง โดยเฉพาะเรื่องทรัพย์ศฤงคาร เพราะคุณนายถือสุภาษิตที่ว่า “ความมีทรัพย์ เป็นลาภอันประเสริฐ” “วีรชาติ” หนุ่มผู้ก้าวเข้ามาพร้อมด้วยความหวังอันเปี่ยมล้นของคุณนายมะปราง…ที่ พิจารณาคุณสมบัติแล้ว…ไฟเขียวให้ หากใครจะรู้บ้างว่า…ว่าที่แม่ยายกำลังคิดอะไร? และกำลังมีแผนอะไรอยู่? เดชแม่ยาย อีกบทประพันธ์หนึ่งที่ กนกเรขา สร้างสรรค์ขึ้นมาเพื่อเรียกเสียงหัวเราะ และให้แง่คิดในการดำเนินชีวิตคู่ ในคนสองคนหากจะดำเนินชีวิตร่วมกันนั้น เป็นสิ่งไม่ยาก หากมีบุคคลที่สามเข้ามาเกี่ยวข้องความดกลาหลย่อมเกิดขึ้น “แม่ยาย” ไม่ใช่ของเล่นและลบหลู่ได้ ยิ่งเป็นแม่ยายอย่างคุณนายมะปราง ที่ทำให้ว่าที่ลูกเขยอย่างนายกุงเกงลายต้องตามเหลี่ยมคูให้ทัน ซึ่งบทสรุปยังไม่สามารถบอกได้ว่า… ระหว่างเล่ห์กลของแม่ยาย และความลื่นไหลของลูกเขย ใครจะเหลี่ยมจัดกว่าใคร? แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ทุกอย่างที่เกิดขึ้น เพียงเพื่อ “กันเกรา” คุณหนูใหญ่ที่เป็นดวงตาดวงใจของพ่อแม่ และเป็นสิ่งเดียวที่นายกุงเกงลายปรารถนา…ดวงตาสีมรกตคู่นั้น และแววแห่งความรู้เท่าทัน ติดตรึงมิรู้ลืม ทำให้วีชาติมีกำลังใจที่จะฝ่าด่านแม่ยายเข้าไปหา! แม่ยาย…ทำทุกอย่างเพื่อให้ลูกสาวได้สิ่งที่ดีที่สุด ลูกเขย…ถือสุภาษิตที่ว่า ถ้าทำให้แม่ยายรักซะอย่าง เส้นทางรักย่อมราบเรียบยังกะทางด่วนแน่นอน หากทุกอย่างจะเป็นเช่นไร “กันเกรา” คนเดียวเท่านั้นที่รู้คำตอบ! รัก…ย่อมมีอุปสรรค หากรักแท้…ก็ไม่ยากที่จะฝ่าฟันอุปสรรคนั้น!
Love Sick Season 2 รักวุ่น วัยรุ่นแสบ ฤดูกาลที่ 2 (2558/2015) ความเดิมซีซั่นที่แล้ว หลังจากที่โน่กับปุณณ์ตกลงใจจะกลับไปเป็นเพื่อนกัน ซีซั่นนี้ทั้งคู่กลับมาอีกครั้งในฐานะเพื่อนที่เข้าใจกันและกัน ท่ามกลางบรรยากาศโรงเรียนฟรายเดย์ทั้งโรงเรียนต่างยุ่งกับงานบอลประเพณีครั้งใหญ่ที่กำลังจะจัดขึ้น งานบอลครั้งนี้ นอกจากจะเป็นงานแห่งเกียรติยศแล้ว ยังเป็นงานที่จะพิสูจน์ความสามารถของแก๊งนางฟ้าในฐานะเชียร์ลีดเดอร์อีกด้วย หลังจบงาน โน่ ปุณณ์ และเพื่อน ๆ ไปฉลองกันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ที่นั่นโน่ได้เจอกับกอล์ฟ ศิษย์เก่าฟรายเดย์คอลเลจ ผู้มาพร้อมกับความลับบางอย่างของเอมที่โน่แทบไม่อยากเชื่อ แต่สุดท้ายโน่ก็ต้องเผชิญหน้ากับความจริงข้อนั้นด้วยตนเองที่หัวหิน ซึ่งทั้ง โน่ปุณณ์ เอม และยูริไปเที่ยวด้วยกัน ทำให้โน่น้ำท่วมปาก ด้วยไม่รู้จะบอกปุณณ์ยังไง กลับจากหัวหิน โน่ยังต้องหัวหมุนกับงาน Live Contest ที่ชมรมดนตรีเป็นเจ้าภาพ ในรอบคัดเลือก เอิ้นได้ทำบางอย่างที่สะกิดใจทั้งโน่และปุณณ์ให้สงสัยถึงความรู้สึกแท้จริงที่เอิ้นมีต่อโน่ วันหนึ่งที่บ้านโน่ เพื่อน ๆ โน่พากันมาถล่มจัดปาร์ตี้สุกี้กัน โดยมีปุณณ์ตามมาด้วย และบังเอิญรู้ความจริงของเอมเข้าในที่สุด โน่พยายามอยู่เคียงข้างปุณณ์ ให้กำลังใจปุณณ์โดยปล่อยให้ปุณณ์ตัดสินใจจัดการเรื่องทั้งหมด สุดท้ายทั้งปุณณ์และเอมก็ต้องปิดฉากความรักลง หลังเลิกกับเอมแล้ว ทั้งปุณณ์และโน่ก็ยังคงสภาพความเป็นเพื่อนเอาไว้ กระทั่งวันหนึ่งที่โน่ต้องไปเล่นดนตรีในงาน Open House ของโรงเรียนคอนแวนต์ และมีสาว ๆ พยายามเข้าหามากมาย ทำให้ปุณณ์ตัดสินใจขอคบโน่ หากแต่การคบกันของทั้งคู่กลับเป็นแบบหลบ ๆ ซ่อน ๆเนื่องจากโน่ไม่ต้องการบอกใครจนมีปากเสียงกันบ่อยครั้ง ในที่สุดโน่ก็ถามตัวเองว่าทำไม และได้คำตอบว่านั่นเป็นเพราะตนเองยังไม่ได้เคลียร์กับยูรินั่นเอง โน่จึงตัดสินใจบอกยูริว่ามีคนที่ชอบแล้ว ยูริเสียใจมาก แต่ก็เข้าใจ และตั้งใจจะเป็นเพื่อนโน่ต่อไป จนกระทั่งบังเอิญไปเห็นภาพโน่กับปุณณ์ที่อยู่ด้วยกันเข้า ทำให้ยูริเข้าใจว่าคนที่โน่ชอบคือใคร ยูริรับไม่ได้ และเลิกคบโน่ในที่สุด ปุณณ์และโน่คบกันต่อไป แต่กลับมีปัญหาใหญ่รออยู่ นั่นคือพ่อของปุณณ์ที่เริ่มระแคะระคายว่าปุณณ์มีแฟนและต้องการรู้ว่าแฟนปุณณ์คือใคร ปุณณ์กับพ่อมีปากเสียงกันยกใหญ่ทำให้โน่ไม่สบายใจเป็นอย่างมาก จนปุณณ์ต้องตัดสินใจทำอะไรบางอย่าง สิ่งที่ปุณณ์จะทำคืออะไร ยูริจะกลับมาเป็นเพื่อนกับโน่อีกหรือไม่ เรื่องราวของจี๊ด คม แป้ง ป๊อบ จะจบลงแบบไหน
ลูกรักลูกชัง (2537/1994) ร่วมพิสูจน์ความงดงามแห่งจิตใจมนุษย์ ได้จาก “ลูกรักลูกชัง” ผลงานของ ก.สุรางคนางค์ ศิลปินแห่งชาติ ปี พ.ศ.2529 สาขาวรรณศิลป์ กับนวนิยายที่จะสะท้อนให้เห็นความเป็นจริงของโลก การเอารัดเอาเปรียบ เหยียดหยามผู้ที่ด้อยกว่าอยู่เสมอ หากก็ยังมีบางคนหรอกที่ยังคงเห็น คุณค่าของความเป็นคนในมนุษย์ร่วมโลกเช่น...สาโรช ชายหนุ่มผู้เป็น ตัวแทนแห่งความดีงามและเพราะความดีที่มีอยู่ในตัวตนของเขา ได้ช่วย ให้อีกชีวิตหนึ่งได้พบแสงสว่างและมีชีวิตอยู่บนโลกนี้ต่อไป...
โรงแรมผี (2541/1998) ณ โรงแรมบางละมุง ชลบุรี ซึ่งตั้งอยู่ริมชายทะเล โรงแรมนี้เปิดดำเนินกิจการแบบครอบครัว มีนายปั้น เป็นเจ้าของและผู้จัดการ มีนายเปลี้ยง น้องชายเป็นรองผู้จัดการ มีนายปริญญา ลูกชายเป็นสมุห์บัญชีและปัทมา ลูกสาวเป็นแคชเชียร์ของโรงแรม... แล้วในคืนฝนตกหนักคืนหนึ่ง โรงแรมแห่งนี้ก็ได้ต้อนรับแขกผู้มาพักคือ เฉิดโฉมที่หนีจากนายปราโมทย์ สามีเพื่อจะเข้ากรุงเทพฯ แต่ฝนตกหนักก่อน ก็เลยแวะเข้าพักที่โรงแรม ระหว่างนั้นนายปราโมทย์ก็ตามมาทันและขอคืนดี แต่เฉิดโฉมไม่ยอมกลับบ้าน จึงเกิดปากเสียงจะทำร้ายกัน เฉิดโฉมจึงขอร้องให้นายปั้นผู้จัดการโรงแรมช่วยเหลือ ซึ่งทำให้นายปราโมทย์โกรธและพูดขู่จะฆ่าเฉิดโฉมทิ้งแล้วก็กลับไป คืนนั้นเอง เฉิดโฉมก็ถูกฆ่าตายในห้องพักหมายเลข 1 ซึ่งผู้กองชิงชัย นายตำรวจเจ้าของคดีตรวจพบว่า เธอตายเพราะตกใจจนช็อคและมีร่องรอยของการบีบคอ ไม่มีบาดแผลอื่นใดและยังพบรอยเท้าของคนข้างซ้ายพิการอยู่บนพื้นห้อง จึงสันนิษฐานว่า คนร้ายต้องมาจากภายนอกและสงสัยว่า จะเป็นนายปราโมทย์ที่ปลอมตัวมาฆ่าเฉิดโฉมตามคำขู่ จากนั้น เสี่ยเพ้งและวิไลสาวคู่ขาที่มาพักโรงแรม ก็ถูกฆ่าตายในลักษณะเดียวกันอีกที่ห้องพักหมายเลข 1 ส่วนเงินที่เสี่ยเพ้งพกติดตัวมาเป็นหมื่น ๆ กลับไปอยู่ที่ห้องของนายปั้น ทำให้นายเปลืองคิดว่า พี่ชายของตนเป็นคนฆ่าเสี่ยเพ้งหวังจะเอาเงิน แต่เมื่อพูดคุยกันจนเข้าใจแล้ว ทั้งสองคนจึงตัดสินใจนำเงินของเสี่ยเพ้งทั้งหมดไปทิ้งทะเลเพื่อตัดปัญหา แต่พอรุ่งเช้า เงินทั้งหมดก็ลอยกลับมากระจัดกระจายอยู่บนชายหาดหน้าโรงแรมอีก ผู้กองชิงชัยจึงสรุปว่า คนร้ายฆ่าเสี่ยเพ้งแล้วขโมยเงินหนีลงเรือไป แต่เกิดเรือล่ม เมื่อเกิดเหตุร้ายต่าง ๆ ก็ทำให้นายปั้นเริ่มวิตกว่า จะไม่มีใครมาพักที่โรงแรมแห่งนี้ นายปริญญาจึงอาสาจัดงานรื่นเริงงานปาร์ตี้เพื่อให้ดูสนุกสนาน โดยเรียก วิสูตร เพื่อนเก่าที่เป็นนายช่างและ มยุรี คนรักของปริญญาให้มาร่วมงานนี้ด้วย นายปราโมทย์จึงได้ปลอมตัวเข้ามาในงาน แล้วลอบเข้าไปบีบคอปัทมาขณะหลับที่ห้องนอน แต่เสียงร้องของปัทมา ก็ทำให้วิสูตรและคนอื่น ๆ มาช่วยปัทมาไว้ได้ทัน นายปราโมทย์อ้างว่า ที่ทำไปก็เพราะต้องการแก้แค้นทุกคนที่ฆ่าเฉิดโฉมเพื่อหวังชิงทรัพย์ แต่ผู้กองชิงชัยได้บอกความจริงให้รู้ว่า คนอื่นเป็นคนฆ่า เรื่องจึงยุติลง นายปั้นจึงเชิญนายปราโมทย์เข้าพักที่โรงแรมเป็นการตอบแทน แต่ในคืนนั้นนายปราโมทย์ถูกฆ่าตายไปอีกคนหนึ่ง โดยศพนายปราโมทย์ไปอยู่ที่ห้องนายปั้น สร้างความปวดหัวให้แก่ผู้กองชิงชัยเป็นอย่างมาก คืนต่อมา นายปั้นก็ถูกวิญญาณผีร้ายเข้าสิง แล้วบังคับให้ไปฆ่ามุยรี ระหว่างลงมือบีบคอฆ่า ปริญญาก็มาช่วยไว้ได้ทัน มยุรีเล่าให้ฟังว่า ขณะเกิดเหตุหน้าคนร้ายเหมือนผีมี 2 ใบหน้าสลับกัน หน้าหนึ่งเป็นคนแก่แต่งชุดโบราณ แต่อีกหน้าหนึ่งจะเหมือนนายปั้น ที่สำคัญเวลาเดินจะมีขาข้างซ้ายพิการ แต่เมื่อไปดูนายปั้นที่ห้องพัก ก็เห็นนอนหลับอยู่ตามปกติ ทุกคนจึงกลับไป ครั้นนายปั้นเข้านอนต่อ วิญญาณผีร้ายก็มาเข้าสิงนายปั้นอีก คราวนี้บังคับให้ไปฆ่าคนงานในโรงแรม แต่วิสูตรซึ่งได้ยินเสียงร้องก็ลงมาเห็นพอดี นายปั้นจึงวิ่งหลบหนีไป แต่วิ่งเหมือนคนขาพิการ แล้วก็ขับรถออกจากโรงแรมไป ตำรวจจึงตามไล่ล่า ระหว่างทาง รถนายปั้นเสียหลักพลิกตกเขาถึงแก่ความตาย ศพนายปั้นถูกนำไปเก็บไว้ที่โรงพยาบาล แต่เมื่อลูก ๆ ทราบเรื่อง จะมาขอรับศพ พยาบาลก็บอกให้ฟังว่า ศพนายปั้นได้ลืมตาขึ้น พยาบาลตกใจเป็นล้ม ฟื้นมาอีกทีศพก็หายไปแล้ว แล้วความจริงก็ปรากฏขึ้นมาว่า การฆาตกรรมต่าง ๆ ในโรงแรมนั้น เกิดจากการกระทำของวิญญาณผีร้ายที่ชื่อ หลวงนฤบาลบุรีรักษ์ ซึ่งมีความอาฆาตเคียดแค้นนายปั้นมาตั้งแต่สมัยที่นายปั้นยังเป็นคนสนิทของเขา เพราะนายปั้นไปแอบพาสารภีเมียน้อยของหลวงนฤบาลฯ หนีไปอยู่กินและมีบุตรด้วยกัน จนกระทั่งหลวงนฤบาลฯ ถึงแก่ความตาย แต่ก่อนตายหลวงนฤบาลฯ ได้ยกตึกหลังหนึ่งให้แก่สารภีเป็นมรดก แล้วต่อมานายปั้นกับสารภี ก็ได้เอาตึกหลังนั้นมาดัดแปลงทำเป็นโรงแรมแห่งนี้ เมื่อทุกคนทราบเรื่องก็กลัว แล้วคืนนั้นวิญญาณของนายปั้นก็ได้มาเข้าฝันปริญญาบอกวิธีกำจัดวิญญาณผีร้าย โดยให้ปริญญาไปตามหาพระพุทธรูปแก้วที่เคยอยู่ประจำในโรงแรมกลับคืนมา วิญญาณผีร้ายก็จะเข้ามาในโรงแรมไม่ได้ แต่ปริญญาก็ตามหาพระพุทธรูปไม่พบเพราะมีการให้ต่อ ๆ กันไป ระหว่างนั้น วิญญาณหลวงนฤบาลฯ ก็ยังคงอาละวาด ทำให้คนงานของวิสูตรที่มาก่อสร้างโรงแรมตายไปและยังสะกดจิตให้มยุรีไปผูกคอตาย หลอกให้ปัทมาไปถ้ำค้างคาวเพื่อจะฆ่าทิ้ง แต่ทั้งสองคนก็รอดมาได้เพราะปริญญากับวิสูตรช่วยไว้ได้ทัน วิญญาณหลวงนฤบาลฯ จึงเข้าสิงนายเปลื้องแล้วบังคับให้ไปฆ่าป้าชื่น ป้าของมยุรีที่มาพักโรงแรม เมื่อฆ่าเสร็จก็หนีไป ทุกคนบอกกับผู้กองชิงชัยว่า นายเปลื้องเป็นคนฆ่า แต่เชื่อว่าเป็นเพราะผีร้ายเข้าสิงให้ทำ ขอให้ตำรวจอย่าเพิ่งทำอันตรายนายเปลื้อง แต่เมื่อนายเปลื้องกลับมาเพื่อมอบตัว วิญญาณหลวงนฤบาลฯ ก็เข้าสิงอีก แล้วบังคับให้นายเปลื้องต่อสู้ ยิงกับตำรวจจนถูกตำรวจยิงตาย และเมื่อยังไม่ได้พระพุทธรูปแก้วกลับคืน วิสูตรกับปริญญาจึงไปปรึกษาหมอผีและได้รับคำแนะนำว่า ให้ไปจัดการขุดศพของหลวงนฤบาลฯ ที่ยังไม่เผาเอาขึ้นมาสะกดวิญญาณไว้ก่อน แต่เมื่อไปถึงป่าช้าก็พบว่า ในหลุมศพที่ขุดขึ้นมานั้น ไม่มีศพหลวงนฤบาลฯ แต่กลายเป็นศพนายปั้นที่หายไป แล้ววิญญาณหลวงนฤบาลฯ ก็อาละวาดจนทั้งสองคนต้องรีบกลับโรงแรม เมื่อไปถึงก็พบว่า ปัทมากับมยุรีหายไป ระหว่างนั้น นายเพิ่มคนเก่าแก่ของหลวงนฤบาลฯ ก็ส่งจดหมายมาบอกว่า แท้จริงแล้ว ศพหลวงนฤบาลฯ ถูกย้ายมาเก็บไว้ที่ห้องใต้ดินของโรงแรมแห่งนี้เพื่อหวังจะแก้แค้นครอบครัวนี้ ทุกคนจึงคิดว่า ปัทมากับมยุรีจะต้องถูกขังอยู่ในห้องใต้ดินของโรงแรม จึงช่วยกันค้นหาทางเข้าห้องใต้ดิน เมื่อค้นพบ ก็เป็นเวลาที่วิญญาณหลวงนฤบาลฯ กำลังอาละวาดเล่นงานสองสาวอยู่ พอเห็นว่า ทุกคนมากันพร้อมหน้า วิญญาณหลวงนฤบาลฯ ก็แสดงอิทธิฤทธิ์ให้ตึกเกิดสั่นสะเทือนจะถล่มลงมาเพื่อฆ่าทุกคน ระหว่างนั้น ไอ้น้อย บ๋อยโรงแรมก็เอาห่อผ้าใส่ของชิ้นหนึ่งลงมาให้ บอกว่า มีคนฝากมาให้ เมื่อวิสูตรคลี่ผ้าออกดู ก็พบว่า ข้างในเป็นพระพุทธรูปแก้วที่หายไปนั่นเอง ทันใดนั้นเมื่อปรากฏพระพุทธรูปเต็มองค์ ตึกก็หยุดสั่นสะเทือน ลมพายุก็หยุดพัด แล้วจึงค่อย ๆ ปรากฏร่างของหลวงนฤบาลฯ ออกมา แต่เมื่อวิญญาณร้ายเห็นพระพุทธรูปแก้ว ก็ตกใจ วิสูตรเป็นผู้ถือพระพุทธรูปแก้ว โดยให้ทุกคนช่วยกันตั้งจิตอธิษฐาน...แล้วอำนาจแห่งธรรมะก็บันดาลให้เกิดเป็นแสงสีประกายรุ้ง สาดส่องไปกระทบยังร่างหลวงนฤบาลฯ เกิดเป็นไฟลุกท่วมตัวหลวงนฤบาลฯ ส่งเสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด แล้วร่างค่อย ๆ มอดไหม้กลายเป็นผงธุลีสิ้นฤทธิ์ไป เหตุร้ายในโรงแรมแห่งนี้ก็สงบลง
หมวดโอภาส เดอะซีรีส์ ปี 2 (2556/2013) ห่างหายกันไปนาน กลับมาคราวนี้ หมวดโอภาส เดอะซีรี่ส์ ปี 2 ขอจัดเต็ม!! รับประกันความหลอนและความฮาโดย หมวดโอภาส (เต๋อ-ฉันทวิชช์ ธนะเสวี) เจ้าเก่า!! ด้วยเรื่องราวเข้มข้นถึงใจขึ้นกว่าเดิม อยากรู้ว่าจะฮากันแค่ไหน ติดตามชม หมวดโอภาส เดอะซีรี่ส์ ปี 2 ทุกวันอาทิตย์ เวลา 16.00 น. ทางโมเดิร์นไนน์ ทีวี หมวดโอภาส เดอะซีรี่ส์ ปี 2 พร้อมจัดทัพเหล่านักแสดงนำ ไม่ว่าจะเป็น เต๋อ-ฉันทวิชช์ ธนะเสวี, ไอซ์-ปรีชญา พงษ์ธนานิกร นางเอกสุดฮอตจากเรื่อง ATM เออรัก เออเร่อ, หนูนา-หนึ่งธิดา โสภณ รวมถึงคู่ฮาเจ้าเก่า เผือก-พงศธร จงวิลาส, ปิ๊ง-อดิสรณ์ ตรีสิริเกษม, ต่อพงษ์ กุลอ่อน เสริมทัพด้วยสาวสวย ไอซ์-อภิษฎา เครือคงคา ที่จะบุกมาสร้างความหรรษากันอย่างเต็มที่ แถมเพิ่มสีสันด้วยดารารับเชิญไม่ซ้ำหน้า อาทิ นาตาลี เดวิส, เอิร์ธ-ธวัช พรรัตนประเสิรฐ , พีช-พชร จิราธิวัฒน์, ปันปัน-สุทัตตา อุดมศิลป์, ฝน-ศนันธฉัตร ธนพัฒน์พิศาล ,สมจิตร จงจอหอ, จิ้ม ชวนชื่น เป็นต้น จับกุมชายเมาแล้วขับ , รวมแก๊งค์ป้าเล่นป๊อกเด้ง , ตะครุบคนวิ่งราว , ช่วยตามหายายหลงทาง คดีเหล่านี้ล้วนถูกคลี่คลายมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน แต่ถ้าคดีที่เกิดขึ้นไม่ใช่คดีธรรมดาอย่างที่เคยเป็น พยานอาจไม่ใช่คนที่มีลมหายใจ ที่เกิดเหตุอาจเคยเป็นแดนอาถรรพ์ของกลาง อาจเป็นสิ่งลี้ลับ หรือกระทั่งคนร้ายอาจเป็นสิ่งเหลือเชื่อที่พิสูจน์ไม่ได้! แล้วใครกัน? ที่จะมาคลี่คลายคดีพิศวงเหล่านั้น ถ้าไม่ใช่ หมวดโอภาส ขอต้อนรับการกลับมาอีกครั้งของ หมวดโอภาส (เต๋อ-ฉันทวิชช์ ธนะเสวี) ตำรวจหนุ่มสุดซื่อแต่ไฟแรง แห่งหน่วยงานสอบสวนและสนับสนุนคดีพิเศษ (ASI) เตรียมพบกับความสนุกสนาน และร่วมคลี่คลายคดีพิศวงไปกับ หมวดโอภาส กับการสืบสวนชวนมันส์ ไปด้วยเหล่าผี ๆ มากหน้าหลายตา หมวดโอภาส เดอะซีรี่ส์ ปี 2
รักบ้านเรา (2551/2008) รักบ้านเรา (ละครเทิดพระเกียรติ) เป็นละครโทรทัศน์แนว การอยู่ร่วมกับครอบครัวและสังคมอย่างมีความสุข บทประพันธ์ของ บทโทรทัศน์โดย กำกับการแสดงโดย สราวุธ วิเชียรสาร ผลิตโดย บริษัท ทูแฮนส์ จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์–ศุกร์ เวลา 19.00 - 19.45 น. ทาง สถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์ทีวี นำแสดงโดย ศรราม เทพพิทักษ์, ลภัสรดา ช่วยเกื้อ, ภูริ หิรัญพฤกษ์, อลิชา หิรัญพฤกษ์ และนักแสดงชั้นนำอีกมากมาย เริ่มตอนแรกวันที่ พ.ศ. 2551–พ.ศ. 2551
ตีลังกาท้าฝัน (2547/2004) เรื่องราวความรัก ความสนุกสนาน แนว Romantic - Comedy ของวัยรุ่น มหาลัย 3 คู่ ที่มีบรรยากาศของการแข่งขันตะกร้อ และ เชียร์ลีดเป็นแบ็คกราวน์ โดยมีความรักระหว่างหนุ่มสาว ความรักของเพื่อนร่วมทีม ร่วมมหาลัยและพ่อแม่เป็นแกนหลัก เริ่มเรื่องที่พระเอก ต้องย้ายเขามาอยู่ที่บ้านหลังเล็กของนาเอก เนื่องจากพี่สาวนางเอกแต่งงานกับ พี่ชายพระเอก พ่อแม่ของทั้งสองฝ่ายอยากให้พระเอก ซึ่งเป็นเด็กต่างจังหวัดเข้ามาเรียนหนังสือที่กรุงเทพฯ จะได ้มีที่พัก ไม่ต้องเช่าหอ และที่สำคัญ พี่ชายจะได้ดูแลพระเอกอย่างใกล้ชิด ขณะที่พระเอกและนางเอก ต่างไม่เต็มใจ นัก แต่อยู่ในสภาพจำยอม เพราะเกรงใจอยู่ ที่มหาวิทยาลัย ชมรมตะกร้อที่พระเอกสังกัด กำลังจะปิดตัวเพราะไม่มีผลงานมาเลยตลอดหลายปี แข่งที่ไหนก็แพ้ตลอด จนอธิการบดีคาดโทษ ถ้าไม่ชนะจะยุบชมรม และยกห้องให้ชมรมเชียร์ของนางเอก รุ่นพี่ปี แปด ก็มายัดตำแหน่ง ประธานชมรมให้พระเอก เพราะตัวเองต้องรีบเรียนให้จบ ก่อนถูกรีไทน์ เมื่อไม่มีงบ ประมาณ ไม่มีผลงาน ไม่มีสมาชิก ไม่มีแม้แต่ นักกีฬา พระเอกจำเป็นต้องรณรงค์ให้คนทั้งมหาวิทยาลัย หันมา สนใจกีฬาตะกร้อด้วยการแอบถ่ายรูปหนุ่มๆ หน้าตาดีหล่อจัด สาวกรี๊ด อย่างนักรักบี้ กดนตรี มาทำโปสเตอร์รับ สมัครสมาชิก บังเอิญโปสเตอร์ดังกล่าวเกิดไปสะดุดตาแมวมอง ของบริษัท เครื่องกีฬา อยากเข้ามาเป็นสปอนเซอร์ ให้ชมรมนี้ เพราะกีฬาตะกร้อกำลังเป็นที่นิยมตามกระแสนิยมไทยของรัฐบาล จนมีการ จัดแข่งขันลีกต่างๆ ทั่วไทย จึงอยากจ้างหนุ่มๆ ในโปสเตอร์ที่พระเอกทำเป็นพรีเซ็นเตอร์ พร้อมเงินสนับสนุนชมรม ก้อนใหญ่ แต่มีข้อแม้ว่า ต้องรีบจัดการแข่งขันในเร็ววัน เพื่อให้เจ้านายดูตัวก่อนอนุมัติงบให้ พระเอกจึงต้องไปหว่านล้อม อ้อนวอน ขอร้อง แกมบังคับให้หนุ่มๆ ที่ไม่เป็นเลย มาหัดตะกร้อ หัดอย่างไรก็ไม่เก่งสักที แต่สาวกรี๊ดมาก จนได้ฉายาว่า "ตะกร้อนายแบบ" เพราะ หน้าตาดีมาก พระเอกจะเอาตัวรอดอย่างไร ไม่ให้สปอนเซอร์ถอนตัว ให้นายแบบจำเป็น เล่นต่อไปให้ชนะ ให้ชมรมไม่ถูกยุบ ไม่ให ้แพ้ชมรมเชียร์ของนางเอก ฝั่งนางเอก มีเรื่องแพท คุณหนูไฮโซ และ การไปแข่งเชียร์ระดับประเทศอีกเส้น เรื่องดำเนินไปสักระยะ นายแบบทั้งหลายเริ่มถอนตัว เพราะแข่งอย่างไรก็ไม่มีทางชนะ ชมรมต้นสังกัด ก็เรียก ตัวกลับไปซ้อมทุกวัน ชมรมตะกร้อกำลังจะแย่อีกครั้ง จู่ๆ ก็มีเด็กสาวหน้าตาดี อาสาเข้ามาเป็นผู้จัดการทีม เพราะชอบพระเอก หนุ่มๆ นักตะกร้อจำเป็น เห็นผู้จัดการทีมสวยจัด เริ่มเปลี่ยนใจอยากกลับมาช่วนชมรมตะกร้อ อีกครั้ง แต่จะพูดกับชมรมต้นสังกัดอย่างไร เรื่องสนุกๆ จการตกกระไดพลอยโจน เริ่มขึ้นแล้ว
Love Therapy บำบัดรัก บำรุงสุข (2554/2011) ภูมิ (บีม กวี) จิตแพทย์หนุ่ม เปิดคลินิก ให้คำปรึกษาแก่ผู้มีปัญหาทางจิตตลอดเวลาที่ให้คำปรึกษาแก่คนไข้ ภูมิก็พยายามค้นหารักแท้ เพื่อมาเติมเต็มความสุขให้แก่ตัวเอง ไลลา (กิ๊ฟซี่ วนิดา) ผู้มีปัญหาโดนแฟนทิ้งตลอดไม่ว่าจะมีแฟนกี่คนก็ตาม เธอไม่เข้าใจว่าตัวเองมีข้อบกพร้องอะไร ทุกครั้งที่เธอคบใครหรือเลิกกับใครก็จะมาปรึกษาภูมิตลอด ทั้งในฐานะของเพื่อนและคนไข้ของภูมิ โดยเธอไม่รู้ตัวเลยว่า ภูมิมีรักแท้รอมอบให้เธอเพียงผู้เดียว พัฒน์ (แบงค์ อธิกิตติ์) น้องชายต่างแม่กับภูมิที่มีปมอยู่ในใจตลอดว่า พ่อรักภูมิมากกว่าตนและแม่ ซึ่งแม่ของพัฒน์ได้เสียไปแล้ว พัฒน์อยู่กับภูมิและพ่อ (แม่ของภูมิเสียแล้วเช่นกัน พ่อของภูมิจึงแต่งงานใหม่กับแม่ของพัฒน์) พัฒน์เปิดร้านขายดอกไม้ และหลงรัก แก้ว (ฟาง ธนันต์ธรญ์) แต่แก้วหลงรักภูมิ ยิ่งเป็นปมในใจให้แก่พัฒน์ จุดเปลี่ยน สำคัญของเรื่องเกิดขึ้นเมื่อภูมิตัดสินใจสารภาพกับไลลาว่าเค้ารักเธอ ทำให้ไลลาหญิงสาวที่หวาดระแวงและไม่ไว้ใจผู้ชายในเรื่องความรักเป็นทุนเดิม อยู่แล้ว ไลลาจึงถอยห่างและไม่ไว้ใจภูมิเหมือนเช่นเดิม ในขณะเดียวกัน พัฒน์ก็ได้รู้ความจริงจากแก้วหญิงสาวที่ตนหลงรักว่าเธอนั้นรักภูมิ ภูมิจะมีวิธีบำบัดรักบำรุงสุขให้กับตัวเค้าเองและคนรอบข้างอย่างไร เรื่องราวความรักของพวกเค้าทั้ง 4 คน จะลงเอยอย่างไร ติดตามได้ใน ละครบำบัดรักบำรุงสุข
ไต้ฝุ่นสุดซ่า สายฟ้าจอมกวน (2554/2011) เนื่องจากสังคมปัจจุบันเต็มไปด้วยความยุ่งเหยิง บ้านเมืองขาดระบบและระเบียบ มีแต่คนคิดเอาผลประโยชน์ส่วนตน ไม่เกรงกลัวกฎหมาย คนมีอำนาจเอาเปรียบผู้ที่ด้อยกว่า ไม่คำนึงถึงชาติ บ้านเมือง เยาวชนซึ่งเป็นอนาคตของชาติขาดทิศทางและแนวทางปฏิบัติ แม้แต่ในสถานศึกษาก็เริ่มออกนอกลู่นอกทาง ไม่เคารพครูบาอาจารย์ก่อเรื่องให้กับสังคมไม่เว้นแต่ละวันจนบ้านเมืองระส่ำ ระสาย แต่ด้วยอำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ปกป้องคุ้มครองบ้านเมืองในที่สุดสวรรค์ยังมีตา ส่งคนลงมาปราบคนชั่วในที่สุด... ติดตามต่อได้ใน ไต้ฝุ่นสุดซ่า สายฟ้าจอมกวน
ขิงก็รา ข่าก็แรง (2533/1990) เป็นเรื่องของนักข่าวสาวณิช กับนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงปวีร์ ณิชมีพี่สาวชื่อ ภรณี ซึ่งเป็นเมียน้อยของไพรุต พ่อของเพียงเพ็ญ พ่อของปวีร์คือสารนาถ แม่ของปวีร์ ป่วยเป็นโรคจิตต้องเข้าโรงพยาบาลเพราะทนความเจ้าชู้ของสารนาถไม่ไหว แต่เธอเปิดใจกับแม่ชีศรีสุดา เรื่องที่ทำให้ณิช ต้องมาผัวพันกับสารนาถและปวีร์ เพราะเธอทำข่าวผิด เธอต้องการที่จะขอโทษ สารนาถแค่ถูกขัดขวางโดย ปวีร์เธอมีความมุ่งมั่น ทำให้ในที่สุดเธอก็ได้ขอโทษสารนาถสมใจแล้วเธอก็ลาจากไป แต่เธอได้มาพบกับสองพ่อลูกอีกครั้งเพราะ เธอเข้าไปเยี่ยมรุ่งทิพย์และรุ่งทิพย์ก็ชอบในความใสซื่อของณิช เพราะณิชมาเยี่ยมรุ่งทิพย์บ่อยๆมำให้อาการของรุ่งทิพย์ดีขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้รุ่งทิพย์สามารถกลับมาอยู่บ้านได้ เมื่อสารนาถและปวีร์มารับเธอไม่ยอมกับบ้าน แต่ยอมไปอยู่บ้านณิชแทน เรื่องราวจะเป็นยังไงต่อไป ปวีร์จะยอมรับรักณิชเพราะอะไร ติดตามชมใน "ขิงก็รา ข่าก็แรง"
วิมานไฟ (2523/1980) ภุมเรศ ภมรชัย ชายหนุ่มหน้าตาดี มีเสน่ห์อย่างร้ายกาจ ทายาทของนายพงศ์ ภมรชัย เป็นศัตรูเก่าทางธุรกิจของนายสุวรรณ วรทิพย์ แต่นายพงศ์พ่ายแพ้ในการฟ้องร้องคดีจนทำให้ครอบครัวภมรชัยต้องล้มละลาย ถึงแม้เหตุการณ์นั้นนายพงศ์จะเป็นฝ่ายผิด แต่ก็ไม่สำนึกจึงพกความแค้นจากกรุงเทพฯ กลับไปอยู่สงขลา กลับเสี้ยมสอนลูกชายให้ผูกพยาบาทตระกูลวรวิทย์มาตั้งแต่เด็ก ๆ ส่วนแม่ของภุมเรศเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจ และเมื่อข่าวการจากไปอย่างไม่มีวันกลับของนายสุวรรณแพร่สะพัด นายพงศ์จึงสั่งภุมเรศให้ทำหน้าที่ลูกกตัญญู เป้าหมายคือเพื่อทำลายตระกูลวรวิทย์ และทวงความมั่งคั่งกลับคืนมา และแล้วบริษัทอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ได้เปลี่ยนมือผู้บริหารหลังจากการเสียชีวิตของประธานบริหาร นายสุวรรณ วรทิพย์ ซึ่งมีลูกสาว 3 คน ได้แก่ทาทอง วรทิพย์ พี่สาวคนโตอายุเกือบ 30 ปี ที่มีนิสัยจริงจัง เอาการเอางานและเด็ดขาดเหมือนพ่อและเป็นประธานบริหารต่อจากพ่อ โดยมี โรยทอง วรทิพย์ บุตรสาวคนรอง เป็นมือขวาในการบริหาร ทั้งสองคนมีศูนย์รวมจิตใจอยู่ที่ รินทอง วรทิพย์ น้องสาวคนเล็กอายุเพิ่ง 20 ปี ที่เรียบร้อย อ่อนไหวและเป็นแม่บ้านแม่เรือน ความปรองดองของสามพี่น้องเป็นที่ชื่นชมและรับรู้กันดีในวงสังคม เขาได้เดินทางเข้ามากรุงเทพฯ เพื่อแก้แค้น ซึ่งภุมเรศปรากฏตัวในฐานะลูกชายของเพื่อนเก่าพ่อ ภุมเรศได้ก้าวเข้ามาสู่บ้านศัตรูของพ่อได้อย่างสะดวกง่ายดายเพราะการชักนำของนฤชา แรงพยาบาทของพ่อก็ตามที่สามพี่น้อง เกิดสนใจในอัธยาศัยและเสน่ห์ในตัวภุมเรศจนทำให้รับเขาเข้ามาทำงานในบริษัท ภายหลังงานศพเสร็จสิ้นไป และแล้วสามพี่น้อง ทาทอง, โรยทองและรินทอง ตกหลุมรักผู้ชายคนเดียวนั้นก็คือภุมเรศ โรยทองเป็นคนที่เฉลียวใจในสิ่งที่นายชม ทนายประจำตระกูลพูดมากที่สุด จากการที่เธอพบปะผู้คนมามากมาย ทำให้เธอนึกระแวงถึงเหตุผลในการมาของภุมเรศที่ดูจะรู้เท่าทันภุมเรศ แต่ก็ไม่กล้าจะแสดงออกเพราะใจหนึ่งก็ยังแอบชอบ ภุมเรศใช้ความรักทำให้ทาทองตาบอดสนิทอย่างง่ายดายจนทำให้ทาทองตกหลุมรักอย่างโงหัวไม่ขึ้น ทาทองยกให้ภุมเรศเป็นที่ปรึกษาของบริษัทมีโต๊ะทำงานอยู่ในห้องเดียวกัน เพื่อจะได้เห็นหน้ากันตลอดเวลา ให้เงินเดือนสูง ๆ ยังให้มาพักอยู่ในบ้านเดียวกัน ทาทองทุ่มเทให้ภุมเรศยอมพลีทุกอย่างแก่เขา เธอเป็นหามาประเคนให้เพราะคิดว่า ภุมเรศรักตน กระทั่งภุมเรศกอดกระซิบบอกว่ารักเท่านั้น ทาทองก็ถึงกับประกาศโพล่งในหมู่พี่น้องว่าจะแต่งงานกับภุมเรศโดยไม่สนใจเสียงคัดค้านของนายชม ทนายความเก่าแก่ที่รู้จักตระกูลภมรชัยเป็นอย่างดี ภุมเรศมักถือโอกาสเอาเวลาว่างที่ทาทองงานยุ่งและโรยทองไม่อยู่บ้านเพื่อที่ภุมเรศแวะเข้าไปหารินทอง เธอจึงเคลิบเคลิ้มและเชื่อภุมเรศสนิทใจ ทำให้เขากล่อมเสียจนรินทองหมดความเคารพนับถือพี่สาวและยอมเป็นเมียเขาอย่างเต็มใจอย่างเงียบ ๆ ก่อนที่ภุมเรศจะแต่งงานกับทาทองด้วยซ้ำ ต่อมาโรยทองแอบศึกษาพฤติกรรมของภุมเรศอย่างเงียบ ๆ ตลอดเวลา จนกระทั่งวันแต่งงาน ภุมเรศจึงไปสารภาพรักกับโรยทอง โรยทองจึงตบหน้าแล้วจากไปด้วยความเสียใจ ทาทองนั้นน้อยใจต่อภุมเรศมาก ภุมเรศเมาอย่างหนักยิ่งเพิ่มความแค้นให้ภุมเรศมากขึ้น หลังพิธีแต่งงานผ่านไป รินทองเกิดอาการแพ้ท้องขึ้นมา เธอจึงอ้างว่าพี่สาวแย่งผัวของตนจึงอ้างเอาทะเบียนสมรสเป็นพยาน จัดแจงพารินทองจะหนีออกจากบ้านก็พอดี ทาทองจึงโกธร จึงคว้าปืนมาไล่ยิงภุมเรศแต่ภุมเรศแย่งปืนไว้ทัน ทาทองเห็นมีดปลายแหลมจึงหยิบและวิ่งไล่แท่งรินทองเสียอย่างไม่นับ และหันกลับมาจะฆ่าภุมเรศตายตามบ้าง แต่เธอทำไม่ลงเธอจึงเอาแต่ร้องไห้แล้วก็หัวเราะและวิ่งออกนอกบ้านไปอย่างเป็นคนเสียสติ ตำรวจจึงมาถึงบ้านแล้วพร้อมเก็บศพของรินทอง ภุมเรศได้รู้สำนึกตัวเองว่าตัวเองได้สังหารคนไปแล้วถึงสามคน ทาทองเป็นคนบ้าเสียสติทันที รินทองเสียชีวิต และโรยทองเป็นโรคเบื่อผู้ชายไปตลอดชาติจะไม่แต่งงานชั่วชีวิต แต่กฎหมายไม่สามารถเอาผิดภุมเรศได้ ภุมเรศได้จากไปอยู่จังหวัดสงขลากับพ่อตนเองด้วยความเสียใจ เขาสำนึกต่อบาปที่ได้กระทำพี่น้องต่อตระกูลนี้ จึงคิดจะบวชล้างบาป แล้วจะไม่สึก
เรื่องย่อ : ศิวา ราตรี (2520/1977) ศิวาราตรี…ราตรีแห่งการลอยบาป ได้กำเนิดยุพราชแฝดสามองค์ องค์หนึ่งตกไปอยู่ในอุ้งมือโจร องค์หนึ่งตกอยู่ในมือของนักมายากล อีกองค์หนึ่งตกไปอยู่ในนครของนักบวช ทั้งสามองค์จะเจอกันได้อย่างไร ติดตามการสู้รบและชิงไหวชิงพริบได้ในผลงานชิ้นเอกที่ท้าทายนักอ่าน
ใต้ฟ้า ตะวันเดียว (2553/2010) วินดี้ (ฉัตร ปริยฉัตร) พบรักกับปาร์คชองมิน (ไรอัน วงพารัน) ขณะไปเรียนต่อที่สหรัฐฯ อเมริกา เมื่อเรียนจบชองมินชวนวินดี้ไปเที่ยวบ้านเกิดของเขาที่เกาหลี และขอวินดี้แต่งงาน โดยสัญญาว่าจะรีบให้พ่อแม่ไปสู่ขอเธอที่เมืองไทย วินดี้ดีใจมาก แต่ลึก ๆ แล้วแอบกลุ้มใจ เพราะรู้ว่าทุกคนในครอบครัวของเธอ โดยเฉพาะคุณยายพนอจัน (เปียทิพย์) เกลียดคนเกาหลีมาก ซึ่งทั้งแม่ฤทัย (รัชนู บุญชูดวง) และ น้าศจี (ปู นริสรา) ต่างก็พากันบ่ายเบี่ยงทุกครั้งที่เธอถามถึงสาเหตุ ติดตามต่อได้ใน ใต้ฟ้าตะวันเดียว
เจ้าหญิงหลงยุค (2565/2022) ณ เมืองมรกต ดินแดนที่เต็มไปด้วยความศิวิไลซ์ หากแต่ได้มีความลับบางอย่างซ่อนอยู่ เมื่อเจ้าหญิงกรรณิกาเกสร พระธิดาแห่ง เจ้าอ้ายคำตัน เจ้าผู้ครองนครมรกตเกิดหายตัวไปอย่างลึกลับ ก่อนที่เจ้าชายตืนสางจพระโอรสของเจ้าอ้ายกาไสย เจ้าผู้ครองพุกามนคร จะมาทาบทามสู่ขอ ขณะเดียวกัน ที่กรุงเทพฯ กลับพบหญิงสาวในชุดไทยโบราณกลางเวทีคณะลิเกเทพเมธา ของเมธาเจ้าของคณะลิเกชื่อดัง ขณะที่สายป่านและมงคลนักแสงลิเกกำลังแสดงบนเวทีอยู่ โดยมีสนและเมย์เป็นนักแสดงสมทบ หญิงสาวผู้นี้ใบหน้าเหมือนเจ้าหญิงกรรณิกาเกสรไม่ผิดเพี้ยน ด้วยความตกใจที่เธอมาอยู่ที่นี่ ทำให้เธอวิ่งหนีฝูงชนที่พากันแตกตื่นกับหญิงสาวชุดไทยกลางเวทีลิเกแห่งนี้ จนกระทั่ง รัฐ CEO หนุ่มเจ้าของบริษัทโฆษณาชื่อดัง ลูกชายพัชรี เจ้าของตลาดใหญ่แห่งนี้ขับรถมาหาแม่ของเขา เกิดเห็นหญิงสาวชุดไทยวิ่งตัดหน้ารถพอดี เขาจึงเบรกรถก่อนที่จะชนร่างของเธอ หากแต่หญิงสาวผู้นี้กลับบอกว่าเธอคือ เจ้าหญิงกรรณิกาเกสร ที่เดินทางมาที่นี่หลังจากอธิษฐานกับดอกไม้โลหะโบราณที่ได้จากชาวบ้านลึกลับในตลาดเมืองมรกต รัฐจำเป็นต้องพาตัวเธอกลับมาที่บ้าน เพราะกังวลว่ากรรณิกาเกสรจะความจำเสื่อมจากเหตุรถชนเมื่อกี้ เมื่อมาถึงที่บ้านกรรณิกาเกสรจึงได้รู้จักกับ พัชรี แม่ของรัฐ พีพี น้องสาวของเขา รวมไปถึง พัชรา อ้ำอ้ำ อุ้มอุ้ม น้าสาวและน้อง ๆ ของเขาอีกด้วย พัชรีได้รู้จักกับกรรณิกาเกสรก็รู้สึกเอ็นดูในความน่ารักของเธอ แม้จะแปลกใจกับความไร้เดียงสาอย่างสุดโต่ง ที่ถึงขั้นแทบไม่รู้จักข้าวของเครื่องใช้ทุกอย่าง อีกทั้งคำพูดคำจาของเธอยังผิดแผกไปจากคนทั่วไปอีกด้วย พีพีเห็นกรรณิกาเกสรที่ดูไม่ปกติจึงพยายามช่วยแนะนำเธอในทุก ๆ เรื่อง จนกรรณิกาเกสรเริ่มปรับตัวในเมืองกรุงเทพฯ แห่งนี้ได้อย่างกลมกลืนมากขึ้น ขณะเดียวกัน รามเทพ และภาณุภาม องครักษ์ของเจ้าหญิงกรรณิกาเกสร ต่างพากันออกตามหาเจ้าหญิงกรรณิกาเกสรที่หายตัวไปด้วยความร้อนใจ เมื่อเจ้าอ้ายคำตันล้มป่วยลงด้วยความเป็นห่วงพระธิดา แม้แต่เอื้อย และอ้าย นางกำนัลประจำตัวของเจ้าหญิงกรรณิกาเกสรเองก็เป็นทุกข์หนักเช่นเดียวกัน แต่ใครจะรู้ว่าการหลงยุคมาอยู่ที่กรุงเทพฯ ของเจ้าหญิงกรรณิกาเกสรนั้นกลับมีเรื่องที่คาดไม่ถึงเกิดขึ้น เมื่อลูกค้าของบริษัทรัฐ เกิดถูกใจกรรณิกาเกสรและอยากให้มาเป็นนางแบบโฆษณาสินค้าให้กับเบรนด์ของเขา ทำเอา ราเมศ ผู้กำกับโฆษณา พ่วงตำแหน่งหุ้นส่วนของรัฐถึงกับต้องออกปากขอร้องให้รัฐติดต่อกรรณิกาเกสรมาถ่ายแบบหนังโฆษณาตัวนี้ให้ได้ เจ้าหญิงหลงยุค ด้านกรรณิกาเกสรที่ในตอนนี้มืดแปดด้านไปหมด ที่พึ่งเดียวของเธอก็คือครอบครัวของรัฐ ทำให้เธอตกปากรับคำยอมถ่ายแบบโฆษณาให้รัฐแลกกับการที่รัฐจะพยายามหาทางพาเธอกลับเมืองมรกตให้ได้ แต่การรับงานนี้กลับกลายเป็นการสร้างศัตรูให้กับเธอ นั่นคือ พอลล่า นางแบบสาว ผู้แอบชอบรัฐ และหวังพึ่งรัฐในการหางานให้กับเธอ โดยมีโชเบเป็นผู้จัดการส่วนตัวที่พร้อมจะเป็นมือเป็นเท้าให้เธอในทุก ๆ เรื่อง ทันทีที่พอลล่าถูกยกเลิกงานโดยมีกรรณิกาเกสรมาเสียบแทนก็ทำให้พอลล่าไม่พอใจและหาเรื่องกลั่นแกล้งกรรณิกาเกสร หากแต่รัฐ กลับเป็นคนคอยปกป้องกรรณิกาเกสรอยู่เสมอ มิหนำซ้ำเขายังพากรรณิกาไปรู้จักที่ต่าง ๆ ในเมืองไทย ราวกับเป็นการเปิดโลกใบใหม่ให้กับกรรณิกาเกสรอีกด้วย และด้วยความใกล้ชิดนี่เองที่ทำให้รัฐและกรรณิกาเกสรเริ่มรู้สึกดีต่อกัน จนกระทั่งวันหนึ่ง ทั้งสองคนได้ไปเห็นร้านขายของโบราณแห่งหนึ่งเข้า ขณะที่รับได้เจอกริชโบราณที่เปล่งแสงสว่างออกมาทำให้เขาแปลกใจว่า กริชเล่มนี้เกี่ยวข้องอะไรกับเขา ขณะที่กรรณิกาเกสรก็ได้รู้จักกับ สุธี ลูกชายของ เธียร เจ้าของร้านขายของโบราณแห่งนี้ มิหนำซ้ำเธียรยังมีข้าวของโบราณจากเมืองมรกตเมื่อ 500 ปีก่อนอยู่ในร้านอยู่หลายชิ้น รวมไปถึงหนังสือประวัติเมืองมรกต ที่ท้ายเล่มได้บอกเล่าประวัติของเจ้าหญิงกรรณิกาเกสรที่หายตัวไป ทำให้กรรณิกาเกสรรู้ว่าเขาทั้งสองคือผู้ที่จะช่วยเธอให้เดินทางกลับเมืองมรกตได้ หากแต่สุธีเมื่อได้รู้จักกับกรรณิกาเกสรกลับคิดการใหญ่ว่าหากเขาพากรรณิกาเกสรเดินทางกลับเมืองมรกตเขาจะขอรางวัลจากเจ้าอ้ายคำตันเป็นทรัพย์สินเงินทองมากมายมาเป็นของตอบแทน สุธีจึงพากรรณิกาเกสรไปพบกับ พ่อหมอ ชายลึกลับที่ล่วงรู้อดีตของเธอเป็นอย่างดี พ่อหมอได้เจอกรรณิกาเกสรก็พยายามหาทางช่วยให้เธอได้เดินทางกลับเมืองมรกต แต่กลับพบว่า การเดินทางกลับไปเมืองมรกตไม่ง่ายอย่างที่คิด ขณะที่รัฐรู้สึกไม่ไว้ใจสุธี ก็พยายามขัดขวางเขาและหาทางที่จะช่วยกรรณิกาเกสรด้วยตัวเอง จนในที่สุด เขาก็ได้คำตอบว่า เขามีใบหหน้าเหมือนกับ รามเทพ องครักษ์ของกรรณิกาเกสรไม่ผิดเพี้ยน ไม่เพียงเท่านั้น แม้แต่ สายป่าน และเมย์ นักแสดงลิเกคณะเทพเมธาที่กรรณิกาเกสรได้พบครั้งแรก ก็ใบหน้าเหมือนกับเอื้อยและอ้ายนางกำนัลของเธอเช่นเดียวกัน เบาะแสเรื่องการเดินทางข้ามเวลาของกรรณิกาเกสรค่อย ๆ ชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ พร้อมกับความแค้นใจของพอลล่าที่วางแผนทำร้ายร่างกายกรรณิกาสรจนถึงกับขับรถเฉี่ยวเธอทำให้กรรณิกาเกสรไม่สามารถรับงานอีกได้ หากแต่รัฐ ราเมศ พีพี กลับจับได้ว่าเป็นฝีมือพอลล่า ทำให้พอลล่ายิ่งตกที่นั่งลำบากเมื่อไม่มีใครจ้างงานเธออีกเลย เจ้าหญิงหลงยุค ด้านสุธีหลังจากที่ได้รู้จักกรรณิกาเกสรมากขึ้นก็เริ่มคิดการใหญ่กว่าเดิมหวังจะเป็นราชบุตรเขยของเจ้าอ้ายคำตันเสียเอง ทำให้เธียรคิดว่าต้องหาทางขัดขวางลูกชาย เขาจึงยอมเปิดเผยความจริงว่า เขามีดอกไม้โลหะอีกดอก และเขาเคยเดินทางข้ามเวลาระหว่างเมืองมรกตมาก่อน นั่งคือเหตุผลที่ทำให้ร้านของเขามีของใช้โบราณในยุคของเมืองมรกตมากมาย และยังล่วงรู้ความลับของเจ้าหญิงที่หายตัวไปอีกด้วย เธียรบอกความลับนี้ให้รัฐได้รู้ และรับปากจะช่วยพากรรณิกาเกสรกลับบ้าน ขณะที่พ่อหมอก็ไขปริศนาได้ว่า การพากรรณิกาเกสรกลับบ้านได้นั้น ต้องให้คนที่ที่มีความผูกพันกับคนในเมืองมรกต นั่นหมายถึงผู้ที่มีใบหน้าเหมือนกับคนในยุคนั้นมาร่วมทำพิธีส่งเจ้าหญิงกลับบ้านด้วยกัน ซึ่งได้แก่ รัฐ ราเมศ สุธี เธียร สายป่าน และเมย์ มาทำพิธีส่งตัวเจ้าหญิงกลับบ้านพร้อมกัน ด้านพอลล่าและโชเบที่พยายามหาทางปรับความเข้าใจกับกรรณิกาเกสร และหวังจะเกาะกรรณิกาเกสรดัง หลังจากที่หนังโฆษณาของเธอทำให้เธอมีชื่อเสียงเพียงชั่วข้ามคืน และแล้วพอลล่าก็สะกดรอยตามจนมาถึงบ้านพ่อหมอ และได้เห็นพิธีสำคัญนี้ และได้เห็นว่า รัฐ ราเมศ สุธี เธียร สายป่านและเมย์ หายวับไป ทำเอาเธอตกใจสุดขีด ด้านกรรณิกาเกสรที่เดินทางกลับเมืองมรกตได้ทันเวลาก่อนที่เจ้าอ้ายคำตันจะสิ้นพระชนม์ กลับได้รู้ว่า เจ้าชายตืนสางและเจ้าอ้ายกาไสยกำลังทำสงครามยึดเมืองมรกต เพราะโกรธแค้นที่เจ้าหญิงกรรณิกาเกสรผิดคำสัญญาหนีไป ทำเอากรรณิกาเกสรเสียใจมาก หากแต่เจ้าอ้ายคำตันได้ขอร้องให้รัฐพากรรณิกาเกสรหนีไปอยู่กรุงเทพฯ เพื่อความปลอดภัยของเธอ ก่อนที่รามเทพและภาณุภามจะพาเจ้าอ้ายคำตันหนีไป ก่อนไปรามเทพ องครักษ์ผู้มีใจให้กรรณิกาเกสรมาตลอด ยอมฝากฝังเธอกับรัฐ เพราะเขารู้ดีว่าเขาไม่คู่ควรกับเจ้าหญิง และเขาจำเป็นต้องทำหน้าที่องครักษ์ ต่างกับรัฐที่เป็นเพียงผู้ชายคนหนึ่งที่สามารถดูแลเจ้าหญิงของเขาได้ ในที่สุดการเดินทางข้ามเวลาก็สิ้นสุดลงเมื่อกรรณิกาเกสรจำต้องเดินทางกลับมาพร้อมกับรัฐ ราเมศ สายป่าย เมย์ สุธีและเธียร และทำให้กรรณิกาเกสรต้องกลายเป็นหญิงสาวธรรมดาในยุคปัจจุบันตลอดไป หากแต่ในความโชคร้ายยังมีความโชคดี เมื่อเธอยังมีรัฐ ชายธรรมดาที่รักเธอและพร้อมจะดูแลเธอตลอดไป ตราบเท่าเขาและเธอยังมีลมหายใจอยู่ ติดตามชมความสนุกของละคร เจ้าหญิงหลงยุค
แก้วกลางดง (2523/1980) แก้วกลางดง เรื่องราวของ "เมียวดี" สาวน้อยแก่นแก้ว ไร้เดียงสา แต่รอบรู้ทุกอย่างที่ประกอบขึ้นเป็นป่า ความรู้ที่ไม่มีในตำรา ความรู้ที่ต้องรู้ด้วยตนเองเพื่อความอยู่รอด ธรรมชาติหล่อหลอมจิตใจของเธอให้ดีงามและมีแต่ความจริงใจ มนต์เสน่ห์แห่งป่ากับความลึกลับอับไร้ขอบเขต นำ "ทรงเผ่า" ให้มาผูกพันและก่อเกิดสัญญา สิ่งที่ดีงามประดุจแก้ว ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดจะส่องแสงทอประกายเสมอ วาววับเข้าจับหัวใจ...ดั่งเธอ เมียวดี แก้วกลางดง อันเป็นเเก้วกลางใจของใครคนนั้น ในกาลต่อมาและตลอดไป





















