Throns Thrills Three 3 แพร่ง สยองขวัญ (2552/2009) ความแพร่ง มาพร้อม ผวา – ระทึก – สะพรึง – สยอง ตอน เรียลิตี้ ช็อค ป๊อก ใหญ่ สา พร ได้ทำรายการเรียลิตี้ช็อคกี่ยวกับเรื่องผี ให้กับบริษัทแห่งหนึ่ง และในคืนจัดรายการ ป๊อก ได้จัดหน้าม้ามาเข้าฉากเพื่อสร้างกระแสให้กับรายการ แต่มันไม่ได้เป็นอย่างที่คิด เมื่ออยู่ๆ ก็มีผีนางรำออกมาสร้างความสะพรึงแบบว่าไม่มีใครรู้ตัว ตอน ดีเจ สยองขวัญ เอก ดีเจหนุ่มเนื้อหอม นักจัดรายการผีชวนหัวลุก ได้มีความสัมพันธ์กับ ปัด นักศึกษาสาวฝึกงาน จนปัดตั้งท้อง แต่เอกกลับปฏิเสธและให้เอาเด็กออก ปัด เสียใจมาก จึงฆ่าตัวตาย ด้วยความอาฆาต ทำให้วิญญาณของปัดวนเวียนอยู่กับเอกตลอดเวลา ตอน พยาบาท เป้ กับ นิด สามีภรรยาคู่หนึ่งที่อยู่กันอย่างมีความสุข จนกระทั่งวันหนึ่ง เป้ ออกไปสังสรรค์กับกลุ่มเพื่อน และระหว่างทางกลับบ้าน เป้ได้พบกลุ่มนักเลงที่กำลังไล่ทำร้ายชายวัยรุ่นคนหนึ่ง เขาได้ร้องขอให้เป้ช่วยเหลือ ซึ่งที่แห่งนี้เองทำให้เป้ได้เข้าใจความหมายของคำว่า มโนธรรม
องค์แบก (2552/2009) องค์ ชายหนุ่มจับกัง รับจ้างแบกข้าวสารอยู่ที่โรงสีของเสี่ยขาว ซึ่งแพนเค้ก ลูกสาวของเสี่ยขาวเกิดหลงรักองค์ จึงหลอกล่อให้องค์ได้เสียเป็นสามีของเธอโดยที่เขาไม่เต็มใจ ในขณะเดียวกัน หมวดโทนี่ นายตำรวจหนุ่มหน้ามน ก็วางแผนที่จะไปสู่ขอแพนเค้ก เพื่อหวังจะได้ครอบครองโรงสีของเสี่ยขาว ทั้งหมดจึงกลายเป็นเรื่องราวที่กลับตาลปัตร จากความรักกลายเป็นความแค้นที่แสนสนุกเฮฮา
ท้าชน (2552/2009) ไท ชายหนุ่มที่เพิ่งหลุดจากคดีมาได้ด้วยการวิ่งเต้นของ แทน พี่ชายฝาแฝด แต่เมื่อไทพ้นโทษออกมาได้ เขาพบว่าพี่ชายของเขาบาดเจ็บสาหัสถึงขั้นโคม่า ไท ได้รับรู้เรื่องราวจาก แป้ง แฟนสาวของแทน ว่าพี่ชายของเขาเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องอันตรายบางอย่าง เพราะต้องการหาเงินมาช่วยสู้คดีให้เขา ไท รู้สึกผิดที่มีส่วนในการทำให้พี่ชายต้องเป็นแบบนี้ จึงออกสืบหาข้อมูลว่า เกิดอะไรขึ้นกับแทนกันแน่ ในที่สุด ไท ได้เข้ามาสู่วงการแข่งบาสเถื่อน ซึ่งเป็นเกมการพนันใต้ดินที่มีผู้ทรงอิทธิพลหนุนหลังอยู่ เมื่อไทต้องการรู้ให้ได้ว่าใครหรืออะไรคือต้นเหตุให้ แทน พี่ชายของเขาต้องมานอนไม่ได้สติอย่างที่เป็นอยู่ เขาจึงเข้าร่วมทีม "ไฟร์บอล" ของ เฮียเด่น ที่มี สิงห์ เค อิก และ หมึก อยู่ในทีม ซึ่งกว่าที่ไทจะได้รู้ความจริงทั้งหมด เขาต้องแลกด้วยอะไรอีกหลายอย่าง ซึ่งอาจรวมถึง "ชีวิต" ของเขาเองด้วย
โหด หน้า เหี่ยว 966 (2552/2009) มิตรภาพ ความรัก และความแค้นในอดีตที่ไม่ลืมลงของ 4 เสือเพื่อนซี้ จากยุคอันธพาลครองเมืองที่เคยเรืองรอง แต่ยังจมอยู่กับอดีต ทั้งที่ยุคสมัยเปลี่ยนไปเป็นยุคดิจิตอลแล้ว สอง คลองเตย (จาตุรงค์ พลบูรณ์) และ ไท ไดมารู (ชูเกียรติ เอี่ยมสุข) เพื่อนรักนักเลง ที่ต้องมาแตกคอกันเพราะเรื่องของ มะปราง (โชติรส ชโยวรรณ) เมียรักของสอง ที่ตกลงไปอยู่กินกับไท ทำให้สอง นักเลงพนัน สติแตก ชีวิตผิดพลาด ต้องติดคุกนานนับ 20 ปี โดยมีความแค้นที่รอวันออกมาชำระ แม้กาลเวลาจะเปลี่ยนไปจนหน้าเหี่ยวแล้วก็ตาม... เมื่อสองพ้นโทษ เขาได้ตามแกะรอยหาเพื่อนซี้นักเลงเก่า ไท ไดมารู และอีก 2 คน คือ มงคล รามา (อาคม ปรีดากุล) อดีตนักเลงเจ้าของร้านวีดีโอคลาสิค และ เปี๊ยก ซัมมิท (เจริญพร อ่อนละม้าย) เซียนพระเครื่อง ผู้คอยเสี่ยงชีวิตช่วยเหลือไทโดยตลอด ด้านไท ไปตามหากิ๊ฟ (วรัลชญาน์ จินดารักษ์วงศ์) ลูกสาวที่ทำงานเป็นนักร้องในผับ แต่กลับไม่พบ จึงต้องไปตามดูที่คอนโด แต่พบว่า กิ๊ฟอยู่กินกับเอ (อัครินทร์ อัครนิธิเมธรัฐ) ครูสอนภาษาอังกฤษของ 2 เด็กแสบ แก่น เนสเล่ (สรรภวัต สุระเกรียงศักดิ์) และ เปรี้ยว กรีนสปอร์ต (กัจนฐานิยา ศรีโรจน์วัฒนะ) เมื่อรู้ว่าลูกสาวชิงสุกก่อนห่าม ไท จึงตัดสินใจพากิ๊ฟกลับบ้าน แต่แล้ว... ไท กับ กิ๊ฟ ก็ต้องเผชิญหน้ากับ สอง ที่รอท่าอยู่แล้ว ขณะเดียวกัน 2 เพื่อนรัก เปี๊ยก และ มงคล ก็รีบขับรถบึ่งมาช่วยเพื่อนแบบทันควัน แต่ดันมี หลวงพ่อ (นพดล ทรงแสง) ตกกระไดพลอยโจรติดรถมาด้วย ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้ แม้ว่าเปี๊ยกและมงคลจะสามารถช่วย ไทและกิ๊ฟ ให้รอดพ้นมาได้ แต่สองก็ยังคงมุ่งมั่นตามล่าไทกับพวก จนกระทั่งได้มาเจอหน้ากันอีกครั้ง เรื่องราวโหด-มันส์-ฮา แบบสุดขั้วจึงเกิดขึ้น... ลูกบ้า และลูกฮาสามหาว ที่จะทำให้ทุกท่านได้หัวเราะจนหน้าเหี่ยวจะลงเอยอย่างไร... ค้นหาคำตอบจากทุกคำถามได้ใน โหดหน้าเหี่ยว966
ตอกตราผี (2552/2009) วิญญาณอาฆาต ไม่ผุดเกิด ประทับตรา รอวันเอาคืน อัสนี นายทะเบียนหนุ่ม ได้ฟื้นขึ้นจากอุบัติเหตุที่เกือบคร่าชีวิตเขา แต่การฟื้นครั้งนี้ ทำให้เขากลายเป็นอัสนีคนใหม่ ที่พูดภาษาจีนและจำใครไม่ได้เลย แม้แต่ ณกุล ภรรยาของเขา และเขาพยายามบอกกับทุกคนว่า เขาคือ เหอซื่อหยง เป็นคนจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งสร้างความหนักใจให้แก่ทุกคน แต่ก็มีคุณหมอสแตนลี่ย์ จิตแพทย์หนุ่มจากไต้หวัน คอยเป็นเพื่อนคุยกับเขา จนกระทั่งเขาได้ค้นพบความลับบางอย่างในห้องใต้ดินของที่ทำงาน และทำให้เขาเริ่มรู้สึกว่ามีอะไรแปลก ๆ คอยติดตามเขาตลอดเวลา ความหวาดกลัวค่อย ๆ คืบคลานเข้ามา เขาจะทำอย่างไรเมื่อเขารู้ว่าหน้าที่ของเขาคือผู้ส่งวิญญาณ
ฟ้าใส ใจชื่นบาน (2552/2009) เรื่องราวเกี่ยวกับนักศึกษาที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2519 และหลบหนีเข้าป่าไปร่วมกับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย จากเหตุการณ์ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2519 ทราย (ร่มฉัตร ขำศิริ) นักศึกษาสาวที่ต้องการเข้าไปช่วยเพื่อนที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ถูกกันตัวออกมา เธอได้พบกับ ก้อง (พิชญะ วัชจิตพันธ์) กับพรรคพวก ได้แก่ จอบ (ค่อม ชวนชื่น) เสียม (อ่าง เถิดเทิง) และ คิด (ฝันดี จรรยาธนากร) ที่ปั๊มน้ำมัน วันหนึ่งก้องชวนเพื่อน ๆ เข้าป่าเพราะต้องการหนีจากชีวิตในเมือง หารู้ไม่เลยว่ากำลังเดินทางไปพร้อมกับพวกพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ก้องได้พบกับทราย ซึ่งบัดนี้กลายเป็น "สหายเม็ดทราย" ไปแล้ว ก้องและพวกจึงจำเป็นต้องแสร้งใช้ชีวิตอยู่ในป่าไปก่อน สหายเม็ดทรายนั้นชื่นชอบ สหายเที่ยง (สุรสิทธิ์ เอี่ยมโอภาสวงศ์) คอมมิวนิสต์หนุ่มผู้มีอุดมการณ์ ซึ่งต่างจากก้องและพรรคพวก และวันหนึ่งที่จอบและเสียมเผลอไปตัดเอาต้นข้าวเพราะคิดว่าเป็นหญ้าจนเหี้ยนหมด ทั้งหมดจึงต้องออกเดินทางไปขอเสบียงจากชาวบ้าน และที่นั่น ทำให้สหายเม็ดทรายได้ล่วงรู้ถึงความจริงว่า ความสุขที่แท้ของคนอยู่ที่ใจ หาใช่อุดมการณ์อะไรไม่
ความสุขของกะทิ (2552/2009) จาก “วรรณกรรมซีไรต์” ที่กุมหัวใจผู้อ่านทั่วประเทศ ลัดฟ้าสู่ระดับโลกด้วยความประทับใจ พร้อมแล้วที่จะมาเติมเต็มและแบ่งปันความสุข ในรูปแบบภาพยนตร์ที่ใครๆ ต่างเฝ้ารอ จากปลายปากกาเขียนบทภาพยนตร์ครั้งแรกของ “งามพรรณ เวชชาชีวะ” เจ้าของบทประพันธ์รางวัลซีไรต์ ครั้งแรกที่คุณจะได้รู้จัก “หนูน้อยกะทิ” โดยกลุ่มผู้สร้างภาพยนตร์น้องใหม่ “ภาพยนตร์ชูใจ” พร้อมทีมนักแสดงและทีมงานเบื้องหลังระดับ “หัวกะทิ” ที่จะเนรมิตจินตนาการจากตัวหนังสือสู่แผ่นฟิล์มอย่างละเมียดอารมณ์ ในภาพยนตร์อิ่มอุ่นใจเรื่อง “ความสุขของกะทิ” เติมเต็มความสุขทุกหัวใจ 8 มกราคม 52 วันไหน ๆ หัวใจก็มีความสุข “ไม่เคยมีใครพูดถึงแม่” “กะทิ” (น้องพลอย-ภัสสร คงมีสุข) เด็กหญิงวัย 9 ขวบ ที่ต้องผ่านประสบการณ์การสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ที่สุด เมื่อ “แม่” (รัชนก แสง-ชูโต) ต้องจากไปก่อนวัยอันควรด้วยโรคร้ายที่มิอาจรักษา กะทิต้องผ่านขั้นตอนความสุขและทุกข์ ความผูกพันและการพลัดพราก ความสมหวังและความสูญเสียที่มากเกินกว่าที่เด็กวัยเดียวกันนี้จะรับไหว “น้ำตาไม่อาจแทนความโศกเศร้าได้” กะทิได้เรียนรู้และตัดสินใจด้วยตัวเองผ่านสิ่งละอันพันละน้อยใน “ลิ้นชักแห่งความทรงจำ” ที่แม่เตรียมไว้ให้ก่อนสิ้นลมหายใจว่าความทุกข์จากการสูญเสียนั้นมิอาจพรากความสุขจากความรักและความผูกพันของแม่ที่มีต่อเธอได้ “อดีตเหมือนเงา บางครั้งทอดนำทางอนาคต” เด็กน้อยเติบโตขึ้นจากประสบการณ์นี้ด้วยความเชื่อมั่นและกำลังใจในการดำรงชีวิตจากบุคคลใกล้ชิด…ผู้ที่เธอรักและรักเธอ ไม่ว่าจะเป็น “ตา” (สะอาด เปี่ยมพงศ์สานต์) และ “ยาย” (จารุวรรณ ปัญโญภาส) ผู้ที่รักหลานกะทิดุจชีวิต, “น้าฎา” (เข็มอัปสร สิริสุขะ), “น้ากันต์” (กฤษฎา สุโกศล แคลปป์), “ลุงตอง” (ไมเคิล เชาวนาศัย) และ “พี่ทอง” (นิธิศ โค้วสกุล) ที่ต่างเข้ามาสร้างสีสัน แบ่งปันความสุข และเติมเต็มชีวิตให้หนูน้อยกะทิรู้สึกว่า เธอไม่ได้ขาดอะไร และสามารถดำรงชีวิตต่อไปได้เฉกเช่นเด็กๆ ในวัยเดียวกัน ใครจะรู้ว่า แท้จริงแล้วในความโศกเศร้านี้ ก็มี… “ความสุขจริงแท้อันยิ่งใหญ่” ที่ได้เบ่งบานในหัวใจของ “เด็กหญิงกะทิ” อยู่เช่นกัน “ความสุขของคนรอบข้าง คือความสุขของเราด้วย…ความสุขแบ่งปันกันได้ วันไหนๆ ก็มีความสุข”