ปาฏิหาริย์รักต่างพันธุ์ (2551/2008) ความลับแห่งสายเลือด สู่แรงปรารถนาข้ามสายพันธ์ การไล่ล่าต่างสายพันธุ์ ระหว่าง วินทร์ (เจษฎาภรณ์ ผลดี) ชายหนุ่มอดีตหน่วยข่าวกรองของรัฐบาล เขาคือผู้อยู่บนเส้นขีดขั้นระหว่าง คุณธรรม และความมั่นคงของชาติ จิน (พลอย จินดาโชติ) หญิงสาวผู้ถูกปลดปล่อยจากความทรงจำอันโหดร้ายในอดีต เธอกำลังถูกคุกคามจากกองกำลังที่ไม่เปิดเผยนาม และบางสิ่งบางอย่างที่ไม่ใช่คน จาย (ศักดิ์ดา แก้วบัวดี) ชายผู้เป็นความหวังสุดท้ายของชนเผ่า ชายผู้มีพลังอำนาจลึกลับบางอย่างในตัวพร้อมจะปะทุได้ทุกเมื่อที่เขาต้องการ ความลี้ลับของชาติพันธุ์แห่งอดีตกาลการไล่ล่าด้วยสัญชาติญาณแห่งป่าดงดิบ สู่ความรักโรแมนติกที่ทำลายกำแพงแห่งความเป็นมนุษย์
องค์บาก 2 (2551)

องค์บาก 2 (2551/2008) เมื่อรอยบากแห่งความแค้นฝังลึกถึงก้นบึ้งแห่งจิตใจ ทุกศาสตร์ยุทธ์แห่งศิลปะการต่อสู้จะถูกหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว ดวงชะตากำหนดทุกสรรพสิ่ง ลิขิตชีวิตขึ้นสู่จุดสูงสุด และพร้อมดับทุกชีวิตดำดิ่งลงลึกถึงปลายเหวสู่จุดต่ำสุด บัดนี้มันได้กำหนดชีวิตของ “เทียน” เด็กหนุ่มที่หวังเติบใหญ่เป็นนักรบผู้แกร่งกล้าเฉกเช่นบิดา “ออกญาสีหเดโช” (สันติสุข พรหมศิริ) นายทหารผู้ซื่อสัตย์ซึ่งจงรักภักดีต่อเหนือหัวผู้ซึ่งยอมได้แม้กระทั่งสละชีวิตตนเองเพื่อปกป้องผืนแผ่นดินจากเหล่าผู้ฉ้อฉลและคนทรยศ แต่จากคำทำนายที่ว่าเมื่อใดที่เทียนซึ่งถือกำเนิดในฤกษ์พระกาฬเติบใหญ่ภายใต้วังวนแห่งคมดาบและกลิ่นคาวเลือด เมื่อนั้นผู้คนจำนวนมากจักต้องล้มตายกันอย่างพร้อมเพรียง ทำให้ออกญาสีหเดโชตัดสินใจส่งเทียนไปให้ “ครูบัว” (นิรุตติ์ ศิริจรรยา) เพื่อนสนิทซึ่งต่างเป็นลูกศิษย์ของพระครูปั้นมาด้วยกันช่วยบ่มเพาะสมาธิ เรียนรู้การฝึกจิตให้นิ่ง และศึกษาในด้านวิชาโขนนาฏศิลป์ เพื่อหวังว่าสิ่งเหล่านี้จะช่วยจรรโลงจิตใจให้เกิดแต่สิ่งที่ดีงามขึ้น โดยมี “พิม” เด็กสาวที่ครูบัวเก็บมาเลี้ยงคอยให้ความช่วยเหลือ และมี “ไอ้เหม็น” (หม่ำ จ๊กม๊ก) ชายบ้าเสียสติแต่หลงใหลในนาฏศิลป์เป็นเพื่อนเล่น แต่แล้วชีวิตเทียนต้องพบกับความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต เมื่อ “พระยาราชเสนา” (ศรัณยู วงษ์กระจ่าง) ซึ่งวางแผนขึ้นครองความเป็นใหญ่ในแผ่นดินลงมือส่งเหล่านักฆ่ามือดีมาลอบสังหารออกญาสีหเดโชทั้งครอบครัว และเหล่าทหารหาญให้สิ้นซากด้วยตนเอง โดยมีเทียนเพียงคนเดียวที่เล็ดรอดชีวิตมาได้ท่ามกลางความคลั่งแค้นที่อัดแน่นฝังลึกในจิตใจ โชคชะตาพลิกผันอีกครั้งเมื่อเทียนได้พบกับ “เชอนัง” (สรพงษ์ ชาตรี) หัวหน้ากองโจรผาปีกครุฑผู้ยิ่งใหญ่ซึ่งช่วยชีวิตจากเงื้อมมือของเหล่าพ่อค้าทาสและยักษ์ขมุจอมโหด เพราะเล็งเห็นถึงจิตวิญญาณความเป็นนักสู้และสัญชาตญาณความเป็นนักฆ่าที่แฝงเร้นอยู่ในแววตาซึ่งพร้อมจะสังหารผู้คนได้ทุกเมื่อ จึงตัดสินใจรับเป็นลูกบุญธรรมเข้าร่วมเป็นหนึ่งในกองโจร ให้การชุบเลี้ยงฝึกฝนเหล่าสรรพวิชาอาวุธในศิลปะการต่อสู้ทุกรูปแบบจากเหล่าปรมาจารย์ผู้เชี่ยวชาญในแต่ละสาขาวิชา ไม่ว่าจะเป็นการต่อสู้ด้วยมือเปล่า หมัดมวย การใช้เวทมนตร์คาถา ไปจนถึงการใช้สรรพวุธทุกชนิด ดาบ กระบี่ กระบอง 3 ท่อน วิชากล การใช้ระเบิด ฯลฯ เมื่อทุกศาสตร์ยุทธ์แห่งศิลปะการต่อสู้ถูกบ่มเพาะหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว “เทียน” (จาพนม ยีรัมย์) เติบใหญ่พร้อมพิษสงความสามารถรอบตัวที่ยากจักหาใครทัดเทียม หนำซ้ำยังเป็นเรี่ยวแรงสำคัญในการปฏิบัติภารกิจทุกครั้งของกองโจรผาปีกครุฑ จนได้รับการยอมรับจากทุกคนโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสามารถสยบช้างงาดำ ช้างศักดิ์สิทธิ์ที่เหล่าชุมโจรให้ความเคารพและสักการะ ในขณะที่เชอนังเองตั้งใจมอบตำแหน่งหัวหน้ากองโจรให้เทียนรับหน้าที่ผู้สืบทอดต่อไป เพียงทว่า ณ เวลานี้มีเพียงภารกิจเดียวในชีวิตที่เทียนจักต้องกระทำคือการขจัดความคลั่งแค้นที่มันสุมอกอยู่ในจิตใจตลอดมา นั่นคือการมุ่งหน้าเพื่อสังหารเจ้าพระยาราชเสนาด้วยน้ำมือตนเอง โดยมีเป้าหมายในคืนวันสถาปนาเทวเสาวนีย์ครุฑที่เจ้าพระยาราชเสนาจะขึ้นครองอำนาจในฐานะจอมราชันย์อย่างสมบูรณ์ ภายใต้เปลวเพลิงแห่งความอาฆาต เทียนผสมผสานทุกความสามารถในการต่อสู้ที่บ่มเพาะมาทั้งชีวิต แปรเปลี่ยนเป็นพลังแห่งความอำมหิต โหดเหี้ยม เกรี้ยวกราด ดุดัน เพื่อที่จะสังหารทุกผู้คนที่เกี่ยวข้องอย่างไม่กลัวเกรง โดยหารู้ว่าไม่ว่ายังมีเหล่านักฆ่าระดับยอดฝีมือของจอมราชันย์ที่เขาจะต้องเผชิญหน้าและรับมือที่ล้วนแล้วแต่ยากในการต่อกรไม่ว่าจะเป็น “องค์รักษ์เกราะทอง” (ศุภกรณ์ กิจสุวรรณ), “กลุ่มนักฆ่าลึกลับในชุดดำ” ไปจนถึง “ภูติสางกา” (ชูพงษ์ ช่างปรุง) ที่ถูกส่งมาเพื่อนำเทียนไปสัมผัสกับดินแดนแห่งความตายโดยเฉพาะ หรือนี่คือจุดเริ่มต้นของการต่อสู้ที่มีต้นกำเนิดจากรอยบากแห่งความคลั่งแค้นที่ต้องแลกมาด้วยชีวิต เลือดเนื้อ และจิตวิญญาณ มีเพียงพลังแห่งศรัทธาอันแรงกล้าเท่านั้นที่จะทำให้ชีวิตของเทียนอยู่รอดได้

งูเก็งกอง (2551/2008) ตำนานแห่งงูคำสาป และทายาทคนต่อไป น้ำใสสาววัยรุ่นผู้ถูกคำสาปให้เป็นงูเก็งกอง ซึ่งเวลากลางคืนก็ไม่ต่างจากกลางวัน เธอใช้ชีวิตร่วมอยู่กับมนุษย์ทั่วไป วันหนึ่งเธอต้องการแก้ไขเรื่องราวที่เกิดขึ้นในชีวิต มันเหมือนบาปติดตัวไปทั้งชาติ เพราะเธอฆ่าคนตายโดยที่ตัวเองก็ไม่สามารถจะหยุดยั้งจากอำนาจงูได้ เธอจึงตามหาความจริงและรู้ว่าคำสาปที่ติดอยู่ในตัวเธอสามารถแก้ไขได้ และคงไม่สายเกินไปหากเธอคิดจากแก้คำสาปเลวร้ายนี้ให้หายไปจากตัวเธอ
คนไฟลุก (2551/2008) อะไรจะเกิดขึ้น ถ้าร่างกายเราลุกเป็นไฟได้เองโดยไม่ทราบสาเหตุ!!! “ปรากฏการณ์คนลุกเป็นไฟฉับพลัน” เป็นไปได้อย่างไร อาถรรพ์ ไสยศาสตร์ ฆาตกรรม หรืออะไรกันแน่ คุณเท่านั้น!!! ต้องเป็นผู้ร่วมพิสูจน์และหยุดยั้งมัน ก่อนที่ “ไฟมรณะ” นี้ จะคืบคลานมาสู่…ตัวคุณ ในภาพยนตร์ลึกลับ-ระทึกขวัญแห่งปีที่มีแรงบันดาลใจมาจากเหตุการณ์จริง “คนไฟลุก” (Burn) เหตุการณ์ระทึกขวัญนี้เกิดขึ้นโดยไม่มีลางบอก เมื่อจู่ๆ ไฟประหลาดก็ลุกท่วมร่างของผู้หญิงคนหนึ่งจนเสียชีวิต และเธอคือหญิงไทยรายแรกที่เกิดปรากฏการณ์ไฟลุกท่วมตัวโดยฉับพลันนี้ “โมนา” (บงกช คงมาลัย) ลูกสาวของผู้ตาย เป็นนักค้าหุ้นสาวผู้ทะเยอทะยานต้องเข้ามาพัวพันกับเหตุการณ์นี้อย่างไม่ทันตั้งตัว และเธอไม่อาจทำใจได้ที่อยู่ๆ แม่ก็มาตายจากไป ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้ปรับความเข้าใจกัน เหตุการณ์นี้ทำให้เธอได้พบกับ “พลอย” (อาชิรญาณ์ ภีระภัทร์กุญช์ชญา) พยาบาลสาวซึ่งแม่ของเธอก็ต้องชะตากรรมถึงตายด้วยไฟลุกท่วมตัวโดยไม่ทราบสาเหตุอย่างไม่ผิดแผกกันเลย นี่เป็นสิ่งที่ทำให้โมนาและพลอยต้องพยายามสืบหาสาเหตุที่แท้จริงให้ได้ว่า อะไรกันแน่ที่เกิดขึ้นกับแม่ของพวกเธอ ในขณะที่ทั้งคู่กำลังตามล่าหาความจริงอยู่นี้ พวกเธอก็ได้รับความช่วยเหลือด้านข้อมูลจาก “ขวัญ” (ปรางทอง ชั่งธรรม) นักข่าวสาวที่ตามติดข่าวนี้อย่างจิกไม่ปล่อยมาตั้งแต่แรก ตามสัญชาตญาณของอาชีพนักข่าว เธอมั่นใจว่าเหตุการณ์นี้ต้องมีอะไรเคลือบแฝงอยู่เบื้องหลังเป็นแน่ รวมถึง “ดอน” (ชลัฏ ณ สงขลา) นายตำรวจหนุ่มเจ้าของคดีนี้ แม้จะได้รับคำสั่งจาก “วัง” (สุธีรัชย์ ชาญนุกูล) หัวหน้าของเขาให้ปิดคดีนี้ว่าเป็นอุบัติเหตุไปแล้วก็ตาม แต่ด้วยความสงสัยและยึดมั่นในความถูกต้องยุติธรรม เขาจึงต้องร่วมสืบหาความจริงของเหตุการณ์ลึกลับนี้และหยุดยั้งมันให้ได้ แม้จะรู้ว่ากำลัง “เล่นกับไฟ” อยู่ก็ตาม ความจริงในเหตุการณ์นี้ มันเป็นการฆ่าตัวตาย, อุบัติเหตุ, ฆาตกรรม หรือเครื่องสังเวยความลี้ลับ ปริศนาแห่งเบื้องหลัง “ไฟมรณะ” จะต้องถูกคลี่คลายก่อนที่ความเป็นความตายจาก “ไฟสยอง” นี้จะโหมลุกขึ้นอีกครั้ง
สี่แพร่ง (2551/2008) **เหงา ผู้กำกับ : ยงยุทธ ทองกองทุน เรื่องย่อ : ปิ่น (มณีรัตน์ คำอ้วน) สาวทำงานคนหนึ่งอาศัยอยู่คนเดียวในห้องแคบๆ เธอเหงา เธอตกงาน เธอโดนทิ้ง เธอหดหู่สุดขีด เมื่อมีข้อความเข้ามาในโทรศัพท์มือถือว่า อยากรู้จัก เธอจึงเริ่มต้นติดต่อกลับไปโดยที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาเป็นใคร มาจากไหน และไม่รู้ว่าเขาเป็นคนที่เธอจะต้องเสียใจ** **ยันต์สั่งตาย ผู้กำกับ : ปวีณ ภูริจิตปัญญา เรื่องย่อ : เด็กช่างกลคนหนึ่ง เลือกวิธีแก้แค้นหรือเอาคืนแบบคนมีวิชาอาคมโดยการเล่นของอย่างหนึ่ง ที่เรียกว่า ยันต์สั่งตาย เพื่อมาไล่ล่าแก้แค้นแทนการลงมือเอง แต่สุดท้ายการแก้แค้นก็ไม่มีประโยชน์อะไรเลย เพราะมันไม่มีวันสิ้นสุด** **คนกลาง ผู้กำกับ : บรรจง ปิสัญธนะกูล เรื่องย่อ : วัยรุ่นกลุ่มหนึ่ง ออกไปตั้งเต็นท์กลางป่าลึก พวกเขาล้อมวงเล่าเรื่องผี ทำกิจกรรมห่ามๆ ไร้สาระ พอตอนเข้านอน ทุกคนต่างแย่งกันนอนตรงกลาง เพราะเชื่อว่าผีจะหลอกคนที่นอนริมสุดก่อน แต่แล้วจะทำอย่างไรเมื่อคนที่นอนตรงกลางกลับเป็นคนที่โดนผีหลอกคนแรก** **เที่ยวบิน 224 / Last Fright ผู้กำกับ : ภาคภูมิ วงศ์ภูมิ เรื่องย่อ : พิมพ์ (เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์) เป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน ที่ต้องเดินทางไปกับผู้โดยสารที่เป็นเจ้าหญิงจากต่างประเทศ เจ้าหญิงเอาแต่ใจและค่อนข้างโหดร้ายกับเธอตลอดทาง แต่แล้วเรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเมื่อเจ้าหญิงสิ้นพระชนม์ เลยต้องขนศพเจ้าหญิงกลับประเทศ พิมพ์จึงต้องเดินทางไปกับศพอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ แล้วเรื่องสยองต่างๆ ก็เกิดขึ้นบนเครื่องตลอดการเดินทาง**
ลองของ 2 (2551/2008) ครูพนอ (นภคปภา นาคประสิทธิ์) สาวสวยรวยเสน่ห์ ชีวิตครูต่างจังหวัด ของเธอ คงเหมือนกับครูทั่ว ๆ ไป แต่ความสวยความสาวของเธอ กับทำให้เธอต้องประสบเคราะห์กรรม จากคนที่มารุมรัก ถูกทำของใส่ทั้งจากครู และเหล่านักเรียนชายมัธยมในโรงเรียน เพื่อแก้มนต์ดำแก้อาถรรพณ์ ทำให้ครูพนอต้องฆ่า นายพร (ธีรยุทธ ปรัชญาบำรุง) และทำให้ได้เทพ 3 ตามาครอบครอง จ่าดิษ (ศุภกรณ์ กิจสุวรรณ) เพื่อนนายพร คนเล่นของที่มีชีวิตอยู่เพื่อเดรัจฉานวิชา เข้ามาเกี่ยวข้องกับครูพนอ ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ เทพสามตามาครอง เรื่องราวเริ่มต้นขึ้น หลังจากที่ครูพนอกินเนื้อของหมอไสยศาสตร์ เพียงหวังเพื่อล้าง “ของ” ในตัวเองออก แต่การกระทำในครั้งนั้นกลับทำให้ชีวิตของตัวเธอเองต้องตกอยู่ในอำนาจมนต์ดำของหมอไสยศาสตร์เสียเอง เธอนั้นได้รับความเจ็บปวดทรมานจากรอยบาดแผลอักขระบนตัวเธอที่เกิดขึ้นโดยทีเธอไม่รู้สึกตัว จนต้องถูกจับส่งโรงพยาบาลประสาท เพราะเข้าใจว่าตัวเธอนั้นป่วยทางจิต แต่เรื่องราวก็ไม่ได้หยุดเพียงเท่านี้เมื่อครูพนอต้องตกอยู่ในการดูแลของพยายบาลที่ชื่อเพ็ญ ซึ่งเพ็ญและครอบครัวหวังใช้ประโยชน์จากร่างของครูพนอ เพื่อเรียกขวัญของพี่สาว (เดือน) เพื่อให้ขวัญของเดือนนั้นได้เข้าอยู่ในร่างของครูพนอแทน โดยอาศัยจังหวะในช่วงที่ครูพนอเข้ารับการรักษาอาการอยู่ในโรงพยาบาล แต่เรื่องราวกลับไม่ง่ายอย่างที่คาดคิดเมื่อ จ่าดิษจอมขมังเวทย์ที่รับจ้างเพ็ญและครอบครัว ในการสลับเปลี่ยนขวัญในครั้งนี้กลับต้องการพลังที่อยู่ในตัวครูพนอนั้นเอาไว้กับตัวเสียเอง เป็นเหตุให้ขวัญของครูพนอที่ถูกกักขังไว้กับเข้าสู่ร่างของตัวเองได้อีกครั้ง แรงอาฆาตแค้นที่เธอได้รับจากการกระทำของครอบครัวเพ็ญ ด้วยวิธีการอันโหดเหี้ยม ประกอบกับพลังอำนาจของหมอไสยศาสตร์ที่อยูในตัวครูพนอ ทำให้เธอกลับมาตามชำระล้างความแค้นกับครอบครัวเพ็ญอย่างน่าสพรึงกลัวและน่าสยดสยอง
The 8th day แปดวันแปลกคน (2551/2008) ในบ้านที่เก่าแก่ทรุดโทรมหลังหนึ่งนั้น คือชีวิตของป้าแก่ ๆ คนหนึ่งที่ชื่อ ป้าชุบ (วาสนา ชลากร) อยู่คนเดี่ยวอย่างโดดเดี่ยวจนกระทั่งวันหนึ่งที่ แพร เด็กสาวตัวน้อย(เจนนิษฐ์ โอ่ประเสริฐ) ก้าวเข้าไปในบ้านหลังนั้น และมี หมอหนุ่ม (ธนเวทย์ สิริวัฒน์ธนกุล) อีกเพียงผู้เดียวที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด บ้านอันโดดเดี่ยวหลังนั้นเปิดประตูต้อนรับเด็กน้อยเข้าไปและปิดตายประตูถึงแปดวัน คือ แปดวันที่ป้าชุบเป็นผู้ควบคุมชีพจรชีวิตในบ้านทั้งหมด และหมอหนุ่มคือผู้ที่กุมชะตาของมนุษย์สองคนไปบ้านหลังนั้น
ถอดรหัส วิญญาณ (2551/2008) เรื่องนี้ ขออุทิศให้กับดวงวิญญาณทุกดวงที่กำลังรอการช่วยเหลือเพื่อตามจับฆาตกร! เรื่องเกิดขึ้น เมื่อตำรวจได้พบศพนักเรียนสาวมัธยมปลาย ถูกฆ่ายัดกล่อง ร่างของเธอเปลือยเปล่า มือและเท้าถูกมัดด้วยจีวร หน้าผากถูกลงอักขระสะกดวิญญาณเอาไว้ ตามความเชื่อโบราณเพื่อป้องกันไม่ให้วิญญาณตามจองเวรอาฆาต นับเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญประชาชนและเกี่ยวข้องกับภาพลักษณ์ศาสนา กรมตำรวจจึงส่งมอบคดีให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ DSI เข้ามาทำคดีนี้โดยส่ง ผบ.กานนท์ (ม.ล.ณัฏฐกรณ์ เทวกุล) เข้ามาเป็นผู้รับผิดชอบในการสืบสวน เขาได้พบหลักฐานหลายอย่างที่ทำให้พอจะมั่นใจได้ว่า น่าจะเป็นการฆาตกรรมอำพรางกานนท์จึงได้ส่งศพนักเรียนหญิงไปยังหน่วยนิติวิทยาศาสตร์ CIFS ที่กรุงเทพ เพื่อให้ นิชา (เปรมสินี รัตนโสภา) แพทย์หญิงผู้เชี่ยวชาญทางด้านนิติเวช หาหลักฐานเพิ่มเติมอย่างละเอียดเพื่อหาข้อมูลว่า ผู้ตายเป็นใครกันแน่..? ขณะเดียวกัน ซี (ปฏิวัติ เรืองศรี) อดีตนักร้องขวัญใจวัยรุ่น ซึ่งกำลังอยู่ในช่วงตกอับ ก็ได้รับการติดต่อจาก สิ่งลี้ลับ จนทำให้เขาเกิดลางสังหรณ์บางอย่างว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นกับ หนิง (ณภัทร บรรจงจิตไพศาล) แฟนเก่าที่เพิ่งเลิกกันมาได้ไม่นาน ซีเกิดความเป็นห่วงหนิง จึงตัดสินใจเริ่มออกตามหาตัวหนิง สร้างความไม่พอใจให้กับ แพร (สุทธิกานต์ หวังเจริญทวีกุล) นางแบบสาวแถวหน้าของวงการที่เป็นแฟนใหม่เป็นอย่างมาก ระหว่างที่ซีพยายามตามสืบข่าวหนิง นิชาก็ได้ทำการผ่าศพ และ หาหลักฐานเพิ่มเติมจนได้ร่องรอยบางอย่างที่พอจะเป็นกุญแจไขปริศนาว่า นักเรียนหญิงที่ตายคือใครกันแน่..? เมื่อกานนท์เริ่มเชื่อในสัมผัสลี้ลับ ที่วิญญาณพยายามสื่อ ความจริง ก็เริ่มจะปรากฏให้เห็นเป็นภาพราง ๆ วิทยาศาสตร์ กับสัมผัสลี้ลับ อะไรคือความจริงที่จะนำไปสู่การไขปริศนาฆาตกรรม

กำลังแสดงผลลัพธ์ทั้งหมด 8 รายการ