มูอัลลัฟ (2551/2008) ชีวิตของ จูน (ธัญวดี เหมรา) หญิงสาววัย 29 ปี ที่ใช้ชีวิตอย่างอิสระเสรีในกรุงเทพฯ ต้องเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง หลังจากเธอตัดสินใจแต่งงานกับ เอก (เอกสิทธิ์ เหมรา) ชายหนุ่มมุสลิมผู้เคร่งศาสนาจากจังหวัดสตูล จูนต้องเปลี่ยนศาสนา จากศาสนาพุทธซึ่งเธอนับถือมาตั้งแต่เด็ก ไปเป็นศาสนาอิสลามซึ่งเธอไม่เคยมีความรู้แม้แต่น้อย หลังจากแต่งงาน จูนลาออกจากการเป็นพนักงานฝ่ายศิลป์ของนิตยสารฉบับหนึ่ง และเดินทางตามสามีไปยังจังหวัดสตูล ที่นั่นเธอได้สัมผัสกับประสบการณ์ใหม่มากมาย ในฐานะของ มูอัลลัฟ หรือบุคคลที่เข้ารับอิสลาม ไม่เพียงแค่ห้ามรับประทานเนื้อหมูและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เท่านั้น ที่จังหวัดสตูล จูนได้ถือศีลอดเป็นครั้งแรก ได้เข้าร่วมพิธีทางศาสนาอิสลาม และฝึกอ่านภาษาอาหรับ ไปจนถึงได้ก้าวข้ามจากหญิงสาววัย 30 ปีที่ไม่มั่นใจในชีวิต ไปสู่บทบาทของแม่ที่สมบูรณ์แบบ
คนไฟลุก (2551/2008) อะไรจะเกิดขึ้น ถ้าร่างกายเราลุกเป็นไฟได้เองโดยไม่ทราบสาเหตุ!!! “ปรากฏการณ์คนลุกเป็นไฟฉับพลัน” เป็นไปได้อย่างไร อาถรรพ์ ไสยศาสตร์ ฆาตกรรม หรืออะไรกันแน่ คุณเท่านั้น!!! ต้องเป็นผู้ร่วมพิสูจน์และหยุดยั้งมัน ก่อนที่ “ไฟมรณะ” นี้ จะคืบคลานมาสู่…ตัวคุณ ในภาพยนตร์ลึกลับ-ระทึกขวัญแห่งปีที่มีแรงบันดาลใจมาจากเหตุการณ์จริง “คนไฟลุก” (Burn) เหตุการณ์ระทึกขวัญนี้เกิดขึ้นโดยไม่มีลางบอก เมื่อจู่ๆ ไฟประหลาดก็ลุกท่วมร่างของผู้หญิงคนหนึ่งจนเสียชีวิต และเธอคือหญิงไทยรายแรกที่เกิดปรากฏการณ์ไฟลุกท่วมตัวโดยฉับพลันนี้ “โมนา” (บงกช คงมาลัย) ลูกสาวของผู้ตาย เป็นนักค้าหุ้นสาวผู้ทะเยอทะยานต้องเข้ามาพัวพันกับเหตุการณ์นี้อย่างไม่ทันตั้งตัว และเธอไม่อาจทำใจได้ที่อยู่ๆ แม่ก็มาตายจากไป ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้ปรับความเข้าใจกัน เหตุการณ์นี้ทำให้เธอได้พบกับ “พลอย” (อาชิรญาณ์ ภีระภัทร์กุญช์ชญา) พยาบาลสาวซึ่งแม่ของเธอก็ต้องชะตากรรมถึงตายด้วยไฟลุกท่วมตัวโดยไม่ทราบสาเหตุอย่างไม่ผิดแผกกันเลย นี่เป็นสิ่งที่ทำให้โมนาและพลอยต้องพยายามสืบหาสาเหตุที่แท้จริงให้ได้ว่า อะไรกันแน่ที่เกิดขึ้นกับแม่ของพวกเธอ ในขณะที่ทั้งคู่กำลังตามล่าหาความจริงอยู่นี้ พวกเธอก็ได้รับความช่วยเหลือด้านข้อมูลจาก “ขวัญ” (ปรางทอง ชั่งธรรม) นักข่าวสาวที่ตามติดข่าวนี้อย่างจิกไม่ปล่อยมาตั้งแต่แรก ตามสัญชาตญาณของอาชีพนักข่าว เธอมั่นใจว่าเหตุการณ์นี้ต้องมีอะไรเคลือบแฝงอยู่เบื้องหลังเป็นแน่ รวมถึง “ดอน” (ชลัฏ ณ สงขลา) นายตำรวจหนุ่มเจ้าของคดีนี้ แม้จะได้รับคำสั่งจาก “วัง” (สุธีรัชย์ ชาญนุกูล) หัวหน้าของเขาให้ปิดคดีนี้ว่าเป็นอุบัติเหตุไปแล้วก็ตาม แต่ด้วยความสงสัยและยึดมั่นในความถูกต้องยุติธรรม เขาจึงต้องร่วมสืบหาความจริงของเหตุการณ์ลึกลับนี้และหยุดยั้งมันให้ได้ แม้จะรู้ว่ากำลัง “เล่นกับไฟ” อยู่ก็ตาม ความจริงในเหตุการณ์นี้ มันเป็นการฆ่าตัวตาย, อุบัติเหตุ, ฆาตกรรม หรือเครื่องสังเวยความลี้ลับ ปริศนาแห่งเบื้องหลัง “ไฟมรณะ” จะต้องถูกคลี่คลายก่อนที่ความเป็นความตายจาก “ไฟสยอง” นี้จะโหมลุกขึ้นอีกครั้ง
แอบถ่าย เดี่ยว 7 (2551/2008) แอบถ่าย เดี่ยว 7 เป็นภาพยนตร์สารคดี/ตลก ออกฉายในวันที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2551 แบบจำกัดโรงที่โรงภาพยนตร์ลิโด้ เป็นภาพยนตร์ที่ถ่ายทำเบื้องหน้า และเบื้องหลังการแสดงโชว์ เดี่ยวไมโครโฟน 7 ของอุดม แต้พานิช ผู้เป็นพี่ชายของสันติ แต้พานิช โดยใช้กล้องวิดีโอ และกล้องดิจิตอล โดยที่ตัวอุดม แต้พานิช เอง ก็ไม่ทราบว่าน้องชายตั้งใจจะถ่ายเพื่อนำมาตัดต่อเป็นภาพยนตร์เรื่องนี้
ปักษ์ใต้บ้านเรา (2551/2008) ปักษ์ใต้บ้านเรา จัดจำหน่ายโดย Documentary Film กำหนดฉายหนัง 26 มิถุนายน 2551 เรื่องย่อหนัง ปักษ์ใต้บ้านเรา ภาพยนตร์สารคดีเรื่องนี้ถ่ายทอดชีวิตจริงๆ ของชาวใต้โดยไม่มีการปรุงแต่งใดๆผ่านวิถีของ4ครอบครัวที่อยู่ต่างพื้นที่กันหากแต่มีความดีงามที่เกี่ยวเนื่องและมีน้ำใจ ส่งต่อให้แก่กันภาพจากความเป็นจริงเหล่านี้ ถูกนำมาเรียงร้อยเป็นเรื่องราวเพื่อบอกเล่าว่าภาคใต้ของไทยยังคงสวยงามและ ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่ใครหลายๆคนเข้าใจ บังหมาด มีภรรยาและลูก5 คนใช้ชีวิตอยู่อย่างเรียบง่ายในหมู่บ้านทะเลนอก จ.ระนอง หาเลี้ยงครอบครัวด้วยการออกทะเลหาปลาในทุกๆวันบังจะทำละหมาด5 ครั้ง เพื่อขอพรจากพระอัลเลาะห์ให้เกิดสันติสุข ในครอบครัวและเพื่อนมนุษย์ แต่แล้ววันหนึ่งหมู่บ้านทะเลนอกต้องเจอกับคลื่นยักษ์สึนามิ ยังโชคดีที่ครอบครัวของบังรอดชีวิตจากเหตุการณ์ร้าย และได้กลับมาอยู่พร้อมหน้ากันอีกครั้ง สามีของพี่อ้อยพยาบาลผู้เคราะห์ร้ายเป็นตำรวจที่ย้ายไปประจำการที่ปัตตานีและถูกผู้ร้ายยิงเสียชีวิตพี่อ้อยมีลูก 2 คนที่ต้องดูแลและกำลังอยู่ในวัยเรียน เมื่อเสาหลักของบ้านต้องหักลง พี่อ้อยจึงจำเป็นที่จะต้องลุกขึ้นมาเป็นหลักเสาใหม่ให้ลูกๆ เธอต้องยอมรับความเป็นจริง และพยายามเป็นให้ได้ทั้งพ่อและแม่ เพื่อให้ลูกๆ ได้มีขวัญและกำลังใจในการดำเนินชีวิตต่อไป พี่ก้อย หนุ่มใต้เชื้อสายจีนเกิดและเติบโตในนครศรีธรรมราช และมาก่อร่างสร้างตัวที่กระบี่พี่ก้อยเกิดมาในครอบครัวที่มักคุ้นกับการทำอาหารจึงเริ่มต้นเปิดร้านอาหารด้วยการคิดเองทำเอง และให้บริการลูกค้าด้วยตัวของตัวเอง กระทั่งร้านเล็กๆเติบโตขยายใหญ่ทว่า พี่ก้อยก็ยังคงเข้าครัวทำอาหารและออกไปดูแลให้บริการลูกค้าด้วยตัวเองเสมอเพราะพี่ก้อยเชื่อมั่นในการทำอะไรด้วยใจ หาดทิพย์บริษัทที่ได้รับลิขสิทธิ์ให้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มโค้กใน14 จังหวัดภาคใต้ มีบ้านหลังใหญ่ตั้งอยู่ที่อ.หาดใหญ่ จ.สงขลามี ร.ต.ไพโรจน์ รัตตกุล เป็นเหมือนพ่อที่คอยดูแลใส่ใจในทุกเรื่องของพนักงานและของเพื่อนบ้านที่เป็นคนใต้ในทุกพื้นที่ทุกครั้งที่ภาคใต้ ต้องเผชิญกับภัยธรรมชาติไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่พนักงานหาดทิพย์ทุกคนจะพร้อมใจกันหยุดงาน เพื่อลงไปช่วยเหลือเพื่อนชาวใต้ในทุกรูปแบบ
ความจริงพูดได้ (คดีสุภิญญา) (2551/2008) หากใครได้ติดตามข่าวสารบ้านเมืองในช่วง 2–3 ปีที่ผ่านมาคงจะเคยผ่านตาหรือได้ยินชื่อของ “เก๋ - สุภิญญา กลางณรงค์” มาบ้าง โดยเฉพาะในเรื่องการต่อสู้และท้าทายอย่างหาญกล้าของเธอกับบริษัทยักษ์ใหญ่ของประเทศ ที่ส่งผลให้บทบาทและภาพลักษณ์ของเธอในความรู้ของคนทั่วไป คือ ผู้หญิงแกร่งที่กำลังทวงคืนเสรีภาพแห่งการพูดความจริงจากอำนาจที่ครอบงำสังคมให้มืดมน จากการเคลื่อนไหวต่อสู้ดังกล่าว ได้นำไปสู่การนำเสนอชีวิตของเธอจากมุมมองแบบสารคดี โดยฝีมือของผู้กำกับหญิงอย่าง พิมพกา โตวิระ ภายใต้ชื่อผลงาน “ความจริงพูดได้ (คดีสุภิญญา)” (The Truth Be Told: The Cases against Supinya Klangnarong) แน่นอนว่าจากชื่อผลงานก็ทำให้คิดไปว่าภาพยนตร์สารคดีเรื่องนี้ย่อมหนีไม่พ้นจากประเด็นคดีความที่บริษัทชินคอร์เปอเรชั่น ฟ้อง นางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อการปฏิรูปสื่อ (คปส.) เป็นจำเลยที่หนึ่งร่วมกับหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ในข้อหาหมิ่นประมาท จากการตีพิมพ์บทความของเธอเรื่อง "เอ็นจีโอประจาน 5 ปีรัฐบาลไทยชินคอร์ปรวย" ในหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ โดยถูกเรียกค่าเสียหายเป็นเงิน 400 ล้านบาทในคดีแพ่ง และติดคุกในคดีอาญา ซึ่งคดีความดังกล่าวศาลได้พิพากษาให้ยกฟ้องไปแล้วเมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2549 แม้ว่าชื่อของผลงานจะทำให้คนพลอยคิดไปในประเด็นของ “คดีความ” แต่เอาเข้าจริงเมื่อได้ดูหนังเรื่องนี้แล้วก็ทำให้เข้าใจและเห็นภาพที่มากกว่า เรื่องราวได้นำเสนอภาพของหญิงสาวคนหนึ่งที่กำลังต่อสู้ทางคดีกับบริษัทยักษ์ใหญ่ แม้ว่าภายนอกของเธอจะดูเป็นผู้หญิงที่แกร่งกล้า แต่สารคดีทำให้เห็นภาพในมุมกลับ ที่ลึกๆ แล้วเธอก็เป็นเฉกเช่นมนุษย์ทั่วไป ที่มีความกลัว ความกดดัน และความหวัง ในฉากเปิดเรื่องที่ทุกสิ่งวนเวียนอยู่บนรถขณะที่เธอ พ่อและแม่ กำลังจะไปให้การกับศาล ได้สะท้อนให้เห็นภาพลักษณ์ธรรมดาของชีวิตมนุษย์มากกว่าที่จะเป็นภาพลักษณ์ของนักต่อสู้ที่หลายคนมองเธอ เช่นเดียวกับฉากบทสัมภาษณ์ที่เกิดขึ้นในห้องพักของเธอ ก็ได้เห็นภาพของผู้หญิงคนหนึ่งที่ย้ายจากต่างจังหวัดเข้ามาอาศัยในเมืองใหญ่ ต้องเผชิญกับภาระหน้าที่และความรับผิดชอบในด้านต่างๆ โดยเฉพาะการเงิน นอกจากนี้ชีวิตของเธอที่ผิดแผกไปจากผู้หญิงคนอื่นยังเป็นสิ่งที่ต้องเผชิญกับความกดดันจากบรรดาญาติและคนในสังคมต่างจังหวัด ที่แม้จะเห็นด้วยกับการกระทำของเธอ แต่ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงต้องทำเช่นนั้น หรือทำไมเธอไม่ทำตัวเหมือนผู้หญิงคนอื่นๆ ภาพลักษณ์ของ “สุภิญญา” ที่นำเสนอ ชี้ให้เห็นถึงบทบาททางเพศที่ลื่นไหล เปลี่ยนไปมา และสลับบทบาท เป็นชีวิตของหญิงสาวที่มีทั้งแง่มุมอันกล้าหาญ ธรรมดา สิ้นหวัง หรือเต็มไปด้วยพลัง ปะปนกันไป ตัวตนของเธอจึงเป็นสิ่งที่มีความหลากหลายเช่นเดียวกับคนอื่นๆ แต่กระนั้นแม้ตัวตนของเธอจะมีความหลากหลายดังที่สะท้อนมาในสารคดีเรื่องนี้ แต่ในความเป็นจริงภาพลักษณ์ของเธอที่บรรดาสื่อหรือองค์กรพัฒนาเอกชนทั้งหลายพยายามนำเสนอกลับเลือกเพียงแง่มุมของหญิงสาวผู้กล้าหาญออกมาเท่านั้น กลายเป็นตราประทับ “สุภิญญา” เท่ากับความ “แข็งแกร่ง กล้าหาญ” และบดบังแง่มุมอื่นๆ ของชีวิตออกไป ที่ดูเหมือนจะไม่ต่างกับตราประทับของความเป็น “ชาย” ที่ต้องอดทด หรือ “หญิง” ที่ต้องอ่อนช้อยตามแบบที่คนส่วนใหญ่มักจะเข้าใจ แต่อย่างไรทั้งหมดนี้ สารคดี “ความจริงพูดได้ (คดีสุภิญญา)” ได้ทลายเส้นแบ่งของภาพลักษณ์ดังกล่าวลง พร้อมเผยให้เห็นความหลากหลายซับซ้อนในตัวตนของหญิงสาวคนหนึ่ง ที่อาจเป็นภาพแทนให้กับคนในสังคมหรือเพศหนึ่งๆ ที่มีความแตกต่างหลากหลายในตัวเองได้
สี่แพร่ง (2551/2008) **เหงา ผู้กำกับ : ยงยุทธ ทองกองทุน เรื่องย่อ : ปิ่น (มณีรัตน์ คำอ้วน) สาวทำงานคนหนึ่งอาศัยอยู่คนเดียวในห้องแคบๆ เธอเหงา เธอตกงาน เธอโดนทิ้ง เธอหดหู่สุดขีด เมื่อมีข้อความเข้ามาในโทรศัพท์มือถือว่า อยากรู้จัก เธอจึงเริ่มต้นติดต่อกลับไปโดยที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาเป็นใคร มาจากไหน และไม่รู้ว่าเขาเป็นคนที่เธอจะต้องเสียใจ** **ยันต์สั่งตาย ผู้กำกับ : ปวีณ ภูริจิตปัญญา เรื่องย่อ : เด็กช่างกลคนหนึ่ง เลือกวิธีแก้แค้นหรือเอาคืนแบบคนมีวิชาอาคมโดยการเล่นของอย่างหนึ่ง ที่เรียกว่า ยันต์สั่งตาย เพื่อมาไล่ล่าแก้แค้นแทนการลงมือเอง แต่สุดท้ายการแก้แค้นก็ไม่มีประโยชน์อะไรเลย เพราะมันไม่มีวันสิ้นสุด** **คนกลาง ผู้กำกับ : บรรจง ปิสัญธนะกูล เรื่องย่อ : วัยรุ่นกลุ่มหนึ่ง ออกไปตั้งเต็นท์กลางป่าลึก พวกเขาล้อมวงเล่าเรื่องผี ทำกิจกรรมห่ามๆ ไร้สาระ พอตอนเข้านอน ทุกคนต่างแย่งกันนอนตรงกลาง เพราะเชื่อว่าผีจะหลอกคนที่นอนริมสุดก่อน แต่แล้วจะทำอย่างไรเมื่อคนที่นอนตรงกลางกลับเป็นคนที่โดนผีหลอกคนแรก** **เที่ยวบิน 224 / Last Fright ผู้กำกับ : ภาคภูมิ วงศ์ภูมิ เรื่องย่อ : พิมพ์ (เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์) เป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน ที่ต้องเดินทางไปกับผู้โดยสารที่เป็นเจ้าหญิงจากต่างประเทศ เจ้าหญิงเอาแต่ใจและค่อนข้างโหดร้ายกับเธอตลอดทาง แต่แล้วเรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเมื่อเจ้าหญิงสิ้นพระชนม์ เลยต้องขนศพเจ้าหญิงกลับประเทศ พิมพ์จึงต้องเดินทางไปกับศพอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ แล้วเรื่องสยองต่างๆ ก็เกิดขึ้นบนเครื่องตลอดการเดินทาง**
ลองของ 2 (2551/2008) ครูพนอ (นภคปภา นาคประสิทธิ์) สาวสวยรวยเสน่ห์ ชีวิตครูต่างจังหวัด ของเธอ คงเหมือนกับครูทั่ว ๆ ไป แต่ความสวยความสาวของเธอ กับทำให้เธอต้องประสบเคราะห์กรรม จากคนที่มารุมรัก ถูกทำของใส่ทั้งจากครู และเหล่านักเรียนชายมัธยมในโรงเรียน เพื่อแก้มนต์ดำแก้อาถรรพณ์ ทำให้ครูพนอต้องฆ่า นายพร (ธีรยุทธ ปรัชญาบำรุง) และทำให้ได้เทพ 3 ตามาครอบครอง จ่าดิษ (ศุภกรณ์ กิจสุวรรณ) เพื่อนนายพร คนเล่นของที่มีชีวิตอยู่เพื่อเดรัจฉานวิชา เข้ามาเกี่ยวข้องกับครูพนอ ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ เทพสามตามาครอง เรื่องราวเริ่มต้นขึ้น หลังจากที่ครูพนอกินเนื้อของหมอไสยศาสตร์ เพียงหวังเพื่อล้าง “ของ” ในตัวเองออก แต่การกระทำในครั้งนั้นกลับทำให้ชีวิตของตัวเธอเองต้องตกอยู่ในอำนาจมนต์ดำของหมอไสยศาสตร์เสียเอง เธอนั้นได้รับความเจ็บปวดทรมานจากรอยบาดแผลอักขระบนตัวเธอที่เกิดขึ้นโดยทีเธอไม่รู้สึกตัว จนต้องถูกจับส่งโรงพยาบาลประสาท เพราะเข้าใจว่าตัวเธอนั้นป่วยทางจิต แต่เรื่องราวก็ไม่ได้หยุดเพียงเท่านี้เมื่อครูพนอต้องตกอยู่ในการดูแลของพยายบาลที่ชื่อเพ็ญ ซึ่งเพ็ญและครอบครัวหวังใช้ประโยชน์จากร่างของครูพนอ เพื่อเรียกขวัญของพี่สาว (เดือน) เพื่อให้ขวัญของเดือนนั้นได้เข้าอยู่ในร่างของครูพนอแทน โดยอาศัยจังหวะในช่วงที่ครูพนอเข้ารับการรักษาอาการอยู่ในโรงพยาบาล แต่เรื่องราวกลับไม่ง่ายอย่างที่คาดคิดเมื่อ จ่าดิษจอมขมังเวทย์ที่รับจ้างเพ็ญและครอบครัว ในการสลับเปลี่ยนขวัญในครั้งนี้กลับต้องการพลังที่อยู่ในตัวครูพนอนั้นเอาไว้กับตัวเสียเอง เป็นเหตุให้ขวัญของครูพนอที่ถูกกักขังไว้กับเข้าสู่ร่างของตัวเองได้อีกครั้ง แรงอาฆาตแค้นที่เธอได้รับจากการกระทำของครอบครัวเพ็ญ ด้วยวิธีการอันโหดเหี้ยม ประกอบกับพลังอำนาจของหมอไสยศาสตร์ที่อยูในตัวครูพนอ ทำให้เธอกลับมาตามชำระล้างความแค้นกับครอบครัวเพ็ญอย่างน่าสพรึงกลัวและน่าสยดสยอง

กำลังแสดงผลลัพธ์ทั้งหมด 7 รายการ