Super แหบ แสบ-สะบัด (2551/2008) ท่ามกลางกระแสเพลงเกาหลีมาแรง ค่ายเพลง (ใกล้เจ๊ง) ของเจ๊เง็ก ส่งศิลปินหนุ่มลูกผสม ไทย-เกาหลี ผสมญี่ปุ่น-เยอรมัน ตง ลี เฮ นักร้องหนุ่มผู้เลิศเลอเฟอร์เฟคไปซะหมด หน้าตาหล่อโฮก เสียงร้องมหัศจรรย์ แค่ซิงเกิลแรกก็ขึ้นอันดับหนึ่งทุกสถานี ดังระเบิดไปทั่วประเทศ ความดังของ ตง ลี เฮ เกิดขึ้นด้วยความบังเอิญ เจ๊เง๊ก (เนาวรัตน์ ยุกตะนันท์) คว้างานเพลง ตง ลี เฮ ขึ้นจาก 2 หนุ่มที่มาออดิชั่น ต้อม (รัฐภูมิ โตคงทรัพย์) หล่อใส สไตล์บอยแบนด์ กับ ตึ๋ง (เกียรติศักดิ์ อุดมนาค) หล่อล่ำ หัวใจบอยแบนด์ (หัวใจบอยแบนด์ แต่หน้าบอยแบน) โดยมี สาลี่ (ศรีพรรณ ชื่นชมบูรณ์) เลขาเจ๊เง๊ก ช่วยกันปกปิด โฮะ!! ไม่ใช่ซิ ช่วยกันรักษาภาพลักษณ์ ตง ลี เฮ ให้ Cool นิ่ง มาดเท่ห์ ไม่พูดไม่จา ตึ๋ง ได้พบกับ อิ๋ว (เฟี้ยวฟ้าว สุดสวิงริงโก้) สาวช่างฝันผู้มากด้วยจินตนาการ ผู้ก่อตั้งแฟนคลับ อิ๋ว เป็นแฟนเพลงที่เข้าใจบทเพลง ตง ลี เฮ อย่างลึกซึ้ง มองลึกไปถึงเนื้อใน เห็นคุณค่าเสียงเพลงมากกว่าหน้าตา การได้พบ ได้พูดคุยกับอิ๋ว ทำให้ตึ๋งมีกำลังใจมากขึ้น ฝ่าย ต้อม ก็พบรักกับ แก้ว (มด - คุณัชญา ชัยรัตน์) เด็กฝึกงานผู้มีบุคลิกลึกลับ แต่ต้อมต้องพยายามเก็บอาการไม่ให้แก้วรู้ กระแสนิยมที่แฟน ๆ มีต่อ ตง ลี เฮ ยังนำความเดือดร้อนมาด้วย พี่อ้อย (ศิริพร อยู่ยอด) เหยี่ยวข่าวปาปารัสซี่, ลูซี่ เลเซอร์เจท (จันทร์เพ็ญ คงประกอบ) นักร้องคู่แข่ง ที่ต้องตกเป็นเบอร์สอง แฟนเพลงอีกทั่วประเทศ ทุกสายตาจ้องจับผิด ตง ลี เฮ ต้อม + ตึ๋ง ต้องช่วยกันเอาตัวรอดจากการเจาะข่าว และความรัก ความลับ ของ ต้อม + ตึ๋ง จะปกปิดไว้ได้สักแค่ไหน?!? ความจริงของ ต้อม ตึ๋ง ต้องพิสูจน์ด้วย มองเห็นด้วยสายตา หรือรับฟังด้วย หัวใจ เปิดใจให้กว้าง ร่วมค้นหา ความสนุกของสิ่งที่เกิดมาคู่กัน Super แหบ-แสบ-สะบัด
หัวหลุด แฟมิลี่ (2551/2008) ครอบครัววิศวกรกินเงินเดือน ที่มี ดิ่ง (จาตุรงค์ พลบูรณ์) เป็นหัวหน้าครอบครัว กันตา (เมทินี กิ่งโพยม) แม่บ้านที่แสนดี และลูกชายที่เรียกได้ว่าหล่อ จนเป็นที่ชื่นชอบของสาวๆอย่าง บราซิล (เจริญพร อ่อนละม้าย) ต้องมาพบเจอกับความวุ่นวายเมื่อดิ่งอยากพาครอบครัวไปเที่ยว แต่รถเจ้ากรรมดันมาพังต้องนั่งรถไฟชมบรรยากาศแทน และนี่ก็เป็นต้นกำเนิดของเรื่องราวที่ไม่มีใครคาดคิด เมื่อทั้งสามกลับมาบ้าน ต่างคนต่างต้องตกใจเมื่อรู้ว่าตนนั้นกลายเป็นมนุษย์ประหลาด หัวหลุดแต่ไม่ตาย ไม่มีใครกล้าบอกเรื่องนี้ให้ทุกคนในครอบครัวรู้ แต่เห็นหน้ากันอยู่ทุกวันความอึดอัดก็เกิดขึ้นในใจ สามคน พ่อ แม่ ลูก ต้องเผชิญชะตากรรมเดียวกัน จนต้องปิดเพื่อนบ้านที่แสนจะยุ่งวุ่นวายอย่าง สังคม (อาคม ปรีดากุล) ที่รับภาระเลี้ยงดูภรรยาที่เป็นอัมพาตชื่อ เวียงพิงค์ (ศรีพรรณ ชื่นชมบูรณ์) และ สิงโต (ธีรธร พลบูรณ์) ลูกชายแก่แดด ดิ่งต้องปกปิดเพื่อนร่วมงานที่บริษัท บราซิลก็ต้องปกปิดสาว ๆ ที่มหาลัย รวมทั้ง จับเลี้ยง (พัสกร พลบูรณ์) แฟนสาวของบราซิล แต่ความลับไม่มีในโลก เรื่องราวประหลาดเริ่มรู้ถึงสาธารณะชน เรื่องราวยังคงดำเนินต่อไป เมื่อเริ่มต้นไม่ปกติ เรื่องมันก็คงจบลงไม่ง่ายนัก ผลสุดท้ายครอบครัวนี้ต้องพบเจอกับเรื่องอะไรใน หัวหลุดแฟมิลี่
อีติ๋มตายแน่ (2551/2008) “สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล” กอดคอ “มหาการพิคเจอร์ส” เต็มใจเสนอ “อีติ๋มตายแน่” ผลงานกำกับภาพยนตร์ลำดับที่ 9 ของ “ต้อม-ยุทธเลิศ สิปปภาค” ภาพยนตร์โรแมนติกปนขำในแบบฉบับ “โน้ต-อุดม แต้พานิช” กับงานเขียนบทภาพยนตร์ครั้งแรกในชีวิตพร้อมประกบ 2 นางเอกจาก 2 ประเทศ “Asuka” นางแบบสาวอาโนเนะจากแดนปลาดิบ และ “คริส หอวัง” ดีเจ-นางแบบสาวจากแดนขวานทอง อีติ๋มมาแน่ๆ 9 ต.ค.นี้ ในโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศ “ตึ๋ง” นักมวยชกโชว์พัทยา อยากจะเป็นฮีโร่ขึ้นมาอย่างใครเขา เห็น “สะท้านฟ้า” เท่เลียนแบบเอา หวังเป็นเป้านำทางสู่ดารา วันหนึ่งได้พบนางในฝัน “อิเตมิ” คนนั้นที่ใฝ่หา จู่ๆ เธอก็เดินหลงเข้ามา อยากรู้ว่านี่จริงหรือฝันไป ฝันหวานไม่นานก็จบ เมื่อเธอพบกับคนที่เด่นกว่า คนๆ นั้นคือฮีโร่ที่ศรัทธา สะท้านฟ้าสะท้านใจทำไงดี “มะขิ่น” คนดีอยู่ใกล้ๆ กลับมองข้ามหัวไปได้เสียนี่ กว่าจะรู้ว่าตนมีของดี อาจจะถึงวันที่สายเกินไป (กลอนเรื่องย่อโดย “อุดม แต้พานิช”)
หลวงพี่เท่ง ๒ รุ่นฮาร่ำรวย 2551
หลวงพี่เท่ง ๒ รุ่นฮาร่ำรวย (2551/2008) หลวงพี่โจอี้ (อภิสิทธิ์ โอภาสเอี่ยมลิขิต) เป็นพระใหม่ที่เข้ามาจำพรรษาที่วัดแทนหลวงพี่เท่ง อยู่วัดได้ไม่นานก็ได้รับคำสั่งให้ไปพัฒนาวัดที่กำลังมีปัญหา ก่อนไปจึงไปลาโยมแม่ที่กำลังป่วย ซึ่งโยมแม่ก็ได้บอกความลับบางอย่างเกี่ยวกับโยมพ่อ และมอบของสำคัญชิ้นหนึ่งให้ หลวงพี่โจอี้ออกเดินทางไปวัดโคกสะอาด และพบว่าทั้งวัดเต็มไปด้วยฝุ่นละอองจากการระเบิดภูเขา หลวงพี่ศรี (ชูศรี เชิญยิ้ม) และ หลวงพี่พวง (พวง แก้วประเสริฐ) เล่าว่าเมื่อก่อนวัดเจริญมาก ผู้คนเข้ามาทำบุญกันมากมายเพราะการแหล่ของ หลวงตา (สุเทพ โพธิ์งาม) แต่ปัจจุบันหลวงตาป่วย ประกอบกับมีนายทุนมาซื้อที่ดินทำโรงโม่หินใกล้บริเวณวัด และฝุ่นละอองมากมายก็ทำให้ชาวบ้านเป็นโรคภูมิแพ้กันถ้วนหน้า หลวงพี่โจอี้คิดหาวิธีทางต่างๆ เพื่อให้ชาวบ้านอาศัยอยู่ในพื้นที่นั้นอย่างสงบสุข แต่สิ่งที่หลวงพี่โจอี้ทำขัดกับผลประโยชน์ของนายทุน นายทุนจึงคิดกำจัดหลวงพี่ให้พ้นทาง หลวงพี่โจอี้ต้องต่อสู้กับใจตัวเอง และคนรอบข้าง โดยใช้หลักธรรมในการเอาชนะปัญหาต่างๆ
บ้านผีปอบ 2008 (2551/2008) เรื่องเกิดขึ้น ณ หมู่บ้านหลงยุคแห่งหนึ่ง หมอคล้าย (กลศ อัทธเสรี) หมอผีประจำหมู่บ้าน ที่คอยขจัดปัดเป่า ความเจ็บไข้ให้กับชาวบ้าน โดยมี หยิบ (ณัฐนี สิทธิสมาน) ภรรยา และ ชบา (วนิดา โกลเดน) ลูกสาว คอยช่วยเหลืออย่างไม่เต็มใจ แต่ต้องทำเพื่อความอยู่รอด แต่แล้วหมอคล้ายก็ต้องพบกับอุปสรรคเมื่อกลุ่มแพทย์อาสา นำทีมโดย หมอตุ้ย (รวิช ไรวินท์), หมอชัย (จตุรวิทย์ กาละมิตร์), หมอขวัญ (ภาวิณี), หมอนุช (อัมพิกา เอกสมตัว) และ หมอเอนก (อุดมสุข ลิ้นวงษ์ทอง) เข้ามารักษาชาวบ้าน โดยมี ผู้ใหญ่ชุ่ม (คมกฤช ยุตติยงค์), ฉ่ำ (แจ๊ค เชิญยิ้ม) ลูกชายจอมแสบกับ หนูจ๋า (ขนิษฐา เอี่ยมพ่วง) ลูกสาวสุดเปรี้ยว รวมทั้งยังมีตัวป่วนประจำหมู่บ้าน เจต (เท่งน้อย), จ้อ (โหน่งน้อย) และ สั้น (โจอี้ หม่ำ) คอยส่งข่าวเรื่องหมออาสา ถึงความเก่งที่สามารถรักษาชาวบ้านให้หายได้โดยเร็ว ชาวบ้านที่เคยเชื่อถือและศรัทธาในหมอคล้าย ก็เริ่มลดลงเรื่อย ๆ จนหมอคล้ายไม่พอใจ โกรธแค้นจนต้องใช้ไสยศาสตร์เข้าช่วยโดยการปลุกปอบขึ้นมา ปอบหยิบถูกปลุกขึ้นมาพร้อมภารกิจฮา แต่ปอบหยิบก็ยังต้องเจอคู่ปรับอย่าง จ่าลื่น (หมู บางรัก) จอมเจ้าชู้โดยมีแม่เฉลียว (แป๋ว บ้านโป่ง) ที่ทั้งคุมเข้ม และปกป้องสามีจอมซ่าส์ แถมด้วยกองทัพขาอำอย่าง น้ากล้วย เชิญยิ้ม, เอ็ดดี้ ผีน่ารัก, ธิดาทิพย์ หัดไทย ฉายาปอบตัวจริงกินลูกเดียว และนักแสดงสมทบ ที่คุ้นเคยทั้งจอแก้วและจอเงินอีกล้นจอ
เทวดาตกมันส์ (2551/2008) เมื่อ เทวดา (เทพ โพธิ์งาม) ทั่นเทวดาผู้รักษาคุณธรรม ได้รับคำบัญชาจากสวรรค์ให้มารับ หลวงพ่อ (บุญธรรม ฮวดกระโทก) ผู้บรรลุอรหันต์สู่สวรรค์ชั้นฟ้า ระหว่างการเดินทางไปตามหาหลวงพ่อ ทั่นเทวดา จึงต้องเดินตลาดสัมผัสวิถีชาวบ้านซะก่อน แล้วแต่ละบ้านในตลาด ก็มีแต่เรื่องป่วนที่ทั่นเทวดา ต้องให้คำตอบ ไม่ว่าจะ คู่ผัวเมียละเหี่ยใจ เจ๋ง (อาคม ปรีดากุล) กับ นาง (เนตรชนก ปั้นปรือ) ที่ทะเลาะหึงหวงกันไม่เว้นวัน ตบตีกันยิ่งกว่าบนเวทีมวย คู่รักวัยรุ่น ผู้กองหนุ่ม (วิวิศน์ บวรกีรติขจร) นายตำรวจจบใหม่ที่ไม่อยากกลับบ้านนอก แต่ต้องการรับราชการตำรวจประจำในกรุงเทพ แถมยังมีแฟนสาว น้องหมวย (ธนัยนันท์ เต็มปรีชา) ก็อยากทำตามความฝันตัวเองเรื่องการไปเรียนต่อที่กรุงเทพฯ ด้วยเช่นกัน คู่พ่อลูก อาแปะ ขายกาแฟ (บรรพต วีระรัฐ) ที่ไม่อยากให้ลูกสาวทั้ง 2 คนไปอยู่ไกลถึงในเมือง หลังจากคอยดึงคอยหวงลูกสาว เหมย (ตรีชฎา กิ้มติ๋น) ลูกสาวคนโตไว้กับบ้านได้แล้ว แต่ หมวย ลูกสาวคนเล็กเนี่ยซิ ดื้อและหัวรั้นเป็นที่สุด อาแปะจะทำอย่างไร ถึงจะชนะใจลูกสาวได้ เจ้ลำยอง (จันทร์เพ็ญ คงประกอบ) เจ้าของร้านคาราโอเกะ สวยอวบ ขาวอึ๋ม ปรารถนาเพียงแค่มีสามีสักคน ที่ผ่านมา หากแต่งงานกับใคร สามีก็พาลมาอายุสั้นไปกันหมด แต่กระนั้น เจ้ก็ยังไม่เคยยอมแพ้ ยังมี สารวัตร (สมชาย ศักดิกุล) มาดเก่งฉกาจ แต่สืบอะไรไม่เคยได้คำตอบ กับ สายสืบ นอกเครื่องแบบ พูดไม่ชัด (สุธน เวชกามา) ที่มาช่วย ผู้กองหนุ่ม คลี่คลายคดี แต่กลับทำให้ผู้กองลำบากมากขึ้น แต่ละคนมีปริศนาปัญหาคาใจให้เทวดาต้องช่วยเคลียร์ เจอแบบนี้แล้ว เทวดาจะได้กลับสวรรค์เมื่อไรละ??? ทั้งหมดเป็นแค่บังเอิญ หรือ สวรรค์มอบหมายภารกิจให้เทวดามาช่วยมนุษย์ให้พบทางสว่าง?? ดูไปแล้ว ภารกิจของท่านเทวดายากเย็นกว่า MIB + MI3 แต่ระดับเทวดาขั้นเทพแล้ว ยังไงก็ต้องปฏิบัติการเด็ด ๆ เรียกเสียงฮาสะท้านกันบ้าง
บุญชู ไอ-เลิฟ-สระ-อู (2551/2008) บุญโชค (ธนฉัตร ตุลยฉัตร) เณรน้อยหน้าใส ใจซื่อ มองโลกในแง่ดี พ่อของบุญโชค คือ บุญชู บ้านโข้ง (สันติสุข พรหมศิริ) ที่หวังให้ลูกบวชไปเรื่อยๆ จนเป็นเจ้าอาวาส แต่แม่ โมลี (จินตหรา สุขพัฒน์) แอบจับสึก และส่งตัวเข้ากรุงเทพฯ โดยพ่อบุญชูไม่รู้ เพื่อนพ้องของบุญชู อย่าง ไวยกรณ์ (วัชระ ปานเอี่ยม) หยอย (เกียรติ กิจเจริญ) คำมูล (กฤษณ์ ศุกระมงคล) เฉื่อย (นฤพนธ์ ไชยยศ) นรา (อรุณ ภาวิไล) ประพันธ์ (เกรียงไกร อมาตยกุล) เลยต้องสั่งให้ ลูกๆ อย่าง นิ้ง (อภิญญา สกุลเจริญสุข) แอ่น (นลินธารา โฮเลอร์) หยอน (รัชชุ สุระจรัส) ปพาฬ (วรฤทธ์ นิลกลม) มาดูแลบุญโชค เมื่อบุญโชคเข้ากรุงเทพฯ ก็โดนเด็กเร่ร่อนสองพี่น้อง กระเต็น (รดา วิรัตน์โยสินทร์) และ กระแต (ชนินาถ ศิริสวัสดิ์) แอบเอายาใส่จนมึน แล้วจับไปลอกคราบเสียหมดตัว ซึ่งมี พิม (กิตติ์ลภัส กรสุทธิ์ไรวรรณ) เด็กสาวที่ใช้อินเตอร์เน็ตหลอกผู้ชายมาปอกลอก เป็นผู้ดูแลสองพี่น้อง เรื่องราวจึงวุ่นวายขึ้น โดยมีร้านอาหารของ ปอง ปากหมา (สมเกียรติ คุณานิธิพงษ์) เป็นศูนย์รวมแหล่งพบปะของทุกคน เณรสึกใหม่จากสุพรรณ ที่มีแต่ความซื่อและจริงใจ จะทำอย่างไรกับเรื่องราวที่ไม่เคยพบเห็นในกรุงเทพฯ
อาข่า ผู้น่ารัก (2551/2008) พ่อจ๋า…ทำไมใครหลายคนถึงหายไปจากหมู่บ้านของเรา แล้วทำไมหนอ…เราถึงไม่เคยถ่ายรูปพร้อมหน้าพร้อมตากันเลย ความสุขอันแท้จริง…มันอยู่ที่ตรงไหนกันนะ “อาข่าผู้น่ารัก” ภาพยนตร์น่ารักเต็มอิ่มทุกหัวใจจะมาถ่ายทอดเรื่องราวความรัก ความผูกพัน การพลัดพราก ผ่านการเดินทางทางความคิดของ “หมี่จู” (ฟูอาน่า ฮิโรยาม่า) เด็กหญิงชาวเขาเผ่าอาข่าที่ทุกคนในหมู่บ้านรู้ซึ้งถึงความแสบซน และบรรดาวีรกรรมสุดป่วนที่มักละเมิดข้อห้ามของเผ่าเป็นประจำ จนทำให้พ่อกับแม่ต้องส่งหมี่จูไปอยู่กับน้าที่พื้นราบ ที่นั่นเปรียบเสมือนโลกใบใหม่ที่หมี่จูไม่เคยรู้จักมาก่อน หมี่จูสนุกไปกับงานพิเศษคือการรับจ้างถ่ายรูปกับนักท่องเที่ยว รูปถ่ายแต่ละใบกำลังบอกเล่าเรื่องราวบางอย่างกับหมี่จู เมื่อได้สัมผัสถึงความเหงาเดียวดายเมื่อต้องพลัดพรากจากคนที่เรารัก จึงทำให้หมี่จูคิดที่จะเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่างจากโลกใบเดิมที่เคยอยู่ จนกระทั่งการมาถึงของ “กลุ่มกระจกเงา” ซึ่งมี “พี่แป้น” (พิมพ์พรรณ ชลายนคุปต์) เป็นหัวเรือใหญ่ได้เข้ามาทำโครงการทดลองชื่อว่า “บ้านนอกทีวี” ทีวีของชุมชนโดยชุมชน ทำให้เกิดเรื่องราวชวนอมยิ้มเมื่อเทคโนโลยีของชาวกรุงเข้ามามีส่วนในการดำเนินชีวิตของชาวเขา จนกระทั่งเกิดแรงบันดาลใจให้หมี่จูเดินทางกลับมาที่หมู่บ้านอีกครั้ง และคิดที่บอกเล่าเรื่องราวที่เธอรู้สึก โดยใช้รายการบ้านนอกทีวีเป็นสื่อกลางถึงผู้คนรอบข้าง แต่คราวนี้กลับไม่ใช่เรื่องซุกซนอีกต่อไป มันกลับกลายเป็นเรื่องซาบซึ้งที่ทำให้ทุกคนในหมู่บ้านได้หันกลับมาทบทวนอีกครั้งว่า สิ่งที่ทุกคนโหยหาอยู่นั้นใช่สิ่งเล็กๆ แต่มีค่ามหาศาลที่เรียกกันว่า “ความรัก” หรือไม่
ว้อ หมาบ้ามหาสนุก (2551)
ว้อ หมาบ้ามหาสนุก (2551/2008) ณ หมู่บ้านสุดกันดารห่างไกลความเจริญแห่งหนึ่ง นิยมเลี้ยงสัตว์แปลก ๆ ไว้ติดบ้านแทนหมา เพราะเคยมีโรคหมาบ้าระบาด ทำให้หมาในหมู่บ้านนี้ถูกจับไปหมด อีกทั้งหมู่บ้านแห่งนี้ยังมีแต่ความแห้งแล้ง ดินแตกแล้ง กันดาร ฝนไม่ตก แต่พื้นที่ใกล้ ๆ กลับมีฝนตก อุดมสมบูรณ์ตลอดทั้งปี ต้นไม้เขียวขจีต่างกันราวฟ้ากับดิน แล้ววันหนึ่งเรื่องที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อมีคนในหมู่บ้านถูกสัตว์ร้ายกัดตายอย่างสยดสยอง ชาวบ้านต่างสันนิษฐานกันไปต่างๆ นานา จนในที่สุดนักวิชาการคนเดียวในหมู่บ้านก็ลงความเห็นว่าน่าจะถูก หมาบ้า กัดตาย โชคหมาตัวเดียวที่มีอยู่ในหมู่บ้านแห่งนี้ ซึ่งเป็นหมาวัดที่ฉลาดแสนรู้ ถูกชาวบ้านเพ่งเล็งว่าโชคนี่แหละคือหมาบ้าที่ทำร้ายคนในหมู่บ้าน ด้วยความกลัวที่จะถูกหมาบ้าทำร้าย คนในหมู่บ้านจึงช่วยกันหาวิธีป้องกันตัวเองไม่ให้หมาบ้าเข้ามาใกล้ ด้วยวิธีประหลาดๆ สุดบรรยายแล้วแต่ว่าใครจะสมองใสแจ๋วกว่ากัน ความวุ่นวายในการวางแผนและลงมือของ คน ในการกำจัด หมา แบบสุดโต่งจึงเกิดขึ้น กลเม็ดเด็ดดวงของคน กับสติปัญญาระดับเกรดเอของหมา ใครล่ะที่มันจะเจ๋งกว่ากัน
เฟรนด์ชิพ เธอกับฉัน (2551/2008) ความผูกพันและความรักระหว่างเพื่อน ถูกถ่ายทอดผ่าน Friendship "สิงหา" ได้รับโทรศัพท์จาก "แจ๊ด" เพื่อนสมัยเรียน มัธยมที่เป็นทอม ให้นัดเจอกันเพื่อจัดงานเลี้ยงรุ่น ซึ่งในงานนี้ สิงหาได้พบกับบรรดาเพื่อนร่วมแก๊งเก่า ๆ สมัย ม.6 ไม่ว่าจะเป็น "ซ้ง" เจ้าของร้านโชว์ห่วย "กานดา" อาหมวยร่างอวบ ที่คิดว่าตัวเองสวย เริ่ด กว่าใคร ปัจจุบันเป็นเมียของซ้ง "จุดเด่น" พระเอกหนังชื่อดัง "ป๋อง" ดีเจนักเล่าเรื่องเขย่าขวัญชื่อก้อง และ แจ๊ด สาวหล่อมาดเท่ห์ สไตล์ลิสประจำนิตยสารอันดับหนึ่ง เมื่อพลพรรคเพื่อนรักได้มาพบกันทำให้เรื่องราวเก่า ๆ ในความทรงจำสมัย ม.6 ถูกรำลึกกันอย่างสนุกสนาน จนกระทั่งสิงหาได้เอยถึงมิถุนา เพื่อนนักเรียนหญิงที่ย้ายเข้าเรียน ตอน ม.6 ซึ่งเป็นรักแรก และรักเดียวของสิงหา ภาพวันคืนเก่า ๆ เกี่ยวกับมิถุนาถูกร้อยเรียงขึ้นอีกครั้งในความคิดของสิงหา เริ่มตั้งแต่วันเปิดเทอม ม.6 วันแรกเมื่อ ปี 2530 หลังเข้าห้องเรียนเรียบร้อยแล้ว อาจารย์ประจำชั้นได้แนะนำให้รู้จักนักเรียนใหม่ 2 คน คนแรกเป็นผู้ชาย ชื่อสายัณห์ หรือ แหลม หน้าตาคมเข้ม ดูเกเรเอาเรื่อง แหลมย้ายโรงเรียนมาเพราะถูกคัดชื่อออก ในตอนแรกพวกของสิงหา ดูไม่ถูกชะตากับแหลมสักเท่าไหร่ เพราะแหลมไม่ค่อยพูด โดยเฉพาะ ซ้ง ที่ชอบวางก้ามอวดเบ่ง เก่งแต่ปาก ข่มเพื่อน ๆ จนกระทั่งวันหนึ่ง พวกของสิงหา มีเรื่องกับก้อง นักเรียนนักเลงเจ้าถิ่น จนถึงขั้นใช้อาวุธ และขณะที่สิงหากำลังจะถูก ก้องทำร้าย แหลมก็เข้ามาช่วยและต่อสู้ชนะพวกของก้อง ทำให้แหลมกลายมาเป็นอีกหนึ่งสมาชิกของกลุ่ม สิงหาและเพื่อน และอีกคนเป็นผู้หญิงที่สร้างความประทับใจให้แก่เพื่อน ๆ ด้วยการมาโรงเรียนสายตั้งแต่วันแรก เธอคือ มิถุนา สาวน้อยตากลม น่ารัก มาพร้อมกับความเรียบร้อยนุ่มนวล เธอทำให้สิงหาใจเต้น และตะลึงงันจ้องมองไม่วางตา กานดากับแจ๊ด ชวนมิถุนามานั่งด้วยและคอยใส่ไฟให้มิถุนาไม่ชอบพวกสิงหา กับเพื่อร่วมก๊วนอันประกอบด้วย ซ้ง อ้วนดำจอมซ่าส์ ปากกล้าไม่เลือกที่ ชอบทำตัวเป็นป๋าของเพื่อน ๆ แต่พอมีเรื่องวิ่งหนีก่อนใครทุกที จุดเด่น รูปหล่อ ขึ้เก็ก พูดเพราะ และจริงใจกับหญิงทุกคน สะอาด สำอาง เป็นนายแบบวัยรุ่น และป๋อง อารมณ์ดี ไม่เคยโกรธใคร ชอบและหลงใหลในเรื่องไสยศาสตร์ ลี้ลับ และต้องเล่าเรื่องผีให้เพื่อนฟังทุกวัน ทำให้มิถุนาไม่กล้าพูดกับสิงหา จนสิงหาเข้าใจผิดคิดว่าเธอหยิ่ง ที่มีพ่อเป็นอธิบดี สิงหาจึงคอยตามแกล้งและล้อเลียน มิถุนาที่ไม่ยอมพูด ว่าเป็นคนใบ้ จนมิถุนาทนไม่ไหวต่อยหน้าสิงหาไป เหตุการณ์วันนั้นทำให้สิงหาตามมิถุนา ไปที่บ้านเพื่อขอโทษ และได้พบความจริงว่า มิถุนาอยู่กับแม่ที่เป็นใบ้และพิการ ต้องรับผิดชอบตัวเองและเลี้ยงดูแม่ ทำให้เธอไม่มีเวลาไปร่วมกิจกรรมกับเพื่อน ๆ สิงหา พยายามตามตื้อขอโทษมิถุนาด้วยวิธีต่าง ๆ นานา แม้กระทั่งลงทุนไปเรียนภาษามือ เพื่อสื่อสารกับแม่ของมิถุนา จนได้สนิทสนมกับมิถุนา และแม่ของเธอมากขึ้น เวลาผ่านไปเมื่อเทอมที่ 2 ของ ม.6 มาถึง สิงหา และเพื่อน ๆ มาขออนุญาต แม่ของมิถุนาให้มิถุนาไปออกค่ายอาสาพัฒนา ที่บนดอย จังหวัดเชียงราย และที่นั่นทำให้ สิงหา, มิถุนา และเพื่อน ๆ ได้เข้าใจและรักใคร่กลมเกลียวกันมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะคู่กัดอย่าง ซ้งและกานดา หลังจากกลับมาแล้วทุกคนต้องเตรียมตัวสอบไล่ และในวันสอบวันสุดท้าย สิงหานัดพบกับมิถุนา ที่สวนกรกฏา สวนสาธารณะที่สิงหาและมิถุนาช่วยกันตั้งชื่อให้ เพื่อเอาเฟรนด์ชิฟไปแลกกัน แต่วันนั้นหลังจากสอบเสร็จ พวก ซ้ง ป๋อง จุดเด่น ชวนสิงหา ไปฉลองด้วยการทดลองดื่มเบียร์ ทำให้สิงหาเมาหลับไป ตื่นขึ้นมาเลยเวลานัดสิงหาไปตามหามิถุนาที่บ้านแต่ไม่เจอ จึงกลับมาที่สวนกรกฏาอีกครั้ง แต่ก็ไม่เจอ จึงไปตามมิถุนาที่บ้าน แต่ที่บ้านมิถุนาไม่มีใครอยู่เลย บ้านทั้งหลังว่างเปล่า สิงหาเสียใจมากพยายามตามหาข่าวคราวของเธอตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา คืนนั้นหลังกลับจากงานเลี้ยงรุ่น สิงหาหยิบเอาเฟรนด์ชิพและรูปเก่า ๆ ออกมาดูยังคงมีเฟรนด์ชิพหน้าหนึ่งที่หายไป ซึ่งเป็นของมิถุนา นั่นเอง สิงหาตัดสินใจบอกกับตัวเองว่าตั้งแต่นี้เป็นต้นไปเขาจะตามหา มิถุนาอย่างจริงจังซะที และรีบเก็บกระเป๋าเดินทางเพื่อเตรียมตัวไปถ่ายทำรายการที่เชียงราย ขณะที่กำลังถ่ายรายการอยู่ สิงหาได้เห็นผู้หญิงพิการคนหนึ่งเดินตัดเข้ามาในกล้องด้วยลักษณะที่ดูคุ้นตา เมื่อสิงหาเดินเข้าไปหา เธอคือ แม่ของมิถุนา สิงหาดีใจมากรีบถามหามิถุนา แม่ของมิถุนาจึงรีบพาสิงหาไปที่บ้าน สิงหาจะได้เจอกับมิถุนาหรือไม่ เรื่องราวแห่งความทรงจำของทั้งสองจะลงเอยเช่นไร
ฮะเก๋า (2551/2008) เรื่องราวของกลุ่มเพื่อนสนิทชมรมเด็กฟิล์มที่ประกอบไปด้วย "ใบหม่อน" สาวฮ้าวประจำกลุ่ม และ 5 หนุ่มเฮ้ว ทว่าการมาถึงของน้องใหม่ที่เพิ่งเข้าชมรมอย่าง "ต้นข้าว" ทำให้มิตรภาพของเพื่อนซี้เริ่มเปลี่ยนไป เมื่อ "บุ้ง" เพื่อนซี้ขอให้ใบหม่อนช่วยเขาจีบต้นข้าว ระหว่างที่ความรักของบุ้งไปได้สวยแต่ความรักของใบหม่อนกับแฟนสาวกลับจบสิ้นลง ใบหม่อนเริ่มถอยห่างออกมาจากชีวิตบุ้ง เพราะไม่อาจหาคำตอบให้กับความรู้สึกของตัวเองที่มีต่อเพื่อนสนิทได้ เรื่องราวความทรงจำและมิตรภาพของ ใบหม่อน (วัตถาภรณ์ เอี่ยมสินธร) นักศึกษาทอมบอยสุดเท่ห์เสน่ห์แรง กับบุ้ง (พงษ์พิสุทธ์ ผิวอ่อน) เพื่อนซี้หนุ่มมาดเซอร์ผู้ไม่เคยรักใคร ใบหม่อนและบุ้งมักจะไปไหนมาไหนด้วยกันตลอดเหมือนดั่งคู่ซี้ปาท่องโก๋ และมีเพื่อนร่วมแก็งค์อีก 4 คน คือ พี่โข่ง (เฉลิมศักดิ์ แย้มขะมัง), กังฟู (ณัฏฐพงษ์ ชาติพงศ์), ไอ้แว่น (สิทธิพล วิศาลาภรณ์) และปารีส (ณรงค์ ชัยนาม) ว่ากันว่าถ้าแก๊งค์นี้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันเมื่อไหร่มักมีเรื่องสนุก ๆ ชวนปวดหัวอยู่เสมอ โดยเฉพาะความป็อบปูล่าที่สุดในกลุ่มของใบหม่อนที่มักจะนำปัญหาเรื่องผู้หญิงมาให้บุ้งช่วยเหลืออยู่เป็นประจำ นอกจากนี้ใบหม่อนก็ยังมี น้าอสุนี (เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา) น้าชายอารมณ์ศิลป์ที่คอยทำทุกวิถีทางที่จะให้ใบหม่อนเลิกเป็นทอม และแล้วเรื่องวุ่นวายชนิดกวนหัวใจก็เกิดขึ้นเมื่อวันเปิดภาคเรียนมาถึง ชมรมเด็กฟิล์มได้รับสมาชิกใหม่เข้ามาซึ่งหนึ่งในนั้นคือ ต้นข้าว (บุศริน มโหทาน) รุ่นน้องเฟรชชี่ปี 1 ที่มีดีกรีเป็นถึงดาวคณะศิลปกรรม ด้วยความสวยหวานน่ารัก ทำให้บุ้งประทับใจต้นข้าวตั้งแต่แรกเห็น บุ้งจึงขอร้องให้เพื่อนซี้อย่างใบหม่อนช่วยให้เขาได้ใกล้ชิดกับต้นข้าว ในขณะที่ใบหม่อนเองก็กำลังอกหักและผิดหวังจากน้ำตาล (สกาว เอื้อวิวัฒน์สกุล) แฟนสาวที่ทนพฤติกรรมรัก ๆ เล่น ๆ ของใบหม่อนไม่ไหวอีกต่อไป แต่แล้วความสัมพันธ์ของบุ้งและต้นข้าวที่พัฒนาขึ้น กลับทำให้เพื่อนรักเริ่มห่างกัน บุ้งกำลังกลายเป็นคนที่มีความรัก ในขณะที่ใบหม่อนก็กลับเป็นฝ่ายถอยห่างออกมาจากชีวิตบุ้ง เพราะไม่อาจหาคำตอบให้กับความรู้สึกของตัวเองที่มีต่อเพื่อนสนิทได้
เทวดาท่าจะเท่ง

เทวดาท่าจะเท่ง (2551/2008) ใครบางคนเคยบอกไว้ว่า “มนุษย์เราเกิดมาแค่หนเดียว จะคิดหาหรือทำการสิ่งใด อย่าได้นิ่งนอนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความดี จงเร่งรีบทำความดี คิดดีใฝ่ดีกันเข้าไว้ ทำได้ไม่จบไม่สิ้น เพราะความดีไม่มีสึกหรอ และก็ไม่ต้องรอให้จนถึงชาติหน้า เพราะเชื่อเถอะว่าสักวันเทวดาบนฟ้าจะเห็นใจ” “ทำดีได้ดี” ถ้าแน่ใจว่าคำๆ นี้ยังได้ผลจริง แล้วเหตุไฉนหนุ่มซื่อจิตใจดีอย่าง “กล้วย” (เท่ง เถิดเทิง) สวรรค์ถึงบันดาลให้เขาเป็นได้แค่เบ๊ตัวประกอบประจำคณะลิเกที่วันๆ คอยเป็นลูกมือ วิ่งซื้อกับข้าว ซักผ้า ล้างจานให้กับชาวคณะทุกคน แถมยังถูกกลั่นแกล้งสารพัด หรือชาตินี้กล้วยจะเป็นได้แค่โนบอดี้…คนดีที่ไม่มีใครรัก โนทั้งมันนี โนการ์ด โนคาร์ โนๆๆๆ สารพัดโนเท่านี้เองเหรอเนี่ย แต่อย่างน้อยก็มีอยู่สิ่งหนึ่งที่กล้วยรู้ว่าไม่เคยโน นั่นคือหัวใจน้อยๆ ทั้งสี่ห้องของกล้วยที่อัดแน่นไปด้วยความรักที่มีต่อ “ฟ้า” (ตั๊ก บงกช) ซูเปอร์สตาร์ดาราสาวชื่อดังขวัญใจหนุ่มๆ ทั้งประเทศ สาวในฝัน หญิงเดียวในดวงใจของกล้วย ถึงแม้ว่าในความเป็นจริง ความสัมพันธ์ของกล้วยกับฟ้าจะเป็นได้แค่หมากับปลากระป๋องก็ตาม อย่าว่าแต่กินเลย จะเปิดก็ยังทำไม่ได้ อย่างเก่งก็ได้แต่มอง แถมความรักของกล้วยครั้งนี้ยังมี “โอ๊ต พานทองหยอด” (ย้ง ธนากร) นักธุรกิจหนุ่มลูกชายนักการเมืองชื่อดังเป็นคู่แข่งคนสำคัญอีกต่างหาก แต่ถึงอย่างไรกล้วยก็จะขอฟันฝ่าอุปสรรคพิสูจน์รักแท้ที่มีต่อคุณฟ้าให้จงได้ แล้ววันหนึ่งความดีของกล้วยก็ลอยไปเข้าหู เห็นเต็มสองลูกตาของ “เทวดาหน้าโก๊ะ” (โก๊ะตี๋) เทวดามือใหม่ป้ายแดงที่ใจป้ำสุดฤทธิ์มอบอภิสิทธิ์ให้พรวิเศษตามใจปรารถนาให้กับกล้วยคนดี ย้ำให้กับกล้วยเพียงคนเดียวเท่านั้น แต่แล้วพรอันประเสริฐกลับไม่ได้เป็นไปตามประสงค์ทั้งหมด เมื่อเทวดาโก๊ะจัดพรเสกสรรปั้นแต่งให้กล้วยเป็นตั้งแต่มาเฟียตัวร้ายไปจนถึงตาแก่ใกล้ตาย แล้วอย่างนี้พรข้อไหนจะช่วยพิชิตใจสาวฟ้าได้ล่ะ…

คู่ก๊วน ป่วนเมษา (2551/2008) มิตร (สันติ วีระบุญชัย) ผู้จัดการโรงแรมหนุ่ม ได้รับมอบหมายจากพ่อของ ฟ้า (พิมพ์นิภา จิตตธีรโรจน์) แฟนสาวให้ดูแลโรงแรมที่เชียงใหม่ ซึ่งเป็นธุรกิจของครอบครัวฟ้า โดยที่ฟ้าดูแลโรงแรมที่กระบี่ จึงทำให้ทั้งสองต้องแยกกัน มาวันหนึ่งฟ้าได้โทรมาบอกให้มิตรกลับบ้านที่กระบี่ในวันสงกรานต์นี้ เพราะเธอกำลังจะแต่งงาน มิตรจึงต้องเปลี่ยนกำหนดการทั้งหมดแล้วตัดสินใจเดินทางกลับอย่างเร่งด่วน แต่เนื่องจากรถของเขาเกิดอุบัติเหตุ จึงต้องหารถรับจ้างไปเองให้ได้ แล้วเขาก็ได้มาพบกับ บังเอิญ (โก๊ะตี๋ อารามบอย) เจ้าของรถตู้ สภาพโกโรโกโส 2 วันดี 4วันซ่อม แต่มิตรไม่มีทางเลือก จึงต้องจ้างแถมโดน บังเอิญขูดเงินค่าจ้างราคาแพง แต่ก็ต้องจำยอมเดินทางไปเพราะหารถไม่ได้แล้ว ระหว่างทางพวกเขาได้รู้จักกับ พิม (อิม อชิตะ)ซึ่งเป็นลูกสาวเจ้าพ่อ ขอติดรถไป ลงที่กรุงเทพด้วย ซึ่งพิมเองก็เข้ามาสร้างเรื่องวุ่นวายให้กับการเดินทางครั้งนี้เพิ่มขึ้นไปอีก การเดินทางจากเชียงใหม่ไปกระบี่ แสนจะยากลำบากทุลักทุเล มิตรและบังเอิญ ได้เจอกับปัญหามากมาย ทำให้ทั้งคู่เกิดความสนิทสนมกันและกลายเป็นคู่ก๊วน ที่จะป่วนในเทศกาลสงกรานต์
อรหันต์ ซัมเมอร์ (2551/2008) เมื่อเด็ก ๆ ทวีความซ่าซน จนชนประสานกับความร้อนระอุในปี 2526 เหล่าบรรดาผู้ปกครองต่าง ๆ จึงมีความคิดเห็นตรงกัน ที่จะหาหนทางกำราบลูก ๆ ของตนเองให้ได้และวิธีที่ดีที่สุดที่ทุกคนเห็นพ้องต้องกันคือ บวช แม้ว่าเด็ก ๆ จะมีความซนจนลิงยังเรียกพี่ แต่ประสบการณ์เรื่องของการโกนหัว ห่มจีวร นอนวัด ถือว่ายังอ่อนเป็นลูกเจี๊ยบ การบวชเรียนภาคฤดูร้อน จึงเป็นจินตนาการแห่งความมันรอบใหม่ของเด็ก ๆ หลังถูกผู้ปกครองใช้อุบายหลอกให้บวชจนสำเร็จ และแล้วการพบกันของเหล่ามารตัวจิ๋วจึงเริ่มขึ้น ข้าวปั้น (ปดลเดช กมลาศัยกุล) เด็กบ้านรวยที่หายใจเข้าออกด้วย การ์ตูนอิกคิวซัง นะโม เด็กที่งงกับชีวิต ถูกลิขิตให้มีน้ำตาเป็นเพื่อน ขุนทอง (กฤษกร ทรัพย์สงวน) เด็กบ้าพลังที่จินตนาการล้ำกว่าความกล้า บู๊ (ไชยธวัช คงมีสุข) เด็กลูกค่ายมวยฉายา เย็นชาต่อสรรพสิ่ง น้ำซุป เด็กลูกเถ้าแก่โคตรเขี้ยว พิมพ์เดียวกับพ่อไร้ตำหนิ แม้การบวชเรียนภาคฤดูร้อนจะเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ ที่ข้าวปั้น, นะโม, ขุนทอง, บู๊ และน้ำซุปแก๊งค์เด็ก ๆ สุดแสบ ซ่า ซน ได้ใช้ชีวิตด้วยกัน แต่สำหรับพระพี่เลี้ยงมือใหม่อย่าง หลวงพี่ใบบุญแล้วเหมือนเป็นห้วงเวลาแห่งการตกนรกโลกันต์ที่แสนยาวนานก็มิปราณ ไหนจะต้องอบรมสั่งสอนธรรมวินัยแก่บรรดาเณรต่าง ๆ แล้ว ยังต้องสู้รบปรบมือกับเหล่าเณรเหลือขอในอีกด้านก็ต้องต่อสู้กับจิตใจของตัวเองในทุกครั้งที่ต้องเผชิญหน้ากับ น้ำใส (อดีตคนรัก) สาวน้อยหน้าใส ชอบทำบุญกุศลที่มีทุกอย่างตรงกันข้ามกับผู้เป็นพ่อ (เฮียกอ) เถ้าแก่เจ้าของร้านขายสังฆภัณฑ์ผู้มีจิตใจเยี่ยงมหาสมุทรสุดเค็มเต็มเปี่ยมไป ด้วยความจองหองพองขนคิดว่าตนฉลาดล้ำเกินใครในการทายปริศนาผะหมีแต่ท้ายสุดกับพบว่าความฉลาดของตนยังห่างจากเจ้าอาวาสพระอาจารย์สุขี ซึ่งเป็นหลวงพี่แท้ ๆ อยู่อีกหลายขุม... แต่เมื่อวันเวลานั้นผ่านไปหลายสิ่งหลายอย่างได้ผ่านเข้ามาในชีวิตของพวกเขาวีรกรรมบางอย่างในการบวชเรียนครั้งนั้นดูจะเลือนรางไปตามกาลเวลาบ้าง แต่สำหรับใครบางคนเรื่องราวแห่งมิตรภาพในช่วงเวลานั้นคือจุดเริ่มต้นของเส้นทางชีวิตที่เขายังคงดำเนินอยู่ วันหนึ่งใน 25 ปี ต่อมา ณ สนามบินสุวรรณภูมิ ข้าวปั้นและนะโม เพื่อนร่วมกุฏิในวัยเยาว์เดินทางมาพบกันโดยบังเอิญ ทั้งสองมีเป้าหมายเหมือนกันคือ ไปต่างประเทศ แต่ต่างกันที่ คนหนึ่งเป็นพระ (นะโม) กำลังเดินตามความฝัน ที่มีจุดหมายปลายทาง ไปแสวงธรรม ณ ชมพูทวีป แต่อีกคนเป็นฆราวาส (ข้าวปั้น) กำลังจะเดินทางออกนอกประเทศอย่างไร้จุดหมายปลายทาง เพื่อหนีปัญหาชีวิต แม้บางช่วงเวลาของชีวิตที่พวกเขาลิขิตได้ผิดเพี้ยนไปบ้าง แต่เมื่อภาพอดีตครั้งบวชเรียนในวัยเยาว์ได้หวนกลับมา วีรกรรมสุดแสบ ซ่า ซน กลับมาตกผลึกอีกครั้ง
เพื่อนกัน เฉพาะวันพระ (2551/2008) เมื่อ ไตรรงค์ (ธนา สุทธิกมล) อาจารย์หนุ่มผู้กลัวผีที่สุดในโลก กลับกลายมาเป็นคนที่มีความสามารถพิเศษในการมองเห็นวิญญาณ โดยเฉพาะวิญญาณจอมกวน 2 ตน ฟุ้ง (คชาภา ตันเจริญ) และ เปี๊ยก (เชาวลิต ศรีมั่นคงธรรม) ที่ชอบแกล้งคนเป็นชีวิตจิตใจ แต่ก็กลัวคนเห็นร่างผีของพวกเขาและกลัวการไปผุดไปเกิดจับใจ และเมื่อคน 1 คนที่กลัวผีจับใจอย่างอาจารย์หนุ่ม ไตรรงค์ ต้องมาร่วมมือกับผีจอมกวน 2 ตน เปี๊ยก และ ฟุ้ง เพื่อช่วยเหลือ ลัดดา ผีสาวที่วนเวียนอยู่ในวิทยาลัยช่างศิลป์ผู้กำลังตามหาวิญญาณ ของ ดนัย แฟนหนุ่มที่เธอคิดว่าสิงอยู่ในภาพวาดสีน้ำมันซึ่งเป็นฝีมือการวาดของเธอ ทั้งผีทั้งคน จึงต้องร่วมมือกันตามหาแกะรอย จากข้อมูลเพียงน้อยนิดที่ได้จากวิญญาณสาว แล้วพวกเขาจะทำสำเร็จหรือไม่ พวกเขาจะต้องเจอกับอุปสรรคต่างๆ อีกหรือเปล่า คงต้องคอยติดตามกันต่อไป
ดรีมทีม (2551/2008) โค้ชทีมฟุตบอล กีฬาสุดเท่ห์อยู่แท้ ๆ โค้ชเบิร์ด (เกียรติ กิจเจริญ) กลับถูก ครูหนูเล็ก (ศกลรัตน์ วรอุไร) ชักชวนแกมบังคับ ให้ช่วยมาเป็นโค้ชชักเย่อเด็กอนุบาล ลงแข่งกีฬาอนุบาลแห่งชาติ ครั้งที่ 18 "หัวแก้ว" (กฤษฎา ชนะภัยเจริญสุข) รวมเพื่อน ๆ ตั้งทีมดรีมทีม เพื่อแข่งชักเย่อ คุณพ่อของหัวแก้ว (อัมรินทร์ นิติพน) คุณพ่อรุ่นใหม่ งานต้องทำ แต่อยากให้ลูกชายแข็งแรง จึงผลักดันให้เล่นกีฬาเต็มที่ "เป๊ะ" (ธนทัต ขวัญไสวธรรม) กับคุณแม่ยุคใหม่ (ภัทรวรินทร์ ทิมกุล) ทำงานเลี้ยงลูกลำพัง แม่ไม่ค่อยมีเวลาให้กับเป๊ะมากนัก ความหวังของเป๊ะคือ อยากให้แม่มาดูตัวเองแข่งชักเย่อ "เซน 1" (สรรภวัต สุระเกรียงศักดิ์) ร่างตุ้ยนุ้ย หน้าตาน่าหยิก มีหม่าม้า (เนาวรัตน์ ยุกตะนันท์) ผลักดันสุดฤทธิ์ ให้เซน 1 เป็นหัวหน้าทีม จ้ำม่ำแรงดีแบบนี้ ทำไม๊ ทำไม ไม่ได้เป็นหัวหน้าทีม ส่วน เซน 2 (ธนกร เมธาวุฒิกีรติ) คุณพ่อเป็นด็อกเตอร์ความรู้เยอะ (คมสัน นันทจิต) นักวิทยาศาสตร์ไอคิวสูง พกเอาความเป็นเลิศทุกด้านมาให้ เซน 2 ไม่เว้นแม้กระทั่งแข่งชักเย่อ ก็ห้ามแพ้ ภูมิ (ภูริ สรีระศาสตร์) รูปร่างผอมบาง หน้าตาดูขี้โรค ลูกของคู่ผัวเมียพูดมาก (ศรีพรรณ บุนนาค และ ธรธร สิริพันธ์วราภรณ์) ภูมิเป็นเด็กหัวอ่อน ว่าง่าย ใครบอกให้เป็นอะไรก็เป็น แม่บอกเป็นอีสุกอีใส ภูมิก็เป็น แต่พอเพื่อนบอกเป็นเอดส์ ภูมิก็ว่า ภูมิเป็น! "อะตอม" (ธนพล บุญเจริญสุข) หล่อใสหัวหยิก เรี่ยวแรงดี แต่ตื่นเต้นเป็นไม่ได้ ขี้แตกทุกที คุณพ่อของอะตอม (เอกราช เก่งทุกทาง) ต้องเตรียมกางเกงไว้ให้เปลี่ยนเสมอ เสียอย่างเดียว มักเป็นกางเกงสีแดง สะดุดตาตัวเก่ง แก๊งส์ดรีมทีม กองหลังร่วมด้วยหัวหน้าทีม ริชชี่ (ศุภโชติ รัชวรพงศ์) เจ็ส (เจษฎาพร บุญสอน) จุ้ย (พชธกร ธนพัฒนากุล) และสตางค์ (อัจฉริยะ อุปการดี) แต่แล้วเส้นบาง ๆ คั่นระหว่าง ฮีโร่ กับ ตัวสำรอง เกิดขึ้น เพราะกติกาแข่งขันกำหนดนักกีฬาไว้เพียง 9 คน หมายถึง 1 ใน 10 ของ ดรีมทีม ต้องนั่งเก้าอี้สำรอง! พ่อแม่ของเด็ก ๆ ต่างก็ลุ้นสุดโก่ง โค้ชเบิร์ด จะตัดสินใจอย่างไร?? ครูหนูเล็ก จะตอบคำถามเหล่าผู้ปกครองอย่างไร? ทั้งโค้ช ครู พ่อแม่ กองเชียร์ฝากคาดหวังกันซะเต็มเหนี่ยว เชียร์กันเต็มสตรีม ไว้กับ 2แขนเล็ก ๆ ของ ดรีมทีม อายุ 5 ขวบเนี้ยนะ! ใคร (ฟ่ะ) ว่ากีฬามีแพ้ มีชนะ

หน้าที่