วาไรตี้ ผีฉลุย (2548/2005) “ต้อม เป็นเลิศ” ผู้มีความฝันที่จะเป็นผู้กำกับหนังใหญ่ฉายโรงใหญ่ๆ เหมือนกับอีกหลายๆ ต้อมที่ได้เป็นกันไปแล้ว แต่ความฝันก็คือความฝันที่เป็นได้เพียงแค่ความฝัน ถึงแม้ต้อมจะไม่ได้เป็นอย่างในฝัน แต่ในโลกแห่งความจริง ต้อมก็ยังโชคดีที่มีเพื่อน “ติ๊ก, ดู๋, แป่ว, เน็ก และ น้องลูกหมี” เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ร่วมโลกที่เขารู้จัก ทำให้เขาได้เรียนรู้ที่จะยอมรับความจริงที่ยังไงก็ไม่สวยงามเหมือนความฝันอยู่แล้ว เขาจึงกลับมามีความสุขและสนุกกับโลกแห่งความจริงได้อีกครั้ง “ต้อม เป็นเลิศ” (หม่ำ จ๊กม๊ก-เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา) เป็นผู้กำกับหนังสั้นระดับมือรางวัลหลายสถาบันรับรอง แต่เมื่อเขาคิดจะขยับมาลองกำกับหนังใหญ่และยาวกว่าเดิมในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำจึงไม่ใช่ของง่าย เพราะลำพังแค่จะกินให้ครบ 3 มื้อก็ยังยาก แถมที่เป็นปัญหาใหญ่สุดอีกอย่างของต้อมคือเขาเป็นคนที่เกลียดและกลัว “ผี” มากๆ ในขณะที่ตลาดทั่วโลกเวลานี้เป็นเวลาที่หนังผีกำลังบูมสุดๆ เส้นทางชีวิตของต้อมจึงสวนทางกับความสำเร็จอย่างช่วยไม่ได้ “ดู๋-ปัญญา นิรันดร์กาล” (เจี๊ยบ-วัชระ ปานเอี่ยม) โปรดิวเซอร์รายการทีวีวาไรตี้ เจ้าของบริษัท “Work 100” ที่กำลังเข้าตาจนสุดๆ เพราะเมื่อรายการ “Ghost Variety คน ค้น ผี” รายการแรกในรอบ 10 ปีของเขาผ่านการอนุมัติจากช่อง ทีมงานคู่บุญทั้งหมดของดู๋ดีใจมากฉลองกันจนสว่างที่ภูเก็ต เลยโดนคลื่นสึนามิกวาดลงทะเลไปหมด ดู๋จำเป็นต้องหาทีมงานใหม่มาแทนอย่างเร่งด่วนชนิดชั่วโมงเดียวได้ และต้องมีคุณสมบัติพิเศษคือ ไม่เรียกร้องผลประโยชน์ใดๆ ที่พึงมีพึงได้ นอกจากที่กินที่นอนและความเป็นเพื่อนเท่านั้นที่ดู๋ยังมีเหลืออยู่ “ติ๊ก เดอะสตาร์” (ติ๊ก กลิ่นสี-ชาญณรงค์ ขันทีท้าว) เพื่อนซี้หารสองค่าเช่าห้องเดียวกันกับต้อม มีอาชีพเป็นตัวประกอบอดทนและทนอดให้กับการแสดงทุกชนิดในประเทศไทย ติ๊ก เดอะสตาร์คือไข่มุกเนื้องามที่รอวันเจียรไน ติ๊กหวังว่าจะมีผู้กำกับตาถึงและใจถึงมาค้นพบไม่วันใดก็วันหนึ่ง และเมื่อวันที่ต้อมและดู๋มาทาบทามให้ไปเป็นพิธีกรภาคสนามรายการ “Ghost Variety คน ค้น ผี” จึงเป็นโอกาสดีที่ติ๊กไม่ยอมปล่อยให้หลุดลอยเป็นเด็ดขาด “น้องแป่ว” (เมย์-พิชญ์นาฏ สาขากร) นักศึกษาเพิ่งจบสดๆ ชิลล์ๆ เธอเป็นหลานคนเดียวของดู๋เจ้าของบริษัท Work 100 ซึ่งกำลังขาดทีมงานพอดี น้องแป่วจึงโชคดีไม่ต้องตกงานเหมือนเพื่อนๆ อีกหลายคน เธอเหมาโหลเป็นทั้งเลขา ผู้ช่วย ผู้จัดการกอง และอีกหลายๆ ตำแหน่งที่ว่างอยู่พร้อมๆ กันทีเดียวเลย ถึงแม้ว่าเธออาจจะยังน้อยประสบการณ์ แต่หากขาดเธอผู้ซึ่งมีคติประจำใจว่า “กลัวอดมากกว่ากลัวผี” รายการ “Ghost Variety คน ค้น ผี” อาจจะ Stop ตั้งแต่ยังไม่ Start ก็เป็นได้ “Supernext” (ตั๊ก-บริบูรณ์ จันทร์เรือง) ศิลปินใหม่แกะกล่องของค่ายเฮียกู๋ยักษ์ใหญ่วงการเพลง อนาคตจึงต้องได้เป็นนักร้องดาวรุ่งขวัญใจวัยโจ๋คนล่าสุดอย่างไม่มีข้อสงสัย โดยเฉพาะกับอัลบั้มชุด“ไม่กลัวผี” Supernextจึงต้องมาเป็นพิธีกรรับเชิญภาคสนามคู่กับ “ติ๊ก เดอะสตาร์” เพราะคอนเซปต์ของเพลงแมตช์กับรายการ “Ghost Variety คน ค้น ผี” มั้กๆ เมื่อหลังชนฝาหมาจนตรอกด้วยกันทุกคน การช่วยเหลือซึ่งกันและกันระหว่างเพื่อนครั้งนี้จึงไม่ต่างจากการช่วยตัวเอง (Self Service) กฎเกณฑ์นี้ส่วนใหญ่จะมีใช้กันเฉพาะร้านอาหารฟาส์ตฟูดจากตะวันตก แต่ปัจจุบันนี้ก็แพร่หลายได้รับการยอมรับไปแล้วทั่วโลก จึงเป็นเรื่องอินเทรนด์ไม่ถือว่าผิดกติกาแต่อย่างไร “น้องลูกหมี” (แจ็ค แฟนฉัน-เฉลิมพล ทิฆัมพรธีรวงศ์) ยินดีเสิร์ฟน้ำทุกที่ที่มีนักร้องหรือดาราขวัญใจวัยกรี๊ด ค่าแรงรายวันไม่สำคัญสำหรับเธอ ขอเพียงไห้มีโอกาสได้ใกล้ชิดศิลปินคนโปรดแถมได้ลายเซ็นมานอนกอดก็ถือเป็นความสุขที่สุดของชีวิตเด็กเสิร์ฟน้ำอย่างเธอแล้ว ทุกคนต่างเพศ ต่างวัย ต่างความคิดกัน แต่มีอย่างเดียวที่เหมือนกันคือ “กลัวผี” วันนี้พวกเขาและเธอจะต้องรวมกันเป็นหนึ่งเดียวเพื่อรับมือกับผีและต่อยอดความฝันของแต่ละคนกับรายการ “Ghost Variety คน ค้น ผี” วัดไหน ตึกไหน บ้านไหน ซอกไหน ซอยไหน มีข่าวว่าเฮี้ยน ลือกันว่าผีดุ พวกเขาจะเสี่ยงตายเอาชีวิตเข้าแลก บุกไปค้นไปถ่ายไปตามล่าหาผีตัวเป็นๆ มา On Air ให้ผู้ชมได้เสียวได้เกร็งกันถึงห้องนอน เมื่อรายการทีวี “Ghost Variety คน ค้น ผี” ได้ออนแอร์ก็ประสบความสำเร็จมีเรตติ้งสูงสุด พร้อมกับได้รับรางวัลต่างๆ จากภาครัฐทุกองค์กรทั้งที่เกี่ยวข้องและไม่เกี่ยวข้องมากมาย ผลงานมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก บวกกับได้รับความร่วมมือและช่วยเหลือจากโปรดิวเซอร์ใหญ่และเพื่อนๆ ต้อมจึงได้เป็นผู้กำกับหนังยาวและใหญ่สมความตั้งใจในที่สุด
In the Name Of the Tiger เสือภูเขา (2548/2005) บนยอดเขาสูง มีรูปสลักหัวเสือขนาดใหญ่ ตั้งตระหง่านครอบคลุมศาลเจ้าพ่อเสือดำ ซึ่งมีอายุมากกว่า 100 ปี เสมือนเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของผู้คนในเมืองหลัก ศูนย์กลางแห่งหุบเขาปกครองโดย 2 ผู้มีอิทธิพล คือ นายหัวจเย และ ท้าวไลข่าน ซึ่งแก่งแย่งต้องการ เป็นใหญ่เพียงหนึ่งเดียว ขณะที่ 2 ฝ่ายยกพวกปะทะกัน จู่ๆภูเขาที่รายล้อมเมืองได้ถล่มลงมา เมื่อภูเขาสงบลง นายหัวจเยได้พาร่างกายสะบักสะบอมไปไหว้ ศาลเจ้าพ่อเสือดำ เพื่อขอบคุณที่ช่วยให้รอดตาย ทันใดนั้นได้ปรากฏร่างชายคนหนึ่งชื่อ เล่าทง ซึ่งอยู่สภาพหิวโซ เข้ามากินของเซ่นไหว้ นายหัวจเยสั่งให้ลูกน้องจัดการ แต่กลายเป็นว่าถูกเล่าทงเล่นงานกลับอย่างรวดเร็ว ด่างลี ชายตัวสั้นจอมกะล่อน ผู้มีหน้าที่เฝ้าศาลจึงได้อุปโลกว่า เล่าทง คือ คนที่เจ้าพ่อเสือดำส่งมาช่วยนายหัวจเยตามคำขอ เพราะท่าทางของเล่าทงที่นั่งคร่อมบนหัวเสือ ไปสอดคล้องกับภาพวาดโบราณในผนังถ้ำ เล่าทง ยอมเข้าไปพวกนายหัวจเยเพื่อแลกกับทองคำ ขณะเดียวกันก็แอบรับทองจากพวกไลข่าน โดยยอมเข้าเป็นพวกเช่นเดียวกัน แผนการดำเนินไปอย่างราบรื่น จนกระทั่งเล่าทงได้พบกับ ไหมท้อ สาวกะเหรี่ยงคอยาว ซึ่งถูกพวกของท้าวไลข่านรังแก อีกทั้งยังมี แฝดนรก ยอดฝีมือจอมโหด และ 7 เทพบุตรแดนใต้ ผู้มีใบหน้าราวกับผี กำลังเดินทางมา กำจัดเล่าทง ด้วยเช่นกัน ภารกิจของเล่าทงเพื่อ ช่วยเหลือชนเผ่าคอยาว ไม่ให้ล่มสลายจากการถูกล้างเผ่าพันธุ์ กับการเอาตัวรอดจากเงื้อมมือของ แฝดนรก และ 7 เทพบุตรแดนใต้ จึงเริ่มต้น
Ahingsa Stop to Run อหิงสา จิ๊กโก๋ มีกรรม (2548/2005) อหิงสา (บริวัตร อยู่โต) จิ๊กโก๋เดินดินนายหนึ่ง เกิดมาในยุคสมัยที่โลกหมุนเร็วรี่ด้วยไฮ-สปีดอินเตอร์เน็ต สื่อมวลชนกำลังแตกตื่นกับผลเสียของการตัดต่อพันธุกรรม สมัยเด็กอหิงสาเคยป่วยหนัก หมอโรงพยาบาลรักษาไม่ได้ พ่อแม่เลยพาอหิงสาไปรักษาด้วยพิธีเหยียบเสน ศาสตร์ลี้ลับที่ไม่มีคำอธิบายทางวิทยาศาสตร์ โตเป็นหนุ่ม อหิงสาใช้ชีวิตสุดขั้วอยู่ในหมู่เพื่อนเพี้ยนๆ อย่าง อุโฆษ (ปริญญา งามวงศ์วาน) และ ไอน์สไตน์ (จอนนี่ อันวา) อหิงสาโดนรังควาญไม่หยุดหย่อน จาก "ไอ้เวรกรรม" (ธีรดนัย สุวรรณหอม) ไอ้บ้ามาจากไหนไม่รู้ แค่เห็นหน้ามันก็ปวดประสาท บ้าสีแดง หัวจรดเท้ามีแต่สีแดง รองเท้าแดง เสื้อแดง หัวแดง มันคอยโผล่มาว่าแดกดัน ประชดกวนบาทาก็เท่านั้น ยียวนกวนประสาทไม่เลิกรา พอถามกลับว่า "มึงเป็นใคร?" ดันตอบว่า เป็นไอ้เวรจริงๆ แล้วไอ้เวรหัวแดงนี้ อหิงสาสู้กับ ไม่มีวันชนะ มือหนัก ตีนยิ่งหนัก บทลงไม้ลงมือก็เล่นแรงๆ เล่นของหนัก ไม้หน้าสามงี้ ขับรถบี้งี้ กระทืบเอากันถึงตาย ไม่ว่าอหิงสาจะควบหนีสุดฝีเท้าขนาดไหน "ไอ้เวร" นี่ ก็ยังกวดไล่มาติดๆจ่อเข้ามาชนิดหายใจรดต้นคอได้ทุกที ราวกับฟ้าสร้างให้มันรู้ทันอหิงสาไปทุกย่างก้าว "พัทยา" (ธรัญญา สัตตบุศย์) คุณหมอคนสวย มีแฟนเป็นตำรวจ "มารุต" (กิรเดช เกตกินทะ) ชีวิตหญิงสาวพรั่งพร้อมดูดีอย่างพัทยา ไม่น่าจะมาข้องแวะกับจิ๊กโก๋อย่างอหิงสาได้ แต่ก็คล้ายมีบางอย่างถูกกำหนดไว้แล้ว อหิงสากำลังเจอกับอะไรกันแน่? เวรกรรม, ความรัก? หรือทั้งสองอย่าง? จริงอยู่... เวรกรรมของใครของมัน ต้องสู้กันเอาเองถึงจะสู้กับ ไม่เคยชนะ แต่งานนี้ต้องหันหน้าสู้เท่านั้น !
Dear Dakanda เพื่อนสนิท (2548/2005) คุณเคยแอบรัก "เพื่อน" มั้ย? กว่า 1500 กิโลเมตร จากทิวเขาและไอหมอกในจังหวัดเชียงใหม่ สู่ไอน้ำเค็มของหมู่เกาะพะงัน จังหวัด สุราษฏ์ธานี ความรักของ ไข่ย้อย หนุ่มนักศึกษาศิลปะ คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในเชียงใหม่ ที่เกิดขึ้นสองครั้งสองครากับ เพื่อนสองคน ที่เชียงใหม่ ไข่ย้อย คือ หนุ่มเมืองกรุงฯ จากโรงเรียนชายล้วนที่แสนขี้อาย เขาไม่กล้าคุยกับผู้หญิง พูดตะกุกตะกักทุกครั้งที่มีสาวๆ เข้ามาทัก เป็นเหตุให้ต้องคอยหลบเลี่ยงอยู่เสมอ จนกระทั่งหญิงสาวท่าทางสดใส กระฉับกระเฉงเกินมาตราฐานสาวเหนือทั่วไปเข้ามาสมัครเป็นเพื่อน เธอชื่อ ดากานดา ซึ่งสำหรับไข่ย้อย ช่างเป็นชื่อที่แปลก แต่มีเสน่ห์สมตัวเจ้าของเป็นที่สุด ไข่ย้อยแอบหลงรักดากานดา แต่ไม่เคยเอ่ยปาก ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ขยับเข้าใกล้มากที่สุดที่คำว่า เพื่อนสนิท เพราะดากานดามีคนที่เธอรักซึ่ง ไม่ใช่เขา ที่พะงัน ไข่ย้อย คือ หนุ่มศิลป์จากเชียงใหม่ ที่อุตส่าห์ดั้นด้นมาเป็นคนไข้ถึงสถานีอนามัยแห่งเดียวบนเกาะ ไข่ย้อย พลัดตกจากดาดฟ้าเรือขาหักจากการพยายามขึ้นไปเล่นบทพระเอกมิวสิกวิดีโอ ท่ามกลางคนแปลกถิ่นหน้าเข้ม พูดจาเร็วปรื๋อ ไข่ย้อยได้ พยาบาลสาวตาโต ยิ้มเก่งเป็นคนคอยดูแล เธอชื่อ นุ้ย ซึ่งสำหรับไข่ย้อย รอยไมตรีที่เธอจ่ายให้เขาบ่อยกว่าจ่ายยา ทำให้เขาสมัครเป็นคนไข้ไม่มีกำหนดหายอย่างเต็มใจ ไข่ย้อยรู้ว่านุ้ยมีใจให้เขา แต่เธอก็ไม่เคยเอ่ยปาก ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ขยับเข้าใกล้มากที่สุดที่คำว่า เพื่อนสนิท บางทีเธอคงรู้ว่า เขามีคนที่รักซึ่ง ไม่ใช่เธอ ความรักของคนสามคน เกิดขึ้น สองสถานที่ สองเวลา ความรักของคนคู่ใดจะก้าวพ้นคำว่า เพื่อนสนิท ความรักของไข่ย้อย จะจบลงที่ไหน ภูเขา หรือ ทะเล

แหยม ยโสธร (2548/2005) กลางทุ่งนาที่ร้อนเดือดพล่าน ของหมู่บ้านแห่งหนึ่งในจังหวัดยโสธร ทอง (ชัยพันธ์ นินกง) และ สร้อย (เยาวลักษณ์ ตุ้มบุญ) กำลังจีบกัน อย่างชนิดที่ว่าหวานจนน้ำตาลท่วมทุ่ง ในขณะที่ แหยม (หม่ำ จ๊กม๊ก) น้าชายสไตล์จิ้มลิ้มคนเดียวของทอง ถูก เจ้ย (เจเนต เขียว) สาวหน้าคมคล้ำ..คมขำ ทั้งตามตื้อตามจีบ หลงรักสุดหล่ออย่างแหยม ชนิดหัวปักหัวปำ ทำให้แหยมรำคาญเป็นที่ซู๊ดดด... ทั้งสี่เป็นอันรู้กันว่า เจ้ยหลงรักแหยมอย่างลงรากฝังลึก และพยายามทุกทาง ให้แหยมตอบรับน้ำใจอันนี้ แม้ว่าทองกับสร้อย จะช่วยลุ้นให้ทั้งคู่ลงเอยกันเสียที แต่แหยมก็ไม่เคยหันมาสนใจ และถึงแม้ว่าเรื่องราวความรักของทองและสร้อย กำลังไปกันได้ด้วยดี แต่ทั้งคู่ยังคงต้องหลบๆ ซ่อนๆ เนื่องจาก คุณนายดอกท้อ (แวว จ๊กม๊ก) คุณป้าสุดเฉิงวับระดับไฮโซของสร้อยนั้น จงเกลียดจงชังความจนของทองมากเหลือเกิน ทำให้คุณนายดอกท้อเข้าขัดขวางทั้งคู่ทุกวิถีทาง แยกความรักของพวกเขาไปไกลถึงเมืองบางกอก ฝ่ายสาว ๆ ต้องใช้ชีวิตอย่างทุกข์ทรมานใจ เพราะพิษแห่งความคิดถึงทองและแหยม จนกระทั่งวันหนึ่ง สร้อยได้รับคำสั่งจากคุณนายดอกท้อ ให้กลับไปยังบ้านนอกด่วน เนื่องจากได้จัดงานหมั้นอย่างใหญ่โตให้กับสร้อย และพ่อยอดชายลูกชายกำนัน ที่แสนจะมั่งคั่งหล่อเข้มขึ้นอย่างกะทันหัน ความรักระหว่างสร้อยและทอง จะสมหวังหรือไม่นั้น... แหยมและเจ้ยจะร่วมหอลงโรงกันได้หรือเปล่า ? เรื่องราวของคู่รักของคน 2 คู่ ซึ่งคู่นึงคือ คู่ทองกับสร้อย ส่วนอีกคู่หนึ่งก็คือ เจ้ยกับแหยม จะเป็นคู่ที่ไม่ค่อยลงรอยกันเท่าที่ควร จะเป็นไม้เบื่อไม้เมากัน เพราะแหยมรู้สึกว่าตัวเองนั้นหล่อ แล้วแหยมคิดว่าเจ้ยเป็นคนขี้เหร่มาก แหยมจะเป็นน้าของทองคอยแนะนำ คอยเอาใจช่วยชี้แนะว่าควรทำอย่างนี้นะ แต่ตัวเองก็ไม่เคยมีเมียหรือมีแฟนกับเค้ากันหรอก ก็เกือบจะขึ้นคานอยู่เหมือนกันในเรื่องนะ พอดีว่ามีเจอกับเจ้ย เพราะเจ้ยเค้าเป็นพี่เลี้ยงสร้อย เจ้ยก็เจอแหยมบ่อยๆ เข้าเจ้ยเลยมาหลงรักเราหัวปักหัวปำ เจ้ยเป็นคนมุ่งมั่นในความรักที่มีให้กับแหยมมากเลยนะ ไม่ว่าแหยมเค้าจะว่ายังไงก็แล้วแต่ แหยมเค้าจะให้ร้ายป้ายสี กระแทกแดกดัน ประชดประชัน เค้าก็รักของเค้ามุ่งมั่นกับความรักของเค้ามาก แต่ความรักของทั้ง 2 คู่นี้ถูกกีดกันจากคุณนายดอกท้อ ป้าดอกท้อจะคอยขัดขวางทุกวิถีทาง ป้าดอกท้อเค้าไม่ชอบทองเพราะเค้าอยากให้สร้อยได้รักกับคนที่มีฐานะใกล้เคียงกัน คือทางบ้านของสร้อยและป้าดอกท้อรวยที่สุดในตำบล ออกเงินกู้อะไรพวกนี้ ป้าดอกท้อก็พยายามจะบอกหลายว่าอย่าไปรักกับมันเลยไอ้ทองน่ะ คนในหมู่บ้านชอบสร้อยก็เยอะแยะทำไมไม่ไปชอบเค้า แล้วความรักของทั้งสองคู่นี้จะเป็นอย่างไรต่อไป

วัยอลวน 4 : ตั้ม-โอ๋ รีเทิร์น (2548/2005) รุ่นเล็ก รุ่นใหญ่ รุ่นไหน ก็อลวน ปัจจุบัน ตั้ม (ไพโรจน์ สังวริบุตร) อดีตหนุ่มน้อยหน้าคม กับ โอ๋ (ลลนา สุลาวัลย์) สาวน้อยเจ้าแง่แสนงอน ยังรักกันแนบแน่นไม่เปลี่ยนแปลง แต่สิ่งที่เปลี่ยนไป คือวัยและน้ำหนักตัว ตั้มในวัยเฉียด 50 เป็นทนายหนุ่มใหญ่ ที่ลักยิ้มและเขี้ยวเสน่ห์ยังเขย่าหัวใจสาวๆ ได้เสมอ ส่วน โอ๋ กับรอบเอวที่เพิ่มพูนขึ้นหนึ่งเท่าตัว เป็นแม่บ้านที่น่ารัก อบอุ่น ของ ใบตอง (คะนึงนิจ จักรสมิทธานนท์) ลูกสาวที่กำลังเรียนอยู่ชั้นปี 4 มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในเชียงใหม่ กับ หนามเตย (วศิษฏ์ ผ่องโสภา) ลูกชาย ม. 6 ที่รักสวยรักงามจนน่าหวาดเสียว วันหยุดสุดสัปดาห์นี้ ตั้มและสมาชิกในครอบครัว พ่วงด้วย ป้าอ้อ (จิระวดี อิศรางกูร ณ อยุธยา) พี่สาวของโอ๋ ที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากับตั้มมานานปี วางแผนขับรถขึ้นไปเซอร์ไพร์สวันเกิดให้ใบตอง โดยที่ไม่รู้เลยว่า แม่ลูกสาวตัวน้อยของพ่อ มีแฟนเป็นไอ้หนุ่มวิจิตรศิลป์ผมยาวนามว่า วิชาญ (รังสิต ศิรนานนท์) อยู่ที่นั่น ซ้ำร้ายเจ้าหนามเตยลูกแม่ ก็ดันหมายเอาวาระรวมญาตินี้ เป็นวันเปิดเผยตัวตนเสียด้วย ตั้มยังแอบไปหา คุณนิด (พจนีย์ อินทรมานนท์) กิ๊กเก่าที่ไปเปิดร้านอาหารที่เชียงใหม่ แต่บอกโอ๋ว่า แวะไปหาแอ๊ด (จีรศักดิ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา) เพื่อนเก่าที่สอนหนังสืออยู่ที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เมื่อความแตก โอ๋ก็อาละวาดบ้านแตก เหมือนในหนังภาคก่อนๆ
มือปืนเก๋าเจ๋ง (2548/2005) ท่ามกลางบรรยากาศความวุ่นวายจากสถานการณ์นองเลือดระหว่างผู้มีอิทธิพล 3 กลุ่มในเมืองหลวง เรื่องราวเริ่มต้นที่สองหนุ่มเพิ่งพ้นโทษออกจากเรือนจำ "สง" นักฆ่ามือเก๋าตัวจริงเสียงจริงมาดดุดันเด็ดขาด ฆ่ามาแล้วเกือบร้อยศพ พ้นกำแพงคุกไม่ทันข้ามวันก็รับงานใหม่สุดหินหมายสังหาร "ป๋าปื๊ด" หนึ่งในผู้มีอิทธิพลคนดังของนครหลวง แต่ด้วยเหตุศัตรูเก่าตามมาล้างแค้นกระหน่ำสงซะเดี้ยงปางตายเลยต้องโยนภาระหนักอึ้งให้กับอีกหนุ่มที่พ้นโทษมาด้วยกัน "เคี๊ยบ" หนุ่มหน้โหดแต่ใจไม่เหี้ยมผู้ที่ใคร ๆ ต่างเข้าใจว่าเป็นคนดับ "เฮียเก๊า" ดาวดังของวงการเมื่อหลายปีก่อทั้งที่เรื่องจริงเป็นเหตุบังเอิญสุด ๆ เคี๊ยบจำต้องรับงานฆ่าเจ้าพ่อชื่อดังอย่างตกกระไดพลอยโจน เพราะต้องแบกภาระในการหาเงินค่าเทอมโคตรเแพงให้ลูกที่เรียนโรงเรียนนานาชาติ แล้วไหนจะค่ารักษาสงที่นอนเดี้ยงอยู่ในโรงพยาบาลเอกชนหน้าเลือดอีก โดยเคี๊ยบได้ "แปะยิ้ง" ไอ้ตี๋วัยโจ๋ที่ฝันอยากจะเป็นผู้กำกับหนังฮอลลีวูดในวันข้างหน้า แต่วันนี้ขอเริ่มเข้าวงการด้วยการผลิตหนังประเภทแอบถ่ายใต้สะดือ แถมยังหนักไปทางพูดมากกว่าลงมือทำได้จริงมาเป็นผู้ช่วย ปฏิบัติการ "เก๋า+เจ๋ง" จึงเริ่มต้นด้วยเงื่อนไขกำหนดเวลา 5 วัน ก่อนจะถึงเที่ยงคืนวันเพ็ญเดือน 12 อันเป็นฤกษ์ที่ถูกย้ำนักย้ำหนาจาก "อาจารย์คง" เกจิชื่อดังว่าเหมาะแก่การปาณาติบาตอย่างยิ่ง 5 วันจะชี้ชะตาว่าจะรอดหรือม้วย ทั้งหมดต้องทำทุกทางวางแผนทุกอย่างเพื่อฝ่าด่านสมุนหน้าเหี้ยมฝีมือโหดไปเก็บป๋าปื้ดให้ได้ งานนี้ถึงเคี๊ยบจะปอดแหกหัวจะหด ก็มีแต่ต้องใส่เกียร์เดินหน้าไม่มีถอยหลังถอดใจ เพื่อลูก เพื่อเมีย เพื่อเพื่อน เพราะฉะนั้น "มันไม่มอดก็เราม้วย"
พยัคฆ์ร้ายส่ายหน้า (2548/2005) หลังเกิดเหตุระเบิดถล่มกลางกรุง จนเป็นเหตุให้กระเทยหัวแห้วนางหนึ่ง ตายอนาถคาร้านทำผม ทางการได้สืบทราบข่าวมาว่าคนร้ายเตรียมระเบิดครั้งต่อไป ในอีก 3 วันข้างหน้า นายตำรวจหน่วยปฎิบัติการพิเศษ สุภาพ (รับบทโดย เทพ โพธิ์งาม), พิทักษ์ (รับบทโดย ค่อม ชวนชื่น) และ สันติ (รับบทโดย จิ้ม ชวนชื่น) ได้รับมอบหมายให้แฝงตัว เข้าไปในโรงพยาบาลบ้าแห่งหนึ่ง แล้วประทานโทษ... นางพยาบาลที่นี่สวยอย่าบอกใคร โดยเฉพาะคนที่ชื่อ เกวลิน (รับบทโดย ซาร่า มาลากุล เลน) ช่วงเวลาเดียวนั้น หมอผี (รับบทโดย หน่อย ชวนชื่น) นายหนึ่ง เดินทางตามหม้อแม่นาคมาจนถึงโรงพยาบาลแห่งนี้ เช่นเดียวกับชาวกระเหรี่ยงกลุ่มเอฟโฟว์ นำโดย จ่อมุข (รับบทโดย จตุรงค์ ม๊กจ๊ก) ก็วางแผนปล้นสถานที่ ..ที่ไม่มีใครคาดคิด การแฝงตัวเข้าในโรงพยาบาลบ้าของกลุ่มคนทั้งสาม ในรูปแบบต่างๆ จึงเกิดขึ้น เพื่อปฎิบัติภารกิจอันยิ่งใหญ่ (ซะเหลือเกิน) ของพวกตนให้สำเร็จลุล่วงภายในสามวัน ความชุลมุนของสามพยัคฆ์ร้ายจะคลี่คลายประการใด ใครจะได้หัวใจสาวสวยไปครอง? มือระเบิดปริศนาจะเปิดเผยตัวหรือไม่? เตรียมพบกับปฏิบัติการสะท้านความฮา ที่พยัคฆ์ร้ายต้องส่ายหน้า ชาวประชาต้องหงายหลัง!
มหา’ลัยเหมืองแร่ (2548/2005) ปี พ.ศ. 2492 โชคชะตาของเด็กหนุ่มคนหนึ่ง ได้นำพาให้เขาต้องเดินทางข้ามฟาก จากโลกศิวิไลซ์ในเมืองหลวง ไปสู่อีกโลกหนึ่งอันไกลแสนไกล อาจินต์ ปัญจพรรค์ ในวัย 22 ปี คือเด็กหนุ่มคนนั้น เขาถูกรีไทร์จากคณะวิศวะฯ ปี 2 ...นั่นเองเป็นจุดสิ้นสุด ของความเป็นนิสิตมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย แต่ในขณะเดียวกัน มันคือจุดเริ่มต้นของการเดินทางไปสู่การเรียนรู้ชีวิตจริง ที่ไม่สามารถเรียนรู้จากตำราเล่มไหน มันไม่ได้มีวางขายทั่วไปและหาซื้อได้ด้วยเงิน มันต้องแลกด้วยเวลาและหัวใจ ...สู้ - ท้อแท้, สนุก - เศร้า, พบ - จาก... อาจินต์ในเวลานั้น ขณะที่เขานั่งอยู่บนรถขนหมูที่วิ่งจากภูเก็ตไปพังงา ยังไม่รู้เลยว่าอนาคตจะเป็นเช่นไร ไม่รู้จักกระทั่งสถานที่ที่เขากำลังจะไป สำหรับเขา จ.พังงา อ.ตะกั่วทุ่ง ต.กระโสม เคยเป็นเพียงสถานที่อันไม่มีความสำคัญใดใด แม้เพียงจะจุดลงบนแผนที่ แต่ในวันนี้ มันกำลังจะกลายเป็นสถานดัดสันดาน ที่ถูกพ่อส่งให้ไปอยู่ อาจินต์มาถึงเหมืองกระโสม ที่นี่เขาได้พบและสัมภาษณ์งานกับ นายฝรั่ง (แอนโทนี โฮวาร์ด กูลด์) และนายฝรั่งก็รับเขาเข้าทำงาน ในตำแหน่งที่นายฝรั่งเรียกว่าเป็น 'สมุดพก' ให้กับแก นั่นหมายถึงการฝึกงาน การติดตามนายฝรั่ง และทำงานแทนคนงานที่ขาดงาน อาจินต์ภูมิใจกับงานที่ได้รับ และที่นี่ - วันนี้ - ชีวิตปี 1 ใน มหา'ลัย เหมืองแร่ ได้เริ่มขึ้นแล้ว... เขาจะทำอย่างไรจึงจะเป็นน้องใหม่ที่ดีของที่นี่ได้ เขาจะทำอย่างไรจึงผ่านชีวิตในสถาบันแห่งนี้ได้ เหมืองกระโสม ทิน เดรดยิง อาจจะเป็นเพียงมหา'ลัยที่เขาได้ความภูมิใจแทนปริญญา หาได้มีไว้เพื่อความโก้หรือโอ้อวดกับใครไม่ ผิดไหมที่เขาจะภูมิใจกับเกียรติยศ ..ที่เขาขุดมันขึ้นมาด้วยตนเอง
ก็เคยสัญญา (2548/2005) สาเหตุที่ความรักของคุณต้องเป็นแบบนี้ ก็มาจากชาติก่อน ๆ โน้น ที่คุณ เคยสัญญา สาบานกับใครไว้ มันถึงได้ตาม มาราวีคุณ ทุกชาติทุกชาติไป.. ..แม้แต่ชาตินี้ ก็ไม่เว้นหรอก.. นิกร" เรื่องราวแต่ชาติปางก่อน ของ นิกร (โอ - วรุฒ วรธรรม) กำลังถูกไล่เรียงขึ้นมา จากวิธีบำบัด ด้วยการสะกดจิต และแล้ว... "โอ๊ย.. ไม่ไหวละมั๊ง มีตั้งสิบหกสิบเจ็ดชาติ ยิ่งผ่านเข้ามา เนื้อคู่ของผมก็ยิ่งพิสดารไปเรื่อยๆ..." ดังนั้น นิกร จึงตัดสินใจ เลือกเพียง 4 ชาติ ที่เป็นหัวใจ ต้นเหตุแห่งคำสัญญา สาบาน มาให้เราๆ ท่านๆ ได้สัมผัส ณ บัดนี้..
7 ประจัญบาน 2 (2548/2005) ในช่วงระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อกองทัพญี่ปุ่นแพร่ขยายอำนาจและอิทธิพล ไปทั่วเอเชียอาคเนย์ ทำให้ทางการไทยมอบหมายงานชิ้นสำคัญผ่านมายัง ผู้กององอาจ (ประกาศิต โบสุวรรณ) ให้เหล่า 7 ประจัญบาน ปฏิบัติภารกิจลับ สำคัญระดับสุดยอดของประเทศ ตรวจสอบพฤติกรรมอันน่าสงสัยของ สุริยะ เอบาต้า (ฮิโระ ซะโนะ) ที่คาดว่าอาจจะเป็นสายลับของทางการญี่ปุ่น ที่มาในคราบของนักธุรกิจที่เดินทางเข้ามาในเมืองไทย แต่กลับกลายเป็นว่า ภารกิจดังกล่าวหาได้สำเร็จลุล่วงง่ายดายอย่างที่คิดไม่ เมื่อผู้นำของ 7 ประจัญบาน อย่าง จ่าดับ จำเปาะ (พงษ์พัฒน์ วชิระบรรจง) กลับพลาดพลั้งทำให้ ผู้พันทีเคดะ (โยโกสุกะ ชิโอยะ) พ่อของสุริยะเสียชีวิตโดยอุบัติเหตุ ทำให้เหล่า 7 ประจัญบานกลายเป็นบุคคลต้องห้าม ที่ นายพลนากามูระ (Masayuk Todoroki) ผู้นำทัพของญี่ปุ่นโกรธแค้น และยื่นคำขาดให้ทางการไทย ส่งตัวจ่าดับและพรรคพวกทั้ง 7 มาสำเร็จโทษประหารชีวิต เป็นเหตุให้ประจัญบานทั้ง 7 ต้องรับมือกับทั้งทางการไทย และเหล่าทหารญี่ปุ่น รวมทั้งกลุ่มมือสังหารที่ถูกส่งตรงมาจากดินแดนอาทิตย์อุทัย ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในนามของ 7 เซียนซามูไร จนต้องระหกระเหินไปร่วมกับกลุ่มพี่น้องไทยจีน ที่ร่วมกันต่อต้านญี่ปุ่น ซึ่งมีหน้าฉากคือคณะนักแสดงงิ้วที่มีชื่อเสียงของเตี่ยตังกวย เกิดเป็นจุดเริ่มต้นของการผจญภัยครั้งใหม่ของ 7 ประจัญบาน ที่ครั้งนี้ต้องทาหน้าขาวแต่งชุดงิ้ว รำพลองตะลุยกองทัพญี่ปุ่น เหินขึ้นฟ้าเผชิญหน้ากับกองบินกามิกาเซ่ของญี่ปุ่น ภายใต้ฉากไฮไลท์สุดอลังการ กับการเนรมิตสะพานข้ามแม่น้ำแควขึ้นมาอีกครั้ง ในฉากไคลแม็กซ์สำคัญ พร้อมทั้งเปิดเผยที่มา ของกางเกงแดงเชือกกล้วยอันลือลั่นของจ่าดับ รวมถึงเรื่องราวความรักครั้งก่อนของจ่าดับที่มีต่อ นางโฉม (อภิรดี ภวภูตานนท์) และตัวละครสุดคลาสสิก ที่เกิดมาแล้วย่อมไม่แคล้วที่อาจจะกลายเป็น 'คู่กรรม' ของกันอย่าง อังศุมาลย์ (มินท์ - อาทิตยา ดิถีเพ็ญ) และ โกโบต้า (ก้อง - อรรฆรัตน์ นิติพน)
ผมสมชายนะยะ (2548/2005) ก้าน เด็กสาวประเภทสองจากร้อยเอ็ดที่เติบโตมาจากครอบครัวมีฐานะ ความใฝ่ฝันของก้าน อยากจะเป็นเหมือน ฟ้า นางโชว์คาบาเรย์และมีตำแหน่งจากเวทีประกวดความงามระดับประเทศ เมื่อความใฝ่ฝันที่กลายเป็นความขัดแย้งระหว่างพ่อกับลูก ตั้งแต่ก้านถูกไล่ออกจากบ้านจึงมา อาศัยอยู่กับ พี่โหน่ง ในกรุงเทพมหานคร และได้เข้ามาทำงานเป็น COSTUME ที่คาบาเรย์โชว์ แห่งหนึ่ง เสมือนเป็นการเริ่มต้นที่ทำให้ความฝันเป็นจริงขึ้นมา แต่ฟ้ากลับไม่ยอมรับที่ก้านได้ก้าว ขึ้นตำแหน่งนางโชว์แสดงร่วมกัน นี่คือโอกาสพิสูจน์ครั้งแรกของชีวิตก้านในการโชว์ ความสามารถ โอกาสที่จะทำให้ทุกคนนั้นเปิดใจยอมรับดาวดวงใหม่ก้าวขึ้นสู่เวทีนางโชว์
นานาช่า (2548/2005) เด็กชายยอดหญ้า หรือ เชียงเป็นเด็กชาวเขากำพร้าที่ได้บาทหลวงโจเซฟดูแล แต่เขามักถูกกล่าวหาว่าเป็นตัวน้ำความโชคร้ายมาสู่หมู่บ้าน เขาจึงต้องถูกขับออกจากหมู่บ้านไปอยู่โรงเรียนนานาชาติ เขาได้มีโอกาสพบกับเพื่อนคนอื่นมากมาย เมื่อเซียงเข้ามาเรียนวันแรก เพื่อนๆมักมองว่าเขาเป็นคนแปลก เขาอาศัยอยู่กับตาหยอง ภารโรงของโรงเรียนและบูด เด็กผู้ชายอายุคราวเดียวกันที่มักพูดภาษาอีสานทั้งเรื่อง ด้วยความไร้เดียงสาและความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ทำให้โรงเรียนเกิดความปั่นป่วนหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นทำถ่อประปาแตกหรือชนต้นไม้ในสวนล้ม แต่นานเข้าเพื่อนๆก็ต่างเอ็นดูเซียงและคอยช่วยเหลือเสมอ เซียงได้มิตรภาพและความสนุกสนานจากโรงเรียนนานาชาติ แต่เขาก็ยังต้องประสบกับโชคร้าย นั่นคือ เขาได้เข้าไปพัวพันกับโจรเรียกค่าไถ่ที่แฝงตัวมาเป็นครูในโรงเรียน เขากับเพื่อนๆ จึงร่วมมือกันหาทางกำจัดโจรนั้น
บุปผาราตรี เฟส 2 (2548)
เรื่องย่อ : บุปผาราตรี เฟส 2 (2548/2005) ออสการ์อพาร์ทเมนต์ ขึ้นชื่อลือชาว่าเฮี้ยนนักเฮี้ยนหนา โดยเฉพาะห้อง 609 ที่เจ้าของอพาร์ทเมนต์ถึงกับปิดตายทั้งชั้น "รับประกันความเฮี้ยน" จะมีก็แต่แก๊งโจรมือใหม่หัดปล้น และ ทิพย์ สาวตาบอด ที่ไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวอะไรกับใครเขา ขอเปิดห้องพักหน้าตาเฉย แต่เมื่อคนอยู่ดีไม่ว่าดีดันไปยุ่มย่ามในที่ของผี เจ้าของห้อง 609 อย่าง บุปผา เลยระเบิดแรงอาฆาตตามคำขอ อพาร์ทเมนต์ผีสิงจึงได้อลหม่านฮาแตกอีกครั้ง!! คณะตลกตกอับ ตัดสินใจผันเปลี่ยนอาชีพมาเป็นโจรปล้นธนาคาร พวกเขาหอบเงินหลบหนีตำรวจไปกบดานอยู่ ณ อพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งโดยหารู้ไม่ว่ามันคืออพาร์ทเมนต์ผีสิง ระหว่างที่พวกโจรกำลังจะทำการแบ่งเงินกันนั้น พวกเขาพบว่าเงินก้อนนั้นได้หายไปอย่างลึกลับ... พวกโจรออกค้นหาทุกซอกทุกมุมในอพาร์เมนต์ เหลืออยู่แต่เพียงชั้น 6 ที่เจ้าของอพาร์ทเมนต์ปิดตายไว้ห้ามไม่ให้ใครเข้า โจรทั้งสี่ไม่ฟังคำเตือนออกค้นหาเงินในชั้น 6 จนได้พบว่าเงินซ่อนอยู่ในห้อง 609 แต่พวกเขาก็ไม่สามารถนำเงินออกจากห้องนั้นได้เพราะถูกผีเจ้าของห้องออกมาหลอกหลอน โจรทั้งสี่จึงต้องคิดหาวิธีเอาเงินออกจากห้อง 609 ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ แม้จะกลัวผีเพียงไรก็ตาม ขณะเดียวกัน ตำรวจก็เริ่มระแคะระคายแกะรอยโจรทั้งสี่มาถึงอพาร์ทเมนต์แล้ว
หลวงพี่เท่ง (2548/2005) หลวงพี่เท่ง พระหนุ่มเจ้าปัญญา ที่ย้ายมาจำวัดโทรม ๆ ในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ขณะที่ชาวบ้านเสื่อมศรัทธา ในศาสนาและหลงงมงายในความเชื่อทรงเจ้าเข้าผี ที่อาศรมของท่านเพิ่มเป็นที่พึ่งทางใจ และการขอฝนในฤดูที่แห้งแล้ง หลวงพี่เท่งจึงตั้งปณิธานกับใจตนที่จะพัฒนาจิตใจของชาวบ้าน ไปในทางที่ถูกต้อง โดยมีสองลูกศิษย์สุดเพี้ยนคอยช่วยเหลือ มัคฑายคส่ง ชายวัยกลางคนที่อยู่กับวัดมาตั้งแต่เด็ก แต่กลับกลัวผีขึ้นสมอง เจ้าเพี้ยนเด็กหนุ่มหน้าตาดี ท่าทางเพี้ยนหลงรักพะเนียงสาวเจ้าสุดหัวใจ มักแอบมองพะเนียงเวลาทรงเจ้าเป็นประจำ ถึงแม้ว่าทุกครั้งที่แอบมองพะเนียง เพี้ยนจะถูกทำร้ายกลับมาทุกที อาศรมของท่านเพิ่ม เป็นอาศรมที่เปิดขึ้นเพื่อเอาเงินโดยวิธีทรงเจ้า โดยให้พะเนียงลูกสาวคนสวย ทำหน้าที่เป็นคนเจ้าเข้าทรง พร้อมทั้งพี่หมึก ลูกน้องตัวแสบที่ร่วมขบวนการหลอกเงินชาวบ้าน เมื่อหลวงพี่เท่งเข้ามาสร้างความเชื่อที่ถูกต้อง ชาวบ้านเริ่มศรัทธา อาศรมรายได้ลดน้อยลง ท่านเพิ่มมีอคติและเป็นไม้เบื่อไม้เมากับหลวงพี่เท่ง จึงพยายามกำจัดหลวงพี่เท่ง โดยร่วมมือกับนักพัฒนาตุ๋ย ว่าที่ผู้สมัคร อบต. ชายสองหน้าใช้ท่านเพิ่มเป็นหัวคะแนนในการหาเสียง แลกกับความร่วมมือในการกำจัดหลวงพี่เท่ง โดยการปล่อยข่าว และส่งสมุนไปทำร้ายคนที่เชื่อพระมากกว่าเจ้าพ่อในอาศรม เหตุการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไป ติดตามได้ใน หลวงพี่เท่ง
มนต์รักลูกทุ่ง (2548/2005) บุญเย็น (เอกราช สุวรรณภูมิ) ชนะเลิศการประกวดร้องเพลงประจำปี ลุงชื่น (เทพ โพธิ์งาม), แว่น (ยิ่งยง ยอดบัวงาม) และ บุปผา (อาภาพร นครสวรรค์) ต่างพากันดีใจ บุญเย็นได้เข้าไปร้องเพลงในกรุงเทพ เขามาบอกลา คล้าว (นันทวัฒน์ อาศิรพจนกุล) และ ทองกวาว (ลักขณา วัธนวงส์ศิริ) ทั้งคู่ต่างดีใจกับบุญเย็น คล้าวรักอยู่กับทองกวาว แต่กลัวจะไม่สมหวังเพราะคล้าวจน ที่นาก็จำนองกับ จอม (กรุง ศรีวิไล) แต่ทองกวาวยืนยันในรักมั่น คล้าวสัญญาว่าถ้าขายข้าวได้จะไปหมั้นทองกวาว จอมมาทวงหนี้คล้าว คล้าวไม่มีให้ จอมจึงยึดที่นา ทองกวาวจึงเอาเงินที่มีอยู่มาให้คล้าวใช้หนี้ จอมโกรธที่ยึดที่นาของคล้าวไม่ได้ จึงไปต่อว่า ทองก้อน (ไพโรจน์ ใจสิงห์) และ ทับทิม (ดวงชีวัน โกมลเสน) พ่อแม่ของทองกวาว ทองก้อนและทับทิมจึงส่งทองกวาวไปอยู่กับ ป้าทองคำ (น้ำเงิน บุญหนัก) ที่กรุงเทพ โดยให้บุปผาและ หมึก (ตูมตาม เชิญยิ้ม) ไปดูแล ทองกวาวได้รู้จักกับ ธรรมรักษ์ (โอลิเวอร์ บีเวอร์) หลานของป้าทองคำ ซึ่งป้าทองคำหวังจะให้หลานทั้งคู่แต่งงานกัน เพื่อสมบัติจะได้ไม่ตกเป็นของคนอื่น คล้าวเศร้าโศกเสียใจที่น้ำท่วมทุ่งนาข้าวเสียหาย ได้บุญเย็น ลุงชื่น และพวกคอยปลอบ ลุงชื่นบอกบุญเย็นให้ตามหาทองกวาว บุญเย็นพบทองกวาวที่กรุงเทพและบอกเรื่องคล้าว ทองกวาวขอให้บุญเย็นบอกคล้าวให้ไปสู่ขอ ทองกวาวจะได้กลับบ้านซะที คล้าวดีใจไปยืมเงิน หมู่น้อย (เจี๊ยบ เชิญยิ้ม) ซื้อทองสองสลึงไปหมั้น พ่อแม่ทองกวาวไล่ส่ง เรียกค่าสินสอดสิบหมื่น ธรรมรักษ์เสียการพนัน หวังจะหลอกเอาเงินป้าจึงทำเป็นชอบทองกวาว โดยให้เพื่ออนชื่อ ธีระ (โจอี้ บาซู) หัวหน้าวงดนตรีมากันบุปผา ทั้งหมดเดินทางมาบ้านทองกวาว ด้วยความคิดถึงทองกวาวรีบมาหาคล้าว แต่พบอยู่กับ สายใจ (ไอริน จันยดา) ทำให้ทองกวาวเข้าใจผิด ทองกวาวจึงตกลงหมั้นกับธรรมรักษ์ ทองก้อนดีใจรีบไปป่าวประกาศว่า จะหมั้นลูกสาวด้วยเงินและทองมากมาย บุญเย็นพา ฤทัย (ทอฝัน จิตธาราทิต) เมียของธรรมรักษ์มาบ้านทองกวาว ธรรมรักษ์โกรธมาก บอกฤทัยเป็นนักร้องในวงธีระ ฤทัยแกล้งตีสนิทกับคล้าวเพื่อให้ธรรมรักษ์หึง เรื่องจึงแดงออกมา ป้าทองคำไล่ธรรมรักษ์และเมียกลับไป ข่าวการหมั้นของทองกวาวกับธรรมรักษ์ที่ทองก้อนประกาศไปเข้าหู เสือทุม (ฤทธิ์ ลือชา) เสือทุมจึงวางแผนปล้นแต่ไม่ได้อะไร จึงจับตัวทองกวาวและป้าทองคำไปเรียกค่าไถ่ คล้าวและตำรวจตามไปช่วยไว้ ป้าทองคำเป็นเถ้าแก่สู่ขอทองกวาวให้คล้าว ซึ่งพ่อทองก้อนและแม่ทับทิมไม่กล้าปฏิเสธ ทั้งคู่จึงแต่งงานกัน...

หน้าที่