เสือตุ๋ย ต๊ะติ๊งโหน่ง (2545/2002) ศรีนวลนักจัดรายการวิทยุได้ชักชวน ผู้ฟังรายการวิทยุของเขาไปร่วมถอดกฐินสามัคคีด้วยกัน เดินทางด้วยรถบัสคันใหญ่ มีแฟนร่วมทอดกฐินกันมากมาย แต่การเดินทางไปทอดกฐินครั้งนี้ กลุ่มมิจฉาชีพได้ฝากธนบัตรปลอม ไปกับรถที่ไปทอดกฐินด้วย โดยบอกให้คนขับรถมอบกล่องสองกล่องที่ฝากไป จะมีผู้หญิงที่ทัดดอกไม้สีแดง มารับ รถกฐินวิ่งมาได้ครึ่งทาง ก็ถูกพวกโจรของเสือตุ๋ยดักปล้นเอาต้นกฐินพร้อมกับกล่องเงินที่ฝากกับรถไป ศรีนวลจึงชวนพักพวกที่ใจสู้ ตามเสือตุ๋ยไปเพื่อหวังเอาต้นกฐินกับกล่องเงินคืน ส่วนนางโจรดอกไม้แดง คอยรถไม่ผ่านมาตามกำหนดเวลาเกิดความโกธรออกติดตาม เสือตุ๋ยได้พาต้นกฐินมาซ่อนไว้ในบ้านร้าง ศรีนวลและพวก ได้ตามมาพบ และหาอุบายแย่งต้นกฐินไปจากเสือตุ๋ยได้ ศรีนวลเมื่อได้ต้นกฐินแล้วก็กลับมารถบัสที่จอดคอยอยู่ ส่วนพรรคพวกที่คอยอยู่บนรถบัสก็ถูกโจรดอกไม้แดงจับเป็นตัวประกัน โจรดอกไม้แดงต่อรองกับศรีนวลว่า ให้เอาต้นกฐินกับกล่องเงินแลกกับตัวประกัน พอดีเสือตุ๋ยมาพบและได้ช่วยพวกศรีนวล เกิดการต่อสู้กับโจรดอกไม้แดง ด้วยความฉลาดของเสือตุ๋ย จัดการกับพวกดอกไม้แดงพ่ายแพ้ไป เสือตุ๋ยจึงมอบต้นกฐินให้ศรีนวล ไปทอดตามต้องการ
Earth Crying ธรณีกรรแสง (2545/2002) ภาพยนตร์อมตะเพื่อเทิดพระคุณแม่ ที่สะท้อนชะตากรรมและการต่อสู้ของคนเป็นแม่ที่ทำทุกอย่างเพื่อให้ครอบครัวอยู่รอดและให้ลูกเป็นคนดี เป็นเรื่องราวของครอบครัวหนึ่งที่ยากจนข้นแค้นต้องต่อสู้กับการเอารัดเอาเปรียบของเศรษฐีนายทุนจนทำให้ผู้เป็นพ่อต้องพิการสูญเสียแขนทั้งข้างในขณะพลิกผืนแผ่นดินที่แข็งกระด้าง เพื่อทำนา ทำให้ภาระหน้าที่เลี้ยงดูครอบครัวตกอยู่กับผู้เป็นแม่ “แม่” กับชะตากรรมที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ มิเพียงต้องต่อสู้กับนายทุนที่คอยก่อกวนเอาเปรียบ ยังต้องต่อสู้กับความยากลำบากในการพลิกฟื้นผืนนาเพื่อเพาะปลูกเลี้ยงชีพบน ผืนดินหวงแหนที่แห้งแล้ง แม้กระทั่งคนในหมู่บ้านยังท้อแท้ทิ้งถิ่นไปหาที่ทำกินใหม่ “แม่” กับการต่อสู้ ที่ดูเหมือนไม่มีวันรู้จบ จนลูกเติบโตเป็นหนุ่มกล้าแกร่ง อาจหาญเป็นปรปักษ์ต่อกรเศรษฐีนายทุน และถูกบีบคั้นให้กลายเป็นโจรปล้นฆ่าถูกตามล่าเอาชีวิต แม่จำต้องปกป้องลูกและความถูกต้องด้วยลิขิตชีวิตของตัวเอง ที่แม้แผ่นดินยังต้องร้องไห้ให้กับชะตากรรมของเธอ
7 ประจัญบาน (2545/2002) หลังจากร่วมฟันฝ่าอุปสรรคอันแสนสาหัส กินลูกตะกั่ว คั่วดินปืน คลุกข้าวต่างน้ำมาด้วยกัน หลายต่อหลายครั้ง รวมทั้งได้โอกาสที่จะสละเลือดเนื้อไปกับภารกิจรบจนแทบจะต้องพลีชีพเพื่อชาติมาก็หลายครา แต่ไม่มีภารกิจครั้งไหนจะหล่อหลอม เหล่าผองเพื่อนชายไทยจนถึงขั้นผูกจิตผูกใจชายหนุ่ม 7 คนที่แตกต่างกันด้วยวุฒิภาวะ คุณลักษณะหรือที่เรียกว่ารูปร่างหน้าตาไปจนถึง 2 วุฒินั่นคือคุณวุฒิแลวัtยวุฒิให้ร่วมสมัครสมานกลมเกลียวเกี่ยวก้อยสาบานจนกลายเป็นพี่น้องที่ไม่ได้คลานออกมาจากท้องพ่อท้องแม่เดียวกันได้เท่ากับการที่พวกเขาเป็นตัวแทนผืนแผ่นดินไทยออกร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่หนีบจักกะแร้กันและกันต่อสู้กับเหล่าอริผองภัยที่มารุกรานชาติไทยใน “สงครามเวียดนาม” หรอก หลังจากที่เสร็จสิ้นภารกิจรบเพื่อชาติ เหล่าผองเพื่อนทั้ง 7 หรือที่รู้จักกันดีในนามของ “7 ประจัญบาน” คือ “จ่าดับ จำเปาะ, หมัด เชิงมวย, ตังกวย แซ่ลี้, อัคคี เมฆยันต์, ดั่น มหิทธา, กล้า ตะลุมพุก, จุก เบี้ยวสกุล ก็ต่างแยกย้ายกันไปตามแดนดินถิ่นมาตุภูมิที่ต่างถือกำเนิดกันไป กลับไปหาเหล่าผู้คนที่อยู่ข้างหลังที่คอยเป็นกำลังใจ รอคอยวีรบุรุษในใจของพวกเขามาตลอดชีวิต บ้างก็ได้ดิบได้ดี บ้างก็ยังคงวนเวียนไปตามวัฏจักรแห่งการดิ้นรนต่อสู้ เพียงทว่าครานี้ไม่ได้รบราฆ่าฟันกับผู้คนต่างชาติที่เคยมารุกรานอีกต่อไป แต่เป็นการดิ้นรนต่อสู้กับบางสิ่งที่สถิตอยู่ภายในจิตใจของตนเองต่างหาก สำหรับคนที่ชีวิตวนเวียนอยู่ในสังเวียนแห่งการต่อสู้อย่าง “หมัด เชิงมวย” (เท่ง เถิดเทิง) ถ้าเลิกรบแล้วจะทำอะไรเป็นคำถามที่ประจัญบานหนุ่มผู้เชี่ยวชาญในเรื่องการชกมวยเองก็ไม่สามารถหาคำตอบให้กับตัวเองได้ สิ่งเดียวที่ยังพอทำได้ก็คือการใช้ฝีมือชั้นเชิงในการชกมวยหากิน ที่พึ่งเดียวที่หมัดนึกได้ก็คือค่ายมวยของ “สงวน” (สุเทพ ประยูรพิทักษ์) พี่ชายของหมัด ถึงแม้ว่าคราครั้งก่อนที่พี่น้องคู่นี้ได้ร่วมวงศ์ไพบูลย์กันจะส่งผลให้สงวนถึงกับต้องเสียขาไป 1 ข้างจากการเดิมพันวางแผนล้มมวย เพราะนี่คือสิ่งเดียวที่จอมประจัญบานอย่างหมัดไม่เคยทำได้สำเร็จนั้นเอง…การล้มมวย แต่การกลับมาครั้งนี้ของหมัดไม่เหมือนก่อนเพราะความตั้งใจไถ่บาปโดยการล้มมวยครั้งประวัติศาสตร์พร้อมกับโปรโมเตอร์มือดีที่มีชื่อว่า “อัคคี เมฆยันต์” (อัมรินทร์ นิติพน) ภายใต้แผนการของอัคคีประจัญบานหนุ่มที่หลงใหลในเกมการพนันเป็นชีวิตจิตใจ ล้อต๊อก ไฮโล ถั่วโป ป๊อกเด้ง ฯลฯ ไม่มีที่อัคคีไม่รู้จัก แม้แต่บาร์อัคคีอันลือลั่นก็ได้มาจากการพนันโดยเหยื่อที่คิดว่าหมูในครั้งนี้คือ “เสี่ยถนอม” (สะอาด เปี่ยมพงศ์สานต์) มีศักดิ์เป็นถึงผู้ยิ่งใหญ่แห่งชุมชนนิวแลนด์ดินแดนที่เป็นเหมือนสวรรค์ของเหล่าจีไอต่างชาติฝรั่งอเมริกัน เพราะเป็นที่พัก สถานเริงรมย์ คลับบาร์ในฐานทัพอเมริกันในประเทศไทย แต่เสี่ยถนอมก็มีจุดอ่อนคือ “หมวย” (กุณฑีรา สัตตบงกช) ลูกสาวสุดเปรี้ยวที่มาหลงใหลในความหล่อของอัคคีอย่างหัวปักหัวปำ แต่เจ้าของน้ำเสียงหวานปานน้ำผึ้งอย่างกับบทเพลงเถียนมีมี่ของหมวยไม่เคยอยู่ในสเป็กของอัคคีแม้แต่นิดเดียว แผนล้มมวยของอัคคีทำไปทำมากลับเกิดเรื่องราวซับซ้อนแต่ไม่ซ่อนเงื่อนขึ้น เพราะนัดล้างตาครั้งนี้เสือสิงห์กระทิงแรดทุกตัวที่เกี่ยวข้องล้วนมีหมากเกมที่พร้อมเดินหรือหักมุมให้ทุกคนมีสิทธิ์หลังหัก เพราะอาจโดนหักหลังโดยไม่รู้ตัว รวมทั้งอัคคี หมัด และสงวนที่พลาดท่า แต่ทุกอย่างกลับตาลปัตรไปอย่างไม่คาดคิด เมื่อเสี่ยถนอมหยิบยื่นงานชิ้นสำคัญที่ไม่สามารถปฏิเสธได้ให้พลพรรคประจัญบานทั้ง 2 ทำนั้นคือแผนการขุมทรัพย์ของพวกไอ้กัน หลังจากที่สายของเสี่ยถนอมได้จับตาดูความเคลื่อนไหวของพวกทหารจีไอก็ได้รู้ข้อมูลมาว่าพวกทหารอเมริกันมีการเคลื่อนไหวแอบขนย้ายทองคำกันในตอนกลางคืน แต่ภารกิจอย่างนี้การที่จะหาใครสักคนที่รู้จักทหารอเมริกันดีพอ มีฝีมือเฉพาะตัวที่จะรับมือกับพวกจีไอได้ และที่สำคัญมีกำลังคนเพียงพอที่จะจัดการให้ภารกิจสำเร็จได้ แล้วใครหน้าไหนล่ะที่จะเหมาะกับงานแบบนี้ถ้าไม่ใช่ผองเพื่อนอีก 5 ชีวิต การตามตัวผองเพื่อนทั้ง 7 เพื่อรวมกลุ่มเหล่า “7 ประจัญบาน” จึงเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง ในขณะที่อัคคีเป็นตัวประกัน คนแรกที่หมัดออกตามหาคือ “จ่าดับ จำเปาะ” (พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง) เจ้าของกางเกงแดงเชือกกล้วยอันลือลั่น ผู้นำทีม 7 ประจัญบานศูนย์กลางของกลุ่มที่ได้รับการนับถือและยอมรับ ถึงจะหัวดื้อ แต่ก็จริงจัง จริงใจ จ่าดับตอนนี้กำลังปวดหัวกับ “แสงดาว” (บีม-พรรณวลินทร์ ศรีสวัสดิ์) ลูกสาวคนเดียวที่เลือดรักชาติข้นคลั่กไม่ต่างจากตน เพราะสิ่งที่แสงดาวกำลังทำอยู่คือการนำกลุ่มเพื่อนนักศึกษาที่มีเจตนารมณ์เดียวกันขับไล่ทหารอเมริกัน ด้วยความคิดที่ว่า เพราะฝรั่งหัวแดงเข้าประเทศ ทำให้เมืองไทยเสียเปรียบ การตั้งฐานทัพไม่ได้เป็นผลดีเลย ผสมผสานกับอารมณ์โกรธที่พ่อซึ่งเป็นทหารไทยกลับให้ความช่วยเหลือทหารอเมริกัน จึงหนีพ่อไปยังนิวแลนด์เพื่อประท้วงขับไล่ทหารอเมริกัน ไหนๆ ก็รบเพื่อชาติมาแล้วคราวนี้ลองรบเพื่อลูกดูซะบ้าง ขณะเดียวกันกับ “ดั่น มหิทธา” (พิเศก อินทรครรรชิต) ที่ผิดหวังในรักเพราะมัวแต่ไปรบ คนรักจึงต้องหลีกลี้หนีไกล เมื่อไม่มีรักก็ร่วมรบกับพวกประจัญบานอีกละกัน เช่นเดียวกับ “กล้า ตะลุมพุก” (แช่ม แช่มรัมย์) ที่กำลังมีปัญหาส่วนตัวหลังจากที่ใช้พลังหมัดไปในทางที่ถูกที่ควร คือเอาหมัดไปชกรถ ทั้งซ่อมทั้งทุบตัวถัง ทุบไปทุบมาก็เกือบโดนเข้าของอู่ทุบเอาเพราะดอดไปตีท้ายครัวเมียเจ้าของอู่ซะนี่ จึงต้องหนีเตลิดก่อนลูกซองจะยัดปากเอา จนกลับมาร่วมรบกับเพื่อนอีกครั้ง ส่วน “ตังกวย แซ่ลี้” (ทศพล ศิริวิวัฒน์) ลูกจีนที่เกิดในไทยแต่ตัวเองกำลังจะอกแตกตายเพราะกลายเป็นพระเอกงิ้วสมใจเตี่ย แต่ในหัวใจถวิลหาแต่เจมส์ ดีน ถึงขนาดวาดจอนยาวไว้ข้างแก้ม ทนอึดอัดกับสภาพที่ทำร้ายจิตใจตนเองไม่ไหวจึงเดินทางมาร่วมกับพรรคพวก 7 ประจัญบาน นับไปนับมาได้แค่ 6 ครั้นจะเป็น 6 ประจัญบานก็กระไรอยู่ ว่าแล้วผองเพื่อนเดนตายทั้ง 6 ก็ดาหน้าสู่แดนดินถิ่นเกิดของประจัญบานที่ 7 เพื่อเกลี่ยกล่อมแกมบังคับให้ “จุก เบี้ยวสกุล” (ค่อม ชวนชื่น) ระเบิดมืออันแสนลือลั่นของจุกไม่เคยทำให้ 7 ประจัญบานผิดหวัง ซึ่งตัวจุกเองกำลังจะเข้าสู่พิธีบวชทดแทนบุญคุณมารดาที่รอวันนี้มาทั้งชีวิต แต่ทนมารผจญทั้ง 6 ที่ไม่ได้จึงต้องจำยอมออกมาร่วมทีมกับผองเพื่อนทั้ง 7 ในภารกิจหักคอในครั้งนี้ คน 7 คนที่เอกลักษณ์ความแสบ เจ็บแปลบ ยียวน กวนบาทาในแบบฉบับที่ไม่มีใครเหมือน และรับรองว่าไม่เหมือนใครเริ่มปฎิบัติการตามแผน แต่ทุกสิ่งหาได้เป็นไปตามคาดไม่ เมื่อทหารอเมริกันเก็บงำความลับบางอย่างที่เหล่าวีรุบุรุษทหารไทยไปรู้เข้าโดยบังเอิญ พร้อมกับการมาถึงของเหล่าจีไอนักฆ่าซึ่งนำโดย “หมวดปีเตอร์” (ปีเตอร์ ไมอ๊อกซิ) รวมทั้งคู่อริเก่าอย่างเสือเอ๋อและพรรคพวก ในขณะเดียวกันการเคลื่อนไหวของแสงดาวตกอยู่ในสายตาของพวกเหล่าร้าย และการสูญเสีย 1 ใน 7 ประจัญบานในปฎิบัติการที่กลายเป็นการรบเพื่อชาติ…
ขุนแผน (2545/2002) เรื่องเล่าจากปากชาวบ้านขับขานเป็นวรรณกรรมราชสำนัก ว่าด้วยเรื่องของหนึ่งหญิงสองชาย ซึ่งมีชะตาแผลงให้อุตริคิดเล่นเป็นโจรแย่งชิงเมียผัวแต่วัยเยาว์ ใครเล่าจะรู้ว่า เมื่อกาลเติบใหญ่ เหตุคราวนั้น กลับเป็นลางบอกถึง โศกนาฎกรรมแห่งความรักแสนสะเทือนใจ ขุนแผน (วัชระ ตังคะประเสริฐ) ชายผู้ต้องการจะเป็นยอดคนด้วยการเป็นเจ้าของอำนาจวิเศษทั้งสามสิ่ง คือ ดาบฟ้าฟื้น ม้าสีหมอก และกุมารทอง เขาผ่านช่วงชีวิตที่รุ่งโรจน์ และตกต่ำจนถึงขีดสุด ชะตาพลิกพันทำให้ต้องจากพิมพิลาไลยคนรักซ้ำแล้วซ้ำเล่า ด้วยเป็นชายหนุ่มรูปงาม ทำให้มีสาวงามมาพัวพันสม่ำเสมอ จวบเมื่อถึงวันที่เขาเข้าใจได้ว่าอำนาจอันยิ่งใหญ่มิได้นำมาซึ่งความสุข และต้องการละทิ้ง ทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ แต่ด้วยกิเลส และวังวนแห่งตัณหาที่สร้างมา เขาจึงต้องทำใจยอมรับผลกรรม ที่ก่อไว้ ขุนช้าง (อภิชัย นิปัทธหัตพงศ์) ชายร่างอ้วนใหญ่ เกิดมาพร้อมหน้าตาอัปลักษณ์ แต่ไม่ได้อาภัพจนเกินไป ด้วยมีฐานะร่ำรวย เป็นพ่อค้า และคนรับใช้ใกล้ชิดกษัตริย์ เขาหลงรักพิมพิลาไลยด้วยใจที่บริสุทธิ์ ทั้งที่รู้ว่านางมีใจรักมั่นคงให้กับพลายแก้ว แต่แล้วความรักกลับทำให้เขาพยายามทำทุกวิถีทาง เพื่อช่วงชิงนางมาเป็นของตน ไม่ว่าจะด้วยทรัพย์สิน หรือเล่ห์กล จนท้ายที่สุดต้องระทมทุกข์ เพราะความรักที่มากเกินไป พิมพิลาไลย (บงกช คงมาลัย) สาวงามผู้ตกเป็นที่หมายปองของสองชาย จนทำให้ท้ายที่สุดต้องถูกตราหน้าว่าเป็นหญิงสองใจ นางมีใจรักแท้ต่อพลายแก้ว แต่แล้วกลับต้องทุกข์ใจในความมักมากไม่รู้จักพอ จนเมื่อหลงเล่ห์กลจำต้องตกเป็นของ ขุนช้าง ขุนช้างเฝ้าดูแลทะนุทะนอมนางเป็นอย่างดี แต่ทั้งคู่กลับแก่งแย่งนางไปมา จนนางถูกหาว่าเป็นเหตุ แห่งความโกลาหลจนต้องโดนพิพากษา เมื่อถึงเวลาที่ต้องเลือกระหว่างชายสองคนนี้ นางจึงใช้ทางเลือกเป็นเครื่องเตือนสติแก่คนทั้งสอง สุดท้ายชะตากรรมจะนำพาคนทั่งสามไปอย่างไร ติดตามได้ใน “ขุนแผน”
เกิร์ลเฟรนด์ 14 ใสกำลังเหมาะ (2545/2002) บี (ณัฐวรา หงษ์สุวรรณ), ตุ้ม (ปาริชาต แก้วกำพล), นุ้ย (ชโลธร บริราช), ติ๋ม (จีระนันท์ กิจประสาน) สี่สาววัยใสเพื่อนซี้ ทั้งหมดกำลังเรียนอยู่ในชั้น ม.3 โรงเรียนผู้หญิงล้วน มีชีวิตอย่างสนุกสนาน และน่ารักตามวัย เด็กสาววัยใสทั้งสี่มาจากครอบครัวที่แตกต่างกัน พ่อของบี (ไพบูลย์เกียรติ เขียวแก้ว) เป็นนักเขียน เจ้าของนิยาย ขายดีเรื่อง "ความรักของพ่อนกเงือก" ที่บรรยายถึงความสำคัญของพ่อนกเงือกต่อคู่ชีวิต และลูกที่เพิ่งฟักออกจากไข่ ส่วนแม่ของบีเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุบนถนน ตุ้มเป็นลูกสาวของนายแพทย์ตำรวจ (ณรงค์ ลัมะกานนท์) นุ้ยอยู่กับแม่ (ริสา หงษ์หิรัญ) ที่มีอุปนิสัยห้าวพอกัน เรียกว่าลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น ส่วนติ๋มเป็นลูกสาวของนายธนาคารใหญ่ (ศรัณยู วงศ์กระจ่าง) ที่กำลังมีปัญหาเรื่องทุจริตในสถาบันการเงิน อันจะส่งผลต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ วันหนึ่ง ขณะที่ทั้งสี่ไปเดินเที่ยวตามศูนย์การค้า นุ้ยถูกรปภ.จับหาว่าขโมยของ ตุ้ม ติ๋ม บีพยายามเข้าไปช่วย แต่พลาดท่ารปภ.ตัวร้าย แต่โชคยังเข้าข้าง เจ้าหน้าที่ตำรวจบุกเข้ามาจับ หัวหน้ารปภ.ตัวร้ายได้ทัน การผจญภัยครั้งนั้นส่งผลอย่างมากต่อตุ้ม จากเด็กห้าวท่าทางเหมือนทอมบอย ตุ้มเปลี่ยนแปลงตัวเองใหม่กลายเป็นสาวสวย สร้างความประหลาดใจให้กับหมู่เพื่อนๆ ตุ้มชวนเพื่อนไปเรียนกวดวิชา เตรียมตัวสอบเข้าเรียน ม.4 ทุกคนเห็นด้วย ยกเว้นบี ที่ไม่อยากเรียนสัปดาห์ละ 7 วัน และนี่คือจุดสำคัญ ที่พลิกผันความผูกพันของกลุ่มเพื่อนทั้งสี่ ที่โรงเรียนกวดวิชานี่เอง ตุ้มรู้จักกับเด็กหนุ่มวัยเดียวกันชื่อ แดง (ชาญนนท์ คล่องสุดใจ) หลังจากนั้น ความสัมพันธ์ของกลุ่มเริ่มเปลี่ยนแปลง ตุ้มทุ่มเวลาทั้งหมดให้กับแฟนหนุ่ม จนไม่เหลือสำหรับเพื่อนๆ ในกลุ่ม สร้างความน้อยเนื้อต่ำใจเป็นอย่างมากกับบี ซึ่งถือว่าสนิทกับตุ้มที่สุด... ในบรรดากลุ่มเพื่อนๆ กลุ่มที่เหนียวแน่นมาตลอด เริ่มสำแดงความแตกร้าว ตุ้มตีจากไป ตามด้วยบีซึ่งผิดหวังกับเพื่อนสนิท ความผิดหวังทำให้บีตัดสินใจหนีความเบื่อหน่าย ด้วยการพยายามสอบชิงทุนไปเรียนต่อต่างประเทศ ซึ่งก็ทำให้เธอต้องตีจากกลุ่มกลายๆ นุ้ยก็มีปัญหาความขัดแย้งกับตุ้ม ด้วยความเข้าใจผิดของฝ่ายหลัง ตุ้มคิดว่านุ้ยคิดจะแย่งแฟนตัวเอง เมื่อรอยร้าวในกลุ่มแผ่ขยายกว้าง จนทำท่าว่าความสัมพันธ์อันแนบแน่นมาถึงจุดอวสาน ทำให้ติ๋มที่แต่ไหนแต่ไร ไม่เคยลุกขึ้นมาพูดแสดงความต้องการของตัวเอง ไม่เคยขัดใจเพื่อน ต้องลุกขึ้นมาทำหน้าที่เป็นเสมือนกาวใจ หาทางแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น เพื่อคงรักษาไว้ซึ่งมิตรภาพ และความรักอันบริสุทธิ์ ที่แต่ละคนเคยให้กันและกัน ความรัก การเสียสละ และการให้อภัย คือทางออกทางเดียวสำหรับพวกเธอ
โก๋หลังวัง (2545/2002) ปี พ.ศ. 2503 "วังบูรพาภิรมย์" คือ แหล่งรวมวัยรุ่นชาย-หญิง ที่มีรสนิยมทั้งหลาย ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของไทย สถานที่แห่งนี้ เต็มไปด้วยวัยรุ่นผู้นำแฟชั่นในทุกด้าน กระแสความนิยมที่เกิดขึ้น จากนักร้องดังของฝรั่งอย่าง เอลวิส เพรสลีย์, เจมส์ ดีนส์ ส่งผลถึงการแต่งกาย ไม่ว่าจะเป็นด้านเสื้อผ้า หรือว่าทรงผม ล้วนถอดแบบมาจากแม่แบบเมืองฮอลลีวู้ดแทบทั้งสิ้น รวมถึงกลุ่มนักเรียนชายสุดหล่อนิสัยดีที่มี วาทิน (อานัส ฬาพานิช) เป็นหัวหน้ากลุ่มด้วย แต่เมื่อวาทินเกิดไปตกหลุมรัก จำปูน (บัณฑิตา ฐานวิเศษ) สาวสวยน้องขาใหญ่แห่งวังบูรพา ที่ชอบใช้ชีวิตหรูหราฟุ่มเฟือยอย่าง จำเป็น (สินชัย หอมทวล) สงครามแห่งลูกผู้ชายก็เริ่มต้นขึ้น เมื่อชายทั้งหมดเป็นวัยรุ่นเลือดร้อน ที่มีความฝันคลุกกรุ่นอยู่ในหัวใจ เมื่อทุกกลุ่มต่างมีศักดิ์ศรี ที่ไม่มีสิ่งใดมาลบล้างได้ เมื่อทุกวินาทีแห่งความรัก ทำให้ชีวิตมีความหมายมากกว่าเดิม และเมื่อทุกอุดมการณ์รวมตัวกัน เป็นหนึ่งเดียวแห่งวังบูรพา ในนามแห่ง "โก๋หลังวัง"
น.ช. นักโทษชาย (2545/2002) นักโทษคนหนึ่งต้องตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก เมื่อได้รับข้อเสนอให้เป็นสายรายงานเพื่อนนักโทษ และเขาจะต้องเลือกระหว่างผลประโยชน์ส่วนตัวกับการช่วยเหลือคนที่อาจต้องการเขา
โรงแรมผี (2545/2002) ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 หลวงนฤบาลฯ ประสบอุบัติเหตุถูกระเบิดขาขวาพิการ และใบหน้าซีกซ้ายเสียโฉม แต่ร้ายที่สุดคือการเสียชีวิตของคุณศรี ภรรยาที่อยู่กินกันมาตั้งแต่หนุ่มสาว หลังเหตุการณ์ร้ายครั้งนั้นก็ได้พบ ด.ช ปั้น วัย 10 กว่าขวบที่พลัดพรากจากครอบครัวระเหเร่ร่อนอยู่ หลวงนฤบาลฯ ก็รู้สึกถูกชะตาและรับมาอุปการะเลี้ยงดู จนกระทั่งเติบโตเป็นหนุ่ม จนกระทั่งวันหนึ่งหลวงนฤบาลฯได้พบกับสารภีลูกสาวชาวนาวัย 18 ปี ก็ถูกชะตา และรู้สึกหลงรักสารภีตั้งแต่แรกพบ และได้เสนอเงินก้อนโตให้กับพ่อแม่ของสารภีที่เป็นชาวนายากจน เพื่อขอสารภีมาอยู่กับตน สารภีไม่เต็มใจนัก แต่ดูเหมือนเธอแทบจะไม่มีทางเลือกอื่นเลย หลวงนฤบาลฯ จัดงานแต่งงานอย่างใหญ่โตที่คฤหาสน์ริมทะเลบางละมุง แล้วในคืนวันส่งตัวนั้นสารภีก็หนีจาก หลวงนฤบาลฯ ไปพร้อมกับปั้น หลวงนฤบาลฯ แค้นสุดๆ เมื่อคนที่เขารักและทุ่มเททั้งสองคนกลายมาเป็นผู้เหยียบย่ำจิตใจเขาเสียเอง ยิ่งรักมากก็ยิ่งแค้นมาก หลวงนฤบาลฯ จมอยู่กับกองทุกข์ ชีวิตผ่านไปวัน ๆ กับความโทมนัส โหยหาสารภีและคลุ้มคลั่งกับความแค้นที่สารภีและปั้นกระทำลงไป อีกไม่นานหลวงนฤบาลฯ ก็เสียชีวิต หลังรู้ข่าวการตายของหลวงนฤบาลฯ สารภีและปั้นก็กลับคืนสู่ฝั่งเพื่อขอขมาศพ ทั้งคู่ตัดสินใจกลับมาอยู่คฤหาสน์หลังนี้ โดยปั้นมีความคิดที่จะดัดแปลงคฤหาสน์หลังใหญ่ให้เป็นโรงแรมตากอากาศและให้ชื่อว่า “โรงแรมบางละมุง” วี่แววความยุ่งยากพร้อมความเร้นลับที่หาคำอธิบายไม่ได้เริ่มก่อตัวขึ้นเหนือโรงแรมแห่งนี้ ปริศนาเร้นลับถูกโยงไปถึงวิญญาณร้ายที่อัดแน่นด้วยความแค้นฝังลึกของ หลวงนฤบาลฯ ได้เริ่มต้นขึ้น และได้กลายเป็นเรื่องราวที่เข้มข้นที่เกิดขึ้น ณ คฤหาสน์หลังใหญ่ริมทะเลบางละมุงแห่งนี้
มนต์เพลงลูกทุ่งเอฟ.เอ็ม. (2545/2002) มนต์เพลงลูกทุ่ง เอฟ.เอ็ม. เป็นภาพยนตร์ไทยที่ออกฉายในปี พ.ศ. 2545 ผลงานร่วมสร้างของ สหมงคลฟิล์ม และ ลูกทุ่ง เอฟ.เอ็ม. และเป็นผลงานกำกับเรื่องแรกของบัณฑิต ทองดี โดยเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกในประวัติศาสตร์ของวงการเพลงลูกทุ่ง และภาพยนตร์ไทย ที่รวบรวมไว้มากที่สุด ตั้งแต่นักร้อง นักแต่งเพลง นักจัดรายการลูกทุ่งเอฟ.เอ็ม. รวมถึงบุคคลที่อยู่ในวงการเพลงลูกทุ่งไทย กว่า 200 ชีวิต มาแสดงในภาพยนตร์เรื่องเดียวกัน และบทเพลงทั้งที่กำลังได้รับความนิยมในช่วงนั้นและที่เคยได้รับความนิยมก่อนหน้านั้น กว่า 30 เพลง มาใช้ประกอบภาพยนตร์เรื่องนี้ รวมทั้งบทเพลงใหม่ที่แต่งขึ้นโดยเฉพาะอีก 1 เพลง