2519
เสือกเกิดมาจน (2519/1976) เหิม (กรุง ศรีวิไล) ซึ่งมีอาชีพขับมอเตอร์ไซด์รับจ้าง แต่ไปหลงรักมาลี (นัยนา ชีวานันท์) ลูกสาวกำนันแม้น จึงถูกกีดกันและถูกรุมซ้อมทำร้ายเพราะต้องการให้มาลีได้แต่งงานกับสุทธิ (นิรุตต์ ศิริจรรยา) ลูกชายเสี่ยเซ้ง (บู๊ วิบูลย์นันท์) ซึ่งรวยกว่า ต่อมากำนันแม้น เสี่ยเซ้ง ได้ร่วมมือกับปลัดสง่า (สะอาด เปี่ยมพงษ์สานต์) บีบบังคับให้ชาวบ้านขายที่ดินในบ้านไร่ทั้งหมดเพื่อจะเอาไปสร้างเมืองใหม่และนำรถเมล์มาวิ่งแทนมอเตอร์ไซด์ แต่ชาวบ้านก็ไม่ชอบขึ้นรถเมล์ ปลัดสง่าจึงหาทางรังแกพวกขับมอเตอร์ไซด์ จนเหิมถูกจับไปขังคุก 6 เดือน จากนั้นปลัดสง่าและพวกก็ขยายอิทธิพลถึงขั้นค้าอาวุธสงคราม กักตุนข้าวสารจนชาวบ้านเดือดร้อน ต่อมาบุญคำ (ศิริขวัญ นันทศิริ) เอาข่าวไปบอกเหิมในคุกว่า พ่อเหิมถูกซ้อมจนตาย ส่วนอร (นฤมล นิลวรรณ) น้องสาวก็ถูกฆ่าข่มขืน เหิมจึงพกความแค้นออกมาจากคุกหมายจะตามฆ่าปลัดสง่ากับพวกให้ได้ แต่เมื่อไปถึงก็พบว่า กำนันแม้นกับเสี่ยเซ้งถูกปลัดสง่าหักหลังและฆ่าตายไปก่อนแล้ว เหิมจึงเปิดฉากดวลกับปลัดสง่าเพื่อระบายความแค้น
สู้ (2519/1976) มหามัน สะท้านแผ่นดิน บ้าบิ่นไม่มีใครเท่า เพราะเขา... สู้ ของ รวี ก้องหล้า
ราม (สมบัติ เมทะนี) อดีตทหารรับจ้างที่กลีบสู่บ้านเกิด ทว่าเขากลับถูกบีบให้ต้องเป็นศัตรูกับแก๊งค์อันธพาล เขาพยายามปลุกระดมให้ทุกคนในหมู่บ้านลุกขึ้นสู้กับอิทธิพลเถื่อน รวมถึงขอความช่วยเหลือกับทางการ ทว่าทุกคนกลับหันหลังให้เขา แต่นั่นไม่ได้ทำให้นักสู้อย่างรามยอมแพ้ เขาจะต่อกรกับเหล่าอันธพาลทั้งหมดแม้ว่าจะหลือเขาสู้อยู่คนเดียวก็ตาม!
ขุนศึก (2519/1976) 15 ปี หลังจากกรุงศรีอยุธยาเสียแก่พระเจ้าบุเรงนอง สมเด็จพระนเรศวรมหาราชได้ทรงกรีธาทัพไทย พร้อมด้วยถสมเด็จพระเอกาทศรถ พระอนุชา เข้ายึดเมืองแกลงอันเป็นเมืองเชื่อมเขตแดนไทยกับพม่า ได้ทรงหลั่งอุทกธาราประเทศตัดไมตรีกับพม่า พม่ายกกำลังบุกไทย เสมาคุมทหารกองหนึ่งจากท่านขุนลิต ขุนลิตสู้จนตัวตาย เสมาสืบทอดเจตนารมณ์ทำงานต่อจากขุนลิต รวบรวมกองอาสาและนำเรื่องกราบเรียนพระธรรมนูญ พระธรรมนูญรับเสมาเข้าร่วมรบ ทัพหน้าของพระธรรมนูญเข้าตีทัพพม่า จนพม่าถอยทัพกลับ บ้านเมืองจึงสงบ และเสมาได้บรรดาศักดิ์เป็นขุนแสนศึกพ่าย
เสือ 4 แคว (2519/1976) เพลิง ปากน้ำโพ หลบหนีตำรวจระหว่างถูกคุมตัวไปศาลได้สำเร็จ แต่เขาจำต้องนำตัวชาติ เจ้าพระยา ตามไปด้วยเพราะทั้งคู่มีกุญแจมือผูกติดกัน ทั้งคู่ตัดสินใจโหนตัวบนรางรถไฟให้รถวิ่งมาตัดโซ่ขาด เมื่อสำเร็จก็แยกย้ายกันคนละทาง เพลิงกลับบ้านเกิดเพื่อหาทางแก้แค้นพ่อเลี้ยงดวงตะวันที่หักหลังจนเขาถูกตำรวจจับ ขณะที่ชาติเข้าไปเป็นมือปืนในแก๊งพ่อเลี้ยงดวงตะวัน และเจอคู่ปรับเป็นมือปืนฉายาเสือ 4 แคว ซึ่งมีเสือปิง เสือวัง เสือยม และเสือน่าน หากงานนี้จะสำเร็จได้ ทั้งเพลิงและชาติมีทางเดียว คือจำต้องร่วมมือกันเท่านั้น
เมื่อพรรคพวกของเพลิง ปากน้ำโพ (กรุง ศรีวิไล) ดักชิงตัวเพลิงขณะถูกควบคุมตัวไปศาล แต่ก็ได้ตัวชาติ เจ้าพระยา (สมบัติ เมทะนี) ติดมาด้วยเพราะกุญแจมือผูกติดกัน ซึ่งต่อมาทั้งคู่ก็ตัดโซ่ได้โดยใช้โซ่พาดกับรางรถไฟที่สะพานข้ามแม่น้ำ เมื่อรถไฟวิ่งมาทับ โซ่ก็ขาด ทั้งคู่ก็ตกลงไปในแม่น้ำแยกกันไปคนละทาง เพลิงเดินทางกลับหมายไปแก้แค้นพ่อเลี้ยงดวงตะวัน (เกชา เปลี่ยนวิถี) โทษฐานที่หักหลังเรื่องยาเสพติดจนเพลิงถูกตำรวจจับไป แต่พ่อเลี้ยงก็ไหวทันชิงจับตัววาริน (นัยนา ชีวานันท์) น้องสาวเพลิงไปขังไว้เป็นตัวประกันก่อนและสั่งมือปืนฉายาเสือ 4 แควซึ่งมีเสือปิง (ชนะ ศรีอุบล) เสือวัง (พิภพ ภู่ภิญโญ) เสือยม (โดม สิงหโมฬี) เสือน่าน (ดามพ์ ดัสกร) ให้มาตามฆ่าเพลิงอีกด้วย แต่เพลิงก็รู้ข่าวตลอดจากดวงแก้ว (เรวดี ปัตตะพงษ์) น้องสาวพ่อเลี้ยง ต่อมาชาติก็เข้ามาเป็นมือปืนให้กับพ่อเลี้ยงดวงตะวัน ซึ่งทำให้พวกเสือ 4 แควไม่พอใจ ระหว่างนั้นชาติก็แอบสืบจนรู้เบื้องหลังว่า พ่อเลี้ยงค้ายาเสพติดและรู้ที่คุมขังตัววารินและเข้าไปช่วยเหลือโดยมีจอย (อัมรัตน์ ขัตติยา) สายตำรวจที่ยอมตัวมาเป็นเมียน้อยของพ่อเลี้ยงดวงตะวันช่วยเหลืออีกทาง แต่ไม่นานชาติก็ถูกพ่อเลี้ยงจับได้และนำตัวไปมัดพาดไว้บนรางรถไฟ แต่จอยก็ไปบอกเพลิงให้มาช่วยชาติไว้จนรอดตาย จากนั้นชาติและเพลิงก็ร่วมมือกับตำรวจเข้าทลายรังของพ่อเลี้ยงดวงตะวัน
เทวดาเดินดิน (2519/1976) เรื่องราวของกลุ่มวัยรุ่นที่ทำงานเถื่อน เริ่มจากขนยาเสพติด ขโมยของปล้นร้านทอง ขโมยรถ และฆ่าคน พวกเขาใช้ชีวิตอย่างอิสระและไม่เกรงกลัวกฎหมาย จนได้รับฉายาว่า "เทวดาเดินดิน" แต่ก็ถูกตำรวจตามล่าจนต้องหนีลงใต้
ในปี พ.ศ. 2520 ต้อย (ต่อลาภ กำพุศิริ) ปลอมตัวเป็นลูกศิษย์วัด แล้วนำผงขาวไปส่งลูกค้าแต่ถูกตำรวจตามล่า ขณะกำลังหนีเอาตัวรอด ต้อยขับรถชนรถ พล (สรพงษ์ ชาตรี) ที่กำลังมีเรื่องกับนักข่าวไพบูลย์ และกำลังจะถูกตำรวจเล่นงาน พลจึงกระโดดขึ้นรถต้อยและหนีไปด้วยกัน ต้อยขอตามไปอยู่กับพลด้วย พลแนะนำให้รู้จักกับน้อง (วิยะดา อุมารินทร์) พวกเขาไม่ทำงานเที่ยว เอาแต่ขโมยของ ปล้นฆ่าคนตามอำเภอใจ ไพบูลย์จึงให้ฉายาทั้งสามว่า เทวดาเดินดิน
ทั้งสามหนีการตามล่าของสารวัตรบุญลงภาคใต้ ระหว่างหนี พลช่วยแอ๊ด (กิตติ ดัสกร) ที่เกือบตกรถไฟไว้ได้ จึงตกลงเป็นเพื่อน และพาไปอยู่ด้วยกัน ทั้งหมดชวนกันปล้นธนาคารที่บูลย์ (บู๊ วิบูลย์นันท์) ทำงานอยู่ บูลย์ขอเข้าเป็นพวกและร่วมทีมอีกคน ทั้งหมดปล้นฆ่าไปทั่ว คืนหนึ่งขณะที่พวกพลเริงร่ากับเงินที่ปล้นมาได้ สารวัตรบุญพาตำรวจล้อมจับ แต่พวกพลไม่ยอมจึงต่อสู้กับตำรวจ จนทำให้บูลย์ถูกยิงตาย
พล น้อง ต้อย และแอ๊ด หนีเข้าไปในป่าเลาะซึ่งเป็นเขตอันตราย น้องถูกกับดักที่ขาบาดเจ็บ พวกพลถูกชาวป่าเลาะจับตัวไปสอบสวน ตกดึกหมู่บ้านป่าเลาะถูกบุกแอ๊ดสู้จนตาย ชาวป่าเลาะเป็นฝ่ายชนะ แต่ต้องการให้ พล น้อง ต้อย ออกจากหมู่บ้านไป น้องกำลังจะตายเพราะทนพิษบาดแผลไม่ไหว น้องอยากจะไปพัทยา พลตกลงจะพาไป ขณะที่พล ต้อย และน้อง กำลังไปพัทยา ก็ถูกตำรวจตามล่าและปิดล้อม ทุกคนหนีขึ้นไปบนตึกและยึดชั้นบนได้ นักข่าวไพบูลย์แอบขึ้นไปคุยกับพล และพยายามกล่อมให้พลยอมจำนน แต่พลไม่ยอม สุดท้ายทั้งหมดจึงถูกตำรวจฆ่าตาย
3 นักสู้ผู้ยิ่งใหญ่ (2519/1976) เสี่ยเคี้ยงมีลูกน้องมาก ชอบรังควานชาวบ้านและเป็นคู่อริกับพ่อเลี้ยงยัน จอมเป็นลูกน้องของพ่อเลี้ยง มาอยู่กับพ่อเลี้ยงพร้อมกับ สีทองซึ่งเป็นเมีย ต่อมาเมียของจอมถูกฆ่า จอมจึงออกตามหาฆาตกรด้วยตัวเอง ด้านพ่อเลี้ยงจับได้ว่าเมียมีชู้กับลูกน้องที่ชื่อ โรจน์
เสาร์ 5 (2519/1976) เรื่องราวของ 5 สหายที่เกิดในวันเสาร์ห้า คือ เทิด ยอดธง (กรุง ศรีวิไล) กริ่ง คลองตะเคียน (สรพงศ์ ชาตรี) ดอน ท่ากระดาน (นิรุตติ์ ศิริจรรยา) เดี่ยว สมเด็จ (ไพโรจน์ ใจสิงห์) ยอด นางพญา (สิงหา สุริยง) ซึ่งมีพระประจำตัวจึงหนังเหนียว คงกะพันกันทุกคน แล้วขบวนการเสาร์ 5 ก็เข้าร่วมปฏิบัติการรบใต้ดิน อีกครั้งเมื่อองค์การจาร์ก้าคิดร้ายทำลายชาติ
ชายหนุ่ม 5 คนที่เกิดวันเสาร์ที่ 5 ขึ้น 5 ค่ำ เดือน 5 เหมือนกันและมีพลังพิเศษจากพระเครื่อง 5 องค์อยู่ในตัวซึ่งต้องร่วมมือกันหยุด ยั้งกลุ่มก่อการร้าย "จาร์ก้า" ที่ขโมยอาวุธนิวเคลียร์มาจากยุโรปเพื่อใช้ข่มขู่เรียกเงินจำนวน 1,000 ล้านดอลลาร์จากประเทศเอเชียแล้วพวกเขาทั้ง 5 จะหยุดยั้งแผนการร้ายของจาร์ก้าได้หรือไม่