ทรามวัยใจเพชร (2511)
ทรามวัยใจเพชร (2511/1968) สืบและคม สองนักสืบราชการลับจอมกะล่อน ได้ปลอมเป็นหญิงสาวเพื่อเข้าไปอารักขา คือ ม.ร.ว.หญิง รสสุคนธ์ จนกระทั่ง วันหนึ่งเพชรชมพู สาวสวยสุดเซ็กซี่ได้เข้ามาอารักขาหม่อมอีกคน โดยอ้างว่ามีอีกบริษัทส่งเธอมา พร้อมด้วยตัวผู้ต้องสงสัยที่สุดว่าจะน่าเป็นคนปองร้ายเศรษฐินีผู้นี้
สาปสวาท (2511)
สาปสวาท (2511/1968) ข้อความบนใบปิด นพรัตน์ภาพยนตร์... ผู้สร้าง...ปิ่นรัก-รักเอย-น้ำอ้อย เป็นภาพยนตร์ชีวิตรัก คาดแค้นด้วยน้ำตา ของหญิงสาวคนหนึ่งที่อาภัพด้วย...แรงสวาท สาปสวาท บทประพันธ์ ของ กัญญ์ชลา นำโดย 3 ดาราใหญ่ (พิศมัย วิไลศักดิ์) (แอ๊ด สมบัติ เมทะนี) อมรา อัศวนนท์ ร่วมด้วย (อดุลย์ ดุลยรัตน์), บุศรา นฤมิต, ฤทธี นฤบาล, เยาวเรศ นิสากร, (น้อย ประจวบ ฤกษ์ยามดี), (บุษกร สาครรัตน์), (ชุมพร เทพพิทักษ์), (ชฎาพร วชิรปราณี), (แก่นใจ มีนะกนิษฐ์), มาลี เวชประเสริฐ, (ชูศรี มีสมมนต์) และ (หม่อมชั้น พวงวัน) เนรมิต กำกับการแสดง อนันต์ อินละออ ถ่ายภาพ นพรัตน์ ศศิวิมลรักษ์ อำนวยการสร้าง แก้วฟ้า แสดงเป็นละครวิทยุ จินตนาฟิล์ม จัดจำหน่าย
สุรพลลูกพ่อ (2511)
สุรพลลูกพ่อ (2511/1968) เรื่องราวชีวิตจริงของราชาเพลงลูกทุ่ง "สุรพล สมบัติเจริญ" ผ่านมุมมองของบิดาของครูคือ "พ่อเปลื้อง สมบัติเจริญ" ตั้งแต่สุรพลเริ่มชีวิตการร้องเพลงจากกองดุริยางค์ทหารอากาศ ด้วยเอกลักษณ์ ลีลา รูปแบบเฉพาะตัว และความสามารถในการร้องและแต่งเพลงเอง รวมถึงการใช้เพลงจังหวะรำวงในเพลงที่เขาแต่ง ทำให้เพลงของเขามีความสนุกครึกครื้นและเป็นที่นิยมจนกลายเป็นราชาแห่งวงการเพลงลูกทุ่ง ก่อนที่สุรพลจะจบชีวิตอย่างน่าเศร้าด้วยเหตุฆาตกรรมที่ใครก็คาดไม่ถึง
พิศวาสไม่วาย (2511)
พิศวาสไม่วาย (2511/1968) ข้อความบนใบปิด ทวนทองภาพยนตร์ เสนอ พิศวาสไม่วาย ของ พรหมกฤษณ์ นำโดย (แอ๊ด สมบัติ เมทะนี) (ภาวนา ชนะจิต) (เมตตา รุ่งรัตน์), (เมืองเริง ปัทมินทร์), (ไสล พูนชัย), (ทานทัต วิภาตะโยธิน), ดุษฎี เถาเสถียร, พูลสวัสดิ์ ธีมากร, อุทัส, ทองฮะ, ทองแถม, (ล้อต๊อก), พิมพร, ชื้นแฉะ, ลุงโกร่ง กางเกงแดง, (หม่อมชั้น พวงวัน) ทวนทอง พรหมกฤษณ์ อำนวยการสร้าง-กำกับการแสดง เฉลิม บุตรบุรุษ ถ่ายภาพ รัตนงามภาพยนตร์ จัดจำหน่าย
ลูกชาติเสือ (2511)
ลูกชาติเสือ (2511/1968) ชาติเสือไม่ทิ้งลาย ชาติชายไม่ทิ้งเชื้อ ลูกชาติเสือ ยิ่งใหญ่เหนือความยิ่งใหญ่ สะเทือนใจทั้งบู๊และชีวิต สร้างบทจากนวนิยายยอดฮิต ของ กรกฏ อลงกรณ์ ในเดลิเมล์วันจันทร์
16 ปีแห่งความหลัง (2511)

16 ปีแห่งความหลัง (2511/1968) ลำดวล สมบัติเจริญ กับ การะเวก เพื่อนสนิท เดินทางจากสุพรรณมากรุงเทพฯ หา จ่าโทแต้ม นักดนตรีในกองดุริยางค์ทหารอากาศ เพื่อหางานทำ ที่บ้านของจ่าโทแต้ม มี จ่าโทโปร่ง เพื่อนสนิทอีกคนอาศัยอยู่ด้วย จ่าโทแต้มให้การต้อนรับลำดวลกับการะเวกอย่างดี และเมื่อทราบว่าลำดวลได้ลาออกจากการเป็นนักเรียนจ่าทหารเรือ และลาออกจากการเป็นครูที่สุพรรณแล้ว ก็หาทางช่วยเหลือ ได้พาลำดวลไปพบ ร.ท.ปราโมทย์ นายของตนเพื่อฝากเข้าทำงานในกองทัพอากาศ

ร.ท.ปราโมทย์ ได้ตั้งค่ายมวยชื่อ ค่ายเลือดชาวฟ้า ได้รับลำดวลกับการะเวกเข้าทำงาน โดยบรรจุ ลำดวล เข้าทำงานในฝ่ายโยธา กองทัพอากาศ พร้อมกับแนะนำให้ลำดวลหัดมวยเพื่อหาลำไพ่พิเศษ จ่าตรีอ่อน ผู้ควบคุมดูแลนักมวยในค่าย ชอบพอสนิทสนมกับลำดวลและการะเวกเป็นพิเศษ สาเหตุเพราะทั้งสามคนชอบรำวง เมื่อมีคณะรำวงมาตั้งใกล้ๆ ค่ายอ่อนก็เป็นตัวการทำให้ลำดวลกับการะเวกได้หนีไปรำวงด้วยทุกคืน

จิ๋มลิ้ม หัวหน้าคณะรำวงชอบพอกับอ่อน เมื่อลำดวลได้แต่งเพลงรำวงไว้และอยากที่จะแสดงผลงานของตัว ก็ได้รับการสนับสนุนจากจิ๋มลิ้มเป็นอย่างดี เพลงชูชกสองกุมาร ของลำดวลได้รับกาารต้อนรับที่ดีจากประชาชนที่มารำวง ในคืนหนึ่ง ร.ท.ปราโมทย์ มาพบทั้งสามเข้า ทำให้ทั้งสามคนตกใจมาก แต่ ร.ท.ปราโมทย์ กลับแสดงความยินดีกับผลงานเพลงของลำดวล และย้ายลำดวลเข้าสู่กองดุริยางค์ทหารอากาศ

ที่กองดุริยางค์ทหารอากาศ ในระยะแรกลำดวลทำงานอยู่ฝ่ายการเงิน ได้รับยศเป็นจ่าตรี การะเวกและจ่าอ่อนก็ย้ายตามมาด้วย เนื่องจากบ้านพักเต็มทั้งสามคนจึงต้องมาขออาศัยที่บ้านพักของ จ่าแต้ม ที่บ้านของจ่าแต้มทั้งสามคนได้รับการขูดรีด และกดขี่จาก "นางแหว" เมียจ่าแต้มที่มีนิสัยเห็นแก่ตัวและปากร้ายเป็นที่สุด ทั้งสามคนได้หาทางแก้เผ็ดยายแหวทุกครั้ง ที่กองดุริยางคืทหารอากาศลำดวลได้รับความสนับสนุนจากนักร้องนักแต่งเพลงรุ่นพี่ ทำให้มีโอกาสแสดงผลงานที่แต่งและร้อง จนประชาชนให้ความนิยม และได้เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น สุรพล สมบัติเจริญ

ฝนหลงฟ้า (2511)

ฝนหลงฟ้า (2511/1968) ข้อความบนใบปิด วชิราภาพยนตร์ เสนอ ภาพยนตร์ชีวิตรัก ผลมน้ำตา ระหว่างหนุ่มไทย กับสาวเลือดภารตะ ใน ฝนหลงฟ้า เพชรน้ำหนึ่งของ ป.พิมล (แอ๊ด สมบัติ เมทะนี) เนาวรัตน์ วัชรา (เมตตา รุ่งรัตน์) นำแสดง พร้อมด้วยดาราชั้นนำ (มนัส บุณยเกียรติ), ถวัลย์ คีรีวัตร, (สุวิน สว่างรัตน์), วิน วิษณุรักษ์, อบ บุญติด, ประมินทร์ จารุจารีต, ทศ วงศ์งาม, จุ๋มจิ๋ม ศรทอง, วิชิต ไวงาน, เชาว์ แคล่วคล่อง, น้ำเพชร, ดาวน้อย ดวงใหญ่, พิภพ ภู่ภิญโญ, พีระ, ด.ช.ป๊อด ไวงาน ดาราเกียรติยศ จรัสศรี สายะศิลปี รอย ฤทธิรณ สร้างบทภาพยนตร์ เกรียงศักดิ์ ฤกษ์ชนะ กำกับการแสดง อุไร วชิรานนท์ อำนวยการสร้าง สร้าง บุญญากาญจน์ ธุรกิจ นิวัติ ศิลปะสมศักดิ์ ถ่ายภาพ สบายใจฟิล์ม จัดจำหน่าย

 
วังสีทอง (2511)
วังสีทอง (2511/1968) ข้อความบนใบปิด พรสุรีย์ภาพยนตร์ เสนอ ภาพยนตร์ชีวิต ประทับใจ ดีเยี่ยม มอบให้ (แอ๊ด สมบัติ เมทะนี) โสภา สถาพร รับบทใน... วังสีทอง ของ เยี่ยม พลอยบุศย์ ร่วมด้วย (เมตตา รุ่งรัตน์), (แก่นใจ มีนะกนิษฐ์), สุพรรณ บูรณะพิมพ์, พงษ์ลดา พิมลพรรณ, สมควร กระจ่างศาสตร์, (ชุมพร เทพพิทักษ์), จำรูญ หนวดจิ๋ม, วลิต สนธิรัตน์, ชูศรี โรจนประดิษฐ์, หมี หมัดแม่น, ปราณีต คุ้มเดช และ (ทนงศักดิ์ ภักดีเทวา) เฉลิม บุตรบุรุษ ถ่ายภาพ สุลาลีวัลย์ สุวรรณทัต อำนวยการสร้าง-กำกับการแสดง พรสุรีย์ภาพยนตร์ จัดจำหน่าย
ที่รักจ๋า (2511)
ที่รักจ๋า (2511/1968) ข้อความบนใบปิด กรุงเกษมภาพยนตร์ ภูมิใจเสนอภาพยนตร์...ที่เหนือกว่า และ ประทับใจกว่า มือนาง-โนรี-น้ำค้าง และ จันทร์เจ้า คือ... ที่รักจ๋า จากบทประพันธ์ ของ...ชุติมา สุวรรณรัต นำแสดงโดย (แอ๊ด สมบัติ เมทะนี) (พิศมัย วิไลศักดิ์) (ภาวนา ชนะจิต) ร่วมด้วย (เมตตา รุ่งรัตน์), ฤทธี นฤบาล, ชฎาพร วชิรปรานี, (ทานทัต วิภาตะโยธิน), ทัต เอกทัต, พูนสวัสดิ์ ธีมากร, ปราณีต คุ้มเดช, นวลศิริ, (สุคนธ์ คิ้วเหลี่ยม), ชื้นแฉะ, บังเละ, ลุงโกร่ง กางเกงแดง, ทศ วงศ์งาม ฯลฯ ส.อาสนจินดา กำกับการแสดง วิเชียร วีระโชติ ถ่ายภาพ พิมพร สร้างบทภาพยนตร์ แก้วฟ้า จัดแสดงเป็นละครวิทยุ ชุดา เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา อำนวยการสร้าง ศิวาพรฟิล์ม จัดจำหน่าย
ป่าลั่น (2511)
ป่าลั่น (2511/1968) ข้อความบนใบปิด อัมพรภาพยนตร์ สร้าง เพราะ...ลูกแม่ เกิดมาได้ชื่อว่า..ลูกกาฝาก ใจของแม่จึงร่ำร้องเรียกหาศักดิ์ศรี ของ สาวบ้านนอก... จึงขอนำท่านพบกับเรื่องราวอันล้นฟ้า จากภาพยนตร์มาตรฐาน... ป่าลั่น จากบทประพันธ์ของ เสนีย์ บุษปะเกศ มาสั่นสะเทือนอารมณ์ท่าน จากเหล่าดารายอดศิวิไล (พิศมัย วิไลศักดิ์) (แอ๊ด สมบัติ เมทะนี) (ภาวนา ชนะจิต) ร่วมด้วย (อดุลย์ ดุลยรัตน์), ฤทธี นฤบาล, อนุชา รัตนมาลย์, ปริม ประภาพร, (แก่นใจ มีนะกนิษฐ์), (อดินันท์ สิงห์หิรัญ), เชาว์ แคล่วคล่อง, สน่ำ, จำรูญ หนวดจิ๋ม, ทองฮะ, สีเทา, และด.ช.ภูมิภัทร์ นาวานุเคราะห์ อัมพร ประทีปเสน อำนวยการสร้าง สมาน ทองทรัพย์สิน ถ่ายภาพ สุวีระ กำกับการแสดง ร่วมใจฟิล์ม จัดจำหน่าย
ป้อมปืนตาพระยา (2511)
ป้อมปืนตาพระยา (2511/1968) ข้อความบนใบปิด เทพกรภาพยนตร์ สร้าง ป้อมปืนตาพระยา จากบทประพันธ์ของ อรชร เทพกร-ส.อาสนจินดา ร่วมมือกันครั้งไร เกรียงไกรและยิ่งใหญ่ทุกที... เหนือกว่า...ยิ่งใหญ่กว่า... ชุมทางเขาชุมทอง-ใจเพชร นำโดย 6 ดาราใหญ่ (แอ๊ด สมบัติ เมทะนี) (เปี๊ยก อรัญญา นามวงศ์) (เกชา เปลี่ยนวิถี) โสภา สถาพร (ชนะ ศรีอุบล) (เมตตา รุ่งรัตน์) ร่วมด้วย ฑัต เอกฑัต, ประมินทร์ จารุจารีต, (สุคนธ์ คิ้วเหลี่ยม), ชาญ กัมปนาท และดาราประกอบ ส.อาสนจินดา กำกับ อดุลย์ เศรษฐภักดี ถ่ายภาพ รัตน์ เศรษฐภักดี อำนวยการสร้าง
เลือดอาชาไนย (2511)

เลือดอาชาไนย (2511/1968) ข้อความบนใบปิด รังษิยาฟิล์ม เสนอให้พบความสำคัญครั้งยิ่งใหญ่ที่สุด... เลือดอาชาไนย ของ เพชร สถาบัน สุดยอดนวนิยายในนิตยสาร “บางกอก” มาเป็นหนังใหญ่ (แอ๊ด สมบัติ เมทะนี) (อี๊ด เพชรา เชาวราษฎร์) พบ สุรสิทธิ์ สัตยวงศ์, (เมตตา รุ่งรัตน์), (ชุมพร เทพพิทักษ์), ประมินทร์ จารุจารีต, ฤทธี นฤบาล, (แก่นใจ มีนะกนิษฐ์), สาหัส บุญหลง, นุสรา แสงรัตน์, จุ๋มจิ๋ม ศรทอง, ทศ และดาราสมทบทั่วประเทศ รังษิยา บรรณกร อำนวยการสร้าง สมาน ทองทรัพย์สิน ถ่ายภาพ ศักดา ธงชัย ดำเนินงาน สุวีระ กำกับการแสดง ร่วมใจฟิล์ม โดย สุพรรณ พราหมณ์พันธุ์ จัดจำหน่าย

 
สาวบ้านแต้ (2511)
สาวบ้านแต้ (2511/1968) นาวิน เจ้าหน้าที่หน่วยพัฒนาถูกส่งตัวมาเพื่อพัฒนาตำบลบ้านแต้ในภาคเหนือ เขาได้พบกับคำภูและเกิดสัมพันธ์รักกัน จนกระทั่งวันหนึ่ง นาวินได้รับจดหมายจากทางราชการให้เดินทางกลับไปยังกรุงเทพฯ และถูกบังคับให้แต่งงานกับอรพิน ผู้หญิงที่แม่เลือกให้ เวลาผ่านไปคำภูและสหายชาวบ้านแต้ตัดสินใจออกเดินทางไปตามหานาวินที่เมืองกรุง
น้ำอ้อย (2511)
น้ำอ้อย (2511/1968) ข้อความบนใบปิด นพรัตน์ภาพยนตร์ เสนอ น้ำอ้อย จากบทประพันธ์ ของ สุมนทิพย์.. นำแสดงโดย (มิตร ชัยบัญชา) (อี๊ด เพชรา เชาวราษฎร์) (อดุลย์ ดุลยรัตน์), (เมตตา รุ่งรัตน์), บุศรา นฤมิต, (ชฎาพร วชิรปราณี), (มนัส บุณยเกียรติ), (สมพล กงสุวรรณ), มานี มณีวรรณ, (อดินันท์ สิงห์หิรัญ), ธัญญา ธัญญารักษ์, อรสา อิศรางกูร และ ดอกดิน กัญญามาลย์ เชิญชมฉากเพลงเอก 3 เพลง 35 ม.ม.เสียงในฟิล์ม สีสวยสด เพลง “น้ำอ้อย” “ผีเสื้อ” และเพลง “แพรัก” พร้อม รุ่งรังสี สร้างบทภาพยนตร์ ดอกดิน กำกับการแสดง นพรัตน์ ศศิวิมลรักษ์ อำนวยการสร้าง สมาน ทองทรัพย์สิน ถ่ายภาพ กัญญามาลย์ภาพยนตร์ จัดจำหน่าย
บัวหลวง (2511)
บัวหลวง (2511/1968) มิตร-สุทิศา ข้อความบนใบปิด กมลศิลปภาพยนตร์ เสนอ สุขสันต์...เริงรื่น...ชื่นทรวง บัวหลวง 35 ม.ม.ซูเปอร์ซีเนมาสโคป สีอิสต์แมน (มิตร ชัยบัญชา) สุทิศา พัฒนุช ดาราสาวเงิน 2 ล้านคนใหม่ (รัตนาภรณ์ อินทรกำแหง ณ ราชสีมา), รัตนาภรณ์น้อย, ทัต เอกทัต, วีนัส ศรีประไพ, (ชูศรี มีสมมนต์), (ชฎาพร วชิรปราณี), สมพงษ์ พงษ์มิตร, (เทียว ธารา), (สุคนธ์ คิ้วเหลี่ยม), ทองฮะ โอฬารตระการตาด้วย 8 เพลงเอกเสียงในฟิล์ม น้อย กมลวาทิน กำกับการแสดง (รัตนาภรณ์ อินทรกำแหง ณ ราชสีมา) อำนวยการสร้าง ศานิต รุจิรัตน์ตระกูล ถ่ายภาพ กัญญามาลย์ภาพยนตร์ จัดจำหน่าย
แม่นาคคะนองรัก (2511)
แม่นาคคะนองรัก (2511/1968) ข้อความบนใบปิด เสน่ห์ศิลป์ภาพยนตร์ เสนอ ปรียา รุ่งเรื่อง (ชุมพร เทพพิทักษ์) ฤทธี นฤบาล แม่นาคคะนองรัก หนังผี หนังดัง ต้อง เสน่ห์ สร้าง (แก่นใจ มีนะกนิษฐ์), นุสรา แสงรัตน์, หยาดรุ้ง ระพี พร้อมด้วย (ล้อต๊อก), สมพงษ์ พงษ์มิตร, ทองฮะ, ขวัญ, ยรรยงค์, ดาวน้อย ดวงใหญ่, ลุงโกร่ง กางเกงแดง ขอเสนอ กันทิมา ดาราพันธ์ สันทัด ถ่ายภาพ (เสน่ห์ โกมารชุน) กำกับการแสดง (ที่มา :Thai Movie Posters)
แสนงอน (2511)
แสนงอน (2511/1968) ข้อความบนใบปิด นำโดย (แอ๊ด สมบัติ เมทะนี) (อี๊ด เพชรา เชาวราษฎร์) (เมตตา รุ่งรัตน์), ส.อาสนจินดา, พงษ์ลดา พิมลพรรณ, ชาณีย์ ยอดชัย, รอย อัมรินทร์, นภาพร หงสกุล, พิภพ ภู่ภิญโญ, ปราณีต คุ้มเดช, สุริยน, ม๋วย, แอ๋, วัชราภรณ์ ชุมนุมดาวตลก (สุคนธ์ คิ้วเหลี่ยม), (ล้อต๊อก), ทองฮะ, สนิท, ทองถม, ชื้นแฉะ, สมโภช, ประยง, สนั่น, ดาวน้อย, ผล แสนงอน จากบทประพันธ์ ของ มณเฑียรทอง (สุคนธ์ คิ้วเหลี่ยม) อำนวยการสร้าง กฤษณมิตร ถ่ายภาพ เบญจมินทร์ กำกับ ศิวาพรฟิล์ม จัดจำหน่าย
คุณหนู (2511)
คุณหนู (2511/1968) ข้อความบนใบปิด มีชัยภาพยนตร์ เสนอ ยอดภาพยนตร์ประทับจิต จากชีวิตจริงที่แสนประทับใจ คุณหนู ของ จำลักษณ์ นำโดย (แอ๊ด สมบัติ เมทะนี) โสภา สถาพร (ชนะ ศรีอุบล), (เมตตา รุ่งรัตน์), (ชุมพร เทพพิทักษ์), น้ำเงิน บุญหนัก, (แก่นใจ มีนะกนิษฐ์), (สุคนธ์ คิ้วเหลี่ยม), ปราณีต คุ้มเดช, สมาน, สีเทา สมควร กระจ่างศาสตร์ กำกับการแสดง เทวินทร์ สุขศิลา ถ่ายภาพ ชัช อักษร สร้างบท สนั่น จรัสศิลป์ ลำดับภาพ มีชัย จักราช ดำเนินงานสร้าง สุวรรณา สีจันทรางกูร อำนวยการสร้าง
สันกำแพง (2511)
สันกำแพง (2511/1968) กาญจน์ (แอ๊ด สมบัติ เมทะนี) กับ ตะวัน (เสกสรร สัตยา) เป็นเพื่อนรักกัน เรียนแม่โจ้ที่เดียวกัน กาญจน์รักใคร่ชอบพอกับสายไหม (เปี๊ยก อรัญญา นามวงศ์) โดยมีตะวันเป็นพ่อสื่อให้ ขณะเดียวกันเคลีย (ปริม ประภาพร) ซึ่งเป็นเพื่อนรักของสายไหมก็แอบชอบกาญจน์ แต่กาญจน์ไม่เล่นด้วย ส่วนตะวันก็ชอบเคลีย แต่เคลียไม่ชอบตะวัน เมื่อเคลียรู้ว่า กาญจน์จะกลับกรุงเทพฯเพื่อไปเรียนต่อ เคลียซึ่งต้องการหนีความเจ้าชู้ของบุญทัณฑ์ (เมืองเริง ปัทมินทร์) สามีใหม่ของแม่จึงแอบขึ้นรถไฟไปพร้อมกับกาญจน์โดยกาญจน์ไม่รู้ตัว ทำให้ตะวันเข้าใจผิดในตัวกาญจน์ความเป็นสุภาพบุรุษของกาญจน์ ทำให้กาญจน์ต้องพาเคลียไปพักอาศัยอยู่ที่บ้านของตน แต่ก็ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกันในเชิงชู้สาวแม้เคลียจะพยายามอ่อยเหยื่อแล้วก็ตาม ฝ่ายตะวันเข้าใจผิดว่า กาญจน์พาเคลียหนีไปทั้งๆ ที่รู้ว่าตะวันนั้นชอบเคลีย แม้สายไหมจะพยายามอธิบายว่า กาญจน์ไม่ได้รักเคลีย แต่ตะวันก็ไม่ฟัง แล้วต่อมาจู่ๆ เคลียก็เกิดตั้งท้องขึ้นมากาญจน์เดินทางมาเชียงใหม่เพื่ออธิบายเรื่องเคลียตั้งท้องให้ตะวันฟัง ตะวันเชื่อว่า เคลียไม่ได้ท้องกับกาญจน์เพราะก่อนหน้านั้น ตะวันก็เคยได้เสียกับเคลียมาก่อน ตะวันจึงนัดให้กาญจน์ไปปรับความเข้าใจกับสายไหมที่กระท่อมสายน้ำผึ้ง คืนนั้นทั้งคู่ได้เสียกัน สายไหมตัดเปียไหมให้กาญจน์ไว้เป็นพยานรัก จากนั้นกาญจน์ก็เดินทางกลับกรุงเทพฯต่อมาสายไหมตั้งท้องจึงไปหากาญจน์ที่กรุงเทพฯ แต่ไม่พบกาญจน์ พบแต่เคลียซึ่งกำลังท้องแก่อยู่ในบ้าน ทำให้สายไหมสงสัยว่าที่กาญจน์หายเงียบไปเพราะทำเคลียท้องหรือเปล่า ส่วนเคลียเองก็แสร้งทำเป็นว่า ตนเองเป็นเมียของกาญจน์ สายไหมหลงเชื่อจึงเดินทางกลับเชียงใหม่ด้วยความชอกช้ำโดยลืมเปียไหมทิ้งไว้ที่บ้านกาญจน์เมื่อสายไหมกลับถึงบ้านที่เชียงใหม่ก็พบว่าแม่เสียชีวิตแล้ว ก็ยิ่งทำให้เศร้าใจ สายไหมวิ่งไปน้ำตกวังบัวบานหมายจะฆ่าตัวตาย แต่ตะวันก็มาช่วยไว้ได้ทัน ตะวันรู้ว่า สายไหมตั้งท้องกับกาญจน์ แต่เมื่อกาญจน์ไม่ยอมรับเป็นพ่อเด็ก ตะวันซึ่งรักสายไหมอยู่แล้วจึงรับที่จะแต่งงานกับสายไหมเพื่อช่วยแก้หน้าโดยสัญญาว่า จะแต่งงานแต่ในนาม จะไม่ล่วงเกินสายไหม สายไหมจึงยอมแต่งงานกับตะวันเมื่อกาญจน์กลับมาบ้านก็เห็นเปียไหมตกอยู่ จำได้ว่าเป็นของสายไหม จึงรีบตามไปเชียงใหม่ เมื่อไปถึงก็เป็นวันแต่งงานของสายไหมกับตะวันแล้ว กาญจน์เข้าใจว่า สายไหมหมดรักตนจึงเกิดการชกต่อยกับตะวัน จากนั้นกาญจน์ก็เดินทางกลับกรุงเทพฯ ส่วนเคลียเมื่อรู้ว่าตนทำผิดมหันต์ หลังคลอดลูกแล้วก็ทิ้งลูกชายไว้ให้กาญจน์เลี้ยง ส่วนตนเองก็หนีออกจากบ้านไปหมายจะกระโดดน้ำตาย แต่คุณชาย (ชนะ ศรีอุบล) ก็มาช่วยเคลียไว้ได้ทัน กาญจน์ตามมาหาเคลียก็พบแต่ร่มตกอยู่บนสะพาน ก็คิดว่า เคลียฆ่าตัวตายไปแล้ว จึงรับเลี้ยงลูกชายของเคลียไว้ ส่วนเคลียนั้นก็ได้รับชีวิตใหม่กับคุณชายเวลาผ่านไป 20 ปี ลูกของเคลียที่กาญจน์รับเลี้ยงไว้ก็โตเป็นหนุ่มชื่อว่า สุริยน (แอ๊ด สมบัติ เมทะนี) ส่วนลูกของสายไหมก็โตเป็นสาวชื่อ สายน้ำผึ้ง (สุทิศา พัฒนุช) สุริยนทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ป่าไม้ที่เชียงใหม่และได้รู้จักกับสายน้ำผึ้งซึ่งดูแลปางไม้ของพ่อเลี้ยงตะวัน ฝ่ายพ่อเลี้ยงตะวันก็มีความสัมพันธ์กับรัญจวน (หยาดรุ้ง ระพี) โดยไม่รู้ว่ารัญจวนเป็นสายของศัตรูวันหนึ่งขณะที่สุริยนกำลังจะเข้าไปพบพ่อเลี้ยงตะวันในปางไม้ รัญจวนเห็นสุริยนก่อนก็แกล้งทำเป็นจมน้ำให้สุริยนช่วย สุริยนหลงเชื่อก็เข้าไปช่วย แต่พอจับได้ว่าเป็นมารยาหญิง สุริยนก็ผละจากรัญจวนไปซึ่งเป็นเวลาเดียวกับเมฆ (สุวิน สว่างรัตน์) ที่แอบดูรัญจวนอาบน้ำอยู่ก่อน ก็เข้าสวมรอยข่มขืนและฆ่ารัญจวนตาย พ่อเลี้ยงตะวันก็เข้าใจผิดว่า สุริยนเป็นคนฆ่ารัญจวนจึงให้ลูกน้องไปจับตัวสุริยนมาทรมาน สายน้ำผึ้งเข้าช่วยสุริยน แต่ก็ถูกพ่อเลี้ยงตะวันตบสั่งสอนสายไหมก็ส่งข่าวร้ายนี้ให้กาญจน์รู้ว่า สุริยนถูกพ่อเลี้ยงตะวันจับตัวไปหมายจะฆ่าให้ตาย กาญจน์จึงเดินทางมาเชียงใหม่เพื่อจะมาบอกว่า สุริยนนั้นเป็นลูกของตะวันเอง แต่ยังไม่ทันได้บอกอะไร ก็เกิดการดวลมีดกับพ่อเลี้ยงตะวันก่อน สายไหมพาคนงานมาช่วยสุริยนและสายน้ำผึ้ง เมื่อสุริยนเห็นกาญจน์กำลังเพลี่ยงพล้ำก็ขว้างมีดไปหมายจะให้ถูกพ่อเลี้ยงตะวัน แต่กาญจน์ก็ผลักพ่อเลี้ยงตะวันออกไปและโดดมีดปักหลังแทนกาญจน์จึงบอกความจริงว่า พ่อเลี้ยงตะวันนั่นแหละเป็นพ่อของสุริยน สุริยนเป็นลูกที่เกิดจากเคลีย ขณะนั้นพ่อเลี้ยง (ชุมพร เทพพิทักษ์) ซึ่งเป็นอริทางการค้าไม้กับพ่อเลี้ยงตะวันก็พาพวกมาบุกยิงถูกพ่อเลี้ยงตะวัน ก่อนที่พ่อเลี้ยงจะสิ้นใจได้บอกความจริงว่า สายไหมก็ไม่ใช่ลูกของตน แต่เป็นลูกของกาญจน์ เมื่อทุกฝ่ายเข้าใจกันดีแล้ว สุริยนก็ได้แต่งงานกับสายน้ำผึ้งท่ามกลางความรัก ความอบอุ่นของผู้ที่เป็นพ่อแม่
ทรายแก้ว (2511)
ทรายแก้ว (2511/1968) สมบัติ-เนาวรัตน์ วัชรา ข้อความบนใบปิด เบญจมิตรภาพยนตร์ เสนอ ทรายแก้ว จากละครวิทยุคณะ รุ่งฤดี นำโดย (แอ๊ด สมบัติ เมทะนี) เนาวรัตน์ วัชรา อนุชา รัตนมาลย์, ปริม ประภาพร, วิน วิษณุรักษ์, (พร ไพโรจน์), (ศรินทิพย์ ศิริวรรณ), (มนัส บุณยเกียรติ), รังสิมา, (สุคนธ์ คิ้วเหลี่ยม), สีเทา ขอแนะนำ เยาวลักษณ์ พนมกร แสวง ดิษยวรรธนะ ถ่ายภาพ สวัสดิ์ วิเศษพงษ์ อุปการะ บทละครวิทยุของ วิจิตร์ สุวรรณสันต์ ปริญญา ลีละศร กำกับการแสดง ศิวาพรฟิล์ม จัดจำหน่าย
พันดง (2511)
พันดง (2511/1968) ข้อความบนใบปิด รัตนเดชาภาพยนตร์ สร้าง พันดง จากบทประพันธ์ ของ อ้อย อัจฉริยกร (แอ๊ด สมบัติ เมทะนี) โสถา สถาพร พัลลภ พรพิษณุ, เยาวเรศ นิสากร, สัมพันธ์, อบ บุญติด, สิงห์ มิลินทราศัย, ชาณีย์ ยอดชัย, พิภพ ภู่ภิญโญ, (เมืองเริง ปัทมินทร์), (พร ไพโรจน์), ไกร ครรชิต, ราม, (แก่นใจ มีนะกนิษฐ์), เชิง, สมถวิล, ดาวน้อย ดวงใหญ่ แสดงนำ ไกรสร โกศลวิจิตร์ สร้าง-กำกับบท จากละครวิทยุฮิทของคณะ รุ่งฤดี ปริญญา ลีละศร กำกับการแสดง แสวง ดิษยวรรธนะ ถ่ายภาพ อดิสักดิ์ รัตนศักดิ์วิบูลย์ อำนวยการสร้าง ศิวาพรฟิล์ม จัดจำหน่าย
แมวไทย (2511)
แมวไทย (2511/1968) ข้อความบนใบปิด นันทนาครภาพยนตร์ เสนอ ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตการสร้าง ของ...ชรินทร์ นันทนาคร แมวไทย จากบทประพันธ์ ของ ทมยันตี (มิตร ชัยบัญชา) (อี๊ด เพชรา เชาวราษฎร์) และสองดาราทองพระราชทาน ชรินทร์ นันทนาคร ลินจง บุนนากรินทร์ ร่วมด้วย ทัต เอกทัต, อบ บุญติด, (ปรียา รุ่งเรือง), วาสนา ชลากร, (อดินันท์ สิงห์หิรัญ), (ล้อต๊อก) และด.ช.ตุ๊ดตู่-ตุ๊ดติ่ง ทัศนพยัคฆ์ ดาราเกียรติยศ วีรบุรุษแชมป์โลก ชาติชาย เชี่ยวน้อย พร้อมด้วยคณะ 3 ศักดิ์ (รังสี ทัศนพยัคฆ์) กำกับการแสดง ฉลอง ภักดีวิจิตร ถ่ายภาพ ส.อาสนจินดา สร้างบท นันทวัต กำกับบท ชรินทร์ นันทนาคร อำนวยการสร้าง กัญญามาลย์ภาพยนตร์ จัดจำหน่าย
ผีท้องกลม (2511)

ผีท้องกลม (2511/1968) ภูมิ-ทัศนีย์ ข้อความบนใบปิด กุหลาบทิพย์ภาพยนตร์ เสนอ ยอดหนังผีที่กำลังลือลั่น ตื่นเต้น สยองขวัญ สนุกสนาน เฮฮา ผีท้องกลม นำแสดงโดย 35 ดารา ภูมิ เพชรพนม, ทัศนีย์ ลาวัลย์, ศักดิ์ ศรีภูมิ, นิตยา แสงทอง, ถวัลย์ คีรีวัต, (เมืองเริง ปัทมินทร์), ราม ราเมศร์, (ทานทัต วิภาตะโยธิน) ฯลฯ ร่วมด้วย ดาวตลก (หม่อมชั้น พวงวัน), (ล้อต๊อก), (สุคนธ์ คิ้วเหลี่ยม), ชื้นแฉะ, ขวัญ สุวรรณะ, ปราณีต คุ้มเดช, ท้วม ทรนง, แป๊ะอ้วน, ขุนแผน-ถนอม, ก๊กเฮง และทองฮะ สุเพ็ญ ทุมมานนท์ อำนวยการสร้าง เจริญ สุวรรณฤทธิ์ สร้างบท-กำกับการแสดง นิวัฒน์ ศิลปะสมศักดิ์ ถ่ายภาพ กริช กำจาย กำกับบท (ที่มา :Thai Movie Posters)

กำพร้า (2511)
กำพร้า (2511/1968) ข้อความบนใบปิด เสรีภาพยนตร์ เสนอ ยอดภาพยนตร์ที่สะท้อนชีวิตจริง ของเด็กสาวซึ่งเกิดมาเพื่อต่อสู้ชะตากรรม ทั้งระทมขมขื่น ทั้งสดชื่นซาบซึ้ง ทั้งขบขันหรรษาฮากันตึง... กำพร้า ของ ป.พิมล นำโดย (มิตร ชัยบัญชา) (อี๊ด เพชรา เชาวราษฎร์) ร่วมด้วย (เมตตา รุ่งรัตน์), วิไลวรรณ วัฒนพานิช, กิ่งดาว ดารณี, ฑัต เอกฑัต, (ปรียา รุ่งเรือง), (แมน ธีระพล), (ชุมพร เทพพิทักษ์), (อดินันท์ สิงห์หิรัญ), (ชฎาพร วชิรปราณี), สมควร กระจ่างศาสตร์, (สุวิน สว่างรัตน์), (เทียว ธารา), มาลี เวชประเสริฐ, ชูศรี โรจนประดิษฐ์, (สุคนธ์ คิ้วเหลี่ยม), สมพงษ์ พงษ์มิตร, (ล้อต๊อก), ก๊กเฮง (รังสี ทัศนพยัคฆ์) กำกับการแสดง กิตติ ประสพสุข อำนวยการสร้าง ธีระ แอคะรัจน์ ถ่ายภาพ
ไอ้หนึ่ง (2511)

ไอ้หนึ่ง (2511/1968) ชีวิตของเด็กน้อยผู้บริสุทธิ์ดุจหยาดน้ำค้างกลางกลีบมะลิ ซึ่งกว่าพายุฝนแห่งชะตากรรมนำพาเธอจากคฤหาสน์อันโอ่อ่า มาสู่กระท่อมเซซังหลังคาโหว่ เติบโตสู่ความเป็นสาวที่ทุ่งนา จนใครๆเรียกเธอว่า...ไอ้หนึ่ง

7 ป่าช้า (2511)

7 ป่าช้า (2511/1968) ข้อความบนใบปิด สุริยนโปรดักชั่น เสนอ... ใหญ่ยิ่งกว่า ผี! ทั้งหลาย หวาดเสียว สยดสยอง เฮฮากว่าใครๆ 7 ป่าช้า นำโดย ดาราใหญ่ สุรสิทธิ์ สัตยวงศ์ วิน วิษณุรักษ์ ศิริมา, ประมินทร์ จารุจารีต, ถวัลย์ คีรีวัต, ชูศรี โรจนประดิษฐ์, เทียนชัย, (เมืองเริง ปัทมินทร์), ทศ, ยอดลักษณ์, พีระ, พิภพ ภู่ภิญโญ, (ล้อต๊อก), สมพงษ์ พงษ์มิตร, ดาวน้อย ดวงใหญ่, สีเทา, ทองฮะ, แป๊ะอ้วน, บังเละ, เปลวใจ หทัยทิพย์, ก๊กเฮง, ยรรยงค์, ทอมมี่ และผู้แสดงสมทบนับร้อย พร้อมด้วยดาราผี (ปรียา รุ่งเรือง) ชาณีย์ ยอดชัย มานี มณีวรรณ, อุไรวรรณ จันทร์ทิพย์, จุ๋มจิ๋ม ศรทอง, ปราณีต คุ้มเดช ขอเสนอเทพี 7 ตำแหน่ง ขวัญใจวัยรุ่นคนใหม่ อัจฉรา อัจฉราวรรณ สุริยน ดวงทองดี อำนวยการสร้าง นิวัติ ศิลปสมศักดิ์ ถ่ายภาพ เกรียงศักดิ์ ฤกษ์ชนะ กำกับการแสดง สว่าง บุญกาญจน์ ผู้จัดการธุรกิจ สนั่นศิลปภาพยนตร์ จัดจำหน่าย

 
อกธรณี (2511)
อกธรณี (2511/1968) เรื่องราวชีวิตสุดรันทดของกำไล หญิงสาวผู้แอบรักลอย ชายหนุ่มที่เติบโตและเล่นด้วยกันมาแต่เด็ก แต่ลอยกลับกำลังจะแต่งงานกับสารภี พี่สาวของเธอ คืนหนึ่ง ด้วยความเข้าใจผิดคิดว่ากำไลคือสารภี ทำให้ลอยเผลอได้เสียกับเธอ เหตุการณ์นี้ถึงกับทำให้แม่ของกำไลซึ่งเป็นโรคหัวใจเสียชีวิตอย่างกะทันหัน ชีวิตรักของสารภีและลอยจึงขาดสะบั้น ซ้ำกำไลยังตั้งท้องลูกของลอย เมื่อคลอดลูกได้ไม่นาน สารภีจึงทิ้งลอยไปคบกับเศรษฐีอย่างไม่ใยดีลอยตัดสินใจนำลูกมาฝากไว้กับกำไล แล้วก็หายสาบสูญไป วันเวลาผ่านไป เมื่อเด็กน้อยที่มีนามว่า ไผ่ ได้โตเป็นสาว สารภีได้เดินทางกลับมา เนื่องจากทราบข่าวว่าลอยมีมรดกตกทอดอันมหาศาลมาถึงไผ่ ด้วยความโลภ สารภีจึงพร้อมทำทุกอย่างเพื่อช่วงชิงสมบัตินี้ แม้จะต้องวางแผนการร้ายต่อลูกสาวแท้ๆ ของเธอ
ดอกบัว (2511)
ดอกบัว (2511/1968) ข้อความบนใบปิด กรนิมิตรภาพยนตร์ เสนอ อื้อฉาว เกรียวกราวที่สุดแห่งยุค ชิงชื่อ แย่งชื่อ ชิงโรง เพราะสูงด้วยคุณภาพ ยิ่งใหญ่ด้วยการรวมน้ำใจ นั่นคือ ดอกบัว ของ วิจิตร สุวรรณสันต์ ละครวิทยุคณะ รุ่งฤดี ตั้งแต่เกิดมา ท่านก็เทิดทูน “ดอกบัว” นำโดย (มิตร ชัยบัญชา) (อี๊ด เพชรา เชาวราษฎร์) (อดุลย์ ดุลยรัตน์), (เมตตา รุ่งรัตน์), อภิญญา วีระขจร, อนุชา รัตนมาลย์, (ชุมพร เทพพิทักษ์), ฤทธี นฤบาล, (บุษกร สาครรัตน์), พงษ์ลดา พิมลพรรณ, โยธิน เทวราช, ใจดาว บุษยา, เชาว์ แคล่วคล่อง, (มนัส บุณยเกียรติ), วงศ์ ศรีสวัสดิ์, สิงห์ มิลินทราศัย, จุ๋มจิ๋ม ศรทอง, (เทียว ธารา), แป้น ปลื้มสระไชย, เชาว์ มีคุณสุต, สีเทา, ดาวน้อย ดวงใหญ่, (สุคนธ์ คิ้วเหลี่ยม), (ชูศรี มีสมมนต์), ด.ญ.น้อยหน่า, ด.ช.วโรดม ร่วมแสดง (มิตร ชัยบัญชา) ที่ปรึกษา ชาย นิมิตโชตินัย อำนวยการสร้าง วินิจ ภักดีวิจิตร ถ่ายภาพ จิตติน กำกับการแสดง สมโภชน์ ล้ำพงษ์ สร้างเพลง วัชรภาพยนตร์ จัดจำหน่าย
เพชรตะวัน (2511)
เพชรตะวัน (2511/1968) ข้อความบนใบปิด สหชัยภาพยนตร์ ผู้สร้าง เหนือเกล้า เสนอภาพยนตร์สุดจิต ซาบซึ้ง ตรึงชีวัน...ใน เพชรตะวัน จากบทประพันธ์ของ สุรพล โทณะวณิก (มิตร ชัยบัญชา)-บำเทอง โชติชูตระกูล ที่ปรึกษา ประเทือง ตรีเมฆ อำนวยการสร้าง (รังสี ทัศนพยัคฆ์) กำกับการแสดง ธีระ แอคะรัจน์ ถ่ายภาพ ชาลี อินทรวิจิตร ประพันธ์เพลง นันทวัติ กำกับบท นำโดย (มิตร ชัยบัญชา) (อี๊ด เพชรา เชาวราษฎร์) ร่วมด้วย (ชนะ ศรีอุบล), กิ่งดาว ดารณี, วิไลวรรณ วัฒนพานิช, วิน วิษณุรักษ์, (สมจิตร ทรัพย์สำรวย), สมควร กระจ่างศาสตร์, (อดินันท์ สิงห์หิรัญ), (ชุมพร เทพพิทักษ์), ฤทธี นฤบาล, โยธิน เทวราช, สุระ นานา, (ชฎาพร วชิรปราณี), (มนัส บุณยเกียรติ), (ล้อต๊อก), (สุคนธ์ คิ้วเหลี่ยม), (ชูศรี มีสมมนต์), และด.ช.ตุ๊ดตู่-ตุ๊ดติ่ง ทัศนพยัคฆ์ ศิวาพรฟิล์ม จัดจำหน่าย
เงินจ๋าเงิน (2511)

เงินจ๋าเงิน (2511/1968) เนื้อเรื่องสนุกสนานเล่าเรื่องพระเอกและนางเอกที่ต่างก็ยากจนทั้งคู่ แต่คิดจะรวยทางลัดด้วยการหาคู่ครองที่ร่ำรวย เลยปลอมตัวเป็นคนรวย แล้วประกาศหาคู่ จึงได้พบกันโดยไม่รู้ว่าอีกฝ่ายก็จนเหมือนกัน แต่สุดท้ายฝ่ายหนึ่งก็กลายเป็นทายาทเศรษฐีขึ้นมาจริงๆ

พรายพิศวาส (2511)
พรายพิศวาส (2511/1968) จากอุบัติเหตุรถพลิกคว่ำทำให้ อ๊อด ทนายหนุ่มเจ้าสำราญ ต้องเสียชีวิตกลายเป็นวิญญาณเร่ร่อนเที่ยวได้พบเห็นความลับต่าง ๆ ที่ไม่เคยรู้มาก่อน จนกระทั่งเขาได้พบกับดวงวิญญาณของอานุช ที่มาขอร้องให้ช่วย หน่อย ลูกสาวของเธอซึ่งประสบอุบัติเหตุตกอยู่ในเหว เรื่องราววุ่น ๆ จึงเกิดขึ้นเมื่อได้พบว่าดวงชะตาของเขายังไม่ถึงฆาต พญายมจึงส่งอ๊อดกลับสู่โลกมนุษย์อีกครั้ง
ดอกอ้อ (2511)
ดอกอ้อ (2511/1968) ดอกอ้อ เมื่อตอนยังเล็กๆ อาศัยอยู่และหนีตายข้ามโขงมายังฝั่งไทยกับแม่และป้าแหวน (มนัส บุญยเกียรติ) ซึ่งเป็นแม่นม ระหว่างหลบหนีมานั้น แม่ก็ถูกฆ่าตาย ส่วนป้าแหวนก็ถูกยิงได้รับบาดเจ็บและพลัดหลงกัน แม่ครูพร (ศรินทิพย์ ศิริวรรณ) ซึ่งเป็นเจ้าของโรงเรียนพรพิทยา เห็นเหตุการณ์จึงช่วยนางเอกซึ่งมีชื่อว่า อ๋อ มาเลี้ยงไว้แทน แต่เพราะเห็นว่าชื่อ อ๋อ นั้นไม่ค่อยจะเพราะ แม่ครูพรจึงเปลี่ยนชื่อให้ใหม่ว่า ดอกอ้อ (เพชรา เชาวราษฏร์) ส่วนชื่อจริงๆ ของดอกอ้อ ก็คือ กมลมาศ สิทธิกร ซึ่งสลักไว้ในเหรียญห้อยคอที่ติดตัวดอกอ้อมานั่นเอง 15 ปีต่อมา ดอกอ้อก็โตเป็นสาวและเป็นครูสอนที่โรงเรียนของแม่ครูพร โดยมีเพื่อนซี้อยู่สองคนซึ่งแม่ครูพรเลี้ยงมาพร้อมๆ กันคือ เมี่ยง (ดอกดิน กัญญามาลย์) ทำหน้าที่เป็นภารโรง ส่วน เอื้องคำ (อรสา อิศรางกูร ณ อยุธยา) นั้นเป็นแม่ครัว นอกจากนี้ยังมี ภาณี (ชฎาพร วชิรปราณี) ซึ่งแม่ครูพรเลี้ยงมาแต่เด็กๆ แต่ภาณีไม่ค่อยจะถูกชะตากับดอกอ้อ วันหนึ่ง พิทักษ์ (แมน ธีระพล) ซึ่งได้รับมรดกที่ดินโรงเรียนที่แม่ครูพรเช่าก็ขอขึ้นค่าเช่าที่ดิน ภาณีจึงได้รู้จักสนิทสนมกับพิทักษ์ ต่อมาแม่ครูพรก็มอบสายสร้อยและเหรียญสลักชื่อสกุลให้ดอกอ้อ ทำให้ภาณีไม่พอใจ ดอกอ้อจึงตัดความรำคาญยกสายสร้อยของตนเองให้ภาณีไปโดยไม่รู้ว่านั่นเป็นสร้อยนามสกุลของตนเอง ดอกอ้อ เมี่ยงและเอื้องคำ พานักเรียนไปเที่ยวป่าและหลงป่าจึงได้พบกับผู้การวิคุณ ((อดุลย์ ดุลยรัตน์)) ที่ไล่ยิงพวกคนร้ายผ่านมา วิคุณสนใจในตัวดอกอ้อ ส่วนภาณีนั้นก็ขโมยเงินแม่ครูหนีเข้ากรุงเทพฯ ดอกอ้อจะไปตามภาณี แต่เกิดการยิงกันและมีชายคนหนึ่งถูกยิงบาดเจ็บมาซ่อนตัวในโรงเรียน เขาบอกแต่ชื่อว่า นายอ่อน ((มิตร ชัยบัญชา)) ดอกอ้อสงสารจึงช่วยเหลือนายอ่อนจนอาการดีขึ้น แท้จริงแล้ว นายอ่อนก็คือ เจ้าตรีทศวงศ์ นายพลทหารบกลาว ซึ่งหนีภัยการเมืองและกำลังถูกนายพิทักษ์กับพวกที่รับจ้างทหารลาวตามฆ่า ผู้การวิคุณจึงวางแผนให้เจ้าตรีทศวงศ์ไปหลบซ่อนตัวอยู่ที่บ้านของพี่สุทธิ (สุวิน สว่างรัตน์) ในกรุงเทพฯ โดยวางแผนให้เห็นว่า นายอ่อนถูกยิงตายและทหารไทยนำศพไป ทำให้ดอกอ้อซึ่งไม่รู้แผนนี้เสียใจเพราะเริ่มมีใจให้นายอ่อนแล้ว ต่อมาพิทักษ์พูดสู่ขอดอกอ้อกับแม่ครู แต่ครูไม่ชอบนิสัยนักเลงของพิทักษ์ จึงให้ดอกอ้อหนีไปเรียนต่อในกรุงเทพฯ ฝ่ายนายอ่อนเมื่อมาอยู่กรุงเทพฯ ก็ปลอมตัวเป็นคนตาบอดชื่อนายนิ่มและสนิทสนมกับลูกสาวพี่สุทธิซึ่งตาบอดเช่นกันชื่อว่า อ้อย (ด.ญ.จิระวดี อิศรางกูร ณ อยุธยา) ส่วนนายทักษ์เมื่อรู้ว่า แม่ครูกีดกันไม่ให้แต่งงานกับดอกอ้อ ก็ลอบเผาโรงเรียนทิ้ง ครูพรจึงต้องเข้ากรุงเทพฯไปอยู่กับดอกอ้อ