สันกำแพง

สันกำแพง (2511/1968) กาญจน์ (สมบัติ เมทะนี) กับ ตะวัน (เสกสรร สัตยา) เป็นเพื่อนรักกัน เรียนแม่โจ้ที่เดียวกัน กาญจน์รักใคร่ชอบพอกับสายไหม (อรัญญา นามวงษ์) โดยมีตะวันเป็นพ่อสื่อให้ ขณะเดียวกันเคลีย (ปริม ประภาพร) ซึ่งเป็นเพื่อนรักของสายไหมก็แอบชอบกาญจน์ แต่กาญจน์ไม่เล่นด้วย ส่วนตะวันก็ชอบเคลีย แต่เคลียไม่ชอบตะวัน เมื่อเคลียรู้ว่า กาญจน์จะกลับกรุงเทพฯเพื่อไปเรียนต่อ เคลียซึ่งต้องการหนีความเจ้าชู้ของบุญทัณฑ์ (เมืองเริง ปัทมินทร์) สามีใหม่ของแม่จึงแอบขึ้นรถไฟไปพร้อมกับกาญจน์โดยกาญจน์ไม่รู้ตัว ทำให้ตะวันเข้าใจผิดในตัวกาญจน์ ความเป็นสุภาพบุรุษของกาญจน์ ทำให้กาญจน์ต้องพาเคลียไปพักอาศัยอยู่ที่บ้านของตน แต่ก็ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกันในเชิงชู้สาวแม้เคลียจะพยายามอ่อยเหยื่อแล้วก็ตาม ฝ่ายตะวันเข้าใจผิดว่า กาญจน์พาเคลียหนีไปทั้งๆ ที่รู้ว่าตะวันนั้นชอบเคลีย แม้สายไหมจะพยายามอธิบายว่า กาญจน์ไม่ได้รักเคลีย แต่ตะวันก็ไม่ฟัง แล้วต่อมาจู่ๆ เคลียก็เกิดตั้งท้องขึ้นมา กาญจน์เดินทางมาเชียงใหม่เพื่ออธิบายเรื่องเคลียตั้งท้องให้ตะวันฟัง ตะวันเชื่อว่า เคลียไม่ได้ท้องกับกาญจน์เพราะก่อนหน้านั้น ตะวันก็เคยได้เสียกับเคลียมาก่อน ตะวันจึงนัดให้กาญจน์ไปปรับความเข้าใจกับสายไหมที่กระท่อมสายน้ำผึ้ง คืนนั้นทั้งคู่ได้เสียกัน สายไหมตัดเปียไหมให้กาญจน์ไว้เป็นพยานรัก จากนั้นกาญจน์ก็เดินทางกลับกรุงเทพฯ ต่อมาสายไหมตั้งท้องจึงไปหากาญจน์ที่กรุงเทพฯ แต่ไม่พบกาญจน์ พบแต่เคลียซึ่งกำลังท้องแก่อยู่ในบ้าน ทำให้สายไหมสงสัยว่าที่กาญจน์หายเงียบไปเพราะทำเคลียท้องหรือเปล่า ส่วนเคลียเองก็แสร้งทำเป็นว่า ตนเองเป็นเมียของกาญจน์ สายไหมหลงเชื่อจึงเดินทางกลับเชียงใหม่ด้วยความชอกช้ำโดยลืมเปียไหมทิ้งไว้ที่บ้านกาญจน์ เมื่อสายไหมกลับถึงบ้านที่เชียงใหม่ก็พบว่าแม่เสียชีวิตแล้ว ก็ยิ่งทำให้เศร้าใจ สายไหมวิ่งไปน้ำตกวังบัวบานหมายจะฆ่าตัวตาย แต่ตะวันก็มาช่วยไว้ได้ทัน ตะวันรู้ว่า สายไหมตั้งท้องกับกาญจน์ แต่เมื่อกาญจน์ไม่ยอมรับเป็นพ่อเด็ก ตะวันซึ่งรักสายไหมอยู่แล้วจึงรับที่จะแต่งงานกับสายไหมเพื่อช่วยแก้หน้าโดยสัญญาว่า จะแต่งงานแต่ในนาม จะไม่ล่วงเกินสายไหม สายไหมจึงยอมแต่งงานกับตะวัน เมื่อกาญจน์กลับมาบ้านก็เห็นเปียไหมตกอยู่ จำได้ว่าเป็นของสายไหม จึงรีบตามไปเชียงใหม่ เมื่อไปถึงก็เป็นวันแต่งงานของสายไหมกับตะวันแล้ว กาญจน์เข้าใจว่า สายไหมหมดรักตนจึงเกิดการชกต่อยกับตะวัน จากนั้นกาญจน์ก็เดินทางกลับกรุงเทพฯ ส่วนเคลียเมื่อรู้ว่าตนทำผิดมหันต์ หลังคลอดลูกแล้วก็ทิ้งลูกชายไว้ให้กาญจน์เลี้ยง ส่วนตนเองก็หนีออกจากบ้านไปหมายจะกระโดดน้ำตาย แต่คุณชาย (ชนะ ศรีอุบล) ก็มาช่วยเคลียไว้ได้ทัน กาญจน์ตามมาหาเคลียก็พบแต่ร่มตกอยู่บนสะพาน ก็คิดว่า เคลียฆ่าตัวตายไปแล้ว จึงรับเลี้ยงลูกชายของเคลียไว้ ส่วนเคลียนั้นก็ได้รับชีวิตใหม่กับคุณชาย เวลาผ่านไป 20 ปี ลูกของเคลียที่กาญจน์รับเลี้ยงไว้ก็โตเป็นหนุ่มชื่อว่า สุริยน (สมบัติ เมทะนี) ส่วนลูกของสายไหมก็โตเป็นสาวชื่อ สายน้ำผึ้ง (สุทิศา พัฒนุช) สุริยนทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ป่าไม้ที่เชียงใหม่และได้รู้จักกับสายน้ำผึ้งซึ่งดูแลปางไม้ของพ่อเลี้ยงตะวัน ฝ่ายพ่อเลี้ยงตะวันก็มีความสัมพันธ์กับรัญจวน (หยาดรุ้ง ระพี) โดยไม่รู้ว่ารัญจวนเป็นสายของศัตรู วันหนึ่งขณะที่สุริยนกำลังจะเข้าไปพบพ่อเลี้ยงตะวันในปางไม้ รัญจวนเห็นสุริยนก่อนก็แกล้งทำเป็นจมน้ำให้สุริยนช่วย สุริยนหลงเชื่อก็เข้าไปช่วย แต่พอจับได้ว่าเป็นมารยาหญิง สุริยนก็ผละจากรัญจวนไปซึ่งเป็นเวลาเดียวกับเมฆ (สุวิน สว่างรัตน์) ที่แอบดูรัญจวนอาบน้ำอยู่ก่อน ก็เข้าสวมรอยข่มขืนและฆ่ารัญจวนตาย พ่อเลี้ยงตะวันก็เข้าใจผิดว่า สุริยนเป็นคนฆ่ารัญจวนจึงให้ลูกน้องไปจับตัวสุริยนมาทรมาน สายน้ำผึ้งเข้าช่วยสุริยน แต่ก็ถูกพ่อเลี้ยงตะวันตบสั่งสอน สายไหมก็ส่งข่าวร้ายนี้ให้กาญจน์รู้ว่า สุริยนถูกพ่อเลี้ยงตะวันจับตัวไปหมายจะฆ่าให้ตาย กาญจน์จึงเดินทางมาเชียงใหม่เพื่อจะมาบอกว่า สุริยนนั้นเป็นลูกของตะวันเอง แต่ยังไม่ทันได้บอกอะไร ก็เกิดการดวลมีดกับพ่อเลี้ยงตะวันก่อน สายไหมพาคนงานมาช่วยสุริยนและสายน้ำผึ้ง เมื่อสุริยนเห็นกาญจน์กำลังเพลี่ยงพล้ำก็ขว้างมีดไปหมายจะให้ถูกพ่อเลี้ยงตะวัน แต่กาญจน์ก็ผลักพ่อเลี้ยงตะวันออกไปและโดดมีดปักหลังแทน กาญจน์จึงบอกความจริงว่า พ่อเลี้ยงตะวันนั่นแหละเป็นพ่อของสุริยน สุริยนเป็นลูกที่เกิดจากเคลีย ขณะนั้นพ่อเลี้ยง (ชุมพร เทพพิทักษ์) ซึ่งเป็นอริทางการค้าไม้กับพ่อเลี้ยงตะวันก็พาพวกมาบุกยิงถูกพ่อเลี้ยงตะวัน ก่อนที่พ่อเลี้ยงจะสิ้นใจได้บอกความจริงว่า สายไหมก็ไม่ใช่ลูกของตน แต่เป็นลูกของกาญจน์ เมื่อทุกฝ่ายเข้าใจกันดีแล้ว สุริยนก็ได้แต่งงานกับสายน้ำผึ้งท่ามกลางความรัก ความอบอุ่นของผู้ที่เป็นพ่อแม่

นักแสดงและทีมงาน

ข้อมูลเพิ่มเติม

ชื่อ : สันกำแพง
Name :
ผลิตโดย :
จัดจำหน่าย :
วันที่เข้าฉาย : 25 ตุลาคม 2511 (ฉายที่โรงภาพยนตร์เอ็มไพร์)

*ที่มา :Thai Movie Posters

เป็นคนแรกที่รีวิว “สันกำแพง”

ยังไม่มีรีวิว

สันกำแพง (2511)