โอ้..มาดา (2520)

โอ้มาดา (2520/1977) ก่อนที่แม่จะเสียใจ ขอให้แม่ชื่นใจสักนิดก่อนได้ไหม ชนะ คราประยูร นำเอาปัญหาชีวิตมาเป็นอาหารใจ มีทั้งเผ็ดทั้งเปรี้ยว ให้ท่านได้ขบเคี้ยว เพลิดเพลินเจริญใจ

มาดา ผู้เป็นแม่เต็มไปด้วยความทะยานอยากมีหน้ามีตาในสังคม เพื่อล้างปมด้อยในจิตใจ เธอจึงจ้องบงการชีวิตของสมาชิกทุกคนภายในบ้าน ตั้งแต่ พิชิต สามีผู้รับราชการถูกกดดันอย่างหนักเพื่อความก้าวหน้าในด้านอาชีพ เมธาวีลูกสาวที่ถูกคาดหวังว่าจะต้องได้เกียรตินิยมและแต่งงานกับผู้ชายที่เหมาะสม ไปจนถึง มีนา ลูกชายที่ถูกห้ามไม่ให้เรียนด้านศิลปะ โดยที่มาดาไม่รู้ตัวเลยว่าสิ่งที่เธอทำอยู่กำลังทำลายครอบครัวของเธอให้แตกสลายลงช้าๆ

อีสาวอันตราย (2519)
อีสาวอันตราย (2519/1976) ข้อความบนใบปิด ชนะ คราประยูร ขอเสนอ... ผลงานตีแผ่สะเก็ดสังคมและครอบครัวของวัยรุ่น ทั้งแสบ...ทั้งมัน...ทั้งคันส์ เมื่อผู้ชายมันสร้างรอยแสบไว้ให้ ถ้าสู้..ก็ต้องสุดฤทธิ์.. อีสาวอันตราย ของ ‘เทพเทวี’ จากนิตยสาร บางกอก สรพงศ์ ชาตรี ทัศน์วรรณ เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา สุริยา ชินพันธ์ ปิยะมาศ โมนยะกุล นิรุตติ์ ศิริจรรยา, ทาริกา ธิดาทิตย์, ลักษณ์ อภิชาติ, วิไลวรรณ วัฒนพานิช, สิงห์ มิลินทราศัย, (ชูศรี มีสมมนต์) โสภณ เจนพานิช ถ่ายภาพ กมลวรรณ วิเศษประภา ที่ปรึกษา ชนะ คราประยูร อำนวยการสร้าง-กำกับการแสดง นิวไฟว์สตาร์ จัดจำหน่าย
พรายกินรี (2519)
พรายกินรี (2519/1976) ข้อความบนใบปิด ชีวิตสาวชาวป่า ประคำอาถรรพ์ ตัณหาราคะ อยากพร่าพรหมจรรย์ ให้มันแค้น! พรายกินรี บทประพันธ์ของ ปฤศนา สีดา วิษณุภพ สร้างบท (แอ๊ด สมบัติ เมทะนี) (นัยนา ชีวานันท์) (มานพ อัศวเทพ) (มยุรฉัตร เหมือนประสิทธิเวช) สันติ คราประยูร อนันต์ สัมมาทรัพย์, วิไลวรรณ วัฒนพานิช, (ชูศรี มีสมมนต์), ธัญญา ธัญญารักษ์, สิงห์ มิลินทราศัย, ทาริกา ธิดาทิตย์, ดวงใจ หทัยกาญจน์, อุ่นเรือน ธรรมานนท์ กมลวรรณ-สรรเพชญ อำนวยการสร้าง โสภณ เจนพานิช ถ่ายภาพ สนาน คราประยูร กำกับการแสดง นิวไฟว์สตาร์ จัดจำหน่าย
กระดังงากลีบทอง (2519)

กระดังงากลีบทอง (2519/1976) นิตยา หญิงสาวเสเพลถูกแม่จับแต่งงานกับพ่อม่ายลูกติด ที่มีอายุมากกว่าเธอเป็นรอบ นิตยาไม่สนใจชีวิตแต่งงานยังคงเที่ยวกลางคืนกับหนุ่มๆ พฤติกรรมของเธออยู่ในสายตาของศริญญา ลูกเลี้ยงสาววัยรุ่นผู้เป็นไม้เบื่อไม้เมากับเธอ จนกระทั่งนิตยาได้พบรักกับศักดิ์ หนุ่มหล่อที่เป็นที่หมายปองของสาวๆ รวมทั้งศริญญาด้วย ศักดิ์เองก็มีใจให้กับนิตยา เพียงแต่ว่ากฎเกณฑ์ของสังคมยังรับไม่ได้กับความสัมพันธ์ของทั้งคู่

นิตยา (มยุรฉัตร เหมือนประสิทธิเวช) สาวเสเพลซึ่งถูกแม่จับแต่งงานกับวิสูตร (ชนะ ศรีอุบล) พ่อม่ายที่มีลูกสาววัยรุ่นติดมาคนหนึ่งชื่อ ศริญญา (มยุรา ธนะบุตร) แต่วิสูตรซึ่งอายุมากแล้ว ไม่สามารถรองรับอารมณ์เปลี่ยวของนิตยาได้ นิตยาจึงต้องออกเที่ยวกลางคืนกับหนุ่ม ๆ ก็เลยยิ่งมีปัญหากับศริญญาผู้เป็นลูกเลี้ยงตลอดมา นิตยาจึงหลบไปพักผ่อนที่ชายทะเลและที่นั่นเอง นิตยาได้พบกับรักศักดิ์ (สุริยา ชินพันธ์) หนุ่มหล่อลูกชายของพจน์ (มานพ อัศวเทพ) ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกับวิสูตร ในที่สุดรักศักดิ์กับนิตยาก็ได้เสียกัน แม้จะถูกกีดกันจากพ่อแม่ทั้งสองฝ่าย แต่ทั้งคู่ก็ไม่แคร์สายตาใคร ทำให้ศริญญาซึ่งแอบชอบรักศักดิ์ไม่พอใจนิตยามากขึ้นที่มาแย่งทั้งพ่อและคนรักตนไป แต่ในที่สุดชู้รักคู่นี้ก็ไปไม่รอด แม้นิตยาจะได้ใบหย่ามาจากวิสูตร แต่กระแสสังคมก็บีบให้รักศักดิ์จำต้องทิ้งนิตยาไป

ทางโค้ง (2518)
ทางโค้ง (2518/1975) ความบาดหมางระหว่างพ่อและลูกชายกลายเป็นปมให้ วัน เด็กหนุ่มเลือดร้อนเกลียดนายวิศวัตรผู้เป็นบิดา มาตั้งแต่เขายังจำความได้ ความเข้มงวดเจ้าระเบียบของวิศวัตรรังแต่จะทำให้วันต่อต้านเขามากขึ้น ดีที่ได้คุณครูแสงอุษาอาจารย์ประจำชั้นคอยปลอบประโลมช่วยเหลือให้เขายังมีกำลังใจกลับมาเป็นเด็กดี จนวันรู้สึกตกหลุมรักอาจารย์แสงอุษาเข้าโดยไม่รู้ตัว
ไฟรัก (2518)
ไฟรัก (2518/1975) ข้อความบนใบปิด นครพิงค์ภาพยนตร์ ความสวย...ความสาว ฉันขายได้ แต่ความรักนั่นสิ ไม่ได้มีเหลือเผื่อใครอื่น ยอม...ฉันยอมให้กายและใจมลายด้วย... ไฟรัก บทประพันธ์ของ...สีดา วิษณุทศ (แอ๊ด สมบัติ เมทะนี) (เปี๊ยก อรัญญา นามวงศ์) สันติ คราประยูร รุ้งลาวัลย์ ศรีปฏิมากูร, ศศิมา สิงห์ศิริ, โขมพัสตร์ อรรถยา, ชินดิษฐ์ บุนนาค, พัชนี อุรารักษ์ กมลวรรณ-สรรเพชญ อำนวยการสร้าง โสภณ เจนพานิช ถ่ายภาพ สรรเพชญ กำกับการแสดง ช.พิริยะฟิล์ม จัดจำหน่าย
สาวสิบเจ็ด (2517)

สาวสิบเจ็ด (2517/1974) สองสาวพี่น้องที่มีวิถีชีวิตแตกต่างกัน คนหนึ่งต้องดิ้นรนผจญกับความอยู่รอดและกัดฟันศึกษาหาความรู้โดยมิได้คำนึงถึงความสุขส่วนตน และไม่เคยท้อแท้กับชีวิตของตนเอง ไม่กลัวพรหมลิขิตหรืออื่นใดทั้งสิ้น ตรงกันข้ามกับอีกคนหนึ่งซึ่งรักความสนุกสนาน ทะเยอทะยานโลดแล่นไปในทะเลแห่งความฟุ่มเฟือย และได้ใช้ความสาวของตัวเองไปอย่างสิ้นเปลือง

ไม่รักไม่สน (2517)
ไม่รักไม่สน (2517/1974) ข้อความบนใบปิด นครพิงค์ภาพยนตร์ เสนอ เรื่องชีวิตรัก ตลก ยอดเยี่ยม ของ “รมณียา” แห่งนิตยสารบางกอก ไม่รักไม่สน ในระบบอุลตราสโคป สีอิสต์แมน เสียงในฟิล์ม (แอ๊ด สมบัติ เมทะนี) (เปี๊ยก อรัญญา นามวงศ์) สันติ คราประยูร (เมตตา รุ่งรัตน์), สิงห์ มิลินทาศัย, ไศลทิพย์ ตาปนานนท์, ท้วม ทรนง, (ชูศรี มีสมมนต์), ประพิศ, ชินดิษฐ์ บุนนาค, ดามพ์ ดัสกร, จริยา ฯลฯ ขอแนะนำดาวรุ่งดวงใหม่ กำธร ทัพคัลไลย, พิณทิพย์ ตาปนานนท์ กมลวรรณ-สรรเพชญ อำนวยการสร้าง โสภณ เจนพานิช ถ่ายภาพ สนาน คราประยูร กำกับการแสดง ช.พิริยะฟิล์ม จัดจำหน่าย
กำนันถึก (2515)

กำนันถึก (2516/1973) ข้อความบนใบปิด นครพิงค์ภาพยนตร์ เสนอ ชมบทบาทใหม่ วันเบิกบานใจในโลกบันเทิง ตายแล้วเกิดใหม่ จะหาที่ไหนได้ คนอย่างเขา โง่อย่างปราชญ์ ฉลาดแบบเต่าตุ่น ทำวุ่นไปเสียทุกท่า แต่ชาวบ้านทั้งพารา ยังปรารถนา กำนันถึก จากจินตนารมย์ ของ...โสภิณ สุรพีร์ ในนิตยสาร “จักรวาล” (แอ๊ด สมบัติ เมทะนี) (เปี๊ยก อรัญญา นามวงศ์) (เมตตา รุ่งรัตน์), นงลักษณ์ โรจนพรรณ, ดามพ์ ดัสกร, คมน์ อรรฆเดช, โขมพัสตร์ อรรถยา, ท้วม ทรนง, (ชูศรี มีสมมนต์), ชื้นแฉะ, สีเผือก ฯลฯ มานพ น้อยวิจารณ์ สร้างบท โสภณ เจนพานิชย์ ถ่ายภาพ สนาน คราประยูร กำกับการแสดง กมลวรรณ สรรเพชร อำนวยการสร้าง ช.พิริยะฟิล์ม จัดจำหน่าย

 
เจ้าชายห่อหมก (2516)
เจ้าชายห่อหมก (2516/1973) ข้อความบนใบปิด นครพิงค์ภาพยนตร์ ภูมิใจเสนอ ภาพยนตร์รัก ตลก ของ “ปริศนา” มัน...ยิ่งกว่ามัน ท่านจะสุขสันต์ ด้วยการหัวเราะ ใน... เจ้าชายห่อหมก ระบบ 35 ม.ม. อุลตราสโคป สีอิสต์แมน (แอ๊ด สมบัติ เมทะนี) วันดี ศรีตรัง (เมตตา รุ่งรัตน์), โขมพัสตร์ อรรถยา, จอมใจ จรินทร์, วิภาวดี ตรียะกุล, (ชูศรี มีสมมนต์), ท้วม ทรนง, มาลี เวชประเสริฐ, ชินดิศ บุนนาค, ไศลทิน, อุ่นเรือน ธรรมานนท์, สายพิณ จินดานุช, เสนอ, ศรัทธา, จินดาพร ฯลฯ กมลวรรณ-สรรเพชญ อำนวยการสร้าง โสภณ เจนพานิช ถ่ายภาพ สนาน คราประยูร กำกับการแสดง ช.พิริยะฟิล์ม จัดจำหน่าย
คนองกรุง (2516)
คนองกรุง (2516/1973) ข้อความบนใบปิด นครพิงค์ภาพยนตร์ เสนอ สี่สาวเลือดสู้จากสี่ทิศตะลุยแหลก ชายเก่งกาจมีมาก หญิงอย่างนี้มีที่ไหน คนองกรุง 35 ม.ม.สีอุลตร้าสโคป (แอ๊ด สมบัติ เมทะนี) สุทิศา พัฒนุช โสภา สถาพร (เมตตา รุ่งรัตน์) โขมพัสตร์ อรรถยา ปริม ประภาพร, ดามพ์ ดัสกร, คมน์ อรรฆเดช, ศรัทธา, จอมใจ จรินทร์, วิภาวดี ตรียะกุล อ.อรรถจินดา-ชนะ คราประยูร สร้างเรื่อง ปริศนา สร้างบท โสภณ เจนพาณิชย์ ถ่ายภาพ สนาน-ชนะ คราประยูร กำกับการแสดง
วังบัวบาน (2515)
วังบัวบาน (2515/1972) ข้อความบนใบปิด นครพิงค์ภาพยนตร์ เสนอเรื่องชีวิตรักอมตะ ในระบบอุลตร้าสโคป 35 ม.ม.เสียงในฟิล์ม สีอิสต์แมน จากเรื่องจริงของสาวเมืองเหนือ ผู้ซื่อสัตย์ถือมั่นต่อความรักยิ่งชีวิตตัวเอง และเมื่อถูกกามเทพเล่นตลก เธอก็ตกเป็นเหยื่อมัจจุราช สร้างประวัติฝังใจสาวเหนือมานานกว่า 20 ปี นั่นคือ... วังบัวบาน จากบทประพันธ์ของ มาลินี (แอ๊ด สมบัติ เมทะนี) สุทิศา พัฒนุช (ชนะ ศรีอุบล), (เมตตา รุ่งรัตน์), ธัญญา ธัญญรักษ์, เยาวเรศ นิสากร, มาลี เวชประเสริฐ, สิงห์ มิลินทราศัย, (สุคนธ์ คิ้วเหลี่ยม), (หม่อมชั้น พวงวัน), ท้วม ทรนง, (ชูศรี มีสมมนต์) พร้อมทั้งลูกทุ่งสาว เรียม ดาราน้อย, ชาญชัย บัวบังศร 5 เพลงเอก จากนักประพันธ์เพลงแผ่นเสียงทองคำพระราชทาน ไพบูลย์ บุตรขัน, สมาน กาญจนผลิน, อรุณ หงสวีณะ, สนิท ศ., พีระ ตรีบุปผา กมลวรรณ-สรรเพชญ อำนวยการสร้าง ส.คราประยูร กำกับการแสดง โสภณ เจนพานิช ถ่ายภาพ กมลวรรณ วิเศษประภา ลำดับภาพ ปฤษณา-มานพ น้อยวิจารณ์ สร้างบท ช.พิริยะ ฟิล์ม จัดจำหน่าย
รักจ๋ารัก (2514)
รักจ๋ารัก (2514/1971) ข้อความบนใบปิด นครพิงค์ภาพยนตร์ เสนอ... รักจ๋ารัก จากบทประพันธ์ ของ ศรีฟ้า ลดาวัลย์ จะรักเสียอย่างต้องทำโก้ ใครทำโซ...ตาย! ต้องอวดโอ่เข้าไว้ ผมเป็นองค์ชาย..ฉันก็องค์หญิง เรามารักกันจริง...นะ รักจ๋ารัก (แอ๊ด สมบัติ เมทะนี) (อี๊ด เพชรา เชาวราษฎร์) (เมตตา รุ่งรัตน์), ธัญญา ธัญญรักษ์, (สุวิน สว่างรัตน์), สิงห์ มิลินทราศัย, มาลี เวชประเสริฐ, (สุคนธ์ คิ้วเหลี่ยม), สีเทา, สีเผือก, ศรีสละ ทองธารา, กุญชร, สังข์ทอง สีใส ฯลฯ 7 เพลงโอฬาริก ฟังแล้วสนิท แนบดวงหทัย 35 ม.ม. อุลตร้าสโคป สีอิสต์แมน เสียงในฟิล์ม กมลวรรณ-สรรเพชญ อำนวยการสร้าง โสภณ เจนพานิช ถ่ายภาพ ส.คราประยูร กำกับการแสดง ช.พิริยะฟิล์ม จัดจำหน่าย
สิงห์สาวเสือ (2513)
สิงห์สาวเสือ (2513/1970) ชาติชาย เกียรติกำจร (แอ๊ด สมบัติ เมทะนี) เป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจปีสุดท้าย แต่พอได้ข่าวว่า พ่อถูกฆ่าตาย ก็หนีออกจากโรงเรียนกลับไปบ้านที่ตำบลวังพญา จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อสืบหาตัวคนร้าย ที่ตลาดวังพญานั้นมี คุณหญิงปัทมา (เปี๊ยก อรัญญา นามวงศ์) เป็นเจ้าของตลาด แต่ในตลาดชอบมีนักเลงมาก่อกวน ปัทมาจึงจ้าง เสือหาญ (ไสล พูนชัย) เป็นผู้ดูแลตลาด ซึ่งเสือหาญก็ปราบพวกเกเรให้หมด แต่ชาติชายที่มาถึงใหม่ๆ ก็อยากลองของจึงแกล้งกวนเสือหาญต่อหน้าปัทมา ทั้งคู่ก็เลยเกิดเรื่องฟาดปากกัน แม้ว่าชาติชายจะเป็นคนชนะ แต่เพราะเห็นเสือหาญมีคนเชียร์เยอะกว่าและยังเป็นคนปราบนักเลงในตลาด ชาติชายก็เลยแกล้งแพ้เสือหาญ ส่วนปัทมาพอเห็นว่า เสือหาญชนะ ก็มอบสร้อยเป็นรางวัล ระหว่างนั้น นักเลงที่ถูกเสือหาญปราบไป ก็กลับมาลอบยิงเสือหาญ คราวนี้ ชาติชายก็เลยช่วยเสือหาญไว้และกลายเป็นเพื่อนกัน ต่อมาชาติชายทราบจากลุงว่า ผู้ที่บงการฆ่าพ่อตนก็คือ เสี่ยบู๊ (สิงห์ มิลินทราศัย) มีสมุนมือขวาเป็นเสือร้าย 2 คนคือ ไอ้เสือ (สุวิน สว่างรัตน์) และไอ้จอม (พิภพ ภู่ภิญโญ) ต่อมาเสี่ยบู๊ซึ่งหวังจะได้ปัทมาเป็นเมีย แค้นใจที่ผิดหวัง จึงฆ่าผู้จัดการป่าไม้ของปัทมาใส่กล่องส่งมาเป็นของขวัญวันเกิด ทุกคนในงานเกิดความกลัว ชาติชายเองเห็นภาพเหตุการณ์นี้ด้วย เมื่อได้รับทาบทามให้เป็นผู้จัดการป่าไม้แทน จึงตอบตกลงแม้ว่าปัทมาที่เริ่มชอบชาติชายแล้ว จะห้ามปรามเพราะกลัวชาติชายจะถูกฆ่าตายไปอีกคน ต่อมาเสี่ยบู๊จ้างชาติชายให้เลิกช่วยงานปัทมา เลิกยุ่งเกี่ยวกับปัทมาแต่ชาติชายไม่ยอม จึงเกิดการทะเลาะยิงปืนกัน ไอ้เสือสมุนมือขวาจะยิงชาติชาย แต่เสี่ยบู๊ห้ามไว้บอกว่า วันหลังค่อยจัดการ คืนหนึ่งขณะที่ชาติชาย-ปัทมาร้องเพลงพลอดรักกันในสวน เจ้าเสือก็มาลอบยิงชาติชายล้มพุบและจับตัวปัทมาไป แต่เสือหาญก็ตามไปช่วยกลับมาได้ ขณะที่ชาติชายรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล น้ำผึ้ง (สุมาลี ทองหล่อ) ลูกสาวของลุงชาติชายก็มาพูดบอกว่า ถ้าชาติชายหายป่วยจะแต่งงานกัน ทำให้ปัทมาที่รักชาติชายงอนและกลับบ้านไปเก็บตัวอยู่เงียบๆ จะหนีเข้ากรุงเทพฯ ต่อมาชาติชายสืบรู้แน่ชัดว่า เสี่ยบู๊เป็นคนฆ่าพ่อตน จึงจะไปแก้แค้น ก็เป็นเวลาเดียวกับที่เสี่ยบู๊ลงมือฆ่าพ่อปัทมา แล้วก็เผาตลาดและจับตัวปัทมาไป ชาติชายก็ตามไปช่วยมาปัทมามาได้
แม่ปิง (2513)
แม่ปิง (2513/1970) จุล จิโรประทัย (สิงห์ มิลินทราศัย) และธวัช (ศิริพงษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา) ร่วมมือกันหักหลังดุสิต (สุเทพ ศิริธร) หุ้นส่วนที่ทำธุรกิจร่วมกัน ทำให้ดุสิตสิ้นเนิ้อประดาตัวและต้องอพยพครอบครัวไปอยู่เชียงใหม่ ด้วยความเสียใจทำให้ดุสิตล้มป่วยกลายเป็นอัมพาต เรื่องที่เกิดขึ้นถูกถ่ายทอดให้ดอกบัวผู้เป็นลูกสาวได้รับรู้ หลายปีต่อมาดอกบัว (เปี๊ยก อรัญญา นามวงศ์) เติบโตเป็นสาวสวยได้พบกับจลา จิโรประทัย (แอ๊ด สมบัติ เมทะนี) โดยบังเอิญและได้ทราบว่าจลาคือลูกชายของศัตรูผู้หักหลังพ่อของตน จึงวางแผนการแก้แค้น ดอกบัวเดินทางเข้ากรุงเทพและค้นหาบ้านของนายจุลจนพบและแกล้งให้ถูกรถของจลาเฉี่ยว ทำให้จลาต้องพาตัวดอกบัวเข้าไปดูแลอาการในบ้าน ด้วยความสวยของดอกบัวทำให้เจตนา (สุวิน สว่างรัตน์) พี่ชายของจลาเสนองานให้ดอกบัวทำงานในบ้านของตน โดยที่เจตนาแอบลักลอบเป็นชู้กับเพ็ญพรรณ (ชฎาพร วชิรปรานี) แม่เลี้ยงสาวของตนเอง นายจุลประสบอุบัติเหตุทำให้กลายเป็นอัมพาต ดอกบัวทำหน้าที่เป็นผู้ดูแล ความสวยและการเอาอกเอาใจของดอกบัวทำให้ทั้งนายจุลและเจตนาหลงใหลต้องการได้ดอกบัวเป็นเมียทั้งคู่ ในขณะที่จลาและดอกบัวเริ่มมีใจให้กัน เพ็ญพรรณหึงหวงที่ทั้งนายจุลและเจตนาหลงใหลดอกบัว จึงหลอกพาดอกบัวไปขายให้นายธวัชเพื่อนของนายจุล ทำให่นายจุลเสียใจมากที่สูญเสียดอกบัวไป เพื่อการแก้แค้นดอกบัวจึงยอมเป็นเมียของนายธวัช และใช้ความสวยทำให้ธวัชหลงใหลเป็นอย่างมาก ขณะเดียวกันดอกบัวก็โปรยเสน่ห์ให้กับธวัชชัย (ครรชิต ขวัญประชา) ลูกชายของนายธวัช จนธวัชชัยหลงใหลดอกบัวไปอีกคน ดอกบัวยุยงให้นายธวัชเขี่ยนายจุลออกจากกิจการที่ทำร่วมกัน ทำให้นายจุลเสียใจมากจนล้มป่วยหนัก ดอกบัวมาหานายจุลและบอกความจริงเรื่องการแก้แค้นของตน นายจุลเสียใจมากและสำนึกในความผิดก่อนจะเสียชีวิตจึงเขียนพินัยกรรมยกมรดกครี่งหนึ่งให้กับดอกบัวเพื่อเป็นการชดใช้ให้กับดุสิตพ่อของดอกบัว หลังจากนายจุลเสียชีวิตแล้วดอกบัวก็ผละจากนายธวัช ทำให้นายธวัชเสียใจจนเส้นโลหิตแตกเสียชีวิต ขณะที่เพ็ญพรรณก็หึงหวงเจตนาที่เพ้อหาแต่ดอกบัวจึงยิงเจตนาเสียชีวิต เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดจลาโทษว่าเป็นความผิดของดอกบัวที่มากชู้หลายใจ จึงด่าว่าดอกบัวด้วยถ้อยคำรุนแรงทำให้ดอกบัวเสียใจมากจึงเดินทางกลับเชียงใหม่ จิตรา (มารศรี ณ บางช้าง) ผู้เป็นอาของจลาบอกเล่าเรื่องที่นายจุลและนายธวัชโกงนายดุสิตพ่อของดอกบัว และขอร้องให้จลาให้อภัยในเรื่องที่เกิดขึ้น จลาจึงติดตามดอกบัวมาที่เชียงใหม่ ทั้งสองปรับความเข้าใจกันและสานต่อความรักที่มีในหัวใจของทั้งคู่
รักชั่วฟ้า (2513)
รักชั่วฟ้า (2513/1970) รักของ ซูจินน่า สาวไทยเชื้อสายจีนกับ จักรี หนุ่มนักเรียนนอกต้องมีอันพลัดพราก เมื่อมารดาของซูจินส่งข่าวให้เธอกลับมาที่เมืองไทยเนื่องจากทางบ้านกำลังมีปัญหาเดือดร้อน โดยทั้งคู่ได้ให้คำมั่นสัญญาว่าจะกลับมาพบกัน ครั้นถึงเมืองไทย ซูจินกลับต้องแต่งงานกับ เรืออากาศเอก วีระ นายทหารหนุ่ม เพื่อช่วยเหลือเรื่องธุรกิจของครอบครัวเธอไว้ สถานการณ์ยิ่งเลวร้ายมากขึ้น เมื่อซูจินพบว่าเธอเองนั้นกำลังตั้งท้อง
ดวงใจแม่ (2512)

ดวงใจแม่ (2512/1969) เป็นเรื่องของชีวิตที่จะให้ความสดชื่น ดื่มด่ำประทับใจไม่มีวันลืม.. บทประพันธ์ของ ปฤศนา ความรักของแม่ยิ่งใหญ่ไม่มีที่สิ้นสุด เมื่อแม่ที่ต่ำต้อยทั้งฐานะและบรรดาศักดิ์ จำต้องยกลูกให้ฝ่ายสามีผู้สูงส่งกว่าไปเลี้ยง เพราะถูกกีดกันจากแม่สามีผู้ไม่เคยยอมรับเธอในฐานะลูกสะใภ้ และถึงแม้จะไม่ได้เลี้ยงดูหรืออยู่ด้วยกัน เมื่อมีเหตุร้ายใดๆ เกิดขึ้นกับลูก เธอก็พร้อมเสียสละทุกอย่างเพื่อลูก

กินรี (2512)
กินรี (2512/1969) ข้อความบนใบปิด นครพิงค์ภาพยนตร์ เสนอ หล่อนสาวเยี่ยมเทียมนางฟ้า แต่เวลาหล่อนโกรธดุร้าย กลายเป็นสมิง แปลกใหม่ ตื่นเต้น มหัศจรรย์ เขย่าขวัญ จากละครวิทยุคณะ แก้วฟ้า กินรี นำโดย (แอ๊ด สมบัติ เมทะนี) สุทิศา พัฒนุช ร่วมด้วย (ชนะ ศรีอุบล), (เมตตา รุ่งรัตน์), เยาวเรศ นิสากร, (แก่นใจ มีนะกนิษฐ์), ธัญญา ธัญญารักษ์, วินัย, สิงห์ มิลินทราศัย, (หม่อมชั้น พวงวัน), (ไสล พูนชัย), (สุคนธ์ คิ้วเหลี่ยม), ชื้นแฉะ, (เสน่ห์ โกมารชุน) กมลวรรณ สรรเพชญ อำนวยการสร้าง เทวินทร์ สุขศิลา ถ่ายภาพ ส.คราประยูร กำกับการแสดง พิริยะฟิล์ม จัดจำหน่าย
ทรามวัยใจเพชร (2511)
ทรามวัยใจเพชร (2511/1968) สืบและคม สองนักสืบราชการลับจอมกะล่อน ได้ปลอมเป็นหญิงสาวเพื่อเข้าไปอารักขา คือ ม.ร.ว.หญิง รสสุคนธ์ จนกระทั่ง วันหนึ่งเพชรชมพู สาวสวยสุดเซ็กซี่ได้เข้ามาอารักขาหม่อมอีกคน โดยอ้างว่ามีอีกบริษัทส่งเธอมา พร้อมด้วยตัวผู้ต้องสงสัยที่สุดว่าจะน่าเป็นคนปองร้ายเศรษฐินีผู้นี้
เงินจ๋าเงิน (2511)

เงินจ๋าเงิน (2511/1968) เนื้อเรื่องสนุกสนานเล่าเรื่องพระเอกและนางเอกที่ต่างก็ยากจนทั้งคู่ แต่คิดจะรวยทางลัดด้วยการหาคู่ครองที่ร่ำรวย เลยปลอมตัวเป็นคนรวย แล้วประกาศหาคู่ จึงได้พบกันโดยไม่รู้ว่าอีกฝ่ายก็จนเหมือนกัน แต่สุดท้ายฝ่ายหนึ่งก็กลายเป็นทายาทเศรษฐีขึ้นมาจริงๆ

เหนือน้ำใจ (2511)
เหนือน้ำใจ (2511/1968) ข้อความบนใบปิด นครพิงค์ภาพยนตร์ เสนอ เหนือน้ำใจ...เหนือสิ่งใด...น้ำใจญาติ...น้ำใจเพื่อน น้ำใจฟ้า น้ำใจดิน ยังรางเลือน ไม่แน่เหมือน น้ำใจแท้ ของแม่เรา ใจแม่นั้น สูงกว่าฟ้า มีค่ากว่าเพชร ยามถูกลูกเด็ดดวงใจ แม่สู้ทนไว้เพื่อถนอมน้ำใจลูก โอ้...แม่จ๋า ลูกขอบูชาน้ำใจแม่... เหนือน้ำใจ ของ...หญิงนันทาวดี นำโดย (แอ๊ด สมบัติ เมทะนี) (อี๊ด เพชรา เชาวราษฎร์) (ชนะ ศรีอุบล) (รุจน์ รณภพ), (ปรียา รุ่งเรือง), (เมตตา รุ่งรัตน์), (แก่นใจ มีนะกนิษฐ์), ขอใจ ฤทัยประชา, สิงห์ มิลินทราศัย, (มนัส บุณยเกียรติ), มาลี เวชประเสริฐ, สัมพันธ์, ชาญ กัมปนาท, (สุคนธ์ คิ้วเหลี่ยม), ดาวน้อย ดวงใหญ่, (หม่อมชั้น พวงวัน), ชื้นแฉะ, ปราณีต คุ้มเดช และดาราตุ๊กตาเงิน ปนัดดา กัลย์จาฤก นำท่านมาพบกับ พัชนี อุรารักษ์ แม่คนใหม่แห่งจอเงิน กมลวรรณ วิเศษประภา อำนวยการสร้าง เทวินทร์ สุขศิลา ถ่ายภาพ ส.คราประยูร กำกับการแสดง จากละครวิทยุ แก้วฟ้า พรานบูรพ์ สร้างบท บริษัทเอกรัตน์ จัดจำหน่าย
สุดแผ่นดิน (2510)
สุดแผ่นดิน (2510/1967) ข้อความบนใบปิด นครพิงค์ภาพยนตร์ เสนอ... เมื่อเป็นชายต้องไว้ลายชาติชายของตน ไม่ว่าใครใหญ่ที่ไหนมา ให้ศักดาสูงเทียมฟ้า ขอท้าทั่วปฐพี ถ้ามันเหลือทนคนย่ำยี ต้องราวีจน... สุดแผ่นดิน บทประพันธ์ของ...”ดอกฟ้า” จากละครวิทยุยอดฮิตของคณะ...”213” (แอ๊ด สมบัติ เมทะนี) (อี๊ด เพชรา เชาวราษฎร์) สุรสิทธิ์ สัตยวงศ์, อรสา อิศรางกูร, (รุจน์ รณภพ), นาวิน เทพโยธี (มานพ อัศวเทพ), สิงห์ มิลินทราศัย, ชาณีย์ ยอดชัย, (ไสล พูนชัย), มาลี เวชประเสริฐ, (บุษกร สาครรัตน์) นำ 34 ดารามาพบกับท่าน! กมลวรรณ-สรรเพชญ อำนวยการสร้าง เทวินทร์ สุขศิลา ถ่ายภาพ ส.คราประยูร กำกับการแสดง เอกรัตน์ จัดจำหน่าย
เกล้าฟ้า (2509)
เกล้าฟ้า (2509/1966) ยอดนวนิยายแห่งความลึกลับ มหัศจรรย์ จากบทประพันธ์ของ...เครื่องหมายคำถามคู่ จากละครวิทยุของ...คณะแก้วฟ้า ร่วมกันให้เป็นภาพยนตร์ที่พิเศษ วิเศษจริงๆ เกล้าฟ้า ใน หุบผาสวรรค์ เจ้าแววดาว (เมตตา รุ่งรัตน์) แห่งเวียงนกยูงซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง มีนิสัยโหดร้ายจนกระทั่งเจ้าแสงคำ ((รุจน์ รณภพ)) ผู้เป็นสวามีทนไม่ได้จึงเดินทางเข้ากรุงเทพฯ และไม่กลับเวียงนกยูงอีกจนกระทั่งสิ้นชีวิต ทำให้เจ้าแววดาวเสียใจและแค้นใจมาก จึงได้เลี้ยงดูเจ้ารุ่งฟ้า ((อดุลย์ ดุลยรัตน์)) ผู้เป็นบุตรชายด้วยความเข้มงวด และต่อมาได้ส่งเจ้ารุ่งฟ้าไปศึกษาต่อที่ประเทศฝรั่งเศส ขณะที่กำลังศึกษาอยู่ที่ฝรั่งเศสเจ้ารุ่งฟ้าได้พบรักและแต่งงานกับมาเรีย (ปริม ประภาพร) หญิงสาวชาวฝรั่งเศส เมื่อศึกษาจบแล้วเจ้ารุ่งฟ้าจึงพามาเรียกลับมายังเวียงนกยูง เจ้าแววดาวไม่พอใจมากและระบายออกมาด้วยการทารุณบ่าวไพร่ในเวียง จนกระทั่งมาเรียตั้งท้อง แต่เจ้ารุ่งฟ้าต้องเดินทางเข้ากรุงเทพเพื่อทำงานราชการตามที่ได้เรียนมา เจ้าแววดาวทำทารุณกับมาเรียและบ่าวไพร่ จนมาเรียซึ่งกำลังตั้งครรภ์ใกล้คลอดตัดสินใจหนีออกมาจากเวียงนกยูงพร้อมกับหมอโจเซฟซึ่งเป็นผู้ดูแลครรภ์ของเธอ ทั้งสองเดินทางข้ามไปฝั่งประเทศลาว มาเรียคลอดบุตรออกมาและตั้งชื่อตามที่เจ้ารุ่งฟ้าตั้งเอาไว้ว่า "เกล้าฟ้า" ต่อมามาเรียได้แต่งงานกับหมอโจเซฟและได้เลี้ยงดูเกล้าฟ้าจนเติบใหญ่ เมื่อมาเรียหนีออกจากเวียงนกยูง เจ้าแววดาวได้ส่งข่าวให้เจ้ารุ่งฟ้าว่ามาเรียหนีตามชู้ ทำให้เจ้ารุ่งฟ้าเสียใจไม่ยอมเดินทางกลับเวียงนกยูง ทำให้เจ้าแววดาวเสียใจมาก และผูกอาฆาตผู้ชายทุกคนจนกระทั่งเสียชีวิต และได้สั่งให้บริวารนำร่างของตนไปซ่อนไว้ในถ้ำลับ แต่วิญญาณของเจ้าแววดาวยังคงสิงสถิตย์อยู่ที่เวียงนกยูง และหลอกหลอนผู้คนจนเป็นที่หวาดกลัวจนทำให้ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้เวียงนกยูง เกล้าฟ้า (โสภา สถาพร) อายุได้ 19 ปี เติบโตเป็นสาวสวยและมีความห้าวหาญ จึงมักปลอมตัวเป็นผู้ชายมารับจ้างขับรถม้ารับส่งผู้โดยสารที่หน้าสถานีรถไฟลำปาง โดยใช้ชื่อว่า "สวย" ทุกคืนวัน 15 ค่ำ วิญญาณของเจ้าแววดาวจะมีฤทธิ์แข็งกล้ามากจึงสกดจิตให้เกล้าฟ้านำผู้โดยสารที่เป็นผู้ชายมายังเวียงนกยูง เพื่อเอาชีวิตมาสังเวยเจ้าแววดาว เหตุการณ์เกิดขึ้นหลายครั้งจน ร.ต.ท.วัชระ (แอ๊ด สมบัติ เมทะนี) เข้ามาสอบสวนคดี โดยมีเกียรติ ((รุจน์ รณภพ)) หัวหน้าสถานีรถไฟคอยให้ความช่วยเหลือ เกียรติค้นพบเส้นทางเข้าเวียงนกยูง เมื่อเข้าไปในเวียงแล้วก็พบเจ้าแววดาวในสภาพที่งดงาม เจ้าแววดาวรู้ว่าเกียรติคือเจ้าแสงคำกลับชาติมาเกิดจึงกักตัวเอาไว้ และทำให้เกียรติกลายเป็นคนเสียสติ ขณะเดียวกับที่เจ้ารุ่งฟ้าตัดสินใจเดินทางกลับเวียงนกยูงเพื่อสืบหาลูกของตน ส่วนวัชระก็ติดตามหาเกียรติจนกระทั่งหลงเข้าไปถ้ำที่เก็บร่างของเจ้าแววดาว แต่ก็ถูกเกียรติที่เสียสติทำร้ายจนบาดเจ็บ เกล้าฟ้าในสภาพสาวสวยได้ช่วยชีวิตเอาไว้ และดูแลรักษาจนกระทั่งหายเจ็บ ทั้งสองได้สารภาพรักต่อกัน ในที่สุดเกียรติพลาดตกหน้าผาเสียชีวิต ดวงวิญญาณระลึกได้ว่าตนเองคือเจ้าแสงคำในอดีตจึงขอโทษต่อดวงวิญญาณของเจ้าแววดาว จนเจ้าแววดาวสิ้นความอาฆาต ดวงวิญญาณของทั้งสองจึงสลายไป มาเรียติดตามมาหาเกล้าฟ้าจึงพบกับเจ้ารุ่งฟ้า ทำให้เจ้ารุ่งฟ้าได้ทราบความจริงว่าเกล้าฟ้าคือลูกของตน ขณะที่เจ้ารุ่งฟ้าก็สำนึกในความผิดของตนที่ทอดทิ้งมาเรียกับลูกไปจึงยินยอมให้มาเรียอยู่กับหมอโจเซฟต่อไป และวัชระก็ได้ทราบความจริงว่า "สวย" และ "เกล้าฟ้า" คือคนเดียวกัน ในที่สุดวัชระกับเกล้าฟ้าก็ได้แต่งงานครองคู่กัน
นางสมิงพราย (2506)
นางสมิงพราย (2506/1963) แปลก..มหัศจรรย์..เป็นประวัติการณ์ของหนังไทย จากละครวิทยุที่ตรึงใจประชาชนทั่วกรุง ในเรื่อง...ชีวิตเถื่อน ของคณะ กันตนา เรื่องราวของปัญจนี เด็กสาวผู้ไปกัดเด็กในหมู่บ้านจนเสียชีวิต เป็นเหตุให้ชาวบ้านต้องการจะเผาเธอ เพราะคิดว่าเธอเป็นผีพรายสมิง แต่ภิกษุรูปหนึ่งได้มาเห็นเหตุการณ์และบอกความจริงว่า เธอเพียงถูกวิญญาณพรายสมิงเข้าสิงเท่านั้น พออายุครบยี่สิบปีบริบูรณ์ก็สูญสิ้นไปเอง ปัญจนีและยายจึงหนีไปอยู่พม่า วันหนึ่ง ยายของเธออยากกลับไปใช้ชีวิตช่วงสุดท้ายที่บ้านเกิด ปัญจนีจึงจำต้องกลับมา พร้อมด้วยผีพรายสมิงที่ยังสิงอยู่ในตัวเธอ
มัตติกา (2506)
มัตติกา (2506/1963) ข้อความบนใบปิด นครพิงค์ภาพยนตร์ เสนอ นวนิยายชุดยอดเยี่ยม ของ บุษยมาส จากละครวิทยุที่ดังสะท้านกรุง ของ แก้วฟ้า ผู้เขียน สลักจิต หนังชีวิตเงินล้าน มัตติกา (ภาวนา ชนะจิต) (ชนะ ศรีอุบล) พบกันเป็นครั้งแรก ใน เรื่องหวานซึ้งประทับใจ ดู...ชีวิตของหญิงสาวแสนสวยซึ่งตกอยู่ท่ามกลางความริษยาอาฆาต พร้อมด้วยดาราชั้นนำ พัลลภ พรพิษณุ, (ศรินทิพย์ ศิริวรรณ), ประภาพรรณ นาคทอง, อโนทัย บุศมชาติ, พรทิพา บูรณกิจบำรุง, แววดาว รวิพรรณ, จรูญ สินธุเศรษฐ์, จำนงค์ คุณะดิลก ในความอำนวยการของ มงคล ตันติวงศ์ รัตน์ เศรษฐภักดี ถ่ายภาพ ส.คราประยูร กำกับการแสดง บริษัทไทยฟิล์ม จัดจำหน่าย
รักสลักใจ (2504)
รักสลักใจ (2504/1961) รักสลักใจ เป็นภาพยนตร์ไทยที่ออกฉายในปี พ.ศ. 2504 สร้างโดยนครพิงค์ภาพยนตร์ กำกับการแสดงโดย ส. คราประยูร (สนาน คราประยูร)
สาวดาวเทียม (2503)
สาวดาวเทียม (2503/1960) สาวดาวเทียม เป็นภาพยนตร์สี 16 มม.ที่ออกฉายในปี พ.ศ. 2503 สร้างโดยนครพิงค์ภาพยนตร์ กำกับการแสดงโดย ส.คราประยูร (สนาน คราประยูร)
นางสิงห์เมืองเสือ (2502)
นางสิงห์เมืองเสือ (2502/1959) ศักดา ศิริวัฒน์ (แสน สุรศักดิ์) เป็นนักเรียนนายเรือ เขาเกือบจะเรียนจบอยู่แล้ว ก็มีเหตุให้ต้องตัดสินใจหนีออกจากโรงเรียนไปทั้งนี้สืบเนื่องจาก พระชำนาญภักดี (สัมพันธุ์ อุมากูล) ผู้เป็นลุงได้เขียนจดหมายส่งข่าวมาจากหนองเสือว่า เรือเอกชาญผู้เป็นบิดาของเขานั้น ได้ถูกพวกโจรฆ่าตายเสียแล้ว ศักดาแค้นใจมากและต้องการจะแก้แค้นแทนบิดาให้จงได้ จึงได้ตัดสินใจออกจากโรงเรียนไปอย่างกระทันหันดังกล่าวแล้ว ที่สถานีรถไฟปลายทางศักดาได้พบกับ เด่น ดวงดาว (สมพงษ์ พงษ์มิตร) หนุ่มชาวพื้นบ้านย่านนั้น จึงได้ว่าจ้างเกวียนของเขาให้ไปส่งที่หนองเสือ ซึ่งเป็นหมู่บ้านอยู่ในกลางป่าลึก แวดล้อมไปด้วยทิวเขาสลับซับซ้อน ตอนแรกๆเด่นจะไม่ยอมนำทาง เพราะเขามีความหวาดกลัวที่จะเข้าไปในหมู่บ้านแห่งนั้น เด่นเล่าให้ศักดาฟังว่า หนองเสือเป็นหมู่บ้านใหญ่เต็มไปด้วยคนแปลกหน้าต่างถิ่น มีตลาดมีโรงมหรสพ เป็นหมู่บ้านที่รำ่รวย เพราะเป็นแหล่งค้าไม้ซุงที่มีบริษัทใหญ่ๆทรงอิทธิพลหลายบริษัท ไปตั้งอยู่ในเขตนั้น เป็นหมู่บ้านที่เต็มไปด้วยคนดุและนักเลงหัวไม้ การตีฟันกันแทงฆ่ากันตาย จึงเป็นเหตุการณ์ปกติประจำวันที่นั่นไม่มีกฏหมายปกครองกันด้วยอำนาจปืน ด้วยอำนาจของศักดานั่นเอง ทำให้เด่นจำต้องรับอาสานำทางทั้งคู่เดินทางรอนแรมมาในป่าทั้งวันทั้งคืน และบรรลุถึงตลาดหนองเสือเอาในตอนเช้า ที่นั่นก็พบว่า มีชายฉกรรจ์กลุ่มหนึ่งกำลังตะลุมบอนล้างหน้าไก่กันอย่างดุเดือด ทั้งสองจึงเลี่ยงไปเสียและไปหาอาหารกินในร้านขายเหล้าขายข้าวแฝ่ของเจ๊กเฮง และที่นี่แหละศักดาได้ถูก ยอด ชั้นเชิงดี (ไสล พูนชัย) นักเลงใหญ่แห่งหนองเสือตะบันหน้าเสียคลุกฝุ่น ฐานบังอาจมองหน้า จวนเจียนจะเอาตัวไม่รอดอยู่แล้วก็พอดี บุษบา มหาสมบัติ (งามตา ศุภพงษ์) ลูกสาวคนสวยของเจ้าคุณไพบูลย์มหาสมบัติ (จหมื่นมานพนริศร์) เดินทางมาจากกรุงเทพฯประสบเหตุเข้าจึงได้ห้ามปรามไว้ บุษบาเดินทางมาหนองเสือกับบิดาก็เนื่องจากผู้จัดการป่าไม้ของเธอถูก เสี่ยเส็ง (วิชิต ไวงาน) พ่อค้าไท้คู่แข่งเป่าด้วยลูกปืนเน่าไปหยกๆ จึงดำริที่จะจัดหาผู้จัดการใหม่ดำเนินงานแทนต่อไป ฝ่ายศักดานั้น หลังจากฝากลวดลายมวยไทยและกำปั้นหนักปานช้างถีบให้ยอดและลูกสมุนเจ็ดแปดคนได้รสบ้างแล้ว ก็หลีกเหตุการณ์อันฉุกละหุกไปเยี่ยมคุณลุง ณ บ้านท้ายตลาด ที่นั่นเขาได้พบเข้ากับ แก้วตา ราชภักดี (ปรียา รุ่งเรือง) ลูกสาวคนสวยของคุณลุง ซึ่งเขามารู้ตัวเอาในตอนหลังๆว่า คุณลุงได้หมายมั่นปั้นมือที่จะให้เขากับหล่อนได้แต่งงานกัน แต่หัวใจเขาได้ตกเป็นทาสรักของบุษบาเสียตั้งแต่ตอนแรกพบในเช้าวันนั้นแล้วเนื่องจากคุณพระชำนาณราชภักดิ์ กับ เจ้าคุณไพบูลย์มหาสมบัติ นั้นเป็นเพื่อนสนิทเก่าแก่กัน เมื่อเจ้าคุณปรารภอยากจะได้ผู้จัดการป่าไม้คนใหม่แทนคนเก่าที่ม้วยมรณาไป และเจรจาทาบทามขอศักดาหลานชายของคุณพระให้ดำรงตำแหน่งนี้ ซึ่งคุณพระก็ตอบตกลงด้วยความยินดี ยิ่งศักดาได้ล่วงรู้ว่า คนร้ายที่สังหารบิดาของเขานั้นเป็นรายเดียวกันกับที่สังหารผู้จัดการป่าไม้ ยิ่งทำให้เขากนะเหี้ยนกระหือที่จะรับตำแหน่งนี้ ณ ที่บริษัทป่าไม้ที่ศักดาไปประจำอยู่ เจ้าคุณได้ส่งให้ยอดไปเป็นผู้ช่วยของเขา และที่นั่นศักดากับยอดได้ปะทะเข้ากับ เสือหาญ (สิงห์ มิลินทราศัย) มือปืนของเสี่ยเส็ง เสือหาญถูกศักดาต่อยลงไปคว่ำ ขณะที่เสือหาญจะชักปืนออกมายิงนั้น พิมพา มะลิวัน (วิไลวรรณ วัฒนพานิช) สาวสวยลูก ทองต่อ มะลิวัน (สุคนธิ์ คิ้วเหลี่ยม) เจ้าของร้านกาแฟได้ชักปืนออกมายิงสกัดช่วย ทั้งนี้ก็เพราะว่าหล่อนพอใจและหลงรักในตัวผู้จัดการหนุ่ม ฝ่ายเสือหาญนั้นมีความผูกสมัครรักใคร่พิมพาอยู่แล้วจึงไม่ถือสาหาความแต่อย่างใด วันหนึ่งเสี่ยเส็งได้เชิญศักดาไปพบ และขอร้องให้กลับกรุงเทพฯเสีย ขืนอยู่เขาอาจจะสังหารเสียด้วยความจำใจ เพราะไม่ถูกกับเจ้าคุณเนื่องจากผลประโยชน์ขัดกัน แต่ศักดาไม่ยอม จึงก่อความเดือดดาลให้แก่เสี่ยเส็งและเสือหาญเป็นอย่างยิ่ง เย็นวันหนึ่งแก้วตากับบุษบาไปเล่นน้ำตกกัน และได้ถูกเสือหาญจับตัวไปเป็นตัวประกัน ศักดาและพวกได้ยกกำลังติดตามไปทันจึงเกิดการต่อสู้กันอย่างขนานใหญ่ และสามารถแย่งชิงแก้วตากับบุษบาคืนมาได้ คืนวันหนึ่งขณะบุษบากับศักดากำลังพลอดพร่ำกันอยู่นั้น เสือหาญซึ่งแอบซุ่มอยู่ได้ใช้ปืนลอบยิงอาการสาหัสและฉุดบุษบาไป ยอดได้ติดตามไปทันและเกิดการต่อสู้กันขึ้น หาญเสียทีถูกตีสลบเหมือดส่วนศักดานั้นถูกหามไปพยาบาล เหตุการณ์ผ่านไปหนึ่งปี ศักดาถูกกำหนดให้แต่งงานกับแก้วตาโดยการหมั้นหมายของคุณลุง แต่จิตใจเขานั้นเฝ้าหลงรักอยู่ที่บุษบาดังนั้นในวันหนึ่งเขาจึงหลบหนีไปเสียและได้เกิดการต่อสู้กันอย่างขนานใหญ่กับพวกเสี่ยเส็งและเสือหาญ ศักดาสามารถฆ่าคนทั้งสองได้สมแค้นและในที่สุดก็ได้คืนดีกับบุษบานางแก้วในดวงใจของเขา
อัศวินสาว (2497)
อัศวินสาว (2497/1954) เชิงชาย กับ อัศนี สองเพื่อนรักต้องมาผิดใจกันเพราะต่างก็หลงรัก อารมณ์ หลายปีผ่านไปอัศนีได้เป็นนายตำรวจและได้รับมอบหมายให้ตามล่าสมุนของเชิงชายที่ค้าของเถื่อน เชิงชายทราบข่าวจึงสั่งฆ่าอัศนี ทำให้อารมณ์กลายเป็นภรรยาหม้าย ต้องเลี้ยงมาริน ลูกสาวเพียงผู้เดียว เวลาผ่านไป มารินโตเป็นสาวสะพรั่งเข้าศึกษานักเรียนนายร้อยตำรวจหญิงเพื่อสืบทอดเจตนารมณ์จากพ่อ แต่ก่อนมารินสำเร็จการศึกษาเพียงไม่กี่วันอารมณ์ก็ถูกฆ่าตาย ขณะนั้นเอง ทางราชการสั่งให้มารินปลอมตัวสมัครไปเป็นเลขานุการิณีของเชิงชาย ทำให้ตำรวจสามารถบุกทลายที่ซ่องโจรของเชิงชายได้สำเร็จ เชิงชายจับตัวมารินหนีไปกบดานที่หัวหินโดยมี บรรชา ลูกชายของเชิงชายไปด้วย มารินหาโอกาสที่เชิงชายเผลอ ฆ่าเชิงชายเพื่อล้างแค้นแทนพ่อ แม้ตนเองจะรักบรรชาอยู่ก็ตาม
เกาะเทพบุตร (2496)
เกาะเทพบุตร (2496/1953) อยู่เกาะต้องสู้ สาวนักสู้ จึงรักชาวเกาะ (ที่มา: หนังสือพิมพ์รายวัน สยามรัฐ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2496)
ลูกฝาแฝด (2494)
ต้นรักดอกโศก (2493)
ต้นรักดอกโศก (2493/1950) ณรงค์ และ วิชัย สองเพื่อนรักเดินทางมาหางานที่จังหวัดเชียงใหม่ บังเอิญเห็น สง่า ถูกกระชากกระเป๋าจึงไปช่วยเหลือ พร้อมนำกระเป๋ามาคืนสง่าที่บ้าน พอสง่ารู้ว่าทั้งสองกำลังหางาน จึงแนะนำให้ณรงค์มาเป็นผู้ช่วยสมุห์บัญชี ส่วนวิชัยได้งานที่ลำปาง ทั้งสองจึงแยกจากกัน ณรงค์สนิทกับครอบครัวของสง่านับแต่นั้นมาสง่ามีลูกสาวสวยคนหนึ่งชื่อ สุรีย์ วันเวลาทำให้ทั้งสองรักกัน ต่อมาสง่าเสียชีวิต ณรงค์ได้เลื่อนขั้นเป็นสมุห์บัญชีแทนสง่าเพราะความซื่อสัตย์ขยันหมั่นเพียร และได้แต่งงานกับสุรีย์ในเวลาต่อมา ชอบ เพื่อนร่วมงานซึ่งเคยมาสู่ขอสุรีย์เกิดริษยาและแอบวางแผนร้ายอย่างเงียบๆ ไม่นานจึงเริ่มดำเนินตามแผนที่ตนวางไว้ โดยการว่าจ้าง เรณู มายั่วยวนณรงค์ ณรงค์หลงเสน่ห์เรณูอย่างถอนตัวไม่ขึ้น กลายเป็นคนสำมะเลเทเมา ทิ้งลูกเมีย ละเลยหน้าที่การงานจนถูกพักงาน เรณูทวงเงินค่าจ้างหลังจากปฏิบัติแผนการสำเร็จ แต่ชอบบิดพลิ้วแถมตบหน้าเรณู เรณูฮึดสู้หยิบมีดแทงลงกลางหลังชอบจนเสียชีวิตและหนีไป ณรงค์ถูกจับแล้วยังรับสารภาพผิดแทนเรณูทำให้สุรีย์ต้องตกระกำลำบากหาเลี้ยงลูกด้วยการทำขนมจนถึงวันพิจารณาคดีเรณูมาปรากฏตัวที่ศาลและสารภาพว่าเป็นคนฆ่าชอบ ณรงค์จึงพ้นผิดและได้รับอิสรภาพ เป็นเวลาเดียวกับที่วิชัยบึ่งรถด้วยความเร็วเพื่อให้มาทันฟังคำตัดสิน จึงชนณรงค์ซึ่งกำลังเดินเหม่อลอยจนเสียชีวิต โดยไม่มีโอกาสเอ่ยคำขอโทษสุรีย์