จำเลยรัก (2506)

จำเลยรัก (2506/1963) เรื่องราวของความแค้นของ หฤษฎิ์ (มิตร ชัยบัญชา) พี่ชายที่ต้องสูญเสียน้องชายของตนเอง และเขาโกรธแค้นหญิงสาวต้นเหตุ ถึงกับจับตัวมาลงโทษเพื่อให้หายแค้น โดยไม่รู้ว่าจับมาผิดคน ไปจับโศรยา (พิศมัย วิไลศักดิ์) แต่เกิดความรักกันจึงได้แต่งงานกัน สุดท้ายหฤษฎิ์ยอมรับทุกคำบัญชาของโศรยา นับจากนี้ตราบจนชั่วชีวิต

ดอกแก้ว (2505)
ดอกแก้ว (2505/1962) เยี่ยมกว่า เมื่อครั้งฟังจากเสียง ยอดกว่า เมื่อครั้งอ่านจากหนังสือ จากละครวิทยุลือลั่นของ ส.อาสนจินดา เจ้าพระยาวงษานุวัติ เจ้าเมืองพิจิตรเป็นพ่อม่ายเมียตายเหลือลูกชายคนหนึ่งคือ วันชัย เจ้าคุณได้แม่ช้อย (ศรินทิพย์ ศิริวรรณ) เด็กรับใช้ในบ้านเป็นเมีย ขณะที่แม่ช้อย เป็นชู้กับหลวงมนูฯ (เมืองเริง ปัทมินทร์) ทนายความเจ้าเล่ห์ของเจ้าคุณ และเมื่อท่านเจ้าคุณออกตรวจราชการก็ได้ กิ่ง (วิไลวรรณ วัฒนพานิช) เป็นเมียอีกคน ขณะที่วาด (อดินันท์ สิงห์หิรัญ) คนสนิทของเจ้าคุณซึ่งแอบรักกิ่งอยู่ไม่รู้จนกิ่งตั้งท้อง ด้านช้อยก็ท้องกับหลวงมนูฯ จึงคิดวางแผนจะฆ่าเจ้าคุณ แต่เจ้าคุณได้ยินทั้งหมดจึงเขียนพินัยกรรมยกสมบัติครึ่งหนึ่งให้กับทายาทผู้ที่ถือพินัยกรรม และพับซ่อนไว้ในปลอกกระสุนในปืนด้ามทอง วันหนึ่งหลวงมนูฯ ลอบยิง เจ้าคุณตาย ส่วนวาดบาดเจ็บ ก่อนตายเจ้าคุณสั่งให้วาดนำปืนด้ามทองไปให้กิ่งเพื่อมอบแก่ลูก ก่อนที่วาดจะสิ้นใจตายไป กิ่งอุ้มลูกหนีมาพบกับมหาโจรชื่อ เม่น (เชาว์ แคล่วคล่อง) ตอนแรกเม่นจะปลุกปล้ำกิ่งเป็นเมีย แต่กิ่งขู่ว่าจะฆ่าตัวตาย เม่นชื่นชอบในความเด็ดเดี่ยวของกิ่งจึงเลี้ยงดูกิ่งในฐานะน้องสาว กิ่งเลี้ยงลูกสาวของตนและลูกชายกำพร้าแม่ของเม่นเติบโตพร้อมๆกัน ลูกสาวกิ่งชื่อว่า แก้ว (เพชรา เชาวราษฎร์) ส่วนลูกชายเม่นชื่อไม้ (ทักษิณ แจ่มผล) ต่อมาแก้วได้พบปืนด้ามทองโดยบังเอิญ กิ่งจำเป็นต้องเล่าเรื่องราวทั้งหมด แก้วขโมยปืนด้ามทอง และชวนไม้หนีไปบางกอกเพื่อแก้แค้นให้พ่อ แก้วและไม้ได้มีโอกาสช่วยวันชัย (อดุลย์ ดุลยรัตน์) ทำให้ได้มาอยู่ในบ้าน แต่ก็ถูกหลวงมนูฯ กับ ช้อย คอยกลั่นแกล้ง ด้านลูกสาวช้อยชื่อ ชไมพร เป็นคนสวยแต่เย่อหยิ่ง ส่วนวันชัยนั้นมีคู่หมั้นชื่อ รุ่งลักษมี สาวสังคมฟุ้งเฟ้อ รุ่งลักษมีมีพี่ชายรูปหล่อชื่อราชันย์ (ไชยา สุริยัน) ซึ่งชไมพรหลงรัก วันหนึ่งราชันย์พบดอกแก้ว ทั้งคู่ชอบพอกันทันที ช้อย รุ่งลักษมี และ ชไมพร วางแผนกีดกันแต่ก็ยิ่งทำให้ทั้งคู่รักกันยิ่งขึ้น จนวันหนึ่งดอกแก้วได้ตกเป็นของราชันย์ ทำให้ไม้หัวใจสลาย ช้อย ชไมพร และ รุ่งลักษมี จึงวางแผนใส่ร้ายว่าไม้กับแก้วเป็นชู้กัน ราชันย์หลงเชื่อจึงขับไล่แก้ว ทำให้แก้วซึ่งกำลังตั้งท้องได้รับความทุกข์เป็นอย่างมาก ไม้โกรธมากจึงปลุกปล้ำชไมพรเป็นการแก้แค้น และบังเอิญได้ยินความลับของหลวงมนูฯ กับ ช้อย แต่ก็ถูกทำร้ายจนความจำเสื่อม แก้วและไม้ สิ้นหวังกลับบ้าน แต่ หลวงมนูฯ ได้ส่งคนตามไปเผาฆ่าทุกๆคนในหมู่บ้านตายหมดเว้นแก้วกับไม้ ซึ่งหนีออกมาได้ ไม้ความจำกลับคืนมา ทั้ง 2 จึงตัดสินใจกลับบางกอกอีกครั้ง แก้วและไม้มาถึงในเวลารดน้ำสังข์ระหว่าง ราชันย์และชไมพรพอดี แก้วยกปืนด้ามทองจะยิงหลวงมนูฯ แต่ไม้เข้าขวางไว้ไม่ยอมให้แก้วเป็นฆาตกร ไม้ประกาศว่า ชไมพรเป็นเมียตน หลวงมนูฯแค้นสุดขีดจึงยิงไม้ ไม้ทรุดล้มลงแต่ได้คว้าปืนด้ามทองยิงหลวงมนูฯ ปรากฏว่ากระสุนด้าน และตกกระทบพื้นได้หักแยกออกจากกันจึงเห็นพินัยกรรม ความจริงทุกอย่างจึงได้เปิดเผยขึ้น หลวงมนูฯเสียสติยิงแม้กระทั่งชไมพรจนตาย และตัวเองก็ถูกตำรวจยิงตาย ส่วนไม้ก่อนสิ้นใจได้ฝากแก้วไว้กับราชันย์ โดยบอกให้ราชันย์ รักและทะนุถนอมแก้วแทนตนตลอดไป
นันทาวดี (2505)

นันทาวดี (2505/1962) ข้อความบนใบปิด พิษณุภาพยนตร์ ผู้สร้าง ดอกแก้ว ภูมิใจเสนอภาพยนตร์ ชีวิตการต่อสู้อันยิ่งใหญ่ในรอบปี นันทาวดี สีวิจิตร จากบทละครวิทยุอันลือลั่น ของ สุมนทิพย์ นำแสดงโดย ภาวนา ชนะจิต ทักษิณ แจ่มผล เมตตา รุ่งรัตน์ พล พิทยายุทธ ขอแนะนำดาราลักยิ้ม สายนที ระพีพันธ์ พร้อมด้วย ส.อาสนจินดา, ทัต เอกทัต, มนัส บุณยเกียรติ, ศรินทิพย์ ศิริวรรณ, ชาลี อินทรวิจิตร, พร ไพโรจน์, ถวัลย์ คีรีวัต, พีระพล, ยี่สุ่น, กำจาย, มารศรี อิศรางกูร, กรองจิตต์, มาลี เวชประเสริฐ, ประพิน และผู้แสดงอีกมาก ส.อาสนจินดา กำกับการแสดง วิจารณ์ ภักดีวิจิตร อำนวยการสร้าง-ถ่ายภาพ บริษัทสหการภาพยนตร์ไทย จัดจำหน่าย 

 
รอยไถ (2503)
รอยไถ (2503/1960) ลือ ชาวนาหนุ่มผู้ไม่เคยก้มหัวให้ใครในทุ่งบางเขน ลือรักชอบพอกับบัวเผื่อน สาวสวยประจำท้องทุ่ง ซึ่งเป็นที่หมายปองของอ่อน นักเลงใหญ่ผู้ร่ำรวย แม้บัวเผื่อนจะอาศัยอยู่กินกับลือจนมีลูกด้วยกัน แต่อ่อนก็ยังหวังได้ตัวเธอมาครองอยู่เสมอ ด้วยความสนับสนุนจากแม่ของบัวเผื่อน มีเพียงบัวผัน น้องสาวของบัวเผื่อนเท่านั้นที่คอยเป็นกำลังใจให้ลือ