ภาพยนตร์
กุหลาบพระนคร (2480/1937) 1 เมษายน วันขึ้นปีใหม่ของชาวสยาม ใครๆ ไม่ว่าหนุ่มสาวต่างทำใจเบิกบานต้อนรับความสุข แต่ปีใหม่มิได้เปลี่ยนเอาความจนของปีเก่าของคนจนไปด้วยเลย คงต้องต่อสู้กับความจนต่อไป วินัย สุปานันท์ ถูกความหมุนเวียนเปลี่ยนชีวิตของเขาแทบจะนับครั้งไม่ถ้วน บิดาคือ ร้อยเอกหลวงสัจจาวุธ เสียชีวิตไปก่อนที่เขาจะเป็นหนุ่ม ทิ้งแม่เจียมและ นิจ น้องสาวที่ยังเล็กให้เผชิญชีวิตตามลำพัง บัดนี้ความหมุนเวียนเปลี่ยนให้แม่เจียมที่เคยแข็งแรงทำงานเลี้ยงลูกอย่างขันแข็ง มาเป็นแม่เจียมที่ตามองอะไรไม่เห็นไม่อาจทำงานได้ อนาถหนาครอบครัวเล็กๆ ต้องประสบมรสุม ทำให้วินัยซึ่งอีกสองเดือนกว่าๆ ก็จะจบการโรงเรียน ต้องตัดใจลาออกมาทำงานเลี้ยงแม่และน้อง มาเป็นกรรมกรถีบสามล้อ และได้ ถึก คนถีบสามล้อเป็นเพื่อนรักกัน อีกแห่งหนึ่งในความเป็นอยู่ของชาวพระนครณ บ้านของคนผู้มั่งมีแล้ว คือบ้านของ พันโทพระยาสรรพาวุธ นายทหารนอกราชการ กับ สุณี ลูกสาวผู้กำลังเป็นกุหลาบดอกที่งามเด่นอยู่ในพระนคร จึงมีชายหนุ่มและกระทั่งแก่หลายรายจ้องมองสุณีด้วยความปรารถนาจะได้ครอง แต่ดูเหมือนไม่มีใครได้ใกล้ชิดเกินไปกว่านายเรืออากาศเอกอารี สมัครยุทธ์ ในสังกัดกรมทหารอากาศ สามารถไปมาหาสู่ที่บ้านได้บ่อยๆ ซึ่ง นิ่ม หญิงคนใช้ที่ต้องคอยเปิดประตูบ้านให้รถเข้าคุ้นเคย วันนี้อารีมาหาสุณีเพื่อแจ้งข่าวว่าเขาถูกย้ายไปประจำกองบินที่ 5 ประจวบคีรีขันธ์ แล้วถามถึงเรื่องส่วนตัว แต่สุณีนิ่งเฉยอารีจึงกลับไปอย่างผิดหวังเช่นเคย วันนี้เจ้าคุณพ่อกับสุณีไปธนาคารเพื่อเบิกเงินสด 6 พันบาทสำหรับจะซื้อที่ดินที่มีคนมาบอกขายแต่ระหว่างเดินทางกลับบ้าน รถยนต์เกิดเสียกลางทางเจ้าคุณไม่รอให้คนขับซ่อม เรียกรถสามล้อกลับบ้านกับลูก บังเอิญวินัยถีบสามล้อมาพอดี รับไปส่งถึงบ้าน เจ้ากรรม ท่านเจ้าคุณและสุณีลืมกระเป๋าสตางค์ไว้ที่เบาะสามล้อ วินัยกลับถึงบ้าน จึงรู้ว่าผู้โดยสารลืมกระเป๋าทีแรกถึกว่าให้เอาไปลงทุนเปิดร้านขายของ แต่แม่เจียมว่าให้เอาไปคืนเขาและขอให้เขา เขาอาจเห็นความดีและหางานดีๆ ให้ทำ ถึกพยายามทักท้วง แต่แม่เจียมบอกว่า ลูกผู้ชายเราควรจะทำตนให้เป็นประโยชน์แก่ผู้อื่นบ้างชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์และรัฐธรรมนูญ สิ่งเหล่านี้อีกที่เราควรรักและหวงไว้ประดุจชีวิตของเรา
กลัวเมีย (2479/1936) จำรัส เป็นผู้จัดการบริษัทสากลประกันภัย มีภรรยาชื่อ ลาวรรณ ชีวิตการแต่งงานของเขาไม่ได้ราบรื่นอย่างที่คิด เหตุเพราะเป็นโรคกลัวเมียขึ้นสมอง ผัน เพื่อนของจำรัสแนะนำ หมอแนม ซึ่งมีความสามารถสับเปลี่ยนวิญญาณมนุษย์กับผีได้ รุ่งขึ้นจำรัสจึงไปหาหมอแนมให้ช่วยรักษาโรคกลัวเมีย หมอแนมจัดการเปลี่ยนวิญญาณให้จำรัสและกำชับว่าห้ามยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงที่อายุอ่อนกว่า วิธีรักษาของหมอแนมประสบผลดีเกินคาด ไม่ว่าจำรัสจะทำอะไรลาวรรณก็ไม่ดุด่าเหมือนแต่ก่อน จนจำรัสย่ามใจเผลอไปยุ่งกับ ทองฟู นางบำเรอที่มาขอทำประกันความงามที่บริษัทของจำรัส โรคกลัวเมียจึงกลับมาเยือนจำรัสเหมือนอย่างเคย
จันทร์เจ้าขา (2479/1936) จากเรื่องอ่านเล่นลือชื่อมาเปนลครร้องเรื่องที่ดูไม่น่าเบื่อ จากเรื่องลครที่ดูกันไม่เบื่อมาเปนภาพยนตร์พากย์ชั้นมโหฬาร คือ "จันทร์เจ้าขา" ของ "พรานบูรพ์" (ที่มา: หนังสือพิมพ์กรุงเทพฯ วารศัพท์ พฤษภาคม พ.ศ. 2479)
พญาน้อยชมตลาด (2478/1935) พญาน้อย ราชบุตรของพระเจ้าช้างเผือกมีอุปนิสัยชอบเอาแต่ใจตนเอง เป็นที่กลุ้มใจของพระราชบิดา จึงจัดการอุปภิเษกแต่พญาน้อยก็ยังไม่เลิกนิสัย วันหนึ่ง มะโดด กับ มะดวด มหาดเล็กคู่ใจของพญาน้อยมาถวายรายงานว่าพบสาวงามและเชิญพญาน้อยไปทอดพระเนตร พญาน้อยจึงทำทีเป็นเสด็จเยี่ยมทุกข์สุขของราษฎร เมื่อไปถึงตลาดท้ายเมืองตะเกิง พญาน้อยตรงดิ่งไปยังร้านแป้งน้ำมัน ซึ่ง เม้ยเจิง เป็นเจ้าของและพยายามเกี้ยวพาราสี แต่เม้ยเจิงมีสามีแล้วชื่อ มะเทิ่ง เมื่อเม้ยเจิงปฏิเสธหนักเข้า พญาน้อยผู้เอาแต่ใจจึงข่มขู่ว่าจะทำร้ายมะเทิ่งหากเม้ยเจิงไม่ยอมเป็นสนมเอก เม้ยเจิงจึงต้องตามพญาน้อยเข้าวัง พญาน้อยนำเม้ยเจิงแอบไว้ในห้องหนึ่งและให้คนหว่านล้อมเม้ยเจิง แต่นางก็เอาแต่ร้องไห้รำพันถึงสามีมะดวด กับ มะโดด แนะนำให้พญาน้อยจูบเม้ยเจิง ปรากฏว่าได้ผลดีเกินคาด เม้ยเจิงลืมมะเทิ่งเสียสิ้น ขนาดมะเทิ่งถวายฎีกาต่อพระเจ้าช้างเผือก เม้ยเจิงก็กลับให้การว่าตามพญาน้อยมาโดยสมัครใจ มะเทิ่งจึงต้องกลับบ้านทั้งน้ำตาพร้อมเงินค่าทำขวัญ 50 ชั่ง ปล่อยให้เม้ยเจิงมีความสุขกับพญาน้อย
เลือดจีนต่างด้าว (2478/1935) เปนเรื่องประพันธ์ทางจีน - ไทย รักแกมตลก แกมต่อสู้ครึกโครม แสดงสภาพโคแก่ชอบหญ้าอ่อน สภาพเจ้าชู้ยักษ์ น้ำใจหนุ่มผิวเหลืองผู้รักชาติ ยิ่งชีพ มีระบำโป๊ แลการยั่วยวนร้อยแปด (ที่มา: นิตยสารภาพยนต์สยาม กรกฎาคม พ.ศ. 2478)
สัตตหีบ (2478/1935) เรื่องราวเกิดขึ้นที่ตำบลสัตหีบ สันต์ ชาญชล หนุ่มประมง สมัครรักใคร่อยู่กับ นวล มิ่งทรัพย์ ลูกสาวของนายเพิ่ม วันหนึ่ง สันต์หาปลาได้มากกว่าปรกติจึงเกิดครึ้มใจชวน ชัย เชาว์งาม เพื่อนรักไปเลี้ยงฉลองกันที่ตลาด จำเพาะพอดี เดช ผู้คุมแห่งคุกสัตหีบซึ่งเบื้องหลังประกอบการทุจริต ได้พาลูกน้องอันธพาลมากินเหล้าในร้านเดียวกันนี้ ก็เกิดเขม่นกันขึ้นจนหวุดหวิดมีเรื่องชกต่อย ระหว่างทางกลับ สันต์พบนวลกำลังรีบไปตลาดเพื่อตามหมอมารักษาพ่อที่ล้มเจ็บ สันต์จึงอาสาอยู่เฝ้านายเพิ่มที่บ้าน ลูกน้องของเดชเห็นนวลก็ทำกิริยากักขฬะ นวลเห็นท่าไม่ดีรีบเดินเลี่ยงไปอีกทาง แต่เดชไม่ยอมลดราวาศอก ปาน เพื่อนของสันต์ผ่านมาเห็นเข้า จึงรีบไปเรียกสันต์ให้มาช่วยนวล ที่สุดก็ไม่พ้นมีเรื่องชกต่อยกัน พอดีมีทหารเรือเดินผ่านมา สันต์กับปาน และลูกน้องของเดชบางส่วนจึงถูกจับขังคุกเป็นเวลา 1 เดือน เดชใช้อภิสิทธิ์ในการเป็นผู้คุม ลงโทษสันต์กับปานให้ทำงานหนักกว่านักโทษคนอื่นๆ หนำซ้ำยังตามรังแกนวลจนนวลรำคาญใจ ตัดสินใจหนีไปอยู่ที่อื่น แต่ถูกลูกน้องของเดชฉุดระหว่างทาง เป็นเวลาเดียวกับที่เรือนจำ นักโทษกำลังเฮโลกันแหกคุก เพราะผู้คุมเอาแต่ละเลยหน้าที่มัวแต่ไปก่อกรรม สันต์กับเพื่อนช่วยกันควบคุมสถานการณ์ กระทั่งเหล่าทหารเรือกระจายกันไปตามนักโทษ สันต์จึงขอออกไปช่วยนวลให้รอดพ้นจากอิทธิพลของเดช
กุหลาบเชียงใหม่ (2478/1935) กุหลาบเชียงใหม่ต้องชอกช้ำเพราะหนุ่มโกเสต (ที่มา: หนังสือพิมพ์กรุงเทพฯ วารศัพท์ พฤศจิกายน พ.ศ. 2478)
เรื่องย่อ : กุหลาบขาว (2471/1928) เมื่อ ดอกเตอร์วงจีฮี นายแพทย์หนุ่มจากเมืองจีน เดินทางกลับมาหา แป๊ะบุ้นกุ่ย หรือ นางสาวกุหลาบขาว หญิงคนรักพร้อมกับแร่เรเดียม แร่ที่มีคุณสมบัติในการรักษาโรคได้มากมาย จนเป็นที่หมายปองของบรรดาสี่โจรโฉด เพราะแร่เรเดียมนั้นเป็นแร่ที่มีมูลค่ามหาศาล ดีที่วงจีฮีนั้นเก่งในทางหมัดมวยจึงสามารถรักษาแร่ไว้ไม่ให้ตกไปถึงมือเหล่าโจรร้าย แต่กระนั้นแร่เรเดียมก็ยังไม่ปลอดภัยวงจีฮีจึงต้องนำไปเก็บไว้ในเซฟที่ปิดอย่างมิดชิด แต่บรรดาสี่โจรก็ยังล่วงรู้ จึงวางแผนจับตัวกุหลาบขาวมาเป็นตัวประกันพร้อมกับจ้างให้ เอียวโจโง๋ อดีตโจรงัดแงะตัวฉกาจไปทำการปลดเซฟ แต่เพราะวงจีฮีเคยช่วยเหลือหลานชายของเอียวโจโง๋ให้หายจากโรคร้ายเอียวโจโง๋จึงเอ่ยปากให้เบาะแสแก่วงจีฮี วงจีฮีจึงพาตำรวจเข้าตะลุมบอนกับสี่โจร จับตัวพวกมันไปขังคุก และช่วยกุหลาบขาวคนรักไว้ได้สำเร็จ