เชื้อไม่ทิ้งแถว 2470
เรื่องย่อ : เชื้อไม่ทิ้งแถว (2470/1927) เป็นเรื่องสมเหตุสมผล พร้อมไปด้วยคติสอนใจ โลดโผน โศก รัก ตลก คะนอง กับยังมียวดยานเกือบทุกประเภทแสดงประกอบอยู่ในเรื่อง เช่น รถยนต์ รถไฟ เรือยนต์ เรือแข่ง เรือกระฐินหลวง เครื่องบิน ฉวี (พระเอก) ต้องผจญภัยไม่แต่เพียงในเรื่องเท่านั้น แม้แต่นอกเรื่องก็ถูกผจญภัยด้วย ดังข่าวตกเครื่องบินในขณะทำการแสดง ดังปรากฏในข่าวหนังสือพิมพ์ที่เคยลงซู่ซ่ากันมาแล้ว ผู้ที่ได้รับความชมเชยเป็นพิเศษยังมีอีก เช่น เล็ก ซึ่งแสดงเป็นตัวนางลม้าย ภรรยานายสมบุญ (เชงจู) ผู้นี้นับว่าทำหน้าที่แม่ได้สนิทมาก โรคปากมากก็เป็นที่ 1 บูชาพ่อหลานชาย (สนอง) เสียเป็นเทวดา เข้าใกล้ผัวทีใดเป็นมีเรื่องทะเลาะกับผัววันยังค่ำ ทุกสิ่งของแม่ลม้ายไม่มีสิ่งใดที่จะเหลือไว้ให้สงสัยเลยว่าพ่อหลานชายยอดยากของแก เป็นบรมจอมโจรที่จะคอยล้วงตับแกในวันแล้ววันอีก ถ้าผัวคัดค้านถึงเรื่องพ่อหลานชายคนนี้ แม่ลม้ายเป็นแหงคัดค้านเสียจนคอหอยแทบจะระเบิดทีเดียว ในที่สุดนายสมบุญก็ต้องยอมแพ้ตามเคย เพราะทนปากแม่ลม้ายไม่ไหว ยังอีกคนหนึ่งคือ ตุ๊ ซึ่งแสดงเป็นนางผ่อง คนใช้ผู้สัตย์ซื่อของนางเอก นางผ่องคนนี้ไม่แต่เป็นคนใช้ที่ซื่อสัตย์ ยังทำหน้าที่เป็นตัวโจ๊กของเรื่องได้อย่างขบขันมาก ความขบขันของนางผ่องผู้นี้จะเห็นได้คราวหนึ่ง เผอิญไปแอบเห็นนายสาวกำลังกอดกับพระเอก นางผ่องจะเกิดรู้สึกขันอย่างไรไม่ทราบ ถึงกับปล่อยถาดถ้วยกาแฟลงไปกับพื้นดังโครมใหญ่ ยังอีกตอนหนึ่ง อารามตกใจว่าคู่รัก ของนายสาวถูกเจ้าสนั่น ตัวโกงหลอกเอาไป วิ่งกระหืดกระหอบไปบอกนายเสียจน "หางหงษ์" หลุด ความจริง สังขารของนางผ่อง ประกอบกับท่าทางที่แสดง ก็ชวนให้ น่าขันอยู่แล้ว ยิ่งไปทำอาการจูบพระธรณีในขณะที่วิ่งจนนางหางหงษ์หลุด จึงดูอาการคล้ายๆ กับลูกฟักใบเขื่องๆ ตกตุบลงในกองดินอย่างหนักๆ ตอนนี้จะทำให้ท่านผู้ดูถึงกับกลั้นหัวเราะไว้ไม่ไหวทีเดียว เพื่อเป็นหลักฐานแสดงให้ท่านเห็นว่าเรื่อง "เชื้อไม่ทิ้งแถว" เป็นเรื่องควรแก่การทัศนาของท่านเพียงใด พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระบรมราชินี ภายหลังเมื่อได้ทอดพระเนตรแล้ว มีพระราชดำรัสชมเชยว่า "เรื่องนี้ของเขาพอดูได้" (ที่มา: หนังสือพิมพ์ข่าวภาพยนตร์ พ.ศ. 2470)
นางสาวสุวรรณ 2466

เรื่องย่อ : นางสาวสุวรรณ (สุวรรณสยาม) (2466/1923) ชายหนุ่มคนหนึ่งชื่อนายกล้าหาญ เป็นข้าราชการยากจนมีรูปร่างหน้าตางดงาม รับราชการอยู่ในหอพระสมุดประจำพระนครและพักอาศัยอยู่กับบิดาและมารดาเลี้ยงซึ่งเขาเรียกพ่อเย็นกับแม่มะลิ วันหนึ่งแจวเรือกันมาในคลองบางหลวงเห็นสตรีผู้หนึ่งตกน้ำ กล้าหาญ ก็กระโดดลงไปช่วย เธอชื่อนางสาวสุวรรณ เป็นบุตรีของคุณวณิช เหตุการณ์นี้ทำให้คุณวณิชไม่พอใจที่เห็นนายกล้าหาญกอดลูกสาวตัวเองไว้แนบอก หลังจากนั้นนายกล้าหาญก็หลงรักนางสาวสุวรรณแบบหัวปักหัวปำ วันหนึ่งได้พบนางสาวสุวรรณอีกครั้งในวัดพระแก้วแต่นายกล้าหาญก็ถูกผู้ร้ายกีดกันและเขาผู้นั้นคือคู่แข่งนามว่านายก่องแก้ว นายก่องแก้วเองเป็นลูกคนมีฐานะและก็มีใจรักนางสาวสุวรรณเช่นกัน เขาจึงกันท่ากล้าหาญทุกครั้งเท่าที่เขาจะทำได้ ฝ่ายนางสาวสุวรรณก็ถูกกรอกหูอยู่ตลอดเวลาว่ากล้าหาญยากจนแต่ก็หลงรักเข้าไปจนหมดหัวใจแล้ว นายก่องแก้วก็ยังมาตามราวีอยู่ตลอดและดุแคลนเรื่อยมา ทำให้พ่อเย็นกับแม่มะลิจำต้องเปิดเผยความจริงว่าที่จริงแล้วนายกล้าหาญเป็นคนมีตระกูลทางภาคเหนือ พ่อแม่ของนายกล้าหาญพามาเที่ยวบางกอกแต่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตที่บางกอก พ่อเย็นกับแม่มะลิจึงได้เลี้ยงดูเด็กชายกล้าหาญจนเติบใหญ่ นายก่องแก้วรู้เรื่องราวเกรงจะเสียเปรียบจึงได้วางแผนฆ่าโดยหลอกนายกล้าหาญกับพ่อเย็นไปทำงานที่เชียงใหม่ แต่ดันพลาดฆาตกรดันไปฆ่าผิดตัว นายกล้าหาญโดนซัดทอดว่าเป็นคนที่ฆ่าเหยื่อคนนั้นตายจึงถูกจับไปดวย นางสาวสุวรรณเมื่อทราบข่าวจากพ่อเย็นจึงรีบบินไปเชียงใหม่พร้อมกับหลักฐานที่แสดงว่านายกล้าหาญเป็นคนมีชาติตระกูล คหบดีที่เชียงใหม่พอเห็นหลักฐานที่เป็นเสมาทองคำก็รู้ทันทีว่านายกล้าหาญเป็นหลานชายของตัวเอง ทำให้นายกล้าหาญพ้นผิด ขณะเดียวกันตัวฆาตกรก็ยอมรับสารภาพทำให้ผู้จ้างวานถูกจับกุม พ่อของนางเอกตามขึ้นมาที่เชียงใหม่ พอรู้ว่านายกล้าหาญเป็นคนมีชาติตระกูลจึงยอมยกลูกสาวให้ ฝ่ายนายกล้าหาญก็มอบสินสอดทองหมั้นอย่างสมน้ำสมเนื้อ