ปิดเทอมใหญ่ หัวใจว้าวุ่น (2551/2008) ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์ที่เล่าความรักหลากรูปแบบของหนุ่มสาว โดยแบ่งออกเป็น 4 ตอน ตัวละครแต่ละตอนไม่มีความเกี่ยวเนื่องกัน โดยเนื้อเรื่องทั้งหมดเป็นเรื่องที่เกิดในช่วงปิดเทอมใหญ่ พ.ศ. 2551 พุ, ไม้ และ นานา ด้วยต้นทุนความหล่อที่พ่อให้มาอย่างพอเพียง พุ (ชาลี ไตรรัตน์) ไม้ (ศิรชัช เจียรถาวร) จึงเข้าข่ายหล่อเลือกได้ เกมที่สนุกที่สุดของพวกเขาในช่วงปิดเทอม คือ แข่งขอเบอร์หญิง ทุกฤดูอำลาอาลัย สองหล่อจะร่วมมือกันกลายร่างเป็นสมุดเฟรนด์ชิพให้สาวๆ ม.6 มารุมฝากเบอร์ไว้ พุกับไม้ก็สอยเบอร์มาชนิดเหงื่อไม่หยด จนกระทั่งการมาถึงของเพื่อนเก่าสมัยอนุบาลที่ชื่อ นานา (อังศุมาลิน สิรภัทรศักดิ์เมธา) คนนี้เองที่ทำให้พุและไม้ถึงกับขอแตกคอกันชั่วคราว พุ วันคู่ ไม้ วันคี่ คนละวัน ใครจีบเบอร์นานาได้ก่อนชนะ โอ๋เล็ก นอกจากร้านซีดีเอเชียแล้ว โอ๋เล็ก (โฟกัส จีระกุล) มั่นใจว่าของสะสม ตี้ตี้ (เหว่ยลู) ของแฟนคลับอย่างเธอไม่เป็นสองรองใคร ซีดีทุกแผ่นทุกเพลงโอ๋เล็กท่องได้ขึ้นใจ แม้เธอจะไม่กระดิกสักนิดว่าคำจีนที่เธอร้องปาวๆ นั้นมันแปลว่าอะไร ความจริงข้อนี้เองที่ทำให้โอ๋เล็กขัดใจ ก่อนวันคอนเสิร์ตครั้งแรกในเมืองไทยหน้าร้อนนี้ เธอจะต้องซาบซึ้งในเนื้อเพลงของตี้ตี้ให้จงได้ โอ๋เล็กลงทุนไปสมัครเรียนภาษาที่วัดจีน เพื่อการร้องเพลงตี้ตี้แบบเข้าถึงสุดๆ โจ้ และ ซี โจ้ (รัชชุ สุระจรัส) เริ่มภารกิจสารภาพรักกับ ซี (ชุติมา ทีปะนาถ) อย่างที่ตั้งใจ แผนหนึ่งชวนดูภาพยนตร์ แผนสองหลุดความในใจ แผนสามสร้างความประหลาดใจเพื่อคนที่คุณรัก แผนสี่ประกาศให้โลกรู้ โจ้ทึกทักเอาเองว่าวีรกรรมที่เพียรพยายามทำเพื่อซีนั้น คือ ความหวาน โดยไม่เฉลียวใจเลยว่าสาวเจ้าจะรู้สึกว่ามันเลี่ยน และยิ่งนานวันซีจะเริ่มแปลการกระทำของโจ้ว่ายัดเยียด เหิร, นวล และ อาโออิ เมื่อ นวล (ธนิยา อำมฤตโชติ) ไปฝึกงานไกลถึงตรัง จะเตะบอล ดูภาพยนตร์ หรือเที่ยวผับ อะไรมันก็งั้นๆไปหมดในความรู้สึกของ เหิร (ฉันทวิชช์ ธนะเสวี) เขาตัดสินใจโดดขึ้นรถไฟไปหานวลก่อนวันนัดฉลองครบรอบสามปีที่เป็นแฟนกัน แต่โชคร้ายเกิดอุบัติเหตุขึ้น บนรถไฟสายใต้เหิรชนเข้ากับ อาโออิ (โซระ อาโออิ) สาวญี่ปุ่น ขาว สวย ตามลักษณะนางเอกภาพยนตร์ในดวงใจ อาโออิมาเที่ยวฟูลมูนปาร์ตี้คนเดียว เธอจึงชวนเหิรไปเป็นเพื่อน แทนที่จะไปตรัง เหิรจึงไถลไปพะงันกับสาวยุ่นคนนั้นซะ
Seasons Change เพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย (2549/2006) หลังจากจบมัธยมต้นแล้ว ป้อม ตัดสินใจสมัครเข้าเรียนมัธยมปลาย ที่ วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล สาขาเตรียมดนตรี เพราะต้องการอยู่ใกล้กับ ดาว เด็กสาวจากโรงเรียนเดียวกัน ที่เขาแอบหลงรัก ในขณะที่พ่อของป้อมเข้าใจว่า ลูกชายเรียนสาขาเตรียมแพทยศาสตร์ โดยที่ป้อมเองก็ไม่กล้าบอกความจริง เนื่องจากพ่อของป้อมเห็นว่า ดนตรีเป็นวิชาชีพที่ไม่มั่นคง ขณะเดียวกัน ป้อมก็ได้พบกับ อ้อม ลูกสาวของเพื่อนพ่อ ที่ถึงแม้ด้านปฏิบัติจะไม่เอาไหน แต่ความรู้ด้านทฤษฏีดนตรีเป็นเลิศ และสอบเข้าที่วิทยาลัยฯ เช่นกัน เมื่อทราบเรื่อง อ้อมก็เข้าใจว่า ป้อมรักดนตรีเหมือนกัน จึงสัญญาจะช่วยป้อมเก็บความลับ ถึงแม้จะตามผู้หญิงที่แอบรักมาเรียน แต่ป้อมกลับค้นพบว่า ตัวเขามีพรสวรรค์ในการตีกลองชุดที่เป็นเลิศ ทำให้ เฉด และ ฉัตร สองหนุ่ม ผู้กำลังมองหามือกลอง ให้กับวงดนตรีของตัวเอง เลือกป้อมเข้าร่วมวง เพื่อเข้าประกวด การแข่งขันวงดนตรี ฮอทเวฟมิวสิคอวอร์ด โดยตั้งชื่อวงว่า Ass-Ho-Le (แอสโฮลี่) นอกจากนี้ ฝีมือการตีกลองของป้อม ยังไปเข้าตา จิทาโร่ อาจารย์ชาวญี่ปุ่น ผู้สอนเครื่องดนตรีประกอบจังหวะ (เพอร์คัชชัน) อาจารย์จิทาโร่ จึงมักจะเรียกใช้ป้อม ให้มาช่วยทำวิทยานิพนธ์ของเขาอยู่เสมอ อย่างไรก็ตาม ป้อมกลับเลือกสมัครเป็นมือกลองทิมปะนี ในวงออร์เคสตราของโรงเรียนแทน เพราะต้องการอยู่ใกล้ชิดดาว ซึ่งเป็นมือไวโอลินของวง ส่วนอ้อม ซึ่งเคยเป็นมือไวโอลินเช่นกัน ต้องเปลี่ยนไปเล่นฉาบแทน เนื่องจาก ฝีมือการเล่นเครื่องดนตรีอื่นไม่เอาไหนจริงๆ เนื่องจาก วงออร์เคสตรา ใช้การเคาะจังหวะด้วยกลองไม่มาก ป้อมจึงต้องรออย่างเบื่อหน่าย กว่าจะถึงช่วงเล่นของตนแต่ละครั้ง ต่างกับอ้อม ที่มีความสุขกับดนตรี แม้ทั้งเพลงจะได้เล่นน้อยมาก ป้อมจึงเริ่มนึกถึงความรู้สึกของตนเอง ที่เปลี่ยนแปลงไปมาอยู่เสมอ ทั้งเรื่องดนตรี การเรียน ความรัก และชีวิตของตนในอนาคต ราวกับอากาศที่เปลี่ยนแปลงบ่อย
เกิร์ลเฟรนด์ 14 ใสกำลังเหมาะ (2545/2002) บี (ณัฐวรา หงษ์สุวรรณ), ตุ้ม (ปาริชาต แก้วกำพล), นุ้ย (ชโลธร บริราช), ติ๋ม (จีระนันท์ กิจประสาน) สี่สาววัยใสเพื่อนซี้ ทั้งหมดกำลังเรียนอยู่ในชั้น ม.3 โรงเรียนผู้หญิงล้วน มีชีวิตอย่างสนุกสนาน และน่ารักตามวัย เด็กสาววัยใสทั้งสี่มาจากครอบครัวที่แตกต่างกัน พ่อของบี (ไพบูลย์เกียรติ เขียวแก้ว) เป็นนักเขียน เจ้าของนิยาย ขายดีเรื่อง "ความรักของพ่อนกเงือก" ที่บรรยายถึงความสำคัญของพ่อนกเงือกต่อคู่ชีวิต และลูกที่เพิ่งฟักออกจากไข่ ส่วนแม่ของบีเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุบนถนน ตุ้มเป็นลูกสาวของนายแพทย์ตำรวจ (ณรงค์ ลัมะกานนท์) นุ้ยอยู่กับแม่ (ริสา หงษ์หิรัญ) ที่มีอุปนิสัยห้าวพอกัน เรียกว่าลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น ส่วนติ๋มเป็นลูกสาวของนายธนาคารใหญ่ (ศรัณยู วงศ์กระจ่าง) ที่กำลังมีปัญหาเรื่องทุจริตในสถาบันการเงิน อันจะส่งผลต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ วันหนึ่ง ขณะที่ทั้งสี่ไปเดินเที่ยวตามศูนย์การค้า นุ้ยถูกรปภ.จับหาว่าขโมยของ ตุ้ม ติ๋ม บีพยายามเข้าไปช่วย แต่พลาดท่ารปภ.ตัวร้าย แต่โชคยังเข้าข้าง เจ้าหน้าที่ตำรวจบุกเข้ามาจับ หัวหน้ารปภ.ตัวร้ายได้ทัน การผจญภัยครั้งนั้นส่งผลอย่างมากต่อตุ้ม จากเด็กห้าวท่าทางเหมือนทอมบอย ตุ้มเปลี่ยนแปลงตัวเองใหม่กลายเป็นสาวสวย สร้างความประหลาดใจให้กับหมู่เพื่อนๆ ตุ้มชวนเพื่อนไปเรียนกวดวิชา เตรียมตัวสอบเข้าเรียน ม.4 ทุกคนเห็นด้วย ยกเว้นบี ที่ไม่อยากเรียนสัปดาห์ละ 7 วัน และนี่คือจุดสำคัญ ที่พลิกผันความผูกพันของกลุ่มเพื่อนทั้งสี่ ที่โรงเรียนกวดวิชานี่เอง ตุ้มรู้จักกับเด็กหนุ่มวัยเดียวกันชื่อ แดง (ชาญนนท์ คล่องสุดใจ) หลังจากนั้น ความสัมพันธ์ของกลุ่มเริ่มเปลี่ยนแปลง ตุ้มทุ่มเวลาทั้งหมดให้กับแฟนหนุ่ม จนไม่เหลือสำหรับเพื่อนๆ ในกลุ่ม สร้างความน้อยเนื้อต่ำใจเป็นอย่างมากกับบี ซึ่งถือว่าสนิทกับตุ้มที่สุด... ในบรรดากลุ่มเพื่อนๆ กลุ่มที่เหนียวแน่นมาตลอด เริ่มสำแดงความแตกร้าว ตุ้มตีจากไป ตามด้วยบีซึ่งผิดหวังกับเพื่อนสนิท ความผิดหวังทำให้บีตัดสินใจหนีความเบื่อหน่าย ด้วยการพยายามสอบชิงทุนไปเรียนต่อต่างประเทศ ซึ่งก็ทำให้เธอต้องตีจากกลุ่มกลายๆ นุ้ยก็มีปัญหาความขัดแย้งกับตุ้ม ด้วยความเข้าใจผิดของฝ่ายหลัง ตุ้มคิดว่านุ้ยคิดจะแย่งแฟนตัวเอง เมื่อรอยร้าวในกลุ่มแผ่ขยายกว้าง จนทำท่าว่าความสัมพันธ์อันแนบแน่นมาถึงจุดอวสาน ทำให้ติ๋มที่แต่ไหนแต่ไร ไม่เคยลุกขึ้นมาพูดแสดงความต้องการของตัวเอง ไม่เคยขัดใจเพื่อน ต้องลุกขึ้นมาทำหน้าที่เป็นเสมือนกาวใจ หาทางแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น เพื่อคงรักษาไว้ซึ่งมิตรภาพ และความรักอันบริสุทธิ์ ที่แต่ละคนเคยให้กันและกัน ความรัก การเสียสละ และการให้อภัย คือทางออกทางเดียวสำหรับพวกเธอ
เด็กเสเพล (2539/1996) เรื่องราวของหนุ่มวัยรุ่นที่ชะตาขีดไว้ให้เขาต้องเข้าสู่เส้นทางของเด็กเสเพล จากการต้องพลัดพรากจากพ่อแม่ด้วยไฟสงครามยุคคอมมิวนิสต์ เขาถูกช่วยเหลือโดยคนรับใช้ของบ้านและเลี้ยงดูเขาจนเติบใหญ่ โดยไม่รู้เลยว่าพ่อที่แท้จริงของเขายังมีชีวิตอยู่ ด้วยความยากจนทำให้เด็กหนุ่มต้องก้าวเข้าไปสู่เส้นทางอันตราย แม้เขาจะพยายามกลับตัวกี่ครั้งก็ตาม ประมาณปี 2520 ณ หมู่บ้านชายแดนแห่งหนึ่ง เกิดการสู้รบระหว่างทหารกับฝ่ายคอมมิวนิสต์ทำให้ครอบครัวของครูศักดิ์ต้องพบกับความสูญเสียครั้งใหญ่ สุนีผู้เป็นภรรยากับลูกสาวคนเล็กเสียชีวิต ส่วนสันต์ลูกชายคนโตหนีรอดไปได้จากการช่วยเหลือของผิวคนรับใช้ แต่ครูศักดิ์นึกว่าสันต์ตายในสงครามแล้ว ส่วนผิวก็คิดว่าครูศักดิ์ตายแล้วเช่นกัน จึงนำสันต์ไปเลี้ยงดูและเปลี่ยนชื่อใหม่เป็นทิน ผิวเลี้ยงดูทินจนโตมาเป็นหนุ่ม แต่เพราะฐานะยากจนและไม่ได้เรียนหนังสือ ทินเริ่มคบกับพวกนักเลงอันธพาล วันหนึ่งทินวิ่งราวกระเป๋าผู้หญิงและหลบหนีตำรวจ เข้าไปในโรงเรียนที่ครูศักดิ์สอนอยู่ และครูได้ช่วยทินไว้ แต่ขอกระเป๋าคืนและอบรมทินให้กลับตัวเป็นคนดี แต่ทินก็จากไปอย่างไม่ใยดี ครั้งต่อมาทินถูกจับกุม และครูศักดิ์ไปประกันออกมา และรับตัวทินไว้อุปการะเรียนต่อแต่ครั้งนี้สายเกินไป
เจนนี่ กลางวันครับ กลางคืนค่ะ (Jenny) (2539/1996) "เจน" หนุ่นหน้าใสของคณะเศรษฐศาตร์ ต้องมาเจอกับเรื่องตลกที่หัวเราะไม่ออก เมื่อรายชื่อของเขาถูกจัดเข้าไปอยู่ในหอพักนักศึกษาหญิง จึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นของ "เจนนี่" เจนจะมาในตอนกลางวัน ส่วนเจนนี่จะมาในตอนกลางคืน แต่ทุกคนในหอหญิงก็รักเจนนี่ ทุกอย่างกลับมาสับสนวุ่นวายอีกครั้งเมื่อ"แม็ก"พยายามที่จะเปิดโปงสถานภาพจริงของเจนให้ "ปิ่น" ได้รู้ ซึ่งทั้งแม็กและเจนก็ต้องผิดหวัง
กลิ่นสีและทีแปรง (2539/1996) เป็นเรื่องราวชีวิตสนุกๆของนักศึกษา ภายในคณะจิตรกรรม มหาวิทยาลัยศิลปากร สร้างจากบทประพันธ์ ตอนต่อมา ของ พิษณุ ศุภนิมิตร ในชื่อ "กลิ่นสีและทีแปรง"
อนึ่งคิดถึงพอสังเขป รุ่น 2 (2539/1996) เรื่องราวของกลุ่มเด็กนักเรียนมัธยมปลายที่ต้องมาอยู่ในวงโยธวาฑิตทั้งๆ ที่พวกเขาไม่ชอบวงโยธวาฑิตเลยเพราะว่ามันล้าสมัย อย่างไรก็ตามนั่นคือจุดเริ่มต้นของความสนุกสนาน ในมิตรภาพที่พัฒนาจากการเป็นปรปักษ์ของทั้ง 2 กลุ่ม ที่ต้องร่วมกันรักษาศักดิ์ศรีแชมป์โลกวงโยธวาธิตของโรงเรียน ซึ่งแน่นอนว่าต้องใช้ความสมัครสมานสามัคคีกันและกันเหนือสิ่งอื่นใด เริ่มการศึกษาใหม่มานานกว่าสามเดือนแล้ว แต่โรงเรียนชายเจ้าของตำแหน่งวงโยธวาธิตนักเรียนของโลก ก็ยังไม่สามารถหาสมาชิกใหม่ให้วงของตนแทนสมาชิกรุ่นเก่า ซึ่งจบการศึกษาออกไปแล้วกว่าครึ่งวงได้ นักเรียนส่วนใหญ่มุ่งเล่นแต่กีต้าร์ คีย์บอร์ด และกลองชุด ที่สำคัญมีการแบ่งพรรค แบ่งพวก แบ่งฐานะ ชิงดีชิงเด่นตลอดเวลา จนวันหนึ่ง เรื่องราวลุกลามถึงขั้นโต้เถียงและเล่นดนตรีเอะอะข่มกัน จนอาจารย์ต้องเข้ามาสั่งสอน และสั่งห้ามจับเครื่องดนตรีที่เป็นต้นเหตุ และส่งนักเรียนอารมณ์ร้อนทั้งหมดไปอยู่ในความดูแลของครูดนตรี เพื่อเข้าเป็นสมาชิกในวงโยธวาธิตของโรงเรียนต่อไป ทว่ายามลับหลังครู ทั้งสองฝ่ายก็คอยหาเรื่องกลั่นแกล้งกันเป็นประจำ จะมีเพียงสิ่งเดียวที่นักเรียนสองกลุ่มนี้มีความเห็นเหมือนกันคือไม่เต็มใจในการเล่นดนตรีด้วยเครื่องดนตรีของวงโยธวาธิต เพราะเห็นว่ามันเชย อย่างไรก็ตาม นั่นคือจุดเริ่มต้นของความสนุกสนาน ในมิตรภาพที่พัฒนาจากการเป็นปรปักษ์ของทั้ง 2 กลุ่ม ที่ต้องร่วมกันรักษาศักดิ์ศรีแชมป์โลกวงโยธวาธิตของโรงเรียน ซึ่งแน่นอนว่า ต้องใช้ความสมัครสมานสามัคคีกันและกันเหนือสิ่งอื่นใด
ม. 6/2 ห้องครูวารีเทอม 2 (2539/1996) วารียังเป็นครูฝึกสอนห้อง ม.6/2 นักเรียนทุกคนกำลังจะสอบเพื่อสำเร็จการศึกษา และมีความฝํนในอนาคต ชีวิน สันต์ เอก และเพื่อนๆ พาสาวๆไปเที่ยว ถูกอาร์มก่อกวน และมีนักเลงอยู่แถวนั้นเกิดเข้าใจผิดจึงตีกัน สันต์ถูกตีเขาที่ลูกตาจึงถูกส่งโรงบาล หมอต้องผ่าตัดแต่แม่ของสันต์ไม่มีเงิน หวาน แจน นุช จึงไปขอร้องให้อาจารย์ใหญ่ช่วย เพราะสันต์เป็นนักกีฬามวยประจำโรงเรียนที่สร้างชื่อเสียงให้โรงเรียนเสมอ ทุกคนจึงช่วยกันจัดงานเพื่อเอาเงินมาช่วยสันต์ อาร์มมาขอโทษและขอร่วมงานด้วย เอกไปเล่นละคอนแต่ไม่บอกทุกคนและไม่ได้ไปช่วยงาน ทำให้เพื่อนๆโกรธเอก งานสำเร็จไปด้วยดี เอกนำเงินจากการเล่นละคอนมาช่วยสันต์ ทุกคนจึงเข้าใจในตัวเอก สันตืขอบใจเพื่อนๆ ที่ช่วยเขาให้ได้เงินรักษาตา มิตรภาพ มิตรภาพระหว่างเพื่อนจึงเหมือนเดิม ทุกคนตั้งใจเรียน และสอบไล่เพื่อเตรียมตัวพบความสมหวังในชีวิตต่อไป ในห้องเรียน ม.6/2 ยังมีครูวารีเป็นครูประจำชั้นเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือมิตรภาพของนักเรียนในห้องที่แน่นแฟ้นกันมาก ทั้งหมดเข้าใกล้ช่วงการสอบก่อนสำเร็จการศึกษาทว่าเกิดเรื่องร้ายขึ้นเมื่อ "สันต์" เพื่อนในกลุ่มเกิดเหตุทะเลาะวิวาทจนบาดเจ็บที่ดวงตาต้องเข้ารับการผ่าตัดโดยด่วน ทว่าฐานะทางบ้านของสันต์นั้นยากจน เหล่าเพื่อนๆจึงพยายามหาเงินมาช่วยด้วยวิธีต่างๆ เพื่อให้เพื่อนได้หายจากการบาดเจ็บและจบการศึกษาไปพร้อมกัน
กู๊ดบายซัมเมอร์ เอ้อเหอเทอมเดียว (2539/1996) ภารกิจที่แสนจะหนักหน่วงสำหรับครูหมูในซัมเมอร์ปีนี้ก็คือ การดูแลเด็กเกรียนสุดแสบทั้งเจ็ดอันประกอบไปด้วย เมย์ แคท ดาว เจ อาร์ต เซียน และ ปั๊บ ที่ผู้ปกครองส่งมาเพิ่มเติมความรู้ช่วงซัมเมอร์ ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เรื่องปวดหัวเริ่มตั้งแต่พวกเขาเหยียบเท้าลงบนสนามบินฮีธโทรว์ เพราะในขณะที่บางคนตั้งใจมาเรียนอย่างจริงจัง บางคนกลับอยากแค่มา "สนุก" กับสาวๆชาวอังกฤษ มาแกล้งเพื่อน แค่มาเที่ยวหรือหนีปัญหา แต่ขณะที่ปัญหาใหญ่ขึ้น ความสัมพันธ์ของพวกเขาก็เติบโตขึ้นด้วย กว่าจะ say goodbye กันในช่วงหมดซัมเมอร์และต้องโบกมือลากลับไปเมืองไทย พวกเขาต่างก็เป็นส่วนหนึ่งในความทรงจำที่แสนดีของกันและกันไปเสียแล้ว
ตัวเก็งเต็งหนึ่ง (2538/1995) วิทยาลัย สหวิทยาลัย ตั้งกฎขึ้นมาว่า เมื่อมีการเรียนการสอนก็ต้อง มีการแข่งขันระหว่างห้องขึ้นด้วย เด็กๆทั้งสองห้องจึงต้องฝึกฝนในเชิงกีฬากันเป็นอย่างมากเพื่อเอาชนะซึ่งกันและกัน ด้วยความกลัวว่าเด็กนักเรียนของตนจะแพ้ อาจารย์เฉียงจึงแอบผลิตยาโด๊ปที่สกัดจากสารธรรมชาติขึ้นหวังให้นักเรียนกิน เพื่อต้องการให้ชัยชนะตกเป็นของนักเรียนห้อง 1 โดยใช้ชุ่ม ซึ่งเป็นนักการภารโรง มาเป็นหนูลองยา แต่.. เรื่องราวจะดำเนินต่อไปอย่างไร จะจบลงแบบไหน และถ้วยคะแนนรวมจะตกเป็นของใคร ติดตามได้ในภาพยนตร์เรื่องนี้
ประถม มัธยม เปรี้ยวอมหวาน (2538/1995) ชีวิตในโรงเรียนใครว่าน่าเบื่อ ชีวิตช่วงไหนล่ะจะประทับใจน่าจดจำเท่าชีวิตวัยเรียนไม่มีอีกแล้ว อย่าลืมบันทึกเก็บเรื่องราวเหล่านั้นไว้เล่าให้ใครต่อใครฟังเหมือนเรื่องราวที่เราจะเล่าให้พวกนายฟังอยู่นี้ไง ที่โรงเรียนประถมมัธยม แหล่งกำเนิดเรื่องราวหรรษา ใครๆ ในโรงเรียนน้อยรายที่ไม่รู้จักนายกลอนกับนายแลกเกอร์สองพี่น้องคู่ฃี้ ทั้งคู่รักเรียน รักที่จะร่วมกิจกรรมของโรงเรียน กลอนมีเพื่อนร่วมชั้นชื่อสลึง มีนิสัยออกจะต๊องๆ แต่จริงใจมีน้ำใจกับเพื่อน กลอนเป็นชายในดวงใจของลูกเกด สาวที่ครอบครัวร่ำรวยแต่ขาดความรักความเข้าใจ เคยคิดฆ่าตัวตาย แต่กลอนช่วยไว้ทัน กลอนมีสาวในดวงใจชื่อ ทราย ที่มีน้องสาวน่ารักชื่อ เพลง ทรายมีมดแดงมาแฝงช่อมะม่วง นำทีมโดย ปลั๊ก เปลียก แห้ง กล้วย ทั้งสี่มักมาหลีทราย จน เพลงต้องหาทางตอบโต้เพื่อป้องกันพี่สาว กลอนกับน้องแลกเกอร์ หางานทำเพื่อแบ่งเบาภาระของแม่โดยเปิดแผงขายเครื่องประดับ ขายดีจนเป็นที่หมั่นไส้ของรวย พี่ชายของปลั๊ก ที่เปิดร้านดอกไม้แถวนั้น ปลั๊กสั่งชายร่างยักษ์ไปเล่นงานกลอนจนข้าวของเสียหายแต่เขาไม่โชคร้ายเกินไปเพราะลีลาการขายเกิดไปสะดุดตา พี่ไหม ที่เปิดร้านขายดอกไม้และเป็นคู่แข่งของรวย โดยมีน้องชายชื่อเกลียวมาคอยช่วยเหลือ พี่ไหมให้กลอนมาช่วยส่งดอกไม้ที่ร้าน ลูกเกดยังหมั่นไปมาหาสู่กลอน โดยที่ไม่รู้ว่า สลึง แอบชอบอยู่ กลอน สลึง แลกเกอร์ เพลง เข้าไปช่วยที่ร้านดอกไม้ของพี่ไหม ลูกค้าแน่นจนส่งแทบ ไม่ทัน เดือดร้อนถึง รวย ทนไม่ได้ จึงส่งปลั๊กกับพวกให้หาทางทำลาย พร้อมกันนั้นเรื่องรักของกลอนก็ชักจะยุ่งๆ เมื่อทรายนั้นรู้ว่ากลอนคบหาลูกเกดมาก่อน เรื่องจึงชักยุ่ง ไหนจะผจญกับศึกรัก จึงเป็นปัญหาหนักอกที่ต้อง หาทางแก้ไขให้ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี
ยุทธการเด็ดดอกฟ้า (2538/1995) ปราโมทย์-ชไมพร ข้อความบนใบปิด มาสเตอร์ซีนส์ ดอกฟ้าถ้าจะเด็ด ต้องมีกลเม็ดร้อยแปด ฮา... ยุทธการเด็ดดอกฟ้า ปราโมทย์ แสงศร, ชไมพร สิทธิวรนันท์, ศรัทธา ศรัทธาทิพย์, จิน ธรรมรัตน์, พีรยศ อินทรพล, นพพร กำธรเจริญ, กัดจัง พล, รัชดาจรี ณ นคร, ปิยวรรณ จิตรธนาธรรม, พวงเพชร ห้าวหาญ, เบญจมาศ ถิ่นพนม, สุปันดา ขุนศรีรอด, นิธิพัฒน์ ปัจฉิมนันท์ ดารารับเชิญ พูนสวัสดิ์ ธีมากร, วุฒิ คงคาเขตร “แก๊งไอ้โก๊ะ” บทภาพยนตร์ “ปื๊ด”-อังเคิล ที่ปรึกษา สมชัย กิตติคุณ ถ่ายภาพ สมพร สิริชวลิต กำกับศิลป บรรหาร สิตะพงศ์ กำกับการแสดง สมชาย องอาจ อำนวยการสร้าง (ที่มา :Thai Movie Posters)
ตุ๊ ต๊ะ ต๋อม แต๋ม สุภาพบุรุษตัว ต. (2537/1994) เรื่องราวของ 4 พี่น้องตระกูล ต. ประกอบด้วย ตุ๊ ต๊ะ ต๋อม แต๋ม ต๊ะแอบหลงรักเอ๋ สาวมาดทอม ส่วนต๋อมก็แอบชอบ จิรา ส่วนคนเล็ก แต๋ม ก็แอบปิ๊งสาวสวยของโรงเรียน ด้วยความกลัวผู้หญิง แต๋มจึงส่งจดหมายรักไม่ลงนามจนในที่สุดความจริงก็ปรากฏทั้งคู่จึงเข้าใจกัน สำหรับ ตุ๊ พี่ชายคนโตหลงรักจอย สาวรุ่นพี่ที่พบกันโดยบังเอิญ ทั้ง 4 อยากได้รองเท้าราคาแพง ก็พยายามหาวิธี ในที่สุดก็คิดออกว่าจะทำเสื้อสกรีนขาย โดยที่ตุ๊เป็นคนลอกลาย แต่ตุ๊มัวแต่จีบจอย ทำให้งานหยุดชะงักและเริ่มมีปัญหากับจอม เพื่อนร่วมชั้นเดียวกับจอยและชอบจอย จอมท้าตุ๊ชกมวย ตุ๊รับคำท้า โดยมีต๊ะเป็นคู่ซ้อมให้ แต่เมื่อซ้อมไปซักพักตุ๊ก็เริ่มไม่มาซ้อมเพราะไปเที่ยวกับจอย ต๊ะเริ่มไม่พอใจ ทำให้ตุ๊และต๊ะทะเลาะกันจนแทบตัดพี่ตัดน้อง เมื่อวันท้าชกมาถึง ตุ๊ก็ไม่มาตามนัด ต๊ะจึงอาสาชกแทน ในที่สุดความรักระหว่างพี่น้องก็เหนือสิ่งใด เมื่อต๊ะถูกจอมซึ่งเป็นนักมวยของโรงเรียนถลุงจนน่วมตุ๊ก็มาถึงเวทีชกพอดี และขึ้นชกจนบอบช้ำทั้งคู่ ในที่สุดจอมก็ยอมแพ้ในความเป็นสุภาพบุรุษของพี่น้องทั้ง 4 คน และในที่สุด พี่น้องก็คืนดีและร่วมทำเสื้อสกรีนอีกครั้ง
กระโปรงบานขาสั้น เทอม 2 ตอนแอบดูบาบีคิว (2537/1994) รุ่งเช้าวันหนึ่ง ครูแก้วตาได้เรียกนักเรียนมาประชุมกันเรื่องเดินทางไปวิจัยแมงปีกเล็กที่อุทยานเขตรักษา พันธุ์สัตว์ป่าดอยอินทนนท์ ใบเฟิร์นชวนแซ็กไปด้วย หลังการเดินทางก็มาถึงอุทยานซึ่งอยู่ในความดูแลของ ดร.ฉลาด ทุกคนสดใสร่าเริงกับบรรยากาศนอกรั้วโรงเรียน แต่พอเช้าทุกคนก็ตกใจเมื่อผ้าและกางเกงในหายไปหมด วิน เขื่อน ไข่ รู้เรื่องราวทำวิจัยของโรงเรียนใบเฟิร์น จึงขับรถตามไปแต่รถเสียกลางทางจึงต้องเดินทางด้วยเท้าแทน เข้าไปในป่าลึกเสบียงตกหล่นหายจึงตัดสินใจยิงสัตว์ แต่กลายเป็นยิงคนป่าร่างแคระกลายเป็นชนวนของความแค้นให้กับเผ่าคนป่า…..ในช่วงเดียวกันใบเฟิร์นและเพื่อนหลงเข้าป่าลึกไปพบคนป่า คนป่าคิดว่าทั้งสอง มีส่วนกับการตายของเพื่อน จึงจับตัวขังไว้ แซ็ก แป๋งและหอม ตามหาแต่ไร้ร่องรอย จนกระทั่งพบคนป่าโดยบังเอิญ และรอดกับมาจึงมาเล่าเรื่องราว ให้ ดร.ฉลาด ครูแก้วตาและเพื่อนๆ ฟังจึงช่วยกันตามหาและช่วยออกมาได้อย่างปลอดภัย หลังจากกลับจากป่า พ่อของใบเฟิร์นก็เข้าใจในตัวแซ็กและยอมให้คบหากัน ส่วนวินหลังจากได้รับความช่วยเหลือจากแซ็กในป่า เขาจึงยอมรับแซ็กในฐานะเพื่อนด้วยความเข้าใจอันดีต่อกัน
บันทึกจากลูก(ผู้)ชาย (2537/1994) เรื่องราวชีวิตกลุ่มนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ซึ่งมีหัวโจก คือ เดี่ยว เด็กชายที่มาจากครอบครัวพ่อแม่แยกทางกัน กับเพื่อนสนิท เบ้ง ลูกคนรวยที่ขาดความอบอุ่น เพราะพ่อแม่มุ่งทำงานเพื่อหาเงิน เด็กกลุ่มนี้ถูกลงโทษจนเป็นประจำ จนกระทั่งโรงเรียนไล่ทั้งกลุ่มออก เพื่อหนีจากปัญหาที่รุมเร้า ทั้งหมดจึงเดินทางไปเที่ยวทะเลทางใต้ ปรากฏว่าในระหว่างทางกลับกรุงเทพ พวกเขากลับโบกขึ้นรถบรรทุกของผิดกฎหมาย ซึ่งทำให้พวกเขาได้รับบทเรียนชีวิตที่สำคัญ พ่อแม่ของเดี่ยวแยกทางกันทำให้การเรียนของเดี่ยวมีปัญหา และเพื่อนๆของเดี่ยวก็มีปัญหาทางครอบครัวเช่นกัน หลายครั้งที่เดี่ยวและเพื่อนๆก่อปัญหา จนถึงขั้นถูกไล่ออกจากโรงเรียน เดี่ยวและเพื่อนๆหนีออกจากบ้าน และโบกรถเพื่อขออาศัยการเดินทาง ระหว่างทางถูกตำรวจจับเพราะเป็นรถขนของหนีภาษี คนขับใส่ร้ายพวกเดี่ยวด้วยแต่โชคดีที่ตำรวจเชื่อว่าทุกคนติดรถมา ทุกคนต่างแยกย้ายกันไปหาที่เรียน โดยเฉพาะแก้วเพื่อนสนิทของเดี่ยวที่เคี่ยวเข็ญจนเดี่ยวสอบเอนทรานซ์ติด และสิ่งที่เดี่ยวต้องการคือการพบพ่อที่หายหน้าไป 2 ปี เดี่ยวเขียนบันทึก ทุกครั้งที่คิดถึงพ่อ และอยากจบบันทึกเล่มนี้เพื่อให้ช่วงชีวิตจบลงด้วยความงดงาม
ม.6/2 ห้องครูวารี (2537/1994) เรื่องราวเกี่ยวกับห้องเรียน ม.6/2 ที่มีครูวารี (จินตหรา สุขพัฒน์) นิสิตฝึกสอนที่กลายเป็นครูประจำชั้นจำเป็น ครูวารีต้องรับมือกับเหล่านักเรียนที่มีปัญหาแตกต่างกันไปอย่าง "วิน" หนุ่มที่อยากเป็นนักดนตรีซึ่งขัดกับความตั้งใจของพ่อที่อยากให้เขาตั้งใจเรียนอย่างเดียว อีกคนคือ "นุช" ที่บังเอิญคือเป็นน้องสาวของครูวารีเอง โดยพ่อแม่ของพวกเธอแยกทางกัน สองพี่น้องจึงต่างแยกกันอยู่โดยนุชอยู่กับแม่ นุชจึงเกลียดพ่อและพาลเกลียดครูวารีที่อยู่กับพ่อไปด้วย เรื่องร้ายเกิดขึ้นเมื่อวินต้องเข้าร่วมการแข่งขันดนตรีแต่เกิดทะเลาะกับพ่อและประสบกับอุบัติเหตุในขณะที่ใกล้การแข่งขันรอบชนะเลิศไปทุกที วารี ครูฝึกสอนห้อง ม.6/2 ที่มีนักเรียนหัวโจกหลายคน โดยเฉพาะ ชีวิน อ้วน และเอก ที่มักจะนำแต่ปัญหามาให้และไม่สนใจเวลาวารีสอน ขณะที่ชีวินก็มีปัญหาทะเลาะกับพ่อ กลายเป็นเป็นปัญหาที่วารีต้องคอยแก้ไข ท่ามกลางความรักที่นักเรียนคนอื่น ๆ มีให้เธอ วารีเป็นครูฝึกสอนของห้อง ม.6/2 ฃึ่งมีนักเรียนหัวโจกหลายคน แต่ทุกคนก็รักวารี ชีวิน อ้วน เอก ชอบดนตรี จึงหนีเรียนไปแข่งดนตรี โดยมีกลุ่ม แจน หวาน นุช ไปให้กำลังใจ นุชเป็นน้องสาวของวารี แต่มักจะนำปัญหามาให้เนื่องจากพ่อแม่เลิกกัน นุชจึงไม่สนใจเวลาวารีสอน ชีวินทะเลาะกับพ่อ จึงหนีการสอบ วารีไปเตื่อนสติ ในขณะจะไปสอบชีวินถูกรถชนต้องเข้าโรงพยาบาล ในวันแข่งดนตรี ชีวินหนีออกจากโรงพยาบาลเพื่อไปแข่งกับเพื่อน ๆ พ่อตามไปแต่เจอกับพ่อของหวานและรู้ว่าพ่อของชีวินเป็นนักดนตรีเก่า พ่อของหวานจึงพูดเตือนสติให้นึกถึงลูกที่เจริญรอยตามแต่ไม่เสียการเรียน พ่อและชีวินเข้าใจกัน นุชมาขอโทษวารีที่เธอไม่เข้าใจปัญหาครอบครัว และให้กำลังใจชีวิน