มหาราชดำ (2524)

เรื่องย่อ : มหาราชดำ (2524/1981) ภาพยนตร์ที่ดัดแปลงจากตำนานกู้เอกราชของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช โดยเพิ่มตัวละครสมมุติเข้าไปเป็นกลุ่มทหาร 9 นาย นำโดยหลวงหาญและขุนพยัคฆ์ ซึ่งตีฝ่าวงล้อมทัพพม่าหนีมาอยู่อรัญญิก หลังเสียกรุงครั้งแรก ทั้งหมดต้องเผชิญหน้ากับการรังควานจากทัพพม่า รวมทั้ง ขุนเดือด คนไทยผู้แปรพักตร์ซึ่งสร้างรอยแค้นแก่หลวงหาญเป็นอย่างยิ่ง

เรื่องราวที่ดัดแปลงจากตำนานกู้เอกราชของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช โดยเพิ่มตัวละครสมมุติเข้าไปเป็นกลุ่มทหาร 9 นาย นำโดยหลวงหาญและขุนพยัคฆ์ ซึ่งตีฝ่าวงล้อมทัพพม่าหนีมาอยู่อรัญญิกหลังเสียกรุงครั้งแรกฯ ทั้งหมดยังต้องเผชิญการรังควานจากทัพพม่า และขุนเดือดคนไทยแปรพักต์ซึ่งสร้างรอยแค้นแก่หลวงหาญอย่างมาก จนในวันที่หลวงหาญชำระแค้นขุนเดือดสำเร็จ ทั้งหมดก็เดินทางไปร่วมทัพกับ ‘มหาราชดำ’ เพื่อร่วมรบในศึกกู้กรุงศรีฯ จากพม่า

เลือดสุพรรณ (2522)

เลือดสุพรรณ (2522/1979) ในปี พ.ศ. 2308 ตอนปลายยุคกรุงศรีอยุธยา ณ หมู่บ้านแห่งหนึ่งของเมืองสุพรรณบุรี ชาวบ้านยังคงอยู่กันอย่างสงบสุข แม้จะมีข่าวศึกจากกรุงอังวะ แต่ก็คิดกันว่าเป็นหน้าน้ำหลากพม่าไม่สะดวกในการเดินทัพคงจะไม่ยกทัพมา

คืนวันหนึ่งมีกลุ่มโจรบุกเข้าปล้นหมู่บ้านและฉุดดวงจันทร์ (ลลนา สุลาวัลย์) ลูกสาวของหัวหน้าหมู่บ้านไป แต่ระหว่างทางปรากฎชายหนุ่มลึกลับผู้มีฝีมือการต่อสู้ยอดเยี่ยมเข้าช่วยเหลือ เหล่าโจรสู้ไม่ได้จึงพากันหนีไป เนื่องจากเป็นเวลากลางคืนไม่สะดวกในการเดินทาง ชายหนุ่มลึกลับจึงพาดวงจันทร์ไปพักที่กระท่อมร้าง และบอกว่าตนเองชื่อทับ (ไพโรจน์ สังวริบุตร) เป็นทหารสอดแนมจากกรุงศรีอยุธยา และวันรุ่งขึ้นทับก็พาดวงจันทร์กลับคืนไปหาพ่อแม่ที่หมู่บ้าน

ด้วยความประมาทของคนไทย กองทัพพม่าสามารถบุกเข้ายึดเมืองสุพรรณบุรีได้โดยง่ายดาย รวมทั้งหมู่บ้านที่ดวงจันทร์อาศัยอยู่ ดวงจันทร์เอาตัวรอดโดยการปลอมตัวเป็นผู้ชาย ในขณะที่ผู้หญิงในหมู่บ้านหลายคนต้องถูกทหารพม่าข่มขืน เพื่อนของดวงจันทร์ถูกฉุดไปให้มังระโธ (สุทัศน์ อินทรานุปกรณ์) นายกองปีกขวา แต่ถูกขัดขวางโดยมังราย (ไพโรจน์ สังวริบุตร) นายกองปีกซ้ายผู้เป็นบุตรของมังมหาสุรนาถ (ส.อาสนจินดา) แม่ทัพใหญ่ผู้คุมทัพมาในครั้งนี้ มังระโธต่อสู้กับมังรายและพ่ายแพ้ จึงผูกอาฆาตต่อมังราย

ลูกทาส (2522)
ลูกทาส (2522/1979) ข้อความบนใบปิด ไทยสตาร์ภาพยนตร์ โดย สันติ สันติพัฒนาชัย ภูมิใจเสนอ ภาพยนตร์อิงประวัติศาสตร์ ลูกทาส ของ รพีพร จากรัก..สู่เลือดและน้ำตา จาก..ทาส..มาเป็น..ไท.. สรพงศ์ ชาตรี พระเอกตุ๊กตาทอง พบ สองนางเอก วงเดือน อินทราวุธ – นันทนา เงากระจ่าง ภิญโญ ปานนุ้ย, สมภพ เบญจาธิกุล, เศรษฐา ศิระฉายา, สมจินต์ ธรรมทัต, ศรินทิพย์ ศิริวรรณ, กฤษณะ อำนวยพร, วิทยา สุขดำรงค์, สุกัญญา นาคสนธิ์, จำนงค์ บำเพ็ญทรัพย์, พิภพ ภู่ภิญโญ, พนม นพพร, เสกสรรค์ ภู่ประดิษฐ์, หัทยา, นัยนา, ประเสริฐ, เชาว์ แคล่วคล่อง, โป๋, เทพ, นกเล็ก, สายพิณ จินดานุช, บุษบง, ส่ง, ทัศนีย์, สุปราณี, ชาลี อินทรวิจิตร สนธยา ดวงทองดี ถ่ายภาพ ประกอบ ใหญ่ศิริ กำกับศิลป์ สัมฤทธิ์ บุษษะ กำกับแสง สว่าง บุญยกาญจน์ ธุรกิจ รพีพร-กำธร สุวรรณปิยะศิริ กำกับการแสดง
อยุธยาที่ข้ารัก (2522/1979) เมื่ออยุธยาเสียกรุงแก่พม่า ลำดวน (พนิดา ทองฑัต) พาพระเจ้าเอกฑัต (สุรสิทธิ์ สัตยวงศ์) หลบหนีไปทางเรือ แต่พระเจ้าเอกฑัตรับสั่งก่อนสิ้นพระชนม์ให้ลำดวนตามฆ่าพระยาพล (ถวัลย์ คีรีวัตร) ผู้เป็นกบฏ ต่อมาลำดวนและพันเรือง (ยอดชาย เมฆสุวรรณ) สามีได้ลอบฆ่าพระยาพลแต่ไม่สำเร็จ จึงถูกจับไปขังไว้ในถ้ำ ก่อนตายทั้งคู่ได้สาบานจะอยู่ร่วมกันและจะตามแก้แค้นพระยาพลไปทุกชาติ เวลาผ่านไปอีก 200 ปี ลำดวนกลับชาติมาเกิดเป็นมูมู (พนิดา ทองฑัต) นักร้องสาวคณะละครเร่ ส่วนพันเรืองเกิดมาเป็นนักสืบและไปรับจ้างสืบหาตัวแดงน้อยหลานสาวคุณหญิง (สมจิตต์ ทรัพย์สำรวย) ที่หายตัวไปแต่เด็กๆ แต่เพราะความโลภจึงหลอกคุณหญิงโดยให้ศรีสุดา (ภาวนา ชนะจิต) สวมรอยเข้าเป็นแดงน้อยแทน ต่อมามูมูถูกโจรจับตัวไปขายซ่อง พันเรืองเข้าช่วยและพาไปหลบซ่อนตัวอยู่ในถ้ำเดิม ทำให้ทั้งคู่นึกถึงอดีตได้ แต่เมื่อพันเรืองแต่งงานกับศรีสุดา มูมูจึงตามมาทวงสัญญาและได้พบกับพระยาพลที่กลับชาติมาเกิดในงานนั้นและฆ่าพระยาพลตาย ความจริงก็ปรากฏขึ้นมาว่า มูมูก็คือแดงน้อยหลานสาวคุณหญิงที่หายตัวไปนั่นเอง
ขุนศึก (2519)

ขุนศึก (2519/1976) 15 ปี หลังจากกรุงศรีอยุธยาเสียแก่พระเจ้าบุเรงนอง สมเด็จพระนเรศวรมหาราชได้ทรงกรีธาทัพไทย พร้อมด้วยถสมเด็จพระเอกาทศรถ พระอนุชา เข้ายึดเมืองแกลงอันเป็นเมืองเชื่อมเขตแดนไทยกับพม่า ได้ทรงหลั่งอุทกธาราประเทศตัดไมตรีกับพม่า พม่ายกกำลังบุกไทย เสมาคุมทหารกองหนึ่งจากท่านขุนลิต ขุนลิตสู้จนตัวตาย เสมาสืบทอดเจตนารมณ์ทำงานต่อจากขุนลิต รวบรวมกองอาสาและนำเรื่องกราบเรียนพระธรรมนูญ พระธรรมนูญรับเสมาเข้าร่วมรบ ทัพหน้าของพระธรรมนูญเข้าตีทัพพม่า จนพม่าถอยทัพกลับ บ้านเมืองจึงสงบ และเสมาได้บรรดาศักดิ์เป็นขุนแสนศึกพ่าย

พยัคฆ์ร้ายไทยถีบ (2518)

พยัคฆ์ร้ายไทยถีบ (2518/1975) สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ทหารญี่ปุ่นเข้ามาตั้งฐานทัพอยู่ในประเทศไทยในการทำสงครามโลก รัฐบาลไทยจำยอมและต้องให้ความร่วมมือกับทางญี่ปุ่น แต่ก็ได้เกิดขบวนการต่างๆ ขึ้นมากมายเพื่อต่อต้านกองทัพญี่ปุ่นเพื่อปกป้องรักษาความเป็นไทย พจน์ ถูกทหารญี่ปุ่นจับตัวไปเพราะเข้าใจว่าเขาเป็นขโมย แต่ อรุณี ซึ่งเป็นพวกเสรีไทยปลอมตัวเข้าไปตีสนิทกับทหารญี่ปุ่นเพื่อสืบข่าว ช่วยพจน์ให้พ้นผิดได้ อรุณีทราบข่าวว่ากองทัพญี่ปุ่นจะพิมพ์ธนบัตรจำนวน 100 ล้านบาทขึ้นมาใช้เอง พล ซึ่งเป็นคนรักของอรุณีได้รับมอบหมายให้ทำลายงานนี้ซะ พลขอให้พจน์ซึ่งตอนนี้เป็นหัวหน้าขบวนการไทยถีบช่วยด้วย พลและพจน์นำลูกน้องไปทำลายเงินทั้งหมด และได้ต่อสู้กับทหารญี่ปุ่นจนได้รับชัยชนะ และตัดสินใจไปอยู่กับขบวนการเสรีไทยเพื่อช่วยชาติต่อไป

ทิพพ์ช้าง (2517)
ทิพพ์ช้าง (2517/1974) ข้อความบนใบปิด บริษัทลำปางชัยจำกัด โดย สอาด ปิยวรรณ อำนวยการสร้าง เสนอภาพยนตร์อิงประวัติศาสตร์ไทย เหตุการณ์เมื่อ 200 กว่าปี เป็นวีรกรรมครั้งยิ่งใหญ่ของชาติไทย รบ..รัก..น้ำตา.. และการกอบกู้อิสรภาพของแผ่นดินไทย ทิพพ์ช้าง นำแสดงโดย สมบัติ เมทะนี ธัญญรัตน์ โลหะนันท์ อนันต์ สัมมาทรัพย์ สุชีรา สุภาเสพย์ คมน์ อรรฆเดช ดลนภา โสภี ประภาศรี เทพรักษา ร่วมด้วย สุเทพ เหมือนประสิทธิเวช, จำนงค์ บำเพ็ญทรัพย์, วัลยา วรากรณ์, สันติ สันติพัฒนาชัย, สมชาย สามิภักดิ์, ประพัฒน์ มิตรภักดี, พิภพ ภู่ภิญโญ, แพน บอระเพ็ด, ปฐมชัย ชมศรีเมฆ, สอาด ปิยวรรณ ให้เกียรติร่วมนำแสดง และดาราสมทบอีกมาก รัตน์ เศรษฐภักดี กำกับการแสดง อดุลย์ เศรษฐภักดี ถ่ายภาพ ส.อาสนจินดา สร้างบทภาพยนตร์ สันติ สันติพัฒนาชัย ดำเนินงาน บริษัทลำปางชัยจำกัด แผนกภาพยนตร์ จัดจำหน่าย
นพเก้า (2515)
นพเก้า (2515/1972) ข้อความบนใบปิด วิเชียรภาพยนตร์ โดย มั่น คงวิเชียร เสนอ... ภาพยนตร์ประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ในรอบ 5 ปี นพเก้า ของ...พร ธาดา ยอดชาย เมฆสุวรรณ สุทิศา พัฒนุช เมตตา รุ่งรัตน์, สุวิน สว่างรัตน์, เมืองเริง ปัทมินทร์, ภูษิต อภิมัน, ชุมพร เทพพิทักษ์, เทียว ธารา, สีเผือก, สุคนธ์ คิ้วเหลี่ยม, พิภพ ภู่ภิญโญ พร้อมด้วย พีระพล, เทอด, วินัย ฯลฯ สุเพชร จิตตนิโรธ กำกับการแสดง เฉลิม บุตรบุรุษ ถ่ายภาพ
แก้วกาหลง (2510)
แก้วกาหลง (2510/1967) เสน่ห์ โกมารชุน สร้าง แม่นาคพระโขนง เจ้าแม่ตะเคียนทอง ลบสถิติและลือลั่นมาแล้ว ครั้งนี้ขอเสนอ... แก้วกาหลง ดูหนังผี ต้อง "เสน่ห์ โกมารชุน" สร้าง ดูหนังผี ต้อง "รังสี ทัศนพยัคฆ์" กำกับ ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า ไอ้แก้ว (มิตร ชัยบัญชา) ทาสในเรือนเบี้ย แต่เพราะไอ้แก้วมีความขยันมากกว่าทาสคนอื่นๆ จึงได้สิทธิพิเศษให้เรียนหนังสือ ไอ้แก้วมีความสามารถในการเล่นดนตรีสีซออู้ได้อย่างไพเราะ จึงได้รับความไว้วางใจท่านเจ้าคุณมหิทธ์ศักดิ์ ให้เป็นผู้สอนสีซออู้แก่กาหลง (ปรียา รุ่งเรือง) ผู้เป็นลูกสาวท่านเจ้าคุณฯ ก็เรียกว่า สอนไป สอนมา เกิดใกล้สนิทสนมและลักลอบได้เสียกัน ซึ่งเป็นความผิดมีโทษมหันต์ ยังความโกรธแค้นแก่ท่านเจ้าคุณฯ เป็นอย่างยิ่งเพราะทั้งอายที่ลูกสาวลดตัวไปเป็นเมียทาสหนุ่ม ท่านเจ้าคุณฯ จึงสั่งลงโทษโบยเฆี่ยนหลังไอ้แก้วและจับขังคุกทาสไว้ กะว่าจะให้ตาย ส่วนกาหลงผู้เป็นลูกสาวนั้น ท่านเจ้าคุณส่งตัวไปกักขังอยู่ที่กระท่อมกลางสวน เพื่อให้คลอดลูกก่อน โดยจัดเวรยามเฝ้าดูแลไว้ แต่เมื่อคนเฝ้ากินเหล้าเมายา แล้วก็เกิดอารมณ์เข้าปลุกปล้ำหมายข่มขืนกาหลง กาหลงไม่ยอม ก็ต่อสู้ดิ้นรนสุดชีวิตกระทั่งตัวเองถูกบีบคอตายคากระท่อม.. ท่านเจ้าคุณฯ รู้ข่าว ก็เสียใจและรีบจัดการฝังศพกาหลงไว้และตัวเองก็ป่วยจนตรอมใจตายในเวลาต่อมา ซึ่งก็เป็นเวลาเดียวกันกับในหลวงรัชกาลที่ 5 โปรดให้เลิกทาส ไอ้แก้วจึงได้รับการปลดปล่อยเป็นอิสระ แต่ไม่มีใครบอกว่า กาหลงเสียชีวิตไปแล้ว ต่อมาหมอผีก็ไปขุดศพนางกาหลงขึ้นมา หมายจะเอาน้ำมันพรายไปทำเสน่ห์ยาแฝด แต่เพราะกาหลงเป็นผีตายโหงที่ถูกสะกดวิญญาณไว้ เมื่อยันต์สะกดหลุดออก ผีนางกาหลงก็เลยเฮี้ยนและจัดการฆ่าหมอผีตายเป็นศพแรก จากนั้นผีนางกาหลงก็ออกอาละวาดทุกค่ำคืน ชาวบ้านชาวช่องก็ไม่กล้าออกจากบ้านไปไหน ผีนางกาหลงออกตามหาไอ้แก้วผัวรัก เมื่อหาไม่เจอ ก็มานั่งสีซอคร่ำครวญทุกคืนจนชาวบ้านกลัว ย้ายหนีกันไปหลายคน ส่วนไอ้แก้ว เมื่อพ้นจากทาสมาเป็นไท ก็กลับไปอาศัยญาติๆ ทำนา แล้วก็ได้พบกับซ่อนกลิ่น (เพชรา เชาวราษฎร์) เกิดรักใคร่ชอบพอกัน กระทั่งเกลอเก่าที่เคยเป็นทาสหนีจากบ้านท่านเจ้าคุณฯ มาหาไอ้แก้วและขออาศัยอยู่ด้วย ซึ่งก็เป็นเวลาเดียวกับที่ผีนางกาหลงติดตามเกลอไอ้แก้วมาด้วยเช่นกัน ตกกลางคืน ผีนางกาหลงก็ปรากฏตัวและไปขออยู่กับไอ้แก้วที่บ้าน โดยที่ไม่มีใครรู้ว่า กาหลงตายไปแล้ว กระทั่งเกลอเก่าไอ้แก้วมาเห็นเข้า จึงบอกซ่อนกลิ่นว่า กาหลงตายไปแล้ว ซ่อนกลิ่นก็ไปบอกไอ้แก้ว แต่ไอ้แก้วกลับไม่เชื่อ หาว่า ซ่อนกลิ่นหึงหวงกาหลง เหตุการณ์เริ่มไม่ค่อยจะสู้ดีเพราะไอ้แก้วกับผีนางกาหลงยังคงอยู่ร่วมบ้านกัน ซ่อนกลิ่นจึงไปหาอาจารย์ หาผ้ายันต์มาให้ไอ้แก้วพิสูจน์ความจริงว่า กาหลงตายไปแล้ว แก้วจึงยอมเอาผ้ายันต์ใส่ไว้ใต้หมอนที่กาหลงนอน พอตกกลางคืนร่างของกาหลงก็กลายเป็นซากศพเน่าเฟะนอนอยู่แทน แก้วจึงรู้ว่า กาหลงตายแล้ว ก็หนีไป สร้างความโกรธแค้นให้ผีนางกาหลงเป็นอย่างมาก จึงออกอาละวาดฆ่าคนเป็นว่าเล่น หมอผีหลายคนที่หาปราบ ก็สู้ผีนางกาหลงไม่ได้ กระทั่งหมอผีคนล่าสุดก็กำลังจะถูกผีกาหลงหักคอ ไอ้แก้วทนไม่ได้ที่ผีนางกาหลงฆ่าคนเป็นว่าเล่น จึงออกมาพบและบอกให้กาหลงฆ่าไอ้แก้วแทนเพราะจะได้ตายและไปอยู่ด้วยกัน เมื่อผีนางกาหลงได้ยินเช่นนั้น ก็รู้ว่าแท้จริงแล้ว ไอ้แก้วยังรักกาหลงอยู่ เพียงแต่เพราะอยู่กันคนละชาติคนละภพ ไอ้แก้วจึงแสดงออกแบบนั้น ผีนางกาหลงรู้สำนึกผิดชอบชั่วดีแล้ว จึงยอมปล่อยหมอผีไป และรู้ว่า ซ่อนกลิ่นก็รับไอ้แก้วเช่นกัน เมื่อชาตินี้ไม่สามารถอยู่กับพี่แก้วได้อย่างคนทั่วไป ก้เอ่ยปากฝากพี่แก้วกับซ่อนกลิ่นให้ครองคู่อยู่ร่วมกัน ส่วนตัวกาหลงเองก็จะกลับไปชดใช้กรรมในนรกภูมิ เพื่อชาติหน้าจะได้เกิดมาเป็นเมียพีแก้วอีกครั้ง
ผู้ชนะสิบทิศ ภาคสมบูรณ์ บุเรงนองถล่มหงสาวดี (2510)
ปผู้ชนะสิบทิศ ตอน ถล่มหงสาวดี (2510/1967) จะเด็ด ได้รับมอบหมายให้ปราบเมืองแปร แต่กลับหนีทัพไปพาตัว กุสุมา คนรักกลับออกมาจากหงสา แม้พระเจ้าตะเบ็งชะเวตี้จะพิโรธจนตัดความสัมพันธ์ แต่ด้วยความปรีชาสามารถของจะเด็ด ความสัมพันธ์จึงกลับมาราบรื่นตามเดิม วันหนึ่ง เมื่อ ไขลู จากหงสาวดี กลับมากำจัดพระมหาเถร พระอาจารย์ของทั้งคู่ จะเด็ดและพระเจ้าตะเบ็งชะเวตี้ จึงร่วมกันยกทัพเพื่อถล่มหงสาวดีให้พินาศเพื่อเป็นการล้างแค้น
ผู้ชนะสิบทิศ ตอน ยอดขุนพล (2509)
ผู้ชนะสิบทิศ ตอน ยอดขุนพล (2509/1966) จะเด็ด สามัญชนผู้ได้รับการเลี้ยงดูจากพระมหาเถร พระอาจารย์แห่งกษัตริย์ตองอู และต่อมา ได้รับเลือกให้เป็นผู้สืบทอด ดาบยอดขุนพล เมื่อถึงรัชสมัยพระเจ้าตะเบ็งชะเวตี้ ผู้ซึ่งนับถือจะเด็ดเป็นพระสหายคนสนิท เขาได้รับมอบหมายให้เป็นแม่ทัพปราบเมืองแปร แต่จะเด็ดกลับไปหลงรักและอภิเษกกับ กุสุมา ธิดาพระเจ้าเมืองแปร เป็นเหตุให้พระเจ้าตะเบ็งชะเวตี้ทรงพิโรธ และยกทัพบุกยังเมืองแปร
เจ้าแม่ตะเคียนทอง (2509)

เจ้าแม่ตะเคียนทอง (2509/1966) ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า ช่วงเวลาสุดท้ายก่อนการเลิกทาส ยอด (ไชยา สุริยัน) และพิกุล (ปรียา รุ่งเรือง) เป็นทาสในเรือนของท่านเจ้าคุณวิเศษสรไกร (สาหัส บุญ-หลง) ทั้งสองรักใคร่กัน ทำให้บัวเผื่อน (ชฎาพร วชิรปราณี) เมียน้อยท่านเจ้าคุณไม่พอใจเนื่องจากหลงรักยอดอยู่เช่นกัน ขณะเดียวกับที่ท่านเจ้าคุณก็ต้องการพิกุลเป็นเมีย วันหนึ่งบัวเผื่อนก็สร้างเรื่องใส่ความว่ายอดปลุกปล้ำ เจ้าคุณสั่งลงโทษโบยยอดอย่างหนัก แม้ว่าคุณกาหลง (โสภา สถาพร) ผู้เป็นธิดาพยายามขอร้องก็ไม่เป็นผล พิกุลยอมเป็นเมียท่านเจ้าคุณเพื่อเป็นการช่วยยอดไม่ให้ถูกเฆี่ยนจนถึงชีวิต แต่ยอดกลับเข้าใจว่าพิกุลเป็นหญิงหลายใจจึงดุด่าพิกุลอย่างรุนแรง พิกุลเสียใจมากจึงผูกคอตายที่ต้นตะเคียนในสวนหลังบ้านท่านเจ้าคุณ หลังจากพิกุลตายแล้วยอดจึงได้รู้ความจริงว่าที่พิกุลต้องยอมเป็นเมียท่านเจ้าคุณก็เพื่อช่วยชีวิตของตน ยอดจึงแอบโขมยศพของพิกุลจากวัดมาฝังไว้ใต้ต้นตะเคียน ยอดหลบหนีออกจากบ้านท่านเจ้าคุณและได้ช่วยหมอฝรั่งให้พ้นมือโ่จร หมอฝรั่งจึงพายอดไปอยู่ด้วยและสอนวิชาแพทย์ให้จนเชี่ยวชาญ ขณะที่บ้านท่านเจ้าคุณก็เกิดเหตุวุ่นวายเมื่อวิญญาณของพิกุลออกมาปรากฎตัวหลอกหลอน ท่านเจ้าคุณถูกพิกุลหลอกจนป่วยจึงให้คนไปตามหมอมารักษาซึ่งก็คือยอดนั่นเอง ทำให้ยอดได้มีโอกาสใกล้ชิดก้บคุณกาหลง หลังจากท่านเจ้าคุณเสียชีวิตทั้งสองตกลงใจจะอยู่ครองรักกันทำให้วิญญาณพิกุลโกรธมาก ปรากฎตัวออกมาทวงสัญญารักที่ยอดเคยให้กับตนเองไว้ ยอดเห็นใจในความรักและความเสียสละของพิกุลจึงจะยอมไปอยู่ด้วย ขณะที่พิกุลกำลังจะนำยอดไปหมอผีที่เดินทางมาปราบวิญญาณของพิกุลก็ได้ใช้ตะปูอาคมตอกที่ต้นตะเคียนทำให้วิญญาณของพิกุลสิ้นฤทธิ์เดช ก่อนที่วิญญาณจะสลายไปพิกุลได้ฝากให้คุณกาหลงดูแลยยอด ยอดและคุณกาหลงจึงได้ครองรักกัน

ศึกบางระจัน (2509)
ศึกบางระจัน (2509/1966) เรื่องราวของ ทับ ชายหนุ่มผู้อพยพชาวบ้าน รวมทั้งนิมนต์พระครูธรรมโชติมาอยู่ที่บางระจัน เพื่อเตรียมรับมือกับทัพพม่า เมื่อได้ข่าวว่าข้าศึกกำลังมาเยือนพร้อมด้วยปืนใหญ่ ทับจึงอาสาฝ่าอันตรายเดินทางไปขอปืนใหญ่ในวังหลวง อ้ายทับ แห่งบ้านคำหยาดหัวหน้ากลุ่มโจรที่คอยโจมตีทัพพม่า ต่อมาชาวบ้านคำหยาดไปรวมตัวกับชาวบ้านแห่งค่ายบางระจัน และอ้ายทับได้เป็นหัวหน้ากองทหารแห่งบ้านบางระจัน ชาวค่ายบางระจันสามารถรบโจมตีกับทัพพม่าได้แทบทุกครั้งด้วยความสามัคคีของคนในค่าย แต่ทว่าด้วยกำลังเพียงหยิบมือกับกองทัพขนาดใหญ่ที่หมายบุกไปโจมตีกรุงศรีอยุธยา ทำให้ชาวบ้านบางระจันถูกตีแตกพ่ายเหลือเพียงตำนานเล่าขานวีรกรรมแด่คนรุ่นหลัง
ลูกทาส (2507)
ลูกทาส (2507/1964) แก้ว (ไชยา สุริยัน) ทาสในเรือนของพระยาไชยากร (สมควร กระจ่างศาสตร์) เขาพยายามต่อสู้ดิ้นรนเพื่อจะพ้นสภาพการเป็นทาส ในยุคแห่งกระบวนการเลิกทาสในสมัยของพระปิยะมหาราช (รัชกาลที่ 5) ในราชวงศ์จักรีที่เริ่มมีการประกาศเลิกทาสและเกษียณอายุลุกทาสในแต่ละช่วงอายุ หากแต่นายเงินของแก้วนั้นไม่ยอมให้ความเป็นไทแก่บรรดาเหล่าทาสในครอบครอง แก้วจึงดิ้นรนและไข่วคว้าอิสรภาพที่เขาสมควรได้ ขณะเดียวกันก็ใฝ่หาความรู้ เพื่อการทำงานหลังจากเป็นไท เพื่อยกฐานะของตนเองขึ้นมาให้ทัดเทียมกับคุณน้ำทิพย์ (รัตนาภรณ์ อินทรกำแหง) หญิงสาวสูงศักดิ์บุตรสาวของพระยาไชยากรที่เป็นแรงใจให้เขามาตลอด ในที่สุดด้วยความมุมานะอุตสาหะของแก้ว และความเสียสละของเจิม (พิศมัย วิไลศักดิ์) ทาสสาวที่หลงรักแก้วอยู่ แก้วพ้นจากความเป็นทาสและมีความเจริญในชีวิตได้เป็นผู้พิพากษาและได้สมรสกับคุณน้ำทิพย์สมความตั้งใจ
ปักธงไชย (2500)

ปักธงไชย (2500/1957) ภาพยนตร์ไทยอิงประวัติศาสตร์จากเหตุการณ์สงครามปราบฮ่อ ในสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2428 เมื่อชาวจีนฮ่อหมู่หนึ่งก่อการกบฏต่อแผ่นดินไทย ล้อมค่ายของกองทัพไทยไว้ทัพหนึ่ง ทางการจึงต้องตั้งปฏิบัติการลับเพื่อส่งตัวร้อยตรีเต็ม นายทหารหนุ่มมากฝีมือกับจ่าโทน นายทหารอาวุโสของกองทัพและกำลังทหารผู้รักชาติยี่สิบสี่นายไปทำหน้าที่ในการจัดส่งยาและกระสุนปืนใหญ่ พร้อมด้วยความตั้งใจที่พวกเขาจะต่อสู้และนำธงชาติไปปักแสดงอธิปไตยไว้ที่ชายแดน แม้รู้ว่าภารกิจในครั้งนี้อาจจะทำให้พวกเขาไม่ได้กลับมา

ศรีปราชญ์ (2500)
ศรีปราชญ์ (2500/1957) ภาพยนตร์ชีวิต ยอดกรุงศรีอยุธยา สีวิจิตรตระการตา ยิ่งใหญ่ ฉากมโหฬาร บทรักประทับใจ