จันทร์เจ้าขา 2479

จันทร์เจ้าขา (2479/1936) จากเรื่องอ่านเล่นลือชื่อมาเปนลครร้องเรื่องที่ดูไม่น่าเบื่อ จากเรื่องลครที่ดูกันไม่เบื่อมาเปนภาพยนตร์พากย์ชั้นมโหฬาร คือ "จันทร์เจ้าขา" ของ "พรานบูรพ์" (ที่มา: หนังสือพิมพ์กรุงเทพฯ วารศัพท์ พฤษภาคม พ.ศ. 2479)

ปิศาจเครือฟ้า ภาคจบ
ยอดหญิง
ยอดหญิง (2479/1936) ยอดหนังไทยพากยแบบหนัง พูด ของบริษัท 101 ฉายที่ วัฒนกร วันที่ 16 ถึง 19 มกราคมนี้ รอบเช้าอาทิตย์และรอเคจันทร์อังคารมีจําอวตสลับ

พญาน้อยชมตลาด (2478/1935) พญาน้อย ราชบุตรของพระเจ้าช้างเผือกมีอุปนิสัยชอบเอาแต่ใจตนเอง เป็นที่กลุ้มใจของพระราชบิดา จึงจัดการอุปภิเษกแต่พญาน้อยก็ยังไม่เลิกนิสัย วันหนึ่ง มะโดด กับ มะดวด มหาดเล็กคู่ใจของพญาน้อยมาถวายรายงานว่าพบสาวงามและเชิญพญาน้อยไปทอดพระเนตร พญาน้อยจึงทำทีเป็นเสด็จเยี่ยมทุกข์สุขของราษฎร เมื่อไปถึงตลาดท้ายเมืองตะเกิง พญาน้อยตรงดิ่งไปยังร้านแป้งน้ำมัน ซึ่ง เม้ยเจิง เป็นเจ้าของและพยายามเกี้ยวพาราสี แต่เม้ยเจิงมีสามีแล้วชื่อ มะเทิ่ง เมื่อเม้ยเจิงปฏิเสธหนักเข้า พญาน้อยผู้เอาแต่ใจจึงข่มขู่ว่าจะทำร้ายมะเทิ่งหากเม้ยเจิงไม่ยอมเป็นสนมเอก เม้ยเจิงจึงต้องตามพญาน้อยเข้าวัง พญาน้อยนำเม้ยเจิงแอบไว้ในห้องหนึ่งและให้คนหว่านล้อมเม้ยเจิง แต่นางก็เอาแต่ร้องไห้รำพันถึงสามีมะดวด กับ มะโดด แนะนำให้พญาน้อยจูบเม้ยเจิง ปรากฏว่าได้ผลดีเกินคาด เม้ยเจิงลืมมะเทิ่งเสียสิ้น ขนาดมะเทิ่งถวายฎีกาต่อพระเจ้าช้างเผือก เม้ยเจิงก็กลับให้การว่าตามพญาน้อยมาโดยสมัครใจ มะเทิ่งจึงต้องกลับบ้านทั้งน้ำตาพร้อมเงินค่าทำขวัญ 50 ชั่ง ปล่อยให้เม้ยเจิงมีความสุขกับพญาน้อย

เลือดจีนต่างด้าว 2478

เลือดจีนต่างด้าว (2478/1935) เปนเรื่องประพันธ์ทางจีน - ไทย รักแกมตลก แกมต่อสู้ครึกโครม แสดงสภาพโคแก่ชอบหญ้าอ่อน สภาพเจ้าชู้ยักษ์ น้ำใจหนุ่มผิวเหลืองผู้รักชาติ ยิ่งชีพ มีระบำโป๊ แลการยั่วยวนร้อยแปด (ที่มา: นิตยสารภาพยนต์สยาม กรกฎาคม พ.ศ. 2478)

ระเด่นลันได 2478

ระเด่นลันได (2478/1935) ถอดจากหนังสือลือชื่อในบทประพันธ์ไทยเรื่องหนึ่ง ผู้แสดงได้แก่ บังฟัก พูมศรี เป็นตัวระเด่นลันได ขุนสำราญ (อ๊อด) เป็นท้าวประดู่ จรัสยนตร์ คำแย้ม เป็นนางประแดะ และ จำเริญ สวัสดิสันติ์ เป็นนางกระแอ เป็นหนังไทยเรื่องแรกที่สำคัญในเชิงตลกขบขัน การฉายคงมีพากย์ประกอบในแบบใหม่ คือ ชายพากย์บทชาย หญิงพากย์บทหญิง (ที่มา: หนังสือพิมพ์รายวัน ศรีกรุง กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2478) เรื่องตลกจริงๆ ตลก แท้ๆ ถ้าท่านยังไม่มี เรื่องที่จะหัวเราะหรือยังหาโอกาสหัวเราะไม่ได้ ก็เชิญเตรียมตัวคอยชม ระเด่นลันได ภาพยนตร์ตลกประกอบ เสียงของหัสดินทรภาพยนตร์ "ระเด่นลันได" ที่บริษัทหัสดินทร์สร้างขึ้นใหม่ นี้ ได้ใช้วิธีสร้างประกอบเสียงโดยวิธีใหม่ที่สุดซึ่งท่านจะได้เห็นและได้ฟังเปนครั้งแรกในพระนคร ท้องเรื่องของภาพยนตร์ถอดจากบทประพันธ์ของจินตกวีในรัชชสมัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชชกาลที่ ๒ และเปนเรื่องตลกล้วนๆ อย่างที่ฝรั่งเรียกว่า Comedy แท้ๆ (ที่มา: หนังสือพิมพ์กรุงเทพฯ วารศัพท์ มีนาคม พ.ศ. 2478)

ความรักในเมืองไทย 2476

ความรักในเมืองไทย (2476/1933) ฮักเคี๋ยง หนุ่มชาวจีนถูกภรรยานอกใจ มิหนำซ้ำยังปรักปรำตนว่าเป็นคอมมิวนิสต์ จึงเปลี่ยนชื่อเป็น หลีเจียงซัง หลบหนีมาอยู่ประเทศสยาม หลีเจียงซังได้งานเป็นผู้จัดการโรงสีไฟไต่ฟุงของนายฉั่นกาเซ้ง ไม่นานนักหลีเจียงซังก็พบรักใหม่กับ เซียกฟา บุตรสาวของฉั่นกาเซ้ง เคราะห์กรรมของเขายังไม่หมดไปวันหนึ่งหลีเจียงซังพบกับ เหล่าไกว่ฉุ่ง ชายชู้ของภรรยาเก่าโดยบังเอิญ หลีเจียงซังขอร้องไม่ให้เหล่าไกว่ฉุ่งแพร่งพรายเรื่องในอดีต เหล่าไกว่ฉุ่งจึงฉวยโอกาสนี้บังคับหลีเจียงซังร่วมมือฉ้อฉลโรงสีไฟไต่ฟุง เมื่อความแตกเหล่าไกว่ฉุ่งก็ป้ายสีความผิดแก่หลีเจียงซัง เซียกฟาผิดหวังมากขอร้องให้บิดาไล่หลีเจียงซังออกจากโรงสี ชุยเหลา ภรรยาเก่าของหลีเจียงซังตามเหล่าไกว่ฉุ่งมายังสยามและเกิดมีปากเสียงกัน หลีเจียงซังมาเห็นเหตุการณ์บันดาลโทสะควักปืนยิงทั้งคู่แต่ไม่โดนเหล่าไกว่ฉุ่งเข้าใจว่าชุยเหลาคิดทรยศจึงทำร้ายชุยเหลาบาดเจ็บปางตาย เหล่าไกว่ฉุ่งกินเหล้าระงับสติ แต่ด้วยเวรที่ทำไว้ หยิบยาพิษมาดื่มถึงแก่ความตาย หลีเจียงซังตามมาพบก็เกิดความสลดใจและตัดใจกลับเมืองจีน ขณะนั้น พ่อแม่ของหลีเจียงซังมาประเทศสยามเพื่อตามหาลูกชาย ความจริงจึงปรากฏว่าครอบครัวของหลีเจียงซังเป็นญาติกับฉั่นกาเซ้ง ที่สุดสองหนุ่มสาวจึงได้คืนรักและแต่งงานกัน

อำนาจความรัก 2476

อำนาจความรัก (2476/1933) เป็นเรื่องราวของความรักที่มีอิทธิพลเหนือสิ่งอื่นใด พิมพ์ ศรีเวียง เป็นแม่ค้าปลาที่ตำบลศรีราชา ด้วยความสวยของพิมพ์ จึงเป็นที่หมายปองของหนุ่มๆ แม้กระทั่ง ทับ พ่อเลี้ยง และ สิน หาญสมุทร นักเลงท้องถิ่น แต่ทั้งสองก็ได้แต่แอบรักพิมพ์อย่างเงียบๆ จนกระทั่ง นาคร อุดมลักษณ์ ชายนักท่องเที่ยวปรากฏตัว นาครพา นารา น้องสาว และ ชอบ วิชัย เพื่อนสนิทมาตากอากาศที่ศรีราชา แต่เรือถูกพายุพัดล่ม จึงมาขออาศัยพิมพ์ ทั้งสองเริ่มสนิทสนมกันทำให้สินอิจฉา และตัดสินใจขืนใจพิมพ์กลางวันแสกๆ แต่นาครช่วยไว้ทันสินหาทางดักทำร้ายนาครด้วยวิธีต่างๆ แต่ทับมาช่วยไว้และถูกแทงอาการสาหัส ก่อนตายทับสารภาพกับพิมพ์ว่าไม่ได้รักพิมพ์แบบลูกสาว แต่รักพิมพ์แบบคนรัก และขอจูบพิมพ์เป็นครั้งสุดท้ายก่อนสิ้นใจ

Placeholder
หมั้นซ้อน (2474)
รบระหว่างรัก (2474)
รบระหว่างรัก (2474/1931) เรื่องราวรักสามเส้า และรักต่างชนชั้น พระเอกเป็นลูกชาวนาที่อาสาไปรบในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 มีแม่เป็นคนตาบอด เมื่ออาสาไปรบจึงไปขอร้องเพื่อนที่มีเสียงเหมือนกับตน ไปดูแลแม่ของตัวเอง พอกลับมาจากสงครามก็พบว่าถูกแย่งคนรักไป พระเอกจึงไปแย่งกลับคืนมา
Placeholder

หมัดพ่อค้า (2474/1931) เป็นเรื่องเกี่ยวแก่การชิงรักระหว่างพ่อค้าชาวกองเกวียน มีการยกพวกปล้นกองเกวียน การต่อสู้กันด้วยอาวุธปืนและหมัดมวยอย่างโลดโผน (ที่มา: หนังสือพิมพ์ศรีกรุง ธันวาคม พ.ศ. 2474)

ยุงร้ายกว่าเสือ 2473
หนุ่มหัวนอก (2472/1929) วันนี้, พรุ่งนี้, และมะรืนนี้, เปนวัน กำหนดฉายภาพยนตร์ไทยเรื่องหนุ่มหัวนอก ซึ่งนายนัด ยวงพานิช เปนเจ้าของ ที่โรงภาพยนตร์ตลาดบำเพ็ญบุญ เชิงสะพานถ่าน พระนคร ภาพยนตร์ไทยเรื่องนี้ เจ้าของ เล่าว่าได้ลงทุนทำถึง 34,000 บาทเศษ สิ้นเวลาทำ 2 ปีกว่า พระเอกนางเอกและตัวประกอบล้วนเปนบุตรธิดาคหบดี แสดงได้สนิทสนมทุกอย่าง เทียมของฝรั่ง เปนเรื่องรักโศก ทำให้ผู้ดูตื่นเต้นยิ่งนัก จึงควรที่มหาชนจะไปชมให้ได้ (ที่มา: หนังสือพิมพ์รายวัน ศรีกรุง 30 สิงหาคม พ.ศ. 2472)
Placeholder
กินอะไร (2472/1929) เป็นภาพยนตร์แถลงการณ์ของกรมสาธารณสุข ซึ่งได้จัดทำขึ้นเป็นพิเศษเป็นเรื่องแรก มีกำหนดจะนำออกฉายตามโรงภาพยนตร์ต่าง ๆ ภาพยนตร์เรื่องนี้ควรต้องนับว่า เป็นภาพยนตร์แถลงการณ์เชิงภาพข่าวกลายๆ อย่างน่าดูได้เรื่องหนึ่ง ซึ่งทุกท่านควรไปชม เพื่อประดับความรู้รอบตัวให้มากยิ่งขึ้นทางสุขศึกษา ในเรื่องของการ "กินอะไร" เพราะทุกๆ คนจะต้องกินกัน ทุกวัน แต่อะไรจะควรกินและไม่ควรกิน ภาพยนตร์เรื่อง นี้จะบอกคุณประโยชน์ให้ท่านผู้ดูทราบโดยถี่ถ้วน (ที่มา: หนังสือพิมพ์รายวัน ศรีกรุง 31 ตุลาคม พ.ศ. 2472) กล่าวถึงสวนผัก สกปรกเพราะรดด้วยน้ำอุจจาระ คนมาซื้อผักจากสวนไปขาย พายเรือไปขาย คน ซื้อเรียกซื้อ ไปถึงตลาด ตลาดสกปรก คนมาซื้อ แม่บ้าน อ้วนๆ มาซื้อไปบ้าน บ้านสะอาดแต่ข้างหน้าข้างหลังใน ครัวสกปรก แม่บ้านทำอาหารไม่ได้ล้างผัก ให้สามีและลูกกินกันสองคน รุ่งเช้าสามีปวดท้อง เข้าส้วม ลูกก็เข้าส้วม ส้วมก็ไม่ถูกสุขลักษณะ สองพ่อลูกเป็นอหิวาต์แม่บ้านไป โทรศัพท์เรียกแผนกโรคติดต่อ กรมสาธารณสุข มารับไป โรงพยาบาลกลาง สรุป กินอะไร? คือกินอุจาระนั่นเอง (ที่มา: หนังสือพิมพ์รายวัน ศรีกรุง หลายวัน ตั้งแต่วันที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2472)
กุหลาบขาว 2471

เรื่องย่อ : กุหลาบขาว (2471/1928) เมื่อ ดอกเตอร์วงจีฮี นายแพทย์หนุ่มจากเมืองจีน เดินทางกลับมาหา แป๊ะบุ้นกุ่ย หรือ นางสาวกุหลาบขาว หญิงคนรักพร้อมกับแร่เรเดียม แร่ที่มีคุณสมบัติในการรักษาโรคได้มากมาย จนเป็นที่หมายปองของบรรดาสี่โจรโฉด เพราะแร่เรเดียมนั้นเป็นแร่ที่มีมูลค่ามหาศาล ดีที่วงจีฮีนั้นเก่งในทางหมัดมวยจึงสามารถรักษาแร่ไว้ไม่ให้ตกไปถึงมือเหล่าโจรร้าย แต่กระนั้นแร่เรเดียมก็ยังไม่ปลอดภัยวงจีฮีจึงต้องนำไปเก็บไว้ในเซฟที่ปิดอย่างมิดชิด แต่บรรดาสี่โจรก็ยังล่วงรู้ จึงวางแผนจับตัวกุหลาบขาวมาเป็นตัวประกันพร้อมกับจ้างให้ เอียวโจโง๋ อดีตโจรงัดแงะตัวฉกาจไปทำการปลดเซฟ แต่เพราะวงจีฮีเคยช่วยเหลือหลานชายของเอียวโจโง๋ให้หายจากโรคร้ายเอียวโจโง๋จึงเอ่ยปากให้เบาะแสแก่วงจีฮี วงจีฮีจึงพาตำรวจเข้าตะลุมบอนกับสี่โจร จับตัวพวกมันไปขังคุก และช่วยกุหลาบขาวคนรักไว้ได้สำเร็จ