My Precious รักแรก โคตรลืมยาก (2566/2023) เรื่องราวความรักของ "ต๋อง" (นนน-กรภัทร์ เกิดพันธุ์) เด็กผู้ชายในวัย 16 หัวโจกของแก๊งสุดห่ามประจําโรงเรียน และแก๊งเพื่อนอย่าง "โด่ง" (โอม-ภวัต จิตต์สว่างดี), "แบงค์" (ชิม่อน-วชิรวิชญ์ เรืองวิวรรธน์), "ไม้" (นีโอ-ตรัย นิ่มทวัฒน์) และ "เปา" (ยูโร-ธนเศรษฐ์ สุริยะพรชัยกุล) ที่มักจะก่อวีรกรรมสุดป่วนสร้างความปวดหัวให้กับเหล่าครูในโรงเรียนอยู่เสมอ แต่แล้ววันหนึ่ง "ต๋อง" และเพื่อน ๆ เกิดนึกสนุกเล่นพิเรนทร์กลางห้องเรียน จนทําให้ "ต๋อง" ถูกทําโทษด้วยการย้ายมานั่งอยู่หน้า "หลิน" (ฟิล์ม-รชานันท์ มหาวรรณ์) นักเรียนดีเด่นประจําโรงเรียนที่ทั้งน่ารักและเรียนเก่ง แถมยังเป็นคนที่เหล่าเพื่อน ๆ ในแก๊งของต๋องแอบชอบอีกด้วย มีเพียง "ต๋อง" ที่ไม่ได้ชอบ "หลิน" เพราะเขารู้สึกว่าตัวเองเป็นคนที่ 'โคตรเจ๋ง' เกินกว่าจะชอบใคร แต่สุดท้ายด้วยความใกล้ชิดเพราะต้องติวหนังสือให้กันก็เกิดเป็นความรู้สึกดี ๆ ที่พวกเขาเรียกมันว่า "รักแรก" และต่อให้เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน "รักแรก" ก็ยังคงเป็นคนที่เราไม่มีวันลืมอยู่ดี
รักเป็นบ้า CRAZY LOVE (2560/2017) เมืองไท (อนุพงศ์ สกุลมงคลลาภ) อาศัยอยู่ฝั่งมหาชัยส่วนแฟนสาววัยละอ่อนชื่อ ฟ้า (ประวีวรรณ สิงห์โต) อาศัยอยู่ฝั่งท่าฉลอม บ้านของเมืองไทนั้นเป็นท่าเรือข้ามฟากไปฝั่งท่าฉลอม ซึ่งด้านบนเป็นที่พักของเมืองไท ส่วนด้านล่างเป็นท่าเรือข้ามฟากและสภาพแวดล้อมของเมืองไท ประกอบไปด้วยบุคคลหลากหลายประเภทเช่น คุณลำยง แซ่หลีพนักงานเก็บค่าโดยสารเรือข้ามฟาก ที่เอาใจใส่เมืองไท ยิ่งกว่าคนรักเสียอีก และสาวตูนพนักงานทำความสะอาดร้านอาหารที่อยู่ติดกับบ้านเมืองไท มีอาชีพเสริมคือบริการสยิวทางโทรศัพท์ โดยมีเมืองไทเป็นหนุ่มในจินตนาการของตูน ในขณะที่งานของเมืองไทราบรื่นรุ่งเรื่องแต่ชีวิตรักกลับมีอันจบลงอย่างไม่เป็นท่า โดย ฟ้า เป็นฝ่ายทิ้งเขาไปอย่างไม่ใยดีพร้อมทิ้งคำถามที่ค้างคาใจให้เมืองไท ได้คิดว่าผู้หญิงต้องการอะไร เมืองไท เผลอไปทำร้าย หญิงบ้า (อิสซาเบล่า เลเต้) ที่บุกเข้ารื้อค้นข้าวของของเขาถึงในบ้าน และในตัวหญิงบ้า มียาติดตัวมาด้วยจำนวนหนึ่ง เมืองไทจำต้องดูแลหญิงบ้าอย่างที่ไม่เคยทำให้ใครมาก่อน ทั้งป้อนข้าว ป้อนน้ำ ฯลฯ หญิงบ้ามีอาการชัก เป็นโรคประจำตัว และการชักนั้นรุนแรงขึ้นทุกวัน เมืองไทจึงต้องเฝ้าดูตลอดเวลา เพื่อป้อนยา ตามคำแนะนำของพี่สาวที่เป็นหมอ เพราะเวลาชักหญิงบ้าจะกัดลิ้นตัวเองและถ้าพลาดการให้ยา นั่นอาจหมายถึงชีวิต
คนขับรถ DRIVER (2560/2017) คนขับรถเล่าเรื่องราวของ เกด (ศิตา ชุติภาวรกานต์) ผู้หญิงสวยและแสนดีคนหนึ่งที่ เต้ (ภูริ หิรัญพฤกษ์) สามีของเธอหายตัวไปแบบติดต่อไม่ได้หลังจากทริปดูงานที่เกาหลี เกดร้อนใจจึงปรึกษาตั้ม(ปฏิพล นาคะประเสริฐกุล) เพื่อนที่เป็นตำรวจให้ช่วยสืบดูแต่ตั้มคิดว่าเต้คงไปเถลไถลที่ไหนต่อตามประสาผู้ชายจึงให้เกดรอดูอีกสองสามวัน เกดรอไม่ไหวจึงขอให้ แมค (ปั้นจั่น ปรมะ อิ่มอโนทัย) คนขับรถของเต้พาเธอไปสืบดูที่ออฟฟิสจนเจอบิลค่าไฟบ้านหลังที่เธอไม่เคยรู้จัก เกดขอให้แมคขับรถพาเธอไปตามหาบ้านหลังนั้นหวังว่าจะเจอสามีสุดที่รัก แต่สิ่งที่เธอค้นพบกลับเป็นเบาะแสสู่ความลับที่เจ็บปวดที่ทำให้เธอไม่สามารถไว้ใจใครได้อีกตลอดไป คนขับรถเป็นภาพยนตร์แนวดราม่าที่มีความเป็นอีโรติกและทริลเล่อร์ผสมอยู่ นำแสดงโดย ปั้นจั่น ปรมะ อิ่มอโนทัย, ภูริ หิรัญพฤกษ์, ปฏิพล นาคะประเสริฐกุล และนางเอกใหม่ประเดิมผลงานภาพยนตร์เรื่องแรก ศิตา ชุติภาวรกานต์ เขียนและกำกับโดย ฐิติพันธ์ รักษาสัตย์ อำนวยการสร้างโดย ปฐมกฤษณ์ สุดสระ
พรหมจรรย์ สวยพันธุ์สยอง (2558/2015) เนญ่า (ไอยวริญท์ โอสถานนท์ โธมัส) หญิงสาวผู้ปิดกั้นความรักจากผู้ชายทุกคนเพราะมีความเชื่อว่าผู้ชายทุกคนเจ้าชู้ และเห็นผู้หญิงเป็นแค่เครื่องเล่นบำเรอความใคร่ ได้เดินทางไปเที่ยวที่จังหวัดทางเหนือตามคำชักชวนของ แพรว (พัทธ์ธีรา ศรลัมพ์) กับ กิ๊บ สองเพื่อนหญิงคนสนิท เนญ่า ไม่พอใจเมื่อเห็นว่า กิ๊บ แอบนัด พัตโตะ (ธนันท์รัฐ ยันต์ฉิมพลี) แฟนหนุ่มกับเพื่อนชายอีกสองคนที่ชื่อ ยิม (กวินพนธ์ พานิชพงษ์) และ มาวิน (กวี วงศ์จันทรา) มาด้วย กิ๊บ วางแผนให้ยิมหลอกฟัน เนญ่า เพื่อต้องการพิสูจน์ว่าที่ เนญ่า เป็นเลสเบี้ยนหรือผู้หญิงแท้ เนญ่า ไม่ชอบหน้า มาวิน แต่กลับรู้สึกดีกับ ยิม เพราะหลงเชื่อว่า ยิม เป็นสุภาพบุรุษ ในขณะเดียวกัน มาวิน กลับเริ่มสนใจในตัว เนญ่า เพราะเข้าใจผิดคิดว่า เนญ่า ยังบริสุทธ์ ในระหว่างที่ทุกคนใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านพักในป่าลึก เนญ่า ได้เดินหลงเข้าไปในป่าและเจอกับหญิงสาวที่มีรอยสักเต็มตัวโดยเฉพาะรอยสักเสือที่อยู่ด้านหลัง เนญ่า กลับออกมาจากป่าโดยที่จำไม่ได้ว่าตัวเองถูกหญิงสาวคนนั้นสักรูปเสือเอาไว้ที่แผ่นหลัง หลังจากวันนั้น เนญ่า ก็มีท่าทีและพฤติกรรมที่แปลกไปพร้อมกับเกิดเหตุการณ์ที่ มาวิน ถูกเสือฆ่าตาย ทุกคนเริ่มสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับ เนญ่า และเสือที่ออกมาตามฆ่าพวกเขาเป็นเสือจริงหรือเสือสมิงตามที่ชาวบ้านล่ำลือกันแน่ เรื่องราวความลี้ลับที่แฝงไปด้วยเสน่หาแห่งความตายภายใต้มนต์ไสยศาสตร์ของรอยสัก เสือกำลังรอคอยเพื่อให้คุณได้พิสูจน์ความจริง
เมย์ไหน ไฟแรงเฟร่อ (2558/2015) ป๋อง (ธิติ มหาโยธารักษ์) เด็กหนุ่มนักเรียนชั้นม.5 แบ่งนักเรียนในโรงเรียนในระดับฐานันดรต่างๆ คือ คนทั่วไป, อันธพาล, เด็กเนิร์ด, นักกีฬา, คนหน้าตาดี, และนักกิจกรรมตัวท็อป โดยจัดตัวเองเป็นอยู่ในกลุ่มไร้ตัวตน ไม่มีคนสนใจ แต่ป๋องก็มีความในใจคือแอบชอบมิ้ง (นรีกุล เกตุประภากร) นักกิจกรรมตัวท็อป เธอยังเป็นว่าที่ประธานสีคนต่อไป ทั้งที่เธอไม่เคยเหลียวป๋องเลย จนวันนึงป๋องได้รู้จักกับเมย์ไหน (สุทัตตา อุดมศิลป์) ผู้หญิงเก็บตัว ไม่เข้าสังคม และเป็นกลุ่มคนประเภทไร้ตัวตนเฉกเช่นเดียวกับตัวป๋องเอง ป๋องเองรู้ความลับของเมย์ไหนว่าเธอแอบชอบพี่เฟม (ธนภพ ลีรัตนขจร) เป็นนักกีฬาประจำโรงเรียน ประธานสี ป๋องยังทราบว่าเมย์ไหนเลือกที่จะไร้ตัวตนเพราะเธออยู่กับใครไม่ค่อยได้ ร่างกายของเธอจะปล่อยกระแสไฟฟ้าเมื่อเธอ ตื่นเต้น หรือตกใจ ทังสองจึงตกลงเป็นเพื่อนและเก็บความลับของกันและกัน ค่อยๆ สนิทกัน และช่วยกันจีบมิ้ง
แม่เบี้ย (2558/2015) ความลุ่มหลงแห่งอิสตรี จะเปิดความลับแห่งอสรพิษ เบื้องลึกของความรัก ตัณหาราคะ เหล่าคนบาป และความเร้นลับแห่งอสรพิษ ทุกเรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อ ชนะชล สุพรรณภูมิ (ชาคริต แย้มนาม) ประธานบริษัทอสังหาริมทรัพย์ผู้มั่งคั่งมีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะเป็นเจ้าของ "เรือนไทยโบราณริมแม่น้ำ" ทำให้ภาคภูมิ (จิรวิชญ์ พงษ์ไพจิตร) เลขาคนสนิทได้พาเขาไปดูเรือนไทยโบราณที่ อ.บางปลาม้า สุพรรณบุรี ของ เมขลา พลับพลา (กานต์พิสชา เกตุมณี) เจ้าของบริษัท "เมขลาทัวร์" ซึ่งเป็นเพื่อนหญิงรุ่นพี่ของภาคภูมิ ที่นั่น ชนะชลเกิดความลุ่มหลงในความเร้นลับของบรรยากาศเรือนไทยโบราณแห่งนั้น รวมทั้งเสน่ห์อันยั่วยวนใจ ของเมขลาเจ้าของบ้าน ทำให้ทั้งสองติดต่อกันเรื่อยมาจนก้าวข้ามไปสู่ความสัมพันธ์ฉันชู้สาวอย่างลึกซึ้ง และที่เรือนไทยแห่งนี้ ชนะชลได้ค้นพบขนบธรรมเนียนประเพณีไทยที่บ้านนั้นรักษาไว้อย่างเคร่งครัดพร้อมกับความลึกลับที่มี "งูเห่ายักษ์" แฝงเร้นความน่าสะพรึงกลัวในบ้านนั้น และคอยจับจ้องทำร้ายเขาในทุกขณะจิต และที่นี่เขาก็ได้พบกับ ลุงทิม (ศักราช ฤกษ์ธำรงค์) คนเก่าแก่แห่งครอบครัวพลับพลาผู้เฝ้าดูแลและกุมความลับเหนือธรรมชาติของเรือนไทยโบราณแห่งนี้ ซึ่งชนะชลรู้สึกคุ้นเคยกับชายชราผู้นี้เป็นพิเศษราวกับเคยรู้จักกันมาแต่เก่าก่อน รวมถึงการล่วงรู้ความลับดำมืดในบ้านเรือนไทยหลังนี้ที่ได้สร้างความปวดร้าวใจแก่ คุณโกสุม (อาภา ภาวิไล) มารดาของเมขลาเป็นยิ่งนัก ซึ่งมันอาจจะเกี่ยวพันกับปริศนาชีวิตในอดีตของเขาที่ยังไม่อาจคลี่คลาย ยิ่งเวลาผ่านไป สัมพันธ์สวาทของชนะชลและเมขลาก็ยิ่งดำดิ่งเป็นปมลึก และนั่นได้นำพาทั้งคู่และคนรอบข้างไปสู่หายนะแห่งชีวิต ไม่ว่าจะเป็น ไหมแก้ว (ภัทรนันท์ รวมชัย) ภรรยาของชนะชลที่ไม่อาจยอมรับการนอกใจของสามีได้ และ พจน์ (ชัยวัฒน์ ทองแสง) เพื่อนสนิทและคู่ขาของเมขลาที่หึงหวงอย่างรุนแรงต่อการปันใจของเธอให้ชายอื่น รวมถึง คุณ (งูเห่ายักษ์) ที่ปรากฏตัวให้ชนะชลและเมขลาเห็นบ่อยขึ้น และแสดงอำนาจเร้นลับมากขึ้นทุกที ราวกับจะดึงสติทั้งคู่ให้กลับมาอยู่ในทำนองคลองธรรม ก่อนที่เรื่องราวทุกอย่างจะพลิกผันจบลงด้วยการแก้แค้น, ชำระบาป และความตาย เมขลาจึงจำต้องคลี่คลายปัญหาด้วยการตัดใจลา ยุติความสัมพันธ์กับชนะชลอย่างเด็ดขาด เพื่อมิให้งูเห่ายักษ์พรากชีวิตของเขาไป ในขณะที่ชนะชลเองก็ได้ค้นพบรากเหง้าชีวิตอันเป็นต้นกำเนิดของเขาไปพร้อมๆ กับตระหนักถึงบาปที่ตนก่อไว้เช่นกัน
น้ำมันพราย 3D SPELL 3D (2557/2014) เรื่องราวชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่งที่มีชื่อว่า แพร (วนิดา เติมธนาภรณ์) ดูเผิน ๆ แพร เป็นผู้หญิงธรรมดา ๆ เหมือนคนอื่นทั่วไป จะต่างก็เพียงแค่ แพร เป็นผู้หญิงที่ค่อนข้างหน้าตาดี ถึงขั้นสวยเลยล่ะ ระดับอดีตดาวมหาวิทยาลัยเลยทีเดียว มีแต่หนุ่ม ๆ มาขายขนมจีบไม่ว่างเว้น ตั้งแต่คนใกล้ตัว ไปจนถึงชายฉกรรจ์กลุ่มใหญ่ในที่ทำงาน จนเป็นที่อิจฉาริษยาของเพื่อนร่วมงานผู้หญิงคนอื่น ๆ ไปทั่ว! จริง ๆ แล้วการดำเนินชีวิตของ แพร เกือบจะปกติเหมือนคนอื่นทั่ว ๆ ไปแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะความสวยของตัวเองมาทำลายมันเสียก่อน มันคือสาเหตุ ชนวน ต้นเหตุปมปัญหาทั้งหมด และเป็นสิ่งที่นำพาเรื่องราวอันน่าสยองขวัญ น่าสะพรึงกลัวอย่าง น้ำมันพราย เข้ามาวังวนชีวิตของ แพร และคนรอบข้างไปในที่สุด
จันดารา ปัจฉิมบท (2556/2013) หลังจากเกิดเหตุการณ์ร้ายขึ้นในบ้านพิจิตรวานิช ทำให้ จัน ดารา (มาริโอ้ เมาเร่อ) และ เคน กระทิงทอง (ชัยพล จูเลี่ยน พูพาร์ต) สหายสนิทของเขาต้องหนีภัยอันเกิดจากการกระทำอันเหี้ยมโหดของ คุณหลวงวิสนันท์เดชา (ศักราช ฤกษ์ธำรงค์) ผู้ที่เขาคิดว่าเป็นพ่อบังเกิดเกล้านานถึง 17 ปี ไปพำนักอยู่กับ คุณท้าวพิจิตรรักษา (รัดเกล้า อามระดิษ) ผู้เป็นญาติผู้ใหญ่คนเดียวที่ยังมีชีวิตอยู่ที่เมืองพิจิตร ช่วงระยะเวลาที่อยู่ที่เมืองพิจิตรนี้ จัน เป็นสุขทั้งกายใจ และรู้สึกถึงอิสรภาพของชีวิตอย่างแท้จริง เขายังคงติดต่อทางจดหมายกับ ไฮซินธ์ (สาวิกา ไชยเดช) เพื่อนหญิงในดวงใจอันเป็นรักบริสุทธิ์ของเขาอยู่เสมอมา และคาดหวังว่าจะเริ่มต้นชีวิตใหม่อันสดใสที่เมืองนี้พร้อม ๆ กับการตามค้นหาพ่อแท้ ๆ ของเขาไปด้วย แต่เหมือนโชคชะตากลั่นแกล้งให้วันชื่นคืนสุขอยู่กับเขาเพียงไม่นาน เมื่อในที่สุด จัน ก็ได้ล่วงรู้ความจริงอันไม่คาดฝันเรื่องพ่อผู้ให้กำเนิดแท้จริงที่เขารอคอยมานานจากปากคำของ ร้อยตำรวจเอกเรืองยศ (เรืองศักดิ์ ลอยชูศักดิ์) ผู้กุมความลับอันน่าอดสูเกี่ยวกับ ตระกูลพิจิตรวานิช นี้ไว้มาตลอดทั้งชีวิต จัน พยายามทำใจให้ผ่านช่วงชีวิตอันแสนทุกข์ทรมานนี้ไปให้ได้ จนกระทั่ง น้าวาด (บงกช คงมาลัย) ได้เดินทางมาแจ้งข่าวเรื่อง คุณหลวง ล้มป่วยลงอย่างฉับพลัน เนื่องจากเกิดเหตุบางอย่างขึ้นกับ คุณแก้ว (โช นิชิโนะ) และ คุณขจร (ณัฏฐ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา) และแล้วสงครามแห่งการชำระแค้นและทวงคืนทุกอย่างให้กลับมาเป็นของเขาและ ตระกูลพิจิตรวานิช ก็ได้เปิดฉากขึ้นในทันทีตามคำสั่งเสียสุดท้ายของ คุณท้าว ยายผู้คอยบงการและพลิกผันชะตาชีวิตของ จัน ให้ตกอยู่ในด้านมืดอย่างคาดไม่ถึง จัน กลับมาอย่างสง่าผ่าเผยในฐานะเจ้าของบ้านคนใหม่ และมีสิทธิในทรัพย์สมบัติและอำนาจทั้งหมดภายในบ้าน แต่เท่านั้นยังไม่สาแก่ใจของเขา เมื่อสัตว์ร้ายและตัณหาราคะในใจปะทุออกมาอย่างรุนแรง เมื่อเขาเห็นภาพ คุณบุญเลื่อง (รฐา โพธิ์งาม) กับ คุณหลวง ยังรักใคร่กันเป็นอย่างดี จัน จึงใช้เสน่ห์แห่งความเป็นชายหนุ่มรูปงามหลอกล่อจน คุณบุญเลื่อง ตกเป็นของเขาอย่างสมยอม และเมื่อ คุณหลวง ได้เห็นภาพร่วมรักอันเร่าร้อนของทั้งคู่ ทำให้เขาสิ้นสติและกลายเป็นอัมพาตไปในที่สุด กระจกเงาแห่งความชั่วร้ายได้สะท้อนภาพคุณหลวงมาสู่ตัว จัน อย่างไม่มีผิดเพี้ยน การล้างแค้นอันน่าขยะแขยงนี้ดูเหมือนจะปิดฉากอย่างสมบูรณ์แบบด้วยชัยชนะของ จัน ดารา แต่เพียงผู้เดียว ถ้าเขาไม่ได้รับบทเรียนชีวิตอันยิ่งใหญ่จากศัตรูคู่อาฆาตอย่าง คุณแก้ว ที่เอาคืนจันอย่างสาสม รวมถึงคนรอบข้างที่คอยห่วงใยเขาเสมอมาอย่าง น้าวาด, เคน และ คุณบุญเลื่อง ที่ค่อย ๆ ตีตัวออกห่างจาก จัน ไปเรื่อย ๆ อำนาจและทรัพย์สมบัติจะมีค่าอะไร หากไร้คนที่รักและห่วงใยเราอย่างจริงใจอยู่เคียงข้าง
จันดารา ปฐมบท (2555/2012) เรื่องราวโศกนาฏกรรมชีวิตของ จันดารา (มาริโอ้ เมาเร่อ) เริ่มต้นนับตั้งแต่เขาถือกำเนิดขึ้นมาบนโลก ณ บ้านพิจิตรวานิชในปี พ.ศ. 2458 เขาเกิดขึ้นมาพร้อม ๆ กับความตายของมารดาโดยไม่คาดฝัน นั่นทำให้ คุณหลวงวิสนันท์เดชา (ศักราช ฤกษ์ธำรงค์) ผู้เป็นบิดาได้ลงโทษทัณฑ์เขาอย่างทารุณราวกับว่าเขาไม่ใช่ลูก พร้อมเรียกขานเขาว่า ไอ้จัญไร ที่เรือนเล็กในสวนหลังบ้าน จัน เติบโตขึ้นมาจากการเลี้ยงดูของ น้าวาด (บงกช คงมาลัย) ญาติสนิทของมารดาจากเมืองพิจิตร และมี เคน กระทิงทอง (ชัยพล จูเลี่ยน พูพาร์ต) ลูกชายแม่ครัวในบ้านเป็นสหายสนิทเพียงคนเดียวที่ จัน สามารถเล่าทุกอย่างให้ฟังได้ ต่อมา น้าวาด ได้ตกเป็นภรรยาของ คุณหลวง และให้กำเนิดลูกสาวสาวชื่อ คุณแก้ว หรือ วิไลเลข (โช นิชิโนะ) อันเป็นที่รักยิ่งของ คุณหลวง ซึ่งสอนให้หล่อนเกลียดชัง จัน ตั้งแต่จำความได้ ตัว คุณหลวง เองนั้นก็มักมากในกาม บริวารหญิงแทบทั้งสิ้นในบ้านล้วนตกเป็นเมียลับของเขา ซึ่งเมื่อเขามีอารมณ์ที่จะสังวาสกับหญิงคนใดก็กระทำการอย่างเปิดเผยไม่ว่าจะเป็นเวลาใดหรือมุมใดในบ้านหลังนั้นอย่างเสรี จนทำให้เด็กทุกคนในบ้านไม่ว่าจะเป็น จัน ดารา, เคน กระทิงทอง หรือ คุณแก้ว ล้วนเติบโตขึ้นมาในบรรยากาศแห่งกามตัณหาอย่างที่ไม่สมควรจะเกิดให้เป็นแบบอย่างแก่เด็กคนใดก็ตาม เมื่อ จัน เติบโตเป็นหนุ่ม เขาได้เรียนรู้ประสบการณ์แห่งกามคุณกับบ่าวหญิงในบ้าน โดยการชักนำของ เคน กระทิงทอง ก่อนที่ จัน จะได้พบรักอันบริสุทธิ์เป็นครั้งแรกกับ ไฮซินธ์ (สาวิกา ไชยเดช) เพื่อนหญิงร่วมโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษภาคค่ำ จนกระทั่งเมื่อคุณหลวงได้พา คุณบุญเลื่อง (รฐา โพธิ์งาม) คนรักเก่าเข้ามาอยู่บ้าน ทำให้ จัน เกิดความประทับใจในความสง่างามและความอบอุ่นประดุจมารดา ส่วนตัว คุณบุญเลื่อง เองก็ประทับใจในความละเอียดอ่อนลึกซึ้งดุจศิลปินของ จัน จนมีความสัมพันธ์ลับอันเกินเลย และแล้ววันหนึ่ง ชะตากรรมได้พลิกผันทำให้ จัน ล่วงรู้ความจริงบางอย่างอันน่าอดสูเกี่ยวกับตระกูลของเขา นั่นทำให้ จัน ตกอยู่ในอันตรายถึงชีวิต เพราะ คุณหลวง นั้นเป็นมนุษย์ฉ้อฉลผู้ใช้ทุกกลวิธีในการคดโกงเพื่อครอบครองทรัพย์สินอันมหาศาลแห่ง ตระกูลพิจิตรวานิช ทำให้ จัน ต้องเดินทางหนีภัยจากพระนครไปพำนักอยู่กับ คุณท้าวพิจิตรรักษา (รัดเกล้า อามระดิษ) ผู้เป็นญาติผู้ใหญ่คนเดียวที่ยังมีชีวิตอยู่ที่เมืองพิจิตร เพื่อรอเวลาชำระแค้นและเอาทุกสิ่งทุกอย่างคืนกลับมาเป็นของเขาให้จงได้ โศกนาฏกรรมชีวิตของ จันดารา แวดล้อมไปด้วยผู้คนรอบข้างที่สะท้อนมวลอารมณ์แห่งความรัก ความชัง ความใคร่ ความเคียดแค้น และการจดจำเอาเยี่ยงอย่างมาสู่การดำเนินชีวิตของเขาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ อีกทั้งยังเป็นกระจกสะท้อนให้เห็นธาตุแท้ของความเป็นมนุษย์อันน่าสมเพชจนนำไปสู่หายนะอย่างแท้จริง
ห่วยขั้นเทพ Suck Seed!! ชีวิตมันต้องลองซักซี้ดนึง!! (2554/2011) เป็ด (จิรายุ ละอองมณี) เด็กประถมสุดเห่ย ที่ไม่เคยฟังเพลง นอกจากจะไม่ชอบฟังเพลงและยังเข้าใจเอาเองผิด ๆ ว่า เพลงเร็วเรียกเพลงร็อค เพลงช้าเรียกเพลงรัก ส่วนเพลงไทยนั้นก็มีแค่สองประเภทคือ เพลง แกรมมี่ และ อาร์เอส เป็ด หัดเล่นดนตรีเพียงเพราะแอบหลงรัก เอิญ (ณัฐชา นวลแจ่ม) เพื่อนร่วมห้องได้ทำให้เขารู้จักกับเพลง และความรัก เอิญ สอน เป็ด ว่าเวลาเราฟังเพลงก็จะเหมือนมีเพื่อนมาอยู่ข้าง ๆ เป็ด เลยอยากเป็นคนข้าง ๆ เอิญ บ้าง ยิ่งรู้ว่า เอิญ เป็นสาวหูเหล็ก เป็นสาวกเพลงร็อคที่คลั่งไคล้กีตาร์ฮีโร่เป็นชีวิตจิตใจ เป็ด จึงเกิดแรงฮึดที่จะผันตัวเองจากไอ้แหยขี้อายให้กลายเป็น ร็อคเกอร์ แต่รักครั้งแรกก็ต้องแตกสลาย เมื่อเธอต้องย้ายไปไกลแสนไกล เวลาผ่านไปไวถึง ม.6 เอิญ ก็กลับมาพร้อมกับความน่ารักและฝีมือกีตาร์ขั้นเทพ เป็ด ที่ยังเห่ยเหมือนเดิมจึงจับมือกับ คุ้ง (พชร จิราธิวัฒน์) มือกีตาร์ของวงนั้นมีบ้านเป็นโรงรับจำนำซึ่งเปรียบเสมือนดีสนีย์แลนด์ของเพื่อน ๆ ของเก่าของคนอื่นจะกลายมาเป็นของเล่นชิ้นใหม่ของ คุ้ง เสมอ ตั้งแต่ประถมยันมัธยมคุ้งคือผู้นำเทรนด์ ไม่ว่าจะเป็นเกมส์แฟมิคอม โรลเลอร์เบลด ตู้สติ๊กเกอร์ เกมเต้น โฟโต้ฮันท์ คุ้ง เป็นต้องได้ประเดิมเป็นคนแรก เป็นเพื่อนสนิทสุดเกรียนที่วัน ๆ คิดแต่จะหม้อหญิง พ่วงด้วย เอ็กซ์ (ธวัช พรรัตนประเสิรฐ) มือกลองบ้าพลังที่อยากสอยดาวโรงเรียนที่แอบชอบอยู่ รวมกันเป็นสามตัวห่วย ตั้งวงเพื่อจีบสาวสวย คุ้ง อาจจะมีชะตากรรมเป็นถึงไอดอลของโรงเรียน ถ้าจะไม่มีกรรมมาบังให้คุ้งดันมีฝาแฝดชื่อ เค น้องชายที่ทั้งเรียนเก่งกว่า ที่สำคัญเคยังเป็นมือกีตาร์ของวงโรงเรียนที่ได้รับเลือกให้เป็นตัวแทนเข้าประกวด Hot Wave Music Award ไม่ต้องสงสัยเลยว่าความฮ็อตของ เค จะทำให้ คุ้ง กลายเป็นแค่ฝาแฝด เค ในสายตาของทุกคน ในปีสุดท้ายของชีวิตมัธยมปลาย เมื่อวงของ เค ลงสมัคร Hot Wave โดยมี เอิญ เข้าร่วมในฐานะนักร้องนำ เป็ด และ คุ้ง จึงจับมือกันปฏิวัติตัวเองฟอร์มวง SuckSeed ขึ้นมา หาญกล้าท้าแข่งเพื่อพิสูจน์ให้คนที่พวกเขาทั้งรักทั้งอยากเอาชนะได้เห็นว่า พวกเขาไม่ใช่แค่ "ตัวห่วย" อย่างที่ใคร ๆ คิด
น้ำตาลแดง 2 (2553/2010) ความอีโรติกคือหัวใจสำคัญของภาพยนตร์ทั้ง 6 เรื่องที่ถูกหลอมรวมเข้ากับแต่ละห้วงอารมณ์ที่เต็มไปด้วยหลากหลายของมนุษย์ ซึ่งถูกตีแผ่ออกมาเป็นความรัก โลภ โกรธ หลง บนพื้นฐานของการแสดงที่เน้นในความเรียลลิสติกสมจริงที่สุด หลุมพราง - นำเสนอภาพความอีโรติก สุดเข้มข้นที่ถ่ายทอดอยู่บนเนื้อหาของเรื่องราวที่สะท้อนเรื่องราวด้านมืดของ เซ็กส์ เงื่อนปมความรักความลุ่มหลง ที่ฝังลึกอยู่ในความทรงจำเมื่อครั้งอดีต โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาพความรู้สึกที่มีต่อน้าสาวที่ชีวิตวนเวียนอยู่ท่ามกลางวังวนของบ่วงพิศวาสกลับมาสะกิดเตือน และแล้วแต่ละภาพแต่ละเหตุการณ์กลับเด่นชัดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง แปรเปลี่ยนเป็นเงื่อนปมแห่งความพยาบาทที่เต็มไปด้วยความชิงชังดุจหลุมพราง ที่พร้อมจะดักเหยื่อหรือใครก็ตามที่ไม่เคยดึงตัวเองให้หลุดพ้นจากวังวนแห่งความลุ่มหลงของกิเลสตัณหาอันนำไปสู่โศกนาฏกรรมโดยมีเซ็กส์เป็นเครื่องต่อรอง ทฤษฏีบนโต๊ะอาหาร - เป็นการผสมผสานระหว่างศิลปะหลากหลายรูปแบบตั้งแต่บทกวี ละครเวที รวมไปถึงการนำเอาเทคนิคในการถ่ายทำภาพยนตร์มาผนวกเข้ากับการแสดงในลักษณะเหนือจริง ผสมผสานรูปแบบความอีโรติก และศิลปะในแนวเซอร์เรียลลิสต์เล่าเรื่องราวของเพื่อนสาว2คนที่สัมพันธภาพที่แสนเปราะบางของทั้งคู่กำลังถูกทดสอบ เมื่อเพื่อนสาวแอบมี "เซ็กส์" กับชายหนุ่มที่เป็นคนรักของเพื่อน พร้อมกับการตั้งคำถามถึงคนดูว่า "ความสุขที่แท้จริงในชีวิตคืออะไร" หลากหลายสัญลักษณ์ที่รอการตีความจากผู้ชมคือการส่งสารระหว่างผู้กำกับและคนดู โดยเฉพาะอย่างยิ่งนัยยะบางอย่างที่ผกก.แอบซ่อนไว้ในตัวละคร "ชายตาบอด" ที่ความบกพร่องทางอวัยวะหาได้เป็นข้อจำกัดหรือการกีดกั้นขวางสัมผัสแห่งการรับรู้ถึงความสุขและเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่อยู่รายล้อมรอบตัวแต่อย่างใด คู่รักบนดาวโลก - การนำเอาแนวคิดและมุมมองของศิลปะในเชิงเหนือจริง (เซอร์เรียลลิสต์) ถ่ายทอดออกมาเป็นภาพยนตร์อีโรติกโดยมุมมองความแตกต่างกันระหว่างเพศชายกับเพศหญิง ซึ่งมีมุมมอง อารมณ์ ความรู้สึก ความนึกคิดไปจนถึงความต้องการทางเพศ โดยสะท้อนผ่านเรื่องราวของหนุ่มสาววัยทำงานคู่หนึ่งในเรื่องความรักเดินทางมาถึงจุดที่ต้องทบทวนสถานภาพและความสัมพันธ์ในกันและกัน เมื่อต่างฝ่ายต่างต้องย้อนกลับมาตั้งคำถามถึงคุณค่าและความหมายของ "ความรัก" ที่แท้จริงว่าคืออะไร การสะท้อนผ่านแง่มุมที่เปรียบดั่งเส้นขนานที่ไม่มีทางมาบรรจบของสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าชายและหญิง
น้ำตาลแดง (2553/2010) ความอีโรติกคือหัวใจสำคัญของภาพยนตร์ทั้ง 6 เรื่องที่ถูกหลอมรวมเข้ากับแต่ละห้วงอารมณ์ที่เต็มไปด้วยหลากหลายของมนุษย์ ซึ่งถูกตีแผ่ออกมาเป็นความรัก โลภ โกรธ หลง บนพื้นฐานของการแสดงที่เน้นในความเรียลลิสติกสมจริงที่สุด รักต้องลุ้น - อะไรจะเกิดขึ้นเมื่อหญิงสาวต้องอยู่บ้านเพียงลำพังจึงเอ่ยปากชวนให้เด็กหนุ่มเพื่อนสนิทอยู่เป็นเพื่อนในค่ำคืนหนึ่ง ภาพยนตร์อีโรติกคอเมดี้ที่สะท้อนถึงขีดระดับความสัมพันธ์ของวัยรุ่นที่มาพร้อมกับการตั้งคำถามถึงความเหมาะสม ในเรื่องเซ็กส์ ขอบเขตของศีลธรรม และความต้องการของวัยหนุ่มสาวที่มักคิดว่าผู้ใหญ่ไม่เคยเข้าใจ โสบนเตียง - ความสัมพันธ์เกินห้ามใจของสาวมั่นสุดเฉี่ยวไฟแรงสูงกับเสี่ยใหญ่วัยกลางคนที่ต่างมีจินตนาการถึงสิ่งที่เรียกว่า เซ็กส์ ได้อย่างสอดคล้องและลงตัว ทำให้แต่ละครั้งที่กงล้อแห่งชีวิตของทั้งคู่หมุนเวียนมาบรรจบกันก่อเกิดความร้อนแรงจนคนรอบข้างต่างอิจฉาไปตาม ๆ กัน อารมณ์ขันเชิงเสียดสีในรูปแบบภาพยนตร์คอเมดี้ ที่ได้นักร้องพิธีกรนักแสดงหนุ่มมากความสามารถอย่าง ปั๋ง - ประกาศิต โบสุวรรณ แท็คทีมคู่ ครี - พัสวีพิชญ์ ศรณ์อัครภา ปรารถนา - ความสัมพันธ์ของหนุ่มช่างสัก และพนักงานสาวนวดแผนโบราณไม่ต่างอะไรกับเส้นขนานที่ไม่เคยถูกลากให้มาบรรจบกัน ถึงแม้ว่าจะทำงานบนตึกเดียวกัน แต่ทั้งคู่ก็ไม่เคยแม้สักครั้งที่จะเอ่ยปากทักทายหรือพูดคุย จนกระทั่ง แรงปรารถนา ได้ย่นย่อระยะห่างแห่งสัมพันธภาพของคนสองคนให้เขยิบเข้ามาชิดใกล้กว่าที่คาดคิดและเคยเป็น เมื่อชายหนุ่มตัดสินใจเลือกใช้บริการจากหญิงสาว ภาพความเหงาของผู้คนท่ามกลางแสงสีและความสับสนวุ่นวายในเมืองใหญ่ ถูกนำเสนอและถ่ายทอดผ่านมุมมองความอีโรติกดราม่า กับบทบาทที่ท้าทายที่สุดในชีวิตของ อุ้ม - ลักขณา วัธนวงส์ศิริ นักแสดงนางแบบสาวที่ฮอตที่สุดแห่งปี ควงคู่มากับ บลูม - วรินทร ญารุจนนทน์
สิ่งเล็กเล็ก ที่เรียกว่า..รัก (2553/2010) น้ำ (พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์) สาวน้อย ม.1 วัย 14 หน้าตาธรรมดา ๆ กระเดียดไปทางไม่สวย หรือเรียกง่าย ๆ ว่า ขี้เหร่นั่นแหละ แต่เธอดันไปแอบชอบ พี่โชน (มาริโอ้ เมาเร่อ) พี่ม.4 ที่หล่อ เท่ ที่สุดในโรงเรียน แล้วแถมยังใจดีอีกตะหาก ทำให้น้ำมีคู่แข่งเป็นสาว ๆ ทั้ง ม.ต้น และ ม.ปลาย ที่มีแต่คนสวย ๆ เต็มไปหมด แต่น้ำไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ เธอพยายามลุยทำทุกอย่าง สู้ทุกรูปแบบเพื่อที่จะเก่งและสวย แล้วเด่นขึ้นในโรงเรียนให้ได้ เพราะแอบหวังในใจเล็ก ๆ ว่าถ้าทำสำเร็จพี่โชนอาจจะหันมามองเธอซักครั้ง น้ำ ทำตั้งแต่เอามะขามเปียกมาขัดผิว สมัครเป็นนางรำแม้จะถูกคัดออก หัดเป่าคาริเน็ตแล้วสมัครเข้าวงโยธวาทิตเพื่อที่จะได้อยู่ใกล้ ๆ พี่โชน ด้วยความช่วยเหลือของเพื่อน ๆ แก๊งหน้าแย่ ในที่สุด น้ำ ก็ได้เป็นดรัมเมเยอร์มือหนึ่งของโรงเรียน จนตอนที่เรียนอยู่ ม.3 เธอได้เป็นดาวของโรงเรียน จริง ๆ! น้ำ ตกเป็นเป้าสายตาของหนุ่ม ๆ ทั้งโรงเรียน มีคนเข้ามาจีบเป็นสิบ ๆ คน ยกเว้นคนที่เธอรอคอยอยู่คนเดียว โชน แล้วเรื่องราวความรักของ น้ำ จะเป็นอย่างไร โชน จะหันมาสนใจเธอมั้ย สุดท้ายแล้วความรัก ความฝัน กับความเป็นจริง จะได้พบกันเมื่อไหร่ เวลาคงเป็นคำตอบของทุกอย่างเอง
ผู้หญิง 5 บาป 2 (2553/2010) ผู้หญิงสาว 5 นางในชุดเซ็กซี่ ที่สภาพขาด ๆ วิ่น ๆ ถูกพันธนาการด้วยโซ่ห้อยจากหลังคาสูง ทั้งหมดเริ่มได้สติ ลืมตางัวเงียผสมงุนงงว่าตัวเองมาอยู่ในสภาพแบบนี้กันได้เช่นไร แต่ต่างคนก็เคยเจอะเจอพบปะกันในแวดวง Celebritiy กันอยู่บ้าง การสนทนาทักทายระหว่างกันดำเนินไปได้สักพัก ก็ปรากฏเสียงลึกลับออกมาบ่งบอกถึงความวิปริตอยู่ในที เพราะเป็นเสียงสังเคราะห์ที่ไม่อาจแยกแยะได้ว่าเป็นชายหรือหญิง หนุ่มหรือแก่ รู้แต่เพียงว่าเสียงนั่นเป็นต้นเหตุที่นำพวกเธอทุกคนมารวมกัน ณ.ที่นี้ เสียงลึกลับกล่าวทักทายทุกคน มันไม่ใช่การบันทึกเทปไว้ เพราะมันสามารถโต้ตอบกับ 5 สาวได้เป็นอย่างดี แสดงว่ามันกำลังจับตาดูทุกคนอยู่ มันบอกว่าเป็นแฟนคลับ และชื่นชอบในความสามารถ ความสวยงามของทุกคน แต่น่าเสียดายที่มันต้องฆ่า 4 ใน 5 อนงค์เพื่อเซ่นทรวงสังเวยแก่เทพโพไซดอนที่มันเคารพนับถืออยู่ แล้วใครกันล่ะคือคนที่จะโชคดีมีโอกาสรอดชีวิตกลับออกไป ถึงตรงนี้ 5 สาวต่างลนลานกลัวตายกันยิ่งขึ้น บ้างก็ออดอ้อนวิงวอน บ้างก็ขอความเมตตาสงสาร บ้างก็เอาแต่ร้องไห้ แต่มีอยู่ 2 คนที่พยายามเสนอเงื่อนไขเอาตัวเข้าแลกกับอิสรภาพ เสียงลึกลับดูเหมือนจะไม่ใส่ใจในทุกข้อเสนอและความทุนรนทุรายกลัวตายของแต่ละคน เงื่อนไขเดียวของมันก็คือ ให้แต่ละสาวเล่าเรื่องบาปเกี่ยวกับเซ็กซ์ที่ตัวเองก่อขึ้นเอาไว้ เรื่องของใครเลวร้ายที่สุด คนนั้นแหละที่จะถูกไว้ชีวิต ซึ่งการวินิจฉัยเป็นดุลย์พินิจเฉพาะตัวของเจ้าเสียงมรณะ ใครไม่เล่าก็จะถูกดึงร่างแยกส่วนได้ตายอย่างแสนทรมาน ใครโกหกก็จะถูกเหล็กแหลมทิ่มแทงเพราะมันรู้ในทุกเรื่องของทุกคน อย่าลืมว่ามันคือแฟนคลับเดนตายของ 5 สาว มาลองติดตามกันดูว่า บาปของทั้ง 5 สาวจะดำเนินไปในรูปแบบใด ใครจะบาปกว่ากัน และใครจะบาปที่สุด พร้อมบทสรุปที่สุดแสนจะคาดเดากับน้องแพนด้าบาปที่ 6 ส่วนจะหักมุมกว่าภาคแรกหรือไม่นั้น คงต้องเชิญทุกท่านไปพิสูจน์ด้วยสายตาของตัวเอง ในโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศ
ครูบ้านนอก บ้านหนองฮีใหญ่ (2553/2010) “ความใฝ่ฝันของผมนั่นเหรอ ผมไม่ใฝ่ฝันที่จะเป็นเพียงเรือจ้าง ที่เขาเปรียบครูไว้เช่นนี้หรอก ลองคิดดูซิว่า ขณะที่เรากำลังแจวเรือ แล้วมีคนอื่นอีกมาก ใกล้จะจมน้ำตาย แล้วเราจะไม่จอดแวะรับเขาขึ้นมาด้วยกันกับเราเหรอ เราจะเอาเพียงเด็กนักเรียนขึ้นฝั่งเท่านั้น เท่านี้เหรอ สำหรับเกียรติของครู ความใฝ่ฝันของผมก็คือ ผมจะไม่เป็นเพียงเรือจ้างสำหรับเด็กนักเรียนเท่านั้น ถ้าเป็นไปได้ ผมจะเป็นเรือที่จะรับส่งและช่วยเหลือคนที่จะจมน้ำตายทุกคน” เรื่องเล่าที่ไม่มีวันตายของครูผู้มีอุดมการณ์และความปรารถนาจะเป็นยิ่งกว่า “ครู” เรื่องราวของความทรงจำอันยากจะลืมเลือนของครูบ้านนอกเกิดขึ้นเมื่อ “พิเชษฐ์” (พิเชษฐ์ กองการ) สำเร็จการศึกษาจากวิทยาลัยครูพระนคร พิเชษฐ์เลือกมาบรรจุเป็นครูที่ “โรงเรียนบ้านหนองฮีใหญ่” ซึ่งอยู่ในชนบทอันห่างไกลที่มีแต่ความทุรกันดาร โดยมี “ครูใหญ่ชาลี” (หม่ำ จ๊กม๊ก) เป็นครูสอนนักเรียนเพียงลำพังของโรงเรียน ต่อมาได้มีครูมาสมทบเพิ่มอีก 2 คนคือ “ครูสมชาติ” (อสงไขย ผาธรรม) ที่จำใจมาเป็นครูเพราะหางานทำในเมืองไม่ได้ และ “ครูแสงดาว” (ฟ้อนฟ้า ผาธรรม) ที่มาเป็นครูอยู่ที่หนองฮีใหญ่เพื่อรอจังหวะโยกย้ายเข้าไปเป็นครูในตัวเมือง ตลอดระยะเวลาที่มาเป็นครูอยู่ที่หมู่บ้านหนองฮีใหญ่ ครูพิเชษฐ์ได้อุทิศทั้งกายและใจในการพัฒนาการเรียนการสอน และชีวิตความเป็นอยู่ของเด็กนักเรียนทุกคนจนกลายเป็นที่รักของเด็กนักเรียน คุณครู และผู้คนในหมู่บ้าน อีกทั้งยังเป็นแรงบันดาลใจให้ครูในโรงเรียนบ้านหนองฮีใหญ่ ทั้งครูใหญ่ชาลี, ครูสมชาติ และครูแสงดาว ได้รู้ซึ้งถึงเกียรติยศของคำว่า “ครู” แต่แล้วทุกอย่างก็เปลี่ยนไปเมื่อครูพิเชษฐ์ได้เข้าไปเปิดโปงขบวนการผิดกฎหมายของผู้มีอิทธิพลในท้องที่ จนถูกมือปืนตามล่า เป็นเหตุให้ครูพิเชษฐ์ต้องพักการสอนและหนีออกจากหมู่บ้านไปซ่อนตัวซักระยะ แต่ด้วยวิญญาณความเป็นครู ทำให้ครูพิเชษฐ์หวนกลับมาสอนหนังสือเด็กที่โรงเรียนอีกครั้ง จนเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่ทุกคนแห่งบ้านหนองฮีใหญ่จะจดจำไปอีกตราบนานเท่านาน…
Final Score 365 วัน ตามติดชีวิตเด็กเอ็นท์ (2550/2007) เรื่องราวการเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัย ของเด็กนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 4 คน ในช่วงปีการศึกษา พ.ศ. 2548 ซึ่งเป็นปีแรกที่ใช้การสอบแอดมิดชันส์ แทนการสอบเอ็นทรานซ์ และชีวิตที่ถูกฟันธงของเด็ก ปี 2549 ปีนี้ไม่เหมือนปีไหน ๆ เพราะมันเป็นปีที่ปฏิทินการเมืองร้อนระอุด้วยม็อบกู้ชาติ ปีที่ใคร ๆ ก็ถามไถ่ "ไปพารากอนมารึยัง?" ปีที่ขวัญและกำลังใจของนักเรียน ม.6 แหลกสลาย เมื่อพระพรหมเอราวัณถูกทุบทำลาย ที่สำคัญมันเป็นปีแรกของการประกาศใช้ระบบแอดมิชชั่นส์ ปีนี้... วัยรุ่นไทยวัย 17 ที่อยากเอ็นทรานซ์ต้องสอบ โอเน็ต-เอเน็ต สดจากโรงเรียน กองถ่ายภาพยนตร์สุดอึดจาก GTH ทุ่มเทเวลา 1 ปีเต็มเฝ้าติดตามชีวิตของนักเรียน ม.6 จำนวน 4 คนในปีที่พวกเขาก้าวเข้าสู่สนามการแข่งขันที่ดุเดือดที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิต โดยไม่รู้ว่าพระเจ้าจะดลบันดาลใจให้เกิดอะไรขึ้นบ้าง

หน้าที่