Man Suang แมนสรวง (2566/2023) “เขม” และ “ว่าน” สองหนุ่มจากเมืองแปดริ้วรับภารกิจเข้าไปสืบสาวเงื่อนงำใน “แมนสรวง” สถานเริงรมย์อันโอ่อ่าและลึกลับที่สุดในพระนคร หลังม่านของสุขสถานที่ผู้คนนานาชาติมาชุมนุมกันแห่งนี้เป็นที่วางแผนและตกลงทางการเมืองในปลายสมัยรัชกาลที่ 3 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ สองเกลอได้เข้าร่วมคณะละครและพบกับ “ฉัตร” มือตะโพนของวงดนตรี ความสัมพันธ์ของทั้งสามพัฒนาไปพร้อมกับความลับมืดดำของแมนสรวงรวมถึงปมในใจของทั้งสามเองค่อยๆ เผยออกมา (Source: sfcinemacity.com)
ขุนแหย 2565

เรื่องย่อ: ขุนแหย (2565/2022) ได้เวลาฮาลั่นอโยธยา กับภาพยนตร์คอมเมดี้ “ขุนแหย THE LOST HERO OF AYODHYA” ผลงานจาก MONO ORIGINALS ที่ได้ ‘เปลว ศิริสุวรรณ’ มานั่งแท่นกำกับและดึงเอาดาวตลกทั่วฟ้าเมืองไทย มาร่วมกันถ่ายทอด เรื่องราวสุดฮาเต็มคาราเบลของ “แหย” (กรภพ จันทร์เจริญ) หมอยาสมุนไพรใจพระแถมยังใจซื่อมือสะอาด ถูก “หลวงถลอก” (สมชาย ศักดิกุล) ขุนนางตัวร้าย ลวงให้ไปตัวหัว “เนเมียว” (จตุรงค์ พลบูรณ์) แม่ทัพชาวพม่าแล้วทำการพอกน้ำผึ้งไว้ไม่ให้หัวเน่า เพื่อจะได้ไปรับรางวัลที่อยุธยาได้ทันการ แต่เรื่องไม่ได้ง่ายอย่างนั้น เพราะถึงแม้แหยจะเอาชีวิตรอดจากสนามรบแถมยังมีหัวของแม่ทัพเนเมียวเป็นของแถม แต่ก็ต้องผจญกับจอมขมังเวทย์อสรพิษ (สายเชีย วงศ์วิโรจน์) ที่พยายามจะชิงหัวแม่ทัพ รวมถึงต้องเอาชีวิตรอดจาก “ลินดา” (ภัทรวดี เหลาสา) สาวนักฆ่าที่ถูกจ้างอีกด้วย งานนี้ต้องมาช่วยกันลุ้นว่า แหย จะสามารถเอาชีวิตรอด และจะได้กลับบ้านไปนอนกอด “สายสร้อย” (บุตรี กัลย์จารึก) เมียรักด้วยร่างกายที่ครบ 32 หรือไม่?  (ที่มา : monomax.me)

เวลา Anatomy of Time
เวลา Anatomy of Time (2565/2022) "แหม่ม" หญิงชราวัย 70 ปี ดูแลสามีของเธอ ในช่วงสุดท้ายในชีวิตของเขา เธอมองย้อนกลับไปยังอดีตอันเปี่ยมไปด้วยความสูญเสีย ความขมขื่น แต่ก็ตราตรึงไปด้วยความสุขเมื่อครั้งเธอยังสาว
พญาโศกพิโยคค่ำ The Edge of Daybreak (2564/2021) ปี พ.ศ. 2549 ท่ามกลางความตึงเครียดทางการเมือง ปาล นักการเมือง ได้อยู่กับครอบครัวภายในบ้านอันเป็นที่รักของเขาเป็นคืนสุดท้ายก่อนต้องหลบหนีเพราะเกิดรัฐประหาร ยามดึกคืนนั้นขณะที่ปาลกำลังหลบหนี เขาได้พบกับกลุ่มผู้ลักลอบเข้าเมืองบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะที่ พลอย ภรรยาของปาลที่ถูกขังในโรงพยาบาลก็ฝันเห็นพ่อคือ ปราสาท ย้อนกลับไปเมื่อปี 2518 ตอนพลอยอายุ 9 ขวบ เธออยู่ในอาการโคม่า หลังพ่อหายตัวไปสามปี ส่วนแม่คือ ไพลิน ก็เพิ่งได้รับการปล่อยตัวจากโรงพยาบาลจิตเวช มาอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ประจำตระกูล สุริยุปราคาได้สะกดทุกคนให้ต้องมนต์ ไพลินและแพทย์หนุ่มร่วมกันระลึกถึงความหลังและเติมเต็มความปรารถนาที่เก็บซ่อนไว้มานาน ในวันนั้นแพทย์หนุ่มหายตัวไป พร้อมการกลับมาอย่างไม่คาดฝันของปราสาท
ขุนบันลือ (2561/2018) ในปี พ.ศ. 2447 ที่สยามมีการพัฒนาเปลี่ยนแปลงประเทศในหลายๆ ด้าน จนส่งผลต่อวิถีชีวิตของประชาชนมากมาย ขุนบันลือ ขุนนางในกระทรวงมหาดไทยผู้สนับสนุนแนวคิดการเลิกทาสมาโดยตลอด ได้รับมอบหมายหน้าที่ให้ไปทําธุระที่เมืองเชียงราย เพราะเคยไปราชการที่นั่นมาก่อน แต่ขุนบันลือกลับกังวลกับภารกิจนี้ เพราะตนเองเคยมีเรื่องราวแต่หนหลังในเชียงราย เรื่องราวชุลมุนในเรือนขุนบันลือจึงเริ่มขึ้น เรื่องราวเกิดขึ้นในสมัย รศ.๑๒๓ (พ.ศ. ๒๔๔๗) เมื่อ "ขุนบันลือ" (เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา) ได้รับมอบหมายให้ไปราชการที่เมืองเชียงราย แต่ขุนบันลือเองกลับกังวลใจ เพราะถูก "มด" (เอ็นดู วงษ์คำเหลา) ทาสหญิงที่ขุนบันลือแอบมีความสัมพันธ์ด้วยจับได้ว่าท่านขุนเคยมีสัมพันธ์กับใครบางคนที่เมืองเชียงรายมาก่อน เรื่องยุ่งมากขึ้นเมื่อเพื่อนรักของท่านขุน พาลูกสาวลูกชายมาฝากให้ช่วยดูแลระหว่างที่ไปราชการต่างประเทศ แต่ทั้งคู่กลับมีเรื่องชอบพอกับบรรดาทาสในเรือนท่านขุนซะอีก เรื่องราวความรักระหว่างชนชั้นจึงเริ่มขึ้นอีกครั้ง ตั้งแต่รุ่นพ่อแม่ยันรุ่นลูก แลเวท่านขุนจะหาทางออกอย่างไร
รักเป็นบ้า CRAZY LOVE (2560/2017) เมืองไท (อนุพงศ์ สกุลมงคลลาภ) อาศัยอยู่ฝั่งมหาชัยส่วนแฟนสาววัยละอ่อนชื่อ ฟ้า (ประวีวรรณ สิงห์โต) อาศัยอยู่ฝั่งท่าฉลอม บ้านของเมืองไทนั้นเป็นท่าเรือข้ามฟากไปฝั่งท่าฉลอม ซึ่งด้านบนเป็นที่พักของเมืองไท ส่วนด้านล่างเป็นท่าเรือข้ามฟากและสภาพแวดล้อมของเมืองไท ประกอบไปด้วยบุคคลหลากหลายประเภทเช่น คุณลำยง แซ่หลีพนักงานเก็บค่าโดยสารเรือข้ามฟาก ที่เอาใจใส่เมืองไท ยิ่งกว่าคนรักเสียอีก และสาวตูนพนักงานทำความสะอาดร้านอาหารที่อยู่ติดกับบ้านเมืองไท มีอาชีพเสริมคือบริการสยิวทางโทรศัพท์ โดยมีเมืองไทเป็นหนุ่มในจินตนาการของตูน ในขณะที่งานของเมืองไทราบรื่นรุ่งเรื่องแต่ชีวิตรักกลับมีอันจบลงอย่างไม่เป็นท่า โดย ฟ้า เป็นฝ่ายทิ้งเขาไปอย่างไม่ใยดีพร้อมทิ้งคำถามที่ค้างคาใจให้เมืองไท ได้คิดว่าผู้หญิงต้องการอะไร เมืองไท เผลอไปทำร้าย หญิงบ้า (อิสซาเบล่า เลเต้) ที่บุกเข้ารื้อค้นข้าวของของเขาถึงในบ้าน และในตัวหญิงบ้า มียาติดตัวมาด้วยจำนวนหนึ่ง เมืองไทจำต้องดูแลหญิงบ้าอย่างที่ไม่เคยทำให้ใครมาก่อน ทั้งป้อนข้าว ป้อนน้ำ ฯลฯ หญิงบ้ามีอาการชัก เป็นโรคประจำตัว และการชักนั้นรุนแรงขึ้นทุกวัน เมืองไทจึงต้องเฝ้าดูตลอดเวลา เพื่อป้อนยา ตามคำแนะนำของพี่สาวที่เป็นหมอ เพราะเวลาชักหญิงบ้าจะกัดลิ้นตัวเองและถ้าพลาดการให้ยา นั่นอาจหมายถึงชีวิต
อีปึก อัศจรรย์วันแห่งศรัทธา

อีปึก อัศจรรย์วันแห่งศรัทธา (2560/2017) จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง ของนักร้องลูกทุ่งสาวชื่อดัง "สาวมาด เมกะแด๊นซ์" ตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นของวัยเรียน จุดเปลี่ยนของชีวิตในก้าวแรกที่เดินบนเส้นทางสายดนตรี จวบจนนาทีที่ป่วยหนักจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด ด้วยอาการครรภ์เป็นพิษอย่างรุนแรง ทำให้ความดันโลหิตสูงจนเลือดออกไปทับก้านสมอง ได้สามีสุดที่รัก กรุง สุขสันต์ มานอนเฝ้าดูอาการโดยไม่เคยทิ้งไปไหน และยอมทำทุกวิถีทางเพื่อให้ภรรยากลับมามีชีวิตที่แข็งแรงอีกครั้ง และเชื่อว่าเป็นการเกิดปาฏิหาริย์จากพญานาคที่มาช่วยให้ปาฏิหาริย์เกิดขึ้น

คนขับรถ DRIVER (2560/2017) คนขับรถเล่าเรื่องราวของ เกด (ศิตา ชุติภาวรกานต์) ผู้หญิงสวยและแสนดีคนหนึ่งที่ เต้ (ภูริ หิรัญพฤกษ์) สามีของเธอหายตัวไปแบบติดต่อไม่ได้หลังจากทริปดูงานที่เกาหลี เกดร้อนใจจึงปรึกษาตั้ม(ปฏิพล นาคะประเสริฐกุล) เพื่อนที่เป็นตำรวจให้ช่วยสืบดูแต่ตั้มคิดว่าเต้คงไปเถลไถลที่ไหนต่อตามประสาผู้ชายจึงให้เกดรอดูอีกสองสามวัน เกดรอไม่ไหวจึงขอให้ แมค (ปั้นจั่น ปรมะ อิ่มอโนทัย) คนขับรถของเต้พาเธอไปสืบดูที่ออฟฟิสจนเจอบิลค่าไฟบ้านหลังที่เธอไม่เคยรู้จัก เกดขอให้แมคขับรถพาเธอไปตามหาบ้านหลังนั้นหวังว่าจะเจอสามีสุดที่รัก แต่สิ่งที่เธอค้นพบกลับเป็นเบาะแสสู่ความลับที่เจ็บปวดที่ทำให้เธอไม่สามารถไว้ใจใครได้อีกตลอดไป คนขับรถเป็นภาพยนตร์แนวดราม่าที่มีความเป็นอีโรติกและทริลเล่อร์ผสมอยู่ นำแสดงโดย ปั้นจั่น ปรมะ อิ่มอโนทัย, ภูริ หิรัญพฤกษ์, ปฏิพล นาคะประเสริฐกุล และนางเอกใหม่ประเดิมผลงานภาพยนตร์เรื่องแรก ศิตา ชุติภาวรกานต์ เขียนและกำกับโดย ฐิติพันธ์ รักษาสัตย์ อำนวยการสร้างโดย ปฐมกฤษณ์ สุดสระ
ทองดีฟันขาว (2560)

ทองดี ฟันขาว (2560/2017) เรื่องราวความกล้าหาญและความจงรักภักดีในช่วงชีวิตสำคัญของ “นายทองดี ฟันขาว” นักสู้หัวใจแกร่งที่มากความสามารถและฝีไม้ลายมวย โชคชะตานำพาให้เขาได้เป็นทหารเอกคู่ใจแห่งพระเจ้าตากสินมหาราช และพลีชีพต่อสู้ปกป้องบ้านเมืองจนกลายเป็นวีรบุรุษของชาวไทยที่รู้จักกันในนาม “พระยาพิชัยดาบหัก” ทองดี นักสู้หัวใจแกร่ง ผู้มีความมุ่งมั่นไม่ย่อท้อรักษาคำมั่นสัญญา กล้าหาญจงรักภักดี มีความสามารถและฝีไม้ลายมือทางหมัดมวยและดาบอย่างหาตัวจับยาก เขาไม่ชอบกินหมาก จึงเป็นที่มาของฉายา ทองดีฟันขาว ชีวิตของเขาต้องระหกระเหินจากครอบครัวตั้งแต่ครั้งเยาว์วัย และต้องออกเดินทางหาเงินเลี้ยงตัวจากการชกมวย และร่ำเรียนวิชามวยเพิ่มเติมจากบรรดาครูมวยตามเมืองต่างๆ จนสุดท้ายโชคชะตาและวีรกรรมอันเลื่องชื่อของเขาก็นำพาให้เขาได้เป็นทหารเอกคู่ใจแห่ง พระเจ้าตากสินมหาราช และพลีชีพต่อสู้ปกป้องบ้านเมืองจนกลายเป็นวีรบุรุษของชาวไทย ที่รู้จักกันในนาม พระยาพิชัยดาบหัก

ขุนพันธ์ (2559/2016) ในขณะที่สงครามโลกครั้งที่ 2 กำลังก่อตัวขึ้น ญี่ปุ่นเริ่มแผ่ขยายอำนาจรุกรานทั่วเอเชีย รวมทั้งประเทศไทยที่กำลังเกิดการปฏิวัติวัฒนธรรมครั้งใหญ่เพื่อเตรียมก้าวเข้าสู่โลกอารยะ ความเจริญเริ่มรุกล้ำ แต่กลับกลายเป็นว่าผู้คนกลับขัดสนยากจน ถูกกดหัวอยู่ภายใต้อาณัติของเหล่าชุมโจรเสือร้ายที่ก่อร่างสร้างอิทธิพลไปทั่วทุกหัวระแหงโดยหาได้หวั่นเกรงต่อกฎหมายแต่อย่างใด แต่ถึงกระนั้นก็ใช่ว่าผืนปฐพีจะไร้ซึ่งผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ที่สัตย์ซื่อ ภักดีในความถูกต้อง และยึดมั่นในความยุติธรรม จังหวัดชุมพร ปี พ.ศ. 2481 ภายหลังจากเด็ดชีพ “เสือกลับ คำทอง” และพวกพ้องที่อุกอาจปิดเมืองทั้งเมืองและจับ “สารวัตรดำเกิง” ผู้บังคับบัญชาเป็นตัวประกัน “นายบุตร์” หรือ “ร้อยตำรวจโท ขุนพันธรักษ์ราชเดช” (อนันดา เอเวอริงแฮม) นายร้อยตำรวจหนุ่มฝึกหัดก็ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าด้วยกระสุนเพียงนัดเดียวก็สามารถกำราบเสือร้ายเลื่องชื่อได้เป็นผลสำเร็จ นั่นเป็นเพราะความสามารถเฉพาะตัวและวิชาที่บ่มเพาะติดตัวมา ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกทำในสิ่งที่ยังไม่เคยมีนายตำรวจมือปราบรายใดในประวัติศาสตร์เคยทำมาก่อน นั่นคือเสนอตัวเข้ารับผิดชอบในภารกิจลับที่เสี่ยงที่สุด อันตรายที่สุด ซึ่งอาจใช้เวลานับเดือนหรือแรมปีโดยต้องทิ้งชีวิตที่เหลืออยู่เป็นเดิมพัน นั่นคือการเสาะหาและออกไล่ล่าเพื่อปิดตำนานของ “อัลฮาวียะลู” (กฤษดา สุโกศล แคลปป์) มหาโจรผู้โหดเหี้ยม ดุดัน แกร่งกล้า ฆ่าไม่ตาย หนำซ้ำยังคงกระพันหนังเหนียว ครองอิทธิพลแผ่ขยายครอบคลุมไปทั่วภาคใต้ ซึ่งเป็นที่เลื่องลือกันว่าแกร่งกล้าเพราะมีวิชาและของดีอยู่ในตัว ขุนพันธ์ในคราบของนายบุตร์จึงแอบแฝงตัวเข้าไปสืบข่าวโดยได้รับความช่วยเหลือจาก “ไข่โถ” (สนธยา ชิตมณี) และ “มาลัย” (กานต์พิสชา เกตุมณี) 2 พี่น้องครอบครัวชาวประมงที่ทำงานในสโมสรงาช้างของ “หลวงโอฬาร” (ภคชนก์ โวอ่อนศรี) ข้าราชการใหญ่ผู้ทรงอำนาจและอิทธิพลจนทุกคนต้องเคารพและยำเกรง ซึ่งทำให้ต้องเผชิญกับ “เสือสัง” (ชูพงษ์ ช่างปรุง) และ “บุหงา” (พิมลรัตน์ พิศลยบุตร) 2 มือสังหารข้างกายของมหาโจรที่ว่ากันว่าคือนักฆ่าเลือดเย็นและไร้ความปรานีอย่างที่สุด พร้อมด้วยเหล่าทัพเสือโจรร้ายนับไม่ถ้วน ณ ดินแดนแห่งนี้นี่เองที่ทำให้ขุนพันธ์ได้รู้ความจริงว่า เมืองทั้งเมืองคือชุมโจรขนาดใหญ่ ชาวบ้านตกเป็นเครื่องมือโดยมีนักการเมือง ข้าราชการท้องถิ่นรู้เห็นกับมหาโจร คอยชักโยงและอยู่เบื้องหลังเพื่อกอบโกยผลประโยชน์โกงกินและขายชาติ กระทั่งความจริงปรากฏ พวกโจรรู้ว่าขุนพันธ์แฝงตัวเข้ามา การไล่ล่าและเผชิญหน้าระหว่างสุดยอดมือปราบและมหาโจรฆ่าไม่ตายจึงอุบัติขึ้นท่ามกลางห่ากระสุน คาวเลือด และการต่อสู้ อาคมต่ออาคม ตาต่อตา ฟันต่อฟัน ขุนพันธ์ต้องเลือกระหว่างหนีเพื่อเอาชีวิตตัวเองให้รอด หรือกลับไปช่วยเหลือและเปลี่ยนใจชาวบ้านให้ลุกขึ้นมาสู้กับโจร สร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นกับเมืองนี้ และเพื่อพิสูจน์ให้รู้ว่าแรงกระสุนหรือจะสู้แรงศรัทธา…
พรหมจรรย์ สวยพันธุ์สยอง (2558/2015) เนญ่า (ไอยวริญท์ โอสถานนท์ โธมัส) หญิงสาวผู้ปิดกั้นความรักจากผู้ชายทุกคนเพราะมีความเชื่อว่าผู้ชายทุกคนเจ้าชู้ และเห็นผู้หญิงเป็นแค่เครื่องเล่นบำเรอความใคร่ ได้เดินทางไปเที่ยวที่จังหวัดทางเหนือตามคำชักชวนของ แพรว (พัทธ์ธีรา ศรลัมพ์) กับ กิ๊บ สองเพื่อนหญิงคนสนิท เนญ่า ไม่พอใจเมื่อเห็นว่า กิ๊บ แอบนัด พัตโตะ (ธนันท์รัฐ ยันต์ฉิมพลี) แฟนหนุ่มกับเพื่อนชายอีกสองคนที่ชื่อ ยิม (กวินพนธ์ พานิชพงษ์) และ มาวิน (กวี วงศ์จันทรา) มาด้วย กิ๊บ วางแผนให้ยิมหลอกฟัน เนญ่า เพื่อต้องการพิสูจน์ว่าที่ เนญ่า เป็นเลสเบี้ยนหรือผู้หญิงแท้ เนญ่า ไม่ชอบหน้า มาวิน แต่กลับรู้สึกดีกับ ยิม เพราะหลงเชื่อว่า ยิม เป็นสุภาพบุรุษ ในขณะเดียวกัน มาวิน กลับเริ่มสนใจในตัว เนญ่า เพราะเข้าใจผิดคิดว่า เนญ่า ยังบริสุทธ์ ในระหว่างที่ทุกคนใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านพักในป่าลึก เนญ่า ได้เดินหลงเข้าไปในป่าและเจอกับหญิงสาวที่มีรอยสักเต็มตัวโดยเฉพาะรอยสักเสือที่อยู่ด้านหลัง เนญ่า กลับออกมาจากป่าโดยที่จำไม่ได้ว่าตัวเองถูกหญิงสาวคนนั้นสักรูปเสือเอาไว้ที่แผ่นหลัง หลังจากวันนั้น เนญ่า ก็มีท่าทีและพฤติกรรมที่แปลกไปพร้อมกับเกิดเหตุการณ์ที่ มาวิน ถูกเสือฆ่าตาย ทุกคนเริ่มสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับ เนญ่า และเสือที่ออกมาตามฆ่าพวกเขาเป็นเสือจริงหรือเสือสมิงตามที่ชาวบ้านล่ำลือกันแน่ เรื่องราวความลี้ลับที่แฝงไปด้วยเสน่หาแห่งความตายภายใต้มนต์ไสยศาสตร์ของรอยสัก เสือกำลังรอคอยเพื่อให้คุณได้พิสูจน์ความจริง
มาดพยัคฆ์ (2558/2015) สารคดีร้อยเรียงเรื่องราวผ่านบทสัมภาษณ์ของ สามารถ พยัคฆ์อรุณ และผู้คนรอบข้างที่มี่ส่วนเกี่ยวข้อง เริ่มตั้งแต่วัยเด็กที่เริ่มต้นชกมวย ผสมด้วยการถ่ายทำจำลองการชกมวยไทยจนเป็นแชมป์ รวมไปถึงคลิปการชกตั้งแต่ชกมวยสากล จนได้ตำแหน่งแชมป์โลกจนถึงเสียเข็มขัด และคลิปการชกมวยไทยเมื่อคราวกลับมาต่อยมวยไทยอีกครั้ง จนได้ตำแหน่งนักมวยไทยยอดเยี่ยมประจำปี พ.ศ. 2531 โดยภาพยนตร์แบ่งการเล่าเรื่องออกเป็น 5 ยก ได้แก่ ยกที่ 1 กำเนิดพยัคฆ์, ยกที่ 2 ทางพยัคฆ์ผ่าน, ยกที่ 3 พยัคฆ์คำราม, ยกที่ 4 พยัคฆ์ลำบาก และยกที่ 5 ชาติพยัคฆ์ต้องไว้ลาย
แม่เบี้ย (2558/2015) ความลุ่มหลงแห่งอิสตรี จะเปิดความลับแห่งอสรพิษ เบื้องลึกของความรัก ตัณหาราคะ เหล่าคนบาป และความเร้นลับแห่งอสรพิษ ทุกเรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อ ชนะชล สุพรรณภูมิ (ชาคริต แย้มนาม) ประธานบริษัทอสังหาริมทรัพย์ผู้มั่งคั่งมีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะเป็นเจ้าของ "เรือนไทยโบราณริมแม่น้ำ" ทำให้ภาคภูมิ (จิรวิชญ์ พงษ์ไพจิตร) เลขาคนสนิทได้พาเขาไปดูเรือนไทยโบราณที่ อ.บางปลาม้า สุพรรณบุรี ของ เมขลา พลับพลา (กานต์พิสชา เกตุมณี) เจ้าของบริษัท "เมขลาทัวร์" ซึ่งเป็นเพื่อนหญิงรุ่นพี่ของภาคภูมิ ที่นั่น ชนะชลเกิดความลุ่มหลงในความเร้นลับของบรรยากาศเรือนไทยโบราณแห่งนั้น รวมทั้งเสน่ห์อันยั่วยวนใจ ของเมขลาเจ้าของบ้าน ทำให้ทั้งสองติดต่อกันเรื่อยมาจนก้าวข้ามไปสู่ความสัมพันธ์ฉันชู้สาวอย่างลึกซึ้ง และที่เรือนไทยแห่งนี้ ชนะชลได้ค้นพบขนบธรรมเนียนประเพณีไทยที่บ้านนั้นรักษาไว้อย่างเคร่งครัดพร้อมกับความลึกลับที่มี "งูเห่ายักษ์" แฝงเร้นความน่าสะพรึงกลัวในบ้านนั้น และคอยจับจ้องทำร้ายเขาในทุกขณะจิต และที่นี่เขาก็ได้พบกับ ลุงทิม (ศักราช ฤกษ์ธำรงค์) คนเก่าแก่แห่งครอบครัวพลับพลาผู้เฝ้าดูแลและกุมความลับเหนือธรรมชาติของเรือนไทยโบราณแห่งนี้ ซึ่งชนะชลรู้สึกคุ้นเคยกับชายชราผู้นี้เป็นพิเศษราวกับเคยรู้จักกันมาแต่เก่าก่อน รวมถึงการล่วงรู้ความลับดำมืดในบ้านเรือนไทยหลังนี้ที่ได้สร้างความปวดร้าวใจแก่ คุณโกสุม (อาภา ภาวิไล) มารดาของเมขลาเป็นยิ่งนัก ซึ่งมันอาจจะเกี่ยวพันกับปริศนาชีวิตในอดีตของเขาที่ยังไม่อาจคลี่คลาย ยิ่งเวลาผ่านไป สัมพันธ์สวาทของชนะชลและเมขลาก็ยิ่งดำดิ่งเป็นปมลึก และนั่นได้นำพาทั้งคู่และคนรอบข้างไปสู่หายนะแห่งชีวิต ไม่ว่าจะเป็น ไหมแก้ว (ภัทรนันท์ รวมชัย) ภรรยาของชนะชลที่ไม่อาจยอมรับการนอกใจของสามีได้ และ พจน์ (ชัยวัฒน์ ทองแสง) เพื่อนสนิทและคู่ขาของเมขลาที่หึงหวงอย่างรุนแรงต่อการปันใจของเธอให้ชายอื่น รวมถึง คุณ (งูเห่ายักษ์) ที่ปรากฏตัวให้ชนะชลและเมขลาเห็นบ่อยขึ้น และแสดงอำนาจเร้นลับมากขึ้นทุกที ราวกับจะดึงสติทั้งคู่ให้กลับมาอยู่ในทำนองคลองธรรม ก่อนที่เรื่องราวทุกอย่างจะพลิกผันจบลงด้วยการแก้แค้น, ชำระบาป และความตาย เมขลาจึงจำต้องคลี่คลายปัญหาด้วยการตัดใจลา ยุติความสัมพันธ์กับชนะชลอย่างเด็ดขาด เพื่อมิให้งูเห่ายักษ์พรากชีวิตของเขาไป ในขณะที่ชนะชลเองก็ได้ค้นพบรากเหง้าชีวิตอันเป็นต้นกำเนิดของเขาไปพร้อมๆ กับตระหนักถึงบาปที่ตนก่อไว้เช่นกัน
ฟ.ฮีแลร์ (2558/2015) เรื่องราวของ พงศธร (ภรัณยู โรจนวุฒิธรรม) ครูในโรงเรียนประถมศึกษาแห่งหนึ่ง ซึ่งต้องการจะมีเงินเดือนที่มากขึ้น ทางเดียวที่เขาจะทำได้คือการลงเรียนต่อปริญญาโท เพื่อนำวุฒิการศึกษามาปรับขึ้นเงินเดือน พงศธร ซึ่งเป็นครูสอนภาษาไทยจึงลงเรียนปริญญาโทสาขาวรรณกรรมและเลือกทำวิทยานิพนธ์เรื่อง ฟ.ฮีแลร์ เป็นงานจบของเขา ฟ.ฮีแลร์ (เจสัน ยัง) คือนักบวชชาวฝรั่งเศส ผู้ที่เดินทางมายังประเทศไทยเมื่อ 100 กว่าปีก่อน เพื่อมาเป็นครูและเป็นครูฝรั่งที่นั่งเรียนภาษาไทยกับนักเรียนจนพูดภาษาไทยได้ และไม่ใช่เพียงพูดได้เท่านั้น ฟ.ฮีแลร์ ยังเก่งถึงขนาดเขียนตำราให้คนไทยเรียน ยิ่ง พงศธร ค้นคว้าเรื่องราวของ ฟ.ฮีแลร์ ใหม่ลึกลงไปเท่าไหร่ ก็ยิ่งเหมือนเป็นการตบหน้าตัวเอง เพราะเขาค้นพบว่า ฟ.ฮีแลร์ ก็เป็นครูเช่นเดียวกับเขา แต่ความเป็นครูเขาเทียบอะไรไม่ได้กับ ฟ.ฮีแลร์ เลย ขณะที่เขาสอนเพื่อแลกเงิน แต่ ฟ.ฮีแลร์ กลับสอนเพื่อต้องการให้ความรู้ เขาได้ค้นพบความจริงที่ว่า ตำราดรุณศึกษาที่เขาใช้สอนนักเรียนทุกวันนี้ ประพันธ์โดย ฟ.ฮีแลร์ นักบวชชาวฝรั่งเศสผู้ซึ่งอุทิศตัวเพื่อการศึกษาของไทยแม้ว่าจะไม่ใช่คนไทยก็ตาม พงศธร เริ่มค้นพบปรัชญาชีวิตบางอย่างจากการค้นคว้าชีวิตของ ฟ.ฮีแลร์ แต่ พงศธร ยังคงไม่เข้าใจว่าเพราะเหตุใด ฟ.ฮีแลร์ จึงได้เลือกอยู่ในประเทศเล็ก ๆ อย่างประเทศไทยจนวันสุดท้ายของชีวิต และเมื่อ พงศธร ได้รู้เหตุผลนั้น มันจะเปลี่ยนแปลงชีวิตของเขาตลอดไป...
ขรัวโต อมตะเถระกรุงรัตนโกสินทร์ (2558/2015) ภาพยนตร์ถ่ายทอดเรื่องราว ชีวประวัติของ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังษี วัดระฆังโฆสิตาราม ตั้งแต่เกิดจนบวชเรียน จนค้นพบสุดยอดแห่งพระคาถาชินบัญชรที่มีคุณวิเศษ โดยแบ่งช่วงชีวิตของขรัวโต ทั้งหมด 4 ช่วง ช่วงแรกว่าด้วยชีวิตวัยเด็ก ของเด็กชายโต (ชัยธวัฒน์ เนื่องจำนงค์) ซึ่ง ขรัวโต วัยเด็กก็เป็นเหมือนเด็กเล็กทั่วไปที่รักสนุก แต่ท่านเป็นเด็กที่มีจิตใจโอบอ้อมอารีต่อผู้อื่น มีเมตตา ที่โดดเด่นเป็นพิเศษคือ ท่านฉายแววในการเป็นคนที่มีหัวใจใฝ่เรียนรู้ ท่านร่ำร้องจะเรียนหนังสือ จนมารดาต้องพาไปฝากเรียนกับหลวงตาแก้ว ที่เป็นเหมือนครูคนแรกของท่าน ช่วงที่ 2 อยู่ในช่วงที่ ขรัวโต บวชเณร ท่านก็ตัดสินใจมุ่งที่จะบวชเป็นสามเณรอย่างจริงจัง แม้ว่ามารดาจะยังรักเป็นห่วง อยากให้อยู่ใกล้ ๆ แต่ท่านก็ยืนยันชัดเจนว่าต้องการจะบวชเรียน จนโยมแม่ต้องยอมตามใจ ซึ่งหลังจากที่ท่านพบความจริงว่า ท่านไม่ใช่ลูกของพ่อที่เลี้ยงดูท่านมา ท่านก็ขอลาบวชเรียนและไม่สึกอีกเลย ช่วงที่ 3 สามเณร ท่านบวชต่อเป็น พระโต (ปรัชญา ประทุมเดช) เป็นช่วงที่ท่านออกธุดงค์กับอาจารย์อีกคนคือ ขรัวตาแสง ได้ร่ำเรียนวิชาต่าง ๆ รวมถึงออกเดินทางไปตามสถานที่ต่าง ๆ ได้พบเห็นชีวิตทางโลกมากขึ้น และช่วงปัจฉิมวัยของ ขรัวโต (เศรษฐา ศิระฉายา) ในชีวิตจริง ขรัวโต ท่านไม่ได้เป็นพระที่เคร่งเครียด ท่านเป็นพระที่อารมณ์ดี จิตใจดี มองโลกในแง่ดี มีอารมณ์ขัน ท่านนำธรรมะมาสอนประชาชนด้วยถ้อยคำที่ฟังง่าย ๆ แต่คมคาย แฝงปรัชญาธรรมะ และอารมณ์ขัน
คีตราชนิพนธ์ บทเพลงในดวงใจราษฎร์ (2558/2015) ไม่เฉพาะเพียงความสมบูรณ์พูนสุขทางกายเท่านั้นที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงใส่พระทัยพสกนิกร โดยริเริ่มโครงการต่าง ๆ มากมายเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีและยั่งยืนของพี่น้องชาวไทย หากในแง่การเติมเต็มพลังใจ พระองค์ท่านยังพระราชทานขวัญ กำลังใจ แด่ประชาชนผ่านบทเพลงพระราชนิพนธ์อันแฝงไปด้วยปรัชญาการดำเนินชีวิตมากมายหลายต่อหลายเพลง และ 4 บทเพลงพระราชนิพนธ์ใน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้รังสรรค์แรงบันดาลใจให้ 4 ผู้กำกับชั้นแนวหน้าของเมืองไทย ถ่ายทอดเรื่องราวสู่ 4 ภาพยนตร์ "The Singers" เพลงพระราชนิพนธ์ที่เป็นแรงบันดาลใจ "ชะตาชีวิต" เรื่องราวของ หญิงชราสองคน จากสองครอบครัวที่มีความแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงทั้งในด้านฐานะและสถานภาพในสังคม แต่ทั้งคู่มีความเหมือนกันในแง่ของสภาพจิตใจเมื่อทั้งสองได้โคจรมาพบกันและรับรู้เรื่องราวของกันและกันการผจญภัยของสองย่ายายจึงเริ่มต้นขึ้น ย่าเป้า อยู่ในครอบครัวที่เป็นเจ้าของกิจการมีลูกหลานมากมายแต่ล้วนแล้วแต่แก่งแย่งชิงดีกันบ้างก็เสแสร้งเอาใจเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองจน ย่าเป้า รู้สึกเบื่อและเหนื่อยหน่ายกับลูกหลานเหล่านี้ ด้าน ยายเงิน มีชีวิตที่ลำบากอยู่ในชุมชนเล็กๆ กลางเมืองใหญ่ที่วุ่นวายอยู่กับหลานสาววัยหกขวบที่สุขภาพไม่ใคร่ดีนักเพียงลำพัง จนวันหนึ่ง ยายเงิน โดนจับเพราะขายแผ่นหนังและเพลงเก่า ๆ โดยไม่มีใบอนุญาต ต้องประกันตัวและเสียค่าปรับในอัตราสูงเธอและหลานจะมีชีวิตอยู่ต่อไปอย่างไร แต่เมื่อฟ้าส่งให้ทั้ง ย่าเป้า กับ ยายเงิน มาพบเจอกันความเห็นอกเห็นใจก็เริ่มต้นขึ้นและเมื่อถึงจุดวิกฤตจุดหนึ่งของชีวิตเธอก็ได้ตัดสินใจที่จะใช้เสียงเพลงของเธอทั้งสองเพื่อที่จะฝ่าฟันกับอุปสรรคนั้นไปให้ได้ "อมยิ้ม" เพลงพระราชนิพนธ์ที่เป็นแรงบันดาลใจ "ยิ้มสู้" เรื่องราวของ เด็กชายคนหนึ่ง ที่กลายเป็นตัวประหลาดในสายตาคนในโรงเรียน เพราะไม่เคยมีใครเห็นเขาโกรธร้องไห้ หัวเราะ หรือแม้แต่ยิ้ม เขาคือคำถามของทุกคน คือของเล่นแสนสนุกน่าแกล้ง แต่ไม่มีใครอยากอยู่ใกล้หรือคิดทำความรู้จักเขาจริง ๆ และทุกคนก็ต้องประหลาดใจเมื่อได้ข่าวว่าคนที่หน้าตายนิ่งเฉยไม่เคยขยับอย่างเขากำลังจะเล่นละคร แถมเล่นกับนักเรียนหญิงสุดสวยแสนป๊อบของโรงเรียนที่เขาแอบชอบ แต่เธอก็มีแฟนเป็นนักกีฬาสุดเท่เนตไอดอล ความเป็นไปไม่ได้ที่สุดกำลังจะเกิดในโรงเรียน เขาจะเล่นละครได้ไหมนักเรียนหญิงสุดสวยกำลังจะเจอกับอะไร ความจริงที่ถูกเปิดเผยอาจเปลี่ยนความรู้สึกใครบางคนไปตลอดกาล "ฝนตกที่ห้วยขาแข้ง" เพลงพระราชนิพนธ์ที่เป็นแรงบันดาลใจ "สายฝน" เรื่องจริงของ สืบ นาคะเสถียร หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์ป่าห้วยขาแข้ง นักสู้ผู้อุทิศชีวิตเพื่อผืนป่าเมืองไทย ในช่วงสี่ปีสุดท้ายที่เขามุ่งมั่นและต่อสู้เพื่อยุติการตัดไม้ทำลายป่าและล่าสัตว์ป่าอย่างไม่เกรงกลัวต่อกฏหมาย สืบ ยืนหยัดต่อกรกับอิทธิพลมืด นักการเมือง และเจ้าหน้าที่รัฐที่ทุจริตด้วยมือเปล่าและหัวใจที่จะไม่ยอมให้ผืนป่าของเมืองไทยต้องหมดสิ้นไปเพราะความโลภและเห็นแก่ตัว "ดาว" เพลงพระราชนิพนธ์ที่เป็นแรงบันดาลใจ "ความฝันอันสูงสุด" ใคร ๆ ก็รู้ว่า การได้เป็นคนเชิญธงชาติของโรงเรียนเป็นความฝันอันสูงสุดของนักเรียนทุกคน ดังนั้น ทันทีที่ครูประกาศหาคนเชิญธงคนใหม่แทนพี่ ป.6 ที่กำลังจะจบไป การแข่งขันของหนุ่มน้อยสองคนจึงเกิดขึ้นสำหรับ โก้ (อภิธาร รุ่งเจริญรอด) การได้เชิญธงชาติจะทำให้เขาได้ใกล้ชิดกับสาวที่เขาตั้งเป้าว่าต้องจีบเป็นแฟนให้ได้ก่อนสอบปลายปี แต่สำหรับ หนึ่ง (กฤตเมธ เมืองดี) การได้เป็นคนเชิญธงชาติมีความสำคัญมากกว่าที่ใครจะคาดถึง การแข่งขันที่มีจำนวนดาวเป็นตัวตัดสิน จะทำให้ความฝันอันสูงสุดของหนึ่งเป็นจริงได้หรือไม่!?

หน้าที่