ตะวันลับฟ้า (2518)
ตะวันลับฟ้า (2518/1975) ข้อความบนใบปิด วัฒนภาพยนตร์ โดย ไพรัช กสิวัฒน์ เสนอผลงานอันดับ 8 ผู้สร้าง สุดหัวใจ-ไม่มีวันที่เราจะพรากจากกัน สันกำแพง-จุฬาตรีคูณ-น้อยไจยา ภาพยนตร์เงินล้าน หมื่นไมล์ไกลสุดขอบฟ้า จากซานฟรานซิสโก สู่กรุงเทพมหานคร รักสลายเหมือน... ตะวันลับฟ้า บทประพันธ์ ของ โสภาค สุวรรณ บทภาพยนตร์ โดย ส.อาสนจินดา 35 ม.ม.สโคป สี เสียง สมบัติ เมทะนี อรัญญา นามวงษ์ อนันต์ สัมมาทรัพย์ กันทิมา ดาราพันธ์ ขวัญชัย สุริยา นำแสดง ร่วมด้วย รสสุคนธ์ สุรนิคม, จรัสศรี สายะศิลปี, สุวิน สว่างรัตน์, สวัสดิ์ วิเศษพงษ์, สุทธิจิตร วีระเดชกำแหง, มารศรี ณ บางช้าง, สีเทา, ไฉไล ไชยทา, เพลินตา อุมาแมน, จีราวัจน์ จารุวิจิตร, อรุณศรี น้อยทิพย์ ฯลฯ ขอแนะนำดาวรุ่งดวงใหม่ เกรียงไกร แก้ววิรุฬห์-ทัศนาลัย สัจจะเวทะ สนั่น วงศ์พัวพันธ์-รสสุคนธ์ สุรนิคม อุปการะการสร้าง กวี เกียรตินันท์ ถ่ายภาพ อรุณศรี น้อยทิพย์ ผู้จัดการ จรัญ ปานเสน ผู้ช่วยกำกับการแสดง ไพรัช กสิวัฒน์ กำกับการแสดง
สุดหัวใจ (2516)
สุดหัวใจ (2516/1973) ข้อความบนใบปิด วัฒนภาพยนตร์ เสนอ ทมยันตี ประพันธกรผู้เขียน “พ่อปลาไหล” “ค่าของคน” เมื่อปีก่อน เลือกสรรนวนิยายเยี่ยมยอด จากบทประพันธ์กว่า 30 เรื่อง หยิบยื่นความสุขสมใจให้แก่ ผู้ชมภาพยนตร์ไทยเพียงเรื่องเดียว เสียว-เสียด-สุดใจ ประจำปี 2516 สุดหัวใจ 35 ม.ม.สโคป สีอิสต์แมน สมบัติ เมทะนี อรัญญา นามวงษ์ ชุมพร เทพพิทักษ์, พูนสวัสดิ์ ธีมากร, วาสนา ชลากร, สุวิน สว่างรัตน์, จรัสศรี สายะศิลปี, ไกร ครรชิต, มารศรี อิศรางกูร, ชฎาพร วชิรปราณี, เพลินตา อุมาแมน, จุ่น ทรงเล็ก, ตุ้ยนุ้ย, สีเทา, โกร่ง กางเกงแดง, เด่น ดอกประดู่ ฯลฯ ขอแนะนำเด็กใหม่ ด.ช.กำพล อุมาแมน, ด.ญ.หยาดรุ้ง อุมาแมน, ด.ญ.มารีนา กฤษณมาศ รสสุคนธ์ กสิวัฒน์ อำนวยการสร้าง กวี เกียรตินันท์ ถ่ายภาพ “วิทวัส” บทภาพยนตร์ ไพรัช กสิวัฒน์ กำกับการแสดง จรัล พรหมรังสี ตัดต่อ-ลำดับภาพ ประยูร จันทะนากูล ผู้จัดการ
ไม่มีวันที่เราจะพรากจากกัน (2514)
ไม่มีวันที่เราจะพรากจากกัน (2514/1971) ข้อความบนใบปิด วัฒนภาพยนตร์ โดย ไพรัช กสิวัฒน์ ผู้สร้าง น้อยไจยา-จุฬาตรีคูณ-สันกำแพง-ดิน น้ำ ลม ไฟ เสนอนวนิยายแสนฮิตจากนิตยสาร บางกอก เรื่อง ไอลดา นำขบวนดาราคับคั่งโดย... สมบัติ เมทะนี อรัญญา นามวงษ์ เนาวรัตน์ วัชรา กังวานไพร ลูกเพชร ร่วมด้วย ชนะ ศรีอุบล, ประจวบ ฤกษ์ยามดี, โสภา สถาพร, รัตนาภรณ์ อินทรกำแหง, สุวิน สว่างรัตน์, รุจน์ รณภพ, สังข์ทอง สีใส, สีเทา, สุคนธ์ คิ้วเหลี่ยม, รสสุคนธ์ กสิวัฒน์, ด.ช.ปรีชา เกิดกำแพง, เตือนใจ บุญพระรักษา, สมานมิตร เกิดกำแพง ไม่มีวันที่เราจะพรากจากกัน “ไอลดา” ของ อรชร รสสุคนธ์ กสิวัฒน์-ประศักดิ์ วงศ์ศรีสกุล อำนวยการสร้าง ไพรัช กสิวัฒน์ กำกับการแสดง ศานิต รุจิรัตน์ตระกูล ถ่ายภาพ 35 สโคป นวฤทธิ์ฟิล์ม จัดจำหน่าย
กายทิพย์ (2513)
กายทิพย์ (2513/1970) ข้อความบนใบปิด วัฒนภาพยนตร์ โดย ไพรัช กสิวัฒน์ ผู้สร้างผลงานยอดเยี่ยม น้อยไจยา จุฬาตรีคูณ สันกำแพง ดิน-น้ำ-ลม-ไฟ เสนอผลงานวิเศษสุดประจำปี 2513 กายทิพย์ ของ เทพเทวี สมบัติ เมทะนี อรัญญา นามวงษ์ โสภา สถาพร ประจวบ ฤกษ์ยามดี ร่วมด้วย ชนะ ศรีอุบล, สุมาลี ทองหล่อ, วิไลวรรณ วัฒนพานิช, ศรินทิพย์ ศิริวรรณ, รุจน์ รณภพ, โขมพัสตร์ อรรถยา, ไกร ครรชิต, สมพงษ์ พงษ์มิตร, สุคนธ์ คิ้วเหลี่ยม, สีเทา, ธัญญา ธัญญลักษณ์, อบ บุญติด, ปราณีต คุ้มเดช, แพน บรเพ็ด, พิมล และด.ช.อิงทอง ศรีเปีย ไพลิน พันธุ์พิริยะเจตน์ ดำเนินงาน ราม ทิพย์รจน์ บทภาพยนตร์ ชวลิต พละเดช ธุรกิจ สมเกียรติ พันธุ์พิริยะเจตน์-รสสุคนธ์ กสิวัฒน์ อำนวยการสร้าง ไพรัช กสิวัฒน์ กำกับการแสดง สมาน ทองทรัพย์สิน ถ่ายภาพ ฟังเพลงจาก 2 ดาราลูกทุ่ง เรียม ดาราน้อย กิ่งดาว จันทร์สวัสดิ์ นวฤทธิ์ฟิล์ม จัดจำหน่าย
ดิน น้ำ ลม ไฟ (2512)

ดิน น้ำ ลม ไฟ (2512/1969) ข้อความบนใบปิด วัฒนภาพยนตร์ ไพรัช กสิวัฒน์ สร้างความยิ่งใหญ่อีกครั้งให้เหนือกว่า น้อยไจยา จุฬาตรีคูณ สันกำแพง ครั้งแรกที่จ้าวสังเวียนในอดีตโคจรมาพบกันให้เกรียงไกร คือ... ชูชัย พระขรรค์ชัย (เทพบุตรสังเวียน) สุรชัย ลูกสุรินทร์ (เสือสำอางค์) ดิน น้ำ ลม ไฟ บทประพันธ์ของ อรชร สมบัติ เมทะนี นำ อรัญญา นามวงษ์ สุทิศา พัฒนุช พบ ครรชิต ขวัญประชา ร่วมด้วย รุจน์ รณภพ, สุวิน สว่างรัตน์, ไสล พูนชัย, รสสุคนธ์ กสิวัฒน์, สีเทา, ธัญญา ธัญญารักษ์, ชาย, เลิศ, พิภพ ภู่ภิญโญ, สมพงษ์ พงษ์มิตร และ ล้อต๊อก ขอแนะนำสองดาวรุ่งดวงใหม่ จอมใจ จรินทร์ โขมพัสตร์ อรรถยา ปรีชา ทรัพย์พระวงศ์-สมาน ทองทรัพย์สิน-ปง อัศวินิกุล ถ่ายภาพ ไพรัช กสิวัฒน์ กำกับการแสดง รสสุคนธ์ กสิวัฒน์ อำนวยการสร้าง ฟัง 8 เพลงเอก 35 ม.ม.ซีเนมาสโคป สีอิสต์แมน นวฤทธิ์ฟิล์ม จัดจำหน่าย 

 
สันกำแพง (2511)
สันกำแพง (2511/1968) กาญจน์ (สมบัติ เมทะนี) กับ ตะวัน (เสกสรร สัตยา) เป็นเพื่อนรักกัน เรียนแม่โจ้ที่เดียวกัน กาญจน์รักใคร่ชอบพอกับสายไหม (อรัญญา นามวงษ์) โดยมีตะวันเป็นพ่อสื่อให้ ขณะเดียวกันเคลีย (ปริม ประภาพร) ซึ่งเป็นเพื่อนรักของสายไหมก็แอบชอบกาญจน์ แต่กาญจน์ไม่เล่นด้วย ส่วนตะวันก็ชอบเคลีย แต่เคลียไม่ชอบตะวัน เมื่อเคลียรู้ว่า กาญจน์จะกลับกรุงเทพฯเพื่อไปเรียนต่อ เคลียซึ่งต้องการหนีความเจ้าชู้ของบุญทัณฑ์ (เมืองเริง ปัทมินทร์) สามีใหม่ของแม่จึงแอบขึ้นรถไฟไปพร้อมกับกาญจน์โดยกาญจน์ไม่รู้ตัว ทำให้ตะวันเข้าใจผิดในตัวกาญจน์ ความเป็นสุภาพบุรุษของกาญจน์ ทำให้กาญจน์ต้องพาเคลียไปพักอาศัยอยู่ที่บ้านของตน แต่ก็ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกันในเชิงชู้สาวแม้เคลียจะพยายามอ่อยเหยื่อแล้วก็ตาม ฝ่ายตะวันเข้าใจผิดว่า กาญจน์พาเคลียหนีไปทั้งๆ ที่รู้ว่าตะวันนั้นชอบเคลีย แม้สายไหมจะพยายามอธิบายว่า กาญจน์ไม่ได้รักเคลีย แต่ตะวันก็ไม่ฟัง แล้วต่อมาจู่ๆ เคลียก็เกิดตั้งท้องขึ้นมา กาญจน์เดินทางมาเชียงใหม่เพื่ออธิบายเรื่องเคลียตั้งท้องให้ตะวันฟัง ตะวันเชื่อว่า เคลียไม่ได้ท้องกับกาญจน์เพราะก่อนหน้านั้น ตะวันก็เคยได้เสียกับเคลียมาก่อน ตะวันจึงนัดให้กาญจน์ไปปรับความเข้าใจกับสายไหมที่กระท่อมสายน้ำผึ้ง คืนนั้นทั้งคู่ได้เสียกัน สายไหมตัดเปียไหมให้กาญจน์ไว้เป็นพยานรัก จากนั้นกาญจน์ก็เดินทางกลับกรุงเทพฯ ต่อมาสายไหมตั้งท้องจึงไปหากาญจน์ที่กรุงเทพฯ แต่ไม่พบกาญจน์ พบแต่เคลียซึ่งกำลังท้องแก่อยู่ในบ้าน ทำให้สายไหมสงสัยว่าที่กาญจน์หายเงียบไปเพราะทำเคลียท้องหรือเปล่า ส่วนเคลียเองก็แสร้งทำเป็นว่า ตนเองเป็นเมียของกาญจน์ สายไหมหลงเชื่อจึงเดินทางกลับเชียงใหม่ด้วยความชอกช้ำโดยลืมเปียไหมทิ้งไว้ที่บ้านกาญจน์ เมื่อสายไหมกลับถึงบ้านที่เชียงใหม่ก็พบว่าแม่เสียชีวิตแล้ว ก็ยิ่งทำให้เศร้าใจ สายไหมวิ่งไปน้ำตกวังบัวบานหมายจะฆ่าตัวตาย แต่ตะวันก็มาช่วยไว้ได้ทัน ตะวันรู้ว่า สายไหมตั้งท้องกับกาญจน์ แต่เมื่อกาญจน์ไม่ยอมรับเป็นพ่อเด็ก ตะวันซึ่งรักสายไหมอยู่แล้วจึงรับที่จะแต่งงานกับสายไหมเพื่อช่วยแก้หน้าโดยสัญญาว่า จะแต่งงานแต่ในนาม จะไม่ล่วงเกินสายไหม สายไหมจึงยอมแต่งงานกับตะวัน เมื่อกาญจน์กลับมาบ้านก็เห็นเปียไหมตกอยู่ จำได้ว่าเป็นของสายไหม จึงรีบตามไปเชียงใหม่ เมื่อไปถึงก็เป็นวันแต่งงานของสายไหมกับตะวันแล้ว กาญจน์เข้าใจว่า สายไหมหมดรักตนจึงเกิดการชกต่อยกับตะวัน จากนั้นกาญจน์ก็เดินทางกลับกรุงเทพฯ ส่วนเคลียเมื่อรู้ว่าตนทำผิดมหันต์ หลังคลอดลูกแล้วก็ทิ้งลูกชายไว้ให้กาญจน์เลี้ยง ส่วนตนเองก็หนีออกจากบ้านไปหมายจะกระโดดน้ำตาย แต่คุณชาย (ชนะ ศรีอุบล) ก็มาช่วยเคลียไว้ได้ทัน กาญจน์ตามมาหาเคลียก็พบแต่ร่มตกอยู่บนสะพาน ก็คิดว่า เคลียฆ่าตัวตายไปแล้ว จึงรับเลี้ยงลูกชายของเคลียไว้ ส่วนเคลียนั้นก็ได้รับชีวิตใหม่กับคุณชาย เวลาผ่านไป 20 ปี ลูกของเคลียที่กาญจน์รับเลี้ยงไว้ก็โตเป็นหนุ่มชื่อว่า สุริยน (สมบัติ เมทะนี) ส่วนลูกของสายไหมก็โตเป็นสาวชื่อ สายน้ำผึ้ง (สุทิศา พัฒนุช) สุริยนทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ป่าไม้ที่เชียงใหม่และได้รู้จักกับสายน้ำผึ้งซึ่งดูแลปางไม้ของพ่อเลี้ยงตะวัน ฝ่ายพ่อเลี้ยงตะวันก็มีความสัมพันธ์กับรัญจวน (หยาดรุ้ง ระพี) โดยไม่รู้ว่ารัญจวนเป็นสายของศัตรู วันหนึ่งขณะที่สุริยนกำลังจะเข้าไปพบพ่อเลี้ยงตะวันในปางไม้ รัญจวนเห็นสุริยนก่อนก็แกล้งทำเป็นจมน้ำให้สุริยนช่วย สุริยนหลงเชื่อก็เข้าไปช่วย แต่พอจับได้ว่าเป็นมารยาหญิง สุริยนก็ผละจากรัญจวนไปซึ่งเป็นเวลาเดียวกับเมฆ (สุวิน สว่างรัตน์) ที่แอบดูรัญจวนอาบน้ำอยู่ก่อน ก็เข้าสวมรอยข่มขืนและฆ่ารัญจวนตาย พ่อเลี้ยงตะวันก็เข้าใจผิดว่า สุริยนเป็นคนฆ่ารัญจวนจึงให้ลูกน้องไปจับตัวสุริยนมาทรมาน สายน้ำผึ้งเข้าช่วยสุริยน แต่ก็ถูกพ่อเลี้ยงตะวันตบสั่งสอน สายไหมก็ส่งข่าวร้ายนี้ให้กาญจน์รู้ว่า สุริยนถูกพ่อเลี้ยงตะวันจับตัวไปหมายจะฆ่าให้ตาย กาญจน์จึงเดินทางมาเชียงใหม่เพื่อจะมาบอกว่า สุริยนนั้นเป็นลูกของตะวันเอง แต่ยังไม่ทันได้บอกอะไร ก็เกิดการดวลมีดกับพ่อเลี้ยงตะวันก่อน สายไหมพาคนงานมาช่วยสุริยนและสายน้ำผึ้ง เมื่อสุริยนเห็นกาญจน์กำลังเพลี่ยงพล้ำก็ขว้างมีดไปหมายจะให้ถูกพ่อเลี้ยงตะวัน แต่กาญจน์ก็ผลักพ่อเลี้ยงตะวันออกไปและโดดมีดปักหลังแทน กาญจน์จึงบอกความจริงว่า พ่อเลี้ยงตะวันนั่นแหละเป็นพ่อของสุริยน สุริยนเป็นลูกที่เกิดจากเคลีย ขณะนั้นพ่อเลี้ยง (ชุมพร เทพพิทักษ์) ซึ่งเป็นอริทางการค้าไม้กับพ่อเลี้ยงตะวันก็พาพวกมาบุกยิงถูกพ่อเลี้ยงตะวัน ก่อนที่พ่อเลี้ยงจะสิ้นใจได้บอกความจริงว่า สายไหมก็ไม่ใช่ลูกของตน แต่เป็นลูกของกาญจน์ เมื่อทุกฝ่ายเข้าใจกันดีแล้ว สุริยนก็ได้แต่งงานกับสายน้ำผึ้งท่ามกลางความรัก ความอบอุ่นของผู้ที่เป็นพ่อแม่
จุฬาตรีคูณ (2510)
จุฬาตรีคูณ (2510/1967) อริยวรรต (มิตร ชัยบัญชา) จอมกษัตริย์แห่งแคว้นมคธ ต้องการรวมแผ่นดินชมพูทวีปให้เป็นหนึ่ง ยาตราทัพมาหยุดถึงริมฝั่งแม่น้ำคงคา เตรียมตัวข้ามไปยังกรุงพาราณสี แต่ราตรีนั้นฝันเห็นนิมิตหมาย ดารารายพิลาส (เพชรา เชาวราษฎร์) หญิงสาวสะอื้นร่ำไห้ชิงชังในความงามของตนเอง ด้วยความรุ่มร้อนพระทัยอยากพบเจอตัว จึงสั่งเลิกทัพแล้วชักชวนน้องรัก ขัตติยะราเชนทร์ (สมบัติ เมทะนี) ให้ร่วมออกเดินทางไปด้วยกัน กระนั้นด้วยความเฉลียวฉลาดของพระอนุชา ล่วงรู้ได้ว่านั่นย่อมเป็นเหตุลางร้าย พยายามขัดขวางแนะนำให้กลับไปอภิเษกสมรสพระคู่หมั้น อาภัสรา (เนาวรัตน์ วัชรา) ที่แม้จะเป็นคนรักของตน แต่พระราชบิดาทรงจัดการหมั้นหมายไว้ก่อนสวรรคต จึงมิอาจขัดคำสั่งพระทัย แต่สุดท้ายก็มิอาจขืนความดื้อด้านของราชะกษัตริย์ ยินยอมออกนำทางสู่กรุงพาราณสี พร้อมอีกหนึ่งบริวารตัวดำ (ดอกดิน กัญญามาลย์) อริยวรรต ปลอมตัวเป็นพราหมณ์ วิพาหะ ขณะที่ ขัตติยะราเชนทร์ ปลอมเป็น กัญญะ ผู้มีเสียงเสนาะปานนกโกกิลา ทั้งสองเข้าไปถึงชานเมืองพาราณสีวันเดียวกับที่เจ้าหญิง ดารารายพิลาส ทรงหมั้นกับ กาฬสิงหะ กษัตริย์แห่งเวสาลีและเสด็จมานมัสการองค์ศิวะเทพที่เทวาลัย เมื่อนางแม่มดผู้ดูแลวิหาร เทวตี อัญเชิญเสด็จเจ้าหญิงเข้าสู่เทวาลัยใต้เงื้อมผา มีแต่เหล่าพี่เลี้ยงนางกำนัลตามเสด็จ ทันใดนั้นเกิดแผ่นดินไหวหินถล่มลงมาทับนางแม่มดและเหล่านางกำนัลตายสิ้น ส่วนเจ้าหญิงนั้น วิพาหะ เข้าไปช่วยพาตัวออกมาได้อย่างหวุดหวิด จากการช่วยชีวิตครั้งนี้ ทำให้สองสหายได้เข้าไปอยู่ในพระราชวังตามคำเชิญของพระเจ้ากรุงพาราณสี

กำลังแสดงผลลัพธ์ทั้งหมด 7 รายการ