ปาฏิหาริย์รักต่างพันธุ์ (2551/2008) ความลับแห่งสายเลือด สู่แรงปรารถนาข้ามสายพันธ์ การไล่ล่าต่างสายพันธุ์ ระหว่าง วินทร์ (เจษฎาภรณ์ ผลดี) ชายหนุ่มอดีตหน่วยข่าวกรองของรัฐบาล เขาคือผู้อยู่บนเส้นขีดขั้นระหว่าง คุณธรรม และความมั่นคงของชาติ จิน (พลอย จินดาโชติ) หญิงสาวผู้ถูกปลดปล่อยจากความทรงจำอันโหดร้ายในอดีต เธอกำลังถูกคุกคามจากกองกำลังที่ไม่เปิดเผยนาม และบางสิ่งบางอย่างที่ไม่ใช่คน จาย (ศักดิ์ดา แก้วบัวดี) ชายผู้เป็นความหวังสุดท้ายของชนเผ่า ชายผู้มีพลังอำนาจลึกลับบางอย่างในตัวพร้อมจะปะทุได้ทุกเมื่อที่เขาต้องการ ความลี้ลับของชาติพันธุ์แห่งอดีตกาลการไล่ล่าด้วยสัญชาติญาณแห่งป่าดงดิบ สู่ความรักโรแมนติกที่ทำลายกำแพงแห่งความเป็นมนุษย์
องค์บาก 2 (2551)

เรื่องย่อ : องค์บาก 2 (2551/2008) เมื่อรอยบากแห่งความแค้นฝังลึกถึงก้นบึ้งแห่งจิตใจ ทุกศาสตร์ยุทธ์แห่งศิลปะการต่อสู้จะถูกหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว ดวงชะตากำหนดทุกสรรพสิ่ง ลิขิตชีวิตขึ้นสู่จุดสูงสุด และพร้อมดับทุกชีวิตดำดิ่งลงลึกถึงปลายเหวสู่จุดต่ำสุด บัดนี้มันได้กำหนดชีวิตของ “เทียน” เด็กหนุ่มที่หวังเติบใหญ่เป็นนักรบผู้แกร่งกล้าเฉกเช่นบิดา “ออกญาสีหเดโช” (สันติสุข พรหมศิริ) นายทหารผู้ซื่อสัตย์ซึ่งจงรักภักดีต่อเหนือหัวผู้ซึ่งยอมได้แม้กระทั่งสละชีวิตตนเองเพื่อปกป้องผืนแผ่นดินจากเหล่าผู้ฉ้อฉลและคนทรยศ แต่จากคำทำนายที่ว่าเมื่อใดที่เทียนซึ่งถือกำเนิดในฤกษ์พระกาฬเติบใหญ่ภายใต้วังวนแห่งคมดาบและกลิ่นคาวเลือด เมื่อนั้นผู้คนจำนวนมากจักต้องล้มตายกันอย่างพร้อมเพรียง ทำให้ออกญาสีหเดโชตัดสินใจส่งเทียนไปให้ “ครูบัว” (นิรุตติ์ ศิริจรรยา) เพื่อนสนิทซึ่งต่างเป็นลูกศิษย์ของพระครูปั้นมาด้วยกันช่วยบ่มเพาะสมาธิ เรียนรู้การฝึกจิตให้นิ่ง และศึกษาในด้านวิชาโขนนาฏศิลป์ เพื่อหวังว่าสิ่งเหล่านี้จะช่วยจรรโลงจิตใจให้เกิดแต่สิ่งที่ดีงามขึ้น โดยมี “พิม” เด็กสาวที่ครูบัวเก็บมาเลี้ยงคอยให้ความช่วยเหลือ และมี “ไอ้เหม็น” (หม่ำ จ๊กม๊ก) ชายบ้าเสียสติแต่หลงใหลในนาฏศิลป์เป็นเพื่อนเล่น แต่แล้วชีวิตเทียนต้องพบกับความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต เมื่อ “พระยาราชเสนา” (ศรัณยู วงษ์กระจ่าง) ซึ่งวางแผนขึ้นครองความเป็นใหญ่ในแผ่นดินลงมือส่งเหล่านักฆ่ามือดีมาลอบสังหารออกญาสีหเดโชทั้งครอบครัว และเหล่าทหารหาญให้สิ้นซากด้วยตนเอง โดยมีเทียนเพียงคนเดียวที่เล็ดรอดชีวิตมาได้ท่ามกลางความคลั่งแค้นที่อัดแน่นฝังลึกในจิตใจ โชคชะตาพลิกผันอีกครั้งเมื่อเทียนได้พบกับ “เชอนัง” (สรพงษ์ ชาตรี) หัวหน้ากองโจรผาปีกครุฑผู้ยิ่งใหญ่ซึ่งช่วยชีวิตจากเงื้อมมือของเหล่าพ่อค้าทาสและยักษ์ขมุจอมโหด เพราะเล็งเห็นถึงจิตวิญญาณความเป็นนักสู้และสัญชาตญาณความเป็นนักฆ่าที่แฝงเร้นอยู่ในแววตาซึ่งพร้อมจะสังหารผู้คนได้ทุกเมื่อ จึงตัดสินใจรับเป็นลูกบุญธรรมเข้าร่วมเป็นหนึ่งในกองโจร ให้การชุบเลี้ยงฝึกฝนเหล่าสรรพวิชาอาวุธในศิลปะการต่อสู้ทุกรูปแบบจากเหล่าปรมาจารย์ผู้เชี่ยวชาญในแต่ละสาขาวิชา ไม่ว่าจะเป็นการต่อสู้ด้วยมือเปล่า หมัดมวย การใช้เวทมนตร์คาถา ไปจนถึงการใช้สรรพวุธทุกชนิด ดาบ กระบี่ กระบอง 3 ท่อน วิชากล การใช้ระเบิด ฯลฯ เมื่อทุกศาสตร์ยุทธ์แห่งศิลปะการต่อสู้ถูกบ่มเพาะหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว “เทียน” (จาพนม ยีรัมย์) เติบใหญ่พร้อมพิษสงความสามารถรอบตัวที่ยากจักหาใครทัดเทียม หนำซ้ำยังเป็นเรี่ยวแรงสำคัญในการปฏิบัติภารกิจทุกครั้งของกองโจรผาปีกครุฑ จนได้รับการยอมรับจากทุกคนโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสามารถสยบช้างงาดำ ช้างศักดิ์สิทธิ์ที่เหล่าชุมโจรให้ความเคารพและสักการะ ในขณะที่เชอนังเองตั้งใจมอบตำแหน่งหัวหน้ากองโจรให้เทียนรับหน้าที่ผู้สืบทอดต่อไป เพียงทว่า ณ เวลานี้มีเพียงภารกิจเดียวในชีวิตที่เทียนจักต้องกระทำคือการขจัดความคลั่งแค้นที่มันสุมอกอยู่ในจิตใจตลอดมา นั่นคือการมุ่งหน้าเพื่อสังหารเจ้าพระยาราชเสนาด้วยน้ำมือตนเอง โดยมีเป้าหมายในคืนวันสถาปนาเทวเสาวนีย์ครุฑที่เจ้าพระยาราชเสนาจะขึ้นครองอำนาจในฐานะจอมราชันย์อย่างสมบูรณ์ ภายใต้เปลวเพลิงแห่งความอาฆาต เทียนผสมผสานทุกความสามารถในการต่อสู้ที่บ่มเพาะมาทั้งชีวิต แปรเปลี่ยนเป็นพลังแห่งความอำมหิต โหดเหี้ยม เกรี้ยวกราด ดุดัน เพื่อที่จะสังหารทุกผู้คนที่เกี่ยวข้องอย่างไม่กลัวเกรง โดยหารู้ว่าไม่ว่ายังมีเหล่านักฆ่าระดับยอดฝีมือของจอมราชันย์ที่เขาจะต้องเผชิญหน้าและรับมือที่ล้วนแล้วแต่ยากในการต่อกรไม่ว่าจะเป็น “องค์รักษ์เกราะทอง” (ศุภกรณ์ กิจสุวรรณ), “กลุ่มนักฆ่าลึกลับในชุดดำ” ไปจนถึง “ภูติสางกา” (ชูพงษ์ ช่างปรุง) ที่ถูกส่งมาเพื่อนำเทียนไปสัมผัสกับดินแดนแห่งความตายโดยเฉพาะ หรือนี่คือจุดเริ่มต้นของการต่อสู้ที่มีต้นกำเนิดจากรอยบากแห่งความคลั่งแค้นที่ต้องแลกมาด้วยชีวิต เลือดเนื้อ และจิตวิญญาณ มีเพียงพลังแห่งศรัทธาอันแรงกล้าเท่านั้นที่จะทำให้ชีวิตของเทียนอยู่รอดได้

งูเก็งกอง (2551/2008) ตำนานแห่งงูคำสาป และทายาทคนต่อไป น้ำใสสาววัยรุ่นผู้ถูกคำสาปให้เป็นงูเก็งกอง ซึ่งเวลากลางคืนก็ไม่ต่างจากกลางวัน เธอใช้ชีวิตร่วมอยู่กับมนุษย์ทั่วไป วันหนึ่งเธอต้องการแก้ไขเรื่องราวที่เกิดขึ้นในชีวิต มันเหมือนบาปติดตัวไปทั้งชาติ เพราะเธอฆ่าคนตายโดยที่ตัวเองก็ไม่สามารถจะหยุดยั้งจากอำนาจงูได้ เธอจึงตามหาความจริงและรู้ว่าคำสาปที่ติดอยู่ในตัวเธอสามารถแก้ไขได้ และคงไม่สายเกินไปหากเธอคิดจากแก้คำสาปเลวร้ายนี้ให้หายไปจากตัวเธอ
คนไฟลุก (2551/2008) อะไรจะเกิดขึ้น ถ้าร่างกายเราลุกเป็นไฟได้เองโดยไม่ทราบสาเหตุ!!! “ปรากฏการณ์คนลุกเป็นไฟฉับพลัน” เป็นไปได้อย่างไร อาถรรพ์ ไสยศาสตร์ ฆาตกรรม หรืออะไรกันแน่ คุณเท่านั้น!!! ต้องเป็นผู้ร่วมพิสูจน์และหยุดยั้งมัน ก่อนที่ “ไฟมรณะ” นี้ จะคืบคลานมาสู่…ตัวคุณ ในภาพยนตร์ลึกลับ-ระทึกขวัญแห่งปีที่มีแรงบันดาลใจมาจากเหตุการณ์จริง “คนไฟลุก” (Burn) เหตุการณ์ระทึกขวัญนี้เกิดขึ้นโดยไม่มีลางบอก เมื่อจู่ๆ ไฟประหลาดก็ลุกท่วมร่างของผู้หญิงคนหนึ่งจนเสียชีวิต และเธอคือหญิงไทยรายแรกที่เกิดปรากฏการณ์ไฟลุกท่วมตัวโดยฉับพลันนี้ “โมนา” (บงกช คงมาลัย) ลูกสาวของผู้ตาย เป็นนักค้าหุ้นสาวผู้ทะเยอทะยานต้องเข้ามาพัวพันกับเหตุการณ์นี้อย่างไม่ทันตั้งตัว และเธอไม่อาจทำใจได้ที่อยู่ๆ แม่ก็มาตายจากไป ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้ปรับความเข้าใจกัน เหตุการณ์นี้ทำให้เธอได้พบกับ “พลอย” (อาชิรญาณ์ ภีระภัทร์กุญช์ชญา) พยาบาลสาวซึ่งแม่ของเธอก็ต้องชะตากรรมถึงตายด้วยไฟลุกท่วมตัวโดยไม่ทราบสาเหตุอย่างไม่ผิดแผกกันเลย นี่เป็นสิ่งที่ทำให้โมนาและพลอยต้องพยายามสืบหาสาเหตุที่แท้จริงให้ได้ว่า อะไรกันแน่ที่เกิดขึ้นกับแม่ของพวกเธอ ในขณะที่ทั้งคู่กำลังตามล่าหาความจริงอยู่นี้ พวกเธอก็ได้รับความช่วยเหลือด้านข้อมูลจาก “ขวัญ” (ปรางทอง ชั่งธรรม) นักข่าวสาวที่ตามติดข่าวนี้อย่างจิกไม่ปล่อยมาตั้งแต่แรก ตามสัญชาตญาณของอาชีพนักข่าว เธอมั่นใจว่าเหตุการณ์นี้ต้องมีอะไรเคลือบแฝงอยู่เบื้องหลังเป็นแน่ รวมถึง “ดอน” (ชลัฏ ณ สงขลา) นายตำรวจหนุ่มเจ้าของคดีนี้ แม้จะได้รับคำสั่งจาก “วัง” (สุธีรัชย์ ชาญนุกูล) หัวหน้าของเขาให้ปิดคดีนี้ว่าเป็นอุบัติเหตุไปแล้วก็ตาม แต่ด้วยความสงสัยและยึดมั่นในความถูกต้องยุติธรรม เขาจึงต้องร่วมสืบหาความจริงของเหตุการณ์ลึกลับนี้และหยุดยั้งมันให้ได้ แม้จะรู้ว่ากำลัง “เล่นกับไฟ” อยู่ก็ตาม ความจริงในเหตุการณ์นี้ มันเป็นการฆ่าตัวตาย, อุบัติเหตุ, ฆาตกรรม หรือเครื่องสังเวยความลี้ลับ ปริศนาแห่งเบื้องหลัง “ไฟมรณะ” จะต้องถูกคลี่คลายก่อนที่ความเป็นความตายจาก “ไฟสยอง” นี้จะโหมลุกขึ้นอีกครั้ง
สี่แพร่ง (2551/2008) **เหงา ผู้กำกับ : ยงยุทธ ทองกองทุน เรื่องย่อ : ปิ่น (มณีรัตน์ คำอ้วน) สาวทำงานคนหนึ่งอาศัยอยู่คนเดียวในห้องแคบๆ เธอเหงา เธอตกงาน เธอโดนทิ้ง เธอหดหู่สุดขีด เมื่อมีข้อความเข้ามาในโทรศัพท์มือถือว่า อยากรู้จัก เธอจึงเริ่มต้นติดต่อกลับไปโดยที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาเป็นใคร มาจากไหน และไม่รู้ว่าเขาเป็นคนที่เธอจะต้องเสียใจ** **ยันต์สั่งตาย ผู้กำกับ : ปวีณ ภูริจิตปัญญา เรื่องย่อ : เด็กช่างกลคนหนึ่ง เลือกวิธีแก้แค้นหรือเอาคืนแบบคนมีวิชาอาคมโดยการเล่นของอย่างหนึ่ง ที่เรียกว่า ยันต์สั่งตาย เพื่อมาไล่ล่าแก้แค้นแทนการลงมือเอง แต่สุดท้ายการแก้แค้นก็ไม่มีประโยชน์อะไรเลย เพราะมันไม่มีวันสิ้นสุด** **คนกลาง ผู้กำกับ : บรรจง ปิสัญธนะกูล เรื่องย่อ : วัยรุ่นกลุ่มหนึ่ง ออกไปตั้งเต็นท์กลางป่าลึก พวกเขาล้อมวงเล่าเรื่องผี ทำกิจกรรมห่ามๆ ไร้สาระ พอตอนเข้านอน ทุกคนต่างแย่งกันนอนตรงกลาง เพราะเชื่อว่าผีจะหลอกคนที่นอนริมสุดก่อน แต่แล้วจะทำอย่างไรเมื่อคนที่นอนตรงกลางกลับเป็นคนที่โดนผีหลอกคนแรก** **เที่ยวบิน 224 / Last Fright ผู้กำกับ : ภาคภูมิ วงศ์ภูมิ เรื่องย่อ : พิมพ์ (เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์) เป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน ที่ต้องเดินทางไปกับผู้โดยสารที่เป็นเจ้าหญิงจากต่างประเทศ เจ้าหญิงเอาแต่ใจและค่อนข้างโหดร้ายกับเธอตลอดทาง แต่แล้วเรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเมื่อเจ้าหญิงสิ้นพระชนม์ เลยต้องขนศพเจ้าหญิงกลับประเทศ พิมพ์จึงต้องเดินทางไปกับศพอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ แล้วเรื่องสยองต่างๆ ก็เกิดขึ้นบนเครื่องตลอดการเดินทาง**
ลองของ 2 (2551/2008) ครูพนอ (นภคปภา นาคประสิทธิ์) สาวสวยรวยเสน่ห์ ชีวิตครูต่างจังหวัด ของเธอ คงเหมือนกับครูทั่ว ๆ ไป แต่ความสวยความสาวของเธอ กับทำให้เธอต้องประสบเคราะห์กรรม จากคนที่มารุมรัก ถูกทำของใส่ทั้งจากครู และเหล่านักเรียนชายมัธยมในโรงเรียน เพื่อแก้มนต์ดำแก้อาถรรพณ์ ทำให้ครูพนอต้องฆ่า นายพร (ธีรยุทธ ปรัชญาบำรุง) และทำให้ได้เทพ 3 ตามาครอบครอง จ่าดิษ (ศุภกรณ์ กิจสุวรรณ) เพื่อนนายพร คนเล่นของที่มีชีวิตอยู่เพื่อเดรัจฉานวิชา เข้ามาเกี่ยวข้องกับครูพนอ ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ เทพสามตามาครอง เรื่องราวเริ่มต้นขึ้น หลังจากที่ครูพนอกินเนื้อของหมอไสยศาสตร์ เพียงหวังเพื่อล้าง “ของ” ในตัวเองออก แต่การกระทำในครั้งนั้นกลับทำให้ชีวิตของตัวเธอเองต้องตกอยู่ในอำนาจมนต์ดำของหมอไสยศาสตร์เสียเอง เธอนั้นได้รับความเจ็บปวดทรมานจากรอยบาดแผลอักขระบนตัวเธอที่เกิดขึ้นโดยทีเธอไม่รู้สึกตัว จนต้องถูกจับส่งโรงพยาบาลประสาท เพราะเข้าใจว่าตัวเธอนั้นป่วยทางจิต แต่เรื่องราวก็ไม่ได้หยุดเพียงเท่านี้เมื่อครูพนอต้องตกอยู่ในการดูแลของพยายบาลที่ชื่อเพ็ญ ซึ่งเพ็ญและครอบครัวหวังใช้ประโยชน์จากร่างของครูพนอ เพื่อเรียกขวัญของพี่สาว (เดือน) เพื่อให้ขวัญของเดือนนั้นได้เข้าอยู่ในร่างของครูพนอแทน โดยอาศัยจังหวะในช่วงที่ครูพนอเข้ารับการรักษาอาการอยู่ในโรงพยาบาล แต่เรื่องราวกลับไม่ง่ายอย่างที่คาดคิดเมื่อ จ่าดิษจอมขมังเวทย์ที่รับจ้างเพ็ญและครอบครัว ในการสลับเปลี่ยนขวัญในครั้งนี้กลับต้องการพลังที่อยู่ในตัวครูพนอนั้นเอาไว้กับตัวเสียเอง เป็นเหตุให้ขวัญของครูพนอที่ถูกกักขังไว้กับเข้าสู่ร่างของตัวเองได้อีกครั้ง แรงอาฆาตแค้นที่เธอได้รับจากการกระทำของครอบครัวเพ็ญ ด้วยวิธีการอันโหดเหี้ยม ประกอบกับพลังอำนาจของหมอไสยศาสตร์ที่อยูในตัวครูพนอ ทำให้เธอกลับมาตามชำระล้างความแค้นกับครอบครัวเพ็ญอย่างน่าสพรึงกลัวและน่าสยดสยอง
The 8th day แปดวันแปลกคน (2551/2008) ในบ้านที่เก่าแก่ทรุดโทรมหลังหนึ่งนั้น คือชีวิตของป้าแก่ ๆ คนหนึ่งที่ชื่อ ป้าชุบ (วาสนา ชลากร) อยู่คนเดี่ยวอย่างโดดเดี่ยวจนกระทั่งวันหนึ่งที่ แพร เด็กสาวตัวน้อย(เจนนิษฐ์ โอ่ประเสริฐ) ก้าวเข้าไปในบ้านหลังนั้น และมี หมอหนุ่ม (ธนเวทย์ สิริวัฒน์ธนกุล) อีกเพียงผู้เดียวที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด บ้านอันโดดเดี่ยวหลังนั้นเปิดประตูต้อนรับเด็กน้อยเข้าไปและปิดตายประตูถึงแปดวัน คือ แปดวันที่ป้าชุบเป็นผู้ควบคุมชีพจรชีวิตในบ้านทั้งหมด และหมอหนุ่มคือผู้ที่กุมชะตาของมนุษย์สองคนไปบ้านหลังนั้น
ถอดรหัส วิญญาณ (2551/2008) เรื่องนี้ ขออุทิศให้กับดวงวิญญาณทุกดวงที่กำลังรอการช่วยเหลือเพื่อตามจับฆาตกร! เรื่องเกิดขึ้น เมื่อตำรวจได้พบศพนักเรียนสาวมัธยมปลาย ถูกฆ่ายัดกล่อง ร่างของเธอเปลือยเปล่า มือและเท้าถูกมัดด้วยจีวร หน้าผากถูกลงอักขระสะกดวิญญาณเอาไว้ ตามความเชื่อโบราณเพื่อป้องกันไม่ให้วิญญาณตามจองเวรอาฆาต นับเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญประชาชนและเกี่ยวข้องกับภาพลักษณ์ศาสนา กรมตำรวจจึงส่งมอบคดีให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ DSI เข้ามาทำคดีนี้โดยส่ง ผบ.กานนท์ (ม.ล.ณัฏฐกรณ์ เทวกุล) เข้ามาเป็นผู้รับผิดชอบในการสืบสวน เขาได้พบหลักฐานหลายอย่างที่ทำให้พอจะมั่นใจได้ว่า น่าจะเป็นการฆาตกรรมอำพรางกานนท์จึงได้ส่งศพนักเรียนหญิงไปยังหน่วยนิติวิทยาศาสตร์ CIFS ที่กรุงเทพ เพื่อให้ นิชา (เปรมสินี รัตนโสภา) แพทย์หญิงผู้เชี่ยวชาญทางด้านนิติเวช หาหลักฐานเพิ่มเติมอย่างละเอียดเพื่อหาข้อมูลว่า ผู้ตายเป็นใครกันแน่..? ขณะเดียวกัน ซี (ปฏิวัติ เรืองศรี) อดีตนักร้องขวัญใจวัยรุ่น ซึ่งกำลังอยู่ในช่วงตกอับ ก็ได้รับการติดต่อจาก สิ่งลี้ลับ จนทำให้เขาเกิดลางสังหรณ์บางอย่างว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นกับ หนิง (ณภัทร บรรจงจิตไพศาล) แฟนเก่าที่เพิ่งเลิกกันมาได้ไม่นาน ซีเกิดความเป็นห่วงหนิง จึงตัดสินใจเริ่มออกตามหาตัวหนิง สร้างความไม่พอใจให้กับ แพร (สุทธิกานต์ หวังเจริญทวีกุล) นางแบบสาวแถวหน้าของวงการที่เป็นแฟนใหม่เป็นอย่างมาก ระหว่างที่ซีพยายามตามสืบข่าวหนิง นิชาก็ได้ทำการผ่าศพ และ หาหลักฐานเพิ่มเติมจนได้ร่องรอยบางอย่างที่พอจะเป็นกุญแจไขปริศนาว่า นักเรียนหญิงที่ตายคือใครกันแน่..? เมื่อกานนท์เริ่มเชื่อในสัมผัสลี้ลับ ที่วิญญาณพยายามสื่อ ความจริง ก็เริ่มจะปรากฏให้เห็นเป็นภาพราง ๆ วิทยาศาสตร์ กับสัมผัสลี้ลับ อะไรคือความจริงที่จะนำไปสู่การไขปริศนาฆาตกรรม
บอดี้...ศพ # 19 (2550/2007) ชลสิทธิ์ (อารักษ์ อมรศุภศิริ) ไม่ได้นอนมาแล้วเกือบอาทิตย์ เขาไม่อยาก ไม่กล้า และไม่อาจข่มตานอน เพราะยามใดก็ตามที่เผลอหลับตา ชลจะฝันเห็นภาพผู้หญิงคนหนึ่งถูกฆ่าอย่างโหดเหี้ยม เขาไม่รู้ว่าเธอเป็นใคร จำได้แค่ว่าเขาเคยสบตาผู้หญิงแปลกหน้าคนนี้โดยบังเอิญครั้งหนึ่งในร้านอาหาร ในฝันเธอกรีดร้องให้เขาทำอะไรบางอย่าง และเขาคงไม่มีวันหยุดฝันร้าย ถ้าไม่ทำตามคำสั่งของเธอ อาการของชลทำให้ เอ๋ (อรจิรา แหลมวิไล) พี่สาวซึ่งเป็นนักศึกษาแพทย์ฝึกหัด บังคับให้เขาเข้ารับการบำบัด ชลเล่าให้ อุษา (กฤตธีรา อินพรวิจิตร) จิตแพทย์ของเขาฟังว่า ทุกครั้งที่ฝันเขาจะรู้สึกเหมือนตัวเองตกเป็นเหยื่อฆาตกรรมเสียเอง สัมผัสในวินาทีที่อวัยวะโดนทิ่มแทง แรงกระตุกของลมหายใจเมื่อวิญญาณหลุดจากร่าง ความทรงจำอันเจ็บปวดค่อยๆ เข้าครอบงำสมองของชล หรือเขากำลังจะเป็นบ้า ด้วยร่องรอยเพียงน้อยนิดของผู้หญิงในฝัน มันนำชลไปสู่ตู้เก็บศพหมายเลข 19 ชลพยายามจะพิสูจน์กับเอ๋ว่าเขาไม่ได้บ้าไปเอง และความลับในตู้ใบนั้นเท่านั้นที่จะยืนยันได้ ในขณะที่ยิ่งอุษารักษาชลนานเข้า เธอก็เริ่มสงสัยว่าชลอาจเกี่ยวข้องกับเหตุฆาตกรรมที่เกิดขึ้นรอบๆ ตัว นับแต่เขาก้าวเข้ามาเป็นคนไข้ของเธอ ภายในตู้หมายเลข 19 ร่างไร้วิญญาณร่างหนึ่ง นอนอยู่อย่างโดดเดี่ยวในที่ที่ทั้งแคบ มืดมิดและหนาวเหน็บสุดขั้วหัวใจ เธอกำลังร่ำร้องหาใครบางคน ด้วยความคิดถึง แต่มันเป็นความคิดถึงที่คุกรุ่นไปด้วยแรงแค้น แค้นที่ต้องมานอนอยู่ในตู้ใบนี้คนเดียว เธอกำลังกระซิบผ่านชลไปยังใครคนนั้นว่า กูคิดถึงมึง

เรื่องย่อ : โอปปาติก เกิดอมตะ (Opapatika) (2550/2007) โอปปาติก (โอ-ปะ-ปา-ติ-กะ) สิ่งมีชีวิตอีกรูปแบบหนึ่งบนโลก ที่ใช้ชีวิตปะปนอยู่กับผู้คนทั่วไป แต่ละคนที่เป็นโอปปาติกนั้น จะได้รับพลังพิเศษบางอย่าง ที่ทำให้มีความสามารถเก่งกาจเหนือคนอื่นๆ หากแต่พลังพิเศษนั้นก็มีขีดจำกัดในการใช้ และจะค่อยๆ หมดไป เมื่อสิ้นอายุขัยในที่สุด ศดก (นิรุตติ์ ศิริจรรยา) โอปปาติกตนหนึ่งที่ต้องการเป็นอมตะ แต่อุปสรรคอย่างเดียว ที่คอยขัดขวางไม่ให้ความต้องการของศดกเป็นจริงก็คือ จิรัสย์ (สมชาย เข็มกลัด) โอปปาติกลึกลับ และดูอันตราย ศดกจึงหาทางกำจัดจิรัสย์ การตามล่าของเหล่าโอปปาติกจึงเกิดขึ้น ก่อเกิดสงครามครั้งใหญ่ โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่ ปราณ (เข็มอัปสร สิริสุขะ) สาวลึกลับที่ดึงดูดเหล่าโอปปาติกด้วยเหตุผลต่างๆ

คนหิ้วหัว (2550/2007) “คนหิ้วหัว” พล็อตเรื่องสุดเข้มข้นที่ว่าด้วยเรื่องราวของอดีตทหารเรือขี้โมโหที่พร้อมระเบิดโทสะได้ทุกเมื่อหากถูกใครเรียกเขาว่า “ไอ้เตี้ย” (พิง ลำพระเพลิง) นอกจากจะเป็นพ่อที่ไม่เอาไหนในสายตาของ “หงส์” (วิสา สารสาส) เมียสาวที่กลายเป็นเสาหลักของบ้านโดยพึ่งพาเหล้าและการพนันในการประทังความสุขและเลี้ยงดูชีวิตของ “เต้ย” ลูกชายเพียงลำพัง ในเมื่อทั้งชีวิตไม่เคยแม้แต่จะได้ดีหรือทำดีขึ้นเลยสักครั้ง เตี้ยตัดสินใจเลือกทำความดีด้วยการตัดสินใจสาบานกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ว่าจะไม่ยอมตายหากไม่สามารถหาเงินมาจ่ายค่าเทอมให้ลูกได้ และวิธีเดียวที่เตี้ยคิดได้ก็คือ “ปล้นโรงรับจำนำ” จนเป็นเหตุให้เขาเข้าไปพัวพันกับ “รงค์” (อภิชาติ ชูสกุล) และ “ค่อม” (คืนสิทธิ์ สุวรรณวัฒกี) สองโจรถ่อยที่กำลังวางแผนปล้นวงเงินแชร์ก้อนโต แต่แล้วโชคชะตากลับเล่นตลกกับศรัทธาแห่งความใฝ่ดีครั้งแรกและครั้งสุดท้ายในชีวิตของเตี้ย เมื่อสัจจะไม่เคยมีอยู่ในหมู่โจร จนเป็นเหตุให้ “หัว” กับ “ตัว” ของเขาต้องแยกออกจากกัน ในขณะที่หัวตกไปอยู่ในมือของ 18 มงกฎ “หนุ่ม” จอมกะล่อน (ภูริ หิรัญพฤกษ์) ที่ฝีมือลายมือในการต้มตุ๋นเหยื่อแพรวพราวพอๆ กับความเจ้าชู้ ทะลึ่งหื่นกามที่กลายเป็นสันดานฝังลึก ในขณะที่ตัวตกไปอยู่กับพนักงานเก็บศพ “สาว” สุดห้าว (ศุภักษร ไชยมงคล) อดีตพนักงานไปรษณีย์ที่งามทั้งตัวและหัวใจ จนเป็นเหตุให้ทั้งสามต้องมาเกี่ยวพันกันและช่วยให้ศรัทธาขอเตี้ยสัมฤทธิ์ผล แต่ก่อนที่จะเริ่มต้นภารกิจ “ตะวันชิงหัว” หรือ “ตามล่าตัวสุดขอบฟ้า” สาวจะต้องสื่อสารและคุยกับตัวที่ไร้หู ปราศจากตาและปากในการสื่อสาร ในขณะที่หัวจะต้องความสามารถที่มีแค่หัวพาหนุ่มให้ไปเจอตัวให้ได้ และอีกสารพัดเรื่องราวที่ทั้ง 3 จะต้องฟันฝ่าไปด้วยกันในเมื่อ “หัวจ๋าตัวไม่ได้” อยู่นี้จนทำให้ทุกคนเข้าใจ “วันใดขาดหัวแล้วตัวจะรู้สึก” กับ “คนหิ้วหัว” ภาพยนตร์ชวน “หัว” ให้มาเจอกับ “ตัว” ผลงานเรื่องล่าสุดของ “พิง ลำพระเพลิง”
เรื่องย่อ : วิดีโอคลิป (2550/2007) จากความรวดเร็วสู่สถิติความนิยม ความเร็วของเทคโนโลยีมือถือทำให้ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตแปลงร่างเป็นนักข่าวออนไลน์มือสมัครเล่นเพิ่มสูงขึ้น โดยสามารถรายงานข่าวพร้อมถ่ายภาพเหตุการณ์จริงด้วยกล้องดิจิทัลบนโทรศัพท์มือถือได้เลยทันที หนึ่งในเว็บไซต์เหล่านี้อ้างว่าปัจจุบันมีสมาชิกผู้คอยอัปเดตข่าวสารอยู่มากกว่า 60,000 คนจาก 140 ประเทศทั่วโลก เว็บไซต์ชื่อดังผู้ให้บริการวิดีโอผ่านอินเทอร์เน็ต ซึ่งมีผู้ใช้บริการเป็นอันดับ 4 จากเว็บไซต์ทั่วโลก เผยตัวเลขจำนวนผู้ชมวิดีโอคลิปของทางเว็บไซต์ทะลุหลัก 100 ล้านครั้งต่อวัน ซึ่งในแต่ละเดือนจะมีผู้อัปโหลดคลิปขึ้นเว็บมากกว่า 65,000 เรื่อง เฉลี่ยต่อเดือนมีผู้เข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์นี้ถึง 20 ล้านคน อีกความก้าวหน้านำมาซึ่งความเสื่อมถอย ปัจจุบันเยาวชนไทยเข้าถึงสื่อลามกทางอินเทอร์เน็ต โดยมีการค้นหาคำว่า “SEX” ในสื่ออินเทอร์เน็ตสูงถึง 5,800,000 ครั้ง ในปี 2549 และในเดือนมกราคมปี 2550 ที่ผ่านมาเพียงเดือนเดียวยอดรวมของการค้นหาดังกล่าวสูงถึง 5 แสนกว่าครั้ง ศูนย์รวมสถิติเว็บไทยและสารบัญเว็บไทยได้แสดง 20 Keyword ที่เยาวชนไทยอายุต่ำกว่า 25 ปีเข้าค้นหามากที่สุด โดยคำว่า “แอบถ่าย“ อยู่อันดับที่ 4 ซึ่งมีจำนวนการค้นหาสูงถึง 2,483,807 ครั้ง และการแพร่กระจายที่ไม่มีคำว่า “สิ้นสุด“ และลองคิดกันเล่นๆ ว่าถ้า เราส่ง MMS ไปถึงเพื่อน 5 คน โดยใช้เวลาเพียง 10 วินาที และคน 5 คนนี้ก็ส่งให้เพื่อนต่ออีกคนละ 5 คน ต่อไปเรื่อยๆ ภายในเวลาเพียง 1 นาที (ไม่นับช่วงเวลาการตัดสินใจและการกดเบอร์) คลิปวิดีโออันนี้จะเดินทางไปอยู่ในมือคนถึง 19,531 คน ยิ่งไปกว่านี้ถ้าเพิ่มเวลาขึ้นอีกเท่าหนึ่งเป็น 2 นาที ตัวเลขที่น่าตกใจจะอยู่ที่ 61,035,156 คนเลยทีเดียว ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีได้นำพามนุษย์สู่ความเจริญและความรวดเร็วในการติดต่อสื่อสาร ในขณะเดียวกันก็ยิ่งเพิ่มช่องทางให้กับความเสื่อมถอยของจิตใจมากขึ้น แต่ใครจะรู้ว่าสื่อลามกที่หาดูหาเสพได้ง่ายเหล่านี้จะนำมาซึ่งอาชญากรรมร้ายแรงที่กำลังคืบคลานเข้ามาทุกขณะ ขีดสุดของเทคโนโลยีการสื่อสารอีกด้านหนึ่งได้กลายเป็นอาวุธที่มีอานุภาพไม่ต่างจากเชื้อไวรัสร้ายแรงที่พร้อมจะแพร่กระจายไปทั่วโลกเพียงชั่วข้ามคืน คุณจะทำอย่างไร…เมื่อ “นาทีลับ” ของคุณกลายเป็น “นาทีร้าย” ที่ไม่อาจลืมเลือนไปชั่วชีวิต “เคน” พนักงานซ่อมโทรศัพท์มือถือที่ชื่นชอบการขโมยคลิปลับส่วนตัวของลูกค้า “นพ” เกย์หนุ่มฐานะดีที่ชอบดูคลิปโป๊ของคนอื่นและไม่พลาดที่จะส่งต่อ “อ๊อด” ดีเจในผับโคโยตี้ที่มักสรรหากิจกรรมวาบหวิวกับสาวๆ ด้วยการถ่ายคลิปเด็ดไว้อวดโชว์ “เสี่ยเก้ง” เจ้าของผับผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ฉาวที่หมกมุ่นอยู่กับการสะสมและเผยแพร่คลิปหลุด ไม่ว่าจะเป็นใครก็สามารถสวมบทบาทผู้ชมผู้เสพได้อย่างสนุกสนานไม่แพ้กัน ใครจะรู้ว่าอีกไม่นานเครื่องเล่นในมือถือที่มาในรูปแบบความบันเทิงนี้จะกลายเป็นอาวุธร้ายที่ย้อนกลับมาทำลายชีวิตของพวกเขาอย่างที่ไม่มีวันตั้งตัว หยุดดู หยุดถ่าย หยุดส่ง ก่อนที่จะไม่มีโอกาสให้สนุกอีกต่อไป…
สวยลากไส้ (2550/2007) 7 คืนหลังความตาย คนที่ตายไปแล้วจะกลับมาหาคนรัก และในคืนนั้น ผู้หญิงสวยทั้ง 7 คนนี้ กำลังถูกตาม...ลากไส้ หญิงสาว...เซ็กซี่แสนสวย หญิงสาว...ร่ำรวยแบรนด์เนม หญิงสาว...ผู้ปรีเปรมกับการกิน หญิงสาว...อินเทรนด์กับการออกกำลังกาย หญิงสาว...ผู้หลงใหลในรูปรสของกันและกัน หญิงสาว...ผู้มั่นคงและบูชาในความรัก ในคืนวันที่ 7 คนที่ตายไปแล้วกำลังจะกลับมาหา...พวกเธอ ณ โรงพยาบาลลึกลับแห่งหนึ่ง เกิดเหตุการณ์สยองขวัญกับเหล่านางพยาบาลสาวสวยทั้งเจ็ดคน อันได้แก่ นุ๊ก (พลอย ชิดจันทร์ รุจิพรรณ) สาวหวานสวยและเซ็กซี่ , เอ๊ะ (ตาล กัญญา รัตนเพชร) สาวมาดไฮโซ, โจ้ (ดลรส เดชะประทุมวัน) สาวสุดเซ็กซี่ หุ่นดีแต่ชอบรับประทานเป็นชีวิตจิตใจ , ยิ้ม (โอซา วัง) สาวสปอร์ตเกิร์ล บ้าความเพอร์เฟกต์ , อรและแอม(บี อำไพรัตน์, เอ็ม อำไพวรรณ เตชะภูวภัทร) ฝาแฝดแสนน่ารักและสุดท้ายคือตาหวาน(ชล วจนานนท์) หญิงสาวน่ารักและเรียบร้อย ทั้งเจ็ดคนเหมือนกันที่ความสวยและหลงรักในสิ่งที่ตนเองชอบ ทุกคนมีความสุขในโลกของตนเอง นุ๊กมักจะฝันหวานถึงครอบครัวเล็กๆที่เธออยากมี, เอ๊ะ มีความสุขกับของแบรนด์เนมที่เธอเทิดทูนเหนือสิ่งอื่นใด, ยิ้ม รักการออกกำลังกาย เธอต้องมีร่างกายที่เพอร์เฟกต์ตลอดเวลา, โจ้ รักการรับประทานแม้เธอต้องล้วงคอออกทุกครั้ง , อรแอม ต่างหลงใหลในเรือนร่างของกันและกัน แม้เธอทั้งคู่จะเป็นฝาแฝดและสุดท้ายคือ ตาหวาน เธอเป็นคนที่บูชาความรัก ยึดมั่นสัญญาจนลมหายใจสุดท้าย ในค่ำคืนนี้เอง เธอทั้งเจ็ดกำลังถูกสิ่งที่เธอรักตามล่า เรื่องราวความสยองขวัญสุดวิปริตเหนือความคาดเดา สิ่งที่ทั้งเจ็ดต้องทำคือมีชีวิตรอดให้พ้นสิบห้านาทีแห่งความโหดร้ายให้ได้ แต่ดูเหมือนโลกแห่งความจริงจะไม่เป็นดั่งฝัน การตามล่าทวีความโหดร้ายขึ้นจนกลายเป็นความอาฆาตแค้น จะมีใครมั้ยที่จะรอดพ้นเวลาแค่สามสิบนาทีของคืนนี้ไปได้
เวิ้งปีศาจ (2550/2007) อดีตเสรีไทยอย่าง แนบหลังเลิกสงครามก็หันไปเป็นนายฮ้อยต้อนวัวควาย ท่ามกลางความเป็นห่วงเป็นใยของ จันทร์ เมียรัก ซึ่งได้แต่บนบานศาลกล่าวต่อ ศาลนางพราย ที่ตนศรัทธาให้ผัวรักแคล้วคลาดจากภยันตราย แต่แล้วเหตุร้ายก็เกิดขึ้นกับเธอเมื่อจันทร์ถูก ผู้ใหญ่ขุน และสมุนลากตัวไปข่มขืนฆ่าและอำพรางด้วยการนำร่างของเธอพร้อมกับ นวล ลูกน้อยวัย 2 ขวบไปทิ้งกลางลำคลอง ดีแต่ได้อิทธิฤทธิ์ของ นางพราย ช่วยให้เด็กน้อยรอดพ้นจากความตาย ส่วนตัวจันทร์นั้นกลายเป็นวิญญาณนางพรายสิงสถิตย์อยู่ ณ ศาลนางพราย เพื่อรอเวลาล้างแค้น นวล ในอีก 17 ปีต่อมาเป็นหญิงงามที่มีหลายชายหมายปอง แต่เธอต้องชะตากับ ร.ต.ต.ศักดิ์ ที่ถูกกรมตำรวจให้ปลอมตัวมาสืบเรื่องราวของผู้มีอิทธิพลในหมู่บ้าน โดยเฉพาะผู้ใหญ่ขุนและ เข้ม ลูกชายวัยฉกรรจ์ ความรักของนวลสร้างความไม่พอใจให้กับ สายพิณผู้เป็นเพื่อนที่หลงรักหมวดศักดิ์เช่นกัน สายพิณร่วมมือกับเข้มวางแผนดักฉุดนวลขณะที่กลับจากนำของไปเซ่นไหว้วิญญาณแม่ที่ศาลนางพราย แต่ต้องเผ่นหนีเพราะถูกผีนางพรายจันทร์เข้ามาขัดขวาง หมอผีแก้วจอมขมังเวทย์ผู้เก่งกล้าด้านคาถาอาคมถูกผู้ใหญ่ขุนและลูกชายตัวแสบตามตัวมากำจัดวิญญาณนางพรายจันทร์ ด้วยการจับขังไว้ในหม้อดินจนไม่สามารถออกมาช่วยนวลได้อีกต่อไป ในขณะที่ร.ต.ต.ศักดิ์ ปรึกษากับ จ่าถวัลย์ พ่อของสายพิณ เพื่อสู่ขอนวลที่กำลังตั้งท้องสายพิณจึงเข้าขัดขวางด้วยการวางยาเพื่อนสาวแล้วให้เข้มข่มขืน นวลขัดขืนก่อนที่จะตัดสินใจกระโดดลงคลองเพื่อฆ่าตัวตาย เคราะห์กรรมของเธอยังไม่หมดสิ้นเมื่อหมอผีแก้วใช้อาคมผ่าท้องเพื่อเอาลูกของเธอไปทำกุมารทอง แต่ก็ได้ เฒ่าจอม ที่มีอาคมแกร่งกล้าเข้ามาช่วยเหลือ ด้วยแรงอาฆาตของวิญญาณนางพรายนวล ความสยดสยองอันน่าสะพรึงกลัวจึงเกิดขึ้นกับทุกๆคนซึ่งต้องชดใช้กรรมที่ก่อไว้อย่างสาสม
แฝด (2550/2007) พิม (หทัยรัตน์ อีเกอรีฟ) และพลอย (ฤทัยรัตน์ อีเกอรีฟ) แฝดหญิงตัวติดกันวัย 15 ที่เข้ารับการผ่าตัดแยกช่องท้องและกระเพาะอาหารเป็นคู่แรกในเมืองไทย ผลปรากฏว่าพิมพี่สาวพ้นขีดอันตราย ส่วนคนน้องนั้นเสียชีวิต หลังพลอยตาย พิมเลือกที่จะทิ้งความเจ็บปวดและความรู้สึกผิดไว้เบื้องหลัง แล้วหนีไปตั้งต้นชีวิตใหม่ที่เกาหลี ชีวิตของพิมคงดำเนินต่อไปอย่างมีความสุขกับผู้ชายที่เธอเลือก ถ้าเสียงโทรศัพท์ในกลางดึกคืนหนึ่ง จะไม่ดึงให้เธอต้องหวนกลับมาพบความหลังที่เธอทั้งผูกพันและกลัวสุดหัวใจ ข่าวจากเมืองไทยแจ้งว่าแม่ของเธอ (รัชนู บุญชูดวง) ประสบอุบัติเหตุ พิม (มาช่า วัฒนพานิช) จึงรีบเดินทางกลับเมืองไทย แต่ทันทีที่เธอเหยียบย่างกลับเข้าบ้านหลังเก่า ความทรงจำในอดีตที่เธอแกล้งลืมมันไปก็ย้อนคืนมา ในบ้านเดิมที่พิมเคยอาศัยสมัยเด็ก ข้างของทุกอย่างของพิมและพลอยยังคงแน่นิ่งอยู่ในที่ของมัน รองเท้าสองคู่ ตุ๊กตาสองตัว เสื้อผ้าชุดติดกัน เวลาเหมือนจะหยุดนิ่งไม่ไหลผ่าน พิมเริ่มสัมผัสได้ถึงความรู้สึกเก่าๆ อีกครั้ง ความรู้สึกคล้ายมีคนอยู่ข้างกายตลอดเวลา ทุกลมหายใจ คงจะดีกว่าถ้าพลอยจะเกลียดพิมซะจนไม่อยากกลับมาอยู่ข้างๆ พิมเหมือนเดิม ทว่าพลอยยังคงอยู่ที่นี่ รอเธอและโกรธเธอ หรือกระทั่งความตายก็ไม่อาจแยกพลอยจากพิม
หวีดสยอง รับน้องใหม่ (2550/2007) เรื่องราวของกลุ่มนักศึกษาใหม่ซึ่งสมัครเข้าชมรมภาพยนตร์ และได้ไปรับน้องที่ต่างจังหวัด โดยมี พาย หนูนา ตั้ม และแมน ไปด้วย แต่เมื่อไปถึงสถานที่รับน้อง ซึ่งเป็นรีสอร์ทกลางป่าใหญ่ ได้มีนักศึกษาหายไปทีละคน ทำให้กลุ่มนักศึกษาต่างพากันหวาดกลัวและพยายามที่จะหาทางหนีกลับบ้านแต่ก็ไปไม่รอด
เขี้ยว..เพชฌฆาต (2550/2007) *ปีอาจไม่ตรง* อสรพิษร้ายที่คอยไล่ล่าผู้มาเยือนด้วยคมเขี้ยวมรณะ การแข่งขันแรลลี่ของกลุ่มนักเดินทาง ที่เกิดพลัดหลงเข้าไปในป่าลึกจนทำให้พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับโจรป่าและสัตว์ร้ายที่ค่อย ๆ ฆ่าชีวิตของพวกเขาทีละคน ๆ โดยเฉพาะสรพิษร้ายซึ่งมีเขี้ยวอันแหลมคมที่คอยไล่ล่าพวกเขาด้วยเช่นกัน เพราะแค้นที่กลุ่มนักเดินทางได้ไปทำร้ายไข่ของพวกมัน
วีดีโอคลิปสยอง (2550/2007) *ปีอาจไม่ตรง* คนรัก....เพื่อนรัก....คลิปฉาว...และความตาย... อามาโนะ นักธุรกิจหนุ่ม ต้องการตัดขาดความสัมพันธ์กับทิม เมียน้อยของเขา ทำให้เธอเสียใจมาก กิ๊ก จึงพาไปหาอาจารย์คงเพื่อทำเสน่ห์ แต่อาจารย์คงหลอกให้ทิมมีความสัมพันธ์กับเขา แล้วแอบถ่ายคลิปวีดีโอเก็บไว้ อามาโนะกลับมาหาทิมอีก ทิมจึงแอบถ่ายคลิปส่งไปให้ภรรยาของเขาจนเธอเสียใจและตรอมใจตาย ทิมเสียใจมาก แต่ก็ได้เต้ย คอยปลอบใจ เธอจึงตัดสินใจแต่งงานกับเต้ย และในวันแต่งงานคลิปฉาวของทิมก็ถูกปล่อยออกมา สุดท้ายเรื่องราวของคลิปสยองนี้จะจบลงอย่างไร และใครคือผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมด
The Passion Python เมียงู (2550/2007) *ปีอาจไม่ตรง* ลดา เด็กสาวกำพร้า ที่เติบโตมาพร้อมกับงูเผือก เธอมีฝันอยากเป็นนักแสดง จนกระทั่ง เธอได้พบกับเจ๊ไก่ที่ชักนำเธอเข้าสู่วงการบันเทิง แต่โชคชะตากลับเล่นตลก เพราะยิ่งเธอ ประสบความสำเร็จ เธอก็ยิ่งถูกคนรอบข้างกลั่นแกล้งและทำร้าย รวมถึง วิศวะ หนุ่มคนรัก ของเธอด้วย แต่โชคดีที่งูเผือกคอยช่วยเหลือเธอตลอด ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับ งูตัวนั้นลึกซึ้งจนยากที่จะอธิบายได้ และนี่เองจึงเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวความรักความ ผูกพันระว่างคนกับงู ที่ไม่มีใครรู้นอกจากเธอ...
ฅนไฟบิน

เรื่องย่อ : ฅนไฟบิน (2549/2006) ปี พ.ศ. 2398 เป็นต้นมาได้เกิดอาชีพ “นายฮ้อย” ขึ้นมา เพราะประเทศต้องการทำนาเพื่อนำข้าวส่งออกต่างประเทศ เหล่ากลุ่มนายฮ้อยเหล่านี้ต้อนควายเพื่อมาขายยังกรุงเทพฯ นายฮ้อยบางกลุ่มก็เป็นโจรแฝงมาเพื่อปล้นควายและฆ่าชาวบ้าน ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนโดยทางการมิได้เข้าช่วยเหลือแต่อย่างใด หนำซ้ำ “พระยาแหว่ง” (ลีโอ พุฒ-พุฒิพงศ์ ศรีวัฒน์) ยังต้องการให้ฆ่าควายให้หมดอีกด้วยเพื่อจะได้ขายรถไถฝรั่งให้กับประชาชนใช้แทนควาย กลุ่มนายฮ้อยโจรเหล่านี้ต้องเผชิญกับ “โจรบั้งไฟ“ (ชูพงษ์ ช่างปรุง) ผู้ออกปล้นด้วยเหตุผล 2 ประการคือ ช่วยเหลือชาวบ้านผู้ทุกข์ยาก และที่สำคัญหาคนที่ฆ่าพ่อแม่ของตน จนกระทั่งเจอกับ “นายฮ้อยสิงห์” (สามารถ พยัคฆ์อรุณ) และเชื่อมั่นว่าเป็นคนฆ่าพ่อแม่ของตนจริงๆ ในขณะที่พระยาแหว่งจ้างโจรปล้นฆ่านายฮ้อยได้หมด แต่กลับไม่สามารถฆ่านายฮ้อยสิงห์คนที่ไม่เคยแพ้ใครได้ พระยาแหว่งจึงวางแผนหลอกใช้โจรบั้งไฟและ “ปอบดำ” (พันนา ฤทธิไกร) ผู้ลึกลับและมีความแค้นอยู่กับนายฮ้อยสิงห์มานาน จึงตกลงใจช่วยเหลือโดยทันที ทั้งพระยาแหว่งและโจรบั้งไฟต่างก็หลงรัก “อีสาว” (กัญญาภัค สุวรรกูฏ) ลูกสาวคนเดียวของปอบดำ แต่ปอบดำก็ไม่ยอมให้ใครได้อีสาวไปครอง… “นายฮ้อยสิงห์” ยังไม่รู้ว่าตนเองถูกปองร้าย… ชีวิตของ “อีสาว” ยังมีความลึกลับที่ยังไม่เปิดเผย… “โจรบั้งไฟ” และ “พระยาแหว่ง” ยังไม่รู้ความลับของ “ปอบดำ” แต่ทั้งสามก็ต้องร่วมมือกันเพื่อให้บรรลุจุดประสงค์ของแต่ละคน…

เดอะ เลตเตอร์ เขียนเป็นส่งตาย (2549/2006) เสรี ชายหนุ่มพูดน้อย บุคลิกเงียบขรึม ได้รับเชิญไปงานเลี้ยงรุ่นเพื่อน ๆ ชั้นประถม เมื่อไปถึงเสรีต้องตะลึงในความสวยของ นาตยา เพื่อนร่วมรุ่นสาวที่ไม่ได้พบกันมานานเกือบ 20 ปี แต่ทั้งหมดได้รับจดหมายลูกโซ่แปลก ๆ ฉบับหนึ่ง ที่มีปริศนาคำทายและรูปของคนแขวนคอตัวเอง เรียกว่า "แฮงค์แมน" และมีข้อความขู่ว่าผู้ที่ได้รับต้องตาย หากจะรอด ต้องส่งต่อจดหมายฉบับนี้ไปยังคนที่ตนแค้นอีก 29 คนจึงจะรอด จากนั้นเพื่อน ๆ ชั้น ป.6/2 ของเสรีทะยอยตายไปเรื่อย ๆ ตามลำดับเลขที่ แรกเริ่มทุกคนไม่เชื่อ แต่เมื่อผ่านไป มีคนตายตามจดหมายนั้น 2-3 คน ทุกคนก็เริ่มเชื่อ เสรีจึงออกตามหาความจริง โดยมีนาตยาขอตามไปด้วย ก่อนจะพบว่า แท้ที่จริงแล้ว คนที่ส่งจดหมายนี้มาให้ เป็นเพื่อนเก่าที่พวกเขาชอบกลั่นแกล้งรังแก จนไม่สามารถออกไปพบปะผู้คนได้เหมือนคนทั่วไปชื่อ แว่น หรือ โชติธรรม
The Passion อำมหิต พิศวาส (2549/2006) หลังหนังรอบสุดท้าย ความตายจะเริ่มต้น ถ้าคุณเป็นผู้หญิงหรือมีหญิงอันเป็นที่รักของคุณอยู่ คุณเตรียมตัวหรือยังที่จะรับมือกับภัยอันตรายบางประเภทที่เกิดจากอารมณ์ของใครบางคนที่เน่าเฟะ ภัยบางอย่างที่คุณเคยได้ยินและเห็นจากหลายข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์หรือสื่ออื่นๆ เหตุการณ์ที่คุณไม่เคยคาดคิดว่าจะมาถึงตัว หรือไม่มีวันจะเกิดขึ้นกับคนที่คุณรักได้ ใครล่ะจะรู้ เพียงแค่เพราะเป็นผู้หญิง ส่วนเว้าส่วนโค้ง รอยยิ้ม และแววตาอันชวนมองของคุณ จะกลายเป็นสิ่งล่อลวงใจให้ตัณหาราคะที่อยู่ก้นบึ้งของจิตใจให้ตื่นขึ้นและหิวกระหายเกินมนุษย์ธรรมดา “สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล” ร่วมกับ “นับหนึ่ง นีโอฟิล์ม” สะท้อนภาพความรุนแรงในสังคมที่เต็มไปด้วยผู้คนที่เห็นแก่ตัวฉกฉวยโอกาสจากคนเดินถนนทั่วไปมาสนองตัณหาอารมณ์ของตัวเอง โดยไม่รู้ว่าตนได้กลายเป็นเหยื่ออันโอชะที่แสนจะง่ายดาย ไม่รู้แม้กระทั่งโฉมหน้าหรือร่างกายไม่ว่าส่วนใดส่วนหนึ่งหรือทั้งหมดของตัวเองจะถูกเผยแพร่ต่อสาธารณะชนผ่านกล้องวงจรปิด ผ่านแผ่นซีดีเถื่อน ผ่านสื่อต่างๆ ที่ถูกลักลอบบันทึกตอนที่คุณไม่รู้ตัว จากภายในแหล่งบันเทิงของคนทุกเพศทุกวัย สถานที่ที่เราอาจคิดว่าปลอดภัยจากการโจรกรรมในรูปแบบอื่นๆ แต่กลับถูกโจรกรรมวิญญาณและความรู้สึกของลูกผู้หญิงไปได้ง่ายดาย โดยไม่มีวันจะลืมเลือนหรือได้กลับคืนมา “อำมหิตพิศวาส” (The Passion) เป็นภาพยนตร์ที่จะเล่าถึงมุมโสมมที่มีให้เห็นอยู่ดาษดื่นในสังคม ด้วยมุมมองของผู้กำกับที่ฝากผลงานมามากมายในฐานะนักแสดงระดับแนวหน้าของเมืองไทยอย่าง “ศรัณยู วงษ์กระจ่าง” ที่ครั้งนี้มารับหน้าที่เป็นทั้งผู้กำกับภาพยนตร์ครั้งแรกและหนึ่งนักแสดงในมาดของ “ชัย” หัวหน้าฝ่ายอาคารของโรงภาพยนตร์ “มัลติเพล็กซ์เวิลด์” สถานที่เพียงแห่งเดียวในเรื่องที่เป็นทั้งจุดเริ่มต้นและจุดจบของการไล่ล่าอันแสนสาหัส เพียงคืนเดียวเท่านั้นหลังหนังรอบสุดท้ายของที่นี่จบลง ทุกอย่างจะถูกเปิดเผยและถูกปิดตาย!!! “แพรว” (บงกช คงมาลัย) สาวสวยที่ถูกครอบงำจากความเก็บกดที่มีอยู่ภายในจิตใจ เธอหลงเข้ามาอยู่ในเงื้อมมือของธุรกิจอุบาทว์ที่มีโรงภาพยนตร์ “มัลติเพล็กซ์เวิลด์” โรงหนังครบวงจรขนาดใหญ่บังหน้า โดย “ชัย” (ศรัณยู วงษ์กระจ่าง) หัวหน้าฝ่ายอาคารบีบบังคับให้ “ขาว” (ตะวัน จารุจินดา) พนักงานเดินตั๋วภายในโรงหนังติดตั้งกล้องวงจรปิดทั่วทุกมุมเพื่อเก็บภาพอนาจารของบรรดาสาวน้อยสาวใหญ่ตามที่ต่างๆ ของบริเวณโรงหนัง ไม่ว่าจะเป็นห้องน้ำ ตู้สติกเกอร์ หรือห้องลองเสื้อผ้า เพื่ออัดขายให้บรรดาพวกโรคจิตทั้งหลายได้ชื่นชมผ่านสื่อทุกรูปแบบ คืนนั้นขณะที่แพรวกำลังดูหนังรอบสุดท้ายอยู่ในโรง ชัยก็กำลังมองหาผู้หญิงเป้าหมายบนหน้าจอมอนิเตอร์ที่เชื่อมต่อกับกล้องวงจรปิดที่ถูกติดไว้ทั่วห้าง ชัยสะดุดในความน่าหลงใหลอวบอั๋นของแพรว ความหื่นกระหายและตัณหาจึงพลุกพล่าน ในขณะที่หญิงสาวชื่อ “น้อย” (ปรางทอง ชั่งธรรม) พนักงานทำความสะอาดบริเวณตัวห้างกำลังจะวางแผนที่จะปลุกปล้ำขาวชายที่ตนเองแอบหลงรักอย่างสุดหัวใจ โดยไม่สนว่า “บุญเกิด” (เบญจพล เชยอรุณ) ที่เฝ้าบอกรักน้อยทุกวี่ทุกวันจะรู้สึกยังไง และในคืนอันวิปริตนี้ เมื่อหนังรอบสุดท้ายกำลังจะจบลง ชัยก็เข้าจู่โจมแพรวหวังขืนใจให้สมอยากกลางห้องน้ำ แพรวขัดขืนตามสัญชาตญานจนสามารถหลุดพ้นจากเงื้อมมือชัยไปได้ด้วยการให้ความช่วยเหลือของน้อย แล้วการสั่งปิดโรงหนังกลางดึกคืนนั้นเพื่อไล่ล่าแพรวและน้อยหญิงสาวตัวเล็กๆ เพียงสองคนจากผู้ชายทั้งหมดของหน่วย รปภ.ในโรงหนังจึงเริ่มต้นขึ้น ทว่าจุดจบของเรื่องนั้นจะเป็นเช่นไร ใครจะกล้าคาดเดา!
13 เกมสยอง (2549/2006) มั่นใจได้อย่างไรว่าชีวิตของคุณกำลังตกอยู่ ณ จุดต่ำสุด ในเมื่อจุดสูงสุดในชีวิตก็ยังไม่เคยลิ้มลอง ความตื่นระทึกที่ไม่ว่าคุณหรือใครก็ไม่อาจคาดเดา ถึงสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในแต่ละนาทีข้างหน้าได้ “เกม 13 ข้อ” ที่ต้องเล่น และทุกครั้งที่เล่นจะเกิดผลกระทบก่อเป็นลูกโซ่อย่างไม่จบสิ้น และเมื่อผ่านทั้ง 13 ข้อ เงินสด 100,000,000 บาทจะเป็นของคุณทันที ลืมหนังเขย่าขวัญทุกเรื่องที่คุณรู้จัก เตือนสติตัวคุณให้ดีก่อนตัดสินใจดูหนังเรื่องนี้ “13 เกมสยอง” “13 Beloved” คือ “โอกาส” หรือ “ทางเลือก” ที่ถูกเปิดให้กับใครบางคนที่ได้รับการคัดเลือกว่า “เหมาะสม” หรือ “คู่ควร” เท่านั้น ว่ากันว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถเดินเข้าสู่ “13 Beloved” ได้ วิธีการน่ะเหรอ ไม่ต้องหาให้เสียเวลา เพราะเมื่อถึงเวลามันจะเลือกคุณเอง ดูเหมือนว่าสถานการณ์รอบตัวในชีวิตของ “ภูชิต” (กฤษดา สุโกศล แคลปป์) เซลส์แมนขายเครื่องดนตรีกำลังเดินทางมาถึงทางตันของชีวิตแล้วจริงๆ เมื่อจุดจบในหน้าที่การงานกำลังจะถูกหยิบยื่นโดยเจ้านายของเขาโทษฐานที่ไม่สามารถทำยอดขายทะลุเป้าได้ หนำซ้ำคนรักก็ทิ้งไปมีคนใหม่ หนี้สินล้นตัวจากเงินกู้ในฐานะลูกที่ดีที่เข้ามาทำงานในเมืองใหญ่ต้องรับผิดชอบส่งเสียน้องสาววัยเรียนและแม่ที่ต้องเลี้ยงดูเขาและน้องเพียงลำพังตั้งแต่เล็ก เริ่มออกดอกออกผลกลืนกินชีวิตเขาเข้าเต็มที แม้แต่รถยนต์ที่ขาดส่งไป 3 เดือนก็ยังถูกยึดไปต่อหน้าต่อตา แต่แล้วโอกาสสุดท้ายในชีวิตก็ถูกหยิบยื่นให้ตรงหน้าโดยที่เขาเองก็ไม่คาดคิดในฐานะ “ผู้ถูกเลือก” เมื่อโทรศัพท์มือถือดังขึ้น เสียงลึกลับจากปลายสายดึงเขาเข้าสู่ “13 Beloved” เกมท้าทายชีวิตที่มีโจทย์ 13 ข้อให้เขาค้นหาคำตอบและเล่นโดยมีผลตอบแทนที่ดึงดูดใจ คือเมื่อใดก็ตามที่เขาสามารถผ่านโจทย์แต่ละข้อ มูลค่าของเงินสะสมก็พร้อมที่จะทวีคูณขึ้นไปเรื่อยๆ จะถูกส่งเข้าบัญชีธนาคารที่เขาสามารถตรวจสอบได้ทันที และถ้าเขาสามารถทำได้ครบทั้ง “13 ข้อ” ยอดเงินสะสมที่มีตัวเลขสูงถึง “100 ล้านบาท” จะเป็นของเขาทันที นี่คือผลตอบแทนในฐานะผู้พิชิตที่อุตส่าห์ร่วมบากบั่นในฐานะผู้ร่วมสนุกในเกม โดยมีเงื่อนไขที่ว่าเมื่อใดก็ตามที่เขาหยุดเล่นเงินสะสมทั้งหมดจะถูกยกเลิก หากบอกต่อให้คนอื่นรู้เกมถือว่าเป็นโมฆะ และหากพยายามติดต่อกลับหมายเลขดังกล่าวถือว่าเกมสิ้นสุด เพียงทว่าการเล่นเกมดังกล่าวของเขากลับปลุกอดีตที่หลับใหลให้มาบรรจบปัจจุบันขึ้นอีกครั้ง แน่นอนว่ามันพร้อมที่จะส่งผลต่ออนาคตที่เกิดจากการ “เลือก” และ “ตัดสินใจ” เดินบนเส้นทางนี้ของเขาเองถึงแม้ว่ามันจะเดิมพันด้วยชีวิตของเขาและคนรอบข้างก็ตาม
ผีอยากกลับมาเกิด re-cycle (2549/2006) ถึงแม้ว่าเส้นทางการเป็นนักเขียนนิยายรักโรแมนติกของ “ฉีสิน” (ลีซินเจี๋ย-The Eye) จะประสบความสำเร็จอยู่ในระดับเบสต์เซลเลอร์ ถึงขนาดที่ว่านิยายหลายต่อหลายเรื่องของเธอถูกผู้สร้างภาพยนตร์นำมาดัดแปลงสร้างเป็นภาพยนตร์ก็ตาม แต่การที่จู่ๆ ผู้จัดการของเธอลุกขึ้นมาประกาศว่าฉีสินจะพลิกรูปแบบงานเขียนโดยเฉพาะอย่างยิ่งให้จับตาดู “Re-Cycle” งานเขียนชิ้นใหม่ที่แตกต่างจากงานเขียนทุกชิ้นที่ผ่านมาของเธอ เพราะเป็นการพลิกรูปแบบงานเขียนจากนวนิยายโรแมนติกมาเป็นนวนิยายตื่นเต้นระทึกขวัญให้สื่อมวลชนได้รับรู้ ทั้งๆ ที่ตัวฉีสินเองยังตัดสินใจไม่ได้เลยว่าเนื้อหาหรือเรื่องราวในนิยายเรื่องใหม่ของตนจะออกมาเป็นอย่างไร กลายเป็นแรงกดดันซ้อนที่ส่งผลให้ฉีสินเองตั้งตัวแทบไม่ทัน ในขณะเดียวกันกับที่ “ห้าวหลัน” (เจตริน วรรธนะสิน) ชายหนุ่มที่เป็นคนรักเก่าซึ่งเลิกรากันไปเมื่อ 8 ปีที่แล้วจู่ๆ ก็กลับมาหาเธอเพื่อขอสานต่อความรักครั้งเก่า หลังจากที่เขาเคยบอกเลิกเธอเพื่อไปแต่งงานกับผู้หญิงอื่น ทันทีที่ฉีสินเริ่มต้นจรดตัวอักษรกับงานเขียนชิ้นใหม่ที่มีชื่อว่า “Re-Cycle” ดูเหมือนว่ามีพลังอำนาจและสภาพบรรยากาศบางอย่างที่ชวนขนลุกเกิดขึ้นกับชีวิตของเธอ เมื่อมีเหตุการณ์เหนือคำอธิบายหลายอย่างเกิดขึ้น จนราวกับว่ามีบางสิ่งบางอย่างกำลังครอบงำความคิดและนำชีวิตของเธอไปสู่เหตุการณ์ประหลาดที่เต็มไปด้วยความลึกลับ และแน่นอนว่ามันเป็นเหตุการณ์ที่ชวนตื่นตระหนกและเต็มไปด้วยความหวาดสะพรึงอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในชีวิตของเธอ ไม่ว่าจะเป็นเสียงหอบลมหายใจประหลาดจากโทรศัพท์ลึกลับกลางดึก เงามืดของผู้หญิงผมยาวที่แว่บเข้ามาในทุกจังหวะการเคลื่อนสายตาของเธอ รวมไปถึงกระจุกเส้นผมขนาดยาวบนพื้นในห้องน้ำ ฯลฯ สำหรับจิตวิญญาณของนักเขียนอย่างฉีสินแล้วนี่คือการต่อยอดและขยายขอบเขตแห่งจินตนาการที่ดิบ สด เต็มไปด้วยพลังที่ชวนค้นหาและน่าติดตามอย่างแท้จริง ทำให้เธอตัดสินใจนำรายละเอียดและเรื่องราวที่เกิดขึ้นมาถ่ายทอดลงในนวนิยายเรื่องใหม่ทันที โดยที่แม้แต่เธอเองก็คงไม่คิดว่า 2 สิ่งที่กำลังก้าวเข้ามาสู่ชีวิตของเธอ ไม่ว่าจะเป็นการกลับมาของอดีตคนรักและการเริ่มต้นเขียนนวนิยายสยองขวัญ คือจุดเริ่มต้นของการเดินทางสู่ห้วงแห่งความหวาดสะพรึงอย่างที่ไม่เคยมีขอบเขตแห่งจินตนาการใดที่มนุษย์เคยคาดคิดและล่วงรู้มาก่อน เมื่อโลกแห่ง “Re-Cycle” กลับมีตัวตนขึ้นมาจริงและนำตัวเธอเข้าไปยังในที่ที่ไม่มีใครกล้าแม้แต่จะย่างกราย แต่ละเหตุการณ์ต่างผุดขึ้นตรงหน้าราวดอกเห็ดที่เธอต้องพานพบ ตั้งแต่การเผชิญหน้ากับเหล่าวิญญาณนับพันนับหมื่นที่รายล้อมอยู่รอบตัว อุโมงค์มดลูกสยองสีแดงก่ำ ซากศพที่ตกลงจากฟากฟ้าราวกับห่าฝน สวนสนุกผี ซากสรรพสิ่งที่ถูกละทิ้งในโลกแห่งรีไซเคิล ฯลฯ ว่ากันว่านี่คือสิ่งที่แม้แต่นักเขียนอย่างเธอก็ยากที่จะจินตนาการถึง เมื่อทุกสถานการณ์ที่เกิดขึ้นล้วนชวนให้เกิดควมรู้สึกที่ชวนขนลุกแทบทั้งสิ้น

เรื่องย่อ : ศพ (2549/2006) บางคนอาจเคยตั้งคำถาม ในขณะที่หลายคนเพียงแค่สงสัย แล้วถ้าเป็นคุณล่ะจะทำอย่างไร เมื่อมองยังร่างที่ปราศจากลมหายใจตรงหน้า ไม่รู้ประวัติ ไม่รู้ที่มา รู้แต่เพียงว่านี่คือร่างกายที่ไร้ชีวิตที่นักศึกษาแพทย์ชั้นปีที่ 2 ทุกคนต่างให้ความเคารพในฐานะ “อาจารย์ใหญ่” ครูผู้บริจาคร่างกายเป็นวิทยาทานเพื่อให้กับนักศึกษาแพทย์ทุกคนได้เรียนรู้ถึงความซับซ้อนภายในร่างกายมนุษย์ และนำความรู้ที่ได้จากร่างอาจารย์ไปเป็นประโยชน์ในการรักษาผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่ต่อไป มีเรื่องเล่ามากมายเกี่ยวกับอาจารย์ใหญ่ แต่สำหรับ “ไหม” (ณัทธมนกาญจน์ ศรีนิกรโชติ) แล้วสิ่งที่เกิดขึ้นกลับเป็นประสบการณ์จริงที่ชวนขนลุก ซึ่งเกิดขึ้นในระหว่างที่เธอเข้าเรียนชั่วโมงแรกของวิชากายวิภาคศาสตร์ เมื่อจู่ๆ ร่างของอาจารย์ใหญ่ที่นอนสงบนิ่งก็เงื้อมมือขึ้นมาบีบคอเธอ เหตุการณ์ต่อจากนั้นได้สร้างความหวาดผวามากยิ่งขึ้น เมื่อเธอรู้สึกว่ามีวิญญาณของผู้หญิงที่ไม่รู้จักคอยติดตามเธอไปในทุกที่ ตั้งแต่ชั้นเรียน ห้องน้ำ มุมมืดในห้องพัก รวมทั้งข้างตัวเธอบนเตียงนอนที่บ้าน ในท่ามกลางความสับสน และสถานการณ์ที่กำลังเลวร้ายลง “อาจารย์นายแพทย์ประกิต” (นิรุตติ์ ศิริจรรยา) ดูเหมือนจะเป็นคนเดียวที่แสดงความห่วงใยไหม และตัดสินใจยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือลูกศิษย์คนนี้ในทุกวิถีทาง ไหมเริ่มตั้งคำถามและค้นหาคำตอบอย่างที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน นั่นคือการค้นหาที่มาของอาจารย์ใหญ่ แต่ดูเหมือนยิ่งสาวยิ่งลึก และมีบางสิ่งที่ซับซ้อนเกินกว่าที่ผู้หญิงตัวเล็กๆ อย่างเธอจะต้านทานไหว บางอย่างที่เกี่ยวพันและเชื่อมโยงถึงผู้หญิงที่ชื่อ “ดาหวัน” กับร่างของอาจารย์ใหญ่ตรงหน้าเธอ ความจริงในด้านมืดที่ชวนขนลุก และเหตุการณ์ที่เลวร้ายในอดีตได้กลับมาหลอกหลอนเธอขึ้นอีกครั้ง…

เรื่องย่อ : โคลิค เด็กเห็นผี (Colic) (2549/2006) คุณเคยรู้จักเด็กหรือมีลูกที่มีอาการอย่างนี้บ้างไหม ร้องไห้เป็นประจำทุกวันและเวลาเดียวกัน ไม่หยุดและรุนแรง ติดต่อกันเป็นเวลานาน ระวัง!!! นั่นคือสัญญาณของความน่ากลัว เตรียมผวากับสิ่งที่จะตามมาหลอกหลอน เมื่อ “แพรพลอย” (พิมพ์พรรณ ชลายนคุปต์) AE สาวกับ “ป้องภพ” (วิทยา วสุไกรไพศาล) ผู้กำกับหนังโฆษณาหนุ่มไฟแรง ได้ตัดสินใจแต่งงานกันหลังจากที่แพรตั้งท้องโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ ทั้งคู่จึงตัดสินใจเริ่มต้นชีวิตและขยับขยายครอบครัวใหม่ด้วยการย้ายบ้านไปอาศัยอยู่กับแม่และน้าสาวของป้องภพแถบชานเมือง แต่การเริ่มต้นไม่ดีเท่าที่ควรเพราะป้องภพทำแต่งานไม่มีเวลามาสนใจแพรซึ่งกำลังตั้งท้องแก่ขึ้นทุกที ความกดดันต่างๆ จากฝ่ายชายทำให้แพรต้องหันหน้าไปปรึกษาและหาอะไรทำเพื่อลดความเครียดด้วยการวาดภาพประกอบให้กับหนังสือที่ “จีน” (กุณฑีรา สัตตบงกช) เพื่อนสนิทดูแลอยู่ คืนหนึ่งแพรเห็นบ้านน้าเบญซึ่งปลูกอยู่ใกล้ๆ กับบ้านหลังใหญ่ของแม่ป้องภพมีไฟลุกไหม้ จึงเข้าไปดูและพยายามหาทางช่วยน้าเบญออกมา ในขณะที่แพรเองก็เจ็บท้องและกำลังจะคลอดลูกพอดี หลังจากการคลอดลูกกลับมาไม่นาน “น้องปั้น” (ลูก) ก็กลับส่งเสียงกรีดร้องออกมาอย่างรุนแรงและน่ากลัว หมอตั้งข้อสงสัยว่าน้องปั้นน่าจะเป็น “โรคโคลิค” ซึ่งเด็กที่เป็นโรคนี้จะร้องไห้อย่างรุนแรงและตรงเวลาเป็นประจำทุกวันโดยไม่สามารถหาสาเหตุและวิธีรักษาได้ แต่โดยปกติโรคนี้จะหายไปเองเมื่อเด็กอายุ 3 ถึง 6 เดือน แต่แล้วเมื่อเวลาผ่านไปน้องปั้นก็ยังไม่หายจากโรคโคลิค ปั้นยังคงร้องไห้อย่างรุนแรงทุกวัน และดูเหมือนจะทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่ทุกคนในครอบครัวและจีนซึ่งเข้ามาช่วยดูแลน้องปั้นต่างก็พบกับเรื่องราวประหลาดๆ มากมาย ทำไมโรคนี้จึงไม่หายไปจากเด็กคนนี้ ทำไมเรื่องต่างๆ จึงเกิดขึ้นทุกครั้งที่เขาเริ่มร้องไห้ อะไรคือสาเหตุที่แท้จริง ร่วมพิสูจน์ความจริงที่มาพร้อมความหลอนนี้ได้ใน “โคลิค เด็กเห็นผี”

โบอา งูยักษ์ (2549/2006) คุณจะไม่มีวันลืม ความสยองขวัญครั้งใหม่ ที่รอกลืนกินทุกคนอยู่ในความดิบเถื่อนของพงไพร “โบอา งูยักษ์” …ท่ามกลางธรรมชาติแห่งขุนเขาและพงไพร มีบางอย่างเร้นกายภายใต้ป่าลึกนั้นอย่างเงียบๆ… “พนา” ชายหนุ่มที่รักการถ่ายภาพเป็นชีวิตจิตใจ เขาชอบเดินทางไปท่องเที่ยวตามที่ต่างๆ เพื่อเก็บภาพความสวยงามไว้เป็นที่ระลึก วันหนึ่งพนาได้ไปท่องเที่ยวในป่าแห่งหนึ่งแถวเขตชายแดน ขณะที่เพลิดเพลินกับการเก็บภาพธรรมชาติที่สวยงามอยู่นั้น โดยไม่ทันตั้งตัว เขาโดนบางอย่างลากไปกินอย่างน่าสยดสยอง กลุ่มเพื่อนสนิทของพนาที่คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง คือ “คิน, โก้, เสิด, ก๋อย, สีดา” และ “แพร” แฟนสาวของพนา ทราบข่าวที่พนาหายไปอย่างลึกลับ จึงตัดสินใจที่จะเข้าไปตามหาพนาด้วยตัวของพวกเขาเองในป่า โดยการโดยสารไปกับบอลลูน ด้วยเหตุผลที่ว่าจะได้เห็นวิวด้านล่างของป่าอย่างชัดเจน แต่แล้วพวกเขาก็ต้องมาผจญกับลมพายุฝนรุนแรงจนทำให้บอลลูนตกกลางป่าลึกแห่งหนึ่ง ในค่ำคืนที่ฝนตกกระหน่ำ ทั้งหมดมาหลบฝนที่ใต้รูปปั้นแกะสลักพญานาค ทุกคนประหลาดใจจึงเดินขึ้นไปตามทางบันไดหินจนพบปากถ้ำ ทั้งหมดตัดสินใจเข้าพักแรมในถ้ำลับกลางป่าแห่งนั้น โดยหารู้ไม่ว่าพวกเขาได้ย่างกรายเข้าสู่อันตรายที่ยากจะต้านทานได้ …บางสิ่งกำลังเลื้อยออกจากการแฝงกายภายในถ้ำ เพื่อรับการมาเยือนของแขกผู้ไม่ได้รับเชิญโดยเฉพาะ… “งูยักษ์” ที่อาศัยอยู่ในถ้ำลับนั้น ไม่รีรอที่จะออกมาต้อนรับเหล่าหนุ่มสาวกลุ่มนี้ด้วยการกลืนกินพวกเขาทีละคนๆ ไม่ต่างจากเหยื่ออันโอชะ ผู้รอดตายจากคมเขี้ยวงูยักษ์ของค่ำคืนสยองนั้น จำเป็นต้องกระเสือกกระสนหาทางออกและวิธีทำลายงูยักษ์นั้น ก่อนที่มันจะคืบคลานเข้าใกล้พวกเขาอีกครั้งหนึ่ง แต่เมื่อสุดทางหนี พวกเขาจึงต้องเผชิญหน้าสู้กับมันแบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน นี่ดูเหมือนจะเป็นทางเดียวเท่านั้น ที่จะทำให้พวกเขา…รอดชีวิต
ลาง หลอก หลอน | BLACK NIGHT (2549/2006) NEXTDOOR – ฮ่องกง กรกฎาคม ตามจันทรคติ เป็นเดือนแห่งเทศกาลของภูตผี ผู้คนจุดธูปเผากระดาษตามท้องถนนเพื่อเซ่นไหว้ผีเร่ร่อน เหตุการณ์น่าสะพรึงกลัวเกิดขึ้นซ้ำๆ ในคืนอาถรรพ์ เมื่อเจนสาวชาวไต้หวัน (แสดงโดย Annie LIU) มาเยี่ยม Joe แฟนตำรวจหนุ่ม (แสดงโดย Dylan KUO) แต่กลับพบว่าเขาเริ่มมีสัมพันธ์สวาทกับเพื่อนบ้าน สาวสวยจากจีนแผ่นดินใหญ่ Hosie (แสดงโดย Race WONG) และเมื่อความรักและความคาดหวังที่แรงกล้า กลับถูกตอบแทนด้วยความหลอกลวง ความหายนะจึงจำต้องเกิดขึ้น. ท่ามกลางเสียงแปลกประหลาดจากการกระทบกันของลูกหิน เสียงประตูถูกเคาะอย่างฉับพลัน เมื่อมองผ่านรูกุญแจประตูเห็นเป็นเงารูปร่างน่ากลัว… เรื่องราวของสามชีวิตในชะตาที่โยงใยกันจนเป็นเงื่อนปมได้คลี่คลายออกอย่างระทึกขวัญ และให้แง่คิดแบบ ขนหัวลุก DARK HOLE – ญี่ปุ่น ว่าที่เจ้าสาว Yuki (แสดงโดย Asaka SETO) ต้องทนทรมานกับฝันร้ายของเธอมาตลอด วันหนึ่งเธอสังเกตเห็นเด็กในชุดสีเหลือง ซึ่งเคยเห็นในฝันบ่อยๆ ได้ปรากฏตัวขึ้นในชีวิตจริง มีแต่เพียงเธอเท่านั้นที่สังเกตเห็นเด็กคนนี้ได้ แต่เมื่อใดที่เธอจำเขาได้จริงๆ เขาก็จะหายไปเหลือเพียงน้ำกองหนึ่ง เธอรู้สึกหวาดกลัวกับเหตุการณ์ประหลาดนี้ คู่หมั้นของเธอ Satoshi (แสดงโดย Takashii KASHIWABARA) จึงแนะนำให้เธอไปพบจิตแพทย์ Dr. Kawai (แสดงโดย Tomorowo TAGUCHI) และในที่สุดจิตแพทย์ท่านนี้ก็สามารถค้นพบสาเหตุของฝันร้ายของเธอได้หลังจากรักษาเธอมาหลายต่อหลายครั้ง เนื่องจากเธอสูญเสียความทรงจำในวัยเด็กเมื่อตอนอยู่ชั้นประถม และบังเอิญช่วงนั้นทั้งเพื่อนและแม่ของเพื่อนเธอได้ตายไปอย่างประหลาดและ เป็นปริศนา Yuki กลัวมากเมื่อเธอพบความเกี่ยวเนื่องกันระหว่างความฝันของเธอและอุบัติเหตุครั้งนั้น หนึ่งระหว่างการรักษาโดยการสะกดจิต เธอได้เปิดเผยความลับถึงเรื่องที่เธอมีสัตว์เลี้ยงที่แสนประหลาด… THE LOST MEMORY – ไทย ปราง (แสดงโดย พิชญ์นาฎ สาขากร) แม่หม้ายและ ซัน ลูกชาย (แสดงโดย เด็กชายอธิพันธ์ ฉันทอภิชัย) ทั้งคู่ ดูน่าจะมีความสุข เว้นแต่ว่ามีชายคนหนึ่งคอยติดตามเธอทุกแห่งหน เธอเชื่อว่าเขาถูกจ้างวานโดย วิทย์ อดีตสามีเธอ (แสดงโดย ขจรศักดิ์ รัตนนิสสัย) เธอเชื่อว่าเขามุ่งร้ายที่จะจับลูกชายเธอไป ชีวิตเธออยู่ท่ามกลางความหวาดผวาจนแทบจะเป็นบ้า ระหว่างการสืบหาความจริงนั้น เธอได้พบห้องเช่าแห่งหนึ่งที่ดูคุ้นตา และเริ่มจำได้ว่า แพรว เพื่อนของเธอ (แสดงโดย นัชชา บุตรศรี) ซึ่งเคยเป็นเพื่อนรักของเธอและวิทย์ ตั้งแต่สมัยมหาวิทยาลัย แต่ความทรงจำของเธอเลือนหายไปอยู่ตลอดเวลา ยิ่งนึกก็ยิ่งพบว่าเหตุการณ์น่าสะพรึงกลัวในอดีตนั้นหลอกหลอนเธอเหมือนหนังเก่า ที่ฉายซ้ำไปซ้ำมาไม่รู้จบ ความทรงจำที่ลึกที่สุดมันเจ็บปวดเกินกว่าที่จะรับได้ มันยังคงสถิตย์ในห้วงลึกของจิตใจเธอ และความสัมพันธ์ที่แท้จริงระหว่าง วิทย์ กับ แพรว ก็คือกุญแจไขปริศนาของมรสุมในอดีตเธอ
ไพรรีพินาศ ป่ามรณะ (2549/2006) ในปี 2530 คำกอง ลีซอ และ นาซอ (ตอนเด็ก) เดินทาง เข้าไปในป่าพญาเมฆ เพื่อหาขุมทรัพย์ตามที่ลายแทงบอกไว้ แต่ต้องมาเจอกับงูยักษ์ตามไล่ล่า จนทำให้ลีซอที่เป็นพ่อของนาซอเสียชีวิต ด้วยเหตุการณ์ครั้งนี้เอง จึงทำให้นาซอเข้าใจว่าคำกองเป็นต้นเหตุที่ทำให้พ่อของตัวเองเสียชีวิต จึงเกิดความเค้นต่อคำกอง ในปี 2547 หมวดวุฒิ (วัชระ ตังคะประเสริฐ) กับพรรคพวกจับนักโทษที่แหกคุกออกมาได้คนหนึ่ง สอบปากคำจนรู้ว่าพวกนักโทษที่เหลือนั้นได้หลบหนีไปทางป่าพญาเมฆ ในปัจจุบันนี้ คำกอง ได้บวชเป็นพระอยู่ในวัดแห่งนึ่งใกล้ ๆ กับป่าพญาเมฆ หมวดวุฒิกับพรรคพวกได้เดินทางมายังวัด เพื่อสอบถามร่องรอยของนักโทษกับหลวงพ่อคำกองผู้เป็นพ่อของหมวดวุฒิ หลวงพ่อคำกองได้ดูรูปถ่ายก็รู้ทันทีว่านักโทษที่อยู่ในรูปนั้นคือ นาซอ (ชลัฏ ณ สงขลา) โจรที่ปล้นฆ่าอันโหดเหี้ยม ลูกชายคนเดียวของลีซอเพื่อนเก่า ในคืนนั้นเองนาซอและพรรคพวกที่แหกคุกออกมา ก็ได้กลับมาฆ่าหลวงพ่อคำกอง และได้แย่งลายแทงสมบัติกับพวงกุญแจของหลวงพ่อไป จากนั้นนาซอและ หนานเมือง (สุรชัย แสงอากาศ) ก็ได้เดินทางเข้าป่าพญาเมฆ เพื่อไปหาขุมทรัพย์ตามที่ลายแทงบอกทันที หมวดวุฒิก็ได้ออกตามล่าพวกนาซอที่หลบหนีเข้าป่าทันทีที่รู้ข่าว โดยมีนายพรานกระเหรี่ยงเป็นคนนำทาง และมีการปะทะกันระหว่างตำรวจและกลุ่มโจร ซึ่งต่างฝ่ายต่างได้รับบาดเจ็บด้วยกันทั้งสองฝ่าย พวกนาซอได้หลบหนีเข้าไปในป่าอาถรรพ์ หมวดวุฒิจึงตามไปแต่นายพรานกระเหรี่ยงไม่กล้าเข้าไป จึงนำข่าวนี้ไปบอกพรานเฒ่าแทน พอ พรานเฒ่า (ประทีป หาญอุดมลาภ) รู้ข่าว ก็รู้สึกเป็นห่วงหมวดวุฒิ จึงได้ออกเดินทางตามไปกับหลานสาวชื่อ กระแต (ณัฐนันท์ จันทรเวช) ด้านพวกนาซอนั้นก็ได้เจอกับ ฝูงต่อพญาเสือ นับแสนตัว รุมทำร้ายจนทำให้ลูกน้องคนหนึ่งเสียชีวิต ทางด้านหมวดวุฒิที่ตามมาติด ๆ นั้นกลับมาเจอ ฝูงตุ๊กเข้ ไล่กัด ด้วยเหตุการณ์ณ์ครั้งนี้เองจึงทำให้ทั้งสองฝ่ายต้อง หนีเข้าไปในป่านารีผล ป่านารีผล ในคืนนี้เองทำให้จ่าวีได้เจอกับพวก นารีผลที่เป็นสาวสวย มาหลอกยั่วยวนให้หลงใหล และหลอกดูดพลังชีวิตจนตาย จ่าหมึกผู้ที่เห็นเหตุการณ์ครั้งนี้ ก็เกือบพลาดท่าเสียทีพวกนารีผล แต่โชคดีที่หมวดวุฒิและพรานเฒ่ามาช่วยไว้ทัน นาซอและพรรคพวกที่เหลือโดนหมวดวุฒิจับได้ แต่ว่าหมวดวุฒิและพรรคพวกนั้นก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส และได้รับการช่วยเหลือจากสาวชาวบ้านที่ชื่อว่า สีอ่อน (จิรภัทร์ วงศ์ไพศาลลักษณ์) และ คำแพง (ณัฏฐรี วิบูลย์เลิศ) สีอ่อนและคำแพงนั้นจะคอยช่วยหาสมุนไพรเพื่อมารักษาหมวดวุฒิและพรรคพวก ชาวบ้านในหมู่บ้านของสีอ่อนทำการต้อนรับอย่างดีกับพวกที่สีอ่อนและคำแพงพามา ในคืนนั้นเองพรานเฒ่าได้มอบของสิ่งหนึ่งที่หลวงพ่อคำกองได้ฝากไว้ให้หมวดวุฒิ นั่นก็คือ มีดอาคม กระแตหลานสาวของพรานเฒ่า เริ่มมีความสงสัยกับผู้คนในหมู่บ้านของสีอ่อนว่าต้องไม่ใช่คนธรรมดาอย่างแน่นอน เพราะว่าเธอได้อ่านสมุดบันทึกของหลวงพ่อคำกองที่ให้เธอมา แต่ก็ไม่มีใครเชื่อ ...ความลับของขุมทรัพย์จากเหรียญกาละกำลังรอวันเปิดเผย... ...อดีต ปัจจุบัน อนาคต เกี่ยวข้อง ต่อเนื่อง และส่งผลถึงกัน... ...การเผชิญหน้ากับความจริง และความตาย ที่รอเขาอยู่เบื้องหลังเหรียญกาละ... ...กลายเป็นที่มาแห่งจุดจบที่คาดไม่ถึง...
คำพิพากษาของมหาสมุทร Invisible Waves (2549/2006) เรื่องราวของ คิโยชิ กุ๊กชาวญี่ปุ่นที่ทำงานอยู่ที่ร้านอาหารแถบมาเก๊า เหตุการณ์ได้ผูกเงื่อนตายไว้ตรงที่ เขาเป็นชู้กับ เซ โกะ ภรรยาเจ้าของร้านอาหาร และเรื่องที่ชวนสั่นประสาทก็เกิดขึ้น หลังจากที่ทั้งคู่ดื่มด่ำกับอาหารมื้อค่ำ และเธอก็สิ้นใจตายพร้อมกับแก้วไวน์จิบสุดท้ายที่เธอดื่ม !! ภายหลังเหตุการณ์ฆาตกรรม เรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้น… เมื่อผู้หญิงที่ถูกฆ่าตาย ไม่ได้เป็นเพียงแค่เหยื่อเท่านั้น แต่นักฆ่าก็กลับกลายเป็นเหยื่อ ของการฆาตกรรมในครั้งนี้ด้วย!
ล่าค้างคาวพันธุ์อมตะ (2549/2006) ภารกิจเสี่ยงตายของเหล่านักล่า เมื่อต้องเผชิญหน้ากับฝูงค้างคาวปีศาจ ผู้ก่อการร้ายกลุ่มหนึ่งได้ทำการทดลองเกี่ยวกับค้างคาว จนพวกมันกลายพันธุ์เป็นค้างคาวพันธุ์เพชฌฆาต ที่ออกอาละวาดไปทั่วหมู่บ้าน ทำให้ หมวดกฤษ ผู้คอยดูแลหมู่บ้านนี้พร้อมกับเพื่อนตำรวจหญิงต้องออกมาช่วยกันปราบค้างคาว รวมทั้งหาทางจับกุมกลุ่มผู้ก่อการร้ายในครั้งนี้ด้วย.....
ผมอาถรรพ์ (2549/2006) “ ผมอาถรรพ์ ” เล่าเรื่องราวการถ่ายทำรายการ Reality TV. ที่บ้านหลังหนึ่ง ซึ่งนำพาให้กลุ่มหนุ่มสาวทั้งผู้เข้าร่วมรายการและทีมงานต้องมาพบกับเรื่องราวสยองขวัญในบ้านที่มีอดีตอันน่ากลัวแฝงอยู่ โดยบ้านหลังนี้เคยมีเจ้าของเป็นหญิงสาวผมสวยที่ชอบกินผมเป็นอาหาร นานวันเข้าเธอไม่กินเฉพาะผม แต่เธอเริ่มจะกัดกินเนื้อบริเวณศีรษะด้วย จนสามีของเธอต้องจับเธอไปขังในห้องลับและฆ่าตัวตายตามกันไป..!! แต่วิญญาณของเธอยังคงวนเวียนอยู่และหลอกหลอนผู้มาเยือน เมื่อทุกคนได้รู้ความจริง พวกเขาต่างหาทางออกจากบ้านหลังนี้ แต่จะมีสักกี่คนที่สามารถมีลมหายใจออกจากที่นี้ไปได้