She เรื่องรักระหว่างเธอ (2555/2012) บัว" (ต่าย - เพ็ญพักตร์ ศิริกุล) ผู้หญิงคนหนึ่งที่เหมือนจะมีชีวิตที่สมบูรณ์แบบตัดสินใจหันหลังให้สามี (ฟลิ้น - ศุภชัย เกิดสุวรรณ) และ "แพร" ลูกสาว (มายด์ - ปภัสร์ศมล ภวัฒน์กมลภัทร์) ด้วยเหตุผลที่ไม่สามารถบอกพวกเขาได้ ความโดดเดี่ยว ความเหงา กำลังใจ ที่เข้ามาโดยไม่เรียกร้องจาก ช่างภาพหญิงผู้มาดมั่นกับการทำงานที่ชื่อ "จูน" (แอน - ศิริวรรณ เบเกอร์) ทำให้เธอค้นพบความหมายที่ลึกซึ้งของความรักครั้งใหม่ของชีวิต "ดา" (กวาง - อาภัสพร แสงทอง) คอลัมนิสต์รุ่นใหม่ไฟแรงถูกปล่อยคลิปลับจากแฟนหนุ่มทำให้สูญเสียความมั่นใจ เพื่อกู้วิกฤตครั้งนี้และเพื่อสร้างชื่อเสียงกลับมาเธอตัดสินใจทำคอลัมน์ "หญิงรักหญิง" โดยการเข้ามาตีสนิทกับ "บี" (กี้ - กิตติ์ชญาห์ แกะสุวรรณ) ทอมข้างห้องเพื่อใช้เป็นแหล่งข้อมูลในงานเขียน แต่ด้วยความใกล้ชิดและความจริงใจที่ได้จากบี ทำให้เธอสับสนว่า "ความรู้สึก" ที่เกิดขึ้นนั้นมันใช่ "ความรัก" หรือไม่ ? เชิญสัมผัสความรักของผู้หญิงที่ต้องใช้หัวใจรู้สึก... She เรื่องรักระหว่างเธอ
รักเอาอยู่ (2555/2012) ท่ามกลางมหาอุทกภัยน้ำท่วมกรุงเทพฯที่หนักที่สุดในประวัติศาสตร์ 50 ปี ของไทย ที่บังเอิญ ทำให้ นายถุงหนุ่มขี้บ่นพนักงานบริษัท index กับ ยัยเม่ยสุ่ย AE สาวสวย สุดห้าว ได้มาเจอกัน ด้วยคำชักชวนของเพื่อนสุดแสบอย่าง ส่างหม่อง จึงชวนกันไปเป็นจิตอาสาเพื่อหลีสาว ที่นั่นทั้งคู่ได้พบกับ สุ่ย และ บัว ส่างหม่อง รู้สึกชอบ สุ่ยทันทีที่เจอ แต่ สุ่ย เองกับไม่ถูกชะตากับถุงตั้งแต่แรกเห็น มิหนำซ้ำยังเข้าใจผิดคิดว่าถุงเป็นพวกโรคจิตชอบสะกดรอยสาว ๆ ทั้ง ๆ ที่จริงแล้วบ้าน สุ่ย กับบ้านถุงอยู่ทางเดียวกัน หลังจากนั้นไม่นานบริษัทของถุงได้จ้างบริษัทของ เม่ยสุ่ย ให้มาทำโฆษณา ทั้งคู่จึงต้องมาทำงานร่วมกัน ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้เต็มใจนัก เพราะ สุ่ย เองก็ทำตัวสุดแสบ ส่วนถุงเองก็บ่นได้ทุกเรื่อง แต่พอได้ใกล้ชิดกันทั้งคู่ก็เริ่มผูกพันกัน ท่ามกลางสถานการณ์น้ำท่วมกรุง แต่ถุงเองก็ไม่กล้าเผยความในใจได้ เพราะ สุ่ย เองก็มี รังสิตคนรักเก่าที่ยังคอยป้วนเปี้ยนมาขอคืนดีอยู่ตลอดเวลา รวมถึง ส่างหม่อง ที่เฝ้าหลี สุ่ย อยู่ไม่ยอมห่างเช่นกัน หลังจาก Big cleaning ได้ไม่นาน ถุงตัดสินใจย้ายไปทำงานที่เกาหลี ตอนนั้นเอง สุ่ย ถึงได้รู้ใจตัวเอง เมื่อสายไปแล้ว ทั้งคู่จากกันทั้ง ๆ ที่ไม่มีอะไรสามารถติดต่อกันได้ ทั้งคู่ได้แต่รอวันเวลาให้ผ่านไป เพื่อถึงเวลาที่เหมาะสม ที่จะได้พบกันอีกครั้ง
The Melody รักทำนองนี้ (2555/2012) เพลงรักนับล้านที่มีมากมายอยู่บนโลก แต่มีแค่เพลงเดียวที่มันเป็นของเราสองคน “The Melody รักทำนองนี้” เมื่อดนตรีนำพาทั้งคู่ให้เจอกัน เนื้อเพลงและความหมายที่มีอยู่ต่อจากนี้ จึงเต็มไปด้วยความรู้สึกและความรัก…ที่มีอยู่จริง เมื่อเส้นทางชีวิตของ “วิน” (แดน วรเวช) นักร้องและนักแต่งเพลงยอดนิยมผู้มีความมั่นใจในตัวเองสูง กำลังเข้าสู่ช่วงขาลงแบบสุดๆ ความเปลี่ยนแปลงที่ยากจะยอมรับทำให้วินหนีไปซ่อนตัวที่แม่ฮ่องสอน เมืองเล็กๆ บนภูสูง ที่ที่ทำให้เขาบังเอิญพบกับ “หมอก” (ฉัตร ปริยฉัตร) นักเปียโนฝีมือดี สาวจอมตื๊อที่มักชอบบังคับให้เขาทำในสิ่งที่เกลียดอยู่เสมอ และแล้วเธอก็เข้ามาเปลี่ยนแปลงชีวิตของเขาโดยไม่รู้ตัว ความใกล้ชิดและดนตรีทำให้วินได้เรียนรู้ว่า ทำนองเพลงที่บรรเลงได้ไพเราะที่เขาค้นหามาตลอดชั่วชีวิต คือเสียงหัวใจของผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าของเขานี่เอง แต่กว่าวินจะรู้ตัว โชคชะตาก็นำพาอุปสรรคสำคัญเข้ามา สิ่งที่จะทำให้วินและหมอกเรียนรู้ที่จะเป็นแรงบันดาลใจของกันและกัน บททดสอบที่จะทำให้คู่รักทุกคู่รู้จักไขว่คว้าความสุข แม้ว่าจะอยู่ในมุมมืดมิดของความทุกข์ที่กำลังก่อตัวขึ้นมา เพลงที่เธอแต่งทำนองและเขาช่วยแต่งคำร้องที่บริสุทธิ์ที่สุดที่บทเพลงทั้งหมดเคยบรรเลงมา ร่วมซึ้งไปกับบรรยากาศสุดโรแมนติกในเมืองแห่งสายหมอก กับบทเพลงอันไพเราะด้วยฝีมือการแต่งเพลงจากนักแสดงนำ “แดน วรเวช” และนักร้องเสียงอบอุ่นอย่าง “บอย ตรัย” ที่จะมาเปลี่ยนแปลงฤดูหนาวของใครหลายคน ให้กลายเป็นฤดูที่หัวใจเต้นเป็นทำนองใหม่ที่อบอุ่นที่สุด
It Gets Better ไม่ได้ขอให้มารัก (2555/2012) การเดินทางตามหารักแท้ของ 3 คน ที่ทำให้ทุกที่ที่พวกเขาและเธอเดินทางไป ต่างทำให้คนที่พวกเขาตกหลุมรักต่างปั่นป่วนกันไปทั่ว สายธาร (เพ็ญพักตร์ ศิริกุล) กะเทยแปลงเพศรุ่นปลดระวางในมาดเหมือนก๊อบปี้หลุดมาจากนางเอกหนัง เธอเดินทางไปหมู่บ้านบนดอยในภาคเหนือจึงได้พบกับ ไฟ (ปรมะ อิ่มอโนทัย) ช่างซ่อมมอเตอร์ไซค์หนุ่มรูปหล่อที่ขโมยทั้งตัวและหัวใจของเธอไปทันทีที่เธอ จะขับรถชนเขาในตลาด เธอต้องหาทางทำทุกวิถีทางให้เขามองข้ามเพศชายที่เธอเคยเป็นและหันมามองเธอที่หัวใจให้ได้ ต้นไม้ (ภาณุพงศ์ วราเอกศิริ) หนุ่มหล่อที่เดินทางมาจากเมืองนอกเพื่อมารับมรดกซึ่งเป็นบาร์โชว์กะเทยของพ่อที่ตายไปซึ่งเขาต้องการจะปิดบาร์และกลับเมืองนอกถ้าเขาไม่ได้พบรักกับ ต้นหลิว (นันทิตา ฆัมภิรานนท์) กะเทยทอมบอยที่เป็นคนขับรถตู้ของบาร์ แต่เขาก็ไม่แน่ใจในความรู้สึกของตัวเองที่มีต่อเธอที่เป็นผู้ชายมาก่อน เขาจะทำอย่างไรกับหัวใจอันสับสนของตัวเอง ดิน (พาวิช ทรัพย์รุ่งโรจน์) เด็กหนุ่มวัยมัธยมที่พ่อจับได้ว่ากำลังจะเป็นกะเทย พ่อจึงจับเขาเดินทางไปบวชที่วัดเพื่อฝึกตัวให้เป็นผู้ชาย แต่ที่วัดแห่งนั้นดินก็ไปพบกับ หลวงพี่แสง (กฤษตฌาพนธ์ ธนะนารา) พระพี่เลี้ยงใจดีที่คอยดูแลเขา เขาจึงอดใจไม่ไหวที่จะมอบหัวใจให้กับเขา แต่ก็ด้วยอยู่ในผ้าเหลืองเขาจึงจำใจต้องสะกดความรู้สึกตัวเองเอาไว้แต่จะเก็บอาการได้มากแค่ไหนนั้น ใครจะไปรู้ ทั้ง3 คู่ 6 หัวใจนั้น ต้องฝ่าฟันกับความเชื่อของผู้คนในสังคมมากมายจนอาจจะ ไม่สามารถก้าวข้ามความต้องการของหัวใจตัวเองก็เป็นได้ ทั้งที่ความจริงแล้วพวกเขาเหล่านั้นไม่ได้ต้องการความรัก ขอแค่ความเข้าใจ
วาเลนไทน์ สวีทตี้ (2555/2012) เพราะเชื่อว่าทุกคนอยากได้ "สภาวะทิ้งตัว" ทุกคนอยากได้ ใครซักคนที่เรารัก ใครซักคนที่รักเรา ใครซักคนที่พึ่งพิงได้ และใครซักคนที่เราสามารถทิ้งทั้งตัวและหัวใจไว้กับเค้าได้ เรื่องราวความรักของคนเหล่านี้ เริ่มต้นขึ้นในคืนวันคริสมาสอีฟ และจบลงในคืนวันวาเลนไทน์ "คนบางคนหลงรักแฟนเพื่อน และคนบางคนหลงรักเพื่อนแฟน" "ผู้ชายบางคนเป็นพี่ชายที่น่ารักดี และผู้หญิงบางคนอยากหาพี่ชายดี ๆ มาเป็นคนรัก" "คนบางคนแยกไม่ออกด้วยซ้ำว่าเป็นคู่รักหรือเป็นคู่แข่ง และคนบางคนที่ยอมแพ้เพราะยอมให้" "คนบางคนไม่รู้ว่าหลงรักเพื่อนตัวเอง และคนบางคนไม่รู้ว่าเป็นเพื่อนรักหรือเป็นคนรัก" "คนบางคนต้องการหาใครซักคนบนโลกมาเป็นคนรัก และใครบางคนต้องการเป็นคนถูกรักมากที่สุดในโลก" "คนบางคน เมื่อมีความรักที่ดีดันไปทำเลว และเมื่อเวลาที่จะทำดี ใคร ๆ ก็ดันเชื่อว่าเดี๋ยวก็จะเลว" หลายครั้งที่เราสรุปว่า นี่คือตอนจบของความรัก แต่เชื่อเถอะ บางทีมันอาจจะไม่ใช่จุดจบ แต่มันอาจจะเป็นจุดเริ่มต้นด้วยซ้ำ จากภาพยนตร์เรื่องนี้ ทำให้เราเชื่อได้ว่า ความรักจะจบลงเมื่อไหร่ก็ได้ และความรักจะเริ่มต้นขึ้นเมื่อไหร่ก็ได้เช่นกัน คนรักของเราอาจจะเป็นคนนี้ก็ได้ เป็นคนใหม่ก็ได้ หรืออาจจะเป็นคนเก่าก็ได้ ความรักเป็นเรื่องที่ไม่ได้สวยงามอย่างเดียว มันมีเรื่องที่เลวร้ายรวมอยู่ด้วย แต่เมื่อเราเลือกที่จะมีคนรักแล้วล่ะก็ เราควรจะยอมรับทั้งส่วนที่สวยงามและส่วนที่เลวร้ายของคนรักเราด้วย...
รักเลี้ยว.. เฟี้ยวว!! (อ่ะ) (2555/2012) กรธวัช (หลุยส์ สก็อตต์) ชายหนุ่มหน้าตาดี ฐานะดี มีการศึกษาสูงเป็นชายในฝันของหญิงสาวทั่วไป วันหนึ่งเมื่อเขาตื่นขึ้นมาในที่แห่งหนึ่ง ซึ่งเต็มไปด้วยธรรมชาติของขุนเขาและสายน้ำอันแสนจะสวยงาม อุดมสมบูรณ์ ซึ่งแตกต่างกันอย่างมากมายกับสถานที่ ที่เขาจากมา เขาได้ค้นพบความหมายของชีวิตบางอย่างที่นี่ ที่ ภูทับเบิก ซึ่งมีเรื่องราวของชีวิตพอเพียง และได้จุดประกายบางสิ่งบางอย่างขึ้น และเพื่อแก้ไขความสับสนยุ่งยาก ซับซ้อน ในชีวิตของเขาที่เกิดขึ้น กรธวัช จึงเริ่มค้นหาคำตอบ โดยการเดินทางไปยังที่ต่าง ๆ เขาเริ่มเดินทางจาก ภูทับเบิก ซึ่งอาจจะถือได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นการดำเนินชีวิตในแบบใหม่ของเขา ต่อไปยัง เชียงคาน เมืองเลย เชียงใหม่ หัวหิน เวียงกาหลง จ.เชียงราย ซึ่งเป็นสถานที่โบราณ ที่ทำให้ กรธวัช ได้ค้นพบคำตอบที่สามารถเป็นแนวทางเพื่อแก้ไขปัญหาความสับสน ยุ่งยาก และซับซ้อนในชีวิตของเขาได้ และถึงแม้ว่าจะรู้แนวทางแก้ไขแล้ว แต่การเดินทางไปในที่ต่าง ๆ การได้พบเจอผู้คนหลากหลาย ความแตกต่างในการดำเนินชีวิตของผู้คนที่เขาได้รู้จักระหว่างทาง กลับทำให้ กรธวัช ต้องเลือกอีกครั้ง ว่าเขาจะใช้แนวทางคำตอบที่เขาได้รับรู้มา แก้ไขปัญหาของเขาดีหรือไม่ หรือว่าจะปล่อยทิ้งไว้อย่างเดิมต่อไป บางทีคุณอาจจะช่วย กรธวัช ได้
รัก An Ordinary Love Story (2555/2012) โน้ต (โกเมน เรืองกิจรัตนกุล) กำลังวางแผนขอ น้ำ (เบญจณัฎฐ์ อักษรนันทน์) แต่งงาน ทั้งคู่วาดฝันที่จะมีพิธีวิวาห์ ณ รีสอร์ทริมชายหาดหัวหินอย่างเรียบง่าย โดยมี คุณหนึ่ง (บิลลี่ โอแกน) เจ้าของบริษัทโฆษณา เจ้านายของ "น้ำ" และภรรยาคือ คุณวินนี่ (ซอนย่า คูลลิ่ง) เจ้าของรีสอร์ท อดีตนักแสดงผู้กำลังจะหวนกลับสู่วงการบันเทิงอีกครั้ง เป็นโต้โผจัดงานสมรสให้อย่างพิถีพิถัน คู่บ่าวสาวยังได้รับความช่วยเหลือจาก รุ่นน้องแสนซน พลอย (แพรว คณิตกุล) มาเป็นคนเก็บภาพวิดีโอเบื้องหลังของช่วงเวลาอันแสนอลหม่านก่อนงานวิวาห์นี้ พร้อมกับ ตั้ม (วทัญญู นิวัติศัยวงศ์) ตากล้องหนุ่มมาดเซอร์สุดยียวน ที่คอยป่วนหัวใจพลอยตลอดเวลา เรื่องราวของทั้งคู่วุ่นวายพอ ๆ กับ กาย (สุรเกียรติ บุนนาค) ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของวินนี่และหนึ่ง ที่ต้องโคจรมาเจอ โบ้ท (อวบอ้วน - วัฒนา ชุมสาย ณ อยุธยา) พ่อครัวหัวป่าก์ประจำรีสอร์ท ด้วยความร่วมมือจากหลาย ๆ ฝ่าย งานวิวาห์ที่มีคอนเซ็ปต์สุดแสนจะกิ๊บเก๋จาก ซูซี่ สาวหัวครีเอทีฟสุดเพี้ยน (อิม อชิตะ) ก็เริ่มเป็นรูปเป็นร่าง ไปพร้อม ๆ กับความรักจากอีกหลายคู่ที่เริ่มก่อตัวขึ้นไปพร้อม ๆ กัน โดยว่าที่เจ้าบ่าว-เจ้าสาวมือใหม่ ยังต้องเผชิญกับบททดสอบหัวใจครั้งสำคัญ... "คำ ๆ เดียวที่สร้างเรื่องราวได้ไม่รู้จบ"
Fatherland ปิตุภูมิพรมแดนแห่งรัก (2555/2012) ภาพยนตร์ดัดแปลงมาจากนิยายเรื่อง พรมแดน ของศิลปินแห่งชาติ เรื่องราวเกี่ยวกับการตีแผ่ปัญหาความรุนแรงของพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
รักสุดท้าย ป้ายหน้า (2555/2012) ความรักสุดป่วนของหนุ่มสาวต่างวัย ที่สร้างจากนิยายสุดฮิต "หนุ่มม.ปลาย VS สาววัยทำงาน" ฝีมือการแต่งของ โรบินฮู้ด (Robinhood) ซึ่งติดอันดับ Top5 ของเว็บไซต์วัยรุ่นชื่อดัง และถูกนำมาตีพิมพ์ในปี 2550 โดยสำนักพิมพ์ บลูเบลล์ (Bluebell) ความสนุกสนานของนิยายเรื่องนี้ได้ถูกตาต้องใจ กิรติ นาคอินทนนท์ ผู้กำกับภาพยนตร์ฝีมือดีจากวงการโฆษณาและทีมงานได้ตัดสินใจซื้อลิขสิทธิ์บทประพันธ์มาตั้งแต่ต้นปี 2552 และพัฒนามาอย่างต่อเนื่องร่วมกับทาง บ.ไฟว์สตาร์ฯ จนมาเป็นภาพยนตร์เรื่อง "รักสุดท้าย ป้ายหน้า" ในปัจจุบัน โดยได้นักแสดงสาวเจ้าบทบาท รถเมล์ - คะนึงนิจ จักรสมิทธานนท์ ประกบคู่กับนักแสดงหน้าใสวัยกิ๊ก เพ็ชร - ฐกฤต เหมอรรณพจิต ร่วมด้วย กบ ทรงสิทธิ์ รุ่งนพคุณศรี, สิ พิชญ์สินี ตันวิบูลย์, เกตุ ธัญญา รัตนมาลากุล, โมทช์ ปราโมทช์ เทียนชัยเกิดศิลป์, ฤทัยวรรณ วงศ์สิรสวัสดิ์ ฯลฯ เรื่องย่อ ชนิสา สาวออฟฟิศอายุ 25 ปี ที่ไม่เคยจะรักใครจริง ๆ จัง ๆ ได้สักที ไม่ใช่ว่าสาไม่รักใครแต่เป็นเพราะสายังยึดมั่นกับ "รักครั้งแรกŽ" ที่มีต่อ พี่โอม รุ่นพี่ที่แอบรักมาตั้งแต่สมัยเรียนประถมจนถึงมัธยม แต่พี่โอมกลายเป็นแฟนกับ พี่แพม โดยที่สาไม่ทันจะได้สารภาพรักเสียด้วยซ้ำ กระนั้นสาก็ไม่เคยลืมพี่โอมได้เลย จนกระทั่งโชคชะตาส่งพี่โอมกลับเข้ามาในชีวิตของสาอีกครั้ง และในครั้งนี้ พี่โอมบอกกับสาตรง ๆ ว่าเขามีความสุขมากที่ได้พบกับสาอีก แน่นอนว่าความหวังในรักแรกที่ริบหรี่กลับมาโชติช่วงชัชวาลสว่างไสวอีกครั้ง แฟนคนแรกมาแล้ว อีกไม่นานจูบแรกก็จะมาถึง ขณะที่สากำลังฝันหวานถึงความสัมพันธ์ของเธอกับโอมอยู่บนรถเมล์ ตอนนั้นเอง รถคันข้าง ๆ เกิดอุบัติเหตุ สาชะโงกไปดูเหตุการณ์นั้น และเมื่อหันหน้ากลับมาปากของสาก็ไปกระทบเข้ากับปากของเด็กมัธยมเมื่อวานซืน‚ จบกัน!!!...จูบแรกของสา
ATM เออรัก เออเร่อ (2555/2012) เรื่องราวของ เสือ (เต๋อ ฉันทวิชช์) กับ จิ๊บ (ไอซ์ ปรีชญา) พนักงานในแผนกเอทีเอ็มภาคตะวันออกจึงแอบลักลอบคบกันอย่างลับ ๆ มาเป็นเวลา 5 ปี โดยที่ไม่มีใครระแคะระคาย จนกระทั่ง วันหนึ่งเรื่องแดงขึ้นมาว่ามีชายหญิงในแผนกคู่หนึ่งแอบฝ่าฝืนกฎข้อนี้ ซึ่งพอจับได้ จิ๊บในฐานะหัวหน้าแผนกเลยจำใจต้องไล่คนใดคนหนึ่งออก เหตุการณ์นี้ทำให้เธอตัดสินใจบอกเลิกกับ เสือ แต่เสือเสนอทางออกใหม่คือแต่งงานกัน โดยที่ให้จิ๊บลาออกแทน โดยที่เขาจะดูแลเธอเอง แต่ด้าน จิ๊บ อ้างความเป็นหัวหน้า ไม่มีใครยอมใคร จนเกิดสงครามจิตย่อม ๆ ในที่ทำงาน จนกระทั่งเกิดเรื่องใหญ่ เมื่อจู่ ๆ ตู้เอทีเอ็มที่ชลบุรีเกิดแฮงก์จ่ายเงินเกินไป 130,000 บาท จิ๊บดวงซวยได้รับมอบหมายจากหัวหน้าฝ่ายให้ไปตามหาตัวคนที่กดเงินเกินไปภายใน 2 อาทิตย์ ไม่เช่นนั้นจะถูกริบเท็นเยียร์โบนัส แต่เธอได้พลิกวิกฤตวางกับดักให้ เสือ มาติดกับ โดยบอกว่าเธอต้องไปทำภารกิจนี้กับลูกชายหัวหน้าฝ่าย (โจ๊ก กรภพ) สองต่อสอง ทำให้เสือต้องรีบตัดหน้าอาสาไปทำแทน ซึ่งถ้างานไม่สำเร็จเสือต้องเป็นคนลาออก ต่อมา เสือ ได้รู้ว่าโดน จิ๊บ หลอกเขาเต็มเปา เพราะเธอโดดลงสนามตามเงินแข่งกับเสือ แมตซ์นี้ทำให้ "คู่รัก" กลายมาเป็น "คู่แข่ง" ไล่ล่าหาตัวผู้ที่กดเงินเกินจาก เอทีเอ็ม ซึ่งเหล่าเหยื่อที่รู้ตัวว่ากำลังถูกตามจากธนาคาร แต่ละคนก็งัดสารพัดวิธีที่จะยื้อไม่ยอมคืนเงินกลับมาง่าย ๆ เลยยิ่งทำให้มิชชั่นการตามเงินครั้งนี้ยิ่งดูเวรี่อิมพอสสิเบิ้ลเข้าไปอีก ทำให้ต้องมาลุ้นว่า สงครามของหนุ่มสาวออฟฟิศคู่นี้จะลงเอยอย่างไร และใครจะเป็นผู้ชนะ?
รักเว้ยเฮ้ย! (2555/2012) "ลวก" หนุ่มช้ำรัก กับ "น้าหมา" หนุ่มนักรัก เมื่อต้องบังเอิญมาเจอกัน เขาทั้งคู่จึงเริ่มลงมือปฏิบัติการเผด็จศึกพิชิตใจสาว ด้วยลีลาการจีบสาวขั้นเทพ ทั้งแปลก ทั้งแหวก และทั้งเพี้ยนจนสาว ๆ จะต้องกรี๊ดดดด…..เว้ยเฮ้ย !!! "ลวก" (รับบทโดย สตาร์บัค สาระแน) หนุ่มโปรแกรมเมอร์หน้าตาสุดเนิร์ด แต่งตัวสุดติ๋ม แถมยังอ่อนหัดด้านลีลารัก จีบใครมันก็แห้ว จีบกี่ครั้งมันก็วืด ชีวิตมีแต่โดนทิ้ง! ทิ้ง! ทิ้ง! และทิ้ง!…แต่ลวกก็ยังไม่เข็ด ดันไปปิ๊งรัก "โต๊ะอี้" (รับบทโดย ชญานุช บุญธนาพิบูลย์) เธอคือ ดีเจสสาวสุดฮ๊อต สวยสุดเปรี้ยว หนุ่มน้อย หนุ่มใหญ่ตามจีบกันให้วุ่นวาย "นางฟ้าโต๊ะอี้...ของลวก" ... แหวะ! มุกเลี่ยน ๆ เสี่ยว ๆ เชย ๆ ไม่มีสาวคนไหนเขาเล่นด้วยหร้อกก…ลวกจึงคอตกหมดหวัง แต่แล้วฟ้าดันประทานเทพบุตรนักรัก "น้าหมา" (รับบทโดย เปิ้ล นาคร) หนุ่มเก๋ารุ่นใหญ่จอมเพี้ยน กูรู หรือ กูรู้ด้านการจีบสาวระดับปรมาจารย์มาให้แด่ลวก ปฏิบัติการภารกิจจีบสาวจึงเริ่มต้นขึ้น "น้าหมากับลวก" สองคู่ซี้ดูโอ้จะมาปั่นป่วน และเข้าไปวิ่งเล่นในหัวใจสาว ๆ แบบไม่ทันตั้งตัว ด้วยวิธีจีบสาวสไตล์(น้า)หมา ๆ ที่สาวเจอยังต้องกรี๊ดด...ตุ๊ด แต๋ว เจอยังต้องสยบ กับหนังรักฮาอารมณ์ดี ที่จะชวนให้ทุกคนตะโกนบอก "รักเว้ยเฮ้ย!"
ส.ค.ส. สวีทตี้ (2554/2011) เพราะเชื่อว่าทุกคนอยากได้ "สภาวะทิ้งตัว" ทุกคนอยากได้ ใครซักคนที่เรารัก ใครซักคนที่รักเรา ใครซักคนที่พึ่งพิงได้ และใครซักคนที่เราสามารถทิ้งทั้งตัวและหัวใจไว้กับเค้าได้ เรื่องราวความรักของคนเหล่านี้ เริ่มต้นขึ้นในคืนวันคริสมาสอีฟ และจบลงในคืนวันวาเลนไทน์ "คนบางคนหลงรักแฟนเพื่อน และคนบางคนหลงรักเพื่อนแฟน" "ผู้ชายบางคนเป็นพี่ชายที่น่ารักดี และผู้หญิงบางคนอยากหาพี่ชายดี ๆ มาเป็นคนรัก" "คนบางคนแยกไม่ออกด้วยซ้ำว่าเป็นคู่รักหรือเป็นคู่แข่ง และคนบางคนที่ยอมแพ้เพราะยอมให้" "คนบางคนไม่รู้ว่าหลงรักเพื่อนตัวเอง และคนบางคนไม่รู้ว่าเป็นเพื่อนรักหรือเป็นคนรัก" "คนบางคนต้องการหาใครซักคนบนโลกมาเป็นคนรัก และใครบางคนต้องการเป็นคนถูกรักมากที่สุดในโลก" "คนบางคน เมื่อมีความรักที่ดีดันไปทำเลว และเมื่อเวลาที่จะทำดี ใคร ๆ ก็ดันเชื่อว่าเดี๋ยวก็จะเลว" หลายครั้งที่เราสรุปว่า นี่คือตอนจบของความรัก แต่เชื่อเถอะ บางทีมันอาจจะไม่ใช่จุดจบ แต่มันอาจจะเป็นจุดเริ่มต้นด้วยซ้ำ จากภาพยนตร์เรื่องนี้ ทำให้เราเชื่อได้ว่า ความรักจะจบลงเมื่อไหร่ก็ได้ และความรักจะเริ่มต้นขึ้นเมื่อไหร่ก็ได้เช่นกัน คนรักของเราอาจจะเป็นคนนี้ก็ได้ เป็นคนใหม่ก็ได้ หรืออาจจะเป็นคนเก่าก็ได้ ความรักเป็นเรื่องที่ไม่ได้สวยงามอย่างเดียว มันมีเรื่องที่เลวร้ายรวมอยู่ด้วย แต่เมื่อเราเลือกที่จะมีคนรักแล้วล่ะก็ เราควรจะยอมรับทั้งส่วนที่สวยงามและส่วนที่เลวร้ายของคนรักเราด้วย...
The Legend Of Ka-kee กากี ทะลุมิติ (2554/2011) การกลับมาของ กากี ผู้หญิงซึ่งได้ชื่อว่าหญิงงาม กายหอมที่หวนคืนมาเพื่อต้องการให้โลกรู้ว่า เธอไม่ได้เลวดังคำร่ำลือ.... พบกับ เชอร์รี่ สามโคก กับบทบาทอันเร่าร้อน ร้อนแรง..... นรินทร์ นักเขียนหนุ่มได้รับมอบหมายให้เขียนวิจารณ์พฤติกรรมของกากีกับเรยา โดยในวันหนึ่ง ขณะที่เขาศึกษางานอยู่นั้นเขาก็ได้พบกับกากีจากในฝันซึ่งในภพนั้นเขาก็เป็นหัวหน้าโจรป่า เป็น เพราะด้วยความผูกพันในภพภูมิของทั้งสองทำให้กากีได้หลุดทะลุมิติออกมาในยุคปัจจุบัน แต่ ด้วยมิติแห่งกาลเวลาซึ่งทำให้กากีไม่สามารถอยู่ในโลกปัจจุบันได้ตลอด นรินทร์ จึงต้องหา ทางออกให้ได้
30 กำลังแจ๋ว (2554/2011) จ๋า (พัชราภา ไชยเชื้อ) สาวเอเจนซี่โมษณาวัยย่าง 30 กำลังแจ๋วไปซะทุกเรื่อง ทั้งรูปร่างหน้าตาที่แสนจะแจ่มเจิดจรัสเต็มดีกรี หน้าที่การงานกำลังไปได้สวย เธอมีไลฟ์สไตล์สุดเริ่ดกับการรับจัดปาร์ตี้เฮาส์แฮงเอ้าท์เฮฮากับเพื่อน ๆ และมีชีวิตรักสุดเปอร์เฟ็กต์กับ นภ (ปีเตอร์ คอร์ป ไดเรนดัล) กัปตันหนุ่มรูปงามที่บ่มความรักกันมาตั้ง 7 ปี ถึงมันจะย่างเลข 3 ในอีกไม่กี่วันนี้แล้ว แต่เธอช่างมีความสุขเหลือเกิน ช่วงเวลานี้ช่างเป็นเวลา "30 กำลังแจ๋ว" ของเธอจริง ๆ เค้กก้อนโตบนโต๊ะ ปักเทียนเลข 3 และ 0 จ๋า ฉลองวันเกิดกับ นภ อย่างมีความสุข ทุกฝันในชีวิตของเธอที่มีเขาอยู่เคียงข้างค่อย ๆ ถูกถ่ายทอดออกมาให้ผู้ชายที่เธอรักฟังจนหมด ไม่ว่าจะเป็นบ้านของเรา งานแต่งงานของเรา จนกระทั่งถึงเรื่องลูกของเรา โดยที่เธอไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่า ทันทีที่เธอพรั่งพรูความฝันออกมากองพร้อมแพลนชีวิตทั้งหมด มันทำให้ นภ เกิดความกลัวว่าเขาจะสูญเสียพื้นที่ความอิสระส่วนตัวของเขาไป เขาจึงขอถอยห่างความสัมพันธ์กับจ๋าในวันที่จ๋าถูกจัดว่าเป็นสาวเต็มวัย 30 พอดิบพอดี จ๋า ตะโกนก้องดัง ๆ ในใจว่า "มาขอห่าง ๆ อะไรกันตอนฉันอายุสามสิบ ฉันจะเริ่มกับใครใหม่ได้!!!" แต่เธอหารู้ไม่ว่าจุดสิ้นสุดของบางสิ่ง จะเป็นจุดเริ่มต้นของอีกหลายสิ่งเช่นกัน และจุดสิ้นสุดของความสัมพันธ์ในวันที่อายุ 30 มันกำลังจะกลายเป็นวันแห่งการเริ่มต้นที่จะทำให้ 30 ของเธอกลายเป็น 30 กำลังแจ๋ว ยกกำลังความแจ๋วดับเบิ้ลแจ๋ว ชนิดที่ตัวเธอเองก็ไม่คาดคิดว่ามันจะแจ๋วได้ขนาดนี้ เทียนบนเค้กเปลี่ยนเลขไป จ๋า ฉลองวันเกิดอีกปีกับบรรดาเพื่อนซี้สุดเปรี้ยว อันมี ป้าอ้วน (อรอานิญช์ พีรชาขจรพัฒน์), เจ๊ใหญ่ (วรินดา ดำรงผล), ซี (เบญจวรรณ์ เพียรทำดี), ยุ้ย (ศศพินทุ์ ศิริวานิช) และ เซน (นิธิศ วารายานนท์) หนุ่มเซอร์รุ่นน้องผู้ช่วยของเธออย่างสนุกสนานโดยไม่รู้ตัวสักนิดว่ารอยยิ้มและเสียงหัวเราะของเธอไปติดตราตรึงใจหนุ่มน้อยอีกคนหนึ่งนามว่า ปอ หรือ รศิต (ภูภูมิ พงศ์ภานุ) หนุ่มน้อยหน้าตาแจ่มแจ๋วเจ้าของรอยยิ้ิมสดใส แววตาเต็มไปด้วยความร่าเริงเปิดเผย ที่สำคัญเขาอายุน้อยกว่าเธอ 7 ปี และ มีความเชื่อว่าจากสถิติล่าสุดเท่าที่มีการสำรวจอายุขัยของคนเราพบว่าผู้ชายเสียชีวิตก่อนผู้หญิงประมาณ 7 ปี พี่เกิดก่อนผม 7 ปี ถ้าผมกับพี่แต่งงานกัน แล้วเป็นไปตามนั้นผมก็จะตายพร้อม ๆ กับพี่พอดีแหล่ะ ไม่ดีเหรอจะได้ไม่ต้องทิ้งให้อีกคนร้องไห้ไว้ข้างหลัง "30 ช่างยกกำลังแจ๋วสุด ๆ" ในความรู้สึกของ จ๋า หัวใจเธอกำลังยิ้ม และมีชีวิตชีวาไปกับสารพัดความพยายามของเจ้าเด็กปรสิต (ปอ+รศิต) เขากระตือรือร้น ที่จะทำให้เธอมั่นใจ และเชื่อใจตามคำพูดของเขาว่า "พี่เป็นคนพิเศษสำหรับผมนะ จนผมลืมไปแล้วว่าพี่อายุเท่าไหร่"
30+ โสด ON SALE (2554/2011) อิง (เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์) ช่างภาพสาวฝีมือดีพอ ๆ กับหน้าตา คือตัวแทนของสาว 30 อัพ ที่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน มีสตูดิโอถ่ายรูปชื่อดังเป็นของตัวเอง มั่นอกมั่นใจในตัวเองสูงตามสไตล์สาวมั่นยุคใหม่ที่เชื่อว่ายังไงก็ตาม คาน ไม่ใช่แหล่งพักพิงสุดท้ายสำหรับสาวสวยรวยความสามารถอย่างเธอจะสิงสถิตย์อยู่ ถ้าบังเอิญแฟนหนุ่มที่คบกันมา 7 ปี ไม่ขอเธอแต่งงานซะก่อน แต่เป็นการขอไปแต่งงานกับคนอื่น อิง มีเพื่อนสาวทั้ง 2 ต้องคอยหาคู่เดทให้กับเธออย่าง มิ้นท์ (พิจิตตรา สิริเวชชะพันธ์) สาวเปรี้ยวชอบกินเด็ก แนะพาไปทางโลก ตรงเข้าฟิตเนสหาครูฝึกหนุ่ม ๆ หรือปาร์ตี้จับคู่ แนะนำผู้ชายมาไม่ซ้ำหน้า ตามด้วย ยี้ (สุดารัตน์ บุตรพรม) สาวเฟมินิสต์ แนะนำทางธรรม ชวนนั่งสมาธิ ทำตัวเพื่อสังคม พาไปประท้วงการสร้างซูเปอร์มาร์เก็ตต่างชาติ แต่ก็ยังไม่ถูกใจ อิง สักคน เมื่อเข้าตาจนอยู่ ๆ ฟ้ามีตาส่ง จืด (อารักษ์ อมรศุภศิริ) หนุ่มหน้าตาสมชื่อมาช่วยเธอตามหาผู้ชายในฝัน พร้อมกับสารพัดวิธีที่จะช่วยให้ สาว30+อย่าง อิง ลงจากคาน เพียงแต่เจ้าตัวต้องเชื่อใจและทำตามที่จืดบอก และแล้วผู้ชายที่ต้องการก็จะมาจริง แทน (เดิมพัน อยู่วิทยา) คือผู้ชายที่อิงใฝ่ฝัน เพียบพร้อมทุกอย่างตามสเปคที่เธอต้องการ เป็นผู้ชายดี ๆ มหาเศรษฐีหนุ่มผู้มีศิลปะในหัวใจ รักการผจญภัยไปพร้อมกับรักโลกใบนี้ ที่สำคัญพร้อมจะรัก อิง อยู่ ๆ ก็มีผู้ชาย 2 คนเข้ามาเดินวนเวียนในชีวิต แทน เป็นผู้ชายที่ อิง ใฝ่ฝัน แต่ จืด กลับเป็นผู้ชายที่ อิง อยู่ด้วยแล้วสบายใจอย่างประหลาด ความรักมักเป็นแบบนี้ ตอนไม่มีมันก็ไม่มา แต่พอตอนทำใจได้ กลับมาให้เลือกจนวุ่นวาย ทุกครั้งที่หัวใจแตกสลาย จะเกิดรอยแยกพร้อมที่จะเพาะปลูกเม็ดพันธุ์ความรักต้นใหม่เสมอ แต่จะเลือกปลูกต้นอะไรอิงมาถึงจุดต้องตัดสินใจอีกครั้ง การตัดสินใจคราวนี้ไม่ต้องใช้เหตุผล แต่ใช้ความรู้สึก แต่จะรู้ได้อย่างไรว่า "ใช่"
เลิฟซัมเมอร์ รักตะลอนออนเดอะบีช (2554/2011) แจ็ค (ธนา เอี่ยมนิยม) วัยรุ่นผู้ที่ลุ่มหลงไปกับชีวิตฟุ้งเฟ้อไปวัน ๆ จนวันหนึ่งเขาได้พบกับ จอร์จ (ธันวา สุริยะจักร) หนุ่มลูกครึ่งไทย-อเมริกัน ซึ่งกำลังขาดเพื่อนร่วมเดินทางไปบ้านเกิดของแม่ที่ล่วงลับไปแล้ว ทั้งสองตัดสินใจเดินทางร่วมกัน ซึ่งระหว่างทางบังเอิญได้พบกับ ไข่มุก (พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์) สาวใสวัยน่ารักที่ขอติดรถไปด้วยเพราะต้องการไปตามล่าหาความฝันบางอย่าง เพียงเพื่อหวังให้พ่อภูมิใจกับสิ่งที่เธอได้ตัดสินใจทำลงไป แต่สิ่งที่เธอพยายามจะเป็นนั้นกลับไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริงของเธอ ในแบบที่เธอต้องการจริง ๆ ยูอิ (ยูอิ ทัตสึมิ) ดาราสาวหนัง AV ผู้ที่โด่งดังที่สุดในประเทศญี่ปุ่น แต่ ยูอิ กลับหลีกหนีความวุ่นวายจากบ้านเกิดเบนเข็มชีวิตมุ่งหน้าสู่เมืองไทยเพื่อต้องการหาที่สักที่ ที่มีคนที่รักเธออย่างจริงใจ และเมื่อแว่บแรกที่เธอได้พูดคุยกับ จอร์จ ผู้ที่มองเธอด้วยสายตาแบบไม่แยแส หรือใส่ใจในรูปร่างที่เซ็กซี่ของ ยูอิ เลยแม้แต่น้อย ด้วยจุดนี้เองจึงทำให้ ยูอิ อยากเอาชนะใจ จอร์จ เธอจึงยกมือขอเป็นอีกหนึ่งคนที่รวมทริปไปในครั้งนี้พร้อมกับเพื่อนตัวป่วนอย่าง บ๊อบ (โจนาธาน แซมซัน) จนได้มาพบ เอก (ธนา สุทธิกมล) เจ้าของรีสอร์ทหนุ่มสุดหล่อ!? มิตรภาพที่เพิ่มขึ้นระหว่างการเดินทางร่วมกันจาก "กรุงเทพ ถึง ภูเก็ต" เริ่มต้นแค่คนแปลกหน้า กลายมาเป็น "เพื่อน" และความเป็นเพื่อนต้องสะดุดลง ด้วยความรู้สึกที่ "มากกว่าเพื่อน" ใครจะ "ซื่อสัตย์" ต่อความรู้สึกตัวเองได้ก่อนกัน ทั้ง 4 คนนี้ ใครจะเป็น คนอยู่ และ ใครจะต้องเป็นฝ่ายเดินจากไป
Camellia รักแรก รักเธอ รักสุดท้าย (2554/2011) Iron Pussy (ไมเคิล เชาวนาศัย) คือสายลับในยุค 70 ที่ถูกส่งมาปฏิบัติภารกิจที่ปูซาน ทุกครั้งที่เขาได้รับภารกิจใหม่ เขาจะหายเข้าไปในร้านเสริมสวยก่อนจะกลับออกมาในคราบของสาวสวยทรงเสน่ห์ที่แสนเย้ายวน และอย่างไม่ทันตั้งตัว ขณะที่เธอไปที่ไนต์คลับแห่งหนึ่ง เธอก็พบว่าตัวเองได้ตกหลุมรักกับชายหนุ่มเกาหลีแสนดีคนหนึ่งเข้า (คิม มิน จุน) เมื่อความรักนั้นกำลังผลิดอกงดงาม กระทั่งภารกิจใหม่เข้ามาและ "เขาคนนั้น" ก็คือเป้าหมายที่เธอต้องฆ่า... Iron Pussy จะเลือกอะไรระหว่าง "ความรัก" กับ "หน้าที่" ที่เธอได้รับ
รักจัดหนัก Love, Not Yet (2554/2011) ทอมแฮ้ง - เรื่องวุ่น ๆ ของ นัท (อริสสรา เลอมวณ) สาวหล่อนักกีฬาบาสเกตบอลทีมโรงเรียนขวัญใจสาว ๆ ซึ่งเป็นเพื่อนซี้กับ เนม (นภัสสร เอี่ยมเจริญ) นักบาสฯ สาวสุดเซ็กซี่ที่ชอบจิ๊จ๊ะกับหนุ่ม ๆ ในคืนที่ทีมนักบาสทั้งหญิงชายชวนกันไปปาร์ตี้เลี้ยงปิดเทอม เลี้ยงฉลองกันจนเมาหัวทิ่ม นัทตื่นมาพบว่าตัวเองได้เสียสาวให้กับใครสักคนไปแล้วในคืนนั้น แม้เธอจะพยายามลืมเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่เหตุการณ์นี้ก็ทำให้ชีวิตพลิกผันไปอย่างไม่คาดคิด แล้ว นัท จะเลือกเส้นทางชีวิตต่อไปอย่างไร? ความเป็นเพื่อนที่แสนรักของ เนม จะช่วยเธอได้ไหม และแม่ (จินตหรา สุขพัฒน์) ผู้หวังดีและคอยช่วยหาทางออกให้กับลูกอยู่เสมอล่ะ จะใช่ผู้ชี้คำตอบให้แก่นัทได้จริง ๆ รึเปล่า? เป็นแม่เป็นเมีย - ม่อน (รัชพล แย้มแสง) นักกีฬามวยสากลอนาคตไกลระดับตัวแทนโรงเรียน เกิดพลาดทำให้ อิ๋ง (วรรณิศร เลาหมนตรี) สาวดาวโรงเรียนผู้ใฝ่ฝันอยากเป็นนักร้อง ตั้งท้องในขณะที่ทั้งคู่ยังเรียนอยู่ พวกเขาจึงต้องหยุดเรียนมาอยู่บ้าน เพื่อเรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตคู่อยู่ด้วยกัน ผ่านเหตุการณ์ชุลมุนแสนวายป่วงของบรรดาเพื่อน ๆ และคนรอบข้าง ที่ล้วนชวนให้ทั้งคู่ต้องฉุกคิดว่า การมีครอบครัวนั้นยากลำบากและวุ่นวายสาหัสเพียงใด ไปเสม็ด - เมื่อกลุ่มเพื่อนม.ปลาย 5 คนที่สนิทกันตอนเรียนพิเศษ ชวนกันไปฉลองสอบเสร็จ และรอลุ้นผลเอ็นทรานซ์ตามประสาวัยรุ่นที่เกาะเสม็ด ฤทธิความคึกคะนองและบรรยากาศชวนเคลิ้มทำให้ วิท (ศิครินทร์ ผลยงค์) และ แอน (ศิตา มหารวิเดชากร) สานสัมพันธ์อันลึกซึ้งโดยไม่แยแสอุปกรณ์ป้องกัน แต่เหตุการณ์แสนสุขสมในคืนนั้นก็ส่งผลให้ทั้งคู่ต้องเผชิญกับช่วงจิตตกตามมา แล้ววัยรุ่นที่ยังมีอนาคตสดใสรออยู่ข้างหน้าอย่างพวกเขาจะจัดการกับปัญหาและความรักครั้งนี้อย่างไรในมื่อชีวิตยังต้องเดินต่อ ตอนพิเศษ ก่อน - ช่วงเวลาสั้น ๆ ตอนต้นเรื่อง ที่ฟ้าบันดาลให้เหล่าตัวละครจากหนังทุกเรื่องได้มาพานพบกัน เพื่อเปิดฉากให้ผู้ชมได้รู้จักพวกเขา และเป็นจุดเริ่มต้นก่อนที่ทุกคนจะแยกย้ายกันไปเผชิญเรื่องรักและเซ็กซ์อันสุดวุ่นแสนวายป่วง

เรื่องย่อ : ใหม่กะหม่ำ โดนกะโดน (2554/2011) คนที่ทั้งใช่และโดน จะมีมั้ยน๊า? ปัญหาโลกแตกที่ ใหม่ (สิริวิมล เจริญปุระ) สาวเปรี้ยวสุดซ่าส์ตั้งคำถามกับตัวเองมาตั้งแต่สมัยมัธยม จนผ่านมหาลัย ข้ามวัยมาจนถึงบัดนาว ก็ยังไม่เห็นหนุ่มหน้าไหนจะจริงใจรักจริงสักราย นอกจากพ่อบังเกิดเกล้า ผู้ชายทั่วไปก็เลวเหมือนกันหมดเจ้าชู้ไม่เลือกหน้า ดีที่ชีวิตนี้ยังมี หม่ำ (เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา) เพื่อนซี้ที่คอยดามอกหิ้วปีกใหม่ทุกครั้งที่เมาเละจากอาการอกหักจากบรรดาผู้ชายทั้งหลายที่เข้ามาในชีวิต แต่ในขณะเดียวกัน กะเพรา (ชูศักดิ์ เอี่ยมสุข) เมียสาวของ หม่ำ เริ่มอดรนทนไม่ไหวกับมิตรภาพความห่วงใยที่ไม่รู้จักเวล่ำเวลาของเพื่อน หม่ำ-ใหม่ ที่นับวันจะเกินความพอดี ถึงขนาดต้องยื่นคำขาดกันแล้วว่า ระหว่างเพื่อนกับเมีย หม่ำ จะเลือกใคร? แต่ก่อนที่ หม่ำ จะมีโอกาสเคลียร์โจทย์ที่ยากที่สุด เพราะทั้งชีวิตของ หม่ำ ก็มีแค่เพื่อนกับเมียนี่แหละสำคัญที่สุด แล้วทำไมต้องเลือกด้วย! ดูเหมือนอุปสรรคขวากหนามของชีวิตจะยังไม่ยุ่งเหยิงพอ จู่ ๆ สวรรค์เบื้องบนก็ส่ง โกสน (พงษ์ศักดิ์ พงษ์สุวรรณ) ไม่ใช่มือที่ 3 แต่เป็นมือที่ 4 มาทดสอบความสัมพันธ์ระหว่าง หม่ำ ใหม่ และ กะเพรา พร้อมกับดลใจให้หม่ำที่ร้อยวันพันปีไม่เคยกินเหล้าดันเกิดอาการเมาปลิ้นกับซี้ใหม่ ทั้งคู่ต่างสลบสไลไร้สติไปกับการเมาเละครั้งประวัติศาสตร์ก่อนที่จะตื่นขึ้นมาพบว่าต่างฝ่ายต่างเนื้อตัวล่อนจ้อน และที่สำคัญคือ ใหม่ ท้อง? เอาละซิ และนี่คือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวความรัก ความผูกผัน ของทั้ง 3 ที่ต้องมะรุมมะตุ้มวุ่นวายยุ่งเหยิงอย่างที่ใครก็กะเกณฑ์ไม่ได้ จนเป็นเหตุให้สัมพันธภาพของเพื่อนซี้อย่างใหม่-หม่ำ-ต้องเปลี่ยนไปอย่างกู่ไม่กลับโดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานภาพความเป็นเพื่อนรักเพื่อน

สะบายดี วันวิวาห์ (2554/2011) เชน (ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์) ทำงานเป็นนักเขียนสกู๊ปให้กับนิตยสารชั้นนำฉบับหนึ่ง เชนเคยเดินทางมาทำข่าวที่ประเทศลาวเมื่อ 6 เดือนก่อน ในครั้งนั้นเขาได้รู้จักกับ คำ (คำลี่ พิลาวง) หญิงสาวชาวลาวที่เขารู้สึกผูกพันและชอบพอกับเธอ เขาให้สัญญาว่าจะกลับมาเยือนที่นี่อีกครั้ง เชนทำตามคำมั่นโดยไม่คาดคิดมาก่อนว่าการกลับมาเยือนครั้งนี้จะทำให้เกิดเรื่องราวโกลาหลจนถึงขั้นต้องแต่งงานกับเธอ โดยทั้งที่เขาและเธอก็ยังไม่มั่นใจและไม่แน่ใจในงานแต่งงานครั้งนี้นัก ด้วยความแตกต่างทางวัฒนธรรมและวิถีชีวิตหลาย ๆ ด้าน ทั้งความทันสมัยของคนเมืองซึ่งดูขัดแย้งกับความงดงามและเรียบง่ายแบบดั้งเดิมของวิถีชีวิตชาวลาว เวลา 3-4 วันก่อนงานแต่งงาน ชายหนุ่มจากเมืองใหญ่ และหญิงสาวในเมืองเล็กที่มีวัฒนธรรมแตกต่างกัน ทั้งคู่ต้องเรียนรู้และปรับตัวร่วมกันเพื่อที่จะเริ่มต้นชีวิตครอบครัวใหม่ให้ได้ ขณะเดียวกัน ฝน (ธนิยา อำมฤตโชติ) เพื่อนสาวสมัยเรียนของเชน เริ่มเข้ามาพัวพันกับความรักของพวกเขา
โด๋-นัท (2554/2011) เรื่องราวความรักและความผูกพันของ คน 3 คน ที่เกิดขึ้นในรั้วมหาวิทยาลัย นัท (พิมพ์รดาภา ไรท์) สาวผู้มีนิสัยเป็นทอมบอยที่มีเพื่อนสนิท คือ โด๋ (ชาลี ไตรรัตน์) หนุ่มมาดเซอร์ ทั้งสองคนเรียนอยู่คณะศิลปกรรมศาสตร์ด้วยกัน นัท เป็นทอมที่เท่ห์และจัดว่าหน้าตาดีจึงมีสาว ๆ ทั้งในและนอกมหาวิทยาลัยเข้ามาติดพันอยู่บ่อย ๆ แต่ความสัมพันธ์ของ นัท กับสาว ๆ ทั้งหลายก็ไม่เคยยืดยาว ทุกครั้งที่ นัท อยู่คนเดียวก็จะมี โด๋ คอยอยู่เป็นเพื่อนสนิท โด๋ เป็นหนุ่มเซอร์อารมณ์ดี ไม่มีแฟน และชอบงานศิลปะแต่ก็ให้คำปรึกษานัทได้ทุกเรื่อง โด๋ เคยสงสัยว่าทำไมรักแต่ละครั้งของ นัท มันถึงไม่ยืดยาวแต่ก็ไม่มีคำตอบที่ชัดเจนจาก นัท หลัง ๆ เลยขี้เกียจสนใจ แต่ นัท ก็ยังเป็นที่ชื่นชอบของสาว ๆ เหมือนเดิม จนคนในมหาวิทยาลัยรวมทั้ง โด๋ เห็นเป็นเรื่องชินตา จนกระทั่งนัท ได้มาเจอกับ เจน (ภูลดา แสงเดือน) น้องปีหนึ่งคณะมนุษย์ศาสตร์ เจน เป็นคนหน้าตาดีระดับดาวมหาวิทยาลัย จึงถูกพวกหนุ่ม ๆ รุมจีบรวมทั้ง นัท ที่เป็นหนึ่งในนั้นด้วย แต่ เจน เคยมีความหลังที่ไม่ดีกับผู้ชาย และแฟนคนล่าสุดของ เจน ก็เป็นทอมบอย นัท เลยมีโอกาสใกล้ชิดกับ เจน เป็นพิเศษ จนทั้งคู่คบหากัน เจน เป็นคนเรียบร้อย มีเสน่ห์ ไม่เหมือนผู้หญิงคนอื่น ๆ ที่ นัท เคยรู้จัก ทำให้ นัท รู้สึกรักและหลงใหล เจน มาก โด๋ เองก็รู้สึกถึงความจริงจังที่ นัท มีต่อ เจน และก็ไม่อยากเห็นเพื่อนต้องผิดหวังอีกเพราะความรักของ นัท ทุกครั้งมักจะไม่ยืนยาว จนวันหนึ่ง โด๋ ได้รู้ความจริงเกี่ยวกับ นัท ถึงสาเหตุของการเป็นทอม นัท ยอมรับว่าเคยผิดหวังกับผู้ชาย ก็เลยเปลี่ยนเป็นทอมเพราะเพียงแต่อยากจะเป็นผู้ชายดี ๆ คนหนึ่ง ด้วยความที่ โด๋ เป็นเพื่อนสนิทแล้วก็เป็นผู้ชาย 100% จึงเข้าใจธรรมชาติของผู้ชายได้มากกว่า นัท ก็เลยเป็นพี่เลี้ยงคอยสอนกลเม็ดของชายเอาไว้เด็ดใจหญิงให้กับ นัท ทำให้ความรักของ นัท กับ เจน ดูราบรื่น และรักผูกพันกันมากขึ้นเรื่อย ๆ โด๋ เองก็ได้สุขใจที่ช่วยเพื่อน ที่จริงแล้ว โด๋ เองก็มีความลับบางอย่างที่จะบอก นัท แต่ โด๋ สัญญากับตัวเองว่าเมื่อถึงเวลาเมื่อไหร่ก็จะบอก จนกระทั่งคืนหนึ่งในงานรับน้องบนดอย หลังจากทุกคนแยกย้ายกันหลับนอน นัท กับ เจน มีโอกาสได้อยู่ด้วยกันสองต่อสองในเตนท์ท่ามกลางอากาศที่เยือกเย็นและหมู่ดาว บรรยากาศมันช่างเป็นใจเหลือเกิน โด๋ ก็ดีใจที่ช่วยให้ความรักของคนทั้งสองสำเร็จเสียที หลังจากงานรับน้องบนดอยคืนนั้น ความสัมพันธ์ของ นัท กับ เจน ก็ดูจะเปลี่ยน ๆ ไป จนเกือบจะเป็นความห่างเหิน มันเป็นความลับระหว่างคนสองคนที่คนอื่นไม่อาจไปล่วงรู้ได้ แม้แต่ โด๋ ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทก็ไม่เข้าใจถึงเรื่องที่เกิดขึ้น จนกระทั่งวันหนึ่งความสัมพันธ์ของ นัท กับ เจน ก็สิ้นสุดลง เมื่อ เจน ตัดสินใจไปเรียนต่อต่างประเทศ และ นัท ก็ได้เปิดเผยความจริงให้ โด๋ ได้รับรู้ เกิดอะไรขึ้นในเตนท์คืนนั้นกับความสัมพันธ์ของ นัท กับ เจน? ความลับของ โด๋ ที่ปกปิด นัท ไว้คืออะไร? เส้นทางชีวิตของ โด๋ นัท เจน จะจบลงอย่างไร? แบบไหน?
Pure Love เธอกับเราและรักของเขา (2554/2011) รักใดๆ จะบริสุทธิ์เท่ารักครั้งนี้ ฝนสาวน้อยต้องผิดหวังกับความรัก ทำให้โชคชะตาได้มาพบกับ แก้ว จึงก่อให้เกิดเป็นความรัก ที่บริสุทธ์ และ ผูกพันธ์ แต่ในขณะที่ทุกอย่างกำลังดำเนินไปด้วยดี ชายคนรักเก่าก็กลับมาขอคืน ดี จึงทำให้ฝนต้องเลือกระหว่างแก้ว ผู้ให้ชีวิตใหม่หรือชายคนรักเก่าคนที่เธอเคยทุ่มเทใจให้
อีนางเอ๊ย เขยฝรั่ง (2554/2011) เรื่องราวความรักของหนุ่มสาวอีสานยุคใหม่ (ที่เกิดขึ้นแล้วจริง ๆ นะ!) พร้อมกับคำถามคำโตฝากไปให้หนุ่มไทยทั้งหลายเอากลับไปคิดว่า หนุ่มฝรั่งตาน้ำข้าวมีดีจั๋งได๋แท้น้อ? อีนางทั้งหลายถึงปันใจจะไปมีผัวฝรั่งกันเมิ้ด? ผ่านมุมมองของ บักมาร์ค (ภัทรภณ โตอุ่น) หนุ่มอีสานที่เฝ้าฝันจะมีอนาคตที่ดีเพื่อกลับมาพัฒนาหมู่บ้านโดยมีพ่อที่เป็น ผู้ใหญ่บ้าน (ปิยะ ตระกูลราษฎร์) เห็นดีเห็นงามด้วยตัดสินใจขายควายส่งลูกชายเข้าเรียนนิติศาสตร์รามฯ หวังว่าจบมาจะได้เป็นปลัดหรือทนาย แต่หลังจากใช้ชีวิตในรั้วมหาลัยในกรุงมา 6 ปีเต็ม ก็ยังสอบไม่ผ่านสักที เพราะติดอยู่ที่วิชาอังกฤษ วิชาเดียวที่นอกจากจะไม่ถนัดแล้วยังไม่ใช่ภาษาประจำชาติอีกต่างหาก จนเกิดอาการท้อ และตัดสินใจกลับมาตั้งหลักที่บ้านเกิด ก่อนที่จะพบว่าหมู่บ้านกำลังถูกรุกรานทางวัฒนธรรม เมื่อผู้สาวที่ทั้งสาวและไม่สาวต่างมีค่านิยมใหม่ขึ้นมากันเป็นแถวนั่นคือ การนิยมมีเขยฝรั่ง Love Farang แม้แต่ แต๋วแหล่ (รุ้งลาวัลย์ โทนะหงษา) ที่เกลียดฝรั่งขนาดหนักก็ยังเปลี่ยนใจไปรับฮักพ่อบักสีดา เอาละซิ! ความสงบสุขที่เคยมีกำลังจะสูญหาย สถานการณ์รอบตัวย่ำแย่อย่างหนัก
จั๊กกะแหล๋น (2554)

เรื่องย่อ : จั๊กกะแหล๋น (2554/2011) เรื่องราวของ จั๊กกะแหล๋น สาวน้อยผู้หลงใหลการขี่จักรยานฟิกเกียร์ และพรรคพวกซึ่งได้รับจ้างส่งของเถื่อนให้แก่พวกมาเฟียจนเกิดเป็นเรื่องราวบานปลายอย่างไม่คาดคิด ร้อนไปถึง ลุงแสวง ที่แสนจะปากร้ายแต่ใจดีของเธอ ที่ต้องมารับภารกิจบู๊ล้างผลาญ อีกทั้ง จั๊กกะแหล๋น ยังต้องพบกับปัญหารักสามเส้าที่คอยรุมเร้าหัวใจอีกด้วย "ลุงแสวง" (เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา) อาสาร่วมปฏิบัติการภารกิจต่อสู้ ภายหลังจากที่หลานสาวของตนที่มีชื่อว่า "จั๊กกะแหล๋น" (ญาณิน วิสมิตะนันทน์) ได้ขี่จักรยานฟิกซ์เกียร์ออกไปสู่โลกภายนอกพร้อมกับเพื่อนของเธออยู่เสมอ แล้วพวกเขาก็ได้รับจ้างส่งของเถื่อนให้แก่พวกมาเฟียจนเกิดเป็นเรื่องราวใหญ่โตอย่างไม่คาดคิด ทั้งยังมีปัญหารักสามเส้ามารุมเร้าหัวใจ เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ทั้งลุงแสวงและจั๊กกะแหล๋นต้องลำบากใจ

ห่วยขั้นเทพ Suck Seed!! ชีวิตมันต้องลองซักซี้ดนึง!! (2554/2011) เป็ด (จิรายุ ละอองมณี) เด็กประถมสุดเห่ย ที่ไม่เคยฟังเพลง นอกจากจะไม่ชอบฟังเพลงและยังเข้าใจเอาเองผิด ๆ ว่า เพลงเร็วเรียกเพลงร็อค เพลงช้าเรียกเพลงรัก ส่วนเพลงไทยนั้นก็มีแค่สองประเภทคือ เพลง แกรมมี่ และ อาร์เอส เป็ด หัดเล่นดนตรีเพียงเพราะแอบหลงรัก เอิญ (ณัฐชา นวลแจ่ม) เพื่อนร่วมห้องได้ทำให้เขารู้จักกับเพลง และความรัก เอิญ สอน เป็ด ว่าเวลาเราฟังเพลงก็จะเหมือนมีเพื่อนมาอยู่ข้าง ๆ เป็ด เลยอยากเป็นคนข้าง ๆ เอิญ บ้าง ยิ่งรู้ว่า เอิญ เป็นสาวหูเหล็ก เป็นสาวกเพลงร็อคที่คลั่งไคล้กีตาร์ฮีโร่เป็นชีวิตจิตใจ เป็ด จึงเกิดแรงฮึดที่จะผันตัวเองจากไอ้แหยขี้อายให้กลายเป็น ร็อคเกอร์ แต่รักครั้งแรกก็ต้องแตกสลาย เมื่อเธอต้องย้ายไปไกลแสนไกล เวลาผ่านไปไวถึง ม.6 เอิญ ก็กลับมาพร้อมกับความน่ารักและฝีมือกีตาร์ขั้นเทพ เป็ด ที่ยังเห่ยเหมือนเดิมจึงจับมือกับ คุ้ง (พชร จิราธิวัฒน์) มือกีตาร์ของวงนั้นมีบ้านเป็นโรงรับจำนำซึ่งเปรียบเสมือนดีสนีย์แลนด์ของเพื่อน ๆ ของเก่าของคนอื่นจะกลายมาเป็นของเล่นชิ้นใหม่ของ คุ้ง เสมอ ตั้งแต่ประถมยันมัธยมคุ้งคือผู้นำเทรนด์ ไม่ว่าจะเป็นเกมส์แฟมิคอม โรลเลอร์เบลด ตู้สติ๊กเกอร์ เกมเต้น โฟโต้ฮันท์ คุ้ง เป็นต้องได้ประเดิมเป็นคนแรก เป็นเพื่อนสนิทสุดเกรียนที่วัน ๆ คิดแต่จะหม้อหญิง พ่วงด้วย เอ็กซ์ (ธวัช พรรัตนประเสิรฐ) มือกลองบ้าพลังที่อยากสอยดาวโรงเรียนที่แอบชอบอยู่ รวมกันเป็นสามตัวห่วย ตั้งวงเพื่อจีบสาวสวย คุ้ง อาจจะมีชะตากรรมเป็นถึงไอดอลของโรงเรียน ถ้าจะไม่มีกรรมมาบังให้คุ้งดันมีฝาแฝดชื่อ เค น้องชายที่ทั้งเรียนเก่งกว่า ที่สำคัญเคยังเป็นมือกีตาร์ของวงโรงเรียนที่ได้รับเลือกให้เป็นตัวแทนเข้าประกวด Hot Wave Music Award ไม่ต้องสงสัยเลยว่าความฮ็อตของ เค จะทำให้ คุ้ง กลายเป็นแค่ฝาแฝด เค ในสายตาของทุกคน ในปีสุดท้ายของชีวิตมัธยมปลาย เมื่อวงของ เค ลงสมัคร Hot Wave โดยมี เอิญ เข้าร่วมในฐานะนักร้องนำ เป็ด และ คุ้ง จึงจับมือกันปฏิวัติตัวเองฟอร์มวง SuckSeed ขึ้นมา หาญกล้าท้าแข่งเพื่อพิสูจน์ให้คนที่พวกเขาทั้งรักทั้งอยากเอาชนะได้เห็นว่า พวกเขาไม่ใช่แค่ "ตัวห่วย" อย่างที่ใคร ๆ คิด
ฮักนะ ’สารคาม (2554/2011) ไม่ใช่เด็กติสต์ แต่เป็นเด็กอิส ที่อยากจะบอกฮักแบบภาษาอีสาน กับเรื่องราว มิตรภาพ ความฝัน ชีวิตความเป็นอยู่กับวัฒนธรรมอีสานของวัยรุ่นยุคใหม่ เสียงหัวเราะ และรอยยิ้มที่กำลังจะเกิดขึ้น ท่ามกลางท้องทุ่งเขียวขจีสดใส ในจังหวัดที่ขึ้นชื่อด้านการศึกษา ณ มหาสารคาม แห่งนี้ เจ๊อุบล (สุดารัตน์ บุตรพรม) ดาวเด่นแอ๊บแบ๊วแห่งมหาลัย เรียนมา 7 ปีไม่ยอมจบ ทั้งที่เรียนเก่งมีความสามารถรอบด้าน และยังเป็นถึงประธานชมรมท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างที่ทำให้เธอไม่ยอมก้าวพ้นออกจากรั้วมหาลัยแห่งนี้ จนเมื่อเธอได้พบกับรุ่นน้องและตกหลุมรัก เทพ (ธันวา สุริยะจักร) หนุ่มหล่อขั้นเทพหน้าตาลูกครึ่งสไตล์เกาหลี เป็นที่หมายปองของสาว ๆ ไปจนถึงตุ๊ด แต๋ว กะเทยรุ่นเล็กยันรุ่นใหญ่ ทำให้เจ๊อุบลต้องมีผู้ช่วยเป็นรุ่นน้องในคณะ รินทร์ (อาชิรญาณ์ ภีระพัภร์กุญช์ชญา) สาวสวยสุดโก๊ะ และ โส (สมคิด สุขเอิบ) กะเทยยักษ์ชอบฟังหมอลำสุดฤทธิ์ ร่วมกันวางแผนพิชิตใจหนุ่มให้สำเร็จ แต่หารู้ไม่ว่า เกษ (วณัสม์ณา วิริยะชัยกิจ) สาวสวยนักกีฬาเทควันโดคือคู่แข่งและศัตรูหัวใจตัวฉกาจ เรื่องฮัก ฮัก (รัก รัก) ของ เจ๊อุบล ยังเอาตัวไม่รอด แต่กลับต้องมานั่งเป็นที่ปรึกษาปัญหาหัวใจให้กับเด็กมัธยม มุก (สุมลนาถ คำหว่าน) ที่กำลังมีปัญหากับแฟนหนุ่มเด็กเรียน ภูมิ (ประภัทรพงศ์ ประสิทธิพงศ์) เพราะเกิดจาก แก่น (อ้วน เด่นคุณ งามเนตร)เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อเข้ามาเป็นตัวแปรในความรักครั้งนี้ วัยรุ่นวัยรักไม่ว่าจะเป็นนักเรียนมัธยม หรือกลุ่มเพื่อนพ้องน้องพี่ในรั้วมหาวิทยาลัยที่ล้วนแล้วแต่มีเรื่องราวจี๊ดๆชวนบอกต่อกับอาการ และคำบอกรักแบบ ฮักนะ พร้อมชวนกันม่วนคัก... ม่วนหลาย ไปยังทุกพื้นที่ ไม่ว่าคุณจะอยู่มุมใดของประเทศ
เลิฟ จุลินทรีย์ รักมันใหญ่มาก (2554/2011) กลางหุบเขา คอนเสิร์ตบิ๊กเมาท์เท่น ผู้คนหลากหลายกลุ่มวัย ต่างหลั่งไหลเพื่อจะมาสุดเหวี่ยงกับสุดยอด วงดนตรีในเมืองไทยแบบไม่แบ่งพรรคแบ่งฝ่าย พาราด็อกซ์ เป็นอีกหนึ่งวงที่มีแฟนคลับทั่วประเทศ กำลังใจจดจ่อ เพื่อจะได้มาสุดเหวี่ยงกับพวกเขา จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเรื่องราว ความรัก ของวัยรุ่นหลายคู่ มีบทเพลงของพาราด็อกซ์ ดังอยู่ในช่วงเวลาแห่งความทรงจำ และเมื่อบทเพลงของพาราด็อกซ์เริ่มบรรเลงขึ้น ก็ทำให้หนุ่มสาวเหล่านั้นนึกไปถึงช่วงเวลาเหล่านั้น ในจุดต่าง ๆ ของคอนเสิร์ต เรามองเห็นต่างผู้คนยืนต่างที่กัน หน้าเวที กลางสนามหญ้า ป้ายบอกทาง ต่างคนต่างยืนอยู่ในมุมต่าง ๆ ของคอนเสิร์ตที่ต่างความรู้สึกและต่างมิติกัน นาว (ทิสานาฏ ศรศึก) สาวน้อยน่ารักจากวิทยาลัยนาฏศิลป์ เดินทางมากับเพื่อนสาว แอน (กมลนัทธ์ ชาลวนิชสุทธิ์) เพื่อรอฟังเพลงโปรดของพาราด็อกซ์ และเมื่อเพลงบรรเลงขึ้น มันให้ นาว ปล่อยใจใหคิดถึง โย (อเล็กซ์ เรนเดลล์) หนุ่มน้อยที่จูบเธอเป็นคนแรก และเป็นครั้งแรกในชีวิตมาที่นี่ด้วย นาว นึกไปถึงความรักครั้งนั้น "ใจยักษ์" ตัวแทนความรู้สึกของคนที่มีหัวใจตรงกัน ทั้งคู่ต่างรู้อยู่แก่ใจว่ารักกัน แต่ก็ไม่มีฝ่ายใดยอมเปิดปากพูดบอกรักกันให้ชัด ๆ ไปเสียที ปลา (ไอรดา ศิริวุฒิา) สาวน้อยนักดนตรี แฟนคลับตัวยงของวงพาราด็อกซ์ ตั้งใจแบ๊คแพ๊คเดินทางมาบิ๊กเมาท์เท่น หวังใจว่าจะมากรีดร้องให้สุดเหวี่ยง เต้นให้สุดพลังเพื่อล้างใจให้ลืม หนุ่มนักรัก (ณัฐชา จันทพันธ์) แต่เมื่อเพลงบรรเลงขึ้นก็ทำให้เธอนึกไปถึงวันเก่า ๆ กับความรักที่ผ่านมาของเธอ "รอ" ตัวแทนความรู้สึกของคนที่ตกอยู่ในห้วงแห่งการทรมาน ไม่มีคำตอบใด ๆ ชัดเจนพอที่จะสรุปได้ว่า ที่รออยู่นั้นเป็นการรอเพื่อรักหรือรอเพื่อเลิกกันแน่ ฝน (อภิญญา สกุลเจริญสุข) รุ่นพี่ ม.6 ที่ฮอตสุด ๆ ตัวแม่เรื่องความสวย เซ็กซี่ ใครเห็นใครก็มอง ใครเห็นก็หลงรัก วันหนึ่งเธอมาเจอกับรุ่นน้อง ม.4 โบ้ท (ณัฐพงษ์ พิบูลธนเกียรติ) ที่ปลื้มเธอมาก งานนี้รักข้ามรุ่นจะออกมาวุ่นขนาดไหน "ลำปางหนาวมาก" ใครต่อใครก็คงเคยมีความรู้สึกแอบรักรุ่นพี่ ที่ภาษาวัยรุ่นพูดว่า คบรุ่นใหญ่หรือใคร ๆ ก็คงเคยมีความรู้สึกกิ๊กกั๊กรักรุ่นน้องให้ชีวิตมันสดใสซาบซ่า ไม่ว่าจะคบรุ่นไหน ความรักก็สามารถทำให้ลำปางหนาวมากได้! หยก (จิรายุ ละอองมณี) กับ เอื้อ (มนชนก แสงฉายเพียงเพ็ญ) เพื่อนรักที่กิน เที่ยว เล่น เรียน ตัวติดกันเป็นปาท่องโก๋ แต่เมื่อวันหนึ่งปาท่องโก๋ ขอขยับสถานะมาเป็นแฟน ทำให้เขาทั้งคู่รู้ว่าตอนที่เป็นเพื่อน มันสนุก ขำ หัวเราะ เฮฮา บ้าบอ แต่พอมาเป็นแฟน รอยยิ้ม ทำไมมันไม่เหมือนเดิม "เพื่อนรัก" ใคร ๆ ก็คงเคยมีเพื่อนรัก แล้วก็คงคิดว่าจะต้องเป็นเพื่อนรักกันไปตราบนานแสนนาน แต่อยู่ดี ๆ วันหนึ่งหัวใจ เจ้ากรรม ดันเล่นตลกเปลี่ยนจากความเป็นเพื่อน แปรเปลี่ยนเป็นความรัก ที่มันไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด และท้ายสุดทำให้ทั้งคู่คิดตัดสินใจว่าจะเดินหน้า หรือถอยหลังคนละก้าวเพื่อให้เหลืออะไรสักอย่าง สุดท้ายเรื่องราว ความรัก ที่ค้างใจของทั้งสี่คู่จะได้รับคำตอบ ณ คอนเสริ์ต บิ๊กเมาท์เท่น แห่งนี้ ไปพร้อม ๆ กับ พาราด็อกซ์ หรือไม่? เมื่อเราย้อนกลับไปมองความรักครั้งแรกในชีวิต มันทำให้เรารู้สึกว่าเรื่องรักนั้น มันช่าง น่ารัก น่าขัน และ มีรสชาติหอมหวาน อร่อย มีคุณค่า เหมือนนมที่เติมจุลินทรีย์ จนมาเป็นนมเปรี้ยว แต่ในช่วงเวลาที่มันเกิดขึ้นน่ะเหรอ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับความรัก มันช่างเป็นเรื่องใหญ่มาก สำหรับชีวิตของเราจริง ๆ นะ!! รักไม่ใช่ทุกอย่าง แต่รักคือสิ่งเดียวที่ทำให้เราอยู่ไม่ได้หากปราศจากมัน
สุดเขต สเลดเป็ด (2553/2010) เรื่องราวของ สุดเขต (อารักษ์ อมรศุภศิริ) หนุ่มเซอร์ที่มีแนวความคิดเป็นของตัวเองซึ่งมีความฝันอยากเป็นนักร้องโดย เสน่ห์ (อาคม ปรีดากุล) พ่อของเขาเป็นดีเจและเจ้าของสถานีวิทยุชุมชนที่สนิทกับ เฮียตง (เกรียงศักดิ์ เหรียญทอง) เจ้าของค่ายก๊อปปี้ที่สุดเขตพาเพื่อนสนิทชื่อ อันเดอร์ (เจริญพร อ่อนละม้าย) ไปร่วมออดิชั่นด้วย ซึ่งที่ค่ายก๊อปปี้แห่งนี้ทำให้เขาได้พบกับสาวสวยคนหนึ่งชื่อ มะยม (อริย์กันตา มหาพฤกษ์พงศ์) ซึ่งเขาถูกใจตั้งแต่แรกเห็นแล้วความรักของเขาและเธอจะเป็นอย่างไรและเขาจะได้เป็นนักร้องตามที่ตั้งใจหรือไม่
Yes or No อยากรัก ก็รักเลย... (2553/2010) พาย (สุชาร์ มานะยิ่ง) สาวน้อยแสนหวาน ดาวเด่นของมหาลัย ต้องย้ายออกจากห้องของหอพัก นศ.หญิง เพราะสุดจะทนกับเพื่อนร่วมห้องเก่าอย่าง เจน (อริสรา ทองบริสุทธิ์) สาวสวยเซ็กซี่อารมณ์สุดแปรปรวน การย้ายห้องเพื่อหนีปัญหาของเพื่อน ทำให้ พาย เองก็ต้องเจอกับรูมเมทคนใหม่อย่าง คิม (ศุภนาฎ จิตตลีลา) เด็กคณะเกษตรฯ หน้าตาน่ารักแถมเท่ห์จนเหมือนผู้ชายมาก การมาเรียนวันแรกที่นี่ของ คิม ทำให้เจนที่กำลังเฮิร์ทจากแฟนทอมคนเก่า กลับมามีชีวิตสดชื่นทันที แต่ พาย กลับตั้งแง่ใส่ คิม ตั้งแต่วันแรกที่เจอ เพราะเธอไม่ชอบทอมบอยเท่าไหร่นัก แต่ด้วยนิสัยของ คิม ที่เป็นคนชอบเทคแคร์ การใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันในห้องเล็ก ๆ ทั้งคู่เริ่มเรียนรู้กัน สนิทกันมากขึ้น จนเกิดความรู้สึกพิเศษเกินเพื่อน พาย เริ่มสับสนว่าเกิดอะไรขึ้นกับใจตัวเอง ส่วน คิม ก็สับสนและคิดไม่ต่างจาก พาย เท่าไหร่นัก การมาอยู่หอพักในมหาลัยของพายนั้นได้รับการดูแลเทคแคร์เป็นอย่างดีจากหนุ่ม แวน (สรณัฐ ยุปานันท์) ชายหนุ่มมาดเท่ห์ อบอุ่น โรแมนติกและใจดี ซึ่งทั้งคู่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก ๆ ทำให้ แวน ได้รับไฟเขียวจากครอบครัวของ พาย โดยเฉพาะแม่ของ พาย ที่คาดหวังว่า พาย และ แวน จะได้เป็นแฟนกันและแน่นอน แวน นั้นแอบรัก พาย เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เรื่องราวความรักของทั้งสี่คนมันอาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่สังคมเข้าใจ ความวุ่นวาย สับสน ในใจของเธอและเธอบทสรุปแล้วมันจะเป็นอย่างไร? เพราะคำว่า "รัก" เกิดขึ้นกับใครก็ได้ กับเพศไหนก็ได้ เพราะสุดท้ายรักก็คือ "รัก!"
ผู้ชาย ลัลล้า (2553/2010) เมื่อ 3 หนุ่มก๊วนเคยอ๊อด แทน (ชาคริต แย้มนาม), ตู๋ (เฉลิม ปานเกิด) และ จุ้น (กิตติ เชี่ยววงศ์สกุล) ต้องมาป๊อดเพราะโดนเมียคุม แต่เหล่าผู้ชายเลือดปลาไหลก็ยังไม่ยอมหยุดเจ้าชู้ แถมยังงัดลูกเล่นแพรวพราวที่ทำเอาสาว ๆ เป็นอันต้องหลง แถมยังกลบเกลื่อนร่องราอยได้อย่างดีเยี่ยม บรรดาภรรยาสุดที่รัก โบว์ (ธรรมรส ใจชื่น), น้อยหน่า (ภัทรวดี ปิ่นทอง) และ เจ๊จุ๋ม (ภัสสร บุญยเกียรติ) จึงต้องหาทางจับให้มั่น คั้นให้ตาย จนกระทั่งทนไม่ไหวแล้ว จึงหาเรื่องสามีคืนแบบแสบทรวงจุกอกพ่อปลาไหล เรื่องราวที่ดูเหมือนจะสงบลงกลับยิ่งวุ่นวายขึ้นไปอีก เมื่อสาวสวยสุดเซ็กซี่ ซูซี่ (อุษณีย์ วัฒฐานะ) เข้ามาพัวพันในชีวิตของพ่อปลาไหล ครั้งนี้งานเข้าเลยครับพี่น้อง!

เรื่องย่อ : ชั่วฟ้าดินสลาย (2553/2010) ท่ามกลางความสับสนวุ่นวายของกระแสการเมืองใหม่ซึ่งชาวสยามยังไม่คุ้นชินนัก เพียงหนึ่งปีหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองในปี พ.ศ. 2475 นั้น ยุพดี (เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์) ม่ายสาวพราวเสน่ห์หัวสมัยใหม่จากพระนครได้สมรสกับ พะโป้ (ธีรพงศ์ เหลียวรักวงศ์) คหบดีม่ายชาวพม่าอายุคราวพ่อ เจ้าของกิจการป่าไม้อันมั่งคั่งแห่งกำแพงเพชร ทั้งคู่ได้เดินทางไปใช้ชีวิตฉันท์สามีภรรยาที่ปางไม้เขาท่ากระดาน ซึ่ง ยุพดี คิดว่าชีวิตของเธอได้ถูกเติมเต็มแล้วในทุก ๆ ด้านจาก พะโป้ สามีที่เธอรัก แต่ ณ ที่นั้นเอง ท่ามกลางพลังอำนาจแห่งไพรพฤกษ์และขุนเขา เมื่อยุพดีได้มาพบเจอกับ ส่างหม่อง (อนันดา เอเวอริงแฮม) หนุ่มพม่าผู้หล่อเหลาปานเทพบุตรแต่แสนบริสุทธิ์ในกามโลกีย์ผู้เป็นหลานชายของ พะโป้ ต่างก็เกิดความสเน่หาต่อกัน ยิ่งทั้งคู่ได้ชิดใกล้กันมากเท่าไร ก็ยิ่งเกิดอาการหวั่นไหวและอยากอยู่ด้วยกันมากขึ้นเท่านั้นตามสัญชาตญาณหนุ่มสาวที่ถูกกิเลสตัณหาครอบงำ โดยหารู้ไม่ว่า นี่คือ "จุดเริ่มต้นแห่งโศกนาฏกรรมรัก" ในที่สุดทั้ง ส่างหม่อง และ ยุพดี ก็มิอาจต้านทานความปรารถนาของตน และยอมตกอยู่ภายใต้อำนาจของกิเลสตัณหาอย่างถึงที่สุด ทั้งคู่ก้าวล้ำเส้นของการเป็นหลานและอาสะใภ้โดยลอบเป็น "ชู้" กัน และแล้วเมื่อ พะโป้ ได้ล่วงรู้ความจริงอันน่าอัปยศเช่นนี้ เขาดูเหมือนจะสงบนิ่งอย่างผู้ผ่านประสบการณ์และเข้าใจโลกยิ่งนัก แต่จริง ๆ แล้วในใจเขากลับร้อนรุ่มด้วยโทสะจริต ติดกับดักแห่งเสน่หาอาฆาตแบบถอนตัวไม่ขึ้น อย่างไม่คาดฝัน พะโป้ ตัดสินให้ ยุพดี เมียสุดที่รักได้อยู่กินกับ ส่างหม่อง หลานรักอย่างเปิดเผย ภายใต้เงื่อนไขอันแสนเย็นยะเยือกด้วยการล่าม "โซ่ตรวน" คล้องแขนติดกัน เพื่อพันธนาการว่าทั้งคู่จะได้ครองรักกัน...ชั่วนิจนิรันดร์ ถึงเวลาแล้วที่ พะโป้ จะได้ทำในสิ่งที่เขาวางแผนไว้อย่างแยบคาย เพื่อสอนบทเรียนให้กับทั้งหลานและภรรยาอันเป็นที่รักให้รู้จักความหมายของ "ความรักชั่วนิรันดร์ การลงทัณฑ์ชั่วชีวิต" ใครเลยจะหยั่งรู้ว่า วิถีชีวิตของ 3 ชายหญิงที่ต้องโคจรมาทาบทับกันในวังวนแห่งกิเลสตัณหานี้ จะนำพามาซึ่งโศกนาฏกรรมรักอันยิ่งใหญ่ที่ต้องพิสูจน์ด้วยเลือดเนื้อ จิตวิญญาณ และกาลเวลาตราบ "ชั่วฟ้าดินสลาย"

สมาน ฉัน คัลเลอร์เลิฟ (2553/2010) ในวันวาเลนไทน์ วันที่ดอกรักแบ่งบาน สว่างไสวไปทุกที่ รวมทั้งที่นี้ ที่ว่าการเขตสมรัก ซึ่งมีคู่รักหลากวัย มายืนยันความรักต่อกันด้วยการจดทะเบียนสมรสในวันนี้ แต่คู่นี้ สมาน (ธัชพล ชุมดวง) และ ฉันทนา (ปกฉัตร เทียมชัย) นี้ซิ ที่เลือกวันนี้เพื่อสะบั้นรัก ที่เคยมีต่อกัน แม้ทั้งคู่จะยังจดจำเมื่อแรกสบพบรักเมื่อสมัยวัยรุ่นวุ่นเรียนมหาวิทยาลัย แต่ความรักของทั้งคู่ก็ยังแตกยอด ผลิดอกออกใบ เป็นคู่รักหวานใส เป็นที่อิจฉาตาร้อนแก่เพื่อน ๆ ทั้งหลาย จริง ๆ นะ และแล้วเมื่อรักมันจุกอกทนไม่ได้อีกต่อไป สมาน ก็ได้แต่งงานกับ ฉันทนา และอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขพร้อมทั้งมี เด็กชายจัมป์ เป็นดังโซ่ทองคล้องใจของทั้งคู่ แต่ชีวิตจริงมันไม่ใช่นิทานที่จะจบด้วยความสุขจากนี้และตลอดไป ความรักและผูกพันเท่านั้นคงไม่พอที่จะทำให้รักเรายืนนาน ยิ่งคิดต่างกัน มองโลกต่างกันก็ยิ่งแล้วใหญ่ ก็ดู สมาน ของเราซิทำงานเป็นเซลล์ขายปุ๋ย มีความมุ่งมั่นในการดำเนินชีวิตเจริญรอยตามแนวคิดเศรษฐกิจพอของในหลวง และหน้าที่การงานยังทำให้เขาต้องเดินทางไปต่างจังหวัดแล้วด้วยความมีน้ำใจกับทุกคน ก็ยิ่งทำให้ สมาน มีเวลาให้กับครอบครัวอย่างลูกจัมป์และสุดที่รักอย่าง ฉันทนา น้อยลง แล้วส่วน ฉันทนา ก็อยากจะเป็นสาวยุคใหม่มั่นเกินร้อยที่รักก็ยุ่ง และก็ยังมุ่งกับงานอีกด้วย กับอาชีพมัณฑนากรในบริษัทขนาดใหญ่ และโลกก็กลมจนน่าหมั่นไส้ มีอย่างที่ไหนทำเอาเธอ เจอะรุ่นพี่หนุ่มหล่อสมัยเรียนที่เคยแอบหลงรักเธอ อย่าง เนฑิต (บรรเจิด สันธนะพานิช) ที่ทำงานบริษัทเดียวกันในตำแหน่งเจ้านายของเธอ แล้วด้วยงานในหน้าที่รับผิดชอบทำให้เวลาที่เธอควรจะมีให้ สมาน และลูกชายอย่าง จัมป์ กลับกลายเป็นเธอต้องใกล้ชิดกับกิ๊กเก่า อย่าง เนฑิต เพิ่มขึ้น เมื่อเวลาที่มีให้กันน้อยลง ความเข้าใจและไว้ใจที่เคยมีให้กันมันก็ดูจะน้อยลงตามไปด้วย ยิ่งเมื่อมีมือที่สามอย่าง เนฑิต ด้วยแล้วยิ่งทำให้ความรักที่มีต่อกันยิ่งน้อย น้อยลงไปอีก ดูเหมือนไม่ว่า สมาน จะทำอะไร ก็ขวางหูขวางตาไปซะหมด แล้วความขัดแย้งในชีวิตคู่ของคนทั้งสอง ดูจะรุนแรงขึ้นตามลำดับ ไม่ต่างไม่จากความแตกแยกทางความคิดทางการเมืองของคนในสังคม ในครั้งแรกที่ สมาน และ ฉันทนา มีปากเสียงกันนั้น ต่อหน้า จัมป์ นั้น ทำให้ลูกชายที่รักมีอาการปวดหัวอย่างรุนแรง หลังจากได้รับการรักษาที่โรงพยาบาล ทั้งคู่จึงพบว่า จัมป์ มีกรุ๊ปเลือดพิเศษต่างจากเด็กทั่วไป ดังนั้นเมื่อได้รับความกระทบกระเทือนทางจิตใจจึงมีอาการเช่นนี้ ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ สมาน และ ฉันทนา จึงสัญญากันว่าจะไม่ทะเลาะกันต่อหน้าลูกอีก และหันหน้าเข้าหากัน เพื่อร่วมกันกอบกู้ครอบครัวของตนขึ้นมาอีกครั้ง โดย ฉันทนา ตัดสินใจลาออกจากงานมาดูแลลูกและครอบครัวอย่างเต็มที่ พร้อมทั้งตัดขาดกับ เนฑิต เมื่อคิดได้แล้วว่า เธอยังคงรัก สมาน อยู่ไม่เสื่อมคลาย ถึงแม้ สมาน และ ฉันทนา จะมีเวลาให้กันมากขึ้น พยายามให้ความเข้าใจกันมากขึ้น แต่ว่าช่องว่างที่มีอยู่นั้น ความหวาดระแวงที่ยังคงเกาะกินอยู่ในใจนั้น ก็ยังคงมีอยู่และพร้อมจะปะทุขึ้นมาสร้างความร้าวฉานได้อย่างง่ายดาย แล้วความอดทนก็มาถึงจุดสิ้นสุด เหมือนกับความขัดแย้งในสังคมที่รุนแรงขึ้นจนถึงขั้นแตกหักและมีการเผชิญหน้ากันด้วยความรุนแรง เช่นเดียวกับชีวิตคู่ของ สมาน และ ฉันทนา ที่จบลงด้วยการ หย่าร้าง ที่สำนักงานเขตสมรัก ในวันแห่งความรักนี้ แต่ก่อนที่ สมาน และ ฉันทนา จะเซนต์ชื่อลงบนหนังสือหย่า ทั้งสองได้เห็นข่าวในโทรทัศน์รายงานว่า เกิดเหตุคนเมายาบ้าขับรถบรรทุกแก๊สฝ่าด่านตำรวจมา และหักหลบรถมอเตอร์ไซค์ที่วิ่งตัดหน้ากะทันหัน ทำให้รถบรรทุกแก๊สพลิกคว่ำลื่นไถลไปจอดขวางกลางรางรถไฟ จนเมื่อขบวนรถไฟคันที่ จัมป์ โดยสารแล่นผ่านมา คนขับรถไฟต้องรีบเบรกกะทันหัน ทำให้ถังแก๊สที่กลิ้งมาใกล้รางเกิดระเบิดขึ้นทันที เป็นเหตุให้ขบวนรถไฟเสียหลักพลิกคว่ำตกจากราง เหตุการณ์เริ่มวุ่นวาย เมื่อการขนย้ายผู้บาดเจ็บเป็นไปด้วยความทุลักทุเล เพราะต้องฝ่าทั้งกลุ่มม็อบที่กำลังเผชิญหน้ากันปิดเส้นทางการจราจร ท่ามกลางความหวาดกลัวของผู้ได้รับบาดเจ็บ และเหล่าญาติผู้รอคอยด้วยความหวังว่า ลูกหลาน พ่อแม่ หรือ พี่น้องของเขาเหล่านั้นที่ได้รับบาดเจ็บให้ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที รวมทั้ง สมาน และ ฉันทนา ที่พบแล้วว่าสุดท้ายความรักของทั้งคู่ยังคงอยู่ที่ จัมป์ ได้รีบมาโรงพยาบาลด้วยความหวังว่าจะมีปาฏิหารย์ เกิดขึ้นกับชีวิตของลูกชาย ซึ่งเป็นตัวแทนของความรักของทั้งคู่ ชีวิตที่ยังแขวนอยู่ระหว่างความเป็นและความตายในการรักษา เช่นเดียวกับทุกคนในโรงพยาบาลแห่งนี้ หวังเพียงจะมีปาฏิหารย์เกิดขึ้นกับทุกชีวิตอันเป็นที่รัก