ปริศนา (2498)
ปริศนา (2498/1955) ดาราสาว, สวย, สด, อายุ 18 ปี อมรา อัศวนนท์ รองมิสยูนิเวอรส์ แสดงนำในเรื่อง ปริศนา ที่มหาชนนับล้านติดกันงอมแงม ชม..ปริศนา เท่ากับชมการประกวดนางงามใหญ่ยิ่ง..มโหฬาร.. เมื่ออายุได้ 19 ปี ปริศนากลับมาประเทศบ้านเกิดอีกครั้ง หลังจากถูกส่งไปอยู่กับ วิรัช ซึ่งมีศักดิ์เป็นอาที่อเมริกา การกำเนิดของปริศนาเป็นปริศนาสมดังชื่อ เพราะเธอเกิดหลังจากที่ พระวินิจมนตรี บิดาเสียชีวิตได้ 6 เดือน คุณนายสมร ผู้เป็นมารดาจึงถูกตราหน้าว่ามีชู้ ชีวิตความเป็นอยู่ที่อเมริกาทำให้ปริศนามีความมั่นใจในตัวเอง ทำให้ชายไทยหลายคนตกหลุมรักปริศนา ทันทีที่เห็นรูปลักษณ์อันปราดเปรียวและทันสมัย รวมทั้ง ประวิช ที่กำลังตามจีบ อนงค์ พี่สาวของปริศนาก็หันมาจีบปริศนาแทน ปริศนาสมัครเป็นครูสอนภาษา เมื่อเห็นครูยังเด็ก ท่านหญิงรัตนาวดี กับผองเพื่อนจึงรุมแกล้ง แต่ด้วยความมีไหวพริบของปริศนาก็สามารถกำราบนักเรียนจนอยู่หมัดในเวลาอันรวดเร็ว และกลายเป็นที่รักใคร่ของเหล่านักเรียน ช่วงเวลานั้น คนรอบข้างของ ม.จ. พจน์ปรีชาเอาแต่พูดถึงหญิงสาวที่ชื่อปริศนา ทั้ง ประวิช ลูกพี่ลูกน้องและ ท่านหญิงรัตนาวดี น้องสาว กระทั่งท่านพจน์ได้เจอปริศนาตัวจริง ก็ต้องตกตะลึงเพราะความมีเสน่ห์สมคำร่ำลือ ทำให้ท่านพจน์ตกหลุมรักปริศนาอย่างเฉียบพลัน ประวิชผู้ซึ่งคลั่งไคล้ปริศนาอย่างหนัก ขอร้องให้ท่านพจน์ช่วยเป็นพ่อสื่อชักนำความรักให้ ปริศนาเข้าใจผิดคิดว่าท่านพจน์ไม่ได้รักตนจึงโกรธท่านพจน์เป็นอันมากส่วนประวิช หลังจากช้ำรักจากปริศนาก็กลับไปหาอนงค์และสมหวังในภายต่อมา ระหว่างนั้น ปริศนามีเพื่อนชายใหม่ ชื่อ อานนท์ ซึ่งอาศัยอยู่ข้างบ้าน ด้วยความที่ไปร่ำเรียนมาจากเมืองนอกเหมือนกันทำให้ทั้งสองคุยกันถูกคอและสนิทสนมกันอย่างรวดเร็ว ผู้คนต่างลือกันไปว่าปริศนาคบหากับอานนท์ ท่านพจน์จึงหนีไปเชียงใหม่เพื่อรักษาแผลใจ เป็นเหตุให้ล้มป่วยลงปริศนาเพิ่งรู้หัวใจตนเองจึงรีบมาพยาบาลท่านพจน์จนอาการดีวันดีคืน ในที่สุด ทั้งสองก็เข้าใจกันและตกลงหมั้นหมายกันอย่างเงียบๆ คุณหญิงราชวัลลภ แม่ของ รตี น้องสาวต่างมารดาของประวิช ที่ตั้งใจจะจับท่านพจน์เป็นลูกเขย รีบไปใส่ไฟเกี่ยวกับชาติตระกูลของปริศนาให้เสด็จอาของท่านพจน์ฟังแต่กลายเป็นว่าคุณหญิงราชวัลลภต้องหน้าหงาย เมื่อวิรัชปรากฏตัวพร้อมจดหมายของพระวินิจมนตรีที่ระบุว่าปริศนาเป็นลูกสาวของตน ปริศนาทั้งได้คลี่คลายลงไปพร้อมๆ กับเรื่องน่ายินดีระหว่างท่านพจน์และปริศนา
สุดที่รัก (2498)
สุดที่รัก (2498/1955) ธาดา ไกรวงศ์ นักธุรกิจหนุ่มเนื้อหอมเป็นที่หมายปองของหญิงสาว ในงานรื่นเริงงานหนึ่ง เขาได้พบกับ เรณู สาวสวยและตกหลุมรักทันที แต่แล้วจู่ๆ ธุรกิจของธาดาที่กำลังเจริญรุ่งเรืองก็ประสบความล้มเหลวทำให้ธาดาสิ้นเนื้อประดาตัว เขาตรงไปที่บ้านเรณูเพื่อจะสารภาพว่าตนกลายเป็นบุคคลล้มละลาย แต่กลับพบเรณูอยู่กับ กำพล หนุ่มเศรษฐีนักเรียนนอก ด้วยความชอกช้ำ ธาดาหนีจากกรุงเทพมุ่งหน้าไปจังหวัดแพร่ เปลี่ยนชื่อตัวเองเป็น ทม และขอทำงานกับ คุณพระนิติไพศาล เป็นคนงานคุมเกวียนไปซื้อยาสูบในจังหวัดต่างๆ ทมและดวงใจ ลูกสาวของคุณพระมีโอกาสได้ใกล้ชิดกันจนเกิดเป็นความรัก แต่แล้ววันหนึ่งมีโทรเลขจากหลานสาวของคุณพระแจ้งว่าจะมาพักที่จังหวัดแพร่คุณพระจึงสั่งให้ทมและต่อม คนงานไปรับหลานสาวที่สถานีรถไฟ เมื่อรถไฟเทียบชานชลาปรากฏว่าหลานสาวของคุณพระก็คือ เรณู คนรักเก่าของทมซึ่งบัดนี้ถูกกำพลสลัดรักจนสิ้น ทมจึงหนีอีกครั้งพร้อมกับต่อมไปยังเมืองสองและได้พบกับ คำล่า สาวชาวบ้านซึ่งหลงรักทมตั้งแต่ครั้งที่ทมมาตระเวนหาซื้อใบยาสูบที่เมืองสอง แต่ทมนั้นเอ็นดูคำล่าเหมือนน้องสาว ทมครุ่นคิดถึงความดีของดวงใจ จึงตัดสินใจที่จะกลับแพร่เพื่อปรับความเข้าใจกับเรณูและดวงใจ คำล่าแอบตามกองเกวียนของทม พ่อของคำล่าโกรธมากจึงตามกองเกวียนของทม หวังจะฆ่าทมและคำล่าเสีย เคราะห์ดีที่คุณพระนิติไพศาล เรณู และดวงใจกำลังเดินทางมาพบทมเช่นเดียวกันจึงเข้าห้ามปรามได้ทันท่วงที
น้ำใจสาวจีน (2498)
น้ำใจสาวจีน (2498/1955) อุปสรรคความรักระหว่างหนุ่มชาวไทยกับสาวจีน เง็กลั้ง ลูกสาวแสนสวยของ ยกเซ็ง คนขายกาแฟชาวจีน มีหนุ่มมากมายมาข้องแวะเง็กลั้งอยู่เสมอ แต่เธอก็ยังไม่คิดจะให้ใจกับใคร จนเมื่อได้พบกับ วิม หนุ่มไทยฐานะดีเง็กลั้งก็ตกอยู่ในห้วงรักจนยากจะถอนตัว ความรักของทั้งสองต้องมาสะดุดลง เพราะ คุณหญิงทิพย์ กับ วัชรินทร์ แม่และพี่สาวของ วิม ตั้งแง่รังเกียจเง็กลั้ง ถึงขนาดตามไปด่าที่ร้านกาแฟ แต่วิมยังคงดึงดันจะแต่งงานกับเง็กลั้ง คุณหญิงทิพย์เห็นท่าไม่ดีจึงแสร้งทำเป็นยอมรับความสัมพันธ์ของทั้งสอง แต่วางแผนกลั่นแกล้งเง็กลั้งเมื่อเข้ามาอยู่ในบ้าน มีเพียง วิมล น้องสาวของวิมที่ดีกับเง็กลั้ง ไม่นานนักเง็กลั้งก็ตั้งครรภ์ วัชรินทร์ไปหายาทำลายเด็กมาบังคับให้เง็กลั้งกิน แต่เง็กลั้งขัดขืนจึงถูกวัชรินทร์ตบตี ซ้ง ซึ่งแอบรักเง็กลั้งเสมอมาทนดูเง็กลั้งถูกทำร้ายไม่ไหว พูดแกมขอร้องให้เง็กลั้งหนีไปเสีย แต่เง็กลั้งยืนกรานจะไม่ไปไหนวิมกลับมาบ้านพอดี คุณหญิงทิพย์จึงใส่ร้ายว่าเง็กลั้งตบวัชรินทร์ ยิ่งเห็นเง็กลั้งอยู่ในห้องกับซ้งสองต่อสองก็เกือบจะเข้าใจผิด โชคดีที่วิมลเห็นเหตุการณ์จึงอธิบายให้วิมฟัง วิมพาเง็กลั้งออกจากบ้านไปอยู่กันที่ร้านกาแฟ เป็นเหตุให้คุณหญิงทิพย์ล้มป่วย วิมเห็นแก่ความเป็นแม่ลูกจึงกลับมาอยู่ที่บ้านพร้อมเง็กลั้งและลูกชาย แต่คุณหญิงทิพย์ยังราวีเง็กลั้งไม่เลิก รวมหัวกับวัชรินทร์จับลูกชายของเง็กลั้งโยนลงบ่อ เดชะบุญที่วิมมาช่วยไว้ทัน ยกเซ็งสุดจะทนกับพฤติกรรมของคุณหญิงทิพย์ จึงส่งเง็กลั้งกับลูกชายไปอยู่ที่หัวหิน บัดนี้ คุณหญิงต้องทุกข์ระทมกับกรรมที่ตนเคยก่อไว้ เพราะวิมตามไปอยู่กับเง็กลั้งที่หัวหิน ส่วนวัชรินทร์หนีตามเวก ชู้รักไป ก่อนตายคุณหญิงขอให้เง็กลั้งอโหสิกรรมให้ และยกสมบัติทุกอย่างให้วิม วัชรินทร์ซมซานกลับมาขอความช่วยเหลือจากวิม ทีแรกวิมไม่ยอม แต่ด้วยน้ำใจของเง็กลั้ง วิมจึงใจอ่อนอนุญาตให้วัชรินทร์อาศัยในบ้าน เวกตามมาขู่วัชรินทร์ว่าจะฆ่าลูกของวิม ซ้งมาเห็นเข้าจึงยิงเวกตายก่อนจะยอมมอบตัว และฝากฝังให้วิมดูแลเง็กลั้งซึ่งเขารักสุดหัวใจ
พิมพิลาไลย (2498)
พิมพิลาไลย (2498/1955) นิยายจาก ขุนช้างขุนแผน วรรณคดีชั้นเยี่ยมของไทย ทองประศรี ต้องเลี้ยงดู พลายแก้วแต่เพียงผู้เดียวหลังจากที่ ขุนไกร ต้องโทษประหารชีวิต 15 ปีผ่านไป พลายแก้วบวชเรียนสั่งสมวิชาจนเก่งกล้าวันหนึ่งเณรแก้วออกเทศน์ทำให้ พิมพิลาไลยหลงใหลในสำเนียง เณรแก้วไม่สามารถระงับกิเลสจึงลาสิกขาบทมาหานางพิมและแต่งงานกันในเวลาต่อมา เป็นผลให้ ขุนช้างแค้นพลายแก้วเพราะหมายปองนางพิมอยู่ ขุนช้างฉวยโอกาสกราบทูลพระพันวษาให้แต่งตั้งพลายแก้วไปคุมทัพปราบเชียงทอง ในระหว่างที่พลายแก้วไม่อยู่ก็ออกอุบายต่างๆ เพื่อให้นางพิมแต่งงานด้วยแต่ก็ไม่สำเร็จ ต่อมานางพิมล้มป่วย ขรัวตาจึงเปลี่ยนชื่อเป็น วันทอง เพื่อสะเดาะเคราะห์ ขุนช้างกุเรื่องหลอกนางวันทองจนสำเร็จและได้แต่งงานกับนางวันทอง พลายแก้วนำทัพชนะได้รับพระราชทานยศเป็นขุนแผน พร้อมได้ลาวทอง ชาวเชียงทองเป็นภรรยาอีกคน วันทองดีใจที่พลายแก้วไม่ตายแต่ก็เสียใจที่ตกเป็นของขุนช้างแล้ว ขุนแผนกับขุนช้างได้รับราชโองการให้ไปรับราชการ ขุนช้างฟ้องพระพันวษาว่าขุนแผนทิ้งหน้าที่หนีไปหาลาวทองที่สุพรรณบุรี ขุนแผนจึงถูกเนรเทศไปเป็นนายด่านเมืองกาญจนบุรี ขุนแผนแค้นขุนช้างมากจึงสร้างดาบฟ้าฟื้น ปลุกเศกกุมารทองและค้นหาม้าสีหมอกตามตำราพิชัยสงคราม แล้วบุกไปชิงนางวันทองที่เรือนขุนช้าง
ลูกเครือฟ้า (2498)
ลูกเครือฟ้า (2498/1955) ร.ต.พร้อม ได้รับพระราชทานยศเป็นพระยาณรงค์ จึงรับ เครือณรงค์ ลูกชายที่เกิดกับเครือฟ้า มาเลี้ยงดู ท่ามกลางการกลั่นแกล้งของคุณหญิงจำปา ภรรยากับ จำลักษณ์ ลูกชาย กระทั่งวันหนึ่งเครือณรงค์ได้รู้ว่าตัวเองไม่ใช่ลูกของคุณหญิงจำปา จึงชวน คำเจิด พี่เลี้ยงเก่าของเครือฟ้าออกจากบ้านไปเช่าห้องอยู่ โดยได้รับความอุปการะจาก พระยารามพลพ่าย และเกิดรักใคร่ พวงแก้ว ลูกสาวพระยารามฯ สองปีผ่านไปเครือณรงค์สอบเป็นนักเรียนนายร้อยและถูกส่งไปประจำการที่นครราชสีมา วันหนึ่งคุณหญิงจำปาพาจำลักษณ์มาเยี่ยมพระยารามฯ และได้พบกับพวงแก้ว คุณหญิงจำปาหมายมั่นปั้นมือจะเอาพวงแก้วเป็นลูกสะใภ้ให้ได้ จึงพยายามใส่ไฟพระยารามฯว่าเครือณรงค์เป็นคนเลว จนพระยารามฯ หลงเชื่อ และบังคับให้พวงแก้วแต่งงานกับจำลักษณ์ เมื่อเครือณรงค์ทราบเรื่องจึงรีบบุกมาในงานแต่งงานและพยายามอธิบายความจริงให้พระยารามฯ เข้าใจ แต่ไม่เป็นผล เครือณรงค์จึงพาพวงแก้วหนีในวันรุ่งขึ้น วิญญาณของเครือฟ้ามาปรากฏร่างเพื่อเตือนสติเครือณรงค์ให้พาพวงแก้วไปคืนแต่สายเกินไป เพราะจำลักษณ์ยิงตัวตายเสียแล้ว คุณหญิงจำปาสำนึกผิดที่ตนเองเป็นต้นเหตุจึงออกบวชเพื่อชดใช้กรรมที่เคยก่อไว้
รักในสายเลือด (2498)
รักในสายเลือด (2498/1955) พี่น้องท้องเดียวกันจากกันแต่เล็ก! คนน้องไปอยู่กรุง คนพี่อยู่ชนบท แต่ลิขิตบรรดาลให้เขาทั้งสองมาพบกัน รักกันและจะแต่งงานกันดังนี้ จึงมาเปน...รักในสายเลือด (ที่มา: นิตยสารผดุงศิลป์ กันยายน พ.ศ. 2498)
โตเกียวพิศวาส (2498)
โตเกียวพิศวาส (2498/1955) ความรักที่เบ่งบานในโตเกียวระหว่างเทวัญ สุริยง หนุ่มนักศึกษาไทย กับ ยูสิโก๊ะ สาวงามแดนอาทิตย์อุทัย ทำให้เทวัญตัดสินใจพายูสิโก๊ะกลับมาอยู่ด้วยกันที่เมืองไทยหมายจะแต่งงานให้เป็นเรื่องเป็นราวทว่า คุณนายเนื่อง มารดาของเทวัญกลับไม่พอใจที่ลูกชายจะไปมีภรรยาเป็นสาวชาวต่างชาติ จึงพยายามหาทางกลั่นแกล้งใส่ร้ายยูสิโก๊ะ จนเธอหนีออกจากบ้าน ดีที่ได้หลวงสมบัติ เจ้าหนี้ของคุณนายเนื่องผ่านมาพบเข้า จึงให้ความช่วยเหลือและรับเธอมาอยู่ในความดูแล วันเวลาผ่านไป ยูสิโก๊ะได้ข่าวว่า เทวัญกำลังจะแต่งงานกับผู้หญิงอื่น เธอจึงตัดสินใจเดินทางกลับญี่ปุ่นในจังหวะเดียวกับที่หลวงสมบัติแอบเห็นจี้ห้อยคอซึ่งใส่ภาพแม่ของยูสิโก๊ะ หลวงสมบัติจึงรู้ว่า ยูสิโก๊ะคือหลานสาวแท้ๆ เพราะคนในภาพเป็นน้องสาวของหลวงสมบัติซึ่งหนีไปแต่งงานกับคนญี่ปุ่น เมื่อรู้ว่าเทวัญยังรักยูสิโก๊ะหลวงสมบัติก็สั่งเทวัญให้ไปตามยูสิโก๊ะ แล้วจะยกสมบัติให้ทั้งหมด เมื่อเทวัญรู้ดังนั้น ประกอบกับรู้ว่าหญิงที่เขาจะแต่งงานด้วยหมายจะปอกลอกเงินทอง จึงเดินทางไปตามหายูสิโก๊ะ และปรับความเข้าใจกัน ทั้งสองจึงได้ครองรักกันสมปรารถนา
ยอดรักคนยาก (2498)
ยอดรักคนยาก (2498/1955) เช็ง เป็นลูกชาวไร่ อยู่ปากน้ำปราณจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เดินทางมาศึกษาที่กรุงเทพพร้อมกับ ฮะ เพื่อนสนิท และเช่าที่ดินเพื่อทำสวนทำไร่หารายได้เลี้ยงตนและสมทบเงินที่ นางชุ้น มารดาส่งเสีย จนในที่สุดเช็งสอบได้ชั้นมัธยมปีที่ 6 และฮะสอบประถมปีที่ 3 เช็งแอบคบอยู่กับ ตุ๊กตา ลูกสาวของหลวงวุฒิกรรมโกสัย ซึ่งอยู่ใกล้สวนผักของเขา ส่วนฮะรักอยู่กับ จันทร์ สาวใช้ของตุ๊กตา วันหนึ่งหลวงวุฒิกรรมโกสัยจับได้ขณะที่เช็งกับตุ๊กตากำลังพลอดรักกัน จึงลงโทษเช็งและตุ๊กตาอย่างสาหัส ตุ๊กตาทนไม่ไหวจึงหนีออกจากบ้านพร้อมกับจันทร์ เช็งพาตุ๊กตากลับไปยังตำบลปากน้ำปราณ และได้ทราบว่ามารดากำลังตกอยู่ในความลำบากจึงออกหางานทำ เช็งได้งานเป็นเลขานุการของ แน่งน้อย ซึ่งเป็นภรรยาของ เชิด มิจฉาชีพซึ่งกำลังต้องโทษอยู่ในคุก แน่งน้อยปรนเปรอเช็งด้วยเสื้อผ้าและกามารมณ์จนเช็งหลงลืมแม่และภรรยาที่กำลังตั้งท้อง วันหนึ่งตุ๊กตาหอบลูกมาตามหาเช็งที่กรุงเทพ แต่เช็งปฏิเสธความรับผิดชอบและไม่แยแสต่อตุ๊กตาตุ๊กตาจึงซมซานกลับไปหาพ่อ แต่หลวงวุฒิกรรมโกสัยเสียชีวิตแล้ว ตุ๊กตาคิดจะจบชีวิตลงในแม่น้ำเจ้าพระยา แต่ คุณนายประทุม และ ธรรมศักดิ์ ลูกชายนั่งเรือยนต์ผ่านมาช่วยชีวิตตุ๊กตาไว้ทัน เมื่อฟังเรื่องราวของตุ๊กตาคุณนายประทุมจึงรับเธอไว้เป็นบุตรบุญธรรมเพราะความเห็นอกเห็นใจ เชิดได้รับการปล่อยตัวออกจากคุก แน่งน้อยจึงกลับไปหาเชิด เช็งโกรธมากจึงยิงเชิดเสียชีวิต เช็งจึงต้องติดคุกเป็นเวลา 3 ปี เมื่อพ้นโทษ เช็งจึงขี่สามล้อรับจ้างหาเงินประทังชีวิต แล้วบังเอิญเจอตุ๊กตาและลูก เช็งพยายามซ่อนตัวทั้งๆ ที่อยากใกล้ชิดกับลูก แต่ด้วยความเป็นพ่อทำให้เช็งอดที่จะแอบมาหา ตุ๊กตุ่น ลูกสาวไม่ได้ ทั้งที่โดนนางชุ้นและจันทร์กีดกัน วันหนึ่งตุ๊กตุ่นไม่ยอมกินยา และร้องจะให้เช็งเป็นผู้ป้อนยา เช็งจึงถูกเรียกตัวไป เช็งพยายามปิดบังตัวตนทำให้ตุ๊กตุ่นมองหน้าไม่ชัด จึงถอดหมวกของเช็งออกทุกคนตกใจเมื่อเห็นว่าเป็นเช็ง เช็งสารภาพผิดแต่ไม่มีใครยกโทษให้จึงคิดจะจบชีวิตตัวเองบนทางรถไฟ ธรรมศักดิ์เกลี้ยกล่อมให้ตุ๊กตาอภัยให้เช็ง ขณะนั้นเอง ตุ๊กตาเหลือบไปเห็นตุ๊กตุ่นวิ่งตามเช็งอยู่บนทางรถไฟจึงวิ่งไปหา เช็งรีบผละจากทางรถไฟ แต่รถไฟวิ่งเข้าหาร่างของตุ๊กตุ่นเสียแล้ว
ผารีซอ (2498)
ผารีซอ (2498/1955) เมฆ หนุ่มเมืองใต้หนีซมซานไปบนดอย หลังพลั้งมือฆ่าคนตายในบ่อน ลืมตาขึ้นมาอีกครั้งเมฆก็พบว่าตัวเองอยู่ในกระท่อมของหญิงสาวชาวเขาเผ่าลีซอ หญิงสาวเล่าว่า บาบ่า หัวหน้าเผ่า กับเธอ นะหลี ลูกสาว ช่วยเมฆเอาไว้ เมื่ออาการของเมฆหายเป็นปรกติ กุ๊ก หมอผีประจำเผ่ายื่นคำขาดให้เมฆออกจากหมู่บ้านโดยอ้างว่า หากดึงดันรับคนใต้ไว้ในหมู่บ้านจะพบภัยพิบัติแต่บาบ่าเห็นว่าเมฆแม่นในทางปืน น่าจะช่วยปกป้องหมู่บ้านได้ จึงไม่เชื่อคำทำนายและรับเมฆเข้าหมู่บ้าน คืนต่อมา หมู่บ้านลีซอถูกพวกยางกะเลอปล้นชาวเขาช่วยกันต่อสู้ เมฆล่อให้กุ๊กลงไปดักยิงที่เชิงเขาส่วนตัวเขาย้อนไปกระหน่ำยิงกุ๊กจนสิ้นลมหายใจ บาบ่าไว้ใจเมฆมากถึงขนาดยกนะหลีให้เป็นเมีย จนกระทั่งนะหลีตั้งครรภ์ เมฆขอไปเยี่ยมญาติที่ภาคใต้ พอเมฆคล้อยหลังไป พ่อค้าฝิ่นขบวนฮ่อก็มาขอรับฝิ่นกับบาบ่าและยืนยันว่าชำระเงินให้เมฆไปแล้ว ทุกคนจึงได้รับรู้ความชั่วร้ายของเมฆ ขบวนฝิ่นฮ่อแค้นใจบุกมาเผาหมู่บ้านลีซอพังพินาศ ชาวเขาที่หลงเหลือชีวิตย้ายไปอยู่บนดอยอีกลูกหนึ่ง รวมทั้งบาบ่าและนะหลีซึ่งบัดนี้คลอดลูกเป็นผู้ชายชื่อว่า เลาเอ้อ นะหลีแต่งงานใหม่กับ เลาจิง หนุ่มชาวเผ่าเดียวกันที่รักนะหลีมานาน วันหนึ่ง เลาเอ้อพบชายคนหนึ่งกำลังจะจมน้ำจึงช่วยชีวิตไว้และพามาที่บ้านนะหลีเห็นหน้าก็จำได้ทันทีว่าคือเมฆ ซึ่งยังไม่เลิกสันดานชั่วพยายามปลุกปล้ำนะหลี นะหลีพยายามขัดขืนแต่ไม่สามารถสู้กำลังเมฆจึงคว้าลูกดอกอาบยาพิษแทงขาตัวเองตาย เมฆพาเลาเอ้อกระเสือกกระสนหนีลงดอย บาบ่าเลาจิงและคนอื่นๆ ตามเมฆไปและเกิดการยิงต่อสู้กันเมฆเผลอไปถูกลูกดอกอาบยาพิษ ร่างของเขาตกลงไปในกระแสน้ำอันเชี่ยวกราก โดยไม่มีใครช่วยทัน
ราตรีในโตเกียว (2498)
ราตรีในโตเกียว (2498/1955) เมื่อเรียนจบวิชาการบัญชีในระดับวิทยาลัยที่เมืองโอซาก้า สุนันท์ เด็กสาวชาวไทยก็เดินทางมาเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยที่โตเกียว โดยอาศัยอยู่กับ เสน่ห์ พี่ชาย สุนันท์ได้รู้จัก ชาย เพื่อนนักบินของเสน่ห์ที่แสดงท่าทีไม่เป็นมิตรอย่างออกนอกหน้า เสน่ห์จึงต้องเป็นคนอธิบายสาเหตุที่ชายแสดงท่าทีเกลียดผู้หญิงให้สุนันท์ฟังว่า ในอดีต ชายเคยหลงรัก มิชิโกะ สาวญี่ปุ่นที่ชายเคยช่วยไม่ให้เธอฆ่าตัวตาย เพราะทนถูก ทัตสึโอะสามีชาวญี่ปุ่นกดขี่ไม่ไหว ทัตสึโอะเข้าใจผิดคิดว่ามิชิโกะคบชู้กับชายมิชิโกะจึงจะคว้านท้องเพื่อพิสูจน์ความจริง แต่เสน่ห์เข้ามาขวางไว้และอธิบายความจริงจนทัตสึโอะเข้าใจ สุนันท์พยายามปลอบใจชายที่กำลังเป็นทุกข์เพราะผิดหวังในความรัก แต่กลับถูกชายเข้าใจผิดคิดว่าเธอมาเยาะเย้ย คืนหนึ่ง ชายได้พบมิชิโกะโดยบังเอิญในสวนดอกไม้ เป็นโอกาสให้ทั้งสองได้ปรับความเข้าใจกันสุนันท์เผอิญมาเห็นชายกับมิชิโกะกำลังโผกอดกันก็เสียอกเสียใจคิดว่ามิชิโกะจะกลับมารักชาย สุนันท์จึงคิดจะจบชีวิตตัวเอง
เมียแก้ว (2498)
เมียแก้ว (2498/1955) แก้ว และ แม่กิ่ง เป็นคนใช้บ้านเจ้าคุณ และ คุณหญิงอรรถมนู สองสามีภรรยาซึ่งเป็นเศรษฐีแต่เปลือกนอก แก้วแอบมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับอรรถ ลูกชายคนโตของเจ้าคุณ แม้จะรู้อยู่แก่ใจว่าชายหนุ่มหมั้นหมายกับ ผุสดี แล้ว จนในวันหนึ่งความก็แตกเพราะแก้วตั้งท้องขึ้น แก้วใจแข็งไม่ยอมปริปากว่าใครเป็นพ่อเด็ก คุณหญิงจึงเฆี่ยนตีแก้วโทษฐานที่สร้างความเสื่อมเสียมาให้ครอบครัว อนุ น้องชายของอรรถเกิดเวทนาแก้วจึงออกรับแทน คุณหญิงจึงไล่ทั้งสามออกจากบ้าน วันหนึ่ง เจ้าคุณอนุบาลราชกิจ กับ สุนทรี บุตรสาวมาทวงเงินค่าที่ดินกับเจ้าคุณอรรถมนู แต่เจ้าคุณอรรถมนูไม่ให้แถมยังตีรวน เจ้าคุณอนุบาลจึงเสนอจะยกหนี้ให้ถ้าอรรถยอมแต่งงานกับสุนทรี แต่เจ้าคุณอรรถมนูก็ไม่ยอมเจ้าคุณอนุบาลจึงต้องหัวเสียกลับไป ไม่นานนักอรรถก็แต่งงานกับผุสดี และต้องตกเป็นเหยื่อของ เบ้งเฮกสามีลับๆของผุสดีขู่กรรโชกเงินทุกเดือน แก้วกลับมาอยู่ที่บ้านเดิมของแม่กิ่ง และได้มารู้ความจริงว่าเจ้าคุณอนุบาลเป็นพ่อที่แท้จริง เจ้าคุณอนุบาลจึงรับอุปการะแก้วและลูกน้อย ส่วนที่บ้านอรรถมนู เจ้าคุณและคุณหญิงต้องปวดหัวเมื่อเงินเริ่มร่อยหรอเพราะถูกเบ้งเฮกรีดไถ เมื่อแก้วทราบเรื่องจึงยื่นมือเข้าไปช่วย
สาวเวียงฟ้า (2498)

สาวเวียงฟ้า (2498/1955) จมื่นเพชรศรีสรราช เลี้ยง ฟองจันทร์กับ ปาน มาตั้งแต่เป็นทารกด้วยความเคียดแค้น เพราะแม่ของฟองจันทร์หนีตามผู้ชายไปกรุงเทพ เมื่อถูกทิ้งก็ซมซานกลับมา ส่วนแม่ของปานเป็นน้องสาวแท้ๆ ของจมื่นเพชรศรีสรราชมีชะตากรรมที่ไม่ต่างกัน 20 ปีผ่านไป ฝันร้ายของจมื่นเพชรฯ ก็กลับมาหลอกหลอนอีกครั้ง ฟองจันทร์หนีตาม ไกรสีห์ มหาโยธินนักบินเสรีไทยที่โดดร่มมาที่ไร่ของจมื่นเพชรฯ และตกหลุมรักฟองจันทร์ โดยต่างไม่รู้ว่ามีพ่อคนเดียวกัน คือ พระยาประกิต ซึ่งเคยมีความสัมพันธ์กับ ฟองงาม แม่ของฟองจันทร์ คุณหญิงสมทรง รังเกียจลูกสะใภ้ไม่มีชาติตระกูลจึงหาทางกลั่นแกล้งฟองจันทร์ ประจวบเหมาะกับที่ไกรสีห์ได้รับมอบหมายให้ไปเรียนการบินที่ต่างประเทศเป็นเวลา 2 ปี จึงหาเรื่องเฉดหัวฟองจันทร์ออกจากบ้าน มิหนำซ้ำยังขโมยลูกของฟองจันทร์ไป ไกรสีห์ประสบอุบัติเหตุเครื่องบินตก เป็นเหตุให้ไกรสีห์ความจำเสื่อม คุณหญิงสมทรงรีบจัดแจงให้ไกรสีห์แต่งงานกับระรินทิพย์ ลูกสาวของ มลฤดี และยังเป็นแม่ที่แท้จริงของปาน ฟองจันทร์หาเลี้ยงชีพด้วยการขายขนมที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง โดยมีปานคอยช่วยเหลือ และได้พบกับ อู๊ด ซึ่งเป็นลูกของตนที่ถูกคุณหญิงขโมยไป ก็พากันกลับมาพึ่งใบบุญของจมื่นเพชรฯ แต่ไม่นานนักไกรสีห์ก็ตามฟองจันทร์มา

เทวีขวัญฟ้า (2498)
เทวีขวัญฟ้า (2498/1955) กว่า 5 ปี ที่ นายรังสรรค์ และ นางอนงค์ ตั้งตารอการกลับมาของลูกชายที่ส่งไปเรียนยังต่างประเทศ กลับสร้างความช้ำชอกใจยิ่งนัก เพราะแทนที่ทั้งสองจะไปเรียนตามที่นายรังสรรค์วาดฝัน อุไภย คนพี่ กลับไปเรียนดนตรีที่ประเทศอเมริกา ส่วน สีทอง คนน้องกลับไปเรียนยูโดที่ประเทศญี่ปุ่น กระนั้นสองพี่น้องก็รับปากเป็นมั่นเหมาะว่าจะใช้วิชาที่ได้ไปร่ำเรียนมาให้เป็นผล นายรังสรรค์จึงให้ยืมเงินเป็นทุนในการตั้งกิจการ โดยมีสัญญาว่าจะต้องใช้เงินคืนภายใน 6 เดือน สีทองเปิดกิจการสอนกายกรรมแต่ดูท่าจะไม่รุ่งผิดกับอุไภยซึ่งเปิดบาร์พาราไดส์เป็นที่นิยมมาก อุไภยได้รู้จักกับ ศรินทร์ สาวสังคมและหลงศรินทร์จนหัวปักหัวปำไม่เป็นอันทำงาน ทำให้กิจการตกต่ำจนเป็นหนี้สินไม่มีเงินใช้คืนพ่อตามสัญญา อุไภยจึงเอาตัวรอดด้วยการหนีออกจากบ้าน ยังความกลุ้มใจให้นางอนงค์เนื่องจากไปสู่ขอ ชื่นธิดา ลูกสาวของ คุณหญิงผกา ไว้ นางอนงค์จึงแก้ปัญหาด้วยการให้สีทองแต่งงานแทนพี่ชาย อุไภยหนีไปที่เกาะพิทักษ์ ปากน้ำตะโก จังหวัดชุมพร และขออาศัยอยู่กับ นายวงศ์ ชายตาบอดและ เจิด ลูกสาว เจิดหลงรักอุไภยจึงยินยอมทอดกายให้ แต่สีทองก็ตามมาจนเจอและพาอุไภยกลับกรุงเทพ อุไภยกลับมาแต่งงานกับศรินทร์ตามความต้องการของแม่ ส่วนเจิดคลอดลูกสาวและตั้งชื่อว่า ดวงใจ 3 ปีผ่านไป อุไภยและศรินทร์มาพักผ่อนที่ชุมพร อดีตของอุไภยจึงเปิดเผยขึ้น ศรินทร์ซึ่งไม่มีลูกอยู่แล้วจึงจ้างคนให้ไปขโมยลูกสาวเจิด เจิดกับวงศ์จึงเดินทางไปขอความช่วยเหลือจากสีทองเพื่อฟ้องร้องต่อศาล แต่ศรินทร์ชนะคดีความ ไม่นานอุไภยก็จับได้ว่าศรินทร์ทำทารุณต่อลูกสาวของตน อุไภยโกรธมากและสำนึกผิดจึงพาดวงใจไปหาเจิด ซึ่งขณะนั้นเจิดได้เสียสติไปแล้ว แต่เมื่อเจิดได้ยินเสียงของดวงใจเรียกตัวเองว่าแม่ เจิดจึงได้สติกลับคืนมา
ซนแต่สวย (2498)
ซนแต่สวย (2498/1955) เพราะความแก่นแก้วของ ประยงค์ ทำให้เธอถูกพ่อแม่ส่งตัวไปอยู่กับ เจ้าคุณนิพนธ์ ญาติที่กรุงเทพเพื่อขัดเกลานิสัย แต่เพียงวันแรกที่มาถึง ประยงค์ก็ทำข้าวของบ้านเจ้าคุณเสียหายเพราะความซุกซนของเธอ ในสายตาของ นิเวศม์ ลูกชายคนโตของเจ้าคุณนิพนธ์และน้องชายจึงมองว่าประยงค์เป็นเพียงสาวบ้านนอก เวลาผ่านไปลุงกับป้าเริ่มกลุ้มใจพฤติกรรมของหลานสาว จึงจ้างครูมาสอนหนังสือและอบรมเรื่องกิริยามารยาท ครูต้องใช้ความพยายามอย่างมากกว่าจะสอนให้ประยงค์เชื่อฟัง แต่ด้วยความน่ารักที่มีอยู่เป็นทุนเดิมเมื่อประยงค์ถูกลอกคราบจึงสวยขึ้นผิดหูผิดตา ทำให้นิเวศม์เริ่มคิดกับประยงค์เกินกว่าความเป็นพี่ชาย ประยงค์รับหมั้น มานิตย์ หนุ่มนักศึกษาที่มาหลงรักเธอเพื่อยั่วโมโหนิเวศม์ ทั้งที่ความจริงประยงค์ก็มีใจให้นิเวศม์ เมื่อมีโอกาสปรับความเข้าใจกัน ประยงค์จึงขอถอนหมั้นมานิตย์ แต่ฝ่ายชายไม่ยอมทำให้นิเวศม์ไม่พอใจ เกิดเรื่องชกต่อยกัน น้องชายของนิเวศม์เองก็เริ่มมีใจให้ประยงค์ปัญหาที่รุมเร้า ทำให้นิเวศม์กับประยงค์ตัดสินใจขับรถหนีตามกันไปอย่างไร้อนาคต และตัดสินใจฆ่าตัวตายพร้อมกัน ผลปรากฏว่านิเวศน์สลบคาที่ ส่วนประยงค์กระจกบาดหน้าจนเสียโฉมอาการสาหัส
มิตรในเรือน (2498)
มิตรในเรือน (2498/1955) จารสตรีต่างด้าวเข้าสู่ไทย หลงมนต์สวาท นายทหารไทยจนลืมหน้าที่
เหนือธรณี (2498)
เหนือธรณี (2498/1955) ภูษิต กับ มารตี สองสามีภรรยา พากันมาตั้งรกรากที่ริมลำน้ำโขง อำเภอเชียงแสน หักร้างถางพงจนเป็นไร่อันอุดมสมบูรณ์ไปด้วยพืชผล ที่ดินของภูษิตจึงราคาสูงขึ้นเป็นที่หมายตาของผู้มีอิทธิพลละแวกนั้น โดยเฉพาะ กำนันพุฒ กับ พัน น้องชาย ที่ใช้วิธีสกปรกหวังจะยึดที่ดินของภูษิต จนกระทั่งวันหนึ่ง พันไปหาเรื่องวิวาทกับภูษิตในตลาดแล้วพลาดถูกกระสุนปืนของตัวเองตาย แต่สมุนของพันพากันปรักปรำภูษิตทำให้เขาถูกจำคุก ระหว่างที่ภูษิตติดตะราง นเรนทร์ คนรักเก่าของมารตีมาขอฟื้นความสัมพันธ์ ความเหงาและความเปล่าเปลี่ยว ทำให้มารตีเผลอตัวและเผลอใจหนีตามนเรนทร์ไปอยู่ที่ลำปาง สามปีกว่าที่ภูษิตจะได้รับอิสรภาพ แต่บัดนี้ภูษิตไร้เพื่อน ไร้คนที่รู้ใจ จึงคิดจะขายที่แล้วออกเดินทางอย่างไร้จุดหมาย ดีที่ พระดุลย์ ผู้ใหญ่ที่ภูษิตนับถือได้ทักท้วงไว้ ทำให้ภูษิตกลับมามานะบากบั่นฟื้นฟูไร่ของตนที่ถูกทิ้งให้รกร้าง แล้วมีรักใหม่กับ นาตยา ลูกสาวคนเล็กของพระดุลย์ ฝ่ายนเรนทร์ ยังไม่ทิ้งลายความเจ้าชู้ ไปมีสัมพันธ์กับ อรสา พี่สาวของนาตยา แล้วไล่มารตีกับลูกออกจากบ้าน กำนันพุฒยังเข้าใจว่าภูษิตเป็นฆาตกรฆ่าน้องชายของตน จึงลอบเข้าไปยิงภูษิตถึงที่นอนแต่โชคดีที่ภูษิตไหวตัวทัน แล้วได้ชำระแค้นสมุนของกำนันพุฒอีกครั้งในวันต่อมา
หลีหวั่น (2498)
หลีหวั่น (2498/1955) เพราะติดพนันอย่างหนัก พันเอกฮงจึงสิ้นเนื้อประดาตัวจนต้องนำ หลีหวั่น ภรรยาไปประกันเงินกู้กับ งกซือ หัวหน้าอั้งยี่กลุ่มมังกรแดง ซึ่งมีเบื้องหน้าเป็นคณะงิ้ว แม้หลีหวั่นจะตกเป็นเมียของงกซือ แต่ในใจยังคงซื่อตรงต่อสามี จึงแอบขโมยเอกสารสัญญาที่พันเอกฮงทำไว้กับงกซือมาเผาทำลาย เมื่องกซือรู้ก็โกรธมาก จึงสั่งให้ลูกน้องจับหลีหวั่นขังและทรมานอย่างแสนสาหัส ระหว่างนั้น ทางการได้มอบหมายให้ ร.ต.ท. ยุ้ยคิ้ม เข้ามาแฝงตัวในกลุ่มมังกรแดง ด้วยรูปโฉมอันงดงามของ ร.ต.ท. ยุ้ยคิ้ม ทำให้งกซือหลงใหลเป็นอันมาก ไว้ใจให้ยุ้ยคิ้มบัญชาการแทนเมื่อตนเองไม่อยู่ วันหนึ่ง ตำรวจวางแผนจ้างคณะงิ้วของงกซือไปแสดงที่ต่างจังหวัด แล้วนำกำลังเข้าทำลายซ่องของกลุ่มมังกรแดง หลีบุญ ลูกชายของหลีหวั่นแอบตามงกซือไปด้วย โดยปลอมตัวเป็นงิ้วแล้วลอบฆ่างกซือขณะแสดงงิ้วอยู่บนเวที เพื่อล้างแค้นแทนหลีหวั่นที่ถูกงกซือทรมาน พันเอกฮงและหลีหวั่นจึงได้กลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง
เริงริษยา (2498)
เริงริษยา (2498/1955) นรา กับ นรี สองศรีพี่น้องลูกสาวของ พระยาปัจจัย ที่มีนิสัยต่างกันสุดขั้ว กล่าวคือ นรา ผู้พี่เป็นคนขี้อิจฉาริษยา ผิดกับนรีผู้น้องซึ่งเป็นคนโอบอ้อมอารีมีน้ำใจ วันหนึ่ง มนตรี กับ จ้อน คนใช้ในบ้าน เอ่ยปากขอยืมเงินนราเพื่อเป็นทุนไปเรียนต่อต่างประเทศ นอกจากนราจะไม่ให้แล้วยังดูถูกเหยียดหยามเขาอีกด้วย จ้อนแนะนำให้มนตรีลองเขียนจดหมายไปขอยืมเงินจากนรี ซึ่งเธอยินดีช่วยเหลือโดยการมอบแหวนให้มนตรีเพราะไม่มีเงินสดเพียงพอ นราไม่พอใจเป็นอย่างมาก ยุแยงให้พระยาปัจจัยตัดนรีออกจากกองมรดก แม้นรีจะถูกตัดขาดก็ยังคอยพยาบาลพระยาปัจจัยที่กำลังป่วยหนัก ในขณะที่นราเอาแต่เที่ยวเตร่ หลงระเริงในความมัวเมา ไม่นานพระยาปัจจัยก็เสียชีวิต นราจึงแต่งงานกับ ปรีชา ชายหนุ่มที่พบกันในสถานบันเทิง สองปีผ่านไปมนตรีเรียนจบกลับมาหางานทำเป็นหลักเป็นแหล่ง และได้ช่วยเหลือนรีที่กำลังจะถูกปรีชาปลุกปล้ำ มนตรีฉุดนรีออกจากขุมนรกไปอยู่ร่วมกันจนมีลูกด้วยกันสองคน ชื่อว่า นิรันดร์กับ นิรุทธ์ ชีวิตที่สงบสุขของนรีต้องพังทลายอีกครั้ง เมื่อนราซมซานมาขออาศัย เพราะทนพฤติกรรมของปรีชาไม่ไหวแทนที่นราจะสำนึก กลับริษยาน้องสาวที่มีสามีดี ยั่วยวนมนตรีหมายจะเอามาเป็นสามีของตน แล้วยังใส่ความว่านรีเป็นชู้กับปรีชา นรีคับแค้นใจหนีไปอยู่ที่ระยอง ปล่อยให้นิรันดร์กับนิรุทธ์ถูกนราทารุณไม่เว้นแต่ละวัน จนกระทั่งวันหนึ่ง มนตรีถูกย้ายไปทำงานที่ระยองจึงพานราและลูกไปอยู่ด้วย ปรีชาตามมาขู่กรรโชกเงินกับนราแต่ถูกนราหักหลังจ้างคนมาลอบทำร้าย จ้อนช่วยชีวิตปรีชาไว้ ปรีชาจึงสารภาพความจริงให้จ้อนฟัง แล้วร่วมมือกันเปิดโปงนราซึ่งกำลังวางยาพิษนิรันดร์นรากลัวความผิดจึงพยายามวิ่งหนี แต่พลาดตกเขาเสียชีวิต
ยมนาเวศน์ (2498)
ยมนาเวศน์ (2498/1955) ด้วยพิษสุราทำให้ ประพาสน์ เกิดได้เสียกับผู้หญิงคนหนึ่งอันเป็นต้นเหตุให้ประพาสน์ยักยอกเงินบริษัทจนถูกฟ้องร้อง ประพาสน์จึงหนีมากบดานที่ประจวบคีรีขันธ์ โดยขอซื้อที่ดินจาก กำนันพุ่ม เพื่อทำไร่ แต่ยังไม่วาย ออกไปดื่มสุราในยามค่ำคืน คืนหนึ่ง ประพาสน์ได้ช่วยหญิงสาวซึ่งนอนสลบอยู่บนหาดทราย รุ่งเช้า เมื่อหญิงสาวฟื้นสติจึงเล่าว่าอาศัยอยู่ที่ตำหนักยมนาเวศน์กับท่านหญิงซึ่งกำลังหลบหนีการแต่งงาน ประพาสน์เริ่มสนิทสนมกับหญิงสาวจนกระทั่งวันหนึ่งคนงานของประพาสน์มาบอกว่าท่านหญิงต้องการให้ประพาสน์นำผักและไข่ไก่ไปให้ที่ตำหนักยมนาเวศน์ จึงได้รู้ว่าท่านหญิงหรือ หม่อมเจ้าหญิงโสภิดา เทพโกสินทร์ ก็คือหญิงสาวที่เขาช่วยชีวิตไว้ ท่านหญิงรับฟังเรื่องราวในอดีตของประพาสน์โดยไม่มีทีท่ารังเกียจ เวลาผ่านไป แม่ของประพาสน์และ อำภา คู่หมั้น เดินทางมาแจ้งข่าวว่าประพาสน์พ้นโทษแล้ว แม่ของประพาสน์ขอร้องให้เขาแต่งงานกับอำภาโดยเร็วที่สุด ท่านหญิงบังเอิญได้ยินเรื่องทั้งหมด จึงแสร้งบอกประพาสน์ว่าจะเสด็จกลับไปเข้าพิธีสมรสกับองค์ชายที่กรุงเทพ ประพาสน์จึงตัดสินใจแต่งงานกับอำภาโดยไม่รู้ว่าท่านหญิงกำลังประชวรหนัก คืนวิวาห์ประพาสน์ได้รับจดหมายจากท่านหญิง ซึ่งประสงค์มอบตำหนักยมนาเวศน์ให้เป็นของขวัญวันแต่งงานแด่ประพาสน์ เขาเสียใจมากเพราะบัดนี้ ท่านหญิงได้จากเขาไปอย่างไม่มีวันกลับแล้ว
โบตั๋น (2498)
โบตั๋น (2498/1955) โบตั๋น กับ โค้ว สองพ่อลูกชาวจีนอาศัยอยู่หลังบ้านของ มาโนช ลูกชายของ เจ้าคุณ และคุณหญิงวิสุทธิบาล โบตั๋นกับมาโนชสนิทสนมกลมเกลียวกันมาตั้งแต่เด็ก จนถึงวันที่มาโนชต้องไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ ทั้งสองจึงต้องแยกย้ายจากกัน เมื่อมาโนชเรียนจบกลับมา จึงได้พบกับโบตั๋นซึ่งสวยหยดย้อยราวกับดอกโบตั๋น มาโนชไม่รีรอที่จะสานสัมพันธ์กับโบตั๋นทันที ความสนิทสนมในวัยเด็กก่อตัวเป็นความรักอย่างรวดเร็ว ทั้งสองแอบคบกันโดยปิดบังผู้ใหญ่ จนโบตั๋นให้กำเนิดพยานรักขึ้นมาหนึ่งคน ย้ง แอบรักโบตั๋นมาตลอด เมื่อรู้ว่าโบตั๋นให้กำเนิดบุตรสาวจึงเกิดความริษยา ฉวยโอกาสที่มาโนชไปทำงานที่ต่างจังหวัด เอาเรื่องไปบอกเจ้าคุณและคุณหญิงวิสุทธิบาล คุณหญิงโกรธมาก หาเรื่องใส่ร้ายโค้วว่าขโมยเครื่องเพชรของตน แล้วจับตัวลูกสาวของโบตั๋นไว้เป็นตัวประกัน คุณหญิงข่มขู่โบตั๋นให้เลือกว่าจะช่วยโค้วให้พ้นคุกหรือจะช่วยลูกสาว ความกตัญญูต่อบิดาที่เลี้ยงโบตั๋นมาตั้งแต่เด็กท่วมท้นจนโบตั๋นจำต้องทิ้งลูกเพื่อช่วยบิดา แล้วออกจากบ้านวิสุทธิบาลโดยไม่มีโอกาสร่ำลาสามี ย้งแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง ยื่นมือช่วยเหลือโบตั๋นกับพ่อ แต่ไม่นานก็ออกลาย มาโนชกลับมาที่บ้านได้ฟังเรื่องโกหกจากแม่ก็หลงเชื่อ ตัดสินใจแต่งงานกับคู่หมั้นคนก่อน ทิ้งให้โบตั๋นเผชิญชตากรรมโดยลำพัง
สันติ-วีณา (2497)
สันติ-วีณา (2497/1954) สันติ เด็กชายกำพร้าวัย 12 ปี จากเหตุการณ์ภูเขาถล่มเป็นเหตุให้เขาสูญเสียแม่ทั้งนัยน์ตาสองข้างในเวลาเดียวกัน ทุกเช้า วีณา เพื่อนบ้านวัยไล่เลี่ยกันจะช่วยจูงสันติไปโรงเรียน ถึงแม้สันติจะตาบอดก็ยังถูก ไกร ซึ่งมีนิสัยเกเรแกล้งอยู่เป็นนิจ โดยหักขลุ่ยอันเป็นที่รักของสันติหักคามือ วันหนึ่งพระภิกษุวัยชราเพิ่งกลับจากธุดงค์แวะมาเยี่ยมสันติ และขอรับสันติไปอยู่ที่วัดเขาน้อย ตลอดเวลาที่อยู่ในถ้ำกับหลวงตา วีณายังคงแวะเวียนไปหาสันติอย่างสม่ำเสมอ สร้างความไม่พอใจให้ไกรซึ่งหมายปองวีณาอย่างมาก ทุกเย็นก่อนพระอาทิตย์จะตกดิน สันติจะนั่งเป่าขลุ่ยบนก้อนหินข้างถ้ำ รอคอยการมาของวีณา แต่แล้ววันหนึ่งวีณาก็หายไป สันติปฏิบัติอย่างเดิมวันแล้ววันเล่า โดยที่ไม่รู้ว่า วีณาถูกกักตัวให้อยู่แต่ในบ้าน เพราะแม่ของไกรมาสู่ขอวีณา วีณาหนีออกมาได้ในวันหนึ่งและมาขอร้องให้สันติช่วยพาเธอหนีไกรแค้นมากสั่งลูกน้องตามล่าสันติกับวีณาแทบพลิกแผ่นดินเมื่อพบทั้งสองก็กระหน่ำชกสันติไม่ยั้ง วีณารีบไปตามหลวงตามาช่วยได้ทัน สันติยืนยันกับหลวงตาว่าจะหาทางหนีอีกครั้งแต่ก็ไม่สำเร็จเช่นเคย วีณาถูกพาตัวกลับไปบ้าน ส่วนสันติถูกทำร้ายจนสลบ หลวงตาจึงพาสันติกลับมายังวัดถ้ำ สันติเหม่อลอยไร้สติอย่างหนักยิ่งรู้ว่าจวนถึงวันแต่งงานของวีณา จนไม่ได้ยินเสียงหินที่กำลังร่วงหล่นในถ้ำ หลวงตารีบวิ่งเข้าไปฉุดสันติ ส่วนตนเองถูกก้อนหินทับตาย ตาของสันติมองเห็นอีกครั้ง ภาพแรกที่สันติเห็นคือภาพความตายของหลวงตาซึ่งเลี้ยงดูสันติมาตั้งแต่เด็กสันติจึงตัดสินใจบวชเพื่อหาความสุขสงบอย่างแท้จริง
สามหัวใจ (2497)
สามหัวใจ (2497/1954) ลครปิดโรง! แต่ศิลปินไม่อดตาย เพราะ ... สุวัฒน์ วรดิลก กำหนดให้ สุรสิทธิ์ สัตยวงศ์ ขึ้น ชกมวยเลี้ยงแม่ "พันคำ" ไปสมัครเรียนกฎหมายเอาตัวรอด วิไลวรรณ วัฒนพานิช ทำงานแลกข้าวไปวันๆ ทัต เอกทัต กลายเป็นพรานล่าพรหมจรรย์ผู้หญิง สวลี ผกาพันธ์ ลากคอคนรักเข้าตะแลงแกง ท่านเชื่อไหม? ไม่ เชื่อไปรับรู้ความเป็นจริง ในภาพยนตร์สีธรรมชาติ (ที่มา: ซีเนมาสโคป ธันวาคม พ.ศ. 2497)
ชตารัก (2497)
ชตารัก (2497/1954) ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ทำให้ รัมภา แพทย์สาวแสนสวยมอบใจให้ สุเทพ ทั้งๆที่สุเทพเป็นคนเจ้าชู้เหลวแหลก แม้ หมอชลิต แพทย์หนุ่มที่แอบชอบเธอจะคอยเตือน แต่ใครก็มิอาจห้ามหัวใจของเธอได้จนวันหนึ่งสุเทพเกิดไปได้เสียกับ สุนทรี น้องสาวของหมอชลิตจนสุนทรีติดโรคร้ายจากสุเทพ รัมภาจึงได้เห็นธาตุแท้ของเขา และบอกให้สุเทพรับผิดชอบสุนทรี แต่คนที่ช้ำหนักไปกว่ารัมภาคือ ประวิทย์ คู่หมั้นของสุนทรีที่แทบกลายเป็นบ้าหลังรู้ว่าคนรักไปมีอะไรกับชายอื่น หมอชลิตจึงแนะนำให้รัมภาใช้วิชาแพทย์รักษาจิตใจให้ประวิทย์แต่ปรากฏว่าประวิทย์กลับตกหลุมรักรัมภาและขอเธอแต่งงาน ด้วยไม่อยากให้ประวิทย์ต้องตกอยู่ในสภาพเดิมอีก รัมภาจึงจำตอบรับคำขอแต่งงานของประวิทย์ แต่เรื่องร้ายก็เกิดขึ้นซ้ำสอง เมื่อสุนทรีกลับมาขอคืนดีกับประวิทย์ แต่ประวิทย์หมดรักสุนทรีแล้ว จึงไม่คิดจะกลับไปหาสุนทรีอีก สุนทรีโกรธแค้นจึงใช้มีดแทงประวิทย์ ในจังหวะเดียวกับที่สุเทพโผล่เข้ามาในเหตุการณ์สุเทพที่รังเกียจสุนทรีอยู่เป็นทุนเดิมจึงถือโอกาสฆ่าสุนทรีแล้วป้ายความผิดไปให้ประวิทย์จนเขาต้องติดคุก เมื่อหมอชลิตรู้ความจริง จึงออกตามหาสุเทพ แต่เพราะสุเทพยังไม่ทิ้งลายความเจ้าชู้จึงถูกคนท้องถิ่นฆ่าตายฐานที่ไปคบชู้กับเมียชาวบ้าน ก่อนตายสุเทพได้สารภาพความจริงเพื่อล้างผิดให้ประวิทย์ แต่ช้าไปแล้วเพราะประวิทย์แหกคุกมาหารัมภาจนถูกตำรวจยิงตาย หมอชลิตจึงรับเยียวยาหัวใจของรัมภา
กังวานไพร (2497)
กังวานไพร (2497/1954) หลังจากวางหูโทรศัพท์จากสายข่าวว่าป่าไม้แขวงจังหวัดแพร่คนใหม่มีชื่อเสียงเรียงนามว่า เชิดชัยวนพงษ์ สกล ผู้อำนวยการบริษัท สกลพานิช จำกัด ก็ไม่รอช้าคิดแผนชั่วหาทางชักชวนเชิดชัยมาเป็นพวก เหมือนฟ้าจะเข้าข้าง เพราะ กรรณิการ์ ลูกสาวของสกลเป็นคู่รักของเชิดชัย สกลจึงหลอกให้กรรณิการ์ชวนเชิดชัยมาทำงานที่บริษัท กรรณิการ์ดีอกดีใจเพราะไม่รู้เบื้องหลังธุรกิจของพ่อแต่เชิดชัยปฏิเสธ คืนวันหนึ่ง เชิดชัยแวะไปดูหนังที่โรงภาพยนตร์กมลวัฒนา และบังเอิญได้ทำความรู้จักกับเบญจวรรณ น้องสาวของ บัวเขียว ภรรยาของทักษ์ ซึ่งเพิ่งเรียนจบกลับมาที่แพร่ ทั้งสองก็เริ่มไปมาหาสู่กัน ทักษ์ เรืองผล สมุนของสกลซึ่งหวังจะรวบหัวรวบหางกรรณิการ์ทั้งที่ตัวเองมีเมียอยู่แล้ว คิดแผนชั่วหมายจะกำจัดเสี้ยนหนามทางธุรกิจและหัวใจให้พ้นทาง แม้ทักษ์จะจ้องกำจัดเชิดชัยทุกครั้งที่มีโอกาสแต่ก็ยังไม่สำเร็จ เชิดชัยเริ่มรู้ตัวว่ากำลังถูกทักษ์หมายหัว ก็ส่งคนไปสืบจนรู้แน่ชัดว่าทักษ์แอบร่วมมือกับเสี่ยหวั่งจะหักหลังสกล เชิดชัยจึงเปิดโปงว่าทักษ์เป็นนกสองหัว ทักษ์แค้นมาก ปล่อยข่าวว่ามีคนลอบเข้าไปตัดไม้ที่ผาน้อยแล้วส่งมือปืนไปดักยิงเชิดชัย เบญจวรรณเผอิญล่วงรู้แผนการของทักษ์จึงรีบไปห้ามเชิดชัยแต่ไม่ทันกาลจึงต้องย้อนไปขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ป่าไม้ พวกของทักษ์เผาป่าเพื่อล้อมเชิดชัยและพรรคพวก เบญจวรรณที่ตามมาทีหลังหาตัวเชิดชัยจนพบ และแล้วเชิดชัยก็ได้ประจัญหน้ากับทักษ์โดยมีเบญจวรณคอยช่วย ทักษ์พลาดท่าระหว่างการยิงต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ เสียชีวิตในป่าเพลิงนั้นเอง
แม่ศรีเรือน (2497)
แม่ศรีเรือน (2497/1954) เพราะทนถูกนายจ้างเอาเปรียบเรื่องเงินเดือนไม่ได้ โดม จึงตัดสินใจลาออกจากงานมาเป็นพ่อบ้าน ชไมพร ภรรยาที่ทำหน้าที่เป็นแม่บ้านจึงจำต้องออกไปหางานทำแทนสามี กระทั่งได้งานที่บริษัทสตรีไทยของ คุณนายแช่มช้อย บริษัทที่ออกกฎห้ามพนักงานหญิงมีสามี ชไมพรจึงต้องปิดบังเรื่องโดมไว้เป็นความลับ ความสามารถของชไมพรเป็นที่ปลาบปลื้มของคุณนายแช่มช้อย จึงพยายามจับคู่ชไมพรให้ ชวลิตลูกชาย ฟากโดมก็ได้รู้จักกับ วัทณีย์ ลูกสาวเจ้าของบ้านเช่าที่ตนอาศัยอยู่ ความรักระหว่างโดมกับชไมพรจึงส่อแววเข้าใจผิดเป็นเหตุให้เกิดเรื่องยุ่งๆ ตามมา กระทั่งความลับถูกเปิดเผย ในจังหวะเดียวกับที่ชวลิตและวัทณีย์ดันมาชอบกันโดยบังเอิญ ด้วยความเมตตาชไมพร คุณนายแช่มช้อยจึงยกเลิกกฎ และให้ชไมพรได้ทำงานต่อไป ฝ่ายโดมหลังจากว่างงานมานานก็ได้กลับมาทำงานอีกครั้ง ด้วยความช่วยเหลือจากวัทณีย์ เรื่องจึงจบลงด้วยความสุขสมหวังทุกประการ
ฟ้าแลบบนสาปไตย (2497)
ฟ้าแลบบนสาปไตย (2497/1954) หลังจากกลับมาที่สิงคโปร์ วสันต์ (ชาลี อินทรวิจิตร) ชายหนุ่มที่เคยเป็นคนอัธยาศัยดีก็เงียบขรึมจนเป็นที่ประหลาดใจของเพื่อนร่วมงาน ทั้งที่การเจรจาธุรกิจครั้งนั้นประสบความสำเร็จได้ด้วยดี ประจวบเหมาะกับที่ลิ้มไต้ง้วน ผู้จัดการห้างประสบอุบัติในการเดินทางครั้งนั้น วสันต์จึงได้เลื่อนขั้นเป็นผู้ช่วยผู้จัดการห้างลิ้มไต้ง้วนซึ่งตั้งอยู่ที่สิงคโปร์ เพื่อนร่วมงานจับกลุ่มนินทาไปต่างๆ นานาเรื่องที่วสันต์เอามือที่ดองไว้ในขวดแก้วกลับมาด้วยมีเพียงวสันต์เท่านั้นที่รู้ความหมายของมัน หลายเดือนก่อน วสันต์ติดตามลิ้มไต้ง้วนผู้จัดการห้างไปเจรจาธุรกิจที่กรุงเทพ บนเรือเดินทะเล "สาปไตย" ที่ลอยเอื่อยบนท้องทะเลวันแล้ววันเล่า วสันต์ได้แต่หมกตัวทำงานให้ลิ้มไต้ง้วนอยู่ในห้องส่วนตัวแคบๆ เมื่อได้พบกับ มาลาตี (ศรินทิพย์ ศิริวรรณ) หญิงสาวเพียงคนเดียวบนเรือวสันต์จึงไม่รีรอจะเข้าไปทักทายเพื่อทำความรู้จัก ความเบื่อหน่ายบนเรือทำให้วสันต์กระโจนเข้าสู่ไฟราคะที่กำลังมอดไหม้หัวใจตนเอง ทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่ามาลาตีมีสามีแล้วจนถลำลึกวางแผนหนีตามกันทันทีที่สาปไตยเทียบท่าเรือคลองเตย ติดอยู่เพียงเรื่องเดียว คือ เรื่องเงิน คืนนั้น วสันต์ฉวยโอกาสที่ท้องทะเลกำลังคุ้มคลั่ง ฆ่าลิ้มไต้ง้วนเพื่อขโมยเงินเอามาเป็นทุนตั้งต้นชีวิต แล้วรีบมาบอกมาลาตี ทันใดนั้นเอง เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น เป็นกัปตันเรือที่เดินตามรอยเลือด ซึ่งหยดเป็นทางจนมาสุดที่ห้องของมาลาตี มาลาตีหยิบมีดตัดนิ้วตัวเองเพื่อเบนความสนใจ กัปตันเรืออาสาไปหยิบกล่องปฐมพยาบาล มาลาตีจึงเร่งเร้าให้วสันต์ไปจัดการศพลิ้มไต้ง้วน มาลาตีขอร้องให้วสันต์โอนเงินคืนห้างและช่วยงานห้างจนสำเร็จเพื่อไม่ให้เกิดพิรุธ แม้วสันต์จะรีบพามาลาตีไปโรงพยาบาลทันทีที่เรือถึงกรุงเทพ แต่ก็สายไปเสียแล้ว เชื้อโรคได้ลุกลามจนหมอต้องตัดมือของมาลาตี ในระหว่างที่มาลาตีนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล สามีของมาลาตีคอยดูแลเธออยู่ไม่ห่าง จนวสันต์รับรู้ได้ถึงความห่วงใยที่เขามีให้เธอวสันต์จึงเป็นฝ่ายเดินออกมาจากชีวิตของมาลาตีอย่างเงียบๆ เหลือเพียงมือของมาลาตีที่เขานำกลับมา เป็นอนุสรณ์ความรักบนเรือสาปไตย
กุลปราโมทย์ (2497)

กุลปราโมทย์ (2497/1954) เพราะความลึกลับของตึกโบราณข้างบ้านที่ชาวบ้านต่างลือว่ามีผีสิง ทำให้ กุลปราโมทย์ลูกสาวของ พระยาราชมณเฑียร เกิดความอยากรู้อยากเห็นและได้เข้าไปพัวพันกับโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นเพราะความโลภของมนุษย์ กุลปราโมย์ได้ทราบจาก หลวงเวช ซึ่งเป็นหมอประจำตระกูลว่าตึกหลังนั้นเป็นตึกของ ท่านสรกิจพิศาล เสนาบดีเก่า ซึ่งมีลูกชายชื่อ พระวิเศษ กับลูกสาวชื่อ จำรัส แต่เพราะจำรัสเกิดไปได้เสียกับทนายประจำตระกูลจนตั้งครรภ์ ท่านสรกิจจึงพลั้งมือลงโทษจำรัสจนเสียโฉม หลังจากที่ท่านสรกิจถึงแก่กรรม พินัยกรรมระบุว่า ท่านสรกิจฯ ยกมรดกทั้งหมดให้จำรัส แต่หลังจากจำรัสคลอดบุตรชายก็หายตัวไป ด้วยเหตุนี้ พระวิเศษจึงกลายเป็นผู้ดูแลทรัพย์สมบัติของตระกูล ยศ ลูกชายของจำรัสก็ถูกเลี้ยงเยี่ยงลูกคนใช้ เมื่อกุลปราโมทย์ทราบดังนั้นก็เกิดสงสารในชะตากรรมของยศ จึงคอยมาให้กำลังใจยศที่บ้านพระวิเศษอยู่เสมอ พร้อมกับวางแผนสืบหาความจริงเรื่องการหายตัวไปของจำรัส กระทั่งกุลปราโมทย์ได้รู้ว่าพระวิเศษสั่งให้ลูกน้องย้ายบางอย่างที่อยู่ในบ้าน กุลปราโมทย์พร้อมด้วยคนใช้จึงบุกเข้าไปเปิดโปงความจริงจนรู้ว่า พระวิเศษแอบขังจำรัสไว้ในตึกเพราะหวังจะฮุบมรดกเป็นของตน จำรัสถูกฆ่าตาย แต่ก่อนตายเธอได้เขียนพินัยกรรมมอบมรดกให้ยศ ส่วนพระวิเศษก็สติวิปลาสจนถึงแก่ความตาย ยศจึงกลายเป็นเจ้าของตระกูลและได้ครองรักกับกุลปราโมทย์อย่างมีความสุข

แผลเก่า (2497)

แผลเก่า (2497/1954) ในปี พ.ศ. 2496 ณ คฤหาสน์โลจนะรัตน์กำลังจะมีพิธีวิวาห์ในวันรุ่งขึ้น ระหว่าง รังรอง โลจนะรัตน์ (พรทิพย์ โกศลมัชกิช) ลูกสาวสุดที่รักของเจ้าของคฤหาสน์ กับชายที่เธอไม่เคยรู้จักมาก่อน รังรองได้แต่มองการ์ดแต่งงานด้วยความเจ็บช้ำ ก่อนจะฉีกมันทิ้งเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย แล้วตัดสินใจเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าเดินทางไปหลบที่ทุ่งวังทองหลางซึ่งเมื่อสมัยเด็กรังรองเคยมาเก็บค่าเช่าที่นากับแม่อยู่บ่อยๆ ค่ำแล้ว รังรองยังไม่อาจข่มตาให้หลับลงได้จึงลงมาเดินเล่น และได้พบกับหนุ่มนั่งเป่าขลุ่ยอยู่ใต้ต้นไทรหญิงสาวเกิดความสนใจจึงเข้าไปคุยด้วย ก่อนจะตกใจจนสลบไปเมื่อรู้ว่าเขาเป็นวิญญาณ ผัวเมียเจ้าของบ้านจึงเล่าเรื่องราวในอดีตที่ทำให้วิญญาณของชายหนุ่มยังคงสถิตอยู่ที่ต้นไทร เขาชื่อว่า ขวัญ (ชีพ ชูพงษ์) ในอดีตเคยรักอยู่กับหญิงสาวชื่อ เรียม (พรทิพย์ โกศลมัชกิช) ทั้งสองให้สัตย์สาบานต่อศาลไทรว่าจะรักและซื่อตรงต่อกัน แม้นใครผิดคำสาบานขอให้มาตายอยู่ใต้ต้นไทรต้นนี้ แต่เพราะตระกูลของชายหนุ่มหญิงสาวเป็นศัตรูคู่อาฆาตกัน ขวัญจึงถูก เรือง พ่อของเรียมกีดขวางความรักโดยการจับเรียมไปกักขัง ก่อนจะขายเรียมให้คุณนายทองคำ และส่งตัวไปอยู่บางกอกด้วยความเห็นแก่เงิน ขวัญได้แต่นับวันรอคอยการกลับมาของเรียม คุณนายทองคำปฏิบัติต่อเรียมประหนึ่งลูกสาวเพราะคุณนายนั้นเคยเสียลูกสาวไป เมื่อถูกปรนเปรอด้วยเสื้อผ้าอาภรณ์ราคาแพง เรียมก็เริ่มเปลี่ยนไปเป็นคนละคน รวมทั้งหัวใจของเธอก็เอนเอียงไปให้ สมชาย (ทวนทอง วิมลรัตน์) อดีตว่าที่ลูกเขยของคุณนายทองคำที่มาชอบเรียม ครั้นมีโอกาสได้กลับมาเยี่ยมแม่ที่กำลังป่วยหนัก ขวัญจึงหาโอกาสมาทวงถามความรักต่อเรียม หญิงสาวจึงได้ระลึกถึงความหลังครั้งเก่า และคำสัญญาที่เคยให้ไว้ต่อหน้าเจ้าพ่อไทร แต่ในไม่ช้าสมชายก็กำลังจะพาเรียมกลับกรุงเทพ ความสับสนและความกลัวว่าสาวคนรักจะเปลี่ยนใจทำให้ขวัญบุ่มบ่ามทำลายเรือของสมชายพังยับเยิน สมชายแค้นจัดเป็นตัวตั้งตัวตีนำชาวบ้านรุมประชาทัณฑ์ขวัญ ขวัญพยายามตะเกียกตะกายไปที่ศาลไทรโดยมีเรียมว่ายน้ำตามมา เมื่อเห็นว่าขวัญกำลังจะสิ้นใจเรียมจึงใช้มีดปลิดชีพตนตายตามคนรัก ณ ที่ที่เคยสาบานรักกัน

เพลิงชีวิต (2497)
เพลิงชีวิต (2497/1954) เรื่องของชายใจเพ็ชร์ที่ชตากรรมบรรดาลให้เขาเป็น ผู้ร้ายฆ่าคน ดู! ชีวิตอันแสนเศร้าของ หญิงผู้อาภัพต้องยอมชั่วเสียคนเพราะความรักลูกและผัว ชม! "ติ๋ม" ดาราน้อยเจ้าน้ำตาในบทของหนูน้อยผู้มีกรรม (ที่มา: นิตยสารตุ๊กตาทอง พ.ศ. 2497)
นกป่า (2497)
นกป่า (2497/1954) เรื่องราวของสาวชาวป่าที่ถูกพิษรักจากนายอำเภอหนุ่มเมืองกรุง ทำให้เธอยอมสละทุกสิ่งเพื่อชายคนรัก โนรี ลูกสาวคนเดียวที่ พรานบุญ เลี้ยงดูอย่างทะนุถนอม เธอสวยสะคราญเป็นที่หมายปองของชายหนุ่มบ้านป่า มีเพียง พรานเอก ที่สนิทชิดเชื้อกันตั้งแต่เด็กที่สามารถใกล้ชิดโนรีเพียงคนเดียว บ้านป่าที่เคยสงบสุขต้องมาเปลี่ยนผัน โนรีต้องเข้าไปพัวพันกับเหตุฆาตกรรมอย่างไม่ทันตั้งตัว เมื่อ จามร ชายแปลกหน้าบุกเข้ามาบ้านป่าและขอร้องให้โนรีพาไปหาที่ซ่อนตัว โดยมี นายอำเภอ หนุ่มติดตามจามรมาอย่างประชั้นชิดจึงได้พบกับโนรี ชายหนุ่มต่างเมืองกับหญิงสาววัยขบเผาะ เมื่อได้อยู่ใกล้ชิดกันไฟเสน่หาจึงลุกโชน โนรีตกเป็นของนายอำเภออย่างรวดเร็ว และพลั้งปากบอกที่ซ่อนตัวของจามร โนรีตามไปอยู่กับนายอำเภอที่เมืองกรุง แต่ต้องพบกับความจริงอันขมขื่นว่าเขามีภรรยาแล้ว โนรีต้องกล้ำกลืนรับสภาพการเป็นเมียน้อย แต่ยังไม่ร้ายเท่าถูกภรรยาของนายอำเภอโขกสับ ทำร้ายให้โนรีต้องชอกช้ำทั้งกายและใจ จนโนรีต้องซมซานกลับมาที่บ้านป่า แม้โนรีจะเคยตกเป็นของชายอื่น แต่พรานเอกก็ไม่รังเกียจเธอเลย คอยปรนนิบัติจนโนรีหายเป็นปรกติ แต่ในเวลาไม่นาน นายอำเภอก็ตามมาขอโทษโนรี ความปลิ้นปล้อนของนายอำเภอทำให้พรานเอกระงับใจไม่ไหว ชักปืนขึ้นยิง หมายจะปลิดชีพคนที่ทำร้ายคนที่ตนรัก แต่ทันใดนั้น โนรีก็โผตัวเข้าหามัจจุราชความตาย เพื่อปกป้องชายหนุ่มที่เธอรักสุดหัวใจ
มนต์รักอสูร (2497)
มนต์รักอสูร (2497/1954) ม.จ.อิศรา และ ม.จ.วิชชา สองพี่น้องตระกูลสุริยัน มีนิสัยต่างกันอย่างสิ้นเชิง ม.จ.อิศรา ผู้พี่เปิดคลินิกส่วนตัวทุ่มเทชีวิตให้การทำงาน ส่วน ม.จ.วิชชาผู้น้องชอบเข้าสังคม สองพี่น้องหลงรักสาวคนเดียวกัน คือ พรรณราย ม.จ.วิชชา รู้เข้าก็ต่อว่า ม.จ.อิศรา อย่างเสียหายส่วน ม.จ.อิศรา เข้าใจว่าพรรณรายไม่รักตน จึงหันหลังให้กับความรัก หมกมุ่นอยู่กับการเล่นแร่แปรธาตุ จนประสบอุบัติเหตุจากการทดลองได้รับบาดเจ็บที่ใบหน้า ม.จ.วิชชา ฉวยโอกาสกุว่า ม.จ.อิศรา เป็นบ้า และปล่อยข่าวว่าตนกับพรรณรายหมั้นหมายกัน ม.จ. อิศรา ผิดหวังอย่างหนักหนีออกจากโรงพยาบาล กิจการโรงงานระเบิดหินที่สระบุรีของตระกูลสุริยันค่อยๆ เสื่อมโทรมลง หลังจากที่ ม.จ.อิศรา หายสาบสูญไป เพราะ เทิ้มหัวหน้าคนงานโกงเงินบริษัทไปเล่นการพนัน หนักข้อเข้าก็ตั้งตนเป็นนักเลง ขูดรีดชาวบ้านละแวกนั้น ยกเว้น หมอไอสูรย์ ซึ่งเพิ่งย้ายมาใหม่ที่ไม่ยอมอ่อนข้อให้เทิ้ม บ่ายวันหนึ่ง เทิ้มถูกลอบยิงที่ข้างบ้านหมอไอสูรย์ จึงปักใจเชื่อว่าเป็นฝีมือของหมอ บังเอิญ ม.จ.วิชชาพาพรรณรายคู่หมั้นมาพักผ่อนที่โรงงานระเบิดหิน ทราบข่าวว่าเทิ้มถูกยิงก็รีบไปเยี่ยม เฟื่องรัตน์ น้องสาวของพรรณรายตามมาเจอ และเปิดเผยว่าตนเป็นภรรยาของม.จ.วิชชา พรรณรายเสียใจวิ่งหลงไปในเขตระเบิดหินประสบอุบัติเหตุ ชาวบ้านพาไปรักษายังบ้านหมอไอสูรย์ จึงได้ทราบตัวจริงของหมอไอสูรย์ ม.จ.วิชชา ตรงไปบ้านหมอไอสูรย์เพื่อจะแก้แค้นให้เทิ้ม แต่พรรณรายห้ามปรามไว้ และบอกว่าหมอไอสูรย์แท้จริงคือ ม.จ.อิศรา ม.จ.วิชชาจะเข้าไปขอโทษพี่ชายก็ถูกเฟื่องรัตน์ยิงตายเพราะแรงหึง
ศรีราชา (2497)
ศรีราชา (2497/1954) ศรีราชา เป็นภาพยนตร์สีธรรมชาติ 16 มม.ที่ออกฉายในปี พ.ศ. 2497 สร้างโดย วชิราภาพยนตร์ และให้เสียงพากย์โดย ม.ล. รุจิรา อิศรางกูร - มารศรี อิศรางกูร ณ อยุธยา ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างจากบทประพันธ์ของ ส. อาสนจินดา