โรแมนติก
ปลาบู่ทอง (2508/1965) "เศรษฐีทารกะ" ผู้มีอาชีพจับปลามีภรรยาสองคน คนแรกชื่อ "ขนิษฐา" มีลูกสาวชื่อ "เอื้อย" ส่วนคนที่สองชื่อ "ขนิษฐี" มีลูกสาวชื่อ "อ้าย" และ "อี่" วันหนึ่งทารกะพยายามจับปลาแต่จับทีไรก็ได้แต่ปลาบู่ตั้งท้องตัวหนึ่งกระทั่งพลบค่ำทารกะจึงจะนำปลาบู่กลับบ้านแต่ด้วยความสงสารขนิษฐาผู้เป็นภรรยาขอร้องให้ปล่อยไป ทำให้ทารกะเกิดบันดาลโทสะฆ่านางขนิษฐาจนตายและทิ้งศพลงคลอง และบอกกับอ้ายลูกสาวว่ามารดาได้หนีตามผู้ชายไป เอื้อยเสียใจที่สูญเสียแม่ไปอีกทั้งยังโดนแม่เลี้ยงและพี่เลี้ยงกดขี่ข่มเหง สิ่งเดียวที่ปลอบประโลมเธอได้มีเพียง "ปลาบู่ทอง" ที่คือแม่ที่กลับชาติมาเกิด แต่สองแม่ลูกหารู้ไม่ว่าเธอทั้งคู่จะต้องถูกขนิษฐีและลูกๆของเธอพรากความสุขเล็กๆของพวกเธอไปครั้งแล้วครั้งเล่า ปลายทางของสองแม่ลูกที่น่าสงสารจะลงเอยเช่นไรเมื่อหนทางแห่งความสุขในชีวิตแทบจะไม่เห็นทางสว่างเลย
เรื่องย่อ : เกียรติศักดิ์ทหารเสือ (2508/1965) ล้านทุกครั้ง..ดังทุกที ดีทุกเรื่อง..เฟื่องกว่าที่แล้ว คือ เกียรติศักดิ์ทหารเสือ ของ อิงอร วัชรินทร์นคร มีกษัตริย์วัชรินทร์ ((อดุลย์ ดุลยรัตน์)) เป็นพระประมุข และพระเชษฐาจักรกฤษณ์ (ส.อาสนจินดา) เป็นเสนาบดีกลาโหม พระเชษฐาทรงอุปการะเด็กชายไว้ 3 คนจนกระทั่งพวกเขาเติบโตเป็นหนุ่ม ได้แก่พันโทพิสุทธิ์ (แอ๊ด สมบัติ เมทะนี) พันตรีนิเวศน์ (ทักษิณ เจ่มผล) และร้อยเอกภูเบศร์ (ไชยา สุริยัน) ซึ่งทั้งสามเป็นลูกชายของแม่รำเพย (สมจิตต์ ทรัพย์สำรวย) แม่นมของเจ้าหญิงนภาเขตเสมอแข (พิศมัย วิไลศักดิ์) พระราชธิดาขององค์กษัตริย์วัชรินทร์ ต่อมามีการคัดเลือกราชองครักษ์ประจำพระองค์กษัตริย์ คู่ต่อสู้ 2 คนสุดท้ายคือ พิสุทธิ์ และภูเบศร์ พิสุทธิ์มีฝีมือเหนือกว่าแต่ภูเบศร์แอบกระซิบขอร้องให้พี่ชายยอมแพ้ เพราะตนเองต้องการเป็นราชองครักษ์และได้ใกล้ชิดกับเจ้าหญิงนภาเขตเสมอแข พิสุทธิ์รักน้องมากจึงแสร้งแพ้ แต่กษัตริย์วัชรินทร์ทรงมองออกว่าพิสุทธิ์ออมมือ จึงประกาศแต่งตั้งพันโทพิสุทธิ์เป็นราชองครักษ์ประจำพระองค์ ทำให้ภูเบศร์โกรธแค้นพิสุทธิ์มาก พลเอกสีหราช (สาหัส บุญ-หลง) ผู้บัญชาการทหาร คิดมักใหญ่ใฝ่สูงต้องการครองบัลลังค์ จึงเกลี้ยกล่อมบรรดานายทหารเป็นพวก รวมทั้งพันตรีนิเวศน์และร้อยเอกภูเบศร์ ในการซ้อมรบ เจ้าหญิงนภาเขตเสมอแขได้ตามเสด็จพระราชบิดามาด้วย โดยมีพันโทพิสุทธิ์เป็นราชองครักษ์ ม้าทรงของเจ้าหญิงตกใจเสียงปืนใหญ่จึงวิ่งเตลิด พิสุทธิ์ควบม้าติดตามไป เจ้าหญิงทรงตกจากหลังม้าได้รับบาดเจ็บที่ขา แต่พิสุทธิ์ไม่กล้าแตะต้องพระองค์เนื่องจากจะเป็นการผิดกฎมณฑียรบาล แต่บังเอิญฝนได้ตกลงมาอย่างหนัก พิสุทธิ์จึงอุ้มเจ้าหญิงเข้าไปหลบฝนในตึกร้าง เหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ในสายตาของพลเอกสีหราช และพรรคพวก พลเอกสีหราชให้นิเวศน์และภูเบศร์มาเกลี้ยกล่อมพิสุทธิ์เข้าเป็นพวก โดยเอาพระเกียรติของเจ้าหญิงนภาเขตเสมอแขมาเป็นเครื่องขู่บังคับ พิสุทธิ์จำต้องยอมรับปากเพื่อรักษาพระเกียรติ เมื่อพลเอกสีหราชเตรียมการพร้อมแล้วจึงสั่งให้พิสุทธิ์ปลงพระชนม์ขณะทรงบรรทม แต่ด้วยความจงรักภักดีและสำนึกในหน้าที่พิสุทธิ์จึงมิอาจลงมือ สีหราชจึงสั่งให้นิเวศน์และภูเบศร์ปลงพระชนม์ พิสุทธิ์ขัดขวางอย่างสุดชีวิต เมื่อเกิดเสียงอึกทึกขี้นพระเชษฐานำกำลังทหารเข้ามาในพระตำหนัก พลเอกสีหราช นิเวศน์ ภูเบศร์ และพรรคพวกใส่ร้ายว่า พิสุทธิ์จะลอบปลงพระชนม์ พิสุทธิ์ไม่ยอมปฏิเสธเนื่องจากเกรงว่าสีหราชจะกล่าวถึงเรื่องที่พิสุทธิ์และองค์หญิงทำผิดกฎมณเฑียรบาล ทำให้เสื่อมเสียพระเกียรติ กษัตริย์วัชรินทร์รับสั่งให้นำพิสุทธิ์ไปคุมขังเพื่อทำการสอบสวน พิสุทธิ์ยอมรับความผิดแม้ว่าจะเสียใจที่ทำให้แม่รำเพยต้องเสียน้ำตา เพราะคิดว่าลูกของตนเองคิดทรยศต่อแผ่นดิน กษัตริย์วัชรินทร์จำต้องรับสั่งให้ลงโทษประหารชีวิตพิสุทธิ์ แม้ในพระทัยจะไม่เชื่อว่าพิสุทธิ์เป็นคนทรยศ เมื่อถึงกำหนดวันประหาร ก่อนที่พิสุทธิ์จะเดินออกจากคุกหลวง บรรดานักโทษซึ่งก็คือเหล่าทหารที่จงรักภักดี แต่ถูกพลเอกสีหราชแกล้งใส่ร้ายจนถูกคุมขัง พร้อมใจกันร้องเพลง เกียรติศักดิ์ทหารเสือ เพื่อเป็นเกียรติแก่พันโทพิสุทธิ์ วัชรวัลลภ เมื่อพิสุทธิ์ถูกนำตัวไปแล้ว นิเวศน์ซึ่งบังเกิดความละอายใจที่ทำให้พี่ชายผู้บริสุทธิ์ต้องได้รับโทษถึงชีวิต ได้เข้ากราบบังคมทูลความจริงต่อองค์กษัตริย์วัชรินทร์ ทรงรับสั่งให้พระเชษฐานำกำลังทหารเข้าปราบปราบกบฏพลเอกสีหราชจนราบคาบ พร้อมกับให้นิเวศน์รีบนำธงหยุดประหารไปยังแดนประหาร แต่นิเวศน์มาถึงแดนประหารช้าไป ภูเบศร์ซึ่งคุมการประหารได้สั่งให้ทหารยิงไปแล้ว แต่เมื่อสิ้นเสียงปืนพิสุทธิ์กลับไม่เป็นอะไร เนื่องจากคืนก่อนวันประหารภูเบศร์ซึ่งสำนึกเสียใจที่ทำผิดต่อพี่ชายได้แอบเข้าไปเปลี่ยนลูกปืนสำหรับประหารเป็นลูกปลอม แต่แล้วก็มีเสียงปืนดังขี้นนัดหนึ่งและภูเบศร์ล้มลงจมกองเลือด ขณะเดียวกับกษัตริย์วัชรินทร์ เจ้าหญิงนภาเขตเสมอแข พระเชษฐาจักรกฤษณ์ แม่รำเพย และเหล่าทหารหาญเดินทางมาถึง ภูเบศร์บาดเจ็บแต่ไม่เสียชีวิต กษัตริย์วัชรินทร์ทรงพระราชทานอภัยโทษให้ สามพี่น้องชาติทหารกลับมารักกันดั่งเดิม กษัตริย์วัชรินทร์โปรดให้จัดงานอภิเษกระหว่างพันโทพิสุทธิ์และเจ้าหญิงนภาเขตเสมอแขอย่างสมพระเกียรติ
เลิศชาย (2507/1964) ข้อความบนใบปิด ลดาพรรณภาพยนตร์ เสนอ เกิดมาเพื่ออยู่ ต่อสู้เพื่อเพื่อน รักสะเทือนอารมณ์เหลือหลาย เขาคือ... เลิศชาย จากบทละครวิทยุของ...เสนีย์ บุษปะเกศ นำโดย (มิตร ชัยบัญชา) (อี๊ด เพชรา เชาวราษฎร์) ทักษิณ แจ่มผล, ปริม ประภาพร, กิ่งดาว ดารณี, (น้อย ประจวบ ฤกษ์ยามดี), (ปรียา รุ่งเรือง), (ปันใจ นาควัฒนา), พงษ์ลดา พิมลพรรณ, ทัต เอกทัต, สมควร กระจ่างศาสตร์, เชาว์ แคล่วคล่อง, สิงห์ มิลินทราศัย, (ศรินทิพย์ ศิริวรรณ), (ทานทัต วิภาตะโยธิน), จิตติน, ดาวน้อย ดวงใหญ่ ขอแนะนำพระเอกคนใหม่ โยธิน เทวราช และสาวสำอางค์ พิไร นภางค์ ดารารับเชิญ สาหัส บุญหลง, กรองจิตต์ เตมีย์ศิลป์ อนันต์ อินละออ ถ่ายภาพ ส.อาสนจินดา สร้างบท พงษ์ลดา พิมลพรรณ อำนวยการสร้าง เนรมิต กำกับการแสดง วัชรภาพยนตร์ จัดจำหน่าย
ร้อยป่า (2507/1964) ข้อความบนใบปิด พิษณุภาพยนตร์ เสนอ (มิตร ชัยบัญชา) (อี๊ด เพชรา เชาวราษฎร์) อนุชา รัตนมาลย์, (น้อย ประจวบ ฤกษ์ยามดี), (รุจน์ รณภพ), วิไลวรรณ วัฒนพานิช, (อดุลย์ ดุลยรัตน์), เยาวเรศ นิสากร, ขวัญตา บัวเปลี่ยนสี, สาหัส บุญหลง, จุ๋มจิ๋ม ศรทอง, (มนัส บุณยเกียรติ), จุรี โอศิริ, พีระพล, เมฆ, ประมาณ ขอแนะนำพระเอกใหม่ กวี จิตมั่นคง ร้อยป่า ของ อรชร-พันธุ์ บางกอก เนรมิต กำกับการแสดง วิจารณ์ ภักดีวิจิตร ถ่ายภาพ-อำนวยการสร้าง ถาวร สุวรรณ สร้างบทภาพยนตร์ สหการภาพยนตร์ไทย จัดจำหน่าย
จำเลยรัก (2506/1963) เรื่องราวของความแค้นของ หฤษฎิ์ ((มิตร ชัยบัญชา)) พี่ชายที่ต้องสูญเสียน้องชายของตนเอง และเขาโกรธแค้นหญิงสาวต้นเหตุ ถึงกับจับตัวมาลงโทษเพื่อให้หายแค้น โดยไม่รู้ว่าจับมาผิดคน ไปจับโศรยา (พิศมัย วิไลศักดิ์) แต่เกิดความรักกันจึงได้แต่งงานกัน สุดท้ายหฤษฎิ์ยอมรับทุกคำบัญชาของโศรยา นับจากนี้ตราบจนชั่วชีวิต
คมพยาบาท (2506/1963) ภายในบ้านของคุณหญิงอนุรักษ์ธานิน เย็นเป็นสาวใช้ ต้นห้องคุณหญิง เกิดรักกับอุทัยบุตรชายของคุณหญิง จนเกิดได้ เสียกันขึ้น ต่อมาคุณหญิงผู้เป็นมารดาของอุทัยคิดจะให้แต่งงาน กับวณีลูกสาวเจ้าคุณธนากร มิตรสนิทของคุณหญิง เมื่อข่าวนี้รู้ถึง หูเย็น เย็นก็ได้ขอให้อุทัยสาบานว่าจะไม่รักใครนอกจากเธอคนเดียว แม้ว่าจะแต่งงานแล้วก็ตาม ซึ่งอุทัยให้คำมั่นสัญญาดังเช่นเย็น ขอร้อง เหตุการณ์ผ่านพ้นไปจนกระทั่งอุทัยแต่งงานแล้ว จาก ความอ่อนหวานและการเอาอกเอาใจของวณี ซึ่งตรงกันข้ามกับ เย็น บางครั้งก็แสดงความหึงหวงกักขฬะอย่างออกหน้าออกตา จวบกับความมีสมบัติผู้ดีของวณีทำให้อุทัยหลงใหลจนลืมคำมั่น สัญญาที่ให้ไว้กับเย็นเสียสิ้น มาในคืนวันหนึ่ง เย็นเข้าไปหาอุทัย ในห้องทำงานและต่อว่าต่อขานที่เหินห่าง ไม่เหลียวแลเธอ อุทัย ก็บอกว่าเกลียดในการกระทำของเย็นที่แสนจะกักขฬะและแสดง ความไม่สมควรออกมา ท้ายที่สุดอุทัยโกรธมากจนถึงกับขับไล่เย็น ออกไปจากบ้าน และตัดขาดความสัมพันธ์กันแต่วันนั้นเป็นต้นมา เวลาผ่านไปจนกระทั่งวณีคลอดบุตรออกมาเป็นหญิง พออายุได้ 5 เดือน เย็นก็ถือโอกาสที่อุทัยและวณีออกไปทานเลี้ยงบ้าน ผู้บัญชาการทหารในค่ำวันนั้น ปีนตึกเข้าไปขโมยลูกของอุทัยไป ยังความเจ็บช้ำใจให้แก่อุทัยและวณีอย่างยิ่ง ที่ต้องสูญเสียบุตร สาวคนเดียวไป แม้ว่าจะตั้งสินบนนำจับทั่วทุกแห่งหน ก็ไม่สามารถ จะตามหาเย็นได้ แต่ขณะเดียวกัน เย็นได้หนีไปอยู่กับพี่สาวแท้ ๆ ที่มี ลูกหญิงได้ 4 เดือนชื่อลำยองซึ่งเป็นเมียของเสือโมก เสือปล้นนาม กระฉ่อนแห่งแม่น้ำสุพรรณบุรี ในขณะเย็นไปอาศัยอยู่ก็เป็นเวลา เดียวกันกับที่เสือโมกถูกตำรวจตามจับมา ก็เกิดการต่อสู้กันขึ้น ลำยองเมียเสือโมกถูกยิงตาย เสือโมกก็ให้เย็นหนีไป พร้อมทั้งฝาก ลูกของตัวให้เย็นช่วยเลี้ยงดูด้วย กับทั้งมอบเพชรนิลจินดาที่มีอยู่ ให้เย็นไปขายเลี้ยงชีพต่อไป กาลเวลาผ่านพ้นไปจน 18 ปี เย็นก็มีจดหมายมาบอกอุทัยและวณีว่าจะนำลูกมาคืนให้ ยังความดีใจให้แก่คนทั้งสองยิ่ง เมื่อถึงกำหนด เย็นก็นำบุตรสาวมาคืนให้ ซึ่งบัดนี้เป็นสาวชื่อเปีย หรือจรรยา ส่วนเย็นก็ได้รับความเอื้อเฟื้อจากอุทัยให้มาอยู่ในบ้าน พร้อมกับมารยาทซึ่งเย็นบอกว่าเป็นหลานแท้ ๆ ซึ่งเกิดจากพี่สาว และเสือโมก ยิ่งนานวัน อุทัยกับวณีก็ยิ่งสงสัยในนิสัยใจคอของ บุตรสาวของตน ที่มีแต่ใจคอโหดร้ายอิจฉาริษยาและหยาบคาย ตรงกันข้ามกับมารยาทที่เย็นบอกว่าเป็นหลานของตน ลูกของเสือ โมก ที่มีความเรียบร้อยน่ารักน่าเอ็นดูมาก และสิ่งที่อุทัยสงสัยมาก ก็คือจรรยามักจะกลั่นแกล้งรังแกมารยาทอยู่เสมอมา รูปการณ์เข้าขั้นรุนแรงเอาเมื่อ เลอสรรค์หลานชาย ของวณีเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ พร้อมด้วยปริญญาทาง ศิลปช่างปั้น จรรยาแสดงความรักต่อเลอสรรและหึงหวงมารยาท จนออกหน้าออกตา ถึงขนาดทำลายรูปวาดของมารยาทในห้อง ศิลปของเลอสรร เพียงรู้ว่าเลอสรรเอามารยาทมาเป็นแบบเท่านั้น แต่ความเป็นจริงมารยาทก็พยายามหลบหลีกการพบปะกับเลอสรร อยู่เสมอ เมื่อถึงเวลาที่ครอบครัวของอุทัยและวณีได้พากันไป พักผ่อนที่บางแสน เย็นและมารยาทก็ได้รับชวนไปด้วย ที่นั้น มารยาทถูกจรรยาบีบบังคับไม่ให้ติดต่อกับเลอสรร ด้วยการนำขึ้น ไปปล่อยบนยอดเขา แล้วให้เดินกลับมาเอง ทางอุทัยกับมณีรู้ความ ประสงค์ของจรรยา ก็เลยคิดจะหมั้นเลอสรรกับจรรยาเสีย จรรยา ดีใจมากเมื่อพบกับเลอสรร ก็ถามความสมัครใจ หล่อนก็ได้รับการ ปฏิเสธจากเลอสรร เหมือนเพิ่มความอาฆาตในความอิจฉาริษยา ที่มีต่อมารยาทมากขึ้น จรรยาคิดฆ่ามารยาทเสียโดยการขับรถชน แต่มารยาทก็รอดตายได้และมีมือบุรุษลึกลับมาประคองช่วยเหลือ คน ๆ นั้นคือเสือโมก ซึ่งใคร ๆ พากันคิดว่าได้ตายไปในกองเพลิง แล้วนั่นเอง แต่ก็เกิดความเข้าใจผิดขึ้น โดยที่เสือโมกสำคัญผิดคิด ว่ามารยาทเป็นลูกของตนตามคำบอกเล่าที่สืบหา วันต่อมาเลอสรร ก็พยายามพบมารยาทและขอความรัก หนุ่มสาวทั้งสองต่างเข้าใจ ในความรักซึ่งกันและกัน จรรยาซึ่งมาประสบเหตุการณ์เข้า จึงคิด ฆ่ามารยาทเสีย โดยเอาปืนขู่มารยาทให้ขึ้นไปบนยอดเขา เป็นเวลา เดียวกันกับที่เย็นออกมาตามหามารยาท เมื่อเย็นขึ้นมาก็พอดีกับ ที่จรรยาจะฆ่ามารยาท เย็นจึงเข้าขัดขวางและถูกจรรยายิง เสือ โมกซึ่งติดตามดูเหตุการณ์อยู่ ก็ยิงจรรยาตายตกเขาไป เย็นก็เล่า ให้เสือโมกฟัง ที่เสือโมกสำคัญผิด ยิงลูกตัวเอง เสือโมกเสียใจมาก ต่อว่าเย็นนำความฉิบหายมาสู่ตน เสียงปืนดังไปยังอุทัยและวณี ก็ พากันขึ้นมาดู พบเย็นนอนจมกองเลือดอยู่ เสือโมกหลบไปแล้ว เย็นก็เผยความจริงว่า มารยาทคือลูกแท้ ๆ ของอุทัย จรรยานั้น คือลูกของเสือโมก ท้ายสุดเย็นขอให้อุทัยและวณีอภัยในความผิด ที่เป็นผลเนื่องจากความรักที่เย็นมีต่ออุทัยนั้นเอง อุทัยและวณี รับคำก่อนที่เย็นจะสิ้นใจ แล้วเย็นก็สิ้นใจตายไปพร้อมกับความ ชั่วร้ายของตนที่ได้สร้างขึ้น ไกลออกไป เสือโมกประคองศพลูก สุดที่รักลงสู่ท้องทะเลจนหายลับไป