โฮมสเตย์ Homestay (2561/2018) "HOMESTAY" เมื่อ "ร่างชั่วคราว" คือรางวัลสุดมหัศจรรย์จากสวรรค์ เขามีเวลา 100 วัน เพื่อเปลี่ยนรางวัลเป็นชีวิต -------------- "มึงได้รางวัลนะ" ผู้ชายท่าทางลึกลับที่เรียกตัวเองว่า ผู้คุม (นพชัย ชัยนาม) บอกผม ในขณะที่เรายืนประจันหน้ากันบนผนังตึกของโรงพยาบาลที่หมุนพลิกราวกับแรงโน้มถ่วงกลับด้าน! ผู้คุมไม่รอให้ผมปะติดปะต่อเรื่องราวในหัว เขากระชากคอเสื้อผมให้มาฟังคำอธิบายถึงรางวัลที่วิญญาณเร่ร่อนอย่างผมได้รับ นั่นก็คือการได้กลับมามีชีวิตอีกครั้งในร่างของเด็กม.ปลายที่ชื่อ มิน (ธีรดนย์ ศุภพันธุ์ภิญโญ) ที่นอนนิ่งอยู่ในตู้เก็บศพของโรงพยาบาลแห่งนี้ จะว่าไปการได้มาอยู่ในร่างใหม่ ก็ไม่ต่างอะไรกับการอยู่โฮมสเตย์ คืออยู่ได้แค่ชั่วคราว แถมยังไม่ได้อยู่ฟรีๆ เพราะผมต้องหาคำตอบให้ได้ภายใน 100 วัน ว่า "มินตายเพราะใคร" ถ้าตอบไม่ได้ ผมจะต้องตายและจากร่างโฮมสเตย์นี้ไปตลอดกาล เอาเข้าจริงๆ ผมก็ไม่คิดว่าจะอินกับการอยู่ในร่างโฮมสเตย์นี้ซักเท่าไหร่ การมีครอบครัวใหม่ มีเพื่อนใหม่ ก็ไม่ทำให้หัวใจเต้นแรงเท่าการได้มีความรักครั้งใหม่ ผมได้รู้จักกับ พาย (เฌอปราง อารีย์กุล) พี่รหัสของมิน ผู้หญิงที่ทำให้ผมอยากอยู่ในร่างโฮมสเตย์นี้ตลอดไป แต่เวลา ชีวิต และความรัก เป็นเหมือนรางวัลที่สวรรค์ให้ผมมาแค่ชั่วคราว ผมจึงต้องทำทุกวิถีทางเพื่อตอบคำถามผู้คุมให้ได้ว่า “มินตายเพราะใคร” ก่อนที่เวลาชีวิตในร่างโฮมสเตย์ของผมจะหมดลง....
แม่เบี้ย (2558/2015) ความลุ่มหลงแห่งอิสตรี จะเปิดความลับแห่งอสรพิษ เบื้องลึกของความรัก ตัณหาราคะ เหล่าคนบาป และความเร้นลับแห่งอสรพิษ ทุกเรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อ ชนะชล สุพรรณภูมิ (ชาคริต แย้มนาม) ประธานบริษัทอสังหาริมทรัพย์ผู้มั่งคั่งมีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะเป็นเจ้าของ "เรือนไทยโบราณริมแม่น้ำ" ทำให้ภาคภูมิ (จิรวิชญ์ พงษ์ไพจิตร) เลขาคนสนิทได้พาเขาไปดูเรือนไทยโบราณที่ อ.บางปลาม้า สุพรรณบุรี ของ เมขลา พลับพลา (กานต์พิสชา เกตุมณี) เจ้าของบริษัท "เมขลาทัวร์" ซึ่งเป็นเพื่อนหญิงรุ่นพี่ของภาคภูมิ ที่นั่น ชนะชลเกิดความลุ่มหลงในความเร้นลับของบรรยากาศเรือนไทยโบราณแห่งนั้น รวมทั้งเสน่ห์อันยั่วยวนใจ ของเมขลาเจ้าของบ้าน ทำให้ทั้งสองติดต่อกันเรื่อยมาจนก้าวข้ามไปสู่ความสัมพันธ์ฉันชู้สาวอย่างลึกซึ้ง และที่เรือนไทยแห่งนี้ ชนะชลได้ค้นพบขนบธรรมเนียนประเพณีไทยที่บ้านนั้นรักษาไว้อย่างเคร่งครัดพร้อมกับความลึกลับที่มี "งูเห่ายักษ์" แฝงเร้นความน่าสะพรึงกลัวในบ้านนั้น และคอยจับจ้องทำร้ายเขาในทุกขณะจิต และที่นี่เขาก็ได้พบกับ ลุงทิม (ศักราช ฤกษ์ธำรงค์) คนเก่าแก่แห่งครอบครัวพลับพลาผู้เฝ้าดูแลและกุมความลับเหนือธรรมชาติของเรือนไทยโบราณแห่งนี้ ซึ่งชนะชลรู้สึกคุ้นเคยกับชายชราผู้นี้เป็นพิเศษราวกับเคยรู้จักกันมาแต่เก่าก่อน รวมถึงการล่วงรู้ความลับดำมืดในบ้านเรือนไทยหลังนี้ที่ได้สร้างความปวดร้าวใจแก่ คุณโกสุม (อาภา ภาวิไล) มารดาของเมขลาเป็นยิ่งนัก ซึ่งมันอาจจะเกี่ยวพันกับปริศนาชีวิตในอดีตของเขาที่ยังไม่อาจคลี่คลาย ยิ่งเวลาผ่านไป สัมพันธ์สวาทของชนะชลและเมขลาก็ยิ่งดำดิ่งเป็นปมลึก และนั่นได้นำพาทั้งคู่และคนรอบข้างไปสู่หายนะแห่งชีวิต ไม่ว่าจะเป็น ไหมแก้ว (ภัทรนันท์ รวมชัย) ภรรยาของชนะชลที่ไม่อาจยอมรับการนอกใจของสามีได้ และ พจน์ (ชัยวัฒน์ ทองแสง) เพื่อนสนิทและคู่ขาของเมขลาที่หึงหวงอย่างรุนแรงต่อการปันใจของเธอให้ชายอื่น รวมถึง คุณ (งูเห่ายักษ์) ที่ปรากฏตัวให้ชนะชลและเมขลาเห็นบ่อยขึ้น และแสดงอำนาจเร้นลับมากขึ้นทุกที ราวกับจะดึงสติทั้งคู่ให้กลับมาอยู่ในทำนองคลองธรรม ก่อนที่เรื่องราวทุกอย่างจะพลิกผันจบลงด้วยการแก้แค้น, ชำระบาป และความตาย เมขลาจึงจำต้องคลี่คลายปัญหาด้วยการตัดใจลา ยุติความสัมพันธ์กับชนะชลอย่างเด็ดขาด เพื่อมิให้งูเห่ายักษ์พรากชีวิตของเขาไป ในขณะที่ชนะชลเองก็ได้ค้นพบรากเหง้าชีวิตอันเป็นต้นกำเนิดของเขาไปพร้อมๆ กับตระหนักถึงบาปที่ตนก่อไว้เช่นกัน
ครูแก แรงรัก แรงอาถรรพ์ (2547/2004) ครูฉาย (จรัล เพ็ชรเจริญ) ครูหนังตะลุงที่มีตัวหนังตะลุงเอกที่เป็นตัวตลก และเป็นตัวชูโรงประจำคณะ โดยท่านให้ความเคารพรัก และเทิดทูนตัวหนังตัวนี้อย่างสูงโดยเรียกอย่างยกย่องว่า ครูแก ซึ่งเป็นขวัญใจของคนดูหนังตะลุงทั่วภาคใต้ที่รู้จักกันโดยทั่วไปว่า ไอ้แก ซึ่งมีคำร่ำลือว่าตัวหนัง ไอ้แก นั้นมีชีวิตมักจะแสดงอะไรแปลก ๆ ได้เสมอ และเมื่อเผลอมันจะลุกขึ้นเดินเหินแอบขึ้นไปยืนปร๋ออยู่กับตัวหนังตัวนางตัวหนึ่งที่ชื่อว่า พยอม (ปรางทอง ชั่งธรรม) ซึ่งตำนานของมันมาจาก แก (ภาณุ สุวรรณโณ) นายหนังตะลุงฝีมือดีผู้ถูกกีดกันจาก พ่อของพยอม สาวคนรักจนทำให้เธอต้องฆ่าตัวตาย เขาได้นำหนังเท้าของเธอมาทำเป็นตัวหนังตะลุงเพื่อให้เป็นตัวแทนของเธอ และเมื่อเขาใกล้เสียชีวิตก็ได้สั่งลูกศิษย์ให้นำหนังเท้าของมาทำตัวหนังตะลุงด้วยอีกตัว จนกลายเป็นตัวตลกยอดนิยม นี่เองเป็นที่มาของความรักอมตะที่แม้แต่กาลเวลาและความตายก็ไม่อาจพรากทั้งคู่ให้จากกันได้
คู่แท้ปาฏิหาริย์ (2546/2003) ทานน้ำ (ณัฐฐาวีรนุช ทองมี) ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง ที่ออกจะเชย ๆ เธอมักจะทำอะไรเปิ่น ๆ เป๋อ ๆ อยู่ตลอดเวลา และเพราะไม่ค่อยสุงสิงกับใครนัก ทำให้เธอไม่ค่อยมีเพื่อน แต่เธอก็แอบหลงรักรุ่นพี่ ที่เรียนมาด้วยกัน เขาชื่อว่า พี่เอก (ปิยะ วิมุกตายน) เธอคอยตามเขา ไม่ว่าเขาจะเรียนที่ไหน ทำงานอะไร แม้ตัวเธอจะไม่ชอบสักเท่าไหร่ แต่เพราะเขาคนเดียวเท่านั้น ที่เธอใฝ่ฝันว่าจะได้ใกล้ชิด และหากเรื่อง 'ปาฏิหาริย์' ไม่ได้เกิดขึ้นกับชีวิตเธอ เธอก็คงได้แต่แอบรักเขาอย่างนี้เรื่อย ๆ ในวันปีใหม่ น้ำตั้งใจจะสารภาพรักกับพี่เอกตามที่ ตุ่น (หทัยรัตน์ เจริญชัยชนะ) เพื่อนเพียงคนเดียวของเธอแนะนำ แต่ทุกอย่างก็ผิดพลาดไปหมด น้ำจึงได้แต่นั่งเหงา และรู้สึกท้อแท้กับชีวิตที่ไม่มีอะไรดีขึ้นมา แม้แต่งานโฆษณาที่เธอทำ ก็เกิดความผิดพลาดจนถูกต่อว่าเหมือนเคย แต่ครั้งนี้มันเกิดร้ายแรงกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา น้ำต้องตกอยู่ในอันตราย เธอได้แต่เปล่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือ ในวินาทีนั้นเอง ชายหนุ่มรูปหล่อขี่ม้าขาวมาช่วยชีวิตเธอไว้ และไม่ใช่ครั้งเดียว เขาปรากฎตัวช่วยเธอถึงสามครั้งในวันเดียวกัน น้ำ ทั้งแปลกใจและประหลาดใจที่ชายหนุ่มรูปหล่อที่มาช่วยเธอคือ หมูตอน (เจษฏาภรณ์ ผลดี) เด็กอ้วนหุ่นฮิปโปเมื่อสมัยเรียน เขาเปลี่ยนไปจนน้ำจำไม่ได้ น้ำได้แต่สงสัยว่า ทำไมหมูตอนถึงปรากฎตัวช่วยเธอได้ทุกครั้ง หมูตอนบอกว่าที่เขามาช่วยน้ำ ก็เพราะคำมั่นสัญญาที่เขาเคยให้ไว้ ถ้าน้ำต้องการความช่วยเหลือ... เขาจะมา หมูตอนอาสาช่วยทำให้ความรักของน้ำสมหวัง เขาจับเธอแปลงโฉมเป็นสาวสวยคนใหม่ ที่ใคร ๆ ต่างก็ต้องแปลกใจ แต่น้ำก็ยังไม่กล้าทำอะไรด้วยตัวเอง หมูตอนจึงต้องวางแผนสารพัด ทำให้พี่เอกหันมาสนใจ และรักเธอให้ได้ ระหว่างนี้เอง ความสนิทสนมและความผูกพัน ที่ทั้งสองเคยมีก็กลับมาอีกครั้ง น้ำมีความสุขอย่างประหลาด เธอได้หัวเราะ และร่าเริงขึ้น แม้จะถูกแซวว่าเป็นเพราะเธอมีความรักกับหมูตอน แต่น้ำกลับปฏิเสธว่า เป็นเพราะความรักของพี่เอกต่างหาก ยิ่งน้ำสนิทกับพี่เอกมากเท่าไร หมูตอนก็ยิ่งเงียบหายไปเท่านั้น ทุกอย่างไม่ได้เป็นอย่างที่น้ำคิด ทำให้น้ำรู้สึกแย่ เพราะการหายตัวไปของหมูตอน น้ำพยายามร้องเรียกหาหมูตอนหลายครั้ง แต่เขาไม่เคยแสดงตัวอีกเลย จนวันหนึ่ง น้ำตัดสินใจเดินลงไปบนถนน แล้วหมูตอนก็โผล่มาช่วยเธอจริง ๆ นี่คือสิ่งที่เธอกำลังรอคอย และต้องการให้เกิดขึ้นจริง ๆ หมูตอนต่อว่าน้ำที่ทำอะไรโง่ๆ อย่างนี้ น้ำขอให้หมูตอนอย่าจากเธอไปอีก ...เขาให้สัญญา ความห่างเหินของน้ำ ทำให้พี่เอกกลับมาหาน้ำ แต่ครั้งนี้ต่างจากทุกครั้งเพราะความกดดัน ทำให้พี่เอกล่วงเกินน้ำ น้ำขัดขืนจนโรคหัวใจของเธอกำเริบ เธอแน่นหน้าอก และหายใจไม่ออก พี่เอกได้แต่ตกใจทำอะไรไม่ถูก ขณะที่น้ำกำลังจะแย่... น้ำฟื้นขึ้นมาที่โรงพยาบาล หมูตอนเป็นคนพาน้ำมาอีกแล้ว เขาจึงได้รู้จากหมอว่า หัวใจของน้ำกำลังแย่ ต้องได้รับการผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจโดยเร็วที่สุด หมูตอนไม่รู้จะช่วยน้ำได้ยังไง สิ่งที่ทำได้เพียงอย่างเดียว คือทำให้น้ำมีความสุขที่สุด ในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ หมูตอนทำทุกอย่างเพื่อให้น้ำมีความสุข นับเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดของน้ำ หมูตอนสารภาพรักกับน้ำ น้ำเองก็เพิ่งรู้ใจตัวเองว่า เธอรักหมูตอนเช่นกัน ในช่วงเวลาแห่งความสุขนั่นเอง หมูตอนเกิดอาการผิดปกติ เขาเจ็บปวดและทรมาน ก่อนที่เขาจะค่อย ๆ เลือนหายไปต่อหน้าต่อตาน้ำ สุดท้ายความรักของทั้งคู่จะลงเอยอย่างไร หมูตอนหายไปไหน แล้วทานน้ำจะทำอย่างไร...
คืนไร้เงา (One Night Husband) (2546/2003) สิปาง สาวทันสมัย ได้พบรักกับ นภัทร อาจารย์มหาวิทยาลัย และตัดสินใจแต่งงานกันในเวลาไม่นาน แต่ในคืนวันแต่งงาน นภัทรกลับหายตัวไปอย่างลึกลับ ทำให้สิปางต้องออกตามหา ด้วยความช่วยเหลือของ ชาติชาย และ บุษบา พี่ชายและพี่สะใภ้ของนภัทร ในระหว่างนั้น สิปางก็ได้ใกล้ชิดกับบุษบา และพบว่าหล่อนอยู่ในโลกที่แตกต่างกับเธออย่างสิ้นเชิง สิปาง (นิโคล เทริโอ) หญิงสาวสวยทันสมัย เธอพบรักกับนภัทร (วรวิทย์ แก้วเพชร) ซึ่งเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยและตกลงแต่งงานกันในเวลาไม่นาน เขาก็หายตัวไปหลังจากได้รับโทรศัพท์ลึกลับในคืนวันแต่งงาน ด้วยความวิตกกังวลกับการหายตัวไปของนภัทร สิปางจึงเริ่มออกติดตามหา ด้วยความช่วยเหลือของชาติชาย (พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง) และบุษบา (สิริยากร พุกกะเวส) พี่ชายและพี่สะใภ้ของนภัทร ในระหว่างนั้น สิปางได้พยายามเข้ามาใกล้ชิดกับบุษบาเพื่อค้นหาความจริงเกี่ยวกับนภัทร เธอพบว่าบุษบาอยู่ในโลกที่แตกต่างกับสิปางอย่างสิ้นเชิง เธอเป็นแบบฉบับของแม่บ้านช้างเท้าหลังที่มีชีวิตอยู่ใต้บงการของสามี เมื่อสิปางเข้าใกล้ความจริงเกี่ยวกับนภัทรมากขึ้น โฉมหน้าใหม่ของสามีคืนเดียวของเธอก็ค่อยๆ ปรากฏให้เห็นเด่นชัดขึ้นทีละน้อย ขณะเดียวกันความสัมพันธ์ระหว่างสิปางกับบุษบายิ่งนานวันยิ่งแนบแน่น การได้เรียนรู้ชีวิตในโลกที่แตกต่างกันทำให้สิปางถึงกับต้องคิดทบทวนความเห็นเดิมที่เธอเคยมีต่อความรัก การเสียสละ และความหมายของการดำรงชีวิตเสียใหม่ สิปางเริ่มต้นตั้งคำถามกับทุกอย่างในชีวิตซึ่งนำไปสู่จุดจบอันน่าสะเทือนใจ
ภูตพิศวาส (2538/1995) ข้อความบนใบปิด กรีนพิคเจอร์ GREEN PICTURE เสนอ ขอร่วมฉลอง 72 ปี “รพีพร” ศิลปินแห่งชาติ นี่คือบทประพันธ์ที่เป็นภาพยนตร์ท้ายสุด ภูตพิศวาส ศิริพจน์ เจนวัฒน์ กวินนา สุวรรณประทีป นิออน อิศรา วีนัส มีวรรณ, อรุโณทัย นฤนาท, เกรียง ไกรมาก, ปฐมชัย ชมศรีเมฆ, กล้วย เชิญยิ้ม, ซานโต๊ส กลิ่นสี, ตรีนุช ทิมเจริญ, สุชาดา อีแอม, สงัด เหงือกงาม, ประยูร ศรีแสงทิม, เอก อัครชัย, ช้องมาศ พลับพลา รพีพร บทประพันธ์ ป้อง พรานนก ศิลปกรรม ธนศักดิ์ อัศวิน ผู้ช่วยถ่ายภาพ สุทัศน์ อินทรานุปกรณ์ ถ่ายภาพ พีระพล เธียรเจริญ, เอก วงษ์ชื่น ผู้ช่วยผู้กำกับ ตามใจ กำกับบท เอก ติกฤษณเลิศ ผู้จัดการกองถ่าย สิทธิชัย พัฒนดำเกิง ลำดับภาพ เรวัตร ภาพนิ่ง สุรินทร์ ชะอุ่มพานิช ดำเนินงานสร้าง สุภชัย วีระภุชงค์ อุปการะ สุนันท์ ชะอุ่มพานิช อำนวยการสร้าง จิรเดช หาญศิริการ กำกับการแสดง (ที่มา :Thai Movie Posters)
พรายกินรี (2519)
พรายกินรี (2519/1976) ข้อความบนใบปิด ชีวิตสาวชาวป่า ประคำอาถรรพ์ ตัณหาราคะ อยากพร่าพรหมจรรย์ ให้มันแค้น! พรายกินรี บทประพันธ์ของ ปฤศนา สีดา วิษณุภพ สร้างบท สมบัติ เมทะนี นัยนา ชีวานันท์ มานพ อัศวเทพ มยุรฉัตร เหมือนประสิทธิเวช สันติ คราประยูร อนันต์ สัมมาทรัพย์, วิไลวรรณ วัฒนพานิช, ชูศรี มีสมมนต์, ธัญญา ธัญญารักษ์, สิงห์ มิลินทราศัย, ทาริกา ธิดาทิตย์, ดวงใจ หทัยกาญจน์, อุ่นเรือน ธรรมานนท์ กมลวรรณ-สรรเพชญ อำนวยการสร้าง โสภณ เจนพานิช ถ่ายภาพ สนาน คราประยูร กำกับการแสดง นิวไฟว์สตาร์ จัดจำหน่าย
พิษสวาท (2517)
พิษสวาท (2517/1974) ข้อความบนใบปิด รณภพฟิล์ม ผู้ให้ความบันเทิงที่เลือกสรรแล้วแก่ท่านด้วย... ‘พิษสวาท’ ภาพยนตร์รักแนวแปลกที่ตีแผ่แก่นแท้ของหัวใจหญิง-ชาย ผู้ซึ่งกำลังวิ่งหา ‘รัก’ และต้องการ ‘ความรัก’ เป็นสิ่งตอบแทน สร้างจากนิยายยอดฮิต “พิษสวาท” ของ “ทมยันตี” ที่ท่านผู้อ่านผู้บูชาความรักนับล้านระทึกใจมาแล้ว... ในระบบ 35 ม.ม.ซูเปอร์ซีเนมาสโคป สีสวยสด เสียงในฟิล์ม พิษสวาท ของ ทมยันตี สมบัติ เมทะนี อรัญญา นามวงษ์ มยุรฉัตร เหมือนประสิทธิเวช รุจน์ รณภพ สมชาย สามิภักดิ์, พัชนี อุรารักษ์, เสริมพันธุ์ สุทธิเนตร, เทพ เทียนชัย, ทานทัต วิภาตะโยธิน, เปี๊ยก ปัตตานี, พร้อมด้วย คณะนาฏศิลป์อินทรดาราและนักดาบลูกบ้านพรานนก กวี เกียรตินันท์ ถ่ายภาพ สุรินทร์ เจริญปุระ อำนวยการสร้าง รุจน์ รณภพ กำกับการแสดง แกรนด์ฟิล์ม จัดจำหน่าย
หนองบัวแดง (2516)
หนองบัวแดง (2516/1973) หลังกลับจากเมืองนอก ลูกน้ำ ได้ทราบข่าวร้ายว่าแม่ของเธอหัวใจวายที่หนองบัวแดง ขณะไปเยี่ยมขุนบริพัตรเพื่อยืมเงินมาชำระหนี้ที่มีมากมาย ซ้ำยังได้รับโทรเลขลึกลับจาก ภูไท ลูกชายของขุนบริพัตร ทำให้เธอตัดสินใจเดินทางไปยังหนองบัวแดง ที่ซึ่งเธอได้พบคนแปลกประหลาดมากมาย รวมทั้ง นายทม ชายหลังค่อมที่บอกว่าเป็นน้องชายของภูไท และต้องทราบข่าวร้ายอีกครั้งว่า ลูกนก พี่สาวของเธอที่แต่งงานกับภูไทได้เสียชีวิตแล้ว ด้วยหนี้สินของครอบครัวทำให้เธอจำต้องแต่งงานกับภูไทแทนพี่สาว ทั้งที่สงสัยว่าภูไทคือฆาตกร บ้านหนองบัวแดง มีแต่ความลึกลับ เพราะคนในตระกูลนี้มากด้วยตัณหาราคะ มันเป็นตัณหาที่สร้างความเคียดแค้นให้กับ "ฤนาท" เมื่อเมียแอบมีชู้กับประดิภัตย์ ฤนาทเก็บความแค้นไว้นานจนตกทอดมาถึง "ลูกน้ำ" ลูกแท้ๆ ของเค้า ต้องมาได้เสียเป็นเมีย "ภูไท" อย่างไม่สมยอม ขณะที่ลูกน้ำมาที่บ้านหนองบัวแดง เพื่อสืบหาความจริงว่า "ลูกนก" พี่สาวที่เกิดจากรุจิสายเลือดขุนประดิภัตย์ตายด้วยเพราะเหตุใด
ดรุณีผีสิง (2516)
ดรุณีผีสิง (2516/1973) ข้อความบนใบปิด เชียงคำภาพยนตร์ เสนอ ดรุณีผีสิง ของ วรการ 35 สโคป เสียงในฟิล์ม ภาพยนตร์ชีวิต, รัก, ริษยา, อาฆาต, ตื่นเต้น, สยองขวัญ, สั่นประสาทให้หวาดผวา มีทั้งตลก ครื้นเครง เพลงไพเราะ ไพโรจน์ ใจสิงห์ สุทิศา พัฒนุช สะอาด เปี่ยมพงษ์สานต์, นงลักษณ์ โรจนพรรณ, จีราภา ปัญจศิลป์ รอง เค้ามูลคดี, พนม นพพร, โฉมฉาย ฉัตรวิไล, ชุมพร เทพพิทักษ์, ดำรง พุฒตาล, เชาว์ แคล่วคล่อง, ชูศรี มีสมมนต์, ปราณีต คุ้มเดช, พร บูรพา ร่วมแสดง เกรียงศักดิ์ ฤกษ์ชนะ กำกับการแสดง เชียงคำ อำนวยการสร้าง ก้องเกียรติ อัศวินิกุล ถ่ายภาพ รุ่งโรจน์ฟิล์ม จัดจำหน่าย
บุหงาหน้าฝน (2515)
บุหงาหน้าฝน (2515/1972) เรื่องราวความรักของหญิงสาวที่ได้ช่วยชีวิตชายหนุ่มนิรนามที่แกล้งความจำเสื่อมเพื่อหนีจากการถูกปองร้าย และเพื่อสืบหาถึงสาเหตุตัวการผู้อยู่เบื้องหลังแผนร้าย ทว่าเมื่อทุกอย่างกำลังคลี่คลายเขากลับประสบอุบัติเหตุจนความจำเสื่อม และหลงลืมถึงความรักที่เขามีต่อหญิงสาวจนหมดสิ้น
ภูตเสน่หา (2513)
ภูตเสน่หา (2513/1970) ข้อความบนใบปิด ชมพูนุชภาพยนตร์ เสนอ...ภาพยนตร์ระดับเงินล้าน ภูตเสน่หา ของ สุชาดา สมบัติ เมทะนี อรัญญา นามวงษ์ รักชนก จินดาวรรณ ร่วมด้วย มาลาริน บุนนาค, รุจน์ รณภพ, เมืองเริง ปัทมินทร์, ฑัต เอกฑัต, เสน่ห์ โกมารชุน, สีเทา, ถวัลย์ คีรีวัต, ชูศรี โรจนประดิษฐ์, จุ๋มจิ๋ม ศรทอง ฯลฯ “อุดม พลูพานิช” ที่ปรึกษา สุรีย์ พุกกะเวส อำนวยการสร้าง สุริยน ดวงทองดี กำกับการแสดง สงคราม กวี ถ่ายภาพ ส.อาสนจินดา สร้างบท พิริยะฟิล์ม จัดจำหน่าย
ปี่แก้วนางหงษ์ (2513)
ปี่แก้วนางหงษ์ (2513/1970) ข้อความบนใบปิด เสน่ห์ศิลป์ภาพยนตร์ เสนอ มิตร ชัยบัญชา สุทิศา พัฒนุช ดรุณี ชื่นสกุล นำ ฟัง 5 เพลงเอกในระบบ 35 ม.ม. ปี่แก้วนางหงษ์ พร้อมด้วย อดุลย์ ดุลยรัตน์, เยาวเรศ นิสากร, กันทิมา ดาราพันธ์, รุจิรา อิศรางกูร, เสน่ห์ โกมารชุน, สมพงษ์ พงษ์มิตร, สุคนธ์ คิ้วเหลี่ยม, ท้วม ทรนง รวมดาราลูกทุ่งนักร้อง เรียม ดาราน้อย, มิตร เมืองแมน, ชาตรี ศรีชล, ปัทมา ณ เวียงฟ้า เสน่ห์ โกมารชุน อำนวยการสร้าง เสนีย์ โกมารชุน กำกับการแสดง สันทัด ศรีสัมพันธ์ ถ่ายภาพ ศานิต รุจิรัตนะตระกูล ถ่ายภาพ 35 ม.ม. รัตนาชัยฟิล์ม จัดจำหน่าย
พระจันทร์แดง (2513)
พระจันทร์แดง (2513/1970) ปาริชาต (อรัญญา นามวงศ์) ต้องประสบปัญญาชีวิตเมื่อบิดาถึงแก่กรรม อีกทั้งยังถูกฟ้องล้มละลายและถูกยึดบ้าน คู่หมั้นก็มาถอนหมั้น จึงตัดสินใจเดินทางไปเป็นครูที่บ้านหนองโหงตามหนังสือที่ติดต่อมา เธอเดินทางมาถึงหมู่บ้านหนองโหงเป็นเวลาเกือบเที่ยงคืนแล้ว ปาริชาตเป็นไข้จึงขึ้นไปที่บ้านพักของสุขศาลา แต่กลับพบตัวประหลาดร่างกายเป็นมนุษย์ ศรีษะและแขนเป็นเสือ ปาริชาตหนีเข้าไปในห้องแต่ตัวประหลาดก็พ้งประตูตามเข้าไป ขณะที่ตัวประหลาดกำลังจะทำร้ายปาริชาตดวงจันทร์ก็เคลื่อนผ่านพ้นเที่ยงคืน ตัวประหลาดหันหลังวิ่งข้ามหน้าต่างไป ส่วนปาริชาตเป็นลมด้วยความตกใจกลัว เมื่อปาริชาตฟื้นขึ้นมาตอนเช้าก็พบหมอศมา (มิตร ชัยบัญชา) กำลังดูแลตนเองอยู่ ปาริชาตเล่าเรื่องที่ตนเองประสบให้ฟ้ง แต่หมอศมาบอกว่าเธอตาฝาดเพราะพิษไข้ เมื่อปาริชาตแข็งแรงแล้วหมอศมาจึงพาไปที่บ้านพักโรงเรียน แต่แล้วเธอต้องประสบปัญหาความเจ้าชู้ของครูใหญ่ (อดุลย์ ดุลย์รัตน์) และความหึงหวงของบรรดาเมียของครูใหญ่ ปาริชาตทำความสนิทสนมกับชาวบ้านและเด็กจนได้ทราบว่า ตัวประหลาดที่เธอพบคือ "สาง" เป็นวิญญาณเสือร้ายที่เข้าสิงสู่มนุษย์ และจะออกล่าเหยื่อทุกคืนวัน 15 ค่ำ ในที่สุดปาริชาตก็สืบจนได้รู้ความจริงว่า ผู้ที่ถูกวิญญาณร้ายเข้าสิงก็คือหมอศมา และผู้ที่ปลุกวิญญาณร้ายขึ้นมาก็คือ ยูโซ๊ะ (ล้อต๊อก) หมอผีซึ่งมีความอาฆาตแค้นกับพ่อของหมอศมา มาแต่อดีต อีกทั้งยูโซ๊ะไม่พอใจที่หมอศมานำวิชาแพทย์สมัยใหม่มารักษาชาวบ้าน ทำให้ตนเองเสื่อมความศรัทธาจากชาวบ้าน เมื่อถึงคืนวัน 15 ค่ำ ยูโซ๊ะปลุกวิญญาณสางให้เข้าสิงสู่หมอศมา ขณะที่หมอศมากำลังจะกลายร่างเป็นสาง ปาริชาตซึ่งอยู่ในที่นั้นได้พยายามปลุกเร้าให้หมอศมาทำจิตใจให้เข้มแข็งสู้กับอำนาจวิญญาณร้าย ในที่สุดปาริชาตยอมพลีร่างเป็นเมียของหมอศมาทำให้วิญญาณร้ายเข้าสิงสู่หมอศมาไม่สำเร็จและเป็นการทำลายอาถรรพ์ เมื่อวิญญาณร้ายเข้าสิงสู่หมอศมาไม่สำเร็จจึงย้อนมาสิงสู่ยูโซะ ทำให้ยูโซะกลายเป็นสาง เมื่อสางยูโซะจะทำร้ายปาริชาตจึงถูกหมอศมายิงด้วยลูกปืนลงอาคมที่พ่อหมอศมาซ่อนเอาไว้ทำให้วิญญาณร้ายดับสูญไป ความสงบสุขกลับมาที่หมู่บ้านหนองโหงอีกครั้ง หมอศมากับปาริชาตก็ครองคู่กันสืบต่อมา
เรารักกันไม่ได้ (2513)
เรารักกันไม่ได้ (2513/1970) ข้อความบนใบปิด อัศวินภาพยนตร์ ขอเสนอภาพยนตร์ที่ยิ่งใหญ่ ซูเปอร์ซีเนสโคป 35 ม.ม.สีอิสต์แมน เขาห้ามไม่ให้เรารักกัน แต่เราก็รักกันจนได้ ใน... เรารักกันไม่ได้ สมบัติ เมทะนี มานพ อัศวเทพ พบ สุทิศา พัฒนุช ร่วมด้วย เมตตา รุ่งรัตน์, วิไลวรรณ วัฒนพานิช, สายัณห์ จันทรวิบูลย์, แมน ธีระพล, พฤหัส บุญหลง, รุจิรา-มารศรี อิศรางกูร, พูนสวัสดิ์ ธีมากร, ล้อต๊อก, เยาวเรศ นิสากร, ชฎาพร วชิรปราณี, อุไรวรรณ จันทร์ทิพย์, แป๊ะอ้วน, จุมพล ปริม บุนนาค อำนวยการสร้าง ภาณุพันธ์ กำกับการแสดง โชน บุนนาค ถ่ายภาพ อัศวินภาพยนตร์ จัดจำหน่าย

หน้าที่