เฮ้ย!ลูกเพ่ นี่ลูกพ่อ (2563/2020) ก็อต (ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ) หนุ่มนักแข่งรถไฟแรงที่ไม่ลงรอยกับพ่อ จนวันที่เขาได้แชมป์แข่งรถมีเหตุการณ์นำพาให้เขาวาร์ปกลับไปในอดีตก่อนที่เขาจะเกิดเพียงหนึ่งปี ก็อตได้กลับมาเจอ เปรม (ฉันทวิชช์ ธนะเสวี) พ่อของเขาที่ยังดูหล่อเฟี้ยว เป็นหัวหน้าแก๊งที่คอยเก็บค่าเช่าร้านค้า, คาราโอเกะ การกลับมาเจอกันครั้งนี้ของก็อตกับเปรม จากลูกพ่อก็กลายมาเป็นลูกเพ่คนสนิท ที่ดันเกิดมาปิ๊ง ดิว (ดลลชา ภูวิจารย์ เคาวเวลล์) สาวสวยคนเดียวกันอีก ก็อต หนุ่มนักแข่งรถที่ความสัมพันธ์ไม่ลงรอยกับพ่อ เขาพยายามพิสูจน์ให้พ่อเห็นว่าตัวเองเจ๋ง จนวันที่ก็อตได้แชมป์แข่งรถทางเรียบ ก็เกิดเหตุการณ์นำพาให้เขาวาร์ปกลับไปในอดีตปี พ.ศ. 2541 หรือก่อนที่เขาจะเกิดเพียง 1 ปี ก็อตได้กลับมาเจอ เปรม พ่อของเขาที่ยังดูหล่อเฟี้ยวเป็นหัวหน้า "แก๊งเจ้าโลก" ที่คอยเก็บค่าเช่าร้านค้าและคาราโอเกะ การกลับมาเจอกันครั้งนี้ของก็อตกับเปรม จาก "ลูกพ่อ" ก็กลายมาเป็น "ลูกเพ่" คนสนิท ที่ดันเกิดมาปิ๊ง ดิว สาวสวยคนเดียวกันอีก
Where We Belong ที่ตรงนั้น มีฉันหรือเปล่า (2562/2019) เรื่องราวของ ซู (เจนนิษฐ์) และเบล (มิวสิค) เพื่อนรักที่สนิทกันยิ่งกว่าเพื่อนสนิท แต่ก็ไม่เคยเป็นมากกว่านั้น ...ในวัยที่ถึงเวลาเปลี่ยนผ่าน ซู ผู้ที่รู้สึกว่าตัวเองเกิดผิดที่มาตลอด เกลียดบ้านเกิด เกลียดที่แม่ตาย เกลียดที่ต้องสืบทอดกิจการก๋วยเตี๋ยวหมูเลียงที่ต้องตื่นมาขายทุกวัน และโอกาสก็มาถึง เมื่อซูได้ทุนไปเรียนต่อเมืองนอก การเดินทางครั้งนี้ อาจเป็นตั๋วเที่ยวเดียวที่เธอจะไม่กลับมาอีก ความรักของเพื่อนอย่าง เบล จะรั้งให้ ซู ไม่ให้ไปได้หรือไม่ หรือสุดท้ายความรักคือการปล่อยไป ที่ เบล ทำได้คือการช่วย ซู จัดกระเป๋าครั้งสุดท้ายนั้น...
นคร - สวรรค์ (2562/2019) หลังจากบ้านเกิดไป 5 ปี เอย ก็เดินทางกลับนครสรรค์หนึ่งสัปดาห์เพื่อร่วมพิธีศพของแม่ ปากน้ำโพเป็นดินแดนที่เชื่อว่าจะสามารถนำวิญญาณผู้ตายไปสู่สรวงสวรรค์ได้ และในเช้าวันนั้น เอยก็ได้ล่องเรือลำเดียวกันกับครอบครัว บิดา เพื่อนเก่า และความทรงจำในอดีตของเธอ เพื่อลอยอังคารเถ้ากระดูกของมารดา
BNK48: Girls Don't Cry บีเอ็นเคโฟร์ตีเอต: เกิร์ลดอนต์คราย (2561/2018) BNK48 คือ Idol Girl Group ที่มีสมาชิกเป็นหญิงสาวตั้งแต่อายุ 13 ถึง 23 ปีรวมทั้งหมด 26 คน โดยคอนเซ็ปต์ของวงคือ ‘เด็กหญิงธรรมดาๆ ที่มีความพยายาม’ ในการออกแต่ละซิงเกิ้ลจะมีสมาชิกเพียง 16 คนจากทั้งหมด เท่านั้นที่จะได้รับเลือกให้มีผลงาน สมาชิกทุกคนจึงพยายามทุ่มเทให้กับการฝึกซ้อมและพัฒนาตัวเอง แต่แล้ววันหนึ่ง…ทุกคนก็เรียนรู้ว่าความพยายามอย่างเดียวอาจไม่พอ และปลายทางของความพยายาม นอกจากความสําเร็จแล้ว มันยังมีอย่างอื่นที่ไม่คาดคิดรออยู่เช่นกัน
Die Tomorrow พรุ่งนี้ตาย (2560/2017) เป็นการนำเรื่องราวที่สร้างจาก 6 เหตุการณ์การเสียชีวิตอันแปลกประหลาดบนหน้าหนังสือพิมพ์มาสร้างเป็นหนังสั้นที่ไม่มีจุดเชื่อมโยงกัน และฉายสลับกับสารคดีว่าด้วยเรื่องมุมมองการตายของคนต่างวัย
DHARAMSALA ดารัมซาล่า ความหวังแห่งศรัทธา (2560/2017) อินท์ (ธันน์ ธนากร) ช่างภาพนิ่งมือดี แต่นิสัย เต็มไปด้วยความหลงตัวตน คิดว่าตนเก่งเหนือใคร เลยค่อนข้างจะเห็นแก่ตัว ไม่เอาใคร แม้แต่ หญิง (อภิสรา รักชาติ) และ ชิน (ชิตวัน อัครนพธนา) พี่สาวและน้องชายแท้ๆ ยังเอือมระอา อินท์ยอมอ่อนข้อ แค่ เมธาวี (อาภา ภาวิไล) และ ศรุต (ไตรรงค์ ชัยนรานนท์) เพื่อนสนิทเท่านั้น และด้วยความเห็นแก่ตัวเอาใจตัวเองเป็นที่ตั้ง ทำให้ อินท์ ทะเลาะกับ เม ขั้นรุนแรงถึงกับเลิกรากัน อินท์ จึงบินตามไปหา ศรุต ที่อินเดีย เพื่อถ่ายภาพพระเดินธุดงค์ แต่ด้วยความที่เขาเป็นคนเห็นแก่ตัว จึงทำให้ ทัต (ทีฆทัต เจริญสถิตย์พงศ์) และ โน่ (ภูวเนตร สีชมพู) สองหนุ่มที่หวังไปดูแลคณะสงฆ์แกล้งปล่อยให้ อินท์ หลงทางจนสลบไป ครูมิ้งค์ (เพ็ญจันทร์ วงศ์สมเพ็ชร) และ ศรุต รีบไปรับพาตัวมารักษา อินท์เริ่มคิดได้ว่าเขาไม่มีใครชอบ ยิ่งได้ฟังคำสอนของ เณรชนก (ณชนก เจริญสถิตพงศ์) ที่เป็นเหมือนแสงสว่างแห่งธรรมให้ อินท์เริ่มเข้าใจ หันมามองคนรอบๆ ข้าง อินท์ได้มองเห็นปัญหาของคนอื่นๆ อย่าง เณรกร (สามเณรฐิติกร งามยิ่ง) ที่ตอนเป็นเด็กก่อนบวช กร (ด.ช.ดบัสวิน ศิริกิตติรัตน์ ) และ กุ๊กไก่ (ด.ญ.ดลณพรรณ ศิริกิตติรัตน์) ถูก ดา (แอนนี่ บรู๊ค) ทำร้ายอย่างรุนแรง ทำให้ พ่อยศ (ปิติศักดิ์ เยาวนานนท์) เสียใจจนเมามาย แต่ก็คิดได้เพราะลูกชายขอร้องอยากบวชอย่างสงบ ธรรมะเปลี่ยนแปลงชีวิตคุณได้จริงๆ หากมีศรัทธา อย่างเช่น ลีลา (วรรณษา ทองวิเศษ) พี่สาวของศรุต หลงในความรักเป็นชู้กับ คิม (จิรกิตติ์ สุวรรณภาพ) จน ตวง (สาวิกา กาญจนมาศ) ภรรยาคิมมาเปิดโปงให้อับอายอยู่เมืองไทยไม่ได้ต้องหนีมาพึ่งพิงร่มเงาแห่งแสงพระธรรมเพื่อสงบจิตใจ แม้แต่เพื่อนสนิทอย่าง พี่อ้วน (อนันต์ เสมาทอง) ฟ้า (ปภัสรา ดิสกุล) และ อั้ม แอบแซ่บ (รัฐ ริมธีรกุล) ก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้ ส่วน คุณจิตรา (เกศริน เอกธวัชกุล) ที่ชอบทำบุญ แต่เพราะหลงว่าทำเยอะกว่าคนอื่นต้องดีกว่าวิเศษกว่า และต้องได้สิทธิ์พิเศษ คุณจิตรา รังเกียจแม้แต่ แม่ชีมี่ (เอ็มมี่ อมลวรรณ) อดีตนางแบบวาบหวิว ที่ไปถือศีลที่อินเดีย แต่เพราะเธอเป็นนางแบบเซ็กซี่มาก่อนแม้บวชแล้ว คุณจิตราก็ยังรังเกียจ แต่เมื่อทุกๆคน ได้ฟังคำเทศนา จาก พระอาจารย์ต้น (พระทรงศักดิ์ แพทย์เพียร) และ หลวงพ่อ พระเทพปริยัติสุธี เทศนาให้เห็นถึงแก่นธรรม ในการละวางตัวตน ทำให้ทุกคนคิดได้ อินท์เองก็เช่นกัน การที่เขาได้ร่วมเดินทางกับคณะสงฆ์ ได้รับฟังเทศนา และ ได้เห็นชีวิตผู้อื่นที่เปลี่ยนไปด้วยธรรมะ ทำให้เขาได้คิดกลับตัว ทำทุกๆอย่างที่เมชอบเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา ด้วยแรงศรัทธา เมธาวี จึงยอมมาพบเขาอีกครั้ง อินท์พึ่งได้รู้ว่า ตลอดระยะทาง เม คอยติดตาม ดูเขาอยู่ห่างๆ ไม่เคยทิ้งหายจากไปไหน อินท์ ได้เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง เขาเพิ่งเข้าใจว่า ความรักนั้นเกิดง่าย แต่รักษาไว้ช่างอย่างยิ่ง เขาโชคร้ายที่เคยหลงตัวเอง แต่ในความโชคร้ายเขากลับเป็นคนโชคดี ที่มีกัลยามิตร ที่ดีอย่าง เมและ ศรุต ที่คอยชี้นำทางให้เขาได้พบกับธรรมะ และ ที่เป็นเช่นนี้ได้ เพราะ ความหวัง แห่งศรัทธา ของผู้หญิงที่ชื่อว่า เมธาวี
คีตราชนิพนธ์ บทเพลงในดวงใจราษฎร์ (2558/2015) ไม่เฉพาะเพียงความสมบูรณ์พูนสุขทางกายเท่านั้นที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงใส่พระทัยพสกนิกร โดยริเริ่มโครงการต่าง ๆ มากมายเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีและยั่งยืนของพี่น้องชาวไทย หากในแง่การเติมเต็มพลังใจ พระองค์ท่านยังพระราชทานขวัญ กำลังใจ แด่ประชาชนผ่านบทเพลงพระราชนิพนธ์อันแฝงไปด้วยปรัชญาการดำเนินชีวิตมากมายหลายต่อหลายเพลง และ 4 บทเพลงพระราชนิพนธ์ใน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้รังสรรค์แรงบันดาลใจให้ 4 ผู้กำกับชั้นแนวหน้าของเมืองไทย ถ่ายทอดเรื่องราวสู่ 4 ภาพยนตร์ "The Singers" เพลงพระราชนิพนธ์ที่เป็นแรงบันดาลใจ "ชะตาชีวิต" เรื่องราวของ หญิงชราสองคน จากสองครอบครัวที่มีความแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงทั้งในด้านฐานะและสถานภาพในสังคม แต่ทั้งคู่มีความเหมือนกันในแง่ของสภาพจิตใจเมื่อทั้งสองได้โคจรมาพบกันและรับรู้เรื่องราวของกันและกันการผจญภัยของสองย่ายายจึงเริ่มต้นขึ้น ย่าเป้า อยู่ในครอบครัวที่เป็นเจ้าของกิจการมีลูกหลานมากมายแต่ล้วนแล้วแต่แก่งแย่งชิงดีกันบ้างก็เสแสร้งเอาใจเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองจน ย่าเป้า รู้สึกเบื่อและเหนื่อยหน่ายกับลูกหลานเหล่านี้ ด้าน ยายเงิน มีชีวิตที่ลำบากอยู่ในชุมชนเล็กๆ กลางเมืองใหญ่ที่วุ่นวายอยู่กับหลานสาววัยหกขวบที่สุขภาพไม่ใคร่ดีนักเพียงลำพัง จนวันหนึ่ง ยายเงิน โดนจับเพราะขายแผ่นหนังและเพลงเก่า ๆ โดยไม่มีใบอนุญาต ต้องประกันตัวและเสียค่าปรับในอัตราสูงเธอและหลานจะมีชีวิตอยู่ต่อไปอย่างไร แต่เมื่อฟ้าส่งให้ทั้ง ย่าเป้า กับ ยายเงิน มาพบเจอกันความเห็นอกเห็นใจก็เริ่มต้นขึ้นและเมื่อถึงจุดวิกฤตจุดหนึ่งของชีวิตเธอก็ได้ตัดสินใจที่จะใช้เสียงเพลงของเธอทั้งสองเพื่อที่จะฝ่าฟันกับอุปสรรคนั้นไปให้ได้ "อมยิ้ม" เพลงพระราชนิพนธ์ที่เป็นแรงบันดาลใจ "ยิ้มสู้" เรื่องราวของ เด็กชายคนหนึ่ง ที่กลายเป็นตัวประหลาดในสายตาคนในโรงเรียน เพราะไม่เคยมีใครเห็นเขาโกรธร้องไห้ หัวเราะ หรือแม้แต่ยิ้ม เขาคือคำถามของทุกคน คือของเล่นแสนสนุกน่าแกล้ง แต่ไม่มีใครอยากอยู่ใกล้หรือคิดทำความรู้จักเขาจริง ๆ และทุกคนก็ต้องประหลาดใจเมื่อได้ข่าวว่าคนที่หน้าตายนิ่งเฉยไม่เคยขยับอย่างเขากำลังจะเล่นละคร แถมเล่นกับนักเรียนหญิงสุดสวยแสนป๊อบของโรงเรียนที่เขาแอบชอบ แต่เธอก็มีแฟนเป็นนักกีฬาสุดเท่เนตไอดอล ความเป็นไปไม่ได้ที่สุดกำลังจะเกิดในโรงเรียน เขาจะเล่นละครได้ไหมนักเรียนหญิงสุดสวยกำลังจะเจอกับอะไร ความจริงที่ถูกเปิดเผยอาจเปลี่ยนความรู้สึกใครบางคนไปตลอดกาล "ฝนตกที่ห้วยขาแข้ง" เพลงพระราชนิพนธ์ที่เป็นแรงบันดาลใจ "สายฝน" เรื่องจริงของ สืบ นาคะเสถียร หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์ป่าห้วยขาแข้ง นักสู้ผู้อุทิศชีวิตเพื่อผืนป่าเมืองไทย ในช่วงสี่ปีสุดท้ายที่เขามุ่งมั่นและต่อสู้เพื่อยุติการตัดไม้ทำลายป่าและล่าสัตว์ป่าอย่างไม่เกรงกลัวต่อกฏหมาย สืบ ยืนหยัดต่อกรกับอิทธิพลมืด นักการเมือง และเจ้าหน้าที่รัฐที่ทุจริตด้วยมือเปล่าและหัวใจที่จะไม่ยอมให้ผืนป่าของเมืองไทยต้องหมดสิ้นไปเพราะความโลภและเห็นแก่ตัว "ดาว" เพลงพระราชนิพนธ์ที่เป็นแรงบันดาลใจ "ความฝันอันสูงสุด" ใคร ๆ ก็รู้ว่า การได้เป็นคนเชิญธงชาติของโรงเรียนเป็นความฝันอันสูงสุดของนักเรียนทุกคน ดังนั้น ทันทีที่ครูประกาศหาคนเชิญธงคนใหม่แทนพี่ ป.6 ที่กำลังจะจบไป การแข่งขันของหนุ่มน้อยสองคนจึงเกิดขึ้นสำหรับ โก้ (อภิธาร รุ่งเจริญรอด) การได้เชิญธงชาติจะทำให้เขาได้ใกล้ชิดกับสาวที่เขาตั้งเป้าว่าต้องจีบเป็นแฟนให้ได้ก่อนสอบปลายปี แต่สำหรับ หนึ่ง (กฤตเมธ เมืองดี) การได้เป็นคนเชิญธงชาติมีความสำคัญมากกว่าที่ใครจะคาดถึง การแข่งขันที่มีจำนวนดาวเป็นตัวตัดสิน จะทำให้ความฝันอันสูงสุดของหนึ่งเป็นจริงได้หรือไม่!?
ปู่สมบูรณ์ Somboon (2557/2014) ภาพยนตร์สารคดีเล่าถึงความรักของปู่สมบูรณ์ที่มีต่อเมียดผู้เป็นภรรยาในช่วงอายุสุดท้ายของชีวิต เป็นเวลากว่า 45 ปีแล้วที่สองสามีภรรยาดูแลซึ่งกันและกัน จนถึงตอนที่ย่าเมียดได้ล้มป่วยด้วยโรคไต และไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้อีกต่อไป ปู่สมบูรณ์ก็คอยอยู่เคียงข้างย่าเมียดเสมอ แม้การร่วมชีวิตคู่จะมาจากขณบประเพณีคลุมถุงชน แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาในการใช้ชีวิตคู่ของทั้งสอง เพราะต่างฝ่ายต่างทำหน้าที่สามีภรรยาที่ดีต่อกัน รวมทั้งเป็นพ่อแม่ของลูก และปู่ย่าของหลาน ตลอดเส้นทางชีวิตพวกเขาได้สร้างความรักขึ้นมาและรักษามันไว้ชั่วนิรันดร์ แม้นไม่มีคำหวานใดๆเอ่ยจากปากของทั้งสอง แต่สิ่งที่เป็นอยู่มันสามารถสัมผัสรับรู้ได้ด้วยหัวใจ
Mother (2557/2014) ลูกชายคนโตของครอบครัวเล็ก ๆ ครอบครัวหนึ่ง ได้เพียงเฝ้ามองครอบครัวกำลังล่มสลาย หลังเผชิญปัญหาเศรษฐกิจอย่างหนักและผู้เป็นแม่ตัดสินใจฆ่าตัวตาย แม้จะไม่สำเร็จ หลังจากเหตุการณ์นั้น แม่ได้กลายเป็นผู้พิการที่เต็มไปด้วยบาดแผลในใจ ส่งผลกระทบไปถึงสมาชิกคนอื่น ๆ ในครอบครัวที่ต่างปวดร้าวจากการตัดสินใจครั้งนั้นไปด้วย
ตุ๊กแกรักแป้งมาก (2557/2014) ภาพยนตร์ที่จะพาทุกคนย้อนอดีตกลับไปในยุคที่ผู้คนไม่ได้จำกัดตัวเองอยู่ในโลกออนไลน์ แต่มันคือยุคอันสดใสของหนุ่มสาวที่ให้ค่าของความรักมากกว่าความเกลียดชัง เรื่องราวของหนุ่มสาวในยุคดิสโก้เฟื่องฟูเล่าผ่านความทรงจำวัยเยาว์ของ เด็กชายตุ๊กแก (ณัฐพัชร์ นิมจิรวัฒน์) ที่ถูกเลี้ยงเเละเติบโตที่เมืองโบราณริมฝั่งโขงอำเภอเชียงคานจังหวัดเลย ตลอดชีวิตวัยเด็กของ ตุ๊กแก ได้ใช้ชีวิตคลุกคลีอยู่หลังโรงหนังช่วย ครูป๋อง วาดคัทเอ้าท์ให้โรงหนัง "เพชรเชียงคาน" จน ตุ๊กแก ได้สิทธิพิเศษจากลุงคนเฝ้าโรงหนัง นั่นก็คือการได้ดูหนังฟรีทุกเรื่องที่เข้ามาฉายในโรงหนังประจำอำเภอเเห่งนี้ เมื่อโตขึ้น ตุ๊กแก (จิรายุ ละอองมณี) เข้าไปเรียนศิลปะที่กรุงเทพฯ จนจบชั้น ปวช ตุ๊กแก ก็ตัดสินใจออกมาช่วยเพื่อนรุ่นพี่ในกองถ่ายเพราะความที่ ตุ๊กแก อยู่กับหนังมาจนชอบหนังเป็นชีวิตจิตใจ เเละในเวลานั้นเอง ตุ๊กแก ได้พบกับ คุณแป้ง (ชนม์ทิดา อัศวเหม) คุณหนูลูกสาวนายอำเภอที่เคยเรียนอยู่ชั้นเดียวกับ ตุ๊กแก ในอดีตเมื่อสิบกว่าปีที่เเล้ว สำหรับ ตุ๊กแก เขาไม่เคยลืม เด็กหญิงแป้ง (ชนิกานต์ ตังกบดี) ที่จากเชียงคานไปโดยที่เขาไม่มีโอกาสได้ร่ำลาคนนี้ไปจากความทรงจำเลย แต่การได้พบกับ แป้ง ในครั้งนี้กลับไม่เหมือนดังเช่นในอดีต แป้ง เปลี่ยนไปทั้งใจเเละกายจน ตุ๊กแก เเทบจะจำเด็กหญิงที่แสนดีของเขาไม่ได้ แต่ด้วยความทรงจำอันดีในอดีต ตุ๊กแก ตัดสินใจทิ้งทุกอย่างก่อนจะทุ่มสุดตัวเพื่อจะทำให้ แป้ง กลับมาเป็น แป้ง คนเดิมที่เขาเคยรู้จัก แม้ว่าจะต้องเสี่ยงกับการที่เขาจะสูญเสียเธอไปตลอดชีวิตก็ตาม
วังพิกุล Village of Hope (2557/2014) วังพิกุล (Village of Hope) ผลงานภาพยนตร์อิสระเรื่องที่ 3 ของกลุ่ม ปลาเป็นว่ายทวนน้ำ ภาพยนตร์เรื่องนี้ เป็นภาคที่ 2 ของไตรภาคชุด คนจน (Poor people ) ของบุญส่ง นาคภู่ ภาคแรก คือ คนจนผู้ยิ่งใหญ่ ปี 2554 (Poor People The Great) ในภาคแรก เรื่องราวเน้นที่ตัวละคร พ่อ ที่พยายามหาเงินมาใช้หนี้เงินล้านของหมู่บ้าน ขณะที่ลูกชายวัยรุ่นช่างฝันอยากเป็นนักร้องเพลงเพื่อชีวิต ภาคที่ 2 ปี 2557 นี้ เป็นเรื่องราวลูกชาย หลังจากสามปีผ่านไป เขาติดทหาร และได้เดินทางกลับมาเยี่ยมบ้าน แต่สิ่งที่เขาค้นพบเมื่อกลับบ้านคือ ความล่มสลายของครอบครัวของทุกคนรอบๆ ตัวเขา เรื่องราวเล็กๆ แห่งชีวิตทำให้เขาต้องตัดสินเลือกเดินในทางใดทางหนึ่ง
Present Perfect หากว่าย้อนเวลากลับไปได้ (2557/2014) "...เรื่องราวของหญิงสาวฮิปสเตอร์ขาปาร์ตี­้ ที่ต้องมารับมือกับหลานสาวสุดซน ที่เธอไม่เคยเจอกันมาก่อน ในเวลาเดียวกันเธอยังต้องรับมือกับปมความร­ักในอดีต และ ความสัมพันธ์ที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตจากหน­ุ่มข้างห้อง..."
สิ้นเมษาฝนตกมาปรอยปรอย (2555/2012) หนุ่ม (อุเทน ศรีริวิ) เป็นหัวหน้าคนงานก่อสร้างในกรุงเทพฯ ที่เต็มไปด้วยบรรยากาศของความขัดแย้งทางการเมือง เมื่อหนุ่มตกงาน เขาจึงถือโอกาสเดินทางกลับบ้านที่จังหวัดขอนแก่นในช่วงเทศกาลสงกรานต์เพื่อไปงานแต่งงานของเพื่อนสมัยเรียน ที่นั่น หนุ่มได้พบกับ จอย (จิณณพัต ลดารัตน์) หญิงสาวรุ่นพี่สมัยมัธยมที่หนุ่มเคยชอบ ทั้งคู่จึงแลกเบอร์โทรศัพท์เพื่อสานต่อความสัมพันธ์ ทำให้มีโอกาสได้พูดคุยกันเรื่องวิถีแห่งความสุขของ อัลแบร์ กามูส์ และหนุ่มก็เปิดใจว่าเขาอยากจะสร้างภาพยนตร์สักครั้ง ทันใดนั้น เรื่องราวก็เปลี่ยนทิศทางไปอย่างกระทันหัน เมื่อคุณพ่อและพี่ชายของผู้กำกับ วิชชานนท์ สมอุ่มจารย์ ปรากฏตัวขึ้น เปิดเผยเรื่องราวของครอบครัวและชีวิตการสร้างภาพยนตร์ ทำให้รับรู้ว่าหนุ่มเป็นเพียงตัวละครที่ถูกสร้างขึ้นมาจากเศษเสี้ยวของความทรงจำ นำไปสู่การสำรวจเส้นทางชีวิตของชายหนุ่ม คนที่คดเคี้ยวราวกับเขาวงกตแห่งความเป็นจริงและจินตนาการ สารคดีและเรื่องแต่ง ภาพอดีตและปัจจุบัน ซึ่งไม่ได้เป็นภาพสะท้อนของตัวละครเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงสังคมไทยในภาพรวมอีกด้วย
Home ความรัก ความสุข ความทรงจำ (2555/2012) Home ความรัก ความสุข ความทรงจำ ทุกความหมายที่ทำให้คุณอบอุ่นเหมือนได้กลับมาอยู่ที่ "บ้าน" "บ้าน" คือ สถานที่แห่งการเกิด เติบโต ตั้งต้น หรือ ลาจาก "บ้าน" คือ ที่ที่รวมเรื่องราวในความทรงจำ "บ้าน" คือ ที่ที่ต้องกลับมาทำตามคำสัญญาที่เคยให้ไว้กับใครสักคน และสำหรับพวกเขาเหล่านี้ "เชียงใหม่" คือ "บ้าน" ในความหมายทั้งหมด ที่ที่ทำให้พวกเขารู้สึกอบอุ่นทุกครั้งที่ได้อยู่ "บ้าน" คืนสุดท้ายก่อนจบจากโรงเรียน เน (จุฑาวุฒิ ภัทรกำพล) เลือกใช้วันสุดท้ายของชีวิต นักเรียน ม.6 เก็บทุกเรื่องราวความทรงจำลงบนภาพถ่าย โดยไม่ได้คิดว่าจะมีใครยังอยู่ที่โรงเรียน จนกระทั่งเขาได้พบกับรุ่นน้อง ม.3 จอมกวน บีม (กิตติศักดิ์ ปฐมบูรณา) นักกีฬาบาสของโรงเรียน ที่ย่องมาขอภาพถ่ายสาวสวยในฝันที่ตัวเองแอบชอบจากช่างกล้องมือหนึ่งในโรงเรียนอย่างเขา มิตรภาพของรุ่นพี่-รุ่นน้องที่เกิดขึ้นในค่ำคืนสุดท้ายก่อนจบการศึกษาในสถานที่ที่เป็นเสมือนบ้านหลังที่ 2 ของเด็กทุกคน กับบทสนทนาเรื่องราวต่างๆของช่วงชีวิตที่ผ่านมาในอดีต ทำให้มีอะไรบางอย่างที่เชื่อมถึงกันเกิดขึ้น ในวันที่ บัวจัน (เพ็ญพักตร์ ศิริกุล) ต้องสูญเสียคนรักไปอย่างไม่มีวันกลับ ทุกสิ่งในบ้านเธอจึงต้องกลายเป็นผู้ดูแลทุกอย่าง ทั้งบ้าน คนงาน หนี้สิน รวมถึงความรักของหลาน 2 คน เหว่า (ณัฐพงษ์ อรุณเนตร์) กับ ชมภู่ (ทิพปภา แซ่โง้ว) และกระดาษแผ่นเล็กๆที่สามีเขียนไว้ดูต่างหน้า กับความทรงจำดีๆที่ยังอยู่ คำสัญญาที่ให้กันไว้ว่าเราจะอยู่ด้วยกันจนแก่เฒ่า ยิ่งเสมือนเป็นสิ่งตอกย้ำตลอดเวลา บัวจันจะผ่านพ้นและลืมรักครั้งนี้ได้อย่างไร ก่อนงานวิวาห์จะเริ่มต้นระหว่าง เสี่ยเล้ง (เรืองศักดิ์ ลอยชูศักดิ์) นักธุรกิจหนุ่มชาวใต้ และ ปรียา (ศิรพันธ์ วัฒนจินดา) ว่าที่เจ้าสาว ที่กลับมาจัดงานแต่งงานที่เชียงใหม่ เพื่อเติมเต็มความฝันให้สวยหรูสมใจ ณ บ้านเกิด โดยมีน้องชาย เลี่ยม (วิชญ์วิสิฐ หิรัญวงษ์กุล) และ น้าอร (พุทธชาด พงศ์สุชาติ) อาสาเป็นผู้เนรมิตงานแต่งให้สมดังใจของเธอ แต่การกลับมาบ้านครั้งนี้ ทำให้ปรียาได้พบกับ พี่เป๊ก (สุพจน์ จันทร์เรือง) อดีตคนรักครั้งแรกของเธอ ที่เขามาพร้อมกับการทวงถามสัญญาและความรู้สึกดี ๆ ที่เคยมีให้กัน เมื่อความรัก ความทรงจำย้อนกลับมาอีกครั้ง ปรียาจะตัดสินใจเลือกรักและมีความสุขกับใครก่อนวันแต่งงานของเธอครั้งนี้
ความสุขของกะทิ (2552/2009) จาก “วรรณกรรมซีไรต์” ที่กุมหัวใจผู้อ่านทั่วประเทศ ลัดฟ้าสู่ระดับโลกด้วยความประทับใจ พร้อมแล้วที่จะมาเติมเต็มและแบ่งปันความสุข ในรูปแบบภาพยนตร์ที่ใครๆ ต่างเฝ้ารอ จากปลายปากกาเขียนบทภาพยนตร์ครั้งแรกของ “งามพรรณ เวชชาชีวะ” เจ้าของบทประพันธ์รางวัลซีไรต์ ครั้งแรกที่คุณจะได้รู้จัก “หนูน้อยกะทิ” โดยกลุ่มผู้สร้างภาพยนตร์น้องใหม่ “ภาพยนตร์ชูใจ” พร้อมทีมนักแสดงและทีมงานเบื้องหลังระดับ “หัวกะทิ” ที่จะเนรมิตจินตนาการจากตัวหนังสือสู่แผ่นฟิล์มอย่างละเมียดอารมณ์ ในภาพยนตร์อิ่มอุ่นใจเรื่อง “ความสุขของกะทิ” เติมเต็มความสุขทุกหัวใจ 8 มกราคม 52 วันไหน ๆ หัวใจก็มีความสุข “ไม่เคยมีใครพูดถึงแม่” “กะทิ” (น้องพลอย-ภัสสร คงมีสุข) เด็กหญิงวัย 9 ขวบ ที่ต้องผ่านประสบการณ์การสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ที่สุด เมื่อ “แม่” (รัชนก แสง-ชูโต) ต้องจากไปก่อนวัยอันควรด้วยโรคร้ายที่มิอาจรักษา กะทิต้องผ่านขั้นตอนความสุขและทุกข์ ความผูกพันและการพลัดพราก ความสมหวังและความสูญเสียที่มากเกินกว่าที่เด็กวัยเดียวกันนี้จะรับไหว “น้ำตาไม่อาจแทนความโศกเศร้าได้” กะทิได้เรียนรู้และตัดสินใจด้วยตัวเองผ่านสิ่งละอันพันละน้อยใน “ลิ้นชักแห่งความทรงจำ” ที่แม่เตรียมไว้ให้ก่อนสิ้นลมหายใจว่าความทุกข์จากการสูญเสียนั้นมิอาจพรากความสุขจากความรักและความผูกพันของแม่ที่มีต่อเธอได้ “อดีตเหมือนเงา บางครั้งทอดนำทางอนาคต” เด็กน้อยเติบโตขึ้นจากประสบการณ์นี้ด้วยความเชื่อมั่นและกำลังใจในการดำรงชีวิตจากบุคคลใกล้ชิด…ผู้ที่เธอรักและรักเธอ ไม่ว่าจะเป็น “ตา” (สะอาด เปี่ยมพงศ์สานต์) และ “ยาย” (จารุวรรณ ปัญโญภาส) ผู้ที่รักหลานกะทิดุจชีวิต, “น้าฎา” (เข็มอัปสร สิริสุขะ), “น้ากันต์” (กฤษฎา สุโกศล แคลปป์), “ลุงตอง” (ไมเคิล เชาวนาศัย) และ “พี่ทอง” (นิธิศ โค้วสกุล) ที่ต่างเข้ามาสร้างสีสัน แบ่งปันความสุข และเติมเต็มชีวิตให้หนูน้อยกะทิรู้สึกว่า เธอไม่ได้ขาดอะไร และสามารถดำรงชีวิตต่อไปได้เฉกเช่นเด็กๆ ในวัยเดียวกัน ใครจะรู้ว่า แท้จริงแล้วในความโศกเศร้านี้ ก็มี… “ความสุขจริงแท้อันยิ่งใหญ่” ที่ได้เบ่งบานในหัวใจของ “เด็กหญิงกะทิ” อยู่เช่นกัน “ความสุขของคนรอบข้าง คือความสุขของเราด้วย…ความสุขแบ่งปันกันได้ วันไหนๆ ก็มีความสุข”
ข้าวเหนียวหมูปิ้ง (2549/2006) คู่นี้หนุงหนิงแนบแน่นไม่ใช่แฟนแต่มากกว่าเพื่อน เรื่องเล่ามิตรภาพของเด็กหญิงวัย 8 ขวบกับเจ้า Dog ตัวจิ๋ว หนีบลูกซึ้งส่งเสียงโฮ่งๆ เรียกรอยยิ้มและเสียงหัวเราะจากคุณ กะเทาะสายใยแห่งมิตรภาพความรู้สึก ที่ครั้งหนึ่งเด็กๆ ทุกคนเคยมีให้กับเพื่อนแท้ 4 ขา สำหรับ “ข้าวเหนียว” (นวรัตน์ เตชะรัตนประเสริฐ) แล้ว การที่จู่ๆ “แม่บี” (สินิทธา บุณยศักดิ์) พาข้าวเหนียวมาฝากไว้ที่บ้านญาติๆ โดยไม่ทันตั้งตัว ข้าวเหนียวอดน้อยใจแม่บีไม่ได้จริงๆ นะ ถึงแม้ว่าในบ้านหลังใหม่จะมีญาติๆ ของแม่อยู่กันตั้งหลายคน ไม่ว่าจะเป็น “ยายอุ่น” (มารศรี อิศรางกูร ณ อยุธยา), “ป้าเกด” (เนาวรัตน์ ซื่อสัตย์), “อาเปี๊ยก” (เปี๊ยก ดีเจสยาม) แต่ทำไมนะข้าวเหนียวยังรู้สึกเหงาอยู่เลย ก็คงมีแต่ “น้าเล็ก” (พัชรศรี เบญจมาศ) นี่แหละที่ข้าวเหนียวรู้สึกสนิทหน่อย อาจจะเป็นเพราะน้าเล็กแกคงรู้ว่าข้าวเหนียวเหงาและอดคิดถึงแม่ไม่ได้นั่นเอง เหมือนอย่างเคยวันนี้ข้าวเหนียวโดดเรียนอีกแล้ว ข้าวเหนียวเดินเรื่อยเปื่อยไปแถวสยามเห็นคนซื้อหมูปิ้ง แต่ที่น่าแปลกใจมีเจ้าหมาน้อยตัวสีน้ำตาลท่าทางมันดูน่าสงสารเหมือนข้าวเหนียวเลย มันคงหิวนะ เห็น ส่งเสียงร้องขอกินหมูปิ้งจากคนขายและคนซื้อที่ยืนอยู่ ดูๆ ไปข้าวเหนียวว่าหน้าตามันตลกดี ปากมอมๆ สีดำ ท่าทางน่ารักจัง คิดแล้วก็อยากเป็นเพื่อนกับมัน ข้าวเหนียวเลยตัดสินใจอุ้มมันใส่กระเป๋าเอากลับไปบ้านด้วยดีกว่า อย่างน้อยถึงมันไม่มีใครมันก็ยังมีข้าวเหนียว เอางี้นะ ข้าวเหนียวจะตั้งชื่อมันว่า “หมูปิ้ง” “ข้าวเหนียวกับหมูปิ้ง” ฟังดูน่ารักดี แต่ไม่ใช่ว่าข้าวเหนียวจะเลี้ยงหมูปิ้งได้ง่าย ๆ นะ เพราะน้าเล็ก เคยบอกว่า ที่บ้านคับแคบแล้วยายอุ่นเองก็แพ้ขนหมาด้วย คงเลี้ยงหมาไม่ได้ ยังไงก็ตามข้าวเหนียวจะไม่มีวันทิ้งหมูปิ้ง ข้าวเหนียวตัดสินใจเอามันขึ้นไปเลี้ยงบนดาดฟ้าดีกว่า เวลาหมูปิ้งส่งเสียงจะได้มีใครรู้ และทุกๆ วันข้าวเหนียวก็จะเอาหมูปิ้งใส่กระเป๋าไปโรงเรียนด้วยกัน อีกอย่างข้าวเหนียวไม่อยากให้หมูปิ้งอยู่คนเดียว เพราะแถวบ้านชอบมีพวกจับหมามาด้อมๆ มองๆ ด้วย แต่แล้ววันหนึ่งฝนตกหนักมาก หมูปิ้งที่อยู่บนดาดฟ้าเลยไม่สบาย ข้าวเหนียวตัดสินใจทุบกระปุกพี่หมูเอาเงินพาหมูปิ้งไปหาหมอ หลังจากนั้นที่บ้านก็รู้กันว่าข้าวเหนียวแอบเลี้ยงหมูปิ้ง น้าเล็กบอกว่ายายอุ่นแพ้ขนหมา จะเอาหมูปิ้งไปปล่อย แต่ข้าวเหนียวขอร้องไว้ว่ารอให้มันหายจากไข้ก่อนได้ไหมน้าเล็ก แม่บีจ๋า ข้าวเหนียวคิดถึงแม่บีจัง เมื่อไรแม่บีจะกลับมา น้าเล็กจะเอาหมูปิ้งไปปล่อยไหมเนี้ยะ

หน้าที่