วัยอลวน 5 (2564/2021) เรื่องราวความรักของ ตั้ม (ไพโรจน์ สังวริบุตร) และ โอ๋ (ลลนา สุลาวัลย์) ที่แม้เวลาจะผ่านไป 45 ปี แต่ชีวิตคู่ก็ยังมีเรื่องวุ่นๆ มาให้แก้ตลอด คราวนี้เรื่องวุ่นตกอยู่ที่ โต๋ (ชาลี ไตรรัตน์) หลายชายของตั้มดีกรีนักเรียนนอกแต่สุดทะเล้น ที่คบกับ อั้ม (พิมประภา ตั้งประภาพร) ครูสอนเต้นดีกรีนักเรียนนอกเหมือนกัน แต่เขาหารู้ไม่ว่าอั้มคบกับเขาเพียงเพื่อต้องการประชดพ่อ เพราะมีปมในอดีตที่ทำให้อั้มไม่ชอบพ่อ และผู้ชายอย่างโต๋นี่แหละที่จะมาเป็นไม้เบื่อไม้เบากับพ่อของเธอได้ดีที่สุด เรื่องความรักชุลมุนของ ตั้ม และ โอ๋ ที่แม้เวลาจะผ่านไป 45 ปี แต่ชีวิตคู่ก็ยังมีเรื่องวุ่นๆ มาให้แก้ตลอด ด้าน ป้าอ้อ หลังเปิดตัวว่าเป็นสาวห้าว ก็ไปตกหลุมรัก ต้องใจ แม่ม่ายลูกติดว่าที่เศรษฐินีคนใหม่ของไทยแต่ดันเจอกรรมบัง เดือดร้อนทนายตั้มต้องยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ ขณะที่ อั้ม ครูสอนเต้นดีกรีนักเรียนนอก โกรธพ่อ ภาคิน นักธุรกิจรุ่นใหญ่ เพราะคิดว่าพ่อมีเมียน้อย ทะเลาะกับแม่ จึงทำให้แม่ขับรถออกไปเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิต จึงประชดพ่อด้วยการคบกับ โต๋ หลานชายนักเรียนนอกของ ตั้ม-โอ๋ งานนี้ โต๋จะฝ่าด่านภาคินสำเร็จหรือไม่ และความอลวนของความรักแต่ละคู่จะเป็นเช่นไร
ตุ๊กแกรักแป้งมาก (2557/2014) ภาพยนตร์ที่จะพาทุกคนย้อนอดีตกลับไปในยุคที่ผู้คนไม่ได้จำกัดตัวเองอยู่ในโลกออนไลน์ แต่มันคือยุคอันสดใสของหนุ่มสาวที่ให้ค่าของความรักมากกว่าความเกลียดชัง เรื่องราวของหนุ่มสาวในยุคดิสโก้เฟื่องฟูเล่าผ่านความทรงจำวัยเยาว์ของ เด็กชายตุ๊กแก (ณัฐพัชร์ นิมจิรวัฒน์) ที่ถูกเลี้ยงเเละเติบโตที่เมืองโบราณริมฝั่งโขงอำเภอเชียงคานจังหวัดเลย ตลอดชีวิตวัยเด็กของ ตุ๊กแก ได้ใช้ชีวิตคลุกคลีอยู่หลังโรงหนังช่วย ครูป๋อง วาดคัทเอ้าท์ให้โรงหนัง "เพชรเชียงคาน" จน ตุ๊กแก ได้สิทธิพิเศษจากลุงคนเฝ้าโรงหนัง นั่นก็คือการได้ดูหนังฟรีทุกเรื่องที่เข้ามาฉายในโรงหนังประจำอำเภอเเห่งนี้ เมื่อโตขึ้น ตุ๊กแก (จิรายุ ละอองมณี) เข้าไปเรียนศิลปะที่กรุงเทพฯ จนจบชั้น ปวช ตุ๊กแก ก็ตัดสินใจออกมาช่วยเพื่อนรุ่นพี่ในกองถ่ายเพราะความที่ ตุ๊กแก อยู่กับหนังมาจนชอบหนังเป็นชีวิตจิตใจ เเละในเวลานั้นเอง ตุ๊กแก ได้พบกับ คุณแป้ง (ชนม์ทิดา อัศวเหม) คุณหนูลูกสาวนายอำเภอที่เคยเรียนอยู่ชั้นเดียวกับ ตุ๊กแก ในอดีตเมื่อสิบกว่าปีที่เเล้ว สำหรับ ตุ๊กแก เขาไม่เคยลืม เด็กหญิงแป้ง (ชนิกานต์ ตังกบดี) ที่จากเชียงคานไปโดยที่เขาไม่มีโอกาสได้ร่ำลาคนนี้ไปจากความทรงจำเลย แต่การได้พบกับ แป้ง ในครั้งนี้กลับไม่เหมือนดังเช่นในอดีต แป้ง เปลี่ยนไปทั้งใจเเละกายจน ตุ๊กแก เเทบจะจำเด็กหญิงที่แสนดีของเขาไม่ได้ แต่ด้วยความทรงจำอันดีในอดีต ตุ๊กแก ตัดสินใจทิ้งทุกอย่างก่อนจะทุ่มสุดตัวเพื่อจะทำให้ แป้ง กลับมาเป็น แป้ง คนเดิมที่เขาเคยรู้จัก แม้ว่าจะต้องเสี่ยงกับการที่เขาจะสูญเสียเธอไปตลอดชีวิตก็ตาม
คุณนายโฮ (2555/2012) เด็กหญิงโฮ เด็กขี้แงที่มีความใฝ่ฝันมาตั้งแต่เด็กว่าอยากมีลูก เมื่อคุณครูถามนักเรียนในชั้นเรียนว่าโตขึ้นอยากเป็นอะไร เด็กหญิงโฮ ยกมือตอบอย่างมั่นใจว่าอยากมีลูก จนครูต้องบอกว่ารอให้โตขึ้นแล้วค่อยมี แต่นั่นยังไม่ทำให้ เด็กหญิงโฮ เสียใจร้องไห้ได้เท่ากับข่าวร้ายที่ได้ยินว่า แม่กับพี่สาว รถคว่ำตาย 20 ปีต่อมา โฮ (อารยา เอ ฮาร์เก็ต) เปลี่ยนสถานะเป็น คุณนายโฮ จอมขี้แงที่ไม่มีใครเหลียวแล ไล่มาตั้งแต่ ผู้กองบูรพา (อาคม ปรีดากุล) พ่อที่เป็นอดีตทหารผ่านศึก แต่อยากกลับไปออกรบอีกครั้ง นาวา (เจริญพร อ่อนละม้าย) น้องชายที่เรียกตัวเองว่า นานา แต่ถูกพ่อชายชาติทหารสั่งให้แมนตามระเบียบ โฮ ก็อยากจะช่วยให้พ่อและน้องชายได้ลงรอยเข้าใจกันบ้าง แต่ดันถูกหาว่าแส่ไม่เข้าเรื่อง หรือแม้กระทั่ง บอย (เร แมคโดนัลด์) แฟนหนุ่มที่อยากซั่ม โฮ ทุกวินาที ถึง โฮ อยากจะมีลูกแทบตาย แต่ก็ไม่อยากเสียซิงชีวิตบัดซบเช่นนี้ คุณนายโฮ ก็ได้แต่ร้องไห้โฮสมชื่อ ยังดีที่มี ด็อก (ธีรเดช เมธาวรายุทธ) คุณหมอข้างบ้านที่มีหูสองข้างไว้รองรับเสียงร้องไห้ของ คุณนายโฮ ทุกครั้ง แถมมารู้ความในใจว่า คุณนายโฮ มีความฝันอยากมีลูก แต่ไม่อยากเสียตัว รักนวลสงวนตัวตามแบบฉบับหญิงไทยโบราณ แถมเซอร์ไพรซ์อีกที เมื่อตรวจพบว่า คุณนายโฮ เป็น โรคมดลูกเก่า และไม่รู้ว่ามดลูกจะหมดอายุเมื่อไหร่ นั่นหมายความว่า ตอนนี้ คุณนายโฮ จะต้องรีบมีผัวและเสียตัวในทันที มิเช่นนั้น คุณนายโฮ อาจจะต้องฝันสลายไปตลอดกาล
บ้านฉัน.. ตลกไว้ก่อน (พ่อสอนไว้) (2553/2010) ต๊อก (ชวิน ลิขิตเจริญพงษ์) เกิดมาในครอบครัวที่สืบทอดเสียงหัวเราะกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ วันที่ต๊อกเกิด คุณพ่อ (จตุรงค์ พลบูรณ์) ถึงกับประกาศออกไมค์ว่า "เด็กคนนี้เกิดมาเพื่อที่จะปราบหม่ำ คว่ำโก๊ะตี๋ ขยี้ถั่วแระ แซะโหน่ง ชะชะช่า ตามล่าเท่ง แล้วมาเฉ่งจตุรงค์!" เพราะความหวังของคุณพ่อคือการปั้นต๊อกให้กลายเป็นหัวหน้าคณะตลกคาเฟ่ที่ฮาที่สุดในประเทศไทย โดยไม่ได้เฉลียวคิดเผื่อใจสักนิดเลยว่าทายาทของครอบครัวตลกจะเกิดมาเป็นเด็กฝืด! ตั้งแต่เล็กจนโต ทุกครั้งที่ขึ้นเวที ต๊อกสามารถสะกดคนดูให้เงียบกริบด้วยมุกสุดแป้ก แต่ต๊อกก็ยังมุมานะที่จะเป็นตลกแบบคุณพ่อ เพราะกลัวว่าคุณพ่อจะไม่รักถ้าเขาไม่ตลก ทำให้ต๊อกเพียรพยายามคิดมุกอยู่ตลอดเวลา แล้ววันหนึ่งเพื่อนผู้มีปัญหาสิววัยรุ่นก็นำพาให้ต๊อกได้มาเจอกับ หมอน้ำแข็ง (พอลล่า เทเลอร์) ที่คลินิกรักษาสิวชื่อดังของจังหวัด ผู้มีเสียงหัวเราะไพเราะที่สุดในโลก เมื่อคุณหมอแสนสวยชมว่าต๊อกตลกดี ต๊อกก็ตกหลุมรักผู้หญิงที่มีอายุมากกว่าเขาถึง 1 รอบในวินาทีนั้น นับแต่นั้นมา ต๊อกเพียรทำร้ายผิวหน้าตัวเองด้วยการกินช็อกโกแลตแทนข้าว เพื่อจะได้บากหน้าปุปะกลับไปให้คุณหมอลูบไล้ทุกสัปดาห์ รวมถึงหาหนทางที่จะได้ไปกินข้าวกันสองต่อสองอีกด้วย หลังจากที่แวะเวียนไปคลินิกอยู่บ่อยครั้ง ต๊อกก็สนิทสนมกับคุณหมอน้ำแข็งมากขึ้น จนได้มาล่วงรู้ภายหลังว่าคุณหมอน้ำแข็งเองก็มีปัญหาหัวใจที่กำลังต้องการความช่วยเหลือ ถึงแม้ ตั๊กแตน ชลดา จะบอกว่าคนที่ไม่ใช่แฟน ทำแทนทุกเรื่องไม่ได้ แต่แฟนตัวปลอมอย่างต๊อกก็มุ่งมั่นจะปกป้องคุณหมอที่รักอย่างสุดความสามารถ เพียงแต่ปัญหาของผู้ใหญ่ บางครั้งก็ยากเกินกำลังสมองเด็ก 12 ขวบจะขบคิด งานนี้ต๊อกจึงต้องอาศัยคุณพ่ออีกแรง ในการช่วยเยียวยาหัวใจให้กับคุณหมอสิวคนสวยด้วยวิถีของตลกคาเฟ่
อาฟเตอร์สคูล วิ่งสู้ฝัน (2553/2010) ในโรงเรียนระดับมัธยมมีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง มีเด็กนักเรียนหลายคนที่อยากจะเดิน ตามฝันของตัวเอง พีท (คิริน - อติวิชญ์ เอี่ยมยอดสิน) มีความต้องการจะตั้งวงดนตรีเป็นของตัวเอง เมื่อบังเอิญไปเห็น เกรท (อีฟ - ภรณ์รวี อนันตกุล) เล่นเปียโนในห้องดนตรีของโรงเรียนได้อย่างไพเราะ พีทจึงไปชวน มะนาว (สายป่าน - อภิญญา สกุลเจริญสุข) เพื่อนนักเรียนที่ดูห้าว ๆ เพราะต้องช่วยเหลือตัวเองและทำงานช่วย แม่ (แพร - รัชนี ศิระเลิศ) เพราะ พ่อ (บี๋ - ธีรพงศ์ เหลียวรักวงศ์) ได้ทิ้งเธอกับแม่ไปอยู่กับเมียน้อย มะนาวเห็นดีด้วยกับความคิด ของพีท จึงยอมไปบ้านเกรทกับพีทเพื่อขอร้องให้ คุณแม่สุดเผด็จการ (จิ๊ก - เนาวรัตน์ ยุกตะนันท์) ยอมให้เกรท ร่วมก่อตั้งวงกับเพื่อน ๆ แต่คุณแม่ไม่เห็นด้วยเพราะ มองว่าเป็นอาชีพเต้นกินรำกินและฐานะระดับมหาเศรษฐี อย่างเธอไม่จำเป็นต้องให้ลูกสาวไปทำงานอาชีพนี้ ส่วน คุณพ่อ (เคน สทรุทเคอร์) ไม่ได้คัดค้านอะไรเพราะเข้าใจ ความ รู้สึกของลูกได้ดี ในขณะที่ พ่อของพีท (อี๊ด - สุเทพ ประยูรพิทักษ์) กับ แม่ของพีท (ใหม่ - นัฎฐา ลอยด์) กลับสนับสนุนความคิดของลูกเป็นอย่างดี นอกจากจะซื้อเครื่องดนตรีให้แล้ว ยังยกห้องใต้ดินให้เป็นห้องซ้อม ดนตรีด้วย แต่เพราะใจมันเรียกร้องเกรทจึงหาทางหนีแม่ไปซ้อมดนตรีกับเพื่อน ๆ หลังเลิกเรียนจนได้ ถึงแม้จะ เป็นเวลาอันน้อยนิดแต่ก็มีค่าสำหรับเธอ การตั้งวงดนตรีดูเหมือนจะราบรื่นแต่การหามือกลองเป็นเรื่องใหญ่ ในที่สุดพีทได้ไปเจอ จอห์น นี่ (หลุยส์ เฮสดาร์ซัน) เด็กหนุ่มลูกครึ่งกำพร้าทั้งพ่อและแม่ที่ห้องซ้อมแห่งหนึ่ง จึงชักชวนมาร่วมวงด้วย เพราะเห็นว่าจอห์นนี่ตีกลองได้เก่งและพีทยังได้ไปขอให้ ต้น (ฝุ่น - ตากเพชร เลขาวิจิตร) เพื่อนรุ่นพี่ในโรง เรียนมาช่วยเป็นหัวหน้าวง เพราะต้นเป็นนักดนตรีในผับมาก่อน แต่ต้องลาออกตามคำขอร้องของผู้จัดการ เพราะต้นอายุยังไม่ ถึงเกณฑ์ที่จะทำงานในผับได้ เมื่อทุกอย่างลงตัวทุกคนจึงร่วมกันสานฝันจนเป็นวงดนตรี ขึ้นมาได้และตั้งชื่อวงว่า “AFTER SCHOOL” และวงน้องใหม่วงนี้ก็มีโอกาส ได้โชว์ฝีมือและความสามารถ เป็นครั้งแรกในงาน “MUSIC DAY” ของโรงเรียนจนเป็นที่ถูกอกถูกใจของเพื่อนในโรงเรียน โดยเฉพาะ เชอร์์รี่ (ดิว - อริสรา ทองบริสุทธิ์) นักเรียนสาวสุดเปรี้ยวทายาทเจ้าของธุรกิจชื่อดัง เธอจึงว่าจ้างให้ วง AFTER SCHOOL ไปเล่นในงานวันเกิดของเธอที่บ้านพักตากอากาศที่หัวหิน เพราะเชอร์รี่แอบปลื้มในตัวของจอห์นนี่ จนออกนอกหน้าทำให้มะนาวรู้สึกเจ็บจี๊ดในใจ เพราะมะนาวเองก็แอบชอบจอห์นนี่มากกว่าคำว่าเพื่อนแต่ไม่ แสดงให้ใครเห็น ทีี่หัวหินวง AFTER SCHOOL ไม่ได้แสดงในงานวันเกิดเชอร์รี่เพราะจอห์นนี่เกิดมีเรื่องกับ แจ๊ส (ฟรอยด์ - ณัฎฐพงศ์ ชาติพงศ์) พี่ชายของเชอร์รี่ก่อนที่งานจะเริ่มขึ้น ทั้ง ๆ ที่วันนี้เกรทแอบหนีคุณแม ่ มากับเพื่อน ๆ ได้ เพราะคุณแม่กับคุณพ่อไปติดต่อธุรกิจที่ต่างประเทศพอดี และแจ๊สเองเกิดชอบเกรทขึ้นมาจึง พยายามตามจีบทุกวิถีทางแต่ไม่สำเร็จ พอมีคนนอกเข้ามามีความสัมพันธ์กับคนในวงมากขึ้น จึงส่งผลกระทบต่อการซ้อมของวงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากจอห์นนี่ขาดการซ้อมบ่อยขึ้นเพราะต้องแบ่งเวลาไปให้กับเชอร์รี่จนต้นต้องให้จอห์นนี่ ออกจากวง ส่วนเกรทก็ถูกคุณแม่จับได้ว่าไปซ้อมดนตรีกับเพื่อน ๆ จึงถูกกัก บริเวณทำให้วง AFTER SCHOOL ต้องสะดุดและหยุดวงอย่างน่าเสียดาย แต่พีทก็พยายามที่จะแก้้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นให้ดีที่สุด โดยมีพ่อเป็นคนให้ คำแนะนำและค่อย ๆ แก้ปัญหาที่เกิดขึ้น ในขณะที่ทุกคนกำลังหาทางออกให้กับตนเองอยู่นั้น ได้เกิดข่าวร้ายขึ้น กับต้นเมื่อจูน ( มิว - ด.ญ. นันท์ภัส เลิศนามเชิดสกุล ) น้องสาววัย 6 ขวบที่ พ่อของต้น (ปั๋ง - ประกาศิต โบสุ- วรรณ) ได้ฝากให้ครอบครัวของมะนาวช่วยดูแล โดนลูกหลงจากการยิงของเด็กวัยรุ่นขณะที่กำลังเล่นตามลำ พังอยู่ที่สนามเด็กเล่น กระสุนฝังลึกเข้าไปในสมองและอยู่ในจุดอันตรายจนไม่สามารถผ่าตัดได้ ส่วนจอห์นนี่ ต้องสูญเสียยายซึ่งเป็นญาติเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่ไป โดยที่ไม่มีโอกาสได้รู้ว่าพ่อกับแม่ของเขาอยู่ที่ไหนจอห์นนี่ จึงหันไปพึ่งพายาเสพติดเพื่อเป็นทางออกให้กับตัวเอง พอเชอร์รี่มาเห็นสภาพของจอห์นนี่ที่เปลี่ยนแปลงไปเป็น คนละคนเชอร์รี่จึงทิ้งจอห์นนี่ไปอีกคน จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับน้องจูนทำให้มะนาวต้องมาตามจอห์นนี่ เพื่อไปช่วยเป็นกำลังใจให้กับ ต้นแต่กลับมาเจอสภาพที่น่าสมเพชของจอห์นนี่ มะนาวจึงต้องใช้กำลังและคำพูดเข้าสั่งสอนจนจอห์นนี่สำนึก ได้ในขณะที่นั่งรถแท็กซี่ไปโรงพยาบาล จอห์นนี่เกิดคิดไอเดียขึ้นมาได้จึงเข้าไปที่สถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่งเพื่อ ขอร้องให้ผู้ดำเนินรายการช่วยประกาศข่าวร้ายของน้องจูนให้ผู้ชมทางบ้านรับรู้ พร้อมทั้งช่วยกันส่งแรงใจไป ให้น้องจูน ทำให้มะนาวมีความรู้สึกที่ดีกับจอห์นน่ีมากขึ้น จากข่าวที่ออกอากาศไปทำให้้ผู้ชมช่วยกันภาวนาให้ กับน้องจูน และเพื่อน ๆ ทุกคนก็ได้มาหาต้นที่โรงพยาบาลเพื่อเป็นกำลังใจ เหมือนปาฎิหาริย์มีจริงกระสุนได้ เคลื่อนตัวออกจากจุดอันตราย ทำให้หมอสามารถผ่าตัดช่วยชีวิตน้องจูนเอาไว้ได้ต้นพูดขอบใจมะนาวแต่มะนาว บอกว่าคนที่ทำให้เกิดปาฎิหาริย์กับน้องจูนคือจอห์นนี่ ทำให้ต้นมีความรู้สึกที่ดีกับจอห์นนี่เหมือนเดิม เชอร์รี่มา หาต้นที่โรงพยาบาลและทำตัวเหมือนเป็นแฟนของต้น แต่ถูกมะนาวกีดกันเพราะมะนาวรู้ดีว่าเชอร์รี่เป็นผู้หญิง แบบไหนและแกล้งบอกว่าเกรทเป็นแฟนของต้น ทำให้เชอรี่ถึงกับเสียหน้าเพราะต้นก็ไม่ได้สนใจในตัวเธอเช่น กันมีเพียงพีทเท่านั้นที่ยังมีความรู้สึกดี ๆ ให้กับเชอร์รี่ เมื่อเพื่อน ๆ ทุกคนมีความเข้าใจกันเป็นอย่างดีวง AFTER SCHOOL จึงกลับมาอีกครั้งและได้รับ การติดต่อให้ไปเล่นโชว์ตามที่ต่าง ๆ รวมไปถึงลานกิจกรรมหน้าสยามดิสคัฟเวอรี่ ทุกคนได้นำเพลงที่ร่วมกันแต่ง และเป็นชื่อเดียวกับวงมาร้องโชว์ โดยมีเนื้อหาสำคัญที่พูดถึง “เวลาหลังเลิกเรียนซึ่งเป็นเวลาอันน้อยนิดแต่มีค่า มหาศาล” ในขณะที่วง AFTER SCHOOL กำลังเล่นอยู่บนเวทีด้วยความสุขสนุกสนานนั้น คุณแม่ของเกรท ได้มานั่งทานอาหารในร้านบริเวณนั้นพอดี จึงมองเห็นลูกสาวเล่นดนตรีอยู่บนเวทีได้อย่างชัดเจน เธอรีบเดินฝ่า ฝูงชนเพื่อไปห้ามลูกสาวทันที.......ำให้เพื่อนๆกลับมาเข้าใจกัน
หม่ำเดียว หัวเหลี่ยม หัวแหลม (2551/2008) จะบ้าตาย เมื่อฟ้าบันดาลให้เด็กคนนึงมาเกิดยังโลกมนุษย์ จะเลือกคู่พ่อลูกชนิดที่ว่า ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น ก็ไม่ได้ ดันเลือกผลไม้หน้าตาจิ้มลิ้มมาขึ้นเป็นลูกต้นกระบองเพชรซะนี่ เมื่อ หม่ำ (เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา) หนุ่มไม่หล่อร่างไม่แมนชาวยโสธรหอบกระเป๋าเข้ากรุงฯ มาหางานทำเพื่อส่งเสียตัวเองเรียนภาษาจีน (อยากเป็นไกด์) โดยมาอาศัยอยู่บ้านสุดหรูของเจ้านายเก่าแม่ ที่ปล่อยรกร้างมานานแสนนาน แต่คืนแรกที่ย่างกรายเข้ามาในบ้านหลังใหญ่ ก็เป็นเรื่องซะแล้ว เมื่อจู่ ๆ น้องเดียว (พัทธดนย์ เกลี้ยงจันทร์) เด็กหัวแหลม โผล่พรวดพราดแบบไม่มีร่องรอยเข้ามาในบ้าน เรียกหม่ำว่า พ่อ หน้าตาเฉย แถมบอกอีกว่าให้พ่อรีบแต่งงานกับแม่เร็ว ๆ จะได้มาเกิดเป็นลูกหม่ำซะที ไม่ทันการณ์ขึ้นมาตัวจะดวงคุดไปเกิดเป็น ลูกหมา หน้าบ้านแทน แม้หม่ำจะเชื่อได้ไม่เต็มร้อย แต่ก็เลือกที่จะไม่ลบลู่อันใดสบายใจกว่าเป็นกอง ก่อนที่แม่หมาจะท้องแก่ใกล้คลอดเต็มทน น้องเดียวเลยต้องรีบพาหม่ำไปพบกับ ฟ้า (เบญจวรรณ อาร์ตเนอร์) สาวสวยสง่างามราวนางฟ้าไม่ปาน ว่าที่แม่ และ ว่าที่เมียของพ่อ ทันทีที่หม่ำได้เห็นฟ้า ก็ถึงกับคอตกเดินกลับบ้านอย่างสิ้นหวัง และบอกเดียวให้ทำใจไปเกิดเป็นลูกหมาซะเถอะ เพราะลำพังจะไปจีบก็คงจะไม่มีน้ำยาพอ ซ้ำร้ายฟ้ายังมีหนุ่มมาดหล่อประกบข้างกายอยู่ก่อนแล้ว ระหว่างเลือกเป็น ลูกหมา กับ ลูกหม่ำ เดียวขอเลือกเป็นลูกหม่ำดีกว่าจะมีพี่น้องมีหาง เดียวจึงอาสาวางแผนจีบสาวเพื่อให้หม่ำได้ใจแม่ มิตรภาพอันน่ารักเหลือล้นของพ่อลูกในอนาคตคู่นี้นับวันยิ่งมากขึ้นทุกที ๆ แผนจีบสาวของพ่อลูกคู่ไม่เหมือน จะทำสำเร็จก่อนหมาคลอดลูกได้หรือไม่
ข้าวเหนียวหมูปิ้ง (2549/2006) คู่นี้หนุงหนิงแนบแน่นไม่ใช่แฟนแต่มากกว่าเพื่อน เรื่องเล่ามิตรภาพของเด็กหญิงวัย 8 ขวบกับเจ้า Dog ตัวจิ๋ว หนีบลูกซึ้งส่งเสียงโฮ่งๆ เรียกรอยยิ้มและเสียงหัวเราะจากคุณ กะเทาะสายใยแห่งมิตรภาพความรู้สึก ที่ครั้งหนึ่งเด็กๆ ทุกคนเคยมีให้กับเพื่อนแท้ 4 ขา สำหรับ “ข้าวเหนียว” (นวรัตน์ เตชะรัตนประเสริฐ) แล้ว การที่จู่ๆ “แม่บี” (สินิทธา บุณยศักดิ์) พาข้าวเหนียวมาฝากไว้ที่บ้านญาติๆ โดยไม่ทันตั้งตัว ข้าวเหนียวอดน้อยใจแม่บีไม่ได้จริงๆ นะ ถึงแม้ว่าในบ้านหลังใหม่จะมีญาติๆ ของแม่อยู่กันตั้งหลายคน ไม่ว่าจะเป็น “ยายอุ่น” (มารศรี อิศรางกูร ณ อยุธยา), “ป้าเกด” (เนาวรัตน์ ซื่อสัตย์), “อาเปี๊ยก” (เปี๊ยก ดีเจสยาม) แต่ทำไมนะข้าวเหนียวยังรู้สึกเหงาอยู่เลย ก็คงมีแต่ “น้าเล็ก” (พัชรศรี เบญจมาศ) นี่แหละที่ข้าวเหนียวรู้สึกสนิทหน่อย อาจจะเป็นเพราะน้าเล็กแกคงรู้ว่าข้าวเหนียวเหงาและอดคิดถึงแม่ไม่ได้นั่นเอง เหมือนอย่างเคยวันนี้ข้าวเหนียวโดดเรียนอีกแล้ว ข้าวเหนียวเดินเรื่อยเปื่อยไปแถวสยามเห็นคนซื้อหมูปิ้ง แต่ที่น่าแปลกใจมีเจ้าหมาน้อยตัวสีน้ำตาลท่าทางมันดูน่าสงสารเหมือนข้าวเหนียวเลย มันคงหิวนะ เห็น ส่งเสียงร้องขอกินหมูปิ้งจากคนขายและคนซื้อที่ยืนอยู่ ดูๆ ไปข้าวเหนียวว่าหน้าตามันตลกดี ปากมอมๆ สีดำ ท่าทางน่ารักจัง คิดแล้วก็อยากเป็นเพื่อนกับมัน ข้าวเหนียวเลยตัดสินใจอุ้มมันใส่กระเป๋าเอากลับไปบ้านด้วยดีกว่า อย่างน้อยถึงมันไม่มีใครมันก็ยังมีข้าวเหนียว เอางี้นะ ข้าวเหนียวจะตั้งชื่อมันว่า “หมูปิ้ง” “ข้าวเหนียวกับหมูปิ้ง” ฟังดูน่ารักดี แต่ไม่ใช่ว่าข้าวเหนียวจะเลี้ยงหมูปิ้งได้ง่าย ๆ นะ เพราะน้าเล็ก เคยบอกว่า ที่บ้านคับแคบแล้วยายอุ่นเองก็แพ้ขนหมาด้วย คงเลี้ยงหมาไม่ได้ ยังไงก็ตามข้าวเหนียวจะไม่มีวันทิ้งหมูปิ้ง ข้าวเหนียวตัดสินใจเอามันขึ้นไปเลี้ยงบนดาดฟ้าดีกว่า เวลาหมูปิ้งส่งเสียงจะได้มีใครรู้ และทุกๆ วันข้าวเหนียวก็จะเอาหมูปิ้งใส่กระเป๋าไปโรงเรียนด้วยกัน อีกอย่างข้าวเหนียวไม่อยากให้หมูปิ้งอยู่คนเดียว เพราะแถวบ้านชอบมีพวกจับหมามาด้อมๆ มองๆ ด้วย แต่แล้ววันหนึ่งฝนตกหนักมาก หมูปิ้งที่อยู่บนดาดฟ้าเลยไม่สบาย ข้าวเหนียวตัดสินใจทุบกระปุกพี่หมูเอาเงินพาหมูปิ้งไปหาหมอ หลังจากนั้นที่บ้านก็รู้กันว่าข้าวเหนียวแอบเลี้ยงหมูปิ้ง น้าเล็กบอกว่ายายอุ่นแพ้ขนหมา จะเอาหมูปิ้งไปปล่อย แต่ข้าวเหนียวขอร้องไว้ว่ารอให้มันหายจากไข้ก่อนได้ไหมน้าเล็ก แม่บีจ๋า ข้าวเหนียวคิดถึงแม่บีจัง เมื่อไรแม่บีจะกลับมา น้าเล็กจะเอาหมูปิ้งไปปล่อยไหมเนี้ยะ
วัยอลวน 4 : ตั้ม-โอ๋ รีเทิร์น (2548/2005) รุ่นเล็ก รุ่นใหญ่ รุ่นไหน ก็อลวน ปัจจุบัน ตั้ม (ไพโรจน์ สังวริบุตร) อดีตหนุ่มน้อยหน้าคม กับ โอ๋ (ลลนา สุลาวัลย์) สาวน้อยเจ้าแง่แสนงอน ยังรักกันแนบแน่นไม่เปลี่ยนแปลง แต่สิ่งที่เปลี่ยนไป คือวัยและน้ำหนักตัว ตั้มในวัยเฉียด 50 เป็นทนายหนุ่มใหญ่ ที่ลักยิ้มและเขี้ยวเสน่ห์ยังเขย่าหัวใจสาวๆ ได้เสมอ ส่วน โอ๋ กับรอบเอวที่เพิ่มพูนขึ้นหนึ่งเท่าตัว เป็นแม่บ้านที่น่ารัก อบอุ่น ของ ใบตอง (คะนึงนิจ จักรสมิทธานนท์) ลูกสาวที่กำลังเรียนอยู่ชั้นปี 4 มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในเชียงใหม่ กับ หนามเตย (วศิษฏ์ ผ่องโสภา) ลูกชาย ม. 6 ที่รักสวยรักงามจนน่าหวาดเสียว วันหยุดสุดสัปดาห์นี้ ตั้มและสมาชิกในครอบครัว พ่วงด้วย ป้าอ้อ (จิระวดี อิศรางกูร ณ อยุธยา) พี่สาวของโอ๋ ที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากับตั้มมานานปี วางแผนขับรถขึ้นไปเซอร์ไพร์สวันเกิดให้ใบตอง โดยที่ไม่รู้เลยว่า แม่ลูกสาวตัวน้อยของพ่อ มีแฟนเป็นไอ้หนุ่มวิจิตรศิลป์ผมยาวนามว่า วิชาญ (รังสิต ศิรนานนท์) อยู่ที่นั่น ซ้ำร้ายเจ้าหนามเตยลูกแม่ ก็ดันหมายเอาวาระรวมญาตินี้ เป็นวันเปิดเผยตัวตนเสียด้วย ตั้มยังแอบไปหา คุณนิด (พจนีย์ อินทรมานนท์) กิ๊กเก่าที่ไปเปิดร้านอาหารที่เชียงใหม่ แต่บอกโอ๋ว่า แวะไปหาแอ๊ด (จีรศักดิ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา) เพื่อนเก่าที่สอนหนังสืออยู่ที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เมื่อความแตก โอ๋ก็อาละวาดบ้านแตก เหมือนในหนังภาคก่อนๆ
นานาช่า (2548/2005) เด็กชายยอดหญ้า หรือ เชียงเป็นเด็กชาวเขากำพร้าที่ได้บาทหลวงโจเซฟดูแล แต่เขามักถูกกล่าวหาว่าเป็นตัวน้ำความโชคร้ายมาสู่หมู่บ้าน เขาจึงต้องถูกขับออกจากหมู่บ้านไปอยู่โรงเรียนนานาชาติ เขาได้มีโอกาสพบกับเพื่อนคนอื่นมากมาย เมื่อเซียงเข้ามาเรียนวันแรก เพื่อนๆมักมองว่าเขาเป็นคนแปลก เขาอาศัยอยู่กับตาหยอง ภารโรงของโรงเรียนและบูด เด็กผู้ชายอายุคราวเดียวกันที่มักพูดภาษาอีสานทั้งเรื่อง ด้วยความไร้เดียงสาและความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ทำให้โรงเรียนเกิดความปั่นป่วนหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นทำถ่อประปาแตกหรือชนต้นไม้ในสวนล้ม แต่นานเข้าเพื่อนๆก็ต่างเอ็นดูเซียงและคอยช่วยเหลือเสมอ เซียงได้มิตรภาพและความสนุกสนานจากโรงเรียนนานาชาติ แต่เขาก็ยังต้องประสบกับโชคร้าย นั่นคือ เขาได้เข้าไปพัวพันกับโจรเรียกค่าไถ่ที่แฝงตัวมาเป็นครูในโรงเรียน เขากับเพื่อนๆ จึงร่วมมือกันหาทางกำจัดโจรนั้น
แฟนฉัน (2546/2003) เรื่องราวในวัยเด็กของ "เจี๊ยบ" ที่มีเพื่อนสนิทคือ "น้อยหน่า" เด็กหญิงข้างบ้าน ที่เป็นเพื่อนเล่นมาด้วยกันตลอด แต่เด็กชายก็อยากมีเพื่อนๆ ผู้ชาย และเล่นตามประสาเด็กชายบ้าง ทำให้เขาหันไปเข้ากับกลุ่มเด็กชายจอมซ่า ที่มี "แจ๊ค" เป็นหัวโจก ทว่าการเข้ากับกลุ่มของแจ๊ค กลับทำให้น้อยหน่าเพื่อนรักต้องเสียใจ และยังทำให้เจี๊ยบพลั้งพลาดทำร้ายจิตใจของน้อยหน่าโดยไม่ตั้งใจ กว่าเจี๊ยบจะรู้ตัวว่าทำให้น้อยหน่าเสียใจ เธอก็ย้ายบ้านไปเสียก่อนที่เขาจะได้เอ่ยปากคำว่าขอโทษออกมา หลังจากย้ายบ้านไปเป็นเวลานาน เจี๊ยบได้กลับมาอีกครั้งเพื่อร่วมงานแต่งงาน ของ น้อยหน่า ความทรงจำในวัยเด็กที่เคยเลือนราง แต่เมื่อหลับตาลง ความทรงจำต่างๆ กลับค่อยๆ แจ่มชัดเหมือนเพิ่งผ่านไปเมื่อไม่กี่วันก่อน เจี๊ยบกับน้อยหน่า บ้านของทั้งสองอยู่ติดกันจึงเป็นเพื่อนเล่นกันตั้งแต่เด็ก เหตุนี้ทำให้เจี๊ยบติดสอยห้อยตามน้อยหน่า และคลุกตัวอยู่กับเพื่อนผู้หญิง จนทำให้แก๊งเพื่อนผู้ชายยั่วเย้าให้หัวเสียอยู่บ่อยๆ แต่เมื่อเริ่มโต เจี๊ยบก็เริ่มอยากเที่ยวเล่นแบบเด็กผู้ชาย จึงพยายามพิสูจน์ตัวเองแม้จะทำให้น้อยหน่าเสียใจก็ยอม เจี๊ยบเพียรมาด้อมๆ มองๆ บ้าน น้อยหน่าเพื่อหาโอกาสกล่าวคำขอโทษ กระทั่งยอมมาตัดผมกับพ่อน้อยหน่าที่บ้านก็ยอม แต่จนแล้วจนรอด เจี๊ยบก็ยังไม่ได้ขอโทษสักที จนถึงวันที่น้อยหน่าต้องย้ายบ้านไปอยู่ที่จังหวัดอื่น
ชื่ออุ้มมีบุญนำหน้า (2539/1996) บุญอุ้มและปื้ดเป็นเพื่อนสนิทกัน บุญอุ้มมักมาหาปื้ดที่บ้านเช่าเสมอๆ โดยเพื่อนๆไม่รู้ว่าบุญอุ้มแอบมาชอบมิเชล สาวน้อยลูกครึ่งที่อยู่ซอยเดียวกัน บุญอุ้มแอบมาหลบอยู่บนหลังคารถร้างเพื่อดูมิเชลเข้าบ้าน เขารู้สึกผิดหวังที่มีหนุ่มๆ มาส่งมิเชลเสมอ ปื้ดและเพื่อนๆ รู้ว่าบุญอุ้มชอบมิเชลจึงเสนอแผนการให้ได้รู้จักกัน โดยให้เพื่อปลอมเป็นจิ๊กโก๋ไปลวนลามมิเชลที่กำลังจะเข้าบ้าน โดยให้บุญอุ้มไปช่วยไล่พวกจิ๊กโก๋หนี เหตุการณ์เป็นไปตามคาด ทั้งสองได้รู้จักสนิทสนมกัน ดิ๊บซึ่งเป็นเพื่อนคนหนึ่งเกิดหมั่นไส้บุญอุ้ม จึงบอกกับมิเชลทำให้มิเชลโกรธอุ้ม แต่ก็ยังฟังเหตุผลของบุญอุ้ม และทั้งคู่เข้าใจกัน มิเชลบอกกับบุญอุ้มว่าจะไปเรียนต่อเมืองนอกให้ไปส่งเธอด้วย ทุกคนมาส่งมิเชล แต่ไม่เห็นบุญอุ้ม จนสุดท๊ายมีรถโรลซรอยด์แล่นมาจอด บุญอุ้มมาพร้อมเจ้าคุณปู่ ทุกคนจึงรู้ว่าบุญอุ้มเคยเล่าว่าเขาเป็นหลานชายเจ้าคุณปู่คือเรื่องจริง
ตัวเก็งเต็งหนึ่ง (2538/1995) วิทยาลัย สหวิทยาลัย ตั้งกฎขึ้นมาว่า เมื่อมีการเรียนการสอนก็ต้อง มีการแข่งขันระหว่างห้องขึ้นด้วย เด็กๆทั้งสองห้องจึงต้องฝึกฝนในเชิงกีฬากันเป็นอย่างมากเพื่อเอาชนะซึ่งกันและกัน ด้วยความกลัวว่าเด็กนักเรียนของตนจะแพ้ อาจารย์เฉียงจึงแอบผลิตยาโด๊ปที่สกัดจากสารธรรมชาติขึ้นหวังให้นักเรียนกิน เพื่อต้องการให้ชัยชนะตกเป็นของนักเรียนห้อง 1 โดยใช้ชุ่ม ซึ่งเป็นนักการภารโรง มาเป็นหนูลองยา แต่.. เรื่องราวจะดำเนินต่อไปอย่างไร จะจบลงแบบไหน และถ้วยคะแนนรวมจะตกเป็นของใคร ติดตามได้ในภาพยนตร์เรื่องนี้
ประถม มัธยม เปรี้ยวอมหวาน (2538/1995) ชีวิตในโรงเรียนใครว่าน่าเบื่อ ชีวิตช่วงไหนล่ะจะประทับใจน่าจดจำเท่าชีวิตวัยเรียนไม่มีอีกแล้ว อย่าลืมบันทึกเก็บเรื่องราวเหล่านั้นไว้เล่าให้ใครต่อใครฟังเหมือนเรื่องราวที่เราจะเล่าให้พวกนายฟังอยู่นี้ไง ที่โรงเรียนประถมมัธยม แหล่งกำเนิดเรื่องราวหรรษา ใครๆ ในโรงเรียนน้อยรายที่ไม่รู้จักนายกลอนกับนายแลกเกอร์สองพี่น้องคู่ฃี้ ทั้งคู่รักเรียน รักที่จะร่วมกิจกรรมของโรงเรียน กลอนมีเพื่อนร่วมชั้นชื่อสลึง มีนิสัยออกจะต๊องๆ แต่จริงใจมีน้ำใจกับเพื่อน กลอนเป็นชายในดวงใจของลูกเกด สาวที่ครอบครัวร่ำรวยแต่ขาดความรักความเข้าใจ เคยคิดฆ่าตัวตาย แต่กลอนช่วยไว้ทัน กลอนมีสาวในดวงใจชื่อ ทราย ที่มีน้องสาวน่ารักชื่อ เพลง ทรายมีมดแดงมาแฝงช่อมะม่วง นำทีมโดย ปลั๊ก เปลียก แห้ง กล้วย ทั้งสี่มักมาหลีทราย จน เพลงต้องหาทางตอบโต้เพื่อป้องกันพี่สาว กลอนกับน้องแลกเกอร์ หางานทำเพื่อแบ่งเบาภาระของแม่โดยเปิดแผงขายเครื่องประดับ ขายดีจนเป็นที่หมั่นไส้ของรวย พี่ชายของปลั๊ก ที่เปิดร้านดอกไม้แถวนั้น ปลั๊กสั่งชายร่างยักษ์ไปเล่นงานกลอนจนข้าวของเสียหายแต่เขาไม่โชคร้ายเกินไปเพราะลีลาการขายเกิดไปสะดุดตา พี่ไหม ที่เปิดร้านขายดอกไม้และเป็นคู่แข่งของรวย โดยมีน้องชายชื่อเกลียวมาคอยช่วยเหลือ พี่ไหมให้กลอนมาช่วยส่งดอกไม้ที่ร้าน ลูกเกดยังหมั่นไปมาหาสู่กลอน โดยที่ไม่รู้ว่า สลึง แอบชอบอยู่ กลอน สลึง แลกเกอร์ เพลง เข้าไปช่วยที่ร้านดอกไม้ของพี่ไหม ลูกค้าแน่นจนส่งแทบ ไม่ทัน เดือดร้อนถึง รวย ทนไม่ได้ จึงส่งปลั๊กกับพวกให้หาทางทำลาย พร้อมกันนั้นเรื่องรักของกลอนก็ชักจะยุ่งๆ เมื่อทรายนั้นรู้ว่ากลอนคบหาลูกเกดมาก่อน เรื่องจึงชักยุ่ง ไหนจะผจญกับศึกรัก จึงเป็นปัญหาหนักอกที่ต้อง หาทางแก้ไขให้ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี
บุญชู 8 เพื่อเธอ (2538/1995) หลังแต่งงานบุญชูโมลีช่วยกันทำมาหากินเพื่อสร้างครอบครัวใหม่ในฐานะเกษตรกรพอเพียง โมลีตั้งท้องทว่าความสุขจากข่าวดีนี้ยังไม่ทันจะจางหายก็กลับกลายเป็นความโศกเศร้าเมื่อโมลีถูกลูกหลงจากปืนของโจรที่หนีตำรวจมา เพื่อช่วย โมลีให้ปลอดภัยบุญชูและเพื่อนๆต่างหลุดปากบนบาลศาลกล่าวกันอย่างพิศดาร ดังนั้นพอโมลีรอด ตายแต่ละคนก็เลยต้องตามแก้บนกันอย่างลำบากยากเย็น อันเป็นเหตุให้บุญชูทำฝูงเป็ดของรำเพย เกษตรกรสาวสวยหนีเตลิดไปจนหมด บุญชูจำต้องขอมรดกล่วงหน้าจากแม่บุญล้อมจะเอามาชดใช้ค่าเสียหายให้รำเพย ขณะรำเพยที่อยู่ตัวคน เดียวเกิดเป็นไข้ป่วยหนัก บุญชูจึงต้องเข้ามาช่วยดูแลทำให้โมลีเกิดอาการหึงหวง สุดท้ายจึงพบว่า ความสัมพันธ์ระหว่างบุญชูและรำเพยเป็น ความสัมพันธ์ที่บริสุทธิ์
บุญชู 6 โลกนี้ดีออก สุดสวย น่ารักน่าอยู่ ถ้าหงุ่ย (2534/1991) ทองดีเป็นลูกพี่ลูกน้องของบุญชู ที่สอบติดคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จึงมาพักอยู่กับบุญชูที่กรุงเทพฯ ทองดีเป็นคนซื่อๆเช่นเดียวกับบุญชู จึงมักจะก่อเรื่องเปิ่นๆแบบที่บุญชูเคยเป็นมาก่อนอยู่เสมอ ทางด้านมานี พี่สาวของโมลี ซึ่งเปิดบริษัทเอเจนซี่โฆษณา ต้องการหานายแบบมาถ่ายทำโฆษณาผลิตภัณฑ์กีฬาชุดใหม่ ลลิตา ครีเอทีฟสาวพราวสเน่ห์ประจำบริษัทเสนอนายแบบที่ตนเองรู้จัก แต่ต้องเสียค่าใช้จ่ายค่อนข้างมาก โมลีจึงเสนอให้ใช้บุญชูและเพื่อนๆ เนื่องจากรู้ดีว่าเพื่อนๆมาช่วยกันโดยไม่หวังผลตอบแทนอยู่แล้ว แต่เมื่อเพื่อนๆได้มาพบกับลลิตา ซึ่งมีนิสัยชอบปั่นหัวผู้ชายเล่นก็หลงรักกันทุกคน ยกเว้นบุญชูที่ยังยึดมั่นกับโมลี ลลิตาส่งจดหมายรักในวันวาเลนไทน์ให้กับเพื่อนๆทุกคน บุญชูรู้เข้าจึงนัดเพื่อนๆมาเจอกันและเผยว่าที่แท้เป็นแค่เรื่องเล่นสนุกของลลิตาเท่านั้น ทุกคนจึงไม่เชื่อใจลลิตาอีก ยกเว้นทองดีที่เป็นคนซื่อ และหลงรักลลิตา ก็ได้ทำตามคำไหว้วานของลลิตาที่อยากจะได้ผลประโยชน์จากนายแบบของตนในการเซ็นสัญญากับลูกค้าต่างประเทศ โกหกบุญชูว่าลูกค้าอยากพบ และหลอกให้เซ็นสัญญา เพื่อนๆของบุญชูจึงรวมกันตามไปทวงสัญญาคืน
บุญชู 5 เนื้อหอม
บุญชู 5 เนื้อหอม (2533/1990) บุญชู 3 จำจากแม่ ชาวบ้านอำเภอบ้านโค่ง จังหวัดสุพรรณบุรี พากันเฉลิมฉลองให้กับบุญชูซึ่งสอบติดมหาวิทยาลัยเป็นคนแรกของอำเภอ โดยร่วมกันเดินขบวนไปส่งยังท่ารถสองแถว ก่อนจะขึ้นรถแม่ของบุญชูได้ฝากฝังให้ตั้งใจเรียน อย่าออกนอกลู่นอกทาง แต่สั่งสอนนานไปหน่อยจนรถสองแถวออกจากท่าไปแล้ว ทั้งคู่จึงเดินกลับบ้านเพื่อรอรถเที่ยวถัดไป โดยแก้ตัวกับคนที่เจอว่า รถเต็มแล้ว ไปไม่ได้ (บุญชู 3 มีความยาวเพียง4นาทีครึ่ง) บุญชู 4 ปีหนึ่ง ไวยกรณ์พาบุญชูเที่ยวชมมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โดยสอนบุญชูว่าอย่าทำอะไรเปิ่นๆจนเกิดเรื่อง แต่ระหว่างที่จอดจักรยานบริเวณที่จอดนั้น บุญชูเกิดทำจักรยานล้มไปชนจักรยานคันอื่น ทำให้จักรยานล้มต่อกันไปเป็นแถวยาว ไวยกรณ์และบุญชูจึงรีบขี่จักรยานหนีออกมา (บุญชู 4 มีความยาว1นาทีเท่านั้น) บุญชู 5 เนื้อหอม บุญชูเข้าเรียนในคณะเกษตรได้ 3 ปีแล้ว ด้วยความเป็นคนซื่อนิสัยดี เจ้าคารม และสำเนียงเหน่อแบบสุพรรณที่เป็นเอกลักษณ์ ทำให้บุญชูเป็นที่รู้จักของเพื่อนๆทั้งในและนอกคณะ บุญชูได้พบน้องปีหนึ่งชื่อ อำภาวรรณ ซึ่งมีปัญหาเรื่องการเงิน เนื่องจากหลักฐานทางฐานะบ่งบอกว่าเป็นคนมีเงิน แต่อันที่จริงทางบ้านมีปัญหาเรื่องทรัพย์สินอยู่ ทำให้อำภาวรรณไม่ได้รับทุนการศึกษาจากบริษัทที่คอยสนับสนุนอยู่ ตรงกันข้าม ทุนกลับไปอยู่ที่ สายัณห์ ซึ่งนำทุนที่ได้ไปเลี้ยงเหล้าเบียร์เพื่อนๆ เมื่อการเข้าพบอาจารย์ที่รับผิดชอบเรื่องทุนการศึกษาไม่เป็นผลสำเร็จ บุญชูจึงตัดสินใจลงสมัครเลือกตั้งเป็นประธานนิสิต โดยต้องแข่งกับเพื่อนสนิทอีกสองคนคือ เรวัติ และ จันทร์เพ็ญ โดยมีเพื่อนๆชาวก๊วนคอยช่วยเหลือ

หน้าที่